ชุดการสอน การเพาะเห ็ ดนางฟ้ าในถุงพลาสต ิ ก ว ิ ชา ง33261 โครงงานอาช ี พ 1 สําหรับนักเร ี ยนช ้ันมัธยมศึ กษาปี ท ี่6 ชุดท ี่1 เร ื่อง ความร ู้เบ ื้ องต ้ นเก ี่ยวกับเห ็ ด ช ้ันมัธยมศึ กษาปี ท ี่6 ระยะเวลา 6 คาบ กจ ิ กรรมท ี่1 ความหมายความสาํคญัและประโยชนข ์ องเห ็ ด กจ ิ กรรมท ี่2 ประวตัิและช ี ววทิยาของเห ็ ด กจ ิ กรรมท ี่3 สภาพแวดลอ ้ มท ี่เก ี่ยวขอ ้ งกบัการเจริญเติบโตของเห ็ ด
คาํนํา ชุดการสอนเรื่องการเพาะเห็ดนางฟ้าในถุงพลาสติก วิชา ง32201 อาชีพ 2 สาํหรับ นักเรียนช้ันมธัยมศึกษาปีที่2 ชุดที่1 ความรู้เบ้ืองตน้เกี่ยวกบัเห็ด ซ่ึงประกอบด้วย ความหมาย และความสาํคญั ประวตัิการเพาะเห็ด แหล่งผลิตเห็ดของไทย และชีววิทยาของเห็ด เพื่อใช้เป็น สื่อการเรียนรู้ให้ผูเ้รียนมีเอกสารประกอบการเรียนรู้และเป็นแนวทางในการฝึกปฏิบตัิไดจ้ริง หวงัเป็นอย่างยิ่งว่าชุดการสอนเรื่องการเพาะเห็ดนางฟ้าในถุงพลาสติก วิชา ง32201 อาชีพ 2 สําหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่2 ชุดที่1 ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับเห็ด จะเป็น ประโยชน์ต่อผูเ้รียน ผูส้อน และผูท้ ี่ใฝ่หาความรู้อย่างดียิ่ง นางขนิษฐา ชมภูศรี
สารบัญ หน ้ า คาํชี้แจงสําหรับนักเรียนในการใช ้ ชุดการสอน 1 แบบทดสอบก่อนเรียนชุดที่1 2 กระดาษคาํตอบ 5 คาํแนะนํากิจกรรมที่1 6 ใบความรู้ที่1 เรื่อง ความหมายความสาํคญัของเห็ด 7 แบบบันทึกกิจกรรมที่1 11 คาํแนะนํากิจกรรมที่2 12 ใบความรู้ที่2 เรื่อง ประวตัิการเพาะเห็ดและแหล่งผลิตเห็ดของไทย 13 แบบบันทึกกิจกรรมที่2.1 18 แบบบันทึกกิจกรรมที่2.2 19 คาํแนะนํากิจกรรมที่3 20 ใบความรู้ที่3 เรื่อง ชีววิทยาของเห็ด 21 แบบบันทึกกิจกรรมที่3.1 28 แบบบันทึกกิจกรรมที่3.2 29 แบบบันทึกกิจกรรมที่3.3 30 แบบทดสอบหลังเรียนชุดที่1 31 กระดาษคาํตอบ 34 ภาคผนวก 35 ภาคผนวก ก 36 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนชุดที่1 37 เฉลยแบบทดสอบหลงัเรียนชุดที่1 38 ภาคผนวก ข 39 เฉลยแบบบนทึกกิจกรรมที่1 40 เฉลยแบบบนทึกกิจกรรมที่2.1 41 เฉลยแบบบนทึกกิจกรรมที่2.2 42 เฉลยแบบบนทึกกิจกรรมที่3.1 43
สารบัญ ( ต่อ) หน ้ า เฉลยแบบบนทึกกิจกรรมที่3.2 44 เฉลยแบบบนทึกกิจกรรมที่3.3 45 ภาคผนวก ค 46 แบบประเมินพฤติกรรมระหว่างเรียน 47 แบบประเมินการทาํงานกลุ่ม 48 เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินผลงานกลุ่ม 49 แบบประเมินแบบบนัทึกกิจกรรม 50 เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินบนัทึกกิจกรรม 51 แบบประเมินการนาํเสนอ 52 เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการนาํเสนอผลงานกลุ่ม 53 แบบประเมินชิ้นงาน 54 บรรณานุกรม 55
คาํช ี ้ แจงสําหรับนักเร ี ยนในการใช ้ ชุดการสอน ชุดการสอนที่1 เร ื่อง ความร ู้เบ ื้องต ้ นเกี่ยวกับเห ็ ด ประกอบด้วย 3 กิจกรรม ดังน้ี(เวลาเรียน 6 ชั่วโมง) กิจกรรมที่1 ความหมายและความสาํคญัของเห็ด กิจกรรมที่2 ประวตัิการเพาะเห็ดและแหล่งผลิตเห็ดของไทย กิจกรรมที่3 ชีววิทยาของเห็ด ในการใช้ชุดการสอน นักเรียนต้องศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมตามข้นัตอนที่กาํหนด ด้วยตนเอง สามารถปรึกษากันและช่วยเหลือกันในกลุ่มได้ในการปฏิบัติงานกิจกรรม นักเรียนต้องมีความซื่อสัตยต์ ่อตนเอง ไม่เปิดดูเฉลยก่อน โดยให้นักเรียนปฏิบตัิดังน้ี1. ทาํแบบทดสอบก่อนเรียน 2. นักเรียนอ่านคาํแนะนาํแต่ละกิจกรรม ให้เขา้ใจก่อนลงมือปฏิบตัิ3. ศึกษาใบความรู้4. เริ่มทาํต้ังแต่กิจกรรมแรกเรียงตามลาํดับโดยไม่ข้ามกิจกรรมใดกิจกรรมหน่ึง 5. เมื่อทาํกิจกรรมเสร็จ จึงเปิดดูคาํตอบในเฉลยแบบบนัทึกกิจกรรมถา้นักเรียนทาํไม่ถูก ให้ไปศึกษาเน้ือหาใหม่แลว้แกไ้ขให้ถูกต้องตามเวลาที่กาํหนด 6. ทาํแบบทดสอบหลงัเรียน เมื่อศึกษาจบ 3 กิจกรรมในชุดการสอนที่1 7. นักเรียนที่ดีต้องซื่อสัตยต์ ่อตนเองเสมอจะไม่เปิดดูคาํตอบก่อน
แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดการสอนที่1 เร ื่อง ความร ู้เบ ื้องต ้ นเกี่ยวกับเห ็ ด คาํช้ีแจง : แบบทดสอบเป็นแบบตัวเลือก ก ข ค และ ง จาํนวน 10 ข้อ 10 คะแนน ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย (x) ลงในช่องตวัอกัษร ก ข ค และ ง ที่เห็นว่า ถูกตอ้งเพียงขอ้เดียว 1. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้งที่สุด ก. สมยับอกว่าเห็ดเป็นเช้ือแบคทีเรียชนิดหน่ึง ข. สมทรงมีความเห็นไม่ตรงกบัสมัยบอกว่าเห็ดเป็นเช้ือไวรัส ค. สายสมรคิดตรงขา้มกบัสมทรงบอกว่าเห็ดจัดเป็นเช้ือรา ง. สายเสมอคิดว่าท้งัสามคนคิดผิดหมดเพราะเห็ดเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตช้ันต่าํเท่าน้ัน 2. ขอ้ ใดสอดคลอ้งกบัขอ้ความต่อไปน้ี“เห็ดไม่มีคลอโรฟิลล์”ก. มีเพียงเห็ดนางฟ้าเท่าน้ันที่สามารถสร้างอาหารได้เอง ข. เห็ดไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง ค. เห็ดที่มีสีเขียวสามารถสังเคราะห์แสงได้ง. เห็ดที่มีสีเหลืองมีสารแคโรทีน 3. “การเพาะเห็ดทาํได้ง่ายเพราะสามารถนาํวสัดุเหลือใช้ทางการเกษตร มาใช้ในการเพาะ เห็ดได้”สอดคลอ้งกับขอ้ ใดมากที่สุด ก. เห็ดไม่สามารถเจริญได้บนพืชที่ยงัมีชีวิต ข. เห็ดช่วยย่อยเศษพืชและอินทรียวตัถุให้ผุพงัค. การเพาะเห็ดสามารถทาํได้บนซากของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ง. วสัดุที่ใช้ในการเพาะเห็ดตอ้งย่อยสลายง่ายเท่าน้ัน 4. ส่วนใดของเห็ดที่ทาํหน้าที่คลา้ยเมล็ดพืช ก. สปอร์ข. เส้นใย ค. ครีบ ง. หมวกดอก
5. จากภาพข่าวแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ขอ้ ใดของการเพาะเห็ด ที่มา : http://www.science.sut.ac.th ก. การเพาะเห็ดไวร้ับประทานทาํให้ไม่เสี่ยงต่อการรับประทานเห็ดพิษ ข. เห็ดที่เก็บจากป่ามกัจะทาํให้ทอ้งร่วงเพราะมีเช้ือโรคมาก ค. เห็ดที่รับประทานได้มีลกัษณะใกลเ้คียงกับเห็ดพิษ ง. การเพาะเห็ดไม่เสี่ยงต่อการถูกทาํร้ายจากสัตวป์่า 6. “สปอร์ไม่สามารถเจริญเป็นดอกเห็ด เป็นได้แค่เพียงเส้นใย ซ่ึงเรียกว่าเส้นใยหมัน ต้อง อาศยัการผสม ระหว่างเส้นใยระยะที่1 จากสปอร์อื่นที่จะรวมกันได้เท่าน้ัน แล้วจึงจะพฒันา เป็นเส้นใยระยะที่2 แล้วถึงจะเจริญเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ แล้วเป็นดอกเห็ดต่อไป” จาก ขอ้ความดังกล่าวเป็นวงจรชีวิตเห็ดแบบใด ก. Heterothallic ข. Homothallic ค. Heterosexual ง. Homosexual 7. บุคคลหรือหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้อง กับการพฒันาเทคนิควิธีการการเพาะเห็ดในประเทศ ไทยน้อยที่สุด ก. อาจารยด์ีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติข. อาจารยก์ ่าน ชลวิจารณ์ค. กรมวิชาการเกษตร ง. กรมสรรพสามิต
8. ส่วนของเห็ดที่เรียกว่า มัยซีเลียม (Mycelium) คือส่วนใด ก. เส้นใย ข. กลุ่มของเส้นใย ค. ปลอกหุ้มโคน ง. หมวกเห็ด 9. จังหวดัใดเหมาะสาํหรับการเพาะเห็ดหอม ก. สตูล ข. ชลบุรีค. ยโสธร ง. เชียงใหม่10. ข้อใดคือเห็ดกระดุม ก. เห็ดหอม ข. เห็ดฟาง ค. เห็ดเข็มทอง ง. เห็ดแชมปิญอง
กระดาษคาํตอบ แบบทดสอบก่อนเรียนชุดการสอนที่1 เรื่อง ความรู้ เบ้ืองตน ้ เกี่ยวกบัเห ็ ด ข ้ อ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนที่ได้......................................... คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนชุดการสอนที่1 เรื่อง ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับเห็ด ข ้ อ คาํตอบ 1 ค 2 ข 3 ข 4 ก 5 ก 6 ง 7 ง 8 ข 9 ง 10 ง เป็นยังไงกันบ้างคะแนนน้อยไม่ต้อง กังวล เพราะเป็นแค่ทดสอบก่อนเรียน
กิจกรรมที่1 เร ื่อง ความหมายและความสําคัญของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนศึกษาและปฏิบตัิตามข้นัตอนต่อไปน้ี1. ศึกษาใบความรู้2. ทาํแบบบนัทึกกิจกรรมและตรวจสอบความถูกตอ้งจากแบบเฉลยแบบบนัทึก กิจกรรม 3. หากนักเรียนมีขอ้ สงสัยในคาํถาม สามารถซักถามครูผูส้อนได้ คาํแนะนํา
ใบความร ู้ท ี่1 เร ื่อง ความหมายและความสําคัญของเห ็ ด ความหมายของเห ็ ด เห็ด (Mushroom) หมายถึง พืชช้ันต่าํ ประเภทรา ที่มีความแตกต่างไปจากพืช ชนิดอื่น คือ ไม่มีคลอโรฟิลล์(Chlorophyll) หรือสารสีเขียว ทาํ ให้เห็ดไม่สามารถสร้าง อาหารได้เองโดยวิธีสังเคราะห์แสง ต้องอาศยัอินทรียจ์ากสิ่งมีชีวิต และสิ่งที่ไม่มีชีวิตเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต เห็ด จัดเป็นราที่สูงกว่าราชนิดอื่นๆ และมีวงจรชีวิตที่สลบัซับซ้อนกว่าเช้ือราทั่วไป เริ่มจากสปอร์ซ่ึงเป็นอวยัวะหรือส่วนที่สร้างเซลขยายพันธุ์เมื่อตกไปในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะงอกเป็นใยและกลุ่มใยรา เจริญพัฒนาเป็นกลุ่มก้อน เกิดเป็นดอกเห็ดอยู่เหนือ พ้ืนดิน บนต้นไม้ขอนไม้ซากพืช มูลสัตว์ฯลฯ เมื่อดอกเห็ดโตข้ึนก็จะสร้างสปอร์ซ่ึงจะ ปลิวออกเป็นใยราและเป็นดอกเห็ดได้อีก เห็ดมีรูปร่างแตกต่างกันไป เช่น เหมือนร่มกาง เหมือนต้นปะการัง เป็นแผ่นหยุ่นๆ เป็นวุน้ สีของดอกเห็ดมีท้ังสดใส และกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม บางชนิดกลิ่นหอม บางชนิด กลิ่นฉุนรุนแรง บางชนิดกินได้บางชนิดเป็นเห็ดพิษ ความสําคัญของเห ็ ด 1. ความสําคัญของเห ็ ดที่มีต่อการดาํรงชีวิตประจําวัน มนุษย์ทั่วโลกรู้จักเห็ดมานาน ท้ังประเภทที่นาํมาใช้เป็นอาหารและประเภทที่มีพิษ สายพนัธุ์ของเห็ดมีมากกว่า 30,000 สายพนัธุ์กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก ในจาํนวนสาย พันธุ์ดังกล่าวมีถึงร้อยละ 99 สายพันธุ์ที่มนุษย์สามารถนาํมาบริโภคเป็นอาหารได้ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 1 เป็นเห็ดที่มีพิษหรือเห็ดเมา ซ่ึงถ้าบริโภคเข้าไปอาจเป็นอันตรายถึงแก่ ทีนี้เพื่อนๆก็ได้รู้ความหมายของเห็ดไปแล้ว ต่อไปเราจะได้ศึกษาถึงความสําคัญของเห็ดที่มีต่อการดํารงชีวิตแลเศรษฐกิจกันต่อนะคะ
ชีวิตได้เห็ดที่นาํมาบริโภคเป็นอาหารในอดีตน้ันมีเพียงไม่กี่ชนิด เช่น เห็ดฝรั่งหรือเห็ดแช มปิญอง ซ่ึงนิยมบริโภคกันมากในแถบยุโรป เห็ดหอมเป็นเห็ดที่ชาวจีนนิยมบริโภคกันมาก ที่สุด ส่วนคนไทยน้ันนิยมบริโภคเห็ดโคนหรือเห็ดฟาง แต่เนื่องจากเมื่อนาํเห็ดมาประกอบ อาหารแล้วมีรสชาติดีให้คุณค่าทางอาหารสูงและเห็ดบางชนิดยงัมีสรรพคุณเป็นยาป้องกัน และรักษาโรคได้อีกด้วย จึงทาํให้มีผูน้ ิยมบริโภคกันมากข้ึนตามลาํดับ ซ่ึงในปัจจุบนัพบว่า หลายๆ ประเทศเกือบทั่วโลกหันมาให้ความสนใจและร่วมมือกันในการวิจัย ค้นคว้า ทดลอง คัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์เห็ดให้มีจาํนวนมากข้ึน ในขณะเดียวกันก็ได้พัฒนา เทคนิควิธีการเพาะเล้ียงและขยายพันธุ์เห็ดเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตให้เพียงพอกับความ ต้องการของผู้บริโภค ประเทศที่มีการผลิตเห็ดเป็นจํานวนมากและส่งไปจําหน่ายยัง ตลาดโลกได้แก่ ประเทศไต้หวนัญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีและประเทศไทย สําหรับประเทศไทยน้ัน นอกจากจะนิยมบริโภคเห็ดกันมากแล้วยังได้ให้ความสาํคัญแก่เห็ดมากจนเห็ดกลายเป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงเทียบเคียงกับเน้ือสัตว์ดังจะเห็น ได้จากคาํกล่าวที่ติดปากคนไทยมาช้านานว่า “หมูเห็ด เป็ด ไก่เป็นอาหารสาํหรับผูท้ ี่มีอัน จะกิน” ซ่ึงแสดงให้เห็นว่าเห็ดเป็นอาหารที่คนทั่วไปยอมรับมาช้านานแล้ว ในเรื่องของ รสชาติและคุณค่าทางอาหาร ซ่ึงสามารถแบ่งความสําคัญของเห็ดที่มีต่อชีวิตประจาํวนั ได้ดังน้ี1. คุณค่าทางอาหารของเห ็ ด จากการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับคุณค่าทางอาหารของเห็ดโดยกรม วิทยาศาสตร์พบว่า เห็ดประกอบด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าและคุณประโยชน์ต่อร่างกายใน ปริมาณที่สูงกว่าพืชผักชนิดอื่นๆ ยกเว้นพืชผกัตระกูลถั่ว ซ่ึงเห็ดที่มีจาํหน่ายในท้องตลาด ทั่วไป เมื่อนาํวิเคราะห์จะพบว่าประกอบด้วยสารอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุต่างๆ และวิตามิน ในปริมาณที่แตกต่างกัน และพบว่า เห็ดหูหนูบางชนิดมีปริมาณ สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุด และจากการวิจยัของหน่วยงานวิจยัอุตสาหกรรม การเพาะเห็ดแห่งสหรัฐอเมริกา (America Mushroom Industry Research) พบว่าเห็ดที่นิยม บริโภคโดยทั่วไปจะประกอบด้วยวิตามินหลายชนิด เช่น ไทอามีน ไรโบฟลาวิน ไนอาซีน และวิตามินซีส่วนวิตามินบี12 จะพบเฉพาะในเห็ดเป๋าฮ้ือเท่าน้ัน ส่วนแร่ธาตุต่างๆ ที่พบใน เห็ดทวั่ ไปได้แก่ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และแคลเซียม แต่ในเห็ดเป๋าฮ้ือ จะมีธาตุแมกนีเซียม และโพแทสเซียม เป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบนัราคาอาหารประเภทเน้ือสัตว์ค่อนขา้งสูง มาก ดังน้ันจึงควรเลือกบริโภคพืชผกัที่มีคุณค่าทางอาหารสูงทดแทนเน้ือสัตว์โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งพืชประเภทเห็ด ซ่ึงมีสารโปรตีนสูง และโปรตีนของเห็ดจะไม่มีสารคอเรสเตอรอล ที่เป็นอันตรายต่อระบบไหลเวียนของโลหิต ประกอบกับเห็ดมีปริมาณธาตุโซเดียมค่อนข้าง ต่าํจึงเป็นอาหารที่เหมาะสําหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ โรคไต โรคหัวใจ และโรคความดัน โลหิตสูง นอกจากน้ีอาหารประเภทเห็ดยงันิยมบริโภคกันมากในหมู่นักปฏิบตัิมังสวิรัติรวม ไปถึงผูท้ ี่ต้องการลดความอ้วน ผู้ป่วยหลังพักฟ้ืนหรือผูต้ ้องการบาํรุงร่างกาย และที่สําคัญ ที่สุดก็คือ มีเห็ดบางชนิดที่สามารถป้องกนัและรักษาโรคบางอย่างได้2. สรรพคุณทางยาของเห ็ ด เมื่อประมาณ 20 ปีล่วงมาแล้วที่นักวิจยัเห็ดและนักวิชาการเกี่ยวกับ การเพาะเห็ดได้ค้นพบสรรพคุณทางยาของเห็ดหลายชนิด เช่น เห็ดหอม เห็ดฝรั่ง เห็ดหลิน จือ เป็นต้น สามารถนาํไปใช้เป็นยาธรรมชาติในการป้องกันและบาํบัดโรคการสะสมไขมัน ในหลอดเลือด โรคความดันโลหิต และโรคมะเร็งได้อย่างปลอดภัยและได้ผล อีกท้ังยงัมีสารเรทีน (Retine) ซ่ึงมีคุณสมบัติต่อต้านและชะลอการเติบโตของเน้ืองอกในร่างกายได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็ดหลินจือ ซ่ึงได้ชื่อว่าเป็นเห็ดวิเศษสาํหรับชาวจีนและชาวญี่ปุ่น มา ช้านาน ส่วนเห็ดชนิดอื่นๆ เช่น เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนูเห็ดฟาง ถึงแม้ว่าจะมีสรรพคุณทางป้องกันและบาํบดัโรคได้น้อยกว่าเห็ดหลินจือก็ตาม แต่เห็ดทุกชนิดดังกล่าวก็มีคุณค่าทางอาหารสูง ซ่ึงหากร่างกายได้รับครบถ้วนจะสามารถสร้างความตา้นทานโรคได้ดี เช่นเดียวกัน รูปแสดง ตัวอย่างของเห็ดที่ใช้ในการบาํบดัโรค ที่มา : http://www.trueplookpanya.com
2. ความสําคัญของเห ็ ดที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศ ประเทศไทยนับได้ว่ามีสภาพเหมาะสมและเอ้ืออาํนวยต่อการเพาะเห็ดอย่าง มากเนื่องจากมีวสัดุเหลือใช้และมีผลพลอยได้จากการผลิตทางการเกษตรจาํนวนมากท้งัที่ได้จากพืชและสัตว์รวมไปถึงวัชพืชบางชนิดที่มีอยู่ทั่วไปในประเทศไทย เช่น ผกัตบชวาและ หญ้าคา เป็นตน้ ส่วนวสัดุเหลือใช้และผลพลอยได้จากการเกษตรที่สามารถนาํมาใช้ในการ เพาะเห็ดได้เช่น ฟางข้าว ต้นกล้วย ชานอ้อย ต้นข้าวโพด ซังข้าวโพด เปลือกถั่วเขียว กากน้าํตาล ปุ๋ยหมัก มูลไก่มูลเป็ด มูลม้า และมูลโค เป็นต้น ซ่ึงวัสดุเหล่าน้ีสามารถนาํไป ดัดแปลงและปรับปรุงใช้ในการเพาะเห็ดชนิดต่างๆได้ตามความเหมาะสม นอกจากน้ันสภาพดินฟ้าอากาศของประเทศไทยยงัเหมาะกับการเจริญเติบโต ของเห็ดเศรษฐกิจเกือบ ทุกชนิด อาทิเช่น เห็ดฟาง เห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮ้ือ เห็ดหูหนูรวมไป ถึงเห็ดแชมปิญอง และเห็ดหอม ก็สามารถปลูกได้ดีในบางท้องถิ่นของประเทศไทย ดังน้ัน ถ้าได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรไทยได้รู้จักการเพาะเล้ียงเห็ดที่ถูกวิธีนอกจากจะทาํ ให้มีผลผลิตเห็ดเพิ่มข้ึนท้ังด้านปริมาณและคุณภาพแล้วยังเป็นการเพิ่มอาหารที่มีคุณค่าแก่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ทาํให้มีคุณค่าสุขภาพพลานามยัสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมที่จะ พฒันาประเทศชาติได้ในทุกทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเศรษฐกิจ เพราะเมื่อผลผลิตเห็ด เพิ่มข้ึนรายได้ของเกษตรกรก็จะเพิ่มข้ึนด้วย จากการจาํหน่ายผลผลิตท้ังในประเทศและส่ง เป็นสินค้าออก ซ่ึงเป็นผลให้ระบบเศรษฐกิจของชาติเจริญก้าวหน้าและพฒันาข้ึนตามลาํดับ
แบบบันทึก กจิกรรมที่1 เรื่องความหมายและความสําคญัของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนตอบคาํถามดังต่อไปน้ี รวมคะแนนที่ได้...................................... คะแนน ลงชื่อ...............................................คะแนนเต ็ ม 10 คะแนน ผ ู้ตรวจ วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั.......... 1. เห็ด(Mushroom) หมายถึงอะไร (5คะแนน) ตอบ.................................................................................................................................. ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 2. นกัเรียนคิดวา่“เห็ด” มีความสาํคญัหรือมีส่วนเกี่ยวขอ้งต่อการดาํรงชีวติของนกัเรียนอยา่งไร (5คะแนน) ตอบ.................................................................................................................................. ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... .........................................................................................................................................
เฉลย แบบบันทึก กจิกรรมที่1 เรื่องความหมายและความสําคญัของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนตอบคาํถามดังต่อไปน้ี วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั.......... 1. เห ็ ด (Mushroom) หมายถงึอะไร (5 คะแนน) ตอบ เห็ด (Mushroom) หมายถึง พืชช้ันต่าํ ประเภทรา ที่มีความแตกต่างไปจาก พืชชนิดอื่น คือ ไม่มีคลอโรฟิลล์(Chlorophyll) หรือสารสีเขียว ทาํ ให้เห็ดไม่สามารถ สร้างอาหารไดเ้องโดยวิธีสังเคราะห์แสง ต้องอาศัยอินทรียจ์ากสิ่งมีชีวิต และสิ่งที่ไม่มีชีวิต เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต 2. นักเรยีนคดิวา่ “เห ็ ด” มคีวามสําคญัหรอืมสีว่น เกยี่วขอ้งตอ่การดํารงชวีติของนักเรยีนอยา่งไร (5 คะแนน) ตอบ.................................................................................................................................. .....................................................แนวคาํตอบ................................................................. .................................................1. ดา ้ นการบริโภค.......................................................... .................................................2. ดา ้ นรักษาโรค............................................................. .................................................3. ดา ้ นเศรษฐกิจ............................................................. ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... .........................................................................................................................................
กิจกรรมที่2 เร ื่อง ประวัติการเพาะเห ็ ดและแหล่งผลิตเห ็ ดของไทย คาํ สั่ง ให้นักเรียนศึกษาและปฏิบตัิตามข้นัตอนต่อไปน้ี1. ศึกษาใบความรู้2. ทาํแบบบันทึกกิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้องจากแบบเฉลยแบบบันทึก กิจกรรม 3. หากนักเรียนมีขอ้ สงสัยในคาํถาม สามารถซักถามครูผูส้อนได้ คาํแนะนํา
ใบความร ู้ท ี่2 เร ื่อง ประวัติการเพาะเห ็ ดและแหล่งผลิตเห ็ ดของไทย ประวัติการเพาะเห ็ ดในประเทศไทย ประเทศไทยในปัจจุบันมีการพัฒนาเกี่ยวกับการเพาะเห็ดไปมาก จนกลายเป็น อาชีพหลักที่สําคัญของเกษตรกรอาชีพหน่ึงถ้าจะเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย แล้วประเทศไทยจัดอยู่ในระดับแนวหน้า จาํนวนเห็ดที่ผลิตได้สูงสุดในแต่ละปีคือ เห็ดฟาง ส่วนเห็ดที่ผลิตได้น้อยและน้อยมาก คือเห็ดแชมปิญองและเห็ดหอม โดยมีสาเหตุมาจาก ฤดูกาลและวสัดุที่ใช้เพาะ ซ่ึงเรายงัไม่สามารถควบคุม ปรับปรุงและดัดแปลงให้เหมาะสม ได้ตลอดท้งัปีการเพาะเห็ดในประเทศไทยเริ่มต้นจากการค้นคว้าทดลองของ อาจารย ์ ก่าน ชลวิจารณ ์ เมื่อปีพ.ศ. 2480 ซ่ึงท่านผู้น้ีสําเร็จการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยเกษตรแห่ง ฟิลิปปินส์แนวความคิดในการเพาะเห็ดของท่านเกิดข้ึนคร้ังแรกเมื่อได้ไปศึกษาดูงานที่Bureau of Plant Industry ที่กรุงมะนิลา เพราะระหว่างการดูงานน้ันได้พบกับ ดร.คลาร่า (Dr. F.M. Clara) ซ่ึงเป็นนักโรคพืชวิทยา กาํลังทดลองเพาะเห็ดฟาง โดยการใช้เศษและ ก้านใบยาสูบ เศษต้นป่านมนิลา ตน้กล้วย กาบกล้วย รวมท้งักระสอบป่านเก่าๆ จากการที่ได้พบเห็นการทดลองดังกล่าวประกอบกับได้มีโอกาสไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นพบว่าการ เพาะเห็ดเป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศญี่ปุ่นสามารถทาํรายได้ให้ประเทศปีละหลายร้อยล้าน บาท จากประสบการณ์ดังกล่าวเมื่ออาจารย์ก่าน ชลวิจารณ์กลับมาประเทศไทยจึงได้บุกเบิกริเริ่มการทดลองการเพาะเห็ดต้งัแต่ปีพ.ศ.2480 เป็นต้นมา ซ่ึงขณะน้ัน เห็ดที่คนไทย นิยมบริโภคกันมากคือ เห็ดฟางหรือเห็ดบัว เห็ดโคน เห็ดหูหนูและเห็ดหิ่งห้อย จึงได้ศึกษา ทดลองวิธีการเพาะเห็ดดังกล่าว ในสมัยน้ันมีคนจีนบริเวณตาํบลซังอ้ีกรุงเทพมหานครได้ เพาะเห็ดบัว โดยอาศัยกองขยะมูลฝอย คือนาํ ฟางขา้วมาปูทับกองขยะแล้ววางลังไม้ฉาํฉาซ่ึง ไม่มีก้นลงบนกองฟาง บางคร้ังเห็ดก็ข้ึน แต่ที่ใดที่เห็ดเคยข้ึนแล้วเห็ดจะไม่ข้ึนอีก นับว่าเป็น การเพาะเห็ดโดยอาศัยธรรมชาติแสดงให้เห็นว่า เปลือกบัว ฟางข้าว และกองขยะซ่ึงให้ความร้อนเป็นสิ่งที่เห็ดบัวชอบ และอาจารย์ก่าน ก็ได้อาศัยข้อสังเกตดังกล่าวมาใช้ในการ คน้ควา้วิธีเพาะเห็ด ท่านได้ดาํเนินการทดลองเพาะเห็ดโดยแบ่งออกเป็น 3 ข้นัตอน คือ
1. การทดลองเล้ียงเช้ือเห็ดบริสุทธ์ิ(Pure Culture) จากเมล็ดหรือจาก เยื่อของดอกเห็ดในอาหารวุ้นชนิดต่างๆ และศึกษาว่าเช้ือเห็ดต้องการอาหารชนิดใด ระดับ pH ของอาหารและอุณหภูมิที่เหมาะสมควรจะเป็นเท่าไร เห็ดจึงจะเจริญเติบโตได้ดีที่สุด 2. การทดลองทาํเช้ือเห็ด (Spawn) เพื่อให้ได้เห็ดปริมาณมากข้ึน สําหรับใช้ในการเพาะโดยใช้วัสดุชนิดต่างๆ ที่เห็นว่าเหมาะสมสําหรับเป็นอาหารของ เช้ือเห็ด เช่น เปลือกบวั ฟางขา้ว เมล็ดฝ้าย ใบก้ามปูหญ้าแห้ง ผกัตบชวาแห้ง มูลม้าสด และ วัสดุอื่นๆ เท่าที่จะหาได้และมีราคาถูก จากการทดลองน้ีพบว่า เช้ือเห็ดเจริญเติบโต ได้ดีที่สุดในมูลมา้สดผสมเปลือกบวัหรือฟางข้าวสับและหมกัไวจ้นได้ที่3. การทดลองวิธีการเพาะ โดยทําการเพาะเห็ดสองแบบ คือ การเพาะเห็ดในลังไม้และการเพาะเห็ดโดยทาํแปลงบนพ้ืนที่ดินในร่มและกลางแจ้งโดยใช้ฟางขา้ว ซ่ึงวิธีการเพาะเห็ดแบบสร้างแปลงเห็ดด้วยฟางขา้วเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด อาจารย์ก่าน ชลวิจารณ์ได้ทาํการทดลองทาํหัวเช้ือเห็ดและเพาะเห็ดฟางจน สาํเร็จได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงได้เผยแพร่ให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปทาํหัวเช้ือเห็ด และเพาะเห็ดเป็นอุตสาหกรรมภายในครอบครัว จากความสําเร็จคร้ังน้ีนอกจากจะได้รับ ความสนใจจากประชาชนทั่วไปแล้ว ชาวต่างประเทศจาํนวนมากได้ติดต่อขอคาํแนะนาํและ ขอซ้ือเช้ือเห็ดจากประเทศไทย จนต้องจัดพิมพ์เอกสารเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษข้ึนชื่อว่า“Culture of Mushroom in Thailand” ต้งัแต่น้ันเป็นต้นมาเห็ดฟางหรือเห็ดบัวกลายเป็น เห็ด ที่นิยมเพาะกันมากในหมู่เกษตรกร ดังน้ันอาจารย์ก่าน ชลวิจารณ์จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลแรกที่ทาํการ บุกเบิก และพฒันาการเพาะเห็ดฟางจนประสบผลสาํเร็จ ในปีพ.ศ.2505 แผนกโรคพืช กรมวิชาการเกษตร ได้ทดลองเพาะเห็ดนางรม โดย อาจารย์พันธุ์ทวีภักดีแดนดิน โดยความร่วมมือช่วยเหลือของ ดร.บล็อก (Dr. S.S. Block) ปรากฏว่าประสบผลสําเร็จและได้มีการพยายามปรับปรุงพันธุ์เห็ดนางรม ในเวลาต่อมา ประเทศไทยสามารถเพาะเห็ดนางรมได้ตลอดท้ังปีหลงัจากน้ันก็ได้ทาํการอบรมเผยแพร่แก่เกษตรกร จนกระทงั่ปีพ.ศ.2515 จึงไดจ้ดัต้งัชมรมเห็ดข้ึนในมหาวิทยาลยัเกษตรศาสตร์ทาํให้การเพาะเห็ดในประเทศไทยตื่นตวัมากข้ึน ปีพ.ศ.2507 มีผู้นาํเอาเห็ดหูหนูจากไต้หวันมาทดลองเพาะที่จังหวัดเพชรบูรณ์จนประสบผลสาํเร็จ กรมวิชาการเกษตรโดย ดร.วนิดา แจ้งศรีได้ทาํการศึกษาและทดลอง จนสามารถเพาะและให้ผลผลิตเต็มที่จึงได้มีการเผยแพร่วิธีการเพาะเห็ดหูหนูแก่เกษตรกร
ปีพ.ศ.2514 บริษัทฟาร์มเอกชนที่จังหวัดลาํ ปางได้ทดลองเพาะเห็ดแชมปิญอง จนประสบผลสําเร็จ หลังจากน้ันอีกประมาณ 2 ปีอาจารย์นุชนารถ จงเลขา ได้ทาํการวิจัย และเผยแพร่ผลการวิจัยไปสู่เกษตรกรจนเป็นที่แพร่หลายกันในเวลาต่อมา ปีพ.ศ.2515 บริษัทสากลได้นําเห็ดเป๋าฮ้ือมาทดลองเพาะเพื่อแปรรูปเป็นเห็ด กระป๋องแต่ไม่ได้เผยแพร่แต่ในที่สุดชมรมเห็ด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ศึกษาทดลอง เพาะเห็ดเป๋าฮ้ือจนประสบผลสาํเร็จ และส่งเสริมให้เกษตรกรทาํการเพาะเล้ียง จากอดีตที่ผ่านมาพบว่า ประเทศไทยได้พยายามปรับปรุงและพฒันาการเพาะเห็ด มานานถึง 52 ปีซ่ึงถ้าเปรียบเทียบความก้าวหน้าทางการเพาะเห็ดระหว่างประเทศต่างๆใน เอเชียด้วยกันแล้ว ประเทศไทยจะเป็นรองเฉพาะประเทศญี่ปุ่นเท่าน้ัน เนื่องจากเทคโนโลยีที่เกษตรกรใช้อยู่น้ัน เป็นเทคโนโลยีข้ันพ้ืนฐานที่เรียนรู้และยอมรับได้ง่ายเหมาะแก่การ ถ่ายทอดและนําไปใช้ซ่ึงมักจะมีข้อจาํกัดที่ผลผลิตจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพดินฟ้า อากาศท้งัทางด้านปริมาณและคุณภาพ จึงทาํให้เกิดปัญหาทางการตลาด แหล่งผลิตเห ็ ดที่สําคัญของไทย จากการรวบรวมสถิติเกี่ยวกับผลผลิตของเห็ดทุกชนิดในประเทศไทย พบว่าเห็ด ที่ผลิตส่วนใหญ่เป็นการผลิตเห็ดฟางมากที่สุด รองลงมาได้แก่เห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮ้ือ เห็ด นางฟ้า เห็ดหูหนูซ่ึงสามารถจาํแนกแหล่งผลิตเห็ดที่สาํคัญออกได้ดังน้ีคือ 1. เห ็ ดฟาง มีแหล่งผลิตเห็ดฟางได้จาํนวนมากที่สุดก็คือบริเวณพ้ืนที่ชานเมือง และจังหวดัรอบนอกของกรุงเทพมหานคร เช่น เขตหนองแขม เขตตลิ่งชัน อาํเภอกระทุ่ม แบน จังหวดัสมุทรสาคร อาํเภอสามพราน จังหวดันครปฐม อาํเภอลาํลูกกา จังหวดั ปทุมธานีอาํเภอภาชีจังหวดัพระนครศรีอยุธยา และจังหวดัฉะเชิงเทรา ซ่ึงทุกแหล่งดังกล่าวจัดได้ว่า เป็นตลาดผู้ผลิตเห็ดฟางที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดยมีกรุงเทพมหานครเป็นตลาดกลาง และ เป็นเมืองท่าส่งเห็ดฟางไปจาํหน่ายยงัต่างประเทศ รูปแสดง ลกัษณะของเห็ดฟาง ที่มา : www.technoinhome.com
2. เห ็ ดนางรม เห ็ ดนางฟ้ า และเห ็ ดนางนวล แหล่งเพาะที่สาํคัญส่วนใหญ่อยู่ใน บริเวณเดียวกับการเพาะเห็ดฟาง รูปแสดง ลกัษณะของเห็ดนางรม และเห็ดนางฟ้า ที่มา : ขนิษฐา ชมภูศรี3. เห ็ ดเป๋าฮื้อ แหล่งผลิตเห็ดเป๋าฮ้ือที่สําคัญคือ จังหวัดทางภาคเหนือ ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่เชียงราย ลาํ ปาง และจังหวัดรอบนอกกรุงเทพมหานคร เช่น จังหวัด นครปฐม จังหวดัสมุทรสาคร เป็นตน้ รูปแสดง ลกัษณะของเห็ดเป๋าฮ้ือ ที่มา : ขนิษฐา ชมภูศรี
4. เห ็ ดแชมปิญอง หรืออาจเรียกได้อีก 2 ชื่อว่า เห็ดฝรั่งหรือเห็ดกระดุม มีแหล่ง ผลิตที่สาํคญัคือ จังหวดัเชียงใหม่จังหวดัลาํ ปาง และกรุงเทพมหานคร 5. เห ็ ดหูหนูแหล่งผลิตกระจายอยู่ทวั่ทุกภาคของประเทศไทย แต่ส่วนใหญ่ผลิต เป็นรายย่อยเท่าน้ัน รูปแสดง ลกัษณะของเห็ดหูหนูที่มา : www.gotoknow.org 6. เห ็ ดหอม เป็นเห็ดที่มีราคาแพงและชอบอากาศหนาวเย็น แหล่งเพาะเห็ดหอม ที่สําคัญ คือ จังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเชียงใหม่และจังหวดัลาํ ปาง แต่ในปัจจุบัน มีผูน้าํเอามาปลูกในภาคกลางได้สาํเร็จ โดยกาํหนดระยะเวลาปลูกให้เห็ดหอม ออกดอกในช่วงฤดูหนาวและได้ดัดแปลงวสัดุที่ใช้ปลูกบนไม้ก่อ มาปลูกในถุงข้ีเลื่อยไม้ยาง ซ่ึงปรากฏว่าได้ผลผลิตใกลเ้คียงกับเห็ดหอมที่ปลูกในภาคเหนือ รูปแสดง ลกัษณะของเห็ดหอม ที่มา : www.smce.doae.go.th
แบบบันทึก กจิกรรมที่2.1 เรื่อง ประวัติการเพาะเห ็ ดและ แหล่งผลิตเห ็ ดของไทย คาํ สั่ง ให้นักเรียนอธิบายประวตัิการเพาะเห็ดของประเทศไทย (5 คะแนน) ปีพ.ศ. 2480 ปีพ.ศ. 2505 ปีพ.ศ. 2507 ปีพ.ศ. 2514 ปีพ.ศ. 2515 วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั.......... รวมคะแนนที่ได้...................................... คะแนน ลงชื่อ..............................................คะแนนเต ็ ม 5 คะแนน ผ ู้ตรวจ
แบบบันทึก กจิกรรมที่2.2 เรื่อง ประวัติการเพาะเห ็ ดและ แหล่งผลิตเห ็ ดของไทย คาํ สั่ง ให้นักเรียนบอกแหล่งผลิตเห็ดที่สาํคญัของประเทศไทยดังต่อไปน้ี(5 คะแนน) เห ็ ด แหล่งผลิตเห ็ ด เห ็ ดฟาง เห ็ ดนางรม เห ็ ดนางฟ้ า และเห ็ ดนางนวล เห ็ ดเป๋าฮ้ือ เห ็ ดแชมปิญอง เห ็ ดหูหนู เห ็ ดหอม วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั.......... รวมคะแนนที่ได้...................................... คะแนน ลงชื่อ..............................................คะแนนเต ็ ม 5 คะแนน ผ ู้ตรวจ
เฉลย แบบบันทึก กจิกรรมที่2.1 เรื่อง ประวัติการเพาะเห ็ ดและ แหล่งผลิตเห ็ ดของไทย คาํ สั่ง ให้นักเรียนอธิบายประวตัิการเพาะเห็ดของประเทศไทย (5 คะแนน) ปีพ.ศ. 2480 อาจารยก์ ่าน ชลวิจารณ์ได้ทาํการทดลองทาํหัวเช้ือเห็ดและเพาะเห็ดฟางได้สาํเร็จ จึงได้เผยแพร่ให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปทาํหัวเช้ือเห็ดและ เพาะเห็ดเป็นอุตสาหกรรมภายในครอบครัว นอกจากจะได้รับความสนใจ จากประชาชนทั่วไปและชาวต่างชาติปีพ.ศ. 2505 แผนกโรคพืช กรมวิชาการเกษตร ได้ทดลองเพาะเห็ดนางรม โดยอาจารย์พันธุ์ทวีภักดีแดนดิน โดยความร่วมมือช่วยเหลือของ ดร.บล็อก จน ประสบผลสาํเร็จ และได้อบรมเผยแพร่แก่เกษตรกร ปีพ.ศ. 2507 มีผู้นําเอาเห็ดหูหนูจากไต้หวันมาทดลองเพาะที่จังหวัดเพชรบูรณ์จน ประสบผลสาํเร็จ กรมวิชาการเกษตรโดย ดร.วนิดา แจ้งศรีได้ทาํการศึกษา และทดลองจนสามารถเพาะและให้ผลผลิตเต็มที่จึงได้มีการเผยแพร่วิธีการเพาะเห็ดหูหนูแก่เกษตรกร ปีพ.ศ. 2514 บริษัทฟาร์มเอกชนที่จังหวัดลาํ ปางได้ทดลองเพาะเห็ดแชมปิญองจน ประสบผลสําเร็จ หลังจากน้ันอีกประมาณ 2 ปีอาจารย์นุชนารถ จงเลขา ได้ทาํการวิจัยและเผยแพร่ผลการวิจัยไปสู่เกษตรกร ปีพ.ศ. 2515 บริษทัสากลได้นาํเห็ดเป๋าฮ้ือมาทดลองเพาะเพื่อแปรรูปเป็นเห็ดกระป๋องแต่ไม่ได้เผยแพร่แต่ในที่สุดชมรมเห็ด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ศึกษา ทดลองเพาะเห็ดเป๋าฮ้ือจนประสบผลสําเร็จ และส่งเสริมให้เกษตรกรทาํการเพาะเล้ียง วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั..........
เฉลย คาํ สั่ง ให้นักเรียนบอกแหล่งผลิตเห็ดที่สาํคญัของประเทศไทยดังต่อไปน้ี(5 คะแนน) เห ็ ด แหล่งผลิตเห ็ ด เห ็ ดฟาง เห ็ ดนางรม เห ็ ดนางฟ้ า และเห ็ ดนางนวล บ ริเว ณ พ้ืน ที่ช า น เ มืองและจัง ห วัดรอ บ น อกของ กรุงเทพมหานคร เช่น เขตหนองแขม เขตตลิ่งชัน อาํเภอ กระทุ่มแบน จังหวดัสมุทรสาคร อาํเภอสามพราน จังหวดันครปฐม อาํเภอลาํลูกกา จังหวัดปทุมธานีอาํเภอภาชีจังหวดัพระนครศรีอยุธยา และจังหวดัฉะเชิงเทรา เห ็ ดเป๋าฮ้ือ แหล่งผลิตเห็ดเป๋าฮ้ือที่สาํคญั ได้แก่จังหวดัเชียงใหม่เชียงราย ลาํปาง และจังหวดัรอบนอกกรุงเทพมหานคร เช่น จังหวดันครปฐม จังหวดัสมุทรสาคร เป็นตน้ เห ็ ดแชมปิญอง จังหวดัเชียงใหม่จังหวดัลาํ ปาง และกรุงเทพมหานคร เห ็ ดหูหนูแหล่งผลิตกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่ส่วน ใหญ่ผลิตเป็นรายย่อยเท่าน้ัน เห ็ ดหอม จังหวดัเชียงใหม่และจังหวัดลาํ ปาง ปัจจุบัน มีผูน้าํเอามา ปลูกในภาคกลางได้สําเร็จ โดยกาํหนดระยะเวลาปลูกให้ เห็ดหอมออกดอกในช่วงฤดูหนาวและได้ดัดแปลงวัสดุที่ใช้ปลูกบนไม้ก่อ มาปลูกในถุงข้ีเลื่อยไมย้าง แบบบันทึก กจิกรรมที่2.2 เรื่อง ประวัติการเพาะเห ็ ดและ แหล่งผลิตเห ็ ดของไทย วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั..........
กิจกรรมที่3 เร ื่อง ชีววิทยาของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนศึกษาและปฏิบตัิตามข้นัตอนต่อไปน้ี1. ศึกษาใบความรู้2. ทาํแบบบันทึกกิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้องจากแบบเฉลยแบบบันทึก กิจกรรม 3. หากนักเรียนมีขอ้ สงสัยในคาํถาม สามารถซักถามครูผูส้อนได้4. ทาํแบบทดสอบหลงัเรียน คาํแนะนํา
ใบความร ู้ท ี่3 เร ื่อง ชีววิทยาของเห ็ ด ลักษณะสําคัญของเห ็ ด 1. ไม่มีคลอโรฟิลล์จึงไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ต้องอาศัยสิ่งมีชีวิต หรือ ซากสิ่งมีชีวิตอื่น 2. มีรูปร่างแบบ Filament ซ่ึงมีรูปร่างเป็นเส้นสาย โดยเซลมาเรียงต่อกัน เรียกว่า เส้นใย (hypha) กลุ่มของเส้นใย เรียกว่า มัยซีเลียม (Mycelium) 3. มีนิวเคลียสแบบ eukaryotic nucleus คือนิวเคลียสมีเยื่อหุ้มนิวเคลียสห่อหุ้มมีผนังเซลมีการสร้างสปอร์เพื่อการสืบพนัธุ์ รูปแสดง ลกัษณะของเห็ดชนิดต่างๆ ที่มา : http:// www.mushroom-plate1.com
ส่วนประกอบของ ' 'ดอกเห ็ ด' ' (Morphology) เห็ดเป็นพืชจาํพวกรา ซ่ึงส่วนมากจัดอยู่ในช้ัน Basidiomycetes เห็ดจะมีการ เจริญเติบโตภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมนั่นคือ มีอาหาร ความช้ืน และ อุณหภูมิที่เห็ด ต้องการใช้ในการเจริญเติบโต โดยเริ่มจากเส้นใยของเห็ดราจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน จน พฒันารูปร่างกลายเป็นรูปร่างของดอกเห็ด ซ่ึงประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ดังต่อไปน้ี รูปแสดง ส่วนประกอบของดอกเห็ด ที่มา : http://www.infovisual.info/01/024_en.html 1. หมวกดอก (Cap) เป็นส่วนประกอบปลายสุดของดอกที่เจริญเติบโตข้ึนไป ในอากาศ เมื่อดอกบานเต็มที่จะกางออก มีลักษณะรูปทรงเหมือนร่มกาง ขอบงุ้มลงหรือ แบนราบ หรือกลางหมวกเวา้ลงเป็นแอ่ง มีรูปเหมือนกรวยปากกวา้ง ผิวหมวกเห็ดด้านบน อาจจะเรียบ ขรุขระ มีเกล็ด (scales) หรือมีขน แตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดของเห็ด เกล็ด หรือขนเป็นเน้ือเยื่อที่ยังคงเหลือติดจากกลุ่มเน้ือเยื่อห่อหุ้มดอกเห็ดอ่อน (outer veil) เน้ือของดอกเห็ดมีความหนาบางต่างกัน อาจเหนียว หรือฉีกขาดได้ง่าย สีของเน้ือเห็ด ภายในและภายนอก อาจเป็นสีเดียวหรือแตกต่างกัน 2. ครีบดอก (Gills) ด้านล่างของหมวกเห็ดมีครีบหรือซี่เรียงเป็นรัศมีรอบก้าน ห้อยแขวนลงมาจากเน้ือของหมวกเห็ดที่อยู่ตอนบน เห็ดบางชนิดมีครีบหมวกด้านในยึดติด หมวกดอก(Cap) ครีบดอก(Gills) วงแหวน (Ring) ปลอกหุม้โคน (Volva) กา้นดอก(Stalk) สปอร์(Spore) กลุ่มเส้นใย(Mycelium)
หรือไม่ยึดติดกับก้านดอก ด้านนอกเชื่อมติดกับขอบหมวก สองข้างของครีบหมวก เป็นที่เกิดสปอร์ของดอกเห็ด ครีบหมวกน้ันอาจถูกย่อยให้ละลายเป็นของเหลวในเห็ดบางชนิด เช่น เห็ดหิ่งห้อย หรือเห็ดน้าํหมึก เห็ดแต่ละชนิดมีจาํนวนครีบหมวกแตกต่างกัน และความ หนาบางไม่เท่ากัน เห็ดบางสกุลไม่มีครีบแต่จะมีรู(pore หรือ tube)หรืออาจมีลักษณะคล้าย หนาม(spine) แทนครีบที่จะมีสปอร์อยู่ภายใน บางชนิดสปอร์จะถูกฝังอยู่ในเน้ือเยื่อก้อนวุน้ เช่น เห็ดหูหนูหรือมีสปอร์เกิดอยู่ในเปลือกหุ้มที่เป็นก้อนกลม เช่น เห็ดเผาะ 3. ก ้ านดอก (stalk หรือ stipe) มีขนาดและความยาวแตกต่างกัน ส่วนมากเป็น รูปทรงกระบอก บางชนิดมีโคน หรือปลายเรียวเล็ก ตอนบนยึดติดกับหมวกเห็ดหรือครีบ หมวกด้านใน ตอนล่างของเห็ดบางชนิดอาจมีเส้นใยหยาบรวมกันเป็นก้อนหรือเปลือกหุ้ม โคน (volva) ซ่ึงมีลักษณะคลา้ยถว้ยชาหงายรองรับอยู่เช่น เปลือกหุ้มโคนในเห็ดฟาง ฯลฯ บนก้านดอกตอนบนของเห็ดบางชนิดมีวงแหวน (ring) หรือเยื่อบาง (ม่าน หรือ annulus) หุ้มอยู่โดยรอบ ก้านดอกเห็ดมีผิวเรียบ ขรุขระ หรือมีขน หรือมีเกล็ด เมื่อถูกสัมผสัด้วยมือ หรืออากาศอาจเปลี่ยนสีได้ในเห็ดบางชนิดเน้ือเยื่อภายในก้านดอกอาจจะสานกันแน่นทึบ นิ่ม แข็งหรือ กรอบ หรือเป็นเส้นหยาบ หรืออาจสานกันเป็นเส้นใยหลวมคล้ายฟองน้าํบางชนิดอาจมีรูกลวงยาวตลอด หรือเกิดข้ึนเป็นบางส่วน เน้ือเยื่อก้านดอกเห็ดบางชนิดจะมีรสหวานกรอบ และแมลงจะเขา้ไปอาศยักินอยู่ภายในจนเป็นรูพรุน และเน่าเสีย 4. วงแหวน (Ring หรือ annulus) เป็นเน้ือเยื่อบางๆ ยึดติดก้านดอกใต้หมวก เห็ดลงมาเล็กน้อยเป็นส่วนของเน้ือเยื่อห่อหุ้มครีบเมื่อดอกเห็ดยงัอ่อนที่เรียกว่า inner veil เห็ดบางชนิดมีวงแหวนไม่ยึดติดกับก้านดอก 5. เปลือกห ุ้ม (volva) เป็นเน้ือเยื่อช้ันนอกสุดที่ห่อหุ้มดอกเห็ดท้ังดอกไว้ใน ระยะที่เป็นดอกอ่อนหรือ outer veil ซ่ึงมีในเห็ดบางชนิด เช่น เห็ดฟาง และในเห็ดพิษหลาย ชนิดในสกุล Amanita เมื่อดอกเห็ดขยายใหญ่ข้ึนเปลือกหุ้มตอนบนจะแตกออก เพื่อให้หมวกเห็ดและก้านดอกยืดตวัชูสูงข้ึนมาในอากาศ ทิ้งให้เปลือกหุ้มอยู่ที่โคน เปลือกหุ้มอาจมีเน้ือเยื่อหรือสีคล้ายคลึงกับหมวกเห็ดแต่ส่วนมากมีสีขาว ใน เห็ดบางชนิดอาจมองเห็นไม่ชัดเจนเหมือนเห็ดฟางเพราะมีเน้ือเยื่อบางกว่า เห็ดบางชนิดใน สกุล Amanita ซ่ึงอาจจะเป็นเห็ดพิษจึงเป็นการเสี่ยงที่จะเก็บเห็ดตูมมารับประทาน 6. กลุ่มเส้ นใย (mycelium) ก่อนที่จะเป็นดอกเห็ดเราจะเห็นบริเวณน้ันมีเส้นใย ราสีขาว หรือ hypha คือเซลล์หลายเซลล์มาต่อกันเป็นเส้นใย แต่หากเส้นใยเหล่าน้ีก่อตัว หรือรวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ข้ึน เรียกว่า กลุ่มเส้นใย เห็ดบางชนิดจะมีเส้นใยรวมตัวเป็น
ก้อนแข็งอยู่ที่โคนก้านดอกหรือเป็นเส้นหยาบมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่บางชนิดมีเส้นใย ละเอียดเล็กมาก ไม่สามารถมองไม่เห็น โดยปกติเส้นใยของเห็ดจะมีสีขาวนวลแทรกซึมอยู่ตามที่มนัอาศัย 7. สปอร ์ เห ็ ด (Spore) คือ กลุ่มเซลล์ที่ถูกสร้างข้ึนใต้หมวกของดอกเห็ดและใช้ในการขยายพันธุ์ของเห็ดรา เห็ดดอกหน่ึงสามารถสร้างสปอร์ได้จาํนวนมากนับล้านๆ ซ่ึง สปอร์มีขนาดเล็กมาก สปอร์จะปลิวหรือลอยไปในอากาศ เมื่อตกอยู่ในที่ที่มีสภาพแวดล้อม เหมาะสม เช่น มีอาหาร ความช้ืน อุณหภูมิความเป็นกรด-ด่างที่เห็ดชนิดน้ันต้องการ สปอร์จะงอกออกมาเป็นเส้นใย วงจรชีวิตของเห ็ ด วงจรชีวิตของเห็ดแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ 1. แบบไม่ต้องผสม (Homothallic) คือเห็ดที่สามารถเจริญเป็นดอกจนครบวงจร ชีวิตได้เอง โดยเริ่มต้นด้วยสปอร์ที่จะงอกเป็นเส้นใยระยะที่1 คือใน แต่ละเซลล์จะมีนิวเคลียส 1 อัน แล้วเจริญเป็นเส้นใยระยะที่2 คือแต่ละเซลล์มีนิวเคลียส 2 อัน แล้วเส้นใย ระยะที่2 ก็เจริญเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ แล้วเจริญเป็นดอกเห็ดที่สามารถ สร้างสปอร์ได้อีก แต่ละสปอร์ก็จะเจริญเป็นดอกเห็ดต่อไปหมุนเวียนเป็นวงจร ดังรูป รูปแสดง วงจรชีวิตเห็ดแบบไม่ตอ้งผสม (Homothallic) ที่มา : http://www.doae.go.th/library/html/deta.gfa2.htm สปอร์ สปอร์ดอกเห็ด สปอร์งอกเส้นใยระยะที่1 เส้นใยที่2 ดอกเห็ด เริ่มบาน
2. แบบต้องผสม (Heterothallic) คือเห็ดที่มีสปอร์ไม่สามารถเจริญเป็นดอกเห็ด เป็นได้แค่เพียงเส้นใย ซ่ึงเรียกว่าเส้นใยหมัน คือเส้นใยระยะที่1 ไม่สามารถพัฒนาเป็น เส้นใยระยะที่2 จึงต้องอาศัยการผสม ระหว่างเส้นใยระยะที่1 แต่ต้องเป็นเส้นใยระยะที่1 ที่มาจากสปอร์อื่นที่จะรวมกันได้เท่าน้ัน แล้วจึงจะพัฒนาเป็นเส้นใยระยะที่2 แล้วถึงจะ เจริญเป็นกลุ่มกอ้นเล็กๆ แลว้เป็นดอกเห็ดในเวลาต่อไป ดังรูป รูปแสดง วงจรชีวิตเห็ดแบบแบบตอ้งผสม (Heterothallic) ที่มา : http://www.doae.go.th/library/html/deta...gfa2.htm สปอร์สปอร์งอกเป็นเส้นใยระยะที่1 เส้นใยระยะที่2 การรามของเส้นใยระยะที่1 จากสปอร์ที่มีเพศตรงขา้มหรือเขา้กนัได้ เริ่มพฒันาเป็นเส้นใย ระยะที่2
การจําแนกประเภทของเห ็ ด ด้วยความที่เห็ดมีความหลากหลายในรูปร่างลกัษณะท้งัที่รับประทานได้และเป็น เห็ดพิษ หลากหลายประเภท จึงมีการแบ่งชนิดและจาํแนกเห็ดไวต้ามลกัษณะดังน้ี1. การจําแนกทางพืชสวน 1.1 ตามความสามารถในการรับประทาน แบ่งออกเป็น 1.1.1 เห็ดรับประทานได้(edible mushroom) ได้แก่เห็ดที่เพาะเล้ียงเป็น การค้า เช่น เห็ดฟาง เห็ดสกุลนางรม เห็ดหอม และเห็ดป่าบางชนิดที่ไม่มีสารพิษ เช่น เห็ด เผาะ เห็ดหล่ม เห็ดลม เห็ดโคน 1.1.2 เห็ดรับประทานไม่ได้หรือเห็ดพิษ (toadstools หรือ poisonous mushroom)ได้แก่เห็ดพิษชนิดต่างๆ เช่น เห็ดระโงกหิน เห็ดกระโดงตีนต่าํเป็นตน้1.2 ตามสภาพธรรมชาติที่ขึ้นอยู่เป็นการแบ่งโดยอาศัยความสามารถในการ ใช้อาหารหรือตามวสัดุที่ใช้เพาะ แบ่งออกเป็น 1.2.1 เห็ดที่เจริญได้ดีบนส่วนของพืช หรือพืชสด (parasitic fungi) เช่น ท่อนไม้ข้ีเลื่อย ได้แก่เห็ดสกุลนางรม เห็ดหูหนูเห็ดหูหนูขาว เห็ดหอม เห็ดหลินจือ 1.2.2 เ ห็ด ที่เจริญได้ดีบ นวัส ดุเพาะที่ผ่า นการ หมักเพียง บ าง ส่วน (saprophytic fungi) ได้แก่เห็ดฟาง เห็ดถวั่เป็นต้น 1.2.3 เห็ดที่เจริญได้ดีบนวสัดุเพาะที่ต้องผ่านการหมักอย่างสมบูรณ์เจริญ ได้ดีบนปุ๋ยหมกัเช่น เห็ดแชมปิญอง เป็นตน้1.2.4 เห็ดที่เจริญอยู่ร่วมกับรากไม้บางชนิดในลกัษณะที่เป็นมยัคอร์ไรซา (symbiotic fungi) ได้แก่เห็ดตบัเต่า เห็ดมอเรล เห็ด matsutake เห็ดทรัฟเฟิล เป็นต้น 1.2.5 เห็ดที่ข้ึนอยู่บนรังปลวก (symbiotic fungi) ได้แก่เห็ดโคน เป็นต้น 1.3 ตามอุณหภูมิที่ใช ้ในการเจริญเติบโต แบ่งออกเป็น 1.3.1 เห็ดที่ชอบอุณหภูมิสูงเป็นเห็ดเขตร้อน (tropical mushrooms) ได้แก่เห็ดฟาง เห็ดหูหนูเห็ดนางลม เป็นตน้1.3.2 เห็ดที่ชอบอุณหภูมิต่าํเป็นเห็ดเขตหนาว (temperate mushrooms) ได้แก่เห็ดแชมปิญอง เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง เป็นต้น 1.4 ตามการใช ้ประโยชน ์ แบ่งออกเป็น 1.4.1 ใช้เป็นอาหารประเภทพืชผกั ได้แก่เห็ดที่รับประทานได้ทวั่ ไป 1.4.2 ใช้เป็นยารักษาโรคหรือสมุนไพร ได้แก่เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาว เห็ดหลินจือ เห็ดเข็มทอง เป็นต้น
1.4.3 ใช้สาํหรับปรุงอาหารหรือเป็นเครื่องเทศ เช่น เห็ดหอม 1.4.4 ใ ช้เ ป็น เ ห็ด ป ระดับ เ ช่น เ ห็ดใ น ส กุลเ ห็ด ห ลิน จือ ได้แก่Ganoderma neo-japonicum 2. การจําแนกทางพฤกษศาสตร ์ สามารถจําแนกได ้ เป็ น 2 division ใหญ่ๆ คือ 2.1 Division Myxomycota ได้แก่ราเมือก (slime molds) ท้งัหมด 2.2 Division Eumycota ได้แก่เห็ดราที่เหลือท้ังหมด (true fungi) ได้แก่รา ช้ันต่าํ (lower fungi) ราช้ันสูง (higher fungi) และเห็ดต่างๆ ใน division น้ียงัแบ่งออกเป็น 5 subdivision คือ Mastigomycotina, Zygomycotina, Ascomycotina, Basidiomycotina และ Deuteromycotina 3. การจําแนกตามการเพาะเลี้ยง 3.1 เห ็ ดที่นํามาเพ าะเลี้ยง ได้แก่เห็ดหูหนูเห็ดแชมปิญอง เห็ดกระดุม เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดเป๋าฮ้ือ เห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดบด เห็ดลม เห็ดกระดา้ง เห็ดฟาง เห็ดยานางิเห็ดตีนแรด เห็ดจนั่เห็ดเข็มเงิน (ทอง) ฯลฯ 3.2 เห ็ ดที่ไม่มีการเพาะเลี้ยง ได้แก่เห็ดไข่ห่าน เห็ดตับเต่า เห็ดโคน เห็ดขิง เห็ดแดง เห็ดพุงหมูเห็ดเผาะ เห็ดถอบ เห็ดมอเรล เห็ดโคนฝรั่ง ฯลฯ และ เห็ดพิษท้งัหมด 4. การจําแนกทางชีววิทยาของเห ็ ดรา (Biology of Mushroom) แบ่งออกเป็ น 4.1 Mastigomycotina และ Zygomycotina ได้แก่ราช้ันต่าํสปอร์ของรา จาํพวกน้ีจะสร้างอวยัวะที่เรียกว่า อบัสปอร์(sporangia) ซ่ึงเป็น asexual spore คือเกิดสปอร์โดยไม่เกี่ยวขอ้งกับการใช้เพศ ได้แก่ราน้าํราขนมปัง ฯลฯ 4.2 Deuteromycotina เป็นราที่ไม่สมบูรณ์หรือ imperfect fungi ไม่ใช้สปอร์สืบพันธุ์สปอร์จะถูกสร้างจากกลุ่มเส้นใยที่เป็นหมัน (sterile mycelium) หรือจาก เส้นใยพิเศษ (specialized hyphae) 4.3 Ascomycotina หรือ ascomycetes มีสปอร์สืบพันธุ์บรรจุในเซลล์พิเศษ คล้ายถุง เรียกว่า ascus สามารถสร้างหรือก่อตวัเป็นลาํต้นที่เรียกว่า fruiting body ข้ึนมาได้นอกจากเห็ดราแล้ว ไลเคนส์ยงัถูกจัดไวใ้นจาํพวกน้ีเห็ดราใน subdivision น้ีที่สาํคญั ได้แก่เห็ดมอเรล เห็ดราที่เป็นโรคพืช ราแป้ง ราดาํยีสต์4.4 Basidiomycotina หรือ basidiomycetes มีสปอร์สืบพันธุ์อยู่ภายนอก เซลล์หรืออยู่ด้านนอกของอวยัวะที่เรียกว่า basidium หรือฐานที่มีรูปร่างคล้ายใบพาย แล้ว จะก่อตัวเป็นดอกเห็ด หรือ fruiting bodyเช่น เห็ดที่ข้ึนอยู่ตามท่อนไม้เห็ดตับเต่า เห็ด ร่างแห เห็ดรังนก เห็ดเผาะ เห็ดหูหนูขาว ราสนิม ราเขม่าดาํเป็นต้น
แบบบันทึก กจิกรรมที่3.1 เรื่อง ชีววทิยาของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนอธิบายลกัษณะสาํคัญของเห็ด (3 คะแนน) คาํ สั่ง ให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง ส่วนประกอบต่างๆของดอกเห็ด แลว้ให้นักเรียนเติม คาํตอบลงในช่องว่างให้สมบูรณ์(7 คะแนน) รวมคะแนนที่ได้...................................... คะแนน ลงชื่อ...............................................คะแนนเต ็ ม 10 คะแนน ผ ู้ตรวจ ............................................................................................................................................................ ........................................................................................................................... ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................... ............................................................................................................................................................ วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั..........
แบบบันทึก กจิกรรมที่3.2 เรื่อง ชีววทิยาของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนวาดรูปวงจรชีวิตเห็ดลงในแบบบันทึกกิจกรรมที่กาํหนดให้(10 คะแนน) รวมคะแนนที่ได้...................................... คะแนน ลงชื่อ...............................................คะแนนเต ็ ม 10 คะแนน ผ ู้ตรวจ ให ้ นักเรียนวาดรูปวงจรชีวติเห ็ ด ท้งั 2 แบบ แบบ Homothallic แบบ Heterothallic วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั..........
แบบบันทึก กจิกรรมที่3.3 เรื่อง ชีววทิยาของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนโยงเส้นให้สัมพนัธ์กัน (10 คะแนน) ตามความสามารถในการรับประทาน การจาํแนกทางพืชสวน Division Myxomycota Mastigomycotina การจาํแนกทางพฤกษศาสตร์ ตามสภาพธรรมชาติที่ข้ึนอยู่ Deuteromycotina การจาํแนกตามการเพาะเล้ียง ตามอุณหภูมิที่ใช้ในการเจริญเติบโต เห็ดที่ไม่มีการเพาะเล้ียง การจาํแนกทางชีววิทยาของเห็ดรา Division Eumycota ตามการใช้ประโยชน์ เห็ดที่นาํมาเพาะเล้ียง รวมคะแนนที่ได้...................................... คะแนน ลงชื่อ...............................................คะแนนเต ็ ม 10 คะแนน ผ ู้ตรวจ วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั..........
เฉลย แบบบันทึก กจิกรรมที่3.1 เรื่อง ชีววทิยาของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนอธิบายลกัษณะสาํคญัของเห็ด (3 คะแนน) คาํ สั่งให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง ส่วนประกอบต่างๆของดอกเห็ด แลว้ให้นักเรียนเติม คาํตอบลงในช่องว่างให้สมบูรณ์(7 คะแนน) 1. ไม่มีคลอโรฟิลล์จึงไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ต้องอาศัยสิ่งมีชีวิต หรือ ซากสิ่งมีชีวิตอื่น 2. มีรูปร่างแบบ Filament ซ่ึงมีรูปร่างเป็นเส้นสาย โดยเซลมาเรียงต่อกัน เรียกว่า เส้นใย (hypha) กลุ่มของเส้นใย เรียกว่า มยัซีเลียม (Mycelium) 3. มีนิวเคลียสแบบ eukaryotic nucleus คือนิวเคลียสมีเยื่อหุ้มนิวเคลียสห่อหุ้ม มีผนังเซลมีการสร้างสปอร์เพื่อการสืบพนัธุ์ ............................................................................................................................................ วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั.......... หมวกดอก(Cap) ครีบดอก(Gills) วงแหวน (Ring) ปลอกหุม้โคน (Volva) กา้นดอก(Stalk) สปอร์(Spore) กลุ่มเส้นใย(Mycelium)
เฉลย แบบบันทึก กจิกรรมที่3.2 เรื่อง ชีววทิยาของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง วงจรชีวิตเห็ด แลว้วาดรูปลงในแบบ บนัทึกกิจกรรมที่กาํหนดให้(10 คะแนน) ใหน้กัเรยีนวาดรปูวงจรชวีติเห็ด ทงั้2 แบบ แบบ Homothallic แบบ Heterothallic วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั..........
เฉลย แบบบันทึก กจิกรรมที่3.3 เรื่อง ชีววทิยาของเห ็ ด คาํ สั่ง ให้นักเรียนโยงเส้นให้สัมพนัธ์กัน (15 คะแนน) ตามความสามารถในการรับประทาน การจาํแนกทางพืชสวน Division Myxomycota Mastigomycotina การจาํแนกทางพฤกษศาสตร์ ตามสภาพธรรมชาติที่ข้ึนอยู่ Deuteromycotina การจาํแนกตามการเพาะเล้ียง ตามอุณหภูมิที่ใช้ในการเจริญเติบโต เห็ดที่ไม่มีการเพาะเล้ียง การจาํแนกทางชีววิทยาของเห็ดรา Division Eumycota ตามการใช้ประโยชน์ เห็ดที่นาํมาเพาะเล้ียง รวมคะแนนที่ได้...................................... คะแนน ลงชื่อ...............................................คะแนนเต ็ ม 15 คะแนน ผ ู้ตรวจ วนัที่............. เดือน ................... พ.ศ. .............ชื่อ.................................เลขที่...........ช้นั..........
แบบทดสอบหลังเรียน ชุดการสอนที่1 เร ื่อง ความร ู้เบ ื้องต ้ นเกี่ยวกับเห ็ ด คาํชี้แจง : แบบทดสอบเป็นแบบตัวเลือก ก ข ค และ ง จาํนวน 10 ขอ้ 10 คะแนน ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย (x) ลงในช่องตวัอกัษร ก ข ค และ ง ที่เห็นว่า ถูกตอ้งเพียงขอ้เดียว 1. ขอ้ ใดคือเห็ดกระดุม ก. เห็ดหอม ข. เห็ดฟาง ค. เห็ดเข็มทอง ง. เห็ดแชมปิญอง 2. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้งที่สุด ก. สมยับอกว่าเห็ดเป็นเช้ือแบคทีเรียชนิดหน่ึง ข. สมทรงมีความเห็นไม่ตรงกบัสมัยบอกว่าเห็ดเป็นเช้ือไวรัส ค. สายสมรคิดตรงขา้มกบัสมทรงบอกว่าเห็ดจัดเป็นเช้ือรา ง. สายเสมอคิดว่าท้งัสามคนคิดผิดหมดเพราะเห็ดเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตช้ันต่าํเท่าน้ัน 3. “สปอร์ไม่สามารถเจริญเป็นดอกเห็ด เป็นได้แค่เพียงเส้นใย ซ่ึงเรียกว่าเส้นใยหมัน ต้อง อาศยัการผสม ระหว่างเส้นใยระยะที่1 จากสปอร์อื่นที่จะรวมกันได้เท่าน้ัน แล้วจึงจะพฒันา เป็นเส้นใยระยะที่2 แล้วถึงจะเจริญเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ แล้วเป็นดอกเห็ดต่อไป” จาก ขอ้ความดังกล่าวเป็นวงจรชีวิตเห็ดแบบใด ก. Heterothallic ข. Homothallic ค. Heterosexual ง. Homosexual
4. ขอ้ ใดสอดคลอ้งกบัขอ้ความต่อไปน้ี“เห็ดไม่มีคลอโรฟิลล์”ก. มีเพียงเห็ดนางฟ้าเท่าน้ันที่สามารถสร้างอาหารได้เอง ข. เห็ดไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง ค. เห็ดที่มีสีเขียวสามารถสังเคราะห์แสงได้ง. เห็ดที่มีสีเหลืองมีสารแคโรทีน 5. “การเพาะเห็ดทาํได้ง่ายเพราะสามารถนาํวสัดุเหลือใช้ทางการเกษตร มาใช้ในการเพาะ เห็ดได้”สอดคลอ้งกับขอ้ ใดมากที่สุด ก. เห็ดไม่สามารถเจริญได้บนพืชที่ยงัมีชีวิต ข. เห็ดช่วยย่อยเศษพืชและอินทรียวตัถุให้ผุพงัค. การเพาะเห็ดสามารถทาํได้บนซากของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ง. วสัดุที่ใช้ในการเพาะเห็ดตอ้งย่อยสลายง่ายเท่าน้ัน 6. ส่วนของเห็ดที่เรียกว่า มัยซีเลียม (Mycelium) คือส่วนใด ก. เส้นใย ข. กลุ่มของเส้นใย ค. ปลอกหุ้มโคน ง. หมวกเห็ด 7. ส่วนใดของเห็ดที่ทาํหน้าที่คลา้ยเมล็ดพืช ก. สปอร์ข. เส้นใย ค. ครีบ ง. หมวกดอก 8. บุคคลหรือหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้อง กับการพฒันาเทคนิควิธีการการเพาะเห็ดในประเทศ ไทยน้อยที่สุด ก. อาจารยด์ีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติข. อาจารยก์ ่าน ชลวิจารณ์ค. กรมวิชาการเกษตร ง. กรมสรรพสามิต
9. จังหวดัใดเหมาะสาํหรับการเพาะเห็ดหอม ก. สตูล ข. ชลบุรีค. ยโสธร ง. เชียงใหม่10. จากภาพข่าวแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ขอ้ ใดของการเพาะเห็ด ที่มา : http://www.science.sut.ac.th ก. การเพาะเห็ดไวร้ับประทานทาํให้ไม่เสี่ยงต่อการรับประทานเห็ดพิษ ข. เห็ดที่รับประทานได้มีลกัษณะใกลเ้คียงกับเห็ดพิษ ค. เห็ดที่เก็บจากป่ามกัจะทาํให้ทอ้งร่วงเพราะมีเช้ือโรคมาก ง. การเพาะเห็ดไม่เสี่ยงต่อการถูกทาํร้ายจากสัตวป์่า
กระดาษคาํตอบ แบบทดสอบหลงัเรียนชุดการสอนที่1 เรื่อง ความรู้ เบ้ืองตน ้ เกี่ยวกบัเห ็ ด ข ้ อ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนที่ได้......................................... คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนชุดการสอนที่1 เรื่อง ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับเห็ด ข ้ อ คาํตอบ 1 ง 2 ค 3 ค 4 ข 5 ข 6 ง 7 ก 8 ง 9 ง 10 ก เป็นยังไงกันบ้าง คะแนนต้องดีแน่นอนเพราะใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม กันทั้งนั้น
แบบประเมินพฤตกิรรมระหว่างเรียน เรื่องความรู้เบ้ืองตน้เกี่ยวกบัเห็ด ชื่อ…………………………….นามสกลุ……………………..ช้นั…………เลขที่......................คาํชี้แจง ผปู้ระเมินผลงาน เขียนเครื่องหมายถูก ( ) ในช่องวา่งที่ตรงกบัความเป็นจริง พฤติกรรม เกณฑ ์ประเมินระดบัคะแนน ดมีาก (4 ) ดี (3 ) พอใช ้ ( 2) ควรปรับปรุง (1 ) 1. มีการเตรียมตวัและมีความพร้อมในการเรียน …………... ………… ………… …………….. 2. ความสนใจกระตือรือร้นขณะเรียน ………….. ……….. ……….. ……………. 3. การตอบคาํถามหรือแสดงความคิดเห็น ………….. ……….. ……….. ……………. 4. การซกัถามอยา่งสร้างสรรค์ ………….. ……….. ………... …………… 5. การมีส่วนร่วมและแสดงบทบาทหนา้ที่ในกลุ่ม ………….. ………. ………… …………….รวมคะแนนที่ได ้ ระดบัคุณภาพ ผ ู้ประเมิน คะแนน 17 – 20 ดีมาก นกัเรียน เพื่อนนกัเรียน คะแนน 13 – 16 ดี ครู อื่น ๆ ............คะแนน 9 –12 พอใช้คะแนน 5 – 8 ควรปรับปรุง ผลการประเมิน ........................ลงชื่อ............................................ผปู้ระเมิน ( ........ / ............... / ......... )
แบบประเมินการทาํงานกลุ่ม เรื่องความรู้เบ้ืองตน้เกี่ยวกบัเห็ด ชื่อกลุ่ม .................................................................ชื่อสมาชิก 1. ....................................................... เลขที่............... ประธาน 2. ....................................................... เลขที่.............. กรรมการ 3. ....................................................... เลขที่............... กรรมการ 4. ........................................................ เลขที่............... กรรมการ 5. ........................................................ เลขที่.............. กรรมการ 6. ......................................................... เลขที่.............. เลขานุการ คาํชี้แจง ผปู้ระเมินผลงานกลุ่ม เขียนเครื่องหมายถูก ( ) ในช่องวา่งที่ตรงกบัความเป็นจริง พฤติกรรม พฤติกรรม ดมีาก (4 ) ดี (3 ) พอใช ้ ( 2) ควรปรับปรุง (1 ) 1. คณะทาํงาน …………... ………… ………… …………….. 2. ความรับผดิชอบต่อหนา้ที่ ………….. ……….. ……….. ……………. 3. ข้นัตอนการทาํงาน ………….. ……….. ……….. ……………. 4. เวลา ………….. ……….. ………... …………… 5. ความร่วมมือในการทาํงาน ………….. ………. ………… …………….รวมคะแนนที่ได ้ ระดบัคุณภาพ ผ ู้ประเมิน คะแนน 17 – 20 ดีมาก นกัเรียน เพื่อนนกัเรียน คะแนน 13 – 16 ดี ครู อื่น ๆ ............คะแนน 9 –12 พอใช้คะแนน 5 – 8 ควรปรับปรุง ผลการประเมิน ........................ลงชื่อ............................................ผปู้ระเมิน ( ........ / ............... / ......... )
เกณฑ ์ การให ้ คะแนนแบบประเมินผลงานกลุ่ม ประเดน ็ เกณฑ ์ การให ้ คะแนน การประเมิน 4 3 2 1 1. คณะทาํงาน มีประธาน เลขานุการ ขาดองคป์ระกอบ ขาดองคป์ระกอบ ขาดองคป์ระกอบ ผนู้าํเสนอ ผรู้่วมงาน 1 อยา่ง 2 อยา่ง 3 อยา่ง 2.ความรับผิดชอบต่อหนา้ที่ทุกคนมีหนา้ที่และ มีผทู้ี่มีหนา้ที่แต่ไม่มีผทู้ี่มีหนา้ที่แต่ไม่มีผทู้ี่มีหนา้ที่แต่ไม่ความรับผิดชอบต่อ รับผิดชอบ 1คน รับผิดชอบ 2คน รับผิดชอบ 2คน หนา้ที่ของตน ข้ึนไป 3.ข้นัตอนการทาํงาน 1. มีการวางแผนงาน ขาดหรือไม่ชดัเจน ขาดหรือไม่ชดัเจน ขาดหรือไม่ชดัเจน 2.เตรียมวสัดุอุปกรณ์1 ข้นัตอน 2 ข้นัตอน มากกวา่2คน 3.ปฏิบตัิตามแผนและ ข้ึนไป พฒันา 4. เวลา เสร็จตามกาํหนดและ เสร็จไม่ทนัตาม เสร็จไม่ทนัตามกาํหนด เสร็จไม่ทนังานมีคุณภาพ กาํหนด และงานมีคุณภาพต่าํตามกาํหนดและ แต่งานมีคุณภาพ งานไม่มีคุณภาพ 5.ความร่วมมือในการทาํงาน ทุกคนมีส่วนร่วมและ 80 % ของกลุ่มมี60 % ของกลุ่มมี40 % ของกลุ่มมี ใหค้วามร่วมมืออยา่ง ส่วนร่วมและใหค้วาม ส่วนร่วมและใหค้วาม ส่วนร่วมและให้ เตม็ที่ร่วมมือ ร่วมมือ ความร่วมมือ
แบบประเมินแบบบันทก ึ กจิกรรม เรื่องความรู้เบ้ืองตน้เกี่ยวกบัเห็ด ชื่อ…………………………….นามสกลุ……………………..ช้นั…………เลขที่......................คาํชี้แจง ผปู้ระเมินผลงาน เขียนเครื่องหมายถูก ( ) ในช่องวา่งที่ตรงกบัความเป็นจริง พฤติกรรม เกณฑ ์ประเมินระดบัคะแนน ดมีาก (4 ) ดี (3 ) พอใช ้ ( 2) ควรปรับปรุง (1 ) 1. การใชภ้าษา …………... ………… ………… …………….. 2. เน้ือหา ………….. ……….. ……….. ……………. 3. เวลา ………….. ……….. ……….. …………….รวมคะแนนที่ได ้ ระดบัคุณภาพ ผ ู้ประเมิน คะแนน 12 ดีมาก นกัเรียน เพื่อนนกัเรียน คะแนน 9– 11 ดี ครู อื่น ๆ ............คะแนน 6– 8 พอใช้คะแนน 3– 5 ควรปรับปรุง ผลการประเมิน ........................ลงชื่อ.......................................ผปู้ระเมิน ( ........ / ............... / ......... )