The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุรีพร วีระอาชากุล, 2019-10-08 00:01:36

สรุปสาระสำคัญส่วนประกอบของต้นไม้

ส่วนประกอบของต้นไม้

สรุปสาระสาคญั

ผล
ดอก ใบ
ลาต้น

ราก

สว่ นประกอบของต้นไม้
1

ราก (Root)

เปน็ อวัยวะของพืชท่เี จรญิ เติบโตมาจาก
รากแรกเกดิ ในเมลด็
รากแรกเกดิ
ส่วนประกอบของราก
ขนราก(Root hair) เซลล์ทเี่ ปน็ เส้นเลก็ ๆ
ยน่ื ออกจากราก
ดดู น้า และแร่ธาตุ

หมวกราก(Root cap) อยู่ปลายสดุ ของราก
เจริญเติบโต ยื่นลงดนิ ไดอ้ ีก
ขนราก มเี มอื กปอ้ งกันราก

ปลายราก
หมวกราก
ไซเลม็ (Xylem) ทอ่ ลาเลยี งนา้
นา้ ที่ถกู ดดู จากขนรากจะถกู ส่ง
ตอ่ มาท่ี ไซเล็ม และสง่ ตอ่ ไปลาต้น

โฟลเอม็ (Phloem) ทอ่ ลาเลยี ง
สารอาหาร
นาสารอาหารจากลาตน้ ลงมาสู่ราก

2

ราก (Root) การจาแนกราก

รากแก้ว (Top root) แขนงราก
เจริญมาจากรากที่อย่ใู นเมลด็
พบได้ในใบเลยี้ งคู่ รากฝอย รากแกว้

รากฝอย (Fibrous root)
เกิดจากรากแก้วทส่ี ลายไปแล้ว พบไดใ้ นใบเลยี้ งเดย่ี ว

รากทท่ี าหน้าท่ีพิเศษ

3

ลาตน้ (Stem)

สว่ เนปน็ ปอวรยั ะวะกทอีเ่ จบริญขตออ่ จงาลกราาตก น้ ชว่ ยคาจนุ ลาต้น และลาเลยี งอาหาร และนา้
ส่วนประกอบภายใน
พืชใบเลี้ยงคู่ พืชใบเลีย้ งเด่ยี ว

ส่วนประกอบภายนอก

ข้อ (node) ตา

ปลอ้ ง (internode)

พืชใบเลย้ี งเดียวจะเห็น ข้อ ปล่องชดั เจน
กวา่ พืชใบเล้ียงคู่
4

ลาต้น (Stem) ประเภทของลาตน้

ลาตน้ บนดนิ ไดแ้ ก่ ไมพ้ ่มุ ไมล้ ้มลุก ไม้เลอ้ื ย

ลาตน้ ใต้ดนิ เป็นลาต้นที่เจรญิ เติบโตใตด้ ิน

หนา้ ท่พี เิ ศษของลาตน้

5

ใบ (Leaf)

มสี เี ขียว จากคลอโรฟิลล์
ทาหนา้ ท่ีสงั เคราะห์แสง และหายใจ

ส่วนประกอบของใบ

แผน่ ใบ ขอบใบ ภายใน
เสน้ กลาเสง้นใบใบ
โคนใบ กา้ นใบ ปากใบ
หูใบ เซลลค์ ุม

ภายนอก คลอโรฟลิ ล์
ประเภทของใบ สารสเี ขยี วใช้สงั เคราะหแ์ สง
แบ่งตามจานวนใบทอี่ ยบู่ นก้านได้ 2 ประเภท

1. ใบเดีย่ ว มแี ผ่นใบแผน่ เดียวบนก้าน

2. ใบประกอบ มแี ผ่นใบมากกวา่ หนง่ึ ใบบนก้าน

6

ใบ (Leaf) หน้าทขี่ องใบ
1. การสังเคราะหด์ ว้ ยแสง

คแลสองโรฟนลิ ้าล์ ใบทาหนา้ ทส่ี งั เคราะห์แสงเพ่ือ
สรา้ งอาหารทจ่ี ะต้องนาไปใช้ใน
การเจริญเตบิ โตของพชื ซ่ึง
สารอาหารที่ไดค้ อื น้าตาลกลโู คส
เปน็ สารอาหารประเภท
คาร์โบไฮเดรต โดยจะถูกนาไป
เกบ็ สะสมในรปู ของแป้งตามส่วน
คารบ์ อนไดออกไซด์ ต่าง ๆ ของพืช
เกดิ ข้นึ ตอนกลางวัน
นกา้ ตราะลบทว่ไีนดก้จาากรกสางัรเสคงั รเคาระาหะ์แหสแ์ สงง

นา้ + คารบ์ อนไดออกไซด์ แสง นา้ ตาลกลูโคส + ออกซิเจน + น้า
คลอโรฟลิ ล์

การทดสอบกระบวนการสงั เคราะหแ์ สง
1. นาใบพชื ใสห่ ลอดทดลองท่มี ีแอลกอฮอลแ์ ละไปต้มในน้าเดอื ด 5 นาที
2. นาใบพชื มาล้างจนสีเขียวออกหมด
3. หยดสารละลายไอโอดนี ลงบนใบพืช

ถ้าสารละลายไอโอดนี เปล่ยี นสเี ปน็ ม่วงแกมนา้ เงนิ 7
แสดงวา่ พบแป้ง

ใบ (Leaf) หนา้ ท่ขี องใบ
2. การคายนา้

พชื จะคายนา้ ในรูปของ ไอนา้ เพื่อช่วยในการดูดซมึ และลาเลียงน้า
จากรากสปู่ ลายยอดของพชื และยังชว่ ยระบายความรอ้ นให้พชื ด้วย

กระบวนการคายน้า

เซลล์คมุ มีลักษณะคลา้ ยเมล็ดถัว่

ปากใบปดิ ปากใบเปดิ
เม่อื มนี ้าในใบนอ้ ยเซลลค์ มุ จะแฟบ เมื่อมีน้าในใบมากเซลล์คุมจะเต่ง
ไอน้าจะไม่สามารถออกจากใบได้ ไอนา้ จะสามารถออกจากใบได้

การทดสอบการคายนา้ 3. การหายใจของพชื

การหายใจของพชื คอื การท่ีพชื นาแกส๊
ออกซเิ จน เขา้ สูใ่ บเพอื่ สร้างพลังงานในการ

เจริญเติบโตกระบวนการหายใจ

นา้ ตาลกลโู คส+ออกซเิ จน

คารบ์ อนไดออกไซด์+น้า+พลงั งาน

เกนิ ในเวลากลางคนื 8

ใบ (Leaf) หน้าที่พเิ ศษของใบ
1.ใบมอื เกาะ

ตาลึง มะระ ถวั่ ลนั เตา
2.ใบหนาม 3.ใบดักแมลง

เหงอื กปลาหมอ หมอ้ ขา้ วหมอ้ แกง หยาดนา้ คา้ ง

4.ใบสะสมอาหาร 5.ใบประดับหรอื ใบดอก

ว่านหางจระเข้ หน้าวัว ครสิ ตม์ าส
6.ใบขยายพนั ธ์ุ เศรษฐพี นั ลา้ น

9

ดอก (Flower) อวยั วะสืบพันธ์ขุ องพืช
รงั ไข่จะเจริญไปเปน็ ผล
สว่ นประกอบของดอก ออวลุ จะเจรญิ ไปเปน็ เมลด็

เกสรตัวเมีย กลบี ดอก
เกสรตัวผู้ กลบี เลย้ี ง

อับเรณู
ภายในมีละอองเรณู
ก้านชูเกสรตัวผู้ การปฏสิ นธิ

เกสรตวั ผู้
ยอดเกสรตัวเมีย

กา้ นชูเกสรตวั เมีย 1 23
รังไข่ 1. ถา่ ยละออกเรณจู ากเกสรตัวผไู้ ปยงั เกสรตัว
ออวลุ เมยี
เกสรตวั เมียทีภ่ ายในมเี ซลลไ์ ข่ 2. เกสรตัวผ้งู อกหลอดนาสเปริ ม์ ไปตาม
ก้านเกสรตัวเมีย
3. เซลล์ไขป่ ฏสิ นธกิ ับสเปิร์ม ในออวุล

10

ดอก (Flower) ชนิดของดอก

1. แบง่ ตามส่วนประกอบของดอก

ดอกสมบูรณ(์ ครบส่วน) ดอกไมส่ มบูรณ(์ ไม่ครบสว่ น)
2. แบ่งตามเกสร

ดอกสมบูรณเ์ พศ ดอกไมส่ มบรู ณ์เพศ

3. แบง่ ตามจานวนดอกที่อยู่บนกา้ นดอก

ดอกเดี่ยว ดอกชอ่ 11

ผล (Fruit)

 ผลคือรังไข่ไดร้ บั การปฏสิ นธแิ ล้วเจริญเติบโตเต็มทภ่ี ายในจะมเี มลด็ ท่เี จริญ
มาจากออวุล

 ผลทไ่ี ม่มเี มล็ด เรียกวา่ ผลลม เกดิ จากรังไขท่ สี่ ามารถเจริญเติบโตเองได้โดย
ไมต่ ้องปฏิสนธิ

ช1น. ดิผลขเอดงยี่ ผวลคอื ผลทเี่ กดิ จากดอกเด่ียว หรอื ดอกช่อ ซงึ่ แต่ละดอกมีรังไข่เดยี ว

2. ผลกลุ่ม คือ ผลท่เี กดิ จากดอกเดย่ี ว ซ่ึงแตล่ ะดอกมีหลายรังไข่

3. ผลรวม คือ ผลทเ่ี กดิ จากดอกช่อ รังไขข่ องแตล่ ะดอกรวมกนั เปน็ ผล

12

เมล็ด (Seed) เมลด็ คือออวลุ ที่เจริญเติบโตเต็มท่ี
เป็นส่วนที่ใชข้ ยายพันธุ์ของพชื
สว่ นประกอบของเมลด็
เปลือกเมลด็ (Seed coat)
เอม็ บรโิ อ(Embryo) ป้องกันเมล็ดไมใ่ หเ้ สยี หาย
เอนโดเสปริ ์ม(Endosperm)
เอนโดเสปิร์ม(Endosperm) อาหารเลย้ี งตน้ ออ่ น
เปลอื กเมลด็ (Seed coat)

เอม็ บรโิ อ(Embryo) ต้นอ่อน เจรญิ มาจากไข่ และสเปิร์ม มีส่วนประกอบดงั น้ี

ยอดแรกเกิด
ลาตน้ เหนอื ใบเลย้ี ง
ลาตน้ ใต้ใบเลี้ยง
รากแรกเกดิ

ยอดแรกเกดิ จะมใี บเลยี้ งอยู่ ซึ่งพืชใบเลีย้ งคู่จะมใี บเลี้ยง 2 ใบ ใบเลย้ี ง
เดี่ยวมี 1 ใบ
รากแรกเกดิ จะเจรญิ ไปเป็นรากแก้ว
ลาต้นเหนอื ใบเล้ียง  จะเจริญไปลาตน้
ลาตน้ เหนอื ใตเ้ ลี้ยง  จะเจริญไปลาต้น
13


Click to View FlipBook Version