คำนำ
โครงงาน “เอะ๊ ออ๋ ขวดไหนลกู โปง่ พอ๊ งพอง โต๊โต” เป็นโครงงานท่ีเกิดขึน้ จากความสนใจของนักเรียน
ระดบั ชนั้ อนุบาลปที ี่ ๓ โรงเรียนบา้ นปากคลองโรงนาค สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๑
ทม่ี าของโครงงาน “เอ๊ะ อ๋อ ขวดไหนลกู โป่งพ๊องพอง โต๊โต” เกดิ จากการที่เดก็ นักเรยี นในห้องเกดิ ความสนใจ
ในขณะสรุปกจิ กรรมทางวิทยาศาสตร์เรอ่ื งลูกโป่งพองโต โดยใช้ผงยาลดกรดในการทดลองทีใ่ ส่ปริมาณของผง
ยาลดกรดท่ีแตกตา่ งกนั ผลการทดลองคือ ลกู โป่งมขี นาดทต่ี า่ งกัน เด็ก ๆ จึงเกิดความสงสัยจนมกี ารตง้ั คาถาม
ถ้าไม่มผี งยาลดกรด จะเอาอะไรมาทดลองแทน ใหล้ กู โป่งพองได้บา้ งจึงได้จัดทาเปน็ โครงงานทางวทิ ยาศาสตร์
ตามรปู แบบวัฏจักรวจิ ัย ทีไ่ ดจ้ ดั ทาตามข้นั ตอนการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ตามรปู แบบวัฏจกั รวิจยั เรมิ่ ตงั้ แต่
การตัง้ คาถามที่เดก็ อยากรู้ รวบรวมความคดิ และการคาดคะเนคาตอบ ดาเนินการสารวจตรวจสอบ สังเกตและ
การบรรยาย บนั ทึกผล และสรปุ และอภิปรายผล โครงงานดงั กล่าวสง่ เสรมิ ให้เด็กได้มสี ว่ นร่วมในการทา
กิจกรรม โดยใช้ประสบการณ์ตรง เด็กไดล้ งมือปฏิบตั ิจรงิ โดยมคี รูเปน็ ผู้คอยกระตนุ้ เพอ่ื ให้เดก็ เกิดความสนใจ
การเรียนรมู้ ากขน้ึ การทดลองวทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ กระบวนการแสวงหาความร้แู ละค้นคว้าหาคาตอบในส่ิงทเ่ี ด็ก
เกิดความอยากรูห้ รือสงสัยด้วยการหาคาตอบดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ โดยธรรมชาติของเดก็ ปฐมวยั มีความอยากรู้
อยากเหน็ มคี วามคิดและการกระทาเป็นของตนเอง ครคู วรจดั ประสบการณ์ให้เดก็ ได้คิด ไดส้ ังเกต ไดส้ ัมผสั ได้
ทดลอง เพ่อื ตอบสนองธรรมชาติของเด็ก ชว่ ยให้เดก็ เจริญงอกงามทางปัญญา การไดค้ ิด ได้สังเกต ไดส้ ารวจ
คน้ ควา้ ทดลองและปฏบิ ตั ิจรงิ ด้วยตนเอง จะช่วยให้เด็กเกดิ การเรียนรู้ มีความเขา้ ใจในระยาวมากย่ิงข้ึน
โครงงานเรอื่ งขวดไหนพองโตนีเ้ ริม่ ดาเนินกจิ กรรมระหว่างวันที่ ๑๗ มกราคม – ๑๑ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓
ขอขอบคุณทา่ นผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านปากคลองโรงนาค และคุณครูทุกท่านในระดับ ช้นั ปฐมวยั ที่
ให้ความอนเุ คราะห์ในเรอื่ งความรว่ มมอื ในกิจกรรมตา่ งๆ คาปรกึ ษาในการปฏบิ ัติงาน สง่ิ อานวยความสะดวก
และอปุ กรณ์ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมจนทาให้สามารถดาเนนิ งานไดจ้ นประสบผลสาเร็จและลุล่วงเปน็ อย่างดี
คณะผู้จดั ทำ
ครูระดับช้นั ปฐมวัย
โรงเรียนบา้ นปากคลองโรงนาค
สำรบญั หนำ้
ช่อื โครงงาน ๑
ผจู้ ดั ทาโครงงาน ๑
ครูที่ปรึกษา ๑
ระยะเวลาในการจดั ทา ๑
ทม่ี าของโครงงาน ๑
ขั้นท่ี ๑ ตั้งคาถามท่อี ยากรู้ ๒
คาถามที่ ๑ ถ้าไมม่ ีผงยาลดกรด จะเอาอะไรมาทดลองแทน ให้ลูกโปง่ พองไดบ้ ้าง ๓
จดุ ประสงค์ ๓
ข้ันท่ี ๒ รวบรวมความคดิ และคาดคะเนคาตอบ ๔
ขั้นท่ี ๓ ดาเนินการสารวจตรวจสอบ ๕
ข้ันที่ ๔ สงั เกตและการบรรยาย ๗
ขั้นที่ ๕ บันทกึ ผล ๘
ขั้นที่ ๖ สรุปและอภิปรายผล ๘
ผลการพฒั นาความสามารถของเด็กปฐมวยั ๑๐
ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ๑๐
คาถามท่ี ๒ ถ้านาผงยาลดกรดใส่ลงในนา้ ส้ม น้าชาเขียว และนมจืด ลกู โป่งจะพองโตหรือไม่ ๑๒
ข้นั ท่ี ๑ ตง้ั คาถามท่ีอยากรู้ ๑๒
จุดประสงค์ ๑๒
ขัน้ ท่ี ๒ รวบรวมความคิดและคาดคะเนคาตอบ ๑๒
ขน้ั ที่ ๓ ดาเนนิ การสารวจตรวจสอบ ๑๓
ขั้นท่ี ๔ สงั เกตและการบรรยาย ๑๕
ขั้นที่ ๕ บนั ทกึ ผล ๑๖
ขน้ั ที่ ๖ สรุปและอภปิ รายผล ๑๗
ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวยั ๑๘
ผลการพฒั นาทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ๑๙
ภาคผนวก
รำยชอื่ ผ้เู ขำ้ รว่ มโครงงำน
ผูอ้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ : นางสาวบุญเออื้ เอ่ยี มรตั น์
ครทู ่ีปรกึ ษำ : นายสิทธิพงษ์ ไตรวงษ์
นายวรันตพ์ งษ์ แววสุวรรณ
ท่ี รำยชอื่ นักเรียนช้ันอนบุ ำลปที ่ี ๓ ช่อื เล่น
๑ เดก็ ชาย เอกภพ บญุ ศิรกิ าญจน นอ้ งนนท์
๒ เดก็ ชาย ชนันธร ศรศิลป์ น้องโชค
๓ เด็กชาย อนุชิต ดอนบุรม น้องอ๊อฟ
๔ เดก็ หญิงปิยาพร เอ่ียมมา น้องปูน่ิม
๕ เดก็ ชาย ธงไทย พลเมอื ง นอ้ งนวิ
๖ เดก็ ชาย กานต์ สดใสเจริญกจิ น้องโอ๋
๗ เดก็ ชาย จริ ายุ อุปดิษฐ์ น้องจิม่ ม่ี
๘ เด็กชาย บญุ หลาย สีประเสริฐ น้องบญุ หลาย
๙ เด็กชาย พรชัย เพ็ชรธรรมชาติ นอ้ งโซดา
๑๐ เดก็ ชาย ลีซอ น้องลซี อ
๑๑ เดก็ ชาย สิงหา กลิน่ ทอง น้องม่อน
๑๒ เด็กชาย สภุ ชัย จาปาสิงห์ น้องชัย
๑๓ เด็กชาย สุภโชค จาปาสิงห์ นอ้ งโชค
๑๔ เด็กหญงิ ณชวลั ศรีประไพ นอ้ งข้าวฟา่ ง
๑๕ เด็กหญิง ปณดิ า สุขคุ้ม นอ้ งออม
๑๖ เด็กหญิงศิริวรรณ ไชยประเสริฐ น้องแบม
๑๗ เด็กชาย กฤติพงศ์ ดีสันเทียะ น้องมิกซ์
๑๘ เดก็ หญงิ นนทิวรรณ กระหล่าผกั น้องเฟริ น์
๑๙ เดก็ ชาย รชั ชานนท์ ทนุเมืองพล นอ้ งกาย
๒๐ เด็กหญงิ วัทนพร สมุ นัส น้องอะตอม
๒๑ เดก็ ชาย อมรภัณฑ์ สถติ เทพบญั ชา นอ้ งหลนิ ฟง
๒๒ เดก็ ชาย พีรวฒั น์ ภูพานเพชร นอ้ งพี
๑
โครงงำน “เอะ๊ ออ๋ ขวดไหนลกู โป่งพ๊องพอง โตโ๊ ต”
ชือ่ โครงงำน “เอ๊ะ อ๋อ ขวดไหนลูกโปง่ พ๊องพอง โต๊โต”
ผ้จู ดั ทำโครงงำน นกั เรียนชน้ั อนุบาลปที ่ี ๓ โรงเรยี นบ้านปากคลองโรงนาค
สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชลบรุ ี เขต ๑
ครทู ่ีปรกึ ษำ นายสทิ ธิพงษ์ ไตรวงษ์ ,นายวรนั ตพ์ งษ์ แววสุวรรณ
ระยะเวลำในกำรจัดทำ วนั ท่ี ๑๗ มกราคม - ๑๑ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓
ทีม่ ำของโครงงำน (วนั ท่ี ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ )
นักเรียนช้นั อนุบาลท่ี ๓ ไดท้ ากิจกรรมวิทยาศาสตร์เรอื่ ง “เอะ๊ อ๋อ ขวดไหนลูกโป่งพ๊องพอง โต๊โต”
เปน็ กจิ กรรมท่เี ด็กเกดิ ความสงสัยเกยี่ วกับผงยาลดกรดที่เคยทามาใส่นา้ แล้วใส่ลูกโปง่ ทป่ี ากขวด เด็ก ๆ เหน็ การ
เปล่ียนแปลงคือลูกโปง่ พองขึน้ แต่เม่อื สรุปกจิ กรรมดงั กล่าว ยงั มเี ด็กเกดิ ความสงสัยจนเกิดเปน็ คาถามท่ี
น่าสนใจ ครูจงึ กระตุ่นใหเ้ ด็กช่วยกันตั้งคาถามเกีย่ วกับในเรอ่ื งกา๊ ซคาร์บอนไดรอ์ อกไซค์ทเ่ี ด็กยงั สนใจอยู่ จนได้
คาถามดงั นี้
ครู : จากทเี่ ราทากิจกรรมเรอ่ื งลูกโปง่ พองแล้ว มใี ครมคี าถามหรอื สงสยั อย่างอน่ื มไี หมคะ
นอ้ งโชค : ครูครบั ถ้าใส่ผงยาลดกรดหมดซอง ลูกโปง่ จะใหญ่ขนาดไหนครับ
ครู : แล้วเราทาอยา่ งไรถึงจะรลู้ ะค่ะ วา่ ใสผ่ ลยาลดกรดหมดซอง ลูกโปง่ จะพองขนาดไหน
เดก็ : ต้องทดลองก่อนถึงจะรู้
ครู : ครูขอจดคาถามเอาไว้กอ่ นนะคะ มีใครอยากร้ใู นเรือ่ งอนื่ ไหมคะ่
นอ้ งอะตอม : แล้วถา้ ไมใ่ ชผ่ งยาลดกรด จะเอาอะไรมาใส่แทนได้บา้ ง ลกู โปง่ ถงึ จะพองโต
ครู : เป็นคาถามทนี่ ่าสนใจนะคะ (ครูจดคาถามไว้)
นอ้ งโอ๋ : ถ้าหนูเอาน้ามนั มาใสแ่ ทนลกู โป่งจะพองได้ไหมคะ
ครู : แล้วหนคู ิดวา่ ลกู โป่งจะพองไดห้ รือปา่ วคะ
นอ้ งอะตอม : หนูวา่ พองได้ค่ะ
ครู : ครูจดคาถามของหนไู วก้ ่อนนะคะ
น้องกาย : ถา้ ใสน่ ้าลงไปเยอะๆ ลูกโปง่ จะพองลูกใหญไ่ หมครบั
ครู : นา้ เยอะท่หี นวู า่ ใสเ่ ต็มขวดเลยใชไ่ หมคะ
นอ้ งกาย : ใช่ครบั ใสน่ า้ เตม็ ขวด
น้องอ๊อฟ : ถ้าเอาลูกโป่งปิดปากขวดไว้ แล้วเม่ือไรลกู โปง่ ถึงจะเหย่ี วลงมาครับ
ครู : นั่นนะสิ ตอ้ งใช้เวลานานแคไ่ หนกันนะ
เด็ก : เอาไว้หลายๆวัน
๒
เมื่อเด็กช่วยกันตง้ั คาถามที่อยากรูแ้ ล้ว ครสู นทนาพูดคุยกับเดก็ เกี่ยวกบั คาถามทเ่ี ด็กสนใจ สรุปคาถาม
ไดท้ ง้ั หมด ๕ คาถาม
ขน้ั ตอนกำรดำเนนิ งำน
ขั้นท่ี ๑ เรมิ่ ต้นโครงงำน
ตั้งคำถำมท่ีอยำกรู้ (วันที่ ๑๗ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ )
จากการทดลองเรื่อง”เอ๊ะ อ๋อ ขวดไหนลูกโป่งพ๊องพอง โต๊โต”เม่ือทาผลการทดลองเสร็จแล้ว ครูใช้
คาถามกระตุ้นว่าเด็กสนใจหรืออยากเรียนรู้ในเร่ืองอะไรเกี่ยวกับในเรื่องของก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซค์ โดยให้
เด็กตัง้ คาถามในสง่ิ ท่สี นใจโดยครจู ดไว้ในกระดาษชารท์ ซึง่ ไดค้ าถาม ๕ คาถาม ดังนี้
คำถำมที่ ๑ ถ้าใส่ผงยาลดกรดหมดซอง ลูกโปง่ จะพองโตขนาดไหน
คำถำมท่ี ๒ ถา้ ไมม่ ีผงยาลดกรด จะเอาอะไรมาทดลองแทน ให้ลูกโป่งพองไดบ้ ้าง
คำถำมที่ ๓ ถ้าใส่น้ามนั ลงไปแทนน้าแลว้ ใส่ผงยาลดกรด ลูกโปง่ จะพองโตไหม
คำถำมท่ี ๔ ถ้าใสน่ า้ ลงไปเยอะๆ ลกู โปง่ จะพองโตหรอื ไม่
คำถำมที่ ๕ ถา้ เอาลูกโป่งปิดขวดไว้ นานแค่ไหนลูกโปง่ จะเหี่ยว
ครูเขยี นคาถามทีเ่ ด็กอยากรู้ไว้บนแผน่ ชาร์ท แลว้ ใหเ้ ดก็ เลือกคาถามทต่ี นเองสนใจคนละ๑คาถาม ครู
อา่ นคาถาม แลว้ ให้เดก็ ยกมือเลือก โดยเด็ก ๑ คน ยกมือได้ ๑ ครัง้ สรปุ ผลวา่ เดก็ มีความสนใจในเลือกคาถาม
ได้ตามตารางดังนี้
คำถำม จำนวนเด็ก
๑. ถา้ ใส่ผงยาลดกรดหมดซอง ลกู โป่งจะพองโตขนาดไหน ๔
๒. ถา้ ไมม่ ผี งยาลดกรด จะเอาอะไรมาทดลองแทน ใหล้ กู โป่งพองได้บ้าง ๘ ***
๓. ถา้ ใสน่ ้ามันลงไปแทนน้าแลว้ ใสผ่ งยาลดกรด ลูกโป่งจะพองโตไหม ๒
๔. ถ้าใสน่ า้ ลงไปเยอะๆ ลูกโป่งจะพองโตหรือไม่ ๓
๕. ถ้าเอาลูกโปง่ ปดิ ขวดไว้ นานแค่ไหนลกู โป่งจะเห่ียว ๕
๓
ภำพกจิ กรรมในขณะเลือกคำถำมทส่ี นใจ
เด็ก ๆ ต้ังคำถำมทอี่ ยำกรู้ ครูจดบันทึกคำถำม
ลงในแผ่นชำรท์
คำถำมท่เี ดก็ ๆ อยำกรู้ และตอ้ งกำรทำกำรทดลอง เด็ก ๆ ช่วยกนั แสดงควำมคิดเห็นวำ่ ตอ้ งกำรทดลอง
เรือ่ งใดมำกท่สี ุด
คำถำมท่ี ๑ ถ้ำไมม่ ีผงยำลดกรด จะเอำอะไรมำทดลองแทน ใหล้ กู โปง่ พองได้บำ้ ง
จดุ ประสงค์
๑. เพอ่ื ให้เด็กไดเ้ รียนรเู้ ก่ยี วกบั คณุ สมบตั ิของกา๊ ซคาร์บอนไดรอ์ อกไซค์
๒. เพอ่ื ให้เด็กได้ฝกึ กระบวนการตัง้ สมมตฐิ าน และการสงั เกตในการทาการทดลอง
๓. เพอ่ื เสรมิ สรา้ งให้เด็กได้เรยี นรู้ โดยการลงมอื ปฏิบัติดว้ ยตนเอง และแลกเปลยี่ นความคิดเห็นรว่ มกบั
ผ้อู ื่น
๔
ข้ันท่ี ๒ กำรคำดคะเนผลกำรทดลอง ( วันท่ี ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ )
จากที่เด็กไดช้ ว่ ยกนั ตัง้ คาถามในสง่ิ ทเ่ี ด็ก ๆ อยากรู้ จากนัน้ ครใู หเ้ ด็ก ๆ เลอื กวา่ อยากจะทดลอง
กจิ กรรมใดมากท่ีสุด โดยเลือกจากใน ๕ คาถามทเี่ ดก็ ๆ ได้ชว่ ยกนั คิดไวก้ อ่ นหนา้ นี้ สรปุ แล้วเด็ก ๆ มคี วาม
สนใจในเรอ่ื ง “ถ้าไมม่ ผี งยาลดกรด จะเอาอะไรมาทดลองแทน ใหล้ กู โปง่ พองไดบ้ า้ ง” เมอ่ื ได้คาถามในสง่ิ ที่เด็ก
มคี วามสนใจ ครูใชค้ าถามกระตุน้ ให้เด็กไดค้ าดคะเนคาตอบ โดยถามว่า “เด็กจะใช้อะไรมาใส่แทนผงยาลดกรด
ทีจ่ ะสามารถทาให้ลกู โปง่ พองโตได้” โดยสง่ิ ที่เด็กช่วยกนั นาเสนอทจี่ ะนามาทาการทดลองมีดังนี้
ครู : เด็กคดิ วา่ เราจะเอาอะไรมาใช้ในการทดลองไดบ้ า้ ง
น้องโอ๋ : หนคู ดิ ว่าน้าส้มทาใหล้ กู โป่งพองโตได้
น้องมิกซ์ : หนวู า่ นา้ ชาเขยี ว ทาให้ลูกโป่งพองโตลูกใหญ่
นอ้ งบุญหลาย : หนูวา่ นา้ อดั ลม ทาให้ลูกโป่งพองโตได้ เพราะหนเู ห็นในน้าอดั ลมมีฟอง
นอ้ งเฟริ น์ : หนวู ่านมทาให้ลูกโป่งพองโต เพราะนมถุงท่ีหนูกนิ มนั พองเหมอื นลกู โปง่
น้องโชค : หนูคิดวา่ เอาน้าโซดามาใช้ทดลองจะทาให้ลูกโปง่ พองโต เพราะว่าหนูเคยทาทดลอง
เมล็ดพืชเตน้ ระบาที่ใช้นา้ โซดาแลว้ เอาลูกโปง่ คมุ ปากขวด ลกู โปง่ กพ็ องโต
ครู : แสดงวา่ นอ้ งโชคยังจาผลการทดลองในเรอ่ื งเมลด็ พืชเตน้ ระบาได้
ครูเขียนวัสดลุ งในกระดาษชาร์ทท่ีเดก็ จะนามาทาการทดลอง โดยให้เดก็ ชว่ ยกันคาดคะเนคาตอบก่อน
ทาการทดลองร่วมกันตามตารางดังน้ี
กำรคำดคะเน
๑. นา้ ส้ม ทาให้ลกู โป่งพองโตได้
๒. นา้ ชาเขยี ว ทาให้ลูกโปง่ พองโตได้
๓. นมอัดลม ทาให้ลกู โปง่ พองโตได้
๔. นมจืด ทาให้ลกู โป่งพองโตได้
๕ น้าโซดา ทาให้ลกู โปง่ พองโตได้
๕
ข้นั ท่ี ๓ ดำเนนิ กำรสำรวจตรวจสอบ
วธิ กี ำรดำเนินงำน
วำงแผนข้นั ตอนในกำรสำรวจตรวจสอบ (วันที่ ๒๑ – ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ )
ครูใช้คาถามในการกระตุน้ เด็ก ๆ เกีย่ วกับการวางแผนในการดาเนินกิจกรรมเพอื่ หาคาตอบวา่
เราจะใชอ้ ะไรมาแทนผงยาลดกรด แล้วทาให้ลูกโปง่ พองโต ซงึ่ เดก็ ๆ ก็ได้คดิ และคาดคะเนสงิ่ ท่ีจะ
นามาใช้แทนไดแ้ ละตอ้ งดาเดนิ การทดลองอยา่ งไร โดยใหเ้ ด็กชว่ ยกนั วางแผนแล้วสรุปได้ดังน้ี
ครู : เดก็ ๆ คิดว่าในการทาทดลองน้เี ราจะต้องเตรยี มวัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง
นอ้ งโชค : เราไปซื้อน้าส้ม ชาเขียว น้าอัดลม นมจืดและโซดา ทร่ี า้ นค้ามาใชใ้ นการทดลองครบั
ครู : ถ้าให้ครไู ปซอื้ คนเดียว อาจจะซ้อื ได้ไมค่ รบ ครอู ยากใหเ้ ดก็ ๆ ทกุ คนมสี ว่ นร่วมด้วยใน
การทากิจกรรม แต่วา่ เราจะทาอย่างไรใหท้ กุ คนไดม้ ีสว่ นรว่ มดนี ะ
นอ้ งเฟิรน์ : กใ็ ห้เดก็ ๆ ซอ้ื มาอย่างละขวดค่ะ
ครู : ถ้าให้เด็กซื้อมาคนละขวด มนั จะเยอะเกินสาหรับทจ่ี ะนามาทาการทดลองหรือป่าวค่ะ
นอ้ งอะตอม : งน้ั เราต้องแบ่งกนั ไปซื้อค่ะ
ครู : เปน็ ความคดิ ทด่ี ี แลว้ เราจะแบง่ กลุ่มกนั ด้วยวธิ ไี หน มใี ครอยากเสนอความคิดของ
ตนเองไหม
น้องมิกซ์ : เราแบง่ กลุ่ม ให้เด็กนบั ๑ – ๕ เหมอื นทีเ่ ราเคยจับกลมุ่ เลน่ เกมในหอ้ งเรียนครับ
ครู : เราแบ่งกล่มุ เสรจ็ แล้ว แต่ละ่ กล่มุ ตอ้ งเตรียมอุปกรณอ์ ะไรบ้าง
เด็ก : เตรียมขวด ๑ ใบ ลูกโป่ง ๑ ใบ กรวย ๑ อัน และวสั ดุท่ีเลอื กใช้ในแตล่ ะกลุ่ม
ครู : แล้วเราจะเริม่ ทดลองอยา่ งไร พรอ้ มกนั หรอื ทลี ะกลุม่
เดก็ : ทีละกลุม่
ครู : แล้วในขณะท่เี พ่ือนแต่ละกลุม่ ออกมาทาการทดลอง เดก็ กลุ่มท่เี หลือควรปฏิบตั ิตน
อยา่ งไร
เดก็ : ไมค่ ุย ไม่เลน่ ต้งั ใจฟัง
ครู : เม่ือเราทาการทดลองเสร็จแล้วเราจะบอกไดอ้ ย่างไรวา่ เครื่องดื่มชนิดใด ทาใหล้ กู โปง่
พองโต
น้องชยั : วาดรปู ลูกโปง่ ว่าพองไหมครบั
๖
วางแผนขัน้ ตอนในการทดลอง
๑. เดก็ ๆ แบง่ กล่มุ ออกเป็น ๕ กล่มุ เพ่ือทดลองสิง่ ที่คาดคะเนกลุ่มละ ๑ อย่าง โดยแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั
เตรยี มอปุ กรณ์ของกล่มุ ทต่ี นเองรบั ผิดชอบ
๒. เตรียมวัสดุอปุ กรณ์ท่ีได้คาดคะเนไว้ท่สี ามารถนามาใช้แทนผงยาลดกรด แลว้ ทาให้ลกู โปง่ พองโต
๓. ดาเนินการทาการทดลองของแต่ละกลุม่ และช่วยกันสังเกตขณะทาการทดลอง
๔. เมือ่ ทาการทดลองเสรจ็ แล้วให้ตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ อกมาบันทึกผลการทดลองของกล่มุ ตนเอง โดยการวาด
ภาพการทดลองท่ีเกิดขนึ้ ลงในกระดาษชารท์ ท่ีเตรียมไว้
ภำพขณะดำเนินกำรทดลอง
เดก็ แต่ละกลุม่ จัดเตรียมวสั ดุอุปกรณแ์ ละทำกำรทดลองด้วยตนเอง
เดก็ ๆ ชว่ ยกันสังเกตปริมำณน้ำท่ีเทลงไปในขวดแก้ว
๗
ขน้ั ท่ี ๔ กำรสงั เกตและบรรยำย (วนั ที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ )
เด็กแต่ละกลุ่มนาวสั ดอุ ุปกรณท์ ีร่ บั ผดิ ชอบมาเตรยี มไวเ้ พื่อทาการทดลองโดยครูคอยให้คาแนะนาและ
กระตุน้ ใหเ้ ด็กมคี วามสนใจในการทากิจกรรมกลุ่มของตนเอง จากนน้ั เริ่มให้เด็กออกมาทาการทดลองทีละ
๑ กลมุ่ โดยเด็กท่เี หลือคอยสงั เกตการเปลย่ี นแปลงขณะทีเ่ พื่อนทาการทดลองหน้าชั้นเรียน และจากการ
ในขณะทาการทดลองแตล่ ะกลมุ่ เดก็ ๆ ช่วยกนั บรรยายได้ตามตารางดงั นี้
กลมุ่ ท่ี ส่งิ ที่ใชใ้ นกำรทดลอง สงั เกตและบรรยำย
๑ ทาการทดลองโดยใช้น้าส้ม เมื่อใส่ลูกโปง่ คมุ ปากขวด ลกู โปง่ ไมพ่ องขนึ้
๒ ทาการทดลองโดยใช้น้าชาเขียว เมื่อใส่ลกู โปง่ คมุ ปากขวด ลูกโป่งไม่พองขนึ้
๓ ทาการทดลองโดยใช้น้าอดั ลม เม่ือใส่ลูกโปง่ คุมปากขวด ลูกโปง่ คอ่ ยๆพองใหญข่ ้ึน
๔ ทาการทดลองโดยใช้นมจืด เมอื่ ใส่ลกู โปง่ คุมปากขวด ลูกโป่งไมพ่ องขนึ้
๕ ทาการทดลองโดยใช้น้าโซดา เมื่อใส่ลูกโป่งคุมปากขวด ลูกโป่งคอ่ ยๆพองใหญข่ นึ้
เดก็ ลงมอื ปฏบิ ัติกำรทดลองดว้ ยตนเอง
เด็กสงั เกตกำรทดลองวำ่ ลูกโป่งมีกำรเปลย่ี นแปลงอยำ่ งไร
๘
ขั้นท่ี ๕ บันทกึ ผลกำรทดลอง ( วันท่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ )
จากนั้นครใู ห้ตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาบนั ทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกผลการทดลอง
หนา้ ช้นั เรยี น
- ตวั แทนเด็กในแตล่ ะกล่มุ ออกมาบนั ทึกผลการทดลองหน้าชน้ั เรียน
- ครใู หต้ วั แทนแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลการทดลองหนา้ ชน้ั เรียนให้เพอื่ นฟงั จากน้ันครูนาแบบบนั ทกึ ผล
การทดลองทีท่ าร่วมกนั ไปติดท่ีบอรด์ หน้าหอ้ งเรยี นทค่ี รเู ตรยี มไว้ เม่ือได้นาเสนอการทดลองเสร็จแล้ว
ตัวแทนเดก็ ในแต่ละกลมุ่ ออกมำบนั ทกึ ผลกำรทดลองหน้ำช้ันเรยี น
ขั้นท่ี ๖ สรปุ และอภิปรำยผล ( วนั ท่ี ๒๗ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ )
เมื่อเดก็ ได้ทาการทดลองเสรจ็ แล้ว ครแู ละเด็กสนทนารว่ มกันเกีย่ วกับคาถามท่เี ด็ก ๆ อยากรู้วา่
“ถา้ ไม่มีผงยาลดกรด จะเอาอะไรมาทดลองแทน ให้ลูกโปง่ พองได้บา้ ง”โดยครใู ห้เด็ก ๆ ได้ทบทวน โดยให้
ตวั แทนกลุ่มแต่ละกลุม่ ออกมาเลา่ ถึงวธิ กี ารทดลองว่าทาอยา่ งไรบา้ ง และบอกผลการทดลองของแต่ละกลมุ่
วา่ เป็นอย่างไร โดยใช้ชาร์ทแผน่ ใหญท่ เี่ ดก็ ๆ ช่วยกนั สรปุ ผลการทดลองดังน้ี
ครู : จากที่เด็กไดท้ าการทดลองแล้ว ผลการทดลองเปน็ อยา่ งไร ใครจะชว่ ยเล่าให้เพอื่ นฟงั
ไดบ้ ้าง
น้องออม : น้าอัดลม กับ น้าโซดา ทาใหล้ กู โป่งพองโตคะ่
น้องโอ๋ : น้าส้ม นา้ ชาเขยี ว นมจืด ลูกโปง่ ไมพ่ องเลยครับ
๙
ครู : เดก็ ๆ คดิ ว่าทาไม ถงึ เป็นเชน่ น้ี มีใครพอจะชว่ ยอธิบายไดบ้ ้าง
นอ้ งอะตอม : หนูเหน็ นา้ อดั ลมกบั น้าโซดามฟี องค่ะ เลยทาให้ลกู โป่งพองขึ้น
ครู : ใช่คะ่ ในน้าอัดลมกับน้าโซดามีฟอง เพราะในฟองนมี้ กี ๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซค์อยู่
เม่ือเทนา้ ลงไปในขวดแล้วใช้ลกู โป่งคุมปากขวดไว้ ลูกโปง่ กจ็ ะพองขน้ึ เพราะมกี า๊ ซ
คาร์บอนไดร์ออกไซค์อยเู่ ชน่ เดียวกบั ผงยาลดกรดเมอื่ ผสมกับน้ากจ็ ะมี
กา๊ ซคารบ์ อนไดรอ์ อกไซคเ์ หมือนกัน
ครู : แล้วขวดที่ลูกโป่งพองโต ลูกโป่งพองโตนานไหมคะ มใี ครสังเกตเห็นบา้ ง
น้องชัย : ก่อนที่เราจะออกไปกนิ ข้าวลกู โป่งยงั พองโต แลว้ พอเราไปกินขา้ วกลบั มาหอ้ งลูกโป่ง
คอ่ ย ๆ เหี่ยวครับ
ครู : แสดงว่าในช่วงเวลานัน้ ก๊าซคารบ์ อนไดร์ออกไซค์เรม่ิ หมดแล้วค่ะ ลกู โป่งเลยค่อย ๆ
เห่ียวลงอย่างทีเ่ ด็ก ๆ เห็นค่ะ
ครู : มีใครอยากแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับการทดลองน้อี ีกไหมค่ะ
น้องโอ๋ : ครคู รบั ถา้ เอาผงยาลดกรด ใสไ่ ปในน้าส้ม นา้ ชาเขยี วและนมจืด แล้วเอาลูกโปง่ คมุ
ปากขวดไว้ ลกู โป่งจะพองขึน้ ไหมครบั
ครู : ถ้าอยากรู้เราต้องทาอยา่ งไรดคี ะ่
เดก็ : ทดลอง ครับ / คะ่
เดก็ สรปุ ผลกำรทดลองร่วมกบั เพือ่ นในชัน้ เรียน
๑๐
ผลจำกกำรทำโครงงำนคำถำมท่ี ๑
เด็กเกดิ กำรพัฒนำดำ้ นตำ่ ง ๆ ดังน้ี
๑. กำรส่งเสรมิ พัฒนำกำรควำมสำมำรถพนื้ ฐำน ๔ ดำ้ น
๑. ๑ ดา้ นการเรียนรู้
- เด็กรู้จกั การต้ังคาถามในส่งิ ที่ตนสงสยั
- เด็กให้เหตุผลในการคาดคะเน การลงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับสงิ่ ที่ตอ้ งการเรยี นรู้
- เดก็ อธบิ ายข้ันตอนวิธกี ารเรียนรู้ของตนเอง ว่ามขี ัน้ ตอนการทาอยา่ งไร และผลทไี่ ด้
เปน็ อยา่ งไร
- เด็กเปรียบเทียบและบอกความเหมอื นความต่างของการทดลองได้
- เด็กไดเ้ รียนรู้ในเรอื่ งของก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซค์
- เดก็ สรุปผลการทดลองและแสดงความคดิ เหน็ ของตนเองรว่ มกบั ผูอ้ ่นื ได้
๑.๒ ด้านภาษา
- เด็กรจู้ ักการรบั ฟังความคดิ เห็นของผอู้ ่นื ในขณะท่ีใหแ้ สดงความคิดเห็นรว่ มกัน
- เดก็ พูดกบั ผ้อู นื่ โดยการเล่าประสบการณ์เดมิ ของตนเอง
- เด็กสังเกตขณะทาการทดลองโดยบรรยายในลักษณะการใช้ภาษาและคาพูดของตนเอง
- เดก็ เขียนสรปุ ผลการทดลองของตนเอง โดยการวาดภาพผลการทดลอง
๑.๓ ดา้ นสงั คม
- เด็กเข้าร่วมกิจกรรมกับผอู้ น่ื ได้
- เด็กรว่ มสนทนาและแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ ของตนเอง และยอมรับฟังความคิดเหน็ ของ
คนอื่นในการทากจิ กรรมรว่ มกนั
- เด็กปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลงที่วางไวร้ ่วมกนั
๑.๔ ด้านการเคล่อื นไหวและทักษะการรบั ร้ขู องประสาทสัมผัส
- เด็กใชม้ อื ในการหยิบจับอปุ กรณก์ ารทดลองได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่ โดยไมห่ ลดุ จากมือ
- เด็กใชม้ ือได้อย่างคล่องแคลว่ ในการวาดภาพ การเขียน ในขณะทาการทดลอง
- เด็กใชป้ ระสานสมั พนั ธ์ระหว่างมอื กับตาเปน็ อยา่ งดใี นการเทวสั ดุในการทาการทดลอง
๒. กำรสง่ เสรมิ ทักษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์
๒.๑ ทกั ษะการสังเกต
- การดมกลิ่น ชิมรส หยบิ จับ สมั ผัส วัสดุต่าง ๆ ที่ใช้ในการทดลอง คือ นา้ โซดา น้าอดั ลม
น้าส้ม นา้ ชาเขียว และนมจดื โดยสังเกตการเปลย่ี นแปลงของลูกโปง่ ทีค่ มุ ปากขวดว่าลูกโปง่
๑๑
พอขึน้ หรอื ไม่
๒.๒ ทักษะการวัด
- เด็กใช้ขวดแก้วในการตวงปริมาณของน้า โดยจะขดี เครือ่ งหมายไวท้ ่ีขวดทกุ ใบ
เพ่ือให้มีระดบั นา้ ที่เทา่ กัน
๒.๓ ทักษะการคานวณ
- เดก็ นบั จานวนขวดท่ีใช้ในการทดลอง และวงั เกตว่าแต่ละขวดมีการเปล่ยี นแปลงอย่างไร
ขวดท่ีลกู โป่งพองมกี ่ขี วด และขวดที่ลูกโป่งไมพ่ องมีกีข่ วด
๒.๔ ทกั ษะการจาแนกประเภท
- เปรยี บเทยี บผลการทดลองของแตล่ ะกลมุ่
- เปรยี บเทยี บสิ่งท่คี าดคะเนกบั ผลทท่ี ดลอง
๒.๕ ทกั ษะการพยากรณ์หรอื การคาดคะเนคาตอบ
- เด็กคาดคะเนคาตอบท่ีตนเองคดิ ว่าจะใช้อะไรมาใสแ่ ทนผงยาลดกรด ทจ่ี ะสามารถทาให้
ลกู โป่งพองโตได้
๒.๖ ทกั ษะการหาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสเปสกับสเปส และสเปสกบั เวลา
- เด็กบอกไดว้ ่าเมือ่ คุมลูกโป่งในขวดท่ีใสน่ ้าโซดาไวล้ ูกโป่งจะพองขน้ึ แต่ถา้ ท้ิงไว้ประมาณ ๑ –
๒ ช่ัวโมง ลูกโป่งจะค่อยๆเหย่ี วลง เพราะในขวดไม่มีก๊าซคาร์บอนไดอกไซคแ์ ลว้
๒.๗ ทักษะการกาหนดและควบคมุ ตวั แปร
- เดก็ บอกได้วา่ ตอ้ งใช้ขวดทเี่ หมือนกัน และตวงวสั ดุในปริมาณทเ่ี ท่ากันทกุ กลมุ่
๒.๘ ทักษะการทดลอง
- เดก็ ตัง้ คาถามในส่ิงที่อยากรู้ และคาดคะเนคาตอบกอ่ นการทดลอง
- เดก็ วางแผนการปฏบิ ัติการทดลองตามขน้ั ตอนที่กาหนดร่วมกนั
- เด็กบนั ทกึ ผลการทดลองในกลมุ่ และบนั ทกึ ผลการทดลองของตนเอง
๒.๙ ทกั ษะการจัดกระทา และสื่อความหมายข้อมลู
- เดก็ สรปุ ผลส่งิ ท่ีสงั เกตและทดลองไดโ้ ดยการวาดภาพ และนาเสนอข้อมูลหน้าชน้ั เรียน
๒.๑๐ ทกั ษะการลงความคิดเห็นจากขอ้ มลู
- เด็กแสดงความคดิ เห็นความคิดเหน็ ของตนเองในขณะสรุปผลการทดลองวา่ โซดามกี า๊ ซ
คาร์บอนไดรอ์ อกไซค์บรรจุอยทู่ าให้ลูกโป่งพองขนึ้ ในน้าอัดลมกม็ สี ว่ นผสมขอโซดาเช่นกัน
จึงทาให้ลกู โปง่ พองขนึ้ เช่นกนั
๑๒
คำถำมท่ี ๒ ถ้ำนำผงยำลดกรดใสล่ งในน้ำสม้ นำ้ ชำเขียว และนมจืด ลกู โป่งจะพองโตหรอื ไม่
ขน้ั ท่ี ๑ ตงั้ คำถำมทีอ่ ยำกรู้ ( วนั ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ )
จากการทดลองเร่อื ง “เอ๊ะ ออ๋ ขวดไหนลูกโปง่ พ๊องพอง โตโ๊ ต” เมอ่ื ทาผลการทดลองเสรจ็ แล้ว เดก็
และครรู ว่ มกนั สรปุ กิจกรรมการทดลองวา่ เป็นอย่างไร ในขณะทสี่ รุปกิจกรรมเสรจ็ แลว้ มีเดก็ สงสยั ว่า ถ้านาผง
ยาลดกรดใสล่ งในนา้ สม้ น้าชาเขียว และนมจดื ลูกโปง่ จะพองโตหรอื ไม่ ทาให้เดก็ ทกุ คนให้ความสนใจกับ
คาถามนี้เปน็ อยา่ งมาก เด็กจงึ ต้องการทดลองครั้งตอ่ ไปอกี เพอ่ื หาคาตอบในคาถามท่ีเด็กต้องการอยากรู้
คำถำม : นาผงยาลดกรดใส่ลงในน้าสม้ นา้ ชาเขยี ว และนมจดื ลกู โป่งจะพองโตหรือไม่
จดุ ประสงค์
๑. เพ่อื ใหเ้ ด็กได้ทาการทดลองด้วยตนเอง เกย่ี วกับการนาผงยาลดกรดมาใส่ในน้าส้ม นา้ ชาเชยี ว
และนมจืด วา่ จะมกี ารเปลย่ี นแปลงอย่างไร
๒. เพ่อื ใหเ้ ดก็ ไดท้ ากจิ กรรมร่วมกับผ้อู ่ืน แสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรบั ความคดิ เห็น
ของผู้อ่นื
ขั้นท่ี ๒ กำรคำดคะเนผลกำรทดลอง ( วนั ที่ ๒๙ – ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ )
จากคาถามที่เด็กสงสัยในขณะสรุปกจิ กรรม “เอะ๊ ออ๋ ขวดไหนลูกโป่งพ๊องพอง โตโ๊ ต” ครใู ชค้ าถาม
กระตนุ้ ให้เดก็ ไดค้ าดคะเนคาตอบ โดยถามวา่ แล้วเดก็ ๆ คดิ วา่ จะเกิดไรขึ้นเม่อื เรานา้ ผงยาลดกรอใสล่ งไป
นา้ สม้ นา้ ชาเขียว นมจดื โดยส่ิงท่ีเดก็ ชว่ ยกันแสดงความคิดเหน็ รว่ มกันเกีย่ วกบั การคาดคะเนคาตอบในการ
ทดลองมดี ังนี้
ครู : จากการทดลองท่ีผา่ นมาเราลองเอาลกู โปง่ คุมปากขวด นา้ สม้ นา้ เขยี ว และนมจดื
การทดลองเปน็ อย่างไร
เดก็ : ลกู โป่งไมพ่ อง ครบั /ค่ะ
ครู : แล้วถ้าเราใสผ่ งยาลดกรดลงไปในขวดน้าชนิดตา่ ง ๆ เดก็ ๆ คดิ วา่ ขวดไหนลกู โปง่
จะพองโต และขวดไหนลูกโป่งจะไม่พองบา้ งคะ
น้องโชค : ลกู โป่งนา่ จะพองข้นึ ทุกขวดครบั เพราะผงยาลดกรดทาใหล้ กู โปง่ พองได้ ๑๓
น้องนนท์ : ขวดนา้ สม้ ลูกโป่งไม่น่าพองโตขน้ึ ครับ
น้องปนู ม่ิ : หนูคิดวา่ ขวดน้าชาเขยี ว ลูกโป่งพองโตอยขู่ วดเดยี วคะ่
น้องแบม : ขวดนมจืดลูกโป่งพองโตค่ะ
นอ้ งออม : ไมม่ ขี วดไหนลูกโป่งพองคะ่
นอ้ งออ๊ ฟ : ขวดน้าสม้ ลูกโปง่ พองครับ
เมอ่ื ครูให้เดก็ ๆ แสดงความคดิ เห็นในการคาดคะเนคาตอบการทาการทดลอง เด็ก ๆ แตล่ ะคนมคี วาม
คิดเห็น ที่ต่างกนั สรุปเป็นตารางไดด้ ังน้ี
สง่ิ ท่ใี ช้ในการทดลอง การคาดคะเน
ลกู โป่งพองโต ลูกโปง่ ไมพ่ องโต
๑. นา้ สม้ + ผงยาลดกรด ๑๒ ๑๐
๒. น้าชาเขยี ว + ผงยาลดกรด ๑๔ ๗
๓. นมจดื + ผงยาลดกรด ๑๒ ๑๐
ขนั้ ท่ี ๓ ดำเนินกำรสำรวจตรวจสอบ ( วันที่ ๓ – ๔ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ )
ครใู ช้คาถามในการกระตุ้นเด็ก ๆ เก่ยี วกับการวางแผนในการดาเนนิ กิจกรรมเพ่ือหาคาตอบวา่ เรา
จะต้องเลอื กใช้วัสดอุ ุปกรณ์อะไรบา้ ง โดยให้เด็กช่วยกนั วางแผนแลว้ สรปุ ได้ดังน้ี
ครู : เดก็ ๆ คิดว่าในการทาทดลองนีเ้ ราจะต้องเตรียมวสั ดุอุปกรณอ์ ะไรบา้ ง
น้องโชค : เราเตรียมนา้ สม้ น้าชาเขียว และนมจืดครบั
น้องเฟิรน์ : ต้องใช้ผงยาลดกรดดว้ ยค่ะ
ครู : เดก็ ๆ ช่วยกันคิดสิวา่ เรายงั ขาดอะไรอกี ไหม
นอ้ งแบม : ขวดแก้ว กับกรวยคะ่
ครู : แล้วในขณะทาการทดลองเราจะใสผ่ งยาลดกรดเทา่ ไรในแต่ละกลมุ่
นอ้ งจิมมี่ : ใส่ขวดละ ๓ ช้อน ลูกโป่งจะได้พองลกู ใหญค่ รับ
ครู : แลว้ ปริมาณนา้ ท่ีเราใส่ลงไปในขวด เราจะต้องใสใ่ นปรมิ าณเท่าไร
นอ้ งอะตอม : ใส่ใหเ้ ท่ากนั ค่ะ
ครู : แล้วเราจะรู้ได้อยา่ งไรวา่ เราใสเ่ ทา่ กนั ทุกขวด
เดก็ : เราตอ้ งตวงใส่แกว้ ก่อนค่ะ แล้วค่อยเทใสข่ วด แล้วเอาลูกโป่งปดิ ปากขวด
ครู : เม่อื เราทาการทดลองเสรจ็ แล้วเราจะสรุปผลการทดลองอยา่ งไร
นอ้ งชัย : วาดรูปลกู โป่งว่าพองเหมอื นเดมิ ได้ไหมครับ
๑๔
ภำพขณะดำเนนิ กำรทดลอง
เด็กเทน้ำส้ม น้ำชำเขยี ว และนมใสล่ งในขวดแกว้ ใหถ้ ึงเสน้ ปรมิ ำณของทกุ ขวดเทำ่ กัน
เดก็ ใสผ่ งยำลดกรดลงในขวดแก้ว
เด็กเอำลูกโป่งคมุ ปำกขวดแก้วและสังเกตกำรพองของลกู โป่ง
๑๕
ข้ันท่ี ๔ กำรสงั เกตและบรรยำย (วันที่ ๕ – ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓)
เด็กชว่ ยกนั เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณเ์ พื่อทาการทดลองโดยครคู อยให้คาแนะนาและกระตุ้นใหเ้ ด็กมีความ
สนใจในการทากิจกรรมกล่มุ ของตนเอง จากนน้ั ขอตวั แทนเด็กออกมาร่วมทากจิ กรรมการทดลอง โดยเด็กท่ี
เหลือคอยสงั เกตการเปลีย่ นแปลงในขณะที่เพอื่ นทาการทดลองหน้าชนั้ เรียน และจากการสงั เกตในขณะทาการ
ทดลองเดก็ ๆ บรรยายได้ดังนี้
กล่มุ ท่ี สง่ิ ที่ใช้ในกำรทดลอง สังเกตและบรรยำย
๑ ทาการทดลองโดยใช้นา้ สม้ + ผงยาลดกรด เมอ่ื ใส่ลูกโป่งคุมปากขวด ลกู โป่งคอ่ ยๆพองใหญ่ข้ึน
เรอื่ ย ๆ
๒ ทาการทดลองโดยใช้นา้ ชาเขยี ว + ผงยาลดกรด เม่ือใส่ลูกโป่งคุมปากขวด ลกู โป่งคอ่ ยๆพองใหญข่ ึ้น
๓ ทาการทดลองโดยใช้นมจืด + ผงยาลดกรด เมอ่ื ใส่ลกู โป่งคุมปากขวด ลกู โปง่ คอ่ ยๆพองใหญ่ขึ้น
ย่ิงเขย่าขวดลูกโป่งย่ิงพองมากขน้ึ
เด็กสงั เกตกำรเปล่ยี นแปลงของลูกโปง่
ผลกำรทดลองทไ่ี ด้จำกกำรใส่ผงยำลดกรดลงไป
๑๖
ขั้นท่ี ๕ บนั ทึกผลกำรทดลอง (วนั ท่ี ๗ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓)
จากนนั้ ครใู หต้ ัวแทนแต่ละกลมุ่ ออกมาบันทกึ ผลการทดลองลงในแบบบันทึกผลการทดลอง
หน้าช้นั เรยี น
- เดก็ บนั ทกึ ผลการทดลองของตนเองในแบบบันทึกผลการทดลอง ครชู ่วยบนั ทกึ ผลการทดลอง
- ตัวแทนเด็กในแต่ละกลมุ่ ออกมาบนั ทึกผลการทดลองหนา้ ช้ันเรียน
- ครใู ห้ตวั แทนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการทดลองหน้าช้นั เรยี นใหเ้ พื่อนฟัง จากน้นั ครูนาแบบบนั ทกึ ผล
การทดลองทที่ ารว่ มกันไปติดที่บอรด์ หนา้ ห้องเรยี นท่คี รูเตรียมไว้ เมื่อได้นาเสนอการทดลองเสร็จแล้ว
เด็กบนั ทึกผลกำรทดลองลงในแบบบันทึกผลกำรทดลอง
บนั ทึกผลกำรทดลองของเดก็ แตล่ ะคน
๑๗
ตวั แทนออกมำบนั ทึกผลกำรทดลองบนแผ่นชำรท์ หน้ำช้ันเรยี น
ข้นั ท่ี ๖ สรุปและอภิปรำยผล (วนั ที่ ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓)
เม่อื เด็กไดท้ าการทดลองเสร็จแลว้ ครูและเด็กสนทนารว่ มกันเกี่ยวกบั คาถามที่เด็ก ๆ อยากร้วู า่
“ถ้านาผงยาลดกรดใส่ลงในน้าสม้ น้าชาเขยี ว และนมจืด ลกู โป่งจะพองโตหรอื ไม่” โดยครใู หเ้ ด็ก ๆ ได้ทบทวน
โดยขออาสาสมัครเดก็ ออกมาเล่าถึงวิธีการทดลองวา่ ทาอย่างไรบา้ ง และบอกผลการทดลองว่าเป็นอยา่ งไร
โดยใช้ชารท์ แผน่ ใหญ่ที่ช่วยกนั สรปุ ผลการทดลอง ดังนี้
ครู : จากที่เดก็ ไดท้ าการทดลองแล้ว ผลการทดลองเปน็ อยา่ งไร ใครจะอาสาสมัครเลา่ ให้
เพอ่ื นฟงั ได้บา้ งค่ะ
นอ้ งโชค : เอานา้ ส้มเทใส่แกว้ ตวงใหเ้ ทา่ กนั แล้วก็เอาผงยาลดกรดใส่ในขวด เทน้าใส่ในขวดเอา
ลกู โป่งคุมปากขวดครบั
ครู : พอเอาลกู โปง่ มาคมุ ปากขวด ลูกโปง่ เปน็ อย่างไรบ้างคะ่
เด็ก : ลกู โปง่ พองลูกใหญ่
ครู : เด็ก ๆ คิดว่ามีความแตกต่างไหมค่ะ ระหวา่ งท่ใี สผ่ งยาลดกรด กบั ไม่ใส่ผงยาลดกรด
เด็ก : แตกตา่ งกนั ครบั / คะ่
ครู : แตกต่างกันอยา่ งไรบา้ งคะ่ ใครพอทจี่ ะชว่ ยอธบิ ายไดบ้ ้าง
น้องอะตอม : ใส่ผงยาลดกรดจะมีฟองเยอะ แลว้ ลกู โป่งก็พองข้ึน แตถ่ า้ ไมใ่ ส่ผงยาลดกรดจะ
ไมม่ ีฟองลกู โปง่ กไ็ มพ่ องค่ะ
ครู : แสดงวา่ ถ้าเราเอาผงยาลดกรดไปใสใ่ นนา้ กจ็ ะทาให้ลกู โป่งพองโตใชห่ รอื ไม่
เด็ก ๆ คดิ ว่ายังไงค่ะ
นอ้ งโอ๋ : ใช่ครับ เพราะในผงยาลดกรดเม่ืออยใู่ นนา้ จะมกี ๊าซคาร์บอนไดรอ์ อกไซค์ ทาให้ลกู โปง่
พองโตได้ถา้ เขย่ามาก ๆ กจ็ ะพองใหญข่ ึน้ เรือ่ ย ๆ ครบั
๑๘
เด็ก ๆ ชว่ ยกนั สรุปและอภปิ รำยผลกำรทดลอง
ผลจำกกำรทำโครงงำนคำถำมท่ี ๒ เด็กเกิดกำรพัฒนำด้ำนตำ่ ง ๆ ดังนี้
๑. กำรสง่ เสริมพฒั นำกำรควำมสำมำรถพ้ืนฐำน ๔ ดำ้ น
๑. ๑ ดา้ นการเรยี นรู้
- เด็กรจู้ กั การตัง้ คาถามในส่งิ ที่ตนสงสยั
- เด็กให้เหตุผลในการคาดคะเน การลงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ส่งิ ท่ีตอ้ งการเรียนรู้
- เด็กอธิบายข้นั ตอนวธิ กี ารเรยี นร้ขู องตนเอง วา่ มขี ้ันตอนการทาอยา่ งไร และผลทีไ่ ด้
เป็นอย่างไร
- เด็กเปรยี บเทยี บและบอกความเหมือนความตา่ งของการทดลองได้
- เด็กไดเ้ รียนรู้ในเรื่องของกา๊ ซคาร์บอนไดรอ์ อกไซค์
- เดก็ สรปุ ผลการทดลองและแสดงความคดิ เห็นของตนเองร่วมกับผู้อ่นื ได้
๑.๒. ด้านภาษา
- เด็กร้จู ักการรับฟงั ความคิดเห็นของผอู้ ื่น ในขณะทใ่ี หแ้ สดงความคิดเหน็ ร่วมกนั
- เด็กพูดกบั ผอู้ ่ืนโดยการเล่าประสบการณ์เดิมของตนเอง
- เด็กสงั เกตขณะทาการทดลองโดยบรรยายในลักษณะการใชภ้ าษาและคาพดู ของตนเอง
- เด็กเขยี นสรุปผลการทดลองของตนเอง โดยการวาดภาพผลการทดลอง
๑๙
๑.๓. ดา้ นสังคม
- เดก็ เข้ารว่ มกจิ กรรมกับผู้อ่ืนได้
- เด็กรว่ มสนทนาและแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นของตนเอง และยอมรับฟังความคิดเหน็ ของ
คนอนื่ ในการทากจิ กรรมรว่ มกัน
- เดก็ ปฏิบัติตามขอ้ ตกลงท่ีวางไวร้ ว่ มกนั
๑.๔. ด้านการเคลื่อนไหวและทกั ษะการรบั ร้ขู องประสาทสัมผัส
- เด็กใช้มือในการหยบิ จับอุปกรณก์ ารทดลองไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ โดยไม่หลุดจากมอื
- เดก็ ใช้มือได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว ในการวาดภาพ การเขยี น ในขณะทาการทดลอง
- เดก็ ใช้ประสานสมั พันธร์ ะหวา่ งมือกับตาเปน็ อย่างดีในการเทวสั ดใุ นการทาการทดลอง
๒. กำรส่งเสรมิ ทักษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์
๒.๑ ทักษะการสังเกต
- การดมกลิ่น ชิมรส หยบิ จบั สัมผัส วสั ดตุ า่ ง ๆ ที่ใช้ในการทดลอง คือ นา้ โซดา น้าอดั ลม
น้าสม้ น้าชาเขียว และนมจดื โดยสงั เกตการเปลยี่ นแปลงของลกู โปง่ ทค่ี ุมปากขวดว่าลกู โปง่
พองขนึ้ หรอื ไม่
๒.๒ ทักษะการวดั
- เดก็ ใช้ขวดแกว้ ในการตวงปริมาณของน้า โดยจะขีดเครอื่ งหมายไวท้ ี่ขวดทกุ ใบ เพื่อให้มี
ระดบั นา้ ที่เทา่ กนั
๒.๓ ทักษะการคานวณ
- เดก็ นบั จานวนช้อนท่าตกั ผงยาลดกรดใส่ลงไปในขวด
๒.๔ ทกั ษะการจาแนกประเภท
- เปรียบเทยี บความแตกตา่ งของการทดลอง โดยขวดท่ไี มไ่ ด้ผงยาลดกรดกับขวดท่ใี ส่
ผงยาลดกรดว่ามีความแตกต่างของลกู โปง่ อยา่ งไร เด็กเปรียบเทยี บความแตกต่างด้วยการ
วาดรปู ผลการทดลอง
๒.๕ ทักษะการพยากรณ์หรือการคาดคะเนคาตอบ
- เดก็ คาดคะเนคาตอบทต่ี นเองคดิ ว่าเมอ่ื ใส่ผงยาลดกรดลงในนา้ สม้ นา้ ชาเขยี ว และนมจืด
ลูกโปง่ จะพองโตข้ึนหรือไม่
๒.๖ ทักษะการหาความสัมพันธร์ ะหวา่ งสเปสกับสเปส และสเปสกบั เวลา
- เดก็ บอกไดว้ ่าเม่อื คมุ ลกู โปง่ ในขวดท่ีใส่ผงยาลดกรดไวล้ กู โป่งจะพองขน้ึ และถ้าเขยา่ ขวด
ลกู โปง่ ก็จะพองมากกวา่ ชว่ งเวลาตอนทยี่ ังไม่ได้เขยา่ ขวด
๒๐
๒.๗ ทักษะการกาหนดและควบคุมตัวแปร
- เดก็ บอกได้ว่าต้องใช้ขวดทเ่ี หมือนกัน และตวงวัสดใุ นปรมิ าณท่เี ท่ากนั ทุกขวด
๒.๘ ทักษะการทดลอง
- เด็กตง้ั คาถามในสง่ิ ท่อี ยากรู้ และคาดคะเนคาตอบกอ่ นลงมือปฏิบตั ิ
- เดก็ วางแผนการปฏบิ ตั กิ ารทดลองตามขั้นตอนท่ีกาหนดรว่ มกนั
- เดก็ บนั ทกึ ผลการทดลองในกล่มุ และบันทกึ ผลการทดลองของตนเอง
๒.๙ ทักษะการจัดกระทา และสอื่ ความหมายข้อมลู
- เด็กสรปุ ผลสิ่งที่สังเกตและทดลองไดโ้ ดยการวาดภาพ และนาเสนอข้อมูลหนา้ ชัน้ เรียน
๒.๑๐ ทกั ษะการลงความคดิ เห็นจากข้อมลู
- เดก็ แสดงความคดิ เหน็ ความคดิ เห็นของตนเองในขณะสรุปผลการทดลองว่า ในผงยาลดกรด
เม่ือนาไปผสมกบั น้าต่าง ๆ จะทาให้เกดิ ก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซค์ ซึ่งสงั เกตได้วา่ เม่อื นา
ลกู โปง่ ไปคุมปากขวด ลูกโป่งจะคอ่ ยๆ พองโตข้นึ เร่ือย ๆ
ภำคผนวก
ใบงำนของนกั เรยี น
ภำพใบงำนโครงงำน “เอ๊ะ ออ๋ ขวดไหนลูกโปง่ พ๊องพอง โตโ๊ ต”
ภำพใบงำนโครงงำน “เอ๊ะ ออ๋ ขวดไหนลูกโปง่ พ๊องพอง โตโ๊ ต”
ภำพใบงำนโครงงำน “เอ๊ะ ออ๋ ขวดไหนลูกโปง่ พ๊องพอง โตโ๊ ต”
ภำพใบงำนโครงงำน “เอ๊ะ ออ๋ ขวดไหนลูกโปง่ พ๊องพอง โตโ๊ ต”
ภำพใบงำนโครงงำน “เอ๊ะ ออ๋ ขวดไหนลูกโปง่ พ๊องพอง โตโ๊ ต”
ภำพใบงำนโครงงำน “เอ๊ะ ออ๋ ขวดไหนลูกโปง่ พ๊องพอง โตโ๊ ต”
ควิ อำรโ์ ค้ดโครงงำน