ความหมายของเทคโนโลยีสาระสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT : Information Technology) หมายถึงการนา วทิยาการที่กา้วหนา้ทางดา้น คอมพิวเตอร์และการสื่อสารมาสร้างมูลค่าเพิ่มใหก้บัสารสนเทศทา ใหส้ารสนเทศมีประโยชน์และใชง้านได้ กวา้งขวางมากข้ึน เทคโนโลยสีารสนเทศรวมถึงการใชเ้ทคโนโลยดีา้นต่างๆในการรวบรวม จดัเก็บ ใชง้าน ส่ง ต่อ หรือสื่อสารระหวา่งกนัเทคโนโลยสีารสนเทศเกี่ยวขอ้งโดยตรงกบัเครื่องมือเครื่องใชใ้นการจดัการ สารสนเทศไดแ้ก่เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบขา้งข้นัตอนวธิีการดา เนินการซ่ึงเกี่ยวขอ้งกบัซอฟตแ์วร์ เกี่ยวขอ้งกบัตวัขอ้มูล บุคลากรและกรรมวธิีการดา เนินงานเพื่อใหข้อ้มูลเกิดประโยชน์สูงสุด เทคโนโลยสีารสนเทศจึงเป็นเทคโนโลยทีี่ครอบคลุมเรื่องเกี่ยวกบัการประมวลผลขอ้มูล ซ่ึงไดแ้ก่การใช้ เทคโนโลยคีอมพิวเตอร์การติดต่อสื่อสารระหวา่งกนัดว้ยความรวดเร็วการจดัการขอ้มูลรวมถึงวิธีการที่จะใช้ ขอ้มูลใหเ้กิดประโยชน์สูงสุด
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ การจา แนกองคป์ระกอบระบบสารสนเทศมีหลายวธิีข้ึนอยูก่บัเกณฑห์รือวตัถุประสงคข์องแต่ละงาน ใน ที่น้ีจา แนกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ก่องค์ประกอบหลัก และองคป์ระกอบดา้นต่างๆ องค์ประกอบหลักของระบบสารสนเทศ องค์ประกอบหลักของระบบสานสนเทศมีองค์ประกอบหลัก 2 ส่วน ไดแ้ก่ ระบบการคิด และระบบของเครื่องมือ ระบบการคิด หมายถึง กระบวนการและข้นัตอนในการจดัลา ดบัจา แนกแจกแจงและจดัหมวดหมู่ขอ้มูล ต่าง ๆ เพื่อความสะดวกในการจดัเก็บและเผยแพร่ระบบการคิดจึงเป็นจุดเริ่มตน้ที่สา คญัของงานสารสนเทศท้งั ระดบัพ้ืนฐานและระดบัสูงที่มีความสลบัซบัซอ้นจนตอ้งใชท้กัษะการจดัการและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง เข้ามาใช้ในการด าเนินงาน ระบบเครื่องมือ หมายถึง วัสดุอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่น ามาใช้ในการรวบรวม จดัเก็บ และเผยแพร่ สารสนเทศใหด้า เนินไปอยา่งมีประสิทธิภาพ ปัจจุบนัคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการ จดัการสารสนเทศที่นิยมใชอ้ยา่งแพร่หลายในองคก์ร หน่วยงาน หรืองานธุรกรรมต่าง ๆ แทบทุกวงการจนท า ใหค้อมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตกลายเป็นสัญลกัษณ์ของสารสนเทศ
องคป์ระกอบดา้นตา่งๆของระบบสารสนเทศ เนื่องจากสารสนเทศ เป็ นวิธีการหรือกระบวนการในการจัดการขอ้มูลที่เกี่ยวขอ้งกบังานต่างๆ ดงัน้นั องคป์ระกอบสารสนเทศของงานแต่ละดา้นจึงแตกต่างกนัดงัน้ี -องคป์ระกอบของสารสนเทศดา้นจุดมุ่งหมายในการแกป้ ัญหา มี 4 ประการไดแ้ก่ ข้อมูล (Data) สารสนเทศ (Information) ความรู้ (Knowledge) ปัญญา (Wisdom) ที่ช่วยแกป้ ัญหาในการดา เนินงาน -องคป์ระกอบของสารสนเทศดา้นข้นัตอน ในการดา เนินงาน มี 3 ประการ คือ ข้อมูลน าเข้า (Input) กระบวนการ (Process) ผลลัพธ์(Output) การทา งานจะเริ่มต้งัแต่การเปลี่ยนขอ้มูลดิบที่เขา้มาสู่การคา นวณประมวลผลหรือการ กลนั่กรองจนไดช้ิ้นงานหรือผลลพัธ์(output)และจดัเก็บเพื่อนา ออกมาเผยแพร่ในลกัษณะของสารสนเทศต่อไป -องคป์ระกอบของสารสนเทศในหน่วยงาน ไดแ้ก่ บุคคลหรือองค์กร เทคโนโลยีข้อมูล และระบบสารสนเทศ -องคป์ระกอบระบบสารสนเทศทวั่ ไป (Information Process Systems) ประกอบด้วย 5องคป์ระกอบดงัน้ีคือ เครื่องคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสื่อสารขอ้มูล(hardware) ข้อมูล(data) สารสนเทศ (information) โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์(software) บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์ (people ware)
กระบวนการท างานของระบบสาระสนเทศ โดยทวั่ ไป การจัดระบบสารสนเทศ มีข้นัตอนการดา เนินงานหลักๆ จ านวน ๕ ข้นัตอน คือ ๑) การรวบรวมข้อมูล ๒) การตรวจสอบข้อมูล ๓) การประมวลผลข้อมูล ๔) การน าเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ๕) การจดัเก็บขอ้มูลและสารสนเทศ ซ่ึงแต่ละข้นัตอนมีรายละเอียดดงัน้ี ๑) การรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมขอ้มูลจากแหล่งต่างๆน้นัจะตอ้งกา หนดรายการขอ้มูลที่ตอ้งการกา หนดวธิีการจดัเก็บ สร้างหรือจดัหาเครื่องมือในการจดัเก็บใหส้อดคลอ้งกบัลกัษณะของขอ้มูลและแหล่งขอ้มูลเช่น แบบสา รวจ แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม แบบบันทึก แบบสังเกต เป็ นต้น นอกจากน้นัควรกา หนดเวลาในการจดัเก็บหรือผูร้ับผดิชอบในการจดัเก็บโดยตอ้งคา นึงถึงขอ้มูลที่ตรงกบัความ ตอ้งการที่กา หนดไวแ้ละมีความเชื่อถือได้ ในการกา หนดรายการขอ้มูลที่ตอ้งการน้นัอาจดา เนินการโดยศึกษาจากมาตรฐานการศึกษาในระบบการ ประกนัคุณภาพภายในของสถานศึกษา มาตรฐานการศึกษาชาติมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพ
ภายนอกของ สมศ. มาตรฐานการเรียนรู้ตามหลกัสูตรการศึกษานอกระบบระดบัการศึกษาข้นัพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ฯลฯ จากน้นัจึงกา หนดวธิีการและเครื่องมือสา หรับรวบรวมขอ้มูลใหม้ีความสอดคลอ้งกนั เช่น กา หนดวธีการรวบรวมข้อมูลด้วยการสอบถาม ิ เครื่องมือที่ใช้ควรเป็ นแบบสอบถามหรือใช้วิธีการรวบรวม ขอ้มูลดว้ยการสังเกต เครื่องมือที่ใชก้็ควรเป็นแบบสังเกต เป็นตน้ ๒) การตรวจสอบข้อมูล ขอ้มูลที่เกบรวบรวมมาได้ ็ก่อนที่จะนา ไปประมวลผลควรมีการตรวจสอบ ความถูกตอ้งของขอ้มูลก่อน โดยพิจารณาจากความถูกต้อง ความสมบูรณ์และความเป็ นปัจจุบันของข้อมูล ๓) การประมวลผลข้อมูล ข้นัน้ีเป็นการนา ขอ้มูลมาประมวลผลใหเ้ป็นสารสนเทศ หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงขอ้มูลใหอ้ยใู่นรูปแบบ ที่นา ไปใชป้ระโยชน์ได้ขอ้มูลใดที่เป็นสารสนเทศอยแู่ลว้ก็นา มาจดักลุ่ม แยกแยะ ตามลกัษณะและประเภทของ สารสนเทศ ซ่ึงการประมวลผลน้นัอาจเป็นการจดัหมวดหมู่การเรียงลา ดบัการแจงนบัสา หรับการใชสู้ตรทาง คณิตศาสตร์การด าเนินการอาจใชว้ธิีการง่ายๆ ที่เรียกวา่ทา ดว้ยมือใชเ้ครื่องคา นวณเล็กๆ มาช่วยจนกระทงั่ใช้ เทคโนโลยสีมยัใหม่คือคอมพิวเตอร์ก็ไดใ้นการวเิคราะห์ขอ้มูลควรใชค้่าสถิตที่ง่ายและตรงที่สุด ค่าสถิติที่นิยม นา มาใช้เช่น ค่าร้อยละอตัราส่วน สัดส่วน ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือแมก้ระทงั่การแจกแจงความถี่ที่ เป็นการหาค่าสถิติที่ง่ายที่สุด ๔) การน าเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ขอ้มูลที่ผา่นการประมวลผลหรือจดัทา เป็นสารสนเทศที่มีความหมายชดัเจน มีความกะทดัรัด ตรงกบั ความตอ้งการและสะดวกต่อการนา ไปใช้อาจนา เสนอในรูปของตารางแผนภาพ กราฟ หรือการบรรยายเป็ น ความเรียงก็ได้ท้งัน้ีข้ึนอยกู่บัความเหมาะสมของการนา ไปใชแ้ละลกัษณะของสารสนเทศน้นัๆ ๕) การจดัเก็บขอ้มูลและสารสนเทศ การจดัเก็บส่วนที่เป็นขอ้มูลและส่วนที่เป็นสารสนเทศไวใ้นสื่อต่างๆ อยา่งมีระบบ สะดวกต่อการคน้หา เพื่อน ามาใช้ประโยชน์อาจจดัเก็บเป็นแฟ้มเอกสารหรือแฟ้มอิเล็กทรอนิกส์ตามศกัยภาพของสถานศึกษาแต่ ตอ้งคา นึงถึงระบบของการคน้หาใหส้ะดวกต่อการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงขอ้มูลใหเ้ป็นปัจจุบนัการนา ขอ้มูลไป ประมวลผลใหม่รวมท้งัการนา สารสนเทศไปใชป้ระโยชน์ในงานต่างๆ
สถานศึกษาที่มีระบบสารสนเทศที่สมบูรณ์ครบถ้วนเป็ นปัจจุบัน ใช้ได้สะดวกและตรงตามความต้องการ จะช่วยใหส้ถานศึกษาสามารถดา เนินงานพฒันาคุณภาพการศึกษาไดอ้ยา่งมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลเป็น การสร้างความมนั่ใจที่ต้งัอยบู่นรากฐานของหลกัวิชา หลกัฐานขอ้เท็จจริงที่สามารถตรวจสอบได้มีกระบวนการ วิเคราะห์ประมวลผลที่เป็ นวทิยาศาสตร์มีความสมเหตุสมผลเพราะสารสนเทศท้งัหลายน้นันอกจากจะใชใ้นการวาง แผนการดา เนินงานและประกอบการตดัสินใจแลว้ยงันา ไปสู่การพฒันาแนวความคิดและสร้างทางเลือกใหม่ๆ