1
ชดุ \กจิ กรรมการเรียนเมโลเดียน
ดว้ ยเทคนคิ การเรยี นแบบเพื่อนชว่ ยเพอื่ น
เพ่อื ส่งเสรมิ ความสามารถทางดนตรี
กล่มุ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ (สาระดนตรี)
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4
เล่มท่ี 4 เร่ือง การเป่าเมโลเดียนเบอื้ งตน้
นายนิทศั น์ ถวลิ เวทิน
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ
โรงเรยี นเทศบาล 8 (อนุบาลฝนั ทเ่ี ปน็ จริง)
สงั กัดเทศบาลนครตรงั จังหวดั ตรัง
ก
คานา
ชุดกิจกรรมการเรียนเมโลเดียน ด้วยเทคนิคการเรียนแบบเพื่อนช่วยเพ่ือน เพ่ือส่งเสริม
ความสามารถทางดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4
ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความสนใจในการเล่นดนตรีสากล เป็นการเติมเต็มตามศักยภาพใน
การเล่นดนตรีสากลเพราะการเล่นดนตรีสากล เป็นทักษะที่จาเป็นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
ให้ดขี ้นึ ทง้ั ทางดา้ น รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คมและสติปัญญา
ผจู้ ดั ทาไดจ้ ัดใหม้ ีเนื้อหาวิธกี ารเรียนรู้ทเี่ ป็นระบบโดยเรยี นรจู้ ากง่ายไปหายาก ชุดกจิ กรรม
การเรียนเมโลเดียน ด้วยเทคนิคการเรียนแบบเพ่ือนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมความสามารถทางดนตรี
กล่มุ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ชดุ นยี้ ึดแนวการเรยี นรู้แบบ
ร่วมมือซึ่งเป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้น ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ งานเป็นกลุ่มย่อย
โดยมีสมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถท่ีแตกต่างกัน เพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพการเรียนรู้ของ
แต่ละคน สนับสนุนให้มีการช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน จนบรรลุตามเป้าหมายท่ีวางไว้ นอกจากนี้
ยังเป็นการส่งเสริมการทางานร่วมกันเป็นหมู่คณะตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นการ
พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ทาให้สามารถปรับตัวอยู่กับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
ขอขอบพระคุณ นายอภิรักษ์ นาคฤทธิ์ ผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล 8
(อนุบาลฝันที่เป็นจริง) คณะครูท่ีให้คาแนะนา ข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ในการจัดทา
ชุดกิจกรรมการเรียนเมโลเดียน ด้วยเทคนิคการเรียนแบบเพื่อนช่วยเพ่ือน เพ่ือส่งเสริม
ความสามารถทางดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4
หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ ว่าจะเปน็ ประโยชนต์ ่อนกั เรียน ครผู ู้สอนและผู้ท่สี นใจ
นายนิทศั น์ ถวิลเวทนิ
ข
สารบญั
เรือ่ ง หนา้
คานา..................................................................................................................... ก
สารบญั ................................................................................................................. ข
คาชแ้ี จง ................................................................................................................ ค
คาแนะนาการใช้ ................................................................................................... ง
มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชวี้ ัด สาระสาคญั ............................................................. จ
ผงั มโนทัศน์........................................................................................................... ฉ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้........................................................................................... 1
แบบทดสอบก่อนเรยี น.......................................................................................... 2
ใบความรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง บนั ไดเสยี งซีเมเจอร์ (The Scale of C major) .................... 4
กิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง การปฏิบตั ิจังหวะหลัก ............................................ 6
ใบความรู้ท่ี 2 เรอื่ ง เทคนิคการหายใจขณะเป่าเมโลเดยี น.................................... 7
กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง เทคนคิ การหายใจ................................................... 10
ใบความรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง ตาแหน่งเสยี งของเมโลเดยี น.................................................. 12
กิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง ออกแบบผงั กราฟิก เรอื่ ง ตาแหนง่ เสยี งของเมโลเดยี น. 14
แบบทดสอบหลังเรยี น .......................................................................................... 15
ภาคผนวก............................................................................................................. 17
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรยี น ................................................................. 18
เฉลยกิจกรรมการเรยี นรูท้ ่ี 1 - 3........................................................................... 19
บรรณานกุ รม........................................................................................................ 23
ค
คาช้ีแจง
1. ชุดกจิ กรรมการเรียนเมโลเดียน ดว้ ยเทคนคิ การเรียนแบบเพือ่ นช่วยเพือ่ น เพือ่
ส่งเสริมความสามารถทางดนตรี กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษา
ปที ่ี 4 ประกอบดว้ ย 6 เล่ม ดงั นี้
เลม่ ท่ี 1 เร่ือง ความรทู้ ่วั ไปเก่ยี วกับเมโลเดยี น
เลม่ ที่ 2 เรอ่ื ง เครอ่ื งหมายและสญั ลักษณ์ในดนตรีสากล
เล่มที่ 3 เรื่อง การฝกึ นบั จังหวะโน๊ตด้วยมือและเทา้
เลม่ ท่ี 4 เรื่อง การเป่าเมโลเดยี นเบ้ืองตน้
เลม่ ท่ี 5 เรื่อง เทคนคิ การบรรเลงเมโลเดียน
เล่มท่ี 6 เรื่อง การปฏบิ ตั ิเมโลเดียนเพลงตา่ งๆ
2. ชุดกจิ กรรมการเรียนเมโลเดยี น ด้วยเทคนคิ การเรยี นแบบเพอ่ื นช่วยเพอ่ื น เพือ่
สง่ เสริมความสามารถทางดนตรี กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (สาระดนตรี) ชนั้ ประถมศึกษา
ปีที่ 4 เลม่ ท่ี 4 เร่อื ง การเปา่ เมโลเดยี นเบ้ืองต้น ประกอบด้วย
- แบบทดสอบกอ่ นเรียน
- ใบความรู้ท่ี 1 เร่ือง บันไดเสียงซเี มเจอร์ (The Scale of C major)
- กิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง การปฏบิ ัติจังหวะหลกั
- ใบความรู้ที่ 2 เรอื่ ง เทคนคิ การหายใจขณะเปา่ เมโลเดยี น
- กิจกรรมการเรียนรูท้ ่ี 2 เร่ือง เทคนคิ การหายใจ
- ใบความรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง ตาแหนง่ เสยี งของเมโลเดยี น
- กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง ออกแบบผงั กราฟกิ เรื่อง ตาแหนง่ เสียง
ของเมโลเดยี น
- แบบทดสอบหลงั เรยี น
- เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรยี น
- เฉลยกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี 1 - 3
- บรรณานกุ รม
ง
คาแนะนาการใช้
เพื่อให้บรรลจุ ดุ ประสงคข์ องชุดกจิ กรรมการเรยี นเมโลเดยี น ดว้ ยเทคนคิ การเรยี น
แบบเพ่ือนชว่ ยเพ่ือน เพอื่ ส่งเสริมความสามารถทางดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ
(สาระดนตรี) ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เลม่ ท่ี 4 เรอื่ ง การเปา่ เมโลเดียนเบ้อื งตน้ มขี อ้ เสนอ
แนะใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ติ ามขน้ั ตอน ดงั นี้
1. ให้นกั เรียนเตรยี มเมโลเดียนให้พรอ้ มสาหรบั การใช้งาน
2. ตรวจสอบชดุ กจิ กรรมท่ไี ดร้ บั ให้ครบถ้วน
3. ศกึ ษาทาความเขา้ ใจจุดประสงค์การเรียนรู้และคาช้แี จง การใชช้ ดุ กิจกรรมให้เข้าใจ
ก่อน
4. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี นเพอ่ื ประเมนิ ความรเู้ ดมิ ก่อนเรยี น
5. ขณะเรยี นนกั เรียนตอ้ งทากจิ กรรมการเรยี นการสอนตามลาดับขัน้ ตอน ดังน้ี
5.1 ศกึ ษาความร้จู ากใบความรู้ อยา่ งละเอยี ดใหเ้ ขา้ ใจ
5.2 ศึกษาการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมจากใบกิจกรรมการเรยี นรู้
5.3 ปฏิบัตงิ านตามคาสงั่ ในใบกิจกรรมการเรยี นรู้ ทากจิ กรรมการเรียนรดู้ ้วย
ความขยนั มุมานะ อดทน และตั้งใจ
6. อภปิ รายและสรุปผลของความรทู้ ไี่ ด้รบั จากการทากิจกรรม
7. ทาแบบทดสอบหลังเรยี นเพอื่ ประเมนิ ความรเู้ ดมิ หลังเรยี น
8. ร่วมตรวจคาตอบของกจิ กรรมการเรียนรู้ทัง้ 3 กิจกรรมไดจ้ ากเฉลยท้ายเลม่
9. รว่ มตรวจคาตอบของแบบทดสอบกอ่ นเรยี น และหลังเรียน ในเฉลยทา้ ยเล่ม เม่ือ
เรียนในแต่ละเรอื่ งเพอื่ วดั ความรทู้ ่พี ฒั นาขน้ึ ในเร่อื งนั้น ๆ
10. เมือ่ เกดิ ปญั หาในขณะปฏบิ ัติกจิ กรรมให้ปรกึ ษาครผู ู้สอน
จ
มาตรฐานและตัวชี้วดั
สาระที่ 2 : ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์วพิ ากษ์ วจิ ารณ์
คุณคา่ ดนตรี ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคดิ ต่อดนตรีอยา่ งอสิ ระ
ชนื่ ชม และประยุกตใ์ ช้
ตวั ชวี้ ดั ช้ันปี ระบทุ ิศทางการเคลอื่ นที่ข้ึน – ลงง่าย ๆ ของทานอง
ศ 2.1 ป 4/3 รูปแบบจงั หวะและความเร็วของจงั หวะในเพลงท่ฟี งั
อ่าน เขียนโน้ตดนตรไี ทยและสากล
ศ 2.1 ป 4/4 ระบวุ ่าดนตรสี ามารถใชใ้ นการสอื่ เรอื่ งราว
ศ 2.1 ป 4/7
สาระการเรียนรู้
1. บันไดเสยี งซีเมเจอร์ (The Scale of C major)
2. เทคนิคการหายใจขณะเป่าเมโลเดียน
3. ตาแหน่งเสียงของเมโลเดียน
สาระสาคญั
1. การจับเมโลเดียนน้นั จะใชม้ ือซา้ ยจับเมโลเดยี นหนั หนา้ เมโลเดียนเขา้ หาลาตวั ของ
ผูเ้ ปา่ ในระดบั เสมอหนา้ อกของผู้เป่าเอง มอื ขวาวางไวท้ ล่ี มิ้ นิ้วของ เมโลเดยี น
2. การหายใจขณะเปา่ เมโลเดยี นท่ีถูกต้องจะช่วยใหก้ ารเป่าเมโลเดยี นดขี ึ้น การ
วางปากใหถ้ กู ตอ้ ง สามารถควบคมุ น้าเสียงและประโยคของเพลงไดใ้ นการปฏบิ ัติเครอื่ งเป่า
จาเปน็ ต้องใชล้ มในการปฏบิ ัติมากกวา่ ปกตจิ งึ ต้องเรยี นรูก้ ารใช้กระบังลม
3. ลม่ิ นว้ิ ประกอบดว้ ยลม้ิ น้ิวสขี าว กับลมิ่ นว้ิ สีดาสลบั กัน มี 27 ลมิ่ ตามทฤษฏี
ดนตรีสากล จะมีเสยี งเตม็ และครึง่ เสียง ยกเวน้ ตาแหน่งเสยี งระหว่างเสยี ง ท ( B ) – ด
( C ) และ ม ( E ) – ฟ ( F ) ทไี่ มม่ ลี มิ่ นิ้วสีดาคน่ั เพราะเปน็ ระดับเสยี งทห่ี ่างกันครง่ึ เสยี ง
ตามทฤษฏขี องดนตรสี ากล ระบบเสยี งของเมโลเดีย้ น อัลโต้
ฉ
ผังมโนทัศน์
เลม่ ท่ี 4 เร่อื ง การเป่าเมโลเดยี นเบอื้ งตน้
เล่มที่ 4 เรอ่ื ง การเป่าเมโลเดียนเบอ้ื งต้น
1. บันไดเสยี งซีเมเจอร์ (The Scale of C major)
- ใบความรู้ท่ี 1 เรอื่ ง บนั ไดเสยี งซเี มเจอร์
(The Scale of C major)
- กิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง การปฏิบัติจังหวะหลัก
2. เทคนคิ การหายใจขณะเปา่ เมโลเดยี น
- ใบความร้ทู ี่ 2 เรอ่ื ง เทคนิคการหายใจขณะเป่าเมโลเดยี น
- กจิ กรรมการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง เทคนคิ การหายใจ
3. ตาแหนง่ เสียงของเมโลเดียน
- ใบความรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง ตาแหนง่ เสยี งของเมโลเดยี น
- กิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง ออกแบบผงั กราฟิก เรื่อง
ตาแหน่งเสียง
1
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
เมอ่ื นักเรยี นศกึ ษา ชดุ กิจกรรมการเรียนเมโลเดยี น ดว้ ยเทคนิคการเรยี นแบบเพอ่ื น
ช่วยเพือ่ น เพอ่ื ส่งเสรมิ ความสามารถทางดนตรี กลุม่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ (สาระดนตร)ี
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 เลม่ ที่ 4 เรอื่ ง การเปา่ เมโลเดยี นเบ้อื งต้น แลว้ นกั เรยี น มพี ฤติกรรม
ดังตอ่ ไปน้ี
ดา้ นความรู้ (K)
1. นกั เรยี นสามารถจับและแสดงทา่ ทางในการเปา่ เมโลเดยี นได้ถกู ตอ้ ง
2. นกั เรยี นสามารถกาหนดลมหายใจเข้าในการเปา่ เมโลเดียนได้ถกู ต้อง
3. นักเรยี นสามารถกาหนดลมหายใจออกในการเป่าเมโลเดียนไดถ้ กู ต้อง
4. นักเรียนสามารถบอกตาแหน่งเสียงของเมโลเดยี นได้ถกู ต้อง
ด้านทกั ษะ (P)
1. นกั เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา
2. นกั เรียนมีความสามารถในการให้เหตุผล
3. นักเรียนมคี วามสามารถในการสอ่ื สารและสอื่ ความหมาย
ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
1. นกั เรียนมีการรักความเป็นไทย
2. นกั เรยี นมีการใฝ่เรียนรู้
3. นักเรียนมีความม่งุ มน่ั ในการทางาน
2
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
เลม่ ที่ 4 เร่ือง การเป่าเมโลเดียนเบือ้ งต้น
คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นทาเครือ่ งหมาย ลงบนหนา้ ขอ้ คาตอบทถ่ี กู ต้อง
1. ขอ้ ใดเปน็ การจบั เมโลเดยี นทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ก. หันเมโลเดียนเขา้ หาลาตัวของผเู้ ปา่
ข. ใช้มือซ้ายจับเมโลเดยี นหนั หนา้ เมโลเดียน
ค. เมโลเดยี นอยรู่ ะดบั เสมอหน้าเอวของผ้เู ป่า
ง. มอื ขวาของผู้เปา่ วางไว้ทีล่ ิ้มนิว้ ของเมโลเดียน
2. ขอ้ ใดอธิบายทา่ ทางในการเปา่ เมโลเดยี นได้ถกู ตอ้ ง
ก. การเป่าแบบใชท้ ่อและการเป่าแบบใช้ปากเปา่
ข. การเปา่ แบบใชท้ อ่ และการเปา่ แบบใชจ้ มูกเป่า
ค. การเปา่ แบบใช้สายและการเป่าแบบใชจ้ มูกเปา่
ง. การเป่าแบบใชส้ ายและการเป่าแบบใชป้ ากเป่า
3. ข้อใดอธิบายกระบวนการหายใจในการเป่าเมโลเดยี นไดถ้ ูกต้อง
ก. การหยุดใจ
ข. การหายใจเข้า
ค. การเป่าลมออก
ง. การหายใจเข้า และการเปา่ ลมออก
4. ข้อใดอธบิ ายการหายใจเข้าในการเป่าเมโลเดยี นได้ถกู ตอ้ ง
ก. ห่อไหล่ เกรง็ ตวั อา้ ปาก
ข. อกผายไหลผ่ งึ่ ไมเ่ กรง็ อา้ ปาก
ค. สูดลมเขา้ ทางปากจนเต็มกระพุ้งแก้ม
ง. ดึงขากรรไกรลงแลว้ ปิดหลอดลมให้กว้างเหมอื นอาการไอ
5. ข้อใดอธบิ ายการหายใจเขา้ ระยะท่ี 1 เข้าในการเป่าเมโลเดยี นไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. เมือ่ หายใจ เขา้ จะรสู้ กึ วา่ ทอ้ งจะปอ่ ง
ข. เมอื่ หายใจ รสู้ กึ ว่าหน้าอกยกขึ้นเล็กน้อย
ค. เมื่อหายใจ ร้สู กึ วา่ บริเวณคอขยายออกเลก็ นอ้ ย
ง. เม่อื หายใจ รู้สึกวา่ ซโ่ี ครงใตร้ กั แรข้ ยายออกเลก็ น้อย
3
6. ข้อใดอธิบายการทางานของอวยั วะเมอื่ หายใจเข้าได้ถูกตอ้ ง
ก. ระยะที่หายใจเขา้ จะรู้สึกว่ากระบังลม
ข. ระยะท่ีหายใจเขา้ จะร้สู กึ ว่ากระบังลม ปอด
ค. ระยะท่หี ายใจเขา้ จะรสู้ ึกวา่ กระบงั ลม ปอด หนา้ อกขยายออก
ง. ระยะที่หายใจเข้าจะรสู้ ึกว่า คอ กระบงั ลม ปอด หน้าอกหดตัว
7. ขอ้ ใดอธิบายการเปา่ ลมออกในการเปา่ เมโลเดียนได้ถูกต้อง
ก. ขณะท่ปี ลอ่ ยลมออกคอ จะดนั ให้ลมออกมาทางปาก
ข. ขณะท่ีปลอ่ ยลมออกคอ และกลา้ มเนอื้ ส่วนลา่ งจะดันให้
ลมออกมาทางปาก
ค. ขณะท่ีปล่อยลมออกกระบังลม และกลา้ มเนอื้ สว่ นลา่ งจะดนั ให้
ลมออกมาทางคอ
ง. ขณะทีป่ ลอ่ ยลมออกกระบังลม และกลา้ มเนอื้ ส่วนลา่ งจะดนั ให้
ลมออกมาทางปาก
8. ล่มิ นิ้วสขี าว มกี ล่ี ม่ิ นว้ิ
ก. มี 16 ลมิ่ นิว้
ข. มี 17 ล่ิมนิ้ว
ค. มี 18 ล่ิมนว้ิ
ง. มี 19 ล่มิ นว้ิ
9. (F#) คอื ระดบั เสยี งใด
ก. เสียงเรชาร์ป
ข. เสียงฟาชารป์
ค. เสยี งลาชารป์
ง. เสียงซอลชาร์ป
10. (Eb) คอื ระดบั เสยี งใด
ก. เสียงมแี ฟลช
ข. เสยี งเรชารป์
ค. เสยี งลาชาร์ป
ง. เสียงซอลชาร์ป
4
ใบความรทู้ ่ี 1 เร่อื ง บนั ไดเสียงซีเมเจอร์ (The Scale of C major)
การฝึกเมโลเดยี นขนั้ พน้ื ฐาน นกั เรียนจะต้องทราบตาแหนง่ ทีท่ าให้เกดิ ระดับ
เสียงบนเครื่องดนตรีและควรหมั่นฝึกปฏิบัติการเป่าโน้ตในระดับเสียงต่าง ๆ อยู่
ตลอดเวลา เพราะบทเพลงทุกบทเพลงย่อมมีระดับเสียงของโน้ตเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่ง
ทาให้เกิดความแตกต่างของระดับเสียง ทั้งเสียงสูงและเสียงต่า ความแตกต่างน้ีจะ
ทาใหน้ า้ เสียงทปี่ ฏิบตั อิ อกมาชดั เจน กอ้ งกังวาน ส่งผลให้บทเพลงท่ีบรรเลงมีความ
ไพเราะและนา่ ฟังมากย่ิงข้นึ
บันไดเสยี งซีเมเจอร์ (The Scale of C major)
บันไดเสียง หมายถึง ระยะของเสียงที่เรียงลาดับจากเสียงต่าไปยังเสียงสูงหรืออาจ
จะไล่จากเสียงสูงมายังเสียงต่าให้ครบ 8 เสียง เสียงท่ี 1 เรียกว่า โทนิค หรือ คีย์โทน ใน
การปฏิบัตเิ ครอื่ งดนตรนี นั้ จาเป็นอย่างย่ิง ทจ่ี ะตอ้ งมกี ารไลร่ ะดับเสยี ง เพอ่ื ให้ทราบระดับ
เสียงและตัวโน้ตที่อยู่ในบันไดเสียงสาหรับที่จะบรรเลงเพลงได้ถูกต้องตามหลักการและ
ตามบทเพลงท่ี กาหนด บันไดเสียงซีเมเจอร์จะเร่ิมจากโน้ตตัว C ไล่ไปเรื่อย ๆ จน ถึง
เสียง ท่ี 8 คอื โนต้ ตัว C สูง มีรายละเอยี ด ดังภาพ
5
ตาแหนง่ ท่ที าใหเ้ กดิ ความแตกตา่ งของระดบั เสียง
เครือ่ งดนตรีแต่ละชนิดมีวิธกี ารทาใหเ้ กิดระดับเสียงของโนต้ ที่แตกต่างกนั ไป ในการ
ฝึกปฏบิ ัติเครอ่ื งดนตรีนน้ั นกั เรียนต้องปฏบิ ัตใิ ห้ระดบั เสยี งของเคร่ืองดนตรตี รงกับโน้ตที่
กาหนดให้ ในการฝกึ ปฏิบตั เิ มโลเดียนนักเรียนต้องศึกษาและให้ความสาคญั กบั ตาแหน่งท่ี
ทาให้เกดิ ความแตกตา่ งระหวา่ งเสียงด้วยการกดตาแหนง่ นวิ้ ลงบนล่ิมนว้ิ เพื่อทจี่ ะปฏบิ ตั ิ
ระดับเสียงได้ถูกต้องตรงกบั โนต้ ท่ีกาหนดให้ ดังนี้
ในการปฏบิ ัติเมโลเดยี นนกั เรียนจะตอ้ งเร่ิมปฏบิ ตั ิจากโน้ตตัวแรกสุดก็คอื โนต้ ตัว C
(Middle C) ไลข่ นึ้ ไปจนถงึ โน้ต C สงู และโน้ต C สูงไล่ลงมาจนถงึ โนต้ C ( Middle C )
ซงึ่ จะต้องมีการวางน้วิ ทถ่ี ูกต้องโดยมวี ธิ ีการไล่บนั ไดเสยี ง
ภาพ : นกั เรียนทากจิ กรรมเป่าเมโลเดยี น
ทีม่ า : นายนิทศั น์ ถวิลเวทนิ
6
กิจกรรมการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง การปฏบิ ัตจิ งั หวะหลกั
ตัวช้วี ัดชั้นปี ศ 2.1 ป 4/3 ระบุทิศทางการเคลอื่ นท่ขี นึ้ – ลงง่าย ๆ ของทานองรูปแบบจงั หวะ
และความเร็วของจงั หวะในเพลงท่ีฟัง
ศ 2.1 ป 4/4 อ่าน เขียนโน้ตดนตรไี ทยและสากล
คาชแี้ จง ให้นกั เรียนตอบคาถามที่กาหนดใหถ้ ูกตอ้ ง (ขอ้ ละ 5 คะแนน)
1. ให้นักเรียนอธบิ ายการจับเมโลเดยี นท่ถี กู ตอ้ ง
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
2. ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายทา่ ทางในการเป่าเมโลเดยี น
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
ต้ังใจกันหน่อยนะครับ
7
ใบความรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง เทคนคิ การหายใจขณะเป่าเมโลเดยี น
การหายใจขณะเปา่ เมโลเดยี น
ท่ีถูกต้องจะช่วยให้การเปา่ เมโลเดียน
ดีขึ้น การวางปากใหถ้ ูกต้อง สามารถ
ควบคุมนา้ เสยี งและประโยคของเพลง
ได้ในการปฏบิ ัตเิ ครอ่ื งเปา่ จาเปน็ ต้อง
ใช้ลมในการปฏิบัติมากกวา่ ปกติจงึ ต้อง
เรยี นรู้การใช้กระบังลม ในการปฏบิ ตั ิ
เครอ่ื งเปา่ ใหม้ ีคุณภาพตอ้ งให้ความสาคัญ ภาพ : การหายใจขณะเป่าเมโลเดยี น
เป็นอนั ดบั หนง่ึ คอื “การหายใจ” เพราะ ที่มา : นายนทิ ศั น์ ถวลิ เวทนิ
การหายใจทถ่ี กู ต้องจะทาให้เสียงเคร่ืองเป่าท่ีปฏิบัติออกมามีคุณภาพเสียง
ชัดเจน น้าเสียงก้องวังวานและสดใส ดงั นน้ั นกั เรยี นจงึ ควรเรยี นรวู้ ิธกี ารหายใจท่ี
ถกู วิธซี ่ึงในกระบวนการหายใจสาหรับการปฏบิ ตั เิ คร่อื งเป่านน้ั จะประกอบด้วย 2
ลักษณะ ไดแ้ ก่ การหายใจเขา้ และการเป่าลมออก
ภาพ : การหายใจเขา้ ภาพ : การเปา่ ลมออก
ทม่ี า : นายนทิ ัศน์ ถวลิ เวทนิ ทีม่ า : นายนทิ ัศน์ ถวลิ เวทิน
8
กระบวนการหายใจ
กระบวนการหายใจสาหรับเคร่ืองเป่า ประกอบด้วย 2 ลกั ษณะ คอื การหายใจเข้า
และการเป่าลมออก
การหายใจเข้า การหายใจเขา้ ที่ถูกต้องไมว่ ่าจะน่ังหรือยืนควรอยู่ในลกั ษณะอกผาย
ไหล่ผ่ึง (แต่ไม่ยกไหล่) อย่างธรรมชาติคือ ไม่เกร็ง อ้าปากโดยดึงขากรรไกรลงแล้วปิด
หลอดลมใหก้ วา้ งเหมอื นอาการหาว แลว้ สดู ลมเขา้ ทางปากจนเตม็ ทอ้ งนอ้ ย กระบังลม ปอด
และหน้าอก การหายใจเขา้ แบ่งออกเปน็ 3 ระยะ ไดแ้ ก่
การหายใจเขา้ ระยะที่ 1 เพิ่ม
ลมบรเิ วณกระบังลมส่วนลา่ งอาจใช้ มือ
ข้างใดข้างหน่ึงแตะบริเวณหนา้ ท้อง โดยให้
นิ้วกอ้ ยอยบู่ รเิ วณสะดอื หรอื บรเิ วณซโ่ี ครง
ซี่สุดท้าย เมอ่ื หายใจ เข้าจะรสู้ กึ วา่ ทอ้ ง
จะป่อง
การหายใจเขา้ ระยะท่ี 2 เพม่ิ ภาพ : การหายใจเข้า
ลมจากระยะท่ี 1 ลมจะเพิม่ จานวนมากขึ้น ท่ีมา : นายนทิ ัศน์ ถวิลเวทนิ
โดยเฉพาะบรเิ วณกระบังลมสว่ นบน เอามอื
อกี ขา้ งหนึ่งจับบริเวณซโี่ ครงใตร้ ักแร้ เมอื่
หายใจเข้าระยะ ท่ี 2 จะร้สู กึ ว่ากลา้ มเนอื้
บริเวณน้ันขยายออกเลก็ น้อย
การหายใจเขา้ ระยะที่ 3 เพิ่มลมให้ ภาพ : การหายใจออก
เตม็ ปอดจนรูส้ กึ วา่ หน้าอกยกข้นึ เล็กนอ้ ย ท่ีมา : นายนทิ ศั น์ ถวิลเวทนิ
9
การทางานของอวัยวะเมอื่ หายใจเขา้
ระยะท่หี ายใจเข้าจะรสู้ กึ วา่ กระบังลม ปอด หนา้ อกขยายออก
ขณะหายใจเข้า
อากาศทมี่ อี อกซิเจน กระบังลมเล่ือนต่า
กระดกู ซีโ่ ครงขยบั
ขึ้นและกางออก
ภาพ : แสดงการทางานของอวยั วะเมอ่ื หายใจเขา้
ทีม่ า : นายนทิ ัศน์ ถวิลเวทนิ
การเป่าลมออก
ในชีวิตประจาวนั การหายใจออกเปน็ เร่ืองงา่ ย เพราะไม่ตอ้ งควบคมุ ลมแตก่ ารเป่า
ลมออก สาหรับ เครอ่ื งเป่าต้องมีการควบคุมลมให้ออกอย่างสมา่ เสมอหรือตามความ
ต้องการ ขณะที่ปลอ่ ยลมออกกระบงั ลม และกล้ามเนอ้ื ส่วนลา่ งจะดันใหล้ มออกมาทาง
ปาก ดงั ภาพ
ขณะหายใจออก
อากาศที่มีคารบ์ อนไดออกไซค์ กระบังลมเล่อื นสงู ขนึ้
กระดูกซ่โี ครงขยับลง
และหบุ เข้า
ภาพ : แสดงการทางานของอวัยวะเมื่อหายใจออก
ที่มา : นายนทิ ศั น์ ถวิลเวทนิ
10
กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง เทคนิคการหายใจ
ตวั ชวี้ ดั ช้ันปี ศ 2.1 ป 4/3 ระบุทศิ ทางการเคล่ือนทข่ี ้นึ – ลงง่าย ๆ ของทานองรูปแบบจงั หวะ
และความเร็วของจังหวะในเพลงที่ฟัง
ศ 2.1 ป 4/4 อ่าน เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสากล
คาชี้แจง ให้นกั เรียนฝกึ กาหนดลมหายใจดังน้ี (10 คะแนน)
1. หายใจเข้า 4 จังหวะ กลน้ั หายใจ 4 จงั หวะ เปา่ ลมออก 4 จงั หวะ ทาตดิ ตอ่ กนั
4 -5 ครั้ง
2. หายใจเขา้ 4 จงั หวะ กลัน้ หายใจ 4 จังหวะ เปา่ ลมออก 8 จงั หวะ ทาติดตอ่ กัน
4 - 5 คร้ัง
3. หายใจเข้า 4 จังหวะ กล้นั หายใจ 4 จังหวะ เป่าลมออก 12 จังหวะ ทาตดิ ตอ่ กัน
4 -5 คร้งั
หมายเหตุ ขณะฝกึ กาหนดลมหายใจทุกคร้งั ใหพ้ ยายามควบคมุ ลมใหส้ มา่ เสมอ
4. นาน้าใส่แกว้ แลว้ เป่าดว้ ยหลอดกาแฟ ใหฟ้ องน้าอยู่ในระดับเดยี วกันจนหมดลม
5. เปา่ เทียน เป่าเปลวเทียนเอนนอนคงที่แต่ไมใ่ ห้เทียนดับ โดยควบคุมปริมาณของ
ลมท่เี ปา่ ออกทานองเดยี วกับกับเป่าด้วยหลอดกาแฟ
ขอ้ สงั เกต
1. การหายใจท่ีถกู ตอ้ ง ในการเปา่ หลอดลมจะเปดิ ตลอดเวลา สามารถทดสอบไดโ้ ดย
หายใจเข้าจน เต็มท่ี กลนั้ ลมหายใจแลว้ ยังสามารถพดู ได้แสดงวา่ หายใจถูกต้อง
2. หยุดลมโดยใช้กล้ามเนื้อของกระบงั ลมบังคับ ไม่ใช้วิธกี ารปดิ หลอดลม
3. ขณะทเ่ี ป่ากลา้ มเน้อื จะตงึ เกดิ จากแรงดนั ของกระบงั ลม กลา้ มเนอื้ หน้าทอ้ งจะ
คอ่ ยๆ เข้าทลี ะนิดๆ ขณะเปา่ แตไ่ มเ่ รว็ จนเกนิ ไปเพราะแรงดนั ของกระบงั ลมดนั ให้ลม
ออกสูช่ อ่ งปาก
11
ความไมถ่ กู ต้องในขณะฝกึ ปฏิบัติ
1. หายใจทางจมูก
2. หายใจบอ่ ยขณะทีเ่ ปา่ โดยไมจ่ าเป็น
3. หายใจมีเสยี งดัง
4. มลี มไมเ่ พยี งพอ
5. ยกอก ยกไหลห่ รอื เกร็งกล้ามเนอื้ บรเิ วณต้นคอขณะหายใจเขา้
6. ไม่สามารถควบคุมเสยี งใหอ้ ย่ใู นระดับเดยี วกัน
ความถกู ต้องของการหายใจ
1. เปดิ หลอดลมและหายใจทางปาก
2. มลี มพอที่จะเป่าให้หมดประโยคเพลง
3. หายใจเขา้ อยา่ งรวดเร็วโดยได้ปริมาตรของลมทตี่ อ้ งการ
4. หายใจเตม็ ปอดทุกครั้ง
5. ไมเ่ คลอื่ นไหวอวัยวะส่วนอนื่ ทไี่ มเ่ ก่ียวขอ้ งกบั การหายใจ เช่น ไหล่ เปน็ ต้น
6. สามารถควบคมุ ลมใหอ้ อกมาอยา่ งสมา่ เสมอตามต้องการ
12
ใบความรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง ตาแหนง่ เสียงของเมโลเดียน
ล่มิ น้วิ ประกอบด้วยลม้ิ นิว้ สีขาว กบั ล่ิมน้ิวสีดาสลบั กัน มี 27 ลิ่ม ตามทฤษฏีดนตรี
สากล จะมีเสียงเต็มและคร่ึงเสียง ยกเว้นตาแหน่งเสียงระหว่างเสียง ท ( B ) – ด ( C )
และ ม ( E ) – ฟ ( F ) ที่ไม่มีล่ิมน้ิวสีดาคั่น เพราะเป็นระดับเสียงที่ห่างกันครึ่งเสียง
ตามทฤษฏีของดนตรีสากล ระบบเสียงของเมโลเดี้ยนอัลโต้ มีลักษณะดังนี้ คือ
1. ลม่ิ นวิ้ สขี าว มี 16 ล่มิ นวิ้ ประกอบไปดว้ ยโนต้ เสยี งต่างๆ ดงั น้ี
ลิว่ น้ิวท่ี สญั ลักษณ์ เสยี ง
1 ฟ ฟา
2 ซ ซอล
3 ล ลา
4 ท ที
5 ด โด
6 ร เร
7 ม มี
8 ฟ ฟา
9 ซ ซอล
10 ล ลา
13
ล่ิวนิว้ ที่ สญั ลักษณ์ เสยี ง
11 ท ที
12 ด โด
13 ร เร
14 ม มี
15 ฟํ ฟา
16 ซ ซอล
2. ล่ิมน้วิ สดี า คือ ลม้ิ นว้ิ ท่ีเป็นเสยี งดนตรี ครึ่งเสียงตามทฤษฏโี น้ตสากล ในเมโลเดียน
เสียงอัลโต้น้ัน มีลิ่มน้ิวคร่ึงเสียงอยู่ท้ังส้ิน 11 ลิ่ม ประกอบด้วยโน้ต ตาแหน่งเสียงของเม
โลเดียน คู่เสียงเอ็นฮาร์โมนิค (Enharmonic) คือ เสียงที่เป็นระดับเสียงเดียวกันแต่
เรียกชื่อต่างกันคือ เสียงฟาชาร์ป(F#) กับซอลแฟลช(Gb) เสียงซอลชาร์ป(G#) กับลา
แฟลช(Ab) เสียงลาชาร์ป (A#) กับ ทีแฟลช(Bb) เสียงโดชาร์ป(C#) กับเร แฟลช(Db)
เสียงเรชาร์ป (D#) กับ มแี ฟลช(Eb) ดังรปู
ลว่ิ นิ้วท่ี สญั ลักษณ์ ชาร์ป (#) สัญลกั ษณ์ แฟลช ( b )
1 ฟ# ซb
2 ซ# ลb
3 ล# ทb
4 ด# รb
5 ร# มb
6 ฟ# ซb
7 ซ# ลb
8 ล# ทb
9 ฟ# รb
10 ร# มb
11 ฟ# ซb
14
กิจกรรมการเรียนรูท้ ่ี 3
เรื่อง ออกแบบผังกราฟกิ เรอื่ ง ตาแหน่งเสยี งของเมโลเดยี น
ตัวชว้ี ัดชนั้ ปี ศ 2.1 ป 4/3 ระบทุ ศิ ทางการเคล่อื นท่ขี ึน้ – ลงง่าย ๆ ของทานองรูปแบบจังหวะ
และความเร็วของจังหวะในเพลงที่ฟัง
ศ 2.1 ป 4/4 อ่าน เขียนโนต้ ดนตรไี ทยและสากล
คาช้แี จง ให้นกั เรียนออกแบบผังกราฟกิ เรือ่ ง ตาแหนง่ เสียงของเมโลเดียน และวาดภาพ
ประกอบใหส้ วยงาม พรอ้ มสรุปเน้ือหา (10 คะแนน)
15
แบบทดสอบหลังเรยี น
เล่มท่ี 4 เรื่อง การเป่าเมโลเดยี นเบื้องต้น
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนทาเครอ่ื งหมาย ลงบนหน้าขอ้ คาตอบทีถ่ กู ต้อง
1. ข้อใดอธิบายกระบวนการหายใจในการเป่าเมโลเดยี นไดถ้ ูกต้อง
ก. การหยุดใจ
ข. การหายใจเข้า
ค. การเปา่ ลมออก
ง. การหายใจเข้า และการเป่าลมออก
2. ขอ้ ใดอธิบายการหายใจเขา้ ในการเปา่ เมโลเดยี นไดถ้ ูกต้อง
ก. ห่อไหล่ เกรง็ ตัว อา้ ปาก
ข. อกผายไหลผ่ ึ่ง ไมเ่ กรง็ อ้าปาก
ค. สดู ลมเขา้ ทางปากจนเต็มกระพุง้ แกม้
ง. ดงึ ขากรรไกรลงแล้วปดิ หลอดลมให้กว้างเหมือนอาการไอ
3. ข้อใดเปน็ การจับเมโลเดยี นทไี่ มถ่ ูกต้อง
ก. หันเมโลเดียนเขา้ หาลาตวั ของผูเ้ ปา่
ข. ใช้มอื ซ้ายจบั เมโลเดยี นหันหน้าเมโลเดยี น
ค. เมโลเดยี นอยรู่ ะดบั เสมอหน้าเอวของผูเ้ ปา่
ง. มือขวาของผ้เู ป่าวางไวท้ ่ลี ม้ิ น้ิวของเมโลเดียน
4. ข้อใดอธิบายท่าทางในการเปา่ เมโลเดียนไดถ้ กู ต้อง
ก. การเป่าแบบใชท้ อ่ และการเปา่ แบบใช้ปากเปา่
ข. การเปา่ แบบใชท้ ่อและการเป่าแบบใช้จมูกเป่า
ค. การเปา่ แบบใช้สายและการเป่าแบบใชจ้ มกู เป่า
ง. การเปา่ แบบใช้สายและการเปา่ แบบใช้ปากเป่า
5. ขอ้ ใดอธิบายการเป่าลมออกในการเปา่ เมโลเดียนได้ถกู ต้อง
ก. ขณะที่ปลอ่ ยลมออกคอ จะดันให้ลมออกมาทางปาก
ข. ขณะทป่ี ลอ่ ยลมออกคอ และกลา้ มเนอ้ื ส่วนลา่ งจะดนั ให้
ลมออกมาทางปาก
ค. ขณะท่ปี ลอ่ ยลมออกกระบังลม และกลา้ มเนอ้ื สว่ นล่างจะดนั ให้
ลมออกมาทางคอ
ง. ขณะทป่ี ลอ่ ยลมออกกระบงั ลม และกลา้ มเนอ้ื สว่ นล่างจะดันให้
ลมออกมาทางปาก
16
6. ล่มิ นว้ิ สขี าว มีกลี่ ิ่มนวิ้
ก. มี 16 ล่มิ นิ้ว
ข. มี 17 ล่ิมนิ้ว
ค. มี 18 ลมิ่ น้ิว
ง. มี 19 ลิม่ น้วิ
7. ข้อใดอธิบายการหายใจเขา้ ระยะที่ 1 เข้าในการเป่าเมโลเดยี น
ได้ถกู ต้อง
ก. เมอื่ หายใจ เข้าจะรสู้ กึ ว่าทอ้ งจะปอ่ ง
ข. เมอ่ื หายใจ รู้สึกว่าหนา้ อกยกขนึ้ เลก็ น้อย
ค. เมือ่ หายใจ รู้สกึ วา่ บริเวณคอขยายออกเล็กน้อย
ง. เม่อื หายใจ รู้สึกว่าซโี่ ครงใตร้ ักแร้ขยายออกเล็กนอ้ ย
8. ข้อใดอธบิ ายการทางานของอวยั วะเมอ่ื หายใจเขา้ ได้ถกู ตอ้ ง
ก. ระยะทหี่ ายใจเขา้ จะรู้สกึ ว่ากระบังลม
ข. ระยะทีห่ ายใจเขา้ จะรู้สึกวา่ กระบงั ลม ปอด
ค. ระยะท่หี ายใจเข้าจะรสู้ กึ วา่ กระบังลม ปอด หน้าอกขยายออก
ง. ระยะท่ีหายใจเขา้ จะรู้สึกว่า คอ กระบงั ลม ปอด หน้าอกหดตัว
9. (Eb) คอื ระดบั เสียงใด
ก. เสียงมแี ฟลช
ข. เสยี งเรชาร์ป
ค. เสยี งลาชารป์
ง. เสียงซอลชาร์ป
10. (F#) คอื ระดับเสยี งใด
ก. เสยี งเรชาร์ป
ข. เสียงฟาชาร์ป
ค. เสยี งลาชาร์ป
ง. เสียงซอลชาร์ป
17
ภาคผนวก
18
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
1. ค 2. ง 3. ง 4. ข 5. ก
6. ก 7. ค 8. ก 9. ข 10. ก
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
1. ง 2. ค 3. ค 4. ง 5. ง
6. ก 7. ก 8. ค 9. ก 10. ข
ทาข้อสอบถูกกันบ้างไหม
เพือ่ นๆ
19
เฉลยกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง การปฏิบตั จิ ังหวะหลัก
ตัวช้ีวดั ชนั้ ปี ศ 2.1 ป 4/3 ระบทุ ิศทางการเคลอื่ นทขี่ ้ึน – ลงง่าย ๆ ของทานองรูปแบบจงั หวะ
และความเร็วของจังหวะในเพลงที่ฟงั
ศ 2.1 ป 4/4 อ่าน เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสากล
คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามทก่ี าหนดให้ถูกตอ้ ง (ข้อละ 5 คะแนน)
1. ให้นักเรยี นอธบิ ายการจับเมโลเดยี นทถี่ ูกตอ้ ง
...ก...า.ร..จ...ับ..เ.ม...โ.ล...เ.ด..ีย..น...น...ั้น..จ..ะ..ใ..ช..้ม...ือ..ซ..้า..ย...จ..บั ..เ..ม..โ.ล...เ.ด..ยี..น...ห...ัน..ห...น..้า..เ.ม...โ.ล...เ.ด..ยี..น....เ.ข...้า..ห..า..ล..า..ต...ัว..ข..อ..ง..ผ..ู้เ..ป..่า.......
...ใ..น..ร..ะ..ด...ับ..เ.ส...ม..อ...ห..น...้า..อ..ก..ข..อ...ง..ผ..ู้เ.ป...่า..เ.อ..ง...ม...ือ..ข..ว..า..ว..า..ง..ไ.ว..ท้...่ลี..ิ้ม...น..วิ้..ข...อ..ง..เ.ม..โ..ล..เ.ด...ยี ..น....น..า..ส..า..ย...เ.ป..า่..ห...ร..ือ........
...ป...า..ก..เ.ป...่า..อ..ย..ใู่..น..ป...า..ก..เ.ต...ร..ีย..ม..ก...า..ร..เ.ป..า่..เ.ป...น็...เ.พ..ล...ง...ท...า่ .ท...า..ง..ใ.น...ก..า..ร..จ..ับ...เ.ม..โ..ล..เ.ด..ยี...น..น...้ัน..โ..ด..ย..ท...วั่..ไ.ป...ท...ี่ใ.ช..้......
...ก...ัน..อ...ย..ู่บ..่อ...ย..ๆ.......................................................................................................................
2. ให้นักเรียนอธบิ ายทา่ ทางในการเปา่ เมโลเดยี น
....ท...า่ ..ท..า..ง..ใ.น...ก..า..ร..เ.ป...า่ ..เ.ม..โ..ล..เ.ด...ีย..น..น...้ัน...ม..อี..ย...ู่ .2...ท...า่..ค..อื....ก..า..ร..เ.ป...า่..แ..บ...บ..ใ..ช..ส้..า..ย..แ...ล..ะ.....ก..า..ร..เ.ป...่า..แ..บ..บ...ใ.ช...้ ......
....ป...า..ก..เ.ป...า่ ...............................................................................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
ตั้งใจกันหน่อยนะครับ
20
เฉลยกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง เทคนิคการหายใจ
ตวั ชีว้ ดั ช้นั ปี ศ 2.1 ป 4/3 ระบทุ ิศทางการเคลอื่ นท่ขี ้ึน – ลงง่าย ๆ ของทานองรูปแบบจังหวะ
และความเร็วของจงั หวะในเพลงที่ฟงั
ศ 2.1 ป 4/4 อา่ น เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสากล
คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนฝกึ กาหนดลมหายใจดังนี้ (10 คะแนน)
1. หายใจเข้า 4 จงั หวะ กลั้นหายใจ 4 จังหวะ เป่าลมออก 4 จงั หวะ ทาตดิ ต่อกัน
4 -5 ครงั้
2. หายใจเขา้ 4 จงั หวะ กลัน้ หายใจ 4 จงั หวะ เป่าลมออก 8 จงั หวะ ทาติดตอ่ กัน
4 - 5 ครง้ั
3. หายใจเข้า 4 จังหวะ กลั้นหายใจ 4 จังหวะ เป่าลมออก 12 จังหวะ ทาตดิ ต่อกัน
4 -5 ครัง้
หมายเหตุ ขณะฝึกกาหนดลมหายใจทกุ ครัง้ ใหพ้ ยายามควบคมุ ลมให้สม่าเสมอ
4. นานา้ ใสแ่ กว้ แล้วเป่าด้วยหลอดกาแฟ ให้ฟองน้าอยู่ในระดับเดยี วกนั จนหมดลม
5. เปา่ เทียน เปา่ เปลวเทียนเอนนอนคงท่แี ต่ไมใ่ หเ้ ทียนดับ โดยควบคมุ ปรมิ าณของ
ลมทีเ่ ปา่ ออกทานองเดียวกับกับเป่าด้วยหลอดกาแฟ
ข้อสังเกต
1. การหายใจท่ถี ูกตอ้ ง ในการเปา่ หลอดลมจะเปิดตลอดเวลา สามารถทดสอบได้โดย
หายใจเขา้ จน เต็มที่ กลน้ั ลมหายใจแล้วยังสามารถพดู ไดแ้ สดงวา่ หายใจถกู ตอ้ ง
2. หยดุ ลมโดยใชก้ ลา้ มเนือ้ ของกระบงั ลมบงั คับ ไม่ใชว้ ธิ กี ารปดิ หลอดลม
3. ขณะทเี่ ป่ากลา้ มเนื้อจะตงึ เกดิ จากแรงดันของกระบงั ลม กลา้ มเนอื้ หนา้ ท้องจะ
ค่อยๆ เขา้ ทีละนิดๆ ขณะเปา่ แตไ่ ม่เรว็ จนเกนิ ไปเพราะแรงดันของกระบังลมดนั ใหล้ ม
ออกสู่ช่องปาก
21
ความไมถ่ กู ต้องในขณะฝกึ ปฏิบัติ
1. หายใจทางจมูก
2. หายใจบอ่ ยขณะทีเ่ ปา่ โดยไมจ่ าเป็น
3. หายใจมีเสยี งดัง
4. มลี มไมเ่ พยี งพอ
5. ยกอก ยกไหลห่ รอื เกร็งกล้ามเนอื้ บรเิ วณต้นคอขณะหายใจเขา้
6. ไม่สามารถควบคุมเสยี งใหอ้ ย่ใู นระดับเดยี วกัน
ความถกู ต้องของการหายใจ
1. เปดิ หลอดลมและหายใจทางปาก
2. มลี มพอที่จะเป่าให้หมดประโยคเพลง
3. หายใจเขา้ อยา่ งรวดเร็วโดยได้ปริมาตรของลมทตี่ อ้ งการ
4. หายใจเตม็ ปอดทุกครั้ง
5. ไมเ่ คลอื่ นไหวอวัยวะส่วนอนื่ ทไี่ มเ่ ก่ียวขอ้ งกบั การหายใจ เช่น ไหล่ เปน็ ต้น
6. สามารถควบคมุ ลมใหอ้ อกมาอยา่ งสมา่ เสมอตามต้องการ
22
เฉลยกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 3
เรือ่ ง ออกแบบผงั กราฟิก เร่อื ง ตาแหน่งเสยี งของเมโลเดียน
ตัวชว้ี ัดชัน้ ปี ศ 2.1 ป 4/3 ระบทุ ิศทางการเคลื่อนท่ขี นึ้ – ลงง่าย ๆ ของทานองรูปแบบจังหวะ
และความเร็วของจงั หวะในเพลงท่ีฟัง
ศ 2.1 ป 4/4 อา่ น เขียนโน้ตดนตรีไทยและสากล
คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนออกแบบผงั กราฟิก เรื่อง ตาแหนง่ เสียงของเมโลเดยี น และวาดภาพ
ประกอบใหส้ วยงาม พรอ้ มสรุปเนื้อหา (10 คะแนน)
23
บรรณานกุ รม
กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2560). หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551.
กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ไขแสง ศขุ ะวฒั นะ. (2561). สังคีตนยิ มว่าด้วยดนตรตี ะวนั ตก. กรุงเทพฯ : สานักพมิ พแ์ ห่ง
จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั .
คมสันต์ วงค์วรรณ์. (2560). ดนตรตี ะวันตก. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั .
ณชั ชา โสคตยิ านรุ ักษ.์ (2559). ทฤษฎีดนตรี. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 3. กรงุ เทพฯ : จุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั .
ประทีป นกั ป.่ี (2560). หนังสือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ดนตรี-นาฎศลิ ป์ ป.4. กรงุ เทพฯ :
อักษร อินสไปร์.
วรี ะ พันธเ์ สอื . หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน ดนตรี-นาฎศลิ ป์ ป.4. กรุงเทพฯ :
กรพัฒนายิง่ จากัด.
สถาบันพฒั นาวชิ าการ. (2558). คมู่ อื ครูหนงั สือเรยี นสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ตามหลกั สูตร
การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ : พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.).
สุมนมาลย์ นม่ิ เนตพิ นั ธแ์ ละคณะ. (2560). ดนตรี-นาฏศลิ ป์ ป.4. กรงุ เทพฯ : อกั ษรเจริญทศั น.์
สาเร็จ คาโมง. (2560). ทฤษฎีดนตรสี ากล ฉบบั บรรพสตู ร. กรงุ เทพฯ : ฐานบณั ฑิต.
24