The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานวัดพัฒนาตัวอย่าง-2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Phiphatphong Sakniticharuchai, 2023-03-21 09:53:38

รายงานวัดพัฒนาตัวอย่าง-2566

รายงานวัดพัฒนาตัวอย่าง-2566

199 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 10.๑ ได้จรรโลงสังคมไทยให้เป็นสังคมที่ดีมีคุณธรรม จริยธรรมอย่างยั่งยืน โดยใช้มิติทางศาสนาเป็นแนวทาง ในการดำเนินงาน 10.๒ พุทธศาสนิกชนนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน 10.๓ ได้ส่งเสริมให้ศาสนิกชนได้เข้าวัดปฏิบัติธรรม ทำบุญตักบาตร เวียนเทียนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพุทธบูชา ผู้เสนอโครงการ (พระสมุห์เฉลิมชัย อาภาธโร) (พันโทวีระศักดิ์ ทองพรหม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ไวยาวัจกรวัดคูหาสวรรค์ ผู้เห็นชอบโครงการ (พระสมุห์สุเมธ ธมฺมรโต) รองเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ผู้อนุมัติโครงการ (พระครูประทีปธรรมานุรักษ์) ผู้เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์


200 201 แผนงาน/โครงการ : โครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย สนองยุทธศาสตร์ : ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างความมั่นคงด้านพระพุทธศาสนา สนองกลยุทธ์ : กลยุทธ์ที่ 1 ปลูกฝังศรัทธาในพระพุทธศาสนา สนับสนุนพันธกิจ : ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ลักษณะโครงการ : โครงการใหม่ โครงการต่อเนื่อง หน่วยงานที่รับผิดชอบ : วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ภาคีเครือข่าย : เทศบาลนครพิษณุโลก, ชุมชนพระร่วงซอย 2, ชุมชนบ้านคลองพัฒนา โรงเรียนจ่านกร้อง, โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) ระยะเวลาดำเนินการ : มกราคม - ธันวาคม 2566 ๑. หลักการและเหตุผล ชาติไทยได้สร้างสมอารยะธรรมเป็นเวลานาน โดยไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลอารยะธรรมของชนชาติใดให้ต้อง สูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรม แม้ในช่วงระยะหลังหลายชั่วอายุคนที่ผ่านมา เรารับอารยะธรรม ตะวันตกมาปรับใช้กับชีวิตแบบไทยๆ ก็เป็นไปอย่างนุ่มนวล กลมกลืนไม่ว่าจะเป็นด้านการเมืองการปกครอง การทหาร การศึกษา การแต่งกาย ศิลปะ และการดนตรี ตลอดจนถึงชีวิตความเป็นอยู่ เรายังคงรักษาเพิ่มพูนคุณค่า ทางศิลปวัฒนธรรมของเราจนเป็นที่ภาคภูมิใจแก่คนไทยทั้งชาติและพลโลก การส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย คือการการสนับสนุนฟื้นฟู ดูแล บำรุงรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณี ศาสนา ภาษา วรรณกรรม ศิลปกรรม โบราณสถาน โบราณวัตถุ การละเล่นดนตรี ชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งเป็น ที่ยอมรับของสังคมว่าดีงาม ให้คงสภาพหรือปรับปรุงในส่วนที่ดีงามของสิ่งเหล่านั้น เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาการ ดำเนินวิถีชีวิตในท้องถิ่นได้อย่างสมสมัยจากการศึกษาของนักวิชาการหลายแขนงพบว่า การเสื่อมสลายของ ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย มีหลายสาเหตุคือ ประการแรก เกิดจากความสูญเสียความเข้าใจและความ ภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่นชนบทไทยทั่วประเทศ ประการที่สอง เกิดจากความ เสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมทั้งทางกายภาพและทางสังคมในหลายช่วงทศวรรษต่อเนื่องกัน ดุลยภาพระหว่างคน สังคม สิ่งแวดล้อมในเมืองได้สูญเสียไป ประการที่สาม เกิดจากความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของระบบเศรษฐกิจและสังคม ที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ประการที่สี่ เกิดจากวิกฤตการณ์ของระบบราชการที่ปรับเปลี่ยนได้ช้า ไม่ทันความเปลี่ยนแปลงของสังคมและเศรษฐกิจ ประการที่ห้า เกิดจากคุณธรรม จริยธรรมบนพื้นฐานวัฒนธรรม พุทธเกษตรที่เป็นลักษณะ เฉพาะของคนไทยสั่นคลอนจากอิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตก ปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อการดำรงชีวิตของทุกชีวิตอย่าง มากด้วยระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ วัฒนธรรมทั้งด้านดีและด้านที่ยังไม่ได้พัฒนาให้เหมาะสมจากทั่วทุกมุมโลก หลั่งไหลเข้าสู่วงจรชีวิตของคนไทยเราอย่างขาดระบบและขาดขั้นตอนการรับที่มีแบบแผนเพียงพอ ยังส่งผลให้เยาวชน ของเราเกือบทั่วประเทศพากันนิยมชมชื่นกับความแปลกใหม่ของวัฒนธรรมต่างชาติ บางคนถึงกับดูหมิ่นอับอายใน ศิลปวัฒนธรรมตลอดจนภูมิปัญญาชาวบ้านของไทย ดังนั้น วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริม ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทยให้คงอยู่สืบไป ๒. วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามของไทย ให้ได้รับการอนุรักษ์ส่งเสริมพัฒนาควบคู่ไปกับ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม ๒.๒ เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย ๒.๓ เพื่อส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ในการสืบสานศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย


201 ๓. เป้าหมาย ๓.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ ๓.๑.๑ พระภิกษุและสามเณรวัดคูหาสวรรค์ จำนวน ๓๐ รูป ๓.๑.๒ ไวยาวัจกรและคณะกรรมการวัดคูหาสวรรค์ จำนวน 10 คน 3.1.3 ประชาชน จำนวน 200 คน ๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ ๓.๒.1 วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ในการสืบสานศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทยร้อยละ 80 ๓.๒.2 ประชาชนมีความตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย ร้อยละ 80 ๔. วิธีการดำเนินโครงการ กิจกรรม / รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม ระยะเวลาม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ขั้นเตรียมการ (P) 1. ศึกษาข้อมูล/เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 2. ประชุมร่วมกับไวยาวัจกรและคณะกรรมการ ในการวางแผนการดำเนินโครงการ 3. จัดทำเอกสาร และประสานงานผู้มีส่วน เกี่ยวข้องในการดำเนินกิจกรรม 4. ประชุมร่วมกับผู้ปฏิบัติการ ในการเตรียม ความพร้อมของการดำเนินกิจกรรม ขั้นดำเนินการ (D) 5. กิจกรรมเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก 6. กิจกรรมตักบาตรเทโวโรหณะ 7. กิจกรรมบุญสลากภัต 8. กิจกรรมวันลอยกระทง 9. กิจกรรมวันสงกรานต์ 10. กิจกรรมทอดกฐินประจำปี 11. กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีและสวดนพเคราะห์ฯ ขั้นติดตามและประเมินผล (C-A) 12. จัดทำแบบบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม 13. ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน 14. จัดทำรายงานผลการดำเนินกิจกรรม ๕. รูปแบบกิจกรรม 5.1 กิจกรรมเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก คือ การเทศน์มหาชาตินั้น มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด ๑๓ กัณฑ์ 1,000 พระคาถา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเวสสันดรอันเป็นพระชาติสุดท้ายของพระบรมโพธิสัตว์ ก่อนที่จะมา


202 203 ประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะและออกบวชจนตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยจะจัดเทศน์ให้จบภายในวันเดียว และ มีการจัดตั้งโรงทานดเพื่อการกุศล ในวันที่ 29 ตุลาคม 2566 5.2 กิจกรรมตักบาตรเทโวโรหณะ คือ วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 มีประเพณีตักบาตรที่มีลักษณะพิเศษ คือ จะอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นประดิษฐานบนล้อเลื่อนที่บุษบกและ มีบาตรวางตั้งอยู่ด้านหน้า และจะมีคนลากล้อเลื่อนไปอย่างช้าๆ พระสงฆ์ก็จะเดินตามเรียงเป็นแถวส่วน พุทธศาสนิกชนก็จะนั่งเรียงเป็นแถว และนำข้าวต้มลูกโยนมาใส่บาตร ซึ่งในบางวัดอาจจะมีการจัดสถานที่เป็น แบบจำลองเหมือนกับที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมา ในวันที่ 30 ตุลาคม 2566 5.3 กิจกรรมบุญสลากภัต คือ เป็นชื่อเรียกวิธีถวายทานแก่พระสงฆ์วิธีหนึ่ง โดยการจับสลากเพื่อแจก ภัตตาหารหรือปัจจัยวัตถุที่ได้รับจากผู้ศรัทธาถวาย เพื่ออนุเคราะห์แก่ผู้ศรัทธาที่มีปัจจัยวัตถุจำกัดและไม่สามารถถวาย แก่พระสงฆ์ทั้งหมดได้โดยสลากภัตนับเนื่องในสังฆทานที่มีอานิสงส์มาก เพราะถือว่าแม้จะตั้งสลากถวายกับพระภิกษุ รูปใดรูปหนึ่งที่จับสลากได้ ย่อมเท่ากับถวายกับพระสงฆ์ทั้งหมด เพราะสลากที่จับนั้นพระสงฆ์ทุกรูปในอารามนั้นมีสิทธิ์ ได้ นอกจากนั้นสลากภัตยังเป็นหลักการในพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้เพื่อสร้างจิตสำนึกความเท่าเทียมกันและ สร้างความเป็นอันหนึ่งเดียวกันแก่คณะสงฆ์ โดยจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน 2566 5.4 กิจกรรมวันลอยกระทง คือเป็นกิจกรรมที่จะทำกันในคืนวันเพ็ญ เดือน 12 หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 อันเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณ เพื่อบูชาพระอุปคุตเถระที่บำเพ็ญบริกรรมคาถาในท้อง ทะเลลึก และเพื่อแสดงความขอบคุณพระแม่คงคา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ต่าง ๆ โดยทาง วัดคูหาสวรรค์ได้จัดกิจกรรมบริเวณแพน้ำคลองคูเมือง ในการจำหน่ายกระทงให้กับประชาชน โดยจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 5.5 กิจกรรมวันสงกรานต์คือถือได้ว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามธรรมเนียมไทยเรา โดยมีการจัดกิจกรรมทำบุญ ตักบาตร, มีการสรงน้ำพระ ,รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ, ก่อเจดีย์ทราย โดยจัดขึ้นในวันที่ 13-15 เมษายน 2566 5.6 กิจกรรมทอดกฐิน คือ ในแต่ละปีกำหนดให้มีการจัดทอดกฐินขึ้นภายใน ๑ เดือน หลังประเพณี ออกพรรษา โดยวัดที่จะสามารถรับกฐินได้ ต้องมีพระภิกษุจำพรรษาโดยไม่ขาดพรรษาเลย ไม่ต่ำกว่า ๕ รูป และแต่ละ วัดสามารถรับกฐินได้ปีละ ๑ ครั้ง และมีการจัดตั้งโรงทานเพื่อการกุศล 5.7 กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีและสะเดาะเคราะห์เสริมบารมีคือเป็นหนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ที่เป็นการ เสริมสร้างสิริมงคล ในวาระแห่งการเริ่มต้นที่ดีก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ โดยมีธรรมเนียมปฏิบัติของชาวพุทธ ซึ่งจัดขึ้นเป็น ประจำทุกปีในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 6. งบประมาณ 6.1 กิจกรรมเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก จำนวน 15,000 บาท 6.2 กิจกรรมตักบาตรเทโวโรหณะ จำนวน 5,000 บาท 6.3 กิจกรรมบุญสลากภัต จำนวน 10,000 บาท 6.4 กิจกรรมวันลอยกระทง จำนวน 5,000 บาท 6.5 กิจกรรมวันสงกรานต์ จำนวน 10,000 บาท 6.6 กิจกรรมทอดกฐินประจำปี จำนวน 10,000 บาท 6.7 กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีและสะเดาะเคราะห์เสริมบารมี จำนวน 20,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 75,000 บาท (เจ็ดหมื่นห้าพันบาทถ้วน)


203 7. สถานที่ดำเนินการ วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 8. ระยะเวลาดำเนินการ 8.1 กิจกรรมเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก 29 ตุลาคม 2566 8.2 กิจกรรมตักบาตรเทโวโรหณะ 30 ตุลาคม 2566 8.3 กิจกรรมบุญสลากภัต 3 มิถุนายน 2566 8.4 กิจกรรมวันลอยกระทง 27 พฤศจิกายน 2566 8.5 กิจกรรมวันสงกรานต์ 13-15 เมษายน 2566 8.6 กิจกรรมทอดกฐินประจำปี ตุลาคม-พฤศจิกายน 2566 8.7 กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีและสวดนพเคราะห์เสริมบารมี 31 ธันวาคม 2566 9. การติดตามและประเมินผลโครงการ ขั้นตอน/กระบวนการ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1 มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมและ ประเพณีไทย มีการลงชื่อเข้าร่วม กิจกรรม บัญชีลงชื่อการเข้าร่วม กิจกรรม 2 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อ การจัดกิจกรรม มีการทำแบบประเมิน ความพึงพอใจ แบบประเมินความพึงพอใจ 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 10.๑ ได้ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามของไทย ให้ได้รับการอนุรักษ์ส่งเสริมพัฒนาควบคู่ไปกับ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม 10.๒ ประชาชนเกิดความตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย 10.๓ ส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ในการสืบสานศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย ผู้เสนอโครงการ (พระสมุห์เฉลิมชัย อาภาธโร) (ดร.เอกชัย โกมลกิตติ์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ไวยาวัจกรวัดคูหาสวรรค์ ผู้เห็นชอบโครงการ (พระสมุห์สุเมธ ธมฺมรโต) รองเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ผู้อนุมัติโครงการ (พระครูประทีปธรรมานุรักษ์) ผู้เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์


204 205 แผนงาน/โครงการ : โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต สนองยุทธศาสตร์ : ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างความมั่นคงด้านพระพุทธศาสนา ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้เชิงพุทธ สนองกลยุทธ์ : กลยุทธ์ที่ 1 ปลูกฝังศรัทธาในพระพุทธศาสนา กลยุทธ์ที่ 8 เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนาให้เข้มแข็ง สนับสนุนพันธกิจ : ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ลักษณะโครงการ : โครงการใหม่ โครงการต่อเนื่อง หน่วยงานที่รับผิดชอบ : วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ภาคีเครือข่าย : เทศบาลนครพิษณุโลก, ชุมชนพระร่วงซอย 2, ชุมชนบ้านคลองพัฒนา โรงเรียนจ่านกร้อง, โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) ระยะเวลาดำเนินการ : มกราคม - ธันวาคม 2566 ๑. หลักการและเหตุผล สภาพสังคมไทย เป็นสังคมที่นับถือพระพุทธศาสนา มีความผูกพันตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย สภาพสังคมไทยได้ เข้าวัดบำเพ็ญบุญทุกวันสำคัญของพระพุทธศาสนา วันสำคัญของชาติ และเมื่อในอดีตประชาชนชาวไทยได้เข้าวัด ฟังธรรมทุกวันธรรมสวนะ แต่ในสภาพสังคมปัจจุบันในวันพระดังกล่าวไม่มีการเข้าวัดฟังธรรม จึงทำให้สภาพสังคมไทย ห่างไกลจากการเข้าวัดฟังธรรม การซึมซับรสแห่งพระธรรม จึงมีน้อยลงไปทุกที สังคมจึงสับสนวุ่นวายปัญหาเกิดขึ้น มากมาย ขาดหลักการในการนำเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาประคับประคองชีวิต ทำให้ชีวิตขาดหลักในการ ดำเนินชีวิต และการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ชีวิตไม่มีความสุข เป็นไปตามอัตภาพที่จะสามารถเป็นไปได้ สังคมไทยปัจจุบันเกิดวิกฤติคุณธรรมและจริยธรรม มีปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นในทุกภาคส่วนของสังคม อย่างไม่มีที่สิ้นสุด มีแนวโน้มจำนวนอาชญากรรมที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ผู้ก่ออาชญากรรมเปลี่ยนไปเป็นกลุ่ม เด็กและเยาวชน จากรายงานสภาวะสังคมของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในไตรมาสที่ ๓ ปี ๒๕๖๑ พบว่า คดีอาญารวมเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๗.๗ จากไตรมาสเดียวกันของปี ๒๕๖๐ เป็นการ รับแจ้งคดียาเสพติดเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๒.๘ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์รับแจ้งเพิ่มขึ้นร้อยละ ๖.๖ จากการให้ความสำคัญ ต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งการปราบปราม ป้องกัน และบำบัดอย่างต่อเนื่อง โดยนำหลักด้านสาธารณสุขมาใช้ ด้วยการมองปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องของสุขภาพและสาธารณสุข แม้ว่าคดีชีวิตร่างกายและเพศจะมีสัดส่วนคดีเพียง ร้อยละ ๓.๕ ของคดีอาญารวม แต่มีผลกระทบต่อเหยื่อผู้ถูกกระทำทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จากข้อมูลสำนักงาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพร่วมกับมูลนิธิเพื่อนหญิงชี้ว่า ผู้หญิงถูกละเมิดทางเพศ ถูกกระทำความรุนแรง ทางร่างกาย จิตใจ วันละไม่น้อยกว่า ๗ คน และมีผู้หญิงที่เข้ารับการบำบัดรักษา และแจ้งความร้องทุกข์สูงถึงปีละ ๓๐,๐๐๐ คน มีผู้เสียชีวิต ๒๐ ราย และจากรายงาน ๒๐๑๘ DQ Impact Report ซึ่งสำรวจกลุ่มตัวอย่างเด็กและ เยาวชนไทยที่มีอายุระหว่าง ๘-๑๒ ปี จำนวน ๑,๓๐๐ คนทั่วประเทศ พบว่า เด็กไทยยังมีทักษะความฉลาดทางดิจิทัล ต่ำ โดยร้อยละ ๖๐ มีความเสี่ยงจากภัยออนไลน์ ภัยที่พบมากที่สุดคือ การถูกกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์การเข้าถึงสื่อ ลามกและพูดคุยเรื่องเพศกับคนแปลกหน้า การติดเกม และการถูกล่อลวงออกไปพบคนแปลกหน้าสอดคล้องกับผล การสำรวจสถานการณ์เด็กไทยกับภัยออนไลน์ประจำปี ๒๕๖๑ ซึ่งสำรวจในกลุ่มเด็กอายุ ๖-๑๘ ปีทั่วประเทศ จำนวน ๑๕,๓๑๘ คน ที่พบว่า เด็กไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงจากภัยออนไลน์ อาทิ พูดคุยกับคนที่ไม่รู้จักผ่านสื่อออนไลน์ ให้ข้อมูล ส่วนตัวผ่านสื่อออนไลน์ เปิดอ่านอีเมลที่ส่งมาจากคนที่ไม่รู้จักหรือคลิก link ที่ไม่รู้จัก เคยเล่นพนันทายผลฟุตบอล ออนไลน์ เคยถ่ายภาพหรือวิดีโอลามกของตนเองส่งให้คนอื่น ๆ ทางออนไลน์ และที่น่ากังวลคือเด็กกว่าร้อยละ ๒๕ เคยนัดพบกับเพื่อนออนไลน์อย่างน้อย ๑ ครั้ง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือถูกทำร้ายร่างกายได้ง่าย


205 ดังนั้น วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริม คุณธรรมจริยธรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตขึ้น เพื่อพัฒนาเยาวชนไทยไปสู่การเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพ มีความสมบูรณ์ทั้ง ร่างกายและจิตใจ มีสติปัญญา มีความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรม ในการดำรงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับ ผู้อื่นได้อย่างมีความสุข โดยสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม ที่จะหล่อหลอม และเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยง ของเด็กและเยาวชนในยุคปัจจุบัน ๒. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้เด็กและเยาวชนได้รู้คุณค่าการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ 2.2 เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างบ้าน วัด โรงเรียนและชุมชนในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่ เยาวชน พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือในการป้องกันยาเสพติด 2.3 เพื่อให้เยาวชนใช้หลักธรรมในทางพระพุทธศาสนาในการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้สามารถใช้ชีวิต อย่างมีคุณค่าและมีเป้าหมาย 2.4 เพื่อทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ๓. เป้าหมาย ๓.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ ๓.๑.๑ นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 วันคูหาสวรรค์ จำนวน 200 คน ๓.๑.๒ นักเรียนโรงเรียนจ่านกร้อง จำนวน 600 คน 3.1.3 ประชาชน จำนวน 200 คน ๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ ได้ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้เด็กและเยาวชนได้รู้คุณค่าการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพเสริมสร้าง ความร่วมมือระหว่างบ้าน วัด โรงเรียนและชุมชนในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่เยาวชน พร้อมทั้งสร้างความ ร่วมมือในการป้องกันยาเสพติด ใช้หลักธรรมในทางพระพุทธศาสนาสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมี คุณค่าและมีเป้าหมาย และได้ทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ๔. วิธีการดำเนินโครงการ กิจกรรม / รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม ระยะเวลาม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ขั้นเตรียมการ (P) 1. ศึกษาข้อมูล/เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 2. ประชุมร่วมกับไวยาวัจกรและคณะกรรมการ ในการวางแผนการดำเนินโครงการ 3. จัดทำเอกสาร และประสานงานผู้มีส่วน เกี่ยวข้องในการดำเนินกิจกรรม 4. ประชุมร่วมกับผู้ปฏิบัติการ ในการเตรียม ความพร้อมของการดำเนินกิจกรรม ขั้นดำเนินการ (D) 5. กิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน


206 207 6. กิจกรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน 7. กิจกรรมอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ 8. กิจกรรมฟังธรรมวันพระ ขั้นติดตามและประเมินผล (C-A) 9. จัดทำแบบบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม 10. ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน 11. จัดทำรายงานผลการดำเนินกิจกรรม ๕. รูปแบบกิจกรรม 5.1 กิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน คือ ดำเนินการร่วมกับเทศบาลนครพิษณุโลก ในการจัดกิจกรรม บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 โรงเรียนในกลุ่มเทศบาลนครพิษณุโลก จำนวน 250 คน ในช่วงเดือนมีนาคม 2566 5.2 กิจกรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรม คือ ดำเนินการร่วมกับโรงเรียนเทศบาล 2 วัดคูหาสวรรค์ และ โรงเรียนจ่านกร้อง ในการจัดกิจกรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยหลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา ในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน 2566 5.3 กิจกรรมอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ คือ ดำเนินกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระ ชนมพรรษา ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ถึง 12 สิงหาคม 2566 รวมระยะเวลา 15 วัน 5.4 กิจกรรมฟังธรรมวันพระ คือ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการฟังพระธรรมเทศนา เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ ด้านพระพุทธศาสนา และปลูกฝังศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยจัดให้มีพระภิกษุในวัดคูหาสวรรค์ หมุนเวียนกันแสดง พระธรรมเทศนาทุกวันพระ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา 6. งบประมาณ 6.1 กิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน จำนวน 30,000 บาท 6.2 กิจกรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรม จำนวน 10,000 บาท 6.3 กิจกรรมอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 35,000 บาท 6.4 กิจกรรมฟังธรรมวันพระ (ไม่ใช้งบประมาณ) รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 75,000 บาท (เจ็ดหมื่นห้าพันบาทถ้วน) 7. สถานที่ดำเนินการ วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 8. ระยะเวลาดำเนินการ 8.1 กิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน มีนาคม 2566 8.2 กิจกรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรม สิงหาคม ถึง กันยายน 2566 8.3 กิจกรรมอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ 28 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม 2566 8.4 กิจกรรมฟังธรรมวันพระ กรกฎาคม ถึง ตุลาคม 2566


207 9. การติดตามและประเมินผลโครงการ ขั้นตอน/กระบวนการ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1 มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม พัฒนาคุณภาพชีวิต มีการลงชื่อเข้าร่วม กิจกรรม บัญชีลงชื่อการเข้าร่วม กิจกรรม 2 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อ การจัดกิจกรรม มีการทำแบบประเมิน ความพึงพอใจ แบบประเมินความพึงพอใจ 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 10.1 ได้ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้เด็กและเยาวชนได้รู้คุณค่าการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ 10.2 ได้เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างบ้าน วัด โรงเรียนและชุมชนในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่ เยาวชน พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือในการป้องกันยาเสพติด 10.3 เยาวชนได้ใช้หลักธรรมในทางพระพุทธศาสนาในการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมี คุณค่าและมีเป้าหมาย 10.4 ได้ทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผู้เสนอโครงการ (พระสมุห์เฉลิมชัย อาภาธโร) (ดร.เอกชัย โกมลกิตติ์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ไวยาวัจกรวัดคูหาสวรรค์ ผู้เห็นชอบโครงการ (พระสมุห์สุเมธ ธมฺมรโต) รองเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ผู้อนุมัติโครงการ (พระครูประทีปธรรมานุรักษ์) ผู้เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์


208 209 แผนงาน/โครงการ : โครงการส่งเสริมศาสนศึกษาพัฒนาศาสนทายาท สนองยุทธศาสตร์ : ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างความมั่นคงด้านพระพุทธศาสนา ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้เชิงพุทธ สนองกลยุทธ์ : กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มศักยภาพทางปัญญา กลยุทธ์ที่ 7 เพิ่มขีดความสามารถศาสนบุคคล กลยุทธ์ที่ 8 เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนาให้เข้มแข็ง สนับสนุนพันธกิจ : ด้านการศาสนศึกษา ลักษณะโครงการ : โครงการใหม่ โครงการต่อเนื่อง หน่วยงานที่รับผิดชอบ : วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ภาคีเครือข่าย : เทศบาลนครพิษณุโลก, ชุมชนพระร่วงซอย 2, ชุมชนบ้านคลองพัฒนา โรงเรียนจ่านกร้อง, โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) ระยะเวลาดำเนินการ : มกราคม - ธันวาคม 2566 ๑. หลักการและเหตุผล การศึกษาคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ดำเนินตามแนวไตรสิกขา โดยยึดถือพุทธพจน์ คือ คำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้าเป็นหลัก มีความมุ่งหมายสำคัญ เพื่อให้ประพฤติปฏิบัติตน ดำรงรักษาและเผยแผ่พรหมจรรย์อันเป็น ระบบการศึกษาของคณะสงฆ์ ดำเนินชีวิตตามหลักการแห่งพระธรรมวินัย ต่อมาได้แยกออกเป็นฝ่ายคันถธุระและ วิปัสสนาธุระ คือคันถธุระ ได้ศึกษา พระธรรมวินัย คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และวิปัสสนาธุระ ได้แก่ การเรียนวิธี ฝึกหัดจิตใจของตนเองให้ปราศจากกิเลส เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พระสงฆ์พุทธสาวก จึงประชุมกันทำสังคายนา รวบรวมพระธรรมวินัยอันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ที่ได้ตรัสสอนไว้มีจำนวน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ จัดไว้เป็น ๓ หมวด คือ พระสูตร พระวินัย และ พระอภิธรรม เรียกรวมกันว่า พระไตรปิฎก ซึ่งเป็นคัมภีร์ของพระพุทธศาสนาสืบมา บรรพชิตหรือภิกษุในพระพุทธศาสนา มีภาระหน้าที่ที่จะต้องศึกษาพระไตรปิฎก เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ ในการประพฤติปฏิบัติตน ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย เพื่อให้สมประโยชน์ที่เป็นหนึ่งในพุทธบริษัทสี่ อันประกอบด้วย ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะที่เป็นบรรพชิต ไม่มีกิจอื่นเหมือนชาวบ้าน ดังนั้นกิจของ บรรพชิต ซึ่งต้องอุทิศตนให้แก่พระศาสนาอย่างถูกต้อง ตรงทา โดยเต็มความสามารถ เพื่อมุ่งสู่จุดมุ่งหมายปลายทาง ของพระพุทธศาสนา คือ ความสิ้นสุดแห่งทุกข์ และเพื่อให้มีความรู้ความสามารถ ในระดับที่มีคุณภาพพอที่จะสั่งสอน ผู้อื่น ให้มีความรู้ ความเข้าใจในหลักธรรมคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้าได้ ก็จะต้องกระทำเพื่อธำรงไว้ซึ่ง พระพุทธศาสนา ให้มั่นคงสถาพรยิ่ง ๆ ขึ้นไป อันจะเป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่ แก่มวลมนุษยชาติ ขณะนี้สังคมไทยกำลังสนใจเรื่องโครงสร้างการบริหารองค์กรต่าง ๆ และสังคมการศึกษา มีการเปลี่ยนแปลง มีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เมื่อการศึกษาทางโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และมีความตระหนักที่จะนำศีลธรรม เข้าไปแก้ปัญหาของสังคม เช่น รัฐบาลได้สนับสนุนให้พระเป็นครูสอนศีลธรรมในโรงเรียนทั่วประเทศเป็นต้น ดังนั้นกระบวนการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์โดยเฉพาะพระปริยัติธรรมทั้งแผนกบาลีและแผนกธรรม จึงควรที่จะมี การเปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้เป็นระบบทั้งฝ่ายธรรมและฝ่ายโลกควบคู่กันไป และเป็นการสร้างศาสนทายาทและเปิด โอกาสให้เป็นทางเลือกใหม่ในการศึกษาของชาติ ดังนั้น วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริม ศาสนศึกษาพัฒนาศาสนทายาทขึ้น เพื่อส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร และเป็นการพัฒนา ศักยภาพทางปัญญา รวมถึงเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนาให้เข้มแข็ง เพื่อให้พระภิกษุสามเณรมีความรู้ ความสามารถเป็นกำลังสำคัญในการสืบอายุพระพุทธศาสนาสืบไป ๕.๔ แผนงานด้้านการศาสนศึึกษา


209 ๒. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อส่งเสริมการศึกษาแด่ พระภิกษุสามเณรให้ได้รับการศึกษาอย่างครบวงจร 2.2 เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการศึกษาให้พระภิกษุสามเณรได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ 2.3 เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา และทุนการศึกษาแด่ พระภิกษุสามเณร ๓. เป้าหมาย ๓.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ ๓.๑.๑ พระภิกษุสามเณรวัดคูหาสวรรค์ จำนวน 30 รูป ๓.๑.๒ พระภิกษุสามเณรในเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลหัวรอ เขต ๑ จำนวน 60 รูป ๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ ได้ส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร และเป็นการพัฒนาศักยภาพทางปัญญา รวมถึงเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนาให้เข้มแข็ง เพื่อให้พระภิกษุสามเณรมีความรู้ความสามารถเป็นกำลัง สำคัญในการสืบอายุพระพุทธศาสนาสืบไป ๔. วิธีการดำเนินโครงการ กิจกรรม / รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม ระยะเวลาม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ขั้นเตรียมการ (P) 1. ศึกษาข้อมูล/เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 2. ประชุมร่วมกับไวยาวัจกรและคณะกรรมการ ในการวางแผนการดำเนินโครงการ 3. จัดทำเอกสาร และประสานงานผู้มีส่วน เกี่ยวข้องในการดำเนินกิจกรรม 4. ประชุมร่วมกับผู้ปฏิบัติการ ในการเตรียม ความพร้อมของการดำเนินกิจกรรม ขั้นดำเนินการ (D) 5. กิจกรรมส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม 6. กิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง 7. กิจกรรมมอบทุนการศึกษา แด่ พระภิกษุ- สามเณร 8. กิจกรรมเปิดศูนย์การเรียนนักธรรมชั้นตรี ประจำตำบล ขั้นติดตามและประเมินผล (C-A) 9. จัดทำแบบบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม 10. ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน 11. จัดทำรายงานผลการดำเนินกิจกรรม


210 211 ๕. รูปแบบกิจกรรม 5.1 กิจกรรมส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม คือ การดำเนินการจัดสนับสนุนการจัดการศึกษาของ พระภิกษุสามเณร ทั้งการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม, พระปริยัติธรรม แผนกบาลี และพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ในการจัดการเรียนการสอน มอบทุนสนับสนุนการจัดการศึกษา และส่งเสริมพระภิกษุสามเณรให้ได้รับ การศึกษาอย่างทั่วถึงตามที่ต้องการ 5.2 กิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง คือ ดำเนินการร่วมกับคณะสงฆ์อำเภอเมืองพิษณุโลกในการ จัดกิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง (พระนวกะภูมิ) ในการสนับสนุนการจัดกิจกรรมช่วงเดือนกันยายน ถึง เดือนตุลาคม ๒๕๖6 5.3 กิจกรรมมอบทุนการศึกษา แด่ พระภิกษุสามเณร คือ จัดมอบทุนการศึกษาถวาย แด่ พระภิกษุ สามเณรโดยกำหนดถวายทุนดังนี้ 1.พระปริยัติธรรม แผนกธรรม นักธรรมชั้นตรี ทุนละ 1,000 บาท นักธรรมชั้นโท ทุนละ 1,๐๐๐ บาท นักธรรมชั้นเอก ทุนละ 1,๐๐๐ บาท 2.พระปริยัติธรรม แผนกบาลี เปรียญตรี (ป.ธ.1-2 – ป.ธ.๓) ทุนละ ๓,๐๐๐ บาท เปรียญโท (ป.ธ.4 – ป.ธ.6) ทุนละ ๕,๐๐๐ บาท เปรียญเอก (ป.ธ.7 – ป.ธ.9) ทุนละ ๑๐,๐๐๐ บาท 3.พระปริยัติธรรม แผนกสามัญ (ระดับอุดมศึกษา) ปริญญาตรี ทุนละ 3,000 บาท ปริญญาโท ทุนละ 5,000 บาท ปริญญาเอก ทุนละ 10,000 บาท 5.4 กิจกรรมเปิดศูนย์การเรียนนักธรรมชั้นตรีประจำตำบล คือ ดำเนินกิจกรรมร่วมกับคณะสงฆ์ตำบล พลายชุมพล ในการจัดตั้งศูนย์การเรียนนักธรรมชั้นตรีประจำตำบล ในการจัดการเรียนการสอนพระนวกะภูมิประจำ ตำบลพลายชุมพล โดยใช้สถานที่และบุคลากรของวัดคูหาสวรรค์ในการจัดตั้งศูนย์การศึกษา ช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง เดือนตุลาคม 6. งบประมาณ 6.1 กิจกรรมส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม จำนวน 5,000 บาท 6.2 กิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง จำนวน 3,000 บาท 6.3 กิจกรรมมอบทุนการศึกษา แด่ พระภิกษุสามเณร จำนวน 150,000 บาท 6.4 กิจกรรมเปิดศูนย์การเรียนนักธรรมชั้นตรีประจำตำบล จำนวน 3,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 161,000 บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน) 7. สถานที่ดำเนินการ วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก


211 8. ระยะเวลาดำเนินการ 8.1 กิจกรรมส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม กรกฎาคม – ตุลาคม 2566 8.2 กิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ตุลาคม 2566 8.3 กิจกรรมมอบทุนการศึกษาแด่พระภิกษุสามเณร กรกฎาคม 2566 8.4 กิจกรรมเปิดศูนย์การเรียนนักธรรมชั้นตรีประจำตำบล กรกฎาคม 2566 9. การติดตามและประเมินผลโครงการ ขั้นตอน/กระบวนการ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1 มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนักธรรมชั้น ตรี ประจำปี 2566 มีการลงชื่อเข้าร่วม กิจกรรม บัญชีลงชื่อการเข้าร่วม กิจกรรม 2 มีการรายงานผลการสอบผ่านธรรมสนามหลวง ประจำปี 2566 การสอบธรรม สนามหลวง สถิติการสอบธรรมสนามหลวง 3 มีการรายงานผลการดำเนินการส่งเสริมการศึกษา รายงานสรุปผลการ ดำเนินการส่งเสริม การศึกษา แบบรายงานผลการส่งเสริม การศึกษา 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 10.1 ได้ส่งเสริมการศึกษาแด่ พระภิกษุสามเณรให้ได้รับการศึกษาอย่างครบวงจร 10.2 ได้สนับสนุนกิจกรรมการศึกษาให้พระภิกษุสามเณรได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ 10.3 ได้สนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา และทุนการศึกษาแด่ พระภิกษุสามเณร ผู้เสนอโครงการ (พระสมุห์เฉลิมชัย อาภาธโร) (นายสมโพธิ์ ใจมนต์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ไวยาวัจกรวัดคูหาสวรรค์ ผู้เห็นชอบโครงการ (พระสมุห์สุเมธ ธมฺมรโต) รองเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ผู้อนุมัติโครงการ (พระครูประทีปธรรมานุรักษ์) ผู้เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์


212 213 แผนงาน/โครงการ : โครงการส่งเสริมการศึกษาสงเคราะห์ สนองยุทธศาสตร์ : ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างความมั่นคงด้านพระพุทธศาสนา ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้เชิงพุทธ สนองกลยุทธ์ : กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มศักยภาพทางปัญญา กลยุทธ์ที่ 8 เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนาให้เข้มแข็ง สนับสนุนพันธกิจ : ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ลักษณะโครงการ : โครงการใหม่ โครงการต่อเนื่อง หน่วยงานที่รับผิดชอบ : วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ภาคีเครือข่าย : เทศบาลนครพิษณุโลก, ชุมชนพระร่วงซอย 2, ชุมชนบ้านคลองพัฒนา โรงเรียนจ่านกร้อง, โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) ระยะเวลาดำเนินการ : มกราคม - ธันวาคม 2566 ๑. หลักการและเหตุผล การสร้างวัดมีมาแต่โบราณกาลเมื่อประชาชนมีจิตศรัทธาในบวรพุทธศาสนา ได้อพยพไปตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ที่ใด ก็มักจะสร้างวัดขึ้นแล้วนิมนต์พระสงฆ์ไปพำนัก เพื่อบำเพ็ญบุญกุศลประกอบศาสนกิจ ตามประเพณีที่สืบต่อกันมา ในอดีตวัดเป็นสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้ใช้เป็นสถานศึกษาอบรมให้มีความรู้ในด้านวิชาชีพตำราแพทย์แผนไทย และศิลปกรรมแขนงต่าง ๆ เป็นสถานที่ทำบุญบำเพ็ญกุศล เป็นศูนย์กลางการบริหารและการปกครอง รวมทั้งเป็นที่พึ่ง ทางจิตใจของประชาชน ดังนั้น วัดจึงเป็นสถานที่ที่สำคัญยิ่งในการสืบทอดพระพุทธศาสนาตลอดมา การศึกษาในทางพระพุทธศาสนา เป็นการศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรม และบาลีนอกจากจะ เป็นการศึกษาหลักธรรมคำสั่งสอนแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาไว้อีกด้วย รวมถึงการส่งเสริม ศึกษาสงเคราะห์ ที่อนุเคราะห์เด็กและเยาวชนให้ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง เช่นการส่งเสริมการจัดกิจกรรมการศึกษา การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการศึกษา , การมอบทุนการศึกษา เป็นต้น การศึกษาสงเคราะห์คือ การจัดการศึกษาเพื่อ ช่วยเหลือเกื้อกูลการศึกษาหรือสถาบันการศึกษาอื่นนอกจากการสาธารณะศึกษาหรือบุคคลผู้กำลังศึกษาหรือ กระบวนการสงเคราะห์ปวงชนทั้งก่อนวัยเรียนและในวัยเรียนให้ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่องในเรื่องต่าง ๆ ตามสมควร การศึกษาสงเคราะห์นั้นเป็นการจัดการศึกษาให้แก่ประชาชนทั่วไป หลักการศึกษาสงเคราะห์เป็นภารกิจด้านการดำเนินการจัดการศึกษาที่เน้นการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่ เด็กและเยาวชนให้มีความรู้ความเข้าใจหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อสามารถดำรงตนและดำเนินชีวิตในสังคมได้ อย่างมีความสุขและเป็นพลเมืองที่มีความรู้คู่คุณธรรมของประเทศโดยมีความมุ่งหมาย ๔ ลักษณะคือ ๑. การจัดการ ศึกษาเป็นโรงเรียนตามแผนการศึกษาแห่งชาติโดยมุ่งให้ได้ศึกษาเพื่อชีวิตและสังคมได้แก่โรงเรียนราษฎร์การกุศลของ วัดศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด(ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์เดิมหรือวันหยุดอื่นๆ) ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ ในวัดวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยสงฆ์๒. การสงเคราะห์ให้เด็กและประชาชนได้รับการศึกษาในสถานศึกษาของรัฐหรือ เอกชนตามแผนการศึกษาแห่งชาติเช่นการเป็นผู้นำในการตั้งโรงเรียนในชนบทที่ตั้งวัดการให้สร้างสถานศึกษาใน บริเวณวัดการให้ใช้หรือให้เช่าที่ดินวัดหรือที่ธรณีสงฆ์ในการสร้างสถานศึกษาของรัฐหรือท้องถิ่นการเป็นผู้อุปการะ โรงเรียนต่าง ๆ การให้ความอุปถัมภ์แก่เด็กวัด ๓. การสอนศีลธรรมแก่นักเรียนนักศึกษาในระบบโรงเรียนตามแผนการ ศึกษาชาติเช่นการสอนธรรมศึกษาการสอนศีลธรรม หน่วยงานพระธรรมทูตและหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลใน การเผยแพร่ศีลธรรมในโรงเรียนและสถานศึกษาต่าง ๆ ๔. การสงเคราะห์เกื้อกูลแก่การศึกษาสถาบันการศึกษาหรือ บุคลากรทางการศึกษา เช่น มอบทุนการศึกษามอบอุปกรณ์การศึกษาฯลฯ ๕.๕ แผนงานด้้านการศึึกษาสงเคราะห์์


213 ดังนั้น วัดคูหาสวรรค์ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดทำโครงการการศึกษา สงเคราะห์ เพื่อส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชน ให้ได้รับการศึกษาอย่างครบวงจร พร้อมทั้งสนับสนุนกิจกรรมการศึกษา อุปกรณ์การศึกษา และทุนการศึกษาให้กับเยาวชนได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนให้ได้รับการศึกษาตามหลักสูตร 2.2 เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการศึกษาให้กับเยาวชนได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ 2.3 เพื่อสนับสนุนมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์การศึกษา แก่ นักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดี ๓. เป้าหมาย ๓.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ ๓.๑.๑ นักเรียนโรงเรียนเทศบาล2 (วัดคูหาสวรรค์) จำนวน 200 คน ๓.๑.๒ นักเรียนโรงเรียนจ่านกร้อง จำนวน 500 คน ๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ ได้ส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชน ให้ได้รับการศึกษาตามหลักสูตร พร้อมทั้งสนับสนุนกิจกรรม การศึกษา อุปกรณ์การศึกษา และทุนการศึกษาให้กับเยาวชนได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ๔. วิธีการดำเนินโครงการ กิจกรรม / รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม ระยะเวลาม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ขั้นเตรียมการ (P) 1. ศึกษาข้อมูล/เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 2. ประชุมร่วมกับไวยาวัจกรและคณะกรรมการ ในการวางแผนการดำเนินโครงการ 3. จัดทำเอกสาร และประสานงานผู้มีส่วน เกี่ยวข้องในการดำเนินกิจกรรม 4. ประชุมร่วมกับผู้ปฏิบัติการ ในการเตรียม ความพร้อมของการดำเนินกิจกรรม ขั้นดำเนินการ (D) 5. กิจกรรมมอบทุนการศึกษา แก่นักเรียน โรงเรียนจ่านกร้องและโรงเรียนเทศบาล2 6. กิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรมศึกษา สนามหลวง 7. กิจกรรมการสอบธรรมสนามหลวง 8. กิจกรรมส่งเสริมอุทยานการศึกษาในวัด ขั้นติดตามและประเมินผล (C-A) 9. จัดทำแบบบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม


214 215 10. ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน 11. จัดทำรายงานผลการดำเนินกิจกรรม ๕. รูปแบบกิจกรรม 5.1 กิจกรรมมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน คือ การดำเนินการมอบทุนการศึกษา แก่นักเรียนที่มีผลการ เรียนดี มีความประพฤติดี มีฐานะยากจน ของโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) และโรงเรียนจ่านกร้อง จำนวน 20 ทุน เพื่อสนับสนุนการศึกษา 5.2 กิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรมศึกษาสนามหลวง คือ ดำเนินการในการจัดกิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรม ศึกษาสนามหลวง เพื่อสรุปเนื้อหาและทบทวนความรู้ก่อนที่จะสอบธรรมศึกษาสนามหลวง โดยการจัดพระภิกษุเข้าไป สอนและอบรมในช่วงเดือนตุลาคม ถึงพฤศจิกายน 2566 5.3 กิจกรรมสอบธรรมสนามหลวง ประจำปี 2566 คือ การจัดสอบวัดความรู้ในระดับธรรมศึกษาชั้นตรี ,ชั้นโท และชั้นเอก เป็นการสอบพร้อมกันทั่วประเทศ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 5.4 กิจกรรมส่งเสริมอุทยานการศึกษาในวัด คือ ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมวัดให้เป็นอุทยานการศึกษา พัฒนา เป็นแหล่งการเรียนรู้ เช่น การพัฒนามุมหนังสือธรรมทาน, การพัฒนาป้ายสุภาษิตตามต้นไม้, การจัดกิจกรรมส่งเสริม ศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น โดยส่งเสริมการเรียนรู้ โดยใช้วัดเป็นฐานการเรียนรู้ของชุมชน 6. งบประมาณ 6.1 กิจกรรมมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน จำนวน 20,000 บาท 6.2 กิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรมศึกษาสนามหลวง จำนวน 10,000 บาท 6.3 กิจกรรมการสอบธรรมสนามหลวง จำนวน 10,000 บาท 6.4 กิจกรรมส่งเสริมอุทยานการศึกษาในวัด จำนวน 10,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) 7. สถานที่ดำเนินการ 7.1 วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 7.2 โรงเรียนจ่านกร้อง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 7.3 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 8. ระยะเวลาดำเนินการ 8.1 กิจกรรมมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน กันยายน 2566 8.2 กิจกรรมอบรมก่อนสอบธรรมศึกษาสนามหลวง ตุลาคม-พฤศจิกายน 2566 8.3 กิจกรรมการสอบธรรมสนามหลวง พฤศจิกายน 2566 8.4 กิจกรรมส่งเสริมอุทยานการศึกษาในวัด ตลอดปี 2566 9. การติดตามและประเมินผลโครงการ ขั้นตอน/กระบวนการ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1 มีการจัดมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน มีการลงชื่อผู้รับ ทุนการศึกษา บัญชีลงชื่อผู้รับทุนการศึกษา


215 2 มีการรายงานผลการสอบผ่านธรรมศึกษา สนามหลวง ประจำปี 2566 การสอบธรรม สนามหลวง สถิติการสอบธรรมสนามหลวง 3 มีการรายงานผลการดำเนินการส่งเสริมการศึกษา รายงานสรุปผลการ ดำเนินการส่งเสริม การศึกษา แบบรายงานผลการส่งเสริม การศึกษา 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 10.1 ได้ส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนให้ได้รับการศึกษาตามหลักสูตร 10.2 ได้สนับสนุนกิจกรรมการศึกษาให้กับเยาวชนได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ 10.3 ได้สนับสนุนมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์การศึกษา แก่ นักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดี ผู้เสนอโครงการ (พระสมุห์เฉลิมชัย อาภาธโร) (นายสมโพธิ์ ใจมนต์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ไวยาวัจกรวัดคูหาสวรรค์ ผู้เห็นชอบโครงการ (พระสมุห์สุเมธ ธมฺมรโต) รองเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ผู้อนุมัติโครงการ (พระครูประทีปธรรมานุรักษ์) ผู้เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์


216 217 แผนงาน/โครงการ : โครงการสังฆะเพื่อสาธารณสงเคราะห์ สนองยุทธศาสตร์ : ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างความมั่นคงด้านพระพุทธศาสนา ยุทธศาสตร์ที่ 2 ยกระดับกระบวนการบริหารจัดการภายใน ยุทธศาสตร์ที่ 4 มีทรัพยากรเพียงพอในการขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนา สนองกลยุทธ์ : กลยุทธ์ที่ 1 ปลูกฝังศรัทธาในพระพุทธศาสนา กลยุทธ์ที่ 3 ร่วมมือภาคีเครือข่ายให้เกิดสัมฤทธิ์ผล กลยุทธ์ที่ 10 จัดหาแหล่งงบประมาณสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนา สนับสนุนพันธกิจ : ด้านการสาธารณะสงเคราะห์ ลักษณะโครงการ : โครงการใหม่ โครงการต่อเนื่อง หน่วยงานที่รับผิดชอบ : วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ภาคีเครือข่าย : เทศบาลนครพิษณุโลก, ชุมชนพระร่วงซอย 2, ชุมชนบ้านคลองพัฒนา โรงเรียนจ่านกร้อง, โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) ระยะเวลาดำเนินการ : มกราคม - ธันวาคม 2566 ๑. หลักการและเหตุผล การที่มหาเถรสมาคมมีมติให้ขับเคลื่อนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาจนนำมาสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา เพื่อให้การขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนาเป็นไปตามกรอบของการดำเนินงานที่ มหาเถรสมาคมได้กำหนดไว้ การนี้ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม มีส่วนรับผิดชอบโครงการตาม ยุทธศาสตร์หลักจำนวน ๒ โครงการ กล่าวคือโครงการส่งเสริมความร่วมมือภาคีเครือข่าย และโครงการสาธารณ สงเคราะห์ เพื่อสังคมที่ยั่งยืน ตามหลักคิดการดำเนินงาน ๔ ประการคือ ๑) สงเคราะห์ ๒) เกื้อกูล ๓) พัฒนา และ ๔) บูรณาการ ถือเป็นรูปแบบและกระบวนการดำเนินกิจกรรมสาธารณสงเคราะห์วิถีพุทธ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตาม กิจกรรมที่คณะสงฆ์จะสามารถดำเนินการให้ต่อเนื่อง หรือพัฒนากิจกรรมขึ้นมาใหม่โดยเน้นประโยชน์ให้เกิดแก่สังคม โดยรวมสืบต่อไป การดำเนินงานที่ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคมรับสนองมติมหาเถรสมาคม จึงเป็นไปเพื่อการนำ หลักพุทธธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปเพื่อสร้างอุดมการณ์การทำงานสาธารณสงเคราะห์วิถีพุทธ ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต การทำกิจกรรมบน พื้นฐานของประโยชน์สุข สันติสุขและทันต่อสถานการณ์ จึงถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของ มหาเถรสมาคม พยายามขับเคลื่อนร่วมกับเจ้าคณะปกครองและเครือข่ายการทำงานทุกระดับชั้นเรื่อยมา ให้สมกับที่ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงเมตตาประทานคติธรรม ในคราวประชุมสัมมนาขับเคลื่อนงานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคมตามแผนปฏิรูปกิจการ พระพุทธศาสนาจากนโยบายสู่การปฏิบัติระดับจังหวัดความตอนหนึ่งว่า “บุคคลจึงพึงบำเพ็ญกรณียกิจเพื่อเกื้อกูลกัน และกันด้วยการละคลายความเป็นตัวตนลงให้มากที่สุด ให้สมดังพระพุทธานุศาสนีที่ว่า ภูตํ เสสํ ทยิตพฺพํ แปลความว่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ควรเกื้อกูลกัน” การที่พระพุทธศาสนาจะเจริญมั่นคง สถาพรอยู่คู่กับสังคมไทยต่อไปได้ การดำเนินกิจกรรมสาธารณ สงเคราะห์วิถีพุทธ จึงเป็นอีกศาสนกิจที่จะช่วยผลักดันค้ำจุนศรัทธาของพุทธศาสนิกชน อีกทั้งยังมีส่วนฝึกฝนจริยวัตร ให้พระสงฆ์ เห็นความสำคัญของการเป็นแบบอย่างแห่งความเสียสละโดยไม่หวังผลตอบแทน ดั่งที่สังคมปัจจุบันได้ยก ย่องให้เกียรติการกระทำเช่นนี้ว่า “จิตอาสา” ๕.๖ แผนงานด้้านการสาธารณสงเคราะห์์


217 ดังนั้น วัดคูหาสวรรค์ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดทำโครงการสังฆะเพื่อ สาธารณสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกด้าน จิตอาสาให้กับ คนในชุมชน และเป็นต้นแบบแห่งการอนุเคราะห์ผู้อื่นต่อไป ๒. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่ออนุเคราะห์สงเคราะห์ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพปัญหาทางสังคมต่าง ๆ ๒.2 เพื่อส่งเสริมจิตอาสา สร้างจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมและสร้างให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชนเป็น ต้นแบบที่ดีในการปลูกจิตสำนึกให้กับคนในชุมชน 2.3 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ๓. เป้าหมาย ๓.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ ๓.๑.๑ ผู้สูงอายุ,ผู้ป่วยติดเตียงในชุมชนรอบบริเวณวัดคูหาสวรรค์ จำนวน 20 คน ๓.๑.๒ ประชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ ทางสังคม จำนวน 1,0๐๐ คน ๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ ได้อนุเคราะห์สงเคราะห์ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพปัญหาทางสังคม พร้อมทั้ง ส่งเสริมกิจกรรมจิตอาสา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ๔. วิธีการดำเนินโครงการ กิจกรรม / รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม ระยะเวลาม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ขั้นเตรียมการ (P) 1. ศึกษาข้อมูล/เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 2. ประชุมร่วมกับไวยาวัจกรและคณะกรรมการ ในการวางแผนการดำเนินโครงการ 3. จัดทำเอกสาร และประสานงานผู้มีส่วน เกี่ยวข้องในการดำเนินกิจกรรม 4. ประชุมร่วมกับผู้ปฏิบัติการ ในการเตรียม ความพร้อมของการดำเนินกิจกรรม ขั้นดำเนินการ (D) 5. กิจกรรมลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุและผู้ป่วยติด เตียง 6. กิจกรรมโรงทานเพื่อการกุศล 7. กิจกรรมพัดลมปันสุข ขั้นติดตามและประเมินผล (C-A) 8. จัดทำเอกสารการดำเนินกิจกรรม 9. ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน 10. จัดทำรายงานผลการดำเนินกิจกรรม


218 219 ๕. รูปแบบกิจกรรม 5.1 กิจกรรมลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง คือ ดำเนินการร่วมกับ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำ หมู่บ้าน (อสม.) ในการลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงในชุมชน เพื่อให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือ โดยตั้งเป้าหมายจำนวน 10 ครอบครัว 5.2 กิจกรรมโรงทานเพื่อการกุศล คือ ดำเนินการจัดทำโรงทาน เช่นการตั้งโรงทาน หรือจัดทำอาหารกล่อง การมอบถุงยังชีพ เป็นต้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ ทางสังคม 5.3 กิจกรรมพัดลมปันสุข คือ ดำเนินกิจกรรมมอบพัดลมที่ได้รับการบริจาคจากเจ้าภาพงานบำเพ็ญ กุศลศพ เพื่อมอบให้กับผู้ยากไร้ หรือสถานศึกษา หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ เพื่อการกุศล 6. งบประมาณ 6.1 กิจกรรมลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 20,000 บาท 6.2 กิจกรรมโรงทานเพื่อการกุศล จำนวน 200,000 บาท 6.3 กิจกรรมพัดลมปันสุข (ไม่ใช้งบประมาณ) รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 220,000 บาท (สองแสนสองหมื่นบาทถ้วน) 7. สถานที่ดำเนินการ 7.1 วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 7.2 ชุมชนรอบวัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 7.3 พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางสังคม 8. ระยะเวลาดำเนินการ 8.1 กิจกรรมลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง มกราคม – ธันวาคม 2566 8.2 กิจกรรมโรงทานเพื่อการกุศล มกราคม – ธันวาคม 2566 8.3 กิจกรรมพัดลมปันสุข มกราคม – ธันวาคม 2566 9. การติดตามและประเมินผลโครงการ ขั้นตอน/กระบวนการ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1 มีการรายงานผลการดำเนินกิจกรรมด้านสาธารณ สงเคราะห์ รายงานสรุปผลการ ดำเนินกิจกรรมด้านสา ธารณสงเคราะห์ แบบรายงานผลการ ดำเนินงานด้านสาธารณ สงเคราะห์ 2 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อ การจัดกิจกรรม มีการทำแบบประเมิน ความพึงพอใจ แบบประเมินความพึงพอใจ 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 10.1 ได้อนุเคราะห์สงเคราะห์ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพปัญหาทางสังคมต่าง ๆ 10.2 ได้ส่งเสริมจิตอาสา สร้างจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมและสร้างให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชนเป็น ต้นแบบที่ดีในการปลูกจิตสำนึกให้กับคนในชุมชน 10.3 ได้จัดกิจกรรมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ


219 ผู้เสนอโครงการ (พระสมุห์เฉลิมชัย อาภาธโร) (นายรวย พฤกษวรรณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ไวยาวัจกรวัดคูหาสวรรค์ ผู้เห็นชอบโครงการ (พระสมุห์สุเมธ ธมฺมรโต) รองเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ผู้อนุมัติโครงการ (พระครูประทีปธรรมานุรักษ์) ผู้เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์


220 221 แผนงาน/โครงการ : โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข สนองยุทธศาสตร์ : ยุทธศาสตร์ที่ 2 ยกระดับกระบวนการบริหารจัดการภายใน ยุทธศาสตร์ที่ 4 มีทรัพยากรเพียงพอในการขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนา สนองกลยุทธ์ : กลยุทธ์ที่ 3 ร่วมมือภาคีเครื่องข่ายให้เกิดสัมฤทธิ์ผล กลยุทธ์ที่ 9 บริหารศาสนสมบัติอย่างมีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ที่ 10 จัดหาแหล่งงบประมาณสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนา สนับสนุนพันธกิจ : ด้านสาธารณูปการ ลักษณะโครงการ : โครงการใหม่ โครงการต่อเนื่อง หน่วยงานที่รับผิดชอบ : วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ภาคีเครือข่าย : เทศบาลนครพิษณุโลก, ชุมชนพระร่วงซอย 2, ชุมชนบ้านคลองพัฒนา โรงเรียนจ่านกร้อง, โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) ระยะเวลาดำเนินการ : มกราคม - ธันวาคม 2566 ๑. หลักการและเหตุผล สังคมไทยเป็นสังคมที่ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนามาแต่ครั้งโบราณกาล คนไทยส่วนใหญ่นับถือ พระพุทธศาสนา ได้รับการหล่อหลอมด้วยหลักธรรมคำสอนและวิถีวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา วิถีชีวิตของคนไทย จึงมีความสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระพุทธศาสนา แต่เมื่อสังคมโลกเปิดกว้างขึ้นทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เทคโนโลยีและวัฒนธรรม ส่งผลให้สังคมไทยเข้าไปสู่กระแสแห่งยุคโลกาภิวัตน์ซึ่งมีผลทั้งทางบวกและทางลบ ทำให้สังคมไทยต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติในหลายด้านทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและด้านสิ่งแวดล้อม จากภาวะ วิกฤติที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อกิจการพระพุทธศาสนาทั้งทางตรงและทางอ้อม แม้ว่าหลักธรรมคำสั่งสอนทาง พระพุทธศาสนาจะเป็นสัจธรรม ทันสมัย แต่การปรับตัวที่ล่าช้าขององค์กรทางพระพุทธศาสนาและบุคลากรทาง ศาสนาเป็นเหตุนำมาซึ่งวิกฤติศรัทธา ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาสังคมไทย ทำให้เกิดการปฏิรูป กิจการพระพุทธศาสนา เพื่อให้พระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งทางจิตใจและเป็นหลักในการดำเนินชีวิตได้อย่างแท้จริง ต่อมามหาเถรสมาคมและรัฐบาลได้เห็นชอบร่วมกันในการอนุมัติแผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการ พระพุทธศาสนาระยะ ๕ ปี และ ๒๐ ปี ซึ่งเกิดจากการระดมความคิด กลั่นกรองและเห็นชอบร่วมกันของคณะสงฆ์ทั่ว ทุกภูมิภาคตามมิติมหาเถรสมาคมในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๙ (มติที่ ๑๐๖/๒๕๕๙) และในการประชุมครั้งที่ ๒/ ๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๐ ที่มีมติเห็นชอบแผนแม่บทการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา โดยมีวิสัยทัศน์ คือ “พุทธศาสน์มั่นคง ดำรงศีลธรรม นำสังคมสันติสุขอย่างยั่งยืน” อันเป็นการดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์ชาติที่ว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” อย่างเป็นรูปธรรม “โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข” มีแนวคิดที่ว่า วิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทย มีวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นเสาหลักในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ วัดจึงถือเป็นสถานที่สำคัญต่อวิถีชีวิตคน ไทย ต่อมาวัดกลายเป็นสถานที่ผู้คนในทุกระดับมาใช้จนทำให้วัดกลายเป็นที่สกปรก ไม่เรียบร้อย ขาดการวางระบบ การจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับวัด รวมทั้งการจัดการสิ่งแวดล้อมและขยะภายในวัดยังไม่เป็นระบบ สมาคม ส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น สถาบันอาศรมศิลป์ ได้ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงได้ดำเนินการพัฒนาโครงการวัด สร้างสุขและวัดบันดาลใจ เพื่อพัฒนารูปแบบและนำแนวคิด ๕ ส ซึ่งประกอบไปด้วย สะสาง สะดวก สะอาด สร้าง มาตรฐาน และสร้างวินัย ลงสู่บริบทของวัด เพื่อส่งเสริมให้วัดเป็นสถานที่ร่มรื่น สวยงาม เหมาะสมกับการเรียนรู้ เป็นพื้นที่แบบอย่างทางด้านกายภาพและด้านจิตใจ รวมถึงการนำแนวคิดการออกแบบพื้นที่ตามหลักภูมิ สถาปัตยกรรมมาใช้ในการพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่สัปปายะ เป็นอารามที่รื่นรมย์ มีความสวยงามตา มหลัก ๕.๗ แผนงานด้้านการสาธารณููปการ


221 ภูมิสถาปัตยกรรมไทย เป็นศูนย์กลางของชุมชนที่จะนำไปสู่การเสริมสร้างสุขภาวะทั้งทางด้านกายภาพ จิตใจ สังคม และปัญญาสืบต่อไป ดังนั้น วัดคูหาสวรรค์ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดทำโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขขึ้น เพื่อส่งเสริมให้วัดมีความสะอาด ปลอดภัย และเป็นรมณียสถานที่สัปปายะ เป็นอารามที่รื่นรมย์ สวยงามเป็นศูนย์กลางของชุมชนที่จะนำไปสู่การเสริมสร้างสุขภาวะทั้งทางด้านกายภาพ จิตใจต่อไป ๒. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อส่งเสริมให้วัดเป็นสถานที่ร่มรื่น สวยงาม เหมาะสมกับการเรียนรู้ 2.2 เพื่อส่งเสริมให้วัดเป็นรมณียสถานและเป็นศูนย์กลางของชุมชน 2.3 เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะทั้งทางด้านกายภาพ จิตใจ สังคม และปัญญา ๓. เป้าหมาย ๓.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ ๓.๑.๑ พระภิกษุวัดคูหาสวรรค์ จำนวน 30 รูป 3.1.2 นักเรียนโรงเรียนเทศบาล2 (วัดคูหาสวรรค์) จำนวน 200 คน ๓.๑.3 นักเรียนโรงเรียนจ่านกร้อง จำนวน 200 คน 3.1.4 ประชาชนรอบบริเวณวัดคูหาสวรรค์ จำนวน 300 คน ๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ ได้ส่งเสริมให้วัดมีความสะอาด ปลอดภัย และเป็นรมณียสถานที่สัปปายะ เป็นอารามที่รื่นรมย์ สวยงามเป็นศูนย์กลางของชุมชนที่จะนำไปสู่การเสริมสร้างสุขภาวะทั้งทางด้านกายภาพ จิตใจต่อไป ๔. วิธีการดำเนินโครงการ กิจกรรม / รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม ระยะเวลาม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ขั้นเตรียมการ (P) 1. ศึกษาข้อมูล/เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 2. ประชุมร่วมกับไวยาวัจกรและคณะกรรมการ ในการวางแผนการดำเนินโครงการ 3. จัดทำเอกสาร และประสานงานผู้มีส่วน เกี่ยวข้องในการดำเนินกิจกรรม 4. ประชุมร่วมกับผู้ปฏิบัติการ ในการเตรียม ความพร้อมของการดำเนินกิจกรรม ขั้นดำเนินการ (D) 5. กิจกรรม Big Cleaning Day 6. กิจกรรมอบรมการป้องกันอัคคีภัย 7. กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัด และชุมชน 8. กิจกรรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อมในวัด


222 223 ขั้นติดตามและประเมินผล (C-A) 9. จัดทำแบบบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม 10. ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน 11. จัดทำรายงานผลการดำเนินกิจกรรม ๕. รูปแบบกิจกรรม 5.1 กิจกรรม Big Cleaning Day คือ การดำเนินกิจกรรมร่วมกับชุมชนในการทำความสะอาดบริเวณวัด พัฒนาพื้นที่ ๙ แห่งในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนธันวาคม 2566 5.2 กิจกรรมอบรมการป้องกันอัคคีภัย คือ ดำเนินการร่วมกับเทศบาลนครพิษณุโลก ในการจัดอบรมการ ป้องกันอัคคีภัยและการใช้ถังดับเพลิงให้กับพระภิกษุสามเณรวัดคูหาสวรรค์ เพื่อเพิ่มองค์ความรู้และสร้างมาตรการใน การรับมือจากการเกิดอัคคีภัย 5.3 กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัด และชุมชน คือ ดำเนินกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) และโรงเรียนจ่านกร้องในการจัดกิจกรรมส่งเสริมจิตอาสาในการพัฒนาวัดและชุมชน เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ เด็กและเยาวชนในการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับชุมชน โดยจัดกิจกรรมช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนธันวาคม 2566 5.4 กิจกรรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อมในวัด คือ ดำเนินการส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมในวัด เช่นส่งเสริมการ จัดการขยะอย่างครบวงจร, การรณรงค์การประหยัดพลังงาน, การรณรงค์การลดปริมาณขยะเป็นต้น 6. งบประมาณ 6.1 กิจกรรม Big Cleaning Day จำนวน 8,000 บาท 6.2 กิจกรรมอบรมการป้องกันอัคคีภัย จำนวน 2,000 บาท 6.3 กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัด และชุมชน จำนวน 5,000 บาท 6.4 กิจกรรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อมในวัด จำนวน 20,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 35,000 บาท (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) 7. สถานที่ดำเนินการ วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 8. ระยะเวลาดำเนินการ 8.1 กิจกรรม Big Cleaning Day พฤษภาคม ถึง ธันวาคม 2566 8.2 กิจกรรมอบรมการป้องกันอัคคีภัย สิงหาคม 2566 8.3 กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัด และชุมชน พฤษภาคม ถึง ธันวาคม 2566 8.4 กิจกรรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อมในวัด มกราคม ถึง ธันวาคม 2566 9. การติดตามและประเมินผลโครงการ ขั้นตอน/กระบวนการ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1 มีการจัดกิจกรรม Big Cleaning Day, อบรมการ ป้องกันอัคคีภัย และจิตอาสาพัฒนาวัด และ ชุมชน มีการลงชื่อเข้าร่วม กิจกรรม บัญชีลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรม


223 2 มีการรายงานผลการดำเนินการส่งเสริม สิ่งแวดล้อมในวัด รายงานสรุปผลการ ดำเนินการส่งเสริม สิ่งแวดล้อมในวัด แบบรายงานผลการส่งเสริม สิ่งแวดล้อมในวัด 3 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อ การจัดกิจกรรม มีการทำแบบประเมิน ความพึงพอใจ แบบประเมินความพึงพอใจ 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 10.1 ได้ส่งเสริมให้วัดเป็นสถานที่ร่มรื่น สวยงาม เหมาะสมกับการเรียนรู้ 10.2 ได้ส่งเสริมให้วัดเป็นรมณียสถานและเป็นศูนย์กลางของชุมชน 10.3 ได้เสริมสร้างสุขภาวะทั้งทางด้านกายภาพ จิตใจ สังคม และปัญญา ผู้เสนอโครงการ (พระสมุห์เฉลิมชัย อาภาธโร) (นายรวย พฤกษวรรณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ไวยาวัจกรวัดคูหาสวรรค์ ผู้เห็นชอบโครงการ (พระสมุห์สุเมธ ธมฺมรโต) รองเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ผู้อนุมัติโครงการ (พระครูประทีปธรรมานุรักษ์) ผู้เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์


224 225 แผนงาน/โครงการ : โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และบูรณปฏิสังขรณ์ สนองยุทธศาสตร์ : ยุทธศาสตร์ที่ 2 ยกระดับกระบวนการบริหารจัดการภายใน ยุทธศาสตร์ที่ 4 มีทรัพยากรเพียงพอในการขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนา สนองกลยุทธ์ : กลยุทธ์ที่ 3 ร่วมมือภาคีเครื่องข่ายให้เกิดสัมฤทธิ์ผล กลยุทธ์ที่ 9 บริหารศาสนสมบัติอย่างมีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ที่ 10 จัดหาแหล่งงบประมาณสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนา สนับสนุนพันธกิจ : ด้านสาธารณูปการ ลักษณะโครงการ : โครงการใหม่ โครงการต่อเนื่อง หน่วยงานที่รับผิดชอบ : วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ภาคีเครือข่าย : เทศบาลนครพิษณุโลก, ชุมชนพระร่วงซอย 2, ชุมชนบ้านคลองพัฒนา โรงเรียนจ่านกร้อง, โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดคูหาสวรรค์) ระยะเวลาดำเนินการ : มกราคม - ธันวาคม 2566 ๑. หลักการและเหตุผล วัดเป็นศาสนสถาน ที่ประกอบกิจกรรมของชาวพุทธเป็นที่อยู่ของบรรพชิตและฆราวาสที่เกี่ยวข้องรวมถึง ผู้เข้ามาปฏิบัติธรรม เป็นสถานศึกษาและปฏิบัติธรรมตลอดจนการเผยแผ่ศาสนธรรมของชาวพุทธ วัดจึงเป็นสัญลักษณ์ แห่งความดีงามที่จะก่อให้เกิดความสะอาดความสว่าง ความสงบและความร่มเย็นให้กับสิ่งมีชีวิตและชุมชน วัดกับสังคมจึงมีความผูกพันและสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นยาวนานจนเป็นวิถีชีวิตของชาวพุทธ ที่ต่างก็ช่วยเหลือ เกื้อกูลซึ่งกันและกันตลอดมา วัดจึงเป็นที่พึ่งทางใจของคนไทย เป็นศูนย์กลางชุมชนคนไทย ตลอดทั้งวัดยังเป็นแหล่ง วิทยาการ และศูนย์กลางการพัฒนาทั้งปวง พระสงฆ์จึงเป็นผู้นำทางความคิด และทางจิตใจของสังคมไทยทุกยุค ทุกสมัย วัดคูหาสวรรค์ ตั้งอยู่เลขที่ ๒๘/๑๑ ถนนสิงหวัฒน์ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๐๘๕ เล่ม ๑๑ หน้า ๘๕ เนื้อที่ 5 ไร่ วัดคูหาสวรรค์ พื้นที่ตั้ง วัดเป็นที่ราบ สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พุทธศักราช ๒๔๖๖ โดยมี หลวงปู่พัน อินพันธ์ เป็นผู้ดำเนินการและ ได้อยู่ปกครองวัดคูหาสวรรค์เป็นรูปแรก ชาวบ้านมักเรียกนามนี้สั้น ๆ ว่า “วัดคู” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา วันที่ 13 เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒496 วัดคูหาสวรรค์ เป็นวัดที่มีประชาชนนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน และมีความสะดวกในการเดินทาง การปรับปรุงภูมิทัศน์ และบูรณปฏิสังขรณ์ เป็นการพัฒนาวัดให้มีความร่มรื่น สวยงาม และเป็นการรักษาพุทธสถานให้มั่นคงแข็งแรง เป็นการอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนที่จะมาประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ในวัด เพื่อส่งเสริมให้วัดเป็นสถานที่ร่มรื่น สวยงาม เหมาะสมกับการ เรียนรู้ เป็นพื้นที่แบบอย่างทางด้านกายภาพและด้านจิตใจ รวมถึงการนำแนวคิดการออกแบบพื้นที่ตามหลัก ภูมิสถาปัตยกรรมมาใช้ในการพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่สัปปายะ เป็นอารามที่รื่นรมย์ มีความสวยงามตามหลัก ภูมิสถาปัตยกรรมไทย ดังนั้น วัดคูหาสวรรค์ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดทำโครงการปรับปรุงภูมิ ทัศน์และบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้วัดมีความสะอาด ปลอดภัย และเป็นรมณียสถานที่สัปปายะ เป็นอารามที่ รื่นรมย์สวยงามเป็นศูนย์กลางของชุมชนที่จะนำไปสู่การเสริมสร้างสุขภาวะทั้งทางด้านกายภาพ จิตใจต่อไป ๒. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมภายในวัดให้มีความร่มรื่นสวยงาม 2.2 เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์อาคารเสนาสนะต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย 2.3 เพื่อพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่สัปปายะเป็นอารามที่รื่นรมย์ มีความสวยงามตามหลักภูมิสถาปัตยกรรมไทย


225 ๓. เป้าหมาย ๓.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ ๓.๑.๑ พระภิกษุวัดคูหาสวรรค์ทุกรูป 3.1.2 ประชาชนที่มาประกอบกิจกรรมในวัดคูหาสวรรค์ทุกคน ๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 วัดคูหาสวรรค์มีสภาพแวดล้อมภายในวัดให้มีความร่มรื่นสวยงาม 3.2.2 วัดคูหาสวรรค์อาคารเสนาสนะต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ๔. วิธีการดำเนินโครงการ กิจกรรม / รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม ระยะเวลาม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ขั้นเตรียมการ (P) 1. ศึกษาข้อมูล/เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 2. ประชุมร่วมกับไวยาวัจกรและคณะกรรมการ เพื่อวางแผนการดำเนินโครงการ 3. ติดต่อประสานงาน และจัดเตรียมอุปกรณ์ใน การดำเนินงาน 4. ประชุมผู้ปฏิบัติการ ขั้นดำเนินการ (D) 5. การปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดคูหาสวรรค์ 6. การบูรณปฏิสังขรณ์อาคารเสนาสนะภายในวัด ขั้นติดตามและประเมินผล (C-A) 7. ตรวจสอบการก่อสร้าง/การปรับปรุงเสนาสนะ 8. ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน 9. จัดทำรายงานผลการดำเนินกิจกรรม ๕. รูปแบบการดำเนินงาน 5.1 การปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดคูหาสวรรค์ คือ การดำเนินการปรุงปรับสภาพแวดล้อมภายในวัด ให้มี ความสวยงาม ร่มรื่น เหมาะสมกับการเรียนรู้ เป็นพื้นที่แบบอย่างทางด้านกายภาพและด้านจิตใจ เช่น การปรับปรุงภูมิ ทัศน์บริเวณพื้นที่ศาลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, การจัดทำน้ำตกจำลอง, การจัดทำสวนหย่อม เป็นต้น 5.2 การบูรณปฏิสังขรณ์อาคารเสนาสนะภายในวัด คือ ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์อาคารเสนาสนะต่าง ๆ ในวัดคูหาสวรรค์ เพื่อให้อาคารอยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง สวยงาม เป็นสถานที่สัปปายะตามหลักภูมิสถาปัตยกรรม ไทย เช่น การก่อสร้างศาลาอเนกประสงค์เป็นรูปแบบทรงไทยประยุกต์ บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, การก่อสร้างท่าน้ำริมคลองคูเมือง เป็นการยกพื้นปูไม้ระแนง เป็นต้น


226 PB 6. งบประมาณ 6.1 การปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดคูหาสวรรค์ จำนวน 200,000 บาท 6.2 การบูรณปฏิสังขรณ์อาคารเสนาสนะภายในวัด จำนวน 1,500,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 1,700,000 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนบาทถ้วน) 7. สถานที่ดำเนินการ วัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 8. ระยะเวลาดำเนินการ 8.1 การปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดคูหาสวรรค์ กุมภาพันธ์ ถึง ธันวาคม 2566 8.2 การบูรณปฏิสังขรณ์อาคารเสนาสนะภายในวัด กุมภาพันธ์ ถึง ธันวาคม 2566 9. การติดตามและประเมินผลโครงการ ขั้นตอน/กระบวนการ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อ การดำเนินงาน มีการทำแบบประเมิน ความพึงพอใจ แบบประเมินความพึงพอใจ 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 2.1 ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมภายในวัดให้มีความร่มรื่นสวยงาม 2.2 ได้บูรณปฏิสังขรณ์อาคารเสนาสนะต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย 2.3 ได้พัฒนาวัดให้เป็นสถานที่สัปปายะ เป็นอารามที่รื่นรมย์ มีความสวยงามตามหลักภูมิสถาปัตยกรรมไทย ผู้เสนอโครงการ (พระสมุห์เฉลิมชัย อาภาธโร) (นายสมเกียรติ แสงสุวรรณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ไวยาวัจกรวัดคูหาสวรรค์ ผู้เห็นชอบโครงการ (พระสมุห์สุเมธ ธมฺมรโต) รองเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ผู้อนุมัติโครงการ (พระครูประทีปธรรมานุรักษ์) ผู้เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์


Click to View FlipBook Version