The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นายเทพมงคล ตามา-โปสเตอร์วิจัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nui_nu_i612, 2022-04-27 04:45:02

นายเทพมงคล ตามา-โปสเตอร์วิจัย

นายเทพมงคล ตามา-โปสเตอร์วิจัย

การพัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน

เรือ่ ง อัตราสวนตรีโกณมติ ิ ของนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปท ี่ 3

โดยใชแบบฝก ทักษะ

Development of learning achievement on trigonometric
ratios of Mathayomsuksa 3 students by using the skill
exercises นายเทพมงคล ตามา (Thepmongkol Tama)
กลุมสาระการเรยี นรูคณิตศาสตร
ความเปนมาและความสําคญั ของปญ หา
สรุปผลการวิจยั
การจัดการเรยี นการสอนวชิ าคณิตศาสตรถ ือวามีความสาํ คัญตอการเรียนรใู นสาขาวิชาตา งๆของนักเรยี น รวมถงึ เปน พน้ื ฐาน

สําคญั สาํ หรับการเรยี นตอในระดับชน้ั ที่สูงขึ้น จงึ มีความจําเปนอยา งยง่ิ ทค่ี รจู ะตอ งมกี ารฝก ฝนใหเ ด็กเกิดการเรียนรู และรูจกั คิด ตารางแสดงผลรอยละของนกั เรียนที่สอบไมผ า น และนักเรียนท่สี อบผาน
วเิ คราะหจนนําไปสกู ารหาขอสรุปนอกจากนี้ครจู ะตองมีสอื่ ในการจัดการเรียนการสอนเพอ่ื ชว ยกระตนุ ความสนใจใหนักเรยี นได
เรยี นรจู ากประสบการณจ รงิ และเกดิ ความเขา ใจเนือ้ หาวิชาคณติ ศาสตรไดดยี งิ่ ข้นึ ผลการสอบ จํานวนนกั เรียน (คน) รอ ยละ

ปจจบุ ันการจัดการเรียนการสอนวิชาคณติ ศาสตร เรอื่ ง อตั ราสว นตรีโกณมติ ิ ของนกั เรียน ในระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 พบ กอ นเรยี น หลังเรยี น กอ นเรยี น หลงั เรียน

วามีนักเรียนในระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3 บางสวนขาดความรคู วามเขาใจและขาดทักษะในการแกปญ หาสงผลใหนกั เรยี นสอบ ผา น 23 40 47.92 83.33
เก็บคะแนน เรอื่ ง อัตราสวนตรโี กณมิติ ไมผ า นเกณฑตามที่สถานศกึ ษากาํ หนด ไมผาน 25 8 52.08 16.67

ดงั นนั้ ครูผูสอนจึงหาวธิ พี ฒั นาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น เรอ่ื ง อตั ราสวนตรีโกณมิติ ของนกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปท3่ี โรงเรยี น

วทิ ยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี โดยใชแบบฝกทักษะครผู สู อนไดนาํ แบบฝกทักษะเขา มาชวยเสริมใหน ักเรียนไดฝ กฝน ตารางแสดงผลรอ ยละคะแนนสอบหลังเรยี นของนักเรยี น 8 คน ที่เคยสอบยอ ยไมผ า นเกณฑสถานศึกษา หลงั จากไดเ รียนซอ มเสริมดวยแบบฝก ทักษะ
และเสริมสรางทกั ษะในการแกปญ หา เพ่อื ใหนักเรยี นมคี วามรู ความเขาใจในเนื้อหามากย่ิงขึ้นและชว ยพฒั นาผลสัมฤทธิท์ างการ เรื่อง อตั ราสว นตรโี กณมิติ
เรียน เรือ่ ง อัตราสว นตรโี กณมติ ิ ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3 ใหสูงขึน้ ตอไป
คนท่ี คะแนนสอบกอนเรยี น (เต็ม คะแนนสอบหลงั เรยี น (เตม็ รอยละคะแนนสอบหลงั เรียน แปลผล

10) 10)

วตั ถปุ ระสงค คนท่ี 1 59 90 ผาน
คนที่ 2 5 10 100 ผา น
เพื่อพฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน เรือ่ ง อตั ราสวนตรโี กณมิติ ของนกั เรยี นกลุมเปา หมายใหมีผลสัมฤทธทิ์ างการ คนท่ี 3 69 90 ผา น
เรยี นหลังเรยี นผา นเกณฑต ามทีส่ ถานศกึ ษากาํ หนด คนที่ 4 49 90 ผา น
คนท่ี 5 6 10 100 ผาน
วิธีดําเนินการวจิ ัย คนท่ี 6 7 10 100 ผาน
คนท่ี 7 6 10 100 ผา น
กลุมเปาหมาย คนที่ 8 38 80 ผา น

นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 3 โรงเรยี นวทิ ยาศาสตรจฬุ าภรณราชวิทยาลัย ชลบรุ ี ปการศึกษา 2564 ภาคเรียน จาํ นวนคนสอบผา นเกณฑข องสถาน 8
ที่ 2 จาํ นวน 8 คน ซ่ึงไดจากการทน่ี ักเรียนทง้ั หมด 8 คน สอบยอย เร่อื ง อัตราสวนตรีโกณมติ ิ ไมผา นเกณฑตามที่ ศึกษา
สถานศึกษากําหนด 100
รอ ยละ
วธิ ีการวิจยั และเกบ็ รวบรวมขอ มูล อภปิ รายผลการวจิ ยั
1. ผูวจิ ยั ทําการทดสอบกอ นเรียน โดยใชแ บบทดสอบกอ นเรยี น เรื่อง อัตราสวนตรีโกณมติ ิ ซึ่งเปนแบบ
จากการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น เรอื่ ง อัตราสว นตรีโกณมิติ ของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปท ี่ 3 ใหมผี ลสมั ฤทธิ์
ทดสอบแบบอตั นยั แลว บันทกึ ผลลงในแบบการใหคะแนน ทางการเรยี นหลงั เรยี นผา นเกณฑตามที่สถานศกึ ษากําหนด พบวา นักเรยี นท่ไี ดเรยี นซอมเสริม โดยใชแบบฝก ทักษะ เรื่อง
2. ผูวจิ ัยดําเนนิ การจัดการเรยี นรู โดยใชแ ผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู จํานวน 6 แผน แผนละ 1 ช่วั โมง อัตราสว นตรโี กณมติ ิ มผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นหลงั เรยี นสูงขนึ้ ผานเกณฑตามท่สี ถานศกึ ษากาํ หนด สอดคลอ งกบั แนวคิด
ของ วชริ าภรณ ชํานิ (2555) ซึ่งพบวา ความสามารถในการแกป ญ หาทางคณิตศาสตรของนกั เรียนหลังเรยี นไดรบั การสอน
รวม 6 ช่ัวโมง โดยแตล ะแผนมกี ารใช แบบฝก ทกั ษะ เรอ่ื ง อัตราสวนตรีโกณมิติ โดยใชแ บบฝก เรอ่ื ง โจทยสมการเชิงเสน ตวั แปรเดยี ว สงู กวาเกณฑรอ ยละ 60 อยา งมีนัยสาํ คญั ทางสถิตทิ ่ีระดบั .01 และ
3. ทาํ การทดสอบหลังใชแ บบฝกทักษะ โดยใชแบบทดสอบหลงั เรียน แลวบนั ทกึ ผลลงในแบบการใหคะแนน สอดคลองกบั นูรีมาน สอื รี (2562). ซง่ึ พบวา ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นวชิ าคณิตศาสตร เรือ่ ง เลขยกกําลัง สําหรบั นักเรยี น
การวิเคราะหข อ มูลและสถิตทิ ใี่ ชใ นการวิเคราะหข อมูล ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 1 โดยใชแ บบฝก ทักษะผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนหลังเรียนมคี า สูงกวากอ นเรยี นอยา งมีนยั สาํ คัญทางสถติ ิ
สถติ ทิ ่ีใชใ นการวเิ คราะหข อมูลในการวจิ ยั ครั้งน้คี ือ ท่รี ะดับ .01 ดังนน้ั แสดงใหเ ห็นวา เมือ่ นกั เรยี นไดรบั การสอนโดยใชแ บบฝก ทกั ษะ แลว นกั เรียนมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น
1. คา สถติ พิ ื้นฐาน ไดแก คา รอ ยละ วิชาคณิตศาสตร เรื่อง อตั ราสวนตรีโกณมิติ หลังเรียนสูงขึ้นผา นเกณฑต ามสถานศึกษากําหนด คิดเปน รอยละ 100
นอกจากนี้ในการสอนโดยใชแบบฝกทักษะยังเนน ใหผ ูเรียนไดค ิดแกปญ หาและอุปสรรคตา งๆไดอ ยางถูกตอ งเหมาะสมบน
พื้นฐานของหลกั เหตผุ ล นักเรียนสามารถคนหาวธิ ีการหาคําตอบของปญ หาไดหลากหลายและยังทําใหน ักเรียนมีทกั ษะ
กระบวนการคิดแกป ญ หาทีส่ ามารถนาํ ความรูท ี่ไดจ ากการเรยี นไปใชในชีวิตประจาํ วันและตอ ยอดในระดับทีส่ ูงขึ้นตอ ไป


Click to View FlipBook Version