หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นบันทึกความรู้
รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท31101 จานวน 2 ชวั่ โมง
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
ผ้สู อน : นายสทิ ธศิ กั ดิ์ เร่งเจริญรตั น์ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย โรงเรียนคอนสารวิทยาคม
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั
ท 2.1 ม.4-6/7 บันทึกการศกึ ษาค้นควา้ เพ่อื น่าไปพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ
ม.4-6/8 มีมารยาทในการเขยี น
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรทู้ ่หี ลากหลาย ต้องเขยี นบันทึกความรู้จากการอ่านและการฟังเพื่อนา่ ไปพัฒนา
ตนเองอยา่ งสมา่ เสมอ และมีมารยาทในการเขยี น
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
1) การเขยี นบนั ทึกความรู้จากแหลง่ เรยี นรูท้ ี่หลากหลาย
2) มารยาทในการเขยี น
3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น
(พิจารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา)
4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 3) ทกั ษะการจดั ระเบียบ
4.2 ความสามารถในการคดิ 4) ทกั ษะการประเมนิ
1) ทักษะการสงั เคราะห์
2) ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการท่างาน
1หลกั ภาษาและการใช้ภาษา หน้า
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
การเขียนบนั ทึกความรู้จากการฟังข่าวสารท่ีสนใจจากสอ่ื วิทยุ หรอื โทรทัศน์
7. การวดั และประเมินผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง การเขียนบนั ทกึ ความรู้
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1) ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น
2) ประเมินการนา่ เสนอผลงาน
3) สังเกตพฤติกรรมการท่างานรายบุคคล
4) สงั เกตพฤตกิ รรมการท่างานกลมุ่
5) สงั เกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 เรอื่ ง การเขยี นบนั ทกึ ความรู้
7.4 การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ตรวจการเขียนบันทึกความรจู้ ากการฟงั ข่าวสารท่ีสนใจจากส่ือวิทยุ หรือโทรทศั น์
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5
2หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา หน้า
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง “การเขียนบักทกึ ความรู้จากการอ่าน” เว1ลาทชใี่ ่ัวชโ้สมองน
วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการปฏบิ ัติ
ขัน้ ท่ี 1 นาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูใหน้ ักเรียนศกึ ษาความรเู้ ร่ือง การเขียนบันทึกความรู้จากการอ่าน จากหนังสอื เรียน
2. ครถู ามนักเรยี นวา่ การเขียนบันทึกความรจู้ ากการอ่าน ตอ้ งมีความสามารถในด้านใดบ้าง ครูสังเกตการตอบของ
นักเรียน
ขน้ั ที่ 2 ทาตามแบบ
1. ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ จากนัน้ ให้แต่ละกล่มุ เลือกอ่านเรื่องทสี่ นใจ
กลุ่มละ 1 เรือ่ ง จากหอ้ งสมุด
2. นกั เรียนแตล่ ะคนฝึกเขยี นบันทึกความรจู้ ากการอ่าน โดยฝึกเขยี นตามตวั อย่างรปู แบบบันทึกการอ่านทน่ี ักเรยี นได้
ศึกษาจากหนังสอื เรียน แล้วบันทึกผลลงในสมุด เสร็จแล้วนา่ ส่งครตู รวจ
ข้ันท่ี 3 ทาเองโดยไม่มีแบบ
ครูแจกกระดาษบันทึก ใหน้ กั เรียนกลมุ่ ละ 1 แผ่น จากน้ันใหส้ มาชิกแต่ละกลุ่มรว่ มกนั เขียนบนั ทึกความรู้จากการ
อ่านเรื่องทแ่ี ต่ละกล่มุ เลือกอา่ น โดยไมม่ ีแบบ แล้วบันทึกผลลงในกระดาษบันทึก เสร็จแล้วน่าสง่ ครูตรวจ
ขัน้ ท่ี 4 ฝกึ ทาให้ชานาญ
1. ครกู า่ หนดให้นักเรยี นแต่ละคนอา่ นเรอ่ื ง นทิ านเวตาล จากหนังสอื เรียน แลว้ เขียนบันทึกความรูจ้ ากการอ่านลงใน
แบบบนั ทึกการอ่านด้วยตนเอง
2. ครจู บั สลากช่อื นกั เรียน 1-2 คน นา่ เสนอการเขยี นบนั ทึกจากการอา่ นท่ีไดจ้ ากเร่อื ง หน้าช้นั เรียน เสรจ็ แล้ว
ตัวแทนนักเรียนเก็บรวบรวมแบบบนั ทกึ การอา่ นสง่ ครูตรวจ
3. ครูประเมนิ ผลการนา่ เสนอและการเขียนบนั ทึกความรู้จากการอ่านของนกั เรียน
3หลกั ภาษาและการใช้ภาษา หน้า
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง “การเขยี นบนั ทกึ จากการฟงั ” เว1ลาชที่ใัว่ ชโ้สมองน
”
วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิครว่ มกันคดิ
ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรียน
ครูสนทนากับนักเรยี นเร่อื ง การฟัง แล้วถามนักเรยี นวา่ การฟงั ที่มปี ระสิทธิภาพเป็นการฟงั ในลักษณะใด ครู
ตรวจสอบค่าตอบของนกั เรียน
ขั้น สอน
1. ครูให้นกั เรยี นกลุ่มเดิมร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รื่อง การเขียนบันทึกความรู้จากการฟัง จากหนังสอื เรียน
2. ครแู จกกระดาษบนั ทึกใหน้ กั เรียนกลมุ่ ละ 1 แผน่ จากนัน้ ครอู า่ นนิทานชาดกเรอื่ ง ปลาเจ้าปัญญา ใหน้ กั เรยี นฟงั
1 รอบ
3. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั อภิปรายและเขยี นบันทึกความรู้ลงในกระดาษบนั ทึก
4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานา่ เสนอผลบันทกึ จากนิทานชาดกเรอ่ื ง ปลาเจา้ ปัญญา หน้าช้นั เรียน เสรจ็
แลว้ น่าสง่ ครูตรวจ ครูประเมินการนา่ เสนอผลงานของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
ขนั้ สรุป
นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้เรอ่ื ง การเขยี นบนั ทึกความรู้จากการฟัง
ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นแต่ละคนเขียนบันทกึ ความร้จู ากการฟังข่าวสารที่สนใจจาก
สอ่ื วิทยุหรือโทรทัศน์ 1 ประเภท โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นตามท่กี าหนด
นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5
4หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา หน้า
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
9. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
9.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลักภาษาและการใชภ้ าษา ม.4
2) ข่าวแพทย์ฆ่าตัวตาย
3) บทความจากส่ือสง่ิ พิมพ์
4) หนังสอื พิมพร์ ายวนั
5) ใบงานท่ี 4.1 เร่ือง หลักการอ่านเพื่อแสดงความคดิ เหน็
6) ใบงานท่ี 4.2 เร่ือง การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากข่าว
7) ใบงานท่ี 4.3 เรื่อง การเขียนแสดงความคิดเห็นจากบทความ
9.2 แหล่งการเรียนรู้
แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://www.kr.ac.th/ebook/songsri/b2.htm
- http://www.yorwor2.ac.th/thaionline/comment/comment.html
5หลักภาษาและการใช้ภาษา หนา้
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินการเขยี นบนั ทกึ จากการอ่านและแสดงความคดิ เห็น
บทความเกย่ี วกับอาเซียน
รายการประเมนิ ดีมาก (4) คาอธิบายระดบั คุณภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรุง (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. การจับใจความ จับใจความสา่ คญั และ จบั ใจความส่าคญั และ จบั ใจความสา่ คัญและ จบั ใจความสา่ คญั และ
สาคัญจากเรื่อง ที่ ระบุรายละเอยี ดของ ระบรุ ายละเอยี ดของ ระบรุ ายละเอียดของ ระบรุ ายละเอียดของ
ฟงั หรือดู ข้อมลู จากเรือ่ งท่ีฟงั หรอื ข้อมลู จากเรอื่ งที่ฟังหรือ ข้อมูลจากเรื่องทฟ่ี งั หรอื
ข้อมูลจากเรอ่ื งท่ีฟงั หรอื ดูไดถ้ ูกตอ้ ง เป็น ดูได้ถกู ต้อง ดไู ด้ถกู ตอ้ ง เพยี ง
ดูได้ถูกต้อง ส่วนใหญ่ เป็นบางสว่ น เลก็ นอ้ ย
2. การนาความรจู้ าก เขยี นบนั ทกึ ข้อมลู ทไ่ี ด้ เขยี นบนั ทกึ ข้อมูลทไี่ ด้ เขยี นบนั ทึกขอ้ มลู ท่ไี ด้ เขียนบันทึกข้อมลู ท่ีได้
เรื่องทฟี่ งั หรอื ดู มา จากการฟังหรอื ดู พร้อม จากการฟังหรือดู พรอ้ ม จากการฟงั หรือดู พรอ้ ม จากการฟงั หรือดู แตไ่ ม่
ประยุกตใ์ ช้ ใน ทั้งเสนอแนวทางในการ ทงั้ เสนอแนวทางในการ ทง้ั เสนอแนวทางในการ เสนอแนวทางในการ
ชีวติ ประจาวนั น่าไปประยุกต์ใช้ใน น่าไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น
น่าไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ น่าไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจ่าวันได้ถกู ตอ้ ง ชวี ติ ประจ่าวนั
และมเี หตผุ ล
ประจา่ วนั ไดถ้ ูกต้อง และ ชีวติ ประจา่ วนั ไดถ้ ูกต้อง
มเี หตผุ ล และมเี หตผุ ล
เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางสว่ น
3. มารยาทในการเขยี น เขยี นถกู ตอ้ งตามอักขรวธิ ี เขียนถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี เขยี นถกู ต้องตามอักขรวธิ ี เขยี นถกู ตอ้ งตามอักขรวิธี
และวรรคตอนของ และวรรคตอนของ และวรรคตอนของ และวรรคตอนของ
ภาษาไทย ไมม่ ีอคตใิ นการ ภาษาไทย ไม่มีอคติในการ ภาษาไทย ไมม่ อี คติในการ ภาษาไทย มีอคติ ในการ
เขียน ศึกษาคน้ คว้าข้อมูล เขยี น ศกึ ษาคน้ ควา้ ข้อมลู เขยี น ศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู เขยี นเปน็ บางส่วน และไม่
มาประกอบการเขยี นไดด้ ี มาประกอบการเขยี น มาประกอบการเขยี น ศกึ ษาค้นควา้ ข้อมลู มา
เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางส่วน ประกอบการเขยี น
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ากวา่ 6
ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
6หลกั ภาษาและการใช้ภาษา หน้า
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง “การเขียนบันทกึ ความรู้”
”
คาช้ีแจง ให้นักเรียนเลือกค่าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. การเขียนบนั ทึกความรจู้ ากการอ่าน ผู้เขยี นต้องมี 6. ทกั ษะทางภาษาดา้ นใดที่มนุษยใ์ ชใ้ นชีวิตประจ่าวัน
ความสามารถในเรอ่ื งใดมากที่สุด มากท่ีสุด
ก. การจับใจความสา่ คญั ก. การฟัง
ข. การตีความเรอ่ื งท่ีอ่าน ข. การพูด
ค. การเช่อื มโยงหัวข้อส่าคัญ ค. การอ่าน
ง. การขยายความเร่ืองท่ีอ่าน ง. การเขียน
2. สิ่งใดส่าคญั ที่สดุ ในการบันทกึ ความร้จู ากการอ่าน 7. ผใู้ ดมีพฤติกรรมทไี่ ดช้ ื่อวา่ เป็น “พหสู ตู ”
ก. วิธบี ันทึก ก. นายปรีดเี ป็นนักพดู ท่มี ชี อ่ื เสยี งจึงมีความรมู้ าก
ข. วตั ถปุ ระสงค์ในการอา่ น ข. นายปรชี าฟงั เร่ืองต่างๆ มามากจึงมคี วามรมู้ าก
ค. วธิ ีการส่ารวจขอ้ มลู ทจี่ ะบนั ทึก ค. นายปรดี าเปน็ หนอนหนังสืออา่ นมากจึงมีความรมู้ าก
ง. วตั ถปุ ระสงคใ์ นการบนั ทกึ ขอ้ มูล ง. นายปราการเป็นนักเขยี นท่ีมผี ลงานมากมาย
จงึ มีความรมู้ าก
3. การจดบนั ทกึ การอ่านทสี่ มบรู ณ์ มลี ักษณะอยา่ งไร
ก. มีความพรอ้ มในการจดบนั ทึก 8. การจดบนั ทกึ ท่สี มบูรณ์ มวี ิธีการอยา่ งไร
ข. ใช้อปุ กรณใ์ นการบันทึกทีเ่ หมาะสม ก. บนั ทกึ เรื่องท่ฟี ังมาทงั้ หมด
ค. จดบนั ทกึ ให้ครอบคลมุ ประเด็นส่าคัญ ข. บนั ทึกใหท้ ันเวลาท่ีกา่ หนด
ง. จดบันทกึ ข้อความดว้ ยภาษาของตวั เอง ค. บนั ทึกเฉพาะหลักการวธิ กี ารส่าคญั
ง. บันทึกให้ครอบคลมุ ประเด็นสา่ คัญทกุ ประเด็น
4. การจดบนั ทกึ การอา่ นขอ้ ใด ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตวั
ก. การจบั ใจความสา่ คญั 9. การจดบันทึกทไ่ี มถ่ กู ตอ้ งสมบรู ณ์ มลี กั ษณะอย่างไร
ข. มีวิธกี ารจดบันทึกทีเ่ ป็นระบบ ก. จดบนั ทกึ ไมท่ ันเวลา
ค. เขยี นบนั ทกึ ด้วยถ้อยคา่ ของตน ข. เลือกบนั ทึกตามความพอใจ
ง. บอกแหล่งทีม่ าของข้อมูลอยา่ งชดั เจน ค. ใช้สา่ นวนภาษาไมถ่ ูกต้องเหมาะสม
ง. ใช้อุปกรณท์ ี่ไม่เหมาะสมสา่ หรับบนั ทึก
5. กอ่ นทีจ่ ะอ่านเพอื่ บนั ทึกความรจู้ ากการอ่าน นักเรยี น ต้อง
ทา่ อย่างไร 10. การใชเ้ คร่อื งหมาย ? ในบันทึก หมายความว่าอยา่ งไร
ก. หาแหลง่ ขอ้ มลู ก. กันลมื
ข. กา่ หนดจดุ มงุ่ หมายในการอ่าน ข. คา่ ถาม
ค. จดั เตรียมอปุ กรณท์ ใ่ี ช้สา่ หรับจดบนั ทึก ค. ข้อสงั เกต
ง. เลือกสถานที่ทเ่ี หมาะสม มสี ง่ิ อา่ นวยความสะดวก ง. สาระส่าคญั
เฉลย
1. ก 2. ข 3. ค 4. ค 5. ข 6. ก 7. ข 8. ง 9. ข 10. ก
7หลักภาษาและการใช้ภาษา หนา้
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรือ่ ง “การเขียนบนั ทกึ ความรู้”
”
คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเลือกค่าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. การจดบนั ทึกทไี่ มถ่ ูกตอ้ งสมบรู ณ์ มลี ักษณะอย่างไร 6. การเขียนบนั ทกึ ความรู้จากการอา่ น ผ้เู ขียนต้องมี
ก. ใชอ้ ปุ กรณ์ที่ไมเ่ หมาะสมสา่ หรับบนั ทกึ
ข. ใช้สา่ นวนภาษาไมถ่ ูกต้องเหมาะสม ความสามารถในเรือ่ งใดมากท่สี ุด
ค. เลือกบันทึกตามความพอใจ
ง. จดบันทึกไม่ทนั เวลา ก. การขยายความเรือ่ งทอี่ า่ น
2. การจดบันทึกทีส่ มบูรณ์ มีวธิ ีการอย่างไร ข. การเชื่อมโยงหัวขอ้ สา่ คัญ
ก. บันทึกใหค้ รอบคลมุ ประเด็นสา่ คญั ทุกประเด็น
ข. บันทึกเฉพาะหลักการวิธีการส่าคญั ค. การตคี วามเร่อื งทอ่ี า่ น
ค. บนั ทึกใหท้ นั เวลาท่กี า่ หนด
ง. บันทึกเรอื่ งที่ฟงั มาท้งั หมด ง. การจับใจความสา่ คญั
3. การใชเ้ ครอ่ื งหมาย ? ในบันทึก หมายความว่าอยา่ งไร 7. การจดบันทึกการอ่านขอ้ ใด ตอ้ งใชค้ วามสามารถเฉพาะตัว
ก. สาระสา่ คญั
ข. ข้อสังเกต ก. บอกแหลง่ ท่ีมาของขอ้ มูลอยา่ งชดั เจน
ค. คา่ ถาม
ง. กันลมื ข. เขียนบันทึกด้วยถ้อยค่าของตน
4. ผใู้ ดมพี ฤตกิ รรมทไี่ ดช้ ่ือว่าเปน็ “พหูสตู ” ค. มวี ธิ กี ารจดบันทกึ ทเ่ี ป็นระบบ
ก. นายปราการเป็นนักเขียนท่มี ผี ลงานมากมาย
จึงมคี วามรู้มาก ง. การจบั ใจความสา่ คญั
ข. นายปรดี าเปน็ หนอนหนงั สอื อ่านมากจงึ มีความรมู้ าก
ค. นายปรีชาฟังเรอื่ งตา่ งๆ มามากจึงมีความรมู้ าก 8. ก่อนที่จะอา่ นเพ่อื บนั ทึกความร้จู ากการอา่ น นกั เรยี น ต้อง
ง. นายปรดี เี ป็นนักพูดทีม่ ีชอ่ื เสยี งจึงมีความรมู้ าก
ทา่ อย่างไร
5. สง่ิ ใดส่าคญั ท่สี ดุ ในการบนั ทกึ ความรู้จากการอา่ น
ก. วัตถุประสงคใ์ นการบนั ทกึ ข้อมลู ก. เลอื กสถานที่ทเ่ี หมาะสม มสี ิง่ อ่านวยความสะดวก
ข. วธิ กี ารส่ารวจขอ้ มลู ทจ่ี ะบันทกึ
ค. วัตถุประสงคใ์ นการอ่าน ข. จัดเตรียมอปุ กรณ์ท่ีใช้ส่าหรับจดบนั ทกึ
ง. วธิ บี นั ทกึ
ค. กา่ หนดจดุ มุ่งหมายในการอา่ น
ง. หาแหลง่ ขอ้ มูล
9. การจดบนั ทกึ การอา่ นทส่ี มบรู ณม์ ลี กั ษณะอยา่ งไร
ก. จดบนั ทึกข้อความด้วยภาษาของตวั เอง
ข. จดบันทึกใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ สา่ คัญ
ค. ใชอ้ ปุ กรณ์ในการบันทกึ ท่ีเหมาะสม
ง. มคี วามพร้อมในการจดบันทึก
10. ทกั ษะทางภาษาดา้ นใดทม่ี นษุ ย์ใชใ้ นชวี ติ ประจา่ วนั
มากทส่ี ุด
ก. การเขยี น ข. การอา่ น
ค. การพดู ง. การฟัง
เฉลย
1. ค 2. ก 3. ง 4. ค 5. ค 6. ง 7. ข 8. ค 9. ข 10. ง
8หลกั ภาษาและการใช้ภาษา หนา้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4