The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มีอยู่หลายศาสตร์ด้วยกัน ได้แก่ การฝึกเวทย์พื้นฐาน ศาสตร์อักษรรูนและการใช้ทางเวทย์ ศาสตร์สมุนไพรเวทย์ ศาสตร์คาถา นอกจากนี้ยังมีความรู้อื่นที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหน เช่น พิธีกรรมเวทย์จันทรา การสร้างไม้กายสิทธิ์ การปรุงยา และเกร็ดความรู้ด้านเวทมนตร์อื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาปรับปรุงเพิ่มเติมจากของเดิม ได้แก่ ประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ความหมายเวทมนตร์ ศาสตร์รูนพยากรณ์ ข้อปฏิบัติและกฎแห่งเวทมนตร์ การประดิษฐ์นามทางเวทย์ อักษรเวทมนตร์ สัญลักษณ์เวทมนตร์ อุปกรณ์เวทมนตร์ เนื้อหาครอบคลุมพื้นฐาน เข้าใจง่าย สามารถฝึกตามได้ไม่ยากเลยครับ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Witches Thailand, 2022-10-01 04:25:02

คัมภีร์แห่งเงา ของพ่อมดแม่มด

เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มีอยู่หลายศาสตร์ด้วยกัน ได้แก่ การฝึกเวทย์พื้นฐาน ศาสตร์อักษรรูนและการใช้ทางเวทย์ ศาสตร์สมุนไพรเวทย์ ศาสตร์คาถา นอกจากนี้ยังมีความรู้อื่นที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหน เช่น พิธีกรรมเวทย์จันทรา การสร้างไม้กายสิทธิ์ การปรุงยา และเกร็ดความรู้ด้านเวทมนตร์อื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาปรับปรุงเพิ่มเติมจากของเดิม ได้แก่ ประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ความหมายเวทมนตร์ ศาสตร์รูนพยากรณ์ ข้อปฏิบัติและกฎแห่งเวทมนตร์ การประดิษฐ์นามทางเวทย์ อักษรเวทมนตร์ สัญลักษณ์เวทมนตร์ อุปกรณ์เวทมนตร์ เนื้อหาครอบคลุมพื้นฐาน เข้าใจง่าย สามารถฝึกตามได้ไม่ยากเลยครับ

คมั ภรี แ์ หง่ เงา

ของ
พ่อมดแมม่ ด

Ázamú
เขยี น

คัมภรี แ์ ห่งเงา ของพอ่ มดแม่มด

Ázamú เขยี น
ราคา 550 บาท
พิมพค์ รงั ที 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2564
พิมพค์ รงั ที 2 มถิ นุ ายน 2565
ISBN : 978-616-593-180-9

© สงวนลขิ สทิ ธิตามพระราชบญั ญัตลิ ขิ สิทธิ (ฉบบั เพมิ เตมิ ) พ.ศ. 2558 หา้ มทาํ การ
ลอกเลียนไม่ว่าส่วนหนึงส่วนใดของหนังสือเล่มนี ทังเนือหาและรูปภาพ เพือ
ประโยชนท์ างการพาณิชยส์ ่วนตน นอกจากจะไดร้ บั อนญุ าต ยกเวน้ เพอื การอา้ งอิง
การวิจารณ์ และประชาสมั พนั ธ์

อทุ ศิ แด่
แมม่ ดผทู้ รงปรีชาญาณ
บรรพชนแห่งโลกโบราณ
ผซู้ งึ ชนี าํ ความรูแ้ หง่ บรรพกาลแดพ่ วกเรา

คาํ นํา

หนังสือเล่มนีผูเ้ ขียนมีความตงั ใจทีจะทาํ ขึนเพือเป็นแหล่งศึกษาความรูเ้ วทมนตร์
ต่าง ๆ เพอื ใหง้ ่ายตอ่ การคน้ ควา้ ผเู้ ขยี นจึงทาํ การรวบรวมบทเรียนความรูเ้ วทมนตร์
พนื ฐานต่าง ๆ ทีเคยเขียงลงในเพจ Witches Thailand รวมถึงความรูอ้ ืน ๆ ทไี ม่เคย
เผยแพรท่ ีใดมาก่อนอีกดว้ ย

ในเล่มนีจะมวี ชิ าเวทมนตรห์ ลกั อยทู่ งั หมด วิชาดว้ ยกนั คือ เวทมนตรพ์ นื ฐาน
ศาสตรร์ ูน สมนุ ไพรเวทมนตรแ์ ละคาถาพืนฐาน นอกจากนียงั มีความรูอ้ ืนๆ เช่น
พิธีกรรมเวทยจ์ นั ทรา ซบั บาตและพิธีกรรม การสรา้ งไมก้ ายสิทธิ สตู รปรุงยา และ
อนื ๆ อีกมากมาย

หนงั สือเล่มนีจึงเป็นแหล่งความรูส้ าํ หรบั ฝึกฝนมือใหม่ทีมีเนือหาหลากหลาย
ในเลม่ เดยี ว หวงั เป็นอยา่ งยิงวา่ จะมีประโยชนต์ ่อผูอ้ ่านไมม่ ากกน็ อ้ ย

พระเทพีอวยพร
Ázamú

สารบัญ 1
21
ประวตั ิศาสตรเ์ วทมนตร์ 51
กา้ วสคู่ วามเป็นพ่อมดแมม่ ด 61
ศาสตรอ์ กั ษรรูนพนื ฐาน 73
ศาสตรเ์ วทมนตรร์ ูน 87
ศาสตรร์ ูนพยากรณพ์ ืนฐาน 109
ศาสตรส์ มนุ ไพรเวทมนตรพ์ นื ฐาน 131
ศาสตรค์ าถาพนื ฐาน 137
ขอ้ ปฏบิ ตั ิและกฎแห่งเวทมนตร์ 147
พธิ ีกรรมสายเวทยจ์ นั ทรา 161
ซบั บาตแหง่ พ่อมดแม่มด 167
การประดิษฐน์ ามทางเวทย์ 171
อกั ษรเวทมนตรข์ องพ่อมดแมม่ ด 185
สญั ลกั ษณเ์ วทมนตร์ 191
อปุ กรณเ์ วทมนตรพ์ นื ฐาน 197
สตู รปรุงยาพนื ฐาน 202
เกร็ดความรูเ้ วทมนตร์ 203
เกียวกบั ผเู้ ขยี น
บรรณานกุ รม

1

2

ประวตั ศิ าสตรเ์ วทมนตร(์ A History of Magic)

เวทมนตรน์ นั มีปรากฏมาอย่างยาวนานมาก ควบค่กู นั มากับอารยธรรมของมนุษย์
เราไม่สามารถบอกไดอ้ ย่างชัดเจนว่ามีการเริมตน้ ของเวทมนตรค์ รังแรกเกิดขึน
เมอื ใด แตก่ ย็ งั พอมขี อ้ มลู เกียวกบั ความเชอื ดา้ นเวทมนตรซ์ งึ มีการปรากฎในบนั ทึก
ตา่ ง ๆ ทวั โลก รวมถงึ มหี ลกั ฐานทางโบราณคดรี องรบั อย่ไู มน่ อ้ ยเลยทีเดยี ว

เวทมนตรย์ คุ ก่อนประวัติศาสตร์
ยคุ นสี ามารถยอ้ นไปไกลถึง 100,000 ปีกอ่ น ในยคุ ทีมนษุ ยด์ าํ รงชพี ดว้ ยการล่าสตั ว์
และวิถีชีวติ ผกู พนั กบั สตั วป์ ่าชนิดต่าง ๆ เวทมนตรใ์ นยคุ นจี ึงเต็มไปดว้ ยการลา่ สตั ว์

ความตาย และวิญญาณต่าง ๆ ของ
ธรรมชาติ

เมือ 9,500 ปี ก่อน มนุษย์นีแอน
เดอรท์ ัล(Neanderthal) ฝังศพเด็กเล็ก
ในถาํ ซึงถูกคน้ พบในประเทศอิรัก เป็น
การแสดงออกถึงความเชือเกียวกับโลก
หลังความตาย และยงั พบกอ้ นกรวดทีมี
ลกั ษณะเหมอื นมนุษยใ์ นถาํ อกี ดว้ ย
เวทมนตรก์ ารลา่ สตั วข์ องชาวอินอู ติ (Inuit) หรือกลมุ่ ชนพนื เมืองทอี าศยั อยแู่ ถบ
อารค์ ติคหรอื ขวั โลกเหนือ มองว่าการล่าสตั วเ์ ป็นการกระทาํ อนั ศกั ดิสิทธิ เนืองจาก
มีความเชือว่ามีวิญญาณสถิตอยู่ ซึงคนในยุคหินเองก็อาจมีความคิดเช่นนี
เช่นเดยี วกนั
ภาพวาดรูปสตั วท์ ีปรากฏบนผนงั ถาํ มีการเชือมโยงกบั พธิ ีกรรมเกียวกบั การล่า
สัตว์ เพือให้นักล่าสัตว์สามารถประสบผลสาํ เร็จในการล่าหรือเพือเอาใจแก่
วิญญาณสตั วเ์ หลา่ นนั

3

มีการคน้ พบหินทรายขนาดใหญ่กวา่ 50 กอ้ น ซึงพบในหมู่บา้ นชาวประมงยคุ
หินใหม่ ริมแม่นาํ ดานูบในเซอรเ์ บีย หินมีลักษณะเป็นรูปสลักศีรษะของเทพเจา้
พิทกั ษ์แม่นาํ คนโบราณในช่วงยคุ หินยงั มีความเชือเรืองภาวะเจริญพนั ธุ์ จากการ
คน้ พบรูปสลักสตรีรูปทรงอว้ นจาํ นวนมากในถาํ รูปสลักนียังมีความเกียวขอ้ งกบั
ดาวศกุ รอ์ ีกดว้ ย ซงึ นกั วชิ าการเรียกรูปสลกั นีว่า วนี สั

เวทมนตรแ์ ห่งความตาย มนุษยโ์ บราณมีการฝังศพมาตงั แต่ 60,000 ปีก่อน
คริสตกาล พบหลุมศพมนุษยถ์ กู ฝังและมีการใชด้ ินเหลืองซึงมีสีแดงใชแ้ ทนเลือด
โปรยลงบนศพนนั บางหลมุ มีดอกไมห้ รือสรอ้ ยคอเพอื ใหผ้ ูต้ ายสวมใส่ส่ภู พหนา้ อกี
ดว้ ย

เวทมนตรย์ ุคแรก ๆ มกั มคี วามเชือเกียวกบั วิญญาณ พวกเขาเชือวา่ มวี ิญญาณ
สถติ อย่ใู นสิงต่าง ๆ เชน่ กอ้ นหนิ ตน้ ไม้ สายนาํ ต่อมาไดพ้ ฒั นาเป็นความเชอื งเรอื ง
โตเตม(Totem) ซึงเชือว่าสตั วห์ รือตน้ ไมอ้ ายุมาก จะมีวิญญาณสถิตอยู่ ดว้ ยความ
เชือเหล่านีจึงตอ้ งมีผูท้ ีสามารถสือสาร สรา้ งความสมั พนั ธก์ ับเหล่าวิญญาณ ซึง
เรียกบุคคลแบบนีว่า ชาแมน(Shaman) ซึงเป็นเหมอื นหมอผีทีมีความสามารถใน
การถอดจิต ผา่ นการเขา้ ภวงั คอ์ นั เกดิ จากการสวดมนตร์ ตีกลองใหเ้ ป็นจงั หวะ หรอื
การใชส้ มนุ ไพรอนั กอ่ ใหเ้ กิดอาการประสาทหลอนเป็นตวั กระตนุ้ จติ

เวทมนตรย์ ุคประวตั ศิ าสตร์
เมโสโปเตเมีย(Mesopotamia)
เมโสโปเตเมียตงั อย่แู ถบแม่นาํ ไทกริส-ยูเฟรติส ซึงปัจจุบนั คือประเทศอิรกั เมโสโป
เตเมียถือว่าเป็นแหล่งกาํ เนิดเวทมนตรย์ ุคแรก ซึงยุคนีถือว่ามีความเป็นระเบียบ
แบบแผนมากขึน ชาวสุเมเรียนก่อตังเมืองครังแรกเมือประมาณ 4,000 ปีก่อน
ครสิ ตกาล(หรอื ประมาณ 7 พนั ปีทีแลว้ ) จนถงึ ยคุ ของชาวบาบโิ ลน(Babylon) ในอกี
3,000 ปี ต่อมา เวทมนตรค์ าถาของชาวเมโสโปเตเมียนันถือเป็นส่วนหนึงใน
ชีวิตประจาํ วนั

4

ชาวเมโสโปเตเมียมีความเชือว่าภัย
พิบัติต่าง ๆ ลว้ นแล้วแต่เกิดขึนจาก มามิ
ตู(Mamitu) เทพีแห่งชะตากรรมและเป็น
ปีศาจแห่งคําสาปทีมิอาจเพิกถอนได้ ซึง
บรรดาแม่มดจะเป็นผูก้ ระทาํ คาํ สาปต่าง ๆ
แด่ผู้ทีกระทาํ ความผิดแด่เทพเจ้า หรือไม่
สนใจสัญญะอนั ศักดิสิทธิของพระเป็นเจา้
นกั บวชของวิหารทีเรียกว่า อาชิปู(Ashipu)
ผูก้ ระทาํ พิธีกรรมเวทมนตรแ์ ละใช้ บารู(Barû) ตีความลางบอกเหตุนนั ผูท้ ีโดนคาํ
สาปมักจะขอให้อาชิปูร่ายคาถาป้องกันและใช้เครืองราง และหุ่นมนตรข์ ับไล่
วิญญาญรา้ ยใหอ้ อกไป

ความโชครา้ ยหรือความเจ็บป่ วยมักเกิดจากแม่มดหรือปีศาจ อาชิปูพัฒนา
พิธีกรรมเพือต่อตา้ นอนั ตรายเหล่านี และทาํ การรวบรวมไวใ้ นแผ่นจารกึ ทีเรียกว่า
มาคลู(Maqlu) ทงั 9 แผน่ ซงึ ถกู รวบรวมเมอื ประมาณ 1,600 ปีกอ่ นครสิ ตกาล และ
ส่งต่อยังรุ่นต่อไป คาถาถูกรวมเอาไวก้ ว่า 100 คาถาในแปดแผ่น ช่วยให้อาชิปู
สามารถควบคุมเวทมนตรอ์ ันชัวรา้ ยได้ ซึงแผ่นสุดท้ายไดใ้ ห้คาํ แนะนําสาํ หรับ
พิธีกรรมเพือขบั ไล่คาํ สาปโดยการเผารูปปันแมม่ ด และอีกแผ่นมีคาถาอญั เชิญ กู
ลา(Gula) เทพีแหง่ สขุ ภาพเพอื ขบั ไลผ่ รี า้ ยทที าํ ใหเ้ กดิ ความป่วยไขใ้ หอ้ อกไป

ชาวเมโสโปเตเมียเชือว่า วัตถุทีมีลักษณะเป็นภาพเคลือนไหวสามารถทาํ
หน้าทีในการเก็บพลังเวทมนตรอ์ ันมหาศาลได้ ทังยังสามารถช่วยปัดเป่ าเหล่า
วิญญาณชวั รา้ ยและขัดขวางการกระทาํ อันชวั รา้ ยนนั ซึงสิงนีสามารถเห็นไดต้ าม
ผนงั กาํ แพงของอาคารซึงจะมีรูปสลักหรือรูปปันต่าง ๆ ประดับไว้ เช่น รูปปันลามสั
ตู ทีมีศีรษะเป็นคนและลาํ ตัวเป็นสิงโตมีปีกเหมือนนกขนาดใหญ่ ตังวางไว้ตรง
ประตเู มอื ง ทางเดนิ เขา้ หอ้ งบลั ลงั ก์ เพอื ใชป้ กปอ้ งคมุ้ ครอง

5

ชาวเมโสโปเตเมยี มีเคล็ดในการป้องกันมนตรด์ าํ เช่น สวมเสือผา้ และรองเทา้
ของคนป่ วยและถวายบชู าแดเ่ ทพแี หง่ ความตาย หรอื สรา้ งหุ่นจาํ ลองคนตายขึนมา
โดยทาํ จากดินเผาจารกึ ชอื คนตาย ทาํ ใหเ้ ทา้ หกั เพือใหเ้ ดนิ มาไม่ได้ และใชฟ้ ันสนุ ขั
ยดั ใสป่ ากห่นุ เพือปิดปากเอาไวไ้ มใ่ หส้ ง่ เสียงใด ๆ

เครืองรางขับไล่สิงชัวรา้ ย การสวมใส่เครืองรางเป็นส่วนหนึงของเวทมนตร์
ป้องกัน เครืองรางจะแสดงถึงจิตวิญญาณทีพวกเขาควรปัดเป่ า เช่น พาซู
ซู(Pazuzu) ราชาปีศาจแห่งสายลม ผูม้ ีศีรษะเป็นสิงโต มีปีกและกงเล็บเหมือนนก
ถือสายฟ้า และ ลามสั ตู(Lamashtu) ซึงกินเหยือสตรีมีครรภ์ นางเป็นลกู ผสมของ
ลา สิงโต และนก

เครืองรางสามารถปกป้องนกั เดินทางในดินแดนทีมีศตั รูและปีศาจอาศยั อยู่
ป้องกนั โรคภยั ใหห้ ่างไกลจากบา้ นเรือน ในช่วงเกิดโรคระบาดมีเครืองรางชนิดหนึง
ทีนิยมใช้ เป็นแผ่นจารึกคาถาป้องกัน โดยจารึกในลักษณะของเรืองราวโดยตัว
เครืองรางประกอบดว้ ยเทพปีศาจพาซูซูอยู่ดา้ นบนสุด กาํ ลังถือแผ่นจารึกซึง
ประกอบดว้ ยแถวดา้ นบนเป็นรูปเทพเจา้ ทังเจ็ดผูม้ ีศีรษะเป็นสิงโตสาํ หรบั ปกป้อง
แถวถัดมาจารกึ เป็นรูปนกั บวชอาชิปกู าํ ลงั ประกอบพิธีกรรม และภาพจารึกแถว
ลา่ งสดุ เป็นรูปพาซซู กู าํ ลงั ขบั ไล่ปีศาจลามสั ตใู หอ้ อกไป

มีการนาํ รูปปันสุนัขมาวางไวห้ นา้ ธรณีประตู ซึงสุนขั เป็นบริวารของเทพีกลู า
เทพีแห่งการรกั ษาและสุขภาพดี มกั ปันจากดินเหนียว พวกมนั จะทาํ หนา้ ทีพิทกั ษ์
รกั ษาสถานที ป้องกันโรคภัยหรือความโชครา้ ย โดยมีการจารึกชือ เช่น เสียงเห่า
หอน หรอื ผจู้ บั ศตั รู เอาไวท้ รี ูปปันดว้ ย
อยี ิปตโ์ บราณ(Ancient Egypt)
ชาวอียิปตโ์ บราณเรียกเวทมนตรข์ องพวกเขาว่า เฮคา(Heka) ซึงถือว่าเป็นหัวใจ
สาํ คญั ของความเชือเมือ 4,000 ปีก่อนครสิ ตกาล เทพเจา้ ผสู้ รา้ งนามว่า นู(Nu) ได้
ทรงใชเ้ ฮคาเพือใหโ้ ลกดาํ รงอยู่จากความโกลาหลในบรรพกาล สาํ หรบั ชาวอียิปต์

6

โบราณไม่ใชแ่ ค่เทพเจา้ เท่านนั ทีใชเ้ วท
มนตร์ได้ สิงมีชีวิตเหนือธรรมชาติ
ฟ า โ ร ห ์แ ล ะ ค น ต า ย ก็ ส า ม า ร ถ ใ ช้ไ ด้
เชน่ กนั

ชาวอียิปตโ์ บราณยงั เชอื ในอาํ นาจ
เวทมนตรใ์ นอีกรูปแบบหนึงทีเรียกกัน
ว่า อาคู(Akhu) ซึงมีความชัวรา้ ยและ
เกียวขอ้ งกบั โลกใตพ้ ิภพ เพอื ป้องกนั อา
คูผูฝ้ ึกอย่างนกั บวช และอาลกั ษณใ์ น บา้ นแห่งชีวติ ซึงเก็บตน้ ฉบับของวิหารแห่ง
อยี ิปตเ์ อาไว้ จงึ ตอ้ งมีวิธีป้องกนั สิงนีขึน
ซูนู(Sunu) ผู้รักษาและ ซาอู(Sau) ผู้สรา้ งเครืองราง ใชค้ าถาเฮคา พิธีกรรม
และวัตถุเวทมนตร์ ซึงไดร้ บั ความนิยมในชาวอยี ิปตเ์ ป็นอยา่ งมาก พวกเขาจะใชใ้ น
ชีวิตประจาํ วนั ต่าง ๆ เชน่ ครู่ กั การปอ้ งกนั ระหว่างการคลอดบตุ ร และการรกั ษาโรค
เล็ก ๆ นอ้ ย ๆ นอกจากเฮคาจะเป็นพลงั งานแลว้ ยังเป็นชือของเทพเจา้ นามว่า เฮ
คา(Heka) เทพแห่งเวทมนตร์ ท่านมีคซู่ งึ เป็นเพศหญิงนามวา่ เวเรต็ -เฮเคา(Weret-
Hekau) ซงึ หมายถึง มหามนตรา ซงึ ปรากฏในรูปของงเู หา่ มีความเชอื กนั วา่ ไมเ้ ทา้
หวั งทู ีผวู้ เิ ศษถือนนั แสดงถงึ ทา่ นนนั เอง
เวทมนตรข์ องชาวอียปิ ตโ์ บราณมีความสมั พนั ธก์ บั ศาสนา นกั บวชในวิหารจะ
ส่งอาํ นาจศกั ดิสิทธิผ่านฟาโรหเ์ พือใหธ้ รรมชาติเคลือนไปเป็นปกติ พระอาทิตยข์ ึน
ทกุ เชา้ นาํ ท่วมแมน่ าํ ไนลเ์ พอื ใหเ้ กิดความอดุ มสมบูรณ์
นกั บวชอียิปตโ์ บราณและผวู้ เิ ศษมวี ิธีการมากมายในการขดั ขวางเทพผมู้ งุ่ รา้ ย
ในคาถาของพวกเขาจะมกี ารเอ่ยถงึ อาํ นาจเหนอื เทพเจา้ โดยการเปลง่ พระนาม หรือ
อุบายใหป้ ีศาจหลงเชือว่ามนั โจมตีเทพีไอซิสและฮอรสั หรอื ข่มขูเ่ ทพเจา้ ดว้ ยพโิ รธ
แห่งอาํ นาจอนั น่าเกรงขาม เช่นเทพเซท(Seth) เทพผู้อาฆาตแห่งทะเลทรายและ

7

ความโกลาหล คาถาป้องกันจะถูกเขียนบนกระดาษปาปิรัส และสวมใส่ไวบ้ น
รา่ งกาย หรอื เก็บซอ่ นไวใ้ นภาชนะใชเ้ ป็นเครอื งราง มีการจารกึ เวทมนตรไ์ วบ้ นชาม
และผู้ทีขอการคุม้ ครองจะดืมนาํ จากสิงเหล่านี ชิปปี(Cippi) แผ่นไมแ้ กะสลกั ซึง
แสดงถึงเทพฮอรสั กาํ ลงั ปราบสตั วร์ า้ ย เช่น งู จะถูกวางไวใ้ นหอ้ งเพือป้องกนั และ
รกั ษาโรคเหล็กไนและแมลงกดั ต่อย

เวทมนตรส์ าํ หรบั การสาปแช่งศัตรู ชาวอียิปตโ์ บราณมีคาํ สาปทีทรงพลัง
อาํ นาจมาก คาํ สาปถอื เป็นรูปแบบอยา่ งหนึงของเวทมนตรข์ องพวกเขา คาํ สาปเป็น
การทาํ ใหศ้ ตั รูออ่ นแอลง ชือของผูถ้ ูกสาปจะถกู เขียนไวบ้ นหมอ้ ซงึ ถกู ทบุ และฝังลง
ในหลุม รูปสลักของชายและหญิงทีถูกมัดเพือเป้าหมายในการสังเวยให้เหยือ
ปฏเิ สธโลกหลงั ความตาย

คาํ สาปอย่างหนึงกระทาํ โดยใหผ้ ูก้ ระทาํ ตัดผมจากซากศพแลว้ นาํ ไปมดั ไวก้ บั
เส้นผมของคนทีมีชีวิต จะทาํ ให้คนนันกลายเป็นบา้ อีกอันหนึงให้นํากระดาษ
ปาปิรสั คาํ สาปติดกบั แหวนเหล็ก และฝังเอาไวใ้ นหลุมศพ ตน้ กก(กระดาษปาปิรสั )
จะผูกมดั คนตายไวก้ ับหลมุ ศพตลอดไป คาํ สาปทีเขียนไวภ้ ายในสสุ านเพือเตือนผู้
บุกรุกไม่ใหท้ าํ ลายหอ้ งฝังศพ พบไดบ้ ่อยในสมยั อณาจกั รเก่า(ช่วง 2575-2150 ปี
กอ่ นครสิ ตกาล)

ตาํ รับยาและเวทมนตรข์ องชาวอียิปตโ์ บราณ นักบวชในอียิปตโ์ บราณทาํ
หน้าทีเป็นหมอรกั ษาโรคดว้ ย ในการรกั ษาพวกเขาจะใช้ยาร่วมกับคาถาและมี
พิธีกรรมเขา้ มาเกียวขอ้ งดว้ ย เพอื ใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพทีดีนนั เอง ผูว้ ิเศษจะใชค้ าถา
ซึงมีทังโดยตรง เช่น การสังใหก้ ระดูกทีติดอยู่ในลาํ คอของผู้ป่ วยออกมา หรือใน
ทางออ้ ม เป็นการบอกแกว่ ิญญาณซงึ เป็นตน้ เหตขุ องความเจบ็ ป่วย เพอื ใหอ้ าการดี
ขึน การใชเ้ ครืองรางโดยวางไวบ้ นรา่ งกายทที กุ ขท์ รมานหรือใชเ้ พอื ป้องกนั โรค

8

ชาวอียิปตม์ ีความเชือเรืองวิญญาณทีเรียกว่า คา(Ka) แหล่งกาํ เนิดชวี ิต และ
ปลดปลอ่ ย บา(Ba) ซงึ บรรจลุ กั ษณะเฉพาะของบุคคล สาํ หรบั การเดินทางสโู่ ลกใต้
พิภพ

คาถาสําหรับชีวิตหลังความตาย ชาวอียิปต์โบราณเชือว่า บา ซึงเป็น
องคป์ ระกอบของจิตวิญญาณซึงเป็นบุคคลิกของผูต้ าย ตอ้ งเผชิญหน้ากับการ
ทดสอบหลายอย่างในการเดินทางไปในโลกใตพ้ ิภพ หากลม้ เหลวก็จะตายครงั ที
สอง มนั จะทาํ ลายความทรงจาํ ทางโลกของผตู้ ายใหพ้ เนจรไปเหมือนสมั ภเวสตี ลอด
กาล เพือหลีกเลียงการตายครงั ทีสองชาวอียปิ ตโ์ บราณจึงทาํ การเขียนหนงั สือแห่ง
ความตาย ซึงในตาํ รานีจะมคี าถาคมุ้ ครองวิญญาณเพือใหเ้ ดินทางอยา่ งปลอดภยั
จากสงิ อนั ตรายทงั ปวง
แอฟรกิ า(Africa)
เวทมนตรใ์ นแอฟรกิ าเป็นหนงึ ในเวทมนตรท์ ีมคี วามเก่าแกแ่ ละมอี าํ นาจมากเฉกเชน่
ในอารยธรรมก่อนหนา้ นี เวทมนตรค์ าถาของพวกเขาจงึ มที งั ดีและรา้ ย แต่ละชนเผ่า
ก็จะมีรูปแบบเวทมนตรท์ ีแตกต่างกนั ไป เวทมนตรข์ องพวกเขายงั มคี วามเกียวพนั
กับวิถีชีวิต จิตวิญญาณและธรรมชาติ มีการใชเ้ วทมนตรแ์ บบพืนบา้ น การรกั ษา
ดว้ ยสมนุ ไพรและการใชค้ าถาโดยหมอยา ซงึ นกั พยากรณจ์ ะใชก้ ารเสียงทายโดยใช้
กระดูก เปลือกหอยเพือให้คาํ ทาํ นายสิงต่าง ๆ รวมถึงมีพ่อมดทีมีอาํ นาจในการ
สรา้ งฝนซงึ ไดร้ บั อาํ นาจจากวิญญาณเพอื
ทาํ ใหฝ้ นตกอกี ดว้ ย นีคือตวั อย่างของเวท
มนตรแ์ อฟรกิ าซงึ มีทงั ดีและรา้ ย

กันกา(Nganga) เป็นคาํ ในภาษาคิ
คองโกสาํ หรับใช้เรียกนักสมุนไพรหรือ
ผู้รักษาทางจิตวิญญาณ ในอณาจักร
คองโกคาํ ว่า กนั กา เป็นชือเรยี กบุคคลผูม้ ี

9

ทกั ษะในการติดต่อกบั โลกอืนได้ รวมถึงการทาํ นายสาเหตกุ ารเจ็บป่วยและความ
โชครา้ ย

ในแอฟรกิ าใต้ อนิ ยนั กา(Inyanga) มีบทบาทในการรกั ษาโรคเช่นเดียวกบั ซาน
โกมา(Sangoma) ซึงนอกจากรักษาโรคแลว้ ยังมีความเกียวข้องกับการทาํ นาย
ชะตาและวิญญาณบรรพบรุ ุษอีกดว้ ย

สาํ หรบั ชาวโชนา(Shona)แห่งซมิ บับเว(Zimbabwe) เรียกว่า อนั กา(N’anga)
หมายถึงผูร้ กั ษาแบบดงั เดิมโดยใชก้ ารผสมผสานระหว่างสมุนไพร ยา และความ
เชอื ทางศาสนา

มดหมอ(Witch Doctor) หมายถึงหมอประเภทหนึงทีรกั ษาโรคต่าง ๆ อนั เกิด
จากคาถา และคาํ นียังใชเ้ รียกหมอทัวไปอีกดว้ ย ซึงมักใชเ้ รียกหมอทีรักษาแบบ
ดงั เดิมมากกว่าหมอรกั ษาแผนปัจจุบนั ในแอฟรกิ าใตเ้ รียกหมอพืนบา้ นวา่ ซานโก
มา(Sangoma)

ในแอฟนิกาตะวันตกมีเวทมนตร์ของ โวดุน(Vodun) ซึงเกียวพันกับจิต
วิญญาณในธรรมชาติ คําว่า Vodun เป็นภาษาฟอน(Fon), กัน(Gun)และเอเบ
(Ewe) มีความหมายว่า จิตวิญญาณ โวดุนเป็นความเชือแอฟริกันทีเก่าแก่และมี
ชือเสยี งมากในชอื ของ วูดู(Vodoo) นนั เอง โวดนุ คือตน้ แบบเป็นของดงั เดิม

พวกเขาเชือว่าจิตวิญญาณนนั มอี ยใู่ นทกุ สิงของธรรมชาติ เชน่ ในลาํ ธาร ตน้ ไม้
และกอ้ นหินทงั หลาย มกี ารฝึกตนดว้ ยการรอ้ งเพลงและประกอบพิธีกรรม โวดนุ เชือ
ว่ามีจิตวิญญาณผู้สรา้ งสรรพสิงนามว่า มาวู(Mawu) หรือ มาฮู(Mahu) อยู่ใน
รูปลกั ษณข์ องสตรชี รา มบี ตุ รเจด็ คนซงึ เป็นจติ วิญญาณประจาํ ธรรมชาติต่าง ๆ

โวดนุ มกี ารใชค้ าถาในรูปแบบของเครอื งรางดว้ ยทีเรยี กกนั วา่ กรกี ร(ี Gris Gris)
เป็นถุงเครืองรางทาํ จากหนังสัตว์ ภายในบรรจุสิงของต่าง ๆ เช่น รากไม้ กระดูก
วัตถุมีอํานาจ เป็นตน้ ใช้พกติดตัวเพือปกป้องสิงชัวรา้ ยและนําโชค ภายหลัง

10

กลายเป็น ฮูดู(Hoodoo) จึงเปลียนจากถงุ หนังสตั วม์ าเป็นถุงทาํ จากผา้ แทน และ
เรยี กว่า โมโจ(Mojo) ทเี รารูจ้ กั กันในปัจจบุ นั นี

เวทมนตรแ์ หง่ อาซานเด(Azande) เวทมนตรข์ องชาวซานเดในแอฟรกิ ากลาง
ทางตอนเหนือ เวทมนตรข์ องพวกเขาใชท้ าํ อนั ตรายต่อบคุ คลซงึ พลงั ของพวกเขาจะ
เป็นแบบสง่ ต่อผา่ นตระกูลตนเองเท่านนั พวกเขาจะใชเ้ วทมนตรเ์ มอื มคี วามเกลียด
ชงั ต่อบุคคลอืน ใชเ้ วทมนตรเ์ พือจดั การกับธรรมชาติใหท้ าํ รา้ ยเหยือ นกั พยากรณ์
และหมอยา(Witch Doctor) จะเป็นผูต้ ดั สนิ วา่ ใครใชเ้ วทมนตรก์ บั ชาวบา้ นหรอื ไม่

พวกเขามีธรรมเนียมอย่วู ่า ผูส้ ืบทอดเวทมนตรจ์ ะตอ้ งเป็นเพศเดยี วกนั เทา่ นนั
เช่น ตัวของแม่มดเป็นผูห้ ญิง ลกู ของแม่มดจะตอ้ งเป็นผูห้ ญิงจึงจะถ่ายทอดเวท
มนตรใ์ หแ้ กล่ กู ของเธอได้ เวทมนตรส์ ามารถใชไ้ ดใ้ นระยะสนั เทา่ นนั พวกเขาใชเ้ วท
มนตรท์ าํ ใหเ้ กิดการบาดเจบ็ หรอื ตายได้ สามารถบงั คบั สตั วเ์ พอื ใหฆ้ ่าใครบางคนได้
แนน่ อนว่ากอ่ นจะใชเ้ วทมนตรใ์ ดจะตอ้ งไดร้ บั คาํ แนะนาํ จากนกั พยากรณก์ อ่ นเสมอ
กรกี โบราณ(Ancient Greek)
จากมหากาพยอ์ ีเลียดของโฮเมอรใ์ นยคุ สาํ ริดไปจนถึงโลกเฮลเลนิสติกทีกวา้ งขึน
ในช่วงตน้ ครสิ ตศ์ กั ราช เครืองราง วรรณกรรมและจารกึ เป็นหลกั ฐานทีชีชดั ถึงการ
แพร่หลายของสิงทีเรียกว่า มาเกีย(Mageia) หรอื เวทมนตรข์ องกรีกโบราณนันเอง
เชน่ เดียวกนั กบั ระบบความเชอื เก่าแก่ เวทมนตรแ์ ละศาสนามคี วามเกียวขอ้ งกนั

อุปกรณเ์ วทมนตรข์ องชาวกรีกโบราณมี
หลากหลายรูปแบบ ชาวกรีกมีความเชือวา่ หนิ
บางชนิดมีอาํ นาจวิเศษในตวั เอง เช่น แรเ่ ฮมา
ไทตใ์ ชป้ ้องกนั ทารกในครรภ์ และหินแจสเปอร์
สเี ขียวออ่ นใชร้ กั ษาโรคกระเพาะ นอกจากยงั มี
เครืองรางชนิดอืนซงึ ทาํ จากไม้ กระดูกอีกดว้ ย

11

ซงึ ชาวกรีกจะใชส้ ิงเหลา่ นีดว้ ยการสวมใสม่ นั ติดตวั เอาไว้
ชาวกะลาสีเรือเมือพวกเขาจะออกเดินทางจะใชจ้ ีเครืองรางรูปเทพโพไซดอน

(เทพแห่งทอ้ งทะเล) มีตรีศูลในมอื และยนื อย่บู นปลาโลมา หรือผทู้ ีกลวั บาสคาเนยี
(Baskania) นยั นต์ าปีศาจ จะใชจ้ รี ูปดวงตาเพอื ปัดสายตาอนั ชวั รา้ ยออกไป

หนงั สือคาถาบรรจพุ ิธีกรรมในการสรา้ งเครืองรางเกียวขอ้ งกบั เวทมนตรค์ าถา
และการสรา้ งสญั ลกั ษณม์ ือ เครืองรางสว่ นใหญ่จะถกู จารกึ ดว้ ย แอนนาแกรม (การ
เรยี งตวั อกั ษรสลบั กันเพอื ใหไ้ ดค้ าํ ใหม)่ หรือ พาลินโดรม (ถอ้ ยคาํ หรอื วลีทสี ามารถ
อา่ นจากหลงั ไปหนา้ หรอื หนา้ ไปหลงั แตย่ งั คงมคี วามหมายเหมือนเดิม) พวกเขาจะ
ใชช้ ือของเทพเจา้ แลว้ นาํ ไปใสไ่ วใ้ นล็อกเกต็ ทีมีตาํ ราปาปิรสั บรรจปุ กรณมั เอาไว้

ชดุ อปุ กรณพ์ ิธีกรรมของผูว้ เิ ศษของชาวกรีกนนั มีอย่ดู ว้ ยกันหลายอยา่ ง ทีรูจ้ กั
กันอย่างไมก้ ายสิทธิของ แม่มดเซอซี(Circe) หินขัดมัน กระจก อ่างนาํ ฉาบ พิณ
ฮารฟ์ และโรมบอส(Rhombos) เป็นเครืองดนตรีชนดิ หนึงใชใ้ นทางศาสนา ลกั ษณะ
เป็นเครืองปันสาํ หรบั ใชเ้ ป็นตัวขยายอาํ นาจเวทมนตร์ ผูว้ ิเศษมีการใช้ ฟาร์มากา
(Pharmaka) หรือทีเรารูจ้ กั กนั ในชอื โพชนั นนั เอง

ตัวอย่างในมหากาพย์โอดีสซีย์ โอดีสซีอุสหยิบยาซึงทําจาก โมลี(Moly)
สมนุ ไพรวเิ ศษมาสกัดเพือไม่ใหเ้ ซอซีเปลียนร่างเขาใหก้ ลายเป็นหมู ฟารม์ ากาถกู
เสรมิ ดว้ ย ฟิลตรา(Philtra) ยาเสนห่ แ์ ละยาพิษชนิดหนึง ในตาํ นานของเฮอรค์ ิวลิส
เดยี นรี า ภรรยาของวรี บรุ ุษไดบ้ งั เอญิ ฆ่าสามขี องตนเองโดยทาเสอื คลมุ ของเขาดว้ ย
ฟิลตราซงึ คือเลอื ดของเซนทอรเ์ นสซสุ

มีภาชนะใบหนึงบนภาชนะนันถูกวาดเป็นรูปแม่มดนามว่า มีเดีย(Medea)
กาํ ลงั ทาํ การปรุงยาโดยการตม้ ชินส่วนของแกะตวั ผตู้ วั หนึงดว้ ยสมนุ ไพรวิเศษ ทาํ
ใหช้ นิ สว่ นของแกะเหล่านนั ประกอบเขา้ ดว้ ยกนั เป็นรา่ งเดมิ ซงึ เป็นตวั อยา่ งของการ
ใชเ้ วทมนตรช์ ุบชวี ิต แถมแกะตวั นียงั แลดอู อ่ นเยาวล์ งดว้ ย

12

ดังเดิมนันเวทมนตรค์ าถาใชป้ ากเปล่าจนกระทังเวทมนตรไ์ ดเ้ ริมเขา้ สู่การ
บนั ทึกดว้ ยภาษากรีก ซึงเขียนเอาไวใ้ นช่วงศตวรรษที 6 ก่อนคริสตกาล ช่วงเวลานี
แนวคิดเรืองเวทมนตรไ์ ดผ้ ่านออกไปยังแดนตะวันตก จากจักรวรรดิเปอรเ์ ซีย
(ผูว้ เิ ศษบางครงั ถกู เรียกว่า ชาวแคลเดยี เปอรเ์ ซยี ซงึ มีพรมแดนติดกับบาบิโลเนีย)
เวทมนตรค์ าถาจาํ นวนมากสามารถอย่รู อดไดใ้ นศตวรรษที 4 ก่อนคริสตกาลและมี
การเพิมขึนอกี ครงั ในชว่ งศตวรรษที 1 ก่อนครสิ ตกาล อย่างใน กระดาษปาปิรสั เวท
มนตร์กรีก(Greek Magical Papyri) มีการค้นพบในประเทศอียิปต์ซึงมีคาถา
จาํ นวนมากมาย เช่น คาถาสาํ หรบั การรกั ษา คาถาใชห้ ลบเลียงความชวั รา้ ยและ
การทาํ อนั ตรายศตั รู เป็นตน้

เวทมนตรผ์ กู มดั ทฤษฎีเวทมนตรก์ รีกโดยส่วนใหญ่แลว้ มกั มีแนวคิดเรืองการ
ผูกมดั เป็นการควบคุมของกายภาพหรือปัญญาของเหยือและผูกมัดไว้กับความ
ประสงคข์ องผูร้ ่ายคาถานนั แมก้ ระทงั พระจนั ทรเ์ องก็สามารถผกู มดั ไดเ้ ช่นกัน ใน
พิธีกรรมทีเรียกว่า การดึงจันทรา(Drawing Dawn the Moon) ซึงพิธีกรรมนีเป็น
ความสามารถอันเชียวชาญเป็นพิเศษของแม่มดเธรเชียน ซึงรวบรวมสิงทีเรียกว่า
โฟมจนั ทรา ซงึ เป็นการกระทาํ เครืองขยายอาํ นาจในนาํ ยาวิเศษ

คาํ สาปในเวทมนตรก์ รีก คาํ สาปเป็นรูปแบบพิเศษของการผูกมัด บางครงั มี
การเปิดเผยต่อสาธารณะ เช่น หลุมฝังศพทีเตือนผูส้ ญั จรผ่านไปมาไม่ใหล้ ะเมิดต่อ
หลมุ ศพนนั หรอื เชอื มโยงดว้ ยคาํ สาบานซงึ ถกู สรา้ งขึนโดยชาวเธราซงึ อพยพไปอยู่
ซิเรเนในแอฟริกาเหนือ ชาวเธราสรา้ งคาํ สาบานโดยทีพวกเขาจะหลอมหุ่นขีผึง
ขึนมาเพือว่าหากพวกเขาไมป่ ฏิบตั ิตามคาํ สาบาน คาํ สาปจะโจมตีเขา ขีผึงนนั ก็จะ
ละลาย

คาํ สาปถูกสรา้ งขึนอย่างลบั ๆ บนกระดาษปาปิรสั และฝังมันไวใ้ ตด้ ิน พวกเขา
มกั เรมิ ตน้ ดว้ ยสตู รทีว่า ขา้ จกั ผูกมดั โดยระบสุ ่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายของเหยือ เชน่

13

ต้องการผูกมัดนักกีฬา เขาจะผูกแขนและขาของหุ่นจําลอง เพือทําลาย
ความสามารถในการแข่งขนั ของบคุ คลนนั

การผกู มดั เจตนารมณข์ องเหล่าเทพเจา้ เป็นงานทียากกว่า เป็นแขนงหนึงของ
เวทมนตรท์ เี รยี กว่า เธอรก์ (ี Theurgy) อนั เป็นการกระทาํ จากเบอื งบน ผูฝ้ ึกเธอรก์ ีจะ
เขา้ ส่แู ดนศกั ดิสิทธิผ่านความฝัน หรือการไดร้ บั นิมติ ผ่านสิงทีเรียกว่า เลคาโนแมน
ซี(Lecanomancy) หรือการทาํ นายดว้ ยการหยดนาํ มนั ลงบนผิวนาํ ในอ่าง ทาํ ให้
เกิดคลืนนําทีสรา้ งแรงบันดาลใจในการสือสารกับเทพเจ้า หรือ ลิบาโนแมน
ซี(Libanomancy) การติดต่อกับเทพเจ้าดว้ ยการมองไปทีรูปร่างของเปลวไฟใน
ตะเกียง

แผ่นตอ้ งสาป(Curse Tablet) แผ่นจารกึ คาถาแห่งซิซิลี ซึงเรียกรอ้ งใหค้ ู่แข่ง
ของนกั เขยี นในคดีความไม่สามารถแสดงขอ้ โตแ้ ยง้ ในศาลได้

การเรียกคนตาย คาํ สาปเป็นสิงหนึงทีแสดงใหเ้ ห็นถึงดา้ นมืดของเวทมนตร์
ของกรกี เนโครแมนซี ศลิ ป์ แห่งการพดู คยุ กับคนตาย หรือการปลกุ คนตายซงึ เกดิ ขนึ
ในสถานทีต่าง ๆ เช่น เนโครแมนเตออน(Necromanteion) ในโอฟิ รัส คาํ สาป
บางครงั ถกู จารกึ ไวบ้ นแผ่น ลาเมลเล(Lamellae) ซงึ เป็นแผน่ ตะกวั ชนิดบางซงึ มว้ น
และฝังเอาไวใ้ นบ่อนาํ หรือฝังไวก้ บั ศพ ซึงจะสามารถถ่ายทอดความปรารถนาของ
ผูก้ ระทาํ ไปยงั อาํ นาจโลกใตพ้ ิภพ เช่น ฟิ วรีและฟราซิดีไค จิตวิญญาณปีศาจแห่ง
การลา้ งแคน้

มีการคน้ พบคาํ สาปเหล่านีหลายรอ้ ยแผ่นทวั กรีก การกระทาํ นีไดแ้ ผ่กระจาย
ไปยงั จกั รวรรดิโรมนั ในช่วงเวลาต่อมา จนถึงสหราชอณาจกั รซงึ มีหลายเรือง เชน่
การคบั ขอ้ งใจ การเรียกรอ้ งความยุติธรรมจากโจร คู่สมรสนอกใจ หรือคู่แข่งทาง
ธุรกิจ

ชาวกรีกจะขอบคุณเทพเจา้ โดยทาํ แบบจาํ ลองดินเหนียวของศีรษะ ขา หรือ
มดลกู สาํ หรบั ความสาํ เรจ็ ของพธิ ีกรรมการรกั ษาดว้ ยเวทมนตร์

14

โรมนั โบราณ(Ancient Roman)
เวทมนตรข์ องโรมนั นนั ไดร้ ับมรดกมาจากเวทมนตรข์ องกรีกโบราณ ดว้ ยความที
พวกเขารูส้ ึกว่าเวทมนตรเ์ ป็นวิถีทางของการไดม้ าซึงสิทธิเสรีภาพเหนือเหล่าทวย
เทพ ภายใตก้ ารปกครองของโรมนั ในขณะนนั มีการแบง่ แยกระหว่างศาสนาและเวท
มนตร์ เรมิ มคี วามชดั เจนขึนและมกี ารกดขีผูท้ ีปฏิบตั ิเวทมนตร์

เวทมนตรข์ องโรมันส่วนใหญ่แล้วสืบทอดมาจากผู้คนทีอาศัยอยู่ในอิตาลี
โบราณก่อนชาวโรมนั เช่น บทบาทสาํ คญั ของ ฮารุสเปกซ(์ Haruspex) นกั บวชผซู้ งึ
ทํานายจากรูปแบบและสีจากตับของสัตว์ ซึงแสดงถึงอิทธิพลของอิทรัสคัน
(Etruscan) ในชว่ งยคุ แรก

อูกูรี(Augury) การอ่านลางบอกเหตุจากสภาพอากาศ การบินของนก หรือ
อวยั วะภายในของสัตวส์ ังเวย ทังสองอย่างนีไดก้ ลายเป็นแนวปฏิบัติอย่างเป็น
ทางการของรฐั โรมนั

ห ลั ง จ า ก ก า ร พิ ชิ ต ก รี ก ข อ ง โ ร มั น ใ น
ศตวรรษที 2 ก่อนคริสตกาล ความเชือของ
ชาวกรีกในเรืองของเวทยผ์ กู มดั รวมถงึ การใช้
แผ่นคาํ สาปเพือให้แน่ใจว่าไดร้ ับชัยชนะใน
การแข่งขัน ได้เริมมีการแทรกซึมเข้าสู่
วัฒนธรรมของโรมัน เครืองรางก็กลายเป็น
เรืองธรรมดามากขึน ดังจะเห็นไดจ้ ากการที
เด็กชายชาวโรมันสวมใส่สิงทีเรียกว่า บูลลา(Bulla) เครืองรางรูปลึงคซ์ ึงใช้เพือ
ป้องกนั ดวงตาอนั ชวั รา้ ย
ในครสิ ตศ์ กั ราช 180 จกั รพรรดิมารก์ สุ อเู รเลียส(Marcus Aurelius) ไดท้ าํ การ
โจมตีชาวควาดี(Quadi) บนแม่นาํ ดานูบ ซึงกองทหารของเขาไดร้ บั ความช่วยเหลือ
จากการขาดแคลนนาํ โดยผูว้ ิเศษชาวอียิปตน์ ามว่า อาร์โนฟิส(Arnouphis) เป็นผู้

15

เสกใหฝ้ นตก จกั รพรรดิยงั ไดป้ รกึ ษาคาํ พยากรณจ์ ากซีบิล(Sibyl) ในช่วง 520 ปี
ก่อนครสิ ตกาล เป็นหนังสือทีรวมชดุ คาํ ทาํ นายเอาไว้ หนงั สือดงั กล่าวถูกเก็บไวใ้ น
วิหาร คาปิโตลีน จปู ิเตอร์(Capitoline Jupiter)

เวทมนตรแ์ ละโหราศาสตรย์ อดนิยม เวทมนตรผ์ สมผสานกับลทั ธิปรชั ญาและ
ลทั ธิอนั ลึกลบั ซึงความเชืออนั ลกึ ลบั นีไดเ้ ติบโตขึนในหมชู่ าวโรมนั รวมไปถึงลทั ธิพิ
ทาโกเรียน(Pythagoreanism) การบูชาเทพีไอซิสและเฮอรเ์ มติกซึมซึงเป็นสาขา
หนึงของโรงเรียนปรชั ญาของนีโอเพลโตนิซึม(Neoplatonism) ซึงกาํ หนดใหก้ าร
สรา้ งโลกทางกายภาพเป็นพลงั ของสตรีนามว่า เฮคาต(ี Hecate)

ในช่วงครสิ ตศ์ ตวรรษที 1 เวทมนตรร์ ูปแบบต่าง ๆ มคี วามเจรญิ รุง่ เรอื งขึน ชาว
โรมนั มีแม่มดทีเรียกว่า แพรแคททริเซส(Praecantrices) แม่มดผูซ้ ึงขายยาเสน่ห์
และประกอบพิธีกรรมรกั ษาแบบง่าย และบรรดาโหราจารยผ์ ูม้ คี วามสามารถในการ
ทาํ นายดว้ ยการโคจรของดวงดาวบนทอ้ งฟ้า

ชาวโรมันมีศาสตรก์ ารพยากรณด์ ว้ ยดวงดาวอย่างโหราศาสตร์ เช่น ความ
ฉลาดเฉลียวจากดาวเสาร์ การต่อสโู้ ดยใชก้ าํ ลงั จากดาวองั คาร คาํ ปราศยั จากดาว
พธุ การปกครองจากดาวพฤหสั บดี เป็นตน้

เวทมนตรใ์ นสมยั โรมนั มีกฎหมายทีเขม้ งวดมาก สาํ หรบั ใชล้ งโทษแก่ผใู้ ช้ เวเน
ฟิซิอุม(เวทมนตร์ชวั รา้ ย) หลายคนถูกประหารชีวิตเนืองจากการใช้ยาพษิ และยา
วิเศษ ชาวโรมนั มีเวทมนตรท์ ีเกียวกบั ความตายเช่นเดียวกบั อารยธรรมอืน ซึงไดร้ บั
การสืบทอดมา มชี าวโรมนั บางคนฝึกฝนศาสตรแ์ ละศิลป์ อนั น่ากลวั นี ดงั มีปรากฏ
ใน ครสิ ตศ์ กั ราช 19 ว่ามีการถกู กล่าวว่าพวกเขาใชเ้ วทมนตรอ์ นั เกียวกบั ความตาย
รวมถงึ มแี ผน่ จารกึ คาํ สาป คาถา และศพทีถกู เผาไฟ


Click to View FlipBook Version