วิธีปฏิบัติงานที่ WI– MIH –11 เรื่อง การหาค่า Venous Clotting Time กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า ชื่อ - สกุล ต าแหน่ง ลายเซ็น ว-ด-ป จัดท ำโดย น.ส. ช่อผกา ศิริพันธุ์ นักเทคนิคการแพทย์ 2 ตุลาคม 2566 ทบทวนโดย นางคติ แซ่ไหล ผู้จัดการคุณภาพ 2 ตุลาคม 2566 อนุมัติโดย น.ส. จันทนี นิติการุญ หัวหน้ากลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ 2 ตุลาคม 2566 เอกสำร ( x ) ควบคุม ( ) ไม่ควบคุม
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงำนที่ : WI– MIH –11 หน้า 2/9 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การหาค่า Venous Clotting Time วันที่ประกำศใช้2 ตุลาคม 2566 บันทึกรายการแก้ไข แก้ไขครั้งที่ รำยกำรแก้ไข วันที่ 00 เริ่มใช้เอกสำร 2 ตุลาคม 2566
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงำนที่ : WI– MIH –11 หน้า 3/9 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การหาค่า Venous Clotting Time วันที่ประกำศใช้2 ตุลาคม 2566 การหาค่า Venous Clotting Time 1.0 วัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นคู่มือในการทดสอบหาความบกพร่องของปัจจัยในการแข็งตัวของเลือดใน intrinsic pathway อย่างคร่าวๆ ( Screening test ) 2.0 ขอบข่าย ส าหรับผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีความบกพร่องในการแข็งตัวของเลือด (coagulation defect) หรือผู้ป่วยที่สงสัยถูกงูที่มีพิษต่อระบบเลือดกัด 3.0 บทนิยามและค าย่อ VCT = Venous Clotting Time 4.0 เอกสารอ้างอิง 4.1 อ าพร ไตรภัทร. กระบวนการห้ามเลือดและการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ ด้านกระบวนการห้ามเลือด . คณะเทคนิคการแพทย์ม.ขอนแก่น. ขอนแก่น,2552 . หน้ำ 172-173. 4.2 อ าไพวรรณ จวนสัมฤทธิ์. โรคเลือดในเด็กและผู้ใหญ่ ปัญหาเลือดออกง่ายและลิ่มเลือดอุดตัน. ภาควิชา กุมารเวชศาสตร์ คณะ แพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล. กรุงเทพฯ : ชัย เจริญ , 2546. หน้า 158. 4.3 ธ ารง จิรจริยาเวช.(บก.) พยาธิวิทยาคลินิก.ภาควิชาพยาธิวิทยา. คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล. กรุงเทพฯ : เดือนตุลา , 2549. หน้า 190-191. 5.0 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 5.1 SD-LAB-01 คู่มือการเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 5.2 F-MIH-21 แบบบันทึกผลการตรวจวิเคราะห์ กรณี LIS ใช้งานไม่ได้ (CBC/Parasite/Coagulation) 6.0 หลักการ เป็นกำรทดสอบแบบ screening ว่ำมีควำมบกพร ่องของ Coagulation factor ตัวใดตัวหนึ่ง ใน intrinsic- pathway หรือไม ่โดยเลือดที่เจำะออกมำจำกหลอดเลือดด ำ จะถูกกระตุ ้นให ้เกิดลิ่มเลือด โดย Surface- activity ของหลอดทดลอง กำรเกิดลิ่มเลือดนี้เกิดโดยกำรท ำงำนของ ป ัจจัยกำรแข็งตัวของเลือดในส ่วน intrinsic pathway โดยใช้วิธี tube method ของ Lee & White
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงำนที่ : WI– MIH –11 หน้า 4/9 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การหาค่า Venous Clotting Time วันที่ประกำศใช้2 ตุลาคม 2566 ( ค.ศ.1913 ) วัดระยะเวลาที่เลือดกลายเป็นลิ่มเลือด โดยเริ่มจับเวลาตั้งแต่เลือดเข้าสัมผัสหลอดแก้วหลอด แรก จนกระทั่งเลือดแข็งตัวในหลอดสุดท้าย ซึ่งเป็นการท าหน้าที่ของปัจจัยในการแข็งตัวของเลือดใน intrinsic pathway ได้แก่ FXII, FXI, FX, FIX,FVIII,FV,prothrombin,fibrinogen,prekallikerin และ HMWK จนเกิดเป็นสายไฟบรินขึ้นพันรอบเม็ดเลือดอยู่ภายใน ท าให้เลือดเกิดการแข็งตัว 7.0 เครื่องมือ เครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ 7.1 อุปกรณ์ส าหรับเจาะเลือด ( ส าลี , แอลกอฮอล์ 70 % ) 7.2 กระบอกฉีดยาพลาสติก 1 ชุด พร้อมเข็มเจาะเลือด No.18-20 G 7.3 Water bath 37 องศาเซลเซียส 7.4 นาฬิกาจับเวลา ( Stop watch ) 7.5 หลอดทดลองแก้ว ขนาด 13X100 มม. 3 หลอด 8.0 ขั้นตอนการด าเนินงาน 8.1 เจาะเลือดโดยใช้วิธี one tube excess โดยเจาะเลือด 5 มล. 8.2 น าเลือดมาใส่หลอดทดลอง 3 หลอด หลอดละ 1 มล. เริ่มจับเวลาตั้งแต่ใส่เลือดลงในหลอดแรก ( หลอด No.3 ) ก่อนแล้วใส่ หลอดที่ 2 ( หลอด No.2 ) และ หลอดที่ 1 ( หลอด No.1 ) เป็น หลอด สุดท้าย ( ระวังอย่าให้มีฟองอากาศ ) เลือดที่เหลือทิ้งไป 8.3 น าหลอดเลือดทั้ง 3 ไปอุ่นในอ่างน้ า 37 องศาเซลเซียส ( หรือวางไว้ที่อุณหภูมิห้องก็ได้ ) นาน 5 นาที 8.4 เมื่อครบเวลา ยกหลอด No.1 ขึ้นจากอ่างน้ าอุ่น เอียง 90 องศาดูว่ามีเลือดไหลมาตามข้างหลอด หรือไม่ โดยเอียงหลอดทุกๆ 1 นาที จนเลือดแข็งตัว ( เอียงหลอดแล้วเลือดไม่ไหลกลับ ) แล้วจึงเอียงหลอด No.2 ท าเช่นเดียวกับหลอด No.1 จนกระทั่งเลือดแข็งตัว ท าต่อไป กับหลอด No.3 ระยะเวลาที่เลือดหลอด No.3 แข็งตัวคือจุดจบของการแข็งตัวของเลือด
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงำนที่ : WI– MIH –11 หน้า 5/9 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การหาค่า Venous Clotting Time วันที่ประกำศใช้2 ตุลาคม 2566
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงำนที่ : WI– MIH –11 หน้า 6/9 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การหาค่า Venous Clotting Time วันที่ประกำศใช้2 ตุลาคม 2566 9.0 การอ่านผล / การรายงานผล 9.1 กำรอ่ำนผล นับจากเวลาที่เลือดสัมผัสหลอดแก้วหลอดแรก จนกระทั่ง เลือดหลอด No.3 แข็งตัว 9.2 การรายงานผล อ่านค่าเวลาเป็นนาที 9.3 ค่าปกติ 5-15 นาที 9.4 การแปลผล 9.4.1 ค ่ำ VCT จะผิดปกติก็ต ่อเมื่อ Coagulation factor มี activity < 5% ซึ่งแสดงว ่ำมีควำมผิดปกติอย ่ำงรุนแรงเกิดขึ้น ส ำหรับผู ้ป ่วยที่มีควำมผิดปกติของเกล็ดเลือด ทั้งทำงปริมำณและคุณภำพจะไม ่ท ำให ้ค ่ำ VCT ผิดปกติ 9.4.2 กำรทดสอบ VCT ใช ้เวลำนำนและ reproducibility ต ่ำ ห ้องปฏิบัติกำรส ่วนใหญ ่จึงใช ้ กำรทดสอบ APTT (Activated partial thromboplastin time) แทน 9.4.3 กำรทดสอบ VCT มีประโยชน ์ในกำรควบคุม และติดตำมผลกำรรักษำผู ้ป ่วยด ้วย Heparin และดูควำมรุนแรงของผู ้ป ่วยในรำยที่ถูกงูพิษกัด เช ่น งูแมวเซำ งูเขียวหำง ไหม ้และงูกะปะ 9.4.4 กำรมี Prolonged VCT บ ่งชี้ถึง - มี Deficiency ของ Coagulation factor ใด Factor หนึ่งใน Intrinsic coagulation pathway - มี Coagulation inhibitors หรือ Circulating anticoagulant (พบน ้อย) 9.4.5 ถ ้ำเลือดไม ่ Clot เลย พบได ้ใน - Afibrinogenemia หรือ Hypofibrinogenemia - Circulating anticoagulant บำงรำยที่ titer สูงมำก ๆ 9.4.6 VCT ปกติ พบได ้ใน Thrombocytopenia, Abnormal platelet function และ Mild coagulation defects 9.4.7 หลอดที่ใช ้ในกำรทดสอบต ้องเป ็นหลอดแก ้วขนำด 13 X 100 mm. ถ ้ำใช ้หลอดขนำด ใหญ ่หรือเล็กเกินไปจะท ำให ้ค ่ำยำว หรือสั้นกว ่ำค ่ำจริงตำมล ำดับ 9.4.8 ปริมำณเลือดที่ใส ่ในแต ่ละหลอดต ้องเท ่ำกับ 1 ml. ถ ้ำใส ่มำกหรือน ้อย จะท ำให ้ค ่ำยำว หรือสั้นกว ่ำค ่ำจริงตำมล ำดับ 9.4.9 อุณหภูมิที่ใช ้ในกำรทดสอบต ้องเท ่ำกับ 37 o C ถ ้ำอุณหภูมิสูงหรือต่ ำเกินไปจะท ำให ้ค ่ำ สั้นหรือยำวกว ่ำค ่ำจริง ตำมล ำดับ 9.4.10 กำรเจำะเลือดต ้องให ้ไหลสะดวก ถ ้ำเลือดไหลไม ่สะดวกหรือมีฟองอำกำศ จะท ำให ้มี Tissue factor ปนออกมำ ค ่ำจะสั้นกว ่ำค ่ำจริง 9.4.11 เมื่ออ ่ำนผล VCT แล ้วลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นสำมำรถน ำมำทดสอบ Test อื่น ได ้ต ่อ อีกเช ่น
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงำนที่ : WI– MIH –11 หน้า 7/9 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การหาค่า Venous Clotting Time วันที่ประกำศใช้2 ตุลาคม 2566 9.4.11.1 Clot retraction time (ค ่ำปกติกำรหดตัวของลิ่มเลือด = 1-2 ชั่วโมง) ซึ่ง None or Poor Clot retraction time พบได ้ใน - Severe Thrombocytopenia (Plt. Count < 50,000 cells / cu.mm.) - Abnormal Platelet Function - Fibrinogen สูงมำกๆ (Hyperfibrinogenemia) - Test tube ไม ่สะอำด มีไขมันเกำะ 9.4.11.2 Clot lysis time (ค ่ำปกติของกำรละลำยของลิ่มเลือด >24 ชั่วโมง) ถ ้ำ clot lysis time ละลำยก ่อน 24 ชั่วโมง จะพบในภำวะที่มีกำรเพิ่มขึ้นของ Fibrinolytic activity 10.0 การควบคุมคุณภาพ 10.1 นาฬิกาจับเวลา ควรท าการปรับเทียบทุก 6 เดือน 11.0 การบันทึกข้อมูล 11.1 ให้บันทึกผลการวิเคราะห์ลงในระบบ LIS ของโรงพยาบาล โดยวิธี Manual entry 11.2 กรณีระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลขัดข้อง ให้บันทึกผลการวิเคราะห์ลงใน F-MIH-21 แบบ บันทึกผลการตรวจวิเคราะห์ กรณี LIS ใช้งานไม่ได้ (CBC/Parasite/Coagulation) 12.0 รายละเอียดอื่นๆ 12.1 การเจาะเลือดถ้าท าไม่ถูกวิธีจะมี tissue thromboplastin ปนเปื้อนในเลือด ท าให้ได้ค่าสั้นกว่าปกติ 12.2 ถ้าอุณหภูมิที่ท าการทดสอบต่ ากว่า 37 องศาเซลเซียส จะ ท าให้ได้ค่ายาวกว่าปกติ 12.3 การเอียงหลอดทดลองควรเอียงท ามุมเดียวกัน และควรให้เลือดไหลตามข้างหลอดในทิศทาง เดียวกันทุกครั้งที่เอียง 12.4 การทดสอบนี้ใช้เวลานานและ reproducibility ต่ า ส่วนมากนิยมใช้การทดสอบ aPTT แทน แต่ยัง ใช้ในการติดตามผลการรักษาด้วยเฮปารินได้และใช้ดูความรุนแรงของผู้ป่วยในรายที่ถูกงูพิษกัด โดยเฉพาะงูที่มีพิษต่อระบบการห้ามเลือด เช่น งูแมวเซา งูเขียวหางไหม้ และงูกะปะ เป็นต้น 12.5 ส าหรับผู้ที่ถูกงูกัดนั้น อาจใช้ 20 min WBCT ของ WHO (Supplement to the Sountheast Asian Journal of Tropical Medicine and Public Health Volume30 Supplement 1,1999) มาใช้ในการคัดกรองเบื้องต้นได้เพื่อประเมินการพิจารณาให้เซรุ่มด้านพิษงูระบบโลหิต วิธีท า 1. ใช้ tube ชนิดที่เป็นแก้ว ไม่ใช่ plastic เจาะเลือด 1-2 ml ใส่ลงใน test tube 2. ตั้งทิ้งไว้ที่ อุณหภูมิห้อง โดยไม่ต้องรบกวน
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงำนที่ : WI– MIH –11 หน้า 8/9 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การหาค่า Venous Clotting Time วันที่ประกำศใช้2 ตุลาคม 2566 3. เมื่อ ครบ 20 นาที จึงยกขึ้นมาเอียงดู 4. กำรแปลผล ถ้าเลือดใน test tube ยังไหลได้ก็แสดงว่า เลือดไม่ clot ก็ถือว่ำผิดปกติ รายงานได้เลยว่า Incoagulable blood เนื่องมาจาก hypofibrinogenaemia ควรพิจำรณำให้antivenom หากมี clot หรือจะ partially clot ก็ถือว่ำ ปกติไม่ต้องให้ antivenom ทั้งนี้ในการท า ต้องมี control ควบคู่ไปด้วย 13.0 ภาคผนวก 13.1 ภำคผนวก 1 F-MIH-21 แบบบันทึกผลการตรวจวิเคราะห์ กรณี LIS ใช้งานไม่ได้ (CBC/Parasite/Coagulation)
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงำนที่ : WI– MIH –11 หน้า 9/9 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การหาค่า Venous Clotting Time วันที่ประกำศใช้2 ตุลาคม 2566 ภำคผนวก1 F-MIH-21 แบบบันทึกผลการตรวจวิเคราะห์ กรณี LIS ใช้งานไม่ได้ (CBC/Parasite/Coagulation)