แผนการจัดการเรยี นรู้
รหสั วชิ า 20105-2004 วิชา เครอื่ งมือวัดไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์
หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวิชาชพี
ประเภทวิชา ช่างอตุ สาหกรรม
สาขาวิชา อิเล็กทรอนกิ ส์ สาขางาน อเิ ล็กทรอนิกส์
จดั ทาโดย
นายสชุ าติ กล่นิ เขยี ว
วิทยาลัยการอาชีพบางแก้ว
อาเภอบางแกว้ จงั หวดั พัทลุง
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
ข
คานา
แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคร่ืองมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา
20105 – 2004 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 กลุ่มทักษะวิชาชีพเฉพาะ
สาขาวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ ผู้จัดทาได้จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชานี้ตรงกับ
จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคาอธิบายรายวิชาท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตรของ
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา การแบ่งหน่วยการเรียนรู้แบ่งเป็น 10 บท ได้แก่
ความรู้พื้นฐานเก่ียวกับเคร่ืองวัดไฟฟ้า แอมมิเตอร์ โวลต์มิเตอร์ โอห์มมิเตอร์ เคร่ืองวัดความ
ต้านทานแบบบริดจ์ วัตต์มิเตอร์และกิโลวัตต์-อาวร์มิเตอร์ มัลติมิเตอร์ เคร่ืองกาเนิดสัญญาณ
และเคร่ืองวัดสัญญาณรูปคลื่นทางไฟฟ้า เครื่องมือวัดค่ากาลังไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ
วดั และทดสอบคณุ สมบัติของอปุ กรณ์ในวงจรไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์
แผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการ
เรียนการสอน หากมขี อ้ เสนอแนะประการใด ผ้จู ัดทายินดนี ้อมรบั ไว้ดว้ ยความขอบคุณยิ่ง
ลงชอื่ ………………………………………. ครูผู้สอน
(นายสชุ าติ กลน่ิ เขียว)
วิทยาลยั การอาชีพบางแกว้ จงั หวัดพัทลงุ
ค
สารบัญ หน้า
ข
คานา ค
สารบญั ง
ลกั ษณะรายวิชา จ
ตารางวเิ คราะห์การเรียนรู้ ฉ
ตารางกาหนดการสอน 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกบั เครื่องวดั ไฟฟ้า 8
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 แอมมิเตอร์ 15
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 โวลตม์ ิเตอร์ 22
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 โอห์มมเิ ตอร์ 29
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 5 เครื่องวัดความตา้ นทานแบบบริดจ์ 34
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 วตั ตม์ ิเตอร์และกิโลวตั ต์-อาวร์มเิ ตอร์ 39
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 มัลติมิเตอร์
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 เครือ่ งกาเนิดสญั ญาณและเคร่ืองวัดสัญญาณรูปคล่ืนทางไฟฟ้า 46
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 เคร่ืองมือวัดค่ากาลังไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 10 วดั และทดสอบคุณสมบตั ขิ องอุปกรณใ์ นวงจรไฟฟ้าและ 53
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 59
วิทยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พทั ลุง
ง
ลกั ษณะรายวชิ า
รหสั วิชา 20105-2004 ชือ่ วิชา เคร่อื งมอื วดั ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
หนว่ ยกิต 2 หน่วยกิต เวลาเรียน 4 ช่วั โมงตอ่ สัปดาห์
_________________________________
จุดประสงคร์ ายวิชา
1. เพื่อใหเ้ ข้าใจโครงสร้าง หลักการทางานและการขยายยา่ นการวัดของเคร่อื งมอื วดั
ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
2. เพอื่ ใหม้ ที กั ษะในการวัด การใช้งานและการบารงุ รักษาเบ้ืองต้นของเคร่อื งมอื วดั
ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ ส์
3. เพ่อื ใหม้ ีกจิ นิสัยในการปฏิบตั ิงานด้วยความละเอยี ดรอบคอบ ถูกต้องและปลอดภยั
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เก่ยี วกับการขยายยา่ นวดั และการใชง้ านเคร่ืองมือวดั ไฟฟา้ และ
อเิ ล็กทรอนกิ ส์
2. วดั และทดสอบคณุ สมบตั ิของอปุ กรณ์ วงจรไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาและปฏิบัติงานเกี่ยวกับโครงสร้าง หลักการทางาน การใช้งานและขยายย่านการ
วัด โวลต์มิเตอร์ แอมมิเตอร์ โอห์มมิเตอร์ และมัลติมิเตอร์แบบใช้เข็ม การใช้งานดิจิตอลมัลติ
มิเตอร์ วัตต์มิเตอร์ (Watt Meter) วาร์มิเตอร์ (VAR Meter) เพาเวอร์แฟกเตอร์ (Power
Factor Meter) ออสซิลโลสโคป เคร่ืองกาเนิดสัญญาณเสียง เครื่องกาเนิดสัญญาณหลาย
รปู คลื่น การวดั และทดสอบคา่ ความต้านทาน อมิ พีแดนซ์ภายในเครอื่ งมือวดั ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า
แรงดนั ไฟฟ้า ความถ่ี กาลงั ไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวัดพทั ลงุ
จ
ตารางวิเคราะห์หลักสตู ร
รหสั วชิ า 20105-2004 ชอ่ื วชิ า เครอ่ื งมอื วัดไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ หน่วยกิต 2 หนว่ ยกติ
ระดับชั้น ปวช.1 สาขาวิชา / กล่มุ วชิ า อิเล็กทรอนิกส์
พฤตกิ รรม พุทธพิ สิ ัย
ชอื่ หน่วย ความรู้
ความเข้าใจ
การนาไปใช้
วิเคราะห์/สังเคราะห์
ประเ ิมนค่า
สร้างสรรค์
ทักษะพิสัย
ิจตพิสัย
ลา ัดบความสาคัญ
จานวนคาบ
1. ความรู้พนื้ ฐานเก่ียวกับเครอื่ งวัด 2 2 1 - - - 1 2 4 8
ไฟฟา้
2. แอมมเิ ตอร์ 1 2 1 1 - - 1 238
3. โวลต์มิเตอร์ 1 2 1 1 - - 1 238
4. โอห์มมเิ ตอร์ 1 2 1 1 - - 1 238
5. เครอื่ งวดั ความตา้ นทานแบบบริดจ์ 2 2 - - - - 1 2 5 4
6. วัตตม์ ิเตอร์และกโิ ลวตั ต-์ อาวร์ 1 2 - - - - 1 254
มิเตอร์
7. มลั ตมิ เิ ตอร์ 2 2 1 1 - - 1 228
8. เครื่องกาเนิดสญั ญาณและ 2 2 1 1 - - 1 228
เครือ่ งวัดสญั ญาณรูปคล่นื ทางไฟฟา้
9. เครือ่ งมอื วัดค่ากาลงั ไฟฟ้าใน 2 2 - - - - 1 254
วงจรไฟฟ้ากระแสสลบั
10. วดั และทดสอบคณุ สมบตั ิของ 2 2 1 1 1 - 1 214
อุปกรณใ์ นวงจรไฟฟา้ และ
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 484211 - - -4
สอบปลายภาค
สดั ส่วน 70 10 20 72
รวม 100
วิทยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พทั ลุง
ฉ
กาหนดการสอน
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ / สมรรถนะประจาหน่วย / สัปดาห์ ชวั่ โมงที่
ท่ี 1–8
รายการสอน เกณฑ์การปฏบิ ตั งิ าน
1–2 9 – 16
1. ความร้พู ืน้ ฐานเกี่ยวกับเครอื่ งวดั ไฟฟา้ สมรรถนะ
1. สัญลกั ษณ์ตา่ งๆ ของเครื่องวดั ไฟฟ้า 1. ปฏิบัตกิ ารอ่านสเกลบนหน้าปัดของโวลต์
2. โครงสรา้ งและส่วนประกอบของเคร่อื งวัด มเิ ตอร์ไดถ้ ูกตอ้ งครบถ้วนตามเกณฑ์ทก่ี าหนด
ชนดิ ขดลวดเคลื่อนที่ 2. แสดงพฤติกรรม ความสนใจใฝร่ ู้ ความ
3. หน่วยการวดั ทางไฟฟา้ รับผดิ ชอบ ความซ่อื สัตย์
4. ความคลาดเคล่ือนจากการวัด เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงาน
5. การอา่ นคา่ สเกลบนหน้าปัดของเครอ่ื งวัด 1. ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความถูกต้องและรอบคอบ
ไฟฟ้า 2. มคี วามสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ ความ
6. การบารุงรักษาเคร่ืองวดั ไฟฟา้ ซ่ือสัตย์
3. นอ้ มนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้
ในการปฏบิ ัติงาน
2. แอมมิเตอร์ สมรรถนะ 3-4
1. โครงสรา้ งและหลกั การทางานของ 1. ปฏบิ ตั กิ ารตอ่ วงจรไฟฟ้าและอา่ นค่า
แอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง กระแสไฟฟ้าจากแอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงได้
2. การคานวณวงจรแอมมเิ ตอรไ์ ฟฟ้า ถูกต้องครบถ้วน และปลอดภัยตามเกณฑ์ท่ี
กระแสตรง กาหนด
3. การขยายยา่ นการวดั กระแสไฟฟา้ ของ 2. แสดงพฤติกรรม ความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์
แอมมเิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง ความรักสามัคคี การมวี ินยั
4. การอ่านสเกลบนหน้าปัดของแอมมเิ ตอร์ เกณฑ์การปฏบิ ตั ิงาน
5. การนาแอมมเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงไปตอ่ 1. ปฏบิ ัตงิ านด้วยความถูกต้องและรอบคอบ
ใช้งาน 2. มีความคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์ ความรักสามัคคี
การมวี ินยั
3. น้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป
ใช้ในการปฏบิ ัตงิ าน
วิทยาลัยการอาชีพบางแก้ว จงั หวัดพัทลงุ
ช
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ / สมรรถนะประจาหนว่ ย / สัปดาห์ ชั่วโมงท่ี
ท่ี 17 – 24
รายการสอน เกณฑ์การปฏิบตั งิ าน
5–6 25 – 32
3. โวลตม์ ิเตอร์ สมรรถนะ
7-8
1. โครงสร้างและหลกั การทางานของโวลต์ 1. ปฏิบัติการต่อวงจรไฟฟ้าและอา่ นค่า
มิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง แรงดันไฟฟา้ จากโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
2. การคานวณวงจรโวลต์มิเตอรไ์ ฟฟา้ ไดถ้ ูกตอ้ งครบถว้ น และปลอดภยั ตามเกณฑ์ที่
กระแสตรง กาหนด
3. การขยายยา่ นการวดั แรงดันไฟฟ้าของ 2. แสดงพฤติกรรม ความมีมนษุ ยสมั พันธ์
โวลตม์ เิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง ความเช่ือมั่นในตนเอง การตรงต่อเวลา
4. การอา่ นสเกลบนหน้าปัดของโวลต์มิเตอร์ เกณฑก์ ารปฏบิ ตั งิ าน
5. การนาโวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงไปต่อ 1. ปฏิบัติงานดว้ ยความถกู ต้องและรอบคอบ
ใชง้ าน 2. มคี วามมีมนุษยสัมพนั ธ์ ความเชือ่ มน่ั ใน
ตนเอง การตรงตอ่ เวลา
3. น้อมนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้
ในการปฏิบตั งิ าน
4. โอห์มมิเตอร์ สมรรถนะ
1. การใชแ้ รงดันไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้า 1. ปฏิบตั ิการอา่ นค่าความตา้ นทานจากตวั
คานวณหาคา่ ความตา้ นทาน ตา้ นทานภายนอกโดยใช้โอห์มมิเตอร์ได้ถูกต้อง
2. โครงสรา้ งของโอห์มมเิ ตอร์เบื้องตน้ ครบถว้ นตามเกณฑท์ ก่ี าหนด
3. โครงสร้างของโอห์มมเิ ตอร์ชนิดอนกุ รม 2. แสดงพฤตกิ รรม การอดทนอดกลั้น ความ
4. โครงสรา้ งของโอห์มมิเตอร์ชนดิ ขนาน สนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ
5. การอ่านสเกลบนหน้าปดั ของโอหม์ มเิ ตอร์ เกณฑ์การปฏบิ ัติงาน
6. การนาโอหม์ มิเตอร์วดั คา่ ความต้านทาน 1. ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความถูกต้องและรอบคอบ
2. มีการอดทนอดกลั้น ความสนใจใฝ่รู้ ความ
รับผิดชอบ
3. นอ้ มนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้
ในการปฏิบตั ิงาน
วทิ ยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พทั ลุง
ซ
ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ / สมรรถนะประจาหน่วย / สัปดาห์ ชั่วโมงท่ี
รายการสอน
เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงาน ที่ 33 – 36
5. เคร่อื งวัดความตา้ นทานแบบบริดจ์
1. เคร่ืองวัดความต้านทานแบบบรดิ จ์ชนดิ สมรรถนะ 9 37 - 44
สมดลุ
2. เคร่อื งวัดความต้านทานแบบบรดิ จช์ นดิ 1. ปฏิบัติการต่อวงจรของเคร่ืองวัดความ
ไมส่ มดลุ
ต้านทานแบบบริดจ์ได้ถูกต้องครบถ้วนตาม
6. วตั ต์มเิ ตอร์และกโิ ลวัตต์-อาวรม์ ิเตอร์
1. ความสัมพนั ธ์ระหว่างกาลงั ไฟฟ้ากบั เกณฑ์ท่ีกาหนด
พลงั งานไฟฟ้า
2. วตั ต์มเิ ตอร์ 2. แสดงพฤติกรรม ความซื่อสตั ย์ ความคดิ
3. กิโลวตั ต์-อาวรม์ ิเตอร์
รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ ความรกั สามัคคี
เกณฑก์ ารปฏบิ ัติงาน
1. ปฏบิ ัตงิ านด้วยความถูกต้องและรอบคอบ
2. มีความซื่อสัตย์ ความคิดริเริม่ สร้างสรรค์
ความรกั สามัคคี
3. นอ้ มนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไป
ใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน
สมรรถนะ 10 - 11
1. ปฏบิ ตั กิ ารต่อวงจรไฟฟ้าทเ่ี กีย่ วข้องกบั วัตต์
มิเตอรแ์ ละกิโลวัตต์-อาวร์มเิ ตอร์ได้ถูกต้อง
ครบถ้วนตามเกณฑ์ทกี่ าหนด
2. แสดงพฤติกรรม การมีวนิ ัย ความมีมนษุ ย
สมั พนั ธ์ ความเชอ่ื มั่นในตนเอง
เกณฑก์ ารปฏิบัติงาน
1. ปฏบิ ตั งิ านด้วยความถูกต้องและรอบคอบ
2. มีการมวี ินัย ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ ความ
เชอื่ มั่นในตนเอง
3. นอ้ มนาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้
ในการปฏิบัติงาน
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พัทลุง
ฌ
ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ / สมรรถนะประจาหนว่ ย / สัปดาห์ ชั่วโมงท่ี
รายการสอน
เกณฑ์การปฏิบตั งิ าน ที่ 45 – 52
7. มลั ติมเิ ตอร์
1. มลั ติมเิ ตอร์ชนิดทีใ่ ช้เขม็ ช้ีเบีย่ งเบน สมรรถนะ 12 – 13 53 – 60
2. มลั ตมิ ิเตอรช์ นดิ ทีใ่ ชต้ ัวเลขดิจิทัล
แสดงผล 1. ปฏิบัติการต่อวงจรไฟฟ้าโดยใช้มัลติมิเตอร์
8. เครอ่ื งกาเนดิ สัญญาณและเครอื่ งวดั วัดค่าปริมาณไฟฟ้าต่างๆ ในวงจรไฟฟ้าได้
สัญญาณรปู คลื่นทางไฟฟา้
1. เคร่ืองกาเนดิ สัญญาณ ถกู ตอ้ งครบถว้ นตามเกณฑ์ท่กี าหนด
2. เครอื่ งวัดสัญญาณรปู คลน่ื ทางไฟฟ้า
2. แสดงพฤติกรรม การตรงตอ่ เวลา การ
อดทนอดกลั้น ความสนใจใฝร่ ู้
เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงาน
1. ปฏิบัติงานด้วยความถกู ต้องและรอบคอบ
2. มกี ารตรงต่อเวลา การอดทนอดกล้ัน
ความสนใจใฝร่ ู้
3. น้อมนาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไป
ใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน
สมรรถนะ 14 – 15
1. ปฏิบัติการต่อวงจรไฟฟ้า การใช้งาน และ
การอ่านค่าปริมาณไฟฟ้าจากเครื่องกาเนิด
สัญญาณและเคร่ืองวัดสัญญาณได้ถูกต้อง
ครบถ้วนตามเกณฑท์ ก่ี าหนด
2. แสดงพฤติกรรม ความรับผิดชอบ ความ
ซ่ือสัตย์ ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์
เกณฑก์ ารปฏิบัตงิ าน
1. ปฏบิ ตั งิ านด้วยความถกู ต้องและรอบคอบ
2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ ความซื่อสัตย์ ความคิด
ริเริ่มสร้างสรรค์
3. นอ้ มนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป
ใช้ในการปฏบิ ตั งิ าน
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวัดพทั ลงุ
ญ
ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ / สมรรถนะประจาหน่วย / สัปดาห์ ช่ัวโมงท่ี
รายการสอน
เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงาน ท่ี 61-64
9. เครือ่ งมือวัดคา่ กาลังไฟฟ้าใน
วงจรไฟฟา้ กระแสสลับ สมรรถนะ 16 65 – 68
1. กาลังไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั
2. เพาเวอร์แฟกเตอรม์ ิเตอร์ 1. ปฏบิ ัตกิ ารนาเพาเวอร์แฟกเตอร์มิเตอร์ไปวดั
3. วารม์ ิเตอร์
ค่าตัวประกอบกาลังในวงจรไฟฟา้ กระแสสลบั
10. วดั และทดสอบคุณสมบัตขิ องอปุ กรณ์
ในวงจรไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ไดถ้ ูกต้อง ครบถว้ น และปลอดภยั ตามเกณฑ์ที่
1. วัดและทดสอบคุณสมบัติของอปุ กรณ์ใน
วงจรไฟฟ้า กาหนด
2. วดั และทดสอบคุณสมบตั ิของอุปกรณ์ใน
วงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ 2. มีความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ ความ
ซือ่ สตั ย์
เกณฑ์การปฏบิ ตั งิ าน
1. ปฏิบัติงานดว้ ยความถูกต้องและรอบคอบ
2. มีความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ ความ
ซ่ือสตั ย์
3. นอ้ มนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไป
ใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน
สมรรถนะ 17
1. ปฏิบัติการวัดและทดสอบคุณสมบัติของ
อุปกรณ์ในวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ได้
ถูกต้อง ครบถ้วน และปลอดภัยตามเกณฑ์ท่ี
กาหนด
2. แสดงพฤตกิ รรม การตรงตอ่ เวลา การ
อดทนอดกล้นั ความสนใจใฝ่รู้
เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงาน
1. ปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความถูกต้องและรอบคอบ
2. มกี ารตรงต่อเวลา การอดทนอดกลัน้
ความสนใจใฝร่ ู้
3. นอ้ มนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป
ใช้ในการปฏิบตั งิ าน
วทิ ยาลัยการอาชีพบางแกว้ จงั หวดั พัทลุง
แผนการเรยี นรู้ท่ี 1
หนว่ ยท่ี 1 จานวน 8 ชัว่ โมง สปั ดาห์ท่ี 1-2
ชอ่ื วชิ า เคร่ืองมือวัดไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ รหัส 20105 - 2004
ช่อื หนว่ ย ความร้พู ้นื ฐานเก่ียวกับเครื่องวัดไฟฟา้
1. สาระสาคัญ
ความรู้พืน้ ฐานในการเรียนรู้เคร่ืองมือวัดไฟฟ้า คือ สัญลักษณ์เคร่อื งวัดไฟฟ้าทาให้เราทราบถึงระบบของ
เคร่ืองวัดไฟฟ้าว่าสามารถจะนาไปใช้งานได้อย่างไร จากนั้นจึงศึกษาโครงสร้างและส่วนประกอบของ
เคร่อื งวดั ชนิดขดลวดเคล่ือนทีม่ ีช่ือเฉพาะ คอื ดีอาร์ซนั วาลมิเตอร์ ใช้ในวงจรไฟฟา้ กระแสตรง มีขวั้ บวกและ
ขั้วลบชัดเจน เวลานาไปใช้งานต้องต่อมิเตอร์ให้ถูกข้ัวด้วย มิเช่นนั้นจะทาให้มิเตอร์พังและเสียหายได้
สาหรับหน่วยการวัดทางไฟฟ้าถือได้ว่ามีความสาคัญเป็นอย่างมากโดยหน่วยทางไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของ
ระบบเอสไอ ประกอบด้วยหนว่ ยฐาน หน่วยอนพุ ทั ธ์ และคานาหน้าหน่วย
ความคลาดเคลื่อนจากการวัดเกิดข้ึนได้หลายสาเหตุ เช่น เครื่องวัดไม่ได้มาตรฐาน ผู้ใช้เครื่อง
วัดและอ่านค่าผิดพลาด ฯลฯ สเกลเคร่ืองวัดไฟฟ้า หมายถึง เส้นแบ่งสัดส่วนแล้วมีตัวเลขคงที่กากับอยู่บน
หน้าปัดมิเตอร์ มีทั้งสเกลคงท่ี และสเกลไม่คงท่ี ซ่ึงสเกลคงท่ี ได้แก่ สเกลของกระแสไฟฟ้ากับแรงดันไฟฟ้า
สว่ นสเกลไม่คงที่ ไดแ้ ก่ ความต้านทาน
2. สมรรถนะประจาหนว่ ย
1. ปฏบิ ัติการอา่ นสเกลบนหน้าปดั ของโวลต์มเิ ตอรไ์ ด้ถกู ตอ้ งครบถ้วนตามเกณฑท์ ีก่ าหนด
2. แสดงพฤติกรรม ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ ความซ่ือสัตย์
3. นาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไป ใชใ้ นการปฏิบตั งิ าน
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพื่อให้รูแ้ ละเข้าใจสญั ลกั ษณต์ ่างๆ ของเครอ่ื งวดั ไฟฟา้ ท่ีใชใ้ นวงจรไฟฟ้า
2. เพือ่ ใหร้ ู้และเขา้ ใจโครงสรา้ งและส่วนประกอบของเครือ่ งวดั ชนิดขดลวดเคลอ่ื นที่
3. เพ่อื ให้รแู้ ละเข้าใจวธิ กี ารเปล่ยี นหน่วยการวดั ทางไฟฟ้า
4. เพือ่ ใหร้ ูแ้ ละเข้าใจสาเหตทุ ี่ทาใหก้ ารวัดปริมาณไฟฟ้าทีใ่ ชเ้ คร่ืองวัดไฟฟ้าเกดิ ความคลาดเคลื่อน
5. เพ่อื ใหร้ แู้ ละเขา้ ใจการอา่ นคา่ สเกลคงท่ีบนหน้าปัดของเครอื่ งวัดไฟฟ้า
6. เพื่อใหร้ ู้และเข้าใจวิธกี ารบารุงรกั ษาเครื่องวัดไฟฟา้
วิทยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวัดพัทลงุ
2
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. บอกสญั ลกั ษณต์ ่างๆ ของเครอ่ื งวัดไฟฟา้ ท่ีใชใ้ นวงจรไฟฟ้าได้
2. อธิบายโครงสรา้ งและสว่ นประกอบของเคร่ืองวดั ชนิดขดลวดเคล่อื นท่ไี ด้
3. บอกวธิ ีการเปลี่ยนหนว่ ยการวดั ทางไฟฟา้ ได้
4. บอกสาเหตทุ ี่ทาใหก้ ารวดั ปริมาณไฟฟา้ ทใี่ ชเ้ ครอ่ื งวัดไฟฟ้าเกดิ ความคลาดเคลอื่ นได้
5. อธบิ ายการอา่ นค่าสเกลคงท่บี นหน้าปัดของเครื่องวดั ไฟฟา้ ได้
6. บอกวิธีการบารงุ รักษาเคร่ืองวดั ไฟฟ้าได้
7. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท์ ่ีสามารถสงั เกตเห็นได้ในด้านความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ ความซอ่ื สัตย์
4. สาระการเรียนรู้
1. สัญลักษณ์ตา่ งๆ ของเคร่ืองวดั ไฟฟา้
2. โครงสรา้ งและสว่ นประกอบของเครื่องวัดชนิดขดลวดเคลอ่ื นที่
3. หนว่ ยการวดั ทางไฟฟ้า
4. ความคลาดเคล่ือนจากการวดั
5. การอ่านคา่ สเกลบนหนา้ ปัดของเคร่ืองวัดไฟฟา้
6. การบารงุ รกั ษาเครื่องวดั ไฟฟา้
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
สอนครง้ั ท่ี 1 ชัว่ โมงที่ 1 – 4
ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรียน
ครูซักถามผู้เรียนเกี่ยวกับเคร่ืองวัดไฟฟ้าทางานได้อย่างไร และมีหน่วยงานใดบ้างท่ีจาเป็นต้องใช้
เครอ่ื งวดั ไฟฟ้า
ขัน้ สอน
1. นักเรียนแบ่งกลุ่มนักเรียน ร่วมกันอภิปรายเกยี่ วกับสญั ลักษณต์ ่างๆ ของเคร่ืองวัดไฟฟ้า แล้วส่ง
ตวั แทนกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
2. ให้นกั เรยี นศึกษาเรอื่ งสญั ลกั ษณ์ตา่ งๆ ของเครือ่ งวัดไฟฟ้า จากหนงั สอื เรยี น
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มพิจารณาเกี่ยวกับโครงสร้างและส่วนประกอบของเคร่ืองวัดชนิดขดลวด
เคลอ่ื นท่ี แล้วใหผ้ ูเ้ รยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันแสดงความคิดเหน็
4. นักเรียนหาข้อมูลเก่ียวกับหน่วยการวัดทางไฟฟ้าและโครงสร้างของเครื่องวัดชนิดขดลวด
เคลื่อนท่ีจากแหล่งการเรยี นร้ตู ่างๆ เช่น ห้องสมดุ อินเทอรเ์ น็ต แลว้ บนั ทกึ ความรู้
วิทยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวัดพทั ลุง
3
5. ครอู ธิบายความร้เู พิ่มเตมิ เกีย่ วกับหน่วยการวดั ทางไฟฟา้ และโครงสรา้ งของเครอ่ื งวัดชนดิ ขดลวด
เคลอื่ นท่ี แล้วเปดิ โอกาสให้ผ้เู รียนซักถามขอ้ สงสัย
ขนั้ สรปุ
1. นักเรียนร่วมกนั อภิปรายสรปุ ความรู้เกยี่ วกับหนว่ ยการวดั ทางไฟฟ้าและการแปลงหน่วย
2. นกั เรียนร่วมกนั ปฏบิ ัติงานเกย่ี วกับการแปลงหน่วยทางไฟฟา้ พรอ้ มท้ังอธิบายเหตุผลประกอบ
3. ครูผู้สอนเนน้ ย้านักเรียนตระหนกั ถงึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและคา่ นิยมหลักของคน
ไทย 12 ประการ ในสว่ นของความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ ความซือ่ สัตย์ ของการปฏิบตั งิ าน
สอนครง้ั ที่ 2 ชวั่ โมงท่ี 5 – 8
ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน
ครูซักถามผู้เรียนเก่ียวกับอะไรเป็นสาเหตุท่ีทาให้การวัดปริมาณไฟฟ้าเกิดความคลาดเคล่ือน และ
เราสามารถควบคุมไดห้ รือไม่
ข้นั สอน
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนจากการวัด แล้วส่งตัวแทน
กลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น
2. ให้นกั เรยี นศกึ ษาเรือ่ งความคลาดเคลื่อนจากการวดั จากหนังสือเรยี น
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มพิจารณาเกี่ยวกับการอ่านค่าสเกลบนหน้าปัดของเคร่ืองวัดไฟฟ้า แล้วให้
ผเู้ รียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันแสดงความคิดเห็น
4. นักเรียนหาข้อมูลเกี่ยวกับการอ่านค่าสเกลบนหน้าปัดของเคร่ืองวัดไฟฟ้า จากแหล่งการเรียนรู้
ต่างๆ เชน่ หอ้ งสมดุ อินเทอร์เนต็ แล้วบนั ทกึ ความรู้
5. ครอู ธิบายความรูเ้ พิม่ เติมเกี่ยวกับการอ่านค่าสเกลบนหนา้ ปดั ของเคร่ืองวดั ไฟฟ้า แลว้ เปดิ โอกาส
ให้ผู้เรียนซักถามขอ้ สงสัย
ขน้ั สรปุ
1. นกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายสรปุ ความรู้เกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนจากการวดั และการอ่านค่าสเกล
บนหนา้ ปดั ของเครอื่ งวัดไฟฟา้
2. นกั เรียนรว่ มกนั ทาแบบฝกึ หัดและแบบทดสอบเรื่อง ความรพู้ นื้ ฐานเกย่ี วกับเครอ่ื งวดั ไฟฟา้
3. ครผู สู้ อนเนน้ ย้าผูเ้ รียนตระหนักถงึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและคา่ นยิ มหลักของคน
ไทย 12 ประการ ในสว่ นของความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผดิ ชอบ ความซ่ือสตั ย์ ของการปฏบิ ัตงิ าน
6. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. PowerPoint ความรู้พน้ื ฐานเกย่ี วกับเครอื่ งวัดไฟฟ้า
2. หนังสอื เครื่องมือวดั ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์
3. ใบความร้เู รือ่ งความรพู้ ้ืนฐานเก่ยี วกบั เคร่ืองวดั ไฟฟ้า
วิทยาลัยการอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พทั ลงุ
4
4. แบบฝกึ หดั ความรูพ้ ื้นฐานเก่ียวกบั เคร่อื งวัดไฟฟา้
5. แบบทดสอบเรอื่ งความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกบั เคร่ืองวัดไฟฟ้า
7. หลกั ฐานการเรียนรู้
หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทาแบบฝึกหดั
3. ผลการตอบคาถามท้ายกจิ กรรม
หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้และแบบประเมินพฤติกรรม
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
วธิ ีวัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบกจิ กรรม
3. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เครื่องมอื วัดผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบท้ายบท
2. แบบประเมนิ กิจกรรม
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียน
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบท้ายบท เกณฑผ์ า่ น 60% ขึน้ ไป
2. แบบประเมนิ กิจกรรม
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กบั การ
ประเมนิ ตามสภาพจริง
วทิ ยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวัดพัทลุง
5
9. บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้
1 ข้อสรปุ หลังการจัดการเรยี นรู้
2 ปญั หาท่พี บ
3 แนวทางแก้ปัญหา
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลงุ
6
ผลท่จี ะเกิดข้นึ กบั นักศึกษาจากการจดั กจิ กรรมการเรียนร้ทู ่บี ูรณาการหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง
1. นักศึกษาจะได้ฝึกคดิ และฝึกปฏบิ ตั ิตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
เงอื่ นไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม
ความรูท้ ่ีผเู้ รยี นตอ้ งมกี ่อนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ คณุ ธรรมของนกั เรียนในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับปฏิบัติการ ผูเ้ รียนมีความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผดิ ชอบ ความซ่ือสัตย์
อ่านสเกลบนหน้าปัดของโวลต์มิเตอร์ได้ถูกต้องครบถ้วน ในการปฏิบัติงาน การบูรณาการกบั ค่านิยมหลักของคน
ตามเกณฑท์ กี่ าหนด ไทย 12 ประการ
ความพอประมาณ ความมเี หตุผล ความมภี ูมคิ ุ้มกนั ในตัวทด่ี ี
1. ผูเ้ รียนเตรยี มเครื่องมืออุปกรณอ์ ย่าง 3. ผเู้ รยี นวิเคราะห์ปฏบิ ัติการ 5. ผู้เรยี นปฏิบัตงิ านดว้ ยความไมป่ ระมาท
เหมาะสมกับการทางานด้วยความ อ่านสเกลบนหน้าปดั ของโวลต์ 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาท่ีสุภาพต่อ
ปลอดภยั มิเตอร์ไดถ้ ูกตอ้ งครบถว้ นตาม บคุ คลอ่นื
2.ผูเ้ รยี นเลือกใช้อุปกรณท์ ่ีนามาทดสอบ เกณฑ์ที่กาหนด
ได้อย่างถูกต้อง
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรู้การใชช้ วี ติ ที่สมดลุ และพรอ้ มรับการเปลย่ี นแปลง 4 มติ ติ ามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียง
จุดมงุ่ หมาย สมดุลและพร้อมรับการเปล่ียนแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นสังคม ด้านสิ่งแวดลอ้ ม ด้านวัฒนธรรม
ดา้ นพุทธิ 1. ผู้เรยี นเตรยี มเครอื่ งมอื 1. ผูเ้ รียนเตรยี ม 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
พิสัย (K) อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกบั เครอื่ งมอื อุปกรณอ์ ย่าง ด้วยความไมป่ ระมาท ด้วยความไมป่ ระมาท
การทางานด้วยความ เหมาะสมกับการ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ 2. ผเู้ รยี นใช้วาจาและ
ปลอดภยั ทางานด้วยความ กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล กิ ริ ย า ที่ สุ ภ า พ ต่ อ
2.ผ้เู รยี นเลอื กใช้อปุ กรณ์ท่ี ปลอดภยั อื่น บคุ คลอื่น
นามาทดสอบได้อย่างถูกต้อง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
3. ผเู้ รยี นวิเคราะห์ปฏิบตั กิ าร ด้วยความไม่ประมาท
อา่ นสเกลบนหนา้ ปดั ของ 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
โวลต์มเิ ตอร์ไดถ้ ูกต้อง กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล
ครบถ้วนตามเกณฑท์ กี่ าหนด อนื่
วทิ ยาลัยการอาชีพบางแก้ว จงั หวัดพัทลุง
7
จุดมุง่ หมาย สมดุลและพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลง
การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสง่ิ แวดล้อม ด้านวัฒนธรรม
ดา้ นทกั ษะ 1. ผู้เรยี นเตรียมเครอ่ื งมอื 1. ผู้เรียนเตรยี ม 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
พสิ ยั (P) อปุ กรณ์อยา่ งเหมาะสมกับ เครอื่ งมอื อปุ กรณอ์ ยา่ ง ด้วยความไม่ประมาท ด้วยความไม่ประมาท
การทางานดว้ ยความ เหมาะสมกับการ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ 2. ผ้เู รียนใช้วาจาและ
ปลอดภยั ทางานด้วยความ กิริยาท่ีสุภาพต่อบุคคล กิ ริ ย า ท่ี สุ ภ า พ ต่ อ
2.ผ้เู รยี นเลือกใช้อุปกรณท์ ี่ ปลอดภยั อน่ื บุคคลอื่น
นามาทดสอบได้อย่างถกู ต้อง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
3. ผเู้ รยี นวเิ คราะห์ปฏบิ ตั กิ าร ด้วยความไม่ประมาท
อา่ นสเกลบนหน้าปัดของ 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
โวลต์มเิ ตอร์ได้ถูกต้อง กิริยาท่ีสุภาพต่อบุคคล
ครบถว้ นตามเกณฑ์ท่กี าหนด อื่น
ด้านจติ 1. ผเู้ รียนเตรยี มเครอ่ื งมือ 1. ผูเ้ รยี นเตรยี ม 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
พิสัย
(A) อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกบั เครอ่ื งมอื อปุ กรณอ์ ย่าง ด้วยความไม่ประมาท ด้วยความไม่ประมาท
การทางานดว้ ยความ เหมาะสมกบั การ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ 2. ผ้เู รยี นใช้วาจาและ
ปลอดภยั ทางานด้วยความ กิริยาท่ีสุภาพต่อบุคคล กิ ริ ย า ที่ สุ ภ า พ ต่ อ
2.ผู้เรยี นเลือกใชอ้ ุปกรณ์ที่ ปลอดภยั อื่น บคุ คลอ่นื
นามาทดสอบได้อยา่ งถูกต้อง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
3. ผูเ้ รียนวิเคราะห์ปฏิบัตกิ าร ด้วยความไม่ประมาท
อา่ นสเกลบนหนา้ ปดั ของ 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
โวลต์มเิ ตอรไ์ ด้ถูกต้อง กิริยาท่ีสุภาพต่อบุคคล
ครบถว้ นตามเกณฑท์ ีก่ าหนด อน่ื
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลงุ
แผนการเรียนรทู้ ี่ 2
หนว่ ยที่ 2 จานวน 8 ชัว่ โมง สปั ดาหท์ ่ี 3 – 4
ช่ือวิชา เครือ่ งมือวัดไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ รหัส 20105 - 2004
ชอื่ หน่วย แอมมเิ ตอร์
1. สาระสาคญั
แอมมิเตอร์ คือ เครื่องมือวัดค่ากระแสไฟฟ้าท่ีไหลอยู่ในวงจรไฟฟ้า ทาให้ทราบถึงผลที่เกิดข้ึนของ
วงจรไฟฟ้าว่าอยู่ในสภาวะปกติหรือผิดปกติ เพราะวงจรไฟฟ้าที่ทางานดีมีประสิทธิภาพจะทาให้
ค่ากระแสไฟฟา้ ไหลไดเ้ ปน็ ปกตแิ ละต่อเน่อื ง
การขยายย่านการวัดของแอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงมีจุดประสงค์เพ่ือต้องการที่จะวัดค่ากระแสไฟฟ้า
อย่างหลากหลายโดยใช้ขดลวดเคล่ือนท่ีเพียงตัวเดียว แล้วนาตัวต้านทานหลายตัวมาต่อเข้ากับระบบเพ่ือ
ป้องกันกระแสไฟฟ้าไหลเกินให้กับขดลวดเคล่ือนที่ ซึ่งแอมมิเตอร์เมื่อนาไปต่อใช้งานจะต้องต่ออนุกรมกับ
โหลดเสมอ
2. สมรรถนะประจาหนว่ ย
1. ปฏิบตั กิ ารต่อวงจรไฟฟ้าและอ่านค่ากระแสไฟฟ้าจากแอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้ถูกต้อง
ครบถว้ น และปลอดภัยตามเกณฑ์ท่กี าหนด
2. แสดงพฤตกิ รรม ความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ความรักสามคั คี การมีวนิ ยั
3. นาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป ใช้ในการปฏิบัติงาน
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. เพื่อใหร้ ูแ้ ละเขา้ ใจโครงสรา้ งและหลักการทางานของแอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
2. เพื่อให้รู้และเข้าใจวธิ กี ารคานวณวงจรแอมมเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง
3. เพอื่ ใหร้ ู้และเขา้ ใจวิธกี ารขยายยา่ นการวัดกระแสไฟฟ้าของแอมมิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง
4. เพื่อใหร้ ู้และเข้าใจวธิ กี ารอา่ นสเกลบนหน้าปดั ของแอมมิเตอร์และวธิ ีการนาแอมมิเตอร์ไฟฟา้
กระแสตรงไปต่อใชง้ าน
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. อธบิ ายโครงสรา้ งและหลกั การทางานของแอมมเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงได้
2. บอกวิธีการคานวณวงจรแอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้
3. บอกวธิ กี ารขยายย่านการวัดกระแสไฟฟ้าของแอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้
4. บอกวิธีการอ่านสเกลบนหน้าปัดของแอมมิเตอรไ์ ด้
5. บอกวิธกี ารนาแอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงไปต่อใชง้ านได้
วิทยาลยั การอาชีพบางแกว้ จงั หวดั พทั ลงุ
9
6. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และคณุ ลักษณะอนั พึง
ประสงค์ท่ีสามารถสงั เกตเหน็ ไดใ้ นด้านความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ความรักสามัคคี การมีวนิ ยั
4. สาระการเรียนรู้
1. โครงสร้างและหลกั การทางานของแอมมเิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
2. การคานวณวงจรแอมมเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง
3. การขยายยา่ นการวดั กระแสไฟฟ้าของแอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง
4. การอา่ นสเกลบนหนา้ ปัดของแอมมิเตอร์
5. การนาแอมมเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงไปตอ่ ใชง้ าน
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
สอนครัง้ ท่ี 3 ช่วั โมงท่ี 9 – 12
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
ครซู ักถามผู้เรยี นเก่ยี วกับแอมมเิ ตอร์คืออะไร และวิธตี ่อใชง้ านแอมมิเตอร์สามารถกระทาได้อยา่ งไร
ข้นั สอน
1. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ รว่ มกันอภิปรายเก่ยี วกบั โครงสร้างและหลกั การทางานของแอมมเิ ตอร์ไฟฟ้า
กระแสตรง แล้วส่งตัวแทนกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
2. ให้นกั เรยี นศกึ ษาเร่ืองโครงสรา้ งและหลกั การทางานของแอมมเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง จาก
หนงั สอื เรียน
2. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ พจิ ารณาเก่ียวกับการคานวณวงจรแอมมเิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง แลว้ ให้
นักเรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกันแสดงความคิดเหน็
3. นักเรยี นหาขอ้ มลู เก่ียวกับหลักการทางานของแอมมเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง จากแหลง่ การเรียนรู้
ตา่ งๆ เชน่ หอ้ งสมุด อินเทอร์เน็ต แล้วบันทกึ ความรู้
4. ครอู ธิบายความร้เู พ่มิ เตมิ เกี่ยวกับการคานวณวงจรแอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง แลว้ เปดิ โอกาส
ให้นกั เรียนซักถามข้อสงสยั
ขั้นสรุป
1. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรุปความรู้เกยี่ วกับการหาค่าความต้านทานภายนอกของแอมมเิ ตอร์
2. นักเรียน ร่วมกันปฏิบัติงานในการหาค่าความต้านทานภายนอกของแอมมิเตอร์ พร้อมอธิบาย
เหตผุ ลประกอบ
วทิ ยาลยั การอาชีพบางแกว้ จงั หวดั พทั ลงุ
10
3. ครูผู้สอนเน้นย้าผู้เรียนตระหนักถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและค่านิยมหลักของคน
ไทย 12 ประการ ในส่วนของความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความรักสามัคคี การมีวินัย ของการ
ปฏบิ ัตงิ าน
สอนครง้ั ท่ี 4 ชัว่ โมงที่ 13 – 16
ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน
ครซู ักถามผู้เรียนเกี่ยวกับการขยายยา่ นการวดั ของแอมมิเตอร์มปี ระโยชน์อย่างไร
ขั้นสอน
1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม ร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกับการขยายยา่ นการวดั กระแสไฟฟ้าของแอมมเิ ตอร์
ไฟฟา้ กระแสตรง แลว้ สง่ ตัวแทนกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน
2. ให้นักเรียนศกึ ษาเร่ืองการขยายยา่ นการวดั กระแสไฟฟา้ ของแอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง จาก
หนงั สือเรียน
3. ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ พิจารณาเก่ียวกบั การอ่านสเกลบนหนา้ ปัดของแอมมเิ ตอร์ แลว้ ให้นกั เรยี น
ร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็
4. นกั เรยี นหาข้อมูลเกีย่ วกบั การนาแอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงไปต่อใช้งาน จากแหล่งการเรยี นรู้
ต่างๆ เชน่ หอ้ งสมุด อนิ เทอรเ์ นต็ แล้วบันทกึ ความรู้
5. ครอู ธบิ ายความรูเ้ พม่ิ เติมเกย่ี วกับการขยายยา่ นการวัดกระแสไฟฟ้าของแอมมเิ ตอร์ไฟฟ้า
กระแสตรง แล้วเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนซักถามขอ้ สงสัย
ข้นั สรปุ
1. นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ ความรเู้ ก่ียวกับการอ่านสเกลบนหนา้ ปดั ของแอมมเิ ตอร์
2. นักเรียนร่วมกันปฏิบัติใบงานการทดลอง แอมมเิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
3. นักเรยี นทาแบบฝึกหดั และทาแบบทดสอบเรื่องแอมมิเตอร์
6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1. PowerPoint เรื่อง แอมมิเตอร์
2. หนังสอื เครื่องมอื วัดไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์
3. ใบความรู้เรื่อง แอมมเิ ตอร์
4. แบบฝกึ หัดเร่ือง แอมมเิ ตอร์
5. แบบทดสอบเร่อื ง แอมมิเตอร์
7. หลักฐานการเรียนรู้
หลักฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
วิทยาลัยการอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พทั ลุง
11
2. ผลการทาแบบฝึกหดั
3. ผลการตอบคาถามท้ายกิจกรรม
หลักฐานการปฏบิ ตั งิ าน
1. ใบงานการทดลอง แอมมิเตอร์
8. การวดั ผลประเมินผล
วธิ วี ัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึง
ประสงค์
เครอื่ งมือวัดผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบท้ายบท
2. แบบประเมินกจิ กรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรียน
ร่วมกนั ประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท เกณฑผ์ า่ น 60% ขึน้ ไป
2. แบบประเมินกจิ กรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การ
ประเมินตามสภาพจริง
วิทยาลัยการอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พทั ลงุ
12
9. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลังการจัดการเรียนรู้
2 ปญั หาท่พี บ
3 แนวทางแก้ปญั หา
วิทยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พัทลงุ
13
ผลท่ีจะเกิดขน้ึ กับนักศกึ ษาจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่บรู ณาการหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นักศึกษาจะได้ฝึกคิดและฝึกปฏบิ ตั ติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
เง่ือนไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม
ความรูท้ ผี่ ู้เรยี นต้องมีก่อนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ คุณธรรมของนักเรยี นในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ผเู้ รียนมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ปฏบิ ตั ิการ ผ้เู รยี นมีความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ ความรักสามัคคี การมี
ต่อวงจรไฟฟา้ และอ่านคา่ กระแสไฟฟ้าจากแอมมิเตอร์ วินยั ในการปฏบิ ัตงิ าน การบูรณาการกับ ค่านิยมหลกั ของ
ไฟฟา้ กระแสตรงได้ถูกต้อง ครบถว้ น และปลอดภยั ตาม คนไทย 12 ประการ
เกณฑ์ที่กาหนด
ความพอประมาณ ความมีเหตุผล ความมภี ูมคิ ุม้ กนั ในตัวท่ดี ี
1. ผ้เู รยี นเตรยี มเคร่อื งมอื อุปกรณ์ 3. ผเู้ รียนอธบิ ายปฏิบตั ิการต่อ 5. ผเู้ รยี นปฏบิ ตั งิ านด้วยความไม่ประมาท
อย่างเหมาะสมกบั การทางานด้วย วงจรไฟฟ้าและอา่ นค่า 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพต่อ
ความปลอดภัย กระแสไฟฟ้าจากแอมมิเตอร์ บคุ คลอน่ื
2.ผู้เรียนเลือกใชอ้ ุปกรณท์ นี่ ามา ไฟฟา้ กระแสตรงไดถ้ ูกต้อง
ทดสอบไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
2. ผ้เู รียนจะได้เรียนรู้การใช้ชวี ิตทสี่ มดลุ และพร้อมรบั การเปลีย่ นแปลง 4 มิติตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
จดุ มุ่งหมาย สมดุลและพร้อมรบั การเปลีย่ นแปลง
การเรียนรู้ ด้านเศรษฐกจิ ด้านสงั คม ด้านสิง่ แวดล้อม ด้านวัฒนธรรม
ดา้ นพทุ ธิ 1. ผเู้ รียนเตรยี มเครอื่ งมือ 1. ผู้เรียนเตรยี มเครือ่ งมอื 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผเู้ รยี น
พสิ ัย (K) อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกับ อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกบั ดว้ ยความไม่ประมาท ปฏบิ ตั ิงานดว้ ย
การทางานดว้ ยความ การทางานดว้ ยความ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ ความไมป่ ระมาท
ปลอดภยั ปลอดภัย กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล 2. ผู้เรียนใช้วาจา
2.ผู้เรยี นเลือกใช้อุปกรณ์ท่ี 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย อื่น และกริ ิยาท่ีสภุ าพ
นามาทดสอบแอมมิเตอร์ได้ ความไม่ประมาท ตอ่ บคุ คลอนื่
อย่างถูกต้อง 3. ผู้เ รี ย นใ ช้ ว าจ า แ ล ะ
3. ผเู้ รียนอธบิ ายปฏบิ ตั ิการต่อ กริ ิยาท่ีสุภาพตอ่ บคุ คลอื่น
วงจรไฟฟ้าและอ่านคา่
กระแสไฟฟา้ จากแอมมเิ ตอร์
ไฟฟ้ากระแสตรงไดถ้ กู ต้อง
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พทั ลุง
14
จดุ มุง่ หมาย สมดลุ และพร้อมรับการเปล่ียนแปลง
การเรียนรู้ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสงั คม ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นทกั ษะ 1. ผ้เู รยี นเตรียมเคร่อื งมอื 1. ผู้เรียนเตรยี มเคร่อื งมอื 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรียน
พิสัย (P) อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกับ อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกับ ด้วยความไม่ประมาท ปฏิบัติงานด้วย
การทางานด้วยความ การทางานด้วยความ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ ความไมป่ ระมาท
ปลอดภยั ปลอดภัย กิริยาท่ีสุภาพต่อบุคคล 2. ผู้เรยี นใชว้ าจา
2.ผู้เรียนเลอื กใช้อปุ กรณ์ท่ี 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย อน่ื และกริ ยิ าทสี่ ภุ าพ
นามาทดสอบแอมมิเตอร์ได้ ความไมป่ ระมาท ต่อบคุ คลอื่น
อยา่ งถูกต้อง 3. ผู้เ รี ย นใ ช้ ว าจ า แ ล ะ
3. ผเู้ รียนอธบิ ายปฏิบัตกิ าร กิริยาท่ีสภุ าพต่อบุคคลอืน่
ตอ่ วงจรไฟฟ้าและอ่านค่า
กระแสไฟฟ้าจาก
แอมมิเตอร์ไฟฟา้
กระแสตรงไดถ้ ูกต้อง
ดา้ นจิต 1. ผู้เรยี นเตรยี มเคร่อื งมอื 1. ผเู้ รยี นเตรียมเครอื่ งมือ 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรยี น
พิสยั อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกับ อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกับ ดว้ ยความไม่ประมาท ปฏิบตั ิงานดว้ ย
(A) การทางานดว้ ยความ การทางานดว้ ยความ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ ความไม่ประมาท
ปลอดภัย ปลอดภัย กิริยาท่ีสุภาพต่อบุคคล 2. ผ้เู รียนใช้วาจา
2.ผเู้ รียนเลือกใช้อปุ กรณ์ท่ี 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย อน่ื และกริ ิยาท่ีสุภาพ
นามาทดสอบแอมมิเตอร์ได้ ความไมป่ ระมาท ต่อบคุ คลอื่น
อยา่ งถูกต้อง 3. ผู้เ รี ย นใ ช้ ว าจ า แ ล ะ
3. ผเู้ รียนอธบิ ายปฏบิ ัตกิ าร กิรยิ าทส่ี ภุ าพตอ่ บคุ คลอื่น
ตอ่ วงจรไฟฟ้าและอา่ นคา่
กระแสไฟฟา้ จาก
แอมมิเตอร์ไฟฟ้า
กระแสตรงไดถ้ ูกต้อง
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พัทลุง
แผนการเรยี นรทู้ ี่ 3
หน่วยท่ี 3 จานวน 8 ช่ัวโมง สปั ดาหท์ ี่ 5-6
ช่อื วชิ า เครื่องมือวัดไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ รหัส 20105 - 2004
ชอื่ หน่วย โวลตม์ เิ ตอร์
1. สาระสาคญั
โวลต์มิเตอร์ คือ เครอ่ื งมือวดั ค่าแรงดันไฟฟ้าตกคร่อมโหลดทอี่ ยใู่ นวงจรไฟฟา้ ทาให้ทราบถงึ ผลที่เกดิ ข้ึน
ของวงจรไฟฟ้าว่าอยู่ในสภาวะปกติหรือผิดปกติ เพราะวงจรไฟฟ้าที่ทางานดีมีประสิทธิภาพจะทาให้ค่า
แรงดันไฟฟ้าทตี่ กครอ่ มโหลดมีค่าคงทแ่ี ละไมเ่ กดิ การเปล่ยี นแปลงมากนัก
การขยายย่านการวัดของโวลต์มิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงมีจุดประสงค์เพื่อต้องการที่จะวัดค่า
แรงดันไฟฟ้าที่หลากหลายโดยใช้ขดลวดเคล่ือนท่ีเพียงตัวเดียว แล้วนาตัวต้านทานหลายตัวมาต่อเข้ากับ
ระบบเพ่ือป้องกันไม่ให้ขดลวดเคลื่อนท่ีพังและเสียหาย ซึ่งโวลต์มิเตอร์เม่ือนาไปต่อใช้งานจะต้องต่อขนาน
กับโหลดเสมอ
2. สมรรถนะประจาหนว่ ย
1. ปฏบิ ัตกิ ารต่อวงจรไฟฟ้าและอ่านค่าแรงดันไฟฟ้าจากโวลต์มเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงได้ถกู ต้อง
ครบถ้วน และปลอดภยั ตามเกณฑ์ทก่ี าหนด
2. แสดงพฤติกรรม ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ ความเชอื่ ม่ันในตนเอง การตรงตอ่ เวลา
3. นาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป ใชใ้ นการปฏิบัติงาน
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงค์ท่ัวไป
1. เพอ่ื ให้รู้และเข้าใจโครงสร้างและหลักการทางานของโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
2. เพอ่ื ให้รู้และเขา้ ใจวิธกี ารคานวณวงจรโวลต์มิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง
3. เพอ่ื ให้รูแ้ ละเขา้ ใจวธิ กี ารขยายย่านการวัดแรงดนั ไฟฟ้าของโวลต์มเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงและ
วิธกี ารอ่านสเกลบนหน้าปดั ของโวลตม์ ิเตอร์
4. เพอ่ื ใหร้ แู้ ละเขา้ ใจวิธกี ารนาโวลต์มิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงไปต่อใช้งาน
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. อธิบายโครงสร้างและหลกั การทางานของโวลตม์ ิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้
2. บอกวธิ กี ารคานวณวงจรโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้
3. บอกวิธีการขยายย่านการวัดแรงดันไฟฟ้าของโวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงได้
4. บอกวิธีการอ่านสเกลบนหนา้ ปดั ของโวลตม์ ิเตอร์ได้
วทิ ยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวัดพัทลุง
16
5. บอกวิธกี ารนาโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงไปต่อใช้งานได้
6. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ และคุณลักษณะอนั พงึ
ประสงค์ทสี่ ามารถสังเกตเห็นได้ในดา้ นความคดิ ริเริม่ สรา้ งสรรค์ ความรกั สามัคคี การมวี ินยั
4. สาระการเรียนรู้
1. โครงสรา้ งและหลกั การทางานของโวลตม์ เิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง
2. การคานวณวงจรโวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง
3. การขยายย่านการวดั แรงดันไฟฟา้ ของโวลต์มเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง
4. การอ่านสเกลบนหน้าปดั ของโวลต์มิเตอร์
5. การนาโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงไปต่อใชง้ าน
5. กิจกรรมการเรียนรู้
สอนครัง้ ที่ 5 ชั่วโมงท่ี 17 – 20
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
ครูซักถามผู้เรียนเกี่ยวกับโวลต์มิเตอร์คืออะไร และวิธีต่อใช้งานโวลต์มิเตอร์สามารถกระทาได้
อย่างไร
ข้นั สอน
1. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม รว่ มกนั อภิปรายเกย่ี วกบั โครงสร้างและหลกั การทางานของ โวลต์มิเตอร์ไฟฟา้
กระแสตรง แลว้ ส่งตัวแทนกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น
2. ให้นกั เรยี นศึกษาเรื่องโครงสรา้ งและหลักการทางานของโวลตม์ ิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง จาก
หนงั สอื เรียน
3. ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มพิจารณาเกยี่ วกบั การคานวณวงจรโวลตม์ ิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง แลว้ ให้
นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น
4. นักเรียนหาข้อมูลเกี่ยวกับหลักการทางานของโวลต์มิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง จากแหล่งการ
เรยี นรตู้ า่ งๆ เช่น ห้องสมดุ อนิ เทอรเ์ นต็ แลว้ บนั ทึกความรู้
5. ครอู ธิบายความรเู้ พิ่มเติมเก่ียวกบั การคานวณวงจรโวลตม์ ิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง แลว้ เปดิ โอกาส
ใหผ้ ู้เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั
ข้ันสรุป
1. นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายสรุปความรู้เก่ียวกับการหาค่าความตา้ นทานภายนอกของโวลตม์ เิ ตอร์
2. นักเรียน ร่วมกนั ปฏิบตั งิ านในการหาค่าความตา้ นทานภายนอกของโวลตม์ เิ ตอร์ พร้อมอธิบาย
เหตผุ ลประกอบ
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวัดพัทลุง
17
3. ครผู ้สู อนเน้นยา้ ผ้เู รียนตระหนักถึงหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและคา่ นยิ มหลกั ของคน
ไทย 12 ประการ ในสว่ นของการความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความเชอื่ มนั่ ในตนเอง การตรงต่อเวลา
ของการปฏิบัตงิ าน
สอนคร้งั ท่ี 6 ชั่วโมงท่ี 21 - 24
ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น
ครซู ักถามผูเ้ รยี นเกี่ยวกบั การขยายย่านการวดั ของโวลตม์ ิเตอร์มีประโยชน์อย่างไร
ขนั้ สอน
1. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ รว่ มกันอภปิ รายเกีย่ วกับการขยายย่านการวัดแรงดนั ไฟฟา้ ของโวลต์มิเตอร์
ไฟฟ้ากระแสตรง แล้วสง่ ตัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น
2. ให้นักเรียนศกึ ษาเรือ่ งการขยายย่านการวดั ของโวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง จากหนังสอื เรียน
3. ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มพจิ ารณาเก่ยี วกบั การอ่านสเกลบนหน้าปัดของโวลต์มเิ ตอร์ แล้วให้นักเรียน
แต่ละกลมุ่ รว่ มกันแสดงความคิดเหน็
4. นักเรียนหาขอ้ มลู เกี่ยวกับการนาโวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงไปต่อใช้งาน จากแหลง่ การเรียนรู้
ต่างๆ เช่น ห้องสมุด อินเทอร์เนต็ แลว้ บนั ทึกความรู้
5. นกั สอนอธิบายความรู้เพิ่มเตมิ เกย่ี วกับการขยายยา่ นการวัดโวลต์มิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง แล้ว
เปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามข้อสงสยั
ขั้นสรุป
1. นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายสรปุ ความรู้เกีย่ วกบั การอ่านสเกลบนหนา้ ปดั ของโวลต์มเิ ตอร์
2. นักเรียนร่วมกนั ปฏบิ ตั ิใบงานการทดลอง เก่ียวกบั การนาโวลตม์ ิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงไปต่อใช้
งานในวงจรไฟฟา้ พรอ้ มอธิบายเหตผุ ลประกอบ
3. นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดและทาแบบทดสอบเรอ่ื งโวลต์มิเตอร์
4. ครูผสู้ อนเน้นย้าผู้เรยี นตระหนักถึงหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและคา่ นยิ มหลักของคน
ไทย 12 ประการ ในสว่ นของการความมีมนุษยสมั พันธ์ ความเชื่อมั่นในตนเอง การตรงตอ่
เวลาของการปฏิบตั ิงาน
6. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1. PowerPoint เรอื่ ง โวลตม์ เิ ตอร์
2. หนังสือเครอ่ื งมอื วดั ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์
3. ใบความรู้เร่อื ง โวลตม์ เิ ตอร์
4. แบบฝึกหดั เรือ่ ง โวลต์มเิ ตอร์
5. แบบทดสอบเรอื่ ง โวลตม์ ิเตอร์
วิทยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พทั ลงุ
18
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทาแบบฝกึ หัด
3. ผลการตอบคาถามท้ายกิจกรรม
หลักฐานการปฏิบตั งิ าน
1. ใบงานการทดลอง โวลตม์ เิ ตอร์
8. การวดั ผลประเมินผล
วธิ ีวัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เครอื่ งมอื วดั ผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมนิ กิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนกั เรยี น
รว่ มกันประเมิน
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท เกณฑผ์ า่ น 60% ข้ึนไป
2. แบบประเมินกจิ กรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมินตามสภาพจรงิ
วทิ ยาลยั การอาชีพบางแกว้ จงั หวดั พทั ลงุ
19
9. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลังการจัดการเรียนรู้
2 ปญั หาท่พี บ
3 แนวทางแก้ปญั หา
วิทยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พัทลงุ
20
ผลที่จะเกิดขึ้นกับนกั ศึกษาจากการจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ี่บูรณาการหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นกั ศึกษาจะได้ฝึกคดิ และฝึกปฏิบัตติ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
เงื่อนไขความรู้ เง่อื นไขคุณธรรม
ความร้ทู ีผ่ ู้เรียนต้องมีก่อนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คณุ ธรรมของนักเรียนในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
- ผ้เู รียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับปฏิบตั ิการต่อ ผเู้ รียนมีความมีมนุษยสัมพันธ์ ความเชือ่ มน่ั ในตนเอง
วงจรไฟฟ้าและอา่ นค่าแรงดนั ไฟฟา้ จากโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้า การตรงต่อเวลา ในการปฏิบัตงิ าน การบรู ณาการกบั ค่านิยม
กระแสตรงไดถ้ ูกต้อง ครบถ้วน และปลอดภัยตามเกณฑท์ ี่ หลกั ของคนไทย 12 ประการ
กาหนด
ความพอประมาณ ความมีเหตุผล ความมีภูมคิ มุ้ กันในตัวทด่ี ี
5. ผ้เู รยี นปฏบิ ัติงานดว้ ยความไมป่ ระมาท
1. ผู้เรยี นเตรยี มเคร่ืองมอื อุปกรณ์อย่าง 3. ผเู้ รยี นอธบิ ายปฏบิ ัตกิ ารต่อ 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาท่ีสุภาพต่อ
บคุ คลอ่นื
เหมาะสมกบั การทางานดว้ ยความ วงจรไฟฟ้าและอ่านค่า
ปลอดภยั แรงดนั ไฟฟ้าจากโวลตม์ ิเตอร์
2.ผูเ้ รียนเลอื กใชอ้ ุปกรณท์ นี่ ามาทดสอบ ไฟฟา้ กระแสตรงไดถ้ ูกต้อง
โวลต์มเิ ตอร์ได้อยา่ งถูกต้อง
2. ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรูก้ ารใชช้ ีวิตที่สมดุลและพรอ้ มรับการเปล่ียนแปลง 4 มติ ติ ามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียง
จดุ มุง่ หมาย สมดุลและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกจิ ด้านสงั คม ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นพุทธิ 1. ผู้เรียนเตรยี มเครอื่ งมอื อปุ กรณ์ 1. ผเู้ รยี นเตรยี มเครื่องมือ 1. ผู้เรยี น 1. ผ้เู รียน
พิสยั (K) อย่างเหมาะสมกบั การทางานดว้ ย อปุ กรณ์อย่างเหมาะสมกับ ปฏิบัตงิ านดว้ ย ปฏบิ ัติงานดว้ ย
ความปลอดภัย การทางานด้วยความ ความไม่ประมาท ความไม่
2.ผ้เู รยี นเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ท่ีนามา ปลอดภยั 2. ผ้เู รียนใชว้ าจา ประมาท
ทดสอบโวลต์มิเตอร์ได้อยา่ งถูกต้อง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกิริยาที่สุภาพ 2. ผเู้ รยี นใช้
3. ผูเ้ รยี นอธิบายปฏบิ ตั กิ ารต่อ ความไมป่ ระมาท ตอ่ บคุ คลอ่นื วาจาและกริ ยิ า
วงจรไฟฟ้าและอ่านค่าแรงดนั ไฟฟา้ 3. ผูเ้ รยี นใช้วาจาและ ทีส่ ภุ าพตอ่
จากโวลต์มิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงได้ กิริยาท่ีสภุ าพต่อบุคคลอ่นื บุคคลอนื่
ถกู ต้อง
วิทยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลุง
21
จดุ ม่งุ หมาย สมดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านวฒั นธรรม
ดา้ นทักษะ 1. ผเู้ รียนเตรยี มเคร่ืองมืออปุ กรณ์ 1. ผูเ้ รยี นเตรียมเครือ่ งมือ 1. ผเู้ รียน 1. ผู้เรียน
พิสยั (P) อยา่ งเหมาะสมกับการทางานด้วย อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกับ ปฏบิ ัตงิ านด้วย ปฏิบัติงานด้วย
ความปลอดภัย การทางานด้วยความ ความไมป่ ระมาท ความไม่
2.ผ้เู รียนเลือกใชอ้ ุปกรณ์ที่นามา ปลอดภัย 2. ผเู้ รยี นใชว้ าจา ประมาท
ทดสอบโวลต์มเิ ตอร์ได้อยา่ งถูกต้อง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกริ ิยาที่สุภาพ 2. ผเู้ รยี นใช้
3. ผู้เรยี นอธบิ ายปฏิบัตกิ ารต่อ ความไม่ประมาท ตอ่ บคุ คลอ่นื วาจาและกริ ิยา
วงจรไฟฟ้าและอา่ นค่าแรงดนั ไฟฟา้ 3. ผ้เู รยี นใชว้ าจาและ ทส่ี ภุ าพต่อ
จากโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้ กริ ยิ าท่ีสภุ าพต่อบุคคลอ่นื บคุ คลอ่ืน
ถกู ต้อง
ดา้ นจติ 1. ผูเ้ รยี นเตรยี มเครอ่ื งมืออปุ กรณ์ 1. ผู้เรียนเตรียมเครอื่ งมือ 1. ผเู้ รียน 1. ผู้เรยี น
พสิ ยั อย่างเหมาะสมกบั การทางานด้วย อปุ กรณ์อย่างเหมาะสมกบั ปฏบิ ัตงิ านด้วย ปฏิบัตงิ านด้วย
(A) ความปลอดภยั การทางานด้วยความ ความไม่ประมาท ความไม่
2.ผู้เรยี นเลอื กใช้อปุ กรณท์ นี่ ามา ปลอดภยั 2. ผเู้ รยี นใช้วาจา ประมาท
ทดสอบโวลต์มเิ ตอร์ได้อยา่ งถูกต้อง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกริ ิยาทส่ี ภุ าพ 2. ผู้เรยี นใช้
3. ผู้เรียนอธบิ ายปฏิบตั ิการต่อ ความไม่ประมาท ต่อบุคคลอน่ื วาจาและกริ ิยา
วงจรไฟฟ้าและอา่ นค่าแรงดนั ไฟฟา้ 3. ผูเ้ รียนใชว้ าจาและ ทส่ี ุภาพต่อ
จากโวลต์มิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงได้ กิรยิ าทส่ี ภุ าพต่อบคุ คลอ่ืน บคุ คลอื่น
ถูกต้อง
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพทั ลงุ
แผนการเรยี นรู้ท่ี 4
หน่วยที่ 4 จานวน 8 ช่ัวโมง สัปดาหท์ ี่ 7 - 8
ชื่อวชิ า เครอื่ งมอื วัดไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ รหัส 20105 - 2004
ช่ือหน่วย โอห์มมเิ ตอร์
1. สาระสาคญั
โอห์มมิเตอร์ คือ เคร่ืองมือวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าของโหลดต่างๆ เช่น ตัวต้านทาน
ขดลวดความร้อน ฯลฯ ทาให้ทราบถึงค่าความตา้ นทานของโหลดว่ามีค่าปกติหรือผิดปกติ ซง่ึ หากโหลดมคี ่า
ความต้านทานท่ไี มเ่ หมาะสมกจ็ ะทาใหร้ ะบบของวงจรไฟฟา้ ทางานผิดพลาดได้
โครงสรา้ งของโอห์มมิเตอรช์ นิดขนานมขี ้อพจิ ารณา คือ ค่าความต้านทานภายนอก Rx จะต่อขนาน
กับเครื่องวัดชนิดขดลวดเคลื่อนท่ี เหมาะสาหรับวัดค่าความต้านทานต่าได้ดี ซึ่งโอห์มมิเตอร์เม่ือจะวัดค่า
ความต้านทานของโหลด จะต้องตัดกระแสไฟฟ้าออกจากโหลดด้วย มิเช่นนั้นอาจทาให้โอห์มมิเตอร์พังและ
เสยี หายได้
2. สมรรถนะประจาหน่วย
1. ปฏบิ ตั กิ ารอา่ นค่าความตา้ นทานจากตวั ต้านทานภายนอกโดยใช้โอห์มมเิ ตอร์ได้ถกู ต้องครบถ้วน
ตามเกณฑ์ทก่ี าหนด
2. แสดงพฤติกรรม การอดทนอดกลั้น ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผิดชอบ
3. นาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไป ใช้ในการปฏิบัตงิ าน
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพื่อใหร้ แู้ ละเขา้ ใจการใชแ้ รงดนั ไฟฟา้ กบั กระแสไฟฟา้ เพื่อคานวณหาคา่ ความตา้ นทาน
2. เพ่อื ใหร้ แู้ ละเข้าใจโครงสรา้ งของโอหม์ มิเตอร์ชนิดอนุกรม ขนาน
3. เพอ่ื ใหร้ ูแ้ ละเขา้ ใจวิธกี ารอา่ นสเกลบนหน้าปัดของโอหม์ มิเตอร์
4. เพอื่ ใหร้ ูแ้ ละเข้าใจวิธกี ารนาโอหม์ มเิ ตอร์ไปวัดคา่ ความตา้ น
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. อธิบายการใชแ้ รงดันไฟฟ้ากับกระแสไฟฟา้ เพื่อคานวณหาคา่ ความต้านทานได้
2. อธบิ ายโครงสร้างของโอหม์ มเิ ตอรเ์ บ้ืองต้นได้
3. อธบิ ายโครงสรา้ งของโอห์มมเิ ตอรช์ นดิ อนุกรมได้
4. อธิบายโครงสรา้ งของโอหม์ มเิ ตอร์ชนดิ ขนานได้
5. บอกวธิ กี ารอ่านสเกลบนหน้าปดั ของโอห์มมิเตอร์ได้
6. บอกวิธีการนาโอหม์ มิเตอร์ไปวดั คา่ ความตา้ นได้
วทิ ยาลยั การอาชีพบางแกว้ จงั หวัดพัทลงุ
23
7. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ และคณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์ทสี่ ามารถสังเกตเห็นได้ในดา้ นการอดทนอดกลน้ั ความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผิดชอบ
4. สาระการเรยี นรู้
1. การใช้แรงดันไฟฟ้ากบั กระแสไฟฟ้าคานวณหาค่าความต้านทาน
2. โครงสร้างของโอห์มมเิ ตอร์เบ้ืองตน้
3. โครงสร้างของโอห์มมเิ ตอร์ชนิดอนกุ รม
4. โครงสร้างของโอห์มมเิ ตอร์ชนดิ ขนาน
5. การอ่านสเกลบนหน้าปดั ของโอหม์ มเิ ตอร์
6. การนาโอหม์ มิเตอร์ไปวัดค่าความต้านทาน
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
สอนครัง้ ที่ 7 ช่ัวโมงที่ 25 – 28
ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น
ครซู ักถามผู้เรียนเกยี่ วกบั โอห์มมเิ ตอรค์ ืออะไร และสามารถใชง้ านได้อยา่ งไร
ขั้นสอน
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม รว่ มกันอภปิ รายเกยี่ วกบั การใชแ้ รงดันไฟฟา้ กับกระแสไฟฟ้าคานวณหาคา่
ความต้านทาน แล้วสง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน
2. ให้นักเรยี นศกึ ษาเร่ืองการใช้แรงดันไฟฟา้ กบั กระแสไฟฟ้าคานวณหาคา่ ความตา้ นทาน จาก
หนงั สอื เรยี น
3. ให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ พจิ ารณาเก่ยี วกบั โครงสรา้ งของโอห์มมเิ ตอรเ์ บ้ืองตน้ และโครงสรา้ งขอ
โอหม์ มเิ ตอรช์ นดิ อนกุ รม แล้วให้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันแสดงความคิดเหน็
4. นักเรยี นหาข้อมูลเก่ยี วกับโอห์มมเิ ตอรช์ นิดอนกุ รม จากแหลง่ การเรยี นร้ตู า่ งๆ เชน่ หอ้ งสมดุ
อินเทอรเ์ น็ต แล้วบันทึกความรู้
5. นกั สอนอธบิ ายความรู้เพ่ิมเตมิ เกีย่ วกับโอหม์ มิเตอรช์ นดิ อนกุ รม แลว้ เปดิ โอกาสให้นกั เรียน
ซกั ถามขอ้ สงสัย
ขั้นสรุป
1. นกั เรยี นร่วมกันอภิปรายสรปุ ความรู้เกี่ยวกบั โครงสร้าง หลักการทางาน และการคานวณวงจร
โอหม์ มเิ ตอร์ชนิดอนกุ รม
2. นักเรียน รว่ มกนั ปฏิบตั งิ านเรือ่ งโอห์มมเิ ตอรช์ นิดอนกุ รม พร้อมอธบิ ายเหตผุ ลประกอบ
วิทยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลงุ
24
3. ครผู ู้สอนเนน้ ย้าผ้เู รียนตระหนกั ถึงหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและค่านยิ มของคนไทย
12 ประการ ในส่วนของการอดทนอดกล้ัน ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผดิ ชอบของการ
ปฏบิ ัตงิ าน
สอนครัง้ ท่ี 8 ชว่ั โมงท่ี 29 – 32
ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น
ครูซักถามผู้เรียนเก่ียวกับมีวิธีการใดบา้ งท่ีเราจะวัดค่าความต้านทานของโหลด เช่น สายไฟฟ้าและ
ขดลวดความรอ้ น ไดโ้ ดยง่าย
ขนั้ สอน
1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม รว่ มกนั อภิปรายเกยี่ วกับโครงสร้างของโอห์มมิเตอรช์ นิดขนาน แลว้ สง่ ตัวแทน
กลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น
2. ให้นักเรยี นศกึ ษาเรือ่ งโครงสรา้ งของโอห์มมิเตอรช์ นิดขนาน จากหนงั สือเรียน
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มพิจารณาเก่ียวกับการอ่านสเกลบนหน้าปัดของโอห์มมิเตอร์ แล้วให้
นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็
4. นักเรียนหาขอ้ มูลเกย่ี วกับการนาโอห์มมิเตอร์ไปวัดค่าความต้านทาน จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
เช่น หอ้ งสมุด อินเทอร์เน็ต แล้วบนั ทึกความรู้
5. ครูอธิบายความรู้เพ่ิมเติมเก่ียวกับโครงสร้างของโอห์มมิเตอร์ชนิดขนาน แล้วเปิดโอกาสให้
นกั เรียนซกั ถามข้อสงสยั
ขนั้ สรปุ
1. นักเรยี นร่วมกันอภิปรายสรปุ ความรเู้ กีย่ วกับการอ่านสเกลและใช้งานของโอห์มมเิ ตอร์
2. นกั เรียนร่วมกันปฏบิ ัติใบงานการทดลอง การต่อใชง้ านโอห์มมิเตอร์เพ่ือวดั ความต้านทานของตัว
ตา้ นทาน พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ
3. นักเรียนทาแบบฝึกหดั และทาแบบทดสอบเรื่องโอหม์ มิเตอร์
4. ครผู สู้ อนเนน้ ยา้ ผู้เรียนตระหนักถงึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและคา่ นยิ มหลกั ของคน
ไทย 12 ประการ ในส่วนของการความมีการอดทนอดกลั้น ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ
ของการปฏบิ ตั ิงาน
6. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. PowerPoint เรอ่ื ง โอห์มมิเตอร์
2. หนังสอื เครื่องมอื วัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
3. ใบความรู้เร่ือง โอหม์ มิเตอร์
4. แบบฝึกหัดเร่อื ง โอห์มมเิ ตอร์
5. แบบทดสอบเร่ือง โอหม์ มิเตอร์
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลุง
25
7. หลกั ฐานการเรียนรู้
หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทาแบบฝึกหดั
3. ผลการตอบคาถามท้ายกิจกรรม
หลกั ฐานการปฏบิ ัติงาน
1. ใบงานการทดลอง เร่อื ง โอหม์ มิเตอร์
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
วิธีวดั ผล
1. ตรวจแบบทดสอบท้ายบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมคา่ นยิ มและคณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์
เครื่องมือวดั ผล
1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบท้ายบท
2. แบบประเมินกิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยครแู ละนกั เรยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบท้ายบท เกณฑผ์ า่ น 60% ขึน้ ไป
2. แบบประเมนิ กิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การ
ประเมนิ ตามสภาพจริง
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลงุ
26
9. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลังการจัดการเรียนรู้
2 ปญั หาท่พี บ
3 แนวทางแก้ปญั หา
วิทยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พัทลงุ
27
ผลทจ่ี ะเกดิ ขึ้นกบั นักศกึ ษาจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ีบรู ณาการหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง
1. นกั ศกึ ษาจะได้ฝกึ คดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ิตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
เงือ่ นไขความรู้ เง่ือนไขคุณธรรม
ความรู้ทผ่ี เู้ รียนตอ้ งมีก่อนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ คุณธรรมของนักเรยี นในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ผู้เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับปฏิบัตกิ าร ผ้เู รียนมีการอดทนอดกล้ัน ความสนใจใฝร่ ู้ ความ
อ่านคา่ ความตา้ นทานจากตวั ต้านทานภายนอกโดยใช้ รับผิดชอบ ในการปฏบิ ตั งิ าน การบูรณาการกับ ค่านยิ ม
โอหม์ มิเตอร์ได้ถูกต้อง ครบถ้วน ตามเกณฑ์ทกี่ าหนด หลักของคนไทย 12 ประการ
ความพอประมาณ ความมีเหตุผล ความมภี ูมคิ ้มุ กันในตัวท่ดี ี
5. ผู้เรยี นปฏบิ ัติงานดว้ ยความไมป่ ระมาท
1. ผู้เรยี นเตรยี มเคร่ืองมอื อปุ กรณอ์ ย่าง 3. ผู้เรียนอธบิ ายปฏิบตั ิการอ่าน 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพต่อ
บคุ คลอืน่
เหมาะสมกับการทางานดว้ ยความ คา่ ความต้านทานจากตัว
ปลอดภยั ต้านทานภายนอกโดยใชโ้ อหม์
2.ผ้เู รยี นเลอื กใชอ้ ปุ กรณท์ นี่ ามาทดสอบ มเิ ตอร์ได้ถูกตอ้ ง
โอหม์ มเิ ตอร์ได้อยา่ งถกู ต้อง
2. ผ้เู รยี นจะได้เรียนรูก้ ารใช้ชวี ิตทีส่ มดุลและพรอ้ มรับการเปล่ยี นแปลง 4 มิตติ ามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
จุดมงุ่ หมาย สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ียนแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกิจ ดา้ นสงั คม ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นพุทธิ 1. ผูเ้ รียนเตรยี มเคร่อื งมืออปุ กรณ์ 1. ผู้เรยี นเตรียมเครอ่ื งมอื 1. ผเู้ รียน 1. ผู้เรยี น
พิสัย (K) อย่างเหมาะสมกับการทางานดว้ ย อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกบั ปฏบิ ัตงิ านดว้ ย ปฏิบตั งิ านดว้ ย
ความปลอดภยั การทางานด้วยความ ความไม่ประมาท ความไม่ประมาท
2.ผ้เู รยี นเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ท่นี ามา ปลอดภัย 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
ทดสอบโอห์มมเิ ตอร์ได้อย่าง และกิริยาที่สุภาพ และกิริยาที่สุภาพ
ถูกต้อง ต่อบุคคลอน่ื ตอ่ บคุ คลอ่นื
วทิ ยาลัยการอาชีพบางแก้ว จงั หวัดพัทลงุ
28
จดุ มงุ่ หมาย สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ียนแปลง
การเรียนรู้ ด้านเศรษฐกจิ ด้านสงั คม ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม ด้านวัฒนธรรม
3. ผู้เรยี นอธบิ ายปฏิบัตกิ ารอ่าน 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย
ค่าความตา้ นทานจากตัวตา้ นทาน ความไม่ประมาท
ภายนอกโดยใช้โอห์มมิเตอร์ได้ 3. ผู้เ รี ย นใ ช้ ว าจ า แ ล ะ
ถกู ต้อง กิรยิ าท่สี ุภาพต่อบุคคลอนื่
ด้านทกั ษะ 1. ผู้เรยี นเตรยี มเคร่ืองมอื อปุ กรณ์ 1. ผเู้ รยี นเตรียมเครื่องมอื 1. ผเู้ รยี น 1. ผเู้ รยี น
พิสยั (P) อย่างเหมาะสมกับการทางานดว้ ย อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกบั ปฏบิ ัตงิ านด้วย ปฏิบัตงิ านดว้ ย
ความปลอดภัย การทางานดว้ ยความ ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
2.ผเู้ รยี นเลือกใช้อปุ กรณ์ท่นี ามา ปลอดภยั 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
ทดสอบโอหม์ มิเตอร์ได้อยา่ ง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกิริยาที่สุภาพ และกิริยาที่สุภาพ
ถกู ต้อง ความไม่ประมาท ตอ่ บุคคลอน่ื ต่อบคุ คลอน่ื
3. ผเู้ รยี นอธบิ ายปฏบิ ัตกิ ารอ่าน 3. ผู้เ รี ย นใ ช้ ว าจ า แ ล ะ
ค่าความต้านทานจากตัวต้านทาน กริ ิยาท่สี ุภาพต่อบุคคลอ่นื
ภายนอกโดยใชโ้ อหม์ มิเตอร์ได้
ถกู ต้อง
ดา้ นจิตพสิ ัย 1. ผู้เรยี นเตรยี มเคร่ืองมอื อปุ กรณ์ 1. ผู้เรยี นเตรียมเคร่อื งมือ 1. ผ้เู รยี น 1. ผเู้ รยี น
(A) อยา่ งเหมาะสมกับการทางานด้วย อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกับ ปฏบิ ัติงานดว้ ย ปฏบิ ัติงานดว้ ย
ความปลอดภัย การทางานดว้ ยความ ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
2.ผเู้ รยี นเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ทน่ี ามา ปลอดภัย 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผูเ้ รียนใช้วาจา
ทดสอบโอหม์ มเิ ตอร์ได้อยา่ ง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกิริยาทส่ี ภุ าพ และกริ ยิ าทสี่ ุภาพ
ถูกต้อง ความไม่ประมาท ต่อบคุ คลอื่น ตอ่ บุคคลอน่ื
3. ผู้เรียนอธิบายปฏิบตั กิ ารอ่าน 3. ผู้เ รี ย นใ ช้ ว าจ า แ ล ะ
ค่าความต้านทานจากตัวต้านทาน กิรยิ าท่ีสุภาพต่อบุคคลอนื่
ภายนอกโดยใช้โอห์มมิเตอร์ได้
ถกู ต้อง
วิทยาลัยการอาชีพบางแกว้ จงั หวดั พทั ลุง
แผนการเรยี นร้ทู ี่ 5
หนว่ ยที่ 5 จานวน 4 ชวั่ โมง สัปดาหท์ ี่ 9
ชอ่ื วิชา เคร่ืองมือวดั ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ รหัส 20105 - 2004
ช่อื หน่วย เครื่องวดั ความต้านทานแบบบริดจ์
1. สาระสาคัญ
เคร่ืองวัดความต้านทานแบบบริดจ์มีหน้าที่หาค่าความต้านทานท่ีไม่ทราบค่าโดยใช้หลักทฤษฎี
วงจรไฟฟ้าเพ่ือเปรียบเทยี บคา่ ความตา้ นทานท่ีต้องการจะทราบค่ากับค่าความต้านทานมาตรฐานท่ีทราบค่า
อยู่แล้ว มี 2 ชนิด คือ เครื่องวัดความต้านทานแบบบริดจ์ชนิดสมดุลกับเคร่ืองวัดความต้านทานแบบบริดจ์
ชนดิ ไมส่ มดลุ
2. สมรรถนะประจาหน่วย
1. ปฏบิ ัตกิ ารต่อวงจรของเครอื่ งวดั ความต้านทานแบบบริดจ์ได้ถกู ต้องครบถ้วนตามเกณฑ์ท่ี
กาหนด
2. แสดงพฤติกรรม ความซ่อื สตั ย์ ความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ ความรักสามคั คี
3. นาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป ใช้ในการปฏบิ ัติงาน
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพ่ือให้รแู้ ละเขา้ ใจหลักการทางานเครื่องวดั ความตา้ นทานแบบบริดจ์ชนดิ สมดลุ
2. เพื่อให้รูแ้ ละเขา้ ใจหลักการทางานเครอ่ื งวัดความตา้ นทานแบบบรดิ จ์ชนดิ ไมส่ มดุล
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. อธิบายหลกั การทางานเคร่ืองวดั ความต้านทานแบบบรดิ จช์ นดิ สมดุลได้
2. อธิบายหลกั การทางานเครื่องวดั ความต้านทานแบบบรดิ จช์ นิดไม่สมดลุ ได้
3. มีการพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงคท์ ่สี ามารถสังเกตเห็นได้ในดา้ นความซ่อื สัตย์ ความคิดริเร่มิ สร้างสรรค์ ความรักสามคั คี
4. สาระการเรียนรู้
1. เครอื่ งวัดความต้านทานแบบบริดจ์ชนดิ สมดุล
2. เคร่ืองวดั ความต้านทานแบบบรดิ จช์ นิดไม่สมดลุ
วิทยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวัดพัทลุง
30
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
สอนคร้งั ที่ 9 ชั่วโมงท่ี 33 - 36
ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
ครซู กั ถามผเู้ รียนเกี่ยวกบั เครอ่ื งวดั ความตา้ นทานแบบบริดจ์คืออะไร มหี นา้ ทอ่ี ย่างไร
ข้นั สอน
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับเคร่ืองวัดความต้านทานแบบบริดจ์ชนิดสมดุล แล้ว
ส่งตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน
2. ให้นักเรยี นศกึ ษาเรื่องเคร่อื งวดั ความต้านทานแบบบรดิ จช์ นดิ สมดลุ จากหนังสือเรียน
3. ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ พิจารณาเก่ียวกับตวั อย่างการคานวณวงจรบรดิ จช์ นดิ สมดลุ แลว้ ให้
นกั เรยี น แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั แสดงความคิดเหน็
4. นกั เรยี นหาขอ้ มลู เก่ียวกับเครื่องวดั ความต้านทานแบบบริดจช์ นดิ ไมส่ มดุล จากแหลง่ การเรียนรู้
ต่างๆ เช่น หอ้ งสมุด อนิ เทอรเ์ นต็ แลว้ บนั ทกึ ความรู้
5. ครอู ธิบายความรูเ้ พิม่ เตมิ เกยี่ วกบั โจทย์ตวั อยา่ งการคานวณวงจรบรดิ จต์ า่ งๆ แลว้ เปดิ โอกาสให้
นกั เรยี นซกั ถามขอ้ สงสัย
ขั้นสรปุ
1. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรุปความรเู้ ก่ยี วกับเครอ่ื งวัดความต้านทานแบบบรดิ จ์
2. นักเรยี นรว่ มกันปฏบิ ตั ใิ บงานการทดลอง เคร่อื งวดั ความต้านทานแบบบรดิ จพ์ ร้อมอธบิ าย
เหตผุ ลประกอบ
3. นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั และทาแบบทดสอบเรอ่ื งเคร่ืองวดั ความต้านทานแบบบรดิ จ์
4. ครูผสู้ อนเน้นยา้ ผ้เู รยี นตระหนกั ถึงหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและ คา่ นยิ มของคนไทย
12 ประการ ในสว่ นของความซื่อสตั ย์ ความคิดรเิ รมิ่ สร้างสรรค์ ความรักสามคั คีของการ
ปฏิบัติงาน
6. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้
1. PowerPoint เรอ่ื ง เครอ่ื งวดั ความต้านทานแบบบรดิ จ์
2. หนงั สือเคร่อื งมอื วดั ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์
3. ใบความรู้เรือ่ ง เคร่อื งวัดความต้านทานแบบบริดจ์
4. แบบฝึกหดั เรอ่ื ง เครือ่ งวัดความต้านทานแบบบริดจ์
5. แบบทดสอบเรอื่ ง เครอ่ื งวดั ความต้านทานแบบบรดิ จ์
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พทั ลงุ
31
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทาแบบฝกึ หัด
3. ผลการตอบคาถามท้ายกิจกรรม
หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1. ใบงานการทดลองเรอ่ื ง เคร่ืองวัดความตา้ นทานแบบบริดจ์
8. การวัดผลประเมินผล
วิธวี ดั ผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เครื่องมอื วดั ผล
1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมินกิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบท้ายบท เกณฑผ์ ่าน 60% ขึน้ ไป
2. แบบประเมินกิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การ
ประเมินตามสภาพจริง
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พทั ลงุ
32
9. บันทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้
1 ขอ้ สรุปหลังการจัดการเรียนรู้
2 ปญั หาทพ่ี บ
3 แนวทางแก้ปัญหา
ผลทีจ่ ะเกิดขึ้นกบั นกั ศกึ ษาจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูท้ ีบ่ ูรณาการหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
1. นักศกึ ษาจะไดฝ้ ึกคิดและฝกึ ปฏบิ ัตติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
เงื่อนไขความรู้ เงือ่ นไขคุณธรรม
ความรทู้ ผี่ ้เู รียนต้องมีก่อนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ คณุ ธรรมของนกั เรยี นในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
- ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปฏิบัติการต่อ ผูเ้ รยี นมีความซ่ือสตั ย์ ความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ ความรัก
วงจรของเครื่องวัดความต้านทานแบบบริดจ์ได้ถูกต้อง สามคั คีในการปฏิบัตงิ าน การบรู ณาการกับ ค่านยิ มหลัก
ครบถว้ นตามเกณฑ์ทก่ี าหนด ของคนไทย 12 ประการ
ความพอประมาณ ความมเี หตุผล ความมภี ูมิค้มุ กนั ในตัวทด่ี ี
1. ผ้เู รยี นเตรยี มเครอื่ งมืออุปกรณ์อย่าง 3. ผเู้ รียนอธิบายปฏบิ ตั ิการต่อ 5. ผูเ้ รียนปฏิบตั ิงานดว้ ยความไม่ประมาท
เหมาะสมกบั การทางานดว้ ยความ วงจรของเคร่ืองวัดความ 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาท่ีสุภาพต่อ
ปลอดภยั ต้านทานแบบบริดจ์ได้ถูกต้อง บุคคลอ่นื
2.ผู้เรยี นเลือกใชอ้ ุปกรณท์ นี่ ามาทดสอบ
เครื่องวัดความต้านทานแบบบรดิ จ์ได้
อยา่ งถูกต้อง
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพัทลงุ
33
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นร้กู ารใช้ชีวิตทีส่ มดลุ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง 4 มิติตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพยี ง
จุดมุ่งหมาย สมดลุ และพร้อมรบั การเปลยี่ นแปลง
การเรียนรู้
ด้านเศรษฐกิจ ดา้ นสงั คม ด้านส่ิงแวดลอ้ ม ด้านวฒั นธรรม
ดา้ นพุทธิ 1. ผเู้ รยี นเตรียมเครอ่ื งมอื 1. ผู้เรียนเตรยี ม 1. ผู้เรยี น 1. ผู้เรียน
พสิ ยั (K) อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกับการ เครื่องมอื อปุ กรณอ์ ยา่ ง ปฏิบัตงิ านด้วย ปฏบิ ตั งิ านดว้ ย
ทางานดว้ ยความปลอดภยั เหมาะสมกับการทางาน ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
2.ผเู้ รียนเลือกใช้อปุ กรณ์ท่ีนามา ดว้ ยความปลอดภัย 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
ทดสอบเครื่องวดั ความต้านทาน 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกิริยาท่ีสุภาพ และกิริยาท่ีสุภาพ
แบบบริดจไ์ ได้อย่างถูกต้อง ความไมป่ ระมาท ตอ่ บุคคลอน่ื ตอ่ บุคคลอื่น
3. ผู้เรียนอธิบายปฏิบตั ิการต่อ 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
วงจรของเคร่ืองวัดความต้านทาน กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล
แบบบรดิ จ์ได้ถกู ต้อง อน่ื
ด้านทกั ษะ 1. ผู้เรยี นเตรยี มเครอ่ื งมอื 1. ผู้เรยี นเตรียม 1. ผเู้ รยี น 1. ผู้เรยี น
พิสยั (P) อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกบั การ เคร่อื งมืออุปกรณอ์ ย่าง ปฏบิ ัตงิ านดว้ ย ปฏิบตั งิ านดว้ ย
ทางานดว้ ยความปลอดภยั เหมาะสมกับการทางาน ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
2.ผูเ้ รยี นเลอื กใช้อุปกรณท์ น่ี ามา ดว้ ยความปลอดภัย 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
ทดสอบเคร่ืองวัดความต้านทาน 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกิริยาที่สุภาพ และกิริยาท่ีสุภาพ
แบบบรดิ จไ์ ได้อยา่ งถูกต้อง ความไม่ประมาท ตอ่ บุคคลอน่ื ต่อบุคคลอ่ืน
3. ผเู้ รยี นอธบิ ายปฏบิ ัติการต่อ 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
วงจรของเคร่ืองวดั ความตา้ นทาน กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล
แบบบริดจไ์ ด้ถกู ต้อง อน่ื
ดา้ นจิตพสิ ัย 1. ผเู้ รยี นเตรียมเครื่องมือ 1. ผูเ้ รยี นเตรียม 1. ผเู้ รยี น 1. ผู้เรยี น
(A) อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกบั การ เครือ่ งมอื อปุ กรณอ์ ย่าง ปฏิบัติงานดว้ ย ปฏิบตั ิงานด้วย
ทางานด้วยความปลอดภยั เหมาะสมกบั การทางาน ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
2.ผู้เรยี นเลอื กใชอ้ ุปกรณ์ที่นามา ด้วยความปลอดภัย 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
ทดสอบเครื่องวัดความต้านทาน 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกิริยาท่ีสุภาพ และกิริยาที่สุภาพ
แบบบรดิ จ์ไได้อยา่ งถูกตอ้ ง ความไม่ประมาท ต่อบุคคลอ่นื ตอ่ บุคคลอน่ื
3. ผู้เรียนอธบิ ายปฏิบัตกิ ารต่อ 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
วงจรของเครื่องวัดความตา้ นทาน กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล
แบบบรดิ จ์ได้ถกู ต้อง อน่ื
วทิ ยาลยั การอาชีพบางแก้ว จงั หวดั พัทลุง
34
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวัดพทั ลงุ
แผนการเรียนรู้ที่ 6
หนว่ ยที่ 6 จานวน 12 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ี่ 10-11
ช่อื วชิ า เครอ่ื งมือวดั ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ รหัส 20105 - 2004
ช่อื หนว่ ย วตั ตม์ เิ ตอรแ์ ละกโิ ลวตั ต์-อาวร์มเิ ตอร์
1. สาระสาคญั
วัตต์มิเตอร์ คือ เครื่องมือวัดค่ากาลังไฟฟ้าจริงของโหลด เกิดจากกระแสไฟฟ้าของโหลดและ
แรงดันไฟฟ้าของโหลดนามาคูณกัน ส่วนกิโลวัตต์-อาวร์มิเตอร์เป็นเคร่ืองมือวัดพลังงานไฟฟ้า เรียกว่า
กโิ ลวัตต์-ช่วั โมง หรือยูนติ
2. สมรรถนะประจาหนว่ ย
1. ปฏิบัติการต่อวงจรไฟฟ้าท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั วตั ตม์ เิ ตอร์และกิโลวตั ต์-อาวร์มิเตอร์ได้ถูกตอ้ งครบถว้ น
ตามเกณฑ์ท่ีกาหนด
2. แสดงพฤตกิ รรม การมวี ินยั ความมมี นษุ ยสมั พนั ธ์ ความเชอื่ มัน่ ในตนเอง
3. นาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไป ใชใ้ นการปฏิบตั งิ าน
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จุดประสงค์ท่ัวไป
1. เพื่อใหร้ ูแ้ ละเขา้ ใจความสัมพันธ์ระหวา่ งกาลังไฟฟา้ กับพลงั งานไฟฟ้า
2. เพอ่ื ใหร้ ูแ้ ละเขา้ ใจโครงสร้างของวตั ตม์ เิ ตอรช์ นดิ อิเล็กโทรไดนาโมมเิ ตอร์ และโครงสรา้ งของ
กิโลวตั ต์-อาวร์มิเตอร์ 1 เฟส 2 สาย
3. เพอ่ื ใหร้ ้แู ละเขา้ ใจวธิ กี ารนาวัตตม์ เิ ตอร์ไปตอ่ ใช้งานในระบบไฟฟา้
4. เพอ่ื ให้รแู้ ละเขา้ ใจวธิ ีการอ่านค่ากาลังไฟฟ้าจากวตั ตม์ ิเตอร์
จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหวา่ งกาลงั ไฟฟ้ากบั พลังงานไฟฟ้าได้
2. อธบิ ายโครงสรา้ งของวตั ต์มิเตอร์ชนิดอิเล็กโทรไดนาโมมิเตอรไ์ ด้
3. บอกวิธีการนาวัตต์มเิ ตอร์ไปต่อใช้งานในระบบไฟฟ้าได้
4. บอกวิธีการอา่ นคา่ กาลงั ไฟฟ้าจากวัตต์มิเตอร์ได้
5. อธิบายโครงสรา้ งของกโิ ลวตั ต์-อาวร์มเิ ตอร์ 1 เฟส 2 สายได้
6. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ และคณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงคท์ ี่สามารถสงั เกตเหน็ ไดใ้ นดา้ นการมีวนิ ยั ความมมี นษุ ยสัมพันธ์ ความเช่ือม่นั ในตนเอง
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพทั ลุง
35
4. สาระการเรยี นรู้
1. ความสมั พันธ์ระหว่างกาลงั ไฟฟ้ากบั พลงั งานไฟฟา้
2. วตั ต์มเิ ตอร์
3. กิโลวัตต์-อาวร์มเิ ตอร์
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
สอนครงั้ ที่ 10 – 11 ชวั่ โมงที่ 37 – 44
ข้นั นาเขา้ สุ่บทเรยี น
ครซู ักถามผ้เู รียนเกย่ี วกับวัตต์มิเตอร์และกโิ ลวตั ต์-อาวร์มิเตอร์คืออะไร สามารถนาไปใช้งานได้
อยา่ งไร
ขน้ั สอน
1. นักเรียนแบ่งกล่มุ รว่ มกันอภปิ รายเกยี่ วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกาลงั ไฟฟา้ กับพลงั งานไฟฟา้
แลว้ สง่ ตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรียน
2. ให้นักเรยี นศึกษาเร่อื งความสมั พนั ธ์ระหวา่ งกาลังไฟฟ้ากับพลงั งานไฟฟ้า จากหนังสอื เรยี น
3. ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ พิจารณาเกี่ยวกบั วัตต์มิเตอร์ แลว้ ใหผ้ ้เู รียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั แสดงความ
คดิ เหน็
4. นักเรยี นหาขอ้ มูลเกยี่ วกับกโิ ลวตั ต์-อาวร์มิเตอร์ จากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ งๆ เชน่ ห้องสมดุ
อนิ เทอรเ์ น็ต แล้วบนั ทกึ ความรู้
5. ครอู ธิบายความรู้เพม่ิ เตมิ เกีย่ วกบั การอ่านค่ากาลังไฟฟา้ จากวัตตม์ ิเตอร์ แล้วเปิดโอกาสใหผ้ ้เู รยี น
ซกั ถามข้อสงสัย
ข้ันสรุป
1. นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายสรุปความรเู้ กี่ยวกบั วิธตี ่อใชง้ านวตั ต์มิเตอรแ์ ละกิโลวัตต์-อาวร์มิเตอร์
2. นักเรียนรว่ มกันปฏิบตั ใิ บงานการทดลอง การต่อใช้งานวัตตม์ ิเตอร์และกิโลวัตต์-อาวร์มิเตอร์
พรอ้ มอธิบายเหตผุ ลประกอบ
3. นักเรียนทาแบบฝึกหัดและทาแบบทดสอบเรอ่ื งเครื่องวัดความตา้ นทานแบบบรดิ จ์
4. ครูผู้สอนเน้นย้าผเู้ รียนตระหนกั ถึงหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและคา่ นยิ มของคนไทย
12 ประการ ในส่วนของการมีวนิ ยั ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความเช่อื มน่ั ในตนเอง ของการ
ปฏบิ ัตงิ าน
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพทั ลงุ
36
6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1. PowerPoint เร่ือง วัตตม์ ิเตอรแ์ ละกโิ ลวัตต์-อาวรม์ เิ ตอร์
2. หนังสือเคร่อื งมือวดั ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์
3. ใบความรู้เรือ่ ง วัตตม์ เิ ตอรแ์ ละกิโลวตั ต์-อาวร์มิเตอร์
4. แบบฝึกหดั เร่อื ง วตั ตม์ เิ ตอร์และกิโลวัตต์-อาวรม์ ิเตอร์
5. แบบทดสอบเรอ่ื ง วตั ตม์ เิ ตอร์และกโิ ลวตั ต์-อาวร์มิเตอร์
7. หลกั ฐานการเรียนรู้
หลักฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทาแบบฝึกหัด
3. ผลการตอบคาถามท้ายกจิ กรรม
หลกั ฐานการปฏบิ ตั งิ าน
1. ใบงานการทดลองเรอื่ ง วตั ตม์ ิเตอรแ์ ละกโิ ลวตั ต์-อาวร์มิเตอร์
8. การวดั ผลประเมินผล
วธิ ีวดั ผล
1. ตรวจแบบทดสอบท้ายบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เคร่ืองมือวัดผล
1. แบบประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบท้ายบท
2. แบบประเมินกิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและนกั เรียน
รว่ มกันประเมิน
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. แบบประเมินผลการทาแบบทดสอบทา้ ยบท เกณฑผ์ ่าน 60% ข้นึ ไป
2. แบบประเมนิ กจิ กรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพัทลุง
37
9. บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้
1 ข้อสรุปหลังการจัดการเรยี นรู้
2 ปญั หาทีพ่ บ
3 แนวทางแก้ปญั หา
ผลทจ่ี ะเกดิ ขึ้นกบั นกั ศกึ ษาจากการจดั กิจกรรมการเรียนรูท้ บ่ี รู ณาการหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
1. นักศกึ ษาจะไดฝ้ กึ คดิ และฝึกปฏบิ ตั ิตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
เงื่อนไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม
ความรทู้ ผ่ี เู้ รียนต้องมกี ่อนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ คุณธรรมของนกั เรยี นในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ผ้เู รียนมคี วามรูค้ วามเข้าใจเก่ยี วกบั ปฏบิ ัตกิ าร ผ้เู รียนมีการมวี นิ ัย ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความเช่ือมั่น
ต่อวงจรไฟฟา้ ทเี่ ก่ียวข้องกบั วตั ต์มิเตอร์และกโิ ลวัตต์- ในตนเอง ในการปฏิบตั งิ าน การบูรณาการกบั ค่านิยมหลัก
อาวร์มิเตอร์ไดถ้ ูกต้องครบถว้ น ตามเกณฑ์ที่กาหนด ของคนไทย 12 ประการ
ความพอประมาณ ความมีเหตุผล ความมภี ูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี
1. ผู้เรยี นเตรียมเคร่ืองมืออุปกรณ์ 3. ผู้เรยี นอธบิ ายปฏิบัติการต่อ 5. ผู้เรยี นปฏิบตั ิงานดว้ ยความไม่ประมาท
อยา่ งเหมาะสมกับการทางานด้วย วงจรไฟฟ้าท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั วตั ต์ 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพต่อ
ความปลอดภยั มิเตอรแ์ ละกิโลวตั ต์-อาวร์มเิ ตอร์ บุคคลอน่ื
2.ผ้เู รียนเลือกใช้อปุ กรณ์ทนี่ ามา ไดถ้ ูกต้อง
ทดสอบวัตต์มิเตอรแ์ ละกิโลวัตต์-อาวร์
มเิ ตอร์ได้อยา่ งถูกต้อง
วิทยาลยั การอาชีพบางแกว้ จงั หวดั พัทลงุ
38
2. ผ้เู รียนจะได้เรยี นรู้การใชช้ ีวิตที่สมดุลและพร้อมรับการเปลย่ี นแปลง 4 มติ ิตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
จุดมุ่งหมาย สมดุลและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลง
การเรียนรู้ ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านสงั คม ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม ด้านวฒั นธรรม
ด้านพุทธิ 1. ผู้เรียนเตรยี มเคร่อื งมือ 1. ผเู้ รียนเตรยี ม 1. ผเู้ รียน 1. ผู้เรยี น
พสิ ัย (K) อปุ กรณ์อยา่ งเหมาะสมกบั การ เคร่ืองมอื อุปกรณอ์ ยา่ ง ปฏิบัติงานดว้ ย ปฏิบตั ิงานด้วย
ทางานดว้ ยความปลอดภยั เหมาะสมกับการทางาน ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
2.ผ้เู รียนเลอื กใชอ้ ุปกรณ์ท่ีนามา ดว้ ยความปลอดภยั 2. ผเู้ รยี นใช้วาจา 2. ผเู้ รยี นใชว้ าจา
ทดสอบวตั ต์มเิ ตอร์และกิโลวตั ต์- 2. ผูเ้ รียนปฏิบัตงิ านด้วย และกริ ยิ าท่สี ภุ าพ และกิรยิ าที่สภุ าพ
อาวร์มเิ ตอร์ได้อย่างถูกต้อง ความไมป่ ระมาท ตอ่ บคุ คลอ่ืน ตอ่ บุคคลอ่นื
3. ผเู้ รียนอธบิ ายปฏิบัติการต่อ 3. ผ้เู รียนใชว้ าจาและ
วงจรไฟฟ้าทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั วัตต์ กริ ิยาทีส่ ภุ าพต่อบุคคล
มเิ ตอร์และกโิ ลวตั ต์-อาวร์มเิ ตอร์ อนื่
ไดถ้ ูกต้อง
ดา้ นทักษะ 1. ผู้เรยี นเตรียมเคร่ืองมือ 1. ผู้เรียนเตรียม 1. ผเู้ รยี น 1. ผู้เรยี น
พสิ ัย (P) อปุ กรณ์อย่างเหมาะสมกบั การ เครือ่ งมืออปุ กรณ์อย่าง ปฏิบตั งิ านด้วย ปฏบิ ตั ิงานด้วย
ทางานดว้ ยความปลอดภยั เหมาะสมกับการทางาน ความไมป่ ระมาท ความไม่ประมาท
2.ผ้เู รยี นเลอื กใช้อุปกรณ์ทน่ี ามา ด้วยความปลอดภยั 2. ผเู้ รยี นใช้วาจา 2. ผู้เรยี นใช้วาจา
ทดสอบวตั ตม์ ิเตอรแ์ ละกโิ ลวตั ต์- 2. ผเู้ รยี นปฏิบัติงานดว้ ย และกิริยาทสี่ ภุ าพ และกริ ยิ าทีส่ ภุ าพ
อาวร์มเิ ตอร์ได้อย่างถูกต้อง ความไม่ประมาท ตอ่ บุคคลอน่ื ต่อบคุ คลอื่น
3. ผู้เรียนอธิบายปฏิบัติการต่อ 3. ผู้เรยี นใช้วาจาและ
วงจรไฟฟ้าท่ีเก่ียวข้องกับวัตต์ กิรยิ าที่สภุ าพต่อบคุ คล
มิเตอร์และกิโลวัตต์-อาวร์มิเตอร์ อื่น
ได้ถกู ต้อง
ดา้ นจติ 1. ผ้เู รยี นเตรยี มเครอื่ งมอื อุปกรณ์ 1. ผเู้ รยี นเตรยี มเคร่อื งมือ 1. ผูเ้ รยี น 1. ผเู้ รียน
พิสัย อย่างเหมาะสมกับการทางานดว้ ย ปฏิบตั ิงานด้วย
(A) ความปลอดภยั อปุ กรณอ์ ย่างเหมาะสมกบั ปฏบิ ัตงิ านด้วย ความไม่ประมาท
2.ผเู้ รียนเลอื กใช้อปุ กรณ์ท่นี ามา การทางานด้วยความ 2. ผเู้ รยี นใชว้ าจา
ทดสอบกบั วงจรดจิ ติ อลได้อยา่ ง ความไม่ประมาท และกริ ิยาท่สี ุภาพ
ถกู ต้อง ปลอดภยั ต่อบคุ คลอื่น
3. ผเู้ รียนอธบิ ายปฏบิ ตั กิ ารตอ่ 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย 2. ผูเ้ รยี นใชว้ าจา
วงจรไฟฟา้ ทเ่ี กีย่ วข้องกับวตั ต์มเิ ตอร์ ความไม่ประมาท และกริ ยิ าทส่ี ุภาพ
และกิโลวตั ต-์ อาวร์มิเตอร์ไดถ้ กู ตอ้ ง
3. ผู้เรยี นใช้วาจาและกิรยิ า ตอ่ บุคคลอื่น
ทสี่ ภุ าพต่อบคุ คลอ่ืน
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพทั ลุง
39
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวัดพทั ลงุ