The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by waraporn, 2019-10-24 03:37:55

แผน1.1

แผน1.1

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 1

หน่วยการเรียนรู้ เร่อื ง วางแผนอนาคตกบั วิชาแนะแนว

วิชา แนะแนว ชว่ งชั้นท่ี 4 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6

เรื่อง วางแผนอนาคตกับวิชาแนะแนว เวลา 2 ชวั่ โมง

1.สาระสาคญั

ความสาคัญและความจาเป็นในการปฐมนิเทศวิชากิจกรรมแนะแนว สาหรับนักเรียนระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีท่ี 6 มีความสาคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะทาให้ทราบถึงประโยชน์ท่ีได้จากการเรียน เป็น
การเตรียมความพร้อมเพื่อจบหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และวางแผน เข้าสู่การศึกษาต่อใน
ระดับอุดมศกึ ษาและการประกอบอาชพี ทเี่ หมาะสมให้กบั ตนเองได้

2. ผลการเรียนรู้

เพ่ือให้นักเรียนรู้ทักษะความสามารถของตนเอง กาหนดเป้าหมายในอนาคตของตนเองได้ มี
ความพร้อมในการเรยี น จบหลกั สตู รชนั้ มัธยมศึกษาตอนปลายอยา่ งมีคณุ ภาพ

2.1 ตัวชี้วดั

2.1.1 บอกจุดประสงคใ์ นการเรยี นวิชากจิ กรรมแนะแนวได้
2.1.2 บอกประโยชนท์ คี่ าดว่าจะไดร้ บั ในการเรียนกจิ กรรมแนะแนวได้
2.1.3 บอกขอบเขต เนื้อหา และเกณฑก์ ารผ่านกิจกรรมแนะแนวได้
2.1.4 บอกเกณฑ์การจบหลกั สตู รช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลายได้

3. เนือ้ หาสาระ

3.1 จดุ มงุ่ หมายในการเรียนวชิ ากจิ กรรมแนะแนวระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6
3.2 ประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ ากการเรยี นวชิ ากิจกรรมแนะแนว
3.3 ขอบเขตเน้อื หาและเกณฑ์การผา่ นวิชากจิ กรรมแนะแนว
3.4 เกณฑก์ ารจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย

4. กิจกรรมการเรยี นรู้

4.1 ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน

4.1.1 นกั เรยี นรว่ มกิจกรรมด้วยการทาใบกิจกรรม ท่ี 1.1 เรือ่ ง ดวงใจทีร่ ัก
4.1.2 ครูให้นักเรียนเขียนช่ือเล่น ใส่กระดาษที่ครูเตรียมไว้แล้วม้วนเป็นฉลากใส่กล่องรูป
หัวใจทีเ่ ตรยี มไวแ้ ละกลบั ไปนงั่ เปน็ วงกลม

27

4.1.3 ครูอธิบายวิธีเล่นกิจกรรมให้นักเรียนเข้าใจการร่วมกิจกรรมตามเนื้อหาสาระของใบ
กิจกรรมท่ี 1.1 เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดี และเป็นการแนะนาตนเองของนักเรียนแต่ละคน และการ
แนะนาตัวของครผู สู้ อน

4.2 ขน้ั กจิ กรรม

4.2.1 นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
4.2.2 นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5-6 คน แล้วศึกษาใบความรู้ท่ี 1.1 เร่ือง
สาระสาคัญของกิจกรรมแนะแนว
ชว่ั โมงท่ี 2
4.2.3 นกั เรยี นทาแบบวดั เจตคตติ อ่ การจดั การเรียนการสอนวชิ ากจิ กรรมแนะแนว

4.3 ขัน้ สรปุ

4.3.1 นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายในกลุม่ ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้
4.3.1.1 ประโยชนท์ ีน่ ักเรียนคาดว่าจะไดร้ ับจากการเรียนกิจกรรมแนะแนว
4.3.1.2 ขอบเขต เนอื้ หา และเกณฑ์การผา่ นกิจกรรมแนะแนว
4.3.1.3 เกณฑ์การจบหลักสตู รมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

4.3.2 ครูสรุปเพิ่มเติมในส่วนท่ียังไม่สมบูรณ์ ให้การเสริมแรงว่าการที่นักเรียนจะได้
ประโยชน์สูงสุดในการเรียนวิชากิจกรรมแนะแนว นักเรียนและครูต่างต้องให้ความร่วมมือซ่ึงกันและกัน
เพราะวิชากิจกรรมแนะแนวมปี ระโยชน์ตอ่ นกั เรยี นมาก

5. สื่ออปุ กรณ์

5.1 ใบความรทู้ ี่ 1.1
5.2 แบบทดสอบก่อนเรียน
5.3 ใบกจิ กรรมท่ี 1.1
5.4 แบบวดั เจตคติต่อการจัดการเรยี นการสอนวิชากจิ กรรมแนะแนว
5.5 ฉลาก
5.6 กลอ่ งดวงใจ(กลอ่ งสาหรบั ใส่ฉลาก)

6. การวดั ผลและประเมนิ ผล

6.1 วิธีวัด

6.1.1 การวัดเจตคติตอ่ การจัดการเรยี นการสอนวชิ ากจิ กรรมแนะแนว
6.1.2 การสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ

28

6.2 เคร่อื งมอื วดั
6.2.1 แบบวัดเจตคติตอ่ การเรียนการสอนวชิ ากิจกรรมแนะแนว
6.2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางาน

6.3 การประเมนิ ผล
6.3.1 ประเมนิ ผลจากคะแนนแบบวดั เจตคตติ อ่ การเรยี นการสอนวิชากิจกรรมแนะแนว
6.3.2 การสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ

6.4 เกณฑก์ ารวัดผลประเมนิ ผล
6.4.1 นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนไดถ้ ูกต้องอย่างนอ้ ยร้อยละ 70 ข้นึ ไป
6.4.2 นักเรียนตัง้ ใจเรยี นและมพี ฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดับ ปานกลาง ระดับ 3 ขึ้นไป
6.4.3 ประเมนิ เจตคตขิ องนักเรยี นต่อแผนการจดั กิจกรรมแนะแนว ระดับ 3 ขึน้ ไป

29

8. บันทึกหลงั การสอน

8.1 ด้านความรู้
นกั เรยี นใหค้ วามรว่ มมือในการทากจิ กรรมอยใู่ นระดบั ดถี งึ ดมี าก มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม มกี าร
ตอบคาถาม รจู้ ักต้งั คาถามในข้อทส่ี งสยั เสนอความคิดเหน็ บอกจุดประสงคใ์ นการเรียนและประโยชน์
เกณฑ์การผา่ นกจิ กรรมแนะแนวได้

8.2 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบตอ่ งานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย การตรงตอ่ เวลาอยใู่ นเกณฑด์ ี ให้
ความร่วมมอื ในกลมุ่ ชว่ ยเหลอื เพอ่ื นในกลุ่ม สรุปผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั ดี

8.3 ดา้ นทักษะกระบวนการ

นกั เรยี นมที กั ษะกระบวนการจากการรว่ มกจิ กรรม การมสี ว่ นรว่ มรับฟงั เสนอความคดิ เหน็
แลกเปลยี่ นเรยี นร้ใู นกลุ่มและหน้าชั้นเรยี น ผลการประเมินอยใู่ นระดบั ดี

9. ปัญหา/อุปสรรค

………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
10. ขอ้ เสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ...........................................ผสู้ อน
(นางวรพร กสานต์ิศร)ี

ตาแหน่ง ครวู ทิ ยฐานะครชู านาญการพเิ ศษ

30

กลุ่มกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ใบความรู้ที่ 1.1 ประกอบแผน
การจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1
วิชา กจิ กรรมแนะแนว เรอ่ื ง สาระสาคญั วชิ ากิจกรรมแนะแนว ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

1.รู้จักวิชาแนะแนว ม. 6
วชิ าแนะแนวจัดอยู่ในกลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น เปน็ กจิ กรรมท่ีสถานศกึ ษาต้องจัดใหน้ กั เรยี น ใน

ทกุ ช่วงชน้ั การศึกษา เพ่ือส่งเสริมและพฒั นาความสามารถของนักเรียน ให้เหมาะสมตามความแตกตา่ ง
ระหว่างบุคคล ทาให้นักเรียนสามารถคน้ พบและพัฒนาศกั ยภาพของตน อกี ทัง้ เสริมสรา้ งนกั เรียนในด้าน
ทกั ษะชีวติ วฒุ ิภาวะทางอารมณ์ การเรียนรู้ การสร้างสมั พันธภาพท่ีดี ทง้ั น้ีเพ่อื ให้นักเรียนไดพ้ ฒั นา
ตนเองส่โู ลกอาชพี และการมีงานทา โดยครอบคลุมขอบข่ายสาระดังนี้

1. จัดกจิ กรรมเพื่อให้ผ้เู รยี นรู้จักและเห็นคณุ ค่าในตนเองและผอู้ ่ืน
2. จดั กจิ กรรมเพ่ือใหผ้ ้เู รยี นสามารถตดั สนิ ใจและแก้ปญั หา
3. จัดกิจกรรมเพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนสามารถปรบั ตัวและการดารงชวี ติ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข
4. จัดกจิ กรรมเพื่อให้ผเู้ รียนรจู้ กั แสวงหาและใชข้ อ้ มูลสารสนเทศ

2. ไดอ้ ะไรจากการเรียนวิชาแนะแนว

2.1 ไดว้ ิเคราะห์ตนเองเพื่อทราบความสามารถทางวิชาการ ได้สารวจ ความถนัด ความสนใจ
และบุคลกิ ภาพ

2.2 ไดส้ ารวจตนเองด้านอารมณ์ การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์
2.3 มีทักษะในการเผชิญกบั ความเครียด มวี สิ ยั ทศั นก์ วา้ งไกล
2.4 สามารถวางแผนและตัดสินใจ ในการเลอื กศึกษาตอ่ ให้สอดคลอ้ งกบั ความสามารถทาง
วิชาการ เพอ่ื ประกอบอาชพี ในอนาคต
2.5 ศึกษาข้อมูลเก่ยี วกับอาชีพทีส่ นใจ รายละเอยี ดเกีย่ วกบั สถาบัน/คณะ/สาขาที่ตนสนใจ แล้ว
นามาวเิ คราะห์ความเหมาะสมและความเปน็ ไปได้ เพอ่ื ให้เกิดประโยชนส์ งู สุดในการไปศึกษาเลา่ เรียน
2.6 ศึกษาวธิ ีการคดั เลือกบุคคลเขา้ ศกึ ษาในสถาบันอุดมศกึ ษาในสถาบนั ต่าง ๆ
2.7 ได้เรียนรศู้ กึ ษาขอ้ มูลเกย่ี วกับตลาดแรงงาน การเตรยี มตวั เพื่อสอบสมั ภาษณ์
2.8 การเตรียมพร้อมเพ่ือปรบั ตวั ให้เขา้ กบั ระบบการศกึ ษาและการใชช้ ีวิตในสถาบันอุดมศึกษา
2.9 วางแผนเพ่ือประสบความสาเรจ็ คอื การได้สารวจ เพอื่ สู่ความสาเรจ็ ปรับตัวได้เท่าทันกบั การ
เปลยี่ นแปลงของสังคมโลกได้

31

3. การวัดและประเมนิ ผลวชิ ากจิ กรรมแนะแนว

3.1 ประเมนิ การผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.2 ประเมนิ จากการสงั เกตพฤติกรรม และประเมินคณุ ลกั ษณะพฤตกิ รรมบง่ ชท้ี ้งั 4 ดา้ น
ดงั ต่อไปน้ี

3.2.1 ด้านความมุ่งมัน่ ขยันหมั่นเพยี ร ได้แก่ มีความมุ่งม่นั สนใจใฝ่รเู้ ร่ืองท่ีศึกษา ทางานด้วย
ความตั้งใจและทางานเตม็ ความสามารถ สง่ งานเรียบรอ้ ยสมบรู ณม์ ีระเบยี บและตรงเวลา

3.2.2 ด้านคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ แสดงความคิดเห็นและอธิบายอย่างมีเหตุผล การเสนอแนะ
แนวคิด รจู้ กั วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เสนอแนวคดิ ใหมอ่ ย่างสรา้ งสรรค์

3.2.3 ด้านการทางานร่วมกับผู้อื่น มีน้าใจ ยอมรับมติของกลุ่ม ให้ความช่วยเหลือและขอ
ความร่วมมือจากผูอ้ นื่ ประพฤติตนตามขอ้ ตกลงของกลุม่

3.2.4 การนาเสนอผลงาน การนาเสนอผลงานน่าสนใจ เน้อื หาครบถว้ นสมบรู ณ์
3.3 ประเมนิ จากการมีเวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมแนะแนวไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ของเวลาทง้ั หมดท่ีจัด
กจิ กรรม ตลอดปีการศกึ ษา

32

ใบงานท่ี 1.1
เรอื่ ง ดวงใจทร่ี กั

แนวคดิ

การมสี มั พนั ธภาพท่ีดีกบั บุคคลรอบข้างเป็นสิ่งสาคัญในการอย่รู ว่ มกัน การเรยี นรูล้ กั ษณะ
อปุ นสิ ยั ซ่งึ กันและกนั ทาใหม้ ปี ระสบการณ์ เรยี นรทู้ ีจ่ ะช่วยเหลอื ตนเองและผู้อน่ื

จุดประสงค์

1. เพื่อสร้างบรรยากาศและสมั พนั ธภาพทดี่ ตี ่อกัน
2. เพอื่ ให้เกดิ การเรยี นรแู้ ละคณุ ลกั ษณะด้านสมั พันธภาพที่ดที ้ังต่อตนเองและผ้อู นื่

วธิ ีการ/กระบวนการ

1. ครูให้นักเรยี นทั้งหมดน่งั เปน็ วงกลม นกั เรยี นชายน่งั สลบั กนั กับนกั เรียนหญิง
ครูแจกกระดาษแผน่ เลก็ ๆ ใหน้ กั เรยี นเขยี นช่อื เลน่ ของตนเอง นาใส่กลอ่ งกระดาษทคี่ รูเตรียมไวจ้ นครบ
ทุกคน

2. ครสู ง่ กลอ่ งใหน้ ักเรียนคนแรก และใหป้ ระคองกลอ่ งดวงใจส่งตอ่ ใหเ้ พ่ือนวนไปรอบ ๆ ตาม
เขม็ นาฬกิ า

3. ครใู ห้สญั ญาณให้นกั เรยี นทกุ คนร้องเพลงพรอ้ มกัน กล่องดวงใจตกอยทู่ ีใ่ ครคนนน้ั หยบิ
กระดาษท่ีเขยี นช่อื เล่นของเพอื่ นออกมา อ่านชื่อเล่นของเพื่อนดัง ๆ เมื่อได้ยินชื่อตนเองใหค้ นนน้ั ลุกขึน้
ยนื พรอ้ มกับแนะนาตนเอง ชอื่ - สกลุ ความสามารถพเิ ศษ ชอบเรียนวิชาอะไร อยากเรียนตอ่ ในคณะ
ไหน และเอาชีพในอนาคตทีต่ นเองใฝฝ่ ัน

4. หลังจากแนะนาตนเองเสร็จ ให้เดินไปหยบิ แผน่ กระดาษท่เี ขยี นช่อื เพ่ือนในกลอ่ งดวงใจพรอ้ ม
กบั อ่านชื่อเลน่ ของเพือ่ น ดงั ๆ และกลับไปน่งั ที่เดิม ทาอยา่ งนี้ไปเรอ่ื ย ๆ จนครบทุกคน

5. เมื่อนักเรยี นแนะนาเพอ่ื น ๆ และตนเองเสรจ็ แล้ว ครูแนะนาตนเองใหน้ ักเรียนรู้จกั พรอ้ มกับ
ร่วมอภิปรายความร้สู กึ และข้อคดิ ท่ีไดจ้ ากการร่วมครั้งน้วี า่ จากการที่ร้จู ักกนั มาเปน็ เวลา 2 ปี ใน
ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 ที่ผ่านมาเม่ือไดร้ ู้จกั เพ่อื น ๆเพิม่ ข้นึ อีก ก่อใหเ้ กิดความรัก ความ
ประทับใจ ลักษณะนิสยั สว่ นตัวอนั จะนาไปสู่การรว่ มมือช่วยเหลอื ซ่ึงกนั และกันตอ่ ไป

33

สอ่ื / เคร่อื งมอื
1. กลอ่ งดวงใจสาหรับใสฉ่ ลาก 1 ใบ
2. กระดาษชื้นเลก็ สาหรบั เขยี นช่อื เล่น
3. เพลงทเ่ี พื่อน ๆ ในห้องสามารถร้องร่วมกนั ได้

ขอ้ เสนอแนะ
ครูอาจเตรียมเพลงไวล้ ว่ งหน้าและเปิดเพลงให้นกั เรียนร้องพรอ้ มกบั ส่ือเพลง หรอื อาจใช้อุปกรณ์

อย่างอื่น ทีห่ าได้ง่าย

34

แบบทดสอบกอ่ นเรียน
วชิ ากิจกรรมแนะแนว ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพุทไธสง จงั หวดั บุรรี มั ย์

ขอ้ สอบท้งั หมดมี 30 ขอ้ เวลา 20 นาที
ช่อื -ช่ือสกุล ................................................................ ชื่อเล่น......................ชนั้ ......./....... เลขท่ี...............
คาชี้แจง 1. ขอ้ สอบทงั้ หมดมี 30 ขอ้ มีคาตอบให้เลือก 4 ตวั เลือก คือ ก , ข, ค และ ง
2. ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งท่ีสดุ เพียงคาตอบเดยี ว และทาเคร่อื งหมาย (X) ลงบน
กระดาษคาตอบ
ตวั อยา่ ง ขอ้ 00 คาถาม ข้อใดไมใ่ ชง่ านบรกิ ารหลกั ของงานแนะแนวท่จี ัดในโรงเรียน
ก. บริการติดตามประเมนิ ผล
ข. บรกิ ารดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน
ค. บริการสนเทศ
ง. บรกิ ารให้คาปรึกษา
1. การวางแผนเลือกอาชพี สาหรบั นกั เรียนช่วงเวลาที่เหมาะสมทสี่ ุดคือ

ก. ขณะเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนตน้
ข.ขณะเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
ค. เมอ่ื เรยี นจบช้ันมัธยมศกึ ษาตอนต้น
ง. เมอ่ื เรยี นจบช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย
2. เหตุผลท่สี าคัญในการพิจารณาเพอ่ื เลอื กอาชีพสาหรบั ตนเองคือ
ก. เลือกให้สอดคล้องกับบุคลกิ ภาพของตนเอง
ข. เลือกจากความม่ันคงของอาชีพ
ค. เลือกจากรายได้ของอาชีพ
ง. เลอื กจากชอื่ เสียงของอาชีพ
3. อาชีพใดจัดอยใู่ นกลมุ่ Artistic
ก. บรรณารกั ษ์
ข. นักเศรษฐศาสตร์
ค. นักหนังสอื พิมพ์
ง. ผู้ดูแลสวน
4. อาชพี ใดจดั อยู่ในกลมุ่ Enterprising
ก. ผู้จดั การธนาคาร
ข. ผจู้ ดั การโรงแรม
ค. วิศวกร
ง. มัณฑนากร

35

5. ผ้ทู จ่ี ะประกอบอาชพี ด้านงานบรกิ ารสงั คมควรมบี ุคลิกภาพแบบใด
ก. พดู เกง่ สามารถเข้าบุคคลไดท้ กุ ประเภท
ข. ชอบเขา้ สงั คมและนยิ มความถูกตอ้ ง
ค. ใช้ทกั ษะการพดู เพ่อื ใหต้ นเองไดแ้ สดงออกถงึ ความเป็นผ้นู า
ง. ชอบชว่ ยเหลือผอู้ ่ืนเข้าสงั คมทางานดว้ ยความสมัครใจ

6. การสมคั รคดั เลือกเพือ่ เข้าศึกษาต่อประเภทโควตามคี วามหมายตรงกบั ข้อใด
ก. การสมคั รดว้ ยระบบ Admission
ข. การสมัครดว้ ยระบบ TCAS รอบท2ี่
ค. การสมคั รดว้ ยระบบ TCAS รอบท3ี่
ง. การสมัครผา่ น สกอ.

7. ขอ้ ใดหมายถึงการทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติขัน้ พื้นฐาน
ก. O-NET
ข. A-NET
ค. GAT
ง. PAT

8. ขอ้ ใดเปน็ การทดสอบความรคู้ วามสามารถขั้นพ้นื ฐานเพื่อใช้คะแนนคดั เลอื กเขา้ ศกึ ษาตอ่
ระดบั อดุ มศึกษา

ก. O-NET
ข. A-NET
ค. GAT
ง. PAT
9. การทดสอบใดที่บงั คับให้นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ตอ้ งสอบทกุ คน
ก. O-NET
ข. A-NET
ค. GAT
ง. PAT
10. การทดสอบใดทส่ี ามารถสอบไดม้ ากกว่า 1 ครง้ั
ก. O-NET และ A-NET
ข. O-NET และ PAT
ค. GAT และ PAT
ง. GAT และ O-NET

36

11. ผลการเรียนเฉลยี่ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย หรือ GPA X ทีใ่ ช้ในระบบ TCAS รอบท่ี 4
คดิ ค่านา้ หนกั เป็นร้อยละเทา่ ใด

ก. รอ้ ยละ 10
ข.รอ้ ยละ 20
ค. ร้อยละ 30
ง ร้อยละ 35
12. คะแนน O-NET ท่ใี ชใ้ นระบบ TCAS รอบใด
ก. รอบที่ 1
ข.รอบที่ 2
ค. รอบท่ี 3 และ 5
ง. รอบท่ี 4
13. การนาผลคะแนนสอบ GAT และ PAT เพ่อื ใช้คดั เลอื กเข้าศึกษาต่อในระดบั อดุ มศึกษาเริม่ ใชค้ รงั้
แรกในปกี ารศกึ ษาใด
ก. ปกี ารศกึ ษา 2551
ข. ปีการศึกษา 2552
ค. ปกี ารศกึ ษา 2553
ง. ปกี ารศกึ ษา 2554
14. ศูนยส์ อบภูมิภาคใดท่มี หี นา้ ท่รี บั ผดิ ชอบดแู ลการสอบO-NET GAT และ PAT ของจังหวดั บุรรี ัมย์
ก. ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยขอนแกน่
ข. ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ค. ศนู ย์สอบมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีสรุ นารี
ง. ศนู ย์สอบมหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี
15. ในการสอบ O-NET เน้ือหาวชิ าท่ีใชส้ อบครอบคลุมก่สี าระการเรยี นรู้
ก. 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้
ข. 6 กล่มุ สาระการเรียนรู้
ค. 7 กลมุ่ สาระการเรียนรู้
ง. 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้
16. ถา้ นักเรยี นต้องการสืบค้นข้อมูลการทดสอบ O-NET สามารถเขา้ สบื ค้นไดโ้ ดยตรงจากเว็บไซตใ์ ด
ก. www.hotmail.com
ข. www.niets.or.th
ค. www.cuas.or.th
ง. www.eduzones.com

37

17. ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง
ก. การสมคั ร TCAS รอบที่ 1 ไมม่ คี ะแนนจากการสอบคดั เลอื ก
ข. การเลือก สาขา ในรอบ 4 ( Admission) สามารถเลือกได้ 6 สาขา
ค. นกั เรียนผ่านการคัดเลอื กระบบโควตาพ้ืนท่(ี TCAS รอบ 2) ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น

แลว้ สามารถยนื่ สมคั ร TCAS ได้อีก
ง. นกั เรยี นสมคั รระบบโควตาของมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ แล้วไม่สามารถสมคั รของ
มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานีได้อีก

18. นักเรยี นอยากประกอบอาชพี ดา้ นการแสดง หรือผสู้ ื่อขา่ วหนังสือพิมพ์ ควรเลอื กเรยี นในคณะใด
ก. คณะนิเทศศาสตร์
ข. คณะศลิ ปกรรมศาสตร์
ค. คณะครศุ าสตร์
ง. คณะมนุษยศาสตร์

19. บคุ คลที่ปฏิบัติได้เหมาะสมท่ีสดุ ในการเขา้ สอบสัมภาษณค์ ัดเลือกเพ่อื เข้าศึกษาคือ
ก. ใบเงนิ แตง่ ชุดนักเรียนเรียบร้อยแตง่ หน้าพองามเพ่ือให้ดดู ีในสายตาของกรรมการ
ข. ตน้ ไผแ่ ต่งกายด้วยชุดสภุ าพเรียบรอ้ ยมองดบู ุคลกิ ดดู ี
ค. ใบสนเดนิ เขา้ ไปดว้ ยความมนั่ ใจพรอ้ มยกมอื ไหวก้ รรมการเป็นรายบคุ คลจนครบทุกคน
ง. ใบตองขออนญุ าตและเดินเขา้ ไปดว้ ยความม่ันใจพร้อมกับทาความเคารพกรรมการ

20. หลักการอา่ นหนังสอื สอบอยา่ งมีประสิทธภิ าพคอื ข้อใด
ก. อ่านกอ่ นสอบ 1 วันเพือ่ จะไดไ้ ม่ลมื
ข. เนน้ การอา่ นเนอื้ หาทยี่ าก
ค. ใช้เวลาอ่านหนงั สือนานตามเนอ้ื หา
ง. อา่ นและต้งั คาถามในเนอื้ หาท่อี ่าน

21. การเตรยี มความพร้อมเพอ่ื สอบสัมภาษณค์ ดั เลอื กเขา้ ศึกษาต่อส่ิงทจ่ี าเปน็ ท่สี ุดคือขอ้ ใด
ก. ความรใู้ นเนอ้ื หาวชิ าท่ีจะเข้าศึกษา
ข. ความรู้เกี่ยวกบั สภาพสังคมแวดล้อมในชมุ ชนของตนเอง
ค. ความรูท้ วั่ ไปเก่ยี วกับสถาบนั ท่ีจะเขา้ ศึกษา
ง. ความรแู้ ละความสามารถพเิ ศษของตนเอง

22. คณะใดตอ่ ไปนี้ต้องสอบวิชาความถนดั ทางวชิ าชีพครู(PAT5)
ก. คณะอกั ษรศาสตร์
ข.คณะมนุษยศาสตร์
ค. คณะครศุ าสตร์
ง. คณะนิเทศศาสตร์

38

23. สิง่ จาเป็นทน่ี ักเรยี นตอ้ งพิจารณาในการเลือกสาขาวชิ าเพอื่ ศึกษาต่อสาหรับตนเองคอื

ก. ความชอบ

ข. ความสนใจ

ค. ความถนดั ความสามารถ

ง. สตปิ ญั ญา

24. ขอ้ ดใี นการศึกษาข้อมูลอยา่ งหลากหลายเกีย่ วกบั อาชีพทีต่ นเองสนใจกอ่ นเลือกศึกษาต่อคอื

ก. ร้คู วามต้องการของตลาดแรงงาน

ข. รู้เขา้ ใจรายละเอียดลักษณะอาชพี

ค. การทาแบบทดสอบบคุ ลิกภาพและความนัดความสามารถของตนเอง

ง. ถูกทุกข้อ

25. บคุ คลใดสามารถเลือกสถาบนั การศึกษาได้เหมาะสมกบั ตนเองมากที่สุด

ก. อานนท์เลือกเรียนเกษตรเพราะพ่อเป็นชาวนา

ข. วายเุ ลือกเรียนมหาวทิ ยาลัยรามคาแหงเพราะไมต่ ้องอ่านหนงั สือสอบ

ค. ปานเดือนเลอื กเรียนมหาวทิ ยาลัยทม่ี ีชอ่ื เสียงเพื่อง่ายต่อการสมัครงาน

ง. วายุอยากเป็นครแู ต่ไมผ่ า่ นการสมัครรอบTCAS จงึ ตัดสินใจสมคั รเรยี นศึกษาศาสตร์

มหาวิทยาลัยรามคาแหง

26. ขอ้ ใดตอ่ ไปนเี้ ป็นมหาวทิ ยาลยั ของรัฐ

ก. มหาวทิ ยาลัยศรีปทมุ

ข. มหาวทิ ยาลยั ปทมุ ธานี

ค. มหาวิทยาลยั ราชธานี

ง. มหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี

27. แสงดาววางแผนไว้วา่ ถ้าสอบเขา้ คณะพยาบาลศาสตร์ของรฐั บาลไม่ได้กจ็ ะเลอื กสอบเขา้

สถาบนั เอกชนตอ่ ไปน้ีคือ

ก. มหาวทิ ยาลยั บรู พา

ข. มหาวิทยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี

ค. มหาวทิ ยาลยั สยาม

ง. มหาวทิ ยาลัยธุรกจิ บณั ฑติ

28. ชาติตอ้ งการเรยี นวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ โดยจะยนื่ รอบโควตาพน้ื ที่ (TCAS รอบ 2)

สาขาวชิ ากาหนดต้องมคี ะแนนวิชาความถนัดดา้ นวศิ วกรรม(PAT3) ซึ่งคดิ ค่าน้าหนกั ร้อยละเท่าใด

ก. รอ้ ยละ 5

ข. ร้อยละ 10

ค. ร้อยละ 15 ง. รอ้ ยละ 20

39

29. ฟา้ ใสอยากประกอบอาชีพครู เพราะเปน็ อาชพี ที่มน่ั คง แต่เนอื่ งจากพ่อแม่ฐานะไม่ดีจงึ วางแผนว่าจะ
สมคั รคัดเลือกระบบรบั ตรงของมหาวทิ ยาลัยราชภฏั ใกล้บา้ น ฟา้ ใสต้องดาเนินการข้ันต้นอยา่ งไร

ก. ฟา้ ใสตอ้ งมคี ะแนนสอบวิชาความถนัดวิชพี ครู
ข. สมคั รคณะครุศาสตรแ์ ละมคี ะแนนวิชาชีพครู
ค. สมคั รสอบวิชาชพี ครกู ับ สทศ.ก่อน
ง. สมคั รในคณะครุศาสตร์ไมม่ ีคะแนนวิชพี ครูกไ็ ด้
30. ทอฝนั อยากเรียนในคณะท่ีดี สถาบันทีม่ ชี ื่อเสียงสง่ิ ใดทเี่ ปน็ ขอ้ จากัดทที่ าให้ไมส่ ามารถเข้าศกึ ษาต่อ
ตามทต่ี นเองเองชอบได้
ก. ฐานะ
ข. สติปัญญา
ค. ความสามารถพเิ ศษ
ง. ความถนัด

40

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

ข้อที่ ผลเฉลย ข้อท่ี ผลเฉลย

1 ก 16 ข

2 ข 17 ข

3 ค 18 ก

4 ก 19 ง

5 ง 20 ง

6 ค 21 ก

7 ก 22 ค

8 ค 23 ค

9 ก 24 ง

10 ค 25 ง

11 ข 26 ง

12 ค 27 ค

13 ค 28 ข

14 ค 29 ง

15 ง 30 ข

41

แบบวดั เจตคติตอ่ การจัดการเรยี นการสอนวชิ ากจิ กรรมแนะแนว นอ้ ยทีส่ ุด
คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นทาเครอื่ งหมาย / ลงในชอ่ งทางขวามอื ที่ตรงกบั ความเห็นของนักเรยี น (1)

ความคดิ เหน็
ข้อที่ รายการ มากท่สี ุด มาก ปาน นอ้ ย

(5) (4) กลาง(3) (2)

1 วชิ าแนะแนวในสว่ นกจิ กรรมแนะแนวการศกึ ษาต่อ
ส่งเสริมให้ผู้เรยี นวางแผนการศึกษาอยา่ งเปน็ ระบบ

2 วชิ าแนะแนวในส่วนกิจกรรมแนะแนวการศกึ ษาตอ่ ผู้เรยี น
ไดฝ้ ึกฝนพัฒนาตนเองอย่างหลากหลาย

3 วิชาแนะแนวในส่วนกิจกรรมแนะแนวการศกึ ษาตอ่ กระตนุ้
ใหผ้ เู้ รียนเกดิ ทกั ษะคดิ วิเคราะหต์ ัดสนิ ใจอยา่ งมีเหตผุ ล

4 วชิ าแนะแนวในส่วนกิจกรรมแนะแนวการศกึ ษาต่อช่วยให้
ผ้เู รียนคน้ หาศกั ยภาพตนเอง

5 วิชาแนะแนวในส่วนกจิ กรรมแนะแนวการศกึ ษาตอ่
สอดคลอ้ งกบั สภาพการเรียนรู้และความสนใจ

6 วิชาแนะแนวในส่วนกจิ กรรมแนะแนวการศกึ ษาตอ่ มีการ
จัดกิจกรรมท่ีเนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ

7 วิชาแนะแนวในสว่ นกิจกรรมแนะแนวการศกึ ษาต่อมกี าร
นาเทคโนโลยมี าใชใ้ นการจดั กิจกรรม

8 วชิ าแนะแนวในส่วนกจิ กรรมแนะแนวการศกึ ษาตอ่
สง่ เสริมใหผ้ ้เู รยี นทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้

9 วิชาแนะแนวในส่วนกจิ กรรมแนะแนวการศกึ ษาต่อ
สามารถนาไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้

10 วิชาแนะแนวในสว่ นกิจกรรมแนะแนวการศกึ ษาต่อทาให้
ผเู้ รียนกาหนดเป้าหมายในชวี ิตได้ชดั เจนขึน้

เกณฑ์การเทียบคะแนนจากการประเมนิ
5 หมายถงึ เห็นดว้ ยในระดับมากที่สุด
4 หมายถึง เห็นดว้ ยในระดับมาก
3 หมายถึง เห็นด้วยในระดบั ปานกลาง
2 หมายถงึ เห็นด้วยในระดบั นอ้ ย
1 หมายถึง เห็นดว้ ยในระดับนอ้ ยท่ีสดุ

42

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางาน
เรือ่ ง...................................................................................................................................

ชือ่ กลุ่ม/เลขท่ี ความมุ่งมั่นขยันหมั่นเ ีพยร
ช่ือ-สกลุ ความเ ็ปนประชา ิธปไตย
ความ ิคดสร้างสรร ์ค
กลมุ่ ท.่ี ............ การทางานร่วม ักบ ู้ผอื่น
เลขที่ ชอ่ื -สกลุ การนาเสนอผลงาน
รวม
1 เ ีทยบ ่สวน
2
3 4 4 4 4 4 20 4
4
5
6

กลมุ่ ที.่ ............

ระดบั คะแนน 4 หมายถงึ มาก
3 หมายถงึ ปานกลาง
2 หมายถงึ นอ้ ย
1 หมายถึง นอ้ ยมาก

43

คณุ ลกั ษณะและพฤติกรรมบงช้ี

ข้อที่ คุณลกั ษณะ พฤติกรรมบง่ ช้ี
1. ความม่งุ มนั่ ขยันหมน่ั เพยี รใน มคี วามมงุ่ มน่ั สนใจใฝร่ ู้เร่ืองทศ่ี กึ ษา
ทางานดว้ ยความต้ังใจและทางานเต็มความสามารถ
การทางาน ส่งงานเรยี บรอ้ ยสมบรู ณ์มีระเบียบและตรงเวลา
2 ความเป็นประชาธิปไตย รกั ษาสทิ ธขิ องตนเอง เคารพสทิ ธิผู้อ่ืน
3 ความคดิ สร้างสรรค์ รบั ฟงั เหตุผลผ้อู นื่ และยอมรบั ผลงานของตนเอง
แสดงความคิดเห็นและอธบิ ายอยา่ งมีเหตผุ ล
4 การทางานรว่ มกับผู้อ่ืน การเสนอแนะแนวคดิ รจู้ กั วิเคราะห์ วจิ ารณ์
5 การนาเสนอผลงาน เสนอแนวคดิ ใหมอ่ ย่างสรา้ งสรรค์
มนี า้ ใจ ยอมรบั มตแิ ละข้อตกลงของกลมุ่
ให้ความช่วยเหลือและขอความร่วมมือจากผอู้ น่ื
เน้ือหาครบถ้วน ถกู ต้องสมบรู ณ์
เนื้อหานา่ สนใจ ดงึ ดูดความสนใจ

คาอธบิ าย การบนั ทกึ ผลการประเมินคุณลักษณะตามพฤตกิ รรมบง่ ชี้
ให้ครูผู้ประเมนิ บนั ทกึ ผลตามคุณลกั ษณะดา้ นตา่ ง ๆขณะท่นี กั เรยี นทากจิ กรรมระหว่างเรียน

ตามตวั บง่ ชี้ แลว้ จงึ รวมคะแนนและประเมนิ เป็น 5 ชว่ งชั้นดงั นี้ จากคะแนนเตม็ 20 คะแนน แบ่งเป็น
5 ชว่ ง คือ

ชว่ งคะแนน มรี ะดับพฤตกิ รรม
1-4 น้อยมาก
5-8 นอ้ ย
9 - 12 ปานกลาง
13-16 มาก
17-20 มากท่ีสุด


Click to View FlipBook Version