คัมภีร์คาถาแม่มด

Ázamú เขียน ราคา 570 บาท พิมพค์รงที ัÊ É 1 กมุภาพนัธ์ŚŝŞŞ ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมดุแห่งชาติ อาซาม.ู คมัภีรค์าถาแม่มด.--นนทบุรี:วชัรนิทร์พี.พ.ีการพิมพ,์2566. 312 หนา้. 1.แม่มด. 2. เวทมนตร.์ I.ชืÉอเรืÉอง 133.43 ISBN 978-616-598-353-2 © สงวนลิขสิทธิÍตามพระราชบญัญัติลิขสิทธิÍ (ฉบบัเพÉมเติม ิ ) พ.ศ. 2558 หา้มทาํการ ลอกเลียนไม่ว่าส่วนหนึÉงส่วนใดของหนังสือเล่มนีÊทัÊงเนืÊอหาและรูปภาพ เพืÉอ ประโยชนท์างการพาณิชยส์ ่วนตน นอกจากจะไดร้บัอนุญาต ยกเวน้เพÉอืการอา้งอิง การวิจารณ์และประชาสมัพนัธ์

อทุศิแด่ แม่มดแหง่อามาซูตู ผูน้ริมิตสรรพคาถาอาคม

คาถาของแม่มดลว้นถูกร่ายขึนÊมาตลอดในประวตัิศาสตรข์องเรา คาถามีการใชอ้ยู่ ทกุทÉทัีÉวโลกตังÊแต่ยุคบรรพกาลจนถึงยคุปัจจบุนัหนงัสือเล่มนถีÊือเป็นตาํราคาถาอีก เล่มหนึÉงทีÉทุกคนควรอ่านและศึกษามัน เพราะคาถาในเล่มนีมาจากภาษาแม่มดÊ แห่งโลกอืÉน ตามสายวิชาแห่งศาสตรบ์รรพกาล(Primeval Art) หรือ AnžúซึÉงกล่าว กันว่ามีพลังอาํนาจอย่างมาก หากคุณใชม้นัดว้ยความรูแ้ละสติปัญญารบัรองได้ เลยว่า เวทมนตรท์Éถีกูรา่ยขึนนัÊนÊจะทรงอาํนาจและเปลีÉยนชีวิตของคณุในชÉวัพรบิตา คาถาภายในเล่มจะเป็นการผสมผสานรูปแบบของโบราณผสมกับสมัยใหม่ กลายเป็นแนวร่วมสมยัซÉงจะสามารถใช้ ึ ไดเ้หมาะสมกบัวิถีสมยัใหม่นีÊ คาถาในหนังสือเล่มนีสÊามารถช่วยสรา้งความเปลีÉยนแปลงในชีวิตของคุณได้ เมืÉอยามทีÉคุณไรซ้Éึงหนทาง คาถาเหล่านีจÊะนาํทางคุณ แต่จงใชม้ ันดว้ยความรกั แลว้คณุจะไดส้Éงนี ิกÊลบัไปหาคณุเสมอ

บททีÉř พืนÊฐานศาสตรค์าถา 1 บททีÉŚธาตปุ ฐมภมูิและพลงัธรรมชาต 11 ิ บททีÉśอปุกรณค์าถา 23 บททีÉŜเทคนิคการใชค้าถา 39 บททีÉŝ คาถาแมม่ด 61 บททีÉŞ คาถาความรกั 69 บททีÉş คาถาป้องกนั 83 บททีÉŠ คาถาเงนิตรา ความอดุมสมบรูณแ์ละโชค 95 บททีÉš คาถาการงาน ธุรกิจและการเรียน 103 บททีÉřŘ คาถารกัษาและสขุภาพ 115 บททีÉřř คาถาขบัไลแ่ละลบลา้ง 125 บททีÉřŚ คาถาจิต 133 บททีÉřś คาถาจิตใจ 151 บททีÉřŜ คาถาพิธีกรรม 171 บททีÉřŝ คาถาธรรมชาติ 195 บททีÉřŞ คาถาอญัเชญิ 211 บททีÉřş คาถาเฉลิมฉลอง 223 บททีÉřŠ คาถาวตัถปุระสงคอ์Éนื 229 บททีÉřšงานคราฟตค์าถา 237 บททีÉŚŘ สตูรเวทมนตร 295 ์ เกีÉยวกบัผเู้ขียน 305 บรรณานกุรม 306 แนะนาํหนงัสือ 307

1 14.8

2 ความหมายของคาถา(Meaning of Spells) าถา หรือในภาษาองักฤษเรียกว่า สเปล(Spell) คาํนีโดยทัÊ Éวไปคนไทยมกั เขา้ใจว่า คาถาคือถอ้ยคาํอนัศกัดิÍสิทธิÍเป็นถอ้ยคาํทÉีทรงอาํนาจสามารถ บนัดาลสิÉงทีÉปรารถนาใหก้ลายเป็นจริงได้แต่สาํหรบัเวทมนตรโ์ดยสากล แลว้คาถาเป็นมากกว่าถอ้ยคาํเพราะคาถาลว้นแลว้แต่ประกอบขึนÊดว้ยการกระทาํ ทังทางกายÊ วาจาและใจ รวมเป็นหนึÉงเดียวกนั คาถาไม่ไดม้ีเพียงรูปแบบเดียวหรือมีรูปแบบทÉีตายตวัเสมอไป คาถามีรูปแบบ ทีÉไม่จาํกัดทงัÊการใชค้วามคิดนึกเป็นภาพ การใชค้าํพูดเปล่งวาจาอนัมีพลงัออกมา หรือการโบกไม้กายสิทธิÍการเคลืÉอนไหวร่างกายการทาํสัญลักษณ์มือ บางครังÊ คาถาก็มีการใชห้ลายรูปแบบรว่มกนัเช่น ใชค้าํรา่ยและการโบกไมก้ายสิทธิÍ หรือใช้ ความคิดนึกภาพพรอ้มทาํสัญลักษณ์มือ หรือการเดินเป็นวงกลมพรอ้มการใช้ สมนุไพร เป็นตน้ คาถาในภาษาแม่มดเรียกว่า ซูตู(Žutú)ซึÉงถูกใชใ้นหนงัสือเล่มนีทัÊงหมดÊ ซูตูมี รูปแบบทีÉเฉพาะตวัแต่ถึงอย่างนนÊัมนัก็เหมือนกับคาถาทÉวไปที ัÉไม่ไดม้ีอะไรตายตัว มากหนกั ทังÊรูปแบบของคาํพยางคห์รือการออกเสียง ประเภทของคาถา(Type of Spells) 1. ดา้นอวยพร ไดแ้ก่คาถาปีใหม่คาถาวันเกิด คาถาอวยพรเด็ก คาถาอวยพร บา้นและอÉนื ๆ 2. ดา้นการป้องกนั ไดแ้ก่คาถาป้องกนัตนเอง คาถาป้องกันคนรกัคาถาป้องกนั บา้น คาถาป้องกนัรถ คาถาป้องกันสตัวเ์ลียง คาถาป้Êองกนัวตัถุคาถาป้องกนั การคลอดบุตร คาถาป้องกันขโมย คาถาป้องกันคาํสาป คาถาป้องกันไฟ คาถาป้องกนัตน้ ไมแ้ละอÉนื ๆ

3 3. ด้านการรกัษาและสขุภาพ ไดแ้ก่คาถารกัษาโรค คาถารกัษาบาดแผล คาถา ลดความเจ็บปวด คาถาสุขภาพดี คาถาลดนําหนักÊคาถาเพิÉมนําหนักÊ คาถา แข็งแรง คาถาเลิกเหลา้ คาถาเลิกบุหรีÉและอืÉน ๆ 4. ดา้นความรกั ไดแ้ก่คาถาเรียกรกัคาถารกันิรนัดร คาถาเสน่ห์ ์ คาถาเรียกคน รกัเก่ากลบัมา คาถาสมรส คาถาโรแมนติก คาถามิตรภาพ คาถาสมัพนัธภาพ คาถาสามคัคีและอÉนื ๆ 5. ดา้นเวลา ไดแ้ก่คาถาเรง่เวลา คาถาชะลอเวลา คาถาปลดปล่อยอดีต 6. ดา้นโชค ไดแ้ก่คาถานาํ โชค คาถาเสีÉยงโชค 7. ดา้นทรพัย์ไดแ้ก คาถาเงินตรา ่ คาถามัÉงคัÉง คาถาปลดหนีÊคาถาทวงหนี คาถาÊ ความอดุมสมบูรณ์ 8. ดา้นกายภาพของบุคคล ไดแ้ก่ คาถาเปลีÉยนสีตา คาถาผิวใส คาถาผมยาว 9. ดา้นการแกแ้ละถอดถอนมนตร์ไดแ้ก่คาถาแกม้นตร์คาถาแกค้าํสาป คาถา ลบลา้งอาํนาจ 10. ดา้นธรรมชาติไดแ้ก่คาถาธาตุปฐมภูมิคาถาเรียกสุริยา คาถาเรียกจันทรา คาถาเรียกเมฆ คาถาเรียกลม คาถาเรียกฝน คาถาเรียกพายุ คาถาเรียก สายฟ้า 11. ดา้นการเรียน ไดแ้ก่คาถาสติปัญญา คาถาเกรดดีคาถาเรียนดีคาถาสอบ ผ่าน คาถาดงึดดูเพÉอนใหม่ ื 12. ดา้นการงาน ไดแ้ก่คาถาเรียกงาน คาถาสัมภาษณง์าน คาถาจา้งงาน คาถา โฆษณางาน 13. ดา้นธุรกิจไดแ้ก่คาถาดงึดดูลกูคา้คาถาธุรกิจกา้วหนา้ 14. ดา้นจิต ไดแ้ก่คาถากระตุน้ สมาธิคาถาเพิÉมพูนพลังจิต คาถาบิน(ถอดจิต) คาถาแปลงกายเป็นสตัว คาถาล่องหน คาถา ์ เปิดตาทีÉสาม คาถาหยัÉงรู้คาถา ตาทิพย์(มองเห็นสิÉงทีÉมองไม่เห็น)และอืÉน ๆ

4 15. ดา้นขับไล่ ไดแ้ก่ คาถาขับไล่สิÉงชัÉวรา้ย คาถาขับไล่ศัตรู คาถาขับไล่พลังลบ คาถาขบัไล่ฝันรา้ย คาถาขบัไล่โชครา้ย 16. ดา้นสัตว์ไดแ้ก่คาถาคน้หาสัตวเ์ลียงÊคาถาหาสัตวใ์หม่คาถาป้องกันสัตว์ เลียง Êคาถาช่วยใหส้ตัวแ์ข็งแรง คาถาสตัวเ์ชÉองื 17. ดา้นพาหนะและการเดินทาง ไดแ้ก่คาถาอวยพรรถ คาถาป้องกันรถ คาถา เรียกรถ คาถาป้องกนัอบุตัิเหต ุ 18. ดา้นการนอนหลบัและความฝัน ไดแ้ก่ คาถานิทรา คาถาผ่อนคลาย คาถาฝันดี คาถาฝันพยากรณ์คาถากนั ฝันรา้ย 19. ดา้นอารมณ์ไดแ้ก่คาถาความสุข คาถาคลายความวิตกกังวล คาถาคลาย เครียด คาถาคลายโศก คาถากลา้หาญ คาถาสลายความโกรธ คาถาทาํลาย ความเกลียดชงัคาถาความอดทน 20. ดา้นวตัถุไดแ้ก่คาถาอวยพรวตัถุคาถาป้องกนัวตัถ คาถาหาของหาย ุ 21. ด้านสปิริต ได้แก่ คาถาสืÉอสารสปิริต คาถาอัญเชิญสปิริต คาถาอัญเชิญ วิญญาณ คาถาเห็นสปิรติคาถาสปิรตินาํทาง 22. คาถาพิธีกรรม ไดแ้ก่คาถาชาํระลา้งมณฑล คาถาวงเวทย์คาถายกระดบัพลงั คาถาเสกเกลือ คาถาเสกนําÊคาถาเสกเครืÉองหอม คาถาเสกเทียน คาถาเสก อปุกรณ์คาถาเสกคมัภีรแ์ห่งเงา 23. คาถาอืÉน ไดแ้ก่คาถาความสาํเร็จ คาถาจิตวิญญาณ คาถาเชาวน์ปัญญา คาถาซืÉอสตัย์คาถาดึงดูด คาถานิมิต คาถาพลังงาน คาถาเยาวว์ยัคาถาแรง บนัดาลใจ คาถาสติปัญญา คาถาสจัจะ คาถาสืÉอสาร คาถาอมตะ

5 ประวตัิศาสตรค์าถาฉบบัย่อ (A Brief History of Spells) คาถามีการถกูใชม้าตงัÊแต่ยคุก่อนประวตัิศาสตร์ไม่มีใครรูแ้น่ชดัว่าคาถาเกิดขึนครัÊงÊ แรกเมืÉอใดและโดยใคร ในยุคก่อนประวัติศาสตรม์นุษยอ์าศยัอยู่กันแบบชนเผ่า มี การล่าสตัวซ์Éงึถือว่าเป็นกิจกรรมอนัศกัดิÍสิทธิÍและเกีÉยวโยงกับวิญญาณ ในชนเผ่า จะมีผู้นําทางจิตวิญญาณหรือพ่อมดแม่มด หรือทีÉรูจ้ักกันในนามของ ชาแมน (Shaman)ซึÉงเป็นผูม้ีความรูแ้ละมีความสามารถทางเวทมนตร์ ยคุประวตัิศาสตรใ์นสมยัเมโสโปเตเมยีแหล่งกาํเนิดเวทมนตรใ์นยคุอารยธรรม ซึÉงในสมยันีชÊาวสเุมเรียนมีการใชค้าถาในชีวิตประจาํวนั เช่น คาถาป้องกันจากสิÉง ชัÉวร้าย โรคระบาด มีการเผารูปปัÊนแม่มดเพืÉอทําลายคําสาปทีÉทําให้เจ็บป่ วย นอกจากนียÊงัมีการใชเ้ครÉืองรางเพืÉอการขับไล่สิÉงชัÉวรา้ยหรือเครÉืองรางป้องกันจาก โรคระบาด ซึÉงเครืÉองรางเป็นคาถารูปแบบหนึÉงของชาวสุเมเรียนซึÉงเป็นการดึง อาํนาจของเทพเจา้ต่างๆ มาเพืÉอช่วยเหลือแก่ผู้ครอบครอง คาถาบททีÉřş ในคมัภีร์มรณะแห่งอียิปต์กระดาษปาปิรุสแห่งอานี สมัยอียิปตโ์บราณมีการใชค้าถาทงในรูปแบบของบทร่ายและเครืÊัÉองรางชนิด ต่าง ๆ คาถาของชาวอียิปตม์ีความสมัพนัธก์บัเทพเจา้และศาสนา คาถาป้องกนัถกู เขียนบนกระดาษปาปิรุสและนาํมาสวมใส่บนร่างกายหรอืใส่ในภาชนะ มีการจารกึ คาถาไวบ้นชามและเมÉอดื ืÉมนําจากภาชนะนีÊจÊะไดร้บัความคมุ้ครอง เครืÉองรางในรูป แผ่นไมแ้กะสลักรูปเทพฮอรสักาํลังปราบสัตวร์า้ยอย่างงูจะถูกวางไว้ในหอ้งเพÉือ

6 ป้องกันและรกัษาแมลงกัดต่อยชาวอียิปตย์งัใชค้าถาร่วมกบัการใชย้าสมนุไพรใน การรักษาโรคอีกด้วย และทีÉสําคัญสุดมีการใช้คาถาเพืÉอป้องกันเมืÉอวิญญาณ เดินทางไปยงัโลกหลงัความตายอีกดว้ย แอฟริกามีการใชค้าถามาอย่างยาวนาน เช่น กนักา(Nganga) ผู้รกัษาทางจิต วิญญาณจะใชอ้าํนาจในการติดต่อกับโลกอÉืน รวมถึงการพยากรณเ์พÉือหาสาเหตุ ของความเจ็บป่ วย พวกเขายงัมีมดหมอ(Witch Doctor) รกัษาโรคโดยใชค้าถาและ สมนุไพร ในแอฟรกิาตะวนัตกแม่มดของ โวดนุ (Vodun) ใชค้าถาในรูปแบบพิธีกรรม อนัเกÉียวกับจิตวิญญาณศกัดิÍสิทธิÍในธรรมชาติคาถาติดต่อกับคนตายและป้องกัน ตนเองจากเวทมนตรค์าถาอนัชÉวัรา้ยนอกจากนียÊงัมีการใชค้าถาในรูปของเครืÉองราง โดยประกอบดว้ยวตัถตุ่าง ๆ ทีÉเชืÉอว่ามีอาํนาจในตวั เช่น รูปปัÊน กระดกูเปลือกหอย และรากไมส้มนุไพร เป็นตน้ เครืÉองรางนีใÊชเ้พÉอืรกัษาและฟืÊนฟจูิตวิญญาณ สมยักรีกโบราณชาวกรกีใชค้าถาเช่นเดียวกบั อารยธรรมเก่าแก่อืÉน ๆ และคาถาของพวกเขามี ความเกีÉยวขอ้งกบัเทพเจา้และศาสนา มีการใชห้ิน ทีÉมีอาํนาจวิเศษเช่น แรเ่ฮมาไทตเ์พÉอืป้องกนัทารก ในครรภ์ใช้หินแจสเปอรส์ีเขียวอ่อนใช้รกัษาโรค กระเพาะ เครืÉองรางของชาวกรีกเป็นรูปแบบของ คาถาอย่างหนึÉง ทาํมาจากไม้กระดูก หรือหินบาง ชนิด นาํมาสวมใส่ไวก้ับตวั เช่น เครืÉองรางเทพโพ ไซดอน พกติดตัวเพืÉอให้เดินทางเรือไดป้ลอดภัย หรือเครืÉองรางตาปีศาจ บาสคาเนียใช้ป้องกัน สายตาอนัชÉวัรา้ย คาถาของชาวกรีกอีกรูปแบบคือการจารึกชืÉอเทพเจา้ดว้ยแอนนาแกรม การ เรียงตวัอกัษรสลบักันเพÉือใหไ้ดค้าํ ใหม่ หรือ พาลินโดรม คาํหรือวลีทÉีสามารถอ่าน

7 จากหลังไปหน้าหรือหน้าไปหลัง แต่มีความหมายเหมือนเดิม ซึÉงกลายมาเป็น รูปแบบแก่เวทมนตรใ์นยุคปัจจุบนั คาถาอกีรูปแบบหนึÉงทีÉชาวกรีกนิยมใชค้ือ ฟาร์มากา(Pharmaka) อย่างแม่มด เซอรซ์ีใชเ้ปลÉียนคนใหก้ลายเป็นหมูอย่างในภาพวาดของจอห์วิลเลียม วอเตอร์ เฮาส(์1891) หรือ ฟิลตรา(Philtra) เป็นนํายาวิเศษชนิดหนึÊ Éงมกัใชเ้ป็นยาเสน่หห์รือ ยาพิษ มีปรากฏในตาํนานของเฮอรค์ิวลิส นอกจากนียังมีการปรุงนํÊายาฟืÊ ÊนฟูดงัทÉี ปรากฏในปกรณัมทีÉแม่มดมีเดียกําลังต้มชิÊนส่วนของแกะให้กลับมามีชีวิต เหมือนเดิมดว้ยสมนุไพร ในสมยัโรมนัพวกเขาใชค้าถาเช่นเดียวกบัชาวกรีกแต่สิทธิเสรีภาพค่อนขา้งแย่ คาถาของชาวโรมนัแมจ้ะมีการรบัมาจากชาวกรีกแต่ส่วนใหญ่สืบทอดมาจากผูค้น ผูซ้Éงึอาศยัอยู่ในอิตาลีโบราณและไดร้บัอิทธิพลจากอิทรสัคนั(Etruscan) ในช่วงยคุ แรก ในยุโรปมีการแพรก่ระจายของคาถามากมาย เช่น ชาวนอรส์ทางยุโรปเหนือมีการใชค้าถาในรูป ของบทโศลกซึÉงเรียกว่ากัลเดอร์(Galdr) ดังใน ภาพเวิลวา(Volva) ผูห้ยÉงัรูก้าํลงัร่ายคาถากลัเดอร์ ของ คารล์ลารส์ สัน(1893) หรือการใช้อักษรรูน อักขระศักดิÍสิทธิÍจากเทพเจ้าเพืÉออาํนาจทางเวท มนตร์ การใช้ยันต์ต่าง ๆ ของทางไอซ์แลนดิก ในช่วงยุคหลัง ชาวเคลต์ทางยุโรปตะวันตกใน เกาะบริเตนมีการใชค้าถาเกÉียวกับตน้ ไมศ้ ักดิÍสิทธิÍโดยตน้ ไมแ้ต่ละชนิดจะมีพลัง อาํนาจแตกต่างกันไป โดยเฉพาะตน้ โอ๊คและมิสเซิลโท ในยุโรปใตม้ีการใชค้าถา คลา้ยคลึงกับยุคโรมัน นอกจากนียÊงัมีคาถาพืนÊบา้นสาํหรบับาํบัดรกัษาซÉึงใชโ้ดย หมอพืนÊบา้นในช่วงยคุกลาง

8 ในยคุกลางมีการใชค้าถาเช่นเดียวกบัสมยัโบราณ แมว้่าแม่มดในยคุนีจÊะมกีาร ฝึกและใชค้าถาอย่างลบัๆเนืÉองจากอิทธิพลการแผ่ขยายของครสิตศ์าสนาในยุโรป การใช้คาถาอย่างเปิดเผยจึงมีโอกาสโดนลงโทษอย่างหนักในฐานะแม่มดและ ความเกีÉยวขอ้งกบั ปีศาจ ยคุฟืÊนฟศูิลปวิทยา เป็นช่วงยคุของการฟืÊนฟคูวามรูเ้ก่าและเวทมนตรใ์หม ๆ มี ่ การเขียนคาถาใหม่ ๆ เกิดขึนมากมายÊมีการฝึกธาตุสีÉและการใชค้าถาติดต่อคน ตาย คาถาอัญเชิญสปิริตเพืÉอนําไปใช้งานด้านต่าง ๆ คาถาในยุคนีÊยังมีความ ซบัซอ้นแบบพิธีกรรม รวมถึงคาถาเกีÉยวกบัธรรมชาติ ภาพพมิพแ์กะสลกัไมจ้ากหนงัสือ Naturalis Historia(1582) ยุคสมัยใหม่การใช้คาถามีความหลากหลายมากทีÉสุด และมีการใชค้าถาใน ชีวิตประจาํเพÉือแกป้ัญหาในการดาํเนินชวิตมากมาย ีต่างจากยคุโบราณทÉีมีการใช้ คาถาในชีวิตประจาํนอ้ยเนืÉองดว้ยสภาพสงัคมและปัจจยัแวดลอ้มของสมยัก่อนนนÊั ไม่มากมายเท่าปัจจบุนันีÊแต่อย่างไรก็ตามคาถายคุใหม่ก็ยงัคงไดแ้บบอย่างมาจาก คนรุ่นก่อน ๆ แม้ว่าจะมีการเปลีÉยนแปลงทางภาษาและการปรับใชใ้หเ้หมาะกับ สภาพสงัคมในยคุปัจจบุนัก็ตาม คาถายุคใหม่มักเป็นคาถาทีÉตอบสนองความตอ้งการของมนุษยท์Éีใชช้ีวิตใน เวลาทีÉจาํกัด มีการใชค้าถาแบบง่าย ๆ ภายในไม่กีÉนาทีรวมถึงการใชค้าถาใหเ้ขา้

9 กับความเป็นอย่ใูนสังคมเมือง มีคาถาใหม ๆ ่ เกิดขึนÊเป็นจาํนวนมากซÉงึถกูแต่งโดย พ่อมดแม่มดรุน่ ใหม่ซึÉงสามารถหาคาถายคุใหม่ไดต้ามหนงัสือภาษาองักฤษทÉวไป ั กฎเวทมนตร์(Law of Magic) กฎเวทมนตรเ์หล่านีเÊป็นขอ้ ปฏิบัติสาํหรบัพ่อมดแม่มดและนักเสกคาถาทัÊงหลาย กฎเหล่านีÊถูกสรา้งขึนเพืÊ Éอใช้ควบคุมการใช้เวทมนตร์ โปรดนําไปปฏิบัติอย่าง สมํÉาเสมอเพืÉอใหเ้กิดความคุน้ชินและเป็นหลกัในการดาํเนินวิถีแห่งเวทมนตร์ กฎแหง่การแลกเปลÉยนี (Law of Exchange) 1. ทกุสิÉงลว้นมีราคาทÉีตอ้งจ่าย ทุกสิÉงในธรรมชาติลว้นแลว้แต่เป็นสิÉงทีÉมีค่า สิÉงทีÉมีค่าย่อมตอ้งมีราคาในตวัของมนั เอง คุณตอ้งเข้าใจและใหคุ้ณค่ากับทุกสิÉงไม่ว่าจะเป็นสิÉงทีÉใหญ่มากหรือเล็กนอ้ย เหมือนกบัทÉคีณุใหคุ้ณค่ากบัชีวิตของตนเอง 2. การจะไดส้Éงหนึ ิÉงสิÉงใดมาจะตอ้งจ่ายสิÉงหนึÉงสิÉงใดตอบแทนเสมอ ทุกสิÉงเมืÉอมีการเปลีÉยนแปลง โยกยา้ยย่อมตอ้งมีการทดแทน เพืÉอใหส้รรพสิÉงดาํรง อยู่ตลอดไป การจ่ายไม่จาํเป็นตอ้งเป็นเงินทองแต่เป็นสิÉงทีÉมีค่าสาํหรบัคุณ อาจ เป็นสิÉงของทีÉมีคุณค่าทางจิตใจ คนโบราณมกัใชข้องมีค่าเช่น เปลือกหอย อญัมณี เกลือ นําผึÊงÊ ยางไม้และของมีค่าอืÉน ๆ ในสมยันนÊัสาํหรบัคนยคุสมยัใหม่ก็สามารถ ใชไ้ดเ้ช่นเดียวกนั 3. สิÉงทีÉแลกเปลีÉยนจะตอ้งเหมาะสมกบัสÉงที ิÉจ่ายไป ความเหมาะสมของสิÉงทีÉจ่ายออกไปนันÊควรพิจารณาจากเรืÉองทีÉคณุตอ้งการ ความ ปรารถนาของคุณควรจะตอ้งจ่ายสÉิงใด ขนาดไหน ใหพ้ ิจารณาตามสิÉงทีÉตนคิดว่า เหมาะสม ไม่มีกฎเกณฑท์ÉีตายตวัในเรืÉองนีÊ กฏแห่งสาม (The Threefold Law) กฏแห่งสามเป็นกฏทีÉมีความคลา้ยคลึงกบักฏแห่งกรรม บางครัÉงเรียกว่า กฏสิบเท่า หรือกฏยอ้นกลบัสามเท่า

10 กฏแห่งสามนีวÊ่าดว้ยการกระทาํสนองกลับเป็นสามเท่า ไม่ว่าท่านจะกระทาํ ดว้ยเจตนารมณท์Éีดีหรือกระทาํดว้ยเจตนารมณท์Éีรา้ยย่อมตอ้งไดร้บัผลสนองกลบัสู่ ตัวผู้กระทาํเป็นสามเท่าเสมอ เช่นนÊัน ขอท่านจงไตร่ตรองอย่างถีÉถ้วนในทุก ๆ เจตนาของการกระทาํทุกครงัÊดว้ยเพืÉอใหช้ีวิตของท่านเป็นสขุตลอดไป กฏแหง่พลัง (Law of the Power) 1. พลังนัÊนไม่ควรนาํ ไปใชเ้พÉือกระทาํอันตรายใด หรือควบคุมใคร แต่หากมันมี ความจาํเป็น ควรจะใชเ้พÉอืปกป้องชีวิตของคณุและชีวิตผูอ้ืÉน 2. พลงัควรใชเ้มÉอืมีความตอ้งการเท่านนัÊมิใช่ควรใชเ้พÉอืความสนกุสนานใด 3. พลังสามารถใช้เพืÉอความตอ้งการใด ๆ ไดต้ราบใดทÉีไม่เป็นอันตรายใดต่อ ตนเองและผูอ้ืÉน 4. ไม่ควรใชพ้ลงัเพÉอืแลกกบัเงินทอง หรือผลประโยชนใ์ด 5. ไม่ควรใชพ้ลังเพÉือหวงัสิÉงตอบแทน มนัจะทาํ ใหคุ้ณค่าของเวทมนตรศ์าสตรด์ู ตํÉาลง 6. พึงจาํ ไว้เสมอว่า พลังอาํนาจเป็นของประทานจากเทพเจา้ ไม่ควรนาํ ไปใช้ ในทางทีÉผิดหรือทาํรา้ยใคร 7. และนีÉคือกฎแห่งพลงั โปรดปฏิบัติอย่างเครง่ครดั

11

12 าตุปฐมภูมิทังสีÊ ÉหรือธาตุสีÉเป็นธาตุหลกัในศาสตรเ์วทมนตรโ์ดยเฉพาะใน ศาสตรค์าถา เป็นความรูพ้ืนÊฐานสาํคญัสาํหรบันาํ ไปใชป้ระกอบคาถาต่าง ๆ โดยความรูเ้กีÉยวกับธาตุนัÊนมีมานานมากแล้วในอารยธรรมโบราณ โดยเฉพาะกรีกอินเดียจีน ญีÉป่นุและยงัปรากฏในรสายนเวท(การเล่นแรแ่ ปรธาต) ุ โหราศาสตรต์ะวนัตกและธาตทุางเคมีในยคุปัจจบุนั ธาตุสีกับคาถา É ธาตดุิน(Ukú) ไดแ้ก่คาถาอดุมสมบูรณ์คาถาเงินตรา คาถานาํ โชค ธาตนุาํÊ(Aú) ไดแ้ก่ คาถาอารมณ์คาถาความคิดสรา้งสรรค์ ธาตลุม(Eá) ไดแ้ก่ คาถาสติปัญญา คาถาสืÉอสาร ธาตไุฟ(Izá) ไดแ้ก่คาถาพลงังาน คาถาความรวดเรว็ ธาตุสีขÉองศาสตรแ์ม่มด ธาตทุงสีÊัÉเป็นธาตปุ ฐมภมูิหรือธาตพุืนÊฐานในศาสตรแ์ม่มด อนัไดแ้ก่ ดิน(Ukú : อูกู) ธาตุทีÉแข็งแกร่งทีÉสุด หนักทีÉสุดและมีมวลหนาแน่นทีÉทสุด ธาตุนีมีÊ สปิรตินามว่าอูกูม(Ukúmú) ูสถิตอยู่สมัพนัธก์บัแผ่นจารกึเวทมนตรห์รือศิลาแมม่ด นํÊา(Aú : อาอู) ธาตทุÉมีความเหลว ี ความลืÉนไหลและไรรู้ปรา่ง ธาตนุมีÊีสปิรตินามว่า อาอูนา(Aúná) สถิตอยู่สมัพนัธก์บัหมอ้คอลดรอนหรือหมอ้แม่มด ลม(Eá : เออา) ธาตุทีÉมีความบางเบา พลิวไหวและเคลืÊ Éอนตัวอย่างอิสระ ธาตุนีมีÊ สปิรตินามว่า เออาดา(Eádá) สถิตอยู่สมัพนัธก์บัไมก้วาดแม่มด

13 ไฟ(Izá : อีซา) ธาตุทีÉมีพลงัอาํนาจทÉีสดุมีความเบาทีÉสดุและมีความรวดเร็วทีÉสดุ ธาตนุมีÊีสปิรตินามว่าอซีาซี(Izází) สถิตอยู่สมัพนัธก์บัไมก้ายสิทธิÍของแม่มด ธาตุทังสีÊ Éในระบบเวทมนตรถ์ือเป็นความรูพ้ ืนÊฐานลาํดบัตน้ๆ เลยก็ว่าได้เรียก ไดว้่าถา้ไม่ชาํนาญดา้นนกีÊ็เขา้ถึงและใชเ้วทมนตรไ์ดย้าก หลักการฝึกพืนฐานโดยทัÊ Éวไปแลว้มักจะสอนใหคุณฝึกสังเกตการเติบโตของ ้ ตน้ ไม้ซÉึงจะมีปัจจัยพืนฐานเกีÊ ÉยวกับธาตุทังสีÊ ÉนีÉเอง เปรียบตน้ ไมค้ือเวทมนตร์แลว้ ตน้ ไมอ้าศยัการเติบโตจากอะไรกันละ? คาํตอบก็ง่ายมาก ตน้ ไมอ้าศยัการเติบโตดว้ยดิน นา อากาศ(ลม) และแสงแดดÊํ (ไฟ) นัÉนเอง เมืÉอเรารูแ้บบนีแÊลว้การฝึกพนฐานเรื ืÊ Éองธาตจุึงเป็นสิÉงทีÉสาํคญัมาก และ มีผลต่อเวทมนตร์ทีÉคณุใชด้ว้ย การฝึ กธาตุสีÉแบบแม่มด การซมึซบัธาตุเป็นการทาํความรูจ้กักับธาตใุนเบือÊงตน้ เพืÉอใหเ้ขา้ใจคณุสมบตัิของ ธาตเุหล่านนเสียก่อนÊั 1. ธาตุดิน(Ukú : อูกู) ธาตทุÉแข็งที ีÉสดุหนกัทÉีสดุมีมวลหนาแน่นทÉสีดุ 1. นัÉงบนพืÊนดิน (หากไม่สามารถทําได้ให้นึกว่าอยู่บนพืÊนดิน) ผ่อนคลาย กลา้มเนือÊหลบัตาลงชา้ๆ 2. หายใจเขา้ออก ลกึๆอย่างชา้ๆจนรูส้กึนÉิงสงบ 3. เอามือซา้ยสัมผัสพืนดิน จดจ่อไปทีÊ Éมือข้างซา้ยนÊันว่ารูส้ึกอะไรบา้ง รูส้ึกถึง ความหนกัแน่น ความแข็ง หรือไม่ 4. เมืÉอรูส้ึกถึงธาตุดินไดแ้ลว้ ใหน้ึกถึงคุณสมบัติของดินไวท้Éีฝ่ามือ แลว้ค่อยดึง พลงันนัÊเขา้ส่รูา่งกายโดยนึกภาพว่ามีมวลหนาแน่นไหลเขา้มาแนะนาํ ใหด้งึมา ทีละนอ้ย 5. นาํพลงัธาตดุินถ่ายออกมาผ่านมือขวากลบัคืนส่แูหล่งกาํเนิด

14 2. ธาตุนํÊา (Aú : อาอู) ธาตุทีÉมีความเหลว เคลืÉอนไหวไดอ้ิสระ มีมวลและมีความ หนาแน่นรองจากธาตดุิน 1. นัÉงริมแหล่งนําÊ (หากไม่สามารถทาํ ไดใ้ห้นํานาใส่ภาชนะแทน) ผ่อนคลาย ํÊ กลา้มเนือÊหลบัตาลงชา้ๆ 2. หายใจเขา้ออก ลกึๆอย่างชา้ๆจนรูส้กึนÉิงสงบ 3. เอามือซา้ยสมัผัสนา จดจ่อไปทีÊํÉมือขา้งซา้ยนÊนัว่ารูส้ึกอะไรบา้ง รูส้ึกถึงความ เย็น ความเป็นมวล หรอืไม่ 4. เมืÉอรูส้ึกถึงธาตุนาํÊไดแ้ลว้ ให้นึกถึงคุณสมบัติของนาไว้ทีÊํÉฝ่ามือ แลว้ค่อยดึง พลังนัÊนเขา้สู่ร่างกายโดยนึกภาพว่ามีมวลเหลวไหลเขา้มาแนะนาํ ใหด้ึงมาที ละนอ้ย 5. นาํพลงัธาตนุาถ่ายออกมาผ่านมือขวา ํÊกลบัคืนส่แูหล่งกาํเนิด 3. ธาตุลม (Eá : เออา)ธาตทุÉมีีความโปรง่มีมวล ความหนาแน่นนอ้ยกว่านา และํÊ เคลืÉอนตวัได้อย่างอิสระ 1. ยืนบนทีÉสงูหรือทÉีราบหรือทิศทางทีÉมีลมพดักางแขนออกเล็กนอ้ย ผ่อนคลาย กลา้มเนือÊหลบัตาลงชา้ๆ 2. หายใจเขา้ออก ลกึๆอย่างชา้ๆจนรูส้กึนÉิงสงบ 3. เอามือซา้ยสมัผสัอากาศเบือÊงหนา้จดจ่อไปทÉีมือขา้งซา้ยนนัÊว่ารูส้ึกอะไรบา้ง รูส้กึถึงความเบาบางหรือไม่ 4. เมืÉอรูส้ึกถึงธาตุลมไดแ้ลว้ ใหน้ึกถึงคุณสมบัติของลมไวท้Éีฝ่ามือ แลว้ค่อยดึง พลงันนÊัเขา้ส่รู่างกายโดยนึกภาพว่ามีมวลเบาบางไหลเขา้มาแนะนาํ ใหด้งึมา ทีละนอ้ย 5. นาํพลงัธาตลุมถ่ายออกมาผ่านมือขวากลบัคืนส่แูหล่งกาํเนิด 4. ธาตุไฟ (Ízá : อีซา) ธาตุทีÉมีความเบาบางนอ้ยทÉีสุด มีความรอ้น และกาํเนิด ภายใตเ้ชือเพลิง Ê

15 1. นัÉงบนพืนÊจุดเทียน (หากไม่สามารถทาํ ไดใ้หใ้ชถ้่านไมห้รือขีเÊถา้แทน) ผ่อน คลายกลา้มเนือÊหลบัตาลงชา้ๆ 2. หายใจเขา้ออก ลกึๆอย่างชา้ๆจนรูส้กึนÉิงสงบ 3. เอามือซา้ยสัมผัสความรอ้นจากไฟ หรือถ่านไม้จดจ่อไปทีÉมือขา้งซา้ยนนว่า ัÊ รูส้กึอะไรบา้ง รูส้กึถึงความรอ้น ความเบาบางหรือไม่ 4. เมืÉอรูส้กึถึงธาตไุฟไดแ้ลว้ ใหน้ึกถึงคุณสมบตัิของไฟไวท้Éีฝ่ามือแลว้ค่อยดงึพลงั นันÊเขา้ส่รู่างกายโดยนึกภาพว่ามีมวลความรอ้นไหลเขา้แนะนาํ ใหด้ึงมาทีละ นอ้ย 5. นาํพลงัธาตไุฟถ่ายออกมาผ่านมือขวากลบัคืนส่แูหล่งกาํเนิด หมายเหตุ : ในกรณีของการฝึกใหถ้่ายพลงัธาตทุÉีซบึซบัมากลบัไปยงัตน้กาํเนิดของ ธาตทุÉซีบึซบัมากรณีของการฝึกธาตแุละนาํ ไปใชก้บัคาถาจะอธิบายถดัไป การใช้ธาตทุงสี ัÊกับคาถาÉ ธาตุดิน การฝังดินเพืÉอซึมซบั ปลดปล่อย หรือทาํลายพลงัคาถาแบบชา้ๆ ในบาง คาถาจะมีการกระทาํเพÉือซึบซบัพลงัของธาตุดินมาใช้อย่างในคาถาประจุอาํนาจ หรือคาถาทีÉตอ้งปลดปล่อยอาํนาจดว้ยธาตุดิน เช่น คาถาเงินตรา คาถาป้องกัน และคาํสาปบางชนิด หรือคาถาทีÉตอ้งทาํลายดว้ยธาตุดิน เช่น คาถาทัÉวไป คาถา บาํบดัรกัษา คาถาแกค้าํสาปบางชนิด ธาตุนํÊาการแช่นําÊการลา้งดว้ยนาเพืÊํÉอซึมซบัพลังธาตุนาÊํ ปลดปล่อย หรือทาํลาย ดว้ยนาÊํ ในบางคาถาจะมีการกระทาํเพÉือซึมซบัพลังธาตุนาํÊเช่น คาถาประจอุาํนาจ หรือคาถาปลดปล่อยอาํนาจธาตุนาÊํ เช่น คาถาเรียกฝน คาถาติดต่อกับโลกอืÉน คาถาบิน หรือคาถาทีÉตอ้งทาํลายดว้ยนาÊํเช่น คาถารักษาบาดแผล คาถารกัษา ความเจ็บปวด รวมถึงคาถาทัÉวไปทีÉตอ้งการใหผ้ลทาํงานในระยะหนÉงึ ธาตุลม การเป่าดว้ยลมไปในอากาศเพÉอืซมึซบัพลงัธาตลุม ปลดปล่อย หรือทาํลาย ดว้ยลม ในบางคาถาจะมีการกระทาํเพÉอืซมึซบัพลงัธาตลุม เช่น คาถาประจอุาํนาจ