กรทดฤ-ษเฏบีส
เสนอ เล่งระยำN N
ครูปรีช์ญภัทร
จัดทำโดย นางสาวกมลวรรณ พวงทาผา
เลขที่ 9 ม.5/12
ARRHENIUS
THEORY
ทฤษฎีกรด-เบสอาร์เรเนียส
อาร์เรเนียส ได้ศึกษาสมบัติและสูตรเคมีของสารที่แสดงสมบัติกรดและเบส
และตั้งทฤษฎีกรด-ดบสขึ้นเมื่ อปี พ.ศ. 2430 โดยให้ไว้ว่า
กรด เบส
กรดคไืฮอโสดารรเทีจ่ลนะไลอาอยอนน้ำแ( ตH+ก)ตัวให้
เช่น HCI(aq) H(+aq)+ CI-(aq) H เบส คือสารที่ละลายน้ำแล้ว
แตกตัวให้ไฮ(ดOรHอ-ก) ไซด์ไอออน
H 2S(aq) H(+aq) + HS-(aq)
ค
ค
H+ที่แตกตัวจากกรดไม่ได้อยู่เป็นอิสระแต่จะรวม
กับน้ำแล้วเกิดไฮโดรเนียมไอออน(H3O+) เช่น N +a (aq+) OH(aq)
เช่น HCI(aq)+ H2O(I) CI-(aq)+ H 3O+( a q ) NaOH(aq) Ca(2a+q)+ -
- H3O+(aq) 2OH(aq)
H2S(aq+) H2O(I) Ca(OH)2 (aq)
HS (aq)+
ข้อจำกัด
1สารตั้งต้นต้องละลายน้ำหรือตัวทำละลายได้ ถ้าไม่ละลายจะอธิบายไม่ได้
2กรดจะตเองมี H อยู่ในโมเลกุล และเบสจะต้องมี OH อยู่ในโมเลกุล
หากไม่มีจะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสารใด
BRONSTED
LOW THEORY
ทฤษฎีกรด-เบสเบรินสเตด-ลาวรี
โดยให้นิยามไว้ว่า
กรด คือ สารที่ให้โปรตอน
เบส คือ สารที่รับโปรตอน
EXAMPLE
NH4+ให้ H+กับ H2O ดังนั้น 2NOHร4ั+บจึHง+ทำจาก
ในขณะที่ H
หน้าที่เป็ นกรด
NH4+
ในสดาัรงลนัะ้นลาHย2มOี Hจึ3งO+ทำเกหิดน้ขาึ้ทนี่เปส็นารเบลสะลแายละ
NH 4Cl จึงมีสมบัติเป็นกรด
ขHณ2Oะทีใ่ห้CHH+3CกัOบ OC-Hรั3บCOH+O-จาเกกิดHเป2็Oน OH- ใน
C H 3C O O H
เกิดเป็น
Oส่ วHนด-ั งCเ กนัิH้ดน3ขCึH้ นO2OดOั ง-จึนัทง้นำทหจำึ งหน้สนา้ทาาี่มทเีป่าเ็ปรน็ถนเ บอกสธริใบดนาสยาสรมลบะัลติา ย มี
ความเป็นเบสของสารละลาย CH3COONa ได้
GILBERT
NEWTON LEWIS
ทฤษฎีกรด-เบสลิวอิส
โดยให้นิยามไว้ว่า
กรด คือสารที่สามารถรับคู่อิเล็กตรอน
เบส คือ สารที่สามารถให้คู่อิเล็กตรอน
EXAMPLE
NH 3มีอิเล็กตรอนคู่โดด
เดี่ยว 1 คู่ จึงเป็นสารที่
ให้คู่อิเล็กตรอน
ส่วน BF3 เป็นสารที่รับคู่
อิเล็กตรอน
ดังนั้น NH3 จึงเป็นเบส
ส่วน BF3 เป็นกรด
ใวHอก่ิันา+เบลป็OเกHฏปิ็Hต+กนิ-รรจกิึอยใงรหนา้เดคปนูจี็่เ้อนพอาิเกเธรลิบ็บากOสะาตรHยัสบร่-ไวคดอู้น่น
แล้วเกิดพันธะ O-H
เอกสารอ้างอิ ง
https://sites.google.com/a/tupr.ac.t
h/thvsdi-krd-bes-by-5-1-tupr/bth-
reiyn/niyam-liw-xis
https://il.mahidol.ac.th/e-
media/acid-base/C3jum11.htm
https://www.pw.ac.th/sci/acid-
base/content/ch3.html