The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by anchaleef12506, 2021-07-23 13:53:24

ใบงานชั้นป.3

ใบงานชั้นป.3

~1~

ใบงานเพอื่ การเรียนรู้ ชั้น ป.3
กลุ่มสาระวิชา ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ )

หน่วย พนื้ ฐานงานศลิ ป์ ใบงานที่ 1

คาอธิบายการทากจิ กรรม

1. นกั เรยี นอา่ นคาถามจากแบบทดสอบก่อนเรยี นในใบงานเพ่ือการเรยี นรูน้ ี้ แลว้ ทา

แบบทดสอบโดยกากบาททบั ขอ้ ท่ีถกู ท่ีสดุ

2. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายเพ่ือตรวจสอบคาถามรว่ มกนั และแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง

แบบทดสอบ

ใหน้ กั เรยี นเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

1. รูปรา่ งวงรี เป็นรูปรา่ งของส่ิงใด 4. วงกลมเกิดจากเสน้ ชนิดใด

ก. สม้ ข. ไข่ไก่ ก. เสน้ โคง้ ข. เสน้ หยกั

ค. มะละกอ ง. นอ้ ยหนา่ ค. เสน้ ตรง ง. เสน้ คด

2.รูปท่แี สดงความตนื้ ลกึ หนา บาง หมายถงึ ขอ้ ใด 5. เสน้ ตรงท่ขี อบฟา้ เรยี กว่าเสน้ ตรงอะไร

ก. เสน้ ข. รูปรา่ ง ก. เสน้ ตรงแนวตงั้ ข. เสน้ ตรงแนวนอน

ค. รูปทรง ง. สี ค. เสน้ ตรงแนวเฉียง ง. เสน้ ตรงแนวเอียง

3. ขอ้ ใดมีสว่ นประกอบของเสน้ ตรง 6. สีท่มี นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ไดแ้ ก่ขอ้ ใด

ก. ผลสม้ ข. ไมบ้ รรทดั ก. สขี องใบไม้ ข. สขี องดอกไม้

ค. ลกู นอ้ ยหน่า ง. ลกู ปิงปอง ค. สีของเสอื้ ผา้ ง. สขี องกอ้ นหนิ

17. การสงั เกตธรรมชาตทิ ่ดี ตี อ้ งสงั เกตส่งิ ใด

7. สีไมใ้ ชใ้ นการทาผลงานใด ก. รูปรา่ ง ข. ความสวยงาม

ก. งานปั้น ข. งานวาด ค. อายุ ง. ความคงทน

ค. งานพิมพ์ ง. งานแกะสลกั 18. ภาพกอ้ นเมฆยามอากาศดี ควรระบายสใี ด

8. ผลนอ้ ยหน่ามลี กั ษณะพนื้ ผิวอยา่ งไร ก. สแี ดง ข. สเี ทา

ก. ขรุขระ ข. เรยี บ ค. สขี าว ง. สีชมพู

ค. หยาบ ง. มหี นาม 19. ทาไมเราจงึ ตอ้ งรา่ งภาพก่อนวาด

9. พนื้ ผิวของวสั ดขุ อ้ ใดมีลกั ษณะออ่ นนมุ่ ก. เพ่อื ดคู วามสวยงามของภาพ

ก. กลอ่ งกระดาษ ข. แตงโม ข. เพ่อื จะไดร้ ะบายสไี ดถ้ กู ตอ้ ง

ค. แกว้ นา้ ง. ต๊กุ ตาผา้ ค. เพ่อื ใหเ้ หน็ ภาพรวมทงั้ หมด

ง. เพ่อื จะไดค้ ะแนนมากๆ

~2~

10. กระจกมลี กั ษณะพนื้ ผิวอย่างไร 20. ขอ้ ใดเป็นภาพเก่ียวกบั ครอบครวั

ก. หยาบ ข. ขรุขระ ก. ภาพนกั แสดงไดร้ บั รางวลั

ค. เรยี บ ง. ออ่ นนมุ่ ข. ภาพลกู แมวกาลงั กินนมแม่

11. พนื้ ผิวของคางคกมีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร ค. ภาพพอ่ กบั แม่พาลกู ไปเท่ยี วสวนสตั ว์

ก. ละเอยี ด ข. มนั วาว ง. ภาพรถยนตช์ นกบั เรอื ดานา้

ค. เรยี บ ง. หยาบ 21. การวาดภาพจากประสบการณอ์ าศยั ขอ้ ใด

12. ภาพทงุ่ นา ตอ้ งใชส้ ใี ดระบายมากท่สี ดุ ก. ความเขา้ ใจ ข. ความชานาญ

ก. สีเขียว ข. สดี า ค. ความจา ง. ความเพอ้ ฝัน

ค. สนี า้ เงนิ ง. สีมว่ ง 22. ภาพดินแดนแหง่ ความฝันเป็นการวาดภาพเพ่อื

13. การระบายสีภาพเมฆตอนฝนตก ควรใชส้ ใี ด ถ่ายทอดเรอ่ื งราวใด

ก. สีมว่ ง ข. สขี าว ก. ภาพเรอ่ื งราวท่ีเกิดขนึ้ จรงิ

ค. สเี ทา ง. สีแดง ข. ภาพเรอ่ื งราวท่ีจินตนาการขนึ้

14. สธี รรมชาติของปลาทอง ใกลเ้ คียงกบั สอี ะไร ค. ภาพจากความทรงจา ง. ไมม่ ขี อ้ ถกู

ก. สีฟา้ ข. สีสม้ 23. ขอ้ ใดเป็นภาพจากประสบการณ์

ค. สีขาว ง. เหลอื ง ก. ภาพเทพเจา้ ตา่ งๆ ข. ภาพไปเท่ยี วสวนสตั ว์

15. สีมว่ งควรใชร้ ะบายภาพอะไร ค. ภาพเมืองในอวกาศ ง. ภาพสตั วใ์ นภาพนิยาย

ก. มงั คดุ ข. มะขาม 24.การวาดภาพจากประสบการณค์ วรเรม่ิ จากขนั้ ตอน

ค. มะเขือเทศ ง. มะมว่ ง ใด

16.ขอ้ ใดเป็นสขี องใบไมแ้ หง้ ก. กาหนดเรอ่ื ง ข. รา่ งภาพ

ก. สเี ขียว ข. สนี า้ ตาล ค. ระบายสี ง. ตกแตง่

ค. สีแดง ง. สีเทา

~3~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป. 3
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานท่ี 2
หน่วย พนื้ ฐานงานศิลป์

คาอธิบายการทากจิ กรรม
ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาเรอ่ื ง

รูปร่าง รูปทรง ทศั นธาตุ
ส่งิ ตา่ งๆท่มี ีอย่ใู นธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มรอบตวั เรา ตา่ งก็มีรูปรา่ ง รูปทรงท่ไี มเ่ หมอื นกนั เพราะ

ส่งิ ท่เี รามองเหน็ มกั มีความแตกตา่ ง
รูปรา่ งเป็นภาพท่เี รามองเหน็ จากเสน้ รอบนอกของส่ิงตา่ งๆสว่ นรูปทรงเป็นภาพท่เี รามองเหน็ เป็น

ภาพ 3 มติ ิ คอื มองเหน็ สว่ นลกึ หรอื สว่ นหนาของภาพดว้ ย
1.รูปร่างของส่ิงทอี่ ยใู่ นธรรมชาติ

ธรรมชาติท่อี ยรู่ อบๆตวั มีรูปรา่ งท่หี ลากหลาย อาจมีความคลา้ ยกนั หรอื แตกตา่ งกนั ซง่ึ ก็สรา้ งสีสนั
และความสวยงามท่ีแตกตา่ งกนั ไป
การรูจ้ กั สงั เกตรูปรา่ งส่งิ ตา่ งๆในธรรมชาติ จะชว่ ยใหน้ กั เรยี นมพี นื้ ฐานและทกั ษะการทางานศลิ ปะมากขนึ้
2.รูปร่างของสิ่งทมี่ นุษยส์ ร้างขนึ้

การสงั เกตรูปรา่ งของส่งิ ท่มี นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ใชห้ ลกั การสงั เกตเหมือนกบั การสงั เกตรูปรา่ งส่ิงท่อี ยตู่ าม
ธรรมชาติ โดยมองใหเ้ หน็ เสน้ รอบนอกของส่งิ นนั้
3.รูปทรงของสิ่งธรรมชาติ

รูปทรงของส่งิ ธรรมชาตเิ ป็นภาพ 3 มิติของส่ิงท่อี ยใู่ นธรรมชาติ ซง่ึ เราสามารถสงั เกตเหน็ ถงึ ความกวา้ ง
ความยาว และความลกึ หรอื ความหนาของส่งิ นนั้
4.รูปทรงของส่ิงทม่ี นุษยส์ ร้างขนึ้ มรี ูปทรงหลากหลายแบบ ซง่ึ เราสามารถสงั เกตไดจ้ ากส่งิ ท่อี ยู่
รอบๆตวั
ทศั นธาตพุ นื้ ฐาน
ทศั นธาตุ หมายถงึ ส่งิ ท่เี ป็นสว่ นประกอบสาคญั ของภาพท่ีเราเหน็ ในงานศิลปะท่วั ไป มกั
ประกอบดว้ ย เสน้ สี รูปรา่ ง รูปทรง และพืน้ ผิว
1.เส้น เสน้ เป็นองคป์ ระกอบสาคญั ของงานศิลปะทกุ ชนิด และเป็นความรูพ้ นื้ ฐานท่นี กั เรยี นควรรู้
โดยท่วั ไปเสน้ มี 2 แบบ คอื เสน้ ตรง และเสน้ โคง้ ซง่ึ นกั เรยี นอาจจะรูจ้ กั และคนุ้ เคยแลว้
2.สี สีเป็นองคป์ ระกอบพนื้ ฐานอย่างหน่งึ ของงานศลิ ปะ โดยเฉพาะงานภาพวาดท่อี าศยั สีในการ
ถา่ ยทอดเรอ่ื งราว อารมณแ์ ละความรูส้ กึ ตา่ งๆ ในส่งิ ท่อี ย่รู อบๆตวั มสี สี นั ตา่ งๆมากมาย ซง่ึ นกั เรยี น
สามารถสงั เกตไดด้ ว้ ยตาเปลา่

~4~

3.รูปร่าง รูปทรง รูปรา่ ง และรูปทรงเป็นองคป์ ระกอบศลิ ป์ ท่ีมีความสมั พนั ธก์ นั ส่งิ ของท่อี ย่ใู น

ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มมรี ูปรา่ งและรูปทรงหลากหลายแบบ มที งั้ คลา้ ยกนั และแตกตา่ งกนั ตาม

ลกั ษณะของส่งิ นนั้

4. พนื้ ผิว พืน้ ผิวเป็นลกั ษณะของบรเิ วณผิวหนา้ ของส่งิ ตา่ งๆ เม่อื เราสมั ผสั แลว้ สามารถรบั รูถ้ งึ สภาพ

พนื้ ผิวและบอกไดว้ า่ มีลกั ษณะอยา่ งไร เช่น หยาบ ขรุขระ เรยี บ ล่ืน มีหนามแหลมคม มนั ดา้ น เป็นตน้

ทศั นธาตกุ บั งานศิลปะ และการจดั กลุ่มของส่ิงตา่ งๆ
ในงานศลิ ปะมกั มีองคป์ ระกอบศิลป์ เขา้ มาเก่ียวขอ้ งดว้ ยเสมอ เพราะการทางานศิลปะจะตอ้ งใช้

องคป์ ระกอบศลิ ป์ เช่น เสน้ สี รูปรา่ ง รูปทรง และพนื้ ผิว

การจดั กลุ่มภาพตามทศั นธาตุ
ผลงานทางศลิ ปะหรอื ภาพของส่งิ ต่างๆอาจจดั หมวดหมหู่ รอื กลมุ่ ตามทศั นธาตไุ ดห้ ลายแบบ

การวาดภาพระบายสีสิ่งของรอบตวั
เป็นการวาดภาพส่ิงของตา่ งๆท่ีไมเ่ คล่อื นไหว เช่น ผกั ผลไม้ ดอกไม้ เครอ่ื งใชไ้ มส้ อย หนุ่ ปนู

ปลาสเตอร์ เป็นตน้ แสดงความงามของภาพดว้ ยการจดั องคป์ ระกอบศิลป์

1.วสั ด-ุ อปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการวาดภาพระบายสสี ิ่งของรอบตวั ไดแ้ ก่ ดนิ สอ ยางลบ กระดาษวาด

เขียน พกู่ นั จานสี ภาชนะใสน่ า้ สนี า้ สีไม้ สีโปสเตอร์

2. ขนั้ ตอนการวาดภาพระบายสสี ่ิงของรอบตวั

1. หามุมมองของภาพ หลกั การมดี งั นี้

 ภาพควรมีการจดั วางวตั ถใุ หร้ วมเป็นอนั หนง่ึ อนั เดียวกนั ไมก่ ระจดั กระจาย

 ภาพควรจดั วางวตั ถใุ หพ้ อดี ไมค่ วรใหน้ า้ หนกั เอยี งไปทางดา้ นใดดา้ นหน่งึ มากเกินไป

 ภาพควรมจี ดุ สนใจท่เี ดน่ ชดั เพียงจดุ เดียว ฉะนนั้ กอ่ นท่จี ะลงมือเขียนภาพควรเลือกมมุ ท่ี

เหมาะสมเพ่อื ใหไ้ ดร้ ูปภาพท่สี วยงาม

2. ร่างภาพ เป็นขนั้ ตอนท่สี าคญั ดงั นี้

 สงั เกตมมุ ของภาพว่ามีความเหมาะสม สวยงามและถกู หลกั การจดั ภาพหรอื ไม่

 กาหนดโครงสรา้ งภาพนอกโดยรวมของภาพใหม้ ขี นาดสดั สว่ นเหมาะสมกบั หนา้ กระดาษ

 รา่ งภาพวตั ถทุ ่มี ขี นาดใหญ่กอ่ น แลว้ จงึ ค่อยๆรา่ งขนาดเลก็ จะทาใหร้ า่ งภาพไดง้ า่ ยขนึ้

3. ระบายสี เป็นขนั้ ตอนท่ีทาใหภ้ าพมมี ติ ิ มคี วามเหมือนจรงิ และสวยงาม ดงั นี้

 การกาหนดพนื้ ท่ขี องแสงเงา ใหพ้ ิจารณาลกั ษณะของแสงเงาบนวตั ถวุ า่ แสงสอ่ งมาจากทิศทาง

ใด แลว้ จงึ กาหนดพนื้ ท่ขี องแสงเงาตามท่ตี าเหน็ ไดแ้ กส่ ว่ นสวา่ งท่สี ดุ สว่ นสว่าง สว่ นเงาบน

วตั ถุ และสว่ นเงาตกทอด โดยใชด้ ินสอดารา่ งเบาๆ

 จดุ สนใจ ควรมีจดุ สนใจท่เี ดน่ ชดั เพยี งจดุ เดยี วดงั นนั้ กอ่ นลงมือวาดภาพควรเลอื กมมุ ท่เี หมาะสม

~5~

เพ่อื ใหไ้ ดร้ ูปภาพท่สี วยงาม
 การระบายสี สามารถนาสชี นิดตา่ งๆมาระบาย โดยการกาหนดแสงเงา แลว้ จงึ ระบายสบี น

พนื้ ท่หี รอื สว่ นท่เี ป็นเงาเขม้ กอ่ น แลว้ จงึ ไลค่ า่ นา้ หนกั ไปหาส่วนสวา่ ง ใหน้ า้ หนกั ของสปี ระสาน
กลมกลืนกนั อย่างนมุ่ นวล
 การระบายสีเนน้ คา่ นา้ หนกั เป็นขนั้ ตอนสดุ ทา้ ยของการระบายสเี นน้ คา่ นา้ หนกั สว่ นท่ีเขม้ ท่สี ดุ
รวมทงั้ เกบ็ สว่ นละเอยี ดของจดุ สนใจ และวตั ถทุ ่วี างอย่ใู นระยะใกลใ้ หเ้ หน็ เดน่ ชดั สว่ นวตั ถทุ ่ีวาง
อยใู่ นระยะไกลควรปลอ่ ยไว้ ไมค่ วรระบายสเี ขม้ หรอื ตดั เสน้ ใหเ้ หน็ เด่นชดั เพ่อื สรา้ งภาพใหม้ ี
ระยะใกล้ กลาง และไกล

การวาดภาพถ่ายทอดความคิดความรู้สึกหมายถึงการวาดภาพเพ่อื ถ่ายทอดความคดิ
ความรูส้ กึ ท่ีเกิดจากความประทบั ใจจากการไดส้ มั ผสั และช่ืนชมในความงามของธรรมชาติและ
ส่งิ แวดลอ้ ม หรอื
จากแรงบนั ดาลใจท่มี าจากความเช่ือ ความศรทั ธาในส่งิ ต่างๆ

การวาดภาพจากเหตกุ ารณช์ วี ติ จริง คอื ภาพท่แี สดงถงึ เหตกุ ารณห์ รอื เรอ่ื งราวท่เี กิดขนึ้ จรงิ
เป็นภาพท่เี กิดขนึ้ จากประสบการณข์ องผวู้ าดเอง

~6~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป. 3
กลุ่มสาระวิชา ศลิ ปะ (ทศั นศิลป์ ) ใบงานท่ี 3
หน่วย พนื้ ฐานงานศิลป์

คาอธิบายการทากจิ กรรม

1. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั เิ รอ่ื งรูปรา่ ง รูปทรง ทศั นธาตุ จากการสงั เกตภาพตวั อย่าง ดู วดี ีทศั น์
สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศิลป์ นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งรูปรา่ ง รูปทรง ทศั น
ธาตมุ าเป็นภาพวาดระบายสี ในกระดาษวาดเขียนท่คี รูแจกให้ แลว้ นาผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
2. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั เิ รอ่ื งทศั นธาตพุ นื้ ฐานจากการสงั เกตภาพตวั อยา่ ง ดู วีดีทศั น์ สมั ผสั วสั ดุ
อปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศิลป์ นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งทศั นธาตพุ นื้ ฐานมาวาดภาพ
ระบายสี ในกระดาษวาดเขียนท่คี รูแจกให้ แลว้ นาผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
3. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั เิ รอ่ื งการวาดภาพระบายสสี ่ิงของรอบตวั จากการสงั เกตภาพตวั อย่าง ดู วีดี

ทศั น์ สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศลิ ป์ นกั เรยี นนาความรูเ้ ก่ียวกบั การวาด

ภาพระบายสีส่ิงของรอบตวั มาสรา้ งเป็นภาพวาดระบายสี ในกระดาษวาดเขียนท่คี รูแจกให้ แลว้ นา

ผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น

4. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั เิ รอ่ื งการวาดภาพถ่ายทอดความคิดความรูส้ กึ จากการสงั เกตภาพตวั อย่าง

ดู วีดที ศั น์ สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศิลป์ นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งการวาด

ภาพถา่ ยทอดความคิดความรูส้ กึ มาสรา้ งเป็นภาพวาดระบายสี ในกระดาษวาดเขียนท่คี รูแจกให้ แลว้

นาผลงานเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น

5. นกั เรยี นศกึ ษาและปฏิบตั เิ รอ่ื งการวาดภาพจากเหตกุ ารณช์ ีวติ จรงิ จากการสงั เกตภาพตวั อย่าง ดู วดี ี
ทศั น์ สมั ผสั วสั ดอุ ปุ กรณข์ องจรงิ หรอื จากการสงั เกตงานทศั นศิลป์ นกั เรยี นนาความรูเ้ รอ่ื งการวาดภาพ
จากเหตกุ ารณช์ ีวติ จรงิ มาสรา้ งเป็นภาพวาดระบายสี ในกระดาษวาดเขียนท่คี รูแจกให้ แลว้ นาผลงาน
เสนอหนา้ ชนั้ เรยี น

~7~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป. 3
กลุ่มสาระวิชา ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานท่ี 4
หน่วย พนื้ ฐานงานศลิ ป์

คาอธิบายการทากจิ กรรม
ใหน้ กั เรยี นสรุปความรูแ้ ลว้ บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ ในใบงานเพ่ือการเรยี นรู้

บนั ทกึ สรุปความรู้ทไ่ี ดร้ ับ

1. ............................................ หมายถงึ เสน้ ขอบนอกของส่ิงตา่ งๆ แสดงใหเ้ หน็ ขอบนอกของส่ิงนนั้ ๆ

2. รูปรา่ งของส่งิ ท่อี ย่ใู นธรรมชาติ ไดแ้ ก่ ................................................................................................

..........................................................................................................................................................

3. รูปรา่ งของส่ิงท่มี นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ไดแ้ ก่ ..............................................................................................

..........................................................................................................................................................

4. .........................................หมายถงึ รูปท่แี สดงความตนื้ ลกึ หนา และบาง

5. รูปทรงของส่งิ ธรรมชาติ ไดแ้ ก่ ........................................................................................................

..........................................................................................................................................................

6. รูปทรงของส่งิ ท่มี นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ไดแ้ ก่ ..............................................................................................

..........................................................................................................................................................

7. ...................................... หมายถงึ การเคล่อื นท่ขี องจดุ ท่ีเรยี งตอ่ กนั

มี ....... ชนิด ไดแ้ ก่ เสน้ ................................ เสน้ ..................................

8. .........................................หมายถงึ ลกั ษณะความเขม้ ของแสงท่สี อ่ งมากระทบตาเราใหเ้ หน็ เป็นสี

ตา่ งๆ

 .....................................................................คือ สที ่สี ามารถสงั เกตเหน็ ไดจ้ ากธรรมชาติ

เช่น สขี องดอกไม้ ..........................................................................................................................

 .....................................................................คือ สีท่สี ามารถสงั เกตเหน็ ไดจ้ ากส่ิงแวดลอ้ มรอบๆตวั

เรา

เช่น สีของเกา้ อี้ ...............................................................................................................................

 .....................................................................คือ สีท่สี ามารถสงั เกตเหน็ ไดจ้ ากผลงานศลิ ปะตา่ งๆ

เชน่ สีในงานภาพระบายสี .........................................................................................................

9. ............................................. หมายถงึ ลกั ษณะภายนอกของวตั ถทุ ่มี องเหน็ และสมั ผสั พนื้ ผิวได้ ให้

ความรูส้ กึ หยาบ ละเอียด มนั ขรุขระ ฯลฯ

~8~

10. พนื้ ผิวในธรรมชาติ ไดแ้ ก่ .........................................................................................................

..........................................................................................................................................................

11. พนื้ ผิวในส่ิงแวดลอ้ ม ไดแ้ ก่ ........................................................................................................

..........................................................................................................................................................

12. พืน้ ผิวในงานศลิ ปะ ไดแ้ ก่ ............................................................................................................

..........................................................................................................................................................

13. ......................................... หมายถงึ ส่ิงท่เี ป็นสว่ นประกอบสาคญั ของภาพท่ีเราเหน็ ในงานศลิ ปะ

ท่วั ไป มกั ประกอบดว้ ย เสน้ สี รูปรา่ ง รูปทรง และพนื้ ผิว

14. วสั ด-ุ อปุ กรณ์ ท่ีใชใ้ นการวาดภาพระบายสี ไดแ้ ก่

1. ........................................ 2. ...................................................................

3. ......................................... 4. ..................................................................

5........................................... 6. ..................................................................

15............................................................................ คอื เป็นการวาดภาพส่งิ ของตา่ งๆท่ไี ม่

เคล่อื นไหว เช่น ผกั ผลไม้ ดอกไม้ เครอ่ื งใชไ้ มส้ อย หนุ่ ปนู ปลาสเตอร์ เป็นตน้ แสดงความงามของภาพ

ดว้ ยการจดั องคป์ ระกอบศิลป์

16.วสั ด-ุ อปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการวาดภาพระบายสสี ่ิงของรอบตวั ไดแ้ ก.่ ..........................................................

..........................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................

17. ขนั้ ตอนการวาดภาพระบายสีส่ิงของรอบตวั ไดแ้ ก่

1..................................................................................................................................................

2........................................................................................................................................................

3.......................................................................................................................................................

18..................................................................................................... หมายถงึ การวาดภาพเพ่อื

ถ่ายทอดความคิดความรูส้ กึ ท่เี กิดจากความประทบั ใจจากการไดส้ มั ผสั และช่ืนชมในความงามของ

ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม หรอื จากแรงบนั ดาลใจท่มี าจากความเช่ือ ความศรทั ธาในส่งิ ตา่ งๆ

19...............................................................................................คอื ภาพท่แี สดงถงึ เหตกุ ารณห์ รอื

เรอ่ื งราวท่เี กิดขนึ้ จรงิ เป็นภาพท่เี กิดขนึ้ จากประสบการณข์ องผวู้ าดเอง

~9~

ใบงานเพอื่ การเรียนรู้ ชัน้ ป. 1
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานที่ 5

หน่วย พนื้ ฐานงานศิลป์

คาอธิบายการทากจิ กรรม
ใหน้ กั เรยี นสรุปประโยชนท์ ่ีเกิดขนึ้ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลกั การทรง

งานของในหลวงรชั กาลท่ี 9 บนั ทกึ ลงในตาราง โดยเขียนเครอ่ื งหมาย  ใน

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สาระสาคญั

1. หลักคดิ

 ความรู้ รอบรู้ รอบคอบเก่ียวกบั ทศั นธาตุ องคป์ ระกอบของศิลปะ

 คณุ ธรรม มีความรบั ผิดชอบความอดทนมวี ินยั ประหยดั และตรงตอ่ เวลา

2. หลักปฏบิ ัติ ไดเ้ รยี นรูเ้ รอ่ื งการแบง่ เวลาในการทากิจกรรมตามท่ไี ดร้ บั
 พอประมาณ มอบหมาย

การใชว้ สั ดอุ ปุ กรณแ์ ละงบประมาณท่มี อี ยอู่ ย่างประหยดั และ

คมุ้ คา่

 มีเหตผุ ล การทากิจกรรมภาระงานไดเ้ หมาะสมกบั ความรูค้ วามสามารถ
ตามวยั ของผเู้ รยี น

มคี วามรูแ้ ละเช่อื มโยงความรูจ้ ากกลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ ่ืน

 มภี มู คิ มุ้ กนั รูจ้ กั เลอื กใชว้ สั ดอุ ปุ กรณท์ ่มี อี ย่อู ยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่
รูจ้ กั การวางแผน กระบวนการทางานอยา่ งเป็นระบบใหป้ ระสบ

ความสาเรจ็ และปลอดภยั

3. ผลลัพท์ 4 มติ ิ เกิดความตระหนกั ในการประหยดั และอดออม
 วตั ถุ

 สงั คม การนาประสบการณต์ ่างๆมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั โดน
 วฒั นธรรม ยดึ หลกั ความพอเพยี ง

การเรยี นรูเ้ กิดจากการปฏิบตั กิ ิจกรรมรว่ มกนั และเกิดจากการ
แลกเปล่ยี นเรยี นรูป้ ระสบการณ์

~ 10 ~

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สาระสาคญั

 ส่ิงแวดลอ้ ม การปลกู คา่ นิยม วฒั นธรรมการทางานรว่ มกนั เป็นแบบอย่างท่ดี ี

แกน่ กั เรยี นอยา่ งเป็นรูปธรรม

การจดั การเรอ่ื งการปลกู จิตสานกึ รกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ ม

หลกั การทรงงาน ประโยชน์ท่ีนาไปใช้

ทาตามลาดบั ขนั้ งานทกุ ส่ิงจะสาเรจ็ ไดโ้ ดยงา่ ย

ไม่ตดิ ตารา ควรทางานอย่างยืดหยนุ่ กบั สภาพและสถานการณ์

ทางานอย่างมีความสขุ ทางานตอ้ งมคี วามสขุ ดว้ ยและสนกุ กบั การทางาน

ความเพียร ความอดทนและความมงุ่ ม่นั

ใหน้ กั เรยี นทาแบบประเมินตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และความคิดเห็นตอ่ ความรูท้ ่ีไดร้ บั
ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม

คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
1. เป็นผใู้ ฝ่รู้ ใฝ่ศกึ ษา คน้ ควา้ หาความรู้
2. ความรบั ผิดชอบ ขยนั และอดทน
3. ความซ่อื สตั ย์
4. ความมีระเบียบวนิ ยั
5. ปฏิบตั ิกิจกรรมอย่างมีความสขุ
6. รูจ้ กั เอือ้ เฟื้อเผ่ือแผ่ต่อผอู้ ่ืน

ความคดิ เหน็ ตอ่ ความรู้ทไี่ ดร้ ับ
ประโยชนท์ ่ีได้ คือ
.......................................................................................................................................
การนาไปใชป้ ระโยชน์
..........................................................................................................................................

~ 11 ~

แบบทดสอบหลังเรียน

ใหน้ กั เรยี นเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

1. รูปรา่ งในส่งิ แวดลอ้ มคอื ขอ้ ใด 9. จากภาพเป็นการสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยวธิ ีใด
ก. รูปรา่ งของปลา ข. รูปรา่ งในงานปั้น ก. เสน้ และสี ข. เสน้ และรูปรา่ ง
ค. รูปรา่ งของกระถางตน้ ไม้
ข. รูปรา่ งและสี ง. รูปรา่ งและพนื้ ผิว

ง.รูปรา่ งของดอกไม้ 10. นกั เรยี นควรระบายสีใบไมท้ ่มี ลี กั ษณะแหง้ กรอบ

2. ขอ้ ใดเป็นรูปทรงในธรรมชาติ ดว้ ยสใี ด

ก. รถยนต์ ข. ผลมะมว่ ง ก. สเี ขียว ข. สนี า้ เงิน

ค. ตเู้ ย็น ง. โทรทศั น์ ค. สนี า้ ตาล ง. สเี หลอื ง

3.วสั ด–ุ อปุ กรณข์ อ้ ใดไมใ่ ช่ในการวาดภาพระบายสี 11. พืน้ ผิวของนา้ แข็งกอ้ นมีลกั ษณะอย่างไร
ก. กระบอกฉีดนา้ ข. พกู่ นั
ก. ออ่ นน่มุ ข. เปียกล่ืน
ค. จานสี ง. สเี ทยี น
ค. ขรุขระ ง. หยาบ
4. เสน้ ในธรรมชาตคิ อื ขอ้ ใด
12. ขอ้ ใดไมเ่ ขา้ พวกตามการจดั กลมุ่ ภาพตามทศั นธาตุ
ก. เสน้ โคง้ วนของบนั ได
ก. ตเู้ ย็น ข. โทรทศั น์
ข. เสน้ โคง้ ของแนวสนั ทราย
ค. กลอ่ งกระดาษ ง. หมวก
ค. เสน้ โคง้ รอบนอกของงานปั้นดินนา้ มนั 13. ขอ้ ใดไมเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ทศั นธาตใุ นงานศิลป์
ง. เสน้ โคง้ ในภาพวาดปลา
ก. สี ข. เสน้
5. สีของดอกกหุ ลาบคอื สปี ระเภทใด
ค. เสียง ง.รูปทรง
ก. สีในธรรมชาติ ข. สใี นส่งิ แวดลอ้ ม 14. ของใชใ้ นบา้ นในขอ้ ใดมรี ูปทรงแตกตา่ งจากขอ้ อ่ืน
ค. สีในงานศลิ ปะ ง. สีท่ีสวยงาม
ก. กระทะ ข. ชอ้ น
6. จากภาพเป็นรูปรา่ งประเภทใด
ก. รูปร่างในธรรมชาติ ค. ตเู้ สอื้ ผา้ ง. ไมแ้ ขวนเสอื้
ข. รูปร่างในสิ่งแวดลอ้ ม
ค. รูปร่างในงานศิลปะ 15. นกั เรยี นควรใชอ้ ปุ กรณใ์ ดตกแตง่ ภาพวาดใหม้ ี
ง. รูปร่างสวยงาม
สสี นั สวยงาม

ก. ดนิ สิ ข. ปากกา ค. สไี ม้ ง. ไมบ้ รรทดั

16. ขอ้ ใดจดั กลมุ่ ภาพไดเ้ หมาะสม

7. ส่ิงของใดมีรูปทรงอสิ ระ ก. เหรยี ญบาท แตงโม ไมบ้ รรทดั

ก. หนงั สือ ข. ชอลก์ ค. หวี ง. ไมบ้ รรทดั ข. สตอรเ์ บอรร์ ่ี เชอร่ี มะเขือเทศ

8. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ทศั นธาตขุ องผลกลว้ ย ค. สมดุ ประตู ลอ้ รถยนต์

ก. เสน้ โคง้ ข. สีเหลือง ง. ปากกา แกว้ นา้ ไมบ้ รรทดั

ค. พนื้ ผิวขรุขระ ง. รูปทรงอิสระ

~ 12 ~

ใบงานเพอ่ื การเรียนรู้ ชัน้ ป. 3
กลุ่มสาระวชิ า ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ใบงานที่ 6
หน่วย พนื้ ฐานงานศิลป์
คาอธิบายการทากจิ กรรม

ใหน้ กั เรยี นวางแผนออกแบบชิน้ งานวาดภาพตามท่ีตนเองสนใจ

แบบเสนอผลงานท่ี 6

แผนปฏบิ ตั งิ าน.............................................................


Click to View FlipBook Version