The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นโยบายที่1 พระบรมราโชบาย ร.10 รร.วัดไผ่ค่อมฯ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by orasakangtaworn24, 2022-12-27 03:23:32

นโยบายที่1 พระบรมราโชบาย ร.10 รร.วัดไผ่ค่อมฯ

นโยบายที่1 พระบรมราโชบาย ร.10 รร.วัดไผ่ค่อมฯ

พระบรมราโชบาย ร.10 สูก่ ารปฏิบตั ิ

คำนำ

ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน มีนโยบายขับเคลอื่ นการดำเนนิ งานนอ้ มนำ
พระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรชั กาลที่ 10 สกู่ ารปฏิบตั ิ โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื สง่ เสรมิ ให้ผ้บู รหิ าร
ครู บุคลากรทางการศึกษา และผ้เู รียน มีทัศนคติทีด่ ตี อ่ บา้ นเมอื ง มีพน้ื ฐานชวี ติ ทมี่ ่ันคง - มคี ณุ ธรรม มงี านทำ
- มอี าชพี และเปน็ พลเมอื งดี เพอ่ื ใหก้ ารดำเนนิ การขับเคลือ่ นเป็นไปในทิศทางเดยี วกนั บรรลุตามวัตถุประสงค์
การจดั ทำแนวทางการดำเนนิ งานเปน็ การน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ดา้ น คือ มที ัศนคติท่ี
ถกู ต้องตอ่ บา้ นเมอื ง มีพ้ืนฐานชีวติ ทีม่ ั่นคง - มีคุณธรรม มีงานทำ-มอี าชพี และเปน็ พลเมอื งดี ผา่ นการปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมวิถคี นดี คณุ ธรรมนำชีวติ หน่งึ ผ้เู รยี นหน่งึ อาชพี และจิตอาสาดว้ ยหวั ใจ โดยจะลงสกู่ ารปฏิบัติใน
โรงเรยี นนำร่อง 588 โรงเรยี นทอ่ี ยใู่ นกลมุ่ พัฒนาโครงการโรงเรียนพระราชดำริและโรงเรยี นเฉลมิ พระเกยี รติ
จำนวน 19 กลมุ่ โรงเรยี น ขับเคล่อื นผ่านเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา รว่ มกันถอดบทเรียนและค้นหาแนวปฏบิ ตั ทิ ีด่ ี
(Best Practice) เพื่อเปน็ ตน้ แบบและขยายผลกับโรงเรยี นท่ัวไป จำนวน 29,265 แห่ง

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน เชอ่ื มั่นเป็นอยา่ งยิง่ วา่ เอกสารแนวทางการดำเนนิ งาน
เปน็ การนอ้ มนำพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาในหลวงรชั กาลที่ 10 สู่การปฏบิ ตั ทิ จี่ ัดทำข้นึ นี้ จะเปน็
ประโยชนต์ ่อผบู้ ริหาร ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา เพือ่ นำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานให้แก่ผเู้ รียน
บรรลตุ ามวตั ถุประสงคม์ ที ศั นคตทิ ด่ี ีต่อบ้านเมือง มพี น้ื ฐานชีวิตท่ีม่ันคง มีคณุ ธรรม มีงานทำ มีอาชพี และเปน็
พลเมืองดีตอ่ ไป

สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน

2

พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏบิ ัติ

สารบญั

เรอ่ื ง หน้า
ข้อมลู พ้นื ฐานของสถานศึกษา .......................................................................................................... 1
นโยบายของของโรงเรียนวดั ไผ่ค่อม(แพร-ประชาอุปถมั ภ์)................................................................. 7
จดุ เนน้ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐานประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 ……..….. 9
นโยบายที่ 1 พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏิบัติ ........................................................................ 11
บทที่ 1 บทนำ ........................................................................................................................ ......... 12
บทที่ 2 กระบวนการดำเนนิ งานและบทบาทหน้าที่ผเู้ กย่ี วข้อง ....................................................... 15
บทที่ 3 แนวทางการดำเนินงาน ...................................................................................................... 18
บทท่ี 4 การนเิ ทศ กำกับติดตาม ...................................................................................................... 24
ภาคผนวก

3

พระบรมราโชบาย ร.10 สูก่ ารปฏิบตั ิ

ข้อมลู พ้นื ฐานของสถานศึกษา

1. ขอ้ มลู ทั่วไป สถานท่ตี ัง้
1.1 โรงเรียนวัดไผ่ค่อม(แพร-ประชาอปุ ถมั ภ)์ ต้งั อยู่ หมู่ที่ 1 ตำบลปากโทก อำเภอเมอื ง จังหวดั พิษณุโลก

รหัสไปรษณีย์ 65000 สังกดั สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต1
1.2 ภารกิจตามกฎหมาย เปิดสอนตั้งแตป่ ฐมวยั ถงึ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 นักเรียนในพนื้ ทเ่ี ขต

บรกิ าร จำนวน 2 หมบู่ า้ น ได้แก่ หมูท่ ี่ 1 , 3 ตำบลปากโทก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณโุ ลก

2. ขอ้ มลู ดา้ นการบรหิ าร

2.1 ผู้อำนวยการโรงเรยี นไทยรฐั วิทยา 8(บ้านมะขามสูง) รักษาการในตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียน

วัดไผ่คอ่ ม(แพร-ประชาอุปถมั ภ)์ ปัจจบุ ัน นายยงยุทธ สมพพิ งษ์ วฒุ กิ ารศกึ ษาสูงสดุ กศม. สาขา การบรหิ าร

การศกึ ษา ดำรงตำแหน่งท่ีโรงเรยี นนี้ต้ังแต่ 16 ธนั วาคม 2565 จนถงึ ปัจจบุ นั

2.2 ประวตั โิ ดยย่อ

โรงเรียนวดั วัดไผค่ ่อม(แพร-ประชาอปุ ถัมภ)์ ตั้งอยู่หมทู่ ี่ 1 ตำบลปากโทก อำเภอเมือง

จงั หวดั พษิ ณุโลก สงั กดั สำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต 1 สำนักงาน

คณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ เรมิ่ ทำการก่อต้งั เมื่อวนั ท่ี 20 สิงหาคม 2479

โดยอาศัยศาลาวดั เป็นสถานที่เรียน เปดิ สอนต้งั แตช่ น้ั ก. ข. ค. และ ป.1-ป.4 รวม 6 ปี มนี ายอนันต์

ดสี มบูรณ์ เป็นผู้บริการคนแรก ได้รับการแต่งตัง้ เมอ่ื วันท่ี 20 สงิ หาคม 2484 เมื่อ พ.ศ. 2504 พระอาจารย์

จันทโน เจ้าอาวาส วดั ไผค่ อ่ มรัตนาราม คณะครู คณะกรรมการวดั กรรมการโรงเรียน ผ้นู ำชมุ ชน

และประชาชนในหมู่ท่ี 1 และหม่ทู ี่ 3 รว่ มกนั จัดสรา้ งอาคารของโรงเรยี นเป็นเอกเทศ วางศิลาฤกษ์เพ่อื

กอ่ สร้างอาคารเมื่อวนั ท่ี 20 กุมภาพันธ์ 2505 โดยศึกษาธิการจังหวดั และนายอำเภอ เมืองพิษณโุ ลกเปน็

ประธานในพธิ ี ได้รับงบประมาณสนบั สนนุ เพิม่ เติมจากทางราชการ จำนวน40,000 บาท เม่ือ พ.ศ. 2506

ต่อมานายจำรสั แกว้ กลิน่ ได้ของบประมาณจาก ก.ส.ช. จำนวน 70,000 บาท สรา้ งอาคารตดิ พน้ื ดนิ

จำนวน 1 หลงั ขนาด กวา้ ง 8 เมตร ยาว 17 เมตร พน้ื คอนกรตี ผนังอฐิ บล็อก หลังคามุงสงั กะสี เป็น

อาคารแบบองคก์ าร 001 ปจั จุบนั เปดิ สอนตั้งแต่ระดบั ปฐมวัย (อนบุ าล ๒ , อนบุ าล ๓) ถงึ ระดบั ช้ัน

ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ มีเน้ือท่ที ้ังหมด 4 ไร่ (ทธี่ รณสี งฆ์)

ทำเนยี บผบู้ รหิ าร

ระยะเวลาดำรง รวมเวลา

ลำดับท่ี ช่ือ สกลุ ตำแหนง่ ตำแหนง่ (ปี)

ต้ังแต่ ถึง

1 นายอนันต์ ดีสมบูรณ์ 2479 2484 ครใู หญ่ 5

2 นายนอ้ ม พรหมสทิ ธิ์ 2484 2496 ครใู หญ่ 12

3 นายเจยี ร เงนิ ไทย 2496 2499 ครูใหญ่ 3

4 นายสมบูรณ์ เงินมาก 2499 2500 ครใู หญ่ 1

5 นายจำรัส แกว้ กลิ่น 2500 2524 ครูใหญ่ 24

6 นายสนอง กระตา่ ยน้อย 2524 2534 อาจารยใ์ หญ่ 10

7 นายลขิ ติ จนั ทร์เอีย่ ม 2534 2542 อาจารยใ์ หญ่ 8

4

พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏิบตั ิ

ลำดับท่ี ชื่อ สกุล ระยะเวลาดำรง ตำแหนง่ รวมเวลา
ตำแหน่ง (ปี)
8 นายสรุ จิต บญุ ส่งแท้ ผู้อำนวยการ
9 นายสกล พรหมแดน ตัง้ แต่ ถึง ผอู้ ำนวยการ 1
10 นายประจวบ เจรญิ ภัทราวุฒิ 2542 2543 ผ้อู ำนวยการ 9
11 นางสาวรงุ่ ทิพย์ อุ่นแก้ว 2543 2552 ผู้อำนวยการ 9
12 นายยงยุทธ สมพิพงษ์ 2552 2561 ผูอ้ ำนวยการไทยรัฐวิทยา 8 4
2561 2565 (บ้านมะขามสงู ) รักษาการใน
2565 ปจั จบุ นั ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น 7.2
วดั ไผ่ค่อม(แพร-ประชาอุปถมั ภ์)
เฉลย่ี

แผนผังบรเิ วณโรงเรยี นวัดไผ่คอ่ ม(แพร-ประชาอุปถัมภ์)

5

พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏิบัติ

อัตลักษณข์ องสถานศึกษา
เดก็ ดมี ีวนิ ยั

เอกลกั ษณข์ องสถานศึกษา
ย้ิมสวย ไหว้งาม มารยาทดี มีจติ อาสา

คำขวัญของโรงเรยี น
คุณธรรมนำหนา้ วิชาการสง่ เสริม เพ่ิมเติมความเป็นไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอ้ มนำเศรษฐกจิ พอเพยี ง

สัญลักษณต์ ราโรงเรยี นและสีประจำโรงเรียน

สัญลักษณต์ ราโรงเรียน นำ้ เงนิ – ขาว

3. ภาระงาน / ปรมิ าณ
การจัดการเรียนรู้สนองความต้องการและดำเนินการตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดไผ่ค่อม

(แพร-ประชาอุปถัมภ์) พุทธศักราช 2565 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่
เน้นให้ผู้เรียนมีทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งเน้นพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถ และความ
ถนัดของผู้เรียนเปน็ สำคญั ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางศาสตรพ์ ระราชา โดยจัดการศึกษาและ
บริหารงานโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้ประชากรวัยเรียนในเขตบริการได้รับการศึกษาภาคบังคับอย่าง
ทัว่ ถึงและเสมอภาคให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา สง่ เสรมิ และสืบสานความเปน็ เอกลกั ษณข์ องชุมชน

4. ข้อมูลบคุ ลากรครูโรงเรียนวัดไผค่ อ่ ม(แพร-ประชาอปุ ถมั ภ์) (ณ วนั ที่ 17 พฤษภาคม 2565)

ประเภท เพศ ระดบั การศกึ ษาสงู สุด อายุ ประสบการณ์

บุคลากร ชาย หญงิ ต่ำกวา่ ป.ตรี ป.ตรี สูงกวา่ ป.ตรี เฉลีย่ สอน เฉลี่ย

ผู้อำนวยการ 1 - - 1 52 27

ครูประจำการ 2 4 - - 6 40.88 13.5

พนกั งานราชการ 1 - - 1 - 28 5

นักการ-ภารโรง - - - - -- -

ธรุ การ - - - - -- -

รวม 2 6 - 1 7 40.29 15.16

(ครู : การสอน)

8 สอนประจำชนั้ (ทกุ วิชา) 100%

6

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏิบัติ

5. บุคลากรโรงเรียนวัดไผ่คอ่ ม(แพร-ประชาอุปถัมภ์)

ท่ี ชอื่ – ชื่อสกุล อา อายุ ตำแหนง่ /วทิ ย วฒุ ิ วิชา เอก สอนวิชา/ชน้ั
ยุ ราชกา ฐานะ
ภาษาไทย ป.5

อนบุ าล 2-3
1 นางสาวรุ่งทิพย์ อุ่นแก้ว 52 27 ผอ.ชำนาญการ กศ.บ. อตุ สาหกรรม ป.1
พเิ ศษ กศ.ม ศิลป์ ป.3
การบริหาร ป.4
ป.5-6
2 นางณัฐกานต์ บุญคง 46 22 ครู ชำนาญการ ค.บ. ประถมศกึ ษา ป.2
พิเศษ กศ.ม การบริหาร
คอมพิวเตอร์
3 นางนพรัตน์ ลำโนรี 39 11 ครู ชำนาญการ ค.บ. ภาษาไทย
พิเศษ ศษ.ม การบริหาร

4 นางอรสา กางทะวร 40 13 ครู ชำนาญการ กศ.บ. ประถมศกึ ษา
กศ.ม การบริหาร

5 นางสาวนัยนา ไชยวงค์ 36 6 ครู ชำนาญการ วท.บ. วท.บ. ฟสิ กิ ส์
กศ.ม การบริหาร

6. นายวฒุ ิศกั ด์ิ บญุ คง 46 23 ครู ชำนาญการ ค.บ. คณิตศาสตร์
พเิ ศษ กศ.ม การบริหาร

7 นายธนากร ดว้ งเต๊ะ 36 9 ครู ชำนาญการ ศ.ศ.บ. ภาษาองั กฤษ
ศษ.ม. การบริหาร

8 นายปรัชญา ยรุ มาส 28 5 พนักงานราชการ คอมพิวเตอร์

6. ขอ้ มูลนักเรยี นโรงเรียนวดั ไผค่ อ่ ม(แพร-ประชาอุปถมั ภ์) (ณ วนั ที่ 17 พฤษภาคม 2565)

6.1 จำนวนนกั เรียนในเขตพ้ืนที่บริการทง้ั สิ้น 29 คน

6.2 จำนวนนกั เรยี นในโรงเรียนทงั้ ส้ิน 29 คน จำแนกตามระดับชน้ั ทเ่ี ปิดสอน

ระดับชัน้ เรียน นกั เรยี น รวม

ชาย หญงิ

อนบุ าลปที ี่ 2 21 3

อนบุ าลปีท่ี 3 21 3

รวม 42 6

ประถมศกึ ษาปีที่ 1 -5 5

ประถมศึกษาปที ี่ 2 12 3

ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 13 4

ประถมศึกษาปที ี่ 4 23 5

ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 11 2

ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 31 4

รวม 8 15 23

รวมทั้งหมด 12 17 29 7

พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏบิ ตั ิ

นโยบายของของโรงเรียนวดั ไผค่ อ่ ม(แพร-ประชาอุปถมั ภ)์

ทิศทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนวัดไผ่ค่อม(แพร-ประชาอุปถัมภ์) ตำบลปากโทก
อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ประจำปี
งบประมาณ 2565 มีดงั นี้
วสิ ยั ทัศน์ (Vision)

“นักเรยี นดี มีความรูค้ คู่ ุณธรรมตามทักษะมาตรฐานดว้ ยการขับเคลอื่ นนวัตกรรม และ
ส่งเสริมความปลอดภยั ทุกรปู แบบ รักความเปน็ ไทย ใส่ใจส่ิงแวดล้อมบริหารแบบมสี ่วนร่วมนอ้ มนำตามหลกั
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสโู่ รงเรียนดมี คี ุณภาพของชุมชน”

พนั ธกิจ (Mission)
1. จดั การศึกษาอย่างมคี ุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานมที ักษะการ

เรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 (3R5C) มีรายละเอียดดังน้ี
3R = การอ่านออก/การเขียนได้/การคิดเลขเปน็
5C = ทกั ษะความรว่ มมือและการทำงานเปน็ ทีม ภาวะผู้นำ/ทกั ษะด้านความเขา้ ใจความตา่ งของ

วัฒนธรรม กระบวนทศั น์/ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร/ทักษะอาชพี และการ
เรียนรู้/ความมีเมตตา วินยั คุณธรรมและจริยธรรม

2. จดั สภาพแวดล้อมภายในและนอกห้องเรียนใหม้ รี ะบบความปลอดภัยเอ้ือตอ่ การเรยี นรู้
3. ส่งเสริมและพฒั นาในการขับเคลอ่ื นนวัตกรรมการจัดการเรยี นรู้ให้ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาสู่
หอ้ งเรียนอยา่ งมคี ุณภาพตามมาตรฐานวชิ าชีพอยา่ งต่อเนื่อง
4. การบรหิ ารจดั การตามหลักธรรมาภบิ าล
5. ส่งเสรมิ ให้นกั เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ อนรุ ักษ์ ประเพณที ้องถิ่น สืบ
สานวฒั นธรรมไทยและช่วยกันดแู ลเอาใจใสต่ ่อต่อสิง่ แวดล้อมอยา่ งคุ้มค่า ประหยัด
6. จัดการเรียนรบู้ รู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

เปา้ ประสงค์ (Goals)
1. นักเรยี นมีความรู้อยา่ งมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน อกี ทัง้ มี

ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3R5C)
2. โรงเรยี นมีสภาพแวดล้อมภายในและนอกห้องเรียนใหม้ ีระบบความปลอดภัยเอ้ือต่อการเรยี นรู้
3. ครูและบคุ ลากรมคี วามรู้ในด้านนวัตกรรมการจัดการเรยี นรูใ้ หน้ ักเรยี นยา่ งมีคุณภาพ

ตามมาตรฐานวชิ าชพี อย่างตอ่ เนื่อง
4. มกี ารบริหารจัดการศึกษาตามแนวทางการกระจายอำนาจตามหลักธรรมาภบิ าล เนน้ การมสี ว่ นรว่ ม

จากทุกภาคสว่ น
5. นกั เรียนเปน็ คนดมี ีคุณธรรมจรยิ ธรรม ตามคุณลักษณะท่ีพึงประสงคแ์ ละคา่ นิยมของคนไทย 12

ประการ และร่วมอนรุ ักษ์ ประเพณีท้องถิ่น สืบสานวฒั นธรรมไทยและดูแลเอาใจใสต่ ่อสง่ิ แวดล้อมอย่างคุ้มค่า
ประหยัด

6. ผู้บรหิ าร ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา นักเรียน ดำเนนิ ชวี ติ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

8

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏิบตั ิ
กลยทุ ธ์

กลยทุ ธ์ขอ้ ท่ี 1 พฒั นาคุณภาพนักเรียนทุกระดบั ตามมาตรฐานการศกึ ษา และมีทกั ษะการเรียนรู้ใน
ศตวรรษที่ 21 (3R5C)

กลยุทธ์ข้อท่ี 2 ส่งเสริมพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาทั้งระบบใหส้ ามารถปฏบิ ตั งิ าน และ
จัดการเรยี นการสอนโดยใช้นวัตกรรมได้อย่างมีคณุ ภาพ

กลยทุ ธข์ ้อที่ 3 พัฒนาประสทิ ธภิ าพการบริหารจดั การศกึ ษาตามหลักธรรมาภบิ าล
กลยทุ ธ์ขอ้ ที่ 4 ส่งเสรมิ คุณธรรมจริยธรรม รว่ มกบั อนรุ กั ษ์ ประเพณีท้องถ่ินสืบสานวฒั นธรรมไทย
กลยุทธข์ อ้ ที่ 5 ปลูกฝงั คณุ ธรรม ความสำนกึ ในความเป็นชาติไทยและวถิ ชี ีวติ ตามหลกั ปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง

9

พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏบิ ตั ิ

จุดเนน้ ของสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน
ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565

1. เรง่ แกป้ ญั หากลุ่มผ้เู รียนทีไ่ ด้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควดิ –19 โดย
เพ่มิ โอกาสในการเขา้ ถึงการศึกษา ฟ้ืนฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ใหก้ บั
ผูเ้ รียนทกุ ระดบั รวมทั้งลดความเครียดและสขุ ภาพจติ ของผู้เรียน

2. เสรมิ สรา้ งระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยนกั เรยี น ด้วยระบบมาตรฐานความปลอดภยั
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (MOE Safety Platform)

3. ส่งเสรมิ ให้เด็กปฐมวยั ทม่ี ีอายุ 3 - 5 ปี และผูเ้ รียนระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน เข้าถึงโอกาสทางการ
ศึกษา และป้องกันการหลุดออกจากระบบ รวมทั้งช่วยเหลือเด็กตกหลน่ เดก็ ออกกลางคัน และเดก็ พิการท่ี
คน้ พบจากการปักหมดุ บา้ นเด็กพิการให้กลบั เข้าสู่ระบบการศกึ ษา

4. พฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษาทเี่ นน้ สมรรถนะและการจดั ทำกรอบหลกั สูตร รวมทัง้ จดั กระบวนการ
เรยี นรทู้ างประวัติศาสตร์ หน้าทีพ่ ลเมืองและศีลธรรม ใหเ้ หมาะสมตามวยั ของผู้เรยี น

5. จดั การอบรมครโู ดยใชพ้ ้ืนท่ีเป็นฐาน พร้อมกบั การเสรมิ ทกั ษะการสอนแบบออนไลน์ อยา่ งมี
ประสิทธิภาพ และการให้ความรู้ดา้ นการวางแผนและการสร้างวินัยดา้ นการเงนิ และการออมเพ่ือแกไ้ ขปญั หา
หน้ีสินครู

6. ส่งเสริมการจดั การเรียนรผู้ ่านกระบวนการเรียนการสอนทเ่ี นน้ ใหผ้ ้เู รียนมีสว่ นร่วม และมี
ปฏิสัมพันธก์ บั กิจกรรมการเรียนรูผ้ า่ นการปฏบิ ตั ิที่หลากหลายรูปแบบ (Active Learning) มกี ารวัดและ
ประเมินผลในชน้ั เรียน เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน (Assessment for Learning) ทกุ ระดับ

7. ยกระดบั คุณภาพของนักเรียนประจำพักนอน สำหรับโรงเรยี นที่อยู่ในพื้นที่สูง หา่ งไกลและถนิ่
ทุรกันดาร

8. ม่งุ เน้นการใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั เพื่อการเรยี นรทู้ ุกระดับ
9. เพ่มิ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารจัดการศึกษา โดยการกระจายอำนาจและใชพ้ ้ืนทเ่ี ปน็ ฐาน เพื่อสร้าง
ความเขม้ แขง็ โดยการจดั สรรกรอบวงเงนิ งบประมาณ (Block Grant) ตามหลกั ธรรมาภบิ าลใหก้ บั สำนักงาน
เขตพน้ื ท่ีการศึกษาและสถานศกึ ษา ท้ังน้ีตัง้ แต่บดั นีเ้ ปน็ ตน้ ไป

10

พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏบิ ตั ิ

11

พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏบิ ตั ิ

นโยบายที่ 1 พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏิบัติ

กรอบแนวคดิ
ส่งเสรมิ ให้ผู้บรหิ าร ครู และผูเ้ รยี นมที ศั นคติทถี่ กู ตอ้ งต่อบา้ นเมือง มีพ้ืนฐานชีวติ ท่มี ่นั คง มคี ณุ ธรรม มีงานทำ มีอาชีพ

และเปน็ พลเมอื งดี
เป้าหมาย

มุ่งเน้นการสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ให้กับ
นักเรยี นโรงเรียนวัดบึงพระ (เหรียญ จ่ัน อนสุ รณ)์
แนวทางการขับเคล่อื น (ขนั้ ตอน/วธิ กี าร/ทฤษฎกี ารบริหาร)

พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลท่ี 10 มุง่ สรา้ งพน้ื ฐานให้แกผ่ ูเ้ รยี น 4 ดา้ น ได้แก่
1. มีทศั นคตทิ ีถ่ กู ต้องต่อบ้านเมอื ง

1) สร้างความรคู้ วามเข้าใจต่อชาติบ้านเมืองท่ีถกู ต้องใหแ้ ก่ผ้เู รยี น
2) สอนแนวทางการยดึ มนั่ ในศาสนาในแบบทีถ่ ูกต้อง
3) สอนใหผ้ เู้ รียนเข้าใจเก่ียวกบั ความสำคญั ของสถาบันกษัตรยิ ์
4) สอนให้ผ้เู รยี นมคี วามเอือ้ อาทรต่อครอบครัวและชมุ ชนของตน
2. มพี น้ื ฐานทม่ี ่ันคง – มคี ุณธรรม
1) สอนแนวทางใหผ้ เู้ รียนรจู้ ักการแยกแยะสง่ิ ท่ผี ิด-ชอบ/ชว่ั -ดี
2) ส่งเสรมิ ใหค้ รแู ละผู้เรยี นปฏิบตั แิ ตส่ ิ่งท่ีชอบ สิ่งทีด่ งี าม
3) สอนให้ผเู้ รียนปฏิเสธสิ่งทผ่ี ดิ ส่ิงทชี่ ่ัว
4) สนบั สนนุ ใหค้ รูช่วยกนั สรา้ งคนดใี ห้แก่บา้ นเมอื ง
3. มงี านทำ – มีอาชพี
1) ส่งเสริมใหผ้ ูป้ กครองมีการเลีย้ งดูลูกหลานในครอบครวั
2) ส่งเสริมใหค้ รผู ู้สอนมีการฝกึ อบรมทั้งในหลกั สูตรและนอกหลักสูตรต้องมีจดุ มุ่งหมายให้ผเู้ รียนทำงานเป็นและ
มีงานทำในทสี่ ดุ
3) สนับสนุนผสู้ ำเรจ็ หลกั สตู รและนอกหลกั สูตร มอี าชีพ มีงานทำ จนสามารถเลีย้ งตนเองและครอบครัว
4. เป็นพลเมืองท่ดี ี
1) สอนให้ผู้เรียนมีความรู้และมีความเข้าใจว่าการเป็นพลเมืองดี คือ การที่เห็นอะไรที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ต่อ
บ้านเมือง ทำเพ่อื บา้ นเมืองได้กต็ ้องทำ เช่น งานอาสาสมัคร งานบำเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น

12

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏิบตั ิ

บทท่ี 1
บทนำ

ความสำคัญและความเปน็ มา
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรีสนิ ทรมหาวชิราสงกรณ มหศิ รภมู ิพสราชวรางกูร กิตสิ ิรสิ ม

บรู ณอดลุ ยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระชริ เกล้าเจ้าอยู่หัว (ในหลวงรชั กาลท่ี 10)
ทรงสีบสานพระราชปณธิ าน ด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถ
บพติ ร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) เพื่อประโยซนข์ องประชาชนชาวไทยทงั้ ปวง คือ การสร้างคนดีใหแ้ ก่บ้านเมือง จงึ
ทรงมีพระบรมราโชบายด้านการศึกษาพ้ืนฐานแกผ่ ู้เรยี น 4 ด้าน ประกอบดว้ ย (1) การมีทศั นคติทถ่ี กู ตอ้ งตอ่
บ้านเมือง(2) การมีพนื้ ฐานชวี ติ ท่ีมนั่ คง - มีคุณธรรม (3) การมงี านทำ - มอี าชีพ และ (4) การเปน็ พลเมืองดี

กระทรวงศึกษาธกิ าร โดยรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร (นางสาวตรีนซุ เทียนทอง) ไดก้ ำหนด
นโยบายการบริหารจัดกรศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ตระหนักถึงความสำคญั ของยุทธศาสตร์ซาตดิ า้ น
การพัฒนาและเสริมสร้างศกั ยภาพทรพั ยากรมนุษย์ โดยเฉพาะแผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตรซ์ าติ ประเด็นการ
พฒั นาการเรยี นรู้ทต่ี อบสนองตอ่ การเปล่ยี นแปลงในศตวรรษที่ 21 และพหปุ ัญญาของมนุษยท์ ่ี หลากหลาย จงึ
ได้กำหนดนโยบายที่สอดคล้องกับพระบรมราโชบาย ดา้ นการศกึ ษาในหลวงรัชกาลท่ี 1 ในการสรา้ งคนดใี ห้แก่
บ้านเมืองโดยจัดใหม้ รี ปู แบบ วธิ ีการ หรือกระบวนการในการดูแลช่วยเหลือผเู้ รียน เพ่อื ให้ผเู้ รียนเกิดการเรยี นรู้
อย่างมีคุณภาพ มคี วามสขุ และได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภยั ท้งั ดา้ นรา่ งกายและจิตใจ รวมถงึ การ
สรา้ งทักษะใหผ้ ้เู รียนมีความสามารถในการดูแสตนเองจากภัยอนั ตรายตา่ ง ๆ ทา่ มกลางสภาพแวดล้อมทาง
สงั คมรจู้ กั แยกแยะสิ่งผิด-ซอบ/ช่วั -ดี ปฏิบัติแต่สงิ่ ท่ขี อบ ส่ิงทดี่ งี าม รู้จักปฏเิ สธส่งิ ท่ีผดิ สงิ่ ท่ีชว่ั รวมทั้งนโยบาย
ดา้ นการพฒั นาทักษะทางอาชีพ โดยส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษาที่เนน้ พัฒนาทกั ษะอาชีพของผู้เรียนเพอื่ พฒั นา
คุณภาพชีวติ สร้างอาชีพและรายไดท้ ีเ่ หมาะสม จนสามารถเล้ียงตัวเองและครอบครัวได้

สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาช้นั พ้นื ฐาน (สพฐ :) มอี ำนาจหน้าที่ในการจดั ทำข้อเสนอนโยบาย
แผนพฒั นาการศกึ ษา กำหนดหลกั เกณฑ์ แนวทาง และดำเนนิ การเกย่ี วกบั การสนับสนุนทรพั ยากร ส่งเสริม
การนเิ ทศ การบริหารและการจดั การศึกษา ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน
ของเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา และพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา ประสาน ส่งเสรมิ สนบั สนนุ และกำกับดูแลการจดั
การศึกษาชนั้ พ้ืนฐานให้เปน็ ไปเพ่ือพฒั นาคนไทยให้เปน็ มนุษยท์ สี่ มบรู ณ์ท้งั รา่ งกายและจิตใจ สตปิ ญั ญา ความรู้
และคุณธรรม มีจริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่รว่ มกบั ผ้อู ื่นอยา่ งมีความสุข เพอ่ื เป็นการ
สำนกึ ในพระมหากรุณาธิคุณ จงึ ไดน้ ้อมนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาในหลวงรัชกาลท่ี 10 มาเปน็ หลัก
ในการบรหิ ารจัดการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐานให้กับหนว่ ยงานในสังกัดนำไปขับเคลื่อนสู่การปฏบิ ตั ิอยา่ งยงั่ ยนื ตาม
รอยพระยคุ ลบาทอยา่ งเปน็ รปู ธรรมท้ัง 4 ด้าน 1. มที ัศนคตทิ ี่ถูกต้องต่อบ้านเมอื ง 2. มีพืน้ ฐานชีวิตที่ม่ันคง -
มคี ณุ ธรรม 3. มงี านทำ - มีอาชีพ 4. เป็นพลเมอื งดี

13

พระบรมราโชบาย ร.10 สูก่ ารปฏบิ ัติ

วตั ถปุ ระสงค์
เพ่ือเป็นแนวทางการดำเนนิ งานในการน้อมนำพระบรมราโขบายด้านการศึกษาในหลวงรชั กาลท่ี 10

สู่การปฏบิ ัติของสถานศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาช้นั พน้ื ฐาน

เปา้ หมายการดำเนินงาน
1. ระยะที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

สถานศกึ ษาในกลุ่มพฒั นาโรงเรยี นในโครงการตามพระราชดำริและโรงเรียนเฉลมิ พระเกียรติ สงั กดั
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน จำนวน 588 โรงเรยี น น้อมนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษา
ในหลวงรชั กาลที่ 10 สูก่ ารปฏบิ ัติ

2. ระยะท่ี 2 ปีการศึกษา 2566
2.1 สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน น้อมนำพระบรมราโชบายด้าน
การศึกษาในหลวงรชั กาลที่ 10 สกู่ ารปฏบิ ตั ิครบทุกสถานศึกษา
2.2 สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาสง่ เสริมสนับสนนุ การน้อมนำพระบรมราโซบายด้านการศึกษา
ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทกุ สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา

ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั
1.ผู้เรียนมี ความรู้ ความเขา้ ใจ เจตคตทิ ่ดี ี มีจิตสำนึกที่ดีและมคี ุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ตามพระบรม

ราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลท่ี 10 ทั้ง 4 ดา้ น
2.ผบู้ รหิ าร ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา มีความรคู้ วามเข้าใจ มีเจตคตทิ ี่ดี สามารถสร้างจิตสำนึก

และปลูกฝังใหผ้ ู้เรยี นมีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามพระบรมราโซบายดา้ นการศึกษาในหลวงรชั กาลท่ี 10
3.สถานศึกษา มีแนวทางการดำเนนิ งาน มสี ่วนร่วมกับหน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้อง และภาคีเครือขา่ ย ในการ

นอ้ มนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรชั กาลท่ี 10 สกู่ ารพัฒนาคุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ อง
ผเู้ รยี น

4.สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษา มีแนวทางในการส่งเสริม สนับสนนุ ให้สถนศกึ ษาน้อมนำพระบรมรา
โชบายด้านการศกึ ษาในหลวงรัชกาลท่ี 10 ส่กู ารปฏบิ ตั อิ ย่างเป็นรูปธรรม

5.สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน มีแนวทางในการขับเคล่ือนใหเ้ กดิ การน้อมนำพระ
บรมราโขบายดา้ นการศึกษาในหลวงรชั กาลท่ี 10 ส่กู ารปฏิบัติ

นยิ ามศัพท์
พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาในหลวงรชั กาลที่ 10 หมายถึง พระบรมราโซบายดา้ นการศึกษาทั้ง

4 ด้าน ไดแ้ ก่ มที ัศนคติท่ีถูกต้องต่อบา้ นเมือง มีพื้นฐานชวี ติ ทีม่ ั่นคง - มีคุณธรรม มีงานทำ - มอี าชีพ การเปน็
พลเมืองดี

มที ัศนคตทิ ่ถี ูกตอ้ งตอ่ บ้านเมือง หมายถึง ผู้เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจต่อบ้านเมือง ยึดม่ันในศาสนา
มัน่ คงในสถาบันพระมหากษตั ริย์ และมคี วามเอื้ออาทรตอ่ ครอบครวั และชุมชนของตน

มีพ้นื ฐานชีวติ ที่มั่นคง - มคี ณุ ธรรม หมายถึง ผู้เรยี นร้จู กั รู้จักแยกแยะดีและช่วั ปฏเิ สธส่ิงทีผ่ ดิ
ปฏบิ ัตแิ ต่สง่ิ ท่ีดีงาม และช่วยกนั สรา้ งคนดีให้แกบ่ ้านเมอื ง

มีงานทำ - มีอาชีพ หมายถงึ การเลย้ี งดูลูกหลานในครอบครัวหรอื การฝึกฝนอบรมในสถานศกึ ษา

14ต้องมุง่ ให้เดก็ รักงาน สงู้ าน ทำงานจนสำเรจ็ การฝกึ ฝนอบรมทัง้ ในหลักสตู รและนอกหลกั สตู รตอ้ งมงุ่ หมายให้

พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏบิ ัติ
ผ้เู รียนทำงานเปน็ มีงานทำในท่ีสุด และต้องสนับสนุนผสู้ ำเรจ็ หลักสูตรมอี าชพี มงี านทำ และสามารถเล้ยี ง
ตัวเองและครอบครัวได้

การเปน็ พลเมอื งดี หมายถงึ การเป็นพลเมืองดี เปน็ หน้าท่ีของทุกคน ครอบครัว สถานศึกษาและ
สถานประกอบการตอ้ งสง่ เสริมใหท้ กุ คนมีโอกาสทำหนา้ ที่ พลเมอื งดี และการเป็นพลเมืองดีคือ "เห็นอะไรทจี่ ะ
ทำเพื่อบา้ นเมืองได้ก็ต้องทำ" เช่น งานอาสาสมัครงานบำเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศล ใหท้ ำด้วยความมี
นำ้ ใจ และความเอ้ืออาทร

15

พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏิบัติ

บทท่ี 2
กระบวนการดำเนินงานและบทบาทหนา้ ทผ่ี ้เู กีย่ วข้อง

การนอ้ มนำพระบรมราโซบายดา้ นการศึกษาในหลวงรชั กาลท่ี 10สู่การปฏบิ ัตขิ องสถานศึกษา
โดยกำหนดบทบาทหน้าที่ของผูเ้ ก่ียวข้อง ท้ังในระดับสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน
สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา และสถานศึกษา ซึ่งมีกระบวนการดำเนนิ งาน 4 ข้นั ดงั นี้

1. สรา้ งความตระหนัก
2. ดำเนนิ งาน
3. กำกบั ติดตาม
4. สรปุ รายงานและนำเสนอผล
1. สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน มีบทบาทหน้าทใี่ นการน้อมนำพระบรมราโชบายดา้ น
การศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏบิ ัติ โดยสนับสนุนและสง่ เสรมิ ใหส้ ำนกั งานเขตพนื้ ที่ และ
สถานศกึ ษาดำเนินการขับเคล่อื นอยา่ งเป็นรูปธรรมตามกระบวนการดำเนินงาน ดงั น้ี

1.1 สรา้ งความตระหนัก
กำหนดและประกาศนโยบายแนวทางการดำเนินงาน สง่ เสริม และสนบั สนนุ การน้อมนำพระบรมรา
โซบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลท่ี 10 สูก่ ารปฏิบตั ิ โดยให้มกี ารขับเคล่ือนอย่างจริงจังและเปน็ รปู ธรรม
1.2 ดำเนนิ งาน

1.2.1 จดั ทำแนวทางการดำเนนิ งานขับเคลอ่ื น "การน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาใน
หลวงรัชกาลท่ี 10 ด้านการศึกษาสู่การปฏิบตั "ิ

1.2.2 สง่ เสริม สนับสนนุ และเสนอแนะแนวทางให้คำปรึกษา เกี่ยวกับการดำเนินงานตาม
นโยบาย

1.3 กำกับ ติดตาม
กำกับ ติดตามการดำเนินงาน และขับเคล่ือนการน้อมนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษา

ในหลวงรชั กาลที่ 10 สู่การปฏิบตั ิ ใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงค์ และเปา้ หมายท่ีตงั้ ไว้
1.4 สรปุ รายงานและนำเสนอผล
1.4.1 รวบรวม วเิ คราะห์ สรุป รายงานผลขอ้ มลู ที่ไดร้ ับจากสำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา และ

สถานศึกษา พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรชั กาลท่ี 10
สกู่ ารปฏิบตั ิ

1.4.2 จดั ให้มีเวทีแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และนำเสนอวธิ ปี ฏบิ ัตทิ ีเ่ ป็นเลศิ (Best Practices)
1.4.3 จัดทำข้อมูลสารสนเทศ และเผยแพร่สสู่ าธารณชน
1.4.4 ประสานความรว่ มมือเครือข่ายใหม้ ีสว่ นร่วมในการดำเนนิ งานในระดับกลมุ่ เขตพนื้ ท่ี
(Cluster)

2. สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษา
สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มีบทบาทหนา้ ทใ่ี นการน้อมนำพระบรมราโซบายด้านการศึกษาในหลวง

รัชกาลท่ี 10 ส่กู ารปฏบิ ตั ิตามกระบวนการดำเนนิ งาน ดังน้ี
2.1 สรา้ งความตระหนกั
มอบนโยบาย สรา้ งการรับรู้ เขา้ ใจ และสรา้ งความตระหนกั ใหก้ ับขา้ ราชการครู และบุคลากร

16ทางการศึกษาในสังกัด

พระบรมราโชบาย ร.10 สูก่ ารปฏิบตั ิ

2.2 ดำเนินการ
2.2.1 ดำเนินการขับเคลอื่ นการน้อมนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาในหลวงรชั กาลที่ 10 สู่

การปฏบิ ตั ขิ องกลุ่มสถานศึกษาในสังกดั ในพน้ื ท่ีรับผิดชอบใหเ้ ปน็ ไปในทิศทางเดยี วกนั อย่างมีประสิทธิภาพ
2.2.2 สง่ เสริม สนบั สนุน ให้คำปรึกษาแนะนำในการดำเนนิ งาน แกส่ ถานศกึ ษา ในการน้อมนำ

พระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลท่ี 10 สู่การปฏบิ ตั ใิ หบ้ รรลุตามวัตถปุ ระสงค์ และเป้าหมาย
ทีต่ ้ังไว้

2.2.3 พฒั นาองคค์ วามรใู้ นการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลท่ี 10 สู่
การจดั การเรยี นการสอน และประสานความรว่ มมือเครือข่ายให้มสี ว่ นร่วมในการดำเนินงาน ในระดบั กลุ่ม
เขตพนื้ ท่ี (Cluster) และระดับจังหวัด

2.3 กำกบั ตดิ ตาม
ดำเนนิ การนิเทศ ติดตาม การดำเนินงานการนอ้ มนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวง

รชั กาลท่ี 10 สู่การปฏิบตั ขิ องสถานศกึ ษา ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ และสรา้ งขวญั กำลงั ใจแกส่ ถานศึกษา
2.4 สรปุ รายงานและนำเสนอผล
2.4.1 รวบรวม วิเคราะห์ ถอดบทเรยี น สรปุ รายงานผลข้อมลู ท่ีได้รับจากสถานศึกษา และ

เสนอแนะแนวทางการนอ้ มนำพระบรมราโซบายดา้ นการศึกษาในหลวงรชั กาลท่ี 10 สู่การปฏบิ ัตแิ ละ
รายงานผลการดำเนินงานต่อสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน

2.4.2 จัดใหม้ ีเวทแี ลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำเสนอวธิ ีปฏบิ ตั ิท่เี ปน็ เลศิ (Best Practices) ในเขต
พื้นท่ีการศึกษา และเขตตรวจราชการ (Cluster)
3. สถานศึกษา

สถานศกึ ษามบี ทบาทหน้าท่ีในการนอ้ มนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาในหลวงรัชกาลท่ี 10 สู่
การปฏบิ ตั ติ ามกระบวนการดำเนินงาน ดังนี้

3.1 สร้างความตระหนกั
ประชาสัมพนั ธ์ และกระตุ้นให้ ผ้เู รยี น ครู ผู้ปกครอง ชุมชน หนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวข้อง และภาคี

เครอื ข่ายเกิดความรคู้ วามเขา้ ใจและนำไปสูก่ ารปฏิบตั ิในชีวิตประจำวนั ตามพระบรมราโชบายดา้ น
การศึกษาในหลวงรชั กาลที่ 10

3.2 ดำเนนิ การ
สถานศกึ ษา ดำเนินการจดั กิจกรรมการเรยี นรดู้ ว้ ยการน้อมนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษา
ในหลวงรชั กาลที่ 10 สู่การปฏิบตั ิ โดยสถานศกึ ษาวเิ คราะห์และจำแนกกิจกรรมท่ีมีการสง่ เสรมิ และพฒั นา
ผเู้ รียนตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐานตามท่ีสถานศึกษาดำเนนิ การอยูแ่ ล้ว หรอื ออกแบบ
กิจกรรมใหมใ่ ห้สอดคล้องกับตัวช้วี ัดของกิจกรรมทงั้ 4 กิจกรรม ประกอบด้วย
วถิ ีคนดี : มที ศั นคติทีถ่ ูกต้องต่อบา้ นเมือง
มคี ุณธรรมนำชวี ิต : มีพ้นื ฐานชวี ิตที่มนั่ คง - มคี ณุ ธรรม
หน่ึงผเู้ รยี น หนึ่งอาชพี : มงี านทำ - มีอาชีพ
จติ อาสาดว้ ยหวั ใจ : การเปน็ พลเมืองดี
3.3 กำกับ ติดตาม

3.3.1 ดำเนินการนเิ ทศ กำกับ ตดิ ตาม การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ของครูในการน้อมนำ
พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาในหลวงรชั กาลท่ี 10 สู่การปฏบิ ตั ิ

3.3.2 จดั กจิ กรรมแลกแปลีย่ นเรยี นรู้ เสนอแนะแนวทางในการพัฒนากจิ กรรมการเรยี นรู้
ในการนอ้ มนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาในหลวงรชั กาลที่ 10 สูก่ ารปฏิบตั ิ

17

พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏิบตั ิ
3.4 สรุป รายงานและนำเสนอผล
ประเมนิ วิเคราะหผ์ ลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา
ในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบตั ิ และรายงานผลการดำเนนิ งานและนำเสนอผลงานของสถานศึกษา
ตอ่ ทหน่วยงานตน้ สงั กดั

18

พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏบิ ัติ
บทที่ 3
แนวทางการดำเนนิ งาน
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐานสำนึกในพระมหากรุณาธคิ ุณ ในหลวงรชั กาลที่ 10
จงึ น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การปฏบิ ตั ิ เพ่ือพฒั นาผู้เรยี นให้เป็นมนุษย์ท่สี มบูรณท์ ัง้ รา่ งกาย
และจิตใจ สติปญั ญา ความร้แู ละคุณธรรม มีจรยิ ธรรม และวฒั นธรรมในการดำรงชวี ิต สามารถอยู่รว่ มกับ
ผู้อ่ืนอยา่ งมีความสุข จึงไดจ้ ัดทำแนวทางดำเนนิ งาน สำหรบั สถานศกึ ษา ผ่านกจิ กรรม 4 กิจกรรม
ประกอบด้วย
1. วิถคี นดี : มีทศั นคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมอื ง
2. มีคณุ ธรรมนำชวี ิต : มพี ้ืนฐานชวี ิตที่ม่ันคง - มคี ณุ ธรรม
3. หน่งึ ผูเ้ รยี น หนงึ่ อาชพี : มงี านทำ - มีอาชีพ
4. จิตอาสาดว้ ยหัวใจ : การเป็นพลเมืองดี
แต่ละกิจกรรมประกอบดว้ ย องคป์ ระกอบ ตัวชี้วดั ตวั อย่างพฤติกรรมบง่ ชี้ ตวั อยา่ งกจิ กรรม รอ่ งรอย
และหลกั ฐาน ทีส่ ถานศกึ ษาสามารถนำไปเป็นแนวทางสำหรับการปฏิบตั ิ โดยสถานศึกษาสามารถวเิ คราะห์
และจำแนกกจิ กรรมที่ได้มกี ารส่งเสริมและพัฒนาผ้เู รยี นตามหลกั สตู รแกนกลางสถานศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน
ตามท่ีสถานศึกษาดำเนนิ การอย่แู ลว้ หรืออาจจะออกแบบกิจกรรมใหมใ่ ห้สอดคล้องกบั องคป์ ระกอบ
ตัวช้ีวดั พฤตกิ รรมบง่ ช้ี โดยพจิ ารณาใหเ้ หมาะสมกับระดบั ช้ันของผเู้ รียน ท้ัง 4 กจิ กรรม ซง่ึ มีแนวทางปฏิบัติ
ตามแผนภาพ ดังนี้

19

พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏบิ ตั ิ

20

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏบิ ตั ิ

วิถคี นดี : มีทศั นคตทิ ่ีถกู ต้องตอ่ บ้านเมอื ง

กจิ กรรมวิถีคนดี : มที ัศนคติทถี่ กู ต้องตอ่ บา้ นเมือง เป็นกิจกรรมที่พัฒนาผ้เู รยี นใหม้ คี วามรู้ ความ
เขา้ ใจและตระหนักตอ่ ความสำคญั ต่อชาตบิ ้านเมือง ยึดมัน่ ในศาสนา ม่ันคงในสถาบนั พระมหากษตั ริย์ มี
ความเอื้ออาทรต่อครอบครวั และชมุ ชนของตน มี 4 องคป์ ระกอบ คือ 1) ผเู้ รยี นมีความรู้ความเขา้ ใจต่อ
บ้านเมอื ง 2) ยดึ มน่ั ในศาสนา 3) มน่ั คงในสถาบนั พระมหากษัตริย์ และ 4 มคี วามเอือ้ อาทรต่อครอบครวั
และชุมชนของตน เพื่อใหก้ ารขับเคลื่อนและการดำเนนิ กจิ กรรมเปน็ ไปในทิศทางเดียวกัน จงึ กำหนดคำ
นิยามเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร ดงั น้ี

ความรู้ความเข้าใจต่อชาติบ้านเมอื ง หมายถึง การปฏิบัติตนตามกฎกติกา กฎระเบยี บ
กฎหมาย การแสดงออกตามวฒั นธรรมประเพณี การเขา้ ร่วมหรือมสี ่วนร่วมในการทำกิจกรรมทีเ่ กย่ี วข้อง
กับตอ่ ชาติบ้านเมือง และการชักชวน โนม้ น้าวให้ผ้อู ืน่ ปฏิบตั ิตามกฎกติกา กฎระเบียบ กฎหมาย วัฒนธรรม
ประเพณีของครอบครวั ชุมชนและชาติบ้านเมือง

ยึดมนั่ ในศาสนา หมายถงึ การปฏิบัติตามหลกั และคำสอนของศาสนาท่นี บั ถือ การเข้าร่วมหรอื มี
สว่ นรว่ มในการทำกิจกรรมท่ีเกยี่ วข้องกบั ศาสนาด้วยความเต็มใจหรือศรัทธาและการชกั ชวน โน้มน้าวให้
ผอู้ ่ืนปฏบิ ัติตามหลักและคำสอนของศาสนาทน่ี ับถือ เขา้ ร่วมหรอื มสี ว่ นร่วมเก่ยี วกบั กจิ กรรมท่เี กีย่ วข้องกับ
ศาสนา

ม่ันคงในสถาบนั พระมหากษัตริย์ หมายถงึ การกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมท่แี สดงถงึ ความ
สำนึกในพระมหากรณุ าธิคุณของสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ การแสดงถึงความรกั และเทิดทูนในสถาบนั
พระมหากษัตรยิ ์ และเข้ารว่ มหรอื มีสว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมท่เี กี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ และการ
โนม้ นา้ วใหผ้ ้อู ่นื รว่ มทำกิจกรรมท่แี สดงถึงความรักและเทดิ ทูนในสถาบันพระมหากษัตรยิ ์

มคี วามเอื้ออาทรตอ่ ครอบครวั และชุมชนของตน หมายถึง การมีความตระหนกั และมีพฤติกรรม
ในการเป็นผ้มู คี วามโอบอ้อมอารีและคำนงึ ถึงผลที่เกดิ ขึ้นต่อตนเองและผอู้ น่ื การเป็นแบบอยา่ งท่ดี ีในการ
เป็นคนที่มีความโอบออ้ มอารีและคำนึงถึงผลทเี่ กิดขน้ึ ต่อตนเองและผูอ้ ื่น และการชกั ชวนหรือโน้มน้าวให้
ผอู้ ืน่ เห็นคุณค่าของการเปน็ คนที่มคี วามโอบอ้อมอารีและคำนึงถึงผลที่เกิดข้ึนต่อตนเองและผอู้ นื่ ท้งั ใน
ครอบครัว โรงเรยี น ชุมชนและสงั คม

ตวั อย่างการวิเคราะห์และจำแนกกจิ กรรมวถิ ีคนดีของระดับปฐมวัย ดังนี้
สถานศกึ ษา ก. ดำเนนิ การวเิ คราะหก์ จิ กรรมวถิ ีคนดี : มีทัศนคตทิ ด่ี ีตอ่ บ้านเมอื ง

องคป์ ระกอบ : ความรู้ความเขา้ ใจตอ่ ชาตบิ ้านเมือง
ตวั ชี้วดั : ตัวชีว้ ดั ท่ี 1. การปฏิบัติตนตามกฎกติกา กฎระเบียบ กฎหมายของครอบครัว ชมุ ซนและ
ชาตบิ ้านเมอื ง
พฤตกิ รรมบ่งชใ้ี นระดับปฐมวัย : สถานศกึ ษามีการดำเนินกิจกรรมจนทำให้ผูเ้ รยี นมีพฤตกิ รรม
ย้มิ ง่าย ไหว้สวย กราบงาม ซงึ่ ได้มีการดำเนนิ การอยู่แลว้
กิจกรรม : สถานศกึ ษาไดด้ ำเนินการอยู่ 1 กิจกรรม คือ กิจกรรมหนูนอ้ ยมารยาทงาม
ร่องรอย และหลักฐาน : รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการ/กจิ กรรม ภาพถา่ ยของผู้เรียนขณะทำ
กิจกรรม ฯลฯ

21

พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏิบตั ิ

คณุ ธรรมนำชวี ิต : มพี นื้ ฐานชวี ิตที่มน่ั คง มีคุณธรรม

คุณธรรมนำชีวติ : มพี ื้นฐานชวี ติ ท่ีมัน่ คง มคี ุณธรรม เป็นกิจกรรมท่ีพฒั นาผ้เู รยี นใหม้ ีความรคู้ วาม
เขา้ ใจในการปฏิบตั ติ นในพน้ื ฐานการทำความดี ในดา้ นรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม ในการดำเนิน
ชีวติ ประจำวันอยา่ งมีความสขุ รู้จกั ความรับผดิ ชอบชั่วดี มีน้ำใจและมีความรู้สกึ นึกคดิ ที่ดีกับทุกคน มี 4
องคป์ ระกอบ คือ 1) รู้จักแยกแยะส่ิงท่ผี ดิ - ซอบ ชัว่ - ดี 2) ปฏบิ ัติส่ิงที่ซอบ ส่งิ ท่ดี ีงาม 3) ปฏเิ สธสิ่งทผี่ ิด
สิ่งที่ช่ัว และ 4) ช่วยกันสรา้ งคนดใี หแ้ ก่บ้านเมืองตัวช้ีวัด เพ่ือให้การขบั เคลื่อนและการดำเนินกจิ กรรม
เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงกำหนดคำนิยามเชิงปฏิบตั ิการ ดงั นี้

รจู้ ักแยกแยะสง่ิ ท่ผี ดิ - ชอบ ช่ัว - ดี หมายถึง เป็นผ้มู ีความร้คู วามเข้าใจในการเลือกปฏิบตั ิในส่ิงที่
ควรกระทำและไมค่ วรกระทำได้อยา่ งถูกตอ้ ง และมีความคิดสร้างสรรคใ์ นการบอกถงึ การกระทำส่ิงท่ไี มด่ ี
และสง่ิ ที่ดแี ละสมารถตัดสนิ ใจในการกระทำท่ถี ูกต้องเหมาะสม

ปฏิบตั สิ งิ่ ท่ีชอบ สงิ่ ทด่ี งี าม หมายถึง การปฏบิ ตั ิตนดำเนินชีวติ ตามหลักคณุ ธรรมพน้ื ฐาน ๘ ประการ
ได้แก่ ขยนั ประหยดั วินัย สุภาพ สะอาด มนี ้ำใจมจี ติ สาธารณะและบำเพ็ญประโยชนท์ ่ีเกิดประโยชน์ตอ่
ตนเองสังคมและสิ่งแวดล้อม

ปฏเิ สธสง่ิ ทผี่ ดิ ส่ิงที่ชั่ว หมายถงึ การมีความรคู้ วามเขา้ ใจและไม่เกย่ี วข้องกับสิ่งเสพตดิ และอบายมขุ
การละเมดิ สิทธิผ้อู น่ื พฤตกิ รรมชู้สาว และการทะเลาะววิ าท

ชว่ ยกันสรา้ งคนดีให้แกบ่ ้านเมอื งตวั ช้ีวัด หมายถงึ การมีความตระหนักและมีพฤติกรรมเป็นจิตอาสา
และจติ สาธารณะในการดำเนินชวี ิตประจำวันไดอ้ ย่างเหมาะสมและยกย่อง เชดิ ชู มีความยนิ ดี ผทู้ ี่เป็น
แบบอยา่ งทีด่ ีด้วยความจรงิ ใจ

ตัวอย่างการวิเคราะห์และจำแนกกิจกรรมคุณธรรมนำชวี ติ ของระดับชน้ั ป.1 - ป.3 ดังน้ี
สถานศกึ ษา ข. ดำเนินการวิเคราะห์กจิ กรรมคุณธรรมนำชวี ิต : มีพื้นฐานชวี ติ ท่ีมัน่ คง มคี ณุ ธรรม

องค์ประกอบ : รจู้ ักแยกแยะสิ่งผดิ - ชอบ ช่วั - ดี
ตวั ชีว้ ดั : ตวั ช้ีวัดที่ 1. มคี วามรู้ความเข้าใจในการเลือกปฏิบัตใิ นสงิ่ ท่ีควรกระทำและไมค่ วรกระทำได้
อย่างถูกต้อง
พฤตกิ รรมบ่งชใ้ี นระดับ ป.1 - ป.3 : โรงเรยี นดำเนนิ กิจกรรมจนผเู้ รียนปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชิกทด่ี ขี อง
ห้องเรยี นและโรงเรยี น พรอ้ มทง้ั สามารถโน้มนา้ ว ให้เพื่อนปฏิบตั ใิ นสิง่ ท่ีถกู ต้องได้ ซึง่ ได้มกี ารดำเนนิ การอยู่
แลว้
กจิ กรรม : สถานศึกษาได้ดำเนินการอยู่ 3 กิจกรรม คือ กจิ กรรมยวุ ชนจติ อาสา กจิ กรรมโรงเรียนวถิ ี
พทุ ธ กจิ กรรมหอ้ งเรยี นสีขาว
ร่องรอย และหลกั ฐาน : รายงานสรปุ ผลการดำเนินโครงการ / กิจกรรม ภาพถา่ ยของผูเ้ รียนขณะทำ
กิจกรรม ฯลฯ

หนึ่งผู้เรยี น หนงึ่ อาชพี : มงี านทำ – มอี าชพี

หน่งึ ผเู้ รียน หนึง่ อาชีพ : มงี านทำ - มอี าชีพ เป็นกจิ กรรมทีพ่ ัฒนาผ้เู รียนให้พฒั นาสมรรถนะของ
ตนเองและสามารถปรับประยุกต์ใชอ้ งค์ความรูใ้ นการประกอบอาชีพในอนาคตได้ มี 4 องคป์ ระกอบ คือ 1)
การเลี้ยงดูลูกหลานในครอบครัว หรือการฝึกฝนอบรมในสถานศกึ ษาตอ้ งมงุ่ ให้เด็กและเยาวชน รักงานสู้งาน
ทำงานจนสำเร็จ 2) การฝึกฝนอบรมทั้งในหลกั สูตรและนอกหลักสูตรตอ้ งมีจดุ มุง่ หมายใหผ้ เู้ รยี นทำงานเปน็

22และมีงานทำในทส่ี ดุ 3) ต้องสนบั สนนุ ผูส้ ำเรจ็ หลกั สูตรมอี าชพี มงี านทำจนสามารถเลยี้ งตวั เองและ

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏบิ ตั ิ

ครอบครัว และ 4)ทักษะชวี ิต เพ่ือใหก้ ารขับเคล่ือนและการดำเนนิ กิจกรรมเป็นไปในทศิ ทางเดียวกนั จึง
กำหนดคำนยิ ามเชงิ ปฏิบัตกิ าร ดังน้ี

การเลยี้ งดลู กู หลานในครอบครวั หรอื การฝกึ ฝนอบรมในสถานศึกษาต้องมุ่งให้เดก็ และเยาวชน
รักงานสงู้ าน ทำงานจนสำเร็จ หมายถึง ครอบครัวหรือสถานศกึ ษาสร้างความตระหนกั ใหผ้ ้เู รียนเปน็ ผูร้ กั
งานสู้งานและทำงานจนสำเร็จตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย

การฝกึ ฝนอบรมทั้งในหลักสูตรและนอกหลกั สตู รต้องมจี ุดมุ่งหมายใหผ้ ู้เรียนทำงานเปน็ และมงี าน
ทำในที่สดุ หมายถึง จดั หลักสูตรให้ผู้เรยี นสเู่ ส้นทางอาชพี ท่ีสนใจได้ พร้อมบอกแนวทางในการประกอบ
อาชพี ในโลกปัจจุบนั ไดแ้ ละมีสมรรถนะพน้ื ฐานในการประกอบอาชพี ทส่ี นใจได้

ต้องสนับสนนุ ผสู้ ำเร็จหลักสูตรมอี าชีพ มีงานทำจนสามารถเล้ียงตัวเองและครอบครัว หมายถงึ
ผเู้ รียนมีสมรรถนะพน้ื ฐานในการประกอบอาชพี ท่ีสนใจได้ และเขา้ ร่วมกิจกรรมฝึกทกั ษะอาชพี ตามความ
ถนัดและความสนใจของตนเอง

ทกั ษะชีวิต เปน็ ความสามารถของบุคคลทจี่ ะจดั การกบั ปญั หาตา่ ง ๆ รอบตัวในสภาพสงั คมปจั จบุ ัน
และเตรยี มพร้อมสำหรบั การปรบั ตัวในอนาคต

ตวั อย่างการวิเคราะหแ์ ละจำแนกกจิ กรรมหนงึ่ ผู้เรยี น หนึ่งอาชพี ของระดับ ป.4 - ป.6 ดงั น้ี
สถานศกึ ษา ค. ดำเนนิ การวเิ คราะห์กจิ กรรมหนึ่งผเู้ รยี น หนง่ึ อาชพี : มีงานทำ - มีอาชีพ

องคป์ ระกอบ : 1. การเลยี้ งดูลูกหลานในครอบครัว หรอื การฝกึ ฝนอบรมในสถานศกึ ษาต้องมุ่งให้เดก็
และเยาวชน รกั งาน สู้งาน ทำจนงานสำเร็จ

ตวั ชว้ี ัด : ครอบครัวหรือสถานศึกษาสร้างความตระหนกั ใหผ้ ้เู รียนเป็นผูร้ ักงาน สู้งานและทำงานจน
สำเร็จตามที่ไดร้ ับมอบหมาย

พฤติกรรมบ่งชี้ในระดบั ป.4 - ป.6 : สถานศกึ ษาดำเนินกิจกรรมผ่านการลงมอื ปฏิบตั ขิ องผู้เรยี น
ตามความถนดั หรืออาชพี ทต่ี นเองสนใจ เปน็ อาชีพสจุ ริตและสง่ ผลดีตอ่ ชาติบ้านเมือง โดยเปน็ กจิ กรรมที่
ดำเนนิ การอยู่แลว้

กิจกรรม : สถานศึกษาไดด้ ำเนนิ การอยู่ 3 กิจกรรม คอื กิจกรรม 1 โรงเรยี น 1 กจิ กรรม
กิจกรรมสรา้ งทางเลอื กในการประกอบอาชีพท่ีเหมาะสมกบั ศกั ยภาพของตนเองและสอดคล้องกับโลก
ในอนาคต และกิจกรรมตลาดนัดอาชีพ
ร่องรอย และหลกั ฐาน : รายงานสรปุ ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรมภาพถ่ายของผเู้ รียนขณะทำกิจกรรม

จิตอาสาด้วยหวั ใจ : เป็นพลเมอื งดี

จติ อาสาดว้ ยหัวใจ : เป็นพลเมืองดี เป็นกจิ กรรมทีพ่ ฒั นาผเู้ รยี นให้มพี ฤติกรรม ความคิด และ
อารมณ์ความรู้สึก เคารพและปฏิบตั ิตามกฎ กติกา ระเบียบ วฒั นธรรม จารีต ประเพณี รจู้ ักรับผดิ ชอบ
ตอ่ หน้าท่ี มีความอดทน สามารถควบคมุ อารมณ์ได้ มีนำ้ ใจนกั กีฬา รู้จกั การใหอ้ ภัย ชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกัน
รู้จักและเคารพสิทธิของตนเองและผู้อนื่ ตระหนกั ในบทบาทหนา้ ทีข่ องการอยู่ร่วมกนั ในสงั คม เห็นแก่
ประโยชน์สว่ นรวมมากกว่าประโยชนส์ ว่ นตน อาสาและโน้มนา้ วใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ร่วมกจิ กรรมส่วนรวม กจิ กรรม
สาธารณะ และส่งิ แวดล้อม เพื่อชว่ ยแก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ รวมถึงการสนบั สนนุ การแก้ไขปัญหาอย่างสนั ตวิ ธิ ี มี
2 องค์ประกอบ คือ 1) หน้าท่ีพลเมือง และ 2) จิตอาสา จงึ กำหนดคำนยิ ามเชิงปฏบิ ัติการ ดงั น้ี

หน้าท่ีพลเมือง หมายถึง การแสดงออกทางด้านพฤติกรรม ความคิด และอารมณค์ วามรสู้ กึ ใน
ลกั ษณะตา่ ง ๆ ดังนี้ 1) การเคารพและปฏิบตั ติ ามกฎ กติกา ระเบยี บ วัฒนธรรมจารีต ประเพณีของสงั คม

23ได้ 2) การรจู้ ักรบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ มคี วามอดทน สามารถควบคมุ อารมณไ์ ด้ รวมท้ังมีนำ้ ใจนกั กฬี า รจู้ ัก

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏิบัติ

การให้อภัย ช่วยเหลอื ซึ่งกันและกนั 3) การรจู้ ักและเคารพสิทธิของตนเอง และผอู้ นื่ 4) การตระ หนกั ใน
บทบาทหนา้ ที่ของการอย่รู ว่ มกันในสังคม

จิตอาสา หมายถงึ การแสดงออกทางด้านพฤตกิ รรม ความคดิ อารมณ์ความรู้สึก ในลกั ษณะต่าง ๆ
ดังน้ี 1) การเหน็ แก่ประโยชน์สว่ นรวมมากกว่าประโยชนส์ ่วนตน 2) อาสาและโนม้ นา้ วให้ผู้อน่ื เขา้ รว่ ม
กจิ กรรมส่วนรวม กจิ กรรมสาธารณะ และส่งิ แวดลอ้ ม 3) การช่วยแกไ้ ขปัญหาตา่ ง ๆ รวมถงึ การสนับสนุน
การแก้ไขปัญหาอย่างสนั ตวิ ิธี
ตวั อยา่ งการวเิ คราะห์และจำแนกกิจกรรมจติ อาสาดว้ ยหัวใจ ของระดบั ม.1 - ม.3 ดังนี้
สถานศึกษา ง. ดำเนินการวเิ คราะห์กจิ กรรมจติ อาสาด้วยหัวใจ : เป็นพลเมืองดี

องค์ประกอบ : หนา้ ทีพ่ ลเมือง
ตัวชีว้ ดั : ตัวช้วี ัดที่ 1.เคารพและปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ระเบียบ วฒั นธรรม จารีต ประเพณขี อง
สงั คมได้
พฤตกิ รรมบ่งชีใ้ นระดับ ม.1 - ม.3 : สถานศึกษามีกจิ กรรมท่ที ำใหผ้ เู้ รียนเกดิ การปฏิบตั ติ ามกฎ
ของโรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ ามวัฒนธรรม จารีต ประเพณีของสังคม ซง่ึ ได้มีการดำเนนิ การอย่แู ล้ว
กจิ กรรม : โรงเรยี นไดด้ ำเนินการอยู่ 4 กจิ กรรม คือ กิจกรรมลกู เสือ / เนตรนารี / ยุวกาชาด /
ผ้บู ำเพ็ญประโยชน์ กจิ กรรมนกั ศกึ ษาวชิ าทหาร กิจกรรมเกยี่ วกบั สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
และกจิ กรรมคา่ นิยม 12 ประการ ซ่งึ เปน็ กจิ กรรมทไ่ี ด้ดำเนินการอยู่แลว้
รอ่ งรอย และหลักฐาน : รายงานสรุปผลการดำเนนิ โครงการ / กิจกรรม ภาพถ่ายของผู้เรยี นขณะทำ
กิจกรรม ฯลฯ

24

พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏบิ ัติ

บทท่ี 4
การนิเทศ กำกบั ติดตาม

สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานสำนึกในพระมหากรุณาธคิ ุณ ในหลวงรัชกาลที่ 10
ไดน้ ้อมนำพระบรมราโซบายด้านการศึกษาสู่การปฏบิ ตั ิ เพือ่ พฒั นาผ้เู รียนใหเ้ ป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ทัง้ ร่างกาย
และจิตใจ สติปัญญา ความรู้และคณุ ธรรม มจี รยิ ธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวติ สามารถอยูร่ ่วมกบั
ผ้อู ืน่ อยา่ งมีความสขุ จงึ ได้จัดทำแนวทางสำหรบั การนเิ ทศ กำกับ ติดตาม การจัดกิจกรรม 4 กิจกรรม
ประกอบด้วย

1. วถิ คี นดี : มที ศั นคตทิ ่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง
2. มคี ุณธรรมนำชีวติ : มพี ื้นฐานชีวิตทม่ี นั่ คง - มีคณุ ธรรม
3. หนง่ึ ผูเ้ รียน หนง่ึ อาชีพ : มีงานทำ - มอี าชีพ
4. จติ อาสาด้วยหวั ใจ : การเปน็ พลเมอื งดี
โดยให้มกี ารนิเทศ กำกบั ตดิ ตาม การนอ้ มนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลท่ี 10
สกู่ ารปฏิบตั ิ ทั้งในระดบั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา และ
สถานศึกษา ดงั นี้
1. ระดับสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน เป็นการกำกับ ตดิ ตามการดำเนนิ งาน
และขับเคลอ่ื นการน้อมนำพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาในหลวงรชั กาลท่ี 10 สกู่ ารปฏิบัติ ใหบ้ รรลุ
วตั ถุประสงค์ และเปา้ หมายท่ีต้ังไว้
2. ระดับเขตพื้นที่การศกึ ษา เป็นการนิเทศ กำกบั ตดิ ตาม และสนับสนุน การดำเนินงานนอ้ มนำ
พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาในหลวงรัชกาลท่ี 10 สกู่ ารปฏิบตั ิของสถานศกึ ษา ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์
และสรา้ งขวญั กำลงั ใจแกส่ ถานศึกษา
3. ระดับสถานศึกษา เป็นการกำกับติดตาม การน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาใน
หลวงรัชกาลที่ 10 ส่กู ารปฏบิ ัติ โดยผ้บู รหิ าร กำกบั ตดิ ตามการดำเนนิ งานของครูผูส้ อนในด้านการนอ้ มนำ
พระบรมราโชบายในหลวงรัชกาลท่ี 10 ในการจดั กิจกรรมการเรียนรแู้ กผ่ ้เู รยี น

โดยจะลงสกู่ ารปฏิบตั ใิ นโรงเรียนนำร่อง 588 โรงเรยี นท่อี ยใู่ นกล่มุ พฒั นาโรงเรยี นในโครงการตาม
พระราชดำรแิ ละโรงเรียนเฉลิมพระเกยี รติ จำนวน 19 กลุ่มโรงเรยี น ขบั เคล่อื นผา่ นสำนักงานเขตพนื้ ท่ี
การศึกษา รว่ มกันถอดบทเรยี นและคน้ หาแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) เพอื่ เปน็ ต้นแบบและขยายผล
ให้กับสถานศึกษาทวั่ ไป จำนวน 29,265 แห่ง ในปีการศึกษาต่อไป

25

พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏิบตั ิ

นโยบายท่ี 1 พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏิบัติ

กรอบแนวคดิ
สง่ เสรมิ ให้ผูบ้ รหิ าร ครู และผู้เรียนมีทศั นคตทิ ถ่ี ูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชวี ิตทีม่ ั่นคง มคี ุณธรรม มี

งานทำ มีอาชพี และเป็นพลเมอื งดี

เป้าหมาย
มุง่ เนน้ การสรา้ งพ้นื ฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน ตามพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาของในหลวงรชั กาล

ที่ 10 ให้กบั นักเรียนโรงเรียนวดั ไผค่ ่อม(แพร-ประชาอุปถัมภ์)

แนวทางการขบั เคลอ่ื น (ขนั้ ตอน/วธิ กี าร/ทฤษฎีการบรหิ าร)
พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรชั กาลที่ 10 มุง่ สร้างพน้ื ฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ดา้ น ได้แก่
1.มีทัศนคตทิ ่ีถูกต้องต่อบา้ นเมือง
1) สร้างความรู้ความเข้าใจต่อชาติบา้ นเมืองท่ถี ูกตอ้ งใหแ้ กผ่ ู้เรียน
2) สอนแนวทางการยึดมนั่ ในศาสนาในแบบทถ่ี กู ตอ้ ง
3) สอนใหผ้ ู้เรยี นเขา้ ใจเก่ียวกับความสำคญั ของสถาบนั กษัตรยิ ์
4) สอนใหผ้ ู้เรียนมีความเอ้ืออาทรต่อครอบครวั และชมุ ชนของตน
2. มีพื้นฐานที่มั่นคง – มคี ุณธรรม
1) สอนแนวทางให้ผ้เู รยี นรจู้ ักการแยกแยะสิง่ ทผี่ ดิ -ชอบ/ช่วั -ดี
2) ส่งเสรมิ ใหค้ รูและผเู้ รยี นปฏิบตั แิ ตส่ งิ่ ทชี่ อบ สิง่ ทดี่ งี าม
3) สอนใหผ้ ู้เรียนปฏเิ สธสิง่ ท่ผี ดิ สิ่งทชี่ ่ัว
4) สนับสนุนใหค้ รูชว่ ยกันสรา้ งคนดใี ห้แกบ่ ้านเมือง
3. มงี านทำ – มีอาชีพ
1) สง่ เสรมิ ให้ผปู้ กครองมีการเลีย้ งดูลูกหลานในครอบครัว
2) สง่ เสรมิ ใหค้ รผู ู้สอนมกี ารฝึกอบรมท้งั ในหลักสูตรและนอกหลักสูตรต้องมีจุดมุ่งหมายใหผ้ ้เู รยี น

ทำงานเป็นและมีงานทำในทส่ี ุด
3) สนับสนนุ ผ้สู ำเร็จหลักสตู รและนอกหลกั สูตร มีอาชพี มีงานทำ จนสามารถเล้ียงตนเองและ

ครอบครัว
4. เปน็ พลเมืองทด่ี ี
1) สอนใหผ้ ู้เรยี นมีความรูแ้ ละมคี วามเข้าใจวา่ การเปน็ พลเมืองดี คือ การท่ีเห็นอะไรที่ทำแลว้ เปน็

ประโยชนต์ อ่ บา้ นเมือง ทำเพื่อบ้านเมืองไดก้ ็ต้องทำ เช่น งานอาสาสมัคร งานบำเพ็ญประโยชน์ เปน็ ตน้

26

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏบิ ตั ิ
ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ

1. ผบู้ รหิ าร ครู และผเู้ รยี นทกุ คนมีทัศนคติท่ดี ตี ่อบ้านเมือง มีโอกาสทำหน้าที่เปน็ พลเมืองดแี ละมี
พน้ื ฐานชีวติ ท่ีม่นั คง มีงานทำ มอี าชีพ และมีคุณธรรม รอ้ ยละ 100

2. มีการดำเนินงานด้านพระบรมราโชบายของรชั กาลที่ 10 ลงส่กู ารปฏบิ ัติ ร้อยละ 100
3. มีนวัตกรรมดา้ นพระบรมราโชบายของรัชกาลท่ี 10 ของสถานศึกษา รอ้ ยละ 100
4. มผี ลการดำเนนิ งานตามพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาของในหลวงรชั กาลที่ 10 สูก่ ารปฏบิ ัติ

รอ้ ยละ 100

27

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏิบตั ิ

คณุ ธรรมนำชวี ติ

กิจกรรมวนั แมแ่ หง่ ชาติ

28

พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏบิ ตั ิ

กจิ กรรมทำบุญวันพระ

29

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏิบตั ิ

นกั เรียนจิตอาสา

คณะครูนกั เรียนร่วมพัฒนาโรงเรียนเน่ืองในวันเฉลมิ พระชนมพรรษา

30

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏิบตั ิ

นกั เรยี นรว่ มกจิ กรรมปลูกผกั บรเิ วณรอบวดั และโรงเรียน

31

พระบรมราโชบาย ร.10 สกู่ ารปฏิบตั ิ

หนึ่งนกั เรยี นหนึง่ อาชีพ

นักเรียนเรียนการทำขนมอบ (ทาร์ตไข่) 32
เพื่อเปน็ พนื้ ฐานการประกอบอาชีพ

พระบรมราโชบาย ร.10 ส่กู ารปฏิบตั ิ

นักเรยี นเรียนรงู้ าน การทำกระทง
เพื่อเปน็ พน้ื ฐานการประกอบอาชีพ

33

พระบรมราโชบาย ร.10 สู่การปฏบิ ตั ิ

34


Click to View FlipBook Version