The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูสู่ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Hattaya Khenphet, 2024-04-10 03:16:54

แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูสู่ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูสู่ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

2024 Prepared By: กลุ่มลุ่งานพัฒพันาหลักสูตสูร และ กระบวนการเรียรีนรู้ กลุ่มลุ่นิเนิทศ ติดตามและประเมินมิผลการจัดจัการศึกษา เพื่อ พื่ พัฒ พั นาสมรรถนะครูสู่ผู้สู่ ผู้ เ ผู้ รีย รี นในศตวรรษที่ 21 แนวทางการนิเทศ ยุทธศาสตร์ชร์าติที่ 3 ด้าน การพัฒพันาและเสริมริสร้าร้งศักยภาพ ทรัพรัยากรมนุษย์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ร์ ที่12 พัฒพันากระบวนการเรียรีนรู้ สำ นักนังานเขตพื้นพื้ที่การศึกษามัธมัยมศึกษาสิงสิห์บุห์บุรี อ่างทอง


02 01 03 หลักการและเหตุผตุล วัตวัถุปถุระสงค์ /เป้า ป้ หมาย สภาพปัจปัจุบันบั การพัฒพันาสมรรถนะครูในการจัดการเรียรีนรู้ เชิงชิรุก (Active Learning) ด้วย กระบวนการ PACAS Model การดำ เนินงานในระดับเขตพื้นพื้ที่การศึกษา 04 05 หลักสูตสูรการศึกษาขั้นขั้พื้นพื้ฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับรั ปรุงมาตรฐานและตัวชี้วัชี้ดวั พุทธศักราช 2561 โดยวิเวิคราะห์ ตัวชี้วัชี้ดวั ปลายทาง และ ตัวชี้วัชี้ดวัระหว่า ว่ งทาง การนิเทศ ติดตามและประเมินมิผล แนวทางการนิเทศ เพื่อพื่พัฒพันาสมรรถนะครูสู่ผู้ สู่ ผู้ เรียรีนในศตวรรษที่ 21


การเรีย รี นรู้แ รู้ บบกระบวนการ สะท้อนความสามารถได้ดีกว่า ว่ 1) เปิดปิ ใจ ใคร่คร่รวญ ตระหนักรู้ 2) ค้นหา ศึกษา ใส่ใส่จ 3) แลกเปลี่ยน เรียรีนรู้ สู่คสู่ วามสร้าร้งสรรค์ 4) ก่อร่าร่ง ทดสอบ ตอบโจทย์ 5) สะท้อนคิด ก่อเกิด เรียรีนรู้


ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เป้าหมาย คนไทยเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำ หรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 กำ หนดประเด็นยุทธศาสตร์ การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบ สนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เน้นการพัฒนาหลักสูตรแระบวนการเรียนการสอนและเสริมสร้าง ศักยภาพครู ยกระดับคุณภาพสถานศึกษาและสามารถจัดการเรียนรู้ให้แก่ผุ้เรียนได้เต็มตามศักยภาพด้านความรู้ ด้านวิชาการ ทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง พร้อมทั้ง มีทักษะและศักยภาพในการประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ประกอบด้วย ทักษะและ คุณลักษณะ 3Rs ได้แก่ การอ่านออก (Reading) การเขียนได้ (Writing) และการคิดเลขเป็น (Arithmetics) 8Cs สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำ หนดเป้าหามาย 1คนไทยมีกำ รศึกษาที่มีมาตรฐานสากล เพิ่มขึ้น มีทักษะที่จำ เป็นของโลกศตวรรษที่ 21 สำ มารถในกำ รแก้ปัญหำ ปรับตัว สื่อสาร และทำ งนร่วมกับผู้อื่นได้ อย่างมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยการพัฒนาหลักสูตรกระบวนการเรียนการ สอน กำ รวัดและประเมินผล ให้ผู้เรียน ทุกระดับและทุกกลุ่ม ได้รับกำ รศึกษาที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน เกิดกำ ร เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งมีทักษะและศักยภาพในกำ รประกอบอำ ชีพที่สอดคล้องกับความต้องกำ รของ ประเทศ การขับเคลื่อน การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน ที่พัฒนาคุณภาพกำ รจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับบริบทของ พื้นที่ที่หลากหลาย รวมถึงแนวโน้มของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปและสอดคล้องกับการพัฒนาของประเทศ การพัฒนา คุณภาพ การเรียนการสอนภาษาต่างประเทศและพัฒนาและเสริมสร้างศักยภพครู เพื่อพัฒนาศักยภาพครู ให้มีความ พร้อมในการจัดการเรียนการสอน สอดรับกับทักษะที่จ เป็นในศตวรรษที่ 21 กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา Lสำ นักงานเขตพื้นที่การ ศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง จึงให้ความสำ คัญในการส่งเสริม พัฒนาศักยภาพผู้ เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะที่จำ เป็นในศตวรรษที่ 21 สามารถแข่งขันในระดับชาติและ เวทีโลกซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีสมรรถนะและได้ มาตรฐานวิชาชีพ โดยปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรท้องถิ่นและ หลักสูตรอาชีพออกแบบและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายสอดคล้องกับสภาวะการ ที่เปลี่ยนแปลง การพัฒนาสื่อเทคโนโลยี แอฟพริเคชั่น นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ การ วัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และ เพื่อให้เกิดการปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน ที่ยั่งยืนและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคม (All for Education) สู่เป้าหมาย การพัฒนาที่ยืน (Sustainable Development Goals : SDGs 2030 พร้อมที่จะ พัฒนาการเรียนรู้เพื่ออนาคต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ผู้เรียนอยู่ใน สังคมโลกได้อย่างมีความสุข ACTIVE LEARNING หน้า 1 หลักการและเหตุผตุล


1. เพื่อมีหลักสูตรสถานศึกษาที่ยืดหยุ่นตอบสนองต่อความถนัดและความสนใจของผู้เรียน 2. เพื่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning) 3. เพื่อส่งเสริมการพัฒนาครูให้มีสมรรถนะ (Active learning) และจรรยาบรรณตามมาตรฐานวิชาชีพ 4. เพื่อพัฒนาครูให้มีทักษะกระบวนการเรียนรู้ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดขั้นสูงผ่านแหล่งเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น และความเป็นพลเมืองดี 5. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาครูให้มีทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลและ สร้างสื่อนวัตกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ สถานการณ์ปัจจุบัน สำ หรับพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน 6. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาครูให้มีทักษะกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ในการพัฒนาผู้เรียน ด้านการคิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ เตรียมพร้อมเข้าสู่เวทีแข่งขัน 7. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาครูให้มีทักษะการสื่อสารและการใช้ภาษาไทย ภาษาถิ่น ต่อยอดการเรียนรู้และ การประกอบอาชีพ 8. เพื่อสนับสนุนครูให้มีผลงานการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ Best Practices จัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning ในการพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เป็นแบบอย่างและเผยแพร่ โรงเรียนแกนนำ ร้อยละ 100 มีหลักสูตรสถานศึกษาที่ยืดหยุ่นตอบสนองต่อความถนัดและความสนใจของผู้เรียน โรงเรียนร้อยละ 100 มีการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการ เรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning) โรงเรียนร้อยละ 100 มีการส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ครู ให้เข้าถึงแพลตฟอร์มสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในการจัดการเรียน การสอน การวัด ประเมิน และพัฒนาผู้เรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคล สำ หรับผู้เรียนทุกช่วงวัย ครูแกนนำ ร้อยละ 100 ที่ได้รับการส่งเสริมการพัฒนาให้มีสมรรถนะ (Active learning) และจรรยาบรรณตาม มาตรฐานวิชาชีพ ครูแกนนำ ร้อยละ 100 มีทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีการวัดและประเมินผลเพื่อ พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย 3.6 ครูแกนนำ ร้อยละ 100 มีทักษะกระบวนการเรียนรู้ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดขั้นสูงผ่านแหล่งเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และความเป็นพลเมืองดี ACTIVE LEARNING หน้า 2 วัตวัถุปถุระสงค์ เป้า ป้ หมายผลิต (OUTPUT)


กลุ่มนิเทศติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา ส่งเสริม สนับสนุน และให้คำ ชี้แนะผ่านกระบวนการ นิเทศการศึกษา เพื่อ ยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ซึ่งในการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียน รู้ โดยมุ่งเน้นให้ครูผู้สอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ยกระดับคุณภาพ การจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning ) และตั้งค่าเป้าหมาย ในการพัฒนาผลสัทางการเรียนของนักเรียน ซึ่งจัดทำ เป็นบันทึกข้อตกลงความ ร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อประสานความร่วมมือกัน ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ให้เป็นไป ตามกลยุทธ์ จุดเน้นของสำ นักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน และสำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สิงห์บุรี อ่างทอง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบผลการนิเทศการศึกษาของโรงเรียนในสังกัด ปีการศึกษา 2565 – 2566 พบว่า ครู ผู้สอนมีพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้ ในภาพรวมมีค่า เฉลี่ยสูงขึ้น แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มสาระพบว่า พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู และประสิทธิภาพใน การจัดการเรียนรู้ไม่เป็นไปตามค่าเป้าหมายที่ได้กำ หนดไว้จากทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรค ที่ส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2566 สรุปได้ว่า ด้านผู้เรียน มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ เช่น สมาธิสั้น ขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ ไม่สนใจเรียน ไม่แสวงหาความรู้ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และมึ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้าน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ความอดทนและ ความรับผิดชอบ ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ ด้าน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนไม่หลากหลาย ด้านครูผู้สอน 1) การสร้างแรงจูงใจ ครู ไม่กระตุ้นความสนใจที่ทำ ให้ผู้เรียนค้นพบความสำ เร็จในการเรียนรู้ สามารถนำ ความรู้ ความ เข้าใจไปประยุกต์ใช้ สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่า และคิดสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ โดยเชื่อมโยงกับ สภาพแวดล้อมใกล้ตัว ปัญหา ของชุมชน สังคม หรือประเทศชาติ 2) การใช้เทคนิค และ วิธีการสอนของครูไม่หลากหลายโดยครูผู้สอนใช้เทคนิควิธี สอนเดิม ๆ มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) ครูผู้สอนซึ่งเป็นครูรุ่นใหม่มีประสบการณ์สอนน้อย ไม่เข้าใจการ ออกแบบการจัดการเรียนรู้ และจัดทำ แผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องเชื่อมโยงกับมาตรฐานและตัวชี้วัดหลักสูตรแกน กางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 และปรับปรุงแก้ไข พ.ศ.2566 (จัดกลุ่มตัวชี้วัดระหว่างทาง และ ตัวชี้วัดปลายทาง) ด้านสื่อการเรียนรู้ สื่อการสอนไม่น่าสนใจ ส่วนในด้านการวัดและประเมินผล ใช้วิธีการประเมินที่ไม่หลากหลาย ทั้งที่ เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ การให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อพัฒนาผู้เรียน (Assessment for Learning) เน้นเพียง ข้อสอบ และชิ้นงานของนักเรียนเป็นหลักในการตัดสินผลการเรียนรู้ (สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง, 2566) ACTIVE LEARNING หน้า 3 สภาพปัจปัจุบันบั


การพัฒพันาสมรรถนะครูในการจัดการเรียรีนรู้เ รู้ ชิงชิรุก (Active Learning) ด้วยกระบวนการ PACAS Model ACTIVE LEARNING หน้า 4 การดำ เนินงานนิเทศเพื่อพัฒนานสมรรถนะครูสู่ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 มีกระบวนการดำ เนินงานแบ่งเป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 วางแผน (P-Plan) ศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูแกนนำ โดยดำ เนินการจัดทำ Focus Group ระดมความคิดร่วมกับครูแกนนำ ทุกโรงเรียนในสังกัดโรงเรียนละ 2 คน และวิเคราะห์สภาพปัจจุบันปัญหาจากเอกสาร รายงานผลการนิเทศ ติดตาม และประเมินผล ในภาคเรียนที่ 2/2565 และ ภาคเรียนที่ 1/2566 พร้อมทั้งดำ เนินการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านกระบวนการ PLC ของกลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา การวิเคราะห์สภาพ ปัญหาจากผลการนิเทศ ตลอดจนการศึกษาสภาพปัญหาของการจัดการเรียนรู้ผ่านการสังเกตและนิเทศชั้นเรียน ได้แก่ หลักสูตรสถานศึกษา กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การพัฒนาสื่อ/นวัตกรรมการเรียนรู้ ตลอดจน ศึกษาแนวคิด หลักการทฤษฎีที่เกี่ยวข้องจาก เอกสารตำ รา เอกสารงานวิจัย เอกสารทางวิชาการ บทคัดย่อ งานวิจัย รายงานผลการนิเทศ ข้อมูลสารสนเทศ และบทความ ต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ แล้วนำ ข้อมูล ดังกล่าวปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำ แนะนำ ในการดำ เนินงาน แผนภาพการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) สู่สมรรถนะสำ คัญของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง


การพัฒพันาสมรรถนะครูในการจัดการเรียรีนรู้เ รู้ ชิงชิรุก (Active Learning) ด้วยกระบวนการ PACAS Model ACTIVE LEARNING หน้า 5 ขั้นที่ 2 วิเคราะห์ข้อมูล (A - Analysis) ดำ เนินการศึกษารูปแบบ และแนวทางการนิเทศ โดยนำ ข้อมูลมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ เ จัดลำ ดับความ สำ คัญ นำ ไปสู่การกำ หนดเป้าหมาย/กรอบแนวทางการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครู เพื่อสร้าง/พัฒนา นวัตกรรมการนิเทศ จัดทำ สื่อ เครื่องมือนิเทศ ก็บรวบรวมข้อมูลโดยการตรวจสอบข้อมูล วิเคราะห์ และสังเคราะห์ ข้อมูล และนำ เสนอผลการศึกษา โดยมีรายละเอียดของการดำ เนินการแต่ละขั้นตอน ดังต่อไปนี้ 1) ศึกษาข้อมูล/วิธีการดำ เนินการ 2) นำ ข้อมูลมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ 3) หาแนวทางและวิธีการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครู 4) ส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ของครูแกนนำ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่หลากหลาย และเหมาะ สมกับบริบท เช่น อบรม พัฒนา และ นิเทศชี้แนะ (Coaching & Mentoring) ขั้นที่ 3 นิเทศชี้แนะ (C-Coach) ดำ เนินการนิเทศชี้แนะในการจัดการเรียนการสอน โดยดำ เนินการ ดังนี้ 3.1 การนิเทศ ติดตาม และประเมินผล ระยะที่ 1 นิเทศบูรณาการ (คณะศึกษานิเทศก์ และ ผู้อำ นวยการกลุ่มงานต่าง ๆ ของ สพท) ระยะที่ 2 นิเทศติดตามงานนโยบาย (คณะศึกษานิเทศก์ ติดตามงานตามของข่ายภารกิจ) ระยะที่ 3 นิเทศหนุนเสริม (คณะกรรมการ ก.ต.ป.น. และ คณะอนุกรรมการ ก.ต.ป.น) รายสหวิทยาเขต ระยะที่ 4 นิเทศสังเกตชั้นเรียน (ศึกษานิเทศก์ประจำ โรงเรียนนิเทศสังเกตการสอนในระดับชั้นเรียน ด้วย รูปแบบการนิเทศ GOOD+ Model ) 3.2 สะท้อนผล (Reflection) การสะท้อนผลการนิเทศด้วยกระบวนการ GOOD+ Model (สมรรถนะการจัดการเรียนรู้ของครู ประกอบ ด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ ประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้ เรียน และความพึงพอใจของผู้เรียน ) 3.3 ประเมินความพึงพอใจของผู้รับการนิเทศ 3.4 สรุปรายงานการนิเทศ


ขั้ขั้นที่ 4 ปรับประยุกต์ (A-Apply) การนำ ข้อมูลจากการสะท้อนผลการนิเทศมาปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มมากขึ้น โดยครูเรียนรู้จากการปฏิบัติการสอนของตนเอง และหรือจากการบันทึกวิดีโอการจัด การเรียนรู้ของ ตนเอง รวมทั้งผลการนิเทศและข้อมูลที่ได้จากการสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้นำ ไปใช้ วางแผนการสอน ปรับปรุงและ พัฒนาการเรียนการสอนของตนเอง โดยทีมบริหาร และ ครูผู้นิเทศ มีบทบาทในการสนับสนุน ให้ครูผู้สอนพัฒนา ตนเองตลอดเวลา โดยการเข้าร่วมประชุม/อบรม ศึกษาค้นคว้าเรียนรู้เพิ่มเติมจากแหล่ง การเรียนรู้ต่าง ๆ ตลอดจน สร้างขวัญและกำ ลังใจในการทำ งาน ขั้นที่ 5 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (S-Share) นำ ผลงานการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practices) ของครูผู้สอนที่รับการนิเทศ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่าน กระบวนการ PLC ในระดับเขตพื้นที่การศึกษา และต่อยอดผลงานสู่ระดับภาค และระดับประเทศ เพื่อเป็นแบบอย่าง ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนและเผยแพร่ให้กับผู้สนใจ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น เอกสาร / เว็บไซต์ / สื่อเทคโนโลยี และ OBEC Content Center เป็นต้น การพัฒพันาสมรรถนะครูในการจัดการเรียรีนรู้เ รู้ ชิงชิรุก (Active Learning) ด้วยกระบวนการ PACAS Model ACTIVE LEARNING หน้า 5 https://youtu.be/0QGYaP9GS5s


การดำ เนินงานในระดับเขตพื้นพื้ที่การศึกษา WWW.REALLYGREATSITE.COM PAGE NUMBER ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุงมาตรฐานและตัวชี้วัด พุทธศักราช 2561 โดยวิเคราะห์ตัวชี้วัด ปลายทาง และ ตัวชี้วัดระหว่างทาง S T E P 0 1 S T E P 0 2 S T E P 0 3 ออกแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ( Active Learning) มุ่งเน้นสมรรถนะ สำ คัญของผู้เรียน และสมรรถนะเฉพาะตามธรรมชาติวิชา สร้างและปรับปรุงเครื่องมือวัดและประเมินผลแบบสมรรถนะ S T E P 0 4 นิเทศและกำ กับติดตาม การจัดการศึกษาในระดับสถานศึกษา จำ นวน 4 ระยะ


หลักสูตสูรการศึกษาขั้นขั้พื้นพื้ฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับรั ปรุงมาตรฐานและตัวชี้วัชี้ดวัพุทธศักราช 2561 โดยวิเวิคราะห์ ตัวชี้วัชี้ดวั ปลายทาง และ ตัวชี้วัชี้ดวัระหว่า ว่ งทาง S T E P 0 1


แผนภาพการวfz]ตัวชี้วัดปลายทางและระหว่างทาง สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน


S T E P 0 2 ออกแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ( Active Learning) มุ่งเน้นสมรรถนะ สำ คัญของผู้เรียน และสมรรถนะเฉพาะตามธรรมชาติวิชา ออกแบบการจัดการเรียรีนรู้เรู้ชิงชิรุก ( Active Learning) มุ่งมุ่เน้นสมรรถนะสำ คัญของผู้เผู้รียรีน และสมรรถนะเฉพาะ ตามธรรมชาติวิชวิา


S T E P 0 3 สร้างและปรับปรุงเครื่องมือวัดและประเมินผลแบบสมรรถนะ แผนภาพเกณฑ์การตัดสินผลการเรียนระดับมัธยมศึกษา สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน


S T E P 0 3 สร้า ร้ งและปรับรั ปรุงเครื่อรื่งมือมืวัดวัและ ประเมินมิผลแบบสมรรถนะ แผนภาพเกณฑ์การตัดสินผลการเรียนระดับมัธยมศึกษา สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน การประเมินผลไม่ได้วัดความรู้อย่างเดียว แต่เป็นการวัดผู้เรียนให้รอบด้าน ทั้งทักษะ และคุณลักษณะต่าง ๆ เน้นในเรื่องของสถานการณ์ และเกณฑ์ที่กำ หนดขึ้นมา เช่น การที่ เด็กจะสามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นได้ หรือเด็กสามารถทำ อะไรได้ประสบความสำ เร็จจะ ต้องมีเกณฑ์อะไรบ้าง ซึ่งในส่วนนี้ จะทำ ให้คุณครูมีอิสระในการออกแบบการเรียนการ สอนและการวัดประเมินผลมากยิ่งขึ้น โดยนำ สมรรถนะที่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนมาแตก เป็นองค์ประกอบหรือตัวบ่งชี้ Rubric และสร้างเครื่องมือในการวัดผลให้หลากหลายรูป แบบ เช่น การทดสอบ หรือปฏิบัติ การสังเกต การสัมภาษณ์ และแฟ้มสะสมงาน เป็นต้น สมรรถนะ (Competencies of learners) เป็นเรื่องสำ คัญที่เด็กทุกคนจะต้องมี ต้องใช้ อย่างเหมาะสม สมรรถนะประกอบไปด้วย ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ทั้ง 3 สิ่งนี้ เป็นองค์ประกอบที่สำ คัญที่จะเสริมสร้างสมรรถนะให้กับนักเรียน ไม่ ว่าจะเป็นความคิดในการแก้ปัญหา การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะการใช้ชีวิต ประจำ วันได้อย่างมีเป้าหมาย เพื่อให้เห็นว่า ใครมีสมรรถนะอย่างไรบ้าง เราได้มีการลอง ยกตัวอย่างสถานการณ์ ให้เด็ก ๆ ทำ ความเข้าใจ และหาไอเดียในการแก้ปัญหาตาม สถานการณ์นั้น ๆ ร่วมกัน


การนำ สมรรถนะมาเป็นเป้าหมายในการจัดการศึกษาโดยมีการกำ หนดสมรรถนะหลักของผู้ เรียนทุกระดับ ถือเป็นก้าวสำ คัญที่นำ ไปสู่การพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนโดยรวมได้ซึ่งทำ ให้ระบบ การศึกษามีเป้าหมายชัดเจน มีความเข้าใจตรงกัน การนำ ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลได้อย่างมี ประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมไปจนถึงการจัดการเรียนการสอนที่เน้นได้ประยุกต์ใช้ ความรู้ใน งานต่าง ๆ ในสถานการณ์จริงและการแก้ปัญหาในชีวิตประจำ วัน และการประเมินผลที่เน้นองค์ รวมของสมรรถนะที่ควรเกิดขึ้นในตัวผู้เรียนโดยตรง ทั้งทางด้านการบริหารหลักสูตร การจัดการ เรียนการสอน และการวัดประเมินผลที่อิงสมรรถนะหรือ ผลลัพธ์การเรียนรู้จึงเกิดเป็นการศึกษาอิง สมรรถนะ (CBE) (Levesque & Wake, 2021) โดยสรุปองค์ประกอบของการจัดการศึกษาฐาน สมรรถนะทั่วไปประกอบด้วย 1) หน่วยสมรรถนะ (Unit of Competence/Competency), 2) สมรรถนะย่อย(Element of Competence), 3) เกณฑ์การปฏิบัติ (Performance Criteria) 4) เงื่อนไขของขอบเขตการปฏิบัติ (Conditions/Range of Variables) ึ่ ง จำ เป็นต้องระบุในแผนการเรียนรู้ในแต่ละรายวิชาในหลักสูตรอย่างชัดเจนด้วย ส่วนลักษณะ ของการจัดการเรียนการสอนฐานสมรรถนะสามารถสรุปโดยภาพรวม (Phakamach & Panjarattanakorn, 2023) 1) กำ หนดผลลัพธ์การเรียนรู้(Learning Outcomes/Course Outcomes) อย่างชัดเจน โดยคาดหวังว่าผู้เรียนจะสามารถปฏิบัติได้เมื่อสำ เร็จการศึกษา (Expected Learning Outcomes: ELO) จากการที่ผู้สอนได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน หลากหลายรูปแบบตาม สมรรถนะการเรียนรู้ที่กำ หนด 2) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำ คัญ (Learner-Centeredness) โดยการเลือก ใช้สื่อดิจิทัล นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่หลากหลาย รวมถึงอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ผู้ เรียนปฏิบัติภาระงาน (Task-oriented Activities) ได้สำ เร็จ ตามสมรรถนะการเรียนรู้ที่กำ หนด รวมถึงการให้ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) แก่ผู้เรียนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้ปรับปรุงแก้ไข การปฏิบัติงานให้ได้ตามเกณฑ์สมรรถนะที่ กำ หนด 3) การกำ หนดให้ผู้เรียนแต่ละคนปฏิบัติภาระงานให้สำ เร็จโดยใช้การวัดผลแบบอิงเกณฑ์ (Criterion Referenced) ในการประเมินผลความสำ เร็จของผู้เรียนแต่ละคน อีกทั้งมีการบันทึก รายงานผลข้อมูลสมรรถนะเพื่อนนำ มาใช้ในการปรับปรุงพัฒนา กระบวนการจัดการเรียนการสอน ในครั้งถัดไป


แนวทางการวัดและประเมินผลฐานสมรรถนะ 1. การวัดและประเมินผลฐานสมรรถนะในกระบวนการจัดการเรียนการสอนฐานสมรรถนะ เพื่อให้รู้ว่าผลการจัดการเรียนรู้เป็นอย่างไร ผู้เรียนสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่มากน้อย เพียงใด ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนมีคุณภาพจริงหรือไม่ และมีสิ่งใดที่ควรปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement) หรือพัฒนาให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพ จึงจำ เป็น ต้องประเมินการเรียนรู้เพื่อแสดงผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่ชัดเจน วัตถุประสงค์ของการประเมินการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ (Competency-Based Assessment: CBA) มีองค์ประกอบสำ คัญอยู่3 ประการ (Prasertsin et al., 2021; Srivastava et al., 2021) ได้แก่ 1) การประเมินเพื่อการเรียนรู้(Assessment for Learning) หมายถึง การประเมินเพื่อ วินิจฉัยปัญหาการเรียนรู้ของผู้เรียน การปรับปรุงวิธีการเรียนรู้หรือวิธีการทำ งานของผู้เรียนเพื่อ พัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล แนวคิดสำ คัญของการประเมินเพื่อการเรียนรู้ก็คือ การประเมินใน ห้องเรียนขณะที่จัดการเรียนการสอนโดยผู้สอนและผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กันสูงผ่านช่องทางการ สื่อสาร ที่เป็นคำ ถามหรือบทสนทนาให้คิด ฟัง และให้คำ ตอบเพื่อสะท้อนความคิดและวิถีปฏิบัติที่ได้ เรียนรู้มาการประเมินตามแนวทางนี้ เป็นการประเมินความก้าวหน้า (Formative Assessment) เป็นสำ คัญ 2) การประเมินขณะเรียนรู้(Assessment as Learning) หมายถึง การรวบรวมข้อมูลเชิง ประจักษ์เกี่ยวกับการเรียนของผู้เรียนในขณะเรียนเพื่อช่วยให้ผู้เรียนตระหนักในการเรียนรู้ของ ตนเอง การประเมินเกิดขึ้นเมื่อผู้เรียนประเมินตนเองว่าเขารู้อะไร เขาทำ อะไรได้ และใช้การประเมิน เพื่อการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ การให้ผู้เรียนออกแบบแผนการเรียนรู้และกลยุทธ์ในการเรียนรู้จะช่วยให้ผู้ เรียนเกิดพัฒนาการเรียนรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง การประเมินตามแนวทางนี้เป็นการประเมิน ความก้าวหน้าด้วยตนเอง เช่นกัน 3) การประเมินผลการเรียนรู้(Assessment of Learning) หมายถึง การประเมินเพื่อตัดสินผล การเรียนรู้ของผู้เรียนว่าเกิดการเรียนรู้บรรลุตามมาตรฐานของหลักสูตรหรือผลลัพธ์การเรียนรู้เพียง ใด ผู้สอนเป็นผู้มีบทบาทหลักในการประเมินตามแนวทางนี้และเป็นการประเมินสรุปผลโดยภาพรวม (Summative Assessment) Perera, Babatunde, Pearson, and Ekundayo (2017) กล่าวว่า การวัดและประเมินผล ฐานสมรรถนะตามรูปแบบมาตรฐานจะเน้นการใช้การประเมินตามสภาพจริงจากสิ่งที่ผู้เรียนได้ ปฏิบัติจริงและความก้าวหน้าที่เกิดขึ้น เช่น การประเมินจาก การปฏิบัติ(Performance Assessment) หรือการประเมินโดยใช้แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio Assessment) รวมถึงการประเมินตนเอง (Self-Assessment) และการประเมินโดยเพื่อน (Peer Assessment) เป็นต้น


กระบวนการวัดและประเมินผลที่ใช้สถานการณ์ Macchi Silva and Ribeiro (2021) กล่าวถึงการประเมินผลที่เน้นการปฏิบัติ (Performance-Based Assessment) โดยเน้นที่กระบวนการเรียนรู้และวิถีการปฏิบัติซึ่ง มักจะมีการประเมินทักษะ 4 ด้าน ได้แก่ 1) ทักษะตามภาระงาน (Task Skills) หมายถึง ความสามารถในการปฏิบัติภาระงาน แต่ละเรื่อง 2) ทักษะการจัดการภาระงาน (Task Management Skills) หมายถึง ความสามารถ ในการจัดการกับภาระงานและ กิจกรรมที่ต้องปฏิบัติภายใต้งานนั้น ๆ 3) ทักษะในการแก้ปัญหาและคาดการณ์อุปสรรคปัญหาที่อาจเกิดขึ้น (Contingency Skills) หมายถึง ความสามารถ ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและคาดการณ์อุปสรรคปัญหาที่ อาจเกิดขึ้น การประเมินทักษะนี้ใช้ได้ดีโดยกeหนดเป็นสถานการณ์จำ ลอง 4) ทักษะตามบทบาท/งานที่รับผิดชอบ/สภาพแวดล้อม (Job/Role/Environment Skills) หมายถึง ความสามารถในการ รับผิดชอบต่อหน้าที่ตามบทบาทที่กำ หนด การ ประเมินทักษะนี้จะรวมถึงสมรรถนะในการทำ งานร่วมกับผู้อื่นด้วย


เอกสารเพิ่มเติมการประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ (Competencies of learners)


S T E P 0 4 นิเทศและกำ กับติดตาม การจัดการศึกษาในระดับ สถานศึกษา จำ นวน 4 ระยะ กระบวนการนิเทศการจัดการศึกษา มีการดำ เนินงาน 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ดำ เนินการนิเทศบูรณาการ โดยคณะกรรมการนิเทศระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประกอบด้วย ผู้บริหาร ระดับสูงของเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำ นวยการกลุ่ม 9 กลุ่ม และ 1 หน่วย และ ศึกษานิเทศก์ ร่วมดำ เนินการนิเทศงาน โนบาย สพฐ. และ นโยบายเร่งด่วน Quick Policy โดยจัดทำ สื่อ/เครื่องมือนิเทศ ผ่านระบบ Google From ระยะที่ 2 นิเทศงานนโยบาย โดยคณะกรรมการนิเทศการจัดการจัดการศึกษา ระดับสำ นักงานเขตพื้นที่การ ศึกษา ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงของเขตพื้นที่การศึกษา และ ศึกษานิเทศก์ ร่วมดำ เนินการ ติดตามผลการ ดำ เนินงานโนบาย สพฐ. และ นโยบายเร่งด่วน Quick Policy ระยะที่ 3 นิเทศหนุนเสริม โดยคณะกรรมการนิเทศระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง ของเขตพื้นที่การศึกษา คณะกรรมการ ก.ต.ป.น. คณะอนุกรรมการ ก.ต.ป.น. และ คณะศึกษานิเทศก์ ร่วมดำ เนินการ ติดตามผลการดำ เนินงานตามโนบาย สพฐ. QUICK Win และประเมินผลการดำ เนินงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน โรงเรียนมัธยมศึกษา พ.ศ. 2560 ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562 จำ นวน 4 ฝ่าย 8 องค์ประกอบ ระยะที่ 4 นิเทศสังเกตชั้นเรียน โดยศึกษานิเทศก์ ประจำ โรงเรียนดำ เนินการสังเกตการณ์สอนของครูผู้สอน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) นิเทศชั้นเรียน/สังเกตการสอน.ครูผู้ สอนโรงเรียน และจัดทำ สรุปรายงานการนิเทศเป็นรายบุคคล และรายโรงเรียนที่รับการนิเทศ แผนภาพการนิเทศการจัดการศึกษา สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง


กระบวนการขับเคลื่อนพัฒนาสมรรถนะครูสู่นวัตกรรมการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง กระบวนการขับเคลื่อนพัฒนาสมรรถนะครูสู่นวัตกรรมการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ต่อยอดสู่วิทยฐานะตามมาตรฐานวิชาชีพ สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง


2024 หนังนัสือสืส่งส่เสริมริ ประสิทสิธิภธิาพการเรียรีนรู้กรู้ลุ่ มสาระสังสัคมศึกษา ศาสนา และวัฒวันธรรม นวัตวักรรมสร้าร้งสรรค์คนดี SEP for SEGs


Click to View FlipBook Version