The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การจัดการความรู้
กระบวนการจัดการความรู้
ประเภทการจัดการความรู้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kanjana Maitawin, 2022-10-12 07:02:35

การจัดการความรู้

การจัดการความรู้
กระบวนการจัดการความรู้
ประเภทการจัดการความรู้

การจัดการความรู้
เพื่อการ

พัฒนาสังคม

1. จงอธิบายกระบวนการเกิดความรู้พร้อมยก
ตัวอย่างประกอบเพื่อสังเคราะห์กระบวนการ
เกิด ความรู้ของตนเอง อย่างละเอียด

เป็ นกระบวนการที่จะช่วยให้เกิดพัฒนาการของ
ความรู้ หรือการจัดการความรู้ที่จะเกิดขึ้นภายใน

องค์กร มีทั้งหมด 7 ขั้นตอน

การบ่งชี้ความรู้
( Knowledge Identification )

การค้นหาว่าองค์กรมีความรู้อะไรบ้าง รูป
แบบใด อยู่ที่ใคร และความรู้อะไรที่องค์กร
จำเป็ นต้องมีทำให้องค์กรทราบว่าขาดความ
รู้อะไรบ้าง หรือการทำแผนที่ความรู้ เพื่อหา
ว่าความรู้ใดมีความสำคัญสำหรับองค์กร

การสร้างและแสวงหาความรู้
( Knowledge Creation and

Acquisition )

การสร้างความรู้ใหม่ แสวงหาความรู้จากภายนอก
รักษา ความรู้เดิม แยกความรู้ที่ใช้ไม่ได้แล้วออก

ไปหลายแนวทาง เช่น ใช้ SECI model นำ
บุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์ต่างกันมา

ประชุม/ทำงานร่วมกัน

การจัดความรู้ให้เป็ นระบบ
( Knowledge Organization )

เป็นการวางโครงสร้างความรู้ แบ่งชนิด
ประเภท เช่น กฎ ระเบียบ ขั้นตอนการทำงาน
กำหนดวิธีการจัดเก็บและค้นคืน เพื่อให้สืบค้น

เรียกคืน และนำไปใช้ได้สะดวก

การประมวลและกลั่นกรองความรู้
( Knowledge Codification and

Refinement )

การปรับปรุงรูปแบบเอกสารให้เป็นมาตรฐาน ใช้
ภาษาเดียวกัน ปรับปรุงเนื้อหาให้ครบถ้วนสมบูรณ์




การเข้าถึงความรู้
(Knowledge Access)

เป็ นการทำให้ผู้ใช้ความรู้เข้าถึงความรู้ที่
ต้องการได้ง่ายและสะดวก เช่น ระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศ บอร์ดประชาสัมพันธ์

การแบ่งปั นแลกเปลี่ยนความรู้
(Knowledge Sharing)

เป็นการแบ่งปัน อาจจัดทำเป็นเอกสาร ฐานความรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศ จัดทำเป็นระบบทีมข้ามสาย
งาน กิจกรรมกลุ่มคุณภาพและนวัตกรรม ชุมชน
แห่งการเรียนรู้ ระบบพี่เลี้ยง การสับเปลี่ยนงาน การ
ยืมตัว เวทีแลกเปลี่ยนความรู้

การเรียนรู้ (Learning)

เป็ นการนำความรู้มาใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจ
แก้ปัญหา และทำให้เป็นส่วนหนึ่งของงาน เช่น เกิด
ระบบการเรียนรู้จากสร้างองค์ความรู้ การนำความรู้
ในไปใช้ เกิดการเรียนรู้ และประสบการณ์ใหม่

กระบวนการเกิดความรู้ของตนเอง

ต้องมีความรู้และต้องรู้ตัวเองว่ามีความรู้
เรื่องนั้นพอหรือไม่ ต้องมีการแยกประเภท
และรูปแบบความรู้นั้นได้ มีการทำความ
เข้าใจเมื่อทำความเข้าใจแล้วนำความรู้นั้น
ไปปรับใช้ได้และความรู้นั้นต้องมีประโยชน์
ต่อการทำงาน

กระบวนการสร้างความรู้ หรือ SECI MODEL มี
ลักษณะเป็นอย่างไร และท่านมีแนวทางการสร้าง ความรู้

จาก MODEL

แนวทางการสร้าง ความรู้จาก Model การทำงานกลุ่มที่แลกเปลี่ยน
ความคิดร่วมกันร่วมกันกำหนดเป้ าหมายและวางแผนการทำงาน
นำความรู้ที่แลกเปลี่ยนกัน นำมาวิเคราะห์ใจความสำคัญของงาน
เพื่อลงมือปฎิบัติให้งานออกมามีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลให้
ได้มากที่สุด งานถึงจะบรรลุเป้ าหมายที่ตั้งไว้

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Socialization) การถ่ายโอนความรู้โดยตรงระหว่าง
กลุ่มคนหรือบุคคล โดยไม่ผ่านการเขียน เป็นการพูดกลุ่มคนที่มีการแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์จากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่ง กลุ่มคนที่มาแลกเปลี่ยนความรู้กันนี้มัก
จะมีพื้นฐานความรู้ที่สอดคล้องกัน หรือเคยมีประวัติอดีตที่คล้ายคลึงกัน จะมี
คลื่นความถี่ที่ใกล้เคียงกันสามารถสื่อสารและทำความเข้าใจกันได้โดยง่าย

การสกัดความรู้ออกจากตัวคน (Externalization) การถ่ายโอนความรู้จากผู้
เชี่ยวชาญที่มีความสามารถในการสอนผ่านสื่อต่างๆ จากประสบการณ์ในสมอง
ของเขาออกมาสู่ภายนอกแก่ผู้อื่น

การควบรวมความรู้ (Combination) การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆให้ทันต่อกระแสการ
เปลี่ยนแปลง และมีการศึกษาเรียนรู้จากความรู้ภายนอก ซึ่งแนวคิดจะมีความ
หลากหลายมากต้องสร้างความเข้าใจแลเชื่อมโยงความรู้อันหลากหลายให้ได้

และถ่ายทอดความรู้ใหม่ๆให้กับองค์กรของตน

การผนึกฝังความรู้ (Internalization) Internalization การนำความรู้ใหม่มา
ลงมือปฏิบัติจริง ผู้ปฏิบัติจะเกิดการเรียนรู้ให้เกิดเป็นความรู้ประสบการณ์และ

ปัญญา เป็นประสบการณ์อยู่ในสมองในเชิง Tacit Knowledge ต่อไป

วิเคราะห์กระบวนการจัดการความรู้ โดยอธิบายว่า

แตกต่างระหว่างกระบวนการจัดการความรู้

ที่ประยุกต์ใช้ในภาคองค์กร และกระบวนการ

จัดการความรู้ในชุมชน อย่างละเอียด

การจัดการความรู้ในองค์กรการรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ใน

องค์กรซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสาร มาพัฒนา

ให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และ

พัฒนาตนเองให้เป็ นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมี

ประสิทธิภาพ แตกต่างกันตรงที่การจัดการความรู้ในชุมชน

เป็นการรวบรวม องค์ความรู้ของชุมชน เพื่อเป็นคลังแห่งความ

รู้และคลังแห่งปัญญา ในการที่จะนำไปถ่ายทอดแก่ผู้คนใน และ

นอกชุมชน ด้วยองค์ความรู้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้าง

ความยั่งยืน ตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ

ต่อไป

ในฐานะที่ท่านเป็นนักพัฒนานักสังคม จงอธิบายแนวทางการ
จัดการความรู้เพื่อการพัฒนา บัณฑิตสาขาวิชาการพัฒนาสังคม
ในอนาคต ว่าควรมีรูปแบบ/แนวทางเป็นอย่างไรที่จะส่งผลให้

บัณฑิตสาขาวิชาการพัฒนาสังคม เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ

การจัดการความรู้เพื่อการพัฒนา บัณฑิตสาขาวิชาการพัฒนาสังคมควรมี 2 รูปแบบ
1) ความรู้ที่ฝังอยู่ในสมองของคน (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์
พรสวรรค์หรือสัญชาตญาณของ แต่ละบุคคล เช่น ทักษะในการทำงาน งานฝี มือ หรือ
การคิดเชิง วิเคราะห์ เป็นต้น

2) ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่สามารถ ถ่ายทอดได้โดยผ่าน
กระบวนการ วิธีการต่าง ๆ เช่น การบันทึก การจัดการเรียนการสอน ความรู้ที่อยู่ใน
ตำรา เป็นต้น

ต้องมีเป้ าหมายการจัดการความรู้จึงจะส่งผลให้เป็นบัณฑิตที่มี
คุณภาพได้ บริหารคน ต้องมีความคิดเป็น,ทำเป็น

บริหารความรู้หรือการทำงาน การทำงานต้องเกิดประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลตามมา บริหารองค์กร การร่วมมือกันทำงาน
ให้บรรลุเป้ าหมาย หากมีทั้งหมดนี้ได้ บัณฑิตจะเก่งขึ้นและ

มีประสิทธิภาพที่พร้อมจะออกไปปฏิบัติงานในชีวิตจริงได้

อ้างอิง

http://ks.rmutsv.ac.th/th/whatiskm
https://researchex.mju.ac.th/km/index.php/l
ogkm/kmman/6-kmanagement
https://mynurdeefaa1.blogspot.com/p/seci-
model.html
http://ks.rmutsv.ac.th/th/whatiskm

นางสาวกาญจนา ใหม่เทวินทร์ 6240308102


Click to View FlipBook Version