ขนมไทย 16 อย่าง
ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
จัดทำโดย นักศึกษาคณะครุศาสตร์ สาขาเคมีและวิทยาศาสตร์ทั่วไป
ข้ า ว เ ห นี ย ว สั ง ข ย า
สั ง ข ย า ห น้ า ตั้ ง ไ ข่ ข้ า ว เ ห นี ย ว ใ ส่ สี โ ศ ก แ ส ด ง
เ ป็ น นั ย ไ ม่ เ ค ลื อ บ แ ค ล ง แ จ้ ง ว่ า เ จ้ า เ ศ ร้ า โ ศ ก เ ห ลื อ
ถอดคำประพันธ์ : สังขยาไข่ กับข้าวเหนียวสี
โศกน่าจะสีขุ่นๆขาวๆ เทาๆเป็นความหมายที่
แน่นอนว่าเจ้าเศร้ามากเหลือเกิน
ส่วนผสม
ข้าวเหนียว 4 ถ้วย กะทิ 2 ถ้วย
เกลือป่น 4 ช้อนชา น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
ไข่เป็ด 4 ฟอง กะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
วิธีการทำ
แช่ข้าวเหนียวใส่น้ำพอท่วม ทิ้งไว้ค้างคืน
หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมง สงขึ้นให้สะเด็ดน้ำ ใส่หวด
หรือลังถึงปูด้วยผ้าขาวบาง นึ่งประมาณครึ่งชั่งโมง
ผสมกะทิ เกลือป่น และน้ำตาลทราย ตั้งไฟจน
น้ำตาลและเกลือละลาย ยกลงกรองด้วยผ้าขาว
บาง ใส่ภาชนะไว้ พอข้าวเหนียวสุก ยกลงเทใส่
กะละมัง ค่อยๆ เทกะทิลงข้าวเหนียว คนด้วยไม้พาย
ให้ข้าวเหนียวกับกะทิเข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้จนระอุดี
ผสมกะทิ น้ำตาลและไข่เป็ด ตีให้เข้ากัน กรองด้วย
ผ้าขาวบางลงถาดสำหรับนึ่ง นึ่งประมาณ 20-30
นาที จนสุกจัดข้าวเหนียวลงจาน ตักสังขยาใส่หน้า
เสิร์ฟรับประทาน
ซ่ า ห ริ่ ม
ซ่ า ห ริ่ ม ลิ้ ม ห ว า น ล้ำ แ ท ร ก ใ ส่ น้ำ ก ะ ทิ เ จื อ
วิ ต ก อ ก แ ห้ ง เ ค รื อ ไ ด้ เ ส พ ห ริ่ ม พิ ม เ ส น โ ร ย
ถอดคำประพันธ์ : ซ่าหริ่มกินแล้วหวาน
จนหิวน้ำ
ส่วนผสม น้ำดอกมะลิ 8 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วย น้ำแข็งทุบละเอียด
น้ำใบเตยข้นๆ 1 ถ้วย
หัวกะทิ 1 ถ้วย
วิธีการทำ
ผสมแป้งถั่วเขียวกับน้ำดอกมะลิ 5 ถ้วย
น้ำใบเตย 1 ถ้วย คนให้เข้ากัน อย่าให้แป้งเป็นเม็ด ใส่
กระทะทอง ตั้งไฟกวนไปทางเดียวกัน อย่าให้แป้งติด
ก้นกระทะ กวนจนแป้งสุกใส ตักแป้งที่สุกแล้ว ใส่ลง
ในกระป๋องที่เจาะรูเล็กๆ หลายรู ยกกระป๋องให้สูง
จากอ่างน้ำเย็น แล้วกดแป้งเป็นระยะ ให้แป้งลอดรู
ออกมาเป็นเส้นๆ ลงอ่างน้ำเย็น คอยถ่ายน้ำให้เย็น
อยู่เสมอ เสร็จแล้วเทเส้นซ่าหริ่มใส่ผ้าขาวบาง พักไว้
ให้สะเด็ดน้ำ ละลายน้ำตาลทรายและน้ำดอกมะลิ
อย่างละ 3 ถ้วย ลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือด ยกลงกรอง
ด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง ใส่กะทิ คน
ให้เข้ากัน พอเดือดยกลง ทิ้งไว้ให้เย็นเวลารับ
ประทาน ตักซ่าหริ่มใส่ถ้วย ใส่น้ำกะทิ และน้ำแข็งทุบ
ละเอียด
ลำ เ จี ย ก
ลำ เ จี ย ก ชื่ อ ข น ม นึ ก โ ฉ ม ฉ ม ห อ ม ช ว ย โ ช ย
ไ ก ล ก ลิ่ น ดิ้ น แ ด โ ด ย โ ห ย ไ ห้ ห า บุ ห ง า ง า ม
ถอดคำประพันธ์ : ขนมลำเจียก กลิ่นหอม
หวาน พอห่างจนไม่ได้กลิ่นก็ทรมานใจ ร้องไห้
หานาง
ส่วนผสม หัวกะทิ ½ ถ้วย
น้ำตาลมะพร้าว 1½ ถ้วย
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
มะพร้าวขูด 1 ถ้วย
วิธีการทำ
นำน้ำตาลมะพร้าวใส่กระทะทองผสมน้ำ
เล็กน้อย ตั้งไฟให้ละลาย ใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวให้
เหนียว ยกขึ้นพักไว้สำหรับทำไส้ นวดแป้งข้าว
เหนียวกับหัวกะทิ นำใส่แร่งร่อนในกระทะก้นแบน ใช้
ไฟอ่อน โรยให้แป้งบางเสมอกัน นำไส้ที่อบไว้วางตรง
กลาง ใช้เหล็กที่ตัดขนมแซะแป้งตลบเข้าห่อไส้ไว้
เรียงใส่โถหรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท อบด้วยควัน
เทียนให้หอม
มั ศ ก อ ด
มั ศ ก อ ด ก อ ด อ ย่ า ง ไ ร น่ า ส ง สั ย ใ ค ร่ ข อ ถ า ม
ก อ ด เ ค ล้ น จ ะ เ ห็ น ค ว า ม ข น ม น า ม นี้ ยั ง แ ค ล ง
ถอดคำประพันธ์ : คนแต่งเค้าสงสัยว่าทำไม
ขนมนี้ทำไมถึงชื่อว่า มัศกอด แล้วมันกอด
อย่างไร
ส่วนผสม
มะพร้าวขูดขาว 200 กรัม
น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย ไข่ไก่ 3 ถ้วย
แป้งเค้ก 2 ถ้วย ไข่ขาว 2 ฟอง
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
น้ำตาลทรายป่นละเอียด 1 ถ้วย
สีผสมอาหารสีชมพู ฟ้า เขียว เหลือง
วิธีการทำ
ตีไข่ให้ขึ้น แล้วทยอยใส่น้ำตาลลงไปขณะตีจนขึ้น
ฟู ใส่แป้งลงในไข่ที่ตีขึ้นแล้ว โดยใช้ไม้ตีไข่ คนตะล่อมไปทาง
เดียวกันให้เข้ากัน อย่าคนมากนักขนมจะยุบทาพิมพ์ด้วย
น้ำมันขี้โล้ให้ทั่วอบพิมพ์ให้ร้อน แล้วตักแป้งที่ผสมแล้วใส่ลง
ไป 3/4 พิมพ์ นำไปเข้าเตาอบ อบทั้งไฟบนและล่าง ใช้ไฟ
อ่อนความร้อนประมาณ 250-300 องศาฟาเรนไฮด์ อบ
ประมาณ 15-20 นาที คอยสังเกตให้ขนมพอเป็นสีนวล นำ
ออกจากเตาแล้วรีบแกะออกจากพิมพ์ ถ้าทิ้งไว้ให้เย็นจะแคะ
ออกจากพิมพ์ยากตีไข่ขาวให้ฟู ใส่น้ำตาลทรายป่นลงไป ตี
เรื่อยๆ จนขึ้นฟูแข็ง แบ่งใส่สีต่างๆ ตามต้องการ นำไปทา
หน้าขนมจนทั่ว อบเฉพาะไฟบน 3-5 นาทีหรือจนกว่าหน้า
ขนมจะเป็นสีนวล จึงใช้ได้ถ้าจะรับประทานกับมะพร้าว
ทึนทึก ต้องขูดมะพร้าวหยาบๆ แล้วโรยลงไปบนไข่ขาวที่ทา
หน้าขนม แล้วจึงนำไปอบพอเหลืองนวลเช่นกัน
ข น ม จ่ า ม ง กุ ฏ
ง า ม จ ริ ง จ่ า ม ง กุ ฏ ใ ส่ ชื่ อ ดุ จ ม ง กุ ฏ ท อ ง
เ รี ย ม ร่ำ คำ นึ ง ป อ ง ส ะ อิ้ ง น้ อ ง นั้ น เ ค ย ย ล
ถอดคำประพันธ์ : "จ่ามงกุฏ สวยงาม มี
ประกายเหมือน มงกุฏทอง"
ส่วนผสม น้ำดอกมะลิ 1 ถ้วย
แป้งสาลี 1 ถ้วย
เม็ดแตงโมแกะแล้ว 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ทองคำเปลวแท้ 2 แผ่น
ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง
วิธีการทำ
เชื่อมน้ำตาล โดยใช้น้ำตาลกับน้ำดอกมะลิตั้งไฟให้เดือด
กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วตั้งไฟต่ออีก 5 นาที ล้างขัด
กระทะทองเหลืองให้สะอาดเป็นเงา ตะแคงข้างหนึ่ง คั่วเม็ด
แตงโม โดยใช้มือจุ่มลงในน้ำเชื่อม แล้วกวาดไปมา
จนน้ำตาลแห้งแล้ว ใช้มือจุ่มน้ำเชื่อม ทำเช่นนี้ต่อไปจน
น้ำตาลเกาะเป็นหนามติดเม็ดแตงโมพองาม เก็บใส่ภาชนะ
อย่าให้อากาศเข้า ระหว่างที่กวาดเม็ดแตงโมอยู่นั้น ต้อง
ตะแคงกะทะและใช้ ผ้าขาวบาง เช็ดกะทะให้สะอาดอยู่เสมอ
นวดแป้งกับไข่แดงจนนิ่มมือ ถ้ายังแห้งอยู่จึงเติมน้ำ แล้ว
คลึงแป้งเป็นแผ่นบาง ๆ กดให้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
2 เซนติเมตร นำแผ่นแป้งที่ตัดแล้ว ใส่ในถ้วยตะไลใช้มือ กด
เบา ๆ ให้เป็นรูปก้นถ้วยตะไล ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วจึงเอาไป อบ
พอสุกกลายเป็นแป้งรองขนม การทำมงกุฏ ให้เอาน้ำตาล
ทรายใส่หม้อเล็ก ๆ ใส่น้ำนิด หน่อย ตั้งไฟอ่อน ๆ พอน้ำตาล
ละลายเอาเม็ดแตงโมที่ กวาดไว้แล้วลงจุ่มให้น้ำตาลติดกับ
แป้งที่อบไว้รอบ ๆ ปั้นทองเอกกลม ๆ วางตรงกลาง ใช้มีด
ปลายแหลมผ่าเป็น 6 พู เหมือนผลมะยม แล้วปั้นเป็นก้อน
เล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียว วางบนยอดขนมที่ผ่าไว้ ใช้ทองคำ
เปลวตัดเป็นสี่เหลี่ยมชิ้น เล็ก ๆ แตะตรงยอดมองเห็นเหมือ
นมงกุฏ
ช่ อ ม่ ว ง
ช่ อ ม่ ว ง เ ห ม า ะ มี ร ส ห อ ม ป ร า ก ฏ ก ล โ ก สุ ม
คิ ด สี ส ไ ล ค ลุ ม หุ้ ม ห่ อ ม่ ว ง ด ว ง พุ ด ต า
ถอดคำประพันธ์ : ช่อม่วงมีรสดี หอมอย่าง
ดอกไม้ คิดสีสไบคลุม หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาล
คิดให้มีสีม่วงพุดตาล เหมือนผ้าสไบ ห่อหุ้มไว้
ส่วนผสม
1. แป้งข้าวจ้าว 250 กรัม 2. แป้งมัน 25 กรัม
3. แป้งท้าวยายม่อม 25 กรัม
4. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา 5. น้ำดอกอัญชัน 2 ถ้วย
6. กะทิ 1/8 ถ้วย 7. เกลือ 1/2 ช้อนชา
8. น้ำมันพืช 1/2 ช้อนโต๊ะ
ไส้ของขนมช่อม่วง
1.เนื้อหมูติดมันสับ 250 กรัม
2.ถั่วลิสงบุบพอแตก 120 กรัม
3.รากผักชี 2 ราก
4.พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
5.กระเทียม 1 – 2 หัว
6.หอมใหญ่สับละเอียด 1/2 ถ้วย
7.น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย กับอีก 1 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
9.ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
10.น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
11.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
12.น้ำมันกระเทียมเจียว 1/4 ถ้วย
วิธีการทำ
รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกให้เข้ากัน นำไปผัดในกระทะให้หอม โดยใช้น้ำมันพืชเล็ก
น้อย ใส่หมูลงไปผัดจนสุกปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสต่างๆ ชิมรสตามชอบ ยกลงแล้วพักไว้ ทำตัวแป้ง
โดยนำแป้งข้าวจ้าว แป้งท้าวยายม่อม แป้งมัน เกลือ น้ำมันพืช กะทิ ผสมเข้าด้วยกัน ผสมน้ำดอกอัญชัน
และน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน เทลงในส่วนผสมแป้งคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่กระทะกวนจนแป้งสุกร่อน
จากกระทะ ยกลงทิ้งไว้จนเริ่มอุ่น นำมานวดมืออีกครั้ง จากนั้นนำมาปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ให้มีขนาดเท่าๆ
กัน นำไส้ขนมที่ผัดไว้มาห่อ จับจีบให้สวยงาม นำไปนึ่งในน้ำเดือดระยะเวลา 8 – 10 นาที จัดใส่จาน ทา
ด้วยน้ำมันหอมเจียว กินแกล้มกับผักสดและพริกขี้หนู
ลุ ด ตี่
ลุ ด ตี่ นี้ น่ า ช ม แ ผ่ แ ผ่ น ก ล ม เ พี ย ง แ ผ่ น แ ผ ง
โ อ ช า ห น้ า ไ ก่ แ ก ง แ ค ล ง ข อ ง แ ข ก แ ป ล ก ก ลิ่ น อ า ย
ถอดคำประพันธ์ : ขนมลุดตี่ เป็นแผ่นกลมๆ
น่ามอง รสชาติอร่อยกินกับแกงไก่ คิดว่าน่าจะ
เป็นขนมของแขกเพราะมีกลิ่นอายความเป็น
แขกอยู่
ส่วนผสม
แป้งสาลีอย่างดี 2 ถ้วย
น้ำซุป (น้ำเชื้อ) 1/2 ถ้วย
เนยอย่างดี 1/2 ถ้วย
วิธีการทำ
ผสมแป้งสาลีกับน้ำซุปนวดให้เหนียว ปั้นเป็นก้อน
กลม ๆ วางเรียงไว้แล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำไว้
สักครู่หนึ่งคลึงแป้งด้วยไม้ให้บางกลม แล้วม้วนแผ่น
แป้งให้กลมยาวแล้วกลับม้วนให้กลมอีกที แล้วคลึง
ให้กลมแบนอย่างเดิม แต่ให้หนาเป็นสองเท่า ทากระ
ทะด้วยน้ำมันเนยพอร้อนจึงทอดแป้ง หมั่นหยอด
น้ำมัน แล้วกลับแผ่นแป้งให้เหลืองทั้งสองด้านอย่า
ให้ไฟแรง เมื่อสุกดีแล้วทาด้วยเนยอย่างดี เวลาจะรับ
ประทานใช้รับประทานกับแกงแห้ง พวกมัสมั่นก็ได้
ข น ม จี บ
ข น ม จี บ เ จ้ า จี บ ห่ อ ง า ม ส ม ส่ อ ป ร ะ พิ ม พ์ ป ร ะ พ า ย
นึ ก น้ อ ง นุ่ ง จี บ ก ร า ย ช า ย พ ก จี บ ก ลี บ แ น บ เ นี ย น
ถอดคำประพันธ์ : ขนมจีบ จีบ ห่อ สวยงาม
เรียบร้อย ทำให้นึกถึงจีบผ้านุ่งของน้องนาง
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ กุ้งสับละเอียด ½ ถ้วย
รากผักชีโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมโขลกละเอียด 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น ½ ช้อนชา น้ำปลา1 ½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำมันพืช ¼ ถ้วย
วิธีการทำ
เคล้าหมูกับกุ้งเข้าด้วยกันใส่น้ำปลา รากผักชี
กระเทียมพริกไทยเคล้าเข้าด้วยกันใส่น้ำมันลงในกระทะ
ตั้งไฟกลาง ผัดพอหอม ใส่หมูและกุ้ง ใส่น้ำตาลผัดให้สุก
และแห้ง ชิมรสให้รสจัดแบ่งแป้งก้อนกลมขนาดเส้นผ่า
ศูนย์กลาง 1/2 นิ้ว แผ่แป้งเป็นแผ่นกลมบาง ปั้นเป็นรูป
เบ้ารูปหม้อ ใส่ไส้รวบชายเข้าหากันรูดขึ้นเป็นรูปคนโฑ
ให้แหนบหนีบแป้งจับเป็นจีบรอบๆตัวแป้งให้สวยงาม
เช็ดใบตองให้สะอาด ฉีกเป็นริ้วทาด้วยน้ำมัน แล้ววาง
ขนมจีบลงบนใบตอง นึ่งน้ำเดือดประมาณ 5
นาที ยกลงจัดใส่จานเสิร์ฟโรยหน้าด้วยน้ำมันกระเทียม
เจียว จัดขนมจีบใส่จาน เสิร์ฟกับผักกาดหอม ต้นหอม
ผักชี พริกขี้หนู หรือ ตะลิงปลิง
ข น ม เ ที ย น
ร ส รั ก ยั ก ลำ นำ ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ ทำ ข น ม เ ที ย น
คำ นึ ง นิ้ ว น า ง เ จี ย น เ ที ย น ห ล่ อ เ ห ล า เ ก ล า ก ลึ ง ก ล ม
ถอดคำประพันธ์ : ขนมรสรัก หรือขนมเทียน
อบด้วยควันเทียนไว้ค้างคืน
ส่วนผสม
ถั่วเขียวฝ่าซีก 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมเจียว หรือ หอมแดงเจียว 1/4 ถ้วย
ราเกลือ 1 ช้อนชา
น้ำตาลปีบ 3 ชต.
น้ำตาลทราย ตามชอบ
พริกไทย ตามชอบ
แป้งข้าวเหนียว 400 กรัม
แป้งข้าวจ้าว 100 กรัม
น้ำกระทิ 3 ถ้วย
น้ำตาลปีบ 1 ถ้วย
วิธีการทำ
เทแป้งใส่ชาม ละลายน้ำตาลบีบกับน้ำอุ่นเล็กน้อย แล้วค่อยนวดผสมไปกับแป้งค่อยๆเทกระทิใส่
แล้วนวดให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 3-4 ช.ม. นำถั่วเขียวซีกไปแช่น้ำไว้ 3 ชม. นำถั่วไปนึ่งให้สุกนำถั่วที่นึ่งสุกแล้วเข้า
เครื่องบดให้ละเอียด พักไว้ ตั้งกระทะเจียวกระเทียมพอเหลือง ใส่ถั่วที่เตรียมไว้ ในกะทะ ใส่น้ำตาล เกลือ
พริกไทย ชิมรสตามชอบผัดไปจนแห้ง นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ประมาณ 10 กรัม นำแป้ง
ที่หมักไว้ จนได้ที่แล้ว มาปั้นเป็นก้อน (ประมาณ 30 กรัม) ห่อไส้ที่เตรียมใว้ ห่อใบตองให้สวยงาม นำไปนึ่ง
ด้วยไฟแรง 30 นาที
ทาน้ำมันบนใบตอง แล้วซ้อนใบตอง 2 ชั้น ทำเป็นรูปกรวย ไส้แป้งที่ปั้นไว้ลงไป ใช้นิ้วโป้งทั้ง 2 ข้าง
กดใบตองลงเพื่อให้แป้งลงไปในกรวย พร้อมทำท่าพนมมือ (จะทำให้ขนมเทียนเป็นทรงพีระมิด) จากนั้นพับ
ใบตองทั้ง 2 ข้างเข้าหากันให้เป็นปลายแหลม (ตัดใบตองไม่ดีจะมีปัญหาตรงนี้แหละ) พับใบตองกลับมาปิด
ฐานขนม จะเหลือปลายยื่นออกมา ให้ม้วนสอดเข้าช่องในฐานขนม
ท อ ง ห ยิ บ
ท อ ง ห ยิ บ ทิ พ ย์ เ ที ย ม ทั ด ส า ม ห ยิ บ ชั ด น่ า เ ช ย ช ม
ห ล ง ห ยิ บ ว่ า ย า ด ม ก้ ม ห น้ า เ มิ น เ ขิ น ข ว ย ใ จ
ถอดคำประพันธ์ : ขนมทองหยิบที่ใช้เป็นของ
หวานบูชาสิ่งศักดิ์สิทธ์ 3 นิ้วบรรจงหยิบน่า
ชมเชย หลงคิดว่ามันคือยาดม ก้มหน้าทำ
อย่างเขินอาย
ส่วนผสม
ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง ไข่แดงของไข่เป็ด 3 ฟอง
แป้งข้าวจ้าว ½ ชต. แป้งมัน 1 ชช.
แป้งท้าวยายม่อม 1 ชช. น้ำเปล่า 400 มล.
กลิ่นมะลิ ½ ชช. น้ำตาลทราย 600 ก.
ใบเตย 1 ใบ เทียนอบ 1 ชิ้น
น้ำเชื่อม 1 ถ้วยใหญ่ (700 มล.)
วิธีการทำ
นำน้ำเปล่า น้ำตาลทราย ใบเตย กลิ่นมะลิ ลง
ต้มรวมกันในกระทะทองเหลือง ใช้ไฟแรงและห้ามคน
โดยเด็ดขาด นำแป้งทั้ง 3 ชนิดผสมรวมกัน นำไปร่อนให้
ละเอียดด้วยกระชอนตาถี่ พักไว้ นำไข่แดงทั้งหมดตี
ให้ขึ้นฟู (ตีประมาณ 5 นาที) จากนั้นเติมแป้งลงในไข่ไก่
ผสมให้เข้ากัน ตักใบเตยออก ปิดแก๊สให้น้ำเชื่อมนึ่ง
ใช้ช้อนตักส่วนผสมหยอดลงในกระทะ ระวังอย่าให้ติด
กัน จากนั้นเปิดไฟกลางให้ขนมสุกทั้งสองด้าน ตักขึ้น
พักไว้ให้เย็นในถ้วยน้ำเชื่อม ช้อนขนมขึ้นมาแล้วจับจีบ
วางใส่ถ้วย จุดเทียนให้มีควันแล้วจึงดับไฟอบพร้อมกับ
ทองหยิบ ปิดฝาอบรวมกันนาน 10 นาที เป็นอันเสร็จ
พร้อมเสิร์ฟ
ข น ม ผิ ง
ข น ม ผิ ง ผิ ง ผ่ า ว ร้ อ น เ พี ย ง ไ ฟ ฟ อ น ฟ อ ก ท ร ว ง ใ น
ร้ อ น นั ก รั ก แ ร ม ไ ก ล เ มื่ อ ไ ร เ ห็ น จ ะ เ ย็ น ท ร ว ง
ถอดคำประพันธ์ : ขนมผิงต้องใช้ความร้อน
เผา เหมือนเช่นร้อนไฟในอก มีความรักกับคน
ทางไกล เมื่อไรเห็นก็จะสบายใจ
ส่วนผสม
แป้งถั่วเขียว 250 กรัม
กะทิ 125 กรัม
น้ำตาลทราย 125 กรัม
ไข่แดง 1 ฟอง
วิธีการทำ
ร่อนแป้งถั่วเขียว แล้วนำไปอบควันเทียน
โดยจุดเทียนอบขนม คอยให้เปลวไฟเผาเนื้อเทียนให้
ได้กลิ่นหอม จึงค่อยดับไฟ วางลงในภาชนะใส่แป้ง
ปิดฝา อบควันเทียนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
หรือข้ามคืน นำน้ำตาล กับกะทิใส่ลงในหม้อตั้งไฟให้
เดือด เคี่ยวต่อจนมีลักษณะเป็นยางมะตูมเป็นเวลา
5 นาที ยกออกจากความร้อน พักให้น้ำเชื่อมให้พอ
อุ่นลง นวดแป้งที่อบควันเทียนไว้ กับไข่แดงให้เข้า
กัน ใส่น้ำเชื่อมที่อุ่นลงแล้วตามลงไปนวดให้เข้ากัน
พักไว้ 1 คืน เปิดเตาอบที่ 170 องศาเซลเซียส
โปรแกรมไฟล่าง – ไฟบน ปั้นขนมผิงเป็นชิ้นขนาด
ประมาณ 1 เซนติเมตร จัดวางลงบนถาดอบที่รอง
ด้วยกระดาษไข นำเข้าอบเป็นเวลา 15 นาที พักให้
เย็นตัวดี
รั ง ไ ร ( เ ร ไ ร )
รั ง ไ ร โ ร ง ด้ ว ย แ ป้ ง เ ห มื อ น น ก แ ก ล้ ว ทำ รั ง ร ว ง
โ อ้ อ ก น ก ทั้ ง ป ว ง ยั ง ยิ น ดี ด้ ว ย มี รั ง
ถอดคำประพันธ์ : ขนมรังไรเป็นขนมที่รูปร่าง
เหมือนรังนกที่ม้วนสานกันไปมา
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า ประมาณ 2 ถ้วย
แป้งท้าวยายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำลอยดอกมะลิ หัวกะทิและกะทิ
น้ำตาลทราย น้ำลอยดอกมะลิ
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอยนึ่ง
เกลือป่น งาขาวคั่ว
วิธีการทำ
ผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งท้าวยายม่อมเข้า
ด้วยกัน ค่อยๆ เทน้ำลอยดอกมะลิลงนวดให้เข้ากัน
เทใส่กระทะทอง ตั้งไฟ กวนไฟอ่อนๆ จนเหนียวข้น
จึงยกลงให้คลายความร้อน ใช้มือแตะหัวกะทินวด
แป้งเบาๆ ให้เข้ากันดี แบ่งแป้งเป็นก้อนย่อมๆ นำ
แป้งลงกดในพิมพ์สำหรับอัดเส้น ทาพิมพ์ด้วยหัว
กะทิบางๆ แล้วใช้มือกดออกมาเป็นเส้นๆ ให้รวมกัน
เป็นก้อนๆ พอดีคำ ตักเรียงในลังถึงนึ่งประมาณ 5
นาที เสร็จแล้วจัดเรียงใส่จาน การเตรียมน้ำกะทิ
โดยผสมน้ำตาลทรายและน้ำดอกมะลิลงในกระทะ
ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้ละลาย ใส่กะทิ เกลือป่น คนให้เข้า
กัน พอเดือดยกลง เวลาจะกิน ก็จัดขนมใส่จาน ตาม
ด้วยมะพร้าวทึนทึกขูดฝอยนึ่ง ราดด้วยน้ำกะทิ โรย
หน้าด้วยงาขาว ดำ คั่วหอมๆ
ทองหยอด
ท อ ง ห ย อ ด ท อ ด ส นิ ท ท อ ง ม้ ว น มิ ด คิ ด ค ว า ม ห ลั ง
ส อ ง ปี ส อ ง ปิ ด บั ง แ ต่ ลำ พั ง ส อ ง ต่ อ ส อ ง
ถอดคำประพันธ์ : ทองหยอดกับทองม้วนก็
เหมือนคนสองคนที่จากกันไปนาน มานั้งย้อน
ความหลัง
ส่วนผสม
ไข่แดงของไข่เป็ด 9 ฟอง
แป้งทองหยอด 1/2 ถ้วย (หรือแป้งข้าวเจ้า)
น้ำตาลทราย 2+1/2 ถ้วย
น้ำลอยดอกมะลิ 2+1/2 ถ้วย (ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีการทำ
เทน้ำลอยดอกมะลิกับน้ำตาลทรายลงในกระทะทอง
เหลือง นำไปตั้งไฟแรงจนเดือดปุด ๆ และเคี่ยวต่อ
อีกประมาณ 10-15 นาทีหรือจนน้ำเชื่อมข้น ตักส่วน
หนึ่งออกมาสำหรับแช่ทองหยอดที่สุกแล้ว อีกส่วน
หนึ่งตั้งไฟไว้ นำไข่แดงไปกรองด้วยผ้าขาวบาง ตีจน
ขึ้นฟู ใส่แป้งลงไป คนผสมจนเข้ากัน เสร็จแล้วนำไป
หยอดในน้ำเชื่อมเดือด วิธีหยอดทำโดยใช้ปลาย
ช้อนแกงตักส่วนผสมขึ้นมาแล้วใช้ปลายนิ้วโป้งดัน
ลงไปในกระทะ หรือใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลางหยิบ
ส่วนผสมขึ้นมาเป็นลูกพอเหมาะ แล้วสะบัดลงในน้ำ
เชื่อม พอสุกจะลอยขึ้นแล้วใช้กระชอนตักขึ้นมาพัก
ไว้ในชามน้ำเชื่อม จัดใส่ภาชนะเสิร์ฟ
บั ว ล อ ย
บั ว ล อ ย เ ล่ ห์ บั ว ง า ม คิ ด บั ว ก า ม แ ก้ ว กั บ ต น
ป ลั่ ง เ ป ล่ ง เ ค ร่ ง ยุ ค ล ส ถ น นุ ช ดุ จ ป ร ะ ทุ ม
ถอดคำประพันธ์ : บัวลอยเลียนแบบบัวงาม
คิดถึงน้องกับพี่เปล่งปลั่งทั้งคู่นมน้องดุจ
ดอกบัวตูม
ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
เผือกนึ่งสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง
(กรณีต้องการบัวลอยหลายสีสามารถเลือกใช้
ฟักทองเพื่อทำบัวลอยสีเหลือง, ใบเตย เพื่อทำ
บัวลอยสีเขียว, อื่นๆ)
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
กะทิ 2 ถ้วยตวง
งาขาว น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา
เนื้อมะพร้าวอ่อน,
ไข่
น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม
วิธีการทำ
ทำบัวลอยโดยผสมแป้งข้าวเหนียว, เผือกนึ่งและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน นวดจนส่วนผสมทุกอย่าง
เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ระหว่างปั้นนั้น ควรโรยด้วยเศษแป้งข้าวเหนียวเล็ก
น้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยติดกัน (ถ้าต้องการทำบัวลอยหลายสีก็ใช้ส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น
ฟักทองสำหรับสีเหลือง หรือใบเตยสำหรับสีเขียว เป็นต้น) ต้มน้ำในหม้อขนาดกลาง รอจนเดือดจึงใส่ลูก
บัวลอยที่ปั้นไว้แล้ว เมื่อบัวลอยสุกให้นำออกมาแช่ในน้ำเย็น (บัวลอยที่สุกแล้วจะลอยขึ้น) ทำน้ำกะทิโดย
ผสม กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป ควรใส่น้ำตาลทรายแค่ครึ่งเดียว
ก่อน ถ้ายังหวานไม่พอจึงค่อยใส่เพิ่มลงไป ต้มจนเดือด จึงหรี่ไฟลง นำบัวลอยที่ต้มไว้แล้วใส่ลงไปใน
น้ำกะทิ ต้มต่ออีกสักพักจึงปิดไฟ ถ้ามีมะพร้าวอ่อนก็ใส่ได้เลย พร้อมลูกบัวลอย (กรณีต้องการทำบัวลอย
ไข่หวาน ก็ตอกไข่ใส่ไปในหม้อหลังจากที่ใส่บัวลอยลงไป รอจนไข่สุกจึงปิดไฟ) ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยงา
ขาว เสริฟขณะร้อนหรือรอให้เย็นก็ได้
ฝอยทอง
ฝ อ ย ท อ ง เ ป็ น ย อ ง ใ ย เ ห มื อ น เ ส้ น ไ ห ม ไ ข่ ข อ ง ห ว า น
คิ ด ค ว า ม ย า ม เ ย า ว ม า ล ย์ เ ย็ บ ชุ น ใ ช้ ไ ห ม ท อ ง จี น
ถอดคำประพันธ์ : เมื่อเห็นฝอยทองทำให้
นึกถึงคนรักของเขา ตอนที่นางปักเย็บด้วย
ไหมสีเหลืองจากเมืองจีน
ส่วนผสม
ไข่แดง (ไข่เป็ด) 30 ฟอง
ไขน้ำค้าง 5 ช้อนชา น้ำเชื่อม
น้ำตาลทราย 10 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง
เนื้อมะพร้าวอ่อน, ไข่
น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม
วิธีการทำ
การทำน้ำเชื่อม ผสมน้ำตาลทรายและเปลือกไข่ที่
ล้างสะอาด เติมน้ำเปล่าและใบเตย ตั้งไฟ คนให้น้ำตาล
ละลาย เปิดไฟปานกลางเมื่อเดือด ช้อนฟองออก กรอง
ด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไว้บนเตา เปิดไฟอ่อนการผสมไข่
ต่อยไข่ที่ล้างเปลือกสะอาดแล้ว แยกไข่แดงใส่ผ้าขาว
บางและแยกน้ำค้างไข่ออกต่างหาก
(ส่วนที่เป็นไข่ขาวใส)ตวงน้ำค้างไข่ผสมกับไข่แดงที่แยก
ไว้ กรองด้วยผ้าขาวบาง คนพอเข้ากัน การโรย เทไข่ที่
ผสมแล้วใส่กรวยโรยลงในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือด โรยวน
รอบกระทะทอง ครั้งละ 1 กรวย เมื่อไข่สุกเติมน้ำต้มสุก
เล็กน้อย เบาไฟให้เดือดปุด ๆ ใช้ไม้ปลายแหลมช้อนขึ้น
ส่ายในน้ำเชื่อม ให้เป็นแพเรียบ แล้ววางพับบนตะแกรง
โดยทำให้เป็นแพสี่เหลี่ยม ขนาดตามความต้องการ ทำ
ลักษณะเช่นนี้จนหมดไข่
ท อ ง ม้ ว น
ท อ ง ห ย อ ด ท อ ด ส นิ ท ท อ ง ม้ ว น มิ ด คิ ด ค ว า ม ห ลั ง
ส อ ง ปี ส อ ง ปิ ด บั ง แ ต่ ลำ พั ง ส อ ง ต่ อ ส อ ง
ถอดคำประพันธ์ : ทองหยอดกับทองม้วนก็
เหมือนคนสองคนที่จากกันไปนาน มานั้งย้อน
ความหลัง
ส่วนผสม
แป้งสาลีตราว่าว 1 กิโลกรัม ไข่ไก่ 10 ฟอง
มะพร้าวขูด 2 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 9 ขีด
งาดำ ½ ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำสะอาด 7 ขีด
น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง
วิธีการทำ
นำแป้งสาลีร่อนใส่ภาชนะไว้นำมะพร้าว
ขูดมาคั้นกับน้ำ 7 ขีดนำแป้งสาลีที่ร่อนแล้วและ
น้ำตาลทรายผสมกันในอ่างผสม ใส่ไข่ไก่และเกลือ
คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำกะทิและงาดำ คนให้เข้า
กัน นำพิมพ์ทองม้วนมาอังไฟ ใช้ไฟอ่อน อังจนพิมพ์
ร้อนจัด ทาน้ำมันพืชให้ทั่วพิมพ์ทั้งสองด้าน อัง
ไฟให้ร้อนอีกครั้ง ตักแป้งหยอดบนพิมพ์ บีบพิมพ์ให้
แน่น อังไฟสักครู่ พลิกกลับอีกด้าน พอเหลือง
(สังเกตจากแป้งที่เกาะอยู่นอกพิมพ์) ยกพิมพ์ออก
จากเตา เปิดพิมพ์ใช้ปลายมีดแซะขนมขึ้น ม้วนด้วย
ไม้กลม ๆ ทันทีขณะที่ยังร้อนอยู่ เพราะถ้าเย็นจะแข็ง
กรอบม้วนไม่ได้ จากนั้นปล่อยให้ทองม้วนเย็น แล้ว
บรรจุใส่ถุงพลาสติก รัดยางให้แน่น
เห่ชมเครื่องหวาน
บทพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุ ทธเลิศหล้านภาลัย ล้นเกล้ารัชกาลที่ 2
สังขยาหน้าไข่คุ้น เคยมี
แกมกับข้าวเหนียวสี โศกย้อม
สมรแม่ มาแม
เป็ นนัยนำวาที เพี ยบแอ้อกอร ๚
แถลงว่าโศกเสมอพ้อม
๏ สังขยาหน้าตั้งไข่ ข้าวเหนี ยวใส่ สี โศกแสดง
เป็ นนัยไม่เคลือบแคลง แจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ
แทรกใส่ น้ำกะทิ เจือ
๏ ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ ได้เสพหริ่มพิ มเสนโรย
วิตกอกแห้งเครือ นึกโฉมฉมหอมชวยโชย
โหยไห้หาบุหงางาม
๏ ลำเจียกชื่อขนม น่าสงสัยใคร่ขอถาม
ไกลกลิ่นดิ้นแดโดย ขนมนามนี้ยังแคลง
แผ่แผ่นกลมเพี ยงแผ่นแผง
๏ มัศกอดกอดอย่างไร แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย
กอดเคล้นจะเห็ นความ งามสมส่อประพิ มพ์ประพาย
ชายพกจีบกลีบแนบเนียน
๏ ลุดตี่นี้น่าชม ประดิษฐ์ทำขนมเทียน
โอชาหน้าไก่แกง เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม
สามหยิ บชัดน่ าเชยชม
๏ ขนมจีบเจ้าจีบห่อ ก้มหน้าเมินเขินขวยใจ
นึกน้องนุ่งจีบกราย เพี ยงไฟฟอนฟอกทรวงใน
เมื่อไรเห็ นจะเย็ นทรวง
๏ รสรักยักลำนำ เหมือนนกแกล้วทำรังรวง
คำนึงนิ้วนางเจียน ยังยิ นดี ด้วยมี รัง
ทองม้วนมิดคิดความหลัง
๏ ทองหยิบทิพย์เทียมทัด แต่ลำพังสองต่อสอง
หลงหยิ บว่ายาดม ใส่ ชื่อดุ จมงกุ ฏทอง
สะอิ้งน้องนั้นเคยยล
๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อน คิดบัวกามแก้วกับตน
ร้อนนักรักแรมไกล สถนนุชดุจประทุม
หอมปรากฏกลโกสุ ม
๏ รังไรโรงด้วยแป้ง หุ้มห่อม่วงดวงพุ ดตาน
โอ้อกนกทั้งปวง เหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน
เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ๚
๏ ทองหยอดทอดสนิท
สองปี สองปิ ดบัง
๏ งามจริงจ่ามงกุฏ
เรียมร่ำคำนึงปอง
๏ บัวลอยเล่ห์บัวงาม
ปลั่งเปล่ งเคร่งยุ คล
๏ ช่อม่วงเหมาะมีรส
คิ ดสี สไลคลุ ม
๏ ฝอยทองเป็ นยองใย
คิดความยามเยาวมาลย์