การวเิ คราะหแ์ บบทดสอบ
วชิ า ประวตั ิศาสตร์
นางสาวสทุ ธดิ า เกดิ มี
ครูผูส อน
โรงเรยี นบ้านสันปาสัก
แบบทดสอบกลางภาคเรยี น
ปการศึกษา 2563
นางสาวสุทธิดา เกดิ มี
ผสู้ อน
แบบทดสอบวัดและประเมินผลสัมฤทธิ์กลางภาคเรยี น
ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓
โรงเรียนบา้ นสนั ป่าสัก สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชยี งใหม่ เขต ๔
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (รายวชิ าประวัตศิ าสตร์)
ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ (รหัสวชิ า ส ๒๒๑๐๒)
เวลาสอบ ๖๐ นาที คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน
มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ส ๔.๓ เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภาคภมู ิใจ และ
ธารงความเป็นไทย
ม.2/1 วิเคราะหพ์ ัฒนาการของอาณาจกั รอยธุ ยาและธนบุรีในด้านต่างๆ
ม.2/2 วิเคราะห์ปัจจัยที่สง่ ผลตอ่ ความมั่นคงและความเจรญิ รงุ่ เรอื งของอาณาจกั รอยธุ ยา
ม.2/3 ระบุภูมปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาและธนบรุ ี และอทิ ธพิ ลของภูมปิ ญั ญาดงั กล่าวตอ่ การ
พฒั นาชาตไิ ทยในยุคตอ่ มา
คาชแ้ี จง
๑. ขอ้ สอบมีทัง้ หมด ๒ ตอน
ตอนท่ี ๑ แบบทดสอบแบบปรนยั มี ๔ ตวั เลอื ก และมีคาตอบ ๑ คาตอบ จานวน ๓๐ ข้อ
(ขอ้ ที่ ๑-๓๐) ใหน้ กั เรียนทาลงในกระดาษคาตอบที่กรรมการคมุ สอบแจกให้
ตอนท่ี ๒ แบบทดสอบแบบอัตนัย เร่ืองปัจจัยท่ีเอื้อต่อความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักร
อยุธยา
๒. ให้นักเรียนทาข้อสอบทุกข้อลงในกระดาษคาตอบที่กาหนดให้ และห้ามขีดเขียนข้อความใดๆลงใน
แบบทดสอบ
๓. ไม่อนุญาตใหน้ าเอกสารใดๆเขา้ หอ้ งสอบ
(นางสาวสุทธิดา เกดิ ม)ี
ครูผสู้ อน
แบบทดสอบวัดและประเมนิ ผลกลางภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ ๑
แบบทดสอบวัดและประเมนิ ผลกลางภาคเรยี น
ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒
วชิ า ประวตั ศิ าสตร์ รหสั ส ๒๒๑๐๒
คะแนนเตม็ ๑๕ คะแนน เวลา ๖๐ นาที
ตอนท่ี ๑ ข้อสอบแบบปรนัย จานวน ๓๐ ขอ้ (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)
คาช้แี จง ให้นักเรยี นเลอื กคาตอบทีถ่ ูกตอ้ งทส่ี ุดเพยี งคาตอบเดยี ว แลว้ ทาเคร่ืองหมาย X ลงใน
กระดาษคาตอบ
๑. สมยั อยุธยาใชร้ ะบบใดในการจดั ระเบยี บชนช้ันในสงั คม
ก. ระบบขนุ นาง ข. ระบบมูลนาย
ค. ระบบศกั ดนิ า ง. ระบบชนชน้ั ปกครอง
๒. ในสงั คมอยุธยาคนกลุม่ ใดมจี านวนมากท่สี ดุ
ก. ไพร่ ข. ทาส
ค. ขนุ นาง ง. พระสงฆ์
๓. บคุ คลใดไม่มีการกาหนดศักดินาไว้
ก. ไพร่ ข. ทาส
ค. พระสงฆ์ ง. พระมหากษตั รยิ
๔. ไพรป่ ระเภทใดขึน้ ทะเบยี นสงั กัดพระมหากษตั ริย์โดยตรง
ก. ไพร่สม ข. ไพรส่ ่วย
ค. ไพร่ทาส ง. ไพรห่ ลวง
๕. ขอ้ ใดเป็นพระราชกรณยี กจิ ทส่ี าคญั ของพระมหากษัตรยิ ์แห่งกรงุ ศรอี ยธุ ยาในการทานุบารุง
พระพุทธศาสนา
ก. สร้างวัด ข. เสดจ็ ออกผนวช
ค. สังคายนาพระไตรปฎิ ก ง. สง่ สมณทตู ไปเผยแผศ่ าสนา
๖. ในสมยั อยธุ ยามกี ารเกบ็ ฤชา อากร ส่วย จากบุคคลกลุ่มใด
ก. ราษฎร ข. ชาวจีน
ค. ขนุ นาง ง. ชาวต่างชาติ
๗. กรมท่าซ้ายในสมยั อยธุ ยามีหน้าทีเ่ กี่ยวกับอะไร
ก. การค้าภายใน ข. การคา้ กับชาตยิ โุ รป
ค. การค้ากบั ดินแดนทางตะวันตก ง. การค้ากบั ดินแดนทางตะวันออก
๘. ในสมยั อยธุ ยาสินค้าประเภทใดต้องซอ้ื ขายผา่ นพระคลงั สนิ คา้
ก. ผา้ แพร ข. พรกิ ไทย
ค. กามะถัน ง. เคร่ืองปั้นดินเผา
แบบทดสอบวัดและประเมนิ ผลกลางภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รายวิชา ประวัติศาสตร์ ๒
๙. อากรประเภทใดเกบ็ จากผู้ปลกู อ้อย ขา้ วโพด
ก. อากรนา ข. อากรสวน
ค. อากรศุลกากร ง. อากรสมพตั สร
๑๐.การสร้างและดแู ลปอ้ ม คา่ ย จัดเปน็ ค่าใชจ้ ่ายประเภทใด
ก. เบีย้ หวัด ข. การทหาร
ค. พระราชพิธี ง. ราชการพเิ ศษ
๑๑.ความสมั พนั ธ์กับตา่ งประเทศโดยเฉพาะชาติตะวนั ตกมคี วามเจรญิ สงู สุดในสมัยใด
ก. สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั บรมโกศ ข. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ค. สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช ง. สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
๑๒.หน่วยงานสาคญั ทีท่ าหนา้ ที่ในการติดตอ่ ค้าขายกับต่างชาติ คอื หนว่ ยงานใด
ก. พระคลังมหาสมบัติ ข. กองสาเภาหลวง
ค. พระคลงั สินคา้ ง. กรมพาณชิ ย์
๑๓.กรงุ ศรีอยธุ ยาใชก้ ารคา้ รูปแบบใดในการตดิ ต่อคา้ ขายกับประเทศจีน
ก. การค้าแบบแลกเปลีย่ นสนิ ค้าระหวา่ งกนั ข. การค้าแบบใช้ทองคาเปน็ ส่ือกลาง
ค. การคา้ แบบตา่ งตอบแทน ง. การคา้ แบบบรรณาการ
๑๔.ข้อใดไมถ่ ือเปน็ ปัจจยั ทางภมู ศิ าสตร์ทีส่ าคญั ซ่ึงมผี ลตอ่ พฒั นาการของอาณาจกั รอยธุ ยา
ก. พระมหากษัตริย์ทรงส่งเสริมให้ราษฎรประกอบอาชีพไดอ้ ยา่ งเสรี
ข. เปน็ เมอื งท่ีสาคัญทางการคา้ กับต่างประเทศ
ค. มีทาเลท่ีตงั้ เหมาะสมแก่การเพาะปลูก
ง. ตง้ั อยใู่ นชัยภูมิทีด่ ี
๑๕.ความสัมพันธข์ องอยุธยากบั ประเทศใดมลี กั ษณะของการผกู มติ ร และเชอื่ มสมั พันธไมตรี
ก. พมา่ ข. ญวน
ค. ล้านนา ง. ลา้ นชา้ ง
๑๖.ข้อใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งเกีย่ วกับวัฒนธรรมในสมยั อยุธยา
ก. ชาวอยุธยานยิ มความสนกุ สนานจงึ มกั สรา้ งสรรค์ประเพณีทีร่ นื่ เริง
ข. วฒั นธรรมจากตา่ งชาตไิ ม่ไดร้ ับการยอมรับจากคนในกรงุ ศรีอยธุ ยา
ค. วฒั นธรรมสว่ นใหญใ่ นสมยั อยธุ ยามักเกีย่ วขอ้ งกบั ชนชั้นสงู เป็นหลัก
ง. อาชพี หลกั ในสมยั อยธุ ยาคือเกษตรกรรม ประเพณสี ่วนใหญจ่ งึ เกย่ี วขอ้ งกับการเกษตร
๑๗.ศิลปกรรมของไทยสมัยอยธุ ยาทีต่ กทอดมาจนถึงปจั จุบนั ไดแ้ ก่อะไร
ก. เครอื่ งถ้วยชามเบญจรงค์ ข. เคร่อื งถว้ ยชามสงั คโลก
ค. ภาพวาดสีนา้ มนั ง. การทอผ้าไหม
๑๘.ขอ้ ใดคือชนช้ันพเิ ศษทไี่ ดร้ บั ความเคารพจากทุกชนชนั้ ในสมยั อยุธยา
ก. พระบรมวงศานวุ งศ์ ข. พระมหากษตั รยิ ์
ค. พระสงฆ์ ง. ขนุ นาง
แบบทดสอบวดั และประเมนิ ผลกลางภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รายวิชา ประวตั ิศาสตร์ ๓
๑๙.สาเหตสุ าคัญที่ทาใหส้ มเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถทรงแบ่งแยกหน้าทีร่ ะหว่างฝา่ ยทหารกบั ฝ่ายพลเรอื น
ออกจากกนั คอื ขอ้ ใด
ก. เพ่ือให้ราษฎรจดจาหนา้ ทีข่ องท้งั สองฝา่ ยไดง้ ่ายและถกู ต้อง
ข. เพ่ือปอ้ งกนั ไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหน่งึ มอี านาจมากจนเกินไป
ค. เพอื่ ปอ้ งกันเหตกุ ระทบกระทัง่ กนั ระหว่างสองฝ่าย
ง. เพื่อใหห้ นา้ ทข่ี องทัง้ สองฝ่ายชัดเจนขน้ึ
๒๐.กรุงศรีอยธุ ยาทาสงครามครัง้ แรกกบั พม่าในกรณีที่สบื เนอ่ื งมาจากเมืองใด
ก. ลา้ นชา้ ง ข. มลายู
ค. มอญ ง. ญวน
๒๑.“โกษาธบิ ดี” ถือเปน็ ส่ิงใดทก่ี าหนดไว้ในพระราชกาหนดศักดนิ า
ก. ราชทนิ นาม ข. บรรดาศกั ดิ์
ค. ตาแหน่ง ง. ยศ
๒๒.อาณาจักรอยธุ ยาเกดิ จากการรวมตัวกนั ระหว่างแควน้ สาคญั 2 แคว้น ไดแ้ ก่แควน้ ใด
ก. แควน้ สุพรรณภูมิ กบั แคว้นสุโขทัย ข. แควน้ สุพรรณภูมิ กับแคว้นไทรบรุ ี
ค. แคว้นละโว้ กบั แควน้ สพุ รรณภมู ิ ง. แควน้ ละโว้ กบั แคว้นไทรบุรี
๒๓.ปจั จยั ทีม่ ีอทิ ธพิ ลต่อการสรา้ งสรรค์ภมู ิปญั ญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยธุ ยามีหลายประการ ยกเว้นขอ้
ใด
ก. การมีรายได้จากการเก็บภาษีบางประเภท
ข. ลักษณะทางภมู ิศาสตรแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
ค. ลกั ษณะทางสงั คมและวฒั นธรรม
ง. การติดตอ่ กับชาวตา่ งชาติ
๒๔.หัวเมอื งระดบั ใดในการปกครองสว่ นภมู ิภาคที่เจ้าเมอื งมีอานาจปกครองตนเอง แต่จะต้องส่งเครอ่ื งราช
บรรณาการมาถวายพระมหากษตั รยิ ต์ ามเวลาท่ีกาหนด
ก. หัวเมืองประเทศราช
ข. หวั เมืองชัน้ นอก
ค. หัวเมอื งช้นั ใน
ง. เมืองลกู หลวง
๒๕.ขอ้ ใดเป็นความสัมพันธ์ทเ่ี หน็ ไดช้ ดั เจนทส่ี ดุ ระหวา่ งกรุงศรอี ยุธยากบั เขมร
ก. ความสัมพันธท์ างการปกครอง
ข. ความสัมพันธ์ทางวฒั นธรรม
ค. ความสมั พนั ธ์ทางการเมือง
ง. ความสมั พันธ์ทางเศรษฐกจิ
๒๖.จดุ ม่งุ หมายหลกั ในการปฏริ ปู การปกครองในสมยั อยธุ ยาตอนปลายคอื อะไร
ก. ปอ้ งกันการแยง่ ชงิ อานาจ ข. สร้างความเขม้ แขง็ ในอาณาจกั ร
ค. ลดอานาจของขุนนางและเชอื้ พระวงศ์ ง. ให้อสิ ระในการปกครองตนเองของราษฎร
๒๗.สมัยอยธุ ยามีนโยบายการคา้ กบั ชาติตะวนั ตกทเี่ ข้ามาตดิ ต่อค้าขายอย่างไร
ก. ยอมสวามภิ กั ดโิ์ ดยดี ข. เรียกรอ้ งผลประโยชนต์ ่างๆ
ค. จากดั สทิ ธิเสรีภาพทางศาสนา ง. เปน็ มติ รและค้าขายกบั ทกุ ชาติ
แบบทดสอบวัดและประเมินผลกลางภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รายวชิ า ประวัติศาสตร์ ๔
๒๘.รายไดส้ งู สุดจากการคา้ กับตา่ งประเทศของอาณาจกั รอยุธยาได้แกก่ ารคา้ กับประเทศอะไร
ก. จนี ข. อาหรบั
ค. องั กฤษ ง. ฮอลันดา
๒๙.ขอ้ ใดกล่าวถึงหนา้ ท่ขี องจตสุ ดมภไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง
ก. กรมเวียง พิจารณาคดตี า่ งๆ ข. กรมวัง รบั ผดิ ชอบทางดา้ นการศึกษา
ค. กรมคลัง ดูแลผลประโยชนข์ องแผ่นดิน ง. กรมนา ส่งเสรมิ การเกษตรของขุนนาง
๓๐.ศนู ย์กลางความเจรญิ ของอาณาจักรสพุ รรณภูมิ สนั นษิ ฐานว่าน่าจะอย่บู รเิ วณใดในปัจจบุ ัน
ก. อาเภอวเิ ศษชยั ชาญ จังหวดั อ่างทอง ข. อาเภอไชโย จังหวัดอา่ งทอง
ค. อาเภอสองพน่ี อ้ ง จังหวดั สพุ รรณบรุ ี ง. อาเภออู่ทอง จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี
ตอนที่ ๒ ขอ้ สอบแบบอัตนยั (๕ คะแนน)
คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนอธิบาย “ปัจจยั ที่เอ้ือต่อความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจกั รอยธุ ยา” ตามความเขา้ ใจของนกั เรียน
๑. ลกั ษณะทางกายภาพ
๒. ทาเลที่ต้งั
๓. การรับอารยธรรมเดิม
๔. พระปรีชาสามารถของพระมหากษตั ริย์
๕. การครองราชของราชวงศ์อยุธยามีพระมหากษตั ริย์ 33 พระองค์ ใน 5 ราชวงศ์ แต่ละราชวงศ์มี
อะไรบา้ งและทรงครองราชกี่ปี
แบบทดสอบปลายภาคเรยี น
ปการศึกษา 2563
นางสาวสุทธิดา เกดิ มี
ผู้สอน
แบบทดสอบวดั และประเมินผลสัมฤทธ์ิปลายภาคเรียน
ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓
โรงเรียนบา้ นสนั ปา่ สกั สานกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๔
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (รายวิชาประวตั ศิ าสตร์)
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ (รหสั วชิ า ส ๒๒๑๐4)
เวลาสอบ ๖๐ นาที คะแนนเต็ม 30 คะแนน
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ส ๔.๓ เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภาคภมู ใิ จ และ
ธารงความเปน็ ไทย
ม.2/1 วิเคราะห์พฒั นาการของอาณาจักรอยธุ ยาและธนบรุ ใี นด้านตา่ งๆ
ม.2/2 วเิ คราะห์ปัจจยั ที่สง่ ผลต่อความมัน่ คงและความเจรญิ รงุ่ เรอื งของอาณาจักรอยธุ ยา
ม.2/3 ระบภุ ูมิปญั ญาและวฒั นธรรมไทยสมยั อยธุ ยาและธนบรุ ี และอทิ ธพิ ลของภูมปิ ญั ญาดังกลา่ วตอ่ การ
พัฒนาชาตไิ ทยในยคุ ตอ่ มา
คาชแ้ี จง
๑. ขอ้ สอบมที งั้ หมด ๒ ตอน
ตอนที่ ๑ แบบทดสอบแบบปรนัย มี ๔ ตวั เลอื ก และมีคาตอบ ๑ คาตอบ จานวน 5๐ ข้อ
(ข้อท่ี ๑-5๐) ให้นักเรียนทาลงในกระดาษคาตอบท่ีกรรมการคุมสอบแจกให้
ตอนที่ ๒ แบบทดสอบแบบอตั นัย เร่ือง ความสาคญั ของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์
๒. ให้นักเรียนทาข้อสอบทุกข้อลงในกระดาษคาตอบท่ีกาหนดให้ และห้ามขีดเขียนข้อความใดๆลงใน
แบบทดสอบ
๓. ไม่อนญุ าตให้นาเอกสารใดๆเขา้ ห้องสอบ
(นางสาวสุทธิดา เกดิ ม)ี
ครผู สู้ อน
แบบทดสอบวัดและประเมนิ ผลปลายภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ รายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ ๑
แบบทดสอบวดั และประเมินผลปลายภาคเรียน
ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒
วชิ า ประวัตศิ าสตร์ รหสั ส ๒๒๑๐4
คะแนนเตม็ 30 คะแนน เวลา ๖๐ นาที
ตอนที่ ๑ ข้อสอบแบบปรนยั จานวน 5๐ ข้อ (คะแนนเต็ม 25 คะแนน)
คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบที่ถกู ต้องท่สี ดุ เพยี งคาตอบเดียว แลว้ ทาเคร่ืองหมาย X ลงใน
กระดาษคาตอบ
๑. ขอ้ ใดเปน็ ขั้นตอนแรกของวิธกี ารทางประวัติศาสตร์
ก. การรวบรวมหลกั ฐาน ข. การกาหนดหัวเร่ืองท่จี ะศึกษา
ค. การประเมินคุณค่าของหลักฐาน ง. การเรยี บเรียงหรอื การนาเสนอ
๒. เพราะเหตุใด จงึ ต้องมีการประเมนิ คุณค่าหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์
ก. หลักฐานอาจเก่าหรือใหม่ ข. หลกั ฐานอาจจริงหรือเทจ็
ค. หลักฐานอาจมหี รอื ไม่มี ง. หลักฐานอาจมากหรือนอ้ ย
๓. ถ้ามีนกั ทอ่ งเทยี่ วชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทย แลว้ เขียนหนังสือบรรยายว่าประเทศไทยล้า
หลงั ด้อยพฒั นา เพราะยงั มีการกนิ อาหารด้วยมือหรอื ไม่สวมเส้ือผ้า นกั เรียนคิดวา่
ข้อความน้จี ะใชเ้ ปน็ หลักฐานทางประวัติศาสตรใ์ นอนาคตได้หรือไม่
ก. ไมไ่ ด้ เพราะเป็นหลักฐานเท็จ ข. ไมไ่ ด้ เพราะผูเ้ ขยี นไมใ่ ช่คนไทย
ค. ได้ เพราะเปน็ หลกั ฐานชั้นต้น ง. ได้ แต่ต้องมกี ารตีความหลักฐาน
๔. บันทึกเหตกุ ารณ์ของ วนั วลติ ชาวตา่ งชาตทิ เ่ี ดินทาง เข้ามาในสมัยอยธุ ยา เปน็ หลกั ฐานประเภทใด
ก. หลกั ฐานชัน้ ต้น-เป็นลายลกั ษณ์อักษร ข. หลักฐานช้ันรอง-เปน็ ลายลักษณ์อกั ษร
ค. หลกั ฐานชน้ั ต้น-ไม่เปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร ง. หลกั ฐานชน้ั รอง-ไม่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร
๕. หลกั ฐานท่ีเดน่ มากในเร่ืองของรายละเอียดและความถูกต้องของเวลา คือหลกั ฐานใด
ก. จารกึ ข. ตานาน
ค. จดหมายเหตุ ง. พงศาวดาร
๖. เร่ืองราวทปี่ รากฏในพงศาวดารจะเปน็ เรื่องราวเกยี่ วกบั อะไรเป็นส่วนใหญ่
ก. สงครามกบั เพื่อนบ้าน ข. ความเปน็ อยขู่ องไพร่ฟ้า
ค. การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ง. พระราชกรณียกจิ ของกษตั ริย์
๗. เร่อื งราวของมะกะโทที่เข้ามารบั ราชการในสมยั พระรว่ ง จัดเป็นหลักฐานประเภทใด
ก. พงศาวดาร ข. บันทกึ ชาวตา่ งชาติ
ค. หลักฐานโบราณคดี ง. ตานานหรือนทิ านพื้นบา้ น
๘. ลกั ษณะนสิ ัยใด ทม่ี ีความจาเป็นนอ้ ยสาหรับนกั ประวัติศาสตร์
ก. ชอบสังเกต ข. ชอบค้นหา
ค. ชอบจดบันทึก ง. ชอบวาดภาพ
แบบทดสอบวดั และประเมนิ ผลปลายภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ๒
๙. เรือ่ งราวในประวตั ิศาสตร์ทเ่ี กิดขนึ้ มาแลว้ จะมีความน่าเช่ือถือหากเป็นกรณีใด
ก. ผู้เขยี นเป็นราชนกิ ูล ข. มีหลกั ฐานอ้างอิงสนับสนุน
ค. มีการเรียบเรียงอยา่ งสละสลวย ง. ผูเ้ ขยี นเป็นบคุ คลที่มีความรู้ ความสามารถ
๑๐.บดิ าแห่งประวัติศาสตรช์ าติไทย คือใคร
ก. ศาสตราจารย์ขจร สุขพานิช
ข. สมเด็จฯ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ
ค. พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว
ง. พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ กรมหมื่นนราธปิ พงศ์ประพนั ธ์
๑๑.ความสัมพันธก์ ับต่างประเทศโดยเฉพาะชาตติ ะวนั ตกมีความเจริญสูงสดุ ในสมัยใด
ก. สมเด็จพระเจา้ อยู่หวั บรมโกศ ข. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ค. สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช ง. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
๑๒.หน่วยงานสาคญั ท่ีทาหน้าทใี่ นการติดต่อคา้ ขายกบั ตา่ งชาติ คอื หน่วยงานใด
ก. พระคลังมหาสมบตั ิ ข. กองสาเภาหลวง
ค. พระคลังสินคา้ ง. กรมพาณชิ ย์
๑๓.กรุงศรีอยุธยาใช้การคา้ รปู แบบใดในการติดต่อค้าขายกับประเทศจนี
ก. การค้าแบบแลกเปล่ยี นสนิ คา้ ระหวา่ งกัน ข. การคา้ แบบใชท้ องคาเปน็ สื่อกลาง
ค. การคา้ แบบต่างตอบแทน ง. การค้าแบบบรรณาการ
๑๔.ข้อใดไม่ถือเป็นปจั จยั ทางภมู ศิ าสตรท์ ส่ี าคัญ ซ่ึงมีผลต่อพฒั นาการของอาณาจักรอยุธยา
ก. พระมหากษตั รยิ ์ทรงส่งเสริมให้ราษฎรประกอบอาชีพได้อย่างเสรี
ข. เปน็ เมืองทส่ี าคัญทางการค้ากบั ตา่ งประเทศ
ค. มที าเลท่ตี ัง้ เหมาะสมแก่การเพาะปลูก
ง. ต้ังอยูใ่ นชัยภมู ิทีด่ ี
๑๕.ความสมั พนั ธข์ องอยธุ ยากบั ประเทศใดมีลกั ษณะของการผกู มติ ร และเช่ือมสัมพนั ธไมตรี
ก. พม่า ข. ญวน
ค. ล้านนา ง. ล้านชา้ ง
๑๖.ข้อใดกล่าวได้ถกู ต้องเกย่ี วกบั วัฒนธรรมในสมยั อยธุ ยา
ก. ชาวอยธุ ยานยิ มความสนุกสนานจงึ มักสร้างสรรค์ประเพณีที่รน่ื เริง
ข. วัฒนธรรมจากตา่ งชาติไม่ไดร้ บั การยอมรบั จากคนในกรงุ ศรอี ยุธยา
ค. วฒั นธรรมส่วนใหญใ่ นสมยั อยุธยามกั เกยี่ วขอ้ งกบั ชนช้นั สงู เปน็ หลัก
ง. อาชีพหลกั ในสมยั อยธุ ยาคือเกษตรกรรม ประเพณีส่วนใหญ่จงึ เกย่ี วข้องกับการเกษตร
๑๗.ศิลปกรรมของไทยสมยั อยุธยาทต่ี กทอดมาจนถงึ ปัจจบุ ันได้แก่อะไร
ก. เคร่อื งถว้ ยชามเบญจรงค์ ข. เครอ่ื งถ้วยชามสงั คโลก
ค. ภาพวาดสนี ้ามัน ง. การทอผ้าไหม
๑๘.ขอ้ ใดคือชนช้นั พิเศษที่ไดร้ บั ความเคารพจากทุกชนชั้นในสมยั อยุธยา
ก. พระบรมวงศานุวงศ์ ข. พระมหากษัตริย์
ค. พระสงฆ์ ง. ขนุ นาง
แบบทดสอบวดั และประเมนิ ผลปลายภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ๓
๑๙.สาเหตุสาคัญที่ทาให้สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถทรงแบง่ แยกหน้าที่ระหวา่ งฝ่ายทหารกับฝา่ ยพลเรือน
ออกจากกนั คอื ข้อใด
ก. เพอื่ ใหร้ าษฎรจดจาหนา้ ที่ของท้งั สองฝ่ายไดง้ ่ายและถูกต้อง
ข. เพอื่ ป้องกนั ไม่ให้ฝา่ ยใดฝา่ ยหนงึ่ มีอานาจมากจนเกินไป
ค. เพอื่ ป้องกนั เหตกุ ระทบกระท่ังกนั ระหวา่ งสองฝ่าย
ง. เพอ่ื ใหห้ น้าที่ของทัง้ สองฝ่ายชดั เจนขน้ึ
๒๐.กรุงศรีอยธุ ยาทาสงครามครั้งแรกกับพม่าในกรณีทสี่ บื เนือ่ งมาจากเมืองใด
ก. ลา้ นช้าง ข. มลายู
ค. มอญ ง. ญวน
๒๑.“โกษาธบิ ดี” ถือเปน็ ส่ิงใดท่กี าหนดไว้ในพระราชกาหนดศกั ดินา
ก. ราชทินนาม ข. บรรดาศักด์ิ
ค. ตาแหน่ง ง. ยศ
๒๒.อาณาจักรอยธุ ยาเกิดจากการรวมตวั กนั ระหว่างแควน้ สาคัญ 2 แควน้ ได้แก่แคว้นใด
ก. แควน้ สพุ รรณภูมิ กับแคว้นสโุ ขทยั ข. แควน้ สพุ รรณภูมิ กับแคว้นไทรบุรี
ค. แควน้ ละโว้ กับแควน้ สพุ รรณภมู ิ ง. แควน้ ละโว้ กบั แคว้นไทรบุรี
๒๓.ปัจจยั ท่ีมอี ิทธิพลตอ่ การสรา้ งสรรคภ์ ูมิปญั ญาและวฒั นธรรมไทยสมยั อยธุ ยามีหลายประการยกเว้นข้อใด
ก. การมีรายได้จากการเกบ็ ภาษบี างประเภท ข. ลกั ษณะทางภมู ิศาสตรแ์ ละสิง่ แวดล้อม
ค. ลกั ษณะทางสงั คมและวัฒนธรรม ง. การติดต่อกบั ชาวตา่ งชาติ
๒๔.หัวเมอื งระดับใดในการปกครองส่วนภูมภิ าคทเ่ี จ้าเมืองมอี านาจปกครองตนเอง แตจ่ ะตอ้ งส่งเครื่องราช
บรรณาการมาถวายพระมหากษัตรยิ ต์ ามเวลาท่ีกาหนด
ก. หัวเมอื งประเทศราช ข. หวั เมืองช้นั นอก
ค. หัวเมอื งช้ันใน ง. เมอื งลูกหลวง
๒๕.ขอ้ ใดเปน็ ความสัมพนั ธท์ เี่ หน็ ไดช้ ดั เจนที่สดุ ระหว่างกรุงศรอี ยธุ ยากับเขมร
ก. ความสัมพันธ์ทางการปกครอง ข. ความสัมพนั ธท์ างวัฒนธรรม
ค. ความสัมพันธ์ทางการเมือง ง. ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกจิ
๒๖.ประเทศใด ท่ีได้รบั อิทธพิ ลทางวัฒนธรรมจากอนิ เดียน้อยที่สดุ
ก. พม่า ข. ไทย
ค. ญ่ีปุ่น ง. อนิ โดนีเซีย
๒๗.วรรณกรรมสาคัญของอนิ เดยี เรื่องใด ท่ีกล่าวถงึ ปรชั ญา ศาสนา และจรยิ ธรรมในการดาเนินชีวิตแบบ
อินเดยี
ก. อณุ รทุ ข. ภควทั คตี า
ค. มหากาพย์ภารตะ ง. มหากาพยร์ ามายณะ
๒๘.ลัทธหิ รอื ศาสนาใด ท่ีไม่ไดถ้ ือกาเนดิ ขนึ้ ในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ตกเฉยี งใต้
ก. ศาสนาสกิ ข์ ข. ศาสนาคริสต์
ค. ศาสนายดู าย ง. ศาสนาอิสลาม
๒๙.ชนกลมุ่ ใด ทีเ่ ข้ามาสรา้ งสรรค์อารยธรรมในดินแดนเมโสโปเตเมยี เปน็ กลุ่มแรก
ก. ซเู มเรียน ข. อัสซเี รียน
ค. เปอร์เซียน ง. บาลโิ ลเนยี น
แบบทดสอบวดั และประเมนิ ผลปลายภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ ๔
๓๐.กาแพงเมืองจนี นอกจากเป็นสัญลักษณข์ องอารยธรรมจีนแลว้ ยังให้ความรู้เรือ่ งใดอีกด้วย
ก. ความแม่นยาในการคาดการณ์อนาคต ข. ความเลอื่ มใสศรัทธาในศาสนาพุทธ
ค. ความยงิ่ ใหญ่ของจนี สมยั จักรวรรดิ ง. ความเปน็ อยขู่ องคนจนี โบราณ
๓๑.ลักษณะภูมิประเทศแห้งแล้งแบบทะเลทราย ส่งผลใหเ้ กดิ ลกั ษณะของอารยธรรมอิสลาม ยกเวน้ ข้อใด
ก. รกั อิสระ อยู่กนั เป็นครอบครวั ใหญ่ มคี วามสมั พนั ธ์ทางสายเลอื ดในกลุม่ ของตน
ข. ชาวอาหรับมีบทบาทสาคญั ในการสร้างอารยธรรมอิสลาม
ค. นบั ถือพระเจ้าหลายองค์ และนยิ มการบชู ายญั
ง. สรา้ งอารยธรรมดว้ ยสงคราม
๓๒.ขอ้ ใดเก่ยี วข้องกบั เมอื งฮารัปปาในอารยธรรมในเอเชยี ใต้
ก. เป็นแหลง่ กาเนดิ อักษรมคธ (ภาษาบาล)ี ข. เปน็ แหลง่ โบราณคดีในรฐั ปัญจาบ
ค. ปัจจบุ นั อยใู่ นประเทศบังคลาเทศ ง. ต้ังอยูบ่ นเทือกเขาหิมาลยั
๓๓.จดุ มุ่งหมายในการสร้างเข็มทิศของจีนในระยะแรก คืออะไร
ก. บชู าสวรรค์ ข. หาทิศในการสรา้ งบ้าน
ค. ใช้ประโยชน์ในการเดินเรือ ง. หาร่องรอยท่ีหลบซ่อนของศตั รู
๓๔.สุสานกองทัพทหารดนิ เผา เปน็ ผลงานชนิ้ สาคญั ในสมัยกษัตรยิ พ์ ระองค์ใดของจนี
ก. กุบไลข่าน ข. ฉินส่อื หวงตี้
ค. เฉยี งหลงฮ่องเต้ ง. หงวนสโี จว๊ ฮอ่ งเต้
๓๕.ข้อใดกลา่ วถงึ “กฎหมายฮัมมูราบี” ไดถ้ ูกต้อง
ก. เปน็ กฎหมายท่มี บี ทลงโทษที่เรียกวา่ ตาต่อตา ฟนั ต่อฟัน
ข. สะท้อนชวี ิตความเปน็ อย่ขู องผ้คู นในสมัยนั้น
ค. เป็นกฎหมายท่ีเป็นเทวโองการของพระเจา้
ง. มีการพสิ จู น์ความผิดโดยการสาบาน
๓๖.เพราะเหตุใด วัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชยี ใต้จึงแพรห่ ลายไปยังประเทศต่างๆ
ก. ชาติต่างๆ มคี วามเห็นวา่ วฒั นธรรมอินเดยี มีความเจริญกว่าของตน
ข. อนิ เดียใช้ศาสนาเปน็ ทางผ่านของการถา่ ยทอดอารยธรรม
ค. อินเดยี ให้การสนับสนนุ ชว่ ยเหลือประเทศต่างๆ
ง. อนิ เดยี ส่งกองทัพไปรุกรานและบีบบงั คบั
๓๗.ความเจริญในสมัยราชวงศ์ฮนั่ ทีโ่ ดดเด่นท่ีสุด คือข้อใด
ก. การเดินทางไปสบื ศาสนาทอ่ี ินเดียของพระสงฆ์จีน
ข. การคา้ กับต่างประเทศบนเสน้ ทางสายแพรไหม
ค. ศิลปะการทาเครื่องเคลือบเขียวไขก่ า
ง. ความร้ทู างการแพทยฝ์ ังเข็ม
๓๘.ภาพจติ รกรรมฝาผนงั ตามวัดตา่ งๆ ในประเทศไทย แสดงใหเ้ ห็นว่าประเทศไทยไดร้ บั อิทธิพลจากอนิ เดยี
ในเร่อื งใด
ก. การค้า และประเพณี ข. ประเพณี และศาสนา
ค. วรรณกรรม และการค้า ง. ศาสนา และวรรณกรรม
แบบทดสอบวดั และประเมินผลปลายภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ ๕
๓๙.หลกั ฐานทางอารยธรรมในสมัยพระเวทของอนิ เดีย คืออะไร
ก. คมั ภีร์อาถรรพเวท ข. คัมภีร์ไตรเพท
ค. คัมภีรฤ์ คเวท ง. มหากาพย์
๔๐.ขอ้ ใดเป็นความร้ดู า้ นการคานวณทช่ี าวอนิ เดียโบราณคดิ ข้ึน
ก. การกาหนดค่าตัวเลขเพ่ิมข้ึนตามจานวนขีด ข. การกาหนดเคร่ืองหมายแทนตัวเลขสิบ
ค. ตวั การกาหนดสัญลักษณ์ในการนับ ง. การนาตัวเลขมารวมกัน
๔๑.ลักษณะเดน่ ของอารยธรรมในภมู ิภาคเอเชยี ใต้ คืออะไร
ก. ภาษาและศิลปกรรม ข. การค้าและการเดินเรือ
ค. ศาสนาและหลกั ปรชั ญา ง. วรรณกรรมและรูปแบบการปกครอง
๔๒.ขอ้ ใดไม่ใช่แนวคดิ ของลทั ธเิ ต๋า
ก. ปล่อยทุกอยา่ งไปตามวิถีทางของมัน ข. ใชช้ ีวิตอยา่ งสนั โดษและปล่อยวาง
ค. กลมกลนื ไปกบั ธรรมชาติ ง. สละชพี เพ่ือชาติ
๔๓.ข้อใด คอื ลกั ษณะเด่น ของ “อักษรคนู ฟิ อร์ม”
ก. เปน็ ตวั อักษรรูปภาพ ข. เป็นตัวอกั ษรท่ีเกา่ แก่ท่ีสุดในโลก
ค. เป็นท่มี าของอกั ษรโรมนั ในปจั จบุ ัน ง. เป็นตัวอกั ษรท่เี ขยี นบนกระดาษ
๔๔.เข็มทิศทผ่ี ลิตในจนี ในระยะแรกเผยแพร่ไปยังยุโรปได้ โดยใคร
ก. พ่อค้าอาหรับ ข. มารโ์ คโปโล
ค. พอ่ คา้ ชาวตะวันตก ง. จักรพรรดเิ จง็ กีสข่าน
๔๕.ในสมยั ราชวงศช์ งิ มกี ารประกาศห้ามฝังเข็มเพ่ือการ รกั ษาโรค เพราะเหตใุ ด
ก. เหน็ วา่ อันตรายและไม่แน่ใจวา่ จะรักษาโรคหายได้หรือไม่
ข. ตอ้ งการเกบ็ ไว้เปน็ ความลับเฉพาะคนสาคญั เท่าน้ัน
ค. เห็นว่าเปน็ วธิ ีการรกั ษาที่ทารุณ
ง. คิดว่าเป็นวธิ กี ารสมัยโบราณ
๔๖.วัฒนธรรมอาหรับถา่ ยทอดไปยังทวปี ยุโรปได้อยา่ งไร
ก. การคา้ ขาย ข. การเดินเรือ
ค. เคยปกครองยโุ รป ง. สงครามครเู สด
๔๗.ปจั จยั ใดเป็นสาเหตุสาคญั ที่เป็นอุปสรรคต่อความเจรญิ ทางการค้าของเอเชยี กลาง
ก. อยหู่ ่างไกลตลาด ข. ประสบภยั ธรรมชาตบิ อ่ ยครั้ง
ค. ประชากรสว่ นใหญ่เป็นเกษตรกร ง. ท่ตี ้งั ทางภูมศิ าสตร์ไม่มที างออกสูม่ หาสมทุ ร
๔๘.ประเทศในเอเชยี กลางเป็นอิสระจากการยึดครองของสหภาพโซเวยี ตจากเหตุการณใ์ ด
ก. อาหรับสปริง ข. เหตุการณ์ 911
ค. ยกเลกิ สัญญาวอรซ์ อ ง. สหภาพโซเวียตลม่ สลาย
๔๙.เศรษฐกิจหลกั ของเอเชยี กลางข้นึ อย่กู ับอาชีพใดท่ีเหมาะสมกับสภาพภูมอิ ากาศ
ก. ขดุ น้ามัน ข. ปลกู ฝ้าย
ค. เกษตรกรรม ง. เล้ยี งสตั ว์
๕๐.เสน้ ทางการค้าใดของเอเชียกลางในอดตี ท่ีเช่อื มระหว่างโลกตะวันตกและโลกตะวันออก
ก. ทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนียน ข. มหาสมุทรแปซิฟิก
ค. เส้นทางสายแพรไหม ง. ทะเลสาบแคสเปียน
แบบทดสอบวดั และประเมนิ ผลปลายภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ รายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ ๖
ตอนที่ ๒ ขอ้ สอบแบบอตั นยั (๕ คะแนน)
คาชี้แจง: ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี
“ไมม่ ชี นชาติใดทจ่ี ะบริโภคอาหารอดออมเท่าคนสยาม สามัญชนด่ืมแตน่ ้อยเท่านนั้ แลว้ ก็กนิ ขา้ วหุง,
ผลไม,้ ปลาแห้งบ้างเล็กน้อย แลว้ ยงั กินไม่คอ่ ยอ่มิ ทอ้ งเสยี ด้วย ชนชนั้ สูงกม็ ิไดบ้ รโิ ภคดีไปกว่านี้
ทงั้ ๆ ทส่ี ามารถจะซ้ือหามาบริโภคได้ตามปรารถนา”
นิโกลัส แชรแ์ วร์
ทีม่ า: Gervaise,Nicolas.1688. Histoire Naturelle et Politique du Royaume de Siam. Paris: Chez Claude
Barbin.
“สารบั กบั ขา้ วคนชาวสยามนั้นไมส่ ู้จะฟมุ่ เฟือยนัก ที่พวกเราบริโภคอาหารกันน้อยในฤดูร้อนกว่าในฤดู
หนาวนั้น ชาวสยามยังบรโิ ภคอาหารนอ้ ยกว่าพวกเราลงไปเสยี อีก
เนอื่ งด้วยมีฤดรู ้อนติดตอ่ กนั อยตู่ ลอดกาลนัน่ เอง อาหารหลักของเขา คือ ขา้ วกบั ปลา”
ซมิ ง เดอ ลาลูแบร์
ทมี่ า : ซิมง เดอ ลาลแู บร.์ 2548. จดหมายเหตลุ าลแู บร์ ราชอาณาจกั รสยาม. แปลโดยสนั ต์ ท. โกมลบตุ ร.
กรุงเทพมหานคร : ศรปี ัญญา.
คำถำม จากข้อมูลหลักฐานท้ัง 2 เรื่อง นกั เรียนสามารถวเิ คราะหข์ ้อมูลไดอ้ ย่างไร
ตัวอยา่ งแบบทดสอบ
ปการศึกษา 2563
นางสาวสุทธิดา เกดิ มี
ผสู้ อน
คาสัง่ : เลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องทีส่ ุดเพียงคาตอบเดียว ข. การวพิ ากษภ์ ายนอก
1. ร่องรอยการกระทาของมนษุ ย์ในอดตี ที่ยงั ค. การประเมนิ ภายนอก
หลงเหลืออยใู่ นปัจจบุ นั เรยี กว่าอะไร
ง. การตรวจสอบหลกั ฐาน
ก. วิธีการทางประวตั ศิ าสตร์
ข. หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ 6. เพราะเหตใุ ดจงึ ต้องมีการประเมนิ ภายนอก
ค. เหตกุ ารณ์ทางประวัตศิ าสตร์
ง. กระบวนการทางประวัติศาสตร์ ก. เพ่ือดูว่าขอ้ มลู เช่ือถือได้หรือไม่
2. ขอ้ ใดเปน็ หลักฐานชั้นรอง
ก. อนุสาวรีย์บคุ คลสาคัญ ข. เพื่อต้องการรู้ช่วงเวลาของหลักฐาน
ข. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ
ค. หนังสือพิมพ์ทีร่ ายงานข่าว ค. เพ่ือต้องการรูว้ ิธกี ารนาเสนอขอ้ มูล
ง. จดหมายเลา่ เรือ่ งราวตา่ ง ๆ
3. ข้อใดเปน็ การแบ่งประเภทของหลกั ฐานทาง ง. เพือ่ ใหร้ ูว้ ่าหลักฐานน้นั จริงหรอื ปลอม
ประวัติศาสตร์ตามความสาคัญ
ก. หลกั ฐานช้นั ตน้ กบั หลกั ฐานช้ันรอง 7. หลักฐานประเภทใดไม่ควรใช้ในการศึกษา
ข. หลักฐานท่มี นุษยส์ ร้างข้ึนกบั หลกั ฐานทาง
ประวตั ศิ าสตร์
ธรรมชาติ
ค. หลกั ฐานท่ีเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรกบั หลักฐานที่ ก. หลกั ฐานปลอม
ไม่เปน็ ลายลกั ษณ์อักษร ข. หลักฐานท่ีเขียนหลงั เหตุการณ์
ง. หลกั ฐานสมยั กอ่ นประวัตศิ าสตรก์ ับหลกั ฐาน
ค. หลกั ฐานทใี่ หข้ ้อมลู จริงบ้างเทจ็ บา้ ง
ทางประวัติศาสตร์
4. ลลิ ิตยวนพา่ ยใช้เป็นหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ ง. ไมม่ ขี ้อใดถูก
สมัยใด
8.การทาความเข้าใจว่าหลักฐานให้ข้อมูลหรือ
ก. สมยั ธนบรุ ี
ข. สมัยอยธุ ยา ข้อเท็จจริงอะไร เป็นข้ันตอนใดของวิธีการทาง
ค. สมัยสุโขทัย
ง. สมัยรัตนโกสนิ ทร์ตอนต้น ประวัตศิ าสตร์
5. การพิจารณาสาระท่อี ยูใ่ นหลกั ฐานวา่ บอกเล่า
เรอื่ งราว อะไรบา้ ง เรียกวา่ อะไร ก. การตคี วามหลักฐาน
ก. การประเมินภายใน
ข. การประเมนิ หลักฐาน
ค. การรวบรวมหลักฐาน
ง. การเรียบเรียงและนาเสนอ
9. สิ่งใดที่อาจเกิดข้ึนได้โดยไม่จาเป็นต้องมี
หลักฐานสนับสนนุ
ก. ความจริง ข. ข้อเทจ็ จรงิ
ค. ความคิดเหน็ ง. ถูกทุกข้อ
10. การตีความข้ันต้นจะทาไม่ได้เลยถ้าผู้ตีความ
ขาดความรเู้ รื่องอะไร
ก. อายุของหลักฐาน
ข. ประวัตขิ องผูส้ ร้างหลักฐาน
ค. สภาพสังคมในช่วงเวลาที่สร้างหลักฐาน
ง. ความหมายของถ้อยคาสานวนในหลักฐาน
เฉลย 1.ข 2.ก 3.ก 4.ข 5.ก 6.ง 7.ก 8.ก 9.ค 10.ง
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. สภำพชมุ ชนแถบลมุ่ แมน่ ำ้ เจำ้ พระยำตอนลำ่ งก่อนกำรสถำปนำอำณำจกั รอยุธยำมีลักษณะสอดคล้องกบั ข้อ
ใด
ก. เป็นที่ตงั้ ของอำณำจกั รขอม ข. เปน็ กลมุ่ ชนใตอ้ ำนำจขอม
ค. อยู่รวมกันเป็นชุมชนขนำดเล็ก ง. เปน็ ชนเผ่ำอสิ ระอย่รู วมกนั หลำยเผ่ำ
2. ศูนย์กลำงควำมเจริญของอำณำจักรสพุ รรณภูมิ สนั นิษฐำนว่ำนำ่ จะอยบู่ รเิ วณใดในปัจจุบัน
ก. อำเภอวเิ ศษชยั ชำญ จังหวัดอำ่ งทอง ข. อำเภอไชโย จงั หวัดอ่ำงทอง
ค. อำเภอสองพีน่ อ้ ง จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี ง. อำเภออู่ทอง จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี
3. กษัตริย์พระองค์ใดทรงสร้ำงกรุงศรอี ยธุ ยำเป็นรำชธำนี
ก. สมเดจ็ พระรำมำธิบดที ี่ ๑ (อทู่ อง) ข. สมเด็จพระบรมไตรโลกนำถ
ค. สมเดจ็ พระมหำจักรพรรดิ ง. สมเด็จพระนเรศวรมหำรำช
4. ขอ้ ใดเป็นปัจจัยส้ำคัญท่ีทำให้มีกำรสถำปนำกรุงศรีอยธุ ยำเปน็ รำชธำนีไดส้ ำเรจ็
ก. กษัตรยิ ม์ ีควำมเด็ดขำด ข. อำณำจักรสโุ ขทัยอ่อนแอ
ค. คนไทยมีควำมสำมคั คี ง. ได้รับควำมช่วยเหลอื จำกอำณำจกั รใกล้เคยี ง
5. ข้อใดมใิ ช่รำชวงศ์ทป่ี กครองอำณำจกั รอยธุ ยำ
ก. อู่ทอง ข. ละโว้ ค. สพุ รรณภูมิ ง. สโุ ขทยั
6. ฐำนะพระมหำกษัตริย์สมยั อยธุ ยำมลี ักษณะตำ่ งจำกสมยั สุโขทยั อยำ่ งไร
ก. ทรงเป็นธรรมรำชำ ข. ทรงเปน็ เทวรำชำ
ค. ทรงเป็นสมมตเิ ทพ ง. ทรงเปน็ เทวรำชำและธรรมรำชำควบคกู่ ัน
7. ธรรมะข้อใดท่ีพระมหำกษตั ริย์ในสมัยอยุธยำทรงปฏิบัติเพ่ือควบคุมใหใ้ ช้พระรำชอำนำจอันมมี ำกมำยอยู่ใน
ขอบเขตเกดิ ควำมสงบสุขและรม่ เย็นของบำ้ นเมือง
ก. สังคหวตั ถุ ข. ทศพิธรำชธรรม ค. จักรวรรดิวัตร ง. รำชสังคหวัตถุ
8. ข้อใดกล่ำวถงึ หนำ้ ท่ขี องจตุสดมภ์ได้ถกู ต้อง
ก. กรมเวียง พิจำรณำคดีต่ำงๆ ข. กรมวงั รับผิดชอบทำงด้ำนกำรศึกษำ
ค. กรมคลงั ดูแลผลประโยชน์ของแผน่ ดนิ ง. กรมนำ สง่ เสริมกำรเกษตรของขุนนำง
9. ในสมยั อยุธยำตอนตน้ มีรูปแบบกำรปกครองสัมพันธ์กับขอ้ ใด
ก. แบ่งเป็นส่วนกลำง – สว่ นภูมภิ ำค ข. แบง่ เปน็ หัวเมอื งชน้ั นอก - หัวเมืองชนั้ ใน
ค. แบ่งเปน็ รำชธำนี – เมืองประเทศรำช ง. แบง่ เปน็ หัวเมืองเอก โท ตรี
10. เมืองใดต่อไปน้มี อี ิสระในกำรปกครองตนเองมำกทสี่ ุด
ก. เมืองชัน้ ใน ข. เมอื งพระยำมหำนคร ค. เมอื งหนำ้ ดำ่ น ง. เมอื งประเทศรำช
11. กำรปฏิรปู กำรปกครองสมยั สมเด็จพระบรมไตรโลกนำถเกดิ จำกสำเหตุใด
ก. เมืองรำชธำนีไม่เข้มแขง็ ข. ได้รับแนวคิดจำกอำณำจกั รเพือ่ นบำ้ น
ค. ขนุ นำงมอี ำนำจมำกเกินไป ง. บ้ำนเมอื งกวำ้ งใหญ่ดแู ลไมท่ ัว่ ถงึ
12. ในสมัยสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนำถ หนว่ ยงำนใดมีอำนำจหนำ้ ที่บงั คบั บัญชำและตรวจรำชกำรทหำรทว่ั
อำณำจักร
ก. สมหุ พระกลำโหม ข. สมหุ นำยก ค. ขุนเวียง ง. ขนุ วัง
13. จดุ มุ่งหมำยหลักในกำรปฏิรูปกำรปกครองในสมัยอยธุ ยำตอนปลำยคืออะไร
ก. ปอ้ งกนั กำรแยง่ ชงิ อำนำจ ข. สรำ้ งควำมเขม้ แขง็ ในอำณำจักร
ค. ลดอำนำจของขนุ นำงและเช้อื พระวงศ์ ง. ให้อิสระในกำรปกครองตนเองของรำษฎร
14. เพรำะเหตุใดสมัยอยุธยำตอนปลำยกองทัพจึงออ่ นแอลง
ก. ว่ำงเวน้ จำกกำรทำศึกมำนำน ข. ขำดกำรฝึกซอ้ มกำลงั พล
ค. ขำดแคลนกำลังพล ง. อำวธุ ยทุ โธปกรณส์ ว่ นใหญไ่ มท่ นั สมัย
15. ค้ำกลำ่ วในขอ้ ใดทจ่ี ะชว่ ยเตอื นสติและเปน็ อทุ ำหรณใ์ ห้กับคนไทย เพือ่ มิใหเ้ หตุกำรณ์ อย่ำงเช่นในสมยั
อยธุ ยำตอนปลำยเกดิ ขนึ้ อกี
ก. ร้จู ักสำมัคคี ข. ววั หำยล้อมคอก ค. แพเ้ ปน็ พระ ชนะเปน็ มำร ง. ร้แู พ้ รชู้ นะ รอู้ ภัย
16. เศรษฐกจิ ของอยธุ ยำขน้ึ อยูก่ บั ข้อใด
ก. เกษตรกรรม หตั ถกรรม ข. หตั ถกรรม กำรค้ำ
ค. เกษตรกรรม หำของปำ่ ง. เกษตรกรรม หตั ถกรรม กำรค้ำ
17. เครือ่ งเทศทเ่ี ป็นสินคำ้ ออกทส่ี ้ำคัญของอยุธยำคืออะไร
ก. หมำกพลู ข. ฝำง กฤษณำ ค. กระวำน พรกิ ไทย ง. คร่งั กำนพลู
18. สมยั อยุธยำมีนโยบำยกำรคำ้ กับชำตติ ะวันตกทเี่ ข้ำมำตดิ ต่อค้ำขำยอยำ่ งไร
ก. ยอมสวำมิภกั ด์ิโดยดี ข. เรยี กรอ้ งผลประโยชน์ต่ำงๆ
ค. จำกดั สิทธิเสรีภำพทำงศำสนำ ง. เปน็ มิตรและคำ้ ขำยกบั ทุกชำติ
19. รำยไดส้ งู สุดจำกกำรคำ้ กบั ต่ำงประเทศของอำณำจักรอยธุ ยำไดแ้ ก่กำรคำ้ กบั ประเทศอะไร
ก. จนี ข. อำหรบั ค. องั กฤษ ง. ฮอลันดำ
20. เหตกุ ำรณใ์ นขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีท่ีแสดงถึงพระปรชี ำสำมำรถและควำมกลำ้ หำญของสมเด็จ พระนเรศวร
มหำรำชมำกทส่ี ดุ
ก. ปีนคำ่ ยขำ้ ศกึ ข. เจรจำและท ำสัญญำสงบศกึ กบั ฮอลนั ดำ
ค. ทำสงครำมยทุ ธหัตถกี บั พระมหำอปุ รำชำ ง. ประกำศอิสรภำพทเี่ มืองแครง
เฉลย 1.ค 2.ง 3.ก 4.ค 5.ข 6.ง 7.ข 8.ค 9.ก 10.ง
11.ง 12.ก 13.ก 14.ข 15.ก 16.ง 17.ค 18.ง 19.ก 20.ค
3คาสัง่ : เลอื กคาตอบทีถ่ กู ต้องทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว
1. สมัยอยุธยาใชร้ ะบบใดในการจดั ระเบยี บชนชั้นในสังคม
ก. ระบบขุนนาง ข. ระบบมูลนาย ค. ระบบศักดินา ง. ระบบชนช้นั ปกครอง
2. ในสงั คมอยธุ ยาคนกลุ่มใดมจี านวนมากท่สี ดุ
ก. ไพร่ ข. ทาส ค. ขนุ นาง ง. พระสงฆ์
3. บคุ คลใดไมม่ ีการกาหนดศักดินาไว้
ก. ไพร่ ข. ทาส ค. พระสงฆ์ ง. พระมหากษัตริย์
4. ไพรป่ ระเภทใดข้ึนทะเบียนสังกัดพระมหากษตั รยิ โ์ ดยตรง
ก. ไพรส่ ม ข. ไพรส่ ว่ ย ค. ไพร่ทาส ง. ไพรห่ ลวง
5. ข้อใดเปน็ พระราชกรณียกจิ ท่ีสาคญั ของพระมหากษัตรยิ ์แหง่ กรุงศรีอยธุ ยาในการทานบุ ารงุ พระพทุ ธศาสนา
ก. สรา้ งวดั ข. เสด็จออกผนวช
ค. สงั คายนาพระไตรปิฎก ง. ส่งสมณทูตไปเผยแผศ่ าสนา
6. ในสมัยอยธุ ยามีการเกบ็ ฤชา อากร ส่วย จากบุคคลกลมุ่ ใด
ก. ราษฎร ข. ชาวจีน ค. ขนุ นาง ง. ชาวตา่ งชาติ
7. กรมท่าซา้ ยในสมัยอยุธยามีหนา้ ท่เี กีย่ วกบั อะไร
ก. การค้าภายใน ข. การคา้ กับชาติยโุ รป
ค. การค้ากบั ดนิ แดนทางตะวนั ตก ง. การคา้ กบั ดนิ แดนทางตะวันออก
8. ในสมยั อยุธยาสนิ คา้ ประเภทใดต้องซ้ือขายผา่ นพระคลงั สนิ ค้า
ก.ผ้าแพร ข.พรกิ ไทย ค. กามะถนั ง. เคร่อื งป้นั ดินเผา
9. อากรประเภทใดเก็บจากผูป้ ลูกออ้ ย ข้าวโพด
ก. อากรนา ข. อากรสวน ค. อากรศลุ กากร ง. อากรสมพตั สร
10. การสรา้ งและดแู ลปอ้ ม คา่ ย จดั เป็นคา่ ใชจ้ ่ายประเภทใด
ก. เบยี้ หวดั ข. การทหาร ค. พระราชพธิ ี ง. ราชการพิเศษ
เฉลย 1.ค 2.ก 3.ง 4.ง 5.ก 6.ก 7.ง 8.ค 9.ง 10.ข
คาส่ัง: เลอื กคาตอบทถี่ ูกตอ้ งทีส่ ดุ เพียงคาตอบเดียว 6. ผลงานชิ้นใดจัดเป็นประณตี ศิลป์ในสมยั อยุธยา
ก. สมดุ ภาพไตรภมู พิ ระร่วง
1. ปัจจยั พ้ืนฐานท่ีทาให้เกดิ การสรา้ งสรรคภ์ มู ิ ข. พระพทุ ธรปู สลกั ด้วยศิลาทรายสีแดง
ปญั ญาไทยสมยั อยุธยาและธนบุรคี ืออะไร ค. พระเจดียท์ รงลงั กาทีว่ ัดพระศรสี รรเพชญ์
ง. ประตโู บสถป์ ระดับมกุ ทว่ี ดั พระศรมี หาธาตุ
ก. อาหารการกิน
ข. วถิ ชี ีวติ ความเปน็ อยู่ 7. ละครประเภทใดมกี ารดาเนนิ เรือ่ งรวดเรว็ ตลก
ค. ความเชือ่ และศาสนา ขบขนั และโลดโผน
ง. ถูกทกุ ขอ้
2. การนาปลามาทาปลาเคม็ เกย่ี วข้องกับปัจจยั ที่ทา ก. ละครใน
ใหเ้ กดิ การสรา้ งสรรคภ์ ูมปิ ญั ญาไทยดา้ นใดมากท่ีสดุ
ก. การแพทย์ ข. ละครนอก
ข. ความบนั เทิง ค. ละครพนื้ บา้ น
ค. อาหารการกนิ
ง. การประกอบอาชพี ง. ละครดกึ ดาบรรพ์
3. งานศิลปกรรมส่วนใหญ่ในสมัยอยธุ ยาเก่ียวขอ้ ง 8. ลลิ ิตโองการแชง่ นา้ แตง่ ขนึ้ มาเพ่อื อะไร
กับเร่ืองอะไร
ก. ความงามของธรรมชาติ ก. อบรมสงั่ สอนขนุ นาง
ข. ความเป็นอย่ขู องประชาชน
ค. ความศรทั ธาตอ่ พระพทุ ธศาสนา ข. สรรเสรญิ ผทู้ าความดี
ง. ความเป็นอย่ขู องเจา้ นายและขนุ นาง ค. ใชอ้ ่านในพธิ ีถอื นา้ พระพพิ ัฒนส์ ตั ยา
4. ศิลปกรรมสมัยธนบุรรี ับแบบอยา่ งมาจากไหน
ก. ลพบรุ ี ง. ให้ขุนนางชั้นผใู้ หญ่นาไปเปน็ แนวปฏบิ ตั ิ
ข. อยุธยาตอนตน้
ค. อยธุ ยาตอนกลาง 9. วรรณกรรมตอ่ ไปนเ้ี รื่องใดให้ข้อมลู ทาง
ง. อยุธยาตอนปลาย ประวัติศาสตร์มากที่สุด
5. พระพุทธรูปปางมารวชิ ัยได้รับอิทธพิ ลมาจาก
ศิลปะแบบใด ก. ลิลิตพระลอ
ก. ศิลปะอทู่ อง
ข. ศิลปะแบบสโุ ขทยั ข. ลลิ ิตยวนพ่าย
ค. ศิลปะแบบเชียงแสน ค. กาพยม์ หาชาติ
ง. ศิลปะแบบทวารวดี
ง. มหาชาติคาหลวง
10. ปรางค์ประธานวัดพุทไธศวรรย์ วดั ราชบูรณะ
สร้างขนึ้ ในสมยั ใด
ก. สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีที่ 1
ข. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ค. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ง. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
เฉลย 1.ข 2.ก 3.ก 4.ข 5.ก 6.ง 7.ก 8.ก 9.ค 10.ง