แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 หนว่ ยท่ี 1
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ประวัติและความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา เวลา 2 ชั่วโมง
เร่ือง พระพทุ ธศาสนาในประเทศเพื่อนบา้ น ผูส้ อน นางสาวอลษิ า นวลสงิ ห์
วันทท่ี าการสอน
พระ1พ1ุทธศาสนาเผยแผเ่ ขา้ สู่ประเทศเพ่อื นบา้ น สง่ ผลใหม้ ี ส 1.1 ม.2/1 อธิบายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา
การเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอนั ดรี ะหวา่ งประเทศเพ่อื นบา้ น หรอื ศาสนาที่ตนนับถือสู่ประเทศเพ่อื นบ้าน
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเขา้ สู่ประเทศเพื่อนบา้ นและ - ใบกจิ กรรม Compare & Contrast / Diagram
การนบั ถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพือ่ นบ้านในปัจจุบัน - แบบฝกึ หัด / แบบทดสอบ
- Compare & Contrast / Diagram
Do Now (3 นาที) 7. ส่อื 8. วิธวี ดั ผล
1.ครตู งั้ คาถามให้นกั เรยี นตอบ หรือเปน็ การทายปัญหา ตวั อย่างคาถาม เช่น 1.หนงั สือเรยี น 1. ประเมินใบงาน
พระพทุ ธศาสนา ม.2 Compare &
- ประเทศใดบ้างในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใตท้ ่นี ับถือพระพุทธศาสนา 2. แบบฝกึ หัด Contrast /
- เพราะเหตุใด นักเรียนจึงคดิ ว่า ประเทศเหล่าน้ันนบั ถือพระพทุ ธศาสนา 3. แบบทดสอบหลัง Diagram
Purpose (2 นาท)ี เรียน 2. ตรวจแบบฝึกหัด
ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรขู้ องวันนี้
1) อธิบายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเข้าสูป่ ระเทศพม่า อนิ โดนีเซีย
มาเลเซยี สงิ คโปร์ ลาว กมั พชู า และเวียดนามได้
2) อธบิ ายสภาพการนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพื่อนบา้ นใน
ปจั จบุ ันได้
Work Mode (80 นาท)ี
1.ครใู ห้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความสมัครใจ
2.นักเรยี นฟงั ครอู ธบิ ายเรื่องพระพทุ ธศาสนาไดเ้ ผยแผ่ เข้ามาในดินแดนต่างๆ
ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ไดแ้ ก่ พมา่ อนิ โดนีเซยี มาเลเซยี สิงคโปร์ ลาว
กัมพูชา และเวียดนาม แต่ในบางประเทศมีอุปสรรคหลายประการท่ีทาให้การ
เผยแผพ่ ระพุทธศาสนาไม่ประสบความสาเร็จ
3.นักเรียนรว่ มกันอ่านและศึกษาทาใบงานท่ีครูแจกให้
Reflective Thinking (5 นาที)ศ
ครูให้นกั เรียนทุกคนผลัดกนั สรปุ ความรเู้ กี่ยวกับการเผยแผ่
พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพ่อื นบ้าน แล้วรว่ มกันเขียนแผนผงั ความคิด เรอื่ ง
การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ลงในกระดาษท่ีครูแจกให้
............................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................... ........................................................................................
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระ(ก่อนการนาแผนการสอนไปใช้)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….........
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .................................................................หัวหนา้ กลุ่มสาระ
()
ความคิดเหน็ ของผตู้ รวจทาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงชือ่ ..............................................................ผตู้ รวจทาน
()
ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลุ่มสาระ(หลงั การนาแผนการสอนไปใช้)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงชอ่ื ..............................................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
()
ใบงานที่
1.1 พระพทุ ธศาสนาเขา้ ส่ปู ระเทศพม่า
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. พระพุทธศาสนานิกายใด ไดเ้ ผยแผเ่ ขา้ สูป่ ระเทศพมา่ ในระยะแรก และเขา้ มาทางเมอื งใด
2. เพราะเหตใุ ด พระเจา้ อนุรุทธมหาราชจงึ ยกกองทพั ไปสูร้ บกบั พระเจา้ มนูหะ ผคู้ รองเมอื งสธุ รรมวดี
3. เพราะเหตใุ ด พระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาทจงึ ไดแ้ ผข่ ยายไปทวั่ อาณาจกั รพมา่ ในสมยั พระเจา้ อนุรุทธ
4. พระมหากษตั รยิ พ์ มา่ พระองคใ์ ด ทส่ี ง่ คณะสมณทูตไปสบื ทอดพระพุทธศาสนาทล่ี งั กา
5. กษตั รยิ พ์ ม่าพระองคใ์ ด ทท่ี รงเป็นองคอ์ ปุ ถมั ภใ์ นการทาสงั คายนาพระธรรมวนิ ยั ครงั้ ท่ี 5 และกระทา
ทเ่ี มอื งใด
6. เพราะเหตใุ ด หลงั จากมกี ารทาสงั คายนาพระธรรมวนิ ยั ครงั้ ท่ี 5 แลว้ พระพทุ ธศาสนาในพม่าจงึ ไดร้ บั
7. ผนู้ าของพม่าทจ่ี ดั ใหม้ กี ารสงั คายนาพระไตรปิฎก ครงั้ ท่ี 6 (ฉฏั ฐสงั คายนา) ในประเทศพม่า คอื ใคร
8. การทาสงั คายนาพระไตรปิฎก ครงั้ ท่ี 6 นนั้ มพี ระเถระผเู้ ชย่ี วชาญพระไตรปิฎกจากประเทศใด
ใบงานท่ี
1.2 พระพทุ ธศาสนาเข้าส่ปู ระเทศอินโดนีเซีย
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. พระพุทธศาสนาเขา้ สปู่ ระเทศอนิ โดนเี ซยี ในชว่ งพทุ ธศตวรรษทเ่ี ท่าไร
2. มขี อ้ สนั นษิ ฐานวา่ พระพทุ ธศาสนานกิ ายใดเขา้ มาแพร่หลายในอนิ โดนเี ซยี อธบิ ายเหตผุ ล
3. กษตั รยิ ร์ าชวงศใ์ ด แห่งศรวี ชิ ยั ทม่ี กี ารแลกเปลย่ี นวฒั นธรรมดา้ นศาสนากบั กษตั รยิ ร์ าชวงศป์ าละ
แห่งแควน้ เบงกอล
4. พระพทุ ธศาสนาในอนิ โดนีเซยี เรม่ิ เส่อื มลงเมอ่ื อาณาจกั รใดเสอ่ื มอานาจ
5. กษตั รยิ แ์ หง่ อาณาจกั รมชั ปาหติ พระองคใ์ ด ประกาศหา้ มเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในอาณาจกั รของ
พระองค์อธบิ ายเหตผุ ล
6. ปัจจบุ นั ศาสนาใด เป็นศาสนาประจาชาตขิ องอนิ โดนเี ซยี
7. ปัจจุบนั ยงั มชี าวอนิ โดนเี ซยี ในแถบใดทย่ี งั คงมคี วามศรทั ธาเล่อื มใสในพระพทุ ธศาสนา
8. พระพทุ ธศาสนานิกายใด ยงั มผี ศู้ รทั ธาเล่อื มใสอย่างประปรายในดนิ แดนบางส่วนของอนิ โดนีเซยี
ใบงานที่
1.3 พระพทุ ธศาสนาเข้าส่ปู ระเทศมาเลเซีย
คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. พระพทุ ธศาสนาเขา้ สปู่ ระเทศมาเลเซยี ในชว่ งพทุ ธศตวรรษทเ่ี ท่าไร
2. พระพทุ ธศาสนานิกายแรกทเ่ี ขา้ มาเผยแผใ่ นประเทศมาเลเซยี คอื นกิ ายใด
3. หลกั ฐานทแ่ี สดงวา่ ประชาชนชาวมาเลเซยี นบั ถอื พระพทุ ธศาสนานกิ ายมหายาน คอื อะไร
4. พระพุทธศาสนาซง่ึ เจรญิ รงุ่ เรอื งบนแหลมมลายู ไดร้ บั ความกระทบกระเทอื นในรชั สมยั ของกษตั รยิ ์
5. เพราะเหตุใด พระพุทธศาสนาในอาณาจกั รมะละกาจงึ เส่อื มลง
6. สุลตา่ นมลั โมชาห์ มสี ่วนทาลายพระพทุ ธศาสนาอย่างไร
7. การทก่ี ษตั รยิ ม์ าเลเซยี สงั่ ใหร้ าษฎรนบั ถอื ศาสนาอสิ ลาม มผี ลต่อพระพทุ ธศาสนาอยา่ งไร
8. พระพทุ ธศาสนาในประเทศมาเลเซยี ไดร้ บั การฟ้ืนฟูจากคณะสมทูตของประเทศใด
ใบงานที่
1.4 พระพทุ ธศาสนาเขา้ ส่ปู ระเทศสิงคโปร์
คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. พระพุทธศาสนานกิ ายใด ไดเ้ ผยแผเ่ ขา้ สู่ประเทศสงิ คโปร์
2. สงิ คโปรม์ สี มาคมของชาวพุทธประมาณเทา่ ใด
3. วดั ทางพระพทุ ธศาสนาของสงิ คโปรใ์ นปัจจบุ นั ส่วนใหญ่เป็นวดั นกิ ายใด
4. เพราะเหตุใด พระพทุ ธศาสนาจงึ มคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งและประดษิ ฐานมนั่ คงในสงิ คโปร์
5. วดั ฝ่ายนิกายเถรวาททส่ี าคญั ในสงิ คโปร์ ไดแ้ ก่วดั ใด
6. การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนานกิ ายมหายานในสงิ คโปร์ มลี กั ษณะอยา่ งไร
7. พุทธสมาคมของชาวจนี ในสงิ คโปร์ มกี จิ กรรมสาคญั ทางพระพุทธศาสนาอยา่ งไร
8. องคก์ รยวุ พุทธแห่งสงิ คโปร์ มกี จิ กรรมสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาอยา่ งไร
ใบงานท่ี
1.5 พระพทุ ธศาสนาเขา้ ส่ปู ระเทศลาว
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. พระพุทธศาสนาไดเ้ ผยแผเ่ ขา้ สปู่ ระเทศลาวในสมยั พระมหากษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด
2. มลู เหตสุ าคญั ทท่ี าใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเผยแผเ่ ขา้ สู่ประเทศลาว คอื อะไร
3. เจา้ เมอื งใด มสี ว่ นสาคญั ในการใหก้ ารสนบั สนุนการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนามายงั ประเทศลาว
4. ผมู้ บี ทบาทสาคญั ในการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาทอ่ี าณาจกั รลา้ นชา้ ง คอื ใคร
5. ผใู้ ด มอบพระบาง พระไตรปิฎก และหน่อศรมี หาโพธแิ์ กพ่ ระเจา้ ฟ้างมุ้
6. พระเจา้ สามแสนไทยทรงทานุบารงุ พระพทุ ธศาสนาอยา่ งไรบา้ ง
7. พระพทุ ธศาสนาในประเทศลาว มคี วามเจรญิ ร่งุ เรอื งถงึ ขดี สดุ ในสมยั ใด
8. พระพทุ ธรปู ทส่ี าคญั ของลาว ไดแ้ กพ่ ระพุทธรูปองคใ์ ด
9. วดั สาคญั ในประเทศลาว ไดแ้ กว่ ดั อะไรบา้ ง
10. เพราะเหตใุ ด พระพทุ ธศาสนาในลาวจงึ เสอ่ื มลง
ใบงานที่
1.6 พระพทุ ธศาสนาเขา้ ส่ปู ระเทศกมั พชู าและเวียดนาม
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. พระพุทธศาสนาไดเ้ ผยแผเ่ ขา้ สปู่ ระเทศกมั พูชาในชว่ งทอ่ี าณาจกั รใดของกมั พชู ากาลงั ร่งุ เรอื ง
2. รชั สมยั ของพระเจา้ ชยั วรมนั ท่ี 7 ไดส้ รา้ งโบราณสถาน โบราณวตั ถทุ ส่ี าคญั ของพระพทุ ธศาสนาไว้
3. กมั พูชามกี ารจดั ตงั้ ศาลาบาลชี นั้ สงู และมกี ารนานิกายธรรมยุตจากเมอื งไทยเขา้ มากมั พูชาครงั้ แรก
ในสมยั ใด
4. สาเหตุสาคญั ทก่ี ารเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาถกู สกดั กนั้ ในกมั พูชา คอื อะไร
5. รฐั บาลกมั พูชามกี ารฟ้ืนฟูพระพุทธศาสนาภายหลงั สงครามกลางเมอื งอยา่ งไรบา้ ง
6. ในสมยั ราชวงศใ์ ด ทพ่ี ระพทุ ธศาสนานกิ ายมหายานไดร้ บั การนบั ถอื อย่างแพร่หลายจากชาวเวยี ดนาม
7. เพราะเหตุใด พระภกิ ษุสงฆข์ องเวยี ดนามจงึ เป็นทเ่ี คารพศรทั ธาจากชาวเวยี ดนาม
8. พระพทุ ธศาสนาในเวยี ดนามเส่อื มลงในสมยั ราชวงศใ์ ด
9. ใครเป็นผคู้ วบคุมการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในเวยี ดนาม และทาลายคมั ภรี แ์ ละหนงั สอื พระพทุ ธศาสนา
10. เหตุการณ์ใด จดั วา่ เป็นวกิ ฤตทิ างพระพทุ ธศาสนาทเ่ี ลวรา้ ยทส่ี ดุ ในเวยี ดนาม
ช่อื หนงั สอื ราคา ชอ่ื ผแู้ ต่ง แบบบนั ทึกการอ่าน
สานกั พมิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์
จานวนหน้า บาท อ่านวนั ท่ี เดอื น นามปากกา
ปีทพ่ี มิ พ์
พ.ศ. เวลา
1. สาระสาคญั ของเรอ่ื ง
2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเร่อื งทอ่ี ่าน
3. สงิ่ ทส่ี ามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
4. ขอ้ เสนอแนะของครู
ลงชอ่ื นกั เรยี น ลงชอ่ื ผปู้ กครอง
( )( )
ลงชอ่ื ครูผสู้ อน
()
เกณฑก์ ารให้คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานมีความสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเพียงเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน
คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 นาเสนอเน้อื หาในผลงานไดถ้ ูกตอ้ ง
2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเน้อื เร่อื ง
3 การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ
4 การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความตงั้ ใจ ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม
ที่ ของผ้รู บั การประเมิน ในการทางาน รบั ผิดชอบ เวลา เรียบรอ้ ย ของงาน 20
คะแนน
43214321432143214321
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุ
ชอ่ื กลุ่ม ชนั้
คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม
2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน
3 การแสดงความคดิ เหน็
4 การรบั ฟังความคดิ เหน็
5 ความมนี ้าใจชว่ ยเหลอื กนั
รวม
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 หน่วยท่ี 1
ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ เรือ่ งพทุ ธประวัติ พระสาวก ศาสนิกชนตัวอย่างและชาดก เวลา 1 ช่ัวโมง
เรอื่ ง การนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาของประเทศเพอ่ื ยบา้ นในปัจจบุ ัน
วนั ทีท่ าการสอน ผสู้ อน นางสาวอลิษา นวลสงิ ห์
11ประชาชนของประเทศเพอ่ื นบ้านท่ีนับถือ ส 1.1 ม.2/1 อธบิ ายการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาสว่ นใหญ่จะอยู่ในประเทศพม่า สิงคโปร์ ลาว หรือศาสนาที่ตนนบั ถอื สู่ประเทศเพอ่ื นบา้ น
กัมพูชา และเวียดนาม
การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพอ่ื นบ้านและ - ใบกจิ กรรม Diagram
การนับถือพระพทุ ธศาสนาของประเทศเพ่ือนบ้านในปัจจุบนั - แบบฝึกหดั / แบบทดสอบ
- Diagram 7. ส่อื 8. วิธวี ัดผล
1. .หนงั สือเรยี น 1. ประเมินใบงาน
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ พระพุทธศาสนา ม.2 2. ตรวจแบบฝึกหัด
Do Now (3 นาที) 2. แบบฝึกหัด
1. ครูนาภาพหรอื ตวั อยา่ งขา่ วเกยี่ วกบั กิจกรรมทางพระพุทธศาสนาใน 3. แบบทดสอบหลงั
ประเทศลาว กัมพูชา พมา่ สงิ คโปร์ และเวยี ดนาม มาให้นักเรยี นดู หรอื เล่า เรียน
ใหน้ กั เรียนฟัง แล้วให้นักเรยี นแสดงความคิดเห็นพร้อมกับตอบคาถามกระต้นุ
ความคิด
Purpose (2 นาท)ี
1. อธบิ ายสภาพการนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาของประเทศเพื่อนบา้ นในปัจจุบัน
ได้
Work Mode (80 นาท)ี
1. ครใู ห้นักเรียนกล่มุ เดิม (จากแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1) ร่วมกันศึกษา
ความรู้เรือ่ ง การนับถอื พระพุทธศาสนาของประเทศเพอื่ นบ้านในปัจจบุ ัน
จากหนังสือเรียน และหนังสือคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ
2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั สาระสาคัญของเรื่องทศี่ กึ ษา
3.สมาชิกแต่ละกลมุ่ ผลดั กนั อธบิ ายคาตอบในใบงานท่ี 1.7 สมาชิกในกล่มุ
ชว่ ยกันอธบิ ายเพมิ่ เติมเพ่ือใหค้ าตอบมีความสมบรู ณ์ แล้วชว่ ยกันสรุปเป็น
ผลงานของกลมุ่
Reflective Thinking (5 นาท)ี
นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ลักษณะของการนบั ถอื พระพุทธศาสนา ในประเทศพม่า
อินโดนีเซีย มาเลเซีย สงิ คโปร์ ลาว กัมพชู า และเวียดนาม
............................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................... ........................................................................................
แนวทางการแกไ้ ขปญั หา
ความคิดเห็นของหัวหน้ากล่มุ สาระ(กอ่ นการนาแผนการสอนไปใช้)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….........
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .................................................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระ
()
ความคิดเห็นของผู้ตรวจทาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงช่ือ..............................................................ผตู้ รวจทาน
()
ความคิดเห็นของหวั หน้ากลุม่ สาระ(หลังการนาแผนการสอนไปใช)้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ..............................................................หัวหนา้ กลุ่มสาระ
()
ตวั อยา่ งข่าว
เวียดนามจดั ประชมุ ชาวพทุ ธครงั้ ใหญ่ท่ีสดุ ในประเทศ
การประชุมเพอ่ื หาหนทางส่งเสรมิ การสอนพุทธศาสนา ไดจ้ ดั ขน้ึ ทจ่ี งั หวดั บงิ่ เซอื งซง่ึ อย่ทู างตอนใตข้ องเวยี ดนาม
เม่อื เดอื นมนี าคมทผ่ี ่านมา เป็นเวลา 4 วนั การ ประชมุ น้มี ชี อ่ื ว่า “พุทธศาสนากบั ประชาชน” จดั โดยองคก์ รสงฆ์ มกี าร
อภปิ รายหลายหวั ขอ้ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั พทุ ธศาสนกิ ชนกบั การป้อง กนั สภาพแวดลอ้ ม การพฒั นาพุทธศาสนาในช่วง
รอยตอ่ และงานกศุ ล
ในการประชุมครงั้ น้ี คณะสงฆจ์ ากทวั่ ประเทศ เหน็ พอ้ งตอ้ งกนั ทจ่ี ะมุ่งสง่ เสรมิ คา่ นยิ มทางพทุ ธศาสนา ใหแ้ ก่
ยุวพุทธและยวุ ชน คนหนุ่มสาวทวั่ ไป ส่งเสรมิ พทุ ธศาสนาในหมู่ ชมุ ชนชาวเวยี ดนามโพน้ ทะเลเผยแพรก่ ารสอน
พุทธศาสนาในพน้ื ทห่ี า่ งไกลและชนกลุม่ น้อย และจดั กจิ กรรมการกุศลอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ
โดยองคก์ รสงฆไ์ ดม้ อบบ้าน 100 หลงั แกผ่ ยู้ ากไร้ และบรจิ าครถจกั รยานใหเ้ ดก็ นกั เรยี นยากจน รวมมลู ค่าทงั้ สน้ิ
455,000 ดอลลารส์ หรฐั (ราว 14 ลา้ นบาท) และเดก็ ยากจน 15 คนไดร้ บั การผ่าตดั หวั ใจดว้ ยเงนิ บรจิ าค
นอกจากน้ยี งั มพี ธิ สี วดอุทศิ ส่วนกศุ ลใหผ้ เู้ สยี ชวี ติ และสวดขอพร พรอ้ มทงั้ มขี บวนแหไ่ ปตามทอ้ งถนน เพอ่ื
สง่ เสรมิ การแกป้ ัญหาสภาพแวดลอ้ มตามวถิ พี ทุ ธอกี ด้วย
ทงั้ น้เี วยี ดนามกนิ เนสสบ์ ุ๊คออฟเรคคอรด์ (เวยี ตบุ๊ค) หรอื หนงั สอื บนั ทกึ สถติ เิ วยี ดนาม ไดบ้ นั ทกึ วา่ การประชมุ
ครงั้ น้เี ป็นการชมุ นุมของพุทธศาสนกิ ชนทใ่ี หญ่ทส่ี ุดในประเทศ
ท่ีมา : ธรรมะกบั ชวี ติ . “เวยี ดนามจดั ประชุมชาวพทุ ธครงั้ ใหญ่ทส่ี ุดในประเทศ” [2554]. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก
http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID... สบื คน้ 20 กมุ ภาพนั ธ์ 2556.
ใบงานท่ี การนับถือพระพทุ ธศาสนา
1.7 ของประเทศเพือ่ นบา้ นในปัจจบุ นั
ตอนท่ี 1
คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นสรปุ สภาพการนบั ถอื พระพุทธศาสนาของประเทศเพอ่ื นบา้ น ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด
1. ประเทศพม่า
การนบั ถอื พระพุทธศาสนา
การส่งเสรมิ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมและพธิ กี รรม
วธิ กี ารเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาทงั้ ในและนอกประเทศ
2. ประเทศสิงคโปร์
การนบั ถอื พระพุทธศาสนา
การส่งเสรมิ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมและพธิ กี รรม
วธิ กี ารเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาทงั้ ในและนอกประเทศ
3. ประเทศลาว
การนบั ถอื พระพทุ ธศาสนา
การสง่ เสรมิ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมและพธิ กี รรม
วธิ กี ารเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาทงั้ ในและนอกประเทศ
4.ประเทศกมั พชู า
การนบั ถอื พระพุทธศาสนา
การสง่ เสรมิ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมและพธิ กี รรม
วธิ กี ารเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาทงั้ ในและนอกประเทศ
5. ประเทศเวียดนาม
การนบั ถอื พระพุทธศาสนา
การสง่ เสรมิ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมและพธิ กี รรม
วธิ กี ารเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาทงั้ ในและนอกประเทศ
ตอนท่ี 2
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. ประชาชนชาวอนิ โดนีเซยี สว่ นใหญ่นบั ถอื ศาสนาอะไร แลว้ ผทู้ น่ี บั ถอื พระพทุ ธศาสนาสว่ นใหญอ่ าศยั อยู่
ใน บรเิ วณใด
2. รฐั บาลอนิ โดนเี ซยี มสี ว่ นสนบั สนุนพระพทุ ธศาสนาในเรอ่ื งใดบา้ ง
3. กจิ กรรมทางพระพุทธศาสนาของอนิ โดนเี ซยี ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง
4. ประชาชนชาวมาเลเซยี สว่ นใหญ่นบั ถอื ศาสนาอะไร และมผี นู้ บั ถอื พระพทุ ธศาสนารอ้ ยละเทา่ ไร
5. สมาคมทางพระพทุ ธศาสนาทส่ี าคญั ของมาเลเซยี ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง
6. ประเทศใด ไดม้ าจดั ตงั้ วดั ทางพระพทุ ธศาสนาในประเทศมาเลเซยี
ช่อื หนงั สอื ราคา ชอ่ื ผแู้ ต่ง แบบบนั ทึกการอ่าน
สานกั พมิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์
จานวนหน้า บาท อ่านวนั ท่ี เดอื น นามปากกา
ปีทพ่ี มิ พ์
พ.ศ. เวลา
1. สาระสาคญั ของเรอ่ื ง
2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเร่อื งทอ่ี ่าน
3. สงิ่ ทส่ี ามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
4. ขอ้ เสนอแนะของครู
ลงชอ่ื นกั เรยี น ลงชอ่ื ผปู้ กครอง
( )( )
ลงชอ่ื ครูผสู้ อน
()
เกณฑก์ ารให้คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานมีความสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเพียงเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน
คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 นาเสนอเน้อื หาในผลงานไดถ้ ูกตอ้ ง
2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเน้อื เร่อื ง
3 การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ
4 การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความตงั้ ใจ ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม
ที่ ของผ้รู บั การประเมิน ในการทางาน รบั ผิดชอบ เวลา เรียบรอ้ ย ของงาน 20
คะแนน
43214321432143214321
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุ
ชอ่ื กลุ่ม ชนั้
คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม
2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน
3 การแสดงความคดิ เหน็
4 การรบั ฟังความคดิ เหน็
5 ความมนี ้าใจชว่ ยเหลอื กนั
รวม
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 หนว่ ยที่ 1
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ประวตั แิ ละความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา เวลา 2 ช่ัวโมง
เร่อื ง ความสาคญั ของพระพุทธศาสนา ผ้สู อน นางสาวอลิษา นวลสิงห์
วันทีท่ าการสอน
พระ1พ1ทุ ธศาสนามีความสาคัญในฐานะทเ่ี ปน็ รากฐานของ ส 1.1 ม.2/2 วเิ คราะห์ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนาหรือ
วัฒนธรรม เอกลกั ษณ์ของชาติ และมรดกของชาติ อกี ท้งั ยงั มี ศาสนาที่ตนนบั ถอื ทชี่ ว่ ยเสรมิ สร้างความเข้าใจอันดี กบั ฃ
ส่วนในการพฒั นาชมุ ชนและการจัดระเบียบสังคม ประเทศเพือ่ นบา้ น
1) ความสาคญั ของพระพุทธศาสนาทชี่ ว่ ยเสรมิ สร้างความ ม.2/3 วิเคราะห์ความสาคญั ของพระพุทธศาสนาหรือ
เขา้ ใจอันดีกับประเทศเพอื่ นบ้าน ศาสนาท่ีตนนับถอื ในฐานะทีเ่ ป็นรากฐานของวฒั นธรรม
2) ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาตอ่ สังคมไทยในฐานะท่ี เอกลกั ษณ์ของชาติ และมรดกของชาติ
เป็น
ม.2/4 อภิปรายความสาคญั ของพระพุทธศาสนา
- รากฐานของวัฒนธรรม หรือศาสนาท่ีตนนบั ถอื กับการพัฒนาชมุ ชน และการจัดระเบยี บ
- เอกลักษณ์และมรดกของชาติ สังคม
3) ความสาคญั ของพระพุทธศาสนากับการพัฒนาชมุ ชนและ
การจัดระเบยี บสังคม - ใบกจิ กรรม Diagram
- แบบฝึกหัด / แบบทดสอบ
- Diagram
6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 7. สอื่ 8. วธิ วี ัดผล
Do Now (3 นาท)ี 1.หนงั สอื เรยี น 1. ประเมนิ ใบงาน
ครูให้นักเรยี นดภู าพการประชุมชาวพทุ ธนานาชาติ ณ ศนู ย์การประชมุ พระพุทธศาสนา ม.2 Diagram
สหประชาชาติ กรงุ เทพมหานคร และใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น 2. แบบฝึกหัด 2. ตรวจแบบฝึกหดั
โดยครูคอยกระตนุ้ ให้นักเรียนทุกคนมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น 3. แบบทดสอบหลัง
Purpose (2 นาที) เรยี น
ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ของวนั นี้
1) วเิ คราะห์ความสาคัญของพระพุทธศาสนา ท่ีช่วยเสรมิ สร้างความเขา้ ใจ
อนั ดกี ับประเทศเพื่อนบ้านได้
2) วเิ คราะหค์ วามสาคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะทเ่ี ปน็ รากฐานของ
วฒั นธรรมได้
3) วเิ คราะห์ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะท่ีเปน็ เอกลกั ษณ์และ
มรดกของชาตไิ ด้
4) วเิ คราะหค์ วามสาคัญของพระพุทธศาสนากับการพัฒนาชุมชน และการจัด
ระเบียบสังคมได้
Work Mode (40 นาที)
1. ครใู หน้ ักเรยี นใชก้ ลุม่ เดมิ ท่ีแบ่งไว้จากแผนท่ีแล้ว
2. นักเรยี นรว่ มกนั อธบิ ายความร้ทู ีไ่ ด้จากการ ศึกษาใหเ้ พอ่ื นฟงั ตามประเดน็
ทก่ี าหนด ในใบงานท่ี 1.8 เร่อื ง ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา ผลัดกนั
ซักถาม ข้อสงสัยและอธบิ ายจนทกุ คนมีความเขา้ ใจชดั เจนตรงกนั
3. นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด
Reflective Thinking (5 นาท)ี
ตวั แทนแต่ละกลุ่มผลัดกันนาเสนอผลงานในใบงานท่ี 1.8 กลุ่มละ 1
ตอน หรอื ตามความเหมาะสม ครูตรวจสอบผลงานของ แต่ละกลุ่มและให้
คาแนะนาเพ่ิมเติม
............................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................... ........................................................................................
แนวทางการแก้ไขปัญหา
ความคดิ เห็นของหัวหนา้ กล่มุ สาระ(กอ่ นการนาแผนการสอนไปใช้)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….........
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ.................................................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
()
ความคดิ เหน็ ของผ้ตู รวจทาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงชอ่ื ..............................................................ผ้ตู รวจทาน
()
ความคดิ เห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระ(หลังการนาแผนการสอนไปใช้)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงชอ่ื ..............................................................หัวหน้ากล่มุ สาระ
()
ใบงานท่ี
1.8 ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา
ตอนท่ี 1
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคดิ แสดงความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาทช่ี ว่ ยสรา้ งความเขา้ ใจอนั
ดกี บั ประเทศเพ่อื นบา้ น
สรา้ งความเขา้ ใจอนั ดีกบั ประเทศเพอื่ นบา้ น
ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาที่ช่วยสร้าง
ความเข้าใจอนั ดีกบั ประเทศเพือ่ นบ้าน
สรา้ งสมั พนั ธไมตรี ตามหลกั สาราณียธรรม
ตอนที่ 2
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหภ์ าพ ชดุ ท่ี 1-4 แลว้ เขยี นบรรยายใตภ้ าพทส่ี อดคลอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนา
เป็นรากฐานของวฒั นธรรมไทย
ภาพชดุ ท่ี 1
ภาพชดุ ท่ี 2
ภาพชดุ ท่ี 3
ภาพชดุ ท่ี 4
ตอนท่ี 3
คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. เอกลกั ษณ์ของสงั คมไทยอนั เน่อื งมาจากพระพทุ ธศาสนา ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
2. มรดกของพระพุทธศาสนาต่อสงั คมไทย ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
3. พระพทุ ธศาสนามสี ว่ นสาคญั ในการพฒั นาชมุ ชนดา้ นวตั ถุอยา่ งไรบา้ ง จงอธบิ าย พรอ้ มยกตวั อยา่ ง
4. พระพุทธศาสนามคี วามสาคญั ในการพฒั นาชมุ ชนในดา้ นจติ ใจอย่างไร และสง่ ผลดใี นเรอ่ื งใดบา้ ง
5. พระพุทธศาสนามสี ่วนสาคญั ในการจดั ระเบยี บสงั คมอยา่ งไรบา้ ง
ช่อื หนงั สอื ราคา ชอ่ื ผแู้ ต่ง แบบบนั ทึกการอ่าน
สานกั พมิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์
จานวนหน้า บาท อ่านวนั ท่ี เดอื น นามปากกา
ปีทพ่ี มิ พ์
พ.ศ. เวลา
1. สาระสาคญั ของเรอ่ื ง
2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเร่อื งทอ่ี ่าน
3. สงิ่ ทส่ี ามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
4. ขอ้ เสนอแนะของครู
ลงชอ่ื นกั เรยี น ลงชอ่ื ผปู้ กครอง
( )( )
ลงชอ่ื ครูผสู้ อน
()
เกณฑก์ ารให้คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานมีความสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเพียงเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน
คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 นาเสนอเน้อื หาในผลงานไดถ้ ูกตอ้ ง
2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเน้อื เร่อื ง
3 การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ
4 การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความตงั้ ใจ ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม
ที่ ของผ้รู บั การประเมิน ในการทางาน รบั ผิดชอบ เวลา เรียบรอ้ ย ของงาน 20
คะแนน
43214321432143214321
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุ
ชอ่ื กลุ่ม ชนั้
คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม
2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน
3 การแสดงความคดิ เหน็
4 การรบั ฟังความคดิ เหน็
5 ความมนี ้าใจชว่ ยเหลอื กนั
รวม
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ