ไฟล์ใบงานศิลปะเทอม2 ป.2

~1~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้

กลุ่มสาระวิชา ศลิ ปะ (ทศั นศิลป์ ) ชัน้ ป.2

หน่วย ชวี ติ กับศลิ ปะ ใบงานท่ี 1

ครูผู้สอน นางอญั ชลี วัฒนวันยู

คาอธิบายการทากจิ กรรม

1. นกั เรยี นอ่านคาถามจากแบบทดสอบก่อนเรยี นในใบงานเพ่ือการเรยี นรูน้ ี้ แลว้ ทา

แบบทดสอบโดยกากบาททบั ขอ้ ท่ีถกู ท่ีสดุ

2. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายเพ่ือตรวจสอบคาถามรว่ มกนั และแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง

แบบทดสอบ

ใหน้ กั เรยี นเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

1. เศษวสั ดคุ ือขอ้ ใด 7. ส่งิ ใดไมเ่ หมาะท่ีจะทาภาพปะติด

ก. ดนิ สอสี ก. ใบไม้

ข. ดนิ นา้ มนั ข. เปลือกถ่วั

ค. ฝาขวดนา้ อดั ลม ค. เปลือกสม้

2. ขอ้ ใดเป็นการเลือกกระดาษท่ีถกู ท่ีสดุ 8. ภาพแขวนจะเคลือ่ นไหวไดต้ อ้ งอาศยั

ก. หาซอื้ ยาก ราคาแพง อะไร

ข. กระดาษท่ีใชแ้ ลว้ หาไดง้ า่ ย ก. ลม

ค. ฉีกจากนิตยสาร ข. เครอ่ื งยนต์

3. ขอ้ ใดเป็นการเตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณท์ าภาพปะตดิ ค. เครอ่ื งปรบั อากาศ

ก. กระดาษ กาว กรรไกร 9.ขอ้ ใดคอื ความหมายของงานสรา้ งสรรค์

ข. เชือก กระดาษ กรรไกร จากกระดาษ

ค. กระดาษ สี กรรไกร ก. การนากระดาษมาสรา้ งงานศลิ ปะ

4 4.สง่ิ ท่ีมีความจาเป็นมากท่ีสดุ ในการทาภาพปะตดิ ดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ

ก. ไมบ้ รรทดั ข. กรรไกร ค. กาว ข. การใชป้ ระโยชนจ์ ากกระดาษให้

5. การทาภาพแขวนส่ิงใดสาคญั ท่ีสดุ ไดม้ าก ท่ีสดุ

ก.ขนาดของภาพ ค. การนากระดาษมาทาของเล่น

ข.สสี นั ของภาพ 10. ขอ้ ใดไม่ใช่ผลงานศิลปะทอ้ งถ่ิน

ค. ความสมดลุ ของภาพ ก. รูปแกะหนงั ตะลงุ

~2~

6. เม่ือสรา้ งสรรคง์ านเสรจ็ แลว้ นกั เรยี นควร ข. โอ่งมงั กร

ปฏิบตั ติ ามขอ้ ใด ค. ต๊กุ ตาหมี

ก. วางอปุ กรณท์ ิง้ ไวเ้ หมือนเดมิ 11. ขอ้ ใดสาคญั ในการทาเครอ่ื งจกั สาน

ข.เก็บอปุ กรณท์ าความสะอาดสถานท่ี ก. การจกั ตอก

ค. นาผลงานอวดเพ่ือน ๆ ข. การเลือกวสั ดุ
ค. การสานขนึ้ ลาย
12. ขอ้ ใดคอื ประโยชนข์ องการเรยี นการ 17. กระติบขา้ ว เป็นผลงานศิลปะประเภท
สรา้ งสรรค์ ใด
ก. งานแกะสลกั
ก. ทาใหไ้ ดค้ ะแนนมากขนึ้ ข. งานจกั สาน
ข. พฒั นาความคิดสรา้ งสรรค์ ค. งานปั้น
ค. มีงานไปอวดเพ่ือน ๆ 18. ขอ้ ใดไม่ใช่ศิลปะในทอ้ งถ่ิน
13. ผลงานศลิ ปะทอ้ งถ่ินเก่ียวขอ้ งกบั ขอ้ ใด ก. เกิดจากการสรา้ งสรรคข์ องคนใน
ก. เศรษฐกิจ ทอ้ งถ่ินท่ีไดร้ บั การถ่ายทอดจากบรรพบรุ ุษ
ข. วฒั นธรรม ข. เกิดจากการเรยี นรูแ้ ลว้ นาเอาวสั ดุ
ค. การปกครอง ทอ้ งถ่ินมาใช้
14. ผลติ ภณั ฑเ์ คร่อื งจกั รสานทามาจากวสั ดขุ อ้ ใด ค. เกิดจากจินตนาการของคนตา่ งชาติ
ก. ไมไ้ ผ่ 19. รูปแกะหนงั ตะลงุ ใชว้ สั ดใุ ดในการ
ข. ไมส้ กั แกะสลกั
ค. ดนิ เหนียว ก. หนงั ววั
15. หนงั ตะลงุ เก่ียวขอ้ งกบั งานศลิ ปะประเภทใด ข. กระดาษ
ก. งานแกะสลกั ค. ไม้
ข. ภาพเขียน 20. ผลงานศิลปะทอ้ งถ่ินขอ้ ใดใช้
ค. งานปั้น ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั ได้
16. ขอ้ ใดไม่ใช่การนาความรูท้ างศลิ ปะไปใชใ้ น ก. เรอื หางแมงป่อง
ชีวิตประจาวนั ข. หนงั ตะลงุ
ก. การแตง่ กาย ค. เส่อื กก
ข. การอาบนา้
ค. การทาบตั รอวยพร

~3~

ใบงานเพอื่ การเรียนรู้ ชั้น ป. 2
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานท่ี 2
หน่วย ชวี ติ กบั ศลิ ปะ

คาอธิบายการทากจิ กรรม
ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาเรอ่ื ง
ภาพปะตดิ จากกระดาษ หมายถึง การนากระดาษมาสรา้ งสรรคเ์ ป็นผลงานศลิ ปะ

โดยการปะตดิ ใหเ้ กิดเป็นภาพหรอื รูปทรงตามจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์
วัสดุ อุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการสร้างสรรค์
1. กระดาษสี
2. กรรไกร
3. กาว
4. ดินสอ ยางลบ กระดาษวาดเขียน
ขัน้ ตอนการทา
1. ออกแบบภาพท่ีตอ้ งการทา แลว้ รา่ งลงบนกระดาษวาดเขียนพรอ้ มทงั้ ระบายสแี บบ

ครา่ วๆเพ่ือเป็นการกาหนดสีในการเลือกกระดาษสมี าฉีกหรอื ตดั ใหเ้ ป็นภาพ
2. ฉีกหรอื ตดั กระดาษสตี ามแบบ แลว้ ปะติดตามภาพตามตาแหน่งท่ีตอ้ งการ
3. ตรวจสอบความสมบรู ณข์ องผลงาน ถา้ พบขอ้ บกพรอ่ งก็ปรบั ปรุงแกไ้ ขใหส้ มบรู ณ์

งานศลิ ปะ 3 มติ ิ หมายถงึ ผลงานศิลปะท่ีสามารถมองเหน็ ไดร้ อบดา้ น สรา้ งสรรค์
ดว้ ยวสั ดุ อปุ กรณแ์ ละเทคนิควธิ ีการตา่ งๆท่ีหลากหลาย

งานโครงสร้างเคลื่อนไหว หมายถงึ งานศลิ ปะท่ีมีโครงสรา้ งบอบบาง จดั สมดลุ ดว้ ย
เสน้ ลวดแขง็ บางๆ ท่ีมีวตั ถรุ ูปรา่ ง รูปทรงตา่ งๆท่ีออกแบบเช่ือมติดกบั เสน้ ลวดหรอื เชือกเสน้
เลก็ ๆเป็นเครอ่ื งแขวนท่ีเคล่อื นไหวไดด้ ว้ ยกระแสลมเพียงเบาๆ
ความสาคญั ของงานทศั นศิลป์ ในชวี ิตประจาวัน

1. เครอ่ื งใชใ้ นการประกอบอาชีพ เชน่ งอบ ชะลอม ตะกรา้
2. เครอ่ื งมือจบั สตั วน์ า้ เชน่ ลนั สมุ่ กระจู้ ลอบนอน ไซ
3. เครอ่ื งใชใ้ นบา้ น เชน่ โอง่ มงั กร ตะกรา้ หมาก หมอ้ ดิน
4. เครอ่ื งเลน่ เชน่ ลกู ข่าง ลิงชกั มา้ ชกั หนกู ะลา ว่าวปักเปา้

~4~

งานศลิ ปะในทอ้ งถน่ิ

งานทศั นศิลป์ ในทอ้ งถ่ิน เป็นงานท่ีมีคณุ คา่ เป็นภมู ิปัญญาของชาวบา้ นในภาคต่างๆ

ของประเทศไทย สรา้ งขนึ้ เพ่ือประโยชนใ์ ชส้ อยในชีวิตประจาวนั เป็นเครอ่ื งทามาหากิน หรอื

เพ่ือพิธีกรรมความเช่ือทางศาสนา วฒั นธรรมประเพณี โดยใชว้ สั ดงุ ่ายๆ ท่ีมีอย่ใู นทอ้ งถ่ินนนั้ ๆ

1. งานทศั นศลิ ป์ เพอ่ื การดาเนินชวี ติ คือ การสรา้ งสรรคอ์ ปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการทามาหา

กิน

ในชีวติ ประจาวนั เช่น สมุ่ เป็นเครอ่ื งมือจบั ปลา กระติบหรอื กลอ่ งขา้ ว เป็นภาชนะใสข่ า้ ว

เหนียวสกุ โอ่ง เป็นภาชนะเก็บนา้

2. งานทศั นศลิ ป์ ตามความเชอื่ และประเพณี คือ การสรา้ งสรรคส์ ่งิ ของท่ีใชใ้ นการ

ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น หนา้ กากผีตาโขน ทาจากเศษวสั ดุ เทียนพรรษา แกะสลกั

เทียนรูปพระพทุ ธเจา้ เจดยี ท์ ราย ก่อทรายรูปเจดยี ์

การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ในทอ้ งถ่ิน

1. เครอ่ื งปั้นดนิ เผา 2. เครอ่ื งจกั สาน

3. งานทอผา้ 4. งานภาพเขียน

~5~ ชัน้ ป. 2
ใบงานที่ 3
ใบงานเพอื่ การเรียนรู้
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศิลป์ )
หน่วย ชวี ิตกบั ศลิ ปะ

คาอธิบายการทากจิ กรรม
1. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั ิเรอ่ื ง ภาพปะตดิ จากกระดาษ จากการสงั เกตภาพตวั อยา่ ง ดู วี

ดที ศั น์ สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศลิ ป์ แลว้ ครูนาอภิปราย
ความรูท้ ่ีไดร้ ว่ มกนั ศกึ ษาเพ่ือตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ โดยการนาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
ครูคอยดแู ลชีแ้ นะ แนะนา กระตนุ้ ดว้ ยคาถาม และเพ่ิมเติมใหค้ รบสาระท่ีตอ้ งรู้

นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งภาพปะตดิ จากกระดาษ มาสรา้ งเป็นผลงาน แลว้ นาผลงาน
เสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
2. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั เิ รอ่ื ง งานศลิ ปะ 3 มิติ จากการสงั เกตภาพตวั อย่าง ดู วดี ที ศั น์
สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศิลป์ แลว้ ครูนาอภิปรายความรูท้ ่ี
ไดร้ ว่ มกนั ศกึ ษาเพ่ือตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ โดยการนาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น ครูคอย
ดแู ลชีแ้ นะ แนะนา กระตนุ้ ดว้ ยคาถาม และเพ่ิมเติมใหค้ รบสาระท่ีตอ้ งรู้

นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งงานศิลปะ 3 มิติ มาสรา้ งเป็นผลงาน แลว้ นาผลงานเสนอ
หนา้ ชนั้ เรยี น
3. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั ิเรอ่ื ง งานโครงสรา้ งเคล่อื นไหว จากการสงั เกตภาพตวั อย่าง ดู วี
ดที ศั น์ สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศิลป์ แลว้ ครูนาอภิปราย
ความรูท้ ่ีไดร้ ว่ มกนั ศกึ ษาเพ่ือตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ โดยการนาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
ครูคอยดแู ลชีแ้ นะ แนะนา กระตนุ้ ดว้ ยคาถาม และเพ่ิมเติมใหค้ รบสาระท่ีตอ้ งรู้

นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งงานโครงสรา้ งเคล่อื นไหว มาสรา้ งเป็นผลงาน แลว้ นา
ผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั ิเรอ่ื ง ความสาคญั ของงานทศั นศิลป์ ในชีวิตประจาวนั จากการ
สงั เกตภาพตวั อยา่ ง ดู วีดีทศั น์ สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศิลป์
แลว้ ครูนาอภิปรายความรูท้ ่ีไดร้ ว่ มกนั ศกึ ษาเพ่ือตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ โดยการ
นาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น ครูคอยดแู ลชีแ้ นะ แนะนา กระตนุ้ ดว้ ยคาถาม และเพ่ิมเติมใหค้ รบ
สาระท่ีตอ้ งรู้

~6~

นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งความสาคญั ของงานทศั นศิลป์ ในชีวติ ประจาวนั มาสรา้ งเป็น
ผลงาน แลว้ นาผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
4. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั เิ รอ่ื ง งานศิลปะในทอ้ งถ่ินจากการสงั เกตภาพตวั อยา่ ง ดู วดี ี
ทศั น์ สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศลิ ป์ แลว้ ครูนาอภิปราย
ความรูท้ ่ีไดร้ ว่ มกนั ศกึ ษาเพ่ือตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ โดยการนาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
ครูคอยดแู ลชีแ้ นะ แนะนา กระตนุ้ ดว้ ยคาถาม และเพ่ิมเตมิ ใหค้ รบสาระท่ีตอ้ งรู้

นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งงานศิลปะในทอ้ งถ่ิน มาสรา้ งเป็นผลงาน แลว้ นาผลงาน
เสนอหนา้ ชนั้ เรยี น

~7~

ใบงานเพอื่ การเรียนรู้ ชั้น ป. 2
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานที่ 4
หน่วย ชวี ิตกบั ศิลปะ

คาอธิบายการทากจิ กรรม
ใหน้ กั เรยี นสรุปความรูแ้ ลว้ บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ ในใบงานเพ่ือการเรยี นรู้

บนั ทกึ สรุปความรู้ทไ่ี ดร้ ับ
1. .................................................................... หมายถึง การนากระดาษมาสรา้ งสรรค์
เป็นผลงานศิลปะ โดยการปะติดใหเ้ กิดเป็นภาพหรอื รูปทรงตามจินตนาการและความคิด
สรา้ งสรรค์

2. วสั ดุ อปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการสรา้ งสรรค์

...............................................................................................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................................................................................................................

3. ขนั้ ตอนการทา

1. ....................................ภาพท่ีตอ้ งการทา แลว้ รา่ งลงบนกระดาษวาดเขียนพรอ้ มทงั้
ระบายสแี บบครา่ วๆเพ่ือเป็นการกาหนดสีในการเลอื กกระดาษสีมาฉีกหรอื ตดั ใหเ้ ป็นภาพ

2. ....................................กระดาษสีตามแบบ แลว้ ปะตดิ ตามภาพตามตาแหนง่ ท่ีตอ้ งการ

3. .....................................ความสมบรู ณข์ องผลงาน ถา้ พบขอ้ บกพรอ่ งก็ปรบั ปรุงแกไ้ ขให้
สมบรู ณ์

4. ......................................................... หมายถึง ผลงานศิลปะท่ีสามารถมองเห็นไดร้ อบ
ดา้ น สรา้ งสรรคด์ ว้ ยวสั ดุ อปุ กรณแ์ ละเทคนิควธิ ีการตา่ งๆท่ีหลากหลาย

5. ................................................................................ หมายถึง งานศลิ ปะท่ีมีโครงสรา้ ง

~8~

บอบบาง จดั สมดลุ ดว้ ยเสน้ ลวดแข็งบางๆ ท่ีมีวตั ถรุ ูปรา่ ง รูปทรงตา่ งๆท่ีออกแบบเช่ือมติดกบั
เสน้ ลวดหรอื เชือกเสน้ เลก็ ๆเป็นเครอ่ื งแขวนท่ีเคล่อื นไหวไดด้ ว้ ยกระแสลมเพียงเบาๆ

6. .............................................................. เป็นงานท่ีมีคณุ คา่ เป็นภมู ิปัญญาของชาวบา้ นใน
ภาคตา่ งๆของประเทศไทย สรา้ งขนึ้ เพ่ือประโยชนใ์ ชส้ อยในชีวติ ประจาวนั เป็นเครอ่ื งทามาหา
กิน หรอื เพ่ือพิธีกรรมความเช่ือทางศาสนา วฒั นธรรมประเพณี โดยใชว้ สั ดงุ ่ายๆ ท่ีมีอยใู่ น
ทอ้ งถ่ินนนั้ ๆ

7. .................................................................... คอื การสรา้ งสรรคอ์ ปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการทา
มาหากินในชีวติ ประจาวนั ไดแ้ ก่

 ………......................……..เป็นเครอ่ื งมือจบั ปลา

 …………………………… เป็นภาชนะใสข่ า้ วเหนียวสกุ

 ………….............…………เป็นภาชนะเก็บนา้

8. .......................................................................... คือการสรา้ งสรรคส์ ่งิ ของท่ีใชใ้ นการ
ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ไดแ้ ก่

 ………………………ผีตาโขน ทาจากเศษวสั ดุ

 …………………… แกะสลกั เทียนรูปพระพทุ ธเจา้

 …………………… ก่อทรายรูปเจดีย์
9. การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ในทอ้ งถ่ิน

1. งาน…………………………………..

2. งาน……………………………….….

3. งาน………………………………….

4. งาน…………………………………

~9~

ใบงานเพอื่ การเรียนรู้ ชั้น ป. 2
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานที่ 5
หน่วย ชวี ิตกบั ศลิ ปะ

คาอธิบายการทากจิ กรรม

ใหน้ กั เรยี นสรุปประโยชนท์ ่ีเกิดขนึ้ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลกั การทรง

งานของในหลวงรชั กาลท่ี 9 บนั ทกึ ลงในตาราง โดยเขียนเครอ่ื งหมาย  ใน

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง สาระสาคญั

1. หลักคดิ

 ความรู้ รอบรู้ รอบคอบเก่ียวกบั ทศั นธาตุ องคป์ ระกอบของศลิ ปะ

 คณุ ธรรม มคี วามรบั ผิดชอบ ความอดทน มีวินยั ประหยดั และตรงตอ่

เวลา

2. หลักปฏบิ ตั ิ

 พอประมาณ ไดเ้ รยี นรูเ้ รอ่ื งการแบง่ เวลาในการทากิจกรรมตามท่ไี ดร้ บั

มอบหมาย

การใชว้ สั ดอุ ปุ กรณแ์ ละงบประมาณท่มี อี ยอู่ ยา่ งประหยดั และ

คมุ้ คา่

 มเี หตผุ ล การทากิจกรรมภาระงานไดเ้ หมาะสมกบั ความรูค้ วามสามารถ
ตามวยั ของผเู้ รยี น

 มีภมู ิคมุ้ กนั มคี วามรูแ้ ละเช่ือมโยงความรูจ้ ากกลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ ่นื
รูจ้ กั เลือกใชว้ สั ดอุ ปุ กรณท์ ่มี ีอย่อู ย่างประหยดั และคมุ้ คา่
3. ผลลัพท์ 4 มติ ิ รูจ้ กั การวางแผน กระบวนการทางานอย่างเป็นระบบใหป้ ระสบ
 วตั ถุ ความสาเรจ็ และปลอดภยั
 สังคม
เกิดความตระหนกั ในการประหยดั และอดออม

การนาประสบการณต์ ่างๆมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั โดน
ยดึ หลกั ความพอเพยี ง

 วฒั นธรรม การเรยี นรูเ้ กิดจากการปฏิบตั ิกิจกรรมรว่ มกนั และเกิดจากการ
แลกเปล่ยี นเรยี นรูป้ ระสบการณ์

~ 10 ~

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง สาระสาคญั

การปลกู คา่ นิยม วฒั นธรรมการทางานรว่ มกนั เป็นแบบอย่างท่ี
ดแี ก่นกั เรยี นอย่างเป็นรูปธรรม

 สงิ่ แวดล้อม การจดั การเรอ่ื งการปลกู จิตสานกึ รกั ษส์ ่งิ แวดลอ้ ม
หลกั การทรงงาน ประโยชนท์ ่นี าไปใช้

ทาตามลาดบั ขนั้ งานทกุ ส่งิ จะสาเรจ็ ไดโ้ ดยงา่
ไมต่ ิดตารา ควรทางานอย่างยืดหยนุ่ กบั สภาพและสถานการณ์

ทางานอยา่ งมีความสขุ ทางานตอ้ งมคี วามสขุ ดว้ ยและสนกุ กบั การทางาน

ความเพียร ความอดทนและความมงุ่ ม่นั

ใหน้ กั เรยี นทาแบบประเมินตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และความคดิ เหน็ ตอ่ ความรูท้ ่ไี ดร้ บั

ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จริยธรรม

คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
1. เป็นผใู้ ฝ่รู้ ใฝ่ศกึ ษา คน้ ควา้ หาความรู้
2. ความรบั ผิดชอบ ขยนั และอดทน
3. ความซ่อื สตั ย์
4. ความมีระเบยี บวินยั
5. ปฏิบตั ิกิจกรรมอยา่ งมีความสขุ
6. รูจ้ กั เอือ้ เฟื้อเผ่ือแผต่ ่อผอู้ ่ืน

ความคดิ เหน็ ต่อความรู้ทไี่ ดร้ ับ

ประโยชนท์ ่ีได้ คือ

.......................................................................................................................................
การนาไปใชป้ ระโยชน์

...........................................................................................................................................

~ 11 ~

แบบทดสอบหลังเรียน ป.2

ใหน้ กั เรยี นเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

1. ภาพปะตดิ จากกระดาษสามารถทาไดด้ ว้ ย 6. ขอ้ ใดเป็นงานทศั นศลิ ป์ 3 มิติ

วิธีใด ก. ภาพปะติด

ก. ตดั ฉีก ข. ภาพวาด

ข. ปั้น ค. งานปั้น

ค. ลอกลาย 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่งานเคล่อื นไหว

2. ขอ้ ใดคอื ลกั ษณะของงานศลิ ปะ 3 มิติ ก. ภาพปะตดิ

ก. สามารถมองเหน็ ไดร้ อบดา้ น ข. ภาพหมนุ

ข. ทาจากวสั ดทุ ่ีไดจ้ ากธรรมชาติ ค. ภาพแขวน

ค. สามารถนาไปใชเ้ ป็นของเลน่ ได้ 8. การทาภาพแขวนควรใชห้ ลกั การใด

3. กระดาษท่ีจะนามาตดั หรอื ฉีกควรมี ก. ความแข็งแรง

ลกั ษณะอยา่ งไร ข. ความสวยงาม

ก. อ่อนบาง ค. ความสมดลุ

ข. เป่ือยย่ยุ 9. การทากงั หนั ลมควรใชว้ สั ดใุ ด

ค. แขง็ แรง ก. กระดาษชาระ

4. กรรไกร เป็นอปุ กรณใ์ ชท้ าอะไร ข. กระดาษวา่ ว

ก. พบั กระดาษ ค. กระดาษสี

ข. ตดั กระดาษ 10. ขอ้ ใดเป็นประโยชนข์ องภาพแขวน

ค. กรดี กระดาษ ก. ทาเป็นเครอ่ื งประดบั ตกแตง่

5. กระดาษชนิดใดไม่ควรนามาใชใ้ นงานปะ ข. ทาเป็นของใช้

ตดิ ค. ทาเป็นของเลน่

ก. กระดาษนิตยสาร

ข. กระดาษชาระ

ค. กระดาษสี

~ 12 ~

11. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชนข์ องงานทศั นศลิ ป์ 16. วสั ดทุ ่ีใชใ้ นงานเครอ่ื งจกั สาน
ก. ไหม ข. ปอ
ทอ้ งถ่ินในสมยั โบราณ ค. ดินเหนียว ง. ไมไ้ ผ่

ก. เพ่ือประโยชนใ์ ชส้ อย 17. งานภาพเขียนเรยี กอีกอย่างวา่ อะไร
ก. เครอ่ื งจกั สาน ข. เครอ่ื งปั้นดนิ เผา
ข. เพ่ือใชป้ ระกอบในพิธีกรรมความเช่ือ ค. จิตรกรรม ง. ประติมากรรม

ค. เพ่ือขายใหช้ าวตา่ งชาติ 18. งานทศั นศลิ ป์ ในทอ้ งถ่ินมคี วามแตกตา่ งกนั
เพราะอะไร
ง. เพ่ือเป็นเครอ่ื งมือทามาหากิน
ก. วสั ดุ อปุ กรณ์
12. เครอ่ื งปั้นดินเผาบา้ นเชียง ใชด้ ินชนิดใด ข. ลกั ษณะภมู ิประเทศ
ค. ลกั ษณะของผนู้ า
ทา ง. ความจน รวย ของชาวบา้ น
19. งานทศั นศลิ ป์ ในทอ้ งถ่ินถกู สรา้ งขนึ้ เพ่ืออะไร
ก. ดินทราย ข. ดนิ เหนียว ก. ตามความเช่ือทางศาสนา
ข. เพ่ือใชป้ ระโยชนใ์ นการดาเนินชีวิต
ค. ดนิ รว่ น ง. ดนิ นา้ มนั ค. สืบสานความเป็นมาของบรรพบรุ ุษ
ง. ถกู ทกุ ขอ้
13. บคุ คลขอ้ ใดใชว้ สั ดใุ นการจกั สานได้ 20. ขอ้ ใดคือประโยชนข์ องงานทศั นศลิ ป์ ใน
ทอ้ งถ่ิน
ถกู ตอ้ ง ก. เพ่ือเป็นการอนรุ กั ษภ์ มู ิปัญญาของคนไทย
ใหค้ งอยสู่ ืบไป
ก. หนง่ึ ใชไ้ มไ้ ผ่สานกระติบขา้ ว ข. เพ่ือเป็นสนิ คา้ ขายเอากาไรกบั
ชาวตา่ งชาติ
ข. นิด ใชใ้ บตองสานกระบงุ ค. เพ่ือเป็นท่ีเชิดหนา้ ชตู าของประเทศไทย
ง. เพ่ือขายเอากาไรกบั คนไทย
ค. นดั ใชห้ วายสานปลาตะเพียน

ง. นิว ใชใ้ บมะพรา้ วสานกระเป๋ าถือ

14. ขอ้ ใดไมเ่ หมาะสมในการศกึ ษาความ

เป็นมาของงานศลิ ปะในทอ้ งถ่ิน

ก. สมั ภาษณศ์ ิลปิน ข.จดบนั ทกึ ขอ้ มลู

ค. อ่านปา้ ยแสดงขอ้ มลู

ง. นาผลงานท่ีจดั แสดงไปศกึ ษาท่ีบา้ น

15. “ผหู้ ญิงจะไดร้ บั การสบื ตอ่ กนั มาจากรุน่

หนง่ึ ไปสรู่ ุน่ หนง่ึ ” คอื การสบื ทอดงานใด

ก. งานทอผา้ ข. งานแกะสลกั ไม้

ค. งานเครอ่ื งปั้นดินเผา ง. งานหาปลา

~ 13 ~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป. 2
กลุ่มสาระวิชา ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ )

หน่วย ชีวติ กับศลิ ปะ ใบงานที่ 6

คาอธิบายการทากจิ กรรม

ใหน้ กั เรยี นวางแผนออกแบบชิน้ งานวาดภาพตามท่ีตนเองสนใจ

แบบเสนอผลงานท่ี 6

แผนปฏบิ ตั งิ าน.............................................................

~ 14 ~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้

กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศิลป์ ) ชัน้ ป.2

หน่วย ชวี ติ กบั ศลิ ปะ ใบงานที่ 1

ครูผู้สอน นางอญั ชลี วัฒนวันยู

คาอธิบายการทากจิ กรรม

1. นกั เรยี นอ่านคาถามจากแบบทดสอบก่อนเรยี นในใบงานเพ่ือการเรยี นรูน้ ี้ แลว้ ทา

แบบทดสอบโดยกากบาททบั ขอ้ ท่ีถกู ท่ีสดุ

2. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายเพ่ือตรวจสอบคาถามรว่ มกนั และแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง

แบบทดสอบ

ใหน้ กั เรยี นเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

1. เศษวสั ดคุ อื ขอ้ ใด 7. ส่งิ ใดไมเ่ หมาะท่ีจะทาภาพปะตดิ

ก. ดินสอสี ก. ใบไม้

ข. ดนิ นา้ มนั ข. เปลอื กถ่วั

ค. ฝาขวดนา้ อดั ลม ค. เปลือกสม้

2. ขอ้ ใดเป็นการเลือกกระดาษท่ีถกู ท่ีสดุ 8. ภาพแขวนจะเคลอื่ นไหวไดต้ อ้ งอาศยั

ก. หาซอื้ ยาก ราคาแพง อะไร

ข. กระดาษท่ีใชแ้ ลว้ หาไดง้ า่ ย ก. ลม

ค. ฉีกจากนิตยสาร ข. เครอ่ื งยนต์

3. ขอ้ ใดเป็นการเตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณท์ าภาพปะตดิ ค. เครอ่ื งปรบั อากาศ

ก. กระดาษ กาว กรรไกร 9.ขอ้ ใดคอื ความหมายของงานสรา้ งสรรค์

ข. เชือก กระดาษ กรรไกร จากกระดาษ

ค. กระดาษ สี กรรไกร ก. การนากระดาษมาสรา้ งงานศลิ ปะ

4 4.ส่งิ ท่ีมีความจาเป็นมากท่ีสดุ ในการทาภาพปะติด ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ

ก. ไมบ้ รรทดั ข. กรรไกร ค. กาว ข. การใชป้ ระโยชนจ์ ากกระดาษให้

5. การทาภาพแขวนส่ิงใดสาคญั ท่ีสดุ ไดม้ าก ท่ีสดุ

ก.ขนาดของภาพ ค. การนากระดาษมาทาของเล่น

ข.สสี นั ของภาพ 10. ขอ้ ใดไม่ใช่ผลงานศลิ ปะทอ้ งถ่ิน

ค. ความสมดลุ ของภาพ ก. รูปแกะหนงั ตะลงุ

~ 15 ~

6. เม่ือสรา้ งสรรคง์ านเสรจ็ แลว้ นกั เรยี นควร ข. โอ่งมงั กร

ปฏิบตั ิตามขอ้ ใด ค. ต๊กุ ตาหมี

ก. วางอปุ กรณท์ ิง้ ไวเ้ หมือนเดมิ 11. ขอ้ ใดสาคญั ในการทาเครอ่ื งจกั สาน

ข.เก็บอปุ กรณท์ าความสะอาดสถานท่ี ก. การจกั ตอก

ค. นาผลงานอวดเพ่ือน ๆ ข. การเลอื กวสั ดุ
ค. การสานขนึ้ ลาย
12. ขอ้ ใดคอื ประโยชนข์ องการเรยี นการ 17. กระติบขา้ ว เป็นผลงานศิลปะประเภท
สรา้ งสรรค์ ใด
ก. งานแกะสลกั
ก. ทาใหไ้ ดค้ ะแนนมากขนึ้ ข. งานจกั สาน
ข. พฒั นาความคิดสรา้ งสรรค์ ค. งานปั้น
ค. มีงานไปอวดเพ่ือน ๆ 18. ขอ้ ใดไม่ใช่ศลิ ปะในทอ้ งถ่ิน
13. ผลงานศลิ ปะทอ้ งถ่ินเก่ียวขอ้ งกบั ขอ้ ใด ก. เกิดจากการสรา้ งสรรคข์ องคนใน
ก. เศรษฐกิจ ทอ้ งถ่ินท่ีไดร้ บั การถ่ายทอดจากบรรพบรุ ุษ
ข. วฒั นธรรม ข. เกิดจากการเรยี นรูแ้ ลว้ นาเอาวสั ดุ
ค. การปกครอง ทอ้ งถ่ินมาใช้
14. ผลติ ภณั ฑเ์ คร่อื งจกั รสานทามาจากวสั ดขุ อ้ ใด ค. เกิดจากจินตนาการของคนตา่ งชาติ
ก. ไมไ้ ผ่ 19. รูปแกะหนงั ตะลงุ ใชว้ สั ดใุ ดในการ
ข. ไมส้ กั แกะสลกั
ค. ดินเหนียว ก. หนงั ววั
15. หนงั ตะลงุ เก่ียวขอ้ งกบั งานศลิ ปะประเภทใด ข. กระดาษ
ก. งานแกะสลกั ค. ไม้
ข. ภาพเขียน 20. ผลงานศิลปะทอ้ งถ่ินขอ้ ใดใช้
ค. งานปั้น ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั ได้
16. ขอ้ ใดไม่ใช่การนาความรูท้ างศลิ ปะไปใชใ้ น ก. เรอื หางแมงป่อง
ชีวติ ประจาวนั ข. หนงั ตะลงุ
ก. การแตง่ กาย ค. เส่อื กก
ข. การอาบนา้
ค. การทาบตั รอวยพร

~ 16 ~

แบบทดสอบหลังเรียน ป.2

ใหน้ กั เรยี นเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

1. ภาพปะตดิ จากกระดาษสามารถทาไดด้ ว้ ย 6. ขอ้ ใดเป็นงานทศั นศลิ ป์ 3 มิติ

วิธีใด ก. ภาพปะติด

ก. ตดั ฉีก ข. ภาพวาด

ข. ปั้น ค. งานปั้น

ค. ลอกลาย 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่งานเคล่อื นไหว

2. ขอ้ ใดคอื ลกั ษณะของงานศลิ ปะ 3 มิติ ก. ภาพปะตดิ

ก. สามารถมองเหน็ ไดร้ อบดา้ น ข. ภาพหมนุ

ข. ทาจากวสั ดทุ ่ีไดจ้ ากธรรมชาติ ค. ภาพแขวน

ค. สามารถนาไปใชเ้ ป็นของเลน่ ได้ 8. การทาภาพแขวนควรใชห้ ลกั การใด

3. กระดาษท่ีจะนามาตดั หรอื ฉีกควรมี ก. ความแข็งแรง

ลกั ษณะอยา่ งไร ข. ความสวยงาม

ก. อ่อนบาง ค. ความสมดลุ

ข. เป่ือยย่ยุ 9. การทากงั หนั ลมควรใชว้ สั ดใุ ด

ค. แขง็ แรง ก. กระดาษชาระ

4. กรรไกร เป็นอปุ กรณใ์ ชท้ าอะไร ข. กระดาษวา่ ว

ก. พบั กระดาษ ค. กระดาษสี

ข. ตดั กระดาษ 10. ขอ้ ใดเป็นประโยชนข์ องภาพแขวน

ค. กรดี กระดาษ ก. ทาเป็นเครอ่ื งประดบั ตกแตง่

5. กระดาษชนิดใดไม่ควรนามาใชใ้ นงานปะ ข. ทาเป็นของใช้

ตดิ ค. ทาเป็นของเลน่

ก. กระดาษนิตยสาร

ข. กระดาษชาระ

ค. กระดาษสี

~ 17 ~

11. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชนข์ องงานทศั นศลิ ป์ 16. วสั ดทุ ่ีใชใ้ นงานเครอ่ื งจกั สาน
ก. ไหม ข. ปอ
ทอ้ งถ่ินในสมยั โบราณ ค. ดินเหนียว ง. ไมไ้ ผ่

ก. เพ่ือประโยชนใ์ ชส้ อย 17. งานภาพเขียนเรยี กอีกอย่างวา่ อะไร
ก. เครอ่ื งจกั สาน ข. เครอ่ื งปั้นดนิ เผา
ข. เพ่ือใชป้ ระกอบในพิธีกรรมความเช่ือ ค. จิตรกรรม ง. ประติมากรรม

ค. เพ่ือขายใหช้ าวตา่ งชาติ 18. งานทศั นศลิ ป์ ในทอ้ งถ่ินมคี วามแตกตา่ งกนั
เพราะอะไร
ง. เพ่ือเป็นเครอ่ื งมือทามาหากิน
ก. วสั ดุ อปุ กรณ์
12. เครอ่ื งปั้นดินเผาบา้ นเชียง ใชด้ ินชนิดใด ข. ลกั ษณะภมู ิประเทศ
ค. ลกั ษณะของผนู้ า
ทา ง. ความจน รวย ของชาวบา้ น
19. งานทศั นศลิ ป์ ในทอ้ งถ่ินถกู สรา้ งขนึ้ เพ่ืออะไร
ก. ดินทราย ข. ดนิ เหนียว ก. ตามความเช่ือทางศาสนา
ข. เพ่ือใชป้ ระโยชนใ์ นการดาเนินชีวิต
ค. ดนิ รว่ น ง. ดนิ นา้ มนั ค. สืบสานความเป็นมาของบรรพบรุ ุษ
ง. ถกู ทกุ ขอ้
13. บคุ คลขอ้ ใดใชว้ สั ดใุ นการจกั สานได้ 20. ขอ้ ใดคือประโยชนข์ องงานทศั นศลิ ป์ ใน
ทอ้ งถ่ิน
ถกู ตอ้ ง ก. เพ่ือเป็นการอนรุ กั ษภ์ มู ิปัญญาของคนไทย
ใหค้ งอยสู่ ืบไป
ก. หนง่ึ ใชไ้ มไ้ ผ่สานกระติบขา้ ว ข. เพ่ือเป็นสนิ คา้ ขายเอากาไรกบั
ชาวตา่ งชาติ
ข. นิด ใชใ้ บตองสานกระบงุ ค. เพ่ือเป็นท่ีเชิดหนา้ ชตู าของประเทศไทย
ง. เพ่ือขายเอากาไรกบั คนไทย
ค. นดั ใชห้ วายสานปลาตะเพียน

ง. นิว ใชใ้ บมะพรา้ วสานกระเป๋ าถือ

14. ขอ้ ใดไมเ่ หมาะสมในการศกึ ษาความ

เป็นมาของงานศลิ ปะในทอ้ งถ่ิน

ก. สมั ภาษณศ์ ิลปิน ข.จดบนั ทกึ ขอ้ มลู

ค. อ่านปา้ ยแสดงขอ้ มลู

ง. นาผลงานท่ีจดั แสดงไปศกึ ษาท่ีบา้ น

15. “ผหู้ ญิงจะไดร้ บั การสบื ตอ่ กนั มาจากรุน่

หนง่ึ ไปสรู่ ุน่ หนง่ึ ” คอื การสบื ทอดงานใด

ก. งานทอผา้ ข. งานแกะสลกั ไม้

ค. งานเครอ่ื งปั้นดินเผา ง. งานหาปลา