EVIDENCE-BASED PRACTICE FOR NURSING Sangdaw Jangsavang Clinical Nurse Specialist, Professional Practice Development
OBJECTIVE LETS GET STARTED เพื่อ พื่ เตรีย รี มการพัฒ พั นา Evidence-Based Practice For Nursing ตามกลยุทธทางการพยาบาล 1. 2. เพื่อ พื่ ให้บุคลากรทางการพยาบาลมีค มี วามรู้ในการจัด จั ทำ Evidence-Based Practice For Nursing 3. เพื่อ พื่ ให้มีก มี ารจัด จั ทำ Evidence-Based Practice For Nursing ในหน่วยงานของกลุ่มงานสายการพยาบาล 4. เพื่อ พื่ เพิ่ม พิ่ คุณภาพมาตรฐานและผลลัพ ลั ธ์ที่ ธ์ ที่ ดี ที่ ท ดี างการพยาบาล ให้ดียิ่ ดี ยิ่ ง ยิ่ ขึ้น ขึ้
E V I D E N C E B A S E D P R A C T I C E 0 1 D E F I N I T I O N 0 2 I O W A M O D E L 0 3 P I C O ( T ) F R A M E W O R K 0 4 R E V I E W A N D G R A D I N G E V I D E N C E
DEFINITION เป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ช่ ที่ ช่ วยในการ ตัด ตั สิน สิ ใจในกระบวนการพยาบาล ที่ร ที่ วมหลัก ลั ฐานทางวิท วิ ยาศาสตร์ที่ดี ที่ ที่ ดี ที่ สุ ที่ สุ ดที่มี ที่ อ มี ยู่ ร่วมกับ กั หลัก ลั ฐานจากประสบการณ์ (ผู้รับ รั บริก ริ ารและ ผู้ปฏิบั ฏิ ติ บั ติ งาน) ส่งเสริม ริ การคิด คิ อย่างมีวิ มี จ วิ ารณญาณในการประยุกต์ ใช้หลัก ลั ฐานอย่างรอบคอบเพื่อ พื่ ใช้ในการดูแลผู้ป่วย ให้เหมาะสมในแต่ละราย
MAJOR CONCEPTS การใช้ข้อมูลความรู้ที่เ ที่ ป็นปัจจุบัน บั เชื่อ ชื่ ถือ ถื ได้ 01. ข้อมูลนั้น นั้ ๆ ได้จากกระบานการสืบ สื ค้น ค้ อย่ 02. างเป็นระบบ มีก มี ารนำ มาวิเ วิ คราะห์ สัง สั เคราะห์อย่ 03. างเป็นระบบ สามารถนำ มาใช้ในกระบวนพยาบาลได้อย่ 04. างเหมาะสม
COMPONENTS OF EVIDENCE-BASED PRACTICE?
EVIDENCE-BASED PRACTICE consist of three components:
EVIDENCE-BASED PRACTICE ทำ ให้วิเ วิ คราะห์ปัญหาในคลินิ ลิ นิ กได้ตรงประเด็น ด็ เลือ ลื กหลัก ลั ฐานเชิงประจัก จั ษ์ได้เหมาะสมกับ กั บริบ ริ ท ของการปฏิบั ฏิ ติ บั ติ วิเ วิ คราะห์หลัก ลั ฐานได้ลุ่มลึก ลึ มองได้หลายแง่มุม นำ ไปประยุกต์ได้อย่างเหมาะสมสามารถผลัก ลั ดัน ดั ให้เกิด กิ การปฏิบั ฏิ ติ บั ติได้จริง ริ
EVIDENCE-BASED PRACTICE เกิด กิ โอกาสในการพัฒ พั นานวัต วั กรรม พยาบาลต้องพัฒ พั นานโยบายในการปฏิบั ฏิ ติ บั ติ เพื่อ พื่ พิทัก ทั ษ์สิท สิ ธิข ธิ องผู้ป่วยและผู้รับ รั บริก ริ ารให้มากขึ้น ขึ้ พยาบาลเกิด กิ โอกาสในการพัฒ พั นามาตรฐานการ ปฏิบั ฏิ ติ บั ติ ต่างๆ
EVIDENCE-BASED PRACTICE เกิด กิ ผลลัพ ลั ธ์ก ธ์ ารปฏิบั ฏิ ติ บั ติ ที่ดี ที่ ดี เกี่ย กี่ วข้องกับ กั การประกัน กั คุณภาพ และรับ รั รองคุณภาพขององค์กร เป็นที่ย ที่ อมรับ รั ของผู้มีส่ มี ส่ วนเกี่ย กี่ วข้อง มีค มี วามเป็นมาตรฐานสามารถนำ ไปใช้ได้ในวงกว้าง
เป็น ป็ ปัจจัย จั สนับ นั สนุน นุ การเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติ บั ติ •เป็น ป็ ปัจจัย จั ที่ช่ว ช่ ยสนับ นั สนุน นุ ให้โห้ ครงการดํา ดํ เนินนิ ไปได้ด้ ด้ ว ด้ ยดี NRS 3.305 การจัด จั ทําแนวปฏิบัติ บั ติทางคลินิกนิสํา สํ หรับ รั พยาบาล
“ IOWA MODEL ”
Note: Used/reprinted with permission from the University of Iowa Hospitals and Clinics, Copyright 2015. For permission to use or reproduce the model, please contact the University of Iowa Hospitals and Clinics at 319-384-9098 or [email protected]. Source: From Iowa Model Collaborative. (2017). Iowa Model of evidence-based practice: Revisions and validation. Worldviews on EvidenceBased Nursing, 14(3), 175–182. doi:10.1111/wvn.12223
7 Step of Iowa Model Step 1 Step 2 Step 3 Step 4 Step 5 Step 6 Step 7 Step 1: การระบุประเด็น ด็ ปัญหา / โอกาสในการพัฒ พั นา (Identifying an issue or opportunity) Step 2: การตั้ง ตั้ คำ ถาม /กำ หนดวัต วั ถุประสงค์ (Stating the Question / Purpose) Step 3: การกำ หนดทีม ที พัฒ พั นา (Forming aTeams) Step 4: การรวบรวมวรรณกรรมที่ เกี่ย กี่ วข้อง ประเมินผล วิเ วิ คราะห์ และ สัง สั เคราะห์หลัก ลั ฐานเชิงประจัก จั ษ์ (Assemble, Appraise and Synthesize Body of Evidence) Step 5: ออกแบบและนำ ร่องการเปลี่ย ลี่ นแปลง แนวทางการปฏิบั ฏิ ติ บั ติ (Design and Pilot the Practice Change) Step 6: บูรณาการแนวทางเพื่อ พื่ การเปลี่ย ลี่ นแปลง แนวทางการปฏิบั ฏิ ติ บั ติ (Integrate and sustain the practice Change) Step 7: การเผยแพร่ผลลัพ ลั ธ์ (Disseminate Result)
Step 1 Step 2 Step 3 Step 4 Step 5 Step 6 Step 7 7 Step of Iowa Model Step 1: การระบุประเด็น ด็ ปัญหา / โอกาสในการพัฒ พั นา (Identifying an issue or opportunity)
ประเด็น ด็ ปัญ ปั หาที่ม ที่ าจากผู้ปฏิบั ฏิ ติ บั ห ติ น้างาน/ ปัญ ปั หาทางคลีนิ ลี นิ กที่พ ที่ บเจอในหน่วยงาน ประเด็น ด็ ปัญ ปั หาที่ม ที่ าจากการร้องเรีย รี น/ สิ่ง สิ่ ที่ผู้ ที่ ผู้ รับ รั บริก ริ ารต้องการให้ปรับ รั ปรุง ข้อมูลหลัก ลั ฐานเชิงประจัก จั ษ์หรือ รื ข้อ กำ หนดใหม่ๆ ผลงานวิจั วิ ย จั ใหม่ๆ หรือ รื การทบทวนวรรณกรรมอื่น อื่ ๆ ที่น่ ที่ น่ าเชื่อ ชื่ ถือ ถื Step 1: การระบุประเด็น ด็ ปัญหา / โอกาสในการพัฒ พั นา (Identifying an issue or opportunity) กฎระเบีย บี บมาตรฐานและแนวปฏิบั ฏิ ติ บั ติ จากองค์กรภาครัฐ รั / นโยบายระดับ ดั ชาติ ปรัช รั ญาหรือ รื ทฤษฎีทางการ พยาบาลที่น่ ที่ น่ าเชื่อ ชื่ ถือ ถื ข้อกำ หนด หรือ รื ข้อบัง บั คับ คั ขององค์กร หรือ รื สถาบัน บั ที่รั ที่ บ รั รองมาตราฐาน เช่น JCI, HA เป็นต้น ต้
Step 1 Step 2 Step 3 Step 4 Step 5 Step 6 Step 7 7 Step of Iowa Model Step 2: การตั้ง ตั้ คำ ถาม หรือ รื กำ หนดวัต วั ถุประสงค์ (Stating the Question or Purpose)
The purpose was stated in PICO(T) Framework PICO (T) Framework P: Patient Population or Problem I: Intervention C: Comparison O: Outcome T: Time เป็นการระบุประชากรหรือ รื ปัญหาที่น่ ที่ น่ าสนใจ เช่น ประชากร โรคหรือ รื ปัญหาที่น่ ที่ น่ าสนใจ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ร็ , ผู้ป่วยหลอดเลือ ลื ดสมอง, ภาวะตกเลือ ลื ดหลัง ลั คลอด เป็นต้นต้ เป็นการระบุหัต หั การ/การรัก รั ษาที่ส ที่ นใจ ซึ่งควรศึก ศึ ษาแนวทางปฏิบั ฏิ ติ บั ติ การรัก รั ษา เช่น เช่น การจัด จั การความปวด, การควบคุมระดับ ดั การติดเชื้อ เป็นต้นต้ เป็นการระบุเปรีย รี บเทีย ที บ/ ทางเลือ ลื กอื่น อื่ สำ หรับ รั แผนของท่านคือ คื อะไร ? (อาจมีหรือ รื ไม่มี ม่ มี ก็ไก็ ด้) เช่น เช่น การล้างแผลด้วยนํ้าเกลือ ลื กับ กั Betadine solution เป็นต้นต้ ผลลัพ ลั ธ์จะต้องมีความเฉพาะเจาะจง และวัด วั ได้ ควรกำ หนดผลลัพ ลั ธ์ควรระบุเป็นตัว ตั แปรที่ สามารถให้นิยามความหมายระบุเครื่อ รื่ งมือที่ส ที่ ามารถวัด วั เป็นผลลัพ ลั ธ์ที่ต้ ที่ ต้องการได้ เช่น คุณภาพชีวิต วิ , ระยะเวลานอนในรพ., อัต อั ราการเกิด กิ แผลกดทับ ทั , อัต อั ราการติดเชื้อ เป็นต้นต้ เป็นการกำ หนดขอบเขตระยะเวลาที่จ ที่ ะบรรลุเป้าหมายโครงการ เช่น กำ หนดระยะเวลาตั้งตั้แต่ มกราคม ถึง ถึ มิถุนายน 2566 เป็นต้นต้ Step 2: การตั้ง ตั้ คำ ถาม หรือ รื กำ หนดวัต วั ถุประสงค์ (Stating the Question or Purpose)
กลับ ลั ไปคิด คิ ปัญ ปั หาใหม่ (Go Back to Step 1) No Yes พิจารณาว่าปัญหาที่เ ที่ ลือ ลื กมานั้น นั้ มีค มี วามสำ คัญ คั กับ กั หน่วยงาน หรือ รื องค์กรของท่านหรือ รื ไม่ ???
Step 1 Step 2 Step 3 Step 4 Step 5 Step 6 Step 7 7 Step of Iowa Model Step 3: กำ หนดทีม ที พัฒ พั นา (Forming a Teams)
Step 3: กำ หนดทีม ที พัฒ พั นา (Forming a Teams)
เมื่อ มื่ พิจารณาว่าปัญหาที่เ ที่ กิด กิ ขึ้น ขึ้ เป็นปัญหาที่เ ที่ ป็นความต้องการขององค์กรในการเปลี่ย ลี่ นแปลง ใช่หรือ รื ไม่ ถ้าเป็นความต้องการของหน่วยงานจัด จั ทีม ที ในการดำ เนินโครงการ พร้อมทั้ง ทั้ ระบุหน้าที่รั ที่ บ รั ผิด ผิ ชอบไว้อย่างชัด ชั เจน ตัว ตั อย่างของหน้าที่ก ที่ ารรับ รั ผิด ผิ ชอบในทีม ที เช่น ฝ่ายการศึก ศึ ษา (Education) ฝ่ายวิจั วิ ย จั (Research) และฝ่ายปฏิบั ฏิ ติ บั ติ (Practice) เป็นต้น ต้ ซึ่งการสร้างทีม ที ควรประกอบด้วยหลากหลายสาขาวิช วิ าชีพ เช่น พยาบาล เภสัช สั กร นัก นั กายภาพ นัก นั โภชนากร เป็นต้น ต้ ทั้ง ทั้ นี้เ นี้ พื่อ พื่ จะได้มุมที่ห ที่ ลากหลาย ควรมีการระบุหัว หั หน้าโครงการ (Team Leader) และสมาชิกในทีม ที (Team members)
Step 4: การรวบรวมวรรณกรรมที่เ ที่ กี่ย กี่ วข้อง ประเมินผล วิเ วิ คราะห์ และสัง สั เคราะห์หลัก ลั ฐานเชิงประจัก จั ษ์ (Assemble, Appraise and Synthesize Body of Evidence) Grading Evidence Analyze and Synthesize Review Evidence
Database Review
BI: Database Review
Analyze and Synthesize
Analyze and Synthesize
“ GRADING EVIDENCE”
Grading Evidence Melnyk, B. M., & Fineout-Overholt, E. (2019). Evidence-based practice in nursing and healthcare. A guide to best practice. Weak Evidence Storng Evidence
Storng Evidence Grading Evidence การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ หลัก ลั ฐานที่ไ ที่ ด้จาก (Systematic reviews and Meta-analysis of RCT) หรือ รื วิเ วิ คราะห์เมต้าของงานวิจั วิ ย จั แบบทดลองที่มี ที่ ก มี าร สุ่มและมีก มี ลุ่มควบคุมทั้ง ทั้ หมด หรือ รื แนวปฏิบั ฏิ ติ บั ท ติ างคลินิ ลิ นิ กที่ส ที่ ร้างจากหลัก ลั ฐานที่ม ที่ า จากการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบของ งานวิจั วิ ย จั เชิงทดลองที่มี ที่ ก มี ารสุ่มและมีก มี ลุ่มควบคุม
Grading Evidence (Randomised controlled trial, RCT, Quasi experiment) งานวิจั วิ ย จั เชิงทดลอง มีก มี ารสุ่ม และมีก มี ลุ่มควบคุม ที่มี ที่ ก มี ารออกแบบวิจั วิ ย จั อย่างดี อย่างน้อย 1 เรื่อ รื่ ง หลัก ลั ฐานที่ไ ที่ ด้จาก
Grading Evidence แต่ไม่มี ม่ ก มี ารสุ่ม งานวิจั วิ ย จั เชิงทดลอง และมีก มี ลุ่ม ควบคุมที่มี ที่ ก มี ารออกแบบวิจั วิ ย จั อย่างดี หลัก ลั ฐานที่ไ ที่ ด้จาก (Non-randomized controlled trial, Quasi-experiment)
Grading Evidence งานวิจั วิ ย จั ที่เ ที่ ป็นการศึก ศึ ษาย้อนหลัง ลั หรือ รื การศึก ศึ ษาติด ติ ตามไปข้างหน้า หลัก ลั ฐานที่ไ ที่ ด้จาก ที่มี ที่ ก มี ารออกแบวิจั วิ ย จั อย่างดี (Case-control or cohort studies)
Grading Evidence (Systematic reviews of Qualitative or Descriptive studies) การทบทวนอย่างเป็นระบบของงาน หลัก ลั ฐานที่ไ ที่ ด้จาก วิจั วิ ย จั เชิงบรรยายหรือ รื งานวิจั วิ ย จั เชิงคุณภาพ
Grading Evidence งานวิจั วิ ย จั เดี่ย ดี่ วที่เ ที่ ป็นงานวิจั วิ ย จั เชิงบรรยาย หรือ รื งานวิจั วิ ย จั เชิงคุณภาพ หลัก ลั ฐานที่ไ ที่ ด้จาก (Qualitative or Descriptive studies)
Grading Evidence ผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มวิช วิ าชีพฉพาะ หรือ รื รายงานจากคณะกรรมการผู้ทรง คุณวุฒิเฉพาะเรื่อ รื่ ง หลัก ลั ฐานที่ไ ที่ ด้จาก (Opinion of authorities and/or reports of expert committees) Weak Evidence
G r a d i n g E v i d e n c e W e a k E v i d e n c e ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ก า ร ท บ ท ว น ว ร ร ณ ก ร ร ม อ ย่ า ง เ ป็ น ร ะ บ บ ห รื อ รื วิ เ ค ร า ะ ห์ เ ม ต้ า ข อ ง ง า น วิ จั วิ ย จั แ บ บ ท ด ล อ ง ที่ มีที่มี ก า ร สุ่ ม แ ล ะ มี ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม ทั้ ง ทั้ ห ม ด ห รื อ รื แ น ว ป ฏิ บั ฏิ ติ บั ติ ท า ง ค ลิ นิ ก ที่ สที่ร้ า ง จ า ก ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ มที่า จ า ก ก า ร ท บ ท ว น ว ร ร ณ ก ร ร ม อ ย่ า ง เ ป็ น ร ะ บ บ ข อ ง ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง ท ค ล อ ง ที่ มีที่มี ก า ร สุ่ ม แ ล ะ มี ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม ( S y s t e m a t i c r e v i e w s a n d m e t a - a n aly s i s o f R C T ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง ท ด ล อ ง มี ก า ร สุ่ ม แ ล ะ มี ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม ที่ มีที่มี ก า ร อ อ ก แ บ บ วิ จั วิ ย จั อ ย่ า ง ดี อ ย่ า ง น้ อ ย 1 เ รื่ อรื่ง ( R a n d o m i s e d c o n t r olle d t r i al, R C T , Q u a s i - e x p e r i m e n t ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ง า น วิ จั วิ ย จั ที่ เที่ป็ น ก า ร ศึ ก ศึ ษ า ย้ อ น ห ลั ง ลั ห รื อ รื ก า ร ศึ ก ศึ ษ า ติ ด ต า ม ไ ป ข้ า ง ห น้ า ที่ มีที่มี ก า ร อ อ ก แ บ วิ จั วิ ย จั อ ย่ า ง ดี ( C a s e - c o n t r ol o r c o h o r t s t u d i e s ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง ท ด ล อ ง แ ล ะ มี ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม ที่ มีที่มี ก า ร อ อ ก แ บ บ วิ จั วิ ย จั อ ย่ า ง ดี แ ต่ ไ ม่ มีม่ มี ก า ร สุ่ ม ( N o n - r a n d o m i s e d c o n t r olle d t r i al, Q u a s i - e x p e r i m e n t ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ก า ร ท บ ท ว น อ ย่ า ง เ ป็ น ร ะ บ บ ข อ ง ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง บ ร ร ย า ย ห รื อ รื ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง คุ ณ ภ า พ ( S y s t e m a t i c r e v i e w s o f q u ali t a t i v e o r d e s c r i p t i v e s t u d i e s ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ง า น วิ จั วิ ย จั เ ดี่ ยดี่ว ที่ เที่ป็ น ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง บ ร ร ย า ย ห รื อ รื ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง คุ ณ ภ า พ ( Q u ali t a t i v e o r d e s c r i p t i v e s t u d i e s ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ผู้ เ ชี่ ย ว ช า ญ ใ น ก ลุ่ ม วิ ช วิ า ชี พ ฉ พ า ะ แ ล ะ ห รื อ รื ร า ย ง า น จ า ก ค ร ะ ก ร ร ม ก า ร ผู้ ท ร ง คุ ณ วุ ฒิ เ ฉ พ า ะ เ รื่ อรื่ง ( O p i n i o n o f a u t h o r i t i e s a n d / o r r e p o r t s o f e x p e r t c o m m i t t e e s ) ร ะ ดั บ ดั 7 ร ะ ดั บ ดั 6 ร ะ ดั บ ดั 5 ร ะ ดั บ ดั 4 ร ะ ดั บ ดั 3 ร ะ ดั บ ดั 2 ร ะ ดั บ ดั 1 ร ะ ดั บ ดั ร ะ ดั บ ดั ค ว า ม น่ า เ ชื่ อ ถื อ ถื ข อ ง E B P ( M ely n k & F i n e o u t - O v e r h olt , 2 0 1 9 ) S t r o n g E v i d e n c e
Grading Evidence ให้ทำ การสืบ สื ค้นข้อมูลเพิ่มเติม Yes Next step ข้อมูลที่ร ที่ วบรวมมานั้น นั้ มีม มี ากเพีย พี งพอหรือ รื ไม่??? 40 7 10 8 5 5 2 3 No
Step 1 Step 2 Step 3 Step 4 Step 5 Step 6 Step 7 7 Step of Iowa Model Step 5: ออกแบบและนำ ร่องการ เปลี่ย ลี่ นแปลงแนวทางการปฏิบั ฏิ ติ บั ติ (Design and Pilot the Practice Change)
Yes Next step 1 10 9 8 7 6 2 3 4 5 พิจารณาถึง ถึ ผลดีผ ดี ลเสีย สี ความชอบหรือ รื การ ยอมรับ รั ของผู้รับ รั บริก ริ าร พิจารณาถึง ถึ ข้อจำ กัด กั ของทรัพ รั ยากร อุปกรณ์ ต่าง ๆ พัฒ พั นาแนวทาง ปฏิบั ฏิ ติ บั ติ พัฒ พั นาแบบประเมิน ผลลัพ ลั ธ์โครงการไว้ ล่วงหน้า เก็บ ก็ รวบรวมข้อมูล วางแผนการดำ เนินงาน เตรีย รี มบุคลากร ทรัพ รั ยากรและอุปกรณ์ เครื่อ รื่ งมือให้พร้อม ส่งเสริม ริ การและ กระตุ้น ตุ้ การมีส่วนร่วม ของทีม ที รวบรวมและรายงานผล หลัง ลั ผ่านการทดลองใช้ โครงการนำ ร่อง Step 5: ออกแบบและนำ ร่องการเปลี่ย ลี่ นแปลงแนวทางการปฏิบั ฏิ ติ บั ติ (Design and Pilot the Practice Change) พิจารณาต่อว่า แนวทางที่ พัฒ พั นาขึ้น ขึ้ มานั้น นั้ มีผลลัพ ลั ธ์ที่ดี ที่ ห ดี รือ รื มี ประโยชน์เพีย พี งพอต่อการ เปลี่ย ลี่ นแปลงหรือ รื ไม่??? No REDESIGN
Step 1 Step 2 Step 3 Step 4 Step 5 Step 6 Step 7 7 Step of Iowa Model Step 6: บูรณาการแนวทางเพื่อ พื่ การ เปลี่ย ลี่ นแปลงแนวทางการปฏิบั ฏิ ติ บั ติ (Integrate and sustain the practice Change)
Step 6: บูรณาการแนวทางเพื่อ พื่ การเปลี่ย ลี่ นแปลง แนวทางการปฏิบั ฏิ ติ บั ติ (Integrate and sustain the practice Change) ควรระบุให้ชัด ชั เจน ว่าทําอะไร ใครเป็นคนทํา ทําเมื่อ มื่ ไร ที่ไ ที่ หน และทำ อย่างไร ส่งเสริม ริ ความร่วม มือของทีม ที การ โน้มน้าวให้ ผู้ปฏิบั ฏิ ติ บั ติ เห็นความ สําคัญ คั เฝ้าติดตาม ผลลัพ ลั ธ์อย่าง ต่อเนื่อ นื่ ง ควรมีการทบทวน แนวทางปฏิบั ฏิ ติ บั ติ ทางการพยาบาลทุก 3 ปี เพื่อ พื่ ปรับ รั ปรุง ให้เป็นปัจจุบัน บั
Step 1 Step 2 Step 3 Step 4 Step 5 Step 6 Step 7 7 Step of Iowa Model Step 7: การเผยแพร่ ผลลัพ ลั ธ์ (Disseminate Result)
Internal Disseminate External Disseminate Step 7: การเผยแพร่ผลลัพ ลั ธ์ (Disseminate Result) Standard Nursing Care Work Instruction Update Policy / Protocol Nursing Committee Innovation Knowledge Festival Other....... การประชุมวิช วิ าการภายในประเทศ การประชุมวิช วิ าการต่างประเทศ การได้รับ รั ตีพิ ตี พิ มพ์ในวารสารที่มี ที่ มี ความ น่าเชื่อถือ ถื
SUMMARY
COMPONENTS OF EVIDENCE-BASED PRACTICE
Step 4: การรวบรวมวรรณกรรมที่เที่กี่ยกี่วข้อง ประเมินผล วิเวิคราะห์ และสังสัเคราะห์หลักลัฐาน เชิงประจักจัษ์ (Assemble, Appraise and Synthesize Body of Evidence) No Yes Yes Step 1 Step 2 Step 3 Step 7 Step 4 Step 5 Step 6 7 Step of Iowa Model Step 1: การระบุประเด็น ด็ ปัญหา / โอกาสในการพัฒพันา (Identifying an issue or opportunity) Step 3: กำ หนดทีมทีพัฒพันา (Forming Team) Step 5: ออกแบบและนำ ร่องการ เปลี่ยลี่นแปลงแนวทางการปฏิบัฏิติบั ติ (Design and Pilot the Practice Change) Step 6: บูรณาการแนวทางเพื่อพื่การ เปลี่ยลี่นแปลงแนวทางการปฏิบัฏิติบั ติ (Integrate and sustain the practice Change) Step 7: การเผยแพร่ผลลัพลัธ์ (Disseminate Result) Yes No ให้สืบสืค้นข้อมูลเพิ่มเติม No Redesign สิ่ง สิ่ นี้มี นี้ มี ความสำ คัญ คั หรือ รื ไม่??? ข้อมูลที่ร ที่ วบรวมมา เพีย พี งพอหรือ รื ไม่??? ผลลัพ ลั ธ์ดีห ดี รือ รื มี ประโยชน์เพีย พี งพอต่อ การเปลี่ยลี่นแปลงหรือ รื ไม่??? Step 2: การตั้ง ตั้ คำ ถาม / กำ หนดวัต วั ถุประสงค์ (Stating the Question / Purpose)
PICO(T) FRAMEWORK
D a t a b a s e W e a k E v i d e n c e S t o r n g E v i d e n c e ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ก า ร ท บ ท ว น ว ร ร ณ ก ร ร ม อ ย่ า ง เ ป็ น ร ะ บ บ ห รื อ รื วิ เ ค ร า ะ ห์ เ ม ต้ า ข อ ง ง า น วิ จั วิ ย จั แ บ บ ท ด ล อ ง ที่ มีที่มี ก า ร สุ่ ม แ ล ะ มี ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม ทั้ ง ทั้ ห ม ด ห รื อ รื แ น ว ป ฏิ บั ฏิ ติ บั ติ ท า ง ค ลิ นิ ก ที่ สที่ร้ า ง จ า ก ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ มที่า จ า ก ก า ร ท บ ท ว น ว ร ร ณ ก ร ร ม อ ย่ า ง เ ป็ น ร ะ บ บ ข อ ง ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง ท ค ล อ ง ที่ มีที่มี ก า ร สุ่ ม แ ล ะ มี ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม ( S y s t e m a t i c r e v i e w s a n d m e t a - a n aly s i s o f R C T ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง ท ด ล อ ง มี ก า ร สุ่ ม แ ล ะ มี ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม ที่ มีที่มี ก า ร อ อ ก แ บ บ วิ จั วิ ย จั อ ย่ า ง ดี อ ย่ า ง น้ อ ย 1 เ รื่ อรื่ง ( R a n d o m i s e d c o n t r olle d t r i al, R C T , Q u a s i - e x p e r i m e n t ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ง า น วิ จั วิ ย จั ที่ เที่ป็ น ก า ร ศึ ก ศึ ษ า ย้ อ น ห ลั ง ลั ห รื อ รื ก า ร ศึ ก ศึ ษ า ติ ด ต า ม ไ ป ข้ า ง ห น้ า ที่ มีที่มี ก า ร อ อ ก แ บ วิ จั วิ ย จั อ ย่ า ง ดี ( C a s e - c o n t r ol o r c o h o r t s t u d i e s ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง ท ด ล อ ง แ ล ะ มี ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม ที่ มีที่มี ก า ร อ อ ก แ บ บ วิ จั วิ ย จั อ ย่ า ง ดี แ ต่ ไ ม่ มีม่ มี ก า ร สุ่ ม ( N o n - r a n d o m i s e d c o n t r olle d t r i al, q u a s i - e x p e r i m e n t ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ก า ร ท บ ท ว น อ ย่ า ง เ ป็ น ร ะ บ บ ข อ ง ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง บ ร ร ย า ย ห รื อ รื ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง คุ ณ ภ า พ ( S y s t e m a t i c r e v i e w s o f q u ali t a t i v e o r d e s c r i p t i v e s t u d i e s ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ง า น วิ จั วิ ย จั เ ดี่ ยดี่ว ที่ เที่ป็ น ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง บ ร ร ย า ย ห รื อ รื ง า น วิ จั วิ ย จั เ ชิ ง คุ ณ ภ า พ ( Q u ali t a t i v e o r d e s c r i p t i v e s t u d i e s ) ห ลั ก ลั ฐ า น ที่ ไที่ด้ จ า ก ผู้ เ ชี่ ย ว ช า ญ ใ น ก ลุ่ ม วิ ช วิ า ชี พ ฉ พ า ะ แ ล ะ ห รื อ รื ร า ย ง า น จ า ก ค ร ะ ก ร ร ม ก า ร ผู้ ท ร ง คุ ณ วุ ฒิ เ ฉ พ า ะ เ รื่ อรื่ง ( O p i n i o n o f a u t h o r i t i e s a n d / o r r e p o r t s o f e x p e r t c o m m i t t e e s ) ร ะ ดั บ ดั 7 ร ะ ดั บ ดั 6 ร ะ ดั บ ดั 5 ร ะ ดั บ ดั 4 ร ะ ดั บ ดั 3 ร ะ ดั บ ดั 2 ร ะ ดั บ ดั 1 ร ะ ดั บ ดั ร ะ ดั บ ดั ค ว า ม น่ า เ ชื่ อ ถื อ ถื ข อ ง E B P ( M ely n k & F i n e o u t - O v e r h olt , 2 0 1 9 )
NRS 3.305 การจัด จั ทําแนวปฏิบัติ บั ติ ทางคลินิก นิ สํา สํ หรับ รั พยาบาล