คำ�นำ�
หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-book) เลม่ น้ี เปน็ ส่วนนึงในรายวชิ าการ
สร้างส่ื อดิ จิ ทั ล (20308-2106) จั ดทำ �ขึ้ นเพื่ อศึ กษาเก่ี ยวกั บ
10 ตำ �นานสั ตว์หิ มพานต์ ท่ี ได้ มีการกล่าวถึ งน้ อยมากในปัจจุ บัน
ทางผู้ จัดทำ�จึงได้ สรุปรวบรวมข้อมูล 10 สัตว์หิมพานต์ ท่ี น่าสนใจ
และเคยเปน็ ทกี่ ลา่ วถงึ กนั มากในอดีต เพอ่ื ให้เด็กรนุ่ ใหม่ หรอื คนทสี่ นใจ
ไดม้ าศกึ ษาและเกบ็ เกย่ี วขอ้ มลู ทางผจู้ ดั ท�ำ จงึ ตงั้ ใจจดั ท�ำ หนงั สอื นข้ี นึ้ มา
ทางผจู้ ดั ท�ำ ขอขอบคณุ แหลง่ ขอ้ มลู ทางอนิ เตอรเ์ นต็ อาจารยท์ ป่ี รกึ ษา
และทางผู้ จัดทำ�ที่ ตั้ งใจทำ�งาน ทางผู้ จัดทำ�หวังว่าหนั งสื อเล่มน้ี
จะเปน็ ประโยชน์ให้ผู้ทสี่ นใจ
คณะผู้จดั ท�ำ
จารุณี จนั สม
วศั พล มีบุญญา
อังศุนิตย์ คุณากร
พิมพ์ชนก สรอ้ ยกล่อม
สารบัญ
ปา่ หินพานต์ หน้า
อรหัน
ครุฑ 1
พญานาค 3
เหรา 5
วารกี ุญชร 7
กินร ี 9
ราชสีห์ 11
กิเลน 13
นาคปักษิณ 15
นารผี ล 17
บรรณานกุ รม 19
21
23
สัตวห์ มิ พานต์ - 01
ปา่ หมิ พานต์
ปา่ หมิ พานต์ หรอื หมิ วนั ต์ เปน็ ปา่ ในวรรณคดี
และความเชื่อในเรอ่ ื งไตรภูมิตามคติศาสนาพุทธ
และฮินดู มีความเช่ือว่าป่าหิมพานต์ นั้ นตั้ งอยู่
บนเชงิ เขาพระสุเมรุ ป่าหิมพานต์มเน้ือท่ีประมาณ
3,000 โยชน์ (1 โยชน์ เท่ ากั บ 10ไมล์ หร อื
16 กิ โลเมตร)วั ดโดยรอบได้ 9,000 โยชน์
ประดับด้วยยอด 84,000 ยอดมีสระใหญ่ 7 สระ
คือ สระอโนดาต สระกัณณมุณฑะ สระรถการะ
สระฉทั ทนั ตะ สระกณุ าละ สระมณั ฑากณิ ีสระสหี ปั ปาตะ
บรรดาสระใหญ่ ทั้ ง 7 นั้ น สระอโนดาต
แวดลอ้ มไปดว้ ยภเู ขาทงั้ 5 ทจี่ ดั เปน็ ยอดเขาหมิ พานต์
ยอดเขาทุกยอดมีส่วนสูงและสัณฐาน 200 โยชน์
กว้ างและยาวได้ 50 โยชน์ ในป่ าหิ มพานต์ นี้
เต็มไปด้วยสัตวน์ านาชนิด ซงึ่ ล้วนแปลกประหลาด
ต่างจากสัตว์ที่มนุษย์ทั่วไปรูจ้ ักมีสัตว์หลายอย่าง
02 - สัตวห์ มิ พานต์
ผ ส ม กั น แ ล้ ว ตั้ ง ช่ื อ หรอื จติ รกรพรรณนาถงึ สัตว์จตุบาท (มีส่ีขา)
ขึ้นมาใหม่ สัตว์เหล่า อาศยั อยใู่ นปา่ หมิ พานต์ และจ�ำ พวกปลา
นี้เกิดจากจินตนาการ หรอื เขาไกรลาส ดังท่ี
ของจติ รกรไทยโบราณ ป ร า ก ฏ ใ น ว ร ร ณ ค ดี
ที่ได้ สรรค์ สร้างภาพ ไตรภูมิพระร่วง และ
จากเอกสารเก่าต่าง ๆ ร า ม เ กี ย ร ติ์ โ ด ย มี
บรรดาสั ตว์ ทั้ งหมด ลักษณะของสัตว์หลาย
ทอี่ ้างถึงนี้เปน็ ทรี่ ูจ้ กั ใน ชนิดมาประกอบกันใน
นามของสัตว์หิมพานต์ ตัวเดียว จำ�แนกออก
เปน็ 3 ประเภท คอื สัตว์
สัตว์หิมพานต์ คือ ทวบิ าท (มีสองขา)
สัตวใ์ นจนิ ตนาการทก่ี ว ี
สัตวห์ มิ พานต์ - 03
อรหัน
04 - สัตว์หมิ พานต์
อรหัน ยั กษ์ ลั กษณะคล้ าย สมัยชอบเปล่ียนแปลง
กั บ กิ นร ีแต่ มี ข นา ด แผลงลวดลายไปต่างๆ
อรหั นเป็ นสั ตว์ ใน เล็ กกว่ า มั กพบตาม และชอบเอาลายฝรั่ง
ป่ าหิ มพานต์ ชนิ ดหนึ่ ง ภาพจิตรกรรมฝาผนัง มาใช้ น่าจะมาแต่ รูป
มี รู ปร่ างตั วและปี ก ต่าง ๆ เช่น จิตรกรรม เทวดาเด็ก ๆ ของฝรงั่
เป็นนก มีสองตีน แต่ ฝาผนั งที่ อุ โบสถวั ด ที่เรยี กว่า CHERUB
มีศีรษะเป็นมนุษย์หรอื สุ ทั ศ น เ ท พ ว ร า ร า ม ดอกกระมงั ใครจ่ ะเดาวา่
ราชวรมหาวหิ าร หรอื ได้ชื่อมาจากโปรตุเกส
ภ า พ ล า ย ร ด นำ้ � ต า ม เรยี กเสียงคล้าย ๆ กัน
ตู้ พระธรรม เป็ นต้ น ว่ า อรหั น ต์ จึ งเลย
สมเด็ จพระเจ้ าบรม กลายมาเป็ นอรหั น”
วงศ์ เธอ กรมพระยา รูปอรหันน้ีปรากฏเป็น
ดำ � รง รา ช า นุ ภา พ มี รู ปแกะสลั กไม้ ท่ี หอ
พระราชว นิ ิ จฉั ยเร่อื ง เขี ยนของวั งสวนผั ก
อรหันนค้ี งมตี ้นเคา้ จาก กาด เข้าใจว่าสรา้ งใน
“เครูบ” จากวัฒนธรรม รชั สมัยของสมเด็จพระ
ของตะวันตก ไว้ความ นารายณ์มหาราช โดย
ว่า “รู ปมนุษย์มี ปีกที่ รูปนั้นมีศีรษะเป็นแบบ
เรยี กกันว่าตัว ‘อรหัน’ ฝรงั่ และมีรูปป้ ันอรหัน
นั้ น… เคยสั งเกตเห็ น ท่ี หน้าบันพระอุโบสถ
ชอบเขี ยนในลวดลาย วดั อินทรารามทจ่ี งั หวัด
และทำ �รู ปภาพตั วเช่น ราชบุรอี ีกแห่งหนึ่ง ซึ่ง
นนั้ มาตงั้ แต่รชั กาลที่ 2 สรา้ งในรชั สมัยสมเด็จ
ก่ อนนั้ นขึ้ นไปไม่ เห็ น พระนารายณ์ มหาราช
ทำ�คิดว่าสมัยนั้ นเป็น เชน่ กัน
สัตวห์ มิ พานต์ - 05
06 - สัตว์หมิ พานต์
ครุฑ
ครุฑเป็นสัตว์กึ่งเทพ จะมี เลเวลต่ำ �ว่ าพวก เคดิตภาพ https://th.wikipedia.org
ทม่ี ีฤทธสิ์ ูง ทอ่ี าศัยของ ท่ี เกิดแบบมหัศจรรย์
ครฑุ จรงิ ๆ อยนู่ อกเขตปา่ คื อ สั งเสชโยนิ และ ก�ำ ลงั มหาศาล แขง็ แรง
หิมพานต์ มีศักดิ์ ใกล้ อุปปาติกโยนิ บิ นได้ รวดเร็ว มี สติ
เคี ยงกั บเทพยดาใน ตามคตไิ ทยโบราณ ปั ญญาเฉี ยบแห ลม
สวรรค์ อาศั ยบรเิ วณ เชื่ อว่าครุ ฑเป็นพญา อ่อนน้อมถ่อมตน และ
ตนี เขาพระสเุ มรุ (ยอดเขา แห่ งนกทั้ งมวล และ มีสัมมาคารวะ
พระสุ เมรุ คื อดาวดึ ง เป็ นพาห นะข อง พระ- ครฑุ จะแบง่ ได้ 5 ประเภท
สวรรค์) ที่ตีนเขาถิ่นท่ี วษิ ณุ ปกติอาศัยอยู่ที่ คือ 1.ตั วเป็นคนอย่าง
อยู่ของครุฑเป็นวมิ าน วมิ านฉิมพลี มีรูปเป็น ธรรมดาทวั่ ๆ ไปแตม่ ปี กี
ชื่อสิมพลี เป็นป่าง้วิ ที่ คร่งึ คนคร่งึ นกอินทร ี 2.ตัวเปน็ คน หวั เปน็ นก
ไม่ใช่จะขึ้นรกๆ แต่ขึ้น ได้ ร ับพรให้ เป็ นอมตะ 3.ตัวเปน็ คน หัวและขา
เป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย ไมม่ อี าวธุ ใดท�ำ ลายลงได้ เป็นนก 4.ตั วเป็นนก
สวยงาม อาหารของ แม้ กระทั่ งสายฟ้ าของ หั วเป็ นคน 5.รู ปร่าง
ครฑุ กค็ อื นาค แตก่ ใ็ ชว่ า่ พระอนิ ทรก์ ไ็ ด้แต่เพยี ง เหมือนนกทงั้ ตัว
จะจบั กนิ ตามอ�ำ เภอใจได้ ทำ�ให้ขนของครุฑหลุด
เลเวลของครฑุ และนาค รว่ งลงมาเพยี งเสน้ หนงึ่
วั ดกั นด้ วยการกำ �เนิ ด เทา่ นนั้ ด้วยเหตนุ ี้ ครุฑ
คอื จบั ไดแ้ คพ่ วกทก่ี �ำ เนดิ จงึ มีชอื่ อีกอย่างหนงึ่ วา่
ต�ำ่ กวา่ คอื การเกดิ ด้วย “สุบรรณ” ซึ่งหมายถึง
ชลาพุชโยนิและอัณฑ- “ขนวเิ ศษ”
ชโยนิ (คลอดออกมา ครุฑเป็นสัตว์ตั วใหญ่
เป็นตัวหรอื เป็นไข)่ มี อานุ ภาพและพละ
สัตว์หมิ พานต์ - 07
พญานาค ลักษณะตามความเช่ือ
ในแต่ ละภู มิ ภาคจะมี
พญานาค หรอื นาค มี ความอุ ดมสมบู รณ์ ความแตกต่ างกั นไป
มี รู ปร่างลั กษณะเป็ น มวี าสนา และยงั คงเปน็ สี ทองและตาสี แดงมี
งูใหญ่ ที่มีหงอน ซึง่ จะ สั ญลั กษณ์ ของบั นได เกล็ดทลี่ ักษณะเหมือน
สื่ อถึ งความยิ่ งใหญ่ สายรุ้งสู่ จักรวาล โดย ปลามีหลากสี แตกต่าง
กั นไปตามบารมี บ้าง
สีเขียว บ้างสีดำ� และ
อาจจะมี 7 สี เหมือน
สีของรุ้งและท่ี สำ�คัญ
คื อพญานาค ท่ี เป็ น
ตระกู ลธรรมดาจะมี
ลกั ษณะ คอื มเี ศยี รเดยี ว
แต่ หากเป็นตระกู ลที่
สูงกว่าตระกูลธรรมดา
นั้ นจะมีสามเศียร ห้า
เศี ยร เจ็ดเศี ยร หรอื
เก้าเศียร พวกน้ีจะสืบ
เชอื้ สายมาจากพญาเศษ
นาคราช ผู้เป็นบัลลังก์
ของพระวษิ ณุนารายณ์
ปรมนาท ณ เกษยี รสมทุ ร
อนนั ตนาคราช และผคู้ น
มคี วามเชอ่ื วา่ พญานาค
08 - สัตว์หมิ พานต์
จะแปลงรา่ งเปน็ มนษุ ย์ มหาราชิกา นาคเป็น ได้ นาคมีสองประเภท
รูปรา่ งสวยงามได้ ศัตรูของครุฑ ถิ่นที่อยู่ ย่อย เป็นสองประเภท
ของนาคอาศยั อยบู่ รเิวณ ที่จะมากำ�หนดพลังใน
พญานาคยังเป็นเจ้า บาดาลใต้เขาหิมพานต์ การแปลงกาย ถลชะ
แห่งท้องน้ำ� บางแห่ง นาคพิภพมีความวจิ ติ ร คอื เกดิ บนบก และ ชลชะ
บอกว่ าเป็ นเจ้ าแห่ ง เปน็ วมิ าน ปราสาทเงนิ คื อเกิ ดในนำ้ � นาคที่
ฟ้าและพญานาคชนั้ สูง ปราสาททอง มี ดอก เกดิ บนบกจะแปลงกาย
เกิ ดแบบโอปปาติ กะ บัวสวยงามตระการตา ได้แต่ตอนที่อยู่บนบก
เป็ นชนชั้ นปกครอง นาคและดิ นแดนนาค ส่ วนนาคท่ี เกิ ดในนำ้ �
พญานาคน้ั นได้ อาศัย น้ี ก็ไม่ใช่กระจอก แต่ จะแปลงกายไดแ้ ตใ่ นน�้ำ
อยู่ ใ นแม่ น้ำ � หนอง เป็ นเลเวลใกล้ ๆ กั บ ซึ่งพญานาคแบ่งออก
คลอง บงึ หรอื ในอากาศ พวกเทวดา ฤทธพิ์ ิเศษ เป็น 4 ตระกูล
จนไปถึงสวรรค์ชนั้ จาตุ ของนาคคื อสามารถ
แปลงตน จำ�แลงกาย เคดิตภาพ https://dinsila.com/
สัตวห์ มิ พานต์ - 09
เหรา เหรา นั้นเป็นสัตว์ใน
หิมพานต์ ซึง่ สัตว์ค่อน
ไปทางจำ �พวกจระเข้
ผสมกับนาค หลายคน
เชอื่ วา่ มันเป็นสัตว์ท่ีอยู่
ได้ทั้งบนบกและในน้ำ�
กินเน้ือ เปน็ อาหาร
เหรา หรอื ที่ชาวล้านนา(พม่า) เรยี กว่ามกร 10 - สัตวห์ มิ พานต์
(มะ-กะ-ระ)จรงิ ๆแล้วตัวมกรนั้นปรากฏเป็นสัตว์ ข้อมูลเพ่ิมเติม
ในนิยายในความเชื่อของพม่า เขมร และอินเดีย เห รายั ง สาม ารถ
แยกย่ อยเป็ นลู กคร ่ งึ
โดยมลี กั ษณะเทยี บเคยี งกบั ตัวเหราในปา่ หมิ พานต์ ได้อีก 3 ชนิดดังน้ี
1.สุ บรรณเหรา(คร่ งึ
ของไทย ตัวมกรเองก็จัดอยู่ในตระกูลจระเข้ เช่น ครุฑครง่ ึ เหรา)ลักษณะ
ตั วเป็ นนกแบบครุ ฑ
เดี ยวกั น ที่ ชาวภาคเหนื อเรยี กเหราว่ามกรนั้ น หั วเป็ นเหรา แข้ งขา
เปน็ สงิ ห์ ขนหางเปน็ นก
เหตุ ก็ เพราะทางภาคเหนื อมี พ้ื นพ่ี ติ ดกั บพม่ าจึง 2.สกุณเหรา(คร่งึ นก
คร่งึ มังกร)ลักษณะตัว
รับอิทธิพลจากฝ่ ั งพม่ามาโดยปรยิ าย ในเร่อื งนี้ เป็นนก หัวเป็นมังกร
มีเขา หางกระหนก ขา
ไม่บอกว่า เหรา มีรูปรา่ งเป็นอย่างไร แต่พอจับ และเท้ าเหมื อนครุ ฑ
3.อัสดรเหรา(คร่งึ ม้า
ความได้ว่า เป็นสัตว์ทะเล ในพจนานุกรมอธิบาย คร่งึ เหรา)ลักษณะผิว
กายสีม่วงอ่อน บางที
ไว้ว่า เหรา เป็น “สัตว์ในนิยาย มีรูปคร่งึ นาคคร่งึ ก็ วาดเหมื อนจระเข้
บา้ งกว็ าดออกมาเหมอื น
“จระเข้” อ่านคำ�อธิบายแล้วยังไม่รู้ว่าคร่งึ ไหน มังกร
เป็นอะไร ต้องฟังเพลง โบราณจงึ จะรูป้ ระวตั ิเพลง
โบราณเล่าถึงประวตั ิ เหรา ไวว้ า่
“บดิ านั้นนาคา มารดานั้นมังกร
มีตีนทงั้ สี่ หน้ามีทงั้ ครบี ทงั้ หงอน”
เคดิตภาพ http://animalfantasysoche.
blogspot.com
สัตวห์ มิ พานต์ - 11
กุญชรวารี
กุ ญชรวาร ี แปล หางเท่านั้น ส่วนกุญชร ก็จะมีช้างน้ำ�ว่ายคลอ-
เคลยี อยู่ อยา่ งเชน่ ทว่ี ดั
ตามตั วก็ คื อ ช้ างน้ำ� วาร ีตัวเป็นปลา หัวกับ ช่องนนทรยี ์ก็มี เมื่อดู
ตามรู ป กุ ญชรวาร ี ก็
แบบเดยี วกบั สนิ ธพนที เทา้ หน้าเปน็ ชา้ ง น่ าจะเป็ นสั ตว์ สะเทิ น
คือ ม้าน้ำ� จะแปลกกัน น้ำ�สะเทิ นบก คื อไป
ก็ตรงที่ ม้าน้ำ� เป็นม้า กุญชรวาร ี เป็นภาพ ได้ทั้งบนบกและในน้ำ�
ทงั้ ตวั แลว้ มหี างเปน็ ปลา สั ตว์ หิ มพานต์ ที่ นิ ยม
เรยี กว่าเปล่ียนเฉพาะ เขียนไว้ตามผนังโบสถ์
ที่มีเรอ่ ื งเกี่ยวกับทะเล
เม่ื อจะเดิ นบนบกก็ มี แตค่ �ำ เรยี งล�ำ ดบั สลบั กนั 12 - สัตวห์ มิ พานต์
เท้ าสองหน้ าพาเดิ น เทา่ นนั้ รากศพั ทท์ งั้ 2 ที่
ไปได้ หร อื จะว่ ายน้ำ� กล่าวถึงคือคำ�วา่ “วาร”ี จะมี ก็ แต่ อวั ยวะบาง
กค็ งสะดวก เพราะมเี ทา้ มี ความหมายตามตั ว สว่ นทก่ี ลายมาจากสตั ว์
ช่วยพุ้ยน้ำ� มีหางปลา วา่ น�ำ้ โดยปกตจิ ะใชแ้ ทน ประเภทปลาเช่น ครบี
ชว่ ยโบกส่งทา้ ยอีกแรง น้ำ� ท ะ เ ล แล ะ คำ � ว่ า บนแผ่นหลัง ครบี เท้า
ประวัติของกุญชรวาร ี “กุญชร” ซงึ่ แปลวา่ ชา้ ง และครบี หาง สว่ นกญุ ชร
จะมีมาอย่างไรไม่ทราบ สัตว์ทั้ ง 2 ชนิดนี้ เป็น วารนี นั้ มชี ว่ งตวั ทอ่ นแรก
ก็ คงจะทำ �นองเดี ยว สั ตว์ ประสม ระหว่ าง เป็นช้าง ช่วงหลังเป็น
กับสัตวห์ ิมพานต์อื่น ๆ ชา้ งกบั ปลา เราสามารถ ปลากลา่ วคอื กญุ ชรวาร ี
ที่ ช่างเขี ยนคิ ดประสม แยกแยะระหว่าง วาร ี มเี ทา้ เพยี ง 2 ขา้ ง ล�ำ ตวั
กั นเอาเอง แต่ แปลก กุญชรและ กุญชรวาร ี และหางเปน็ ปลาทงั้ หมด
อยู่อย่างหนึ่งคือ น่าจะ ได้ค่อนข้างง่าย โดยที่ สัตว์ทั้ง ๒ มีถ่ิ นอาศัย
เอาคำ�ท่ีหมายถึง ปลา วารกี ุญชรนั้นมีรา่ งกาย อยใู่ นทะเล สามารถวา่ ย
มามี ส่ วนในช่ื อด้ วยจะ เกื อบทั้ ง ตั วเป็นช้าง และดำ�นำ้�ได้ดีเย่ียม
เป็น กุญชรมัจฉา หรอื
คชมัจฉา ก็น่าจะได้ใช้ เคดิตภาพ https://th.wikipedia.org
ช่ือว่า กุญชรวาร ี คงจะ
ต้องการให้เป็นช้างน้ำ�
เท่านั้ นเอง คนทั่ วไป
มกั จ�ำ วารกี ญุ ชรสลบั กบั
กุญชรวาร ี เพราะสัตว์
หิมพานต์ทั้ง 2 ชนิดนี้
มรี ากศพั ทม์ าจากค�ำ บาลี
2คำ�ทเ่ี หมือนกัน เพยี ง
สัตวห์ มิ พานต์ - 13
กนิ รี
และ
กนิ นร
กิ นร ี คื อตั วเมี ย
และ กินนร หรอื กินรา
คื อตั วผู้ เป็ นสั ตว์ ใน
ปา่ หมิ พานต์ รา่ งกายทอ่ น
บนเปน็ มนษุ ย์ ทอ่ นลา่ ง
เป็ นนก มี ปี กบินได้
ตามตำ�นานเล่าวา่
อาศยั อยใู่ นปา่ หมิ พานต์
เชงิ เขาไกรลาส นับเปน็
สัตว์ที่มีปรากฏในงาน
ศิ ล ป ะ ข อ ง ไ ท ย ม า ก
ส่วนในวรรณคดีไทยก็
มีการอ้างถึงกินรดี ้วย
เชน่ กัน กินรหี รอื กินนร
รา่ งท่อนบนเป็นมนุษย์
ทอ่ นล่างเป็นนก
14 - สัตว์หมิ พานต์
ไตรภมู พิ ดู ถงึ กนิ รแี ต่ กล่าวไว้ชัดเจน แต่ใน บรวิ ารของนางกลายเปน็
ไม่ได้อธบิ ายว่าหน้าตา เทวะประวตั ขิ องพระพธุ กินร ี โดยบอกว่าจะหา
เปน็ อยา่ งไร ถนิ่ ทอี่ ยขู่ อง กล่าวไว้ว่า เม่ือท้าวอิล ผลาหารใหก้ นิ และจะหา
กินรอี ยู่ท่ีภูเขาไกรลาส ราชประพาสป่ าแล้ ว กิ มบุ รุ ษให้ เป็ นสามี
(สะกดตามตน้ ฉบบั ) เปน็ หลงเข้ าไปในเขตหวง แสดงว่า กิมบุรุษหรอื
บรวิ ารของพระอิ ศวร ห้ ามของพระศิ วะนั้ น กิ นนร และกิ นร มี ี ต้ น
เขาไกรลาสน้ีเป็นหนึ่ง ท้าวอิลราช และบรวิ าร กำ�เนิดมาจากการเสก
ในภู เขา 5 ลู กท่ี ล้ อม ถู กสาปให้ แปลงเพศ ของพระพธุ (พระพธุ คอื
สระอโนดาตไว้ เปน็ หญงิ ทงั้ หมด ตอ่ มา ฤๅษี สามารถมีเมียได้
นางอลิ า คอื ทา้ วอลิ ราช และท้ าวอิ ลราช เม่ื อ
สระอโนดาตน่ีเรยี ก ถกู สาป และบรวิ ารทมี่ า ช่วงเดื อนที่ เป็นหญิง
ได้ ว่าดั งที่ สุดในพ้ื นที่ เล่นนำ้�อยู่ ใกล้อาศรม กน็ า่ จะลมื ชว่ งทเี่ คยเปน็
หิมพานต์ ภูเขาห้าลูก ของพระพธุ เมอื่ พระพธุ ชายจงึ ยอมเปน็ เมยี ฤๅษ)ี
ทลี่ อ้ มสระกไ็ มธ่ รรมดาคอื เหน็ นางเขา้ กช็ อบ รบั นาง
โนม้ เขา้ หากนั น�ำ้ ในสระ เป็นชายา และเสกให้ เคดิตภาพ https://th.wikipedia.org
เลยไม่ ต้ องแสงพระ-
อาทิตย์หรอื พระจนั ทร์
โดยตรงสระนี้ จึงเย็น
อยเู่สมอ โดยสระอโนดาต
น้ียังเปน็ ต้นกำ�เนิดของ
ปญั จมหานทคี ือ คงคา
ยมุนา อจริ วดี มหิและ
สรภู กินรมี ีต้นกำ�เนิด
ที่แท้จรงิ เป็นมอย่างไร
นั้ นยั งไม่ พบตำ �ราไหน
สัตว์หมิ พานต์ - 15 ราชสหี ์ ๔ จ�ำ พวก ตงั้ อยู่
ทางทิศตะวันออกของ
ราชสหี ์ พระเมรุมาศ ได้แก่
๑. ไกรสรราชสีห์
เป็นราชสีห์พื้นกายขาว
บรสิ ุทธิ์ มีลายก้นหอย
เวยี นขวา ดวงตากลมโต
ปาก ขนปลายหางและ
เล็บเป็นสีแดงครงั่ กาย
ดั่งสีสังข์ (ขาวบรสิ ุทธิ)์
มีลายทักษิณวัตร(ลาย
กน้ หอยเวยี นขวา) มพี ละ
กำ�ลังสูง กินสัตว์น้อย
ใหญ่เป็นอาหาร
๒. กาฬสีหะ เป็น
ราชสี ห์ พ้ื นกายสี ดำ �
สนทิ มรี ปู พรรณสณั ฐาน
คล้ายนางโค กินหญ้า
เป็นอาหาร
๓. ติ ณสีหะ เป็น
ราชสหี ์ รปู พรรณสณั ฐาน
คล้ายนางโค กินหญ้า
เปน็ อาหาร
- ติณ แปลว่า หญ้า
ในจิตรกรรมวัดสุทัศน์
ระบุวา่ กายสีเขยี ว
-ในวรรณกรรมรตั น- หอยสงั ข์ ระดบั ความเทพ 16 - สัตว์หมิ พานต์
โกสนิ ทร์ ระบกุ ายสหี มน่ ของสั ตว์อัศจรรย์นี้ ก็
เหมือนนกพิราบ ไม่ธรรมดาเพราะมันมี รศั มีพอได้ยินเสียงของ
ถ�ำ้ คหู าทอง เงนิ หรอื แกว้ มั นก็ จะพากั นตกใจ
-ในวทิ ยานิ พนธ์ ส่วนตัว เลอค่ายิ่งกว่า จนสลบหร อื ตกใจจน
เรอ่ ื ง คติสัตวห์ ิมพานต์ คอนโดกลางกรุ งเทพ หนีไป แม้แต่พวกช้าง
ประกอบพระเมรุ มาศ ซะอกี ถงึ เวลามนั กอ็ อก ก็ยังเกรงกลัวขนาดว่า
ระบุกายสีแดง จากคูหาขึ้ นไปคำ�ราม ถูกผูกไว้ด้วยโซ่ก็แทบ
๔. บั ณฑุ ราชสี ห์ พรอ้ มกับสะบัดขนบน จะดึงโซ่ขาดสิ่ งมีชีวติ
เปน็ ราชสหี ์ กายสเี หลอื ง แท่นหินส่วนตัวที่เรอื ง ที่ จะทนเสี ยงของสิ งห์
มีรว้ ิ ลายสีดำ�ตามลำ�ตัว เหมื อนทอง ว่ากั นว่า เทพตวั นไี้ ดม้ แี ค่ มา้ พลา
คลา้ ยกบั เสอื ใตท้ อ้ งขาว ไกรสรสหี ะนเ้ี ปน็ เจา้ แหง่ หกตระกูล และผู้มีบุญ
มี ลายเป็ นปล้ องยาว สัตวท์ งั้ ปวง พลังพิเศษ ระดับพระโพธสิ ัตวแ์ ละ
ตลอดตัว กินเนื้ อเป็น ของมั นคื อการคำ �ราม พระอรหนั ต์ รวมถงึ ไกรสร
อาหาร กายสี เหลื อง ทด่ี ังไกลไปถึง 3 โยชน์ สิงหะด้วยกันเอง
เหมื อนสี ใบไม้ เหลื อง สัตว์ทั้ งหลายที่ อยู่ ใน
เป็ นรองไกรสรราชสี ห์ เคดิตภาพ https://guy28984.wordpress
กินเน้ือราชสีห์ มีเลเวล .com
และพลงั อ�ำ นาจลดหลนั่
กันไป แต่ ไกรสรสีหะ
เป็นราชสีห์ท่ีเทพท่ีสุด
ลั กษณะเด่ นคื อมี ร มิ
ฝปี ากและปลายเทา้ เปน็
แดงชาด มีรูปลักษณ์
สง่างาม และมีแผงคอ
เ ห มื อ น ส ร้ อ ย ส่ ว น
รา่ งกายนั้นขาวเหมือน
สัตว์หมิ พานต์ - 17
กเิ ลน
ชาวไทยรจู้ กั กิเลน กระบวนแห่ พระบรม แบบไทย ๆ การจดั ลาย
ของจนี มานานมากแลว้ ศพครั้งรัชกาลท่ี 3 ก็ ประกอบผดิ ไปจากในสมดุ
ปรากฏในสมดุ ภาพสตั ว์ มีรูปกิเลนจีนทำ�หนวด ภาพสั ตว์ ป่ าหิ มพานต์
ปา่ หมิ พานตท์ ชี่ า่ งโบราณ ยาว ๆ ส่วนภาพกิเลน ของโบราณนั้นบา้ ง แต่
ได้รา่ งแบบสำ�หรบั ผูก แบบไทย มี กระหนก ท่ี แปลกอีกอย่างหนึ่ ง
หุ่นเข้า และเครอ่ ื งประดับเป็น คือ กิเลนไทยมีสองเขา
18 - สัตว์หมิ พานต์
ข้อมูลเพ่ิมเติม
ส่วนของจนี แท้ ๆ มีทั้ง วา่ มรี ปู รา่ งเหมอื นกวาง กเิ ลนเปน็ สญั ลกั ษณแ์ หง่
ท่ี ปรากฏรู ปเป็ นกิ เลน แต่ มี เ ข า เ ดี ยว ห า ง คุณงามความดี ปรากฏ
เขาเดยี ว (ซงึ่ ท�ำ ใหม้ กี าร เหมอื นววั หวั เปน็ มงั กร ให้เห็นเม่ือใด ก็จะเกิด
เปรยี บเทยี บกบั ยนู คิ อรน์ เทา้ มกี บี เหมอื นมา้ (บาง ผมู้ บี ญุ มาปกครองบา้ น
ของนยิ ายตะวนั ตก) และ ตำ�ราว่ามีตั วเป็นสุนัข เมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข
ที่ เป็นสองเขาเหมือน ลำ�ตั วเป็นแอนทิโลป เมื่อนั้น เชน่ ในยุคของ
เขากวางกม็ ี แมแ้ ตก่ เิ ลน บา้ งกว็ า่ ล�ำ ตวั เปน็ กวาง ฝู ซีเป็ นผู้ ปกครองโลก
จนี ทมี่ สี ามเขากม็ ปี รากฏ ชะมด ใบหนา้ คลา้ ยหมาปา่ กิ เลนได้ ปรากฏตั วขึ้ น
อยบู่ า้ ง ดงั ภาพถา่ ยกเิ ลน และบางตัวก็มีสองเขา ทแี่ มน่ �ำ้ ฮวงโห หลงั กเิ ลน
จนี ในพระราชวงั ตอ้ งหา้ ม หรอื สามเขา) เกดิ จากธาตุ มีลายอักขระจารกึ ซึ่ง
กรุงปักกิ่ง ก็มีสองเขา ทั้งห้า คือ ดิน, นำ้�, ไฟ ตอ่ มาไดพ้ ฒั นากลายมา
ถา้ เปน็ ตัวผเู้ รยี กวา่ “ก”ี , ไม้ และโลหะ ผสมกัน เป็นตัวอักษร กิเลนถือ
ถ้าเป็นตัวเมียเรยี กว่า เชื่อว่ามีอายุอยู่ ได้ ถึง เป็ นหนึ่ งในสี่ สั ตว์ ท่ี
“เลน” หรอื “กิเลน” พนั ปี และถอื วา่ เปน็ ยอด ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประกอบ
กิเลน ตามตำ�นานจีน แห่งสัตว์ทั้งหลาย ด้วย หงส์, เต่า, มังกร
และกิเลน (บ้างว่าเป็น
เสือ)
เคดิตภาพ https://th.wikipedia.org
สัตวห์ มิ พานต์ - 19
นาคปกั ษณิ
นาคปั กษิ ณเป็ น พญาอนนั ตนาคราช และ 20 - สัตวห์ มิ พานต์
สั ตว์ กึ่ งน้ำ �กึ่ งบก คื อ ทา้ ววริ ฬุ ปกั ษ์ วา่ ถงึ ทอี่ ยู่
เอาส่วนหัวของ “นาค” ของพวกนาค กม็ ที งั้ ทอ่ี ยู่ แตต่ ามเรอ่ ื งไทยๆ เราวา่
มาประสมกั บส่ วนตั ว บนบกและอยใู่ นน�้ำ อยา่ ง พญานาคอยใู่ นน�ำ้ กนั มาก
ของ “ปักษิณ” ซึ่งแปล พญาวาสุกร ี ที่อยู่เมือง นาคพิภพทว่ี า่ อยูใ่ ต้ดิน
ตามตั วว่ า สั ตว์ มี ปี ก บาดาลก็ไมใ่ ชใ่ นน�้ำ เปน็ นั้ นมี กล่ าวในไตรภู มิ
ก็คือนกนั่ นเอง”นาค” เมอื งทอี่ ยใู่ ต้โลกมนษุ ย์ พระร่วงว่า “แต่ แผ่ น
มคี วามหมายหลายอยา่ ง ลงไปอีกชั้นหนึ่ ง นาค ดิ นดั น เราอยู่ น้ี ลงไป
แตใ่ นทน่ี หี้ มายถงึ งใู หญ่ ทางคัมภีรพ์ ุทธศาสนา เถิงนาคพิภพอันช่ือว่า
ในนยิ าย ซงึ่ เรามกั เรยี ก มกั อยใู่ นโลกมนษุ ยเ์ รานี้ ติรจั ฉานภมู นิ นั้ โดยลกึ
กันวา่ “พญานาค” อยู่ ในโพรงบ้าง ในถ้ำ� ได้โยชน์ ๑ แลผิจะนับ
บนบกบา้ งอยูใ่ นน�้ำ บา้ ง ด้วยวาได้ ๘๐๐วาแล”
“พญานาค” ตาม อย่างพญานาคที่ชื่อว่า นาคปกั ษณิ หวั เปน็
ทัศนะของจินตกวแี ละ ภรู ทิ ตั ในมหานบิ าตชาดก นาค มีหงอน ส่วนทอ่ น
ช่ างเขี ยนเป็ นงู ใหญ่ ก็อยู่บนบก หางเป็นแบบหางหงส์
ประเภทมหี งอนและเครา เพื่อให้รบั กับส่วนหัว
ตามนิยายโบราณ มัก
จะกล่าวถึงพวกนาคมา เคดิตภาพ http://topicstock.pantip.com
เกยี่ วขอ้ งกบั มนษุ ยเ์ สมอ
เรอ่ ื งของพญานาคมีที่
มาเป็ นสองทาง คื อ
ทางลั ทธ ิพราหมณ์ กั บ
ทางพทุ ธศาสนา พญานาค
ทางลัทธพิ ราหมณ์ออก
จะถือกันว่าเป็นเทวดา
แท้ ๆ เชน่
สัตวห์ มิ พานต์ - 21
นารผี ล ต้นกำ�เนิดของนารผี ล
ตำ�นานมอี ยวู่ า่ เมอื่ ครงั้
พระเวสสนั ดรกบั พระนาง
มั ทร พี ร้อมกั บกั ณหา
และชาลีได้ถูกเนรเทศ
ออกจากนครจึ งเดิ น
ทางไปสู่ ป่าหิ มพานต์
เพ่ือบำ�เพ็ญเพียรและ
ปฏิ บั ติ ธรรมอยู่ ที่ นั้ น
ทปี่ า่ หมิ พานต์ มสี ตั วป์ า่
มากมายอั นตรายรอบ
ดา้ น ทวา่ สตั วป์ า่ ทงั้ หลาย
เมอื่ ไดร้ บั เมตตาจติ จาก
พระเวสสันดร ก็คลาย
ความดุ ร้ายลง กลาย
เปน็ มิตร
นอกจากสั ตว์ ป่ า
ทั้ งหลายแล้ ว ก็ ยั งมี
ฤๅษี นักสิทธิ์ วทิ ยาธร
คนธรรพ์ ทงั้ หลายอาศยั
อยูห่ รอื ไปมาอยูเ่ รอ่ ื ยๆ
พระนางมทั ร ีผมู้ รี ปู รา่ ง และนางมทั ร รี วม 16 ตน้ 22 - สัตว์หมิ พานต์
โสภา บางครั้งออกหา ต้นไม้วเิ ศษน้ี ออกผล
อาหาร หาผลไม้ ตาม ซงึ่ มีรูปรา่ งเหมือนสตร ี ป้ องกั นไม่ ให้ เกิ ดเหตุ
ลำ�พัง ถ้าหาก นักสิทธิ์ ผลโตเต็มท่ี จะมีทรวด รา้ ยแกน่ างมทั รใี หเ้ สอ่ื ม
วทิ ยาธร ตลอดถึง ฤๅษี ทรงปานสาวงามแรกรนุ่ เสยี ได้ แมพ้ ระเวสสนั ดร
มาพบเขา้ อาจตบะแตก แต่ผิวพรรณทรวดทรง และพระนางมทั รจี ะเสดจ็
แล้วล่วงศีลได้ องค์เอว รูปรา่ งหน้าตา ออกจากปา่ กลบั เขา้ เมอื ง
งดงามปานเทพธิ ดา ไปแล้ว ต้นนารผี ลก็ยัง
เคดิตภาพ https://th.wikipedia.org เมื่อเหล่าบรรดาดาบส คงมีอยู่ ในท่ี นั้ นตราบ
ฤๅษี นักสิทธิ์ วทิ ยาธร เทา่ ทกุ วนั น้ี
ทา้ วสักกะเทวราชได้ คนธรรพ์ ทั้งหลายเดิน
เล็งเห็นเหตุรา้ ยน้ีแล้ว ทางมาพบเขา้ จงึ พากนั ไป
พระองคจ์ งึ เนรมติ ตน้ ไม้ เดด็ เพอื่ เสพสงั วาล ท�ำ ให้
วเิ ศษไวร้ อบทศิ ณ ทไี่ กล เหล่าบรรดาดาบส ฤๅษี
กอ่ นถงึ ถนิ่ แดน อนั เปน็ นักสิทธิ์ วทิ ยาธร หมด
ทพ่ี �ำ นกั ของพระเวสสนั ดร อิ ทธิฤทธิ์ ลงเน่ื องจาก
ผลเสพสังวาลนารผี ล
ไม่ สามารถเหาะไปต่ อ
หรอื ออกมาได้ ทางเดยี ว
ที่จะออกมาจากท่ีนั้นก็
ต้องบำ�เพ็ญเพียรใหม่
จนแก่กล้าจงึ จะออกไป
ได้ การทท่ี า้ วสักกะเทว
ราชเนรมิตต้นวเิ ศษทั้ง
16 ต้นนี้เพ่ือเป็นด่าน
สัตวห์ มิ พานต์ - 23
สัตว์หมิ พานต์
2 ตัวน้ีแตกต่างกันยงั ไง
พญานาค เหรา
“พญานาค” เป็นความเช่ือในภูมิภาค “เหรา” หรอื เรยี กอกี ชอ่ื หนงึ่ วา่ “มกร”
เอเชยี ใต้และเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ แตถ่ า้ หากเรยี กตามต�ำ นานแมน่ �ำ้ โขงจะ
โดยเรยี กชอ่ื ตา่ ง ๆ กนั แตม่ ลี กั ษณะรว่ มกนั เรยี กวา่ เงอื กงู อาศัยอยูใ่ นป่าหิมพานต์
คอื เปน็ งขู นาดใหญม่ หี งอน เปน็ สญั ลกั ษณ์ เชงิ เขาพระสเุ มรุ มลี กั ษณะผสมผสานกนั
แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ระหวา่ งจระเขก้ บั พญานาค ทจ่ี ะมลี �ำ ตวั ยาว
ความมีวาสนา อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ และสว่ นหวั คลา้ ยกบั พญานาค มขี ายนื่ ออก
ของบันไดสู่จกั รวาลอีกด้วย มาจากล�ำ ตัว 4 ขาและมีปากเปน็ จระเข้
24 - สัตว์หมิ พานต์
บรรณานุกรม
วกิ ิพีเดีย. (2564). สัตวห์ ิมพานต์. [Online]
สืบค้น 17 มิถุนายน 2564, แหล่งท่ีเข้าถึง https://th.wikipedia.org/
สัตวห์ ิมพานต์และถิ่นทอ่ี ยู่. (2559). สัตวห์ ิมพานต์. [Online]
สืบค้น 17 มิถุนายน 2564, แหล่งที่เข้าถึง https://thematter.co/
social/himmapan-beast-and-where-to-find-them/12444
ฐานขอ้ มลู พระเมรมุ าศ และเครอ่ ื งประกอบพระเมรมุ าศ. สตั วห์ มิ พานต.์ [Online]
สืบค้น 17 มิถุนายน 2564, แหล่งที่เข้าถึง http://phramerumas.
finearts.go.th