The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แฟ้มสะสมงานวิชาศิลปะไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Mint waranya, 2019-12-15 21:33:02

แฟ้มสะสมงานวิชาศิลปะไทย

แฟ้มสะสมงานวิชาศิลปะไทย

แฟ้มสะสมงาน
รหสั วชิ า 203-2106 วิชาศิลปะไทย

ผู้จดั ทา
นางสาว วาสนา วิกละมุก

เสนอ
อาจาร์ย เดชา ม่งิ ระกูล
ประจาภาคเรียนท่2ี ปี การศึกษา 2562
วทิ ยาลัยเทคโนโลยีการจดั การเพชรเกษม

บัวหลวง

เป็ นการนารูปดอกบัวชนิดต่าง ๆ เช่น บัวหลวง บวั สัตตบงกช บัว
สัตตบุษย์ ฯลฯ. มาพฒั นาโดยใช้จนิ ตนาการเชิงสร้างสรรค์ด้วยการแบ่ง
คร่ึงดอกบวั การรวมดอกบวั เข้าด้วยกนั ทาให้เกดิ ลายกนกสามตัวและ

คลคี่ ลายเป็ นลายอ่ืน ๆ ต่อไป

กะจงั ตาออ้ ย

ทรงตวั อยใู่ นรูปสี่เหล่ียมดา้ นเท่า มีทรงตวั เสน้ อ่อนเรียวท้งั ซา้ ย และขวา
ปลายยอดแหลมมีบาก (คือหยกั ) ท้งั สองขา้ ง เม่ืออยเู่ ฉพาะตวั เด่ียวๆ
เรียกวา่ ตาออ้ ย เมื่อเขา้ ประกอบเป็นลายติดต่อซา้ ยและขวา เช่น เขียน
เป็นลายบวั หงายบวั คว่าเป็นตวั อยา่ งของใบกระจงั เทศ

ลายแขง้ สิงห์

เป็นลายพ้ืนฐานของลายชนิด หน่ึง ซ่ึงจะมีการผกู ลายแบบ ชนิด
ต่อเนื่องยาวท้งั ตาม แนวต้งั และแนวนอน ซ่ึงเป็น การผสมผสานของ
โครงลาย จากหลายๆ แบบ เช่น โครงรูป ลายบวั โครงรูปลายกระจงั

ลายแขง้ สิงห์ถือเป็นโครงลาย ในส่วนของใบระกา

กระจังใบเทศ
มที รงภายนอกออ่ นเรยี วเหมอื นกระจังตาออ้ ย อยใู่ นรปู สเ่ี หลย่ี มดา้ น
เทา่ เชน่ เดยี วกนั แตภ่ ายในตวั มสี อดไสแ้ ต่ หนง่ึ -สอง-สาม ขน้ึ ไป
กระจังใบเทศมวี ธิ แี บง่ ตวั ได ้ หรอื สอดไสไ้ ดห้ ลายวธิ ี เมอื่ ตวั ยง่ิ โตขน้ึ
ก็ยง่ิ แบง่ ตวั มากขนึ้ และใสต่ วั ซอ้ นมากขน้ึ การแบง่ จังหวะรอบตวั ของ
กระจังใบเทศน้ี เรยี กวา่ “แขง้ สงิ ห”์ เมอ่ื ตวั กระจังใบเทศใบยงิ่ โตขน้ึ
เทา่ ใด แขง้ สงิ หก์ จ็ าตอ้ งแบง่ ตวั ตามขน้ึ ไปดว้ ย การแบง่ แขง้ สงิ หใ์ ห ้

เป็ นลาดบั ตดิ ตอ่ กนั ไมไ่ ด ้ กเ็ ทา่ กบั เขยี นกระจังใบเทศไมเ่ ป็ น



กะจงั ปฏิญาณ

จดั เป็นแม่ลายชนิดหน่ึงที่ดดั แปลงมาจากธรรมชาติ เช่น ตาออ้ ย ดอกบวั เป็น
ตน้ เป็นลายที่มีโครงสร้างเป็นรูปสามเหลี่ยมหนา้ จวั่ หรือทรงดอกบวั ใชเ้ ป็น

องคป์ ระกอบสาหรับการประดบั ตกแต่ง

ลายพมุ่ ทรงขา้ วบิณฑ์

เป็นการเรียกชื่อตามลกั ษณะลายท่ีความคลา้ ยคลึงกบั พานพมุ่ ขา้ วบิณฑ์ พานดอกไม้
หรือพานแวน่ ฟ้า เป็นตน้ ลายพมุ่ ขา้ วบิณฑส์ ามารถพบเห็นไดต้ ามสถาปัตยกรรมไทย

เช่น เจดียท์ รงพมุ่ ขา้ วบิณฑใ์ นสมยั สุโขทยั

ลายประจายาม

ลายประจายาม มีลกั ษณะลายที่มาจากการลอกแบบธรรมชาติ เป็นลกั ษณะลายดอก 4
กลีบคลา้ ยดอกบานเยน็ เป็นลวดลาย ประดบั ตกแต่งบริเวณทอ้ งไมห้ รือหนา้ กระดาษ

หรือเรียกวา่ ลายหนา้ กระดาษ

ลายกระหนก 4 แบบ

มีรูปแบบโครงสร้างลายจากพ้นื ฐานรูป สามเหล่ียม โดยตวั ลายกระหนกเอง มีกรอบ
สามเหล่ียมกาหนด แต่จะมีความต่างกนั ออกไปตามทรงสามเหลี่ยมน้นั ที่มีความ

เหมาะสมตามรูปแบบการผกู ลาย

ลายช่อหางโต

บริเวณหนา้ บนั ประดบั ช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ ส่วนตรงกลางเป็นลายเทพนม
ลอ้ มรอบดว้ ยลายกา้ นขดท่ีเป็นลายกระหนกออกมาจากช่อดอกไม้ ซ่ึงมีลกั ษณะเป็น

“ลายช่อหางโต”

ยอดเถาลาย

ประดิษฐเ์ ป็นลายหรือภาพสาหรับใชต้ อนยอด หรือตอนสุดของลายกา้ นขด
ในรูปเดียวกนั หรือลกั ษณะเดียวกนั ในเถาลายท่ีมีขดหลายขดจะตอ้ ง ประดิษฐ์

ใหม่ใหเ้ หมือนกนั ช่างเขียนลายนิยมยกยอ่ งกนั วา่ เป็นลายท่ีอยใู่ นข้นั สูงสุด

ลายสิงห์
ภายในตวั จะมีการรวมลายไทยต่างๆ มาผสมผสานใหเ้ กิดความสวยงาม


Click to View FlipBook Version