นิทรรศการศิลปนิพนธ์ งอกงามจากแผ่นดิน สาขาประติมากรรมไทย 2565

“ งอกงามจากแผ่นดิน ”

Flourish from the land

นิทรรศการศิลปนิพนธอ์ อนไลน์
สาขาวชิ าประติมากรรมไทย วิทยาลยั เพาะชา่ ง มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสินทร์

ประจาปี การศึกษา 2564

รบั ชมผ่าน Facebook Page : ประติมากรรมไทย เพาะชา่ ง –Thai Sculpture

“ งอกงามจากแผ่นดิน ”

Flourish from the land

ประติมากรรมไทย เป็ นผลงานศิ ลปะอันเกิ ดข้ึนบนผืนแผ่นดินไทย ต้ังแต่
โบราณกาล จากการวัสดุที่มี ในท้องถิน่ ดิน หิ น ไม้ ปูน และวัสดุอื่ นๆ มาสร้างสรรค์ เป็ น
ผลงานศิ ลปกรรมโดยเทคนิ คเชิ งช่ างเฉพาะถิ น่ เพื่อการบูชาพุ ทธศาสนาและสถาบัน
พระมหากษัตริย์ ซ่ึ งเป็ นสัญลักษณ์แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมื องในอดีต ก่อเกิด
เป็ นผลงานศิ ลปกรรมที่มี ความงามเป็ นเอกลักษณ์ สื บทอดมาจนถึงปั จจุบัน ให้ คนรุ่นหลัง
ได้ ศึ กษาเหตุ ปั จจั ยดั งกล่ าวมาข้างต้ น ล้ วนเป็ นความงามที่ เกิ ดบนแผ่นดิ นไทย อั น
ทรงคุณค่ าควรแก่การอนุรักษ์ สื บสานต่อยอดและพัฒนาต่อไป



ผลงาน

Performance

นายธนพล พลอยแดง “ขา้ พเจา้ มีความสนใจในเรื่อง กาพยห์ ่อ
Mr.Thanapon Ploydaeng โคลงประภาสธารทองแดง พระนิพนธ์ในเจา้
ฟ้ า-ธรรมธิเบศรชัยเชษฐสุริยวงศ์ จึงได้
ปี เกิด : 2542 ทาการศึกษา วิเคราะหข์ อ้ มูลอย่างลึกซ้ ึง และ
ท่ีอยู่ : 120 ม.6 ต.บา้ นดา่ นนาขาม อ.เมือง นาเอาเอกลักษณ์หรือลักษณะเด่นในส่วนของ
การแต่งกลบทของกลอนมาสร้างสรรค์เป็ น
อุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ 53000 ผลงานศิลปกรรม โดย ผ่านรูปแบบภาพสตั ว์
อีเมล : [email protected] จากตูพ้ ระธรรมลายทองศิลปะสมยั อยุธยาตอน
เฟสบุค๊ : ก้งั 'งง ปลาย เพื่อตีความกาพยห์ ่อโคลงประภาสธาร
ทองแดงอันเป็ นบทประพันธ์ท่ีทรงคุณค่ า
การศึกษา ทางดา้ นวรรณศิลป์ สู่รูปแบบศิลปกรรมไทย
-ประถมศึกษา : โรงเรียนประชนอุทิศ รว่ มสมยั ”

จงั หวดั อุตรดิตถ์
-มัธยมศึกษา 1-3 : โรงเรียนเทศบาลวัด

ทา้ ยตลาด(กวธี รรมสาร) จงั หวดั อุตรดิตถ์
-ป ร ะก า ศนี ย บัต ร วิช า ชีพ : วิ ท ยา ลัย

อาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ จงั หวดั อุตรดิตถ์
-ปริญญาตรี : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช

ม ง ค ล รั ต น โ ก สิ น ท ร์ วิ ท ย า เ ข ต เ พ า ะ ช่ า ง
กรุงเทพมหานคร

ผลงานและรางวลั
-รางวัลร่วมแสดงผลงานในนิ ทรรศการ

“สถปัตยกรรมเรือนไมเ้ มืองแพร่” กิจกรรมสืบสาน
ศิลป์ ถิ่นแพร่ 2561

-เหรียญรางวัลนักเรียนดีเด่น ประจาปี
การศึกษา 2561 ในวาระ 107 ปี โรงเรียนเพาะ
ชา่ ง

นายธนพล พลอยแดง การสรา้ งสรรค์เป็ นผลงานเป็ นรูปแบบงาน
“กลบทเลื่อนลา” ของตนเอง โดยใชก้ ลบทเล่ือนมาแสดงออก
ประติกรรมดินเผา
56 X 127 ซม.

นายธนพล พลอยแดง เป็ นการคบื ระหวา่ งแบบรูปของศิลปกรรม สู่
“ชุดถอดแบบศิลปะอยุธยา” รปู แบบของงานวรรณกรรม
ประติกรรมดินเผา
แปรผนั ตามพ้ ืนท่ี

นายธนพล พลอยแดง
“ววั แดง”
เทคนิคผสม
18 x 36 x 100 ซม.

ชุดเร่ิมตน้ เป็ นการสรา้ งสรรคผ์ ลงานแบบเล่าเร่ืองตามบทกลอน

โคแดงแจง้ กินอยู่ ยนื เปนหมคู่ ูเ่ คยี งคา
ลกู นอ้ ยคอ่ ยตามมา เท่ียวเล็มรบดั กดั ปลายกิน ฯ
กินเกลียง
โคแดงแจง้ อยลู่ อ้ ม พรงั หนา้
ยนื เปนหมพู่ รอ้ มเพรียง แนมแม่
ลกู น้อยคอ่ ยตามเคียง ออดออ้ นปลายเคลีย ฯ
เท่ียวเล็มรบดั กดั หญา้

นายธนพล พลอยแดง ชุดพรรณนาตามวรรณกรรม
“นาคมากหมมู่ า”
ประติกรรมดินเผา ฝงู นาคมากหมมู่ า ดาน้าท่าหาอาหาร
39 x 49 x 54 ซม. ฝงู ปลามาพะพาน ขบไดถ้ นัดกดั กินเนือง ฯ
ดาขนาน
ฝงู นาคมากหมหู่ มวั แกลก่ ล้า
ดาน้าท่าหาอาหาร พะปาก
ฝงู ปลามาพอพาน ขบข้ ึนกินเนือง ฯ
ขบถนัดใตน้ ้า

นายธนพล พลอยแดง กลบทจากวรรณกรรม
“เล่ือนลา(ชุดถอดกลบทจากวรรณกรรม)”
ประติกรรมดินเผา ดูหนูส่รู ูงู งูสุดสูห้ นูสูง้ ู
16 x 16 x 43 ซม. หนูงสู ดู้ ูอยู่ รปู งทู ู่หนุมทู ู ฯ
พรูพรู
ชุดถอดกลบทจากวรรณกรรม ดูงูขฟู่ ูดฝู้ สุดสู้
เป็ นกลการใชค้ าที่อยใู่ นบล็อกเดียวกนั การ หนูสู่รูงงู ู งูอยู่
โผล่ไปโผล่มาของพยัญชนะ เปรียบเป็ น งูสหู้ นูหนูสู้ รปู ถูม้ ทู ู ฯ
บล็อกสี่เหล่ียมต่างขนาดท่ีซอ้ นกนั แต่ยงั คง หนูรงู้ งู ูรู้
รปู แบบของรูปทรงสี่เหลี่ยมอยู่

นายธนพล พลอยแดง เปรียบการโผล่ไปโผล่มาของพยญั ชนะ ที่ปรากฏ
“เลื่อนลา(ชุดถอดกลบทในวรรณกรรม)” อยใู่ นบทกลอน
ประติกรรมดินเผา
แปรผนั ตามพ้ ืนที่ กลบทจากวรรณกรรม

ดูหนูสรู่ ูงู งสู ุดสูห้ นูสูง้ ู
หนูงูสดู้ ูอยู่ รูปงูทู่หนุมทู ู ฯ
พรูพรู
ดูงูขฟู่ ดู ฝู้ สุดสู้
หนูสรู่ ูงูงู งูอยู่
งูสหู้ นูหนูสู้ รูปถูม้ ทู ู ฯ
หนูรงู้ ูงูรู้

นายธนพล พลอยแดง ชุดถอดกลบทในวรรณวรรณกรรม
“กระต่ายหลายพงคพ์ รรค”์
ประติกรรมดินเผา กระต่ายหลายพงศพ์ รรค์ เตน้ ชมจนั ทรห์ นั ตวั ตาม
แปรผนั ตามพ้ ืนที่ ซ่อนซุม้ ซุมเหลือหลาม ยามออกเลน่ เตน้ ชมจนั ทร์ ฯ
พรรคง์ าม
กระต่ายหลายพวกพอ้ ง ไล่เหลน้
ชมชื่นแสงจนั ทรต์ าม หลายเหลา่
ซอ่ นซุม่ ชุมเหลือหลาม โลดเล้ ียวชมกนั ฯ
ยามเมื่อออกเล่นเตน้

นายธนพล พลอยแดง
“คดั ลอกจากลายรดน้า วดั เซิงหวาย”
ประติกรรมดินเผา
26 x 45 x 46 ซม.

ชุ ดคัดลอกจากลายรดน้ า วัดเซิง หวาย
ศิลปกรรมสมยั อยุธยาตอนปลาย

นายสุเมธ น้อยมา “มหาสติปัฏฐาน เป็ นแนวทางในวิถีแห่ง
Mr. Sumat noima การเดินที่สมควรแก่การหลุดพน้ จากทุกขท์ ้งั ปวง
เป็ นการช้ ีใหเ้ ห็ถึงทุกข์ ท่ีเกิดข้ ึนไม่ว่าจะระดับ
ปี เกิด : 2542 ไหนก็ตาม เป็ นวิถีท่ีสอนใหผ้ ูค้ นนาไปปฏิบัติ
ที่อยู่ : 61/5(2) จรญั สนิทวงศ์ 19 แขวง ป รั บ ใ ช ้ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จ า วัน อ ย่ า ง มี ค ว า ม สุ ข ที่
บางขุนศรี เขตบางกอกนอ้ ย แทจ้ ริง”
อีเมล กรุงเทพมหานคร 10700
เฟสบุค๊ : [email protected]
: สุเมธ นอ้ ยมา

การศึกษา
-ประถมศึกษา โรงเรียนบา้ นตะเขข้ าน

สามคั คีวิทยา จงั หวดั สุโขทยั
-มธั ยมศึกษา โรงเรียนคีรีมาศพิทยาคม

จงั หวดั สุโขทยั
-ประกาศนี ยบัตรวิชาชีพ วิทยาลัย

อาชีวศึกษาสุโขทยั จงั หวดั สุโขทยั
-ปริญญาตรี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราช

มงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะ ช่าง
กรุงเทพมหานคร

ผลงานและรางวลั
-รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 การ

ประกวดศิลปะปูนป้ันแห่งประเทศไทย คร้ังที่
19 หัวขอ้ ตามรอยครูปูนป้ันสุโขทัย ระดับ
เยาวชน

-เหรียญรางวลั นักเรียนดีเด่น ประจาปี
การศึกษา ๒๕๖๑ ในวาระ ๑๐๗ ปี โรงเรียน
เพาะชา่ ง

นายสุเมธ น้อยมา จากการศึกษากาย เวทนา จิตน้ัน จึงทาใหเ้ ราไดเ้ ห็น
“จติ ใน กาย” ธรรมจริงๆ คือสภาวธรรม งานน้ ี จึงแสดงกายให้เห็น
เทคนิคผสม ธรรมกายอยา่ งชดั ๆวา่ กายเราที่เป็ นท่ีอาศยั น้ัน แทจ้ ริงแลว้
70 x 4 0x 100 ซม. กายไม่ใช่อยา่ งอ่ืนเป็ นเพียงธาตุหรือสภาวะธาตุต่างๆ ที่เขา้
มาประกอบรวมกนั เป็ นกาย และสภาวะต่างๆน้ ียงั มีการแปล
เปล่ียนไปตามปัจจยั แต่ท่ีแน่ชดั คือมีการ เกิดข้ ึน ต้งั อยู่ และ
ดับไปเป็ นสภาวะท่ีแน่ชัดจริงๆ งานน้ ีจึงทาใหเ้ ราไดส้ าเนีย
กวา่ ความไม่แน่นอนคือความแน่นอนที่แทจ้ ริง จึงไม่ควรไป
ยึดไปถืออะไรเราไว้ เพราะเหล่าน้ ีก็เป็ นเพียงสภาวะท่ีมา
ประกอบรวมกนั และวนั หนึ่งก็ตอ้ งแตกดบั ไปเป็ นธรรมดา

นายสุเมธ น้อยมา
“กาย ในกาย”
งานไฟเบอรก์ ลาส บนฐานหินอ่อน
70 x 40 x 90 ซม.

นั่ง เป็ นวิธีท่ีนิยมกันมากที่สุดในการเจริญสติเพราะเป็ นท่าที่สบายไม่อ่อน
เกินไปไม่แข็งเกินไป เป็ นท่าท่ีสามารถอยไู่ ดน้ านการนัง่ ส่วนใหญ่เลยจะกาหนดสติไปท่ีลมหายใจ
หรือที่เรียกวา่ อานาปานสติ กาหนดดูลมหายใจเขาออก หายใจเขา้ ก็รูห้ ายใจออกก็รู้ หายใจเขา้ ส้นั
ก็รหู้ ายใจออกส้นั ก็รู้ หายใจเขา้ ยาวก็รหู้ ายใจออกยาวก็รู้ การนัง่ เพื่อกาหนดสติจึงเป็ นท่ีนิยมและใช้
กนั อยา่ งแพร่หลายเพ่ือท่ีจะพฒั นาสมาธิตามหลกั มหาสติปัฏฐาน

นายสุเมธ นอ้ ยมา
“กาย ในกาย”
งานไฟเบอรก์ ลาส บนฐานหินออ่ น
70 x 40 x 90 ซม.

นอน เป็ นการกาหนดสติอีกรูปแบบหน่ึงพ่ีไม่ค่อยมีการนิยมกนั นะเพราะการนอนอาจทาใหเ้ ผลอหลบั ไดแ้ ต่
การนอนก็เป็ นวิธีการกาหนดสติรูปแบบหน่ึงโดยใหน้ อนหนั ขา้ งไปทางใดทางหน่ึงแลว้ เอามือรองศีรษะไวเ้ พ่ือเป็ นการบงั คบั
ตนเองไมใ่ หห้ ลบั และเป็ นการกาหนดสติไปท่ีลมหายใจตามหลกั อานาปานสติและพฒั นาสมาธิตามหลกั สติปัฏฐานต่อไป

นายสุเมธ น้อยมา
“กาย ในกาย”
งานไฟเบอรก์ ลาส บนฐานหินออ่ น
70 x 40 x 90 ซม.

ยืน เฉกเช่นเดียวกบั การเดินคือการกาหนดสติ
ไปท่ีลมหายใจ หรือกาหนดสติไวท้ ่ีเทา้ ของตน หรือกาหนดสติไปท่ี
จุดใดจุดหน่ึงเพื่อใหต้ ัวเองมีสติอยู่กับจุดน้ันเป็ นการกาหนดลม
หายใจก็ได้ เพื่อใหม้ ีสติที่จะพฒั นาสมาธิตามหลกั มหาสติปัฏฐาน
ต่อไป

นายสุเมธ นอ้ ยมา
“กาย ในกาย”
งานไฟเบอรก์ ลาส บนฐานหินอ่อน
70 x 40 x 90 ซม.

เดิน คือการกาหนดสติในการใช้
ชีวิตประจาวนั ส่วนมากจะใชว้ ิธีการเดินจงกรมแต่แทจ้ ริง
แลว้ การเดินในชีวิตประจาวันก็สามารถกาหนดสติได้
เพียงใหม้ ีสติรูเ้ ท่าทนั ในการเดินกาหนดรูใ้ นจุดใดจุดหน่ึง
เช่นกาหนดท่ีปลายน้ ิวเทา้ หรือกาหนดที่ลมหายใจก็ได้
เพื่อใหม้ ีสติ การเดินจึงเป็ นการกาหนดสติตามหลกั มหา
สติปัฏฐานในรูปแบบหนึ่ง

นายสุรอรรถ เนตรเเกว้ “ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ศิลปนิพนธช์ ุด
Mr. Suraaut Netekaew แมบ่ ทโนรา ขา้ พเจา้ ไดร้ บั แรงบนั ดาลใจมาจาก
ขา้ พเจา้ ไดไ้ ปพบเห็นการแสดงโนราเป็ นคร้ัง
ปี เกิด : 2542 แรกทาใหข้ า้ พเจา้ ประทบั ใจในการแสดงโนรา
ท่ีอยู่ : 1106/16 ถนน พรานนก แขวงบา้ น ประทบั ใจในการร่ายราของท่วงท่า ในท่วงท่าแต่
ชา่ งหล่อ เขตบางกอกน้อย ละท่ารามีความอ่อนชอ้ ยและเขม้ ขลังในการ
อีเมล กรุงเทพมหานคร แสดงจงึ ทาให้ ขา้ พเจา้ อยากสรา้ งผลงานแม่บท
เฟสบุค๊ : [email protected] โนราออกมาจากมุมมองการมองโนราของตัว
: Good Year ขา้ พเจา้ เอง”

การศึกษา
-ประถมศึกษา : โรงเรียนเทพกาญจนา

กรุงเทพมหานคร
-มัธยมศึ กษา : โรงเรี ยน ทวีธาภิ เศก

กรุงเทพมหานคร
-ปริญญาตรี : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช

ม ง ค ล รัต น โ ก สิ น ท ร์ วิ ท ย า เ ข ต เ พ า ะ ช่ า ง
กรุงเทพมหานคร

ผลงานและรางวลั
-

สุรอรรถ เนตรแกว้
“แม่บทโนรา ท่าเหาะเหนิ ,ท่า
เขาควาย,ท่าพรหมส่ีหน้า,ท่า
ข้ ีหนอน”
หล่อเรซ่ิน
14 x 24 x 58 ชม.

ชื่ อ จ ริ ง ข อ ง
ท่านช่ือคล้ายหรือนายคล้าย
ต่อมาไดร้ บั สมญานามว่าคลา้ ย
พรหม เมศ แต่ เป็ นช่ือท่ี ไ ม่
แพร่หลายนักท่านไดเ้ อาสมญา
นามคร้ังแรกของ(ท่านต้ังเป็ น
ชื่อสกุลในสมัยต่อมา)ส่วนชื่อ
ค ล้า ย ข้ ี ห น อ น เ ป็ น ช้ัน เ ป็ น
สมญานามท่ีชาวบา้ นชาวเมือง
ต้งั ใหภ้ ายหลงั คา ข้ ีหนอน เป็ น
ภาษาถ่ินใตห้ มายถึงกินรีดงั น้ัน
คาว่านอนข้ ีหนอนก็คือโนรา
กินรีน้ันเองที่เรียกกันเช่นน้ัน
เพราะว่าท่านช่ือคลา้ ยและรา
โ น ร า ส ว ย ง า ม ร า ว กั บ กิ น น รี
ฉะน้ัน

สุรอรรถ เนตรแกว้
“แมบ่ ทโนรา ท่าเหาะเหนิ ,ท่าเขาควาย,ท่าพรหมสี่หน้า,ท่าข้ ีหนอน”
หลอ่ เรซิ่น
18 x 22 x 41 ชม.

ท่าราโนราน้ันเป็ นท่าราท่ีจินตนาการมาจากธรรมชาติ ท่าเขาควาย
ท่ีเลียนแบบมาจากเขาควาย ท่าเขาควายถือว่าเป็ นท่าครูท่ีสาคญั เพราะเมื่อเราจะรา
ถวายเทวดา ครูหมอ เราก็จะซดั ท่าเขาควายข้ ึน เราจะราเป็ นสตั วท์ ี่มีฤทธ์ิอย่างครุฑ
เราก็ซดั ท่าเขาควาย ทา่ น้ ีมีความสาคญั สวยงามและคมขลงั

สุรอรรถ เนตรแกว้
“ท่าเหาะเหิน”
หล่อเรซ่ิน
18 x 21 x 42 ชม.

เพ่ือศึกษาและอนุรักษ์ ศึกษาถึง ท่วงท่าและท่ีมาความหมาย การ
แสดงและท่าโนราหก์ ารศึกษาในคร้งั น้ ีไดเ้ ห็นถึงเสน้ ของท่วงท่าในการราท่ีมีความอ่อน
ชอ้ ย เขม้ ขลงั และงดงามในแต่ละท่วงท่า(ท่าราโนราน้ันเป็ นท่าราท่ีจินตนาการมาจาก
ท่าทางร่ายราเหาะเหนิ ท่ีเลียนแบบมาจากเทวดา)

สุรอรรถ เนตรแกว้
“ท่าคลา้ ยข้ ีหนอน”
หล่อเรซ่ิน
19 x 23 x 41 ชม.

ช่ือจริงของท่านช่ือคลา้ ยหรือนายคลา้ ยต่อมาไดร้ บั สมญานามว่าคลา้ ยพรหมเมศ
แต่เป็ นชื่อท่ีไม่แพร่หลายนักท่านไดเ้ อาสมญานามคร้งั แรกของ(ท่านต้งั เป็ นชื่อสกุลในสมยั ต่อมา)
ส่วนช่ือคลา้ ยข้ ีหนอนเป็ นช้ันเป็ นสมญานามท่ีชาวบา้ นชาวเมืองต้ังใหภ้ ายหลังคา ข้ ีหนอน เป็ น
ภาษาถิ่นใตห้ มายถึงกินรีดังน้ันคาว่านอนข้ ีหนอนก็คือโนรากินรีน้ันเองที่เรียกกนั เช่นน้ันเพราะว่า
ท่านชื่อคลา้ ยและราโนราสวยงามราวกบั กินนรีฉะน้ัน

สุรอรรถ เนตรแกว้
“ท่าพรหมส่ีหน้า”
หลอ่ เรซ่ิน
17 x 25 x 40 ชม.

เพื่อศึกษาและอนุรกั ษ์ ศึกษาถึง ท่วงท่าและท่ีมาความหมาย การแสดงและท่า
โนราหก์ ารศึกษาในคร้งั น้ ีไดเ้ ห็นถึงเสน้ ของท่วงท่าในการราที่มีความอ่อนชอ้ ย เข้มขลงั และงดงาม
ในแต่ละท่วงท่า (ท่าพรหมส่ีหน้า เป็ นท่าราที่แสดงถึงความเจริญ กา้ วหน้า ความยิ่งใหญ่ มกั ใชใ้ น
ความหมายของการราอวยพร)

นายสุรอรรถ เนตรแกว้ ท่าราโนราน้ันเป็ นท่าราท่ีจินตนาการมา
“ท่าเขาควาย” จากธรรมชาติ ท่าเขาควาย ที่เลียนแบบมาจากเขาควาย ท่า
หลอ่ เรซ่ิน เขาควายถือว่าเป็ นท่าครูที่สาคญั เพราะเมื่อเราจะราถวาย
18 x 40 x 59 ชม. เทวดา ครูหมอ เราก็จะซดั ท่าเขาควายข้ ึน เราจะราเป็ นสตั ว์
ท่ีมีฤทธ์ิอย่างครุฑ เราก็ซดั ท่าเขาควาย ท่าน้ ีมีความสาคญั
สวยงามและคมขลงั



นายเจษฎา ลาญาติ “รอยพระพุทธบาทเป็ นสัญลักษณ์เพ่ือระลึกถึง
Mr. Jessada Layat พระพุทธเจา้ การเสด็จมาประทับหรือเสด็จมาแสดง
พุทธกิจ ณ สถานที่แห่งน้ัน ดังเช่นตานานรอยพระ
ปี เกิด : 2542 พุทธบาท 5 สถาน ซ่ึงเกิดข้ ึนก่อนมีการสร้าง
ที่อยู่ : 330 บางขุนพรหม เขตพระนคร พระพุทธรูปหรือรูปเคารพในพุทธศาสนา ในประเทศ
ไทยมีการจาลองรอยพระพุทธบาท ปรากฏหลักฐาน
กรุงเทพมหานคร 10200 มาต้งั แต่สมยั ทวารวดี จนถึงปัจจุบนั ซ่ึงมีการแสดงออก
อีเมล : [email protected] ในรูปแบบที่ต่างกนั ตามยุคสมัย ขนบธรรมเนียมทาง
เฟสบุค๊ : Jessada ศิลปะและความเชื่อของทอ้ งถ่ินจนเกิดเป็ นรูปแบบของ
รอยพระพุทธบาทมาจนถึงปัจจุบันท้ังน้ ีสัญลักษณ์ใน
การศึกษา รอยพระพุทธบาทอาจมีความคลาดเคล่ือนกนั อยู่บา้ ง
-ประถมศึกษา : โรงเรียนบา้ นโพนสวาง- เนื่องจากยุคสมยั ความเช่ือของมงคลที่แตกต่างกนั บา้ ง
เล็กน้อย ในทัศนะของคนปัจจุบันมีหลายมุมมองที่
กลางเจริญ จงั หวดั สกลนคร น่ าสนใจเก่ียวกับรอยพระพุทธบาทที่ นอกเหนื อจ าก
-มัธยมศึกษา 1-2 : โรงเรียนพระปริยตั ิ การมาเสด็จมาแสดงพุทธกิจหรือเข้ามาของพุทธ
ศาสนาแต่เป็ นการศึกษาเชิงลึก การใหค้ วามหมายของ
ธรรมพรหมวชิรญาณ กรุงเทพมหานคร สัญลักษณ์ การรับรู้ต่อรอยพุทธบาทไปจนถึงการ
-มัธยมศึกษา 3-6 : โรงเรียนวชิรมกุฏ ตีความเพื่อสรา้ งสรรค์ผลงานศิลปะ เช่น การมอง
สัญลักษณ์เป็ นเพียงมงคล 108 ประการหรือ
กรุงเทพมหานคร พระพุทธเจา้ เป็ นผูเ้ หนือจกั รวาลหรือการเสวยพระชาติ
-ปริญญาตรี : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี เพ่ือสรา้ งบารมีอนั เป็ นฐานสู่การเป็ นพระพุทธเจา้ ซึ่ง
ล้วนเป็ นประเด็นท่ีน่ าสนใจนามาสู่กระบวนการ
ราชมงคลรตั นโกสินทร์ วิทยาลยั เพาะชา่ ง สาขา สรา้ งสรรค์ในรูปแบบใหม่โดยอาศัยหลักการเหล่าน้ ี
ประติมากรรมไทย กรุงเทพมหานคร ศิลปนิพนธ์ชุดน้ ีจัดทาข้ ึนโดยอาศัยหลักการในรอย
พระพุทธบาทที่สามารถยึดโยงไปได้ โดยใชเ้ ทคนิค
ผลงานและรางวลั สานเสน้ โลหะ วิเคราะห์ทัศนธาตุและองค์ประกอบ
-ร่วมแสดงผลงาน ในการประกวดศิลปะ ศิลป์ จนเกิดผลงานศิลปะนิ พนธ์ชุดน้ ี เพื่ออธิบาย
หลักการและการนาเสนอในรูปแบบใหม่นับเป็ นงาน
ปนู ป้ันแหง่ ประเทศไทยคร้งั ที่ 19 พุทธศิลป์ ร่วมสมยั โดยอาศัยหลกั การทางพุทธศาสนา
-เหรียญรางวัลนักเรียนดีเด่น ประจาปี อยา่ งลงตวั ”

การศึกษา 2561 ในวาระ 107 ปี โรงเรียนเพาะ
ชา่ ง

นายเจษฎา ลาญาติ
“เหนือจกั รวาล”
สื่อผสม
แปรผนั ตามพ้ ืนที่

สญั ลกั ษณ์ในรอยพระพุทธบาท หมายถึง การเป็ นผูเ้ หนือจกั รวาลของพระพุทธเจา้ จกั รวาลในท่ีน้ ีไม่ใช่
จกั รวาลท่ีเป็ นแผ่นดิน ภูเขา พระอาทิตย์ พระจนั ทร์ แต่เป็ นระดบั สภาวะจิต คือ ภูมิท้งั 31 ยอ่ ลงได้ ภพ 3 คือ
กามภพ รูปภพ อรูปภพ หรือ ภูมิ 4 คืออบาย กามสุคติ รูปวจร อรูปาวจร ภูมิท้งั 31 หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านดว้ ย
กุศลกรรม อกุศลกรรม เวียนว่ายในวัฏฏะสงสาร แต่พระพุทธเจา้ เป็ นผูเ้ หนือภพภูมิเหล่าน้ ี คือ เป็ นผูพ้ น้
สงั สารวฏั

นายเจษฎา ลาญาติ สัญลักษณ์ท่ีปรากฏในรอยพระ
“เสวยพระชาติผ่านพระบาทสญั ลกั ษณ”์ พุทธบาท มีกลุ่มท่ีเป็ นจาพวกสัตวอ์ ยู่จานวนหนึ่ง
แผ่นทอเสน้ อลมู ิเนียม ซึ่งสตั วเ์ หล่าน้ ีมิไดม้ ีลกั ษณะเป็ นสตั วห์ ิมพานต์โดย
แปรผนั ตามพ้ ืนที่ ถ่ายเดียว จึงมีการตีความว่าเป็ นสญั ลกั ษณ์ของการ
เสวยพระชาติของพระพุทธเจา้ อุปมอุปไมยเป็ นเพียง
รู ป สัต ว์ ซึ่ ง บ า ร มี เ ป็ น ฐ า น น า ไ ป สู่ ก า ร เ ป็ น
พระพุทธเจา้ อีกท้งั สตั วเ์ หล่าน้ ียงั มีนัยยะถึงมหาปุริ
สลกั ษณะและอนุพยญั ชนะของพระพุทธเจา้ ได้ เช่น
พระพุทธเจา้ มีนัยตาประดุจลูกโคพึ่งคลอด ในรอย
พระพุทธบาทจะปรากฏแม่โคและลูกโคแทนท่ีจะใส่
โคเพียงตัวเดียว ผลงานชุดน้ ี จึงเป็ นการเน้นย้า
ความสาคญั ของกลุ่มสตั วท์ ่ีปรากฏในรอยพระพุทธ
บาท ว่าสามารถจินตนาการว่าไปสู่จุดหมายสูงสุด
ไดอ้ ยา่ งไร

นายเจษฎา ลาญาติ
“บารมี 30 ทศั ”
ส่ือผสม
แปรผนั ตามพ้ ืนท่ี

บารมี ๓๐ ทศั หมายถึง บารมี ๑๐ ประการ คือ ทานบารมี ศีลบารมี เนกขมั มบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี
ขนั ติบารมี สจั จบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี บารมีมี ๓ ระดบั คือ ข้นั บารมี อุปบารมี ปรมตั ถบารมี จึงรวม
ได้ ท้งั หมด ๓๐ ทศั

นายเจษฎา ลาญาติ

“ฉพั พรรณรงั สี”

สานเสน้ โลหะ

50 X 100 ซม.

ผลงานชิน้ นีเ้ ป็นการเปรียบเปรยว่าพระพุทธบาทคือพระพุทธเจา้ จึงไดน้ าเอารูปของพระพุทธเจา้ มาสร้างสรรค์
ผลงาน ประกอบดว้ ยฉพั พรรณรงั สี โดยฉพั พรรณรงั สีมาจากการส่งั สมบารมี ซ่งึ สามารถยึดโยงถึงสญั ลกั ษณใ์ นรอยพระพุทธบาท นาสี
ของฉพั พรรณรงั สี๖สีมาซอ้ นกนั ๑๐ชนั้ เป็นความหมายของบารมี๑๐ประการ และเป็นนยั ยะของสงั โยชน์๑๐ ประการ ท่ีหุม้ ใจไวก้ ่อนท่ี
จะเป็นพทุ ธะคือผรู้ ู้ ได้ จึ่งเป็นการใหค้ วามหมายแตล่ ะแง่มมุ ท่ีทบั ซอ้ นกนั อยใู่ นผลงานชิน้ นีอ้ ยา่ งแนบเนียน



นางสาวจุไรรตั น์ พสิ ิฐพทิ ยา
Ms. Jurairat Pisitpittaya

ปี เกิด : 2540
ที่อยู่ : 101/218 เคหะร่มเกลา้ 1 ถนนร่ม
เกลา้ แขวงคลองสองตน้ นุ่น เขต
อีเมล ลาดกระบงั กทม 10520
เฟสบุค๊ : [email protected]
โทร : Jurairat Pisitpittaya
: 096-1497756

การศึกษา
- ประถมศึกษา : โรงเรียนอรรถญาสาธิต

กรุงเทพมหานคร
- มธั ยมศึกษา 1-3 : โรงเรียนเทพศิ-

รินทรร์ ม่ เกลา้ กรุงเทพมหานคร
- ประกาศนียบัตรวิชาชีพ : วิทยาลัยช่าง

ศิลปะลาดกระบงั กรุงเทพมหานคร
-ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช

ม ง ค ล รัต น โ ก สิ น ท ร์ วิ ท ย า เ ข ต เ พ า ะ ช่ า ง
กรุงเทพมหานคร

ผลงานและรางวลั
-

นางสาวจุไรรตั น์ พิสิฐพิทยา
“แมก่ บั ลกู ”
ป้ันและหลอ่ ปูนปลาสเตอร์
65 x 71 x 106 ชม.

นางสาวจุไรรตั น์ พิสิฐพิทยา
“แมก่ บั ลูก”
ปนู ปลาสเตอร์
23 x 40 x 104 ชม.

คดั ลอกจิตรกรรมวดั บวกครกหลวง จงั หวดั เชียงใหม่
มาเป็ นงานประติมากรรมโดยนาลายผา้ ซิ่นตีนจกเชียงแสน
หงษ์ดาที่เป็ นลายผา้ ผ้ ืนเมืองของจงั หวดั เชียงใหม่และลายผา้
คลุมจากงานจิตรกรรมวดั บวกครกหลวงในภาพแมใ่ หน้ มลูก

โครงการนิทรรศการศลิ ปนพิ นธใ์ นรปู แบบออนไลน์
แสดงผลงานนกั ศึกษาสาขาวชิ าประติมากรรมไทย ปกี ารศึกษา 2564

วทิ ยาลัยเพาะชา่ ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสินทร์

หนว่ ยงาน วทิ ยาลัยเพาะชา่ ง
ผลผลติ ทานุบารุงศิลปะและวฒั นธรรม

1.ชื่อโครงการ
นิทรรศการศิลปนิพนธ์ในรูปแบบออนไลน์ แสดงผลงานนักศึกษาสาขาวิชาประติมากรรมไทย

ปีการศกึ ษา 2564

2. ลักษณะโครงการ
โครงการแสดงนิทรรศการศิลปนิพนธ์ของนักศึกษากลุ่มสาขาวิชาประติมากรรมไทย ในรายวิชา ศิลป

นิพนธ์ (THS4222)

3. หลกั การและเหตผุ ล
วิทยาลัยเพาะช่างได้จัดการเรียนการสอนเพ่ือผลิตบุคลากรทางด้านศิลปะท้ังสากล และทางด้านการ

อนุรักษ์ กลุ่มภาควิชาประติมากรรมไทย รูปแบบการศึกษาศิลปกรรมไทย ได้มีการขยายขอบเขตการศึกษา
ใหก้ ว้างขวางและลึกซ้งึ ขน้ึ โดยใหค้ วามสาคญั กบั ศลิ ปะไทย นอกจากการศกึ ษาเชงิ ประวัติศาสตร์และเน้ือหาใน
ด้านความงามแบบคตินิยมไทยอย่างจริงจังแล้ว ยังให้ความสนใจกับการพัฒนาทางด้านการสร้างสรรค์งาน
ศิลปกรรม และด้านการศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะในแต่ละยุคแต่ละสมัย ทั้งเร่ืองหลักการทางความคิด
รูปแบบ วัสดุ เทคนิควิธีการ ตลอดจนการปลูกฝังความสานึก ทางด้านสุนทรียศาสตร์เพื่อให้เกิดกระบวนการ
ศึกษาที่พร้อมด้วยปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง เมื่อศึกษาจนเข้าใจในกระบวนการแล้ว จึงสามารถนาความรู้มา
ฝกึ ปฏิบตั จิ นเกดิ ทกั ษะฝีมือ เกิดความสามารถ และการสรา้ งสรรค์พัฒนาผลงานสืบไป

ดังกล่าวมาข้างต้นสาขาวิชาประติมากรรมไทย วิทยาลัยเพาะช่างซ่ึงมีหน้าท่ีจัดการศึกษาและผลิต
บุคลากร เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาศิลปกรรมอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ในแต่ละปีการศึกษาก่อนที่
นักศึกษาจะสาเร็จการศึกษาจะต้องแสดงผลงานศิลปนิพนธ์ ซ่ึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีการ
แสดงออกทางดา้ นความร้เู ชงิ วิชาการ ทักษะ สุนทรยี ภาพของตน ซ่ึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ตอ่ การก้าวไปสู่การ
ประกอบอาชพี ด้านศิลปกรรมและสาขาทเี่ ก่ยี วขอ้ งตอ่ ไป

4.วตั ถุประสงค์
1. เพื่อใหน้ กั ศกึ ษาไดแ้ สดงศักยภาพด้านงานสรา้ งสรรคศ์ ลิ ปะของตนเอง
2. เพอื่ นกั ศกึ ษามีประสบการณต์ รงในการดาเนนิ งานการจัดนทิ รรศการศิลปกรรม
3. เพื่อใหน้ กั ศกึ ษาได้มโี อกาสแลกเปลี่ยนประสบการณด์ ้านศลิ ปกรรมกบั บุคคลภายนอก
4. เพื่อเปน็ การอนรุ ักษ์ ส่งเสรมิ และพฒั นาศิลปวฒั นธรรมไทย และเพอื่ เผยแพรแ่ ก่สาธารณชน
5. เพื่อเสริมสรา้ งการมีส่วนร่วม และความสามัคคขี องนักศกึ ษา

5. ผ้รู บั ผิดชอบโครงการ
นักศึกษากลุ่มสาขาวิชาประตมิ ากรรมไทย ชั้นปีท่ี 4 ปีการศกึ ษา 2564

6. กรรมการทป่ี รึกษาโครงการ หวั หน้าสาขาวิชาประตมิ ากรรมไทย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประสิทธิ์ อคั รวฒั นาศิริ อาจารย์
อาจารย์สมยศ คาแสง อาจารย์
อาจารย์ทมฬิ ศรีศลิ า อาจารย์
อาจารยสุธศิ า อมั พวัน อาจารย์
อาจารย์ธีรวฒุ ิ เรืองชรักษ์ อาจารย์
อาจารย์วรุฒ วรรณแกว้

7. เป้าหมาย
ผลงานศลิ ปนพิ นธ์ของนักศกึ ษากลุ่มสาขาวิชาศิลปะประจาชาติ จานวน 5 คน

(จานวนผลงานอาจมกี ารเปล่ียนแปลงตามความเหมาะสม)

8. ระยะเวลาและสถานที่
เร่ิมจดั แสดงจัดนิทรรศการออนไลน์วนั ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2565 ทางเพจ

“ประติมากรรมไทย เพาะช่าง - Thai Sculpture”

9. กลุ่มเปา้ หมายผ้รู ่วมโครงการ
1. นักศกึ ษาได้แสดงศกั ยภาพด้านงานสร้างสรรค์ศลิ ปะของตนเอง
2. นักศึกษามีประสบการณต์ รงในการดาเนินงานการจัดนิทรรศการศิลปกรรม
3. นักศกึ ษาได้มโี อกาสแลกเปลี่ยนประสบการณด์ า้ นศลิ ปกรรมกับบุคคลภายนอก
4. นักศึกษาไดม้ ีการอนุรักษ์ สง่ เสริมและพัฒนาศลิ ปวฒั นธรรมไทยและเพ่ือเผยแพรแ่ กส่ าธารณชน
5. นกั ศกึ ษาไดม้ ีส่วนรว่ มและความสามคั คขี องนักศกึ ษา

10. การตดิ ตามประเมินผล ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย.

การดาเนนิ งาน
1.ประชมุ กาหนดแผนการดาเนินงาน
2.ขออนุมัติโครงการ
3.ประชาสัมพันธ์
4.รวบรวมผลงานบันทกึ ภาพถ่าย
5.จดั ทาสูจบิ ัตร
6.จดั แสดงนิทรรศการ
7.ประเมนิ ผล

11. ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ
1. นกั ศึกษาได้รับประสบการณ์จรงิ กอ่ นสาเร็จการศึกษา
2. นกั ศกึ ษามีความม่ันใจในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานของตนเอง
3. นกั ศึกษามีความพรอ้ มท่ีจะเข้าสู่อาชีพดา้ นศิลปะไทยอย่างแทจ้ ริง
4. เป็นการเผยแพรช่ อ่ื เสยี งของกลุ่มสาขาวชิ าศลิ ปะประจาชาติ วทิ ยาลัยเพาะช่าง

12. การติดตามประเมนิ ผล
จากจานวนการเผยแพร่ผลงาน (แชร)์ และการกดติดตามผลงาน

คณะกรรมการดาเนินการนิทรรศการผลงานศลิ ปนพิ นธ์
จินตลักษณ์งานชา่ ง รังสรรค์งานศลิ ปกรรมประจาชาติ ครัง้ ท่ี 12

“ งอกงามจากแผน่ ดนิ ”
(สาขาวชิ าประตมิ ากรรมไทย)

ประธานนักศึกษา

นายธนพล พลอยแดง นักศกึ ษาสาขาวิชาประตมิ ากรรมไทย

รองประธานนกั ศกึ ษา

นายสุเมธ น้อยมา นกั ศกึ ษาสาขาวิชาประติมากรรมไทย

ฝ่ายเลขานกุ าร

นายเจษฎา ลาญาติ นักศึกษาสาขาวชิ าประติมากรรมไทย

ฝ่ายเหรญั ญกิ

นายเจษฎา ลาญาติ นักศกึ ษาสาขาวิชาประติมากรรมไทย

ฝา่ ยพิธีการ

นางสาวจไุ รรตั น์ พิสิฐพทิ ยา นกั ศกึ ษาสาขาวิชาประติมากรรมไทย

ฝ่ายประชาสัมพนั ธ์

นายสรุ อรรถ เนตรแกว้ นกั ศกึ ษาสาขาวิชาประตมิ ากรรมไทย

ฝ่ายสจู บิ ัตร

นายธนพล พลอยแดง นักศึกษาสาขาวชิ าประตมิ ากรรมไทย

“ งอกงามจากแผ่นดิน ”

Flourish from the land

ขอขอบคุณ

ผูช้ ่วยศาสตราจารยป์ ระสิทธ์ิ อคั รวฒั นาศิริ
อาจารยส์ มยศ คาแสง
อาจารยท์ มฬิ ศรีศิลา
อาจารยส์ ุธิศา อมั พวนั

อาจารยธ์ ีรวุฒิ เรืองชรกั ษ์
อาจารยว์ รุฒ วรรณแกว้

“ งอกงามจากแผ่นดิน ”

Flourish from the land

ขอขอบคุณ



“ งอกงามจากแผ่นดิน ”

Flourish from the land