The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือป้องกันการแพร่ระบาดโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by I ' Toey Sittipong Traivong, 2020-04-08 01:30:03

คู่มือป้องกันการแพร่ระบาดโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค

คู่มือป้องกันการแพร่ระบาดโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค

คมู่ อื มาตรการ และแนวทางการเฝา้ ระวัง ป้องกนั ควบคุม และ
แก้ไขสถานการณโ์ รคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

ของโรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค

งานอนามยั กลมุ่ งานบรหิ ารงานท่วั ไป

สานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาชลบุรี เขต ๑
สานักคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ

อา้ งอิงจาก : คมู่ อื คำแนะนำกำรป้องกนั ควบคมุ โรคไวรสั โคโรนำ สำยพนั ธใุ์ หม่ 2019 สำหรับสถำนศกึ ษำ สถำนกำรณ์กำระบำดใน
วงกว้ำง ระยะเรม่ิ ต้นของกรมควบคุมโรค กระทรวงสำธำรณสขุ

: ค่มู อื มำตรกำรและแนวทำงในกำรดูแล ด้ำนอนำมัยส่ิงแวดลอ้ ม ในสถำนกำรณก์ ำรระบำดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนำ
2019 (COVID-19) ของกรมอนำมัย กระทรวงสำธำรณสุข



คานา

โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ 2019 หรอื โรคโควดิ 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) มี
กำรระบำดในวงกว้ำง โดยเมื่อวันที่ 30 มกรำคม 2563 ทำงองค์กำรอนำมัยโลกได้ประเมนิ สถำนกำรณ์ และ
ประกำศใหโ้ รค COVID-19 เปน็ ภำวะฉกุ เฉินทำงสำธำรณสขุ ระหวำ่ งประเทศ (Public Health Emergency
of International Concern) โดยแนะนำใหท้ ุกประเทศเร่งรัดกำรเฝำ้ ระวังและป้องกันควำมเสีย่ งจำกเช้อื
COVID-19 สำหรบั ประเทศไทยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพ่ิมจำนวนมำกขนึ้ อย่ำงต่อเน่อื งเชน่ กนั ดังนั้น เพ่ือลด
ควำมเสย่ี งของประชำชนทุกคนตอ่ กำรสัมผัสเชื้อโรค และปอ้ งกันไม่ใหป้ ระชำชนไดร้ บั ผลกระทบตอ่ สุขภำพ
ตอ้ งให้ควำมสำคัญตงั้ แต่กำรรักษำสขุ วิทยำสว่ นบุคคลของประชำชน โดยเฉพำะในประชำชนกลุ่มเส่ียง ทั้ง
ผูส้ งู อำยุ และผทู้ ่มี โี รคประจำตวั และกำรจัดกำรด้ำนอนำมยั สงิ่ แวดลอ้ มอย่ำงถูกสขุ ลักษณะ และเหมำะสมใน
ทุกพ้นื ที่ โดยเฉพำะพ้นื ท่ีสำธำรณะ

ดังนั้น กำรจัดกำรด้ำนอนำมยั ส่ิงแวดล้อม กรณสี ถำนกำรณ์โรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-
19) เป็นภำรกิจหลักเชิงยทุ ธศำสตรท์ ี่สำคัญของกระทรวงสำธำรณสุข ทำงกรมอนำมัย จึงไดจ้ ัดทำคู่มอื
มำตรกำรและแนวทำงในกำรดแู ลด้ำนอนำมัยสิ่งแวดล้อม ในสถำนกำรณ์กำรระบำดของโรคติดเชอ้ื โคโรน่ำ
2019 (COVID 19) ใช้เปน็ แนวทำงในกำรดำเนนิ งำนในภำรกิจดำ้ นอนำมยั สิง่ แวดล้อมอยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ
โดยแบง่ เปน็ กำรจัดกำรด้ำนอนำมัยสงิ่ แวดล้อม สำหรบั สถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั และโรงเรยี น และกฎหมำยอน่ื
ท่เี กีย่ วข้อง โดยเน้นกำรควบคมุ เก่ยี วกบั สุขลักษณะ กำรทำควำมสะอำดจดุ เส่ียง พนื้ ท่ีส่วนรวม กำรจดั กำรสว้ ม
กำรจดั กำรขยะมูลฝอย กำรระบำยอำกำศ และมีคำแนะนำแก่ผเู้ กย่ี วข้อง ผปู้ ฏิบัติงำน และผใู้ ชบ้ ริกำร รวมทง้ั
คำแนะนำในกำรปฏิบัติตนดำ้ นสุขวิทยำสว่ นบุคคลสำหรับประชำชน

ทัง้ น้ี เน้ือหำในคมู่ อื ฯ ฉบับนี้ จะมกี ำรปรบั ปรงุ แก้ไขเปน็ ระยะ เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกับสถำนกำรณ์ ท่ี
เปลีย่ นแปลงในระยะต่อไป

งำนอนำมยั
20 มนี ำคม 2563



สารบญั

คำนำ ............................................................................................................................................................. ก
สำรบญั .......................................................................................................................................................... ข
บทที่ 1 บทนำ ............................................................................................................................................... ๑
บทที่ 2 แนวทำงกำรจดั กำรด้ำนอนำมัยสิง่ แวดลอ้ ม กรณี สถำนกำรณ์โรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 ....... ๔
ส่วนที่ 1 กฎหมำยที่เกย่ี วข้อง ........................................................................................................................ ๕
ส่วนที่ 2 คำแนะนำกำรจัดกำรดำ้ นอนำมัยส่งิ แวดลอ้ ม สำหรับสถำนที่สำธำรณะ ........................................1๒

๒.๑ คำแนะนำกำรป้องกันตนเองและกำรปฏบิ ตั ดิ ้ำนสุขอนำมัยเบ้ืองต้นในสถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวยั
และโรงเรียน เป็นรำยกรณี.......................................................................................................๑๓

2.๒ คำแนะนำกำรปอ้ งกันตนเองและกำรปฏิบัติดำ้ นสขุ อนำมยั ในสถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวยั .............1๔
2.๓ คำแนะนำกำรปอ้ งกันตนเองและกำรปฏิบตั ดิ ้ำนสุขอนำมัยในโรงเรียน.....................................1๖
ส่วนท่ี 3 คำแนะนำในกำรปฏบิ ัตติ นดำ้ นสุขวิทยำส่วนบุคคล สำหรบั ประชำชน .......................................... ๒๐
3.1 แนวทำงกำรปฏบิ ัตดิ ้ำนสุขวิทยำสว่ นบคุ คล...............................................................................๒๑
3.2 คำแนะนำในกำรปฏบิ ัตติ น “กินร้อน ช้อนกลำง ลำ้ งมือ”.........................................................๒๑
3.3 คำแนะนำวธิ กี ำจดั หน้ำกำกอนำมัยใชแ้ ล้ว.................................................................................๒๒
ส่วนที่ 4 คำแนะนำในกำรทำควำมสะอำด ทำลำยและฆำ่ เชอ้ื โรค ในสถำนกำรณก์ ำรระบำดของโรคตดิ เช้อื
ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ............................................................................................................... ๒๓



บทที่ 1
บทนา

2

บทที่ 1
บทนา

1. ความสาคญั

โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVOD-19) เร่ิมมกี ำรระบำดต้งั แตเ่ ดือนธันวำคม 2562 เป้นตน้
มำ โดยเร่ิมท่ีมณฑลหูเปย่ สำธำรณรัฐประชำชนจีน และแพร่ระบำดไปหลำยประเทศทั่วโลก ซงึ่ ปัจจุบนั มี

ผ้ปู ว่ ยยืนยันมำกกวำ่ 226,302 รำย และเสียชีวิต 9,285 รำย (ข้อมูล ณ วนั ท่ี 20 มนี ำคม 2563) โดย
ติดตอ่ ผ่ำนทำงกำรไอ จำม กำรสมั ผสั โดยตรงกบั สำรคดั หลงั่ ของคนหรือสัตว์ที่อำจเป็นแหลง่ รังโรค โดย
องคก์ ำรอนำมยั โลกได้ประเมนิ สถำนกำรณ์ และเห็นวำ่ กำรระบำดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนำ 2019

แพรก่ ระจำยไดอ้ ยำ่ งรวดเรว็ จนน่ำกงั วล ในวันที่ 30 มกรำคม 2563 องค์กำรอนำมยั โลกจงึ ได้ประกำศให้โรค
ติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 เป็นภำวะฉุกเฉินทำงสำธำรณสุขระหว่ำงประเทศ (Public Health Emergency

of International Concern) และแนะนำทุกประเทศให้เร่งรดั กำรเฝ้ำระวัง ป้องกัน และควบคมุ โรค
สำหรบั ประเทศไทยมแี นวโนม้ พบผูป้ ่วยเพ่ิมจำนวนมำกข้นึ อย่ำงต่อเนอื่ งเชน่ กัน ดังนัน้ เพ่ือลดควำม

เสย่ี งของประชำชนทุกคนต่อกำรสัมผสั เชื้อโรค และปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ประชำชนไดร้ ับผลกระทบตอ่ สุขภำพ กำร

จดั กำรดำ้ นอนำมัยส่ิงแวดลอ้ มอยำ่ งถูกสุขลกั ษณะและเหมำะสมในสถำนทต่ี ำ่ ง ๆ และกำรรกั ษำสุขวิทยำสว่ น
บคุ คลของประชำชน โดยเฉพำะในประชำชนกลมุ่ เสยี่ งจงึ มคี วำมสำคญั อยำ่ งยิง่

กำรจัดกำรดำ้ นอนำมัยสงิ่ แวดล้อม จะให้ควำมสำคญั กับกำรจดั กำรเพื่อปอ้ งกันไม่ใหเ้ ชอ้ื โรคเข้ำสู่
รำ่ งกำย ซึ่งผำ่ นชอ่ งทำงตำ่ ง ๆ ดังทไ่ี ดก้ ลำ่ วมำขำ้ งตน้ ซึง่ ในสถำนกำรณก์ ำรระบำดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนำ่
2019 (CoVID-19) จำเปน็ อยำ่ งยง่ิ ที่ตอ้ งมีกำรจัดกำรดำ้ นอนำมยั ส่งิ แวดล้อมในสถำนท่ีสำธำรณะ เนือ่ งจำก

เปน็ พืน้ ทท่ี ีม่ กี ำรรวมตวั ของคนจำนวนมำก มจี ดุ สัมผัสร่วมทอ่ี ำจจะทำให้เกิดกำรแพร่ระบำดของเชื้อโรคได้ง่ำย
โดยเนน้ กำรควบคุมเกย่ี วกบั สขุ ลักษณะ กำรทำควำมสะอำดจุดเสี่ยง พ้นื ทีส่ ว่ นรวม กำรจัดกำรสว้ ม กำรจัดกำร

ขยะมลู ฝอย กำรระบำยอำกำศ และสุขวิทยำส่วนบคุ คลของผปู้ ฏบิ ัตงิ ำน และผ้ใู ชบ้ ริกำร โดยสถำนท่สี ำธำรณะ
ทสี่ ำคญั ได้แก่ สถำนทร่ี ำชกำร สถำนที่ทำงำนเอกชน สถำนประกอบกิจกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำร
สำธำรณสขุ และกฎหมำยอ่ืนท่เี กย่ี วข้อง กำรขนสง่ สำธำรณะ และทพ่ี กั อำศยั ของประชำชน

นอกจำกน้ี มำตรกำรดำ้ นสุขวทิ ยำส่วนบคุ คล (Personal Hygiene) ซึ่งหมำยถงึ กำรทแี่ ต่ละบุคคล
จะตอ้ งดูแลร่ำงกำยของตนเองให้สะอำดต้ังแตศ่ ีรษะจรดเทำ้ ตลอดจนสภำพแวดล้อมตำ่ ง ๆ รอบตัวใหส้ ะอำด

นบั เป็นมำตรกำรท่ีสำคัญอยำ่ งยิ่งท่ีแต่ละบคุ คลต้องช่วยกนั ดแู ล โดยเฉพำะ ในกำรดแู ลตนเองให้ปลอดภยั จำก
เช้ือโรค โดยกำรรักษำควำมสะอำดของมือและร่ำงกำย มำตรกำรนีน้ ับว่ำเป็นเกรำะในกำรป้องกนั เชอื้ โรคเขำ้ สู่
รำ่ งกำยและป้องกันกำรแพรก่ ระจำยของเชือ้ โรคไปส่คู นอื่นที่ง่ำย ทำได้ทกุ คนและมปี ระสทิ ธภิ ำพมำกทีส่ ุด

ดังนัน้ งำนอนมัยของโรงเรียนบำ้ นปำกคลองโรงนำคจึงเลง็ เหน็ ถงึ ควำมสำคัญในกำรเฝ้ำระวัง ปอ้ งกนั
และกำรแกไ้ ขสถำนกำรณก์ ำรแพร่ระบำดโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรน่ำ ๒๐๑๙ (CoVID-19) ภำยในสถำนศึกษำ

เพื่อใหค้ วำมรู้ และสรำ้ งควำมเข้ำใจกับบคุ ลำกรภำยในสถำนศกึ ษำ นักเรียน ผ้ปู กครอง และผู้ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั
โรงเรียน จงึ ได้จัดทำค่มู ือมำตรกำร และแนวทำงกำรเฝำ้ ระวัง ป้องกัน ควบคุม และแก้ไขสถำนกำรณโ์ รคตดิ
เชือ้ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ของโรงเรียนบำ้ นปำกคลองโรงนำค โดยยดึ แนวทำงของกรมอนำมัย

และกรมควบคมุ โรค กระทรวงสำธำรณสุข

3

2. องค์ประกอบของคมู่ อื

คู่มือมำตรกำรและแนวทำงในกำรดแู ล ด้ำนอนำมัยสงิ่ แวดลอ้ ม ในสถำนกำรณ์กำรระบำดของโรคติด
เช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ของโรงเรยี นบ้ำนปำกคลองโรงนำค สำหรบั ผ้บู ริหำร คณะครู นักเรยี น
และผปู้ กครอง มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ผบู้ ริหำร คณะครู นกั เรียน และผ้ปู กครองใชเ้ ปน็ แนวทำงกำรในกำร
จัดกำรด้ำนอนำมยั ส่งิ แวดล้อมในสถำนทีต่ ่ำง ๆ โดยอ้ำงองิ จำกหลกั วิชำกำรขององคก์ ำรอนำมยั โลกและ
บทบำท ภำรกิจด้ำนอนำมัยสิ่งแวดลอ้ มของผบู้ ริหำร คณะครู นักเรียน และผู้ปกครอง ประกอบดว้ ย

1. สว่ นท่ี 1 กฎหมำยทเี่ กย่ี วขอ้ ง
2. สว่ นท่ี 2 คำแนะนำในกำรดำเนนิ งำนด้ำนอนำมยั สง่ิ แวดลอ้ ม

๒.๑ คำแนะนำกำรปอ้ งกนั ตนเองและกำรปฏิบตั ดิ ำ้ นสุขอนำมยั เบื้องต้นในสถำนพัฒนำเดก็
ปฐมวัยและโรงเรยี น เป็นรำยกรณ๊

๒.๒ คำแนะนำกำรปอ้ งกนั ตนเองและกำรปฏิบตั ิด้ำนสขุ อนำมัยในสถำนพัฒนำเด็กปฐมวัย
๒.๓ คำแนะนำกำรป้องกนั ตนเองและกำรปฏิบตั ิด้ำนสุขอนำมยั ในโรงเรียน
3. ส่วนท่ี 3 คำแนะนำในกำรปฏบิ ตั ติ นด้ำนสุขวิทยำส่วนบุคคล สำหรับประชำชน+
4. คำแนะนำในกำรทำควำมสะอำด ทำลำยและฆ่ำเช้ือโรค ในสถำนกำรณก์ ำรระบำดของโรคติดเชือ้
ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID - 19)

4

บทท่ี 2
แนวทางการจดั การด้านอนามัยส่ิงแวดลอ้ ม
กรณี สถานการณโ์ รคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019

โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค

ตามคู่มือมาตรการและแนวทางในการดแู ล ดา้ นอนามัยส่งิ แวดลอ้ ม ใน
สถานการณ์การระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ
ฉบับ 20 มีนาคม 2563

5

ส่วนที่ 1
กฎหมายท่เี กี่ยวขอ้ ง

6

7

8

9

10

11

12

ส่วนที่ ๒
คาแนะนาการจดั การดา้ นอนามยั ส่ิงแวดลอ้ ม
กรณีสถานการณโ์ รคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
สาหรับสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั และโรงเรียน

13

2.๑ คาแนะนาการปอ้ งกนั ตนเองและการปฏบิ ัตดิ า้ นสุขอนามยั เบื้องตน้ ในสถานพฒั นาเดก็
ปฐมวัย และโรงเรยี น เปน็ กรณี

- คาแนะนาเมอื่ ยงั ไมม่ ีการระบาด
1. ให้ควำมร้หู รือจดั หำสื่อประชำสัมพันธ์ไวใ้ นสถำนศึกษำ เชน่ โปสเตอร์ สอนอบรมกำรล้ำงมือทีถ่ ูกวธิ ี
และกำรสวมหน้ำกำกอนำมัย เปน็ ต้น
2. กำหนดใหม้ ีเจ้ำหน้ำทีห่ รือครูอนำมัย เพอ่ื ประสำนงำนกับเจ้ำหน้ำท่ีสำธำรณสุขในพืน้ ท่ี และให้บรกิ ำร
ในหอ้ งพยำบำล พร้อมทัง้ จดั ทำบันทกึ ขอ้ มลู กำรป่วยของนักเรียน/นักศกึ ษำ
3. หำกพบว่ำมีนกั เรียน/นักศึกษำปว่ ยหรือขำดเรียนจำนวนมำกผดิ ปกติ ให้แจ้งเจำ้ หนำ้ ที่สำธำรณสุขใน
พ้นื ทีท่ ี่รบั ผดิ ชอบ เพ่ือสอบสวนหำสำเหตุ
4. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียน/นักศกึ ษำมขี องใช้สว่ นตวั ท่ีจำเปน็ เชน่ แก้วนำ้ อุปกรณร์ ับประทำนอำหำร
ผ้ำเช็ดหน้ำ อื่น ๆ
5. จัดให้มอี ุปกรณส์ ำหรบั กำรลำ้ งมือ หรอื จัดเตรียมแอลกอฮอลเ์ จลอย่ำงเพยี งพอ เช่น ในหอ้ งเรยี น ในโรง
อำหำร ในโรงยมิ เปน็ ต้น
6. จัดเตรยี มหอ้ งพยำบำลสำหรับแยกนกั เรยี นทมี่ กี ำรทำงเดนิ หำยใจออกจำกนักเรียนทมี่ ีอำกำรป่วยอืน่ ๆ

- คาแนะนาเมื่อมีการระบาด
1. จดั ใหม้ กี ำรคดั กรองอำกำรไข้ ไอ น้ำมูก บริเวณทำงเข้ำประตสู ถำนศกึ ษำทุกเช้ำ เพอื่ แยกผมู้ อี ำกำรไป
ยังสถำนท่ีทีจ่ ัดเตรียมไว้
2. ทำควำมเขำ้ ใจกบั ผู้ปกครองนักเรียน/นักศึกษำในเรอ่ื งกำรดูแลผ้ปู ว่ ยขณะปว่ ยท่ีบำ้ น และที่สถำนศึกษำ
3. กำรพิจำรณำปดิ สถำนศกึ ษำ หำกพบผู้ป่วยจำนวนมำก เชน่ หลำยหอ้ งเรยี น หลำยชั้นเรยี น กรณีเป็น
โรงเรยี นประจำ ใหน้ ักเรียน/นกั ศึกษำอยแู่ ตบ่ ริเวณหอพัก หำกเป็นโรงเรียนไปกลับ ให้เนน้ ยำ้ กำรอยกู่ ับบำ้ น
ไม่ออกไปในที่ชมุ นมุ ชน
4. ควรมีกำรทำควำมสะอำดพน้ื ท่ีที่นกั เรียน/นกั ศึกษำใช้ร่วมกัน เช่น หอ้ งคอมพิวเตอร์ ห้องดนตรี ลิฟต์
อปุ กรณก์ ฬี ำ ของเด็กเล่น ดว้ ยน้ำหรอื เช็ดดว้ ย 70% แอลกอฮอล์ สำมำรถทำลำยเช้อื ไวรสั ได้ อย่ำงน้อยวนั ละ
1 ครัง้
5. จัดใหม้ ีอุปกรณ์สำหรบั กำรลำ้ งมอื หรอื จัดเตรียมแอลกอฮอล์เจลอยำ่ งเพียงพอ เช่น ภำยในห้องเรยี น
ในโรงอำหำร ในโรงยิม เป็นต้น
6. จดั เตรยี มหอ้ งพยำบำลสำหรับแยกนักเรียน/นกั ศึกษำท่ีมีกำรทำงเดินหำยใจออกจำกนักเรียน/นกั ศกึ ษำ
ที่มีอำกำรป่วยอ่นื ๆ
7. จัดระบบสอื่ สำร ทำควำมเข้ำใจ กำรดำเนินงำน ควบคุมกำรระบำดกบั ผู้ปกครอง
8. กรณสี ถำนศึกษำที่มีรถรับ-ส่ง ให้ดำเนนิ กำรทำควำมสะอำดยำนพำหนะบรเิ วณที่สมั ผัสกับผ้โู ดยสำร
เช่น รำวจบั กลอนประตู เบำะนงั่ ท่เี ทำ้ แขน ด้วยน้ำผสมผงซกั ฟอกหรอื นำ้ ยำทำควำมสะอำด และ 70%
แอลกอฮอล์ สำมำรถทำลำยเชอื้ ไวรัสได้

14

2.๒ คาแนะนาการปอ้ งกนั ตนเองและการปฏบิ ัตดิ ้านสขุ อนามัยในสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย

สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นสถำนทซี่ ่ึงมีเดก็ ครหู รือผดู้ ูแลเด็ก ผู้ปกครอง เจ้ำหนำ้ ท่ี และผู้ปฏบิ ัตงิ ำน
จำนวนมำกอยู่รวมกัน ทำให้มีโอกำสเส่ียงต่อกำรแพร่กระจำยของเชื้อโรคได้ง่ำย ดังน้ันควรมีกำรดูแลเพื่อ
ป้องกันและลดกำรแพร่กระจำยของเชื้อโรคในบริเวณพื้นท่ีต่ำง ๆ ของสถำนพัฒนำเด็กปฐมวัย รวมทั้งให้
คำแนะนำแก่ผบู้ รหิ ำร เจ้ำของสถำนพฒั นำเด็กปฐมวัย ครหู รือผดู้ แู ลเดก็ ผ้ปู กครอง เจำ้ หนำ้ ท่ี และผู้ปฏิบัตงิ ำน
รว่ มกนั ดำเนินกำรเพอ่ื ปอ้ งกนั ตนเองและลดควำมเสย่ี งในกำรสมั ผสั โรค ดงั นี้

1. คาแนะนาสาหรับผบู้ รหิ าร เจ้าของสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย
1) แจง้ ผู้ปกครองท่มี ีบตุ รหลำนมีอำกำรเจบ็ ป่วย เช่น มไี ข้ ไอ จำม มีนำ้ มกู หรอื เหน่อื ยหอบ หรือกลบั
จำกพืน้ ทีเ่ ส่ยี งและอยู่ในชว่ งกักกนั ใหห้ ยุดเรียน รวมทง้ั ขอควำมร่วมมือกรณีที่มีคนในครอบครัวป่วย ดว้ ยโรค
ติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 หรือกลับจำกพ้ืนท่ีเสี่ยงและอยู่ในช่วงกักกัน ให้ปฏิบัติตัวตำมคำแนะนำของ
เจำ้ หน้ำทส่ี ำธำรณสขุ อย่ำงเครง่ ครัด
2) จัดให้มีกำรคัดกรองเด็กบริเวณทำงเข้ำสถำนพัฒนำเด็กปฐมวัย ด้วยกำรดูจำกอำกำรในเบื้องต้น
หรือใช้เคร่ืองวดั อณุ หภูมริ ่ำงกำย พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ล้ำงมือ เช่น เจลแอลกอฮอล์ไว้บริเวณทำงเข้ำสถำน
พัฒนำเด็กปฐมวัย และหำกพบว่ำมเี ด็กป่วย หรอื มไี ข้ ไอ จำม มีนำ้ มูก หรอื เหนือ่ ยหอบ ให้ผปู้ กครองพำไปพบ
แพทย์
3) กรณีทีม่ ีครู เจำ้ หนำ้ ท่ี ผูป้ ฏบิ ตั งิ ำนในสถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวัย ผปู้ กครอง เด็กเล็ก กลบั มำจำกพื้นท่ี
เส่ียงในระยะเวลำไม่เกิน 14 วัน เข้ำมำในสถำนพัฒนำเด็กปฐมวัย ควรพิจำรณำปิดสถำนพัฒนำ เด็กปฐมวัย
ตำมควำมเหมำะสม เพ่ือทำควำมสะอำดส่ิงของ เคร่ืองใช้ ของเล่น อำคำรสถำนท่ี ทั้งภำยในและภำยนอก
อำคำรทันที
4) จัดใหม้ กี ำรดูแลอำคำรสถำนท่ีและยำนพำหนะ ดังนี้

- บรเิ วณทใ่ี ช้บรกิ ำรร่วมกัน ไดแ้ ก่ ห้องเรียน สถำนท่สี ำหรับรับประทำนอำหำร หอ้ งนอน หอ้ ง
เด็กเล่นให้ทำควำมสะอำดด้วยน้ำผสมผงซักฟอกหรือนำ้ ยำทำควำมสะอำดท่ัวไป ท้ังน้ี ให้ใช้
ตำมคำแนะนำของผลิตภัณฑ์น้ัน รวมท้ังให้เปิดประตู หน้ำต่ำง เพ่ือระบำยอำกำศ หำกมี
เครอื่ งปรบั อำกำศให้ทำควำมสะอำดระบบระบำยอำกำศอยำ่ งสม่ำเสมอ

- ทำควำมสะอำดจุดสัมผัสเส่ียงในสถำนพัฒนำเด็กปฐมวัย เช่น เคร่ืองเล่นในสนำมเด็กเล่น
ลูกบิดประตู รำวบันได ห้องน้ำ เป็นต้น ด้วยน้ำยำทำควำมสะอำดท่ัวไป สำหรับส่ิงของ
เครื่องใช้ ของเล่นท่ีสัมผัสกับปำกเด็กให้ทำควำมสะอำดด้วยน้ำผสมผงซักฟอก ล้ำงด้วยน้ำ
สะอำด นำไปผ่ึงแดดให้แหง้

- กรณีท่ีมีรถรับ-ส่งเด็ก ก่อนและหลังให้บริกำรในแต่ละรอบ ให้เปิดหน้ำต่ำงและประตูเพ่ือ
ถ่ำยเท ระบำยอำกำศภำยในรถออก และทำควำมสะอำดในจุดทม่ี ีกำรสัมผัสบ่อย ไดแ้ ก่ รำว
จบั ท่ีเปิดประตู เบำะนง่ั ท่เี ท้ำแขน ดว้ ยน้ำผสมผงซักฟอกหรอื น้ำยำทำควำมสะอำดทวั่ ไป

5) จดั ให้มกี ำรดแู ลผู้สมั ผสั อำหำร สถำนทปี่ รุงประกอบอำหำร สถำนทรี่ บั ประทำนอำหำร ดงั น้ี
- หำกผู้สมั ผัสอำหำรมีอำกำรเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จำม มีนำ้ มูก หรือเหนือ่ ยหอบ ให้หยุดงำน
และพบแพทย์ทันที
- ในขณะปฏิบัติงำนผู้สัมผัสอำหำรต้องสวมหมวกคลุมผม ผ้ำกันเป้ือน หน้ำกำกผ้ำ และถุงมือ
และมีกำรปฏบิ ัตติ นตำมหลักสขุ ำภิบำล

15

- ล้ำงมืออย่ำงสมำ่ เสมอด้วยสบู่และน้ำก่อนหยิบหรือจับอำหำรและหลังกำรใช้ส้วม ไม่ไอ จำม
รดอำหำร

- ปกปิดอำหำร ใช้ถุงมือและปำกคีบหยิบจับอำหำร ห้ำมใช้มือหยิบจับอำหำรที่พร้อม
รบั ประทำนโดยตรง และจดั ให้มีชอ้ นกลำงเมื่อเสริ ์ฟอำหำรทีต่ ้องรับประทำนร่วมกนั

- ทำควำมสะอำดจุดเส่ียง เช่น ห้องครัว อุปกรณ์ปรุงประกอบอำหำร โต๊ะ เก้ำอี้ ด้วยน้ำยำทำ
ควำมสะอำดทัว่ ไป รวมถงึ ล้ำงภำชนะอปุ กรณ์หรือส่งิ ของเครอื่ งใช้ให้สะอำดเปน็ ประจำทุกวัน

- จัดเตรยี มอำหำรท่ปี รงุ สุกใหม่ให้เดก็ รับประทำน ภำยในเวลำ 2 ชั่วโมง หำกเกนิ เวลำดังกล่ำว
ให้นำอำหำรไปอุ่นจนเดือดและนำมำเสิร์ฟใหม่

6) จดั ใหม้ กี ำรดแู ลหอ้ งสว้ ม ดงั น้ี
- ทำควำมสะอำดบริเวณที่มีกำรสัมผัสบ่อย ๆ อย่ำงน้อยวันละ 2 คร้ัง ได้แก่ พ้ืนห้องส้วม โถ
ส้วม ท่ีกดชักโครกหรือโถปัสสำวะ สำยฉีดชำระ กลอนหรือลูกบิดประตู ฝำรองนั่ง ฝำปิดชัก
โครก กอ๊ กนำ้ อ่ำงลำ้ งมอื ด้วยนำ้ ยำทำควำมสะอำดทัว่ ไป
- ซกั ผำ้ สำหรบั เช็ดทำควำมสะอำดและไมถ้ ูพืน้ ด้วยนำ้ ผสมผงซกั ฟอกหรอื นำ้ ยำฆำ่ เชือ้ แล้วซัก
ด้วยนำ้ สะอำดอกี ครัง้ และนำไปผ่ึงตำกแดดใหแ้ หง้

7) ควบคุมดูแลครู เจ้ำหนำ้ ที่ และผปู้ ฏบิ ตั ิงำนในสถำนพัฒนำเดก็ ปฐมวยั ดังน้ี
- กรณีผู้ปฏิบัติงำนมีอำกำรเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จำม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ให้หยุด
ปฏบิ ตั งิ ำน แจ้งหัวหนำ้ งำน และพบแพทยท์ ันที หรอื หำกเคยไปในประเทศเสี่ยงตำมประกำศ
กระทรวงสำธำรณสุข หรืออยู่ในช่วงกักกัน ให้ปฏิบัติตัวตำมคำแนะนำของเจ้ำหน้ำท่ี
สำธำรณสขุ อยำ่ งเครง่ ครดั
- ผ้ปู ฏบิ ตั งิ ำนท่ีมีควำมเส่ียงต่อกำรได้รบั เช้อื โรค ตอ้ งมกี ำรป้องกนั ตนเอง และทำควำมสะอำด
มือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ หลีกเล่ียงกำรใช้มือสัมผัสใบหน้ำ ตำ ปำก
จมกู โดยไม่จำเปน็
- ผู้ปฏิบัติงำนที่ดูแลควำมสะอำดและผู้ปฏิบัติงำนเก็บขยะ ให้สวมถุงมือยำง หน้ำกำกผ้ำ
ผ้ำยำง กันเปื้อน รองเท้ำพ้ืนยำงหุ้มแข้ง และใช้ปำกคีบด้ำมยำวเก็บขยะ และใส่ถุงขยะ ปิด
ปำกถุงให้มิดชดิ นำไปรวบรวมไวท้ ่ีพักขยะ แล้วล้ำงมือใหส้ ะอำด ทุกครั้งภำยหลังปฏิบตั ิงำน
และเมือ่ ปฏิบตั งิ ำนเสร็จในแต่ละวัน หำกเปน็ ไปไดค้ วรอำบนำ้ และเปล่ียนเส้ือผ้ำทันที

2. คาแนะนาสาหรบั ครู ผดู้ ูแลเดก็
1) หำกครู ผดู้ ูแลเดก็ มีอำกำรเจ็บป่วย เช่น มไี ข้ ไอ จำม มนี ้ำมูก หรอื เหน่ือยหอบ หรอื กลับจำกพื้นท่ี
เสี่ยงและอยู่ในช่วงกักกัน ให้หยุดปฏิบัติงำน กรณีมีคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019
หรอื กลับจำกพ้นื ทเี่ สี่ยงและอย่ใู นชว่ งกกั กัน ใหป้ ฏิบัติตำมคำแนะนำของเจำ้ หน้ำท่ีสำธำรณสขุ อยำ่ งเคร่งครดั
2) ส่งเสริมให้เด็ก ครูหรือผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง เจ้ำหน้ำท่ี และผู้ปฏิบัติงำน ทุกคนล้ำงมืออย่ำงถูกวิธี
ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอลล์ ทุกคร้ังก่อนรับประทำนอำหำร หลังใช้ส้วม และหลังเล่นกับเพ่ือน
รวมทง้ั หลีกเลย่ี งกำรใช้มอื สัมผสั ใบหนำ้ ตำ ปำก จมกู โดยไมจ่ ำเป็น
3) หลีกเลีย่ งกำรพำเด็กไปในสถำนทแ่ี ออดั หรอื สถำนที่ทม่ี กี ำรรวมกนั ของคนจำนวนมำก
4) สอนเดก็ ไม่ใหใ้ ชข้ องใชส้ ่วนตวั รว่ มกับผอู้ ืน่ และส่งเสรมิ ให้เด็กมีของใช้ส่วนตัว เช่น แกว้ นำ้ แปรงสี
ฟัน อุปกรณร์ ับประทำนอำหำร ผ้ำเชด็ หน้ำ เป็นตน้
5) ดูแลใหเ้ ดก็ รับประทำนอำหำรทีส่ ะอำด ปรุงสุกใหม่

16

6) มีกำรให้ควำมรู้ คำแนะนำ หรือจัดหำสื่อประชำสัมพันธ์กำรป้องกันและลดควำมเส่ียงจำกกำร
แพรก่ ระจำยเชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 ให้แก่เจำ้ หน้ำท่ี บคุ ลำกร และเด็ก เช่น สอนวธิ กี ำรลำ้ งมือที่ถกู ต้อง กำร
ใส่หนำ้ กำกป้องกนั คำแนะนำในกำรปฏบิ ัติตวั เป็นต้น

3. คาแนะนาสาหรบั ผปู้ กครองในการดแู ลบุตรหลาน
1) หำกบุตรหลำนมีอำกำรเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จำม มีน้ำมูก หรือเหน่ือยหอบ หรือกลับจำกพ้ืนท่ี
เส่ียงและอยู่ในช่วงกักกัน ให้หยุดเรียน กรณีมีคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 หรือ
กลับจำกพ้นื ที่เสย่ี งและอยู่ในช่วงกักกัน ให้ปฏิบัติตวั ตำมคำแนะนำของเจำ้ หน้ำทีส่ ำธำรณสุขอยำ่ งเครง่ ครัด
2) ให้สมำชิกในครอบครัวล้ำงมือด้วยสบู่และน้ำ ก่อนรับประทำนอำหำร หลังใช้ส้วม และหลีกเล่ียง
กำรใชม้ อื สมั ผัสใบหน้ำ ตำ ปำก จมูก โดยไมจ่ ำเป็น และสร้ำงสขุ นสิ ัยใหบ้ ุตรหลำนอำบน้ำ หลังกลบั จำกสถำน
พฒั นำเดก็ ปฐมวัย และหลังเลน่ กับเพอื่ น
3) หมัน่ ทำควำมสะอำดเครอื่ งเล่น ของเล่น ดว้ ยน้ำยำทำควำมสะอำดทวั่ ไป
4) ไม่พำบตุ รหลำนไปในสถำนทแ่ี ออัดหรอื สถำนทีท่ ม่ี ีกำรรวมกันของคนจำนวนมำก
5) จัดเตรียมอำหำรท่ีปรุงสุกใหม่ ส่งเสริมให้บุตรหลำนกินผัก ผลไม้ 5 สี เสริมสร้ำงภูมิคุ้มกัน ออก
กำลังกำยทุกวนั และนอนหลับให้เพียงพอ 9-11 ชัว่ โมง/วัน

2.๓ คาแนะนาการปอ้ งกนั ตนเองและการปฏบิ ัตดิ า้ นสขุ อนามยั ในโรงเรยี น

โรงเรียนเป็นสถำนท่ีซ่ึงมีนักเรียน ครู ผู้ดูแลนักเรียน ผู้ปกครอง เจ้ำหน้ำท่ี และผู้ปฏิบัติงำน จำนวน
มำกอยูร่ วมกนั และมโี อกำสเสย่ี งตอ่ กำรแพร่กระจำยของเช้อื โรคไดง้ ำ่ ย ดังนน้ั ควรมกี ำรดูแล เพอ่ื ป้องกันและ
ลดกำรแพร่กระจำยของเช้ือโรคในบริเวณพื้นท่ีต่ำง ๆ รวมท้ังให้คำแนะนำแก่ผู้บริหำร เจ้ำของโรงเรียน
นักเรียน ครู ผู้ดูแลนักเรียน ผู้ปกครอง เจ้ำหน้ำท่ี และผู้ปฏิบัติงำน ร่วมกันดำเนินกำร เพื่อป้องกันตนเองและ
ลดควำมเสี่ยงในกำรสัมผสั โรค ดงั นี้

1. คาแนะนาสาหรับผบู้ รหิ าร เจ้าของโรงเรียน

1) แจ้งผู้ปกครองที่มีบุตรหลำนมีอำกำรเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จำม มีน้ำมูก หำยใจเหน่ือยหอบ หรือ
กลบั จำกพ้นื ทเี่ ส่ียงและอยู่ในช่วงกักกนั ให้หยดุ เรยี น รวมท้งั ขอควำมรว่ มมือกรณที ี่มี คนในครอบครวั ปว่ ยด้วย
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือกลับจำกพื้นท่ีเสี่ยงและอยู่ในช่วงกักกัน ให้ปฏิบัติตัวตำมคำแนะนำของ
เจำ้ หนำ้ ท่สี ำธำรณสุขอย่ำงเครง่ ครัด

2) จัดให้มีกำรคัดกรองนักเรียนบริเวณทำงเข้ำโรงเรียน ด้วยกำรดูจำกอำกำรในเบ้ืองต้นหรือใช้
เครื่องวดั อุณหภมู ริ ่ำงกำย พร้อมทำสญั ลกั ษณน์ ักเรยี นที่ผ่ำนกำรคัดกรอง เช่น ตดิ สต๊กิ เกอร์ ตรำปมั๊ หรืออ่ืนๆ
ตำมควำมเหมำะสม พร้อมจดั เตรยี มอปุ กรณ์ล้ำงมือ เชน่ เจลแอลกอฮอล์ไว้บริเวณทำงเข้ำประตโู รงเรียน และ
สบู่สำหรับล้ำงมือตำมอ่ำงล้ำงมือ หำกพบว่ำมีนักเรียนป่วย หรือมีอำกำรไข้ ไอ จำม มีน้ำมูก หำยใจเหน่ือย
หอบ ให้ครูแยกนักเรียนออกมำห้องที่มีอำกำศถ่ำยเทสะดวก ระหว่ำงรอผู้ปกครองมำรับกลับหรือส่งต่อ เพื่อ
เขำ้ รบั กำรตรวจรักษำ และแจ้งผปู้ กครอง เพอ่ื พำไปพบแพทย์

17

3) กรณีที่มีนักเรียน ครู ผู้ดูแลนักเรียน ผู้ปกครอง เจ้ำหน้ำท่ี ผู้ปฏิบัติงำนกลับมำจำกพ้ืนที่เสี่ยง ใน
ระยะเวลำไม่เกนิ 14 วัน และเข้ำมำในโรงเรียน ให้ทำควำมสะอำดสิ่งของ เครื่องใช้ อำคำรสถำนที่ท้ังภำยใน
และภำยนอกอำคำรทันที อำจพิจำรณำปดิ โรงเรียนตำมควำมเหมำะสม

4) พิจำรณำกำรจัดกิจกรรมในโรงเรียนตำมควำมเหมำะสม เช่น กำรจัดกีฬำสี รับน้อง ปฐมนิเทศ
ปัจฉิมนิเทศ กิจกรรมเข้ำค่ำย กิจกรรมวันเด็ก ทัศนศึกษำ เป็นต้น หำกมีกำรรวมตัวกันของคนเกินกว่ำ 300
คนขึ้นไป ควรงดกำรจดั กจิ กรรมไปกอ่ น กำรจัดช้ันเรียน ทีน่ ั่งในโรงอำหำร ถำ้ เปน็ ไปได้ ให้มีระยะหำ่ งระหว่ำง
บคุ คล อยำ่ งน้อย 1 เมตร หรอื เหลอ่ื มเวลำในกำรพักรบั ประทำนอำหำรกลำงวนั

5) จดั ใหม้ ีกำรดูแลอำคำรสถำนทแ่ี ละยำนพำหนะ ดงั นี้
- ให้ทำควำมสะอำดหอ้ งและบริเวณท่ีมีกำรใชบ้ รกิ ำรรว่ มกนั ทุกวัน ได้แก่ หอ้ งเรยี น โรงอำหำร
ห้องประชุม โรงยิม สนำมเด็กเล่น ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องดนตรี ห้องเก็บอุปกรณ์
กีฬำ สระว่ำยน้ำ ลิฟต์ รำวบันได ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้ำอี้ พนักพิง อุปกรณ์ดนตรี กีฬำ
คอมพวิ เตอร์ ด้วยน้ำผสมผงซกั ฟอกหรอื นำ้ ยำทำควำมสะอำดทัว่ ไป ทง้ั นี้ ใหใ้ ช้ตำมคำแนะนำ
ของผลติ ภณั ฑน์ ัน้
- กรณที มี่ ีรถ รับ สง่ นกั เรียน กอ่ นและหลังให้บริกำรแตล่ ะรอบ ให้เปดิ หนำ้ ตำ่ งและประตู เพอ่ื
ถ่ำยเทระบำยอำกำศภำยในรถ และทำควำมสะอำดในจดุ ท่ีมกี ำรสัมผัสบ่อย ไดแ้ ก่ รำวจับ ที่
เปิดประตู เบำะนั่ง ที่วำงแขน ด้วยน้ำผสมผงซักฟอกหรือน้ำยำทำควำมสะอำดท่ีมีส่วนผสม
ของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยำฟอกผ้ำขำว) และปฏิบัติตำมคำแนะนำบนฉลำก (เช่น ผสม
โซเดยี มไฮโปคลอไรท์ ควำมเข้มขน้ 6% ในปรมิ ำณ 20 มลิ ลิลติ ร ตอ่ น้ำ 1 ลติ ร)
- ห้องที่มีกำรใช้งำนร่วมกัน ได้แก่ ห้องเรียน โรงอำหำร ห้องประชุม โรงยิม ห้องสมุด ห้อง
คอมพวิ เตอร์ ห้องดนตรี ห้องเกบ็ อุปกรณก์ ีฬำ ใหเ้ ปิดประตู หนำ้ ตำ่ ง เพือ่ ระบำยอำกำศ หำก
มเี คร่อื งปรบั อำกำศให้ทำควำมสะอำดอยำ่ งสม่ำเสมอ

6) จดั ใหม้ ีกำรดแู ลร้ำนอำหำร กำรจำหนำ่ ยอำหำร โรงอำหำร ดงั นี้
- หำกผู้สัมผัสอำหำรมีอำกำรเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จำม มีน้ำมูก หำยใจเหนื่อยหอบ ให้หยุด
งำนและพบแพทยท์ ันที
- ในขณะปฏิบัติงำนผู้สัมผัสอำหำรต้องสวมหมวกคลุมผม ผ้ำกันเปื้อน หน้ำกำกผ้ำ และถุงมอื
และมีกำรปฏบิ ตั ติ นตำมสุขลักษณะส่วนบคุ คลทถี่ ูกต้อง
- ล้ำงมืออย่ำงสม่ำเสมอด้วยสบู่และน้ำก่อน หลัง กำรประกอบอำหำร หยิบหรือจับสิ่งสกปรก
หลงั กำรใชส้ ว้ ม และไมไ่ อ จำมใส่อำหำร
- ปกปดิ อำหำร ใช้ถงุ มือและที่คีบหยิบจับอำหำร หำ้ มใชม้ อื หยิบจบั อำหำรท่ีพร้อมรับประทำน
โดยตรง และจัดให้แยกรบั ประทำน
- ทำควำมสะอำดโรงอำหำร ร้ำนจำหน่ำยอำหำร และจุดเสี่ยงต่ำง ๆ เช่น ห้องครัว อุปกรณ์
ปรุงประกอบอำหำร โต๊ะ เก้ำอ้ี ด้วยน้ำยำทำควำมสะอำด รวมถึงล้ำงภำชนะอุปกรณ์หรือ
สงิ่ ของเครอื่ งใช้ใหส้ ะอำดเป็นประจำทกุ วัน
- จัดเตรียมอำหำรท่ีปรุงสุกใหม่ให้นักเรียนรับประทำน ภำยในเวลำ 2 ช่ัวโมง หำกเกินเวลำ
ดังกลำ่ ว ใหน้ ำอำหำรไปอ่นุ จนเดอื ดและนำมำเสริ ์ฟใหม่

7) จดั ให้มกี ำรดแู ลหอ้ งส้วม ดังนี้
- ทำควำมสะอำดบริเวณท่ีมีกำรสัมผัสบ่อย ๆ อย่ำงน้อยวันละ 2 ครั้ง ได้แก่ พื้นห้องส้วม โถ
ส้วม ที่กดชักโครกหรือโถปัสสำวะ สำยฉีดชำระ กลอนหรือลูกบิดประตู ฝำรองนั่ง ฝำปิดชัก

18

โครก ก๊อกน้ำอ่ำงล้ำงมือ ด้วยน้ำยำทำควำมสะอำดหรือน้ำยำที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโป
คลอไรท์ (นำ้ ยำฟอกผำ้ ขำว) และปฏิบัตติ ำมคำแนะนำบนฉลำก
- ซักผ้ำสำหรบั เชด็ ทำควำมสะอำดและไม้ถูพ้ืน ดว้ ยนำ้ ผสมผงซกั ฟอกหรอื นำ้ ยำฆำ่ เชือ้ แล้วซกั
ด้วยน้ำสะอำดอกี คร้งั และนำไปผึ่งตำกแดดให้แหง้
8) ควบคุมดูแลครู เจำ้ หน้ำที่ และผูป้ ฏิบัติงำนในโรงเรียน ดังน้ี
- กรณีผู้ปฏิบัติงำนมีอำกำรเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จำม มีน้ำมูก หำยใจเหน่ือยหอบ ให้หยุด
ปฏิบัติงำน แจง้ หัวหน้ำงำน และพบแพทย์ทันที หรอื หำกเคยไปในประเทศเสย่ี งตำมประกำศ
กระทรวงสำธำรณสุข หรืออยู่ในช่วงกักกัน ให้ปฏิบัติตัวตำมคำแนะนำของเจ้ำหน้ำที่
สำธำรณสุขอยำ่ งเครง่ ครดั
- ผปู้ ฏบิ ตั ิงำนท่มี ีควำมเสี่ยงต่อกำรได้รบั เช้ือโรค ต้องมีกำรปอ้ งกันตนเอง และทำควำมสะอำด
มือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงกำรใช้มือสัมผัสใบหน้ำ ตำ ปำก
จมูก โดยไมจ่ ำเป็น
- ผู้ปฏิบัติงำนที่ดูแลควำมสะอำดและผู้ปฏิบัติงำนเก็บขยะ ให้สวมถุงมือยำง หน้ำกำกผ้ำ
ผ้ำยำง กันเป้ือน รองเท้ำพ้ืนยำงหุ้มแข้ง และใช้ปำกคีบด้ำมยำวเก็บขยะ และใส่ถุงขยะปิด
ปำกถุง ให้มิดชิด นำไปรวบรวมไวท้ ่ีพกั ขยะ แล้วล้ำงมือให้สะอำดทุกคร้งั ภำยหลังปฏบิ ัตงิ ำน
และ เมอ่ื ปฏบิ ัตงิ ำนเสรจ็ ในแต่ละวนั หำกเป็นไปไดค้ วรอำบน้ำและเปล่ยี นเส้อื ผ้ำทนั ที

2. คาแนะนาสาหรับครู ผูด้ ูแลนักเรียน

1) หำกครู ผู้ดูแลนักเรียนมีอำกำรเจ็บปว่ ย เช่น มีไข้ ไอ จำม มีน้ำมูก หรือหำยใจเหนื่อยหอบ ให้พบ
แพทย์และหยุดปฏิบัติงำนจนกว่ำอำกำรจะหำยดี หำกกลับจำกพ้ืนท่ีเส่ียงและอยู่ในช่วงกักกัน ให้หยุด
ปฏิบัติงำนจนกว่ำจะ กรณีมีคนในครอบครวั ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือ กลับจำกพ้ืนที่เสยี่ ง
และอย่ใู นช่วงกักกัน ใหป้ ฏบิ ตั ติ ำมคำแนะนำของเจำ้ หนำ้ ทสี่ ำธำรณสุข อยำ่ งเคร่งครัด

2) ส่งเสริมให้นักเรียน เจ้ำหน้ำท่ี และผู้ปฏิบัติงำนทุกคนล้ำงมืออย่ำงถูกวิธีด้วยนำ้ และสบู่ หรือ เจล
แอลกอฮอลล์ ทุกคร้ังก่อนรับประทำนอำหำร หลังใช้ส้วม และหลังเล่นกับเพื่อน รวมทั้งหลีกเลี่ยงกำรใช้มือ
สัมผสั ใบหนำ้ ตำ ปำก จมูก โดยไมจ่ ำเปน็

3) สอนและส่งเสริมให้นักเรียนมีของใช้ส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ แปรงสีฟัน อุปกรณ์รับประทำนอำหำร
ผำ้ เชด็ หนำ้ เปน็ ตน้

4) มีกำรให้ควำมรู้ คำแนะนำ หรือจัดหำส่ือประชำสัมพันธ์กำรป้องกันและลดควำมเสี่ยงจำกกำร
แพร่กระจำยเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 ให้แก่นักเรียน เช่น สอนวิธีกำรล้ำงมือที่ถูกต้อง กำรใส่หน้ำกำก
คำแนะนำในกำรปฏบิ ตั ติ ัว เปน็ ต้น

5) ควบคุมดแู ล กำรจดั ชน้ั เรยี น ทน่ี ัง่ ในโรงอำหำร ถ้ำเป็นไปได้ให้มรี ะยะหำ่ งระหว่ำงบุคคล อยำ่ งน้อย
1 เมตร หรือเหล่อื มเวลำในกำรพกั รบั ประทำนอำหำรกลำงวัน

3. คาแนะนาสาหรบั นักเรียน
1) ถ้ำมีอำกำร ไอ จำม เป็นหวัด มีไข้ หำยใจเหน่ือยหอบ แจ้งผู้ปกครองให้พำไปพบแพทย์และ หยุด

เรยี นจนกวำ่ อำกำรจะหำยดี
2) ไม่อยใู่ กลช้ ดิ ผทู้ ีม่ ีอำกำรหวัด มไี ข้ ไอ จำม มีน้ำมูก

19

3) ล้ำงมือด้วยสบู่และน้ำบ่อย ๆ ก่อนรับประทำนอำหำร หลังใช้ส้วม และหลีกเล่ียงกำรใช้มือสัมผัส
ใบหน้ำ ตำ ปำก จมูก โดยไม่จำเป็นและสร้ำงสุขนิสัยอำบน้ำ หลังกลับจำกโรงเรียน หลังเล่น กับเพ่ือน และ
หลงั กลับจำกนอกบำ้ น

4) ใหน้ ักเรียนเลือกกินอำหำรปรุงสุกใหม่ โดยใช้อปุ กรณ์ส่วนตวั เชน่ แก้วน้ำ ชอ้ น ส้อม
5) มีอุปกรณเ์ คร่อื งใชส้ ่วนตัวเฉพำะบคุ คล เช่น ผ้ำเชด็ หน้ำ ผำ้ เชด็ ตัว แปรงสฟี ัน ฯลฯ
6) หลกี เลยี่ งกำรเขำ้ ไปในสถำนทแ่ี ออัดหรอื สถำนทท่ี ่ีมีกำรรวมกนั ของคนจำนวนมำก หำกจำเปน็ ควร
สวมหน้ำกำก
7) ดแู ลสุขภำพใหแ้ ข็งแรง ดว้ ยกำรกินอำหำรครบ 5 หมู่ และผัก ผลไม้ 5 สี เสรมิ สรำ้ งภูมคิ ุ้มกัน ออก
กำลงั กำย อยำ่ งนอ้ ย 60 นำที ทุกวัน และนอนหลับใหเ้ พยี งพอ 9 - 11 ชัว่ โมง/วนั
8) ใหร้ ักษำระยะหำ่ ง กำรน่ังเรยี น น่งั รบั ประทำนอำหำร เล่นกับเพ่อื น อย่ำงน้อย 1 เมตร

4. คาแนะนาสาหรบั ผู้ปกครอง ในการดแู ลบตุ รหลานทเ่ี ป็นนักเรียน

1) หำกบุตรหลำนมีอำกำรเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จำม มีน้ำมูก หำยใจเหนื่อยหอบ ให้พำไปพบแพทย์
และหยุดเรียนจนกว่ำอำกำรจะหำยดี หรือกลับจำกพ้ืนที่เสี่ยงและอยู่ในช่วงกักกนั ให้หยุดเรียน 14 วัน และ
ปฏิบัตติ ำมคำแนะนำของแพทย์ กรณีมคี นในครอบครวั ป่วยด้วยโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 หรือกลับจำก
พ้นื ทีเ่ สย่ี งและอยใู่ นชว่ งกกั กนั ให้ปฏิบัตติ ำมคำแนะนำของเจ้ำหนำ้ ทีส่ ำธำรณสขุ อย่ำงเครง่ ครัด

2) ให้สมำชิกในครอบครัวล้ำงมือด้วยสบู่และน้ำบ่อย ๆ ก่อนรับประทำนอำหำร หลังใช้ส้วม และ
หลีกเลี่ยงกำรใช้มือสัมผัสใบหน้ำ ตำ ปำก จมูก โดยไม่จำเป็นและสร้ำงสุขนิสัยอำบน้ำหลังกลับจำกโรงเรียน
หลงั เล่นกับเพื่อน และหลงั กลับจำกนอกบ้ำน

3) ไมพ่ ำบุตรหลำนไปในสถำนท่ีแออัดหรือสถำนที่ท่ีมีกำรรวมกันของคนจำนวนมำก หำกจำเป็น ควร
ให้สวมหนำ้ กำก

4) จัดเตรียมอำหำรที่ปรุงสุกใหม่ ส่งเสริมให้บุตรหลำนกินอำหำรครบ 5 หมู่ และผัก ผลไม้ 5 สี
เสรมิ สร้ำงภูมคิ ุ้มกนั ออกกำลังกำย อย่ำงนอ้ ย 60 นำที ทกุ วัน และนอนหลบั ให้เพียงพอ 9 - 11 ชั่วโมง/วัน

20

ส่วนที่ 3
คาแนะนาในการปฏบิ ัตติ นดา้ นสุขวทิ ยาส่วนบุคคล

สาหรับประชาชน

21

3.1 แนวทางการปฏบิ ตั ดิ ้านสุขวิทยาส่วนบคุ คล ในสถานการณก์ ารระบาดของโรคตดิ เชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

แนวทางการดูแลสขุ อนามยั ส่วนบคุ คล เพอ่ื ป้องกันและลดการแพรเ่ ชื้อ COVID-19 ดว้ ยหลักการ
3 ล. “ลด เล่ยี ง ดแู ล”

1. ลดสมั ผัส
- ลำ้ งมือใหส้ ะอำดดว้ ยสบ่แู ละน้ำ หรอื เจลแอลกอฮอล์ทุกครง้ั ก่อนรับประทำนอำหำร หลังใช้
ส้วม หรอื หลงั จำกไอ จำม หรือหลังสมั ผสั จดุ เสย่ี งทมี่ ผี ใู้ ช้งำนร่วมกันในที่สำธำรณะ เชน่
กลอนหรือลกู บดิ ประตู รำวจบั หรอื รำวบันได เป็นตน้
- ลดกำรปนเปอื้ นและแพรก่ ระจำยเช้ือโรค โดยเฉพำะเม่อื ไอหรือจำม ควรใช้ผ้ำ หรือกระดำษ
ทชิ ชู ปดิ ปำก จมกู แล้วนำไปท้งิ ในถงั ขยะที่มีฝำปิด หำกไม่มี ให้จำมใสข่ อ้ ศอก โดยยกแขน
ข้ำงใดขำ้ งหนงึ่ มำจับไหลต่ วั เองฝัง่ ตรงขำ้ ม และยกมุมข้อศอกปิดปำกและจมูกตนเองกอ่ น ไอ
จำมทุกครัง้ เมือ่ เจบ็ ป่วยให้ใช้หนำ้ กำกอนำมัย

2. เลย่ี งจุดเสีย่ ง
- หลีกเล่ียงกำรเขำ้ ไปในพ้นื ทีท่ มี่ คี นหนำแน่น แออัด หรือพื้นทป่ี ิด โดยเฉพำะผู้สูงอำยุ เดก็
และสตรตี ัง้ ครรภ์ หำกจำเปน็ ให้ใสห่ น้ำกำกตำมควำมเหมำะสม เช่น หนำ้ กำกผ้ำ
- หลีกเลี่ยง หรืออยู่หำ่ งจำกผู้ที่มีอำกำรไอ จำม และมคี วำมเสี่ยงว่ำจะติดเชอื้ ระบบทำงเดนิ
หำยใจ อย่ำงน้อย 1 เมตร
- หลีกเล่ยี งกำรใช้มือสมั ผัสใบหนำ้ ตำ ปำก จมกู โดยไมจ่ ำเปน็

3. ดูแลสขุ ภำพตนเองและสังคม
- ดแู ลตัวเองดว้ ยกำรเลอื กทำนอำหำรที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ๆ หำกทำนอำหำรร่วมกนั ให้ใช้
ชอ้ นกลำง ออกกำลังกำยสมำ่ เสมอ และพักผอ่ นใหเ้ พียงพอ - หำกเดินทำงกลับจำกประเทศที่
มกี ำรแพรร่ ะบำดของเช้ือไวรัสโควดิ 19 ควรกักตัวเองที่บำ้ น 14 วนั และปฏิบัติตำม
ประกำศของกระทรวงสำธำรณสุข

3.2 คาแนะนาในการปฏิบัติตน “กินรอ้ น ช้อนกลาง ล้างมือ” ในสถานการณ์การระบาดของโรคตดิ เช้ือ
ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

เนอ่ื งจำกเชื้อไวรสั โคโรนำสำมำรถติดต่อระหว่ำงคนส่คู น โดยทำงน้ำมูก นำ้ ลำย ประชำชนทกุ คน
สำมำรถป้องกันตวั เองจำกกำรติดเชอ้ื และลดกำรแพร่เชอ้ื โรค ในสถำนกำรณก์ ำรระบำดของโรคตดิ เช้ือไวรัส โค
โรนำ 2019 ได้ดว้ ยกำรปฏิบัตติ ัวง่ำยๆ ด้วยกำร “กนิ ร้อน ช้อนกลำง และลำ้ งมือ”

กนิ รอ้ น รับประทำนอำหำรท่ีปรุงสุกใหม่ ปรงุ อำหำรใหส้ กุ ทั่วถงึ ดว้ ยควำมรอ้ นอย่ำงนอ้ ย 70 องศำ
เซลเซียส ในเวลำไม่นอ้ ยกวำ่ 2 นำทีเพ่ือทำลำยเชื้อโรค อำหำรทเี่ ก็บไว้นำนเกินกวำ่ 2 ชัว่ โมงต้องนำมำอุ่นให้
รอ้ นอยำ่ งท่วั ถึงก่อนนำมำรับประทำนอกี ครัง้

ใชช้ อ้ นกลาง จดั ใหม้ ีช้อนกลำงทุกครั้งเมอื่ มอี ำหำรทีต่ อ้ งรบั ประทำนรว่ มกัน กำรใชช้ อ้ นกลำงใหจ้ บั
บรเิ วณดำ้ มช้อนเท่ำนั้น เม่ือทำควำมสะอำดช้อนแลว้ ให้ผึ่งหรืออบใหแ้ หง้ หำ้ มใช้ผ้ำเช็ด ในระยะที่มีกำร
ระบำด ควรใช้ชอ้ นกลำงส่วนตวั

22

ล้างมือ ล้ำงมอื ให้สะอำดด้วยสบแู่ ละนำ้ หรอื ทำควำมสะอำดมือด้วยแอลกอฮอลเ์ จลบอ่ ยๆ โดยเฉพำะ
กอ่ นรบั ประทำนอำหำร หลังเข้ำหอ้ งส้วม หรอื ไอ จำม สง่ั นำ้ มกู หลังกำรสัมผัสสัตวท์ กุ ชนดิ หลงั สัมผสั จุด
สำธำรณะที่คนใชร้ ่วมกัน เช่น รำวบนั ได ป่มุ ลฟิ ต์ รำวจบั ในรถโดยสำรสำธำรณะ

3.3 คาแนะนาวิธกี าจัดหน้ากากอนามยั ใช้แลว้ ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา
2019 (COVID-19)

คำแนะนำในกำรกำจัดหนำ้ กำกอนำมยั ที่ใชแ้ ลว้ มีดงั น้ี
1. กรณีหนำ้ กำกอนำมยั ทใี่ ช้สำหรบั คนท่วั ไป ไม่ปว่ ย แข็งแรงดี เมอ่ื ใชง้ ำนแล้วถอื เปน็ ขยะทวั่ ไป ให้
กำจดั โดยจับสำยรัดและถอดหนำ้ กำกอนำมยั จำกด้ำนหลัง (ไม่ควรสมั ผัสตัวหนำ้ กำก) ทงิ้ ในถงั ขยะท่ีมีฝำปิดท่ี
ใกล้ท่ีสุดทันที จำกนน้ั ล้ำงมือให้สะอำดด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล
2. กรณหี นำ้ กำกอนำมัยท่ใี ช้สำหรับผปู้ ่วยท่ีมอี ำกำรไขห้ วดั ธรรมดำ หรอื ผูท้ ี่ตอ้ งดูแลผู้ป่วยนั้น เม่ือใช้
งำนแลว้ ถอื เปน็ ขยะทว่ั ไป ให้กำจดั โดยจับสำยรัดและถอดหนำ้ กำกอนำมยั จำกด้ำนหลงั (ไมค่ วรสัมผัสตวั
หนำ้ กำก) ทง้ิ ในถังขยะทมี่ ฝี ำปิดที่ใกล้ท่ีสุดทนั ที จำกนน้ั ล้ำงมอื ใหส้ ะอำดดว้ ยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอลเ์ จล
3. กรณหี น้ำกำกอนำมยั ทใี่ ช้ในสถำนบรกิ ำรสำธำรณสุข หอ้ งปฏบิ ัตกิ ำรเชอ้ื อันตรำย ท่เี กดิ ขึน้ หรอื ใช้
ในกระบวนกำรตรวจวนิ ิจฉัยทำงกำรแพทยแ์ ละกำรรกั ษำพยำบำล เมื่อใช้งำนแลว้ ถือเป็นขยะติดเชื้อ ต้องเกบ็
ขนและกำจดั ให้เปน็ ไปตำมกฎกระทรวงวำ่ ด้วยกำรกำจัดมูลฝอยตดิ เชอื้ พ.ศ. 2545

23

สว่ นท่ี 4
คาแนะนาในการทาความสะอาด ทาลายและฆ่าเชอ้ื โรค ใน
สถานการณก์ ารระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019

(COVID-19)

24

4. คาแนะนาในการทาความสะอาด ทาลายและฆ่าเช้ือโรค ในสถานการณ์ การระบาดของโรค
ตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

เนอ่ื งจำกไวรัสโคโรนำสำมำรถอย่ใู นสิง่ แวดลอ้ มไดเ้ ป็นระยะเวลำนำน 2 ชัว่ โมง 9 วัน เพอื่ ป้องกันกำร
แพร่กระจำยเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ในสภำพแวดล้อม จึงควรใช้สำรท่ีมีประสิทธิภำพในกำรกำจัดเช้ือได้ใน
ระยะเวลำส้ัน องคก์ ำรอนำมัยโลกให้คำแนะนำสำร 3 ชนิดทท่ี ำลำยเชอ้ื ไวรสั ไดภ้ ำยในระยะเวลำ 1 นำที ไดแ้ ก่
สำรประกอบโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1 % (เช่น น้ำยำฟอกขำวควำมเข้มข้น 1000 ppm) ไฮโดรเจนเปอร์
ออกไซด์ 0.5 % (5000 ppm) และ แอลกอฮอล์ 70 % คำแนะนำฉบับนี้ จึงแนะนำวิธกี ำรทำควำมสะอำด
ตั้งแต่ขั้นตอนกำรเตรียมอุปกรณ์ กำรเตรียมสำรทำควำมสะอำดเพื่อฆ่ำเช้ือ กำรทำควำมสะอำดและฆ่ำเช้ือ
บรเิ วณพื้นผิว กำรจดั กำรภำยหลังทำควำมสะอำด และข้อควรระวัง ดงั น้ี

1. การเตรยี มอปุ กรณ์
1.1. อุปกรณท์ ำควำมสะอำด ไดแ้ ก่ นำ้ ยำทำควำมสะอำดหรอื นำ้ ยำฟอกขำว อุปกรณ์กำรตวง ถงุ ขยะ
ถังน้ำ ไมถ้ พู ้นื ผ้ำสำหรบั เชด็ ทำควำมสะอำด
1.2. อุปกรณป์ อ้ งกนั รำ่ งกำย ได้แก่ ถงุ มือ หนำ้ กำกผำ้ เส้อื ผ้ำทีจ่ ะนำมำเปลี่ยนหลงั ทำควำมสะอำด
1.3. กำรเลือกใชผ้ ลิตภณั ฑท์ ำควำมสะอำดพน้ื ผิว

ก. กรณเี ป็นสงิ่ ของ อุปกรณ์ เครือ่ งใช้ แนะนำใหใ้ ชแ้ อลกอฮอล์ 70% หรือไฮโดรเจนเปอร์
ออกไซด์ 0.5% ในกำรเช็ดทำควำมสะอำด

ข. กรณเี ปน็ พื้นทขี่ นำดใหญ่ เชน่ พนื้ ห้อง แนะนำใหใ้ ชผ้ ลติ ภัณฑท์ มี่ สี ว่ นผสม โซเดยี มไฮ
โปคลอไรท์ (นำ้ ยำซักผำ้ ขำว) 0.1% หรอื ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5%

ค. ตรวจสอบองคป์ ระกอบของนำ้ ยำทำควำมสะอำดบนฉลำกขำ้ งขวดผลิตภัณฑ์ ควรตรวจสอบ
วันหมดอำยุ ทง้ั นีก้ ำรเลอื กใชข้ ึ้นกบั ชนดิ พน้ื ผวิ วัสดุ เช่น โลหะ หนัง พลำสติก

2. การเตรียมสารทาความสะอาดเพือ่ ฆ่าเชื้อ
กำรเตรยี มนำ้ ยำทำควำมสะอำดเพ่ือฆำ่ เชอ้ื ขนึ้ กับชนิดและควำมเข้มขน้ ของสำรท่ีเลอื กใช้ โดยแนะนำ

ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่ำเชื้อที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (ซ่ึงรู้จักกันในชื่อ “น้ำยำฟอกขำว”)
เน่ืองจำกหำได้ง่ำย โดยนำมำผสมกับน้ำเพ่ือใหไ้ ดค้ วำมเขม้ ขน้ 0.1% หรือ 1000 ส่วนในลำ้ นสว่ น ดงั น้ี

- หำกผลิตภัณฑม์ ีควำมเขม้ ขน้ 2.54% ให้ผสม 40 มิลลลิ ติ ร (2.8 ช้อนโตะ๊ ) : นำ้ 1 ลิตร
- หำกผลติ ภัณฑ์มีควำมเขม้ ข้น 5.7% ให้ผสม 18 มิลลิลิตร (1.2 ชอ้ นโต๊ะ) : น้ำ 1 ลติ ร
- หำกผลติ ภณั ฑ์มีควำมเขม้ ข้น 5% ให้ผสม 20 มิลลลิ ิตร (1.3 ชอ้ นโตะ๊ ) : น้ำ 1 ลติ ร
- หำกผลติ ภณั ฑ์มคี วำมเข้มข้น 6% ใหผ้ สม 17 มลิ ลิลติ ร (1.1 ช้อนโตะ๊ ) : นำ้ 1 ลติ ร
หรืออำจใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่ำเช้ือที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยนำมำผสมกับน้ำเพ่ือให้ได้
ควำมเขม้ ขน้ 0.5% หรือ 5000 สว่ นในลำ้ นส่วน ดังน้ี
- หำกผลติ ภณั ฑม์ ีควำมเขม้ ขน้ 5% ให้ผสม 110 มลิ ลลิ ิตร (7.5 ชอ้ นโตะ๊ ) : น้ำ 1 ลติ ร
- หำกผลิตภณั ฑม์ ีควำมเขม้ ขน้ 3% ให้ผสม 200 มิลลิลติ ร (13.5 ชอ้ นโตะ๊ ) : น้ำ 1 ลติ ร

3. การทาความสะอาดและฆา่ เช้ือบริเวณพืน้ ผิว
- สวมอุปกรณป์ อ้ งกนั ตวั เองทกุ ครั้งเมอ่ื ตอ้ งทำควำมสะอำดและฆ่ำเชอื้
- เปดิ ประต/ู หนำ้ ตำ่ งขณะทำควำมสะอำดเพื่อให้มีกำรระบำยอำกำศ
- หำกพื้นผวิ มีควำมสกปรก ควรทำควำมสะอำดเบ้ืองตน้ ก่อน เช่น นำผ้ำชบุ นำ้ เชด็ บริเวณท่มี ฝี ุ่นหรื

25

ครำบสกปรก ก่อนทีจ่ ะทำกำรใชน้ ้ำยำทำควำมสะอำดเพ่ือฆำ่ เชอ้ื
- ควรทำควำมสะอำดและฆำ่ เชื้อท่ัวทัง้ บริเวณ และเน้นบรเิ วณท่ีมักมีกำรสัมผัสหรือใช้งำนร่วมกบั

บ่อย ๆ เชน่ ลกู บิดประตู รโี มทคอนโทรล ปมุ่ กดลิฟท์ ซงึ่ เปน็ พื้นผิวขนำดเลก็ โดยนำผำ้ สำหรบั เชด็
ทำควำมสะอำดชุบนำ้ ยำฟอกขำวท่ีเตรียมไวต้ ำมขอ้ 2 หรอื แอลกอฮอล์ 70% หรอื ไฮโดรเจน
เปอรอ์ อกไซด์ 0.5 % เชด็ ทำควำมสะอำดและฆ่ำเช้ือ
- สำหรบั พ้นื ใชไ้ ม้ถพู ืน้ ชุบดว้ ยนำ้ ยำฆ่ำเช้อื ทเี่ ตรยี มไว้ตำมข้อ 2 เร่ิมถูพน้ื จำกมมุ หนงึ่ ไปยังอีกมุม
หนง่ึ ไมซ่ ำ้ รอยเดิม โดยเริ่มจำกบรเิ วณที่สกปรกน้อยไปมำก
- กำรทำควำมสะอำดห้องน้ำ ห้องส้วม ด้วยนำ้ ยำทำควำมสะอำดท่ัวไป พ้นื หอ้ งส้วมใหฆ้ ่ำเชอื้ โดย
รำดน้ำยำฟอกขำวที่เตรียมไว้ตำมข้อ 2 ทง้ิ ไวอ้ ย่ำงน้อย 10 นำที เช็ดเนน้ บรเิ วณทรี่ องนง่ั โถส้วม
ฝำปิดโถสว้ ม ทก่ี ดชกั โครก รำวจบั ลูกบดิ หรอื กลอนประตู ทแี่ ขวนกระดำษชำระ อำ่ งล้ำงมือ ก๊อก
นำ้ ทีว่ ำงสบู่ ผนัง ซอกประตู ด้วยผ้ำชุบน้ำยำฟอกขำวทเี่ ตรียมไวต้ ำมข้อ 2 หรือแอลกอฮอล์
70% หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5 %
- หำกเป็นกำรทำควำมสะอำดโรงเรียน ศนู ยเ์ ด็กเลก็ อำคำรสำนักงำน รำ้ นอำหำร ซึ่งไม่มคี นพกั
คำ้ งคืน แนะนำให้ปิดพ้นื ท่ที มี่ ีผู้ป่วยเขำ้ ไปสมั ผสั หรือใชง้ ำนไว้ 24 ชวั่ โมงกอ่ นเริ่มทำควำมสะอำด
และฆ่ำเชอื้ เพื่อลดโอกำสในกำรสมั ผสั ละอองเชอื้ โรคท่ตี ดิ ตำมบริเวณตำ่ ง ๆ

4. การจดั การหลงั ทาความสะอาดและฆา่ เช้ือโรค
- หลงั ทำควำมสะอำดควรซักผำ้ สำหรับเชด็ ทำควำมสะอำดและไมถ้ พู ื้น ดว้ ยน้ำผสมผงซักฟอกหรอื
น้ำยำฆำ่ เช้อื แล้วซกั ดว้ ยน้ำสะอำดอีกคร้ัง และนำไปผง่ึ ตำกแดดให้แหง้
- บรรจุภัณฑ์ใส่นำ้ ยำทำควำมสะอำด ควรคดั แยกออกจำกขยะท่วั ไปในครวั เรอื น และท้ิงในถังขยะ
อนั ตรำย เศษขยะที่เหลอื รวบรวมและทง้ิ ขยะลงในถุงพลำสติกซอ้ นสองชน้ั หรอื ถงุ ขยะ มัดปำกถงุ
ใหแ้ น่นและนำไปท้งิ ทันทโี ดยทิง้ ร่วมกับขยะทั่วไป
- ถอดถุงมือแลว้ ล้ำงมือดว้ ยสบู่และน้ำ หำกเป็นไปไดค้ วรชำระล้ำงรำ่ งกำยและเปลย่ี นเสอ้ื ผ้ำโดยเรว็

5. ขอ้ ควรระวงั
- สำรที่ใชฆ้ ำ่ เชื้อสว่ นใหญ่เป็นชนดิ สำรฟอกขำว ซ่งึ อำจกอ่ ให้เกดิ กำรระคำยเคืองผวิ หนงั เนอื้ เย่อื
ออ่ นควรระวงั ไมใ่ หเ้ ขำ้ ตำหรอื สมั ผัสโดยตรง
- ไมค่ วรผสมน้ำยำฟอกขำวกับสำรทำควำมสะอำดอื่น ๆ ทีม่ สี ว่ นผสมของแอมโมเนีย
- หลีกเลี่ยงกำรใช้สเปรยฉ์ ีดพ่นเพือ่ ฆำ่ เช้อื เนื่องจำกอำจทำให้เกดิ กำรแพร่กระจำยของเชอ้ื โรค
- เพ่อื ให้สำรทำควำมสะอำดมปี ระสทิ ธภิ ำพสงู สดุ ในกำรทำควำมสะอำดควรเตรยี มกอ่ นกำรใช้งำน
- ไม่ควรนำถุงมือไปใช้ในกำรทำกจิ กรรมประเภทอืน่ ๆ นอกจำกกำรทำควำมสะอำดเทำ่ นนั้ เพ่อื
ปอ้ งกนั กำรแพร่กระจำยของเชอื้ โรค
- หลกี เลี่ยงกำรใชม้ อื สมั ผัสบริเวณใบหนำ้ ตำ จมกู และปำก ขณะสวมถุงมือและระหว่ำงกำรทำ
ควำมสะอำด

26
เอกสารประกอบคาแนะนาสาหรับประชาชนในการทาความสะอาด ทาลายและฆ่าเช้อื โรค

ในสถานการณก์ ารระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

โคโรนำไวรัสสำมำรถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลำนำน 2 ช่ัวโมง ถึง 9 วัน หลักกำรในกำร
ทำลำยเชือ้ จะต้องใช้ในปรมิ ำณที่สำมำรถฆ่ำเชอ้ื ไดใ้ นเวลำส้ัน องคก์ ำรอนำมัยโลกแนะนำสำรทม่ี ีประสิทธิภำพ
ในกำรกำจดั เชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 ได้ ภำยในระยะเวลำ 1 นำที ไดแ้ ก่ แอลกอฮอล์ 62 70% โซเดียมไฮโป
คลอไรท์ 0.1% และไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ 0.5% โดยมคี ำแนะนำควำมเขม้ ขน้ สำหรบั พืน้ ผิวตำ่ ง ๆ ดงั นี้

กรมอนำมัยจัดทำรำยกำรตัวอย่ำงผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ำยในประเทศไทยโดยใช้ข้อมูลท่ีปรำกฏอยู่ใน
ฉลำกผลิตภัณฑ์มำอ้ำงอิงดังตำรำงด้ำนล่ำง ท้ังน้ี กรมอนำมัยไม่ได้รับรองผลิตภัณฑ์ดังกล่ำวและไม่มีส่วนได้
ส่วนเสียกับผลิตภัณฑ์แต่อย่ำงใด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสำรเคมที ่ีมีอันตรำยต่อสุขภำพและส่ิงแวดล้อม จึงควรใช้ใน
ปริมำณทเี่ หมำะสม

1. เอทลิ แอลกอฮอล์ 1, 2, 3 ความเขม้ ขน้ ที่แนะนา 70%

27

2. โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 1, 2, 3 ความเข้มขน้ ท่แี นะนา คอื 0.1% (1000 ppm)

28

29

3. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ความเขม้ ขน้ ท่แี นะนา 0.5% 1, 2 (5,000 ppm)


Click to View FlipBook Version