The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ไฟล์ใบงานศิลปะเทอม2 ป.5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by anchaleef12506, 2021-11-12 01:55:41

ไฟล์ใบงานศิลปะเทอม2 ป.5

ไฟล์ใบงานศิลปะเทอม2 ป.5

~1~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป.5
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานท่ี 1
หน่วย ชวี ติ กบั ศิลปะ

ครูผู้สอน นางอญั ชลี วัฒนวันยู

คาอธิบายการทากจิ กรรม

1. นกั เรยี นอ่านคาถามจากแบบทดสอบก่อนเรยี นในใบงานเพ่ือการเรยี นรูน้ ี้ แลว้ ทา

แบบทดสอบโดยกากบาททบั ขอ้ ท่ีถกู ท่ีสดุ

2. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายเพ่ือตรวจสอบคาถามรว่ มกนั และแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง

แบบทดสอบ

ใหน้ กั เรยี นเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

1. รูปปั้นท่มี องเห็นทงั้ ความกวา้ ง ความลกึ ความ 4. วสั ดทุ ่ใี ชใ้ นการปั้นชนิดใดสะดวกในการเก็บรกั ษา

หนา เรยี กวา่ รูปปั้นประเภทใด ก.ดินนา้ มนั

ก.รูป 1 มิติ ข.กระดาษเป่ือยผสมแปง้ เปียก

ข.รูป 2 มติ ิ ค.แปง้ สาลีผสมนา้

ค.รูป 3 มติ ิ ง.ดนิ เหนียว

ง.รูป 4 มติ ิ 5. อปุ กรณใ์ ดมคี วามสาคญั ต่อการปั้นดนิ นอ้ ยท่สี ดุ

2. นกั เรยี นกาลงั จะทางานปั้นเขาควรใชอ้ ะไรรอง ก.นา้

โตะ๊ กอ่ นปั้น ข.กระดาษรองกนั เปื้อน

ก.ใบตอง ค.สีและพกู่ นั

ข.ผา้ ปโู ตะ๊ ง.ดินเหนียวและดนิ นา้ มนั

ค.เศษผา้ 6. หลงั จากทางานปั้นเสรจ็ แลว้ ควรทาความสะอาดมอื

ง.กระดาษหนงั สือพิมพ์ อยา่ งไร

3. การปั้นใหป้ ระสบความสาเรจ็ จะตอ้ งเตรยี ม ก.สะบดั มือใหส้ ะอาด

วสั ดอุ ย่างไร ข.ใชก้ ระดาษเชด็ มอื

ก.ตอ้ งมีความละเอยี ด ค.ลา้ งมอื ดว้ ยนา้ และสบู่

ข.ตอ้ งมลี กั ษณะเหนียวพอดี ง.ใชผ้ า้ เช็ดมือ

ค.ตอ้ งมีลกั ษณะน่ิมเป่ือยยยุ่ 7. อปุ กรณใ์ นขอ้ ใดสาคญั ท่สี ดุ ในการพิมพ์

ง.ถกู ทกุ ขอ้ ก.แมพ่ ิมพ์ ข.ผา้ กนั เปื้อน

ค.สีนา้ มนั ง.กระดาษแกว้ ใส

~2~

8.งานพิมพภ์ าพเหมาะสาหรบั นาไปประดิษฐ์เป็น 12. จิตรกรรมไทยมกั เลา่ เก่ียวกบั อะไร

งานชิน้ ใดมากท่สี ดุ ก. การเมือง

ก.บตั รอวยพร ข. พทุ ธประวตั ิ

ข.ตวั หนงั ตะลงุ ค. ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์

ค.ผา้ ปโู ตะ๊ ง.ความรกั และความโลภ

ง.ท่รี องแกว้ นา้ 13. รูปแบบงานทศั นศลิ ป์ ในทอ้ งถ่ินแตกตา่ งกนั เพราะ

9. การเลอื กวสั ดมุ าแกะสลกั ทาแมพ่ ิมพค์ วร อะไร

พจิ ารณาขอ้ ใดมากท่ีสดุ ก. วสั ดุ อปุ กรณ์

ก.มีคนใชม้ าก ข. ลกั ษณะภมู ิประเทศ

ข.มเี นือ้ แนน่ ค. ขนบธรรมเนียมประเพณี

ค.มสี สี นั สวยงาม ง. ถกู ทกุ ขอ้

ง.เป็นวสั ดสุ งั เคราะห์ 14.เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งใชว้ สั ดธุ รรมชาติในการสรา้ ง

10. การฝึกพิมพภ์ าพมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร ผลงานทศั นศลิ ป์

ก.ทาใหเ้ พ่อื นๆรกั และช่ืนชม ก. หาไดง้ า่ ยในทอ้ งถ่ิน

ข.ทาใหเ้ ขียนหนงั สอื ไดด้ ขี นึ้ ข. แสดงเอกลกั ษณข์ องทอ้ งถ่ินนนั้ ๆ

ค.ช่วยฝึกสมาธิ ในการทางาน ค. เป็นการอนรุ กั ษภ์ มู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน

ง.ชว่ ยฝึกใหเ้ ป็นคนซ่อื สตั ย์ ง. ถกู ทกุ ขอ้

11. แหลง่ เรยี นรูผ้ ลงานทศั นศิลป์ ในทอ้ งถ่ินคอื ขอ้ 15. งานทศั นศิลป์ หมายถงึ อะไร

ใด ก. ผลงานศิลปะท่มี องเหน็ ได้

ก. โรงเรยี น ข. ผลงานศิลปะท่สี ามารถสมั ผสั ได้

ข. พิพิธภณั ฑ์ ค. ผลงานศิลปะท่สี มั ผสั จบั ตอ้ งไดแ้ ละกินเนือ้ ท่ใี น

ค. รา้ นขายของท่รี ะลกึ ในทอ้ งถ่ิน อากาศ

ง. วดั ง. ถกู ทกุ ขอ้

~3~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป. 5
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศิลป์ ) ใบงานที่ 2
หน่วย ชวี ิตกบั ศิลปะ

คาอธิบายการทากจิ กรรม

ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาเรอ่ื ง
งานปั้น หมายถึง การนาเอาวัสดุอ่อนท่ีสามารถรวมกันได้ หรือแบ่งแยกออกจากกันได้ เช่น ดิน
เหนียว ดินนา้ มนั ขีผ้ งึ้ มาทาเป็นรูปทรงตา่ งๆ ตามท่ตี อ้ งการ โดยใชว้ ธิ ีขยา บีบ นวด ตดั ขดั ขดู ปะ เป็นตน้
จนิ ตนาการ คือ การสรา้ งสรรคถ์ ึงส่ิงท่ียงั ไม่เกิดขึน้ หรือการคิดสรา้ งสรรคถ์ ึงส่ิงท่ียงั ไม่มี หรอื มี
แลว้ แตด่ ยู งั ธรรมดา การมจี ินตนาการทาใหเ้ กิดส่ิงใหมๆ่ ขนึ้
วัสดทุ ใี่ ช้ในการปั้นรูป วสั ดทุ ่นี ามาปั้นไดน้ นั้ ตอ้ งมีความเหนียวและน่ิม สามารถยดึ จบั กนั เป็น
กอ้ น ทรงตวั อยไู่ ดต้ ลอดเวลาท่ีปั้น มคี วามคงทนไมแ่ ตกสลายไดง้ า่ ยทงั้ ในขณะกาลงั ปั้นและเม่อื ปั้นเสรจ็
แลว้ ซง่ึ วสั ดเุ หลา่ นีม้ ีอยใู่ นธรรมชาตแิ ละมนษุ ยส์ รา้ งขนึ้ เช่น
ดนิ เหนียว เป็นวสั ดธุ รรมชาติท่สี ามารถยดึ เกาะตวั กนั ไดด้ ี หาไดง้ า่ ย และปะหยดั ซง่ึ เม่อื ไดด้ นิ
เหนียวมาแลว้ ตอ้ งเตรยี มดนิ ดงั นี้

1. เกบ็ เศษวสั ดทุ ่ตี ดิ มากบั ดนิ ออกใหห้ มด
2. นวดดนิ ใหน้ มุ่ เป็นเนือ้ เดยี วกนั แลว้ เก็บใสถ่ งุ พลาสติก

ดนิ นา้ มนั เป็นวสั ดทุ ่ใี ชส้ าหรบั งานปั้นโดยเฉพาะ มีหลายสใี หเ้ ลือกใช้ ซง่ึ ดินนา้ มนั มี
คณุ สมบตั ิท่ดี ี คือ หนืด เหนียว ไมแ่ ขง็ ตวั ปั้นงา่ ย ไมต่ ดิ มือ สะดวกในการเก็บ จงึ เหมาะสาหรบั งานปั้น
ชิน้ เลก็ ๆ

การปั้นตามจนิ ตนาการ

 การปั้นในทนั ที
การปั้นในทนั ทเี ป็นการปั้นอิสระโดยไมต่ อ้ งมีการรา่ งแบบกอ่ น เป็นการปั้นท่ีดาเนินไปพรอ้ ม

กบั การตอ่ เตมิ จินตนาการในการปั้นดว้ ยความสขุ ส่ิงท่ปี ั้นนนั้ เกิดขนึ้ จากจินตนาการ แมอ้ าจจะไม่
สวยแตด่ แู ลว้ เพลดิ เพลิน แปลกตา ไมซ่ า้ รูปแบบกบั ผลงานของคนอ่นื ๆ

 การร่างกอ่ นปั้น
การรา่ งก่อนปั้นจะช่วยใหภ้ าพจินตนาการก่อนนนั้ ของนกั เรยี นมีความชดั เจนมากย่ิงขนึ้

ภาพรา่ งนีม้ ปี ระโยชนค์ อื เป็นตน้ แบบในการปั้น ซง่ึ ช่วยใหน้ กั เรยี นปรบั ปรุงแกไ้ ขผลงานการปั้นใหต้ รงกบั
ความตอ้ งการไดง้ า่ ยขนึ้ โดยการรา่ งภาพนนั้

~4~

การพมิ พก์ ับการจดั ภาพ
การพมิ พภ์ าพใหไ้ ดภ้ าพท่ดี ี ควรเรม่ิ จากการออกแบบก่อน จากนนั้ จึงตดั สินใจเลือกวสั ดทุ ่ีจะนามา

เป็นแม่พิมพ์ โดยใหส้ อดคลอ้ งกบั ภาพท่ีออกแบบไว้ การออกแบบภาพควรใชว้ ิธีการรา่ งภาพในกระดาษ
เพ่อื ดคู วามเหมาะสม โดยเนน้ ท่กี ารจดั ภาพใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมตารมหลกั การจดั องคป์ ระกอบศิลป์ เช่น

1. เอกภาพ เป็นการจัดภาพใหอ้ ยู่เป็นกล่มุ เป็นกอ้ น ไม่กระจดั กระจายไปท่วั กรอบ จนขาด
ความโดดเด่นของภาพ การจดั ภาพพิมพแ์ บบนีส้ ่วนใหญ่มกั เป็นภาพเด่ียว มีภาพเดียวอาจมีภาพท่ีเป็น
สว่ นประกอบบา้ ง แตไ่ มโ่ ดดเดน่ เทา่ กบั ภาพท่ตี อ้ งการส่ือ

2. ความสมดุล เป็นการจดั ภาพท่ีมีลกั ษณะซา้ ย-ขวาสมดลุ กนั หรอื จดั ภาพเทา่ กนั ทงั้ สองดา้ น
ไมเ่ นน้ หรอื มนี า้ หนกั ภาพเอียงไปดา้ นใดดา้ นหน่งึ

3. ความกลมกลืน เป็นการจดั ภาพหรอื วางภาพใหม้ ีลกั ษณะประสานกลมกลืนกนั ไม่ขดั แยง้
กนั การจดั ภาพใหก้ ลมกลนื ควรพิจารณาองคป์ ระกอบอ่ืนๆ เชน่ สี เสน้ รูปรา่ ง รูปทรง ลกั ษณะผิว
นา้ หนกั อ่อน-แก่ เป็นตน้ ซ่ึงองคป์ ระกอบเหล่านีค้ วรเป็นพวกเดียวกนั มีลกั ษณะคลา้ ยๆกนั เป็นไปใน
ทิศทางหรอื ความหมายเดียวกนั

4. ช่วงจังหวะ เป็นการจดั ภาพใหม้ ีความรูส้ กึ เคล่ือนไหว มีจงั หวะ โดยจดั วางภาพใหม้ ีการ
เวน้ ระยะความตอ่ เน่ืองของรูปรา่ ง รูปทรง แสงเงา และสี ใหม้ จี งั หวะเหมาะสมกลมกลืน และสวยงาม ซ่งึ
มีอยู่ 2 ลกั ษณะใหญ่ๆ คอื การจดั ช่วงจงั หวะท่เี ทา่ ๆกนั และการจดั ชว่ งจงั หวะท่ไี มเ่ ทา่ กนั

งานศลิ ป์ กับวัฒนธรรม

1. ลักษณะและรูปแบบของงานทศั นศลิ ป์
1.1. งานจติ รกรรม คอื การวาดภาพระบายสลี งบนส่งิ ตา่ งๆ ตามแนวความคิดทางพทุ ธศาสนา
อธิบายเรอ่ื งราวทางศาสนาหรอื พทุ ธประวตั ิ มีลกั ษณะรูปแบบคอื

 จิตรกรรมลายเสน้
 จิตรกรรมสีเดยี ว
 จิตรกรรมหลายสี
1.2. งานประตมิ ากรรม คอื รูปปั้น รูปแกะสลกั รูปหลอ่ ท่สี รา้ งดว้ ยไม้ ปนู ปั้น ดนิ เผา หนิ
โลหะ มเี อกลกั ษณค์ วามเป็นไทย มลี กั ษณะรูปแบบคือ
 ประติมากรรมรูปคนในแบบต่างๆ
 ประตมิ ากรรมรูปสตั ว์
 ประติมากรรมประเภทลวดลาย
1.3 งานสถาปัตยกรรม คอื อาคารส่ิงก่อสรา้ งท่อี ย่อู าศยั วดั พระราชวงั ซง่ึ แตล่ ะทอ้ งถ่ินมี
การสรา้ งสรรคร์ ูปแบบท่แี ตกตา่ งกนั มีลกั ษณะรูปแบบคือ

~5~

สถาปัตยกรรมประเภททอ่ี ยอู่ าศัย
1. เรือนไทย เป็นโรงเรอื นยกสงู ตวั เรอื นใชเ้ ป็นท่อี ย่อู าศยั มหี ลงั คาท่สี อบแหลมใชใ้ นการ

ระบายอากาศรอ้ น กนั แดด กนั ฝน ซง่ึ แตล่ ะถ่ินมีลกั ษณะแตกตา่ งกนั ไปตามภมู ิภาค ท่ีเหน็ ไดช้ ดั มี
อยู่ 2 ชนิดไดแ้ ก่

1.1 เรอื นเครอ่ื งผกู เป็นเรอื นท่สี รา้ งดว้ ยวสั ดไุ มค่ งทน สว่ นใหญ่ ไดแ้ ก่ ไมผ้ กู ดว้ ยหวาย
หรอื เสน้ ตอก หลงั คามงุ ดว้ ยหญา้ คาหรอื ใบไม้

1.2 เรอื นเครอ่ื งสบั เป็นเรอื นท่สี รา้ งดว้ ยไมเ้ นือ้ แขง็ ซง่ึ ไดจ้ ากการสบั ถาก เล่อื ย ใหไ้ ด้
ขนาดตามตอ้ งการนามาประกอบเป็นตวั เรอื นดว้ ยวธิ ีการเขา้ ลิน้ และเดือย มคี วามแขง็ แรง ทนทาน
มากกวา่ เรอื นเครอ่ื งผกู

2. ปราสาทราชวัง เป็นท่ปี ระทบั และประกอบพิธีของพระมหากษัตรยิ ์ นิยมสรา้ งใหม้ ี
ยอดแหลม ตวั อาคารสว่ นใหญ่กอ่ อิฐถือปนู

3. ตาหนัก เป็นท่ปี ระทบั ของพระมหากษัตรยิ ์ เจา้ นาย เชือ้ พระวงศ์ สรา้ งดว้ ยไม้ หรอื
กอ่ อิฐถือปนู
สถาปัตยกรรมประเภทศาสนสถาน

เน่ืองจากชนชาติไทยนบั ถือศาสนาแตกตา่ งกนั ไปตามทอ้ งถ่ินและความเช่ือถือ ดงั นนั้
สถานท่ปี ระกอบพธิ ีกรรมจงึ มีลกั ษณะแตกตา่ งกนั ไปตามแตล่ ะศาสนา นอกจากนนั้ ยงั มสี ถปู เจดยี ท์ ี
กอ่ สรา้ งดว้ ยอฐิ หิน ศลิ าแลง เพ่อื บรรจสุ ่งิ อนั ควรเคารพบชู า เชน่ พระบรมสารรี กิ ธาตุ อฐั ิของบคุ คล
ท่คี วรเคารพ แบง่ ได้ 3 ชนิด คือ

1. โบสถ์ วหิ าร เป็นส่งิ ก่อสรา้ งทางศาสนา ทงั้ ศาสนาพทุ ธ ศาสนาครสิ ต์ ศาสนา
อิสลาม ศาสนาฮินดู เป็นตน้

2. เจดยี ์ เป็นส่งิ ก่อสรา้ งในทางพทุ ธศาสนาท่มี ียอดแหลม สงู มีทงั้ รูปทรงกลมและ
รูปทรงเหล่ียม ถา้ เป็นรูปทรงส่ีเหล่ยี มนิยมสรา้ งย่อมมุ เลก็ ๆ หลายๆมมุ

3. ปรางค์ เป็นส่งิ ก่อสรา้ งมที งั้ ท่เี ป็นศาสนาพทุ ธ และศาสนาฮินดู มีลกั ษณะคลา้ ย
ปราสาทย่อสว่ น นิยมสรา้ งดว้ ยศลิ าแลง หินทราย อิฐ บางแหง่ ฉาบปนู ประดบั ลวดลายอยา่ งงดงาม

2. งานทศั นศลิ ป์ ทสี่ ะทอ้ นวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาในทอ้ งถนิ่
ศิลปะไทยเป็นส่งิ ท่แี สดงใหเ้ หน็ ถึงเอกลกั ษณค์ วามเป็นไทย เพราะมเี อกลกั ษณเ์ ฉพาะท่ี

ไมเ่ หมอื นชาตใิ ด บง่ บอกถงึ ความเจรญิ ทางวฒั นธรรมท่สี ืบทอดตอ่ กนั มาตงั้ แตส่ มัยบรรพบรุ ุษ สงั เกต
ไดจ้ ากหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรม์ กั แฝงไปดว้ ยผลงานศิลปะมากมาย เชน่ ภาพวาดบนฝาผนงั ใน
โบราณสถาน ส่งิ กอ่ สรา้ งในสมยั โบราณ หรอื ของใชส้ มยั กอ่ น เป็นตน้

~6~

ศิลปะไทยมจี ดุ กาเนิดมาจากสภาพความเป็นอยู่ การดารงชีพ ความเช่ือ การนบั ถือ
ศาสนา ประเพณี และวฒั นธรรมของผคู้ นในสมยั นนั้ ซง่ึ มีสว่ นในการสรา้ งสรรคเ์ ป็นผลงานศิลปะตา่ งๆ
ใหม้ ีความสวยงาม มีเอกลกั ษณเ์ ป็นของตนเอง สรา้ งความภาคภมู ใิ จใหก้ บั ลกู หลานท่สี บื ตอ่ กนั มา

นอกจากศลิ ปะไทยท่แี สดงถงึ เอกลกั ษณข์ องความเป็นไทยแลว้ ในแตล่ ะทอ้ งถ่ินยงั มี
ผลงานศลิ ปะท่เี ป็นเอกลกั ษณเ์ ฉพาะทอ้ งถ่ินอีกดว้ ย เน่ืองจากสภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิต รวมถงึ
วฒั นธรรมประเพณีท่ีแตกตา่ งกนั ทาใหก้ ารสรา้ งสรรคผ์ ลงานศิลปะจงึ แตกตา่ งกนั ตามทอ้ งถ่ินนนั้ ๆ ซง่ึ
เราแบง่ ลกั ษณะงานศลิ ปะออกไปตามภมู ิภาค ดงั นี้

 งานทศั นศลิ ป์ ในภาคเหนือ
ภาคเหนือเป็นภมู ภิ าคท่อี ยตู่ อนบนสดุ ของไทย สภาพภมู ปิ ระเทศเป็นภเู ขาสงู อากาศเยน็ สบาย

ทาใหผ้ คู้ นในทอ้ งถ่ินนีม้ บี คุ ลิกท่รี า่ เรงิ แจ่มใส และสามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานศลิ ปะไดอ้ ย่างงดงาม
ประณีต และในบางทอ้ งถ่ินของภาคเหนือ ยงั ไดร้ บั อิทธิพลของศิลปวฒั นธรรมจากประเทศพมา่ และ
อินเดียอีกดว้ ย ผลงานท่มี ชี ่ือเสียงของภาคเหนือ เช่น เครอ่ื งไมแ้ กะสลกั เครอ่ื งเงนิ เครอ่ื งเขินลายรด
นา้

 งานทศั นศิลป์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือเป็นภมู ภิ าคท่อี ย่ทู างตะวนั ออกเฉียงเหนือของไทย มีสภาพภมู ปิ ระเทศ

เป็นท่รี าบสงู และประสบกบั สภาวะแหง้ แลง้ บอ่ ยครงั้ ทาใหผ้ ลงานศิลปะในทอ้ งถ่ิน มกั จะเก่ียวขอ้ งกบั
การดารงชีวติ การดิน้ รนตอ่ สกู้ บั ภยั แลง้ เช่น การทาภาชนะเครอ่ื งใชต้ า่ งๆนอกจากนี้ บางพนื้ ท่ไี ดร้ บั
อิทธิพลศลิ ปะจากขอม สงั เกตไดจ้ ากสถาปัตยกรรมท่พี บเหน็ ท่วั ๆไป ผลงานท่มี ีช่ือเสยี งของภาค
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ เช่น ผา้ ไหมดาแดง จงั หวดั ขอนแกน่ ก่องขา้ ว กระติบขา้ ว

 งานทศั นศิลป์ ในภาคกลาง
ภาคกลางเป็นศนู ยก์ ลางความเจรญิ รุง่ เรอื งทางวฒั นธรรม และเป็นศนู ยก์ ลางในการตดิ ตอ่

คา้ ขายกบั ชาวตา่ งชาติในสมยั โบราณ ดงั นนั้ จงึ มผี ลงานศลิ ปะหลากหลายรูปแบบ และผลงานศิลปะ
บางอย่าง กไ็ ดร้ บั อทิ ธิพลมาจากตา่ งชาติ ผลงานศลิ ปะของภาคกลางจงึ มีหลายประเภท ผลงานท่มี ี
ช่ือเสียงของภาคกลาง เช่น เครอ่ื งจกั สาน ปลาตะเพียนใบลาน โอง่ มงั กรราชบรุ ี เครอ่ื งปั้นดนิ เผาของ
ชาวมอญ

 งานทศั นศิลป์ ในภาคใต้
ภาคใตม้ ีภมู ภิ าคท่ีอย่ทู างตอนใตข้ องไทย ผคู้ นท่อี าศยั อยใู่ นพนื้ ท่นี ี้ สว่ นใหญ่มวี ิถีชีวิตท่แี ตกตา่ ง

จากภมู ิภาคอ่นื เน่ืองจากพนื้ ท่สี ่วนใหญ่ติดกบั ทะเล จงึ ประกอบอาชีพชาวประมงเป็นสว่ นมาก ผลงาน
ศิลปะในภมู ิภาคนีจ้ งึ เก่ียวขอ้ งกบั ทะเลและไดร้ บั อทิ ธิพลวฒั นธรรมทางมลายู ผลงานท่มี ชี ่ือเสียงของ
ภาคใต้ เช่น กระเป๋ าถือ เครอ่ื งจกั สานจากย่านลิเภา หนงั ตะลงุ เครอ่ื งถม

~7~

ใบงานเพอื่ การเรียนรู้ ชัน้ ป. 5
กลุ่มสาระวิชา ศลิ ปะ (ทศั นศิลป์ ) ใบงานท่ี 3
หน่วย ชวี ิตกับศิลปะ

คาอธิบายการทากจิ กรรม

1. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั เิ รอ่ื งการปั้นและวสั ดทุ ่ใี ชใ้ นงานปั้น จากการสงั เกตภาพตวั อยา่ ง ดู วดี ที ศั น์
สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศิลป์ นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งการปั้นและวสั ดทุ ่ี
ใชใ้ นงานปั้น มาสรา้ งผลงาน แลว้ นาผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
2. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั เิ รอ่ื งการปั้นตามจินตนาการ จากการสงั เกตภาพตวั อยา่ ง ดู วีดีทศั น์
สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศิลป์ นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งการปั้นตาม
จินตนาการ มาสรา้ งผลงาน แลว้ นาผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
3. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั ิเรอ่ื งการพมิ พภ์ าพกบั การจดั ภาพจากการสงั เกตภาพตวั อยา่ ง ดู วีดีทศั น์
สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศลิ ป์ นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งการพมิ พภ์ าพกบั
การจดั ภาพมาสรา้ งผลงาน แลว้ นาผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
4. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั ิเรอ่ื งงานศิลป์ กบั วฒั นธรรมจากการสงั เกตภาพตวั อยา่ ง ดู วดี ที ศั น์ สมั ผสั
วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศลิ ป์ นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งงานศลิ ป์ กบั วฒั นธรรมมา
จดั ทารายงาน แลว้ นาผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น

~8~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป. 5
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานที่ 4
หน่วย ชวี ติ กบั ศิลปะ

คาอธิบายการทากจิ กรรม
ใหน้ กั เรยี นสรุปความรูแ้ ลว้ บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ ในใบงานเพ่ือการเรยี นรู้

บนั ทกึ สรุปความรู้ทไี่ ดร้ ับ

1. งานปั้น หมายถงึ ..............................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
2. จินตนาการ คือ ...................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
4. วสั ดทุ ่ใี ชใ้ นการปั้นรูป ..........................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
4. ดนิ เหนียว .......................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
5. ดนิ นา้ มนั ...................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
6. การปั้นในทนั ทีตามจินตนาการ เป็นการปั้นอิสระโดย
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
7. การรา่ งกอ่ นปั้นตามจินตนาการ จะชว่ ยให.้ ........................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

~9~

8. การพิมพภ์ าพใหไ้ ดภ้ าพท่ดี ี ควรเรม่ิ จาก..............................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
9. เอกภาพ คอื .......................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
10. ความสมดลุ คอื ...............................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
11. ความกลมกลืน คือ ...........................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
12. ช่วงจงั หวะ คอื ...................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
13. งานจิตรกรรม คอื ...........................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
14. งานประติมากรรม คือ ...............................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
15. งานสถาปัตยกรรม คือ ...........................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

~ 10 ~

......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
16.สถาปัตยกรรมประเภทท่อี ย่อู าศยั มลี กั ษณะรูปแบบคอื ..............................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
17.สถาปัตยกรรมประเภทศาสนสถาน มลี กั ษณะรูปแบบคอื .............................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

~ 11 ~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป. 5
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศิลป์ ) ใบงานท่ี 5
หน่วย ชวี ติ กับศลิ ปะ

คาอธิบายการทากจิ กรรม

ใหน้ กั เรยี นสรุปประโยชนท์ ่เี กิดขนึ้ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ

หลกั การทรงงานของในหลวงรชั กาลท่ี 9 บนั ทกึ ลงในตาราง

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง สาระสาคญั

1. หลักคดิ ............................................................................................….
 ความรู้ ................................................................................................
 คณุ ธรรม

2. หลักปฏบิ ตั ิ ......................................................................................……....
 พอประมาณ

.................................................................................................

 มเี หตผุ ล .................................................................................................
..............................................…...............................................

 มีภมู คิ มุ้ กนั .................................................................................................
..............................................…...............................................
3. ผลลัพท์ 4 มติ ิ
 วตั ถุ .................................................................................................
..............................................…...............................................

 สังคม .................................................................................................
..............................................…...............................................

 วฒั นธรรม .................................................................................................
..............................................…...............................................

 สง่ิ แวดล้อม .................................................................................................
..............................................…...............................................

หลกั การทรงงาน ~ 12 ~
ประโยชนท์ นี่ าไปใช้
ทาตามลาดบั ขนั้
ไมต่ ิดตารา

ทางานอย่างมีความสขุ

ความเพียร

ใหน้ กั เรยี นทาแบบประเมินตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และความคิดเหน็ ตอ่ ความรูท้ ่ีไดร้ บั

ประเมนิ ตนเองด้านคุณธรรม จริยธรรม

คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
1. เป็นผใู้ ฝ่รู้ ใฝ่ศกึ ษา คน้ ควา้ หาความรู้
2. ความรบั ผิดชอบ ขยนั และอดทน
3. ความซ่อื สตั ย์
4. ความมีระเบยี บวินยั
5. ปฏิบตั ิกิจกรรมอยา่ งมีความสขุ
6. รูจ้ กั เอือ้ เฟื้อเผ่ือแผ่ต่อผอู้ ่ืน

ความคดิ เหน็ ต่อความรู้ทไ่ี ด้รับ
ประโยชนท์ ่ีได้ คือ
.......................................................................................................................................
การนาไปใชป้ ระโยชน์
...........................................................................................................................................

~ 13 ~

แบบทดสอบหลังเรียน

ใหน้ กั เรยี นเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

1. การปั้นตามจินตนาการ หมายถงึ ขอ้ ใด 7. การปั้นส่งิ ท่มี รี ายละเอยี ดมากควรทาอย่างไร

ก. การปั้นตามรูปแบบท่กี าหนดไว้ ก. ปั้นเฉพาะจดุ ท่ีสนใจ

ข. การปั้นโดยการใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์ ข. ปั้นสว่ นท่มี รี ายละเอียดมากก่อน

ค. การปั้นตามวสั ดุ อปุ กรณท์ ่มี อี ยรู่ อบตวั ค. ปั้นเฉพาะจดุ ท่มี รี ายละเอยี ดนอ้ ยท่ีสดุ

ง. การปั้นของนกั ปั้นท่มี ชี ่ือเสียงระดบั โลก ง. ปั้นรูปทรงโดยรวมกอ่ นแลว้ เก็บรายละเอยี ด

2. การปั้นตามจินตนาการไมต่ อ้ งคานงึ ถงึ ขอ้ ใด ภายหลงั

ก. ความรูส้ กึ ข. ความคดิ สรา้ งสรรค์ 8. หลงั ทางานปั้นเสรจ็ แลว้ ควรปฏิบตั ิอย่างไร

ค. ความเหมอื นจรงิ ง. ความอิสระ ก. เกบ็ เศษดิน ลา้ งมอื ใหส้ ะอาด

3. การปั้นอสิ ระโดยไม่มีการรา่ งแบบกอ่ นเป็นการ ข. นาอปุ กรณท์ ่ใี ชเ้ สรจ็ แลว้ ทงิ้ ขยะ

ปั้นแบบใด ค. กองอปุ กรณก์ ารปั้นไวก้ บั พนื้ จะไดห้ างา่ ยเม่อื ใช้

ก. การปั้นในทนั ที ข. การปั้นไมม่ รี ูปแบบ ครงั้ ตอ่ ไป

ค. การปั้นสรา้ งสรรค์ ง. การปั้นตามอารมณ์ ง. ลา้ งมือใหส้ ะอาดและวางงานปั้นอปุ กรณต์ า่ งๆ

4. การรา่ งภาพกอ่ นปั้นมีประโยชนอ์ ยา่ งไร ไวก้ บั ท่ี

ก. ทาใหง้ านปั้นสวยงามขนึ้ 9. การเกบ็ วสั ดุ อปุ กรณใ์ นการปั้นใหเ้ ป็นระเบียบ มี

ข. ทาใหง้ านปั้นมีความแปลกใหม่ ประโยชนอ์ ย่างไร

ค. ทาใหป้ รบั ปรุงแกไ้ ขงานตามแบบไดง้ า่ ย ก. ทาใหอ้ ปุ กรณเ์ งางามอยเู่ สมอ

ง. ทาใหป้ ระหยดั เวลาในการสรา้ งสรรคง์ านปั้น ข. สะดวกตอ่ การหยิบใชง้ าน

5. เครอ่ื งมือปั้นใชท้ าอะไร ค. ทาใหง้ านปั้นมีความสวยงาม

ก. ใชข้ ดู ดนิ ข. ใชป้ าดดนิ ง. ไมต่ อ้ งซอื้ อปุ กรณใ์ นการปั้นใหม่

ค. ใชต้ กแตง่ ผิวดนิ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 10. การปั้นมีประโยชนอ์ ยา่ งไร

6. ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ก. ทาใหเ้ ป็นนกั ปั้นท่เี ก่งในอนาคต

ก. การปั้นตามจินตนาการเป็นการสรา้ งสรรค์ ข. ช่วยเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางรา่ งกายให้

ผลงานปั้นอย่างอิสระ แขง็ แรง

ข. การปั้นตามจินตนาการไมจ่ าเป็นตอ้ งปั้นให้ ค. ช่วยสง่ เสรมิ ความคดิ จินตนาการและสมาธิ

มคี วามเหมอื นจรงิ ง. หาใหส้ ตปิ ัญญาเฉลยี วฉลาด

ค. การปั้นตามจินตนาการเป็นการแสดงออก 11. ก่อนลงมอื พมิ พภ์ าพควรทาขอ้ ใดก่อน

ถงึ อารมณแ์ ละความรูส้ กึ ท่มี ีจินตนาการและ ก.ออกแบบภาพ ข.ผสมสที ่ีตอ้ งการ

ความคดิ สรา้ งสรรค์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ค.ทาสที ่แี มพ่ มิ พ์ ง.ตกแตง่ ภาพใหส้ มบรู ณ์

12.ขอ้ ใดไมใ่ ชห่ ลกั การจดั ภาพ 19. ผลงานใดไมไ่ ดจ้ ดั แสดงในพพิ ิธภณั ฑห์ รอื

~ 14 ~

ก.เอกภาพ ข.ชว่ งจงั หวะ นิทรรศการทศั นศิลป์

ค.ความสมดลุ ง.ความกระจดั กระจาย ก. งานปั้น ข. ภาพวาด

13.วสั ดใุ นขอ้ ใด ไมเ่ หมาะสม ท่จี ะนามาใชเ้ ป็น ค. รถยนต์ ง. ส่งิ ของ เครอ่ื งใช้

แมพ่ ิมพ์ 20.ปลาตะเพยี นใบลานเป็นผลงานทศั นศิลป์ ท่มี ี

ก.เปลอื กหอย ข.ใบไม้ ช่ือเสยี งของภาคใด

ค.เศษแกว้ ง.ลกู เทนนิส ก.ภาคใต้ ข.ภาคเหนือ ค.ภาคกลาง ง.ภาคอีสาน

14. การพิมพภ์ าพตอ้ งทาส่งิ ใดเป็นอนั ดบั แรก 21. งานแกะสลกั ไมเ้ ป็นผลงานทศั นศลิ ป์ ท่มี ีช่ือเสียง

ก.ออกแบบ ข.เตรยี มวสั ดุ ของภาคใด

ค.ทดลองพมิ พ์ ง.สรา้ งแมพ่ ิมพ์ ก.ภาคใต้ ข.ภาคเหนือ ค.ภาคกลาง ง.ภาคอสี าน

15. สีในขอ้ ใดสามารถใชพ้ ิมพภ์ าพแทนสีนา้ ได้ 22. งานทศั นศิลป์ ในภาคใตค้ อื ขอ้ ใด

ก.สเี มจิก ข.สเี ทยี น ก. ผา้ ไหม ข. ต๊กุ ตาชาววงั

ค.สีชอรค์ ง.สผี สมอาหาร ค. หนงั ตะลงุ ง. ปลาตะเพยี นใบลาน

16. การพมิ พภ์ าพไดค้ มชดั ขนึ้ อย่กู บั ขนั้ ตอนใด 23. เจดียเ์ ป็นงานทศั นศิลป์ ประเภทใด

มากท่สี ดุ ก. งานจิตรกรรม ข. งานประตมิ ากรรม

ก.การทาสีบนแมพ่ ิมพ์ ค. งานสถาปัตยกรรม ง. ขอ้ ก และ ข ถกู

ข.การเลือกวสั ดมุ าทาแมพ่ มิ พ์ 24. เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งมกี ารจดั แสดงผลงาน

ค.การกดแมพ่ มิ พอ์ ย่างถกู วิธี ทศั นศลิ ป์

ง.การเลอื กสสี าหรบั พมิ พอ์ ย่างเหมาะสม ก. เพ่อื ใหผ้ ชู้ มไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการรบั ชม

17. ขอ้ ใดเป็นวิธีพมิ พภ์ าพท่ถี กู ตอ้ ง ข. เพ่อื ใหผ้ ชู้ มไดซ้ าบซงึ้ ในผลงาน

ก.พมิ พส์ ่ีท่เี ขม้ ท่สี ดุ ก่อน ค. เพ่อื ขายใหก้ บั ผทู้ ่สี นใจ ง. ขอ้ ก. และ ข. ถกู

ข.พมิ พส์ ว่ นพนื้ หลงั ของภาพกอ่ น 25. วฒั นธรรมการอยอู่ าศยั ของภาค

ค.ใชไ้ มอ้ ดั รองพนื้ ก่อนพิมพ์ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ นิยมสรา้ งบา้ นแบบใด

ง.กดแมพ่ มิ พซ์ า้ หลายๆครงั้ เพ่อื ใหภ้ าพคมชดั ก. แบบกาแล ข. แบบเครอ่ื งสบั

18. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของงานปั้นในทอ้ งถ่ิน ค. แบบปั้นลม ง. แบบเสาลอยนา้

ก. แตล่ ะทอ้ งถ่ินมีเพยี งอย่างเดยี ว 26. ใครใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ ในการสรา้ งผลงานทศั นศลิ ป์

ข. คิดคน้ ขนึ้ จากบคุ คลท่มี อี ายมุ าก จากภมู ิปัญญาไดด้ ีท่ีสดุ

ค. มใี ชแ้ ตใ่ นทอ้ งถ่ินของตนเทา่ นนั้ ก. แกว้ ใชไ้ มไ้ ผแ่ ละใบตอง

ง. สะทอ้ นความเป็นอยขู่ องคนในทอ้ งถ่ินนนั้ ข. แกม้ ใชก้ ลอ่ งโฟมและถงุ พลาสตกิ

19. ผา้ ซ่นิ คอื งานทศั นศิลป์ ในภาคใด ค. กอ้ ย ใชด้ ินนา้ มนั และสโี ปสเตอร์

ก.ภาคใต้ ข.ภาคเหนือ ค.ภาคกลาง ง.ภาคอีสาน ง. กลว้ ย ใชใ้ ยสงั เคราะหแ์ ละฟองนา้

~ 15 ~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป. 5
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานท่ี 6
หน่วย ชวี ติ กับศลิ ปะ
คาอธิบายการทากจิ กรรม

ใหน้ กั เรยี นวางแผนออกแบบชิน้ งานวาดภาพตามท่ีตนเองสนใจ

แบบเสนอผลงานท่ี 6

แผนปฏบิ ตั งิ าน.............................................................

~ 16 ~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป.5
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานที่ 1
หน่วย ชวี ิตกับศลิ ปะ

ครูผู้สอน นางอญั ชลี วัฒนวันยู

คาอธิบายการทากจิ กรรม

1. นกั เรยี นอ่านคาถามจากแบบทดสอบก่อนเรยี นในใบงานเพ่ือการเรยี นรูน้ ี้ แลว้ ทา

แบบทดสอบโดยกากบาททบั ขอ้ ท่ีถกู ท่ีสดุ

2. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายเพ่ือตรวจสอบคาถามรว่ มกนั และแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง

แบบทดสอบ

ใหน้ กั เรยี นเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

1. รูปปั้นท่มี องเห็นทงั้ ความกวา้ ง ความลกึ ความ 4. วสั ดทุ ่ใี ชใ้ นการปั้นชนิดใดสะดวกในการเกบ็ รกั ษา

หนา เรยี กวา่ รูปปั้นประเภทใด ก.ดินนา้ มนั

ก.รูป 1 มิติ ข.กระดาษเป่ือยผสมแปง้ เปียก

ข.รูป 2 มิติ ค.แปง้ สาลีผสมนา้

ค.รูป 3 มิติ ง.ดนิ เหนียว

ง.รูป 4 มิติ 5. อปุ กรณใ์ ดมีความสาคญั ตอ่ การปั้นดินนอ้ ยท่สี ดุ

2. นกั เรยี นกาลงั จะทางานปั้นเขาควรใชอ้ ะไรรอง ก.นา้

โตะ๊ กอ่ นปั้น ข.กระดาษรองกนั เปื้อน

ก.ใบตอง ค.สแี ละพกู่ นั

ข.ผา้ ปโู ต๊ะ ง.ดนิ เหนียวและดนิ นา้ มนั

ค.เศษผา้ 6. หลงั จากทางานปั้นเสรจ็ แลว้ ควรทาความสะอาดมอื

ง.กระดาษหนงั สอื พิมพ์ อยา่ งไร

3. การปั้นใหป้ ระสบความสาเรจ็ จะตอ้ งเตรยี ม ก.สะบดั มอื ใหส้ ะอาด

วสั ดอุ ย่างไร ข.ใชก้ ระดาษเชด็ มอื

ก.ตอ้ งมีความละเอียด ค.ลา้ งมอื ดว้ ยนา้ และสบู่

ข.ตอ้ งมลี กั ษณะเหนียวพอดี ง.ใชผ้ า้ เช็ดมอื

ค.ตอ้ งมีลกั ษณะน่ิมเป่ือยย่ยุ 7. อปุ กรณใ์ นขอ้ ใดสาคญั ท่สี ดุ ในการพิมพ์

ง.ถกู ทกุ ขอ้ ก.แมพ่ ิมพ์ ข.ผา้ กนั เปื้อน

ค.สีนา้ มนั ง.กระดาษแกว้ ใส

~ 17 ~

8.งานพิมพภ์ าพเหมาะสาหรบั นาไปประดิษฐ์เป็น 12. จิตรกรรมไทยมกั เลา่ เก่ียวกบั อะไร

งานชิน้ ใดมากท่สี ดุ ก. การเมอื ง

ก.บตั รอวยพร ข. พทุ ธประวตั ิ

ข.ตวั หนงั ตะลงุ ค. ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์

ค.ผา้ ปโู ตะ๊ ง.ความรกั และความโลภ

ง.ท่รี องแกว้ นา้ 13. รูปแบบงานทศั นศลิ ป์ ในทอ้ งถ่ินแตกตา่ งกนั เพราะ

9. การเลอื กวสั ดมุ าแกะสลกั ทาแมพ่ มิ พค์ วร อะไร

พิจารณาขอ้ ใดมากท่ีสดุ ก. วสั ดุ อปุ กรณ์

ก.มคี นใชม้ าก ข. ลกั ษณะภมู ิประเทศ

ข.มเี นือ้ แนน่ ค. ขนบธรรมเนียมประเพณี

ค.มสี สี นั สวยงาม ง. ถกู ทกุ ขอ้

ง.เป็นวสั ดสุ งั เคราะห์ 14.เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งใชว้ สั ดธุ รรมชาติในการสรา้ ง

10. การฝึกพิมพภ์ าพมีประโยชนอ์ ย่างไร ผลงานทศั นศลิ ป์

ก.ทาใหเ้ พ่อื นๆรกั และช่ืนชม ก. หาไดง้ า่ ยในทอ้ งถ่ิน

ข.ทาใหเ้ ขียนหนงั สือไดด้ ขี นึ้ ข. แสดงเอกลกั ษณข์ องทอ้ งถ่ินนนั้ ๆ

ค.ชว่ ยฝึกสมาธิ ในการทางาน ค. เป็นการอนรุ กั ษภ์ มู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน

ง.ช่วยฝึกใหเ้ ป็นคนซ่อื สตั ย์ ง. ถกู ทกุ ขอ้

11. แหลง่ เรยี นรูผ้ ลงานทศั นศิลป์ ในทอ้ งถ่ินคอื ขอ้ 15. งานทศั นศิลป์ หมายถงึ อะไร

ใด ก. ผลงานศิลปะท่มี องเหน็ ได้

ก. โรงเรยี น ข. ผลงานศิลปะท่สี ามารถสมั ผสั ได้

ข. พพิ ิธภณั ฑ์ ค. ผลงานศิลปะท่สี มั ผสั จบั ตอ้ งไดแ้ ละกินเนือ้ ท่ใี น

ค. รา้ นขายของท่รี ะลกึ ในทอ้ งถ่ิน อากาศ

ง. วดั ง. ถกู ทกุ ขอ้

~ 18 ~


Click to View FlipBook Version