ประวัติของสอื่ สง่ิ พิมพ์
เร่มิ แรกของสง่ิ พิมพ์จะใช้ช่างศิลป์ และชา่ งแม่พิมพท์ ีม่ ี
ความชานาญและมที กั ษะ เพือ่ ผลติ ส่อื ส่งิ พิมพ์ ซงึ่ การพิมพ์
ครง้ั แรกนนั้ เปน็ การพมิ พโ์ ดยหารแกะสลักตัวอักษรลงท่หี ิน
จากหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ได้ปรากฎบนถ้า อัลตามริ า
(Altamira) และถา้ ลาสควักซ์ (Lascaux) ในฝรั่งเศส และ
หนังสัตว์ ผ้าไหม
จากนัน้ พัฒนาขนึ้ มาเปน็ การเขียนใสก่ ระดาษ ขึน้ มาจน
มาเปน็ การพิมพใ์ นปจั จบุ นั นั่นคือไชลน่ั ซง่ึ มเี ช้อื สายจนี ชาว
จีนได้ผลติ ทาหมกึ แท่งซ่ึงเรยี กวา่ “บก๊ั ” และดว้ ยความ
พฒั นาทางด้านเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ สร้างงานสิ่งพมิ พ์
ก็งา่ ยข้ึน
ประวัติการพมิ พ์
ในประเทศไทย
ในสมยั สมเดจ็ พระนารายมหาราช กรงุ ศรีอยธุ ยา ได้
เริ่มพิมพ์หนงั สอื คาสอนทางพระพทุ ธศาสนาครสิ ตข์ ึน้ มา
และหลังจากนัน้ หมอ บรัดเลย์ ก็เขา้ มในเมืองไทย และได้
เรมิ่ ด้านงานพมิ พจ์ นเป็นที่สนใจ และเป็นธุรกจิ ด้านการ
พิมพ์
พ.ศ. 2382 ทางราชการได้พิมพเ์ อกสารข้นึ มาชน้ิ แรก คอื
หมายประกาศสบู ฝ่ิน ซ่งึ พระบาทสมเดจ็ พระน่ังเกล้า
เจ้าอย่หู ัวทรงโปรดให้จ้างพิมพ์จานวน 9000 ฉบบั
ตอ่ มาเมอื่ วนั ท่ี 4 ก.ค. 2387 ไดอ้ อกหนงั สอื่ ฉบบั แรก
ขึ้นมา คอื บางกอกรคี อร์ดเดอร์ หรือ bankok recorder
เปน็ จดหมายเหตอุ ย่างสน้ั ออกเดอื นละ 2 ฉบบั ต่อมาใน 15
ม.ิ ย. พ.ศ. 2404 ไดพ้ มิ พ์หนังสอื เลม่ ออกจาหนา่ ยโดยซือ้
ลิขสิทธจ์ิ าก “หนังสอื นริ าศลอนดอนของหม่อมราโชทัย”
และได้เรม่ิ ต้นการซอื้ ขายลิขสทิ ธจ์ิ าหน่ายในเมืองไทย หมอบ
รัดเลย์ได้ถงึ แก้กรรมในเมอื งไทย กิจการการพิมพข์ องไทย
จงึ ไดเ้ รมิ่ ข้นึ พ.ศ. 2500 ประเทศไทยจงึ นาเครือ่ งพิมพ์แบบ
โรตารี ออฟเซต (Rotary off set)
เคร่อื งพมิ พ์แบบโรตารี ออฟเซต จงึ ใชเ้ ปน็ ครง้ั แรก โรง
พมิ พ์ไทยวัฒนาพานิชนาเครอ่ื งหล่อเรยี งพิมพ์
(Monotype) มาใช้กับตวั พิมพภ์ าษาไทยธนาคารแห่ง
ประเทศไทยได้จัดโรงพมิ พ์ธนบตั รในเมอื งไทขึน้ ใช้เอง
ภาพหนงั สือจดหมายเหตุ
ภาพเครอื่ งพมิ พแ์ บบโรตารี ออฟเซต
ความหมาย
สื่อที่ใชใ้ นการพมิ พ์ เพื่อติดตอ่ สือ่ สาร ไม่ว่าจะเป็น
รปู ภาพ หรอื ตัวหนังสอื กต็ าม โดยการเขียนทใี่ ช้ วสั ดุ เชน่
กระดาษ ผ้า แผ่นพลาสติก และอน่ื ๆ
ส่ิงพมิ พ์ ตามพระราชบัญญัติก่พี มิ พ์ พ.ศ. 2484
บัญญัตวิ า่ "สงิ่ พิมพ"์ หมายความวา่ สมุดแผน่ กระดาษหรอื
วัสดุ ใด ๆ ท่พี มิ พ์ขนึ้ รวมตลอดทงั้ บทเพลง
ประเภทของสือ่ : แบ่งออกเปน็ 4 ประเภท
1 หนงั สือพิมพ์ (newspaper) สอ่ื ที่แสดงเรอ่ื งราว ขา่ ว
สารภาพ ความคิดเห็น มกี ารเผยแพร่ออกมา มีทง้ั
หนงั สอื พิมพ์รายวนั รายปักษ(์ 15 วนั )รายสปั ดาห์ ราย
เดือน
2 นติ ยสาร และวรสาร (magazine/journal) สือ่ ทีแ่ สดง
สาระ ข่าว ความบันเทงิ รูปแบบการนาเสนอจะสะดดุ ตาและ
สร้างความสนใจให้กับผู้อา่ น ทง้ั นกี้ ารผลติ มกี าร กาหนด
ระยะเวลาที่แผยแพร่ ทัง้ นติ ยสารรายปักษ์ (15 วัน) แะล
รายเดอื น
3 หนังสอื (book) เปน็ ส่ือทแ่ี สดงเนือ้ หาวชิ าการในศาสตร์
ความรู้ตา่ งๆ ได้แก่ สารคดี ตารา หรือแบบเรียน
4 หนังสอื พมิ พ์เฉพาะกิจ เป็นหนังสือพมิ พท์ ผ่ี ลิตข้นึ เพ่อื ใช้
ในกจิ การเฉพาะ เช่น โครงการความรู้ โฆษณา
ประชาสมั พนั ธ์
1. หนงั สอื พมิ พ์(newspaper)
2.นติ ยสารและวรสาร
(magazine/journal)
3. หนังสือ (Book)
4. หนังสอื พมิ พเ์ ฉพาะกิจ
ข้อดีของส่อื สง่ิ พิมพ์
• เม่อื ผ้อู ่านไม่เขา้ ใจตอนไหน กส็ ามารถทจี่ ะย้อนกลบั มา
อา่ นซา้ ใหม่ไดอ้ กี ครั้งหน่งึ
• สามารถเกบ็ ไวเ้ ป็นหลักฐานอา้ งองิ ได้
• มีภาพประกอบช่วยดึงดดู ความสนใจไดม้ าก เม่อื
เปรยี บเทียบกบั สื่อวิทยุ
• มรี าคาทถี่ กู และสามารถหาซื้อไดง้ า่ ย
• สสามารถเข้าถงึ กับหลากหลากบคุ คล เพราะ
หนงั สอื พมิ พม์ หี ลากหลายประเภทและสามารถเลอื ก
หนงั สอื พมิ พ์ทเ่ี หมาะสมกับความสนใจได้
• สามารถนาเสนอขา่ วสารไดจ้ านวนมาก และสามารถ
ลงรายละเอยี ดไดเ้ ยอะ
• สามารถทาได้ทกุ วันและทุกสปั ดาห์ เพือ่ ให้บุคคลท่วั ไป
สามารถติดตามข่าวสาวไดอ้ ย่างสม่าเสมอและต่อเนอื่ ง
ขอ้ จากัดของสือ่ สิ่งพมิ พ์
• มชี ่วงอายทุ ี่ส้นั ยกตัวอยา่ ง หนงั สือพิมพ์รายวันก็จะมี
ขา่ วมาเปลย่ี นทกุ วัน
• หนงั สอื พิมพไ์ มส่ ามารถทีจ่ ะเขา้ ถงึ บคุ คลท่ีอา่ นไม่ออก
หรือไม่รหู้ นงั สอื
• ไมส่ ามารถเขา้ ถึงพ้ืนท่ที ม่ี กี ารคมนาคมที่ไม่สะดวก
• ถ้าเปรยี บเทียบกับ โทรทัศน กไ็ ม่น่าอ่านเทา่
อ้างองิ
ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
กระทรวงศึกษาธกิ าร 2546 retrieve from
https://sites.google.com/site/chompoo190542/pra
wati-sux-sing-phimph
trueplookpanya 30 ม.ิ ย. 60 retrieve from
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/conte
nt/60298/-lantha-lan-
plusprinting retrieve from
https://plusprinting.bookplus.co.th/printing-
media/
sites.google.com retrieve from
https://sites.google.com/site/pongnuntipisek/4-
khxdi-laea-khx-seiy-khxng-sux-sing-phimph