The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิ่งแล้วขาใหญ่จริงหรือ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

วิ่งแล้วขาใหญ่จริงหรือ

วิ่งแล้วขาใหญ่จริงหรือ

วิ่งแล้วขาใหญ่จริงหรือ

การวิ่งนั้นถือว่าเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ง่าย ประหยัด
ใครๆก็ทำได้ แต่ยังเป็นที่กังวลหวาดกลัวของผู้เริ่มออกกำลังกายใหม่ๆว่า
วิ่งๆไปขาจะใหญ่น่องจะโต วันนี้เรามาไขปริษณากันว่าแท้จริงแล้ววิ่งแล้ว
ทำให้ขาใหญ่จริงหรือไม่



เป็นที่ถกเถียงกันมานาน กับเรื่องน่องใหญ่หรือกล้ามเน้ือขาชัดขึ้นเมื่อวิ่ง
หนักๆซึ่งถ้าหากมองในมุมคนทั่วๆไปที่ไม่ได้คลุกคลีกับการออกกำลังกาย
หรอื ผู้ที่เริ่มลดน้ำหนักใหม่ๆก็จะมองว่ามันมีผลจริงๆ เพราะวิ่งๆไปทำ
ไม๊ไมขามันแน่นขึ้นใหญ่ขึ้น ซึ่งความจริงแล้วมันอาจจะเป็นแค่ข้ออ้างๆเล็กๆ
ที่ทำให้คุณกลัวการวิ่งก็เป็นได้

ในเร่ืองนี้ แพทย์หญิงเสาวนิตย์ กมลธรรม อธิบายไว้ว่า ส่วนใหญ่แล้วจะ
เป็นข้อกังวล (ข้ออ้าง) ของสาวๆ กลัววิ่งไปซักระยะหนึ่งน่องอันสวยงาม
จะกลายเป็นกล้ามเนื้อก้อนแข็ง แต่ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าว
ว่า การออกกำลังใดๆ ที่ไม่ได้ใช้แรงเต็มที่ จะไม่ทำให้กล้ามเน้ือเพิ่มขนาด
การวิ่งเป็นการใช้งานกล้ามเน้ือที่ละน้อยแต่บ่อยๆ นานๆ แบบนี้จะมีแต่
ความเข็งแรง โดยไม่เพิ่มขนาดนอกจากนี้ แจ็ค เอช.วิลมอร์ จากสถาบัน
สุขภาพนักกีฬาแห่งชาติอเมริกา พบว่า วิ่งอาจเพิ่มความแข็งแรงให้
กล้ามเน้ือได้ถึงร้อยละ 44 โดยเกอื บไม่มีการเพิ่มของขนาดเลย น่องที่ทู่
ตะโพกที่ใหญ่ พุงที่เกะกะ ต้นขาและแขนที่เทอะทะ เป็นผลจากการสะสม
ของไขมันในส่วนนั้นๆ การวิ่งเป็นการ รีด ไขมันอันวิเศษ จึงไม่ต้องสงสัย
เลยว่า ทำไมนักวิ่งหญิงจึงมีรูปร่างเพรียวลม สมส่วน

ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะกลัวว่า การวิ่งหรอื การปั่นจักรยานมากๆ จะทำให้
น่องโตเหมือนผู้ชาย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ดังที่ได้กล่าวมาแล้วใน
ตอนต้นว่าการเพิ่มมวลของกล้ามเน้ือต้องอาศัยเพศชาย คือ
Testosterone ผู้หญิงที่ออกกำลังกายจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น แต่มัด
กล้ามเน้ือจะไม่ใหญ่ (Browne and Wilmor 1974) การออกกำลังกาย
จะทำให้ปริมาณไขมันที่แทรกอยู่ระหว่างมัดกล้ามเนื้อลดลงทำให้รู้สึกว่า

กล้ามเนื้อมีความตึงแข็งขึ้น กว่าเดิมได้บ้าง แต่ถ้าหยุดออกกำลังกาย
เมื่อใด ความแข็งแรงของกล้ามเน้ือจะค่อยๆ ลดลงและมีไขมันมาแทรกมาก
ขึ้น กล้ามเน้ือจะนุ่มลงคล้ายกับระยะก่อนออกกำลังกายได้ (การออก
กำลังกายแบบใช้แรงเต็มที่ คือ อย่างที่นักเพาะกายทำกัน โดยการยก
น้ำหนักมากๆ ค้าง ไว้นานๆ แบบนี้จะบริหารให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น)

เรื่องน่องใหญ่นั้น ต้องแบ่งเป็น วิ่งเพื่อสุขภาพ, วิ่งเพ่ือลดน้ำหนัก หรอื
วิ่งเพื่อการแข่งขัน ถ้าวิ่งเพ่ือสุขภาพ คือ วิ่งอาทติ ย์ละ 3 – 4 ครั้งๆ ละ
ประมาณ 30-60 นาที ไม่ได้ใช้ความเร็วสูงมาก ปัญหาเร่ือง น่องใหญ่
หรอื สะโพกใหญ่ คงน้อยมาก แต่สิ่งที่จะได้รับคือ กล้ามเนื้อน่อง และ
กล้ามเน้ือต้นขา แข็งแรง สามารถเคลื่อนไหวได้ทนและนานขึ้น ส่วนนักวิ่ง
เพื่อการแข่งขัน มีความจำเป็นต้องฝึกซ้อมแทบทุกวัน และใช้เวลานาน
เป็นช.ม. คงหลีกเลี่ยงปัญหาเร่ืองนี้ได้ยาก แต่ท่านจะเลือกเอาความ
สวยงามหรอื สุขภาพดี

วิ่งให้ถูกวิ่งอย่างไร
การวิ่งที่ถูกต้องนั้นจะต้องใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายช่วยในการส่ง
ตัว อย่าให้เพียงแค่ขา หรือเท้าเท่านั้น จะต้องพยายามไม่ลงน้ำหนัก
ทั้งหมดไปที่เท้ามากเกินไปขณะวิ่ง และถ้าเป็นการเริ่มต้นวิ่งจะต้องไม่หัก
โหม ไม่วิ่งอย่างรวดเร็ว เน่ืองจากจะทำให้เกิดการเกร็งของกล้ามเน้ือ ทำ
ให้เกิดอาการปวดได้ ควรเริ่มต้นวิ่งเบาๆก่อน แล้วจึงค่อยเพิ่มเวลาให้
นานขึ้นเร่ือยๆค่ะ

การวิ่งช้าๆนานประมาณ 30-60 นาทีอย่างต่อเน่ืองจะทำให้ร่างกายเผา
ผลาญไขมันที่สะสมอยู่ แบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ไม่เกิดอาการปวด และ
ไม่เป็นการเร่งสร้างกล้ามเน้ือขึ้นมาทดแทน ทำให้ขาไม่ใหญ่ค่ะ แต่ถ้าคุณ
เป็นคนที่มีน้ำหนักตัวมากๆ การวิ่งก็ไม่เหมาะสมเน่ืองจาก ในขณะที่วิ่ง
ข้อเข่าและข้อเท้าจะต้องรองรับน้ำหนักและแรงกระแทกเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจ
ก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้ จึงขอแนะนำให้ออกกำลังกายเบาๆ อย่างอื่นไป
ก่อน เช่น เดิน แล้วเมื่อน้ำหนักเริ่มลดจึงค่อยเปลี่ยนมาเป็นการยิ่ง
เหยาะๆ แล้วก็วิ่งเบาๆ ไปเร่ือยๆจะดีกว่าค่ะ

ที่มา : https://www.lovefitt.com/


Click to View FlipBook Version