คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 45 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 รายการประเมิน ระดับคะแนน (4) (3) (2) (1) 3. หากต้องน�ำวิธีการจัดการขยะที่ได้คัดเลือกไปใช้ แล้วพบ ปัญหาว่าเพื่อนไม่ให้ความร่วมมือ นักเรียนจะสามารถ บอกวิธีการแก้ปัญหาได้ 4. นักเรียนสามารถท�ำนายผลการแก้ปัญหาที่นักเรียนคิดขึ้น มาได้ รวมทั้งหมด ลงชื่อ..........................................................ผู้ประเมิน (.........................................................) ........................../........................./......................... เกณฑ์การให้คะแนน รายการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. นักเรียนสามารถ ออกแบบวิธีการ แก้ปัญหาและ จัดการขยะภายใน โรงเรียน ที่นักเรียน สามารถน�ำไปปฏิบัติ จริงได้ ออกแบบรูปแบบ วิธีการในการแก้ไข ปัญหาและจัดการ ขยะภายในโรงเรียน ที่นักเรียนสามารถ น�ำไปปฏิบัติจริงได้ 4 วิธี หรือมากกว่า ออกแบบรูปแบบ วิธีการในการแก้ไข ปัญหาและจัดการ ขยะภายในโรงเรียน ที่นักเรียนสามารถ น�ำไปปฏิบัติจริงได้ 3 วิธี ออกแบบรูปแบบ วิธีการในการแก้ไข ปัญหาและจัดการ ขยะภายในโรงเรียน ที่นักเรียนสามารถ น�ำไปปฏิบัติจริงได้ 2 วิธี ออกแบบรูปแบบ วิธีการในการแก้ไข ปัญหาและจัดการ ขยะภายในโรงเรียน ที่นักเรียนสามารถ น�ำไปปฏิบัติจริงได้ เพียง 1 วิธี
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 46 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 รายการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 2. นักเรียนคัดเลือก วิธีการจัดการขยะ ที่ดีที่สุดที่ออกแบบขึ้น และน�ำมาเปรียบเทียบ กับวิธีการจัดการขยะ แบบเดิมได้ น�ำรูปแบบวิธีการ แก้ปัญหาและจัดการ ขยะภายในโรงเรียน ที่ออกแบบมา เปรียบเทียบกับ วิธีการจัดการขยะ แบบเดิม ให้เห็น ข้อแตกต่างได้ 4 ประเด็น หรือ มากกว่า น�ำรูปแบบวิธีการ แก้ปัญหาและจัดการ ขยะภายในโรงเรียน ที่ออกแบบมา เปรียบเทียบกับ วิธีการจัดการขยะ แบบเดิม ให้เห็น ข้อแตกต่างได้ 3 ประเด็น น�ำรูปแบบวิธีการ แก้ปัญหาและจัดการ ขยะภายในโรงเรียน ที่ออกแบบมา เปรียบเทียบกับ วิธีการจัดการขยะ แบบเดิม ให้เห็น ข้อแตกต่างได้ 2 ประเด็น น�ำรูปแบบวิธีการ แก้ปัญหาและจัดการ ขยะภายในโรงเรียน ที่ออกแบบมา เปรียบเทียบกับ วิธีการจัดการขยะ แบบเดิม ให้เห็น ข้อแตกต่างได้เพียง 1 ประเด็น 3. หากต้องน�ำวิธีการ จัดการขยะที่ได้ คัดเลือกไปใช้ แล้ว พบปัญหาว่าเพื่อน ไม่ให้ความร่วมมือ นักเรียนจะสามารถ บอกวิธีการ แก้ปัญหาได้ บอกวิธีการแก้ปัญหา ได้ 4 ประเด็น หรือ มากกว่า บอกวิธีการแก้ปัญหา ได้ 3 ประเด็น บอกวิธีการแก้ปัญหา ได้ 2 ประเด็น บอกวิธีการแก้ปัญหา ได้เพียง 1 ประเด็น 4. นักเรียนสามารถ ท�ำนายผลการแก้ ปัญหาที่นักเรียน คิดขึ้นมาได้ สามารถท�ำนาย ผลการแก้ปัญหาที่ นักเรียนคิดขึ้นมาได้ ครบทั้ง 4 ประเด็น หรือมากกว่า สามารถท�ำนาย ผลการแก้ปัญหาที่ นักเรียนคิดขึ้นมาได้ 3 ประเด็น สามารถท�ำนาย ผลการแก้ปัญหาที่ นักเรียนคิดขึ้นมาได้ 2 ประเด็น สามารถท�ำนาย ผลการแก้ปัญหาที่ นักเรียนคิดขึ้นมาได้ เพียง 1 ประเด็น
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 47 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 13 - 16 ดีเยี่ยม 9 - 12 ดี 5 - 8 พอใช้ 1 - 4 ปรับปรุง นักเรียนต้องได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป จึงจะถือว่า “ผ่าน” ******************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 48 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 2.2.7 การประเมินด้วยแฟ้มสะสมงาน แฟ้มสะสมงาน เป็นการเก็บรวบรวมชิ้นงานของผู้เรียน เพื่อสะท้อนความก้าวหน้าและความส�ำเร็จ ของผู้เรียน โดยจะต้องมีผลงานในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่แสดงถึงความก้าวหน้าของผู้เรียน ซึ่งในวิธีการประเมินนี้ สามารถน�ำมาใช้ประเมินความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ส�ำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 ซึ่งมี รายละเอียดเครื่องมือประเมิน ดังนี้ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมิน 1. เลือกและใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเองและสังคม 2. มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ลักษณะเครื่องมือ แบบประเมินแฟ้มสะสมงาน วิธีการใช้เครื่องมือ การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลฉบับนี้ สามารถใช้หลังการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 - 6 การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้แบบประเมินแฟ้มสะสมงาน ควรอยู่ในระดับ “พอใช้” ขึ้นไป
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 49 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตัวอย่างเครื่องมือประเมินความสามารถในการใช้เทคโนโลยี แบบประเมินแฟ้มสะสมงาน ชื่อ - สกุล......................................................................................................ชั้น...................เลขที่................... ค�ำชี้แจง ครูให้นักเรียนจัดท�ำแฟ้มสะสมงาน เพื่อน�ำไปรวบรวมผลงานของตนเองที่เกิดจากการเรียนในรายวิชา (ระบุชื่อรายวิชา).............................................................โดยเมื่อเสร็จสิ้นการเรียนการสอน รายภาคเรียน (ภาคเรียนที่)................./รายปี (ปีการศึกษา).........................ครูจึงน�ำแฟ้มสะสมงานของนักเรียนมาประเมิน ตามองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้ รายการประเมินแฟ้มสะสมงาน ระดับคะแนน ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม 3 2 1 1. ความสอดคล้องระหว่างผลงานกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 2. รูปลักษณ์และองค์ประกอบของแฟ้มสะสมงาน 3. การจัดระบบแฟ้มสะสมงาน 4. การสะท้อนการเรียนรู้จากชิ้นงานในแฟ้มสะสมงาน รวมทั้งหมด ลงชื่อ..........................................................ผู้ประเมิน (.........................................................) ........................../........................./.........................
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 50 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์การให้คะแนน รายการประเมิน แฟ้มสะสมงาน เกณฑ์การให้คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. ความสอดคล้อง ระหว่างผลงานกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ แฟ้มสะสมงานมีผลงาน ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ การเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 80 ขึ้นไป แฟ้มสะสมงานมีผลงาน ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ การเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 60 - 79 ขึ้นไป แฟ้มสะสมงานมีผลงาน ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ การเรียนรู้ น้อยกว่า ร้อยละ 60 2. รูปลักษณ์และ องค์ประกอบของแฟ้ม สะสมงาน - สะอาด สวยงาม แสดง ความคิดสร้างสรรค์ - องค์ประกอบของแฟ้ม สะสมงานครบถ้วนสมบูรณ์ เช่น หน้าปก ค�ำน�ำ สารบัญ ชิ้นงาน และการสะท้อน ชิ้นงานในแต่ละชิ้น และอื่น ๆ ตามความเหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 100 - สะอาด สวยงาม - องค์ประกอบของแฟ้ม สะสมงานยังไม่ครบถ้วน โดยได้ร้อยละ 70 เช่น มีหน้าปก ค�ำน�ำ แต่ไม่มี สารบัญ เป็นต้น - ไม่สะอาด - องค์ประกอบของแฟ้ม สะสมงานยังไม่ครบถ้วน โดยได้ร้อยละ 60 เช่น มีเฉพาะชิ้นงาน เป็นต้น 3. การจัดระบบแฟ้ม สะสมงาน การจัดองค์ประกอบ และ ล�ำดับชิ้นงานในแฟ้มสะสมงาน มีความเป็นระเบียบต่อเนื่อง ตรงตามจุดประสงค์การ เรียนรู้ที่ก�ำหนด การจัดองค์ประกอบ และ ล�ำดับชิ้นงานในแฟ้มสะสมงาน มีความเป็นระเบียบ แต่ไม่ต่อเนื่องตามจุดประสงค์ การเรียนรู้ที่ก�ำหนด การจัดล�ำดับชิ้นงาน ในแฟ้มสะสมงาน ไม่เป็น ระเบียบ และไม่ต่อเนื่อง ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ที่ก�ำหนด 4. การสะท้อน การเรียนรู้จากชิ้นงาน ในแฟ้มสะสมงาน ชิ้นงานของนักเรียนมีการ สะท้อนการเรียนรู้ตรงตาม จุดประสงค์การเรียนรู้ ในทุกชิ้นงาน คิดเป็นร้อยละ 100 ชิ้นงานของนักเรียนมีการ สะท้อนการเรียนรู้ตรงตาม จุดประสงค์การเรียนรู้ ในชิ้นงาน คิดเป็นร้อยละ 60 - 79 ชิ้นงานของนักเรียนมีการ สะท้อนการเรียนรู้ตรงตาม จุดประสงค์การเรียนรู้ ในชิ้นงานน้อยกว่า คิดเป็นร้อยละ 60
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 51 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 11 - 12 ดีเยี่ยม 9 - 10 ดี 7 - 8 พอใช้ 4 - 6 ปรับปรุง นักเรียนต้องได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป จึงจะถือว่า “ผ่าน” ******************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 52 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตัวอย่างเครื่องมือประเมินชิ้นงานนักเรียนที่เป็นส่วนหนึ่งของแฟ้มสะสมงาน แบบประเมินชิ้นงาน ชื่อ - สกุล นักเรียน................................................................................................ชั้น.................เลขที่................. ******************************************** ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมิน 1. เลือกและใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเองและสังคม 2. มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี วิธีการใช้เครื่องมือ การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลฉบับนี้ สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการจัด การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะส�ำคัญ ของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้แบบประเมินชิ้นงาน ควรอยู่ในระดับ “พอใช้” ขึ้นไป ค�ำชี้แจง ครูให้นักเรียนออกแบบโปสเตอร์โฆษณาที่นักเรียนสนใจ จ�ำนวน 1 ชิ้น โดยเลือกใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์ตามความเหมาะสม พร้อมทั้งให้นักเรียนสะท้อนสิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ (สะท้อนผลเกี่ยวกับ ความรู้/ทักษะ/ประโยชน์/ความรู้สึก) ในการจัดท�ำชิ้นงานดังกล่าว รายการประเมินชิ้นงาน ระดับคะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. ด้านการออกแบบ - ความคิดสร้างสรรค์ - รูปแบบตัวอักษรมีความเหมาะสม - การจัดวางองค์ประกอบมีความสมดุล - ความสวยงามและน่าสนใจ
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 53 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 รายการประเมินชิ้นงาน ระดับคะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 2. ด้านการใช้เทคโนโลยี - ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูล - ความหลากหลายของการใช้เครื่องมือ ในโปรแกรมการออกแบบ - ใช้โปรแกรมที่เหมาะสมกับชิ้นงาน - การเผยแพร่ผลงานผ่านช่องทางออนไลน์ 3. ด้านเนื้อหา - เนื้อหาสั้น กระชับ - รูปภาพหรือสัญลักษณ์มีความสอดคล้องกับ เนื้อหา - เข้าใจได้ง่าย - สื่อความหมายได้ครบ 4. ด้านคุณธรรม ประกอบด้วย - ส่งงานตรงตามก�ำหนดเวลา - ไม่คัดลอกหรือเลียนแบบชิ้นงานของผู้อื่น - ไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อผู้อื่น หรือต่อสังคม - มีประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน รวมคะแนนทั้งหมด ลงชื่อ..........................................................ผู้ประเมิน (.........................................................) ........................../........................./.........................
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 54 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์การให้คะแนน รายการประเมินชิ้นงาน เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. ด้านการออกแบบ ประกอบด้วย - มีความคิดสร้างสรรค์ - ใช้รูปแบบตัวอักษรมีความเหมาะสม - มีการจัดวางองค์ประกอบมีความสมดุล - ความสวยงามและน่าสนใจ มีองค์ประกอบ ด้านการ ออกแบบ ครบทั้ง 4 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านการ ออกแบบ จ�ำนวน 3 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านการ ออกแบบ จ�ำนวน 2 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านการ ออกแบบ เพียง 1 ข้อ 2. ด้านการใช้เทคโนโลยี ประกอบด้วย - ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูล - มีความหลากหลายของการใช้เครื่องมือ ในโปรแกรมการออกแบบ - ใช้โปรแกรมที่เหมาะสมกับชิ้นงาน - มีการเผยแพร่ผลงานผ่านช่องทางออนไลน์ มีองค์ประกอบ ด้านการใช้ เทคโนโลยี ครบทั้ง 4 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านการใช้ เทคโนโลยี จ�ำนวน 3 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านการใช้ เทคโนโลยี จ�ำนวน 2 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านการใช้ เทคโนโลยี เพียง 1 ข้อ 3. ด้านเนื้อหา ประกอบด้วย - เนื้อหาสั้น กระชับ - รูปภาพหรือสัญลักษณ์มีความสอดคล้องกับ เนื้อหา - เข้าใจได้ง่าย - สื่อความหมายได้ครบ มีองค์ประกอบ ด้านเนื้อหา ครบทั้ง 4 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านเนื้อหา จ�ำนวน 3 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านเนื้อหา จ�ำนวน 2 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านเนื้อหา เพียง 1 ข้อ 4. ด้านคุณธรรม ประกอบด้วย - ส่งงานตรงตามก�ำหนดเวลา - ไม่คัดลอกหรือเลียนแบบชิ้นงานของผู้อื่น - ไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อผู้อื่น หรือต่อสังคม - มีประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน มีองค์ประกอบ ด้านคุณธรรม ครบทั้ง 4 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านคุณธรรม จ�ำนวน 3 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านคุณธรรม จ�ำนวน 2 ข้อ มีองค์ประกอบ ด้านคุณธรรม เพียง 1 ข้อ
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 55 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 13 - 16 ดีเยี่ยม 9 - 12 ดี 5 - 8 พอใช้ 1 - 4 ปรับปรุง นักเรียนต้องได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป จึงจะถือว่า “ผ่าน” ******************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 56 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 2.2.8 การวัดและประเมินด้วยแบบทดสอบ การวัดและประเมินด้วยแบบทดสอบ เป็นการประเมินตัวชี้วัดด้านการรับรู้ข้อเท็จจริง (Knowledge) ผู้สอนสามารถเลือกใช้แบบทดสอบให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการวัดและประเมินนั้น ๆ ได้ ซึ่งในวิธีการ ประเมินนี้ สามารถน�ำมาใช้ประเมินความสามารถในการสื่อสาร และความสามารถในการแก้ปัญหา ส�ำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 ซึ่งมีรายละเอียดเครื่องมือประเมิน ดังนี้ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร และความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่อสาร ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมิน 1. มีความสามารถในการรับสารอย่างมีสติเพื่อให้เกิดความเข้าใจด้วยการฟัง การดู และการอ่าน 2. ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึก และทัศนะของตนเองด้วยการพูด และการเขียน 3. เลือกใช้กลวิธีในการสื่อสารอย่างเหมาะสมโดยค�ำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อบรรลุ วัตถุประสงค์ในการสื่อสาร ลักษณะเครื่องมือ แบบทดสอบ วิธีการใช้เครื่องมือ การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลฉบับนี้ สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการจัด การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะส�ำคัญ ของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้แบบทดสอบ ควรอยู่ในระดับ “พอใช้” ขึ้นไป
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 57 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตัวอย่างเครื่องมือประเมินความสามารถในการสื่อสาร แบบทดสอบ ชื่อ - สกุล............................................................................................ชั้น.....................เลขที่............................. ค�ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านเรื่องสายซ้อนของแม่ แล้วเขียนตอบค�ำถามข้อ 1 - 4 สายซ้อนของแม่... ...ก่อนอื่นต้องขออภัยส�ำหรับเจ้าของต้นเรื่อง แต่เพื่อตอกย�้ำคนที่ได้ชื่อว่า “ลูก” ทุกคน ให้หันกลับมาดูคนที่ส่งเสียคุณ เลี้ยงดูคุณอย่างเหนื่อยยาก วันนี้เราหันไปเหลียวดูท่านบ้างหรือเปล่า ก่อนจะไม่มีโอกาสดูแลเมื่อท่านจากเราไปแล้ว การจัดงานใหญ่โตมันไม่มีประโยชน์อะไร เวลาท่านอยู่ ท�ำไมไม่ท�ำ ความรู้สึกหนึ่งที่ออกมาจากใจในขณะที่.. ...ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กิน ดึก ๆ ก็โทรคุยกับแฟน ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นกิจวัตรประจ�ำวันของผม ผมเชื่อว่าใครเขาก็ท�ำแบบนี้กัน... “จ้า ตัวเองวันนี้กินข้าวรื้อยาง” “กินกับ อะไรบ้าง” แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย” “รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นผีกระสือ ที่รักจะได้เห็นใจไง” “ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ” ประโยคต่าง ๆ ที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อม มาก่อนโทร ผมยังใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์ ระยะเวลาที่ผมใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ ก็ไม่เห็นหรือ คนส่วนใหญ่เขาก็ท�ำกัน... ...เอ้อ! เกือบลืมไป กิจวัตรอีกอย่างหนึ่งของผมก็คือ...แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน “ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง” “เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย” “วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง” “อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ” ...โธ่! ค�ำถามเดิม ๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิม ๆ แม่ผมไม่เบื่อสักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจ�ำ โชคดีที่ ผมพยายามตัดบทคุย ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่วินาทีก็วางแล้ว ก็มันไม่มีอะไรจะคุย จะให้ผมท�ำยังไง จนกระทั่งวันหนึ่ง... “ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย” “เร็ว ๆ สิ เค้ายังอุตส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วน่ะ แล้วยังจะใจร้าย ไม่บอกรักเค้าอีกหรอ”...ติ๊ด ๆ ติ๊ด ๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน ผมมองไปที่ หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า “Home” “โธ่! แม่โทรมาตอนนี้ท�ำไมเนี่ย ก�ำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย” ผมไม่สลับสาย ผมก็ยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิม ๆ และนั่น ก็เป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่...
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 58 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ...หลังจากนั้นไม่นาน ทางญาติของผมโทรมาบอกผมว่า เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า แม่ของผมขัดขืนและต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ญาติของผมเล่าอีกว่า ตอนที่พบศพแม่นั้น ในมือของแม่ก�ำโทรศัพท์ไว้แน่น เบอร์โทรออกล่าสุดของแม่ ไม่ใช่โทรแจ้งต�ำรวจหรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่...เลือกที่จะโทรหาผม ...สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่เลือกที่จะท�ำ คือ โทรศัพท์หาผมเพื่อจะฟังเสียงผม วินาทีนั้น น�้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น วันนั้น...ผมเลือกที่จะคุยกับแฟน ดีกว่าที่จะคุยกับแม่... ...ผู้หญิงคนเดียวในโลกที่คุยกับผมเป็นครั้งแรก ในชีวิตผู้หญิงคนเดียวที่ผมสามารถจะคุย กับเธอได้ทุกเวลา โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใด ๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่ ไม่ต้องมีมุก ไม่ต้องมีค�ำหวานใด ๆ คนเดียวในโลกที่โทรหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิม ๆ คนเดียวในโลก ที่ไม่ว่าโทรศัพท์ของแม่จะโปรโมชันแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม และคนเดียวในโลกจริง ๆ ที่เลือกคุย กับผมในวินาทีสุดท้ายของชีวิต... ...ในบางครั้ง ประโยคที่ว่า “ไม่มีค�ำว่าสายหากเราจะคิดแก้ตัว” มันก็ไม่เป็นความจริง เพราะบางปรากฏการณ์ในโลกเกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว...อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม หลังจากนั้น ไม่นานเธอก็ทิ้งผมไป วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น หลาย ๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่ท�ำ ไม่ได้เป็นสิ่งถูกต้อง เสมอไป เพราะตัวเราเท่านั้นที่จะต้องรับผลการกระท�ำของเราเอง เราจะรู้ว่าสิ่งใดส�ำคัญก็ต่อเมื่อเรา ต้องสูญเสียมันไป ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์ รอที่จะตอบค�ำถามเดิม ๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง แต่...ไม่มี ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว... 1. ให้นักเรียนเรียงล�ำดับเหตุการณ์ให้ถูกต้องตามเนื้อเรื่อง โดยใช้ตัวเลือกที่ก�ำหนดให้ต่อไปนี้ 1) วันหนึ่งแม่โทรซ้อนสายเข้ามาหาผม ขณะที่ผมก�ำลังโทรคุยกับแฟน 2) ผมมักจะโทรคุยกับแฟนเป็นเวลานานในทุก ๆ วัน 3) แม่ถูกโจรแทงเสียชีวิต โดยพยายามโทรหาผมก่อนจะสิ้นใจ 4) ผมทราบข่าวจึงเสียใจมาก หลังจากนั้นจึงน�ำอุทาหรณ์นี้มาเล่าให้เป็นบทเรียน 5) ผมมักคุยกับแม่เพียงเล็กน้อย เพราะเห็นว่าไม่ส�ำคัญ ตอบ.....................................................................................................................................................................
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 59 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 2. ข้อคิดส�ำคัญของเรื่อง สายซ้อนของแม่ คืออะไร ตอบ..................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนจะน�ำข้อคิดจากเรื่อง สายซ้อนของแม่ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวันได้อย่างไร ระบุอย่างน้อย 2 ข้อ ตอบ 1. .................................................................................................................................................. 2. .................................................................................................................................................. 3. .................................................................................................................................................. 4. เมื่อนักเรียนอ่านเรื่อง สายซ้อนของแม่ แล้วนักเรียนต้องการสื่อสารถึงใครมากที่สุด และสื่อสารว่าอะไร ตอบ 1. สื่อสารถึง.................................................................................................................................. 2. สื่อสารว่า.................................................................................................................................. เกณฑ์การให้คะแนน แนวค�ำตอบ ข้อที่ 1 เฉลย ล�ำดับเหตุการณ์ ดังนี้ 2) ผมมักจะโทรคุยกับแฟนเป็นเวลานานในทุก ๆ วัน 5) ผมมักคุยกับแม่เพียงเล็กน้อย เพราะเห็นว่าไม่ส�ำคัญ 1) วันหนึ่งแม่โทรซ้อนสายเข้ามาหาผม ขณะที่ผมก�ำลังโทรคุยกับแฟน 3) แม่ถูกโจรแทงเสียชีวิต โดยพยายามโทรหาผมก่อนจะสิ้นใจ 4) ผมทราบข่าวจึงเสียใจมาก หลังจากนั้นจึงน�ำอุทาหรณ์นี้มาเล่าให้เป็นบทเรียน คะแนน 5 คะแนน ถ้าเรียงถูก ได้คะแนน 1 คะแนน ต่อ 1 เหตุการณ์ คะแนน 0 คะแนน ไม่ตอบ หรือ ระบุค�ำตอบอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ข้อที่ 2 คะแนนเต็ม 2 คะแนน - ควรให้ความส�ำคัญต่อความรักที่บริสุทธิ์ คือความรักของแม่ - เห็นความส�ำคัญของครอบครัว พ่อ/แม่ - ให้ความส�ำคัญของพ่อ หรือแม่ - ความรักของแม่ส�ำคัญที่สุด คะแนน 1 คะแนน - ระบุข้อคิดที่เกี่ยวกับแม่ แต่ไม่ใช่ค�ำตอบเดียวกันกับค�ำตอบ ของคะแนนเต็ม คะแนน 0 คะแนน - ไม่ตอบ หรือ ระบุค�ำตอบอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 60 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ข้อที่ 3 คะแนนเต็ม 2 คะแนน - ให้ความส�ำคัญต่อแม่มากกว่าคนอื่น โดยเมื่อแม่ต้องการสิ่งใด ควรท�ำให้แม่ก่อน - โทรศัพท์ช่วงดึกให้น้อยลงจะได้มีเวลาอยู่กับแม่ให้มากขึ้น - แบ่งเวลาการคุยกับแฟนอย่างพอเหมาะ - อื่น ๆ ตามดุลพินิจของครูผู้ตรวจ คะแนน 1 คะแนน - ระบุเพียง 1 ข้อ หรือ ข้อใดข้อหนึ่งระบุไม่สอดคล้องกับเรื่อง คะแนน 0 คะแนน - ไม่ตอบ หรือ ระบุค�ำตอบอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ข้อที่ 4 คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1. สื่อสารถึงแม่ 2. สื่อสารว่า ลูกจะรักแม่ให้มากที่สุด 1. สื่อสารถึงนักเรียน หรือเยาวชน 2. สื่อสารว่าไม่ควรพลาดโอกาส ที่จะแสดงความรักต่อแม่ มิฉะนั้น อาจพลาดโอกาสเหมือนในเรื่อง สายซ้อนของแม่ 1. สื่อสารถึงคนที่มีแฟน 2. สื่อสารว่าควรแบ่งเวลาในการพูดคุยกับ คนที่เรารักอย่างพอเหมาะ เพื่อให้มีเวลาในการอยู่กับคนที่เรารัก ครบถ้วนทุกคน คะแนน 1 คะแนน - ระบุว่าสื่อสารถึงใคร แต่ไม่ระบุว่าสื่อสารว่าอะไร หรือ ระบุเพียง อย่างใดอย่างหนึ่ง คะแนน 0 คะแนน - ไม่ตอบ หรือ ระบุค�ำตอบอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 10 - 11 ดีเยี่ยม 7 - 9 ดี 4 - 6 พอใช้ 0 - 3 ปรับปรุง นักเรียนต้องได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป จึงจะถือว่า “ผ่าน”
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 61 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ความสามารถในการแก้ปัญหา ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมิน ด้านการคิดแก้ปัญหาระบุปัญหาและสาเหตุของปัญหาที่ยากและซับซ้อน และมีผลกระทบต่อสังคม เสนอวิธีการระบุสาเหตุของปัญหาและประเมินผลกระทบของปัญหา โดยใช้วิธีการที่เหมาะสมและครอบคลุม ทุกมิติ วิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนออกเป็นปัญหาย่อย ๆ สามารถเปรียบเทียบแหล่งข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ โดยค�ำนึงถึงความถูกต้อง ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา เสนอทางเลือกในการแก้ปัญหา โดยมีเกณฑ์ส�ำหรับเลือก วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมและครอบคลุมทุกมิติ วางแผนการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา และใช้กระบวนการติดตาม แผนการแก้ปัญหาเพื่อการตัดสินใจและก�ำกับกระบวนการแก้ปัญหาได้ถูกต้อง ลักษณะเครื่องมือ แบบทดสอบ วิธีการใช้เครื่องมือ การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลฉบับนี้ สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการจัด การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะส�ำคัญ ของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้แบบทดสอบ ควรอยู่ในระดับ “พอใช้” ขึ้นไป ตัวอย่างเครื่องมือประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา แบบทดสอบ ชื่อ - สกุล..........................................................................................ชั้น.........................เลขที่.......................... ค�ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทความแล้วตอบค�ำถามข้อ 1 - 6 ‘ฟู้ดเดลิเวอรี่’ ช่วงล็อกดาวน์โควิด ก่อขยะพลาสติกในเขตเมืองเพิ่มขึ้นเท่าตัว สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หวั่นการบริการอาหารในรูปแบบเดลิเวอรี่ (Food delivery) ในกรุงเทพและปริมลฑล รวมทั้งเมืองใหญ่ต่าง ๆ ที่ให้ความสะดวกสบาย ขยายตัวมากกว่า 100% ในช่วงประกาศภาวะฉุกเฉิน เดือนมีนาคมและเมษายน ที่ล็อกดาวน์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” สร้างขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์มหาศาล ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อ�ำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่าในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด พบว่าเขตเมืองต่าง ๆ ทั้งกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่างมีปริมาณขยะรวมลดลง เช่น กรณีที่ภูเก็ต ลดลงจาก 970 ตันต่อวัน เป็น 840 ตันต่อวัน (ลด 13%) พัทยา จาก 850 ตันต่อวัน เป็น 380 ตันต่อวัน (ลด 55%) เป็นต้น
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 62 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 “แต่โดยรวมแล้วสัดส่วนขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นในเกือบทุกเมือง โดยเฉพาะจากการสั่งอาหาร รูปแบบเดลิเวอรี่ (Food delivery) ส่งถึงที่บ้านหรือที่ท�ำงาน ซึ่งมีบริการในหลายจังหวัดในประเทศไทย และแต่ละครั้งที่สั่งอาหาร มีจ�ำนวนพลาสติกไม่น้อยกว่า 5 ชิ้น” ขยะพลาสติกไม่น้อยกว่า 5 ชิ้นต่อการสั่งอาหารแต่ละครั้ง ได้แก่ ถุงพลาสติก กล่องกระดาษ ใส่อาหาร กล่องพลาสติกใส่อาหาร กล่องพลาสติก/ซองพลาสติกแยกชนิดอาหาร ซองเครื่องปรุงรส แก้วพลาสติกใส่เครื่องดื่ม ตะเกียบไม้หรือพลาสติก ช้อนและส้อมพลาสติก พร้อมซองพลาสติก ใส่ตะเกียบหรือช้อน กระดาษทิชชู 1. บทความนี้เกิดจากปัญหาใด และมีสาเหตุมาจากสิ่งใด .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... 2. จงบอกผลกระทบของปัญหาในประเด็นที่ส่งผลต่อมิติด้านผู้บริโภค ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ ผู้ให้บริการอาหาร และสังคม .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... 3. จากปัญหาที่ปรากฏในบทความ สามารถสะท้อนหรือแยกเป็นปัญหาย่อยอื่นใดได้อีกบ้าง (ระบุ 4 ประเด็น) .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 63 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 4. การหาวิธีการแก้ปัญหา ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งใด เพราะเหตุใด (ระบุ 4 แหล่ง พร้อมอธิบาย) .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... 5. จงอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาตามความคิดของนักเรียน อย่างน้อย 4 วิธี .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... 6. จากวิธีการที่เสนอข้างต้น นักเรียนเลือกวิธีการใด จงให้เหตุผลประกอบ อย่างน้อย 4 ข้อ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... แนวค�ำตอบ 1. บทความนี้เกิดจากปัญหาใด และมีสาเหตุมาจากสิ่งใด - ปัญหาขยะจากการบริโภคอาหาร มีสาเหตุมาจากความต้องการการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ที่เยอะขึ้น ซึ่งใช้ภาชนะในการบรรจุอาหารที่มากมายหลายชิ้น บรรจุภัณฑ์ไม่สามารถน�ำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือน�ำมาท�ำความสะอาดยาก ผู้บริโภคจึงทิ้งและก่อเกิดเป็นขยะจ�ำนวนมาก 2. จงบอกผลกระทบของปัญหาในประเด็นที่ส่งผลต่อมิติด้านผู้บริโภค ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ ผู้ให้บริการอาหาร และสังคม ดังนี้ - ผู้บริโภค กล่าวคือ ผู้บริโภคจะต้องรับภาระในการก�ำจัดขยะที่มากขึ้นและบางครั้งขยะ ที่มีคราบอาหารก่อเกิดความยุ่งยากในการก�ำจัดที่ถูกวิธี อาจท�ำให้ผู้บริโภคยิ่งละเลยหน้าที่การก�ำจัดขยะ ที่ถูกต้อง
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 64 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 - ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ กล่าวคือ ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่อาจเกิดความล�ำบากใจในการสร้าง การรณรงค์ให้ร้านค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือบางทีการใช้บรรจุภัณฑ์อื่นอาจท�ำให้อาหารเสียหาย ท�ำให้ผู้ให้บริการอาจต้องชดใช้ และการเสนอลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ต่อการสั่งซื้อก็อาจท�ำให้ลูกค้าไม่พึงพอใจ ในบริการ - ผู้ให้บริการอาหาร กล่าวคือ ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการหาบรรจุภัณฑ์อื่น ซึ่งเป็นที่ทราบว่า ผลิตภัณฑ์ใส่อาหารที่ท�ำจากธรรมชาติล้วนราคาสูง หรือไม่เหมาะต่อการใช้กับอาหารบางประเภท หรืออาจเกิด ความไม่สบายใจ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะก�ำหนดความต้องการในค�ำสั่งซื้อ เช่น ขอช้อนเพิ่ม ขอเครื่องปรุงเพิ่ม เป็นต้น - สังคม กล่าวคือ วิถีชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากที่เคยไปซื้อหาอาหารเอง ก็เปลี่ยนเป็นโทรสั่งอาหารเดลิเวอรี่แทน 3. จากปัญหาที่ปรากฏในบทความ สามารถสะท้อนหรือแยกเป็นปัญหาย่อยอื่นใดได้อีกบ้าง (ระบุ 4 ประเด็น) - ปัญหามลพิษทางอากาศ ที่เกิดจากการขนส่งอาหารที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์วันละหลายรอบ หลายคัน - ปัญหาสุขภาพของผู้บริโภค ที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่ได้มีสารอาหารครบ 5 หมู่ เพราะอาหารเดลิเวอรี่อาจมีปริมาณสารอาหารที่ไม่มากเพียงพอ หรือมีโซเดียมปริมาณมาก - ปัญหาราคาต้นทุนของอาหาร เพราะเมื่อการบริการมีต้นทุนสูง ทั้งค่าส่ง ค่าอาหาร หรือ ค่าพิเศษที่ทางร้านหรือผู้ให้บริการก�ำหนด อาจท�ำให้ผู้บริโภคต้องเสียเงินมากในการใช้จ่ายในการซื้ออาหาร - ปัญหาเวลาที่คลาดเคลื่อนในการรับส่งอาหาร อาจท�ำให้ผู้บริโภครับประทานอาหารไม่ตรง เวลา เกิดความหงุดหงิดสู่ปัญหาสุขภาพจิตได้ - ปัญหาอุบัติเหตุทางท้องถนน การขับรถของผู้ให้บริการที่เร่งรีบหรือต้องวิ่งรอบงานให้ได้มาก การไม่ช�ำนาญทางอาจท�ำให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่ได้อย่างง่าย 4. การหาวิธีการแก้ปัญหา ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งใด เพราะเหตุใด (ระบุ 4 แหล่ง พร้อมอธิบาย) - จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรหรือแก้ไขปัญหา เพราะอาจมีวิธีที่สอน ให้ผู้บริโภครู้จักการน�ำบรรจุภัณฑ์มาใช้ใหม่ หรือทิ้งอย่างถูกวิธี - หน่วยงานในชุมชน เพราะเป็นหน่วยงานที่จะสะท้อนการแก้ปัญหาตามบริบทของชุมชน เช่น การรณรงค์แยกขยะเป็นถัง ๆ หรือมีจุดบริการทิ้งเศษอาหาร
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 65 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 - บทความการก�ำจัดขยะจากสื่อต่าง ๆ เช่น บนเว็บไซต์ เพราะเข้าถึงข้อมูลได้เร็วตรงตาม ความต้องการ - ฯลฯ 5. จงอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาตามความคิดของนักเรียน อย่างน้อย 4 วิธี - การแยกขยะในครัวเรือนให้เป็นประเภท เพราะเราจะได้ก�ำจัดอย่างถูกวิธี เช่น ขยะ บรรจุภัณฑ์ กล่องโฟม กล่องกระดาษ เพื่อให้รถขยะน�ำไปทิ้งในส่วนที่ถูกที่ - การน�ำบรรจุภัณฑ์มาใช้ใหม่ เช่น กล่องอาหารพลาสติก หรือช้อนพลาสติก สามารถล้าง ให้สะอาด และประยุกต์ให้เป็นกล่องเก็บอื่น ๆ เช่น เครื่องปรุงในครัว เก็บพวกผักผลไม้ ปิดฝาและใส่ตู้เย็น หรือไว้ห่ออาหารเวลาไปรับประทานนอกบ้าน - ลดการใช้บริการเดลิเวอรี่ โดยอาจไปทานที่ร้านหรือน�ำกล่องอาหารส่วนตัวไปใส่ โดยอาจมี การก�ำหนด เช่น หนึ่งอาทิตย์จะใช้บริการเฉพาะตอนกลางวันเร่งรีบหรือจ�ำเป็นจริง ๆ - รณรงค์ให้ร้านค้าใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ มีการก�ำหนดราคาที่เหมาะสม ไม่สูงจนเกินไป เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการค้า ร้านอาหารตัดสินใจ 6. จากวิธีการที่เสนอข้างต้น นักเรียนเลือกวิธีการใด จงให้เหตุผลประกอบ อย่างน้อย 4 ข้อ เช่น วิธีการที่เหมาะสมที่สุด คือ การน�ำบรรจุภัณฑ์มาใช้ใหม่ เช่น กล่องอาหารพลาสติก หรือช้อนพลาสติก สามารถล้างให้สะอาด และประยุกต์ให้เป็นกล่องเก็บสิ่งของต่าง ๆ เช่น เครื่องปรุงในครัว เก็บพวกผักผลไม้ ปิดฝาและใส่ตู้เย็น หรือไว้ห่ออาหารเวลาไปรับประทานนอกบ้าน เพราะ - สามารถลดขยะและเปลี่ยนเป็นการใช้งานที่นานขึ้น ลดทั้งทรัพยากรและเงินที่ต้องการ สิ่งที่ใกล้เคียงกันมาใช้ - สามารถท�ำได้จริง เห็นผลได้ - สามารถเริ่มท�ำได้ทันทีและทุกเมื่อ - มุ่งเน้นที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคคือผู้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นปลายทางของการน�ำไปสู่ขยะ - ไม่กระทบต่อภาคส่วนอื่น ๆ - ฯลฯ
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 66 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์การให้คะแนน ข้อที่ เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน 1. บทความนี้ เกิดจากปัญหาใด และมีสาเหตุ มาจากสิ่งใด นักเรียนเขียน ระบุปัญหาและ สาเหตุได้อย่าง ชัดเจนมีความ สัมพันธ์กัน และ มีรายละเอียด สอดคล้องกับที่ ปรากฏ ในบทความ นักเรียนเขียน ระบุปัญหา และสาเหตุได้ สอดคล้องกับ ที่ปรากฏ ในบทความ แต่ ไม่มีรายละเอียด เพิ่มเติม นักเรียนเขียน ระบุปัญหา และสาเหตุได้ แต่ไม่สอดคล้อง กับที่ปรากฏ ในบทความ นักเรียนเขียน ระบุเฉพาะ ปัญหา แต่ไม่ สามารถระบุ สาเหตุของ ปัญหาได้ นักเรียนไม่ สามารถระบุ ปัญหาและ สาเหตุได้ 2. จงบอก ผลกระทบของปัญหา ในประเด็นที่ส่งผล ต่อมิติ - ผู้บริโภค - ผู้ให้บริการ เดลิเวอรี่ - ผู้ให้บริการอาหาร และ - สังคม นักเรียนอธิบาย ผลกระทบของ ปัญหาได้อย่าง ชัดเจน ครบทั้ง 4 มิติ นักเรียนอธิบาย ผลกระทบของ ปัญหาได้อย่าง ชัดเจน 3 มิติ นักเรียนอธิบาย ผลกระทบของ ปัญหาได้อย่าง ชัดเจน 2 มิติ นักเรียนอธิบาย ผลกระทบของ ปัญหาได้อย่าง ชัดเจน เพียง 1 มิติ นักเรียนไม่ สามารถอธิบาย ผลกระทบของ ปัญหาได้ 3. จากปัญหาที่ ปรากฏในบทความ สามารถสะท้อน หรือแยกเป็นปัญหา ย่อยอื่นใดได้อีกบ้าง (ระบุ 4 ประเด็น) นักเรียนสามารถ แยกปัญหาย่อย ๆ จากปัญหา หลักของเรื่อง ได้ 4 ประเด็น และสัมพันธ์ กับสาเหตุและ ปัญหา ในบทความ นักเรียนสามารถ แยกปัญหาย่อย ๆ จากปัญหา หลักของเรื่อง ได้ 3 ประเด็น และสัมพันธ์ กับสาเหตุและ ปัญหา ในบทความ นักเรียนสามารถ แยกปัญหาย่อย ๆ จากปัญหา หลักของเรื่อง ได้ 2 ประเด็น และสัมพันธ์ กับสาเหตุและ ปัญหา ในบทความ นักเรียนสามารถ แยกปัญหาย่อย ๆ จากปัญหาหลัก ของเรื่องได้ 1 ประเด็น และ สัมพันธ์ กับ สาเหตุและ ปัญหา ในบทความ นักเรียนไม่ สามารถแยก ปัญหาได้ หรือ แยกปัญหาย่อย จากปัญหาหลัก ของเรื่องได้เพียง 1 ประเด็น แต่ไม่เกี่ยวข้อง และไม่สัมพันธ์ กับสาเหตุและ ปัญหาในบทความ
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 67 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ข้อที่ เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน 4. การหาวิธีการ แก้ปัญหา ควรศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติมจาก แหล่งใด เพราะ เหตุใด (ระบุ 4 แหล่ง พร้อมอธิบาย) นักเรียนบอก แหล่งข้อมูลได้ ครบทั้ง 4 แหล่ง พร้อมอธิบาย เหตุผลประกอบ อย่างชัดเจน นักเรียนบอก แหล่งข้อมูลได้ 3 แหล่ง พร้อม เหตุผลประกอบ อย่างชัดเจน นักเรียนบอก แหล่งข้อมูลได้ 2 แหล่ง พร้อม เหตุผลประกอบ อย่างชัดเจน นักเรียนบอก แหล่งข้อมูลได้ 1 แหล่ง พร้อม เหตุผลประกอบ อย่างชัดเจน นักเรียนไม่ สามารถบอก แหล่งข้อมูลได้ หรือบอกแหล่ง ข้อมูลได้ 1 แหล่ง แต่ไม่มีเหตุผล ประกอบ 5. จงอธิบายและ ออกแบบวิธีการ แก้ปัญหาตาม ความคิดของนักเรียน อย่างน้อย 4 วิธี นักเรียนอธิบาย การออกแบบวิธี การแก้ปัญหา ตามความคิด ของนักเรียน โดยตอบอย่างน้อย 4 วิธี ซึ่งแสดง เหตุผลหลักการ อย่างชัดเจน นักเรียนอธิบาย การออกแบบวิธี การแก้ปัญหา ตามความคิด ของนักเรียน โดยตอบ 3 วิธี ซึ่งแสดงเหตุผล หลักการอย่าง ชัดเจน นักเรียนอธิบาย การออกแบบวิธี การแก้ปัญหา ตามความคิด ของนักเรียน โดยตอบ 2 วิธี ซึ่งแสดงเหตุผล หลักการอย่าง ชัดเจน นักเรียนอธิบาย การออกแบบวิธี การแก้ปัญหา ตามความคิด ของนักเรียน โดยตอบเพียง 1 วิธี ซึ่งแสดง เหตุผลหลักการ อย่างชัดเจน นักเรียนไม่ สามารถออกแบบ วิธีการแก้ปัญหา ได้ 6. จากวิธีการ ที่เสนอข้างต้น นักเรียนเลือก วิธีการใด จงให้ เหตุผลประกอบ อย่างน้อย 4 ข้อ นักเรียนระบุ วิธีการที่เลือกได้ พร้อมให้เหตุผล ประกอบได้ อย่างน้อย 4 ข้อ นักเรียนระบุ วิธีการที่เลือกได้ พร้อมให้เหตุผล ประกอบได้ 3 ข้อ นักเรียนระบุ วิธีการที่เลือกได้ พร้อมให้เหตุผล ประกอบได้ 2 ข้อ นักเรียนระบุ วิธีการที่เลือกได้ พร้อมให้เหตุผล ประกอบได้ 1 ข้อ นักเรียนไม่ สามารถเลือก วิธีการในการ แก้ปัญหาได้ และไม่สามารถ ให้เหตุผล ประกอบได้
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 68 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 19 - 24 ดีเยี่ยม 13 - 18 ดี 7 - 12 พอใช้ 0 - 6 ปรับปรุง นักเรียนต้องได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป จึงจะถือว่า “ผ่าน” ******************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 69 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 2.2.9 การประเมินด้านความรู้สึกนึกคิด การประเมินด้านความรู้สึกนึกคิด เป็นการประเมินคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะ และเจตคติ ที่ควรปลูกฝังในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งในวิธีการประเมินนี้สามารถน�ำมาใช้ประเมินความสามารถในการคิด ส�ำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 ซึ่งมีรายละเอียดเครื่องมือประเมิน ดังนี้ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมิน การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ระบุความเข้าใจที่หลากหลายจากสถานการณ์ที่ยากและซับซ้อน ตัดสินใจเลือกค�ำตอบและประเมินความเหมาะสมของค�ำกล่าวอ้าง พร้อมแสดงการแปลความหมายข้อมูล และหลักฐานเชิงประจักษ์ สามารถลงข้อสรุปได้อย่างถูกต้องและระบุข้อโต้แย้งที่สอดคล้องกับสถานการณ์ มีความเป็นเหตุเป็นผลกัน ลักษณะเครื่องมือ แบบประเมินความรู้สึกนึกคิด วิธีการใช้เครื่องมือ การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลฉบับนี้ สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการจัด การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะส�ำคัญ ของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้แบบประเมินความรู้สึกนึกคิด ควรอยู่ในระดับ “พอใช้” ขึ้นไป
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 70 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตัวอย่างเครื่องมือประเมินความสามารถในการคิด แบบประเมินความรู้สึกนึกคิด ชื่อ - สกุล...................................................................................เลขที่....................ชั้น........................................... ค�ำชี้แจง 1. ให้นักเรียนอ่านสถานการณ์ที่ก�ำหนด จากนั้นวิเคราะห์เชื่อมโยงไปสู่การท�ำแบบประเมิน ความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อสถานการณ์ดังกล่าว ขยะมูลฝอยส่วนมากสามารถพบได้ทั่วไป เพราะคนเรานิยมใช้ถุงพลาสติกมากกว่าถุงผ้า ในอดีตไม่มีขยะมากมายเหมือนปัจจุบัน เพราะตอนนั้นมีการใช้ใบตอง หรือตะกร้าใส่อาหาร ซึ่งต่าง จากสมัยนี้ บริเวณที่พบขยะมูลฝอย เช่น บริเวณโรงเรียน เกิดจากการบริโภคอาหารหรือขนมต่าง ๆ เป็นจ�ำนวนมากซึ่งพฤติกรรมของนักเรียนบางส่วน ไม่ทิ้งในบริเวณพื้นที่ที่โรงเรียนจัดไว้ เพราะนักเรียน อาจละเลย จึงท�ำให้บริเวณโรงเรียนมีปริมาณขยะมากขึ้น และส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา 2. ให้นักเรียนท�ำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องผลการประเมินที่ตรงกับความรู้สึกนึกคิดของนักเรียน มากที่สุด รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น มากที่สุด (5) มาก (4) ปานกลาง (3) น้อย (2) น้อยที่สุด (1) 1. นักเรียนคิดว่าเราควรกลับมาใช้ใบตองในการ ใส่อาหารบางชนิด เพราะใบตองสามารถย่อยสลาย ได้เองตามธรรมชาติ 2. นักเรียนคิดว่าการใช้ถุงผ้าใส่อาหารเป็นวิธีการลด ปริมาณถุงพลาสติกอย่างหนึ่งที่ควรรณรงค์ให้คน ในสังคมปฏิบัติตาม 3. นักเรียนคิดว่าการหลีกเลี่ยงการใช้ถุงพลาสติก ในโรงเรียน เป็นวิธีการหนึ่งที่ลดขยะมูลฝอย ในโรงเรียนได้
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 71 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น มากที่สุด (5) มาก (4) ปานกลาง (3) น้อย (2) น้อยที่สุด (1) 4. นักเรียนคิดว่าการทิ้งขยะไม่เป็นที่ อาจน�ำไปสู่ ปัญหาน�้ำท่วมขังในโรงเรียน 5. นักเรียนคิดว่าปริมาณขยะจ�ำนวนมาก อาจส่งผล กระทบต่อการด�ำเนินชีวิตของนักเรียน 6. นักเรียนคิดว่าทุกคนในโรงเรียนสามารถช่วยกัน ท�ำให้ขยะมูลฝอยในโรงเรียนลดลงได้ถ้าร่วมมือกัน 7. นักเรียนเห็นว่าการปลูกจิตส�ำนึกเกี่ยวกับการลด การเกิดขยะเป็นสิ่งส�ำคัญ 8. หากนักเรียนพบว่า คนรอบข้างมีพฤติกรรมที่ อาจเสี่ยงต่อการเพิ่มปริมาณขยะ นักเรียนสามารถ ให้ค�ำแนะน�ำได้ 9. นักเรียนคิดว่าการรีไซเคิลขยะ เป็นกระบวนการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม 10. นักเรียนคิดว่าปัญหาขยะ หากไม่ได้รับการแก้ไข อาจน�ำไปสู่การเป็นปัญหาในระดับที่ใหญ่ขึ้น รวม
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 72 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 41 - 50 ดีเยี่ยม 31 - 40 ดี 21 - 30 พอใช้ 10 - 20 ปรับปรุง นักเรียนต้องได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป จึงจะถือว่า “ผ่าน” ******************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 73 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 2.2.10 การประเมินตามสภาพจริง การประเมินตามสภาพจริง เป็นการประเมินด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้ได้ผลการประเมินที่ สะท้อนความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียน จึงควรใช้การประเมินการปฏิบัติ (Performance Assessment) ร่วมกับการประเมินด้วยวิธีการอื่น ซึ่งในวิธีการประเมินนี้สามารถน�ำมาใช้ประเมินความสามารถในการ แก้ปัญหา ส�ำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 ซึ่งมีรายละเอียดเครื่องมือประเมิน ดังนี้ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการแก้ปัญหา ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมิน ด้านการคิดแก้ปัญหา ระบุปัญหาและสาเหตุของปัญหาที่ยากและซับซ้อน และมีผลกระทบต่อสังคม เสนอวิธีการระบุสาเหตุของปัญหาและประเมินผลกระทบของปัญหา โดยใช้วิธีการที่เหมาะสมและครอบคลุม ทุกมิติ วิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนออกเป็นปัญหาย่อย ๆ สามารถเปรียบเทียบแหล่งข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ โดยค�ำนึงถึงความถูกต้อง ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา เสนอทางเลือกในการแก้ปัญหา โดยมีเกณฑ์ส�ำหรับเลือก วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมและครอบคลุมทุกมิติ วางแผนการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา และใช้กระบวนการติดตาม แผนการแก้ปัญหา เพื่อการตัดสินใจและก�ำกับกระบวนการแก้ปัญหาได้ถูกต้อง ลักษณะเครื่องมือ แบบประเมินตามสภาพจริง วิธีการใช้เครื่องมือ การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลฉบับนี้ สามารถใช้ในการประเมินหลังการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนา การเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้แบบประเมินตามสภาพจริง ควรอยู่ในระดับ “พอใช้” ขึ้นไป
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 74 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตัวอย่างเครื่องมือประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา แบบประเมินตามสภาพจริง กลุ่มที่................................ชั้น...................................................................................................................... รายชื่อสมาชิกกลุ่ม 1. ...............................................................................................เลขที่...................................... 2. ...............................................................................................เลขที่...................................... 3. ...............................................................................................เลขที่...................................... ค�ำชี้แจง 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม จากนั้นส่งตัวแทนมาจับสลากเลือกภาพ 2. ครูให้นักเรียนดูภาพ (ตัวอย่าง)
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 75 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 3. ให้นักเรียนศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาพที่กลุ่มได้รับ จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันตอบค�ำถาม และน�ำเสนอผลงานกลุ่ม ตามประเด็นต่อไปนี้ 1. นักเรียนระบุสาเหตุของปัญหาที่ศึกษาได้ (ระบุอย่างน้อย 3 สาเหตุ) 2. นักเรียนมีการวิเคราะห์ แยกแยะปัญหาของการศึกษาออกเป็นปัญหาย่อย ๆ เพื่อน�ำข้อมูล ไปจัดการแก้ปัญหา (ระบุอย่างน้อย 3 ปัญหา) 3. นักเรียนเสนอทางเลือกในการแก้ปัญหา (ระบุอย่างน้อย 3 วิธี) 4. นักเรียนเลือกวิธีการแก้ปัญหาพร้อมให้เหตุผลประกอบ (ระบุอย่างน้อย 3 เหตุผล) 5. นักเรียนบอกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการศึกษาครั้งนี้ (ระบุอย่างน้อย 4 ข้อ) 4. ให้ครูใช้แบบประเมินตามสภาพจริงเพื่อประเมินผลนักเรียน โดยท�ำเครื่องหมาย ✓ลงใน ช่องว่างที่ตรงกับการปฏิบัติของนักเรียน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. นักเรียนระบุสาเหตุของปัญหาที่ศึกษาได้ 2. นักเรียนมีการวิเคราะห์ แยกแยะปัญหาของ การศึกษาออกเป็นปัญหาย่อย ๆ เพื่อน�ำข้อมูล ไปจัดการแก้ปัญหา 3. นักเรียนเสนอทางเลือกในการแก้ปัญหาได้ 4. นักเรียนเลือกวิธีการแก้ปัญหาพร้อมให้เหตุผล ประกอบ 5. นักเรียนบอกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการศึกษาครั้งนี้ รวม ลงชื่อ..........................................................ผู้ประเมิน (.........................................................) ........................../........................./.........................
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 76 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์การให้คะแนน ประเด็น ระดับคะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. นักเรียนระบุ สาเหตุของปัญหา ที่ศึกษาได้ ระบุสาเหตุของ ปัญหาที่ศึกษาอย่าง ชัดเจนได้ตั้งแต่ 3 ปัญหาขึ้นไป ระบุสาเหตุของ ปัญหาที่ศึกษาอย่าง ชัดเจนได้เพียง 2 ปัญหา ระบุสาเหตุของ ปัญหาที่ศึกษาอย่าง ชัดเจนได้เพียง 1 ปัญหา ระบุสาเหตุ ของปัญหา ไม่สอดคล้อง 2. นักเรียนมีการ วิเคราะห์ แยกแยะ ปัญหาของการศึกษา ออกเป็นปัญหาย่อย ๆ เพื่อน�ำข้อมูลไป จัดการแก้ปัญหา ระบุปัญหาย่อย ๆ เพื่อน�ำข้อมูลไป จัดการแก้ปัญหา ได้ตั้งแต่ 3 ปัญหา ขึ้นไป ระบุปัญหาย่อย ๆ เพื่อน�ำข้อมูลไป จัดการแก้ปัญหา ได้เพียง 2 ปัญหา ระบุปัญหาย่อย ๆ เพื่อน�ำข้อมูลไป จัดการแก้ปัญหา ได้เพียง 1 ปัญหา ระบุปัญหาย่อย ๆ เพื่อน�ำข้อมูลไป จัดการแก้ปัญหา ไม่สอดคล้อง 3. นักเรียนเสนอ ทางเลือกในการ แก้ปัญหาได้ เสนอทางเลือก ในการแก้ปัญหาได้ ตั้งแต่ 3 ทางเลือก ขึ้นไป เสนอทางเลือก ในการแก้ปัญหาได้ เพียง 2 ทางเลือก เสนอทางเลือก ในการแก้ปัญหาได้ เพียง 1 ทางเลือก เสนอทางเลือก ไม่สอดคล้องกับ การแก้ปัญหา 4. นักเรียนเลือก วิธีการแก้ปัญหา พร้อมให้เหตุผล ประกอบ เลือกวิธีการแก้ปัญหา และให้เหตุผล สนับสนุนได้ตั้งแต่ 3 เหตุผล ขึ้นไป เลือกวิธีการแก้ปัญหา และให้เหตุผล สนับสนุนได้เพียง 2 เหตุผล เลือกวิธีการแก้ปัญหา และให้เหตุผล สนับสนุนได้เพียง 1 เหตุผล เลือกวิธีการแก้ปัญหา และให้เหตุผล สนับสนุนที่ ไม่สอดคล้องกัน 5. นักเรียนบอกสิ่งที่ ได้เรียนรู้จาก การศึกษาครั้งนี้ บอกสิ่งที่ได้เรียนรู้ จากการศึกษาครั้งนี้ ได้ตั้งแต่ 4 ข้อ ขึ้นไป บอกสิ่งที่ได้เรียนรู้ จากการศึกษาครั้งนี้ ได้ 3 ประเด็น บอกสิ่งที่ได้เรียนรู้ จากการศึกษาครั้งนี้ ได้เพียง 2 ประเด็น บอกสิ่งที่ได้เรียนรู้ จากการศึกษาครั้งนี้ ได้เพียง 1 ประเด็น
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 77 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดีเยี่ยม 13 - 16 ดี 9 - 12 พอใช้ 5 - 8 ปรับปรุง นักเรียนต้องได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป จึงจะถือว่า “ผ่าน” ******************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 78 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 2.2.11 การประเมินตนเองของผู้เรียน การประเมินตนเองของผู้เรียน เป็นทั้งเครื่องมือประเมินและเครื่องมือพัฒนาการเรียนรู้ เพราะท�ำให้ ผู้เรียนได้คิดใคร่ครวญและอธิบายถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ ตลอดจนสะท้อนถึงความส�ำเร็จของผลงานที่ท�ำได้ ซึ่งใน วิธีการประเมินนี้สามารถน�ำมาใช้ประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ส�ำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 - 6 ซึ่งมีรายละเอียดเครื่องมือประเมิน ดังนี้ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมิน 1. น�ำกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายไปใช้ในชีวิตประจ�ำวัน 2. เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและมีเป้าหมาย 3. ท�ำงานและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข 4. จัดการกับปัญหาและความขัดแย้งในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 5. ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม 6. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ลักษณะเครื่องมือ แบบประเมินตนเอง วิธีการใช้เครื่องมือ การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลฉบับนี้ สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการจัด การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะส�ำคัญ ของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้แบบประเมินตนเอง ควรอยู่ในระดับ “พอใช้” ขึ้นไป
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 79 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตัวอย่างเครื่องมือประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต แบบประเมินตนเอง ค�ำชี้แจง เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินสมรรถนะความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ฉบับนี้แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของนักเรียน ตอนที่ 2 รายการประเมินสมรรถนะความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต โดยให้นักเรียนท�ำเครื่องหมาย ✓ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมของนักเรียน ตามเกณฑ์พิจารณา ดังนี้ ระดับ 5 หมายถึง นักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวเป็นประจ�ำทุกครั้ง เช่น เมื่อนักเรียน ปฏิบัติพฤติกรรมตามรายการประเมิน 10 ครั้ง นักเรียนสามารถปฏิบัติ หรือมีพฤติกรรมดังกล่าว 10 ครั้ง (ปฏิบัติร้อยละ 100) ระดับ 4 หมายถึง นักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวบ่อยครั้ง เช่น เมื่อนักเรียนปฏิบัติพฤติกรรม ตามรายการประเมิน 10 ครั้ง นักเรียนสามารถปฏิบัติ หรือมีพฤติกรรมดังกล่าว 7 - 9 ครั้ง (ปฏิบัติร้อยละ 70 - 99) ระดับ 3 หมายถึง นักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวบางครั้ง เช่น เมื่อนักเรียนปฏิบัติพฤติกรรม ตามรายการประเมิน 10 ครั้ง นักเรียนสามารถปฏิบัติ หรือมีพฤติกรรมดังกล่าว 4 - 6 ครั้ง (ปฏิบัติร้อยละ 40 - 69) ระดับ 2 หมายถึง นักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวนาน ๆ ครั้ง เช่น เมื่อนักเรียนปฏิบัติพฤติกรรม ตามรายการประเมิน 10 ครั้ง นักเรียนสามารถปฏิบัติ หรือมีพฤติกรรมดังกล่าว 1 - 3 ครั้ง (ปฏิบัติร้อยละ 1 - 39) ระดับ 1 หมายถึง นักเรียนไม่เคยปฏิบัติพฤติกรรมนั้นเลย *************************************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 80 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของนักเรียน ชื่อ - สกุล…………………………………………………………………………ระดับชั้น……………..ห้อง…………เลขที่………….. โรงเรียน………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ตอนที่ 2 รายการประเมินสมรรถนะความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ข้อที่ รายการประเมิน ระดับการแสดงพฤติกรรม เป็น ประจ�ำ (5) บ่อย ครั้ง (4) บาง ครั้ง (3) นาน ๆ ครั้ง (2) ไม่เคย ปฏิบัติ (1) ตัวชี้วัดที่ 1 น�ำกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายไปใช้ในชีวิตประจ�ำวัน 1 นักเรียนน�ำทักษะที่ได้จากการเรียนรู้ไปร่วมท�ำ กิจกรรมกับผู้อื่นได้ 2 นักเรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่น ในประเด็นต่าง ๆ ทางสังคมได้อย่างสร้างสรรค์ 3 นักเรียนน�ำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิต ประจ�ำวัน ตัวชี้วัดที่ 2 เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและมีเป้าหมาย 4 นักเรียนแสวงหาความรู้ในการพัฒนาตนเอง อย่างต่อเนื่อง 5 นักเรียนตั้งเป้าหมายในการใช้ชีวิตให้มีความสุข เหมาะสมกับวัย 6 นักเรียนมีความรับผิดชอบ เพียรพยายามและ ตั้งใจที่จะท�ำตามเป้าหมายชีวิตของตนเอง ตัวชี้วัดที่ 3 ท�ำงานและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข 7 นักเรียนมีการวางแผนการท�ำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 8 นักเรียนมีความยืดหยุ่นในการท�ำงานร่วมกับผู้อื่น 9 นักเรียนยินดีกับความส�ำเร็จของผู้อื่น
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 81 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ข้อที่ รายการประเมิน ระดับการแสดงพฤติกรรม เป็น ประจ�ำ (5) บ่อย ครั้ง (4) บาง ครั้ง (3) นาน ๆ ครั้ง (2) ไม่เคย ปฏิบัติ (1) ตัวชี้วัดที่ 4 จัดการกับปัญหาและความขัดแย้งในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 10 นักเรียนเลือกวิธีการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้ อย่างเหมาะสม 11 นักเรียนสามารถจัดการปัญหาที่ประสบอยู่ได้ ด้วยตนเอง 12 นักเรียนแก้ไขความขัดแย้งในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลและด้วยสันติวิธี 13 นักเรียนน�ำประสบการณ์ที่ได้จากการจัดการปัญหา มาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ตัวชี้วัดที่ 5 ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม 14 นักเรียนติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประเด็น ทางสังคม จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและ หลากหลาย 15 นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเสนอ แนวทางแก้ไขสถานการณ์ทางสังคมร่วมกับผู้อื่น ได้อย่างมีเหตุผล 16 นักเรียนยอมรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ทางสังคมและสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นได้อย่าง เหมาะสม 17 นักเรียนมีส่วนร่วมในการดูแล รักษาสภาพ แวดล้อมรอบตัว
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 82 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ข้อที่ รายการประเมิน ระดับการแสดงพฤติกรรม เป็น ประจ�ำ (5) บ่อย ครั้ง (4) บาง ครั้ง (3) นาน ๆ ครั้ง (2) ไม่เคย ปฏิบัติ (1) ตัวชี้วัดที่ 6 หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น 18 นักเรียนไม่ต�ำหนิหรือกล่าวโทษผู้อื่น เมื่อเกิด ข้อผิดพลาดในการท�ำงานร่วมกัน 19 นักเรียนยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยไม่เลือกปฏิบัติทั้งทางร่างกาย วาจา และ จิตใจ 20 นักเรียนให้เกียรติ เข้าอกเข้าใจ และช่วยเหลือ ผู้อื่นในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยความเต็มใจ รวม รวมทั้งหมด ลงชื่อ..........................................................ผู้ประเมิน (.........................................................) ........................../........................./......................... เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 81 - 100 ดีเยี่ยม 61 - 80 ดี 41 - 60 พอใช้ 20 - 40 ปรับปรุง นักเรียนต้องได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป จึงจะถือว่า “ผ่าน” ******************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 83 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 2.2.12 การประเมินโดยเพื่อน การประเมินโดยเพื่อน เป็นเทคนิคการประเมินที่น�ำมาใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เข้าถึงคุณลักษณะของ งานที่มีคุณภาพ ผู้เรียนต้องมีความเข้าใจอย่างชัดเจนก่อนว่าเขาก�ำลังตรวจสอบอะไรในงานของเพื่อน ฉะนั้น ผู้สอนต้องอธิบายผลที่คาดหวังให้ผู้เรียนทราบก่อนที่จะลงมือประเมิน ซึ่งในวิธีการประเมินนี้สามารถน�ำมาใช้ ประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ส�ำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 ซึ่งมีรายละเอียด เครื่องมือประเมิน ดังนี้ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมิน 1. น�ำกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายไปใช้ในชีวิตประจ�ำวัน 2. เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและมีเป้าหมาย 3. ท�ำงานและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข 4. จัดการกับปัญหาและความขัดแย้งในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 5. ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม 6. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ลักษณะเครื่องมือ แบบประเมินโดยเพื่อน วิธีการใช้เครื่องมือ การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลฉบับนี้ สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการจัด การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะส�ำคัญ ของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้แบบประเมินโดยเพื่อน ควรอยู่ในระดับ “พอใช้” ขึ้นไป
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 84 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตัวอย่างเครื่องมือประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต แบบประเมินโดยเพื่อน ค�ำชี้แจง เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินสมรรถนะความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตฉบับนี้ แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้รับการประเมิน ตอนที่ 2 รายการประเมินสมรรถนะความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต โดยให้นักเรียนท�ำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมของเพื่อน ตามเกณฑ์พิจารณา ดังนี้ ระดับ 5 หมายถึง เพื่อนของนักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวเป็นประจ�ำทุกครั้ง เช่น เมื่อเพื่อนนักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมตามรายการประเมิน 10 ครั้ง เพื่อนของนักเรียนสามารถปฏิบัติ หรือ มีพฤติกรรมดังกล่าว 10 ครั้ง (ปฏิบัติร้อยละ 100) ระดับ 4 หมายถึง เพื่อนของนักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวบ่อยครั้ง เช่น เมื่อเพื่อนของ นักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมตามรายการประเมิน 10 ครั้ง เพื่อนของนักเรียนสามารถปฏิบัติ หรือมีพฤติกรรม ดังกล่าว 7 - 9 ครั้ง (ปฏิบัติร้อยละ 70 - 99) ระดับ 3 หมายถึง เพื่อนของนักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวบางครั้ง เช่น เมื่อเพื่อนของ นักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมตามรายการประเมิน 10 ครั้ง เพื่อนของนักเรียนสามารถปฏิบัติ หรือมีพฤติกรรม ดังกล่าว 4 - 6 ครั้ง (ปฏิบัติร้อยละ 40 - 69) ระดับ 2 หมายถึง เพื่อนของนักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวนาน ๆ ครั้ง เช่น เมื่อเพื่อนของ นักเรียนปฏิบัติพฤติกรรมตามรายการประเมิน 10 ครั้ง เพื่อนของนักเรียนสามารถปฏิบัติ หรือมีพฤติกรรม ดังกล่าว 1 - 3 ครั้ง (ปฏิบัติร้อยละ 1 - 39) ระดับ 1 หมายถึง เพื่อนของนักเรียนไม่เคยปฏิบัติพฤติกรรมนั้นเลย *************************************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 85 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้รับการประเมิน ชื่อ - สกุล…………………………………………………………………………ระดับชั้น……………..ห้อง…………เลขที่………….. โรงเรียน………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ตอนที่ 2 รายการประเมินสมรรถนะความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ข้อที่ รายการประเมิน ระดับการแสดงพฤติกรรม เป็น ประจ�ำ (5) บ่อย ครั้ง (4) บาง ครั้ง (3) นาน ๆ ครั้ง (2) ไม่เคย ปฏิบัติ (1) ตัวชี้วัดที่ 1 น�ำกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายไปใช้ในชีวิตประจ�ำวัน 1 เพื่อนของนักเรียนประยุกต์ใช้ความรู้ในห้องเรียน เพื่อใช้ในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวันได้ 2 เพื่อนของนักเรียนน�ำความรู้มาใช้บริหารจัดการ เวลาในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวันได้อย่างเหมาะสม 3 เพื่อนของนักเรียนมีความรู้และทักษะในการ ท�ำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ตัวชี้วัดที่ 2 เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและมีเป้าหมาย 4 เพื่อนของนักเรียนก�ำหนดเป้าหมายในการเรียนรู้ และเรียนรู้อย่างมีความสุข 5 เพื่อนของนักเรียนมีการวางแผนในการเรียนรู้ อย่างมีระบบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 6 เพื่อนของนักเรียนมีความตั้งใจในการท�ำงาน ให้ส�ำเร็จตามเป้าหมาย ตัวชี้วัดที่ 3 ท�ำงานและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข 7 เพื่อนของนักเรียนตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ ของตนเองในการท�ำงานร่วมกับผู้อื่น 8 เพื่อนของนักเรียนใช้กระบวนการมีส่วนร่วม และค�ำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลในการ ท�ำงานร่วมกับผู้อื่น
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 86 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ข้อที่ รายการประเมิน ระดับการแสดงพฤติกรรม เป็น ประจ�ำ (5) บ่อย ครั้ง (4) บาง ครั้ง (3) นาน ๆ ครั้ง (2) ไม่เคย ปฏิบัติ (1) 9 เพื่อนของนักเรียนชื่นชมกับความส�ำเร็จในการ ท�ำงานของผู้อื่นด้วยความจริงใจ ตัวชี้วัดที่ 4 จัดการกับปัญหาและความขัดแย้งในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 10 เพื่อนของนักเรียนสามารถประเมินสถานการณ์ และความขัดแย้งต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจ จะเกิดขึ้นได้ 11 เพื่อนของนักเรียนสามารถแก้ไขปัญหาด้วย ตนเองได้ 12 เพื่อนของนักเรียนร่วมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา และความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลและ เหมาะสม 13 เพื่อนของนักเรียนน�ำข้อคิดที่ได้จากการเรียนรู้ สถานการณ์ปัญหามาประยุกต์ใช้ในการ ด�ำเนินชีวิต ตัวชี้วัดที่ 5 ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม 14 เพื่อนของนักเรียนติดตามข้อมูลข่าวสารทาง สังคมผ่านช่องทางที่หลากหลายได้ 15 เพื่อนของนักเรียนยอมรับและปรับตัวต่อการ เปลี่ยนแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม ที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม 16 เพื่อนของนักเรียนร่วมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ทางสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีเหตุผล 17 เพื่อนของนักเรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนา สภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 87 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ข้อที่ รายการประเมิน ระดับการแสดงพฤติกรรม เป็น ประจ�ำ (5) บ่อย ครั้ง (4) บาง ครั้ง (3) นาน ๆ ครั้ง (2) ไม่เคย ปฏิบัติ (1) ตัวชี้วัดที่ 6 หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น 18 เพื่อนของนักเรียนไม่กลั่นแกล้ง (Bully) ผู้อื่น ทั้งทางร่างกาย วาจา และจิตใจ 19 เพื่อนของนักเรียนยอมรับความแตกต่างระหว่าง บุคคล โดยไม่เลือกปฏิบัติ 20 เพื่อนของนักเรียนยินดีให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยความเต็มใจ รวม รวมทั้งหมด ลงชื่อ..........................................................ผู้ประเมิน (.........................................................) ........................../........................./......................... เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 81 - 100 ดีเยี่ยม 61 - 80 ดี 41 - 60 พอใช้ 20 - 40 ปรับปรุง นักเรียนต้องได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป จึงจะถือว่า “ผ่าน” ******************************
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 89 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. กันต์กนิษฐ์ ชลสีมัธยา. (2562). ความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อสมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน โรงเรียน ศรีราชา สังกัดส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18. หลักสูตรการศึกษา มหาบัณฑิต ภาควิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยบูรพา. พรพิชิต ทิทา. (2561). การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมสมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา. สาขาวิจัยและประเมินผลระดับปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ส�ำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2564). พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสภา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : บริษัท ธนาเพรส จ�ำกัด. ส�ำนักทดสอบทางการศึกษา. (2555). คู่มือประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ส�ำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. ส�ำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2557). แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย จ�ำกัด. บรรณานุกรม
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 91 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ที่ปรึกษา 1. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3. นางล�ำใย สนั่นรัมย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเครื่องมือวัดผล ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4. นายชนาธิป ทุ้ยแป รักษาราชการแทนผู้อ�ำนวยการส�ำนักทดสอบทางการศึกษา 5. นางสาวบังอร กมลวัฒนา ผู้อ�ำนวยการกลุ่มพัฒนาเครื่องมือและบริการการทดสอบ คณะท�ำงานจัดท�ำคู่มือ 1. นางสนอง หอทอง ข้าราชการบ�ำนาญ 2. นายก่อการไชยสงคราม ศึกษานิเทศก์ช�ำนาญการ ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 3. นายวรวุธ อัครกตัญญู ครูช�ำนาญการพิเศษ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น 4. นายสุรชัย สุขรี ครูช�ำนาญการพิเศษ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น 5. นางปณัสนันท์ กิติชัยเดชอนันต์ ครูช�ำนาญการพิเศษ โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น 6. นายไชยวัฒน์ อารีโรจน์ ครูช�ำนาญการ โรงเรียนวิสุทธรังษี ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี คณะผู้จัดท�ำ
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 92 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 7. นายยุทธกรณ์ ก่อศิลป์ ครูช�ำนาญการ โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด 8. นางสาวศิรินทร์พิชญ์ พันธุ์ชนะ ครู โรงเรียนเกาะพะงันศึกษา ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ผู้รับผิดชอบโครงการ 1. นางสาวบังอร กมลวัฒนา ผู้อ�ำนวยการกลุ่มพัฒนาเครื่องมือและบริการการทดสอบ 2. นายจันทร์ สกุลวงศ์ไพบูลย์ นักวิชาการศึกษาช�ำนาญการพิเศษ 3. นางสาวพิศมัย โถชัยค�ำ นักวิชาการศึกษาช�ำนาญการพิเศษ 4. นางฉันทนา สกุลวงศ์ไพบูลย์ นักวิชาการศึกษาช�ำนาญการพิเศษ 5. นายวราวุธ วดีวรวิทย์ นักวิชาการศึกษาช�ำนาญการพิเศษ 6. นายวิทยา บัวภารังษี นักวิชาการศึกษาช�ำนาญการ 7. นายเฉลิมเกียรติ ทองจุน นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ 8. นางสาววัชรินทร์ พันธุ์เภา นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ 9. นางสาวสุภานิตย์ ชาญนอก ผู้ช่วยนักวิชาการ 10. นางสาวเพชรินทร์ โบกค�ำ ผู้ช่วยนักวิชาการ 11. นางสาวคัทลียา แลบัว ผู้ช่วยนักวิชาการ 12. นางสาวภาพิมล เมธีกิตติกุล ผู้ช่วยนักวิชาการ บรรณาธิการกิจ 1. นางสาวบังอร กมลวัฒนา ผู้อ�ำนวยการกลุ่มพัฒนาเครื่องมือและบริการการทดสอบ 2. นายวิทยา บัวภารังษี นักวิชาการศึกษาช�ำนาญการ 3. นายเฉลิมเกียรติ ทองจุน นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ 4. นางสาวสุภานิตย์ ชาญนอก ผู้ช่วยนักวิชาการ ออกแบบปก นางสาวคัทลียา แลบัว ผู้ช่วยนักวิชาการ
คู่มือการใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน จ�ำนวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 93 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 คูมือการใชเครื่องมือวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรูและสมรรถนะของผูเรียน จํานวน 12 รูปแบบ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6