The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คำที่มักเขียนผิด IS

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pornnapa13062546, 2020-12-26 03:34:16

คำที่มักเขียนผิด IS

คำที่มักเขียนผิด IS

Keywords: คำที่มักเขียนผิด

การศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง (Independent Study:IS)
คำที่มักเขยี นผิดของนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5/1
โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค จังหวัดสระบรุ ี

นางสาวจณิ ณพัต วงษแ์ ดง เลขที่ 9
นางสาวพรดา ตันพกุ เลขท่ี 16
นางสาวพรนภา จรญู โสตร เลขที่ 17
นางสาวยพุ เรศ ทองคำ เลขท่ี 20

ชั้นมธั ยมศึกษาป่ที ี่ 5/1

เสนอ
คุณครูยุวดี ญาณสิทธิ์

รายงานเล่มนเ้ี ปน็ สว่ นหน่งึ ของวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง(IS)
รหสั วิชา ร30201 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563

โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พแุ ค อำเภอเฉลมิ พระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 4

สารบญั หน้า

เร่ือง ก

ประวตั ผิ จู้ ัดทำ
บทคดั ยอ่ 1
บทที่ 1 บทนำ 1
1
-ความเป็นมาและความสำคัญของปญั หา 1
-วตั ถปุ ระสงคข์ องการศึกษา 2
-ขอบเขตของการศึกษา 2
-สมมุติฐานการศกึ ษา
-นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ 3
-ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ ับ 3
บทท่ี 2 เอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 8
-ความหมายของคำที่เขยี นผดิ 13
-หมวดหมูข่ องคำทีม่ กั เขียนผดิ 14
-การใวางแผนในการดำเนนิ การใชค้ ำทม่ี ักเขียนผิด
-วินยั ในการฝึกฝนการใชค้ ำ 16
-งานวจิ ยั ท่เี กย่ี วขอ้ ง 16
บทท่ี 3 วธิ ีการศึกษาค้นควา้ 16
-ระเบียบวธิ ที ่ีใชใ้ นการศึกษา 16
-ประชากรและกลุม่ ตัวอยา่ งท่ีใช้ในการศึกษา 18
-ระยะเวลาทีใ่ ช้ในการศึกษา 19
-วิธดี ำเนินการศกึ ษา 20
-ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน 20
-เคร่ืองมอื ที่ใชใ้ นการศกึ ษา 20
-การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
-วเิ คราะห์ขอ้ มลู 21
-สถิตทิ ใี่ ช้ในการศกึ ษา 22
บทท่ี 4 ผลการศกึ ษาค้นควา้
-ตารางท่ี 1 คา่ คะแนนร้อยละ
-ตารางท่ี 2 คา่ เฉล่ีย

บทท่ี 5 สรุปอภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ 23
-วัตถุประสงคข์ องการศึกษา 23
24
-ขอบเขตของการศกึ ษา 24
24
-เครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการศกึ ษา 24
-วเิ คราะหข์ ้อมลู 24
25
-สรุปผลการศกึ ษา 64
-การอภิปรายผล

-ข้อเสนอแนะ

ภาคผนวก
บรรณานุกรม





ประวตั ิผจู้ ดั ทำ

ชือ่ เรื่อง คำทีม่ ักเขียนผิดของนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พแุ ค จงั หวดั สระบรุ ี
1. นางสาวจิณณพัต วงษ์แดง

ประวตั ิสว่ นตวั
วนั ที่ 11 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ.2546 อายุ 16
ทอี่ ยู่ 9 หมู่ 9 ตำบลหว้ ยป่าหวาย อำเภอพระพุทธบาท จงั หวดั สระบรุ ี
ประวตั ิการศึกษา
ปี พ.ศ.2558 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรยี นวดั ศรจี อมทอง
ปี พ.ศ.2563 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/1 โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์ พุแค
2. นางสาวพรดา ตันพกุ
ประวตั สิ ว่ นตวั
วันท่ี 16 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2546 อายุ 17
ที่อยู่ 108 หมู่ 10 ตำบลพแุ ค อำเภอเฉลิมพระเกรี ยรติ จงั หวดั สระบรุ ี
ประวตั กิ ารศึกษา
ปี พ.ศ.2558 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรียนวดั วังเลน
ปี พ.ศ.2563 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/1 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค
3. นางสาวพรนภา จรญู โสตร
ประวัตสิ ว่ นตวั
วันที่ 13 เดือน มถิ นุ ายน พ.ศ.2546 อายุ 17
ที่อยู่ 15 หมู่ 7 ตำบลชอ่ งสาริกา อำเภอพัฒนานิคม จงั หวัดลพบรุ ี
ประวัตกิ ารศกึ ษา
ปี พ.ศ.2558 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรยี นวัดดำรงบุล





ปี พ.ศ.2563 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5/1 โรงเรยี นเทพศิรินทร์ พแุ ค
4. นางสาวยุพเรศ ทองคำ

ประวตั ิสว่ นตัว
วนั ที่ 13 เดอื น สงิ หาคม พ.ศ.2546 อายุ 17
ทีอ่ ยู่ 26 หมู่ 3 ตำบลเขาดินพัฒนา อำเภอเฉลมิ พระเกียรติ จังหวดั สระบุรี
ประวตั กิ ารศกึ ษา
ปี พ.ศ.2558 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนบา้ นหว้ ยหินขาวมิตรภาพท่ี 213
ปี พ.ศ.2563 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/1 โรงเรยี นเทพศิรินทร์ พแุ ค





ชอ่ื เรอื่ ง คำที่มักเขียนผิดของนกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5/1

ผู้ศึกษา นางสาวจิณณพตั วงษแ์ ดง

นางสาวพรดา ตันพุก

นางสาวพรนภา จรูญโสตร

นางสาวยพุ เรศ ทองคำ

ครทู ีป่ รึกษา ครยู วุ ดี ญาณสิทธิ์

ระดบั การศกึ ษา นกั เรยี นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/1

โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค จังหวัดสระบรุ ี

รายวชิ า การศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง

ปีการศึกษา 2563

บทคดั ย่อ

การเขียนคำภาษาไทยให้ถูกต้องตรงตามแบบแผนน้ันนับเป็นสิ่งท่ีต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง การเขียน
คำภาษาไทยได้ถูกต้องเป็นการแสดงถึงความเข้าใจและให้ความสำคัญอย่างลึกซ้ึงกับภาษาซึ่งเป็นมรดกล้ำค่า
ของไทยแต่โบราณมา ในปัจจุบันการเขียนภาษาไทยเป็นปอย่างกว้างขวางมีพยัญชนะ 44 ตัวมีคำพ้องรูป พ้อง
เสียงมากมาย จึงทำให้เกิดความสับสนการสะกดคำบางคำ ผู้จัดทำเห็นความจำเป็นที่ควรจะรวบรวมคำที่มัก
เขียนผิดในภาษาไทยซึ่งมักจะเป็นคำที่คุ้นเคยในการฟังและพูดแต่มักไม่ค่อยเขียน เม่ือต้องเขียนจึงมักเขียนผิด
การรวบรวมคำท่ีมักเขียนผิดพร้อมท้ังหาความหมายน้ันได้จัดเรียงลำดับตัวอักษรเพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาและ
เกิดประโยชน์มากท่ีสุด กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่5/1 จำนวน 37 คนได้มาโดยวิธีการเลือก

บทที่ 1

บทนำ

ความเปน็ มาและความสำคญั ของปญั หา

การเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องตามแบบแผนน้ัน นับเป็นสิ่งท่ีต้องให้ความสำคัญอย่างย่ิงการเขียนคำ
ภาษาไทยใหถ้ กู ตอ้ งเป็นการแสดงถึงความเขา้ ใจและใหค้ วามสำคญั อยา่ งลึกซงึ้

การเขียนภาษาไทยเป็นไปได้อย่างกว้างขวาง ภาษาไทยเป็นภาษาที่งดงามและซับซ้อนมีพยัญชนะถึง
44 ตัวมีคำพ้องรูป พ้องเสียงมากมาย จึงทำให้เกิดความสับสนในการสะกดคำบางคำนานวันเข้าจึงมีคำท่ีมัก
เขียนผดิ มากมาย

ดังนั้นรายงานการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองเรื่องคำที่มักเขียนผิดโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัด
สระบรุ ี ฉบบั นี้ มุง่ ศกึ ษาเพอื่ ใหค้ วามร้ขู องคำท่ีมกั เขยี นผดิ ต่อไป

วตั ถุประสงค์ของการศกึ ษา

1. เพือ่ รวบรวมคำทม่ี ักเขียนผิดในภาษาไทยค้นควา้ และแกไ้ ขให้ถกู ตอ้ ง

2. เพ่อื ค้นหาความหมายของคำทีไ่ ดแ้ กไ้ ขให้ถกู ตอ้ งแลว้ มาแสดงไว้เพอื่ ให้ง่ายต่อการคน้ คว้า

3. เพือ่ ใหก้ ารเขยี นคำในภาษาไทยเปน็ ไปอยา่ งถูกต้องตามพจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตย์

พ.ศ.2525 ซึ่งเป็นมาตรฐานในการเขยี นคำภาษาไทย

ขอบเขตของการศึกษา

1. กลมุ่ เป้าหมายนกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/1

2. เนอื้ หาคำในภาษไทยที่มกั เขียนผดิ

3. ระยะเวลาปีการศึกษา 2563

สมมุติฐานการศึกษา

ศกึ ษาพฤติกรรมการใช้คำผดิ ของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/1

2



นิยามศัพทเ์ ฉพาะ

1. พระสตู ร หมายถึง มา่ นหรอื ม้งุ
2. พระเขนย หมายถึง หมอนหนุน
3. พระภูษา หมายถึง ผา้ นุ่ง

ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ บั

1. มคี วามรู้และความเขา้ ใจคำในภาษาไทยมากข้ึน
2. สามารถนำมาใช้ในชวี ติ ประจำวันได้
3. คนไทยร่วมกนั อนุรักษ์ภาษาไทยใหค้ งอยอู่ ย่างถกู ตอ้ ง

3


บทท่ี 2

เอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง

ศึกษาคำท่ีมักเขียนผิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี
รายงานวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง รหัสวิชา ร30201 ผู้ศึกษาได้ศึกษาตำราเอกสาร และงานวิจัยท่ี
เกีย่ วขอ้ งกบั คำทม่ี ักเขยี นผิด เพ่ือเปน็ กรอบแนวคิดในการดำเนนิ การศกึ คน้ ควา้ และอา้ งอิง ตามหัวขอ้ ต่อไปน้ี

1. ความหมายของคำทมี่ ักเขียนผิด

2. หมวดหมขู่ องคำทีม่ กั เขยี นผดิ

3. การวางแผนในการดำเนนิ การใชค้ ำท่ีมักเขียนผิด

4. วินัยในการฝกึ ฝนการใชค้ ำ

5. งานวิจยั ทีเ่ กี่ยวข้อง

ความหมายของคำที่มกั เขยี นผดิ

คำในภาษาไทย หมายถึง คำที่มักเขียนผิดนั้น โดยส่วนใหญ่ที่ผิดนั้นก็คือ เกิดจากการท่ีคำน้ัน ๆ มีคำ
พ้องเสียงหลายคำ แต่สะกดคำต่างกันจึงทำให้ใช้ผิด อีกทั้งเป็นเพราะคำไทยมีตัวพยัญชนะถึง 44 ตัว มีบางตัว
ที่ออกเสียงเดยี วกัน ทำใหเ้ กิดการใชผ้ ดิ กัน

คำทับศัพท์ หมายถึง การทับศัพท์ หรือ การปริวรรต คือ การถอดอักษร หรือแปลงข้อความจากระบบ
การเขียนหรือภาษาหนึ่งไปสู่อีกระบบหน่ึงอย่างมีหลักการ เพื่อให้สามารถเขียนคำในภาษาต่างประเทศด้วย
ภาษาและอักษรในภาษานั้น ๆ ได้สะดวก เช่น การทับศัพท์ภาษาอังกฤษซ่ึงเขียนด้วยอักษรโรมัน มาเป็น
อักษรไทยเพ่ือใช้ในภาษาไทย หรือการทับศัพท์ภาษาไทย ไปเป็นอักษรโรมันเพ่ือใช้ในภาษาอังกฤษ เป็นต้น
ส่วนมากใช้กับวิสามานยนามอาทิ ช่ือบุคคล สถานท่ี หรือช่ือเฉพาะที่ไม่สามารถแปลความหมายเป็นภาษาอื่น
ได้โดยสะดวก

คำทเ่ี ขียนถูก หมายถงึ คำทปี่ รากฏในพจนานุกรรมภาษาไทยหรือตามประกาศของหนว่ ยงานราชการ

หมวดหมขู่ องคำที่มกั เขียนผดิ

1. การสะกดคำผิด คำบางคำ เป็นคำที่คุ้นเคย และมักใช้กันอยู่เสมอๆ ในชีวิตประจำวันแต่ก็ยังปรากฏ
การเขียนผิด ท้ังน้ีอาจเกิดจากการไม่สังเกตในการอ่าน และระมัดระวังในการเขียนคำที่มักเขียนผิดเกิดข้ึนได้
หลายกรณี เช่น (สุธวิ งศ์ พงธ์ไพบลู ย,์ 2536 : 290 – 298)

4


เขียนผิด เพราะไม่ทราบความหมายของคำ เช่น บิณฑบาต (/) มักเขียนผิดเป็น บิณฑบาต (x) คำว่า

“บิณฑ” แปลว่า กอ้ นข้าว สว่ นคำ “บาต” มาจาก “ปาต” แปลวา่ ตก

เขียนผิดเพราะใช้แนวเทียบผิด เช่น “สังวาล” (/) มักเขียนผิดเป็น “สังวาลย์” เพราะนำไปเทียบกับ
“มาลย”์ หรอื เขยี น “อานสิ งส”์ (/) มักเขียนผดิ เปน็ “อานิสงฆ”์ เพราะ เรานำไปเทียบกับ “พระสงฆ”์

เขียนผิดเพราะออกเสียงผิด คำบางคำ บางคนออกเสียงไม่ตรงหรือออกเสียงไม่ชัดและติดนิสัย เม่ือ
เขียนจึงผิดด้วย แต่คำบางคำ คนส่วนใหญ่ออกเสียงอย่างหน่ึง ซึ่งไม่ตรงกับรูปที่เขียนตามพจนานุกรม จำวก
หลังน้ี นับเป็นสิ่งที่ยาอกแก่การแก้ (อาจจะถือว่าเป็นเพราะพจนานุกรมรักษาหลักการจนไม่เอื้อเฟ้ือต่อผู้ใช้
ภาษากไ็ ด)้ ตัวอย่างคำสองพวกน้ี เช่น

หยบิ หย่ง (/) หยบิ โหย่ง (x)

เครือ่ งราง (/) เครื่องราง (x)

นิจศีล (/) นจิ สนิ (x)

ชันโรง (/) ชนั นะโรง (x)

จกั จน่ั (/) จกั กระจน่ั (x)

ซา่ หริ่ม (/) สล่มิ (x)

เขียนผิดเพราะมีประสบการณ์ผิด คือ เห็นคำน้ันๆ จนเคยชินและเป็นคำท่ีใช้กันผิดเสมอจดจำได้ติดตา
อาจจะเห็นจากหนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ เช่น บัตรเชิญ ประกาศโฆษณา แจ้งความ ฯลฯ ควรจะได้ฝึกการ
พิจารณา อย่าใช้ตามโดยไม่ไดศ้ กึ ษา ความจรงิ เช่น

ประณีต (/) ปราณตี (x)

สะดวก (/) สดวก (x)

อนญุ าต (/) อนญุ าติ (x)

รสชาติ (/) รสชาต (x)

ศรี ษะ (/) ศรษี ะ (x)

เกสร (/) เกษร (x)

เขยี นผดิ เพราะไม่รู้หลักภาษา เช่น ใส่วรรณยุกต์ผิด ใชพ้ ยัญชนะผดิ สะกดการันตผ์ ดิ ฯลฯ เชน่

5

เชิ๊ต (x)

เชิต้ (/)

มอ็ บ(/) มอ้ บ(x)

วิพากษ(์ /) วพิ ากย์(x)

สำอาง(/) สำอางค์ (x)

2. ใช้คำที่ไม่ใช่ภาษาแบบแผน ปัญหาการใช้คำท่ีไม่ใช่ภาษาแบบแผน ที่มักพบในงานเขียน ได้แก่
(ทวีศักด์ิ ปิ่นทอง,2552 : 34 – 43 ; 107 – 140)

-ใชค้ ำภาษาปาก เช่น แซ่บ,เซง็ (ภาษาแบบแผน – อรอ่ ย,น่าเบ่ือ)

-ใชค้ ำท่ีมีเสียงตา่ งจากภาษาแบบแผน (ใชค้ ำตามภาษาเสยี งพูด) เช่น ยงั ง,้ี อ๊ะป่าว (ภาษาแบบแผน –

อย่างน,ี้ หรอื ปา่ ว)

-ใช้คำสแลง เชน่ เดนิ้ ,แห้ว (ภาษาแบบแผน – ทนั สมัย,หมดหวงั )

-ใช้คำภาษาหนังสือพิมพ์ เชน่ ซัลโว – นว่ ม (ภาษาแบบแผน – ยิงประต,ู ช้ำ)

3. ใช้คำฟุ่มเฟือยและซ้ำซ้อน คำฟุ่มเฟือย คือ คำส่วนเกิน ไม่มีความหมายใหม่ สามารถตัดออกได้เพ่ือ
ความสละสลวยของคำ ส่วนคำซ้ำ หมายถึง คำที่มีเสียงหรือรูปแบบการเขียนเหมือนกัน และคำซ้อน คือ คำท่ีมี
ความหมายใกล้เคยี งกันหรอื เหมอื นกนั อาจเปน็ คำคล้องจองท่เี กิดความเคนชินในการพดู หรอื การเขียน เช่น

คำฟุม่ เฟอื ย - อนาคตขา้ งหน้า คำภาษาแบบแผน - อนาคต

- มีการช่วยเหลอื คำภาษาแบบแผน - ช่วยเหลือ

- ทำการกนิ คำภาษาแบบแผน - กนิ

คำซ้ำซอ้ น - หวิ้ หวิ คำภาษาแบบแผน - หวิ มาก

- รถรา คำภาษาแบบแผน - รถ

- ครูบาอาจารย์ คำภาษาแบบแผน - คร,ู อาจารย์

4. ใช้ลกั ษณะนามไม่ถกู ตอ้ ง เช่น

เทยี น 1 แท่ง ลกั ษณะนามทถ่ี ูกตอ้ ง = เลม่

ดินสอ 1 ดา้ ม ลักษณะนามทีถ่ ูกต้อง = แท่ง

6


ต้เู ย็น 1 เครือ่ ง ลักษณะนามที่ถกู ต้อง = หลัง

5. ใช้คำภาษาต่างประเทศ คำภาษต่างประเทศบางคำมีศัพท์บัญญัติใช้ ควรใช้คำศัพท์ที่บัญญัติข้ึน
ยกเวน้ คำบางคำทใ่ี ชท้ บั ศพั ท์ภาษาตา่ งประเทศ เช่น

คำภาษาตา่ งประเทศ คำภาษาไทยทีค่ วรใช้

อิน เขา้ ถงึ

รถเมล์ รถประจำทาง

ซีฟ้ดู อาหารทะเล

โหวต ออกเสยี ง,ลงคะแนน

คำภาษาต่างประเทศบางคำ ใชท้ บั ศัพท์ เช่น เทคนิค (Technic) ฟุตบอล (Football) คลนิ ิก (Clinic)
คอมพวิ เตอร์ (Computer) เปน็ ตน้

6. ใช้คำไม่ตรงความหมาย การใชค้ ำไมต่ รงความหมาย มีลกั ษณะ เช่น

ไมใ่ ช้คำที่มีความหมายตรง เช่น

กนิ ความหมายตรง =รบั ประทาน ความหมายโดยนยั = โกง

หิน ความหมายตรง = แร่ของแข็งชนิดหนงึ่ ความหมายโดยนัย = ยาก

ควรใช้คำท่มี ีความหมายตรง เขียนประโยค เชน่

คำทไี่ ม่ควรใช้ = เขากินบา้ นกินเมือง คำท่คี วรใช้ = เขาโกงบา้ นโกงเมอื ง

คำทีไ่ มค่ วรใช้ = ขอ้ สอบหนิ มาก คำท่คี วรใช้ = ข้อสอบยากมาก

ใช้คำทไี่ มถ่ กู ตอ้ งกับบุคคล เชน่

คำทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง = เชิญพระ คำทถี่ กู ตอ้ ง = นิมนต์พระ

คำท่ีไม่ถูกตอ้ ง = คนยว้ั เย้ีย คำท่ีถกู ตอ้ ง = คนเต็มไปหมดหรือคนมากมาย

ใชค้ ำไมถ่ กู ตอ้ งกับสภาพธรรมชาตหิ รือสิ่งของ เช่น

คำทีไ่ มถ่ กู ต้อง = ถนนปลอดโปรง่ คำทีถ่ กู ต้อง = ถนนโล่ง

คำทไี่ ม่ถูกตอ้ ง = ทอ้ งฟา้ สดช่นื คำทีถ่ กู ตอ้ ง = ทอ้ งฟ้าสดใส

7



ใช้สำนวนเปรยี บเทยี บไมถ่ กู ต้อง เช่น

สำนวนที่ผดิ = ตาเปน็ ตาข่าย สำนวนท่ถี กู ต้อง = ตาเปน็ สบั ปะรด

สำนวนท่ีผิด = มีทองเท่าหวั กุ้ง สำนวนท่ถี กู ตอ้ ง = มที องเท่าหนวดกุ้ง

ใช้คำตรงขา้ ม เปรยี บเทยี บกันไมถ่ ูกต้อง เช่น

คำเปรยี บเทยี บทผี่ ิด = ดำกบั แดง

คำเปรยี บเทียบทถ่ี ูก = ดำกบั ขาว

คำเปรียบเทียบที่ผิด = คนเกง่ กับคนขี้เกียจ

คำเปรยี บเทียบที่ถกู = คนขยนั กบั คนขี้เกยี จ

ใชค่ ำที่มเี สยี งใกลเ้ คยี งกัน คำบางคำมีเสยี งใกลเ้ คยี งกันแต่ความหายไมเ่ หมอื นกัน จึงควรใชค้ ำใหถ้ กู ตอ้ ง
ตามความหมาย เชน่

คำท่ีเสียงใกล้เคียงกัน = ป่าทนึ ทึก คำท่ถี ูกตอ้ ง = ป่าทึมทึก

คำทีเ่ สยี งใกลเ้ คียงกนั = คนแกท่ ึมทกึ คำท่ีถูกต้อง = คนแกท่ ึมทึก

7. ใช้คำย่อ การใช้คำย่อ ควรใช้กับคำท่ีเป็นที่รู้จักกันดี หรือคำท่ีคำเต็มยาวมาก ไม่ควรใช้คำย่อกับ
คำที่ไม่เป็นทร่ี ูจ้ กั กนั ดี หรอื คำสั้นๆ เช่น

คำย่อท่ีไมค่ วรใช้ = ร.ร. คำท่ีถูกตอ้ ง = โรงแรม

คำยอ่ ทไี่ มค่ วรใช้ = กทม. คำทถี่ กู ตอ้ ง = กรงุ เทพมหานคร

8. ใช้คำต่างระดับ ในการเขียนข้อความแต่ละประโยค หรือแต่ละเรื่อง ควรใช้คำที่อยู่ในระดับ
เดียวกัน ไม่ควรใชค้ ำตา่ งระดบั กนั เช่น

คำตา่ งระดบั = ชายหนุ่ม,สตรี

คำระดับเดยี วกันที่ควรใช้ = ชายหนมุ่ ,หญิงสาว

คำตา่ งระดบั = ดวงอาทิตย,์ จันทรา

คำระดับเดียวกนั ท่ีควรใช้ = ดวงอาทติ ย,์ ดวงจนั ทร์

8


9. ใช้คำสรรพนามไม่เสมอกัน ในการเขียนแต่ละครั้ง ควรใช้คำสรรพนามให้สม่ำเสมอกันตลอดท้ัง
เรื่อง เช่น หากใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 ว่า “ผม” ก้อควรใช้ “ผม” ตลอดไป หรือใช้ “ฉัน” หรือ “ดิฉัน”
อย่างใดอยา่ งหน่งึ ตลอดทงั้ เรอื่ ง อยา่ ใช้ “ผม” บ้าง “กระผม” บ้าง หรือ “ฉนั ” บา้ ง “ดฉิ ัน” บ้าง

10. ใช้คำท่ีมีความหมายกำกวม คำบางคำมีความหมายกำกวม อาจทำให้ผู้อ่านตีความไม่ชัดเจน
ดงั นน้ั จงึ ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำกำกวม เช่น

คำกำกวม = 3 โมง ความหมายที่ไม่แน่ชัด ตีความหมายได้ท้ัง 3 โมงเช้า หรือ 3 โมงเย็น ควรเขียนให้ชัด
เป็น 09.00น. หรือ 15.00น.

การวางแผนในการดำเนินการใชค้ ำทม่ี ักเขยี นผิด

1. ขอ้ บกพรอ่ งในการใช้คำ ข้อบกพรอ่ งในการใชค้ ำทม่ี ักพบในงานเขียนของนกั ศึกษามดี งั นี้

บกพร่องเพราะสะกดคำผิด คำบางคำเป็นคำท่ีคุ้นเคยคำบางคำเป็นคำที่คุ้นเคยและมักใช้อยู่เสมอ
เสมอในชีวิตประจำวันแต่ยังปรากฏการณ์เขียนผิดท้ังทีนี้อาจเกิดจากการที่นักศึกษาไม่จดจำจากการอ่านและ
ขาดความระมดั ระวังในการเขียนคำทีน่ กั ศกึ ษามกั สะกดผิดเกิดข้ึนได้หลายกรณเี ช่น

สะกดเพราะใช้แนวเทียบผดิ เชน่

คำสะกดผิด คำสะกดถกู แนวเทยี บ

โลกาภวิ ฒั น์ โลกาภิวตั น์ มวี ัฒนาการ

สงั เกต สังเกต หมายเหตุ

อนุญาต อนุญาต ญาตพิ ่ีน้อง

รสชาด รสชาติ กาชาด

ลำใย ลำไย หว่ งใย

สะกดผดิ เพราะไมท่ ราบความหมายของคำ เชน่

สวรรค์ หมายถงึ สร้าง เช่น สรา้ งสรรค์ สงั สรรค์ (การร่วมกนั เพ่ือสรา้ ง)

สรร หมายถงึ เลือก เชน่ จัดสรร คดั สรร

ฉนั หมายถงึ สรรพนามบุรษุ ที่ 1 แทนผ้พู ดู เช่น ฉนั เป็นเพ่ือนกบั เธอ

ฉัน หมายถงึ กนิ เช่น พระภิกษุฉันอาหาร

9



ฉัน หมายถงึ เสมอกัน เช่น ฉนั ญาติ ฉนั ใด ฉนั นัน้

ฉนั ท์ หมายถึง คำประพนั ธ์ เช่น ฉันทลักษณ์

ฉนั ท์ หมายถึง ความพอใจ ความคดิ เห็นร่วม เช่น เอกฉนั ท์ สมานฉนั ท์

สะกดผิดเพราะใช้พยญั ชนะผดิ เช่น

คำสะกดผดิ คำสะกดถกู

ปรากฎ ปรากฏ

อนุลกั ษณ์ อนรุ กั ษ์

โอกาส โอกาส

วพิ ากย์ วิพากษ์

สะกดผิดเพราะใสว่ รรณยุกตผ์ ดิ เชน่

คำท่สี ะกดผิด คำท่ีสะกดถกู

เตน้ ท์ เตน็ ท์

แทก้ ซ่ี แทก็ ซ่ี

มอ้ บ มอ็ บ

เชต๊ิ เช้ิต

จัก๊ จ่นั จักจน่ั

ป้มั นำ้ มัน ป๊มั น้ำมัน

สะกดผดิ เพราะใสต่ ัวการันตผ์ ิด เช่น

คำทสี่ ะกดผิด คำทีส่ ะกดถูก

สำอางค์ สำอาง

ย่อมเยาว์ ยอ่ มเยา

สาส์น สาสน์

กอปร์ กอปร (ประกอบ)

10

โครงการ

โครงการณ์

เซ็นต์ชื่อ เซ็นชอ่ื

2. ใช้คำที่ไม่ใช่ภาษาแบบแผน ปัญหาใช้คำที่ไม่ใช่ภาษาแบบแผนที่มักพบในงานเขียนของนักศึกษา
ไดแ้ ก่

ใชค้ ำภาษาปาก เช่น

คำภาษาปาก คำภาษาแบบแผน

แซ่บ อร่อย

เยอะแยะ มาก

แปบ๊ เดยี ว เด๋ยี วเดียว

เซง็ เบอ่ื นา่ เบือ่

ซอื่ บือ้ ซื่อไมท่ นั คน

สอบเอ็นท์ สอบเข้ามหาวทิ ยาลยั

ติว เรียนเพ่มิ ,เรียนพิเศษ

ห่วยแตก ไมไ่ ดเ้ ร่ือง

หว้ิ หวิ หวิ มาก

นา้ วหนาว หนาวมาก

ใช้คำท่ีมีเสยี งต่างจากภาษาแบบแผน คือ การใช้คำตามเสยี งภาษาพูด เช่น

คำเสียงภาษาพูดคำ ภาษาแบบแผน

ทางนนู้ ทางโนน้

ยังง้นั อยา่ งนัน้

ยังงี้ อยา่ งนี้

ยงั ไง อยา่ งไร

อยา่ งเนย่ี อย่างนี้

11

เชียวหรือ
หรอื เปลา่
เชียวแหละ สกั ครู่
อ๊ะเปลา่ ก็
ซกั ครู่ หน่งึ
เก้อ
นงึ ภาษาแบบแผน
ใชค้ ำสแลง ได้แก่ สบายๆงา่ ยๆธรรมดา
คำสแลงคำ รูส้ กึ พอใจอยา่ งยิ่ง
ชวิ ชิว คนที่มีอารมณแ์ ละจินตนาการทางศลิ ปะ
จ๊ดี มักมีความคดิ ทแี่ ปลกจากคนท่วั ไป
ต๊สิ ต์ กระเทยเพศทส่ี ามผ้ชู ายท่ีมจี ติ ใจและจรติ เปน็ หญงิ
มึนๆ งงๆ
นังกอ เพือ่ นสนิทตา่ งเพศซ่ึงอาจจะมคี วามสัมพันธฉ์ ันชสู้ าว
ก่งกก๊ นา่ รัก เท่
กกิ๊ วางทา่ ทางเป็นผูช้ ายแทๆ้ ทั้งๆ ท่ีปกติเป็นตุ๊ด
กบ๊ิ เก๋ วัยรุ่น
เก๊กชงค,์ เก๊กแมน หน้าอกเล็กมาก
ขาโจ,๋ วยั โจ๋ นกั ฝัน,นักสร้างภาพ
จอแบน คำท่ีกระเทยใช้เรยี กผหู้ ญิง
จ้ิน หลบฉาก หลบไปอกี ทางหนึง่
ชะนี สกปรก ซอมซอ
ชิ่ง กลมกลนื แนบเนียน
ซกมก
เนยี น

12

ปอ๊ ท ไมก่ ลา้ ไมส่ ู้
มว่ั น่ิม ฉวยโอกาสปะปนเขา้ ไปทำให้แยกไมอ่ อก
เรศิ สวยหรูดเู ด่นเลอเลิศมกั มีลกั ษณะเกินพอดี
วนิ วิน ชนะหมดทกุ ฝ่ายทุกฝ่ายไดป้ ระโยชน์
วีนแตก แสดงอารมณ์โกรธใส่ผ้อู นื่ ยังรนุ แรงในทันที
เหียก ขเ้ี หร่
อินด้ี เปน็ อิสระมคี วามเปน็ ตัวของตวั เอง
อินเทรนด์ ทำตวั ตามกระแสนิยม
งานเข้า มีเร่อื งใหต้ อ้ งทำ
ใชค้ ำภาษาหนังสือพมิ พ์ เช่น
คำภาษาหนังสอื พมิ พ์ คำภาษาแบบแผน
เป่าคดี ทำให้คดจี บเร่อื งเงยี บไป
วิ วิสามญั ฆาตกรรม
ซัลโว ยงิ ประตู
ซุก ปดิ บัง
อว่ มอรทยั อาการหนกั
น่วม ช้ำ
บก๊ิ บคุ คลสำคญั ,ผมู้ อี ำนาจ
โฉ่ เกิดเรื่องไม่ด,ี ไมง่ าม
โม่แข้ง แขง่ ขันฟุตบอล
เมืองผ้ดู ี ประเทศอังกฤษ
เมืองน้ำหอม ประเทศฝรง่ั เศส
เมืองเบียร์ ประเทศเยอรมัน

13

จังหวัดสรุ นิ ทร์

เมอื งช้าง

3. ใช้คำฟุ่มเฟือยคำฟุ่มเฟือยคือคำส่วนเกินไม่มีความหมายใหม่สามารถตัดออกได้เพ่ือความสละสลวย
ของคำซึง่ คำฟุ่มเฟอื ยน้ีรวมทงั้ คำซำ้ และคำซอ้ นด้วยตวั อยา่ งคำฟมุ่ เฟอื ย เช่น

คำฟุ่มเฟอื ย คำภาษาแบบแผน

ทำการกิน กนิ

มีการชว่ ยเหลอื ชว่ ยเหลอื

แบบว่าดี ดี

อนาคตขา้ งหน้า อนาคต

อดตี แต่หนหลัง อดตี

จากประสบการณท์ ผ่ี ่านมา จากประสบการณ์

วนิ ยั ในการฝกึ ฝนการใชค้ ำ

1. เพื่อสั่งสอน เป็นการให้ความรู้แก่ผู้อ่านว่าจะทำงานชิ้นหน่ึงให้สำเร็จได้อย่างไร และทำไมจึงควรทำ
ให้สำเรจ็ เชน่ ค่มู ือฝึกหดั คู่มือการใช้เครอ่ื งจักร และหนังสอื คำสอนตา่ งๆ

2. เพื่อบันทึก เป็นการเขียนบันทึกรายละเอียดต่างๆ ของการกระทำ การตัดสินใจแผนการหรือ
ขอ้ ตกลงตา่ งๆ เชน่ แฟ้มรายงาน รายงานจากห้องปฏบิ ตั กิ ารทดลอง

3. เพื่อแนะนำ เป็นการเสนอข้อมูลและข้อแนะนำพฤติกรรมท่ีจำเพาะเจาะจง เช่น เค้าโครงแบบง่ายๆ
และรายงานเสนอแนะแบบต่างๆ

4. เพื่อเล่าเรื่อง เป็นการนำเหตุการณ์หรือเร่ืองราวท่ีเป็นอันดับอยู่แล้วมาถ่ายทอด เช่น การเขียนเล่า
ประวตั เิ หตุการณ์และประสบการณ์ต่างๆ

5. เพื่ออธิบาย เป็นการแจกแจงให้ผู้อ่านเข้าใจถึงวิธีการ โดยมีการเรียงลำดับข้ันตอนเหตุการณ์
ตามลำดับก่อนหลัง เช่น การอธิบายวิธีการทำอาหาร อธิบายความหมายของคำ อธิบายถ้อยคำที่มักเขียนและ
อ่านผดิ

6. เพื่อแสดงความคิดเห็น เป็นการวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ การเขียนลักษณะน้ีต้องคำนึงถึง
ขอ้ เท็จจริง มหี ลกั เกณฑ์และเหตุผล เชน่ การเขียนบทความ การวจิ ารณ์หนงั สือ

14


7. เพ่ือโฆษณาจูงใจ เป็นการเขียนเพ่ือจูงใจให้คนอ่านสนใจ มีการใช้ภาษาท่ีสะดุดตาสะดุดใจคนอ่านมี
ความกระชับรัดกมุ เชน่ โฆษณาภาพยนตร์ โฆษณาสนิ คา้

8. เพ่ือปลุกใจ เป็นการเขียนเพ่ือให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน เกิดความรู้สึกฮึกเหิม
เขม้ แข็ง พร้อมที่จะต่อสู้กบั สิง่ ทค่ี ดิ วา่ ไมถ่ ูกต้อง เชน่ บทความปลกุ ใจต่างๆ

9. เพื่อสร้างจินตนาการ เป็นการเขียนเพ่ือให้ผู้อ่านเห็นภาพเกิดจินตนาการตามสิ่งท่ีกล่าวถึง หรือเกิด
ความรู้สึกคล้อยตามไปกับผู้เขียนและเนื้อความในเร่ือง เช่น นวนิยาย เรื่องสั้น บทร้อยกรอง บทละคร บท
ภาพยนตร์

10. เพ่ือล้อเลียนเสียดสี เป็นการเขียนเพ่ือตำหนี้ส่ิงใดส่ิงหนึ่ง แต่ใช้วิธีตำหนิแบบทีเล่นทีจริงไม่รุนแรง
อาจเปน็ การล้อเลียนเสียดสดี ้วยภาพถอ้ ยคำหรือเรอ่ื งราว

11.เพื่อบอกให้ทราบข้อเท็จจริง เป็นการเขียนเพ่ือช้ีแจงเรื่องของทางการให้ประชาชนได้รับรู้ประกาศ
คำชี้แจง ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั แถลงการณ์

12. เพอื่ จดุ ประสงคเ์ ฉพาะกิจ เช่น การเขียนจดหมาย การเขยี นโทรเลข

งานวิจัยท่ีเกี่ยวข้อง

ไขสิริ ปราโมช ณ อยุธยา (2519) ได้กล่าวถึงข้อผิดพลาดในการเขียนภาษาไทยของนิสิต คณะอักษร
ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 1 ปีท่ี 2 ปีที่ 3 ไว้ในวิทยานิพนธ์เรื่อง “ การศึกษาวิเคราะห์ลักษณะ
ข้อผิดพลาดในการเขียนภาษาไทย ของนิสิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2514
และ 2516” โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ภาค คือ ภาคที่ 1 น้ัน กล่าวถึงข้อผิดพลาดในการเขียนภาษาไทย
และภาคเรียนที่ 2 กล่าวถึงสาเหตุของ ข้อผิดพลาดต่างๆ ในภาคท่ี 1 น้ัน กล่าวถึงข้อผิดพลาดในการใช้คำชนิด
ต่างๆ ข้อผิดพลาดในการ แต่งประโยค ข้อผิดพลาดในเร่ืองความหมาย และข้อผิดพลาดในเร่ืองการสะกด
การันต์ ส่วนในภาคท่ี 2 กล่าวถึงสาเหตุข้อผิดพลาดต่างๆ เช่น การใช้แนวเทียบผิด การได้รับอิทธิพลจากภาษา
บาลีและสันสกฤต และความสับสนเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การใช้ภาษาไทย ไขสิริ ปราโมช ณ อยุธยา.(2554).คำไทย
ที่มักเขียนผิด.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก: https://taneewitthaya.blogspot.com. (วันท่ีค้นข้อมูล : 13
สิงหาคม 2554)

สวุ รรณณา เกรียงไกรเพช็ ร์ และคณะ (2523) ไดร้ ับการวจิ ยั ของภาควชิ าภาษาไทย คณะอกั ษรศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ปี 2523 โดยศึกษาขอ้ บกพร่องในการใชภ้ าษาไทยของ นิสติ คณะอักษรศาสตร์
จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ทง้ั ระดับตน้ และระดับปลาย ปีการศึกษา 2516 - 2520 เรื่อง “สมรรถภาพการใช้
ภาษาไทยขัน้ ต่างๆ" ผลปรากฏวา่ ลกั ษณะความผดิ และความ บกพร่องดา้ นการใช้ภาษา

15


วารุณี เศวตาลัย (2523Lydfb) ได้ศึกษาเร่ือง “การศึกษาวิเคราะห์ลักษณะข้อผิดพลาดในการเขียนข่าว
ลงใน วิทยาสารประจำวัน ปี พ.ศ. 2520” กล่าวคือ อยู่ในลักษณะผิดพลาดทางด้านไวยากรณ์ ผิดพลาด
ทางด้านความหมาย และบกพร้องทางด้านการใช้คำ และยังมีลักษณะที่ยังมีปรากฏในจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
กับ การเขียนที่กล่าวมา พบว่าข้อผิดพลาดหรือข้อบกร่องของการ ใช้ภาษาไทยในการเขียนมีลักษณะท่ี
ใกล้เคยี งกนั มากที่สดุ ซึ่งยงั เป็นปัญหาท่พี บในปัจจบุ นั พอ สรุปได้ดังน้ี คอื

1. การใชค้ ำกลมุ่ คำและสำนวนผิด

2. การใชป้ ระโยคผิด

3. การสะกดการันตผ์ ดิ

4. การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอนผิด

5. การใชอ้ ักษรยอ่ ผดิ

อิงอร อมาตยกุล (2535) ได้วิจัยเรื่อง การศึกษาความสามารถทางการเขียนเรียงความของนักเรียนชั้น
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 สังกัดกรมศึกษาเขตการศกึ ษา 1 ผลการวจิ ยั พบวา่

1. การเขยี นเรยี งความดา้ นการเสนอเนอ้ื หาสาระ สว่ นทบี่ กพรอ่ งมากท่สี ดุ คือ การเสนอ เนือ้ หาท่ีไม่
แปลกใหม่ รองลงมาตามลำดบั คือ การเขยี นทีข่ าดเหตผุ ลสนบั สนนุ ความคิดเหน็ ข้อคิดสำคัญไม่ปรากฏเดน่ ชดั
การเรียบเรียงเนื้อหาไม่ต่อเนอื่ งสัมพนั ธ์กนั เนื้อหาขาดการเปน็ เอกภาพ การเสนอความคิดที่ไม่สร้างสรรคแ์ ละ
การเขยี นเน้ือหาท่ไี มส่ อดคล้องกบั ชื่อเรือ่ ง

2. การเขยี นเรยี งความดา้ นการใชภ้ าษาส่วนทบ่ี กพรอ่ งมากทส่ี ุด คือการใช้คำ ลักษณะท่ีพบมที งั้ การใช้
คำทเ่ี ปน็ ภาษาพูด การใช้คำฟุ่มเฟอื ย การใช้คำเชื่อมไมเ่ หมาะสม การใชค้ ำกำกวม การใชค้ ำยอ่ หรืออกั ษรย่อ
และการใช้คำทบั ศพั ท์ รองลงมาคอื การใชก้ ลมุ่ คำ และประโยคไม่กระชบั รัดกุม การเรยี งคำเขา้ ประโยคไม่
ถกู ต้อง การเขียนสะกดการันตผ์ ิด การวางสระวรรณยกุ ตไ์ ม่ถูกต้องตรงตามตำแหนง่ และการใช้เคร่ืองหมาย
ต่าง ๆ ไมถ่ ูกตอ้ ง

3. การเขยี นเรยี งความต้านรปู แบบการเขยี น สว่ นท่ีบกพร่องมากท่ีสุดคอื การเขยี นย่อหนา้ ไมไ่ ด้
สัดสว่ น และไมเ่ หมาะสม ส่วนทบ่ี กพรอ่ งน้อยที่สดุ คอื การเขยี นที่ไมม่ สี ่วนคำนำ และสรุป

4. การเขยี นเรยี งความตา้ นสว่ นประกอบการเขียน สว่ นที่บกพรอ่ งมากทสี่ ุด คือการอ้างองิ ต่าง ๆ ไม่
เหมาะกับตวั เร่ือง หรือไม่มกี ารอา้ งองิ ใด ๆ เลย รองลงมาคือการวางวรรคตอน

16


บทท่ี 3

วิธกี ารศกึ ษาค้นควา้

ในการศึกษาคร้ังน้ี ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาคำที่มักเขียนผิดของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5/1 โรงเรียน
เทพศริ ินทร์ พแุ ค จงั หวัดสระบุรี ซงึ่ มวี ิธกี ารดังนี้

ระเบียบวธิ ีท่ใี ช้ในการศกึ ษา

ในการศึกษาใช้รูปแบบการสำรวจการศึกษาค้นคว้าด้วยวิการสืบค้นข้อมูลจากหนังสือ อินเตอร์เน็ต
และตอบแบบสอบถาม

ประชากรและกลุ่มตวั อย่างทใ่ี ช้ในการศกึ ษา

ประชากร

ประชาที่ใช้ในการศึกษาครั้งน้ีเป็นนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค
จังหวัดสระบุรี ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 6 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 10 คน เป็นนักเรียนทั้งสิ้น
60 คน

กลมุ่ ตัวอย่าง

กลมุ่ ตัวอย่างท่ีใช้ในการศกึ ษาครัง้ นี้ได้แก่นกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5/1โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พแุ ค
จงั หวดั สระบุรี ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 เปน็ นักเรียนทงั้ สน้ิ 37 คน เพอ่ื ตอบแบบสอบถามทสี่ รา้ งขนึ้

ระยะเวลาท่ใี ช้ในการศึกษา

ระยะเวลาท่ีใช้ในการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึง
เดือนตุลาคม

วิธีดำเนนิ การศกึ ษา

ผ้ศู กึ ษาไดด้ ำเนนิ การตามขั้นตอนดงั นี้

1. กำหนดเร่อื งทจ่ี ะศกึ ษา โดยมสี มาชกิ ท้ัง 4 คนประชมุ ร่วมกันและรว่ มกนั คิดและวางแผน วา่ จะ

ศกึ ษาเรอ่ื งคำท่มี ักเขยี นผิดของนกั เรยี นช้ัน มัธยมศกึ ษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค

จังหวดั สระบรุ ี

2. สำรวจปัญหาในห้องเรียน

17


3. เลอื กเร่อื งท่จี ะศกึ ษาโดยเลือกเรือ่ งทีม่ ีความสนใจมากทสี่ ดุ เพ่อื เปน็ แรงจูงใจในการคน้ หาคำตอบ
4. ศกึ ษาแนวคิดในการแกไ้ ขปัญหา
5. ตง้ั ชือ่ เร่ือง
6. สมาชิกทั้ง 4 คนของกลุ่ม พบครผู สู้ อนเพื่อปรึกษา วางแผนและรบั ฟงั ความคดิ เห็นนำมาปรับปรุง
แก้ไข
7. เขียนความสำคัญความเป็นมาของปัญหา วัตถปุ ระสงค์ สมมุตฐิ าน ขอบเขต การวิจยั และ
ประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ โดยศึกษาขอ้ มลู จากหนงั สือ วทิ ยานพิ นธ์ และสืบคน้ ข้อมลู จาก
อนิ เตอร์เนต็ และจดบนั ทึกในโครงรา่ งรายงานเชงิ วิชาการ
8. สร้างเครือ่ งมอื ทีเ่ ป็นแบบสอบถามจำนวน 10 ข้อ
9. นำเคร่อื งมือทป่ี รบั ปรงุ แลว้ ไปใช้กับกลมุ่ ตัวอยา่ ง
10. รวบรวมขอ้ มูล
11. วเิ คราะหข์ อ้ มูล
12. สรปุ ผลการศกึ ษา

18


ข้นั ตอนวธิ กี ารดำเนนิ งาน

กําหนดเร)ืองท)ีจะศกึ ษา

สาํ รวจปัญหาและเลอื กเร)ือง

ศกึ ษาแนวคดิ และการแก้ปัญหา

ตงัN ชื)อเรื)องท)ีจะศกึ ษา
พบครูท)ีปรึกษา (คณุ ครูยวุ ดี ญาณสทิ ธSิ)



ศกึ ษาวิธีการเขียนบทนํา

สร้างเคร)ืองมือแบบ (แบบสอบถาม)

ปรับปรุง เคร)ืองมือและนําไปทดลอง
ใช้กบั กลมุ่ ตวั อยา่ ง



รวบรวมข้อมลู

วิเคราะห์ข้อมลู

สรุปผลการศกึ ษา

19


เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา

เครือ่ งมือที่ใช้ในการศึกษาครง้ั นค้ี อื แบบสอบถาม 1 ฉบบั ซงึ่ มรี ายละเอยี ดดังน้ี
1. ออกแบบสอบถาม เรือ่ ง คำท่มี กั เขยี นผดิ ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5/1 โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์
พแุ ค จงั หวดั สระบรุ ี โดยขอคำแนะนำจากคณุ ครูยุวดี ญาณสทิ ธิ์ โดยเตรียมร่างข้อคำถาม
มลี ักษณะเปน็ แบบมาตราสว่ นประมาณ 5 ระดับ คือ
5 หมายถงึ เห็นด้วยมากทส่ี ดุ
4 หมายถงึ เหน็ ด้วยมาก
3 หมายถึง เห็นดว้ ยปานกลาง
2 หมายถึง เห็นด้วยนอ้ ย
1 หมายถงึ เหน็ ด้วยนอ้ ยที่สดุ
พิจารณาคา่ เฉล่ีย ใช้เกณฑ์ดงั นี้
คา่ เฉลีย่ 4.51 - 5.0 หมายถงึ เหน็ ด้วยมากที่สดุ
คา่ เฉลี่ย 3.51 - 4.50 หมายถึง เหน็ ด้วยมาก
คา่ เฉลี่ย 2.51 - 3.50 หมายถึง เห็นด้วยปานกลาง
คา่ เฉล่ีย 1.51 - 2.50 หมายถงึ เหน็ ด้วยน้อย
ค่าเฉลยี่ 1.00 - 1.50 หมายถึง เห็นดว้ ยน้อยทส่ี ุด
2. สร้างแบบสอบถาม เรอ่ื งคำทีม่ ักเขยี นผิดของนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์
พุแค จงั หวดั สระบุรี โดยขอคำแนะนำจากคุณครยู ุวดี ญาณสทิ ธิ์ จากนั้นนำมาปรบั ปรงุ แกไ้ ข แล้ว
นำไปตรวจความเหมาะสม
3. นำแบบสอบถาม เรอ่ื งคำที่มกั เขียนผดิ ของนกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5/1 โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์
พแุ ค จังหวดั สระบรุ ี ทแี่ ก้ไข ปรบั ปรุงแล้วใหก้ ลุ่มตวั อยา่ งประเมนิ หลงั จากน้ันนำผลทไี่ ดห้ าค่าเฉลี่ย

20


การเก็บรวบรวมขอ้ มูล

การศึกษาคร้ังน้ีได้ดำเนินการโดยนำแบบสอบถามที่สร้างข้ึนให้นักเรียนกลุ่มตัวอย่างตอบ จำนวน 37
คน และเก็บรวมรวมข้อมูลจากนักเรียน ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง โดยผู้ศึกษาท้ัง 4 คน ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล
ดว้ ยตนเอง

การวิเคราะห์ขอ้ มูล

ในการวเิ คราะหข์ อ้ มูลผู้ศกึ ษาไดว้ เิ คราะหข์ ้อมลู ดงั น้ี
1. นำแบบสอบถามท้งั หมดท่ตี อบโดยนกั เรยี นกลมุ่ ตวั อย่างมาหาค่าคะแนนรวม
2. นำผลรวมมาคดิ เป็นรอ้ ยละ 5

สถิติท่ใี ชใ้ นการศกึ ษา

สถติ ิทใี่ ช้ในการศกึ ษาคร้ังน้คี ือการหาคา่ เฉลย่ี คดิ เป็นร้อยละ 5

21


บทท่ี 4

ผลการศึกษาค้นคว้า

การศึกษาคน้ ควา้ ครั้งน้มี วี ัตถุประสงค์เพ่อื ให้นักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์

พแุ ค จงั หวัดสระบุรี รจู้ กั การใช้คำในภาษาไทยให้ถูกตอ้ ง มวี ินัยในการใชค้ ำ โดยนำเสนอผลการการ

วิเคราะห์ข้อมลู ต่างๆ ดงั นี้

นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี เพื่อรวบรวมคำที่มักเขียนผิดใน
ภาษาไทยค้นคว้าและแก้ไขให้ถูกตอ้ งเพือ่ ค้นหาความหมายของคำทไ่ี ดแ้ กไ้ ขให้ถกู ต้องแลว้ มาแสดงไวเ้ พือ่ ใหง้ ่าย
ต่อการคน้ คว้าเพ่อื ให้การเขียนคำในภาษาไทยเปน็ ไปอยา่ งถกู ต้องตามพจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑติ ย์

ตารางท่ี 1 แสดงผลระดับคะแนนการประเมินเร่ือง คำท่ีมักเขียนผิดของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พแุ ค จังหวัดสระบรุ ี จำนวนกลุ่มตวั อยา่ ง 37 คน

รายการประเมิน ค่าคะแนนร้อยละ

1. นกั เรยี นเขยี นผิดเนื่องจากสะกดคำผิด 5 4 3 21
2. นักเรยี นเขยี นผิดเนอ่ื งจากใช้คำภาษาตา่ งประเทศ 54 13 27 5 0
3. นักเรียนเขยี นผดิ เนื่องจากใช้คำทไ่ี มใ่ ชแ่ บบแผน 27 18 40 8 5
4. นกั เรียนเขียนผิดเน่ืองจากใชล้ กั ษณะนามไมถ่ ูกต้อง 21 32 13 24 8
5. นักเรยี นเขียนผิดเนอ่ื งจากเขียนตามท่ีออกเสยี ง 10 8 27 54 0
40 27 21 10 0

จากตารางท่ี 1 พบว่านกั เรยี นเขยี นผิดเน่อื งจากสะกดคำผดิ อยู่ในระดบั 4 คดิ เป็นร้อยละ 4.16
นักเรยี นเขยี นผดิ เนอ่ื งจากใชค้ ำภาษาตา่ งประเทศ อย่ใู นระดับ 4 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.54 นกั เรียนเขียนผิด
เน่ืองจากใช้คำทีไ่ มใ่ ช้แบบแผน อยู่ในระดับ 3 คิดเปน็ ร้อยละ 3.35 นกั เรยี นเขยี นผดิ เน่อื งจากใชล้ ักษณะ
นามไมถ่ กู ตอ้ ง อยู่ในระดบั 2 คดิ เป็นรอ้ ยละ 2.76 นกั เรียนเขียนผิดเนือ่ งจากเขยี นตามทีอ่ อกเสียงอยูใ่ น
ระดบั 4 คิดเปน็ รอ้ ยละ 3.97

22


ตารางที่ 2 แสดงผลการประเมนิ เรื่อง คำทีม่ ักเขยี นผิดของนกั เรียนมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 โรงเรยี น
เทพศิรนิ ทร์ พแุ ค จงั หวดั สระบุรี

รายการประเมิน ค่าเฉลีย่ ระดับคณุ ภาพ

1. นกั เรียนเขยี นผดิ เนื่องจากสะกดคำผดิ 4.16 มาก
2. นกั เรยี นเขียนผดิ เนื่องจากใชค้ ำภาษาต่างประเทศ 3.54 มาก
3. นักเรียนเขยี นผดิ เนื่องจากใช้คำท่ไี มใ่ ชแ่ บบแผน 3.35 ปานกลาง
4. นักเรยี นเขียนผดิ เนอ่ื งจากใชล้ กั ษณะนามไมถ่ กู ตอ้ ง 2.76 ปานกลาง
5. นักเรียนเขยี นผิดเน่อื งจากเขยี นตามทีอ่ อกเสียง 3.97 มาก
3.56 มาก
รวมทั้งหมด

จากตารางที่ 2 พบวา่ นกั เรียนมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พแุ ค จังหวดั สระบรุ ี
มกี ารศกึ ษาและแก้ไขปญั หาคำท่มี ักเขยี นผิด อยใู่ นระดบั คุณภาพ มาก คา่ เฉลี่ย 3.56

23


บทท่ี 5

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

จากการศึกษาคร้ังนี้เพ่ือให้นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี
รู้จกั การเขยี นคำให้ถูกต้องสามารถสรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะได้ดังน้ี

วัตถปุ ระสงค์ของการศึกษา

1. เพ่ือให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี เพ่ือรวบรวมคำท่ีมัก
เขียนผิดในภาษาไทยค้นควา้ และแก้ไขใหถ้ ูกต้อง

2. เพื่อให้นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี เพ่ือค้นหา
ความหมายของคำทไ่ี ดแ้ ก้ไขใหถ้ กู ต้องแลว้ มาแสดงไวเ้ พื่อใหง้ า่ ยตอ่ การค้นควา้

3.เพื่อให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี เพื่อให้การเขียนคำใน
ภาษาไทยเป็นไปอย่างถูกตอ้ งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตย์

ขอบเขตของการศกึ ษา

1. ประชากรทใี่ ช้ในการศึกษา
ประชาทใี่ ช้ในการศึกษาคร้งั น้ีเปน็ นักเรยี นระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์

พุแค จังหวัดสระบุรี ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 6 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 10 คน เป็นนักเรียน
ท้งั ส้นิ 60 คน

2. กลุม่ ตวั อย่างที่ใช้ในการศึกษา
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศกึ ษาคร้งั นีไ้ ด้แกน่ กั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5/1โรงเรียนเทพศิรินทร์

พุแค จังหวัดสระบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 เป็นนักเรียนทั้งสิ้น 37 คน เพื่อตอบแบบสอบถามที่สร้าง
ข้นึ

24



เครอื่ งมือทใ่ี ชใ้ นการศึกษา

เคร่ืองมือที่ใช้ในการศึกษาคร้ังน้ี ประกอบด้วยแบบสอบถาม จำนวน 1 ฉบับ เร่ือง คำท่ีมักเขียนผิด
ของนักเรยี นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์ พุแค จงั หวดั สระบุรี จำนวน 5 ข้อ

การวเิ คราะห์ขอ้ มูล

ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลของนักเรียนที่มีต่อเร่ือง คำที่มักเขียนผิดของนักเรียน
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 โรงเรยี นเทพศิรินทร์ พุแค จงั หวัดสระบุรี โดยการคดิ คะแนนเฉล่ยี เปน็ คา่ รอ้ ยละ 3.56

สรปุ ผลการศึกษา

ผลการศึกษาท่ีมีต่อการศึกษา เรื่องคำท่ีมักเขียนผิดของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิริ
นทร์ พุแค จงั หวัดสระบุรี อยู่ในระดบั คณุ ภาพมาก

การอภปิ รายผล

จากการศึกษาคำท่ีมักเขียนผิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัด
สระบรุ ี พบวา่ นกั เรยี นทกุ คน มคี วามพึงพอใจหรอื ทัศนะคตอิ ย่ใู นระดบั มาก คิดเปน็ รอ้ ยละ 3.56

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการศกึ ษาคร้งั น้ี
1. สามารถนำไปศึกษาปัญหาต่างๆ ท่ีพบในโรงเรียนได้ แต่ควรมีตัวแปรร่วมด้วยเพ่ือให้การศึกษา

มคี ุณภาพ
2. สามารถนำไปศกึ ษากับกลมุ่ ตวั อยา่ งอื่นได้
3. ควรมีเวลาในการศกึ ษามากขึน้
4. ควรเพม่ิ รายการประเมนิ ให้มากขึ้น

25


ภาคผนวก

26


แบบสอบถาม

เรอื่ ง คำทม่ี ดั เขยี นผิด
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5 โรงเรยี นเทพศิรินทร์ พแุ ค จังหวัดสระบรุ ี

นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ห้อง 1

รายการประเมิน 5 คะแนน 2 1
43
1. นกั เรียนเขยี นผดิ เนื่องจากสะกดคำผิด
2. นกั เรยี นเขยี นผดิ เนื่องจากใช้คำภาษาตา่ งประเทศ
3. นักเรยี นเขียนผดิ เนื่องจากใช้คำท่ีไมใ่ ชแ่ บบแผน
4. นักเรยี นเขียนผิดเนื่องจากใชล้ ักษณะนามไมถ่ กู ตอ้ ง
5. นักเรียนเขยี นผิดเน่ืองจากเขียนตามที่ออกเสยี ง
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นใส่เครือ่ งหมาย √ ลงในช่องทเี่ ห็นด้วยมากที่สุด

ขอ้ เสนอแนะ

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

27


บรรณานุกรม

คำที่มักเขียนผดิ . (2556). [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก : https://www.sanook.com/campus .
(วนั ทค่ี น้ ข้อมลู : 20 สงิ หาคม 2563).
คำที่มกั เขียนผิดบ่อย. (2554). [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก : https://www.winnews.tv/news .
(วนั ท่ีคน้ ข้อมูล : 21 สิงหาคม 2563).
คำทีใ่ ช้ผดิ ความหมาย. (2557). [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://lifestyle.campus-star.com.
(วนั ทค่ี ้นขอ้ มลู : 30 สิงหาคม 2563).
คำศพั ทโ์ ซเชยี ล.(2556). [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก : http://www.trueplookpanya.com/tcas.
(วันทีค่ ้นข้อมูล : 19 ตุลาคม 2563)
งานวิจัยท่ีเกี่ยวข้อง.(2559). [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก : http://www.abpk.ac.th/.
(วนั ทคี่ น้ ข้อมูล : 21 ตลุ าคม 2563)


Click to View FlipBook Version