หนังสือของฉัน

น วั ต ก ร ร ม
เรื่ อง เกมส์ ทายคำ

โดย
นางสาวอมรรัตน์ บรรดาศักดิ์

เกมส์ทายคำ

คำสั่ง ถ้าต้องการเล่นเกมส์กรุณาสแกน

แผนการจัดการเรียนรู้

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 สิ่งรอบตัวเรา

เวลาเรียน 16 ชว่ั โมง

แผนผังการเรียนรู้แบบบูรณาการ ภาษาไทย
• แสดงความคิดเห็น ฟังสรุปสาระสาํ คญั
วทิ ยาศาสตร์
สิ่งรอบตวั เรา และจบั ใจความ
• สิ่งมชี ีวติ และสิ่งไม่มีชีวติ • พูดแสดงความคิดเห็น และตอบคาํ ถาม
• อ่านและสะกดคาํ ถูกตอ้ ง
• เขียนตอบคาํ ถามกิจกรรมการทดลอง

ส่ิงรอบตัวเรา

สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ศิลปะ : ทศั นศิลป์
• สาํ รวจสิ่งมีชีวิตและสิ่งไมม่ ีชีวติ • วาดภาพและระบายสีส่ิงรอบตวั เรา

ในทอ้ งถิ่น

ตัวชี้วดั

เปรียบเทียบลกั ษณะของสิ่งมีชีวติ และสิ่งไม่มีชีวติ จากขอ้ มูลที่รวบรวมได้ (ว 1.3 ป.2/1)

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 สิ่งรอบตวั เรา
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1
เรื่อง ส่ิงรอบตัวเรา : 1

ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 2 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสาํ คญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
สารพนั ธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพนั ธุกรรมท่มี ีผลต่อสิ่งมีชีวติ ความหลากหลาย
ทางชีวภาพและววิ ฒั นาการของสิ่งมีชีวติ รวมท้งั นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชี้วดั
เปรียบเทยี บลกั ษณะของสิ่งมีชีวติ และส่ิงไม่มีชีวติ จากขอ้ มูลที่รวบรวมได้
ว 1.3 ป.2/1

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. รู้จกั และบอกชื่อสิ่งรอบตวั ได้ (K)
2. สงั เกตและจดั จาํ แนกสิ่งรอบตวั เราตามเกณฑท์ กี่ าํ หนด อยา่ งรวมพลงั ดว้ ยความมุ่งมน่ั ได้ (P)
3. มีความมุ่งมน่ั (A)

สาระการเรียนรู้

ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั เรามีท้งั ส่ิงมีชีวติ และสิ่งไม่มีชีวิต บางส่ิงกเ็ หมือนกนั และบางส่ิงก็มีความแตกต่างกนั

สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
- การอธิบาย การเขียน การพดู หนา้ ช้นั เรียน

2. ความสามารถในการคดิ
- การสงั เกต การสาํ รวจ การคดิ วเิ คราะห์ การจดั จาํ แนก การเปรียบเทยี บ การสร้างคาํ อธิบาย
การอภิปราย การจดั ระบบความคดิ เป็ นแผนภาพ การส่ือความหมาย การสืบสอบโดยใช้
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
(-)

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
- กระบวนการกลุ่ม

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- การสืบสอบขอ้ มูลจากเทคโนโลยสี ารสนเทศ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน

คาํ ถามสําคญั

ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั เรามีอะไรบา้ ง

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

•ข้นั• ส•ังเ•กต• ร•วบ•ร•วม•ข้•อม•ูล•(G•at•he•rin•g•)

1. นกั เรียนร่วมกนั ร้องเพลงชา้ ง พรอ้ มท้งั แสดงท่าทางประกอบตามจินตนาการ

เพลงช้าง หนูรูจ้ กั ชา้ งหรือเปล่า

ชา้ ง ชา้ ง ชา้ ง จมูกมนั ยาวเรียกวา่ งวง
ชา้ งมนั ตวั โตไม่เบา
สองเข้ียวใตง้ วงเรียกวา่ งา มีหูมีตาหางยาง

2. นกั เรียนร่วมกนั ตอบคาํ ถาม ดงั น้ี
2.1 นกั เรียนรู้จกั หรือเคยเห็นชา้ งหรือไม่
(รู้จกั /เคย)
2.2 นกั เรียนเคยเห็นชา้ งที่ใด
(ทส่ี วนสตั ว์ บนทอ้ งถนน)
2.3 ชา้ งทนี่ กั เรียนเคยเห็นมีลกั ษณะอยา่ งไร
(ตวั โต จมูกยาว หูใหญ่ ตาเล็ก หางยาว)
2.4 นอกจากชา้ งแลว้ นกั เรียนเคยเห็นสตั วช์ นิดใดอีกบา้ ง
(ตวั อยา่ งคาํ ตอบ หมี ยรี าฟ ลิง เสือ สิงโต หรือตามประสบการณ์การเรียนรู้ของนกั เรียน)

3. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละเพศ และคละนกั เรียนเก่ง ปานกลาง และออ่ น
(หรือจะแบง่ กลุ่มดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ เพมิ่ เติมได)้ โดยแตล่ ะกลุ่มปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้นั ตอน ดงั น้ี

3.1 ทบทวนบทบาทหนา้ ทข่ี องสมาชิกในกล่มุ วา่ ตอ้ งทาํ หนา้ ท่อี ยา่ งไรบา้ งในการดาํ เนินการ
ดว้ ยกระบวนการทาํ งานกลุ่ม เช่น หวั หนา้ กลุ่ม มหี นา้ ท่ี .................. ผูจ้ ดบนั ทกึ มีหนา้ ท่ี .........................
ผเู้ สนอรายงาน มีหนา้ ท่ี .............. อ่ืน ๆ .................................

การทาํ งานกลมุ่ ควรจบั คู่ 2 คน หรือ 3 คน เป็ นอยา่ งมาก ไม่ควรเกิน 4 คน เพอื่ ใหร้ ู้จกั
การแบ่งงานกนั และแสดงความคดิ เห็นในกลมุ่ เล็กก่อน สรา้ งเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21
ดา้ นการเรียนรู้วิธีเรียนและการร่วมมือทาํ งานเป็นทีม

4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั สงั เกตส่ิงต่าง ๆ รอบตวั นกั เรียนท้งั ภายในและภายนอกช้นั เรียน
จากน้นั นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ตอบคาํ ถามสาํ คญั ดงั น้ี

4.1 ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั เรามีอะไรบา้ ง
(ตวั อยา่ งคาํ ตอบ เพอื่ น ครู ดอกไม้ กอ้ นหิน ผเี ส้ือ)
นกั เรียนร่วมกนั คาดคะเนคาํ ตอบ
5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มนาํ ขอ้ มูลทไ่ี ดม้ าแลกเปล่ียนกนั
6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มแข่งขนั กนั สาํ รวจและรวบรวมส่ิงตา่ ง ๆ ที่พบไดร้ อบตวั เราใหไ้ ดม้ ากท่สี ุด
จากน้นั นาํ ขอ้ มูลทไี่ ดม้ าแลกเปลี่ยนกนั และตรวจสอบความถูกตอ้ ง
7. หวั หนา้ กลุ่มแต่ละกลุ่มแจกกระดาษขนาด 55 เซนตเิ มตร ใหเ้ พอื่ นในกลุ่มคนละ 3 แผน่
แลว้ เพอ่ื น ๆ ช่วยกนั วาดภาพสิ่งของทพ่ี บจากการสาํ รวจ (กระดาษ 1 แผน่ ตอ่ 1 ภาพ)
8. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งผแู้ ทนมาจบั สลากเลือกสถานทหี่ รือกาํ หนดสถานท่ขี ้นึ เอง เช่น หอ้ งนอน
หอ้ งครวั หอ้ งรบั แขก หอ้ งน้าํ สนามหนา้ บา้ น หอ้ งเรียน หอ้ งสมุด หอ้ งวทิ ยาศาสตร์ โรงอาหาร
สนามหนา้ เสาธง สวนพฤกษศาสตร์

•ข•้นั ค•ดิ •วิเ•คร•าะ•ห์แ•ล•ะส•รุป• ค•วา•ม•รู้ •(P•ro•ces•si•ng•)

9. นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั นาํ ภาพทวี่ าดเสร็จแลว้ มาจาํ แนกวา่ ภาพสิ่งของทีเ่ ราวาดน้นั
น่าจะพบในสถานทใี่ ดมากที่สุด แลว้ ช่วยกนั นาํ ภาพเหล่าน้นั ไปส่งใหก้ ลุ่มทีเ่ ป็ นผจู้ บั สลากได้
หรือเป็ นผกู้ าํ หนดสถานท่ขี ้ึนเอง

10. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งเหมาะสมวา่ ภาพของสิ่งของที่เพอ่ื น ๆ มาส่ง
ใหก้ ลุ่มของเราน้นั เป็นส่ิงของที่สามารถพบในสถานท่ขี องเราไดห้ รือไม่ ถา้ ไม่ถูกตอ้ งใหแ้ ยกออกมา
เพอื่ นาํ มาอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพมิ่ เติม หรือส่ิงของบางอยา่ งสามารถพบไดใ้ นหลาย ๆ ที่ เช่น ดอกไม้
อาจพบไดท้ ้งั ในหอ้ งรับแขก ในสวนหนา้ บา้ น และในสวนพฤกษศาสตร์

ตวั อย่างตาราง ประเภทส่ิงต่าง ๆ รอบตวั

ห้องครัว ห้องนอน ห้องน่ังเล่น สนามหน้าบ้าน
1. หมอ้ 1. หมอน 1. โทรทศั น์ 1. ตน้ มะม่วง
2. กระทะ 2. ผา้ ห่ม 2. พดั ลม 2. ดอกไม้
3. ตเู้ ยน็ 3. โคมไฟฟ้า 3. โซฟา 3. เกา้ อ้ีไม้
4. มด 4. เตียง 4. ดอกไม้ 4. กอ้ นหิน
5. ปิ่ นโต 5. ตเู้ ส้ือผา้ 5. หนงั สือพมิ พ์ 5. ผีเส้ือ

11. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั สรุปสิ่งทีเ่ ขา้ ใจเป็ นความรู้ร่วมกนั เกี่ยวกบั สิ่งตา่ ง ๆ ทีพ่ บไดร้ อบ ๆ
ตวั เราวา่ สิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั เรามีท้งั สิ่งมีชีวติ และส่ิงไม่มีชีวติ บางสิ่งก็เหมือนกนั และบางสิ่งก็มีความแตกตา่ งกนั

• •ข้นั •ป•ฏิบ• ัต•ิแล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ห•ล•ังก•าร•ปฏ• ิบ• ัต•ิ (A• p•pl•yin•g•an•d•Co•ns•tr•uc•tin•g•th•e K• n•ow• le•dg•e)•

12. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั นาํ ภาพสิ่งของทเ่ี พอ่ื น ๆ นาํ มาให้ มาเขยี นเป็ นแผนภาพความคดิ
เกี่ยวกบั สิ่งต่าง ๆ รอบตวั นกั เรียน ในกระดาษฟลิปชาร์ต
การเขยี นแผนภาพความคดิ สร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการคิดวเิ คราะห์ คิดสรา้ งสรรค์
และการสื่อสาร

(ตวั อยา่ งแผนภาพความคิด)

หมอ้
กระทะ ตูเ้ ยน็

สิ่งรอบตัวที่อยู่
ในห้องครัว

ปิ่ นโต มด

แผนภาพความคดิ ตวั อยา่ งส่ิงรอบตวั ที่อยใู่ นหอ้ งครัว

ตเู้ ส้ือผา้
ผา้ ห่ม หมอน

ส่ิงรอบตวั ทีอ่ ยู่
ในห้องนอน

เตียง โคมไฟฟ้า
แผนภาพความคดิ ตวั อยา่ งส่ิงรอบตวั ทอี่ ยใู่ นหอ้ งนอน

หนงั สือพมิ พ์

ดอกไม้ โทรทศั น์

สิ่งรอบตัวท่ีอยู่
ในห้องนั่งเล่น

โซฟา พดั ลม
แผนภาพความคิด ตวั อยา่ งส่ิงรอบตวั ที่อยใู่ นหอ้ งนงั่ เล่น

ตน้ มะม่วง

กอ้ นหิน ตน้ หญา้

ส่ิงรอบตัวทอี่ ยู่
ในสนามหน้าบ้าน

ผเี ส้ือ เกา้ อ้ีไม้

แผนภาพความคดิ ตวั อยา่ งส่ิงรอบตวั ท่อี ยใู่ นสนามหนา้ บา้ น
13. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งท่ีเขา้ ใจเป็ นความรู้ ดงั น้ี

• ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั เรามีท้งั ส่ิงมีชีวติ และสิ่งไม่มีชีวติ บางส่ิงกเ็ หมือนกนั
และบางสิ่งก็มีความแตกตา่ งกนั

• ข•้ัน•ส่ือ•ส•าร•แล•ะน•ํา•เสน• อ•(A• p•pl•yin•g•th•e•Co•m•m•un•ic•ati•on•S•ki•ll)•

14. ผแู้ ทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาํ เสนอแผนภาพความคิดสิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั นกั เรียน
พรอ้ มพดู ประกอบการอธิบายหนา้ ช้นั เรียน เพอ่ื น ๆ ร่วมกนั ตรวจสอบและแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง

15. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเก่ียวกบั วธิ ีการทาํ งานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทาํ งาน
ที่มีแบบแผน

•ข้นั• ป•ระ•เม•นิ •เพ•ื่อเ•พมิ่• ค•ณุ •ค่า•บร•ิก•าร•สัง•คม•แ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณ•ะ•(S•elf•-R•eg•ul•ati•ng•)

16. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาํ แผนภาพความคดิ สิ่งต่าง ๆ รอบตวั เราท่ไี ดม้ าตดิ ที่ป้ายนิเทศหรือกระดาน
รอบ ๆ บริเวณช้นั เรียน แลว้ แต่ละกลุ่มเดินดูแผนภาพความคดิ เพอ่ื ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
และแสดงความคดิ เห็น

17. นกั เรียนตรวจสอบหรือประเมินข้นั ตอนต่าง ๆ ทีเ่ รียนมาในวนั น้ีมีจดุ เด่น จุดบกพร่องอะไรบา้ ง
มีความสงสยั ความอยากรูอ้ ยากเห็นในเร่ืองใด ใหร้ ะบุ

18. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลงั การเรียน ในประเดน็ ต่อไปน้ี
• ส่ิงทน่ี กั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคอื อะไร
• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด
• เพอื่ นนกั เรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด
• นกั เรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพยี งใด
• นกั เรียนจะนาํ ความรูท้ ่ไี ดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครวั และสงั คมทวั่ ไป
ไดอ้ ยา่ งไร
จากน้นั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้นั ตอนการทาํ งานทุกข้นั ตอนวา่ จะเพม่ิ คุณคา่ ไปสู่สงั คม

เกิดประโยชน์ต่อสงั คมใหม้ ากข้ึนกวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาํ หรับการทาํ งานในคร้ังตอ่ ไป

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 2
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

2. แบบฝึกหดั รายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 2
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พฒั นาการคิดวเิ คราะห์ รายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 2
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

4. เพลงชา้ ง
5. กระดาษขนาด 55 เซนติเมตร
6. กระดาษฟลิปชาร์ต
7. แหล่งการเรียนรูท้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เรื่อง ส่ิงรอบตวั เรา (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินการสืบสอบขอ้ มลู (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ การสืบสอบข้อมูล

รายการการประเมนิ 4 ระดับคณุ ภาพ 1
32

1. การวางแผนคน้ ควา้ วางแผนที่จะคน้ ควา้ ขอ้ มูล วางแผนที่จะคน้ ควา้ ขอ้ มูล วางแผนที่จะคน้ ควา้ ขอ้ มลู ไม่มีการวางแผนท่ีจะ

ขอ้ มูลจาก จากแหล่งการเรียนรู้ จากแหล่งการเรียนรู้ จากแหล่งการเรียนรู้ คน้ ควา้ ขอ้ มลู จาก
แหล่งการเรียนรู้ ทหี่ ลากหลายเชอื่ ถือได้ ท่ีหลากหลายและเหมาะสม โดยมีครูหรือผอู้ ่ืน แหล่งการเรียนรู้อยา่ ง

และมีการเชื่อมโยงให้เห็น แต่ไมม่ ีการเช่ือมโยง แนะนาํ บา้ ง เป็ นระบบ
เป็นภาพรวม แสดงใหเ้ ห็น ใหเ้ ห็นเป็นภาพรวม

ถึงความสัมพนั ธ์ของ

วธิ ีการท้งั หมด เก็บรวบรวมขอ้ มูล
2. การเก็บรวบรวม เก็บรวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
ขอ้ มูล ตามแผนทก่ี าํ หนด โดยคดั เลือกและ/หรือ โดยไม่มีการคดั เลือก เป็นระยะ ขาดการ

ทกุ ประการ ประเมินขอ้ มลู และ/หรือประเมินขอ้ มลู ประเมนิ เพ่อื คดั เลือก

3. การจดั กระทาํ ขอ้ มูล จดั กระทาํ ขอ้ มูล จดั กระทาํ ขอ้ มลู จดั กระทาํ ขอ้ มลู จดั กระทาํ ขอ้ มลู อยา่ ง
และการนาํ เสนอ อยา่ งเป็นระบบ อยา่ งเป็นระบบ มกี าร อยา่ งเป็นระบบ ไม่เป็นระบบ และ

มกี ารเชื่อมโยงให้เห็น จาํ แนกขอ้ มลู ให้เห็น มกี ารยกตวั อยา่ งเพม่ิ เติม นาํ เสนอไม่สื่อความหมาย
เป็นภาพรวม และนาํ เสนอ ความสัมพนั ธ์ นาํ เสนอ ใหเ้ ขา้ ใจง่ายและนาํ เสนอ และไมช่ ดั เจน

ดว้ ยแบบต่างๆอยา่ งชดั เจน ดว้ ยแบบต่าง ๆ ได้ ดว้ ยแบบต่าง ๆ

ถูกตอ้ ง อยา่ งถูกตอ้ ง แต่ยงั ไม่ถูกตอ้ ง

4. การสรุปผล สรุปผลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สรุปผลไดอ้ ยา่ งกระชบั สรุปผลไดก้ ระชบั สรุปผลโดยไม่ใช้
กระชบั ชดั เจน และ แต่ยงั ไม่ชดั เจนและ กะทดั รัด แต่ไมช่ ดั เจน ขอ้ มูล และไมถ่ ูกตอ้ ง

ครอบคลุม มีเหตุผล ไมค่ รอบคลุมขอ้ มลู
ท่อี า้ งอิงจากการสืบสอบ จากการวิเคราะห์

ได้ ท้งั หมด

ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา

ลงช่ือ )
( )

ตาํ แหน่ง

บนั ทกึ หลงั การสอน

ผลการจดั การเรียนการสอน

ปัญหา/อุปสรรค

แนวทางแกไ้ ข

ครูผสู้ อน
(

วนั ทีบ่ นั ทึก