The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ความหมายของอินเทอร์เน็ตและประวัติของอินเตอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) คือเครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบต่าง ๆ ที่เช่ือมโยงกัน มาจากคาว่า Inter Connection Network เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mmth339, 2024-02-29 23:55:30

ความหมายของอินเทอร์เน็ตและประวัติของอินเตอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) คือเครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบต่าง ๆ ที่เช่ือมโยงกัน มาจากคาว่า Inter Connection Network เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเต

ความหมายของอินเทอร์เน็ตและประวัติของอินเตอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) คือเครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบต่าง ๆ ที่เช่ือมโยงกัน มาจากคาว่า Inter Connection Network เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเต

การใช้อินเตอร์เน็ต นายอภิวัฒน์ โหรี 65121490113


คำ นำ เอกสารประกอบการเรียนการสอนเล่มนี้ จัดเพื่อใช้ประกอบการเรียน การสอนวิชาคอมพิวเตอร์เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจถึงการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อนำ ไปใช้ ในการสอนและพัฒนาตนเองทั้งด้านการเรียนและการสอน หวังว่าเอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์เล่มนี้คงเป็น ประโยชน์ต่อผู้เรียนไม่มากก็น้อย นายอภิวัฒน์ โหรี จัดทำ โดย


สารบัญ ความหมายของอินเทอร์เน็ต ประวัติของอินเทอร์เน็ต ความสำ คัญของอินเทอร์เน็ต ประเภทของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต การสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต ประโยชน์ของเครือข่าย Internet of things(IOT)เมื่ออินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อกับทุกสิ่ง ข้อดีของอินเตอร์เน็ต ข้อเสียของอินเตอร์เน็ต 4 5-6 7 8-10 11-12 13-14 15 16 17-20 อ้ 21 อ้ างอิง


อินเทอร์เน็ต (Internet) คือเครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบต่าง ๆ ที่เช่ือมโยงกัน มาจากคำ ว่า Inter Connection Network เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดใหญ่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทุกเคร่ือง ท่ัวโลก สามารถติดต่อสื่อสารถึงกัน ได้โดยใช้มาตรฐาน ในการรับส่งข้อมูลที่ เป็นหนึ่งเดียว หรือที่เรียกว่า โปรโตคอล (Protocol) ซ่ึงโปรโตคอล ท่ีใช้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีชื่อว่า ทีซีพี/ไอพี ( TCP/IP : Transmission Control Protocol/Internet Protocol ) ลักษณะของระบบอินเทอร์เน็ต เป็นเสมือนใยแมงมุม ท่ีครอบคลุมทั่วโลก ในแต่ละจุดท่ีเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตนั้น สามารถสื่อสาร กันได้หลายเส้นทาง ตามความต้องการ โดยไม่กาหนดตายตัว และไม่จำ เป็น ต้องไปตามเส้นทางโดยตรง อาจจะผ่านจุดอื่น ๆ หรือ เลือกไปเส้นทางอื่นได้ หลาย ๆ เส้นทาง การ ติดต่อสื่อสาร ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นั้นอาจเรียกว่า การติดต่อสื่อสารแบบไร้มิติ หรือ Cyberspace ความหมายของอินเทอร์เน็ต


อินเทอร์เน็ตกำ เนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2512 โดยองค์กรทางทหารของสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า ยู.เอส.ดีเฟนซ์ ดีพาร์ทเมนท์ (U.S. Defence Department ) เป็นผู้คิดค้นระบบนี้ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้มีระบบเครือข่ายที่ไม่มีวันตายแม้จะมีสงคราม ซึ่งปกติระบบการสื่อสาร จะถูกทำ ลายหรือตัดขาด แต่ระบบเครือข่ายแบบนี้ยังสามารถทำ งานได้ โดยใช้วิธี การส่งข้อมูลในรูปของคลื่นไมโครเวฟ ฝ่ายวิจัยขององค์กรได้จัดตั้งระบบเน็ตเวิร์คขึ้นมา เรียกว่า ARPAnet ย่อมา จากคำ ว่า Advance Research Project Agency net ซึ่งประสบความสำ เร็จและ ได้รับความนิยมในหมู่ของหน่วยงานทหาร องค์กร รัฐบาล และสถาบันการศึกษา ต่าง ๆ เป็นอย่างมาก หลังจากประสบความสำ เร็จ ก็มีองค์กรมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ให้ความสนใจเข้า มาร่วมในโครงข่ายมากขึ้น โดยเน้นการรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Mail ) หรือที่เรารู้จัก คือ E-mail นั่นเอง ต่อมาก็ได้ขยายการบริการ ไปถึงการส่งแฟ้มข้อมูลข่าวสาร และส่งข่าวสารความรู้ทั่วไป แต่ไม่ได้ใช้ใน เชิงพาณิชย์ เน้นการให้บริการด้านวิชาการเป็นหลัก ปี พ.ศ. 2523 คนทั่วไปเริ่มสนใจอินเทอร์เน็ตมากขึ้น มีการนำ อินเทอร์เน็ต มาใช้ในเชิงพาณิชย์ มีการทำ ธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ก็เข้า ร่วมเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ประวัติของอินเทอร์เน็ต


อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยประเทศไทยได้เริ่มติดต่อกับอินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2530 ในลักษณะการใช้บริการรับและส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail เป็นครั้งแรก โดยเริ่มที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่ ( Prince of Songkla University ) และสถาบันเทคโนโลยีแห่ง เอเชีย หรือสถาบันเอไอที ( AIT ) ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่าง ประเทศไทยและออสเตรเลีย ( โครงการ IDP ) ซึ่งเป็นการติดต่อเชื่อมโยง โดยสายโทรศัพท์ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2531 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้ยื่นขอที่อยู่อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยได้รับที่ อยู่อินเทอร์เน็ต Sritrang.psu.th ซึ่งนับเป็นที่อยู่อินเทอร์เน็ตแห่งแรกของ ประเทศไทย ต่อมาปี พ.ศ. 2534 บริษัท DEC ( Thailand ) จำ กัดได้ขอที่อยู่ อินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ประโยชน์ภายในของบริษัท โดยได้รับที่อยู่อินเทอร์เน็ต เป็น dect.co.th โดยที่คำ “th” เป็นส่วนที่เรียกว่า โดเมน ( Domain ) ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงโซนของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยย่อมาจากคำ ว่า Thailand


ความสำ คัญของอินเทอร์เน็ต ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีบทบาทและมีความสำ คัญต่อชีวิตประจำ วันของคนเราเป็นอย่าง มาก เพราะทำ ให้วิถีชีวิตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมี การเสนอข้อมูลข่าวปัจจุบัน และสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สารสนเทศที่เสนอในอินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรูปแบบเพื่อสนองความสนใจและความ ต้องการของผู้ใช้ทุกกลุ่ม อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศสำ คัญสำ หรับทุกคนเพราะ สามารถค้นหาสิ่งที่ตนสนใจได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรือแม้แต่การรับรู้ข่าวสารทั่วโลกก็สามารถอ่านได้ในอินเทอร์เน็ตจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ของ หนังสือพิมพ์ ดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงมีความสำ คัญกับวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการธุรกิจ การศึกษา ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต ด้วยกันทั้งนั้น 1. ด้านการศึกษา อินเทอร์เน็ตมีความสำ คัญ ดังนี้ 1.1 สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการ บันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 1.2 ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำ หน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ 1.3 นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำ ลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ 2. ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์เน็ตมีความสำ คัญดังนี้ 2.1 ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ 2.2 สามารถซื้อขายสินค้า ทำ ธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย 2.3 เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ 2.4ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้า ของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำ แนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้ แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware) 3. ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตมีความสำ คัญดังนี้ 3.1 การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพ ประกอบที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป 3.2 สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ 3.3 สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้


การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็น สำ คัญ เช่นใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่บ้าน ใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้เพื่อความ บันเทิง หรือใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตจึง มีความแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านความต้องการ รวมทั้งเงินทุนที่จะใช้ใน การติดตั้งระบบด้วย ปัจจุบันการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่นิยมใช้มี 5 ลักษณะ คือ 1. การเชื่อมต่อแบบ Dial Up เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้อง ทำ การติดต่อกับผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกำ หนดชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัส ผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอร์เน็ต •ข้อดี ของการเชื่อมต่อแบบ Dial Up คือ อุปกรณ์มีราคาถูก การติดตั้งง่าย การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทำ ได้ง่าย •ข้อเสีย คืออัตราการรับส่งข้อมูลค่อนข้างต่ำ เพียงไม่เกิน 56 kbit (กิโลบิต) ต่อวินาที ประเภทของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต


2. การเชื่อมต่อแบบ ISDN(Internet Services Digital Network) เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มใน การเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยี ระบบดิจิตอล (Digital) และต้องใช้โมเด็มแบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ ดัง นั้นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ ISDN จะต้องคำ นึงถึงสิ่งเหล่านี้ คือ -ต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ที่ให้บริการการเชื่อมต่อแบบ ISDN -การเชื่อมต่อต้องใช้ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ -ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่จะใช้บริการนี้ อยู่ในอาณาเขตที่ใช้บริการ ISDN ได้ หรือไม่ •ข้อดี คือไม่มีสัญญาณรบกวน มีความเร็วสูง และยังคงสามารถใช้โทรศัพท์เพื่อพูด คุยไปได้พร้อม ๆ กับการเล่นอินเตอร์เน็ต •ข้อเสีย คือมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบ Dial-Up 3. การเชื่อมต่อแบบ DSL(Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ ต้องคำ นึงถึงในการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตแบบ DSL ก็คือ -ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่ติดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการระบบโทรศัพท์แบบ DSL หรือไม่ -บัญชีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในแบบ DSL -การเชื่อมต่อต้องใช้ DSL Modem ในการเชื่อมต่อ -ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย •ข้อดี คือมีความเร็วสูงกว่าแบบ Dial-Up และ ISDN •ข้อเสีย คือไม่สามารถระบุความเร็วที่แน่นอนได้


4. การเชื่อมต่อแบบ Cable เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV จึงทำ ให้เรา สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีได้ โดยต้องจัดหาอุปกรณ์ เพิ่มเติม คือ -ใช้ Cable Modem เพื่อเชื่อมต่อ -ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย •ข้อดี คือถ้ามีสายเคเบิลทีวีอยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยเพิ่ม อุปกรณ์ Cable Modem ก็สามารถเชื่อมต่อได้ •ข้อเสีย คือถ้ามีผู้ใช้เคเบิลในบริเวณใกล้เคียงมาก อาจทำ ให้การรับส่งข้อมูลช้าลง 5. การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites) เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เรียกว่า Direct Broadcast Satellites หรือ DBS โดยผู้ใช้ต้องจัดหาอุปกรณ์ เพิ่มเติม คือ -จานดาวเทียมขนาด 18-21 นิ้ว เพื่อทำ หน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจากดาวเทียม -ใช้ Modem เพื่อเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต •ข้อเสีย ของการเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites) ได้แก่ ต้องส่งผ่านสาย โทรศัพท์เหมือนแบบอื่น ๆ ความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่ำ มากเมื่อเทียบกับแบบ อื่น ๆ ค่าใช้จ่ายสูง


การสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตสามารถทำ ได้หลายทางด้วยกัน ดังนี้ 1.จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นการสื่อสารที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากผู้ใช้สามารถ ติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะอยู่ในที่ ทำ งานเดียวกันหรืออยู่ห่างกันคนละมุมโลกก็ตาม นอกจากนี้ยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยมาก เพียงเท่ากับค่าโทรศัพท์เท่านั้น 2.การสืบค้นข้อมูลแบบเครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web: www.) เป็นการสื่อสารที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในอินเตอร์เน็ต ด้วยเหตุผลที่สำ คัญคือง่ายต่อการใช้งาน และสามารถนำ เสนอข้อมูลแบบกราฟิกได้ การใช้ World Wide Web เปรียบเสมือนการ เข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุด โดยหนังสือที่มีให้อ่านจะสมบูรณ์มากกว่าหนังสือทั่วไป เพราะ สามารถฟังเสียงและดูภาพเคลื่อนไหวประกอบได้ นอกจากนี้ยังสามารถโต้ตอบกับผู้อ่านได้ ด้วย ข้อมูลต่างๆ จะมีการเชื่อมโยงถึงกันได้ด้วยคุณสมบัติของ Hypertext Link การที่จะเข้าไปอ่านข้อมูลเหล่านี้ได้ ผู้ใช้จะต้องมีWeb Browser ซึ่งนิยมใช้กันในขณะนี้ได้แก่ Netscape Navigator และ Internet Explorer ปัจจุบันได้มีการประยุกต์กิจกรรมอื่นไว้ ภายใน World Wide Web ด้วย อาทิ การโฆษณากิจกรรม รวมถึงความบันเทิงต่างๆ เช่น การดูหนังฟังเพลง และชมรายการต่างๆ ทางสถานีโทรทัศน์ เช่น www.yahoo.com www.google.co.th www.hotmail.com 3. การโอนย้ายข้อมูล (File Transfer Protocol: FTP) เป็นการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้กันมากพอสมควรในอินเตอร์เน็ต โดยอาจใช้เพื่อการ ถ่ายโอนข้อมูลรวมถึงโปรแกรมต่างๆ จากแหล่งข้อมูลทั้งหลายมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วน บุคคลที่ใช้งานอยู่ ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งที่กำ หนดให้ Server ของตนทำ หน้าที่เป็น FTP Site เก็บรวบรวมข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ สำ หรับให้บริการ การเข้าไปขอถ่ายโอนข้อมูลนั้น ผู้ใช้ต้องทราบชื่อเครื่องที่ตั้งเป็น FTP Server และสิทธิที่ได้ รับอนุญาตให้เข้าทำ FTP 4.การแลกเปลี่ยนข่าวสาร (Usenet) มีที่มาจากกระดานประกาศข่าว หรือ Bulletin Board กล่าวคือ ผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน จะรวมกลุ่มกันตั้งเป็นกลุ่มข่าวของแต่ละประเภท เมื่อมีข้อมูลใหม่ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก ผู้อื่น หรือมีปัญหาหรือคำ ถามที่ต้องการความช่วยเหลือหรือคำ ตอบ ผู้นั้นก็จะส่งข้อมูลของตน เข้าไปติดประกาศไว้ในอินเตอร์เน็ต โดยเครื่องที่ทำ หน้าที่ติดประกาศคือ News Server เมื่อสมาชิกอื่นอ่านพบ ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีบางอย่างไม่ถูกต้อง หรือมีคำ ตอบที่จะช่วยแก้ ปัญหาให้ได้ สมาชิกเหล่านั้นก็จะส่งข้อมูลตอบกลับไปติดประกาศไว้เช่นกัน การสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต


8. Remote Login เป็นบริการที่ผู้ใช้สามารถติดต่อผ่าน Telenet เข้ากับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลและ คอมพิวเตอร์นั้นค้นหาสารสนเทศ แหล่งบริการสารสนเทศ เช่น รายการบัตรของห้องสมุด (Online Public Access Catalog: OPAC) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลทรัพยากรสารสนเทศที่ห้องสมุด แต่ละแห่งทั่วโลกจัดทำ ขึ้น และเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่าย 5.การเข้าใช้เครื่องระยะไกล (Telenet) เป็นการขอเข้าไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตจากระยะไกล โดยผู้ใช้ไม่จำ เป็นต้องไปนั่งอยู่หน้าเครื่องนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวนี้อาจอยู่ภายใน สถานที่เดียวกับผู้ใช้ หรืออยู่ห่างกันคนละทวีปก็ได้ แต่ทั้งนี้ผู้ใช้ต้องมี account และรหัส ผ่านจึงจะสามารถเข้าใช้เครื่องดังกล่าวได้ ส่วนคำ สั่งในการทำ งานนั้นขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติ การของเครื่องที่เข้าไปขอใช้ 6.การสนทนาผ่านเครือข่าย (Talk หรือ Chat) เป็นการติดต่อสื่อสารแบบ 2 ทาง คือ สามารถสื่อสารโต้ตอบกันได้ทันทีเหมือนการใช้ โทรศัพท์ สามารถทำ ได้ทั้งแบบ Text-based และ Voice-based โปรแกรมที่นิยมใช้คือ Talk ซึ่งเป็นการพิมพ์โต้ตอบระหว่างคนสองคน Internet phone เป็นการคุยกันด้วยเสียง แบบเดียวกับโทรศัพท์ และIRC (Internet Relay Chat) 7. บริการส่งข้อความทางอินเตอร์เน็ต เป็นการส่งข้อความในรูปแบบของข้อความสั้นๆ(Short Message) ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ให้ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์สื่อสารประเภทไร้สาย ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเพจเจอร์ เป็นต้น


1.การแลกเปลี่ยนข้อมูลทำ ได้ง่าย โดยผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถที่จะดึงข้อมูลจากส่วนกลาง หรือข้อมูลจากผู้ใช้คน อื่นมาใช้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เหมือนกับการดึงข้อมูลมาใช้จากเครื่อง ของตนเอง และนอกจากดึงไฟล์ข้อมูลมาใช้แล้ว ยังสามารถคัดลอกไฟล์ไปให้ ผู้อื่นได้อีกด้วย 2.ใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายนั้น ถือว่าเป็นทรัพยากรส่วนกลาง ที่ผู้ใช้ในเครือข่ายทุกคน สามารถใช้ได้โดยการสั่งงานจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ของ ตัวเองผ่านเครือข่ายไปยังอุปกรณ์นั้น เช่น มีเครื่องพิมพ์ส่วนกลางใน เครือข่าย เป็นต้น ซึ่งทำ ให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย 3.ใช้โปรแกรมร่วมกัน ผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถที่จะรันโปรแกรมจาก เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง เช่น โปรแกรม Word, Excel, Power Point ได้ โดยไม่จำ เป็นจะต้องจัดซื้อ โปรแกรม สำ หรับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง เป็นการประหยัดงบประมาณในการ จัดซื้อ และยังประหยัดเนื้อที่ในหน่วยความจำ ด้วย ประโยชน์ของเครือข่าย


4.ทำ งานประสานกันเป็นอย่างดี ก่อนที่เครือข่ายจะเป็นที่นิยม องค์กรส่วนใหญ่จะใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม หรือมินิคอมพิวเตอร์ ในการจัดการงาน และข้อมูลทุกอย่างใน องค์กร แต่ปัจจุบันองค์กรสามารถกระจายงานต่าง ๆ ให้กับหลาย ๆ เครื่อง แล้วทำ งานประสานกัน เช่น การใช้เครือข่ายในการจัดการระบบงานขาย โดยให้เครื่องหนึ่งทำ หน้าที่จัดการการเกี่ยวกับใบสั่งซื้อ อีกเครื่องหนึ่งจัดการ กับระบบสินค้าคงคลัง เป็นต้น 5.ติดต่อสื่อสารสะดวก รวดเร็ว เครือข่ายนับว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ได้เป็นอย่างดี ผู้ใช้ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล กับเพื่อนร่วมงานที่อยู่คนละที่ ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว 6.เรียกข้อมูลจากบ้านได้ เครือข่ายในปัจจุบันมักจะมีการติดตั้งคอมพิวเตอร์ เครื่องหนึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้เครือข่ายจากระยะไกล เช่น จากที่บ้าน โดยใช้ติดตั้ง โมเด็มเพื่อใช้หมุนโทรศัพท์เชื่อมต่อ เข้ากับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์ เครื่องนั้นก็จะเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย


ข้อดีของอินเทอร์เน็ต 1.สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นได้ทั่วโลก 2.สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆได้ เสมือนกับเราได้เข้าไปนั่งในห้องสมุดขนาดใหญ่ ที่มีข้อมูลมากมายจากทั่วมุมโลก 3.เปรียบเสมือนเวทีให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ภายในห้องสนทนาและ กระดานข่าวเป็นการเปิดดลกกว้างและวิสัยทัศน์ในเรื่องที่สนใจ 4.สามารถติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารจากทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว 5.สามารถเปิดการค้าได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องหาสถานที่จัดตั้งร้านและพนักงาน บริการ แต่สามารถทำ การค้าได้ด้วยตนเองคนเดียว และปิดการขายได้ตลอด 24ชั่วโมง 6.สามารถซื้อสินค้า โดยไม่ต้องเดินทางไปยังร้ายค้า สั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้ บริการการชำ ระเงินก็สะดวก เช่น ชำ ระผ่านทางบัตรเครติต การหักเงินผ่านบัญชี ธนาคาร และทางไปรษณีย์ 7.สามารถรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(E-mail)เป็นการส่งจดหมายที่ไม่ต้องเสีย ค่าบริการและรับส่งจดหมายได้ทั่งภายในประเทศและต่างประเทศ นอกจาก จดหมายที่เป็นข้อความแล้ว ยังส่งบัตรอวยพรในเทศกาลต่างๆได้อีกด้วย โดยไม่ ต้องเสียค่าซื้อบัตรอวยพร 8.สามารถอ่านนิตยสาร หนังสือพิมพ์ บทความ และเรื่องราวต่างๆ ได้ฟรีเหมือน กับร้านซื้อหนังสือแบบนั้นมาอ่านเอง 9.สามารถติดประกาศข้อความต่างๆที่ต้องการประกาศให้ผู้อื่นทราบได้ เช่น ประกาศขายบ้าน ประกาศสมัคงาน ประกาศขอความช่วยเหลือ 10.มีของฟรีอีกมากมายที่สามารถใช้บริการได้จากอินเทอร์เน็ต เช่น ภาพ เพลง ภาพเคลื่อนไหวโปรแกรมคอมพิวเตอร์ พื้นที่สำ หรับสร้างเว็บไซต์ ดูหนัง เกม ข้อดีของอินเตอร์เน็ต


ข้อเสียของอินเทอร์เน็ต 1.อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีผู้คนมากมายเข้าไปใช้บริการ เป็นเวทีที่เปิดกว้างและให้อิสระกับทุกคนได้เข้ามาเขียนข้อมูล หรือติด ประกาศต่างๆ โดยปราศจากการกลั่นกรองที่ดี ทำ ให้ข้อมูลที่ได้รับไม่สามารถ ตรวจสอบได้ว่าเป็นข้อมูลที่เป็นความจริงหรือไม่ 2.เกิดปัญหาของการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น การดาวน์โหลดเพลง หรือรูปภาพ มารวบรวมขาย หรือที่เป็นปัญหาอย่างยิ่ง คื่อการตัดต่อภายบุคคลสฎคัญที่มีชื่อ เสียงให้กลายเป็นภาพที่ส่อในทางอนาจารมาแผยแพร่ ทำ ให้บุคคลเหล่านั้น เสียหาย 3.ก่อให้เกิดปัญหาด้านอาชญากรรม เพราะการเล่นอินเทอร์เน็ต เช่น การ ล่อลวงหญิงไปในทางไม่ดี โดยรู้จักกันผ่านทางอินเทอร์เน็ต การก่อคดีข่มขืน เนื่องเว็บไซต์โป๊ 4.ก่อให้เกิดปัญหาการหมกหมุ่นของเยาวชนที่เข้าไปในเว็บไซที่ไม่เป็น ประโยชน์จนทำ ให้เกิด”โรคติดอินเทอร์เน็ต (wedaholic) จะทำ ให้เกิดอัต รายต่อตนเองและสังคมได้ ข้อเสียของอินเตอร์เน็ต


Internet of things(IOT) เมื่ออินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อกับทุกสิ่ง Internet of Things หรือ IOT คือ สภาพแวดล้อมอันประกอบด้วยสรรพสิ่งที่สามารถ สื่อสารและเชื่อมต่อกันได้ผ่านโพรโทคอลการสื่อสารทั้งแบบใช้สายและไร้สาย โดยสรรพสิ่ง ต่าง ๆ มีวิธีการระบุตัวตนได้ รับรู้บริบทของสภาพแวดล้อมได้ และมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบและ ทำ งานร่วมกันได้ ความสามารถในการสื่อสารของสรรพสิ่งนี้จะนำ ไปสู่นวัตกรรมและบริการ ใหม่อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น เซ็นเซอร์ภายในบ้านตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้อยู่อาศัย และส่งสัญญาณไปสั่งเปิด/ปิดสวิตซ์ไฟตามห้องต่าง ๆ ที่มีคนหรือไม่มีคนอยู่ อุปกรณ์วัด สัญญาณชีพของผู้ป่วย/ผู้สูงอายุและส่งข้อมูลไปยังบุคลากรทางการแพทย์ หรือส่งข้อความ เรียกหน่วยกู้ชีพหรือรถฉุกเฉิน เป็นต้น นอกจากนี้ IOT จะเปลี่ยนรูปแบบและกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ หรือที่เรียกว่า Industry 4.0 ที่จะอาศัยการเชื่อมต่อสื่อสารและทำ งานร่วมกันระหว่าง เครื่องจักร มนุษย์ และข้อมูล เพื่อเพิ่มอำ นาจในการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีความถูกต้อง แม่นยำ สูง โดยที่ข้อมูลทั้งหลายที่เก็บจากเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจวัดตัวอุปกรณ์และสภาพ แวดล้อมจะถูกนำ มาวิเคราะห์ ให้ได้ผลลัพธ์เพื่อนำ ไปปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างทันที นอกจากการข้ามขีดจำ กัดเรื่องเวลาแล้ว ระบบควบคุมหรือระบบวิเคราะห์ข้อมูล อาจไม่ได้อยู่ใน ที่เดียวกันกับเครื่องจักร แต่สามารถควบคุมสั่งการได้โดยไร้ขีดจำ กัดเรื่องสถานที่ เทคโนโลยีที่ทำ ให้ IOT เกิดขึ้นได้จริงและสร้างผลกระทบในวงกว้างได้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.เทคโนโลยีที่ช่วยให้สรรพสิ่งรับรู้ข้อมูลในบริบทที่เกี่ยวข้อง เช่น เซ็นเซอร์ 2.เทคโนโลยีที่ช่วยให้สรรพสิ่่งมีความสามารถในการสื่อสาร เช่น ระบบสมองกลฝังตัว รวมถึง การสื่อสารแบบไร้สายที่ใช้พลังงานต่ำ อาทิ Zigbee,6LowPAN, Low-power Bluetooth 3. เทคโนโลยีที่ช่วยให้สรรพสิ่งประมวลผลข้อมูลในบริบทของตน เช่น เทคโนโลยีการ ประมวลผลแบบคลาวด์ และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data Analytics ในด้านสถานะการพัฒนา เทคโนโลยีในกลุ่มเซ็นเซอร์ในปัจจุบันมีความแม่นยำ สูง และราคา ถูกมาก ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (TMEC) มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตเซ็นเซอร์ คุณภาพสูงสำ หรับงานด้านการเกษตร และอุตสาหกรรม ส่วนเทคโนโลยีระบบสมองกลฝังตัวก็ มีความสามารถสูงขึ้นในราคาที่ถูกลง แผงวงจรไมโครคอนโทรลเลอร์ขนาดเล็กที่มีความสามารถ สูงเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันมีราคาตั้งแต่สามร้อยบาท อีกทั้งมีฮาร์ดแวร์แบบโอเพ่นซอร์ส มากขึ้น ทำ ให้ต้นทุนการผลิตอุปกรณ์ IOTต่ำ ลงมาก นักพัฒนาชาวไทยสามารถนำ ฮาร์ดแวร์ เปิดเหล่านี้ไปดัดแปลงและขายเป็นบอร์ดเฉพาะทาง หรือสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ของ ตนเองได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์ และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ใน ต่างประเทศผ่านจุดของการวิจัยมาสู่บริการเชิงพาณิชย์แล้ว ในประเทศไทย ศูนย์เทคโนโลยี อิล็นิส์พิร์ห่ติ(NECTEC)มีริด์ฟร์NETPIE


เทคโนโลยีที่ทำ ให้ IOT เกิดขึ้นได้จริงและสร้างผลกระทบในวงกว้างได้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.เทคโนโลยีที่ช่วยให้สรรพสิ่งรับรู้ข้อมูลในบริบทที่เกี่ยวข้อง เช่น เซ็นเซอร์ 2.เทคโนโลยีที่ช่วยให้สรรพสิ่่งมีความสามารถในการสื่อสาร เช่น ระบบสมองกลฝังตัว รวมถึง การสื่อสารแบบไร้สายที่ใช้พลังงานต่ำ อาทิ Zigbee,6LowPAN, Low-power Bluetooth 3.เทคโนโลยีที่ช่วยให้สรรพสิ่งประมวลผลข้อมูลในบริบทของตน เช่น เทคโนโลยีการประมวล ผลแบบคลาวด์ และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data Analytics ในด้านสถานะการพัฒนา เทคโนโลยีในกลุ่มเซ็นเซอร์ในปัจจุบันมีความแม่นยำ สูงและ ราคาถูกมาก ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (TMEC) มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิต เซ็นเซอร์คุณภาพสูงสำ หรับงานด้านการเกษตร และอุตสาหกรรม ส่วนเทคโนโลยีระบบสมอง กลฝังตัวก็มีความสามารถสูงขึ้นในราคาที่ถูกลง แผงวงจรไมโครคอนโทรลเลอร์ขนาดเล็กที่มี ความสามารถสูงเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันมีราคาตั้งแต่สามร้อยบาท อีกทั้งมีฮาร์ดแวร์แบบ โอเพ่นซอร์สมากขึ้น ทำ ให้ต้นทุนการผลิตอุปกรณ์ IOTต่ำ ลงมาก นักพัฒนาชาวไทยสามารถ นำ ฮาร์ดแวร์เปิดเหล่านี้ไปดัดแปลงและขายเป็นบอร์ดเฉพาะทาง หรือสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ ใหม่ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์ และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ในต่างประเทศผ่านจุดของการวิจัยมาสู่บริการเชิงพาณิชย์แล้ว ในประเทศไทย ศูนย์ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) มีบริการคลาวด์แพลตฟอร์ม NETPIE สำ หรับให้บริการเชื่อมต่อสื่อสารในรูปแบบ IOT Internet of things(IOT) เมื่ออินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อกับทุกสิ่ง


เราก็ได้ทราบความหมายของ Internet of Things กันไปแล้ว เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นเรา มาดูตัวอย่างอุปกรณ์ธรรมดาๆ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน แต่เมื่อมี Internet of Things เข้ามาแล้ว มันจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป เช่น Connected Car ก็คือ รถยนต์ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถจะเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ได้ และสามารถเชื่อมโยงกับอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งภายในรถยนต์และภายนอกรถยนต์ได้ ตัวอย่างเช่นการเชื่อมโยงกับอุปกรณ์เองนั้นก็เช่น “ระบบการแจ้งเตือนการชน” ซึ่งมันจะ คำ นวณความเร็วและกำ ลังที่ใช้เพื่อวิเคราะห์และทำ การแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ได้ทราบ อาจจะ ผ่านหน้าจอคอนโซล หรือผ่านอุปกรณ์ Wearable Device ที่ติดตัวผู้ขับขี่ผ่านทาง แอพพลิเคชันก็ได้เช่นกัน หรือเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆ ภายนอก เช่นการเชื่อมโยงกับปั้มน้ำ มัน เพื่อหาปั๊มน้ำ มันที่ใกล้ที่สุดในขณะที่น้ำ มันใกล้จะหมด, หรือเชื่อมโยงกับสัญญาณไฟ จราจร เพื่อให้รถยนต์ทำ การลดความเร็วในขณะที่ไฟสัญญาณจราจรจะเปิดไฟเหลืองและ แดงเพื่อให้หยุดรถ เป็นต้น ตู้เย็นอัจฉริยะ มีตัวตรวจจับจำ นวนสิ่งของต่างๆ ในตู้ เมื่ออาหารในตู้เย็นใกล้จะหมด อายุหรือสิ่งใดหมด จะมีข้อความแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนให้เราสั่งซื้อของได้


เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ เครื่องซักผ้าสามารถรายงานสถานการณ์ทำ งานของเครื่องไป ยังสมาร์ทโฟนได้ กรณีที่เราใช้เครื่องซักผ้าในขณะที่เราไม่อยู่บ้าน สามารถตั้งค่า เครื่องซักผ้าในโหมดพิเศษโดยเมื่อเครื่องซักผ้าเสร็จแล้วเครื่องจะปั่นผ้าเบา ๆ ทุกสองนาที เพื่อให้มีอากาศไหลผ่าน ช่วยให้ผ้าไม่อับชื้น และเมื่อเรากลับถึงบ้าน เครื่องซักผ้าจะตรวจจับได้ว่าเรา กลับบ้านแล้ว เครื่องซักผ้าจะจบการทำ งานและแจ้งเตือน


อ้างอิง


Click to View FlipBook Version