The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้วิธีการสอนแบบบันได 5 ขั้น ( 5 Step)

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง คำศัพท์น่ารู้ คู่วรรณคดีไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pinn Wiseat, 2022-09-08 05:39:52

แผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning

แผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้วิธีการสอนแบบบันได 5 ขั้น ( 5 Step)

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง คำศัพท์น่ารู้ คู่วรรณคดีไทย

หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 บทละครพูดเรอ่ื งเห็นแกลกู
เร่ืองที่ 1 คาํ ศัพทน ารู คูวรรณคดไี ทย

หนวยการเรยี นรูท ี่ 2 บทละครพูดเรื่องเหน็ แกลูก
เรือ่ งที่ 1 คาํ ศัพทน า รู ควู รรณคดไี ทย

แผนการจัดการเรยี นรู ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3
ปก ารศึกษา 2565
กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย เวลา 12 ชว่ั โมง
รหัสวชิ า ท 23101 รายวิชาภาษาไทย เวลา 1 ชวั่ โมง
หนวยการเรยี นรูท่ี 2 เรอ่ื ง บทละครพูดเรอ่ื งเห็นแกล ูก โรงเรียนชุมชนบา นนํ้าดิบ
แผนการจดั การเรียนรูที่ 1 เรอื่ ง คําศัพทนารู คูวรรณคดีไทย
ผสู อน นางสาวปน วเิ ศษ มงคลวิไล

1. มาตรฐานการเรียนรู/ตวั ชวี้ ดั
ท ๑.๑ ม. ๓/๒ ระบุความแตกตา งของคาํ ทมี่ ีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย
ท ๑.๑ ม. ๓/๑๐ มมี ารยาทในการอาน

2. จุดประสงคก ารเรียนรู
- อธบิ ายความหมายของคําศพั ทใ นบทละครพูดเร่ือง เห็นแกลูก (K)
- คนหาคาํ ศัพทต ามทก่ี ําหนด (P)
- เห็นความสําคัญของการเขา ใจความหมายของคาํ ศัพทเพ่ือนาํ ไปใชในการอา นวรรณกรรม (A)

3. สาระการเรียนรู
สาระการเรียนรูแ กนกลาง
- คาํ ศัพทในบทละครพดู เรื่อง เหน็ แกล กู
สาระการเรยี นรทู อ งถิน่
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

4. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด
- การเขา ใจความหมายของคําศัพทจ ะทําใหอ านออกเสียงไดถูกตองและยังสามารถเขา ใจเรอ่ื งท่ีอา น

5. สมรรถนะสาํ คัญของผูเรยี น
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
- ทกั ษะการอาน
- ทกั ษะการเขียน
- ทักษะการฟง การดู และการพูด
๒. ความสามารถในการคิด
- การจําแนก
- การสังเคราะห
- การสรุปความรู

6. คุณลักษณะอันพึงประสงค
ใฝเรียนรู
ตวั ชว้ี ัดที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา รว มกิจกรรมการเรยี นรู

หนวยการเรยี นรูที่ 2 บทละครพูดเรื่องเห็นแกลกู
เรื่องที่ 1 คําศพั ทนา รู ควู รรณคดไี ทย

7. กิจกรรมการเรยี นรู ใชว ิธีการสอนแบบบันได 5 ขนั้ ( 5 Step)
ขัน้ เสนอสงิ่ เรา และระบคุ ําถามสําคญั (10 นาที)

๑. ครใู ชค ําถามทาทาย โดยสนทนาแลกเปลย่ี นแสดงความคดิ เห็นรว มกับนักเรยี น ดงั นี้
- นักเรียนชอบดู โทรทศั นหรืออนิ เทอเนต็ มากกกวา กนั
- นักเรยี นดูอะไรบาง
- จากประสบการณการดูละครตัง้ แตเลก็ จนโตนกั เรียนชอบละครโทรทศั นของไทยเรอื่ งใดมาก

ทีส่ ดุ เพราะเหตุใด
ข้ันแสวงหาสาสนเทศและวเิ คราะห (15 นาที)

๒. ครูอธบิ ายบทนาํ เรือ่ งและท่มี าของบทละครพูดเรอ่ื ง เหน็ แกล กู จากนน้ั ครถู ามนักเรียน
เพื่อสรุปความเขาใจ ดังนี้

• บทละครพดู เร่ือง เห็นแกลกู เปน พระราชนพิ นธในพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลาเจา อยหู วั
ซ่ึงทรงใชพระนามแฝงวาอะไร (พระขรรคเ พชร)

• นอกเหนือจากนามแฝงจากบทเรยี นแลว พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลาเจา อยหู ัว
ซึง่ ทรงใชพระนามแฝงอื่นอีกหรอื ไม

• บทละครพูดเรื่อง เหน็ แกล กู ไดรับการแปลเปนภาษาตางประเทศกีภ่ าษา อะไรบา ง
(๑๓ ภาษา ไดแก ภาษาญี่ปนุ จีน นอรเ วย สเปน รสั เซยี อังกฤษ อินโดนเี ซีย อาหรับ ฮินดี สิงหล
มาเลย ฝร่งั เศส เกาหลี)

• บทละครพูดเรื่อง เหน็ แกล ูก มลี กั ษณะการประพันธอยางไร (เปน บทละครพูดรอยแกว
มคี วามยาว ๑ องก เนื้อเรื่องมีขนาดสั้น ปมเร่ืองไมซ ับซอน เปน การสนทนาโตต อบของตัวละครทเี่ หมือน
ชีวติ จริง มีวธิ ีบอกใหรวู าตัวละครจะตองแสดงอยางไรจากขอความในวงเล็บ)
ข้ันอภปิ รายและสรา งความรู (๒0 นาท)ี

3. ครูอธิบายเพิม่ เติม จากน้นั รวมกบั นักเรยี นสรปุ สาระสําคัญจากบทนาํ เร่ืองและท่มี าของ
บทละครพูดเร่อื งเหน็ แกลูก

4. ใหน กั เรียนแตละกลมุ ศึกษาบทละครพูดเรื่อง เห็นแกล กู จากนั้นทาํ กจิ กรรม เร่ือง คาํ ศัพทนารู
โดยใหแตละกลมุ สงตัวแทนมาจับฉลากคาํ ศพั ทตามท่คี รแู บงให แตล ะกลุมจะไดกลมุ ละ 5 คํา จากนน้ั ครูแจก
กระดาษบรฟุ ใหน กั เรียนเขยี นความหมายของคาํ ศัพทจ ากการสบื คนจากพจนานุกรม (ใหนกั เรยี นสืบคนจาก
แทป เล็ต 10 นาท)ี

5. แตละกลมุ สงตัวแทนออกมานาํ เสนอหนาชนั้ เรยี น เสรจ็ แลวนําผลงานออกมาติดบนกระดาน
6. ครูอานออกเสยี งคําศัพทท่ีถกู ตอง อธบิ ายเพม่ิ เติม และรวมกบั นกั เรียนสรปุ
ข้ันส่อื สารและสะทอ นคดิ (๑๐ นาที)
7. ใหนกั เรยี นทาํ ใบกิจกรรม เกมอักษรไขวค าํ ศัพท
8. ครเู ฉลยใบกจิ กรรม
ข้ันประยุกตและตอบแทนสังคม (๕ นาที)
9. ใหสมาชิกในกลมุ ชว ยกันสรุปความรูท่ไี ดจากการเรียนวนั นี้ ในรปู แบบ Exit Slip Test

(แนวการสงั เคราะห)
• การเขา ใจความหมายของคําศัพทจ ะทําใหอา นออกเสียงไดถ กู ตอง
• สามารถเขาใจเรื่องท่ีอานหรือนําความรเู กีย่ วกบั คาํ ศัพททป่ี รากฏจากเน้ือเรอ่ื งอธิบาย

ใหแกผ ูอื่นได

หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 บทละครพูดเรอื่ งเห็นแกลกู
เรื่องที่ 1 คาํ ศพั ทน า รู ควู รรณคดไี ทย

8. การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื
รายการประเมนิ ตรวจเกมปริศนาอกั ษรไขว เกมปรศิ นาอักษรไขว
ตรวจใบกิจกรรมเรอ่ื ง คาํ ศพั ทน ารู ใบกิจกรรมเรือ่ ง คําศพั ทนา รู
- อธิบายความหมายของคําศัพทใ น - สังเกตพฤติกรรมการทาํ งานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤติกรรมการ
บทละครพูดเรอื่ ง เห็นแกลกู (K) - สงั เกตพฤติกรรมการทํางานกลุม ทาํ งานรายบุคคล
- คน หาคําศัพทตามทก่ี ําหนด (P) - แบบสงั เกตพฤติกรรมการ
- เห็นความสาํ คญั ของการเขา ใจ ทํางานกลมุ
ความหมายของคําศัพทเพื่อนําไปใช
ในการอานวรรณกรรม (A)

เกณฑการประเมนิ
1. การประเมินพฤตกิ รรมการเขารว มกิจกรรม
ผา นต้งั แต ๒ รายการ ถอื วา ผา น
ผาน ๑ รายการ ถือวา ไมผ าน
๒. การประเมินพฤติกรรมการเขารวมกิจกรรมกลุม
คะแนน ๙ - ๑๐ ระดับ ดีมาก
คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี
คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช
คะแนน ๐ - ๔ ระดบั ควรปรบั ปรงุ

9. สือ่ /แหลง การเรยี นรู
9.1 สือ่ การเรยี นรู
1) หนังสอื เรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใชภ าษา ม.3 วรรณคดีและวรรณกรรม ม.3
2) ชดุ กจิ กรรม คําศัพทนา รู
3) EXIT SLIP TEST
9.2 แหลงการเรียนรู
1) หองสมดุ
2) แหลง ขอมูลสารสนเทศ
- http://www.st.ac.th/bhatips/tip49/reading1.html
- เกมอกั ษรไขวค ําศัพท

หนวยการเรยี นรูที่ 2 บทละครพดู เร่อื งเหน็ แกล กู
เรื่องที่ 1 คาํ ศพั ทน ารู คูวรรณคดีไทย

10. ความเหน็ ของผบู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู ่ไี ดรับมอบหมาย
ขอเสนอแนะของหวั หนา สถานศกึ ษาหรือผูท ี่ไดรบั มอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง) ไดทํา
การตรวจแผนการจดั การเรียนรูข อง นางสาวปน วิเศษ มงคลวไิ ล แลว มีความคดิ เห็นดังน้ี

1. แผนการจดั การเรยี นรเู ปนแผนการเรียนรูท ่ีอยใู นระดับ
 ดมี าก
 ดี
 พอใช เพราะ................................................................................................................
 ควรปรับปรุงหรอื เพม่ิ เติมในเร่อื งเกยี่ วกับ..................................................................

2. การจดั กจิ กรรมไดนาํ เอากระบวนการเรียนรู
 ใชก ิจกรรมหรือกระบวนการเรยี นรทู ี่เนนผูเรียนเปนสําคัญมาใชไดอ ยา งเหมาะสม
 ใชกจิ กรรมหรือกระบวนการเรยี นรูยังไมค อยเหมาะสม ควรเพ่มิ /ปรบั กจิ กรรม
 ใชกจิ กรรมหรือกระบวนการเรียนรใู หม

3. การวัดผลประเมนิ ผล
 สอดคลอ งกบั จุดประสงคการเรียนรู
 ยังไมสอดคลอ งกับจดุ ประสงคก ารเรยี นรู

4. ขอ เสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ..................................................ผนู เิ ทศ/รับรอง
(วา ท่รี อยตรีกิตตพิ งษ ทินแยง)

ตําแหนงผูอํานวยการโรงเรยี นชุมชนบา นนํา้ ดิบ
วนั ที.่ ..................................................................

หนว ยการเรยี นรูท่ี 2 บทละครพดู เรอ่ื งเห็นแกลูก
เร่ืองที่ 1 คาํ ศัพทน ารู ควู รรณคดีไทย

11. บันทกึ ผลหลังการสอน
 ดานความรู
 ดา นสมรรถนะสาํ คญั ของผูเ รยี น
 ดานคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
 ดา นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน หรือพฤตกิ รรมทม่ี ปี ญหาของนกั เรียนเปน รายบุคคล (ถามี))
 ปญ หา/อุปสรรค
 แนวทางการแกไข

(ลงช่อื )..........................................................(ผูส อน)
(นางสาวปน วเิ ศษ มงคลวิไล)
ตาํ แหนง ครู

หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 บทละครพดู เรอ่ื งเหน็ แกลูก
เรื่องที่ 1 คาํ ศัพทน า รู คูวรรณคดีไทย

ตารางปรศิ นาอักษรไขว

ใหนกั เรียนเตมิ คาํ ศัพทลงในปรศิ นาอกั ษรไขวใ หสอดคลอ งกบั ความหมายทีก่ าํ หนดทัง้ แนวนอนและแนวต้ัง

๑๒
๑๓

๑๘ ๑๙

๑๑ ๓ ๔

๑๕ ๕ ๑๗
๑๒ ๑๔



๘ ๑๖ ๑๐


หนวยการเรยี นรูท่ี 2 บทละครพูดเรื่องเหน็ แกล กู
เร่ืองที่ 1 คาํ ศพั ทนา รู คูวรรณคดไี ทย

แนวนอน
๑. ถายภาพ
๒. พนักงานบัญชี
๓. และ
๔. กระหาย
๕. ซอมซอ มีลักษณะประหนงึ่ วา อตั คดั ขดั สน
๖. ตา งจงั หวัด
๗. ไมพูด หรือไมใ หพูด
๘. โทษของแผน ดิน ถกู ลงโทษตามกฎหมาย
๙. เอาใจใส เอาใจชว ย ดูแล
๑๐. คาํ สรรพนามบรุ ุษที่ ๒ ใชแ ทนผทู ี่เราพดู ดวยท่เี ปนหญิง

แนวตั้ง
๑๑. คนซ่ึงเปนทร่ี งั เกียจของคนอ่นื
๑๒. คาํ สรรพนามบรุ ุษที่ ๑ ใชแทนผูพดู ท่ีเปน ชาย ใชเ ม่ือพดู กบั ผูใหญ
๑๓. เพ่ือน
๑๔. สํานกั งาน ทที่ าํ การ
๑๕. มาตราเงนิ ในสมัยโบราณ
๑๖. ตอนหนึ่ง ๆ ในบทละคร
๑๗. ตกนรก
๑๘. นํ้าหวานสเี ขียวผสมโซดา
๑๙. มคี รอบครวั แตงงานแลว

หนวยการเรยี นรทู ่ี 2 บทละครพดู เรอื่ งเห็นแกล กู
เร่ืองที่ 1 คาํ ศัพทนา รู ควู รรณคดไี ทย

ตารางปรศิ นาอกั ษรไขว
ใหนักเรยี นเติมคาํ ศพั ทล งในปรศิ นาอกั ษรไขวใ หส อดคลอ งกบั ความหมายที่กาํ หนดท้งั แนวนอนและแนวต้ัง

หนว ยการเรยี นรูท่ี 2 บทละครพดู เรื่องเหน็ แกล กู ชดุ คาํ ศพั ทก จิ กรรมคําศัพทน ารู
เรื่องที่ 1 คําศัพทน ารู ควู รรณคดไี ทย
ความหมาย
คําศพั ท
1. ฉาย ความหมาย
2. หมาหวั เนา
3. เกลอ ความหมาย
4. ครมี โซดา
5. ปอน ความหมาย

คําศพั ท
1. เสมียนบาญชี
2. หัวเมอื ง
3. ระหาย
4. มีเหยามีเรือน
5. หลอน

คาํ ศพั ท
1. อนิ ัง
2. อาญาจักร
3. องก
4. ปด ปาก
5. ชงั่

คาํ ศัพท
1. ออฟฟศ
2. เกลาผม
3. ตรอก
4. แล
5. เปนโทษ

หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 บทละครพูดเรอ่ื งเห็นแกลกู
เร่ืองที่ 1 คาํ ศัพทน ารู คูวรรณคดไี ทย


Click to View FlipBook Version