1. หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ การอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรอง

รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท31101 จานวน 3 ชวั่ โมง

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564

ผูส้ อน : นายสิทธศิ ักดิ์ เรง่ เจริญรตั น์ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นคอนสารวทิ ยาคม

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั

ท 1.1 ม.4-6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้อยา่ งถูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกบั เรอ่ื งท่อี า่ น

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรอง ผเู้ รียนต้องฝกึ อ่านออกเสียงให้ถูกตอ้ งเหมาะสมกับเรอื่ งที่อา่ น

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง

 การอา่ นออกเสยี ง ประกอบด้วย
- บทร้อยแกว้ ประเภทต่างๆ เช่น บทความ
- บทร้อยกรอง เช่น โคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน และรา่ ย

3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการเปรียบเทียบ
2) ทักษะการวเิ คราะห์
3) ทักษะการสร้างความรู้

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน

1หลักภาษาและการใชภ้ าษา หนา้

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4

6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

การอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง

7. การวัดและประเมินผล

7.1 การประเมินก่อนเรียน

- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว
และบทร้อยกรอง

7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

1) ประเมนิ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว
2) ประเมนิ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง
3) ประเมินการนาเสนอผลงาน
4) สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล
5) สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่
6) สงั เกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

7.3 การประเมินหลงั เรียน

- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้
และบทร้อยกรอง

7.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- สังเกตการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง

8. กิจกรรมการเรียนรู้

นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1

2หลักภาษาและการใชภ้ าษา หน้า

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื ง “การอา่ นบทรอ้ ยแกว้ ” เว1ลาทช่ีใวั่ ชโ้สมองน
วธิ ีสอนแบบ สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)

ขน้ั ท่ี ๑ กระตุน้ ความสนใจ (Engage)

1. ครูขออาสาสมัครนกั เรียน 3 คน ออกมาอ่านบทความใหเ้ พื่อนฟัง แล้วใหเ้ พือ่ นนักเรียนคนอ่นื ๆ รว่ มกัน
คดั เลอื กอาสาสมัครที่อา่ นออกเสยี งไดน้ ่าสนใจท่ีสุด

2. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสนทนาถงึ วิธกี ารอ่านทดี่ ี และถูกต้อง

ขนั้ ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore)
นักเรียนศึกษาวิธกี ารอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ จากหนงั สอื เรียน และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ

ขัน้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
นักเรยี นร่วมกันอภิปรายสรุปหลักการอา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ โดยนาบทความวิชาการเรอื่ ง ค้นพบสิงโตทองผา

ภมู ิ กลว้ ยไม้หายาก ควรคา่ แกก่ ารอนรุ กั ษ์ มาเปน็ ตวั อยา่ งในการแบง่ วรรคตอน

ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand)
นกั เรยี นอ่านบทความวชิ าการเรื่อง ครง้ั แรกในพืน้ ท่ีทองผาภมู ิตะวันตกกับการคน้ พบผงึ้ ที่เล็กท่ีสุดในโลก โดย

นาเอาหลักการอา่ นที่ได้ศึกษามาประยุกต์ใช้ในการอ่านออกเสียง

ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูใหน้ กั เรียนเลอื กบทความวิชาการที่นักเรียนเหน็ ว่ามปี ระโยชน์มา 1 เรือ่ ง จากนน้ั ครูกาหนดวัน เวลา ให้

นกั เรียนมาอ่านบทความท่ีนกั เรียนเลอื กกับครูเปน็ รายบุคคล
2. ครูประเมนิ ผลการอา่ นออกเสียงบทความวชิ าการของนักเรียนแต่ละคน พรอ้ มทงั้ ให้คาแนะนาในการพัฒนาการ

อ่านแกน่ ักเรยี นทย่ี ังมีข้อบกพร่อง

3หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา หน้า

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง “การอ่านบทรอ้ ยกรอง” เว2ลาทชใ่ีว่ั ชโส้มองน

วิธสี อนโดยการจัดการเรยี นรูแ้ บบร่วมมือ : เทคนิคร่วมกนั คดิ

ขั้นที่ ๑ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. ครใู หน้ กั เรียนที่มปี ระสบการณ์ในการประกวดอา่ นบทร้อยกรองออกมาเล่าประสบการณ์ให้เพ่ือนฟงั
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาซักถามถึงการเตรียมตัวกอ่ นเขา้ ประกวด
3. ครสู รปุ ให้นักเรยี นเหน็ ความสาคัญของการอ่านบทร้อยกรอง

ขนั้ ท่ี 2 สอน

1. ครแู บ่งนักเรียนเป็นกล่มุ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ จากนั้นให้สมาชิกในแต่ละกลมุ่ เลือกหมายเลข
ประจาตัวตามความสมคั รใจต้ังแตห่ มายเลข 1-4

2. ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมาจับสลากหมายเลข 1-5 โดยครแู จกบทร้อยกรองให้นักเรียน
แตล่ ะกลุ่มตามหมายเลขทต่ี ัวแทนกล่มุ จับสลากได้

3. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกันศึกษาลักษณะประเภทของบทร้อยกรองที่กลุ่มจับสลากได้ โดยให้ศกึ ษาค้นควา้ หลกั การ
อ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองที่ไดจ้ ากหนงั สือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ

4. สมาชิกในแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันอภิปรายสรุปความรู้ท่ีได้ศกึ ษามา แล้วบนั ทกึ ความรู้ลงในกระดาษ A4 จากนน้ั ร่วมกัน
ฝึกอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง โดยให้นกั เรยี นนาหลักการอา่ นทศี่ กึ ษามาประยกุ ต์ใช้ในการอ่าน ออกเสยี ง

5. ครูเลอื กหมายเลขใดหมายเลขหน่งึ จาก 1-4 แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ท่ีมหี มายเลขประจาตัวตรงกับหมายเลขท่ี
ครูเลอื กออกมาเปน็ ตวั แทนกลมุ่ อา่ นออกเสยี ง และพดู สรปุ หลักการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง ที่กลุ่มจบั สลากได้
หน้าช้นั เรยี น

6. ครูตรวจสอบความถูกต้องในการอา่ นออกเสียง และการพดู สรปุ หลกั การอา่ นบทรอ้ ยกรอง

ขั้นท่ี 3 สรุป
ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ เขยี นสรปุ หลักการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทต่างๆ เสร็จแล้วนาสง่ ครูตรวจ

 ครูมอบหมายให้นกั เรยี นแตล่ ะคนเลอื กบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรอง อย่างละ 1 บท แล้วมาอา่ น
ออกเสียงกบั ครู (นอกเวลาเรียน) โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นตามทีก่ าหนด

นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1

4หลักภาษาและการใชภ้ าษา หนา้

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4

9. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

9.1 สอื่ การเรยี นรู้

1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.4
2) บทความ เร่ือง ทาไมตอ้ งหา้ มกนิ ฝรั่งตอนเปน็ ไข้ ค้นพบสงิ โตทองผาภูมิ กล้วยไม้หายาก ควรค่า
แกก่ ารอนุรกั ษ์ ครัง้ แรกในพ้นื ที่ทองผาภมู ิตะวนั ตกกับการค้นพบผง้ึ ท่เี ล็กท่ีสดุ ในโลก
3) บทร้อยกรอง โคลงโลกนิติ ราตรี กาพย์เห่เรือ รชั กาลท่ี 6 (เห่ชมชายทะเล) ขนุ ช้างขุนแผน

ตอน พลายงามพบพ่อ และมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มทั รี

9.2 แหล่งการเรยี นรู้

1) หอ้ งสมดุ
2) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ

- http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php
- http://www.youtube.com/watch?v=asDsqbXqJIs
- http://www.youtube.com/watch?v=CYFZKWmk_9c
- http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=2613

5หลักภาษาและการใชภ้ าษา หน้า

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรอง

รายการประเมนิ ดีมาก (4) คาอธิบายระดับคณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. ความถกู ตอ้ ง ตาม ออกเสยี งได้ถูกตอ้ งตาม ออกเสยี งได้ถกู ตอ้ งตาม ออกเสียงได้ถกู ต้องตาม ออกเสยี งได้ถกู ต้องตาม
อกั ขรวิธี
อกั ขรวิธี ไม่มจี ดุ อักขรวิธี มีจุดผดิ พลาด อกั ขรวธิ ี มจี ดุ ผดิ พลาด อักขรวิธี มีจุดผดิ พลาด
2. ความถกู ต้อง ตาม
หลักการอา่ น ผิดพลาด 1-2 จดุ 3-4 จดุ 5 จดุ ขน้ึ ไป

แบง่ วรรคตอนการอ่านได้ แบ่งวรรคตอนการอา่ นผิด แบง่ วรรคตอนการอ่านผิด แบง่ วรรคตอนการอ่านผดิ

ถกู ต้อง ใช้น้าเสียง 1 จุด แต่ใชน้ า้ เสียง 2 จดุ แต่ใช้นา้ เสยี ง มากกวา่ 3 จดุ

สอดคล้องและเหมาะสม สอดคล้องและเหมาะสม สอดคล้องและเหมาะสม แตใ่ ชน้ า้ เสียงสอดคล้อง

กับเรือ่ งทอ่ี ่าน กบั เรอื่ งท่อี ่าน กับเรือ่ งที่อา่ น เป็น และเหมาะสมกับเรื่อง ที่

สว่ นใหญ่ อ่านเป็นบางส่วน

3. ความไพเราะ มคี วามไพเราะเหมาะสม มคี วามไพเราะเหมาะสม มีความไพเราะเหมาะสม มีความไพเราะเพียง
ในการอ่าน กับเนอ้ื เรือ่ งท่ีอ่าน กบั เน้อื เรอื่ งทีอ่ า่ น กับเนื้อเร่ืองทอ่ี ่าน เลก็ นอ้ ย แตไ่ ม่คอ่ ย
บทร้อยแกว้ เป็นสว่ นใหญ่ เป็นบางสว่ น เหมาะสมกับเน้ือเรื่อง ที่
มีความไพเราะเหมาะสม อ่าน
4. ความไพเราะ กบั ลักษณะคาประพนั ธ์ มคี วามไพเราะเหมาะสม มคี วามไพเราะเหมาะสม
ในการอ่าน กับลักษณะคาประพนั ธ์ กับลกั ษณะคาประพนั ธ์ มคี วามไพเราะเพยี ง
บทรอ้ ยกรอง เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางส่วน เล็กนอ้ ย แตไ่ ม่ค่อย
เหมาะสมกับลกั ษณะ คา
ประพนั ธ์

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ากวา่ 8
ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

6หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา หนา้

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เร่อื ง “การอ่านบทรอ้ ยแก้ว”

คาชแี้ จง ให้นกั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. รูปแบบของงานเขียนประเภทร้อยแก้ว แบง่ ไดเ้ ป็น 6. คาประพนั ธท์ ีเ่ ก่าแก่ทส่ี ดุ ของไทย คอื คาประพนั ธ์ชนิดใด

กปี่ ระเภท อะไรบา้ ง ก. ร่าย ข. โคลง

ก. 2 ประเภท คอื คัมภรี ์ และนยิ าย ค. กาพย์ ง. ฉันท์

ข. 2 ประเภท คอื สารคดี และนวนิยาย 7. ข้อใดไม่ไดเ้ ป็นวธิ กี ารเพม่ิ ความไพเราะของการอา่ นทานอง

ค. 2 ประเภท คอื บนั เทิงคดี และสารคดี เสนาะ

ง. 2 ประเภท คือ สารคดี และความเรยี ง ก. การคร่นั เสียง ข. การเปิดเสยี ง

2. บุคคลใดไม่ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั การอ่านบทร้อยแกว้ ค. การหลบเสยี ง ง. การครวญเสยี ง

ก. ข้าวสวยอ่านบทความดว้ ยความมนั่ ใจ 8. “มืดตอ้ื กระพือพริ ณุ พรม และฤเราจะแยแส”

ข. ขา้ วปนั้ อ่านขา่ วให้เพอื่ นฟงั ด้วยนา้ เสยี งท่ีดังเกินไป บทร้อยกรองนอี้ า่ นออกเสียงวา่ อยา่ งไร

ค. ขา้ วปนุ้ ศึกษานทิ านใหเ้ ข้าใจก่อนจะอา่ นให้นอ้ งฟัง ก. มดื – ต้ือ – กระ – พือ – พิ – รุน – พรม –

ง. ข้าวเหนียวอา่ นเรอื่ งส้ันดว้ ยน้าเสียงทีด่ ูเป็นธรรมชาติ และ – รึ – เรา – จะ – แย – แส

เน้นเสียงหนกั เบา ข. มืด – ตอ้ื – กระ – พอื – พิ – รุ – นบ – พรม –

3. “น้อมเกลา้ ฯ” อ่านออกเสยี งว่าอยา่ งไร และ – ลึ – เรา – จะ – แย – แส

ก. น้อม – เกล้า – ละ ค. มืด – ต้ือ – กระ – พอื – พิ – รนุ – นะ – พรม –

ข. น้อม – เกลา้ – น้อม – เกล้า และ – รึ – เรา – จะ – แย – แส

ค. นอ้ ม – เกลา้ – ไป – ยาน – น้อย ง. มดื – ต้ือ – กะ – ระ – พือ – พิ – รุ – นะ – พรม –

ง. นอ้ ม – เกล้า – นอ้ ม – กระ – หมอ่ ม และ – ลึ – เรา – จะ – แย – แส

4. การอ่านให้ถูกต้องตามอักขรวธิ ี จะตอ้ งอาศัยหลักการอ่าน 9. การอา่ นรา่ ยที่มเี นอ้ื ความบรรยายการรบ การต่อสู้

จากแหล่งใดเป็นสาคญั จะต้องอ่านดว้ ยนา้ เสียงแบบใด

ก. เพือ่ น ก. อา่ นดว้ ยนา้ เสยี งเบา ส่นั เครอื

ข. สารคดี ข. อ่านดว้ ยนา้ เสยี งดัง หนักแนน่ ห้วน กระชับ

ค. อนิ เทอร์เนต็ ค. อ่านดว้ ยนา้ เสียงตา่ เนน้ บา้ ง สะบดั เสยี งบ้าง

ง. พจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ง. อ่านดว้ ยน้าเสยี งปานกลาง ไมเ่ บา ไมด่ งั เกินไป

5. บทร้อยกรองชนิดใดทเี่ ป็นการนาบทรอ้ ยกรองตา่ งรปู แบบ 10. ข้อความใดใช้ภาพพจน์แบบสทั พจน์

มาประสมกนั ก. ครนื ครนื ใช่ฟ้ารอ้ ง เรียมครวญ

ก. กาพย์ ข. โคลง ข. วา่ จากเรือนเหมือนนกมาจากรัง

ค. รา่ ย ง. ลลิ ติ ค. สายลมลูบไลพ้ ฤกษาลดามาลย์

ง. เริงร้องถวายชัย พิภพเพียงทาลาย

เฉลย
1. ค 2. ข 3. ง 4. ง 5. ง 6. ก 7. ข 8. ค 9. ข 10. ก

7หลักภาษาและการใชภ้ าษา หน้า

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4

แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ เร่ือง “การอา่ นบทร้อยแกว้ ”

คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. คาประพนั ธท์ ่ีเกา่ แก่ทีส่ ดุ ของไทย คือคาประพนั ธ์ชนดิ ใด 6. การอา่ นรา่ ยทม่ี เี นื้อความบรรยายการรบ การต่อสู้

ก. ฉนั ท์ ข. กาพย์ จะตอ้ งอ่านด้วยน้าเสียงแบบใด

ค. รา่ ย ง. โคลง ก. อ่านดว้ ยน้าเสียงปานกลาง ไม่เบา ไม่ดงั เกนิ ไป

2. “มดื ตอื้ กระพอื พิรุณพรม และฤเราจะแยแส” ข. อ่านด้วยน้าเสยี งตา่ เน้นบ้าง สะบดั เสียงบ้าง

บทรอ้ ยกรองนี้อา่ นออกเสยี งว่าอยา่ งไร ค. อ่านด้วยนา้ เสยี งดัง หนกั แนน่ ห้วน กระชบั

ก. มืด – ตอื้ – กระ – พือ – พิ – รุน – นะ – พรม – ง. อ่านด้วยน้าเสยี งเบา สน่ั เครือ

และ – รึ – เรา – จะ – แย – แส 7. รูปแบบของงานเขยี นประเภทร้อยแก้ว แบง่ ได้เปน็

ข. มดื – ตือ้ – กะ – ระ – พือ – พิ – รุ – นะ – พรม – ก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง

และ – ลึ – เรา – จะ – แย – แส ก. 2 ประเภท คอื สารคดี และความเรยี ง

ค. มดื – ตอื้ – กระ – พือ – พิ – รุ – นบ – พรม – ข. 2 ประเภท คือ บันเทิงคดี และสารคดี

และ – ลึ – เรา – จะ – แย – แส ค. 2 ประเภท คือ สารคดี และนวนิยาย

ง. มดื – ตื้อ – กระ – พือ – พิ – รุน – พรม – ง. 2 ประเภท คือ คัมภรี ์ และนยิ าย

และ – รึ – เรา – จะ – แย – แส 8. ข้อใดไมไ่ ดเ้ ป็นวิธีการเพ่ิมความไพเราะของการอา่ นทานอง

3. ขอ้ ความใดใชภ้ าพพจนแ์ บบสทั พจน์ เสนาะ

ก. เรงิ รอ้ งถวายชยั พภิ พเพียงทาลาย ก. การครวญเสยี ง ข. การหลบเสยี ง

ข. ว่าจากเรือนเหมือนนกมาจากรัง ค. การครน่ั เสยี ง ง. การเปิดเสียง

ค. สายลมลูบไลพ้ ฤกษาลดามาลย์ 9. บุคคลใดไม่ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั การอา่ นบทร้อยแกว้

ง. ครืนครืนใชฟ่ า้ ร้อง เรยี มครวญ ก. ข้าวเหนียวอา่ นเร่อื งสนั้ ด้วยนา้ เสียงท่ีดเู ปน็ ธรรมชาติ

4. “น้อมเกล้าฯ” อา่ นออกเสยี งวา่ อยา่ งไร เนน้ เสียงหนัก เบา

ก. นอ้ ม – เกล้า – นอ้ ม – กระ – หมอ่ ม ข. ข้าวป้นุ ศึกษานทิ านใหเ้ ขา้ ใจก่อนจะอา่ นใหน้ ้องฟงั

ข. นอ้ ม – เกลา้ – ไป – ยาน – น้อย ค. ข้าวปัน้ อา่ นขา่ วให้เพื่อนฟงั ดว้ ยนา้ เสียงท่ีดังเกินไป

ค. นอ้ ม – เกล้า – นอ้ ม – เกล้า ง. ข้าวสวยอา่ นบทความดว้ ยความมนั่ ใจ

ง. น้อม – เกลา้ – ละ 10. บทร้อยกรองชนิดใดท่ีเปน็ การนาบทร้อยกรองต่างรปู แบบ

5. การอา่ นใหถ้ ูกตอ้ งตามอักขรวิธี จะต้องอาศัยหลกั การอา่ น มาประสมกนั

จากแหลง่ ใดเปน็ สาคญั ก. โคลง ข. กาพย์

ก. พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ค. ลลิ ิต ง. ร่าย

ข. อินเทอร์เน็ต

ค. สารคดี

ง. เพอ่ื น

เฉลย
1. ค 2. ก 3. ง 4. ก 5. ก 6. ค 7. ข 8. ง 9. ค 10. ค

8หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา หน้า

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4