พน้ื ฐาน
การวาดภาพ
หนังสือเลม่ น้ีเป็นส่วนหน่ึงของการจดั การเรยี นการสอนศิลปะ สำหรับนักเรยี น
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 โดยมจี ุดประสงคเ์ พือ่ ศกึ ษาความรู้ทไ่ี ด้จากพ้ืนฐาน
การวาดภาพ ระบายสี ประกอบด้วย การวาดภาพ วัสดุและอุปกรณ์ การวาดเสน้
ภาพลายเส้นกับงานออกแบบ ความหมายของเส้น การระบายสี
ประเภทของสี ขั้นตอนการระบายสี และกิจกรรมท้ายเลม่
ผจู้ ัดทำได้เลอื กทำหัวข้อน้ีมาทำเปน็ หนังสือศิลปะสำหรับเด็กประถมศึกษาปที ี่ 5
เนอ่ื งจากเป็นเร่ืองท่นี ่าสนใจ เปน็ ประโยชน์ต่อตนเองไดใ้ นอนาคต
ผู้จัดทำหวงั ว่าหนังสือเล่มนจ้ี ะใหค้ วามรู้ และเปน็ ประโยชนแ์ ก่ผทู้ ่ีอา่ นทกุ ๆ ทา่ น
เรือ่ ง หนา้
การวาดภาพ 1
วสั ดุและอุปกรณ์ 2
การวาดเส้น 3
ภาพลายเส้นกับงานออกแบบ 9
การระบายสี 15
ประเภทของสี 16
กิจกรรม ฝกึ ลายเส้นด้วยมือฉัน 45
แบบทดสอบ 50
ซ
การถา่ ยทอดอารมณ์สว่ นตัวของบุคคลนั้น ๆ
ออกมาเปน็ ลวดลายบนวตั ถุชนดิ ต่าง ๆ เช่น
กระดาษ, อุปกรณ์เครือ่ งมือ เครื่องใช้,
ผ้า,ตกึ ราบ้านช่อง และอีกมากมาย
ท่ีเราเห็นเปน็ ภาพไมว่ ่าจะเป็น
ภาพการต์ ูน ภาพคนเหมอื นภาพ
ที่เปน็ ลายเส้น เป็นตน้
ดินสอ
สี
ยางลบ จานสี
พ่กู ัน
กระดาษวาดภาพ
เป็นพนื้ ฐานของงานทัศนศิลป์และการออกแบบมีความสำคัญ
เป็นอย่างยิง่ เพราะการ วาดเสน้ ทำใหเ้ ขา้ ใจเรอ่ื งของ รูปทรง
โครงสรา้ ง สัดสว่ น ระยะ แสงเงา ทจ่ี ะนำมาประยุกต์ใชใ้ น
การสร้างงานศิลปะโดยการสรา้ งภาพสองมิติและสามมิติ
1 2 ใส่รายละเอยี ด และกำหนดแสงเงา
ตีเส้นกลาง และร่างภาพ 4 เก็บรายละเอียดภาพให้สวยงาม
ให้เป็นวงกลม
3
เติมแสงเงาให้กับภาพ
12
กำหนดตำแหน่ง และรา่ งภาพ วาดรายละเอียด
3 4 ใส่แสงเงา และเก็บรายละเอียด
กำหนดแสงเงา
1
เส้นเฉยี ง
2
3 เสน้ ตรงแนวนอน
เส้นตรงแนวตัง้
เสน้ หมายถึงจุดทม่ี าเรียงกัน จนสามารถแสดงเป็นแนวตัง้ แนวนอน
แสดงทิศทางทำใหเ้ กิดรปู ร่าง สามารถแสดงใหเ้ ห็นความเคลื่อนไหว
เสน้ ในลักษณะตา่ งๆ เมอ่ื นำมาบรรจบกันก็จะทำใหเ้ กิดรูปร่างข้ึน
เนื่องจากเสน้ มีหลายลักษณะต่างกัน จงึ มีความหมาย และคุณค่าไมเ่ หมอื นกนั
ซ่งึ พอจะแยกลักษณะ และคุณคา่ ของเส้นแตล่ ะชนิดได้ ดังน้ี
เสน้ ตรงแนวนอน เส้นตรงแนวตั้ง
ใหค้ วามรู้สกึ สงบนิ่ง เรียบง่าย ให้ความร้สู ึกแนน่ อน มัน่ คง ตรง
เสน้ ประ เส้นเฉียงหรือ เสน้ ทแยงมมุ
ใหค้ วามรู้สึกทไี่ ม่ต่อเน่อื ง ขาด หาย ไมช่ ัดเจน ให้ความรสู้ กึ เคลื่อนไหว รวดเร็ว ไมม่ ั่นคง
ทำใหเ้ กิดความเครยี ด
เสน้ โคง้ วงแคบ เสน้ โคง้ แบบคล่ืน
ให้ความรสู้ กึ ถึงพลังความเคลื่อนไหวทรี่ ุนแรง ใหค้ วามร้สู ึกสบาย เลื่อนไหล ต่อเนือ่ ง
การเปลย่ี นทิศทางท่ีรวดเร็ว ไมห่ ยุดนิ่ง สุภาพอ่อนโยน นุม่ นวล
เสน้ หยักหรือเส้นซกิ แซก แบบฟันปลา เส้นโคง้ แบบกน้ หอย
ให้ความรู้สกึ เคลื่อนไหว อย่างเป็นจังหวะ มีระเบยี บ ให้ความรู้สกึ เคลื่อนไหว หมุนวน
ไมร่ าบเรยี บ นา่ กลัว อันตราย ขัดแยง้ ความรุนแรง ความเคลอื่ นไหวทีไ่ มส่ ิน้ สุด
การเขียนภาพระบายสีหรอื งานจิตรกรรม
เปน็ การถา่ ยทอดความรู้สกึ หรอื ความงามลงไปบนพน้ื ระนาบ
จะลักษณะเปน็ 2 มิติ
เป็นสีแบบผงละเอยี ดผสมกับไขสัตวห์ รอื ขผ้ี ง้ึ อัดเปน็ แทง่ ให้เหมอื นดินสอ
ส่วนใหญเ่ หมาะสำหรบั เดก็ ในการใช้งาน คลา้ ยสชี อลก์ แต่ราคาถูกกวา่
เนอ่ื งจากมสี ่วนผสมอืน่ ๆ ปะปนรวมอยู่ด้วย
1. เหลาปลายดินสอใหแ้ หลม
จะช่วยให้เป็นเสน้ ควบคุมการ
ระบายได้ แสดงเอกลักษณ์ของสี
ไม้ ภาพคม
2. ระบายให้เปน็ เสน้ ไวก้ อ่ นในครั้งแรก โดยเหลือพื้นท่ขี อง
กระดาษ ชว่ ยใหภ้ าพมมี ิติ มากกว่าการระบายใหท้ บึ ทั้งหมด
และยังช่วยใหเ้ หลือพ้ืนทก่ี ระดาษสีขาวในการจะระบายสีครัง้
ตอ่ ๆ ไป เพื่อแก้ไขความไมส่ ม่าเสมอของสเี ดมิ หรอื ผสมสีใหม่
ใหเ้ กิดมิติ แสงเงา และความสวยงามได้มากยิ่งข้นึ
3. การระบายสีใหส้ มา่ เสมอ โดยพยายามระบายใหเ้ ปน็ เสน้ สั้นๆ
ทีละน้อย ช่วยให้เราเปรยี บเทยี บสีกบั พ้นื ทท่ี ่ีเราเพิ่งระบายไป
ทำให้กำหนดนา้ หนกั มอื ไดใ้ กลเ้ คียงกว่าการระบายเปน็ เสน้ ยาวๆ
4. การผสมสี
- ผสมสีโดยใชส้ ีทีแ่ ตกต่างกัน ระบายเป็นเส้นให้
เหลือเนือ้ กระดาษสีขาว ไวส้ ำหรับสีที่สองท่ีจะระบายลงไป
- การระบายสี โดย ใช้สที อี่ อ่ นกวา่ หรอื เข้มกว่า
ระบายทับในสว่ นทแี่ สดง แสงและเงา
เปน็ สีฝุ่นผงละเอียดผสมกับไขสัตวห์ รอื ขี้ผง้ึ
กอ่ นนำมาอัดเปน็ แทง่ ทึบแสง เขียนทับกันได้ ไม่ค่อยเกาะติดกับพื้น ขูด
จงึ นิยมใช้กับการฝึกหัดเดก็ ๆ เพอ่ื เสริมสร้างพัฒนาการดา้ นต่าง ๆ
เพราะใช้งานงา่ ย ไม่เลอะเทอะ
1. การไลน่ า้ หนักสีจากเขม้ – ออ่ น
เริ่มจากการระบายสีเทยี นจากเฉดสีท่ีเขม้ ที่สุด
ให้ชิดเส้นขอบรูปภาพ
ไล่ไปหาสีออ่ นสุดตามลำดับไปในทศิ ทางเดยี วกนั
รอยตอ่ ของสีตอ้ งประสานต่อกันใหเ้ นยี นทส่ี ุด
โดยใหป้ ลายของสีซ้อนทบั กัน เพ่อื จะทำให้เกิดแสงและเงาของภาพ
ทำให้ภาพทร่ี ะบายสเี ทียนนนั้ ดมู ีมิติมากข้ึน
2. การขดสี
การระบายสีแบบขดวนเปน็ วงกลมถ่ี ๆ
ให้ทั่วบริเวณในรปู ภาพท่ตี อ้ งการ โดยจะระบายขดซ้อนทับกันได้
หรือจะใช้หลาย ๆ สขี ดซ้อนทับกันก็ได้เช่นกัน
ตามแตจ่ ะจินตนาการได้เลยงา่ ย ๆ
แคน่ ก้ี ็จะไดภ้ าพทีส่ วยงามไมเ่ หมือนใคร
3. การประสี
เริ่มดว้ ยการนำสมี าขดี เป็นเส้นประไปตลอดเนื้อทภ่ี ายในรปู ภาพที่เราต้องการ
โดยทิศทางของการระบายสีเทยี นตอ้ งใหไ้ ปทศิ ทางเดียว
เส้นประท่รี ะบายสเี ทยี นนนั้ ชว่ งความยาวหรือความถีจ่ ะขึ้นอยูก่ ับความต้องการ
เม่อื ขดี แบบเสน้ ประสีทวั่ แล้วอาจเลือกหลายสตี ามใจชอบทำแบบเดยี วกัน
หลังจากนั้นถ้าพ้ืนทท่ี รี่ ะบายมีชว่ งความหา่ งของสีมากไป
จะใช้วิธีการระบายสีพน้ื แบบวิธีเชอ่ื มสีให้ทวั่ ทัง้ รูป
โดยการระบายสีเทียนตรงบรเิ วณทเ่ี ปน็ ชอ่ งว่างของสที เ่ี ปน็ เสน้ ประครั้งแรก
และต้องไม่ทับสีทปี่ ระไว้ระบายให้ทวั่ บริเวณทวี่ ่างใหท้ วั่ จนเสรจ็
สีชอลก์ เทียนหรอื สชี อล์กน้ามัน (Oil Pastel)
เป็นสที ีน่ ิยมใช้กันมากในหมขู่ องเด็กนกั เรยี นระดับอนบุ าลหรอื ระดับประถมศึกษา
เหมาะสำหรับการเขียนภาพระบายสที ไ่ี ม่ต้องการความละเอียดเหมอื นจริงมากนกั
เชน่ การเขียนภาพทวิ ทัศน์ ภาพหุ่นนิง่
1. การระบายสชี อลก์ ควรใช้กระดาษผิวหยาบ
เพือ่ ใหพ้ ้ืนผวิ ที่ขรขุ ระสามารถรองรบั เนื้อสไี ว้ได้
2. การระบายสชี ั้นแรกควรใชส้ เี ข้มกอ่ นเพราะสชี อล์กนา้ มันเป็นสที ที่ ึบแสง
ควรระบายสีใหก้ ลมกลนื กันไว้ เพราะตอ้ งเผอ่ื ความลกึ ของพน้ื ผวิ ไวใ้ ห้สชี ัน้ บนดว้ ย
จากนัน้ แลว้ การระบายสีชั้นตอ่ ๆไปจงึ เปน็ สอี อ่ นขึ้นตามลำดับ
3. ช่วงต่อตะเข็บระหว่างสี
ควรระบายใหบ้ างกว่าในส่วนทที่ บออกไปจะไดช้ ่วยใน
การผสมผสานกลมกลนื เปน็ ไปได้ง่าย
ลักษณะเฉพาะท่ีเด่นของสีนา้ กค็ อื ความโปร่งใส ( Transparent )
เวลาระบายใชพ้ กู่ ันแตะสีละลายกับนา้ ระบายบนกระดาษขาว
พยายามระบายไปครั้งเดยี ว ไมค่ วรระบายสตี ่างๆ ซ้าหรอื ทับกันหลายหน
เพราะจะทำใหส้ หี มน่ ขาดคุณสมบัตโิ ปร่งใส
และควรรกั ษาใหพ้ ู่กันสะอาดอย่เู สมอเมือ่ ต้องการเปลย่ี นสใี หม่
1. การระบายสนี า้ หนักอ่อนแก่
เปน็ เทคนิคที่สำคัญและเป็นพนื้ ฐานทสี่ ุดในการระบายสนี า้
การที่เราจะระบายสีนา้ ใหส้ ีไล่ระดับน้าหนกั ไดด้ นี นั้ สีตอ้ งไมแ่ ห้งต้องมนี า้
หลอ่ เลี้ยงอย่เู สมอ และ ตัง้ กระดาษเอียง 45 องศา
โดยประมาณ ระบายสจี ากบนลงลา่ ง
2. การระบายแบบสแี ห้งบนกระดาษแหง้
เปน็ การระบายโดยใช้สีทไี่ ม่ผสมนา้ หรือผสมเพยี งเล็กน้อยเท่านัน้ ลงบน
กระดาษแห้ง สที ไ่ี ดจ้ ากการระบายจะขรุขระ
ใช้สำหรับระบายภาพที่มีวตั ถทุ ่ีมีพน้ื ผวิ หยาบ
เชน่ หนา้ ผาหิน พน้ื ทางเดินทมี่ ลี ักษณะขรขุ ระ เปน็ ต้น
3. การระบายแบบสเี ปยี กบนกระดาษเปียก
เป็นการระบายโดยใชส้ ีทผ่ี สมน้าลงไปบนกระดาษทเ่ี ปยี ก
โดยการลงนา้ ไวแ้ ล้ว สีท่ไี ด้จากการระบายจะซมึ เข้าไป
ในกระดาษไดม้ ากกวา่ ปกติและจะมีลักษณะนวล ๆ
ใชส้ ำหรับระบายภาพที่ต้องการความรสู้ ึกนุ่มนวลหรอื ชุม่ น้า
เชน่ แมน่ า้ ลำธาร ทอ้ งฟา้ เป็นต้น
เปน็ สนี า้ ชนิดหนงึ่ เนอ่ื งจากมีนา้ เป็นสว่ นผสม นยิ มบรรจุขวด
มเี นอ้ื สีข้นค่อนขา้ งหยาบ
และมีคณุ สมบัติทบึ แสง เพราะเตมิ แป้งหรอื เนอ้ื สขี าวลงไป
เรียกวา่ “สแี ป้ง”
สโี ปสเตอร์ นอกจากการใช้พู่กันเกล่ยี สซี ้าทไี่ ดแ้ ลว้
ยังนิยมผสมกับสขี าว เมื่อตอ้ งการให้สีอ่อนลง
มากนอ้ ยเพียงใดกข็ นึ้ อยู่กับปรมิ าณสีขาวทผี่ สมลงไป
และเมอ่ื ตอ้ งการให้ความชดั ของสีหมน่ ลงหรอื
เมื่อตอ้ งการใหส้ นี ั้นมดื เขม้ ขน้ึ
กใ็ หผ้ สมด้วยสดี ำตามปรมิ าณมากนอ้ ยตามทตี่ ้องการ
1. การระบายจากสีแกไ่ ปหาสีอ่อน
เปน็ การระบายสโี ดยคำนึงถงึ เงาเขม้ ของภาพกอ่ น
แล้วค่อยลดน้าหนักใหอ้ ่อนจางลงด้วยการผสมสีขาว
หรือสใี กลเ้ คียงกันในวงจรสที ่ีมีนา้ หนกั ออ่ นลงตามลำดับ
มาผสมเพิม่ เขา้ ไปทลี ะน้อยในลักษณะของการไล่นา้ หนักสี
เพือ่ ใหภ้ าพสวา่ งกลมกลนื กัน
2. การรระบายจากสอี อ่ นไปหาสีแก่
เปน็ การระบายสีโดยคำนึงถงึ ส่วนสวา่ งหรอื
ส่วนที่ได้รับแสงก่อน แล้วจงึ ค่อยๆ เพิ่มนา้ หนักใหเ้ ขม้ ขึน้ ทลี ะนอ้ ย
ด้วยการผสมสีดำหรือสตี รงกันข้ามหรอื สใี กล้เคยี งกันในวงจรสี
ทมี่ นี า้ หนักเขม้ ขนึ้ ตามลำดับในลักษณะของการไล่นา้ หนกั สี
เพ่ือใหเ้ กิดการประสานกลมกลนื กัน
“สอี ะครีลิค” เป็นสที ่มี ีส่วนผสมของสารพลาสติกโพลีเมอร์ (Polymer)
จำพวก อะครลี ิค (Acrylic) หรอื ไวนิล (Vinyl) เปน็ สีท่ีมกี ารผลิตข้ึนมาใหมล่ ่าสุด
เวลาจะใช้นำมาผสมกับน้า ใช้งานได้เหมอื นกบั สนี ้า และสีน้ามัน
บอ่ ยครัง้ ทเี่ ราเรยี กเจา้ สอี ะคริลิควา่ เป็นสอี ัจฉริยะ เพราะมันสามารถนำไปใชก้ ับงานหลากหลายประเภท
แถมยังระบายได้กับหลายพนื้ ผวิ อีกต่างหาก ไมว่ า่ จะเป็น โลหะ ไม้ พลาสติก แกว้ ผา้ และกระดาษ
1. ให้แนใ่ จวา่ สีของคุณอยู่ในสภาพดี
สอี ะคริลิกนัน้ แหง้ ไดง้ ่าย ๆ ทำให้ใชง้ านลำบาก
- ใช้นา้ ฉีดใส่จานสีบ่อย ๆ ในระหว่างระบายสี
การมกี ระบอกฉดี นา้ เล็ก ๆ ใส่น้าไว้จนเตม็ อยู่ใกล้มอื ช่วยไดอ้ ยา่ งมาก
- บีบสอี ะคริลิกในปริมาณทลี ะเลก็ นอ้ ยเฉพาะเท่าทจ่ี ะระบายกพ็ อ
- คุณสามารถซอื้ จานสแี บบเปียกตลอดเพอื่ ช่วยให้สชี ุม่ ช้ืน
2. ควบคุมความทบึ เขม้ ของสดี ว้ ยนา้
ไมว่ ่าจะบีบออกมาจากหลอดโดยตรง หรอื ผสมกับสีขาวล้วน
สอี ะคริลิกท้งั หมดจะดทู ึบแสง ให้ควบคุมความทบึ แสงนี้
โดยการเติมน้ามากขึ้น ยิ่งผสมน้ามากขึน้ สกี ็จะยิ่งโปร่งแสง
เราจะใชส้ ีโปร่งแสงสำหรบั เวลาต้องการให้ดูเหมอื นใชส้ นี า้ หรอื ใชแ้ อรบ์ รัช
3. ระบายดว้ ยพูก่ ันขนาดใหญก่ ่อน
แล้วค่อยใช้พูก่ ันหัวเล็กตกแต่งรายละเอียด
เริม่ ด้วยเค้าโครงขอบรา่ งขนาดใหญแ่ ลว้ คอ่ ยไล่ลงไปหาส่วนที่ละเอียดกวา่ นนั้
คุณจะพบวา่ ตอนระบายขอบร่างใช้พู่กันหัวใหญร่ ะบายสีทบึ ดกี ว่า
แล้วค่อยใชส้ โี ปรง่ เวลาเกบ็ รายละเอยี ด
4. เอาพ่กู ันมาซับบ่อยจนเป็นนิสัย
หลังล้างสที ่ีติดพกู่ ันออกในนา้
ให้นำพกู่ ันสะอาดนัน้ มาซับนา้ หรอื เชด็ กบั ผ้าสะอาด
มันจะช่วยไมใ่ ห้นา้ ไหลข้ึนลงตามโคนขนแปรงพกู่ ัน
ทำให้เกิดรอยซึมของสบี นผนื ผา้ ใบ
เปน็ การผสมระหว่างสฝี ุน่ กับนา้ มันทสี่ ว่ นใหญเ่ ปน็ นา้ มันจากพืช
มักใชเ้ ขยี นบนผ้าใบที่เรยี กว่า งานแคนวาส คงทน กันน้า
เป็นสที ่ีศิลปินใชง้ านกันมาอยา่ งยาวนาน
ส่วนใหญ่เวลาวาดกนั ทใี ชเ้ วลาเปน็ เดอื นหรอื ปเี พราะสแี หง้ ช้า
สนี ้ามนั 1
เรยี นร้กู ารใชอ้ ุปกรณ์ เทคนิค การวาดภาพสนี า้ มัน ขั้นพ้ืนฐาน
การวาดภาพตามวรรณะสี เทคนิคเขยี นภาพแบบจุดสี
เขยี นภาพแบบทิ้งทแี ปรง โดยผ่านหุน่ นิง่ ดอกไม้ ผลไม้
สนี ้ามนั 2
เนน้ การวาดภาพสีนา้ มันใหเ้ กิดความเหมอื นจรงิ
ใกล้เคยี งธรรมชาติ การวาดภาพสีนา้ มัน ท่มี รี ายละเอยี ดมากขน้ึ
เช่น ภาพสิง่ ของ ดอกไม้
สนี า้ มนั 3
การวาดภาพสนี ้ามันขัน้ สงู ผ้เู รยี นสามารถปรบั ปรงุ เทคนคิ การเขียน
มาเปน็ ลักษณะเฉพาะตัว การเลียนแบบศิลปิน
การเขยี นภาพทิวทัศนภ์ าพสถาปัตยกรรม
ภาพองค์ประกอบแบบสรา้ งสรรค์
ข
ฝกึ ลายเสน้ ดว้ ยมอื ฉนั
ฝกึ ลายเสน้ ดว้ ยมือฉนั