วิธีปฏิบัติงานที่ WI – LAB –01 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัย จากการให้บริการทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า ชื่อ – สกุล ตำแหน่ง ลายเซ็น ว-ด-ป จัดทำโดย นางคติ แซ่ไหล นักเทคนิคการแพทย์ 2 ตุลาคม 2566 ทบทวนโดย น.ส จันทนี นิติการุญ ผู้จัดการคุณภาพ 10 มกราคม 2567 อนุมัติโดย น.ส จันทนี นิติการุญ หัวหน้ากลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ 10 มกราคม 2567 เอกสาร ( × ) ควบคุม ( ) ไม่ควบคุม
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 2/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ บันทึกรายการแก้ไข แก้ไขครั้งที่ รายการแก้ไข วันที่ 00 เริ่มใช้เอกสาร 10 มกราคม 2567
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 3/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 1.0 วัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานมาตรฐานเดียวกัน และลดความเสี่ยงของบุคลากรจากการ ติดเชื้อจากการปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 2.0 ขอบข่าย สำหรับเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการกลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ทุกคน 3.0 บทนิยามและคำย่อ 3.1 Biological spill kits = ชุดทำความสะอาดสารชีวภาพ 3.2 BSC = Biological Safety Cabinet 3.3 Chemical Spill kit = ชุดทำความสะอาดกรณีสารเคมีหก 3.4 First Aid Kits = ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น 3.5 Fume Hood = ตู้ดูดควัน 3.6 HRMS (Healthcare Risk Management System) = ระบบการรายงานความเสี่ยง 3.7 MSDS (Material Safety Data Sheet) = เอกสารข้อมูลความปลอดภัยสารเคมีที่จะแสดงข้อมูล ของสารเคมีที่มีการแสดงข้อมูลตั้งแต่ความเป็นอันตราย พิษวิธีใช้การเก็บรักษาการขนส่งการกำจัดและการจัดการ อื่นๆของสารเคมีหรือเคมีภัณฑ์ประเภทนั้นๆเพื่อให้การใช้ สารเคมีนั้นๆเป็นไปด้วยความปลอดภัยและไร้ซึ่งความ อันตรายขณะใช้งาน 3.8 NSS (Normal Saline Solution) = น้ำเกลือ (Normal Saline Solution) 3.9 Water bath = อ่างน้ำควบคุมอุณหภูมิ 3.10 จป. = เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย 4.0เอกสารอ้างอิง 4.1 คณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล. แนวทางการปฏิบัติเมื่อบุคลากร ได้รับอุบัติเหตุสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ฉบับปรับปรุงใหม่ ; บันทึกข้อความ กลุ่มงาน เวชกรรมสังคม : เมษายน 2554. 4.2 คู่มือความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ.Retrived from .http://www.cab.ku.ac/cab-2010- 04/doc/safety_lab.pdf 4.3 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขและศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์.การอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง ความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ. วันที่ 6- 7 กรกฏาคม 2565.
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 4/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 4.4 พลากร พุทธรักษ์. คู่มือความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.2563. 4.5 พงษ์ศักดิ์ เตชะสถิระกุล. คู่มือความปลอดภัยสำหรับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์.พี.เอส.เซอร์วิส. 2565. 4.6 สมฤกษ์ จึงสมานและคณะ. แนวทางการเก็บตัวอย่างตรวจ เพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS-CoV-2. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข : ธันวาคม 2563. 4.7 หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อได้รับสารเคมีผ่านการสูดดม. Retrived from. https://thestandard.co/wp-content/uploads/2021/07/ 4.8 คณะกรรมการฝ่ายวิจัยและห้องวิจัยกลาง.คู่มือความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ.ภาควิชาสัตว วิทยา.คณะวิทยาศาสตร์.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์:สิงหาคม 2561. 5.0 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 5.1 รายการความเสี่ยงในระบบ HRMS: Healthcare Risk Management System (SD-RM-01) 5.2 แบบประเมินระบบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ (Safety checklist) 5.3 การกำจัดขยะและการทำลายสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ (WI-LAB-02) 6.0แนวนโยบาย เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันภัยสำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ ให้มีความรู้และ ระมัดระวังตนเองได้เพราะผู้ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ เป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยง ต่อ การติดเชื้อและการได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุต่างๆที่พึงเกิดขึ้นจาการปฏิบัติงานอยู่ตลอดเวลา 7.0วัสดุอุปกรณ์ 7.1 อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย(PPE) เช่น ถุงมือ, เสื้อกาวน์, แว่นตานิรภัย, ผ้าปิดปาก-จมูก, รองเท้าบู๊ท ฯลฯ 7.2 น้ำยาฆ่าเชื้อ 0.5% Sodium hypochlorite , 0.9% NSS , 70% alcohol 7.3 ชุดทำความสะอาดสารเคมีหก ( Chemical Spill Kit ) รายละเอียดในภาคผนวก 1 7.3.1 อุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ปากคีบ, กระดาษแข็ง 7.3.2 ตัวดูดซับ เช่น ทราย, ผ้า, กระดาษซับ 7.3.3 สารเคมี เช่น โซเดียมไบคาร์บอเนต, Sodium Carbonate ใช้กับสารเคมีที่เป็น กรด กรดบอริก , กรดซิตริก ใช้กับสารเคมีที่เป็นด่าง 7.3.4 ถุงขยะสีแดงและเชือกผูก 7.3.5 ภาชนะทิ้งของมีคมติดเชื้อ 7.4 ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ( First Aids Kits ) รายละเอียดในภาคผนวก 2 7.5 ชุดทำความสะอาดสารชีวภาพหกหล่น (Biological Spill kits) รายละเอียดในภาคผนวก 3
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 5/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.0 วิธีปฏิบัติ 8.1แนวปฏิบัติทั่วไปในการป้องกันตนเอง 8.1.1 สวมเสื้อคลุม(เสื้อกาวน์แขนยาวหรือหากใส่ชุดยูนิฟอร์มหรือชุดคลินิกต่างๆต้อง สวมเสื้อกาวน์ยาวทับทุกครั้ง)ขณะปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการกระเด็นของ เลือด สิ่งส่งตรวจ น้ำยา สารเคมีต่างๆ และต้องถอดเสื้อคลุมทุกครั้งก่อนออกจาก ห้องปฏิบัติการ 8.1.2 สวมถุงมือทุกครั้งขณะปฏิบัติงานที่มีโอกาสต้องสัมผัสกับตัวอย่างตรวจ และควรใช้ ถุงมือชนิดใช้แล้วทิ้ง ( Disposable gloves ) ถุงมือในห้องปฏิบัติการ ถุงมืออเนกประสงค์สำหรับงานซัก ล้าง
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 6/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.1.3 ถ้ามีสิ่งส่งตรวจปนเปื้อนที่ถุงมือ ต้องถอดถุงมือ ล้างมือ เปลี่ยนถุงมือทันที ก่อนสัมผัสกับวัสดุ อุปกรณ์ หรือผู้ป่วย 8.1.4 อย่าจับต้อง ตา จมูก หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หรือสิ่งของที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เช่น ลูกบิดประตู โทรศัพท์ หนังสือ ขณะสวมถุงมือ 8.1.5 ทุกครั้งที่ถุงมือขาด ควรถอดทิ้งและล้างมือก่อนสวมถุงมือใหม่
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 7/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ เทคนิคการล้างมือให้สะอาด https://www.bing.com/images/blob?bcid=r0gvDHERZRUFdK5m4j6pDIuzHqc0.....xg 8.1.6 เพื่อป้องกันการกระเด็นของเลือด น้ำเหลือง สิ่งส่งตรวจ น้ำยาหรือสารเคมี กระเด็นเข้าตา หรือ ปาก ควรสวมแว่นตา และผ้าปิดปาก – จมูก ทุกครั้ง
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 8/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.1.7 ห้ามใช้ปากดูด หรือ เป่า โดยตรงกับปิเปตต์ ต้องใช้ลูกยางดูด 8.1.8 ระมัดระวังและป้องกันการกระเด็น หรือ ฟุ้งกระจายของสิ่งส่งตรวจ หรือจากการปฏิบัติงานโดย ทำในตู้ดูดควัน ( chemical fume hood ) หรือตู้ป้องกันเชื้อ ( Biological safety cabinet ) 8.1.8.1 ตู้ดูดควัน (Fume Hood) ใช้สำหรับสารเคมีที่ทำให้เกิดอันตราย มีไอระเหย โดยจะดูดไอ สารเคมีออกทางระบบท่อหรือแบบไม่มีท่อ (ducting system/ductless) ไม่มี HEPA filter ไม่เหมาะกับการทำงานกับเชื้อจุลชีพ
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 9/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.1.82 ตู้ป้องกันเชื้อ (Biological safety cabinet) หลักการทำงานของตู้ป้องกันเชื้อ • HAPA filter (แผ่นกรอง) ทำหน้าที่ดักจับอนุภาคเชื้อโรค มีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาค ขนาด 0.3 ไมครอนได้ 99.99 % แต่ไม่สามารถกรองแก๊สและไอระเหยได้ • Blower/Motor (พัดลม) เพื่อควบคุมการไหลเวียนอากาศภายในตู้ และอากาศที่ไหลผ่าน HAPA filter • Laminar flow (ม่านอากาศ) • ปกป้องชิ้นงาน ปกป้องผู้ปฏิบัติงานและปกป้องสิ่งแวดล้อม
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 10/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ • ใช้ปฏิบัติงานกับเชื้อจุลชีพก่อโรคได้ • แบ่งพื้นที่การทำงานเป็น 3 ส่วน (ส่วนสะอาด/ส่วนปฏิบัติงาน/ส่วนของปนเปื้อน) • ห้ามวางสิ่งของทับบริเวณตะแกรงด้านหน้า 8.1.9 การเจาะเลือดผู้ป่วย ควรใช้เข็มชนิดใช้แล้วทิ้ง ( disposable ) เมื่อใช้ แล้วปลดเข็มใน ภาชนะที่ทนต่อการแทงทะลุและการกัดกร่อนของ สารเคมีป้องกันการรั่วไหล ซึ่งบรรจุไม่เกิน 3ใน4 ของความจุภาชนะ ส่วนขยะติดเชื้อที่มิใช่ของมีคม ให้ใส่ในถังขยะที่มีฝาเปิดปิดมิดชิด บรรจุได้ไม่เกิน 2 ใน3ส่วน มีถุงสีแดงทึบแสง ข้อความสีดำเตือนว่า ห้ามเปิด ห้ามนำกลับมาใช้อีก ขยะติดเชื้ออันตราย และมีรูปหัวกะโหลกไขว้คู่กับตราสัญลักษณ์ที่ใช้ระหว่างประเทศติดอยู่ด้วย 2/3
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 11/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.1.10 อุปกรณ์ทุกชนิดที่เปื้อนเลือด หรือสิ่งส่งตรวจอื่นๆ ให้ฆ่าเชื้อก่อน นำไปทำความสะอาดเพื่อใช้ต่อไป ( ตามเอกสารการกำจัดขยะและ การทำลายสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ(WI-LAB-02) ถ้าเป็นไปได้ ควรเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง 8.1.11 ห้ามรับประทานอาหาร ดื่ม สูบบุหรี่ หยิบคอนแทคเลนส์ เก็บอาหาร ใช้เครื่องสำอางในห้อง ปฏิบัติงานตรวจวิเคราะห์ 8.1.12 หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติงานกับวัสดุติดเชื้อแล้ว ให้ทำความสะอาดโต๊ะปฏิบัติงานด้วยน้ำยา 0.5% Sodium hypochlorite หรือ 70% alcohol 8.1.13 ถอดถุงมือ และล้างมือด้วยสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติงาน 8.1.14 ห้องปฏิบัติการควรปิดอยู่เสมอขณะปฏิบัติงาน และไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง เด็ก และสัตว์เลี้ยง เข้ามาบริเวณที่ทำงาน 3/4
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 12/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.1.15 ห้ามเก็บอาหารในตู้เย็นที่ใช้เก็บน้ำยาตรวจวิเคราะห์ และสิ่งส่งตรวจ 8.2 แนวปฏิบัติเมื่อถูกเลือดหรือสารน้ำจากร่างกายผู้ป่วยหรือจากสิ่งส่งตรวจ 8.2.1 แจ้งให้ผู้ร่วมงานทราบ ในกรณีที่เกิดเหตุจะได้มีผู้ช่วยเหลือ
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 13/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.2.2 ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้ 8.2.2.1 เมื่อถูกเข็มหรือของมีคมที่เปื้อนเลือดผู้ป่วยตำหรือบาดที่ผิวหนังหรือกระเด็นถูกผิวหนังของ ร่างกายที่มีบาดแผล ให้รีบชำระล้าง บาดแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำและสบู่หรือเช็ดด้วย 70% alcohol ทันที 8.2.2.2 ถ้าเลือด หรือ สารน้ำจากผู้ป่วยกระเด็นเข้าปาก ให้บ้วนน้ำลายทิ้งให้เร็วที่สุดและล้างปาก กลั้วคอด้วยน้ำสะอาดหรือ 0.9 %NSS มากๆทันที 8.2.2.3 ถ้าเลือดหรือสารน้ำจากผู้ป่วยกระเด็นเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหรือ 0.9 %NSS มากๆ ทันที 8.2.2.4 รายงานผู้บังคับบัญชาเบื้องต้น 8.2.2.5 ไปพบแพทย์ภายใน 2 ชั่วโมงที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินหรือกลุ่มงานเวชกรรมสังคม 8.2.2.6 บันทึกรายงานการเกิดอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงานไว้ด้วยทุกครั้งโดยใช้โปรแกรมระบบ HRMS เพื่อประโยชน์ในการติดตามเฝ้าระวังหากเกิดการเจ็บป่วยตามมาภายหลัง และวางแผน ป้องกัน แก้ไขต่อไป 8.3 แนวทางปฏิบัติต่อสิ่งส่งตรวจ 8.3.1 เมื่อภาชนะบรรจุเชื้อจุลชีพ สิ่งส่งตรวจหกหรือหล่นตกแตกบนพื้นนอกตู้BSC 8.3.1.1 แจ้งผู้ร่วมงานให้ทราบ รวมทั้งการติดป้ายหรือสัญลักษณ์เตือนบริเวณที่เกิดเหตุ และรอสักครู่ เพื่อให้ละอองฟุ้งกระจายตกลงหมดจากอากาศก่อน (หากมีการเปื้อนเสื้อผ้าให้นำใส่ลงในถุงพลาสติกสีแดง แล้วนำไปนึ่งฆ่าเชื้อก่อนนำไปซัก-รีด) 8.3.1.2 สวมเครื่องป้องกันอันตราย ได้แก่ เสื้อคลุม, ถุงมือ, แว่นตานิรภัย, ผ้าปิดปาก-จมูกและ รองเท้านิรภัย ขณะจัดการกับของที่หก 8.3.1.3 ใช้ผ้าหรือกระดาษซับคลุมบริเวณที่หกแล้วค่อยๆเทน้ำยาฆ่าเชื้อลงไป โดยให้เทจากด้านนอก เข้ามาด้านใน ทิ้งระยะเวลาให้น้ำยาฆ่าเชื้อสัมผัสกับของที่หก นานอย่างน้อย 15 นาที 8.3.1.4 หากมีแก้วแตกให้ใช้ปากคีบ ( forceps ) เก็บเศษแก้วใส่ลงในภาชนะเก็บของมีคม (ห้ามหยิบวัสดุมีคมที่ติดเชื้อด้วยมือเปล่า) 8.3.1.5 จากนั้นใช้ปากคีบรวบผ้าหรือกระดาษซับจากด้านนอกเข้าหาด้านในทิ้งลงในถังขยะติดเชื้อสี แดง 8.3.1.6 ถอดถุงมือและเปลี่ยนถุงมือใหม่ โปรดระวัง อันตราย BEWARE DANGER
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 14/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.3.1.7 นำผ้าหรือกระดาษซับที่ชุบน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดบริเวณที่ของหกอีกรอบ และเก็บทิ้งลงในถังขยะ ติดเชื้อสีแดง 8.3.1.8 ถอดถุงมือ ถอดอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหลือและล้างมือทำความสะอาด 8.3.1.9 เปิดใช้พื้นที่ได้ตามปกติหลังจากได้ทำความสะอาดและกำจัดการปนเปื้อนเสร็จสมบูรณ์ 8.3.1.10 รายงานต่อเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยและหัวหน้าห้องปฏิบัติการ และบันทึกรายงาน อุบัติการณ์ในโปรแกรมระบบ HRMS 8.3.2 เมื่อเชื้อจุลชีพ สิ่งส่งตรวจหกหล่นในตู้ชีวนิรภัย( BSC ) 8.3.2.1 ห้ามปิดเครื่อง ให้ตู้ทำงานขณะทำความสะอาด 8.3.2.2 สวมเครื่องป้องกันอันตราย(PPE) 8.3.2.3 ใช้กระดาษซับคลุมทับบริเวณที่มีการหก จากนั้น ค่อยๆเทน้ำยาฆ่าเชื้อลงบนกระดาษซับ ให้น้ำยาฆ่าเชื้อสัมผัสกับของที่หกประมาณ 15-30 นาที 8.3.2.4 จากนั้นคีบกระดาษซับทิ้งในถุงขยะติดเชื้อภายในตู้ 8.3.2.5 กรณีมีการหกลงไปภายในถาดใต้พื้นผิวตู้ชีวนิรภัย ให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเทให้ท่วมผิวหน้าของ ผิวตู้ และพื้นผิวภายในพื้นที่ทำงานทิ้งไว้ 15 นาที จึงเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อ 8.3.2.6 ใช้กระดาษชุบน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดผนังตู้ด้านใน พื้นที่ทำงานและอุปกรณ์ที่อยู่ภายในตู้ 8.3.2.7 ถอดถุงมือและเปลี่ยนถุงมือใหม่ โดยถอดภายในตู้ชีวนิรภัย และทิ้งในถุงขยะติดเชื้อภายใน ตู้ 8.3.2.8 ใช้กระดาษซับชุบน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณที่ของหกอีกหนึ่งรอบ 8.3.2.9 ให้ตู้ชีวนิรภัยทำงานต่อไปอีกอย่างน้อย 10 นาที 8.3.2.10 ทิ้งขยะในถุงขยะติดเชื้อภายในตู้ 8.3.2.11 ถอดถุงมือและทิ้งในถุงขยะติดเชื้อภายในตู้ 8.3.2.12 ล้างมือทำความสะอาด 8.3.2.13 รายงานต่อเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยและหัวหน้าห้องปฏิบัติการ และบันทึกรายงาน อุบัติการณ์ในโปรแกรมระบบ HRMS 8.3.3 เมื่อเชื้อจุลชีพ สิ่งส่งตรวจหก หรือหลอดแตกภายในเครื่องปั่นเหวี่ยง 8.3.3.1 แจ้งผู้ร่วมงานให้ทราบ รวมทั้งการติดป้ายหรือสัญลักษณ์เตือน 8.3.3.2 ห้ามเปิดฝาเครื่องทันที รอให้ละอองฟุ้งกระจายตกลงก่อนประมาณ 30 นาที 8.3.3.3 สวมเครื่องป้องกันอันตราย โปรดระวัง อันตราย BEWAR DANGER
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 15/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.3.3.4 หากมีแก้วแตก ให้ใช้ปากคีบคีบเศษแก้วทิ้งในถังขยะสำหรับทิ้งของมีคม 8.3.3.5 ถอดโรเตอร์ ( rotor ) ออกไปใส่ไว้ในตู้ชีวนิรภัย( BSC )ที่ใกล้ที่สุด จากนั้นจึงทำความ สะอาดด้วยวิธีที่เหมาะสมสำหรับโรเตอร์แต่ละ ชนิด เช่น นำไปนึ่งฆ่าเชื้อ หรือ แช่ใน น้ำยาฆ่าเชื้ออย่างน้อย 10 นาที 8.3.3.6 ใช้กระดาษซับคลุมบริเวณที่มีการหกจากนั้นค่อยๆเทน้ำยาฆ่าเชื้อลงบน กระดาษซับ 8.3.3.7 ทิ้งระยะเวลาให้น้ำยาฆ่าเชื้อสัมผัสกับของที่หกนานอย่างน้อย 15 นาที 8.3.3.8 ใช้ที่คีบรวบกระดาษซับทิ้งในถุงขยะติดเชื้อ สีแดง 8.3.3.9 ใช้กระดาษซับชุบน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดบริเวณพื้นผิว ด้านในตัวเครื่อง รวมถึงฝาเครื่องด้านใน 8.3.3.10 ทิ้งกระดาษซับในถุงขยะติดเชื้อสีแดง 8.3.3.11 ถอดถุงมือและเปลี่ยนถุงมือใหม่ 8.3.3.12 ทำตามขั้นตอน 8.3.3.6-8.3.3.10 อีกหนึ่งรอบ 8.3.3.13 ถอดถุงมือ ถอดเครื่องป้องกันอันตรายส่วนบุคคลอื่นๆและล้างมือให้สะอาด 8.3.3.14 รายงานต่อเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หัวหน้าห้องปฏิบัติการและบันทึกรายงานอุบัติการณ์ ใน โปรแกรมระบบ HRMS 8.4 แนวปฏิบัติต่อสารเคมีและวัตถุมีพิษ 8.4.1 แนวปฏิบัติทั่วไปสำหรับห้องเตรียมน้ำยาหรือสารเคมี 8.4.1.1 ระวังการสัมผัสกับสารเคมี โดยใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal protective equipment) หรือ PPE เช่น อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับลูกตาและใบหน้า (Eye protection) ประกอบด้วยแว่นตาประเภทต่างๆ (Glasses, goggles , face shield) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการใช้เพื่อ ป้องกันอันตรายในระดับที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามควรมีการทำความสะอาด และตรวจสอบ อุปกรณ์เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เสื้อกาวน์(Laboratory coat) เสื้อกาวน์ใช้สวมทับชุดปกติระหว่างปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการปนเปื้อน จากฝุ่น ผง ตลอดจนการหก กระเซ็นของสารเคมี เสื้อกาวควรใช้เนื้อผ้าที่เป็นผ้าฝ้าย หรือทำจากใยสังเคราะห์ประเภท Tyvek หรือ
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 16/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ Nomex ไม่ควรใช้วัสดุประเภท Rayon หรือ Polyester เนื่องจากเป็นวัสดุที่ติดไฟง่าย ซึ่งจะก่อให้เกิด อันตรายต่อผู้สวมใส่ ควรได้มีการทำความสะอาดเสื้อกาวน์อย่างสม่ำเสมอ และควรถอดเสื้อกาวน์ออก ทุกครั้งเมื่อออกจากห้องปฏิบัติการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและสารเคมี รองเท้า ควรสวมรองเท้าตลอดเวลาที่ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ รองเท้าที่ใช้สวมใส่ในห้องปฏิบัติการ ควรเป็นรองเท้าที่ปกปิดนิ้วเท้า เพื่อป้องกันเท้ากรณีเกิดการหก กระเซ็นของสารเคมี ทั้งนี้ไม่ควรใส่ รองเท้าแตะ รองเท้าผ้า หรือรองเท้าส้นสูง
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 17/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ถุงหุ้มรองเท้า ( shoe cover/boot cover) ถุงมือ (Gloves) การจะเลือกใช้ถุงมือประเภทใด ขึ้นอยู่กับชนิด และประเภทของสารเคมีที่จะต้องปฏิบัติงานด้วย หลีกเลี่ยงการใช้ถุงมือกันความร้อนหรือความเย็นที่ทำจากวัสดุ Asbestos เนื่องจากเป็นวัสดุที่อาจ ก่อให้เกิดมะเร็ง (carcinogen) ถุงมือที่ใช้กันสารเคมี ควรทำจากยางธรรมชาติ หรือ วัสดุประเภท Neoprene, Polyvinyl chloride, Nitrile Butyl ควรตรวจสภาพของถุงมือก่อนใช้ทุกครั้ง เมื่อเลิกใช้ ก่อนที่จะถอดถุงมือออกควรล้างมือ ถอดถุง มือทุกครั้งเมื่อออกจากห้องปฏิบัติการ และไม่ควรไปจับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ปากกา ขณะที่ยังสวมใส่ถุงมือ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีไปยังอุปกรณ์เหล่านั้น 1. ถุงมือป้องกันเชื้อโรคและสารเคมี ถุงมือยางธรรมชาติ ใช้กับสารเคมีไม่ได้ ถุงมือยางสังเคราะห์ ใช้ กับสารเคมีได้ 2.ถุงมือป้องกันอุณหภูมิทำจากแร่ใยหิน อลูมิเนียม หนัง ผ้าฝ้าย 3.ถุงมือป้องกันไฟฟ้า ทำจากยางชนิดพิเศษ ต้องสวมถุงมือหนังด้วยทุกครั้ง 4.ถุงมือป้องกันการ-ขีดข่วน ทำจากผ้า หนัง ตาข่ายลวด
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 18/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ หมวกคลุมผม ( Surgical cap) อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ อุปกรณ์ช่วยหายใจ และหน้ากากป้องกันไอระเหย (Respirator and face mask) 1. หน้ากากกรองอากาศ กรองอนุภาคที่แขวนลอยในอากาศ เช่นฝุ่นละออง จุลชีพ แต่ไม่สามารถกรอง ก๊าซและไอสารเคมี หน้ากากคาร์บอน -surgical mask กรองอนุภาคขนาดเล็กสุด 5 ไมครอน ป้องกันไม่ให้ละอองหรือของเหลว เสมหะ น้ำมูก น้ำลายแพร่กระจาย แต่ไม่สามารถป้องกันจุลชีพก่อโรคเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ทุกชนิด ราคาถูก หาซื้อง่าย น้ำหนักเบา สวมได้ไม่แนบสนิท -
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 19/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 2. หน้ากากกรองอากาศชนิดใช้แล้วทิ้ง (particulate respirator) กรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ทิ้งเมื่อเสียรูปทรงหรือมีสิ่งบ่งชี้ว่าไม่เหมาะสมที่จะใช้งานต่อไป มีราคาแพง -หน้ากากพร้อมเครื่องกรองอากาศแบบครอบครึ่งหน้าและเต็มใบหน้า 3. เครื่องกรองอากาศที่จัดส่งอากาศ มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูง มีชนิดมีสายส่งอากาศที่ใช้ในห้องปฏิบัติการระดับ4 และชนิดมีถังอากาศ สะดวกพกพาแต่ใช้ในเวลา จำกัด 8.4.1.2 การใช้สารเคมีที่เป็นพิษต่อสุขภาพโดยการหายใจต้องทำในตู้ดูดควัน (Fume hood) ตู้ดูดควัน ต้องสามารถดูดอากาศได้ไม่น้อยกว่า 80-120 ฟุต /นาที เมื่อฝาตู้ (Sash) เปิดที่ระดับ 18 นิ้ว การใช้ตู้ดูดควัน ควรมีข้อพึงปฏิบัติ ดังนี้ 1. ระหว่างปฏิบัติงาน ฝาตู้ดูดควัน (Sash) ต้องเปิดไม่เกิน 18 นิ้ว 2. อุปกรณ์ สารเคมีที่ใช้ปฏิบัติงานในตู้ดูดควัน ควรอยู่ห่างจากขอบฝาตู้ เข้าไปด้านในอย่างน้อย 6 นิ้ว 3. ควรเปิดพัดลมของตู้ดูดควันให้ทำงานตลอดเวลาที่มีสารเคมีอยู่ภายในตู้ดูดควัน 4. ไม่ควรใช้ตู้ดูดควันเป็นที่เก็บสารเคมีเนื่องจากทำให้ลดประสิทธิภาพการทำงานของตู้ และกีด ขวางการปฏิบัติงาน ข้อระวังการใช้สารเคมี o ปิดฉลากสารเคมีและน้ำยาเคมีทุกครั้ง และเปลี่ยนทันทีเมื่อป้ายฉีกขาดหรือลบเลือน o อ่านฉลากก่อนหยิบและเมื่อใช้แล้วทุกครั้ง ป้องกันการหยิบผิด o ไม่วางสารเคมีที่เกิดปฏิกิริยาระหว่างกันง่ายไว้ใกล้กัน ตัวอย่างสารเคมีที่ไม่ควรจัดเก็บร่วมกัน
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 20/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ที่มา : คู่มือความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ(Laboratory Safety Manual) และ แผนจัดการสารเคมี (Chemical Hygiene Plan) (fisheries.go.th) 8.4.1.3 การเจือจางสาร ให้เทกรดเข้มข้นลงในน้ำหรือลงสู่น้ำยาที่เจือจางกว่าเสมอ ควรสวม แว่นตานิรภัยและทำในตู้ดูดควัน ( fume hood ) 8.4.1.4 วางสารเคมีในชั้นที่มั่นคงแข็งแรง 8.4.1.5 ไม่ควรวางสารเคมีบริเวณทางเดินหรือใกล้ประตูเข้า-ออก 8.4.1.6 ไม่ควรวางสารเคมีใกล้ท่อระบายน้ำ ใต้หรือในอ่างน้ำ 8.4.2 แนวปฏิบัติเมื่อสารเคมีหก โดยใช้ Chemical spill kit 8.4.2.1 ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดการหกรั่วไหล(Spill) ของสารเคมีภายในห้องปฏิบัติการ โปรดระวัง อันตราย BEWARE DANGER
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 21/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.4.2.1.1สารเคมีที่เป็นของเหลว 8.4.2.1.1.1 กั้นพื้นที่บริเวณที่มีการหกของสารเคมี และติดป้ายเตือน 8.4.2.1.1.2 สวมเครื่องป้องกันอันตรายส่วนบุคคล 8.4.2.1.1.3 ถ้าสารที่หกเป็นกรดให้ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต ( NaHCO3 )หรือ Sodium Carbonate สะเทินให้เป็นกลาง หากสารที่หกเป็นด่าง ให้สะเทินด้วยกรดบอริกหรือกรดซิตริก จากนั้นใช้แผ่นทดสอบ ความเป็นกรด-ด่างทดสอบความเป็นกลาง แล้วจึงตามด้วยตัวดูดซับ 8.4.2.1.1.4 ทำการดูดซับสารเคมีที่หกด้วยทรายหรือวัสดุดูดซับอื่น โดยโรยสารดูดซับจากรอบ นอกเข้าสู่ภายใน 8.4.2.1.1.5 หากสารที่หกเป็นของเหลวไวไฟ ให้ใช้ทรายซับและนำไปจุดเผาไฟในที่ปลอดภัย หรืออาจใช้น้ำมากๆล้างถ้าเป็นของเหลวที่ผสมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ 8.4.2.1.1.6 ถ้าเป็นสารปรอทหก ให้กวาดมากองรวมกันและใช้ผงกำมะถันพรมลงไป ปรอทจะ เปลี่ยนเป็นสารซัลไฟด์ แล้วจึงเก็บกวาดโดยใช้เข็มฉีดยาหรือใช้แม่เหล็กช่วยในการ รวมตัวของหยดปรอท 8.4.2.1.1.7 เก็บกวาดวัสดุดูดซับให้หมด แล้วนำไปกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไป 8.4.2.1.1.8 ทำความสะอาดบริเวณที่สารเคมีหกด้วยน้ำและน้ำยาทำความสะอาด 8.4.2.1.1.9 แจ้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรือหัวหน้าห้องปฏิบัติการและบันทึกรายงาน อุบัติการณ์ในโปรแกรมระบบ HRMS 8.4.2.1.2 สารเคมีที่เป็นของแข็ง 8.4.2.1.2 .1 ให้ใช้แปรงกวาดรวมกันใส่ในที่ตักผงหรือกระดาษแข็งก่อน แล้วนำไปใส่ภาชนะที่มีฝา ปิด มิดชิด โดยให้ระมัดระวังการสัมผัสสารเคมีโดยตรงและ การฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง 8.4.2.1.2.2 ทำความสะอาดบริเวณที่สารเคมีหกด้วยน้ำและน้ำยาทำความ สะอาด 8.4.2.1.2.3 แจ้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรือหัวหน้าห้องปฏิบัติการ และบันทึกรายงานอุบัติการณ์ ใน โปรแกรมระบบ HRMS 8.4.3 แนวปฏิบัติเมื่อสารเคมีเข้าตา 8.4.3.1 ห้ามใช้วิธีทำให้เป็นกลาง ก่อนล้างด้วยน้ำ 8.4.3.2 เปิดน้ำที่eye washer ด้วยการใช้มือผลัก(push bar) ให้น้ำพ่นเข้าตาผ่านทางฐานจมูก ไม่ให้น้ำ พุ่งเข้าลูกตาโดยตรง และใช้นิ้วบังคับเปลือกตาเพื่อให้น้ำล้างตาได้ทั่วถึงด้วยน้ำปริมาณ มากๆ
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 22/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ประมาณ 15นาทีหรือถ้าไม่มีอ่างล้างตาให้ลืมตาในน้ำจำนวนมากๆ 8.4.3.3 ไปพบแพทย์ภายใน 2 ชั่วโมงที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน 8.4.3.4 แจ้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรือหัวหน้าห้องปฏิบัติการ และบันทึกรายงานอุบัติการณ์ ในโปรแกรมระบบ HRMS อ่างล้างตา และที่ล้างตัวฉุกเฉิน (Emergency eyewash fountain and safety shower) ใช้ในกรณีเกิดอุบัติเหตุสารเคมีอันตรายหกราดตัว หรือกระเด็นเข้าตา ซึ่งอาจก่อให้เกิด อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต หรือ ทุพลภาพต่อผู้ปฏิบัติงานได้ ที่มา : https://www.acpools.com.au/content/product/thumb/Emergency_Shower__Eye_Wash_Safety_Sign3833-2144.jpg - สถานที่ติดตั้ง ควรอยู่ห่างจากที่ปฏิบัติงานประมาณ 25-50 ฟุตหรือใช้เวลาในการเข้าถึงได้ไม่เกิน 10 วินาที โดยไม่มีสิ่งกีดขวางในระหว่างทาง - ควรมีการตรวจสอบประสิทธิภาพของที่ล้างตา ล้างตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง - น้ำที่ใช้ในการล้างตา อาจใช้น้ำเกลือหรือน้ำปราศจากเชื้อแทนได้
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 23/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 8.4.4 แนวปฏิบัติเมื่อสารเคมีหกรดผิวหนัง 8.4.4.1 ให้ถอดถุงมือ เสื้อผ้าที่เปื้อนสารเคมีออกให้เร็วที่สุด 8.4.4.2 เปิดน้ำด้วยการเหยียบที่เปิดด้วยเท้า(foot paddle) แล้วล้างตัวด้วยน้ำประปาหรือน้ำที่มี คุณภาพเทียบเท่าน้ำประปาไหลผ่านปริมาณมากๆด้วยฝักบัวนิรภัย นานอย่างน้อย 15 นาที 8.4.4.3 ไปพบแพทย์ภายใน 2 ชั่วโมงที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน 8.4.4.4 แจ้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรือหัวหน้าห้องปฏิบัติการ และบันทึกรายงานอุบัติการณ์ใน โปรแกรมระบบ HRMS 8.4.5 แนวปฏิบัติเมื่อสารเคมีเข้าปาก 8.4.5.1 กรณีที่เป็นสารเคมีทั่วไปที่ไม่กัดกร่อน - ล้างปากด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้ง - ดื่มน้ำมากๆ เพื่อเจือจางความเข้มข้น - ทำให้อาเจียน - รีบไปพบแพทย์ที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน - แจ้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยหรือหัวหน้าห้องปฏิบัติการ และบันทึกรายงานอุบัติการณ์ใน โปรแกรม ระบบ HRMS 8.4.5.2 กรณีที่เป็นสารกัดกร่อน เช่น กรดหรือด่าง - ล้างปากด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้ง - ห้ามทำให้อาเจียน - ดื่มน้ำมากๆ เพื่อเจือจางความเข้มข้น - หากเป็นกรด ให้ดื่มน้ำปูนใส นม - หากเป็นด่าง ให้ดื่มน้ำส้มสายชู น้ำมะนาว หรือกรดอะซิติก เข้มข้น 1% - แจ้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรือหัวหน้าห้องปฏิบัติการ และบันทึกรายงานอุบัติการณ์ ในโปรแกรมระบบ HRMS 8.4.6 แนวปฏิบัติเมื่อสูดไอสารเคมี 8.4.6.1 หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อได้รับสารเคมีผ่านการสูดดม 8.4.1.6.1 รีบย้ายออกมาในพื้นที่อากาศบริสุทธิ์ 8.4.1.6.2 หากอาการไม่รุนแรงควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดการสูดดมสารเคมี 8.4.1.6.3 ประเมินการหายใจและการเต้นของหัวใจ ถ้าไม่มีให้ผายปอดและนวดหัวใจ 8.4.1.6.4 รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 24/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 9.0 การคำนวณ การเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อ 9.1 การเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อ 0.5% Sodium hypochlorite - ใช้ 10 % คลอรีนน้ำจำนวน 50 มล. ( ขวดเล็ก) เทลงในน้ำประปา (ขวดใหญ่) 950 มล. - ผสมให้เข้ากันดี โดยพลิกขวดกลับไป-กลับมา และนำไปใช้ได้ทันที หากใช้จำนวนน้อย สามารถ ปรับส่วนผสมได้ โดยใช้ 10 % คลอรีนน้ำจำนวน 25 มล. ( ขวดเล็ก)และเทลงใน น้ำประปา (ขวดใหญ่) 475 มล. 10.0 การควบคุมคุณภาพ 10.1 ตรวจสอบความครบถ้วนของอุปกรณ์และอายุการใช้งานของน้ำยาและสารเคมีใน First Aids Kit ทุก 1 เดือน 10.2 ตรวจสอบความครบถ้วนของอุปกรณ์และอายุการใช้งานของน้ำยาและสารเคมีใน Chemical Spill Kit และBiological spill kit ทุก 1 เดือน 10.3 ตรวจสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ป้องกันภัย เช่น อ่างล้างตาและที่ล้างตัวฉุกเฉิน, ถัง ดับเพลิง, อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 10.4 ประเมินระบบความปลอดภัยทางห้องปฏิบัติการโดยหน่วยงานภายนอกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 11.0 การบันทึกข้อมูลและเอกสารที่ใช้ 11.1 โปรแกรมระบบ Healthcare Risk Management System (HRMS) สำหรับบุคลากร ร.พ.พระปกเกล้า ช่องทางเข้าระบบ ไปที่ http:// ppk.thai-nrls.org 11.2 แบบบันทึกการตรวจสอบอุปกรณ์ชุดทำความสะอาดสารเคมีหก 11.3 แบบบันทึกการตรวจสอบอุปกรณ์ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น 11.4 แบบบันทึกการตรวจสอบอุปกรณ์ชุดทำความสะอาดสารชีวภาพหกหล่น 11.5 แบบประเมินระบบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ 11.6 แผนการป้องกันและพัฒนาจากการเยี่ยมสำรวจความปลอดภัยทางห้องปฏิบัติการ เลข 13 หลักของบัตรประจำตัวประชาชน USERNAME a12345 PASSWORD
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 25/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ 12.0 รายละเอียดอื่นๆ “ ไม่มี ” 13.0 ภาคผนวก 13.1 ภาคผนวก 1 1-1 ชุดทำความสะอาดสารเคมีหก ( Chemical Spill Kit ) 1-2 รายการอุปกรณ์ในกล่องชุดทำความสะอาดสารเคมีหก 1-3 แบบบันทึกการตรวจสอบอุปกรณ์ชุดทำความสะอาดสารเคมีหก 13.2 ภาคผนวก 2 2-1 ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ( First Aids Kits )และรายการอุปกรณ์ในกล่อง 2-2 แบบบันทึกการตรวจสอบอุปกรณ์ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น 13.3 ภาคผนวก 3 3-1 ชุดทำความสะอาดสารชีวภาพหกหล่น (Biological Spill kits)และรายการ อุปกรณ์ในกล่อง 3-2 แบบบันทึกการตรวจสอบอุปกรณ์ชุดทำความสะอาดสารชีวภาพหกหล่น 13.4 ภาคผนวก 4 แบบประเมินระบบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ 13.5 ภาคผนวก 5 แผนการป้องกันและพัฒนาจากการเยี่ยมสำรวจความปลอดภัยทางห้องปฏิบัติการ (F-WI-LAB-01-01)
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 26/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 1-1 ชุดทำความสะอาดสารเคมีหก ( Chemical Spill Kit )
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 27/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 1-2
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 28/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 1-3
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 29/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 2-1 ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ( First Aids Kits )
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 30/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 2-2
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 31/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 3-1 ชุดทำความสะอาดสารชีวภาพหกหล่น (Biological Spill kits)
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 32/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 3-2
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 33/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 4
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 34/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 4
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 35/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 4
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 36/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 4
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 37/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 4
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 38/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 4
กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า วิธีปฏิบัติงานที่ : WI-LAB-01 หน้า 39/39 แก้ไขครั้งที่ 00 เรื่อง การป้องกันการติดเชื้อและความปลอดภัยจากการให้บริการ วันที่ประกาศใช้ 10 มกราคม 2567 ทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ภาคผนวก 5 F-WI-LAB-01-01