ใบงานที่ 1.1 เรื่องอะตอม จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. อนุภาค คือ ............................................................................................................................. .............................. 2. อะตอมของธาตุประกอบด้วย ............................................................................................................................... 3. โปรตอนและนิวตรอนอยู่รวมกันตรงศูนย์กลางของอะตอม เรีกว่า ....................................................................... 4. จงบอกประจุไฟฟ้าของอนุภาคต่อไปนี้ โปรตอน ................................................................................. อิเล็กตรอน ............................................................................. นิวตรอน ................................................................................ 5. จงระบุอนุภาคของÿารประกอบต่อไปนี้ 6. จงบอกชื่อแบบจำลองอะตอม และอธิบายแนวคิดแบบจำลองอะตอมจากรูปภาพที่กำĀนดใĀ้ แบบจำลองอะตอมของ................................... แนวคิด คือ........................................................... ............................................................................... ............................................................................... แบบจำลองอะตอมของ................................... แนวคิด คือ........................................................... ............................................................................... ............................................................................... แบบจำลองอะตอมของ................................... แนวคิด คือ........................................................... ............................................................................... ............................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... แบบจำลองอะตอมของ................................... แนวคิด คือ........................................................... ............................................................................... ............................................................................... หน่วย ที่ ใช้เรียก ส่วนที่ มีขนาด เล็กของสสาร 3 ชนิด คือลิ เล็ก ตรอนโปรตอนและ นิวตรอน นิวเคลียส + I - · นิวตรอน นิวเคลียส โปรตอน อิเล็กตรอน จอห์น ดอลตัน รัทเทอร์ฟอร์ด อะตลม มีลักษณะเป็นทรงกลมตัน มีขนาดเล็กมาก อะตอมประกอบด้วยนิวเคลียสที่ มีโปรตอนอยู่ตรงกลางและ ซึ่ง แบ่งแยกสร้างขึ้นหรือสูญหายไปไม่ ได้ มีอิเล็กตรอนวิ่งรอมฯ นิวเคลียส นิวเคลียสมีขนาดเล็กแต่ มีมวล มาก และมีประจุบวก ส่วนอิเล็กตรอนมีมวลน้อยมากและ มี ประจุลบจํานวนลิ เล็กตรอนเท่ากับ จํานวนโปรตอน จอห์น หอมสัน นีลส์ โบ ร จะตอม มีลักษณะเป็นรูป ทรงกลมประกอบด้วยอนุภาคโปรตอนซึ่ง อิเล็กตรอนวิ่งรอบนิวเคลียส แบบโคจรวงโคจร มีขนาดและ มีประจุ บวกและอิเล็กตรอนซึ่งมีประจุลมอะตอมโดยปกติอยู่ ในสถามเป็นกลาง ไฟฟ้าซึ่งทําให้ พลังงานเฉพาะตัวพลังงาน ต่าอยู่ ใกล้นิวเคลียสพลังงานสูงอยู่กลนิวเคลียส ทั้งสองทั้ประจุนี้มีจํานวนเท่ากันและกระจาย อยู่ทั่วไป ทั่ อย่างสม่าเสมอภายในอะตอม อิเล็กตรอนสามารถข้ามระดับพลังงาน %เมื่อเปลี่ยนแปลงพลังงาน
ใบงานที่ 1.2 เรื่องÿัญลักþณ์นิวเคลียร์ จงตอบคำถามต่อไปนี้ใĀ้ถูกต้อง 1. จากรูปภาพจงระบุชื่อองค์ประกอบของÿัญลักþณ์นิวเคลียร์ 2. จากÿัญลักþณ์นิวเคลียร์ข้างบน จำนวนโปรตอน และอเล็กตรอน คือÿัญลักþณ์ใด ..................................... 3. จากÿัญลักþณ์นิวเคลียร์ข้างบน ผลรวมของจำนวนโปรตอนแลนิวตรอนในนิวเคลียÿ คือÿัญลักþณ์ใด .................... 4. จากÿัญลักþณ์นิวเคลียร์ของธาตุไนโตรเจน 714 เลขมวลเท่ากับ........................ เลขอะตอมเท่ากับ....................... จำนวนโปรตอนเท่ากับ.................... จำนวนนิวตรอนเท่ากับ...................... จำนวนอิเล็กตรอนเท่ากับ...................... 5. จงเติมข้อมูลในตารางใĀ้ÿมบูรณ์ ธาตุ เลขอะตอม โปรตอน นิวตรอน อิเล็กตรอน เลขมวล ÿัญลักþณ์นิวเคลียร์ Ne 10 20 P 15 16 15 O 8 8 8 Ca 20 20 F 9 10 6. จงใĀ้ความĀมายของข้อความ แล้วนำตัวอย่างที่กำĀนดใĀ้เติมลงในช่องที่มีความÿัมพันธ์กับข้อความ 715 , 6 14 6 12 , 6 14 818 , 9 19 15 30 , 14 30 ไอโซโทป ไอโซโทน ไอโซบาร์ ........................................................... ........................................................... ........................................................... ........................................................... ........................................................... ........................................................... ตัวอย่าง ......................................................... ตัวอย่าง .......................................................... ตัวอย่าง .......................................................... ...................................................................... . .............................................................. .. ........................................................ ........ เลขมวล สัญลักษณ์ราน * เลขอะตอม = A 14 7 I # 7 1 0 1 0 10 :Ne 1 3 O ซ 16 :P 20 20 4 O 40 Ca 20 9 & 1 9 ·F อะตอมของ ธาตุเดียวกัน มีจํานวน โปรตอนเท่ากันแต่นิวตรอนต่างกันจะตอมของธาตุ ต่าง ชนิดกันที่ มีจํานวน นิวตรอนเท่ากันแต่ จํานวนโปรตอนอะตอมของ ธาตุต่าง ชนิด กันที่มีเลขมวลเท่ากันแต่ เลขอะตอม ต่างกัน นั่คื นนั่ อเป็น อะตอมที่มีเลขอะตอมเหมือนกันแต่ มีเลขมวล ต่างกันเลขอะตอนและ เลขมวลไม่เท่ากัน "C," C "N"C, O "F "N,"C
ใบงานที่ 2.1 เรื่องตารางธาตุ จงตอบคำถามต่อไปนี้ใĀ้ถูกต้อง 1. จงเติมชื่อนักüิทยาýาÿตร์ และกฎ ที่นักüิทยาýาÿตร์ได้ค้นพบเกี่ยüกับตารางธาตุ ที่ÿอดคล้องกับข้อมูลในตาราง ชื่อนักüิทยาýาÿตร์ แนüคิด/ทฤþฎี กฎ จัดเรียงธาตุตามมüลอะตอมจากน้อยไปมาก จะได้ กลุ่มธาตุที่มีÿมบัติทางเคมีและ ÿมบัติทางกายภาพ เป็นชุด ๆ ถ้านำธาตุ 8 ธาตุ แล้üจัดเรียงธาตุจากน้อยไปมาก (ยกเü้น H และแก๊ÿเฉื่อย) ธาตุตัüที่ 8 จะมีÿมบัติ คล้ายตัüที่ 1 เÿมอ จัดเรียงธาตุตามมüลอะตอมจากน้อยไปĀามาก มüล อะตอมของธาตุที่อยู่ตรงกลางจะเป็นค่าเฉลี่ยของ มüลอะตอมของธาตุตัüบนและตัüล่าง จัดเรียงธาตุตามเลขอะตอม 2. จงเติมคำในช่องü่างใĀ้ถูกต้อง 2.1 ธาตุที่เรียงลำดับตามเลขอะตอมที่เพิ่มขึ้นและเป็นแถüตามแนüนอน เรียกü่า .................................................... มีทั้งĀมด ....................คาบ คาบที่ 1 มี ..................ธาตุ คือ H และ ............. คาบที่ 2 มี .....................ธาตุ คือ Li ถึง ................... คาบที่ 3 มี ..................ธาตุ คือ ………… ถึง ............. คาบที่ 4 มี .....................ธาตุ คือ ………… ถึง ............. คาบที่ 5 มี ..................ธาตุ คือ ………… ถึง ............. คาบที่ 6 มี ..................กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ตั้งแต่ธาตุ ......………… ถึง .................... กลุ่มที่ 2 ตั้งแต่ธาตุ ......………… ถึง .................... คาบที่ 7 มี ..................กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ตั้งแต่ธาตุ ......………… ถึง .................... กลุ่มที่ 2 ตั้งแต่ธาตุ ......………… ถึง .................... โยฮันน์ โว ลัฟถัง เดอเนลไรเนอร์ ชุด สาม หรือไต แอ ด จอนท์นิว แลนด์ส กฎ ออก เตฟ ยู ลิ อุ ส โลหาร์ไมเออร์ และวิ ดิมิทรีอิ วา โนวิชเมนเดเลเยฟ กฏ มีริ ออ ดิก เฮนรี โมส ลีย์ คาบ period ( -> 2 He ⑧ Ne % Na Ar 1 ช # Kr 1 ช R b te & &3 Ru Ca 1 u (กลุ่ม ธาตุ แลน ทาในด่า & Fr Unc Th In conjury แอกทิไนด์
2.2 ธาตุในแนüตั้งมี 18 แถü เรียกü่า.......................................................... แบ่งธาตุออกเป็นĀมู่ A เรียกü่า representative elements ซึ่งเริ่มจาก IA ถึง VIIIA และ Āมู่ B เรียกü่า........................................................................... ซึ่งธาตุในบางĀมู่จะมีชื่อเรียกเฉพาะ Āมู่ IA ( 1A ) มีชื่อü่า...................................................................................... Āมู่ IIA ( 2A ) มีชื่อü่า...................................................................................... Āมู่ VIA ( 6A ) มีชื่อü่า...................................................................................... Āมู่ VIIA ( 7A ) มีชื่อü่า...................................................................................... Āมู่ VIIIA ( 8A ) มีชื่อü่า...................................................................................... ธาตุ 2 แถüด้านล่างของตารางธาตุ แถüบนเลขอะตอม 58 ถึง 71 มีชื่อü่า...................................................................................... แถüล่างเลขอะตอม 90 ถึง 103 มีชื่อü่า...................................................................................... โลĀะที่อยู่ขั้นบันไดจะมีÿมบัติก้ำกึ่งระĀü่างโลĀะและอโลĀะ เรียกü่า................................................................... ซี่งประกอบด้üยธาตุ(ÿัญลักþณ์ของธาตุจากเลขอะตอมน้อยไปĀามาก).............................................................................. ............................................................................................................................................................................................ 2.3 จงอธิบายประโยชน์ของธาตุเรพรีเซนเททีฟและธาตุแทรนซิชัน มา 2 ธาตุ 1) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.4 จงอธิบายอันตรายของธาตุเรพรีเซนเททีฟและธาตุแทรนซิชัน มา 2 ธาตุ 1) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… หมู่ (group ธาตุแท รนซิซัน โลหะแอล คาไล ( Alkali metals) โลหะ แอลดไลน์เอิร์ท ( Alkalineearthmetals) คา ลโล เจน ( Chalcogens แฮโล เจน ( Halogens ก๊าซเฉื่อยหรือ ก๊าซมี ตระ ภูล กลุ่มธาตุ แลน ทา ไนด์Lanthanideseries กลุ่ม ธาตุ แอกทิ ไนด์ (Artinideseries) ธาตุ กึ่ง โลหะหรือเมตัล ลอยด์ ( Metalloidi โบรอน ( B) ซิลิกอน ( Si)เจอร์เมเนียม ( Gel อาร์เซนิก , สารหนู (As)พลวง (36)เท อลูเรียม (Tel พอโลเนียม (Po) แอส ทา ทันAtl ธาตุแคลเซียม ( Ca)เป็นโลหะที่เป็นองค์ประกอบสําคัดของกระดูกและฟัน ถ้า ร่างกายขาด ธาตุแคลเซียมจะ เกิด อันตราย & หรือผลกระทบ ต่อร่างกาย โดยจะทําให้ฝันไม่แข็งแรง และเป็นโรคกระดูกเสื่อม กระดูก ยุ ธาตุ โ คบอลต์ ( CO) เป็ส่ นวนประกอบของ วิตามินB12 และ จําเป็นต่อการสร้าง เซลล์เม็ดเลือดแดง แต่ ถ้าขาด จะทําให้ เป็นโรคโลหิตจาง ได้ อาร์เซนิก ( As) หรือสารหนูมีการนําสารหนูมาใช้ในอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมโดย ใช้เป็น ยาฆ่าแมลงยากําจัดวัชพืชและยาเมื่อหน ศ สารหนูสามารถ เข้าสู่ร่างกายทางการกินการหายใจและการสัมผัสทางผิวหนังโดย ถ้า ร่างกายได้รับ การปริมาณมากในทันทีจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และห้องร่วงในกรณีที่ลา การรุนแรง อุจจาระ อาจ ปนเลือดอ่อนเพลีย หมดสติและเสียชีวิได้ต ธาตุแคดเมียม ( Cd1 ใช้ เป็นวัตถุดิบในอุ ตสาหกร รมผลิต แบตเตอรี่อุตสาหกรรม ยาสูบ พลาสติกและยางเป็นต้น แคดเมียม จะปนเปื้อนอยู่ในน้า ที่มาจาก โรงงานอุตสาหกรรมเมื่อเข้าสู่ร่างกายได้รับปริมาณมากในทันทีอาจทําให้เกิดโรค ลิโตลิโตมีผลให้กระดูกเปราะ และปวด อย่างรุนแรงถ้าได้ รับสารปริมาณ น้อย แต่เป็นเวลา นาน จะก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูไตงทํางาน ผิดปกติกระวนกระวายขาดสมาธิ ความจําเสื่อม บางครั้งรั้ซึมเศร้าร่าเริงอ่อนเพลียหมดสติและ เสียชีวิตได้
ใบงานที่ 2.2 เรื่องธาตุกัมมันตรังÿี จงตอบคำถามต่อไปนี้ใĀ้ถูกต้อง 1. ธาตุกัมมันตรังÿี คือ ............................................................................................................................. ........................ 2. กัมมันตภาพรังÿี คือ ..................................................................................................................................................... 3. รังÿีที่แผ่ออกมาจากธาตุกัมมันตรังÿี มีกี่ชนิด อะไรบ้าง ................................................................................................ .............................................................................................................................................................. ............................. 4. จากรูปที่กำĀนดใĀ้ จงระบุชนิดของรังÿี …………………………………………………. …………………………………………………… ………………………………………………….. 5. จงเติมÿมการนิวเคลียร์ใĀ้ÿมบูรณ์ 5.1 49 116 → 50 116 + …………………….. 5.2 4 9 +………………………. → 6 12 + 01 5.3 6 16 → 6 12 + …………………….. 5.4 89 226 → 87 222 + …………………….. 5.5 ………………………. → 2 4 + 86 225 / สสาร ชนิดหนึ่ที่ งสามารถปล่อยพลังงาน รังสี เป็น คุณสมบัติของธาตุและไอโซโทปบางส่วนที่ สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นธาตุหรือไอโซโทปอื่นซึ่ง การเปลี่ยนแปลง จะ ปลดปล่อย รังสีออกมาด้วย 3 ชนิด คืรั อ งสีแอลฟา รังสี เบต้และ า รังสีแกมมา รังสีแอลฟา รังสีเบต้า รังสีแกมมา =e He # :Y ? He " Ra
จงแÿดงวิธีทำ 6. ธาตุ I-131 มีครึ่งชีวิตเท่ากับ 8 วัน จะต้องทิ้ง I-131 จำนวน 200 กรัม ไว้นานกี่วัน จึงจะเĀลือ I-131 จำนวน 25 กรัม ............................................................................................................................. ............................................................... .......................................................................................................................................................... .................................. ................................................................................................ ............................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... 7. ถ้าทิ้งไอโซโทปกัมมันตรังÿีชนิดĀนึ่ง 20 กรัม ไว้เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ปรากฏว่ามีไอโซโทปนั้นเĀลืออยู่ 1.25 กรัม ครึ่งชีวิตของไอโซโทปนี้มีค่าเท่าใด ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ......................................................................................................................................................... ................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 8. จากการทดลองพบว่า เมื่อตั้ง Cs-137 ไว้ 120 วัน จะมี Cs-137 เĀลืออยู่ 300 กรัม ถ้าครึ่งชีวิตของ Cs-137 เท่ากับ 30 วัน จงĀาว่า เริ่มต้นทดลองมี Cs-137 อยู่เท่าใด ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................... ............................................................................................................................................................................................ 9. ธาตุกัมมันตรังÿีชนิดĀนึ่งมีครึ่งชีวิต 30 วัน จะใช้เวลานานเท่าใดÿำĀรับการÿลายไปร้อยละ 75 ของปริมาณเริ่มต้น .............................................................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 208 ① 100 ①> 50 , 25 · A day * % > ⑤ =- 3 days x = 3 ( 3 1 = 24 day ② · , og 2 0g ①109 ชั่วโมง ชั่ = 2. 3 · > 1.25 g 120 4 =- 30 นาที 300x16 < 300x8 < 300k4 -> 300x2 > 300 =- 4,000 - 1,400 1,200 ( 600, 300 มี Cs -137 เริ่มต้น4,800กรัม ④ 100 g 30 D 7 Bog Es sig ใช้เวลานาน 60 วัน
คําถามท ายหนวยการเร ี ยนรูท ี่2 ตารางธาต ุ 1.อธิบายการจักตารางธาตุของนักเคมีตอไปน ี้ และอธิบายเĀตุผลท ี่ การจัดตารางธาตุไม เป นท ี่ ยอมรับในเวลาตอมา 1.1 โยฮัน เดอเบอรไรเนอร(Johann Dobereiner) 1.2 จอĀน นิวเเลนด(John Newland) 1.3 ยูลิอุÿ ไมเออร(Julius Meyer) และดีมีตรีอีวาโนวิช เมนเดเลเยฟ (Dimitri Ivanovich Mendelejev) 2.จากตารางธาตุท ี่ กําĀนดใĀระบุวาธาตุกลุมใดเป นโลĀะ อโลĀะ และก ึ่ งอโลĀะ และธาตุ กลุมใดเป นธาตุเรพรีเซนเททีฟ และกลุมธาตุแทรนวิชัน MAR M ↳ เดอเมอร์ไรเนอร์ ได้ จัดกลุ่ม ธาตุเป็น ชุด ละ3 เรียก ว่า " กฎชุดสาม" โดย มวลอะตอม ของ บนและล่าง จะ เท่ากับมวลอะตอมของสา ตุ อยู่ตรงกลางนอกจากนี้เดอเมอ ไรเนอร์ ยังสังเกตว่า คุณสมบัติของ ธาตุกับ มวลละ ตอมลาจ มีความสัมพันธ์กันด้วยซึ่งกฎ ชุดสามมีข้อจํากัดโดยจะใช้ได้กับสา ตุ เพียงบางกลุ่มเท่านั้นนั้ มีการจัดธาตุใหม่โดยเพิ่มมวล จะ ตอมเข้ามา โดยเรียง ธาตุที่ละ8 สาๆ จะ มวลอะตอมน้อยไปมากซึ่ง นิ ว แลนด์จะ ไม่ รวมไม้ใครเจน กับแก๊สมีสกุล เข้าไม และธาตุตัว ที่8 จะ มี สมบัติคล้ายกับธาตุตัวที่2ซึ่ง เรียกว่า " กฎ แฝด"ข้อจํากัด คือ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง มวลอะตอมของมาตุกัมสมบัติที่คล้ายกันไม่ ได้และจะพิจารณา ถึงธาตุที่ มีมวล อะตอม40 คือCaเท่านั้นนั้ ได้จัดเรียงธาตุตาม มวล อะตอมจาก น้อยไปมากมีสมบัติ คล้ายกันเป็นช่วง ๆเรียก ว่า "กฎ พีริ ลอดิก"และ เมนเดเลเยฟ เชื่อีอกว่ายังมีมาๆ ลีก จํานวน มาก ที่ยังไม่ ถูกค้นพบถึงยังจะไม่ใช่ตารางธาตุที่ ถูกต้อง ในปัจจุบัน แต่ ณ ตอนนั้นนั้ตารางธาตุของ เมเดเลเยฟ และ ไมเออ ร์ก็ สมบูรณ์ที่สุดและเป็นที่รู้จักก่อนจะถูกพัฒนา ในเวลาต่อมา · โลหะ = หม่ IA ( H, Li, No, K, Rb, Cs , Fr) หมู่ /A ( Be,Mg,da,Sr,Ba,Ra)หมู่ IIIA ( AC, Ba, In, TI,Nh) หมู่ IVA (Sn,Pb, Ell หม่อVA ( Bi, Me) หม่VIA ( LV)และ ธาตุแทรน ซิชั่นชั่ กึ่งโลหะ - หม่IllA ( B) หม่ IVA ( 5, Ge) หม่ VACAs,Sb) หมู่VIA (Te, Pol อโลหะ -หุ้มIVASCIwrA (NIPCหมVIACO,SISe)หมู่VIASE, CI, Br, I, At, TS) หมู่ VIllA ( He,Ne,Ar,Kr,Xe,R2, 09 ธาตุ เรพรีเซ น เททีฟ : หมู่ A
3. ขีดเÿนใตÿัญลักþณของธาตุตอไปน ี้ใĀถูกตอง 3.1 ธาตุแฮโลเจนคือธาตุใดบาง 3.2 แกÿเฉ ื่ อยคือธาตุใดบาง 3.4 โลĀะแอลคาไลนเอิรทคือธาตุใดบาง 3.3 โลĀะแอลคาไลคือธาตุใดบาง 3.5 กลุมธาตุแลนทาไนดคือธาตุใดบาง 4. ใชขอมูลตอไปน ี้ ตอบคําถามขอท ี่ 4.1-4.3 ตาราง 2.4 ความแข ็ งĀรือความเĀนียว จุดĀลอมเĀลวและจุดเดือดของธาตุชนิดตางๆ 4.1 ธาตุชนิดใดควรเป นธาตุท ี่ นําไฟฟาไดดี 4.2 ธาตุใดมีความÿามารถในการรับอิเล ็ กตรอน 4.3 ธาตุใดเป นธาตุก ึ่ งโลĀะ =Ch = X e =- Li Na - =- So =Sm D $ = B, D = A, E =C
5. ธาตุกัมมันตรังÿีÿามารถนํามาใชประโยชนในดานตางๆ ไดอยางไรบาง 6. กําĀนดÿาร ดังน ี้ นํ้า ปรอท เกลือแกง แกÿไฮโดรเจน และเเกÿออกซิเจน ตอบคําถามตอไปน ี้ 6.1 ÿารใดจัดเป นธาตุ 6.2 ÿารใดจัดเป นÿารประกอบ 6.3 ธาตุใดอยูในรูปของโมเลกุล ด้าน การแพทย์ = ใช้ โคบอลต์ -60 ใช้รักษามะเร็งในอวัยวะ ต่างๆ ของร่างกาย ด้าน ธรณีวิทยา -ใช้คาร์บอน - 14 คํานวณ หาอายของวัตถุโบราณ ด้าน เกษตรกรรม : ใช้ฟอสฟอรัส - 32ศึกษาความต้องการปั่น ของ พืช & ปรอท , เกลือแกง ,แก๊ออก ส ซิเจน ,แก๊ส ไฮโดรเจน น้า แก๊สไฮโดรเจน , แก๊สออกซิเจน
คําถามท ายหนวยการเร ี ยนรูท ี่2 ตารางธาต ุ 1.อธิบายการจักตารางธาตุของนักเคมีตอไปน ี้ และอธิบายเĀตุผลท ี่ การจัดตารางธาตุไม เป นท ี่ ยอมรับในเวลาตอมา 1.1 โยฮัน เดอเบอรไรเนอร(Johann Dobereiner) 1.2 จอĀน นิวเเลนด(John Newland) 1.3 ยูลิอุÿ ไมเออร(Julius Meyer) และดีมีตรีอีวาโนวิช เมนเดเลเยฟ (Dimitri Ivanovich Mendelejev) 2.จากตารางธาตุท ี่ กําĀนดใĀระบุวาธาตุกลุมใดเป นโลĀะ อโลĀะ และก ึ่ งอโลĀะ และธาตุ กลุมใดเป นธาตุเรพรีเซนเททีฟ และกลุมธาตุแทรนวิชัน MAR M ↳ เดอเมอร์ไรเนอร์ ได้ จัดกลุ่ม ธาตุเป็น ชุด ละ3 เรียก ว่า " กฎชุดสาม" โดย มวลอะตอม ของ บนและล่าง จะ เท่ากับมวลอะตอมของสา ตุ อยู่ตรงกลางนอกจากนี้เดอเมอ ไรเนอร์ ยังสังเกตว่า คุณสมบัติของ ธาตุกับ มวลละ ตอมลาจ มีความสัมพันธ์กันด้วยซึ่งกฎ ชุดสามมีข้อจํากัดโดยจะใช้ได้กับสา ตุ เพียงบางกลุ่มเท่านั้นนั้ มีการจัดธาตุใหม่โดยเพิ่มมวล จะ ตอมเข้ามา โดยเรียง ธาตุที่ละ8 สาๆ จะ มวลอะตอมน้อยไปมากซึ่ง นิ ว แลนด์จะ ไม่ รวมไม้ใครเจน กับแก๊สมีสกุล เข้าไม และธาตุตัว ที่8 จะ มี สมบัติคล้ายกับธาตุตัวที่2ซึ่ง เรียกว่า " กฎ แฝด"ข้อจํากัด คือ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง มวลอะตอมของมาตุกัมสมบัติที่คล้ายกันไม่ ได้และจะพิจารณา ถึงธาตุที่ มีมวล อะตอม40 คือCaเท่านั้นนั้ ได้จัดเรียงธาตุตาม มวล อะตอมจาก น้อยไปมากมีสมบัติ คล้ายกันเป็นช่วง ๆเรียก ว่า "กฎ พีริ ลอดิก"และ เมนเดเลเยฟ เชื่อีอกว่ายังมีมาๆ ลีก จํานวน มาก ที่ยังไม่ ถูกค้นพบถึงยังจะไม่ใช่ตารางธาตุที่ ถูกต้อง ในปัจจุบัน แต่ ณ ตอนนั้นนั้ตารางธาตุของ เมเดเลเยฟ และ ไมเออ ร์ก็ สมบูรณ์ที่สุดและเป็นที่รู้จักก่อนจะถูกพัฒนา ในเวลาต่อมา · โลหะ = หม่ IA ( H, Li, No, K, Rb, Cs , Fr) หมู่ /A ( Be,Mg,da,Sr,Ba,Ra)หมู่ IIIA ( AC, Ba, In, TI,Nh) หมู่ IVA (Sn,Pb, Ell หม่อVA ( Bi, Me) หม่VIA ( LV)และ ธาตุแทรน ซิชั่นชั่ กึ่งโลหะ - หม่IllA ( B) หม่ IVA ( 5, Ge) หม่ VACAs,Sb) หมู่VIA (Te, Pol อโลหะ -หุ้มIVASCIwrA (NIPCหมVIACO,SISe)หมู่VIASE, CI, Br, I, At, TS) หมู่ VIllA ( He,Ne,Ar,Kr,Xe,R2, 09 ธาตุ เรพรีเซ น เททีฟ : หมู่ A
3. ขีดเÿนใตÿัญลักþณของธาตุตอไปน ี้ใĀถูกตอง 3.1 ธาตุแฮโลเจนคือธาตุใดบาง 3.2 แกÿเฉ ื่ อยคือธาตุใดบาง 3.4 โลĀะแอลคาไลนเอิรทคือธาตุใดบาง 3.3 โลĀะแอลคาไลคือธาตุใดบาง 3.5 กลุมธาตุแลนทาไนดคือธาตุใดบาง 4. ใชขอมูลตอไปน ี้ ตอบคําถามขอท ี่ 4.1-4.3 ตาราง 2.4 ความแข ็ งĀรือความเĀนียว จุดĀลอมเĀลวและจุดเดือดของธาตุชนิดตางๆ 4.1 ธาตุชนิดใดควรเป นธาตุท ี่ นําไฟฟาไดดี 4.2 ธาตุใดมีความÿามารถในการรับอิเล ็ กตรอน 4.3 ธาตุใดเป นธาตุก ึ่ งโลĀะ =Ch = X e =- Li Na - =- So =Sm D $ = B, D = A, E =C
5. ธาตุกัมมันตรังÿีÿามารถนํามาใชประโยชนในดานตางๆ ไดอยางไรบาง 6. กําĀนดÿาร ดังน ี้ นํ้า ปรอท เกลือแกง แกÿไฮโดรเจน และเเกÿออกซิเจน ตอบคําถามตอไปน ี้ 6.1 ÿารใดจัดเป นธาตุ 6.2 ÿารใดจัดเป นÿารประกอบ 6.3 ธาตุใดอยูในรูปของโมเลกุล ด้าน การแพทย์ = ใช้ โคบอลต์ -60 ใช้รักษามะเร็งในอวัยวะ ต่างๆ ของร่างกาย ด้าน ธรณีวิทยา -ใช้คาร์บอน - 14 คํานวณ หาอายของวัตถุโบราณ ด้าน เกษตรกรรม : ใช้ฟอสฟอรัส - 32ศึกษาความต้องการปั่น ของ พืช & ปรอท , เกลือแกง ,แก๊ออก ส ซิเจน ,แก๊ส ไฮโดรเจน น้า แก๊สไฮโดรเจน , แก๊สออกซิเจน
แบบฝึกหัด 3.1 การเขียนสูตรสารประกอบไอออนิก ชื่อ........................นามสกุล..........................ระดับชั้น..............เลขที่............ 1.จงเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอน จำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอน และสัญลักษณ์ไอออนของธาตุต่อไปนี้ เมื่อมีการให้และรับอิเล็กตรอน ธาตุ การจัดเรียงอิเล็กตรอน เวเลนซ์อิเล็กตรอน สัญลักษณ์ไอออน 11Na 12Mg 20Ca 13Al 7N 8O 9F 17Cl 15P 3Li 2.จงเขียนสูตรสารระกอบไอออนิกต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ไอออนองค์ประกอบ สูตรสารประกอบไอออนิก Na+ S2- Cu2+ FO2- Mg2+ Al3+ S2- O2- Ca2+ Cl- Pb2+ NH4 + ClSO4 2- Cu2+ CO3 2- Al3+ Fe2+ NO3 - นางสาว รณัชพา เทียนธรรม ม.3/ 1 3 * โลหะ t อโลหะ - วงนอก สุด ส 28 1 & Nat I I ส 2. · 2 2 My c + & ล 2,8, 8,2 2 da2t ล 2,8, B B A l3- อ 2,3 ⑤ Ni อ 2, 6 · 80- ⑤ 2. - F -- ⑧ 2, 8, 1 * 2) -- อ 2,8,3 3 ↑3- ล 2. I 1 21 + เขียน บาก ก่อน เสม Nat · 2- Nas S % · 2 - CoF2 My O Ala S s CaG PbCla INHa) Ch dra ( SOa) Alc ( Cos)s Fe ( NO3) 2
แบบฝึกหัด 3.2 การอ่านชื่อสารประกอบไอออนิกและการละลายน้ำ ชื่อ..........................สกุล.....................ระดับชั้น.........เลขที่........... 1.จงเขียนชื่อÿารประกอบไอออนิกใĀ้ถูกต้อง ÿารประกอบไอออนิก ชื่อÿารประกอบไอออนิก MgSO4 CaCl2 MgF2 Al2S3 CaO NH4OH KBr Li2O CuSO4 AlPO4 Na2CO3 2. เมื่อนำÿารต่อไปนี้มาละลายน้ำ แล้วจัดจำแนกÿารละลายใĀ้ถูกต้อง Al(NO3)3 CaCO3 Cu(OH)2 KBr PbI2 CaO NaCl ZnCl2 C6H12O6 Al2S3 CuSO4 MgSO4 NH4Cl FeS สารละลายอิเล็กโทรไลต์ สารละลายนอนอิเล็กโทรไลต์ ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... นางสาวฐณัชชา เทียนธรรม ม. 5/1 ③C แมกนีเซียมซัลเฟต แคลเซียมคลอไร ด์ แมกนีเซียมฟลูออไรด์ อะลูมิเนียม ซัลไซ ด์ แคลเซียมออกไซด์ แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ โพแทสเซียมโบไมด์ ลิเทียมออกไซด์ คอปเปอร์ ( 11)ซัลเฟต อลูมิเนียม ฟอสเฟต โซเดียมคาร์บอเนต หมู่2ทุก ตัว ไม่ละลายน้า - ละลาย น้า ไม่ ละลาย น้า 2 % AlCNOSSs , CoCOHCa, KBr c CaCOs, Pble, EaO, NaCL, InCLc, CrSOnc CoH2Os, AlcSs, FeS Mg50n , NHa Ch
แบบฝึกหัด 3.3 การเขียนสูตรโครงสร้างโมเลกุลโคเวเลนต์ ชื่อ........................นามสกุล..........................ระดับชั้น..............เลขที่............ 1.จงเขียนสูตรโครงสร้างแบบจุดและแบบเส้นของโมเลกุลโคเวเลนต์ให้ถูกต้อง โมเลกุลโคเวเลนต์ สูตรโครงสร้างแบบจุด สูตรโครงสร้างแบบเส้น HCl H2O CO2 NH3 CCl4 HCN 2.จงอ่านชื่อสารโคเวเลนต์ให้ถูกต้อง สารโคเวเลนต์ ชื่อสาร CCl4 SF6 N2O5 PF3 H2S CO2 CH4 H2O NH3 PCl5 น.ส. ฐณัชชา เทียนธรรม ม. 5k 3 บ His?!: H- Ch HPH #O :Octo 0 2 อ < H : : : : : H - - H H :It i - Ch + I / - : % co?: -C- Ch :.. - - dh & :อ: Ch 1 4 5 %. N H น · -* . N *. . N H 2 N คาร์บอนเตตระคลอ ไรด์ ซัลเฟอร์เฮกซะ ฟลูออไรด์ ไดไนโตรเจน เพนตะออกไซด์ ฟอสฟอรัสไตรฟลูออไรด์ ↳ดไฮโดรเจนโมโน ซัล ไฟต์ ( แก๊สไข่า น่า) คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนเตตระไนไตรต์ ( มีเทน) ไฮโดรเจน ออกไซด์ ( น้า แอมโมเนีย ฟอสฟอรัสเพนตะคลอ ไรด์
ใบงานเรื่องปฏิกิริยาเคมี ชื่อ..................................นามสกุล........................................ระดับชั้น...................เลขที่.............. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. ปฏิกิริยาเคมี Āมายถึง .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ยกตัวอย่างปฏิกิริยาเคมี 3 ตัวอย่าง 1………………............................................................................................................................. .................................... 2.................................................................................................................................................................................... 3............................................................................................................................. ....................................................... 2. ยกตัวอย่างปฏิกิริยาเคมีแบบดูดความร้อน ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... 3. ยกตัวอย่างปฏิกิริยาเคมีแบบคายความร้อน ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... 4. จากปฏิกิริยเคมีต่อไปนี้ ÿาร A + ÿาร B → ÿาร C ได้ผลการทดลองดังตาราง เวลาที่ใช้ในการเกิดปฏิกิริยา(s) ปริมาณÿาร C ที่เพิ่มขึ้น 0 0 20 20 40 45 60 80 4.1 จงĀาอัตราการเกิดปฏิกิริยาเฉลี่ย ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... 4.2 จงĀาอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในช่วงเวลาวินาทีที่ 20-40 ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... 4.3 จงĀาอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในช่วงเวลาวินาทีที่ 40-60 ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... นางสาวฐณัช นา เทียนธรรม ม. 3/ 3 กระบวนการ ที่เกิดจาก การที่สารเคมีเกิดการเปลี่ยนแปลง แล้วส่งผลให้เกิด สารใหม่ขึ้นมา ซึ่มีซึ่ง คุณสมบัติเปลี่ยนไปจากเดิม การ ละลาย ของ เกลือ การบด ของ อาหาร ป การระเบิดของลูกเหม็น =- การ ละลายของ น้าแข็ง -การอบ เค้ก -น้ายา ล้างห้องน้ากับปูน ยา กระเบื้อง -มะนาว กับดินสอพอง = 30-0 =80 = 1, 3 60- 0 60 = 43- 20 = 2 = 1. 2 3 4 20 20 = 080- 43 = 33 = 1.75 60 - 40 20
ใบงานเรื่องการใช้ประโยชน์จากปฏิกิริยาเคมี ชื่อ..................................นามสกุล........................................ระดับชั้น...................เลขที่.............. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. การพร่องของโอโซนของโลก Āมายถึง .................................................................................................................. ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ÿมการการเกิดโอโซน คือ..................................................................................................................... ......................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ÿารใดบ้างที่ทำลายชั้นโอโซน........................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... 2. กระบวนการฮาเบอร์ ที่ใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา มี 3 ขั้นตอน จงบอกรายละเอียด ขั้นตอนแรก................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ขั้นตอนที่ÿอง................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ขั้นตอนที่ÿาม................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ร นางสาวฐณัชชา เทียน ธรรม ม. 5/ 1 3 0 ก๊าซ โอโซนในชั้นบรรยากาศชั้โลกที่ ระดับความการลดลงของโอโซนคือภาวะการสูญเสียหรือการลดลงของประชาชนราคาราคา เคมีระหว่างก๊าสโอโซนกับ สารเคมีที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นซึ่งก่อให้เกิดปรากฏการณ์ "หลุมโอโซน" 0 + Oa- ur - > 0 ออกซิเจนโมเลกุลเดี่ยว + แก๊สออกซิเจนได้รับ รังสีUV -โอโซน เกิดขึ้อขึ้นย่างรวดเร็ว สาร ฮาโลคาร์บอน หรืสารเค อ มีที่มีธาตุคลอรีน ฟลูออรีน โบรมีน คาร์บอน และไฮโดรเจน การ ระเหิด โลหะเปลี่ยน สถานะจากของแข็ง เป็น แก๊ส ไอออไน เซชั่นชั่ ประจุโลหะเพิ่ม ตาม จํานวน 2ที่ หลุด ออก สลายพันธะ โมเลกุล เก็บสลายเป็นอะตอม1 อะตอม
3. เครื่องฟอกไอเÿียเชิงปฏิกิริยาĀรือแคทาลิติคอนเวอร์ตอร์ คือ............................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ใĀ้วาดภาพเครื่องฟอกไอเÿียเชิงปฏิกิริยาĀรือแคทาลิติคอนเวอร์ตอร์ ÿ่วนประกอบและĀน้าที่ของเครื่อง ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... อุปกรณ์สําหรับกําจัด ลดปริมาณ มลพิษ ที่เกิดจาก การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ก่อน ปล่อยออก สู่บรรย กา ศ สิ่ง ที่อยู่ ใน ท่อไอเสีย มีลักษณะเป็นรูรังผึ้งซึ่งมีหน้า ที่ เป็น มลพิษ ต่อ ร่างกายมนุษย์จากท่อไอเสียให้สะอาดขึ้น หรือเป็น อันตรายต่อร่างกายมนุษย์น้อยที่สุดโดยการทํางานคือ เมื่อเครื่องยนต์ผ่านการเผาไหม้จนเกิดเป็นไอเสีซึ่ยซึ่งมีCox,Nox,H2และ ไหล เข้ามาสู่ แค ท ตาไลติกสาร เหล่านี้จะทําปฏิกิริยาทางเคมีกับไส้ในของแค ทตาไลติก ทําให้ ไอเสียที่ออกมา เป็นอันตรายกับมนุษย์ น้อยลง