The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การละลาย (เทียนหอม)สมบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by วชิรวิชญ์, 2021-08-22 01:01:37

การละลาย (เทียนหอม)สมบูรณ์

การละลาย (เทียนหอม)สมบูรณ์

ชุดจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ตามแนวสะเต็มศึกษา
เรอ่ื ง เทยี นหอมสมุนไพรไล่ยุง

ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น

โดย พระใบฎีกาวชิรวชิ ญ์ อธปิ ญฺโ
โรงเรยี นวดั พระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หนว่ ยที่ 2 เร่ือง สารรอบตวั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1

แผนการเรยี นรู้ สะเตม็ ศึกษา ( STEM EDUCATION )

รายวชิ า วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารละลาย

หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1

นวตั กรรม เทียนหอมสมนุ ไพรไลย่ ุง ครูผสู้ อน พระใบฎกี าวชริ วิชญ์ อธิปญโฺ

เวลา 5 ชั่วโมง

สาระสำคญั

ในปจั จุบนั ประชาชนส่วนใหญม่ กั เปน็ โรคไข้เลอื ดออกไมว่ า่ จะเปน็ เดก็ หรือผใู้ หญ่ โรคไขเ้ ลือดออกเกิด

จากยุงทเี่ ป็นพาหะนำโรคท่เี ป็นอันตรายต่อมนษุ ย์ จึงได้มีผู้คดิ ค้นสิง่ ที่ช่วยในการกำจดั และปอ้ งกันยุง เช่น ครีม

ทากันยุง ยาฉดี กนั ยุง ยาจุดกันยงุ เปน็ ตน้ จากการศึกษาพบวา่ สิง่ เหล่าน้อี าจจะมสี ารเคมีเปน็ ส่วนผสมอยู่ ซงึ่

อาจทำให้ผู้บริโภคเกิดอาการแพไ้ ด้ในเวลาตอ่ มา จึงได้นำตะไคร้มาเป็นสว่ นผสมในเทียนหอมเพ่ือไลย่ ุง เพราะ

ตะไครม้ ีสารท่ีออกฤทธใิ์ นการไล่ยงุ กลนิ่ ตะไคร้มาจากน้ำมันหอมระเหยท่เี รียกรวมๆวา่ Essential oil ซง่ึ

ประกอบดว้ ยสารหลายตัว ยุงจงึ ไมช่ อบกลน่ิ ตะไคร้ ดงั นน้ั คณะผู้จัดทำจึงได้มองเหน็ ปัญหาเหล่าน้แี ละได้หา

วิธีการแกไ้ ขจึงได้มโี ครงงานเร่ืองเทยี นหอมสมนุ ไพรไลย่ งุ เพื่อเป็นการป้องกันยงุ อนั นำไปส่โู รคภัยได้ และยงั

เป็นการแปรรูปจากพชื สมนุ ไพรธรรมดาทม่ี ีสรรพคุณมากมายใหก้ ลายเปน็ ผลิตภณั ฑเ์ ทยี นหอมไล่ยงุ เพือ่

สามารถทำเป็นรายไดเ้ สริมใหแ้ ก่ตนเองหรือครอบครัวได้ อีกทัง้ เทียนยังใชใ้ นการจดุ ทำวัตรเช้า – เยน็ และยัง

สามารถปอ้ งกันยุงได้อกี ด้วย

ตัวชีว้ ดั

วิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ วศิ วกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี

กำหนดปญั หา ทดลอง - ระบบจำนวนจริง -การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ - การสืบคน้ ดว้ ยเทคโนโลยี
เปรยี บเทยี บ และอธิบาย - อตั ราสว่ น รอ้ ยละ
สมบตั ิของสารละลาย ตวั
ละลาย ตวั ทำละลาย

สาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์

 สมบตั ิของสาร คือ ลักษณะเฉพาะตวั ของสารแตล่ ะชนดิ ซง่ึ สามารถจำแนกสมบัติของสารได้ 2
ประเภท คอื 1. สมบตั ิทางกายภาพ เปน็ สมบตั ิท่บี ง่ บอกถึงลกั ษณะภายนอก ซึ่งสามารถทดสอบและสังเกตได้
งา่ ย ๆ และ 2. สมบัติทางเคมี เปน็ สมบัตทิ ใ่ี ช้ปฏิกิรยิ าเคมี เป็นตวั บ่งช้ี

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หนว่ ยท่ี 2 เร่ือง สารรอบตัว ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1

 การจำแนกประเภทของสาร สามารถจำแนกสารออกเป็นกล่มุ ๆ ตามสถานะ เนื้อสาร หรอื

เกณฑ์อืน่ ท่ีกำหนดข้ึน การจำแนกประเภทสารสามารถจำแนกไดห้ ลายแบบขนึ้ อยู่กับเกณฑท์ ใ่ี ช้

 การจำแนกประเภทสารโดยใช้สถานะเป็นเกณฑ์ จำแนกได้เป็นของแขง็ ของเหลว และแกส๊ ซ่ึงสาร

แตล่ ะสถานะมสี มบตั ิ (ความหนาแนน่ การรักษารูปทรง ปรมิ าตร การไหล การแพร่) แตกต่างกัน

 พลงั งานกบั การเปลย่ี นสถานะของสาร

1. การเปล่ยี นสถานะที่เป็นการเปลย่ี นแปลงแบบดูดความร้อน ได้แก่ ของเหลว เรียกการหลอมเหลว

1) ของแขง็ เปล่ยี นสถานะไปเป็นของเหลว เรยี กการหลอมเหลว

2) ของเหลวเปลี่ยนสถานะไปเปน็ แก๊ส เรียกการเดือด/การระเหย

3) ของแข็งเปล่ยี นสถานะไปเปน็ แกส๊ เรยี กการระเหิด

2.การเปล่ียนสถานะทีเ่ ปน็ การเปลย่ี นแปลงแบบคายความรอ้ น ไดแ้ ก่

1) แกส๊ เปลี่ยนสถานะไปเปน็ ของเหลว เรียก การควบแน่น

2) ของเหลวเปลี่ยนสถานะไปเป็นของแขง็ เรียก การเยือกแข็ง

3) แกส๊ เปลย่ี นสถานะไปเปน็ ของแข็ง เรียก การควบแนน่

 จุดหลอมเหลว คอื อุณหภูมิขณะท่ีของแข็งเปลย่ี นสถานะเปน็ ของเหลว

 จุดเยือกแขง็ คอื อณุ หภูมิขณะที่ของเหลวเปลี่ยนสถานะเปน็ ของแข็ง

 จดุ เดอื ด คอื อุณหภมู ิขณะที่ของเหลวเปล่ียนสถานะเป็นแกส๊

 จดุ ควบแนน่ คอื อุณหภมู ิขณะท่ีแก๊สเปลี่ยนสถานะเปน็ ของเหลว

 การจำแนกประเภทสารโดยใช้เน้ือสารเป็นเกณฑ์ จำแนกสารได้เปน็ 2 ประเภท คือ สารเนอ้ื

ผสม และสารเนื้อเดียว

- สารเนอื้ ผสม (heterogeneous substance) คอื สารท่ลี กั ษณะเน้ือสารไม่กลมกลืนกนั

- สารเนื้อเดยี ว (homogeneous substance) คอื สารทม่ี ีลักษณะเนอื้ สารกลมกลนื กนั จำแนกได้

เป็น 2 ประเภท คือ สารบริสทุ ธ์ิ และสารละลาย

 การจำแนกประเภทสารโดยใช้อนภุ าคเปน็ เกณฑ์ จำแนกสารไดเ้ ปน็ 3 ประเภทคือ สารละลาย

คอลลอยด์ และสารแขวนลอย

- สารละลาย (solute) คอื สารเนือ้ เดียวทีเ่ กดิ จากสารต้งั แต่ 2 ชนิดข้นึ ไปผสมรวมกัน โดยอัตราสว่ น

ของการผสมไม่คงที่

- คอลลอยด์ (colloid) คือ ของผสมทม่ี ีลักษณะข่นุ ประกอบดว้ ย อนภุ าคของสารชนิดหน่งึ หรือ

หลายชนิดลอยกระจายอยู่ในตัวกลาง

- สารแขวนลอย (suspension) คือ สารเน้ือผสมทม่ี องเหน็ อนุภาคของสารชนิดหน่ึงหรือหลายชนิด

ลอยกระจายอยูใ่ นสารอีกชนิดหน่ึงทเี่ ปน็ ตัวกลาง เม่ือท้งิ ไว้จะตกตะกอนและสามารถแยกสารท่ีแขวนลอยอยูใ่ น

สารเน้อื ผสมออกมาได้โดยการกรอง ตาราง ขนาดอนุภาคและสมบัติของสารละลาย คอลลอยด์ และสาร

แขวนลอย

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หน่วยที่ 2 เรื่อง สารรอบตวั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 1

ชนดิ ของของผสม สารละลาย คอลลอยด์ สารแขวนลอย
ขนาดอนุภาค
น้อยกวา่ 10-7 เซนติเมตร 10-7 - 10-4 เซนตเิ มตร มากกวา่ 10-4 เซนตเิ มตร
(เส้นผ่านศูนยก์ ลาง)
ผลการทดสอบ ผ่านได้ท้งั กระดาษกรอง ผ่านไดเ้ ฉพาะ ไมผ่ า่ นทั้งกระดาษกรอง
ด้วยการกรอง และเซลโลเฟน กระดาษกรอง และเซลโลเฟน

คณติ ศาสตร์
จำนวนจริง

• จำนวนเตม็ คอื จำนวนท่ีเป็นตัวเลขเตม็ ๆ หรอื ตวั เลขที่ไม่มีทศนิยมนั่นเอง นน่ั คือ ตัวเลขท่ีเราใช้นับ
น่ันเอง ยกตวั อย่างเชน่ 1, 2, 3, 4 ... ท้งั นี้ทั้งนัน้ รวมไปจนถึงคา่ ที่ตบิ ลบของจำนวนนบั นี้และศนู ยด์ ว้ ย
เชน่ 0, -1, -2, -3, -4 ....

• จำนวนตรรกยะที่ไม่ใช่จำนวนเต็ม ความหมายของจำนวนนี้กต็ ามความหมายของช่ือเลยครบั นนั่ คอื
ตวั เลขเขียนในรปู ของทศนยิ มซำ้ ไดโ้ ดยท่ีไมไ่ ด้เป็นเลขจำนวนเตม็ น่นั เอง อย่างเชน่ 1/2=0.5 หรือ 1/3
= 0.333... (สามซำ้ )

อตั ราสว่ น รอ้ ยละ
1. อตั ราสว่ น (Ratio) คือ การเปรียบเทยี บของสิ่งหนึ่งต่อของอกี สิง่ หน่งึ ทมี่ หี น่วยอยา่ ง เดียวกัน เช่น a
: b อา่ นว่า a ต่อ b หรือ a/b
2. . อัตราสว่ นท่เี ท่ากนั คอื อัตราสว่ นทแี่ สดงอัตราเดียวกัน นัน่ เอง เชน่ 3 : 5 = 6 : 10 = 12 :
20 เปน็ ต้น
3. สัดสว่ น (Proportion) คอื ประโยคสญั ลักษณท์ ีแ่ สดงการเท่ากันของ 2 อัตราสว่ น เช่น a :
b = c : d อา่ นว่า a ตอ่ b เทา่ กบั c ต่อ d
4. รอ้ ยละ (percentage) คอื อัตราส่วนทมี่ ีจำนวนหลงั หรอื จำนวนทส่ี องเป็น 100 เช่น 78 :
100 หมายถงึ ร้อยละ 78 หรอื 78%

เทคโนโลยี ( คอมพิวเตอรแ์ ละออกแบบเทคโนโลยี )
การสบื คน้ ข้อมูลทางอินเทอรเ์ นต็ (Search Engine) คือ เครือ่ งมือทใ่ี ช้ในการคน้ หาข้อมูลหรอื

โปรแกรมการ คน้ หาข้อมูลต่างๆ ในโลกออนไลน์ อนิ เทอร์เน็ต ไม่ว่าจะคน้ หาข้อมูลท่เี ป็นขอ้ ความ รูปภาพ
ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนท่ี ขอ้ มลู บุคคล ข่าว อืน่ ๆ โดยการคน้ หาขอ้ มลู จากการก าหนดค
าส าคัญ หรอื Keyword ทผ่ี ใู้ ช้ ป้อนเข้าไปในเว็บไซต์ค้นหาค า จากนัน้ เวบ็ ไซต์ก็จะท าการค้นหาค าน้ัน

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หนว่ ยท่ี 2 เรือ่ ง สารรอบตัว ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1

ให้ แล้วแสดงผลลพั ธท์ ่คี ิดวา่ ผใู้ ชต้ อ้ งการขึ้นมา ไดอ้ ย่างรวดเร็ว Search Engine มหี ลายตัวแตป่ ัจจุบันที่
นิยมมากที่สุดคือ google ซ่ึงจะบนั ทึกประวัตกิ ารค้นหาข้อมูล ไวด้ ้วยประโยชน์ของ Search Engineคือ
1. ค้นหาเว็บที่ตอ้ งการไดส้ ะดวกรวดเรว็ 2. สามารถค้นหาข้อมลู แบบเจาะลกึ ได้ ท้ังขอ้ ความ รูปภาพ ข่าว
เพลง ภาพเคล่ือนไหว ฯลฯ 3. มคี วามหลากหลายในการค้นหาขอ้ มลู 4. รองรบั การค้นหาภาษาไทย
ตารางเปรียบเทยี บแนวปฏบิ ัติทางวทิ ยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี

วทิ ยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี คณติ ศาสตร์
(Science) (Engineering) (Technology) (Mathematics)
ต้ังคำถาม (เพ่ือ นิยามปัญหา (เพ่ือพฒั นา ตระหนักถึงบทบาทของ ทำความเข้าใจและพยายาม
เข้าใจธรรมชาติ) คณุ ภาพชีวติ ) เทคโนโลยีตอ่ สังคม แกป้ ัญหา
พฒั นาและใช้ พัฒนาและใชโ้ มเดล ใชค้ ณิตศาสตร์ในการสร้าง
โมเดล เรียนรูว้ ิธีการใช้งาน โมเดล
ออกแบบและลงมือ ออกแบบและลงมือ เทคโนโลยีใหมๆ่ ใชเ้ ครือ่ งมือที่เหมาะสมในการ
ทำการค้นควา้ วจิ ัย ทำการค้นควา้ วิจัย ทดลอง แก้ปัญหา
ทดลอง เขา้ ใจบทบาทของ
วเิ คราะห์ข้อมูล วเิ คราะห์ข้อมูล เทคโนโลยีในการพัฒนา ใหค้ วามสำคญั การความแมน่ ยำ
ใชค้ ณติ ฯ ช่วยใน ใช้คณิตฯ ช่วยในการคำนวณ ดา้ นวิทย์ฯ และวิศวกรรม ใช้ตวั เลขในการใหค้ วามหมาย
การคำนวณ หรอื เหตผุ ล
สรา้ งคำอธบิ าย ออกแบบวิธีแก้ปัญหา ตดั สนิ ใจเลอื กใช้ พยายามหาและใชโ้ ครงการใน
เทคโนโลยโี ดยพจิ ารณา การแกป้ ัญหา
ใช้หลกั ฐานในการ ใช้หลักฐานในการยืนยนั ถึงผลกระทบต่อสงั คม สร้างข้อโต้แย้งและสามารถ
ยนื ยันแนวคิด แนวคิด และสิง่ แวดล้อม วพิ ากษ์การให้เหตผุ ลของผอู้ ่ืน
ประเมินและ ประเมนิ และส่อื สารแนวคิด มองหาและนำเสนอระเบยี บวิธี
สอื่ สารแนวคดิ ในการเหตผุ ลซ้ำๆ

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หน่วยท่ี 2 เรอื่ ง สารรอบตัว ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1

ผงั มโนทศั น์

วิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์

กำหนดปญั หา ทดลอง เปรยี บเทียบ - ระบบจำนวนจรงิ
และอธบิ ายสมบตั ิของสารละลาย
ตวั ละลาย ตัวทำละลาย - อัตราส่วน รอ้ ยละ

เทียนตะไครห้ อมไล่ยงุ

วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี
ออกแบบและลงมือ - การคน้ หาข้อมลู ในการสร้าง
ทำการคน้ คว้า วิจัย ทดลอง สิ่งประดษิ ฐโ์ ดยใช้อินเตอรเ์ น็ต Search
หาขอ้ มูลเกย่ี วกบั อุปกรณ์ วธิ กี าร
ทดลอง เอกสารทเ่ี ก่ียงข้อง รปู แบบ
และหลกั การทำงาน

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หนว่ ยที่ 2 เร่อื ง สารรอบตัว ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1

จุดประสงค์

1. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นนำความรเู้ รอื่ ง สมบตั ิ และการสารละลายมาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั

2. เพือ่ ให้นกั เรยี นนำความรู้เรื่อง การหารอ้ ยละความเข้มข้นของสารมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

ไดอ้ ย่างถูกต้อง

3. เพ่อื ฝึกทักษะพน้ื ฐานของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ( วดั ชง่ั ตวง )

4. เพ่ือใหน้ กั เรียนได้เหน็ คณุ คา่ ของสมุนไพรไทย และการนำมาใช้ประโยชน์

5. เพอ่ื สง่ เสรมิ กระบวนการสืบเซาะหาความรผู้ า่ นช่องทางเทคโนโลยี

6. เพื่อสง่ เสรมิ กระบวนการ คดิ วเิ คราะห์ และการแก้ปัญหาของนักเรยี น

วัสดุอุปกรณ์

1. พาราฟิน 8. ภาชนะสำหรบั ตม้

2. สีน้ำมัน 9. ดา้ ยสำหรับทำไสเ้ ทยี น

3. ไมโครแวกซ์ 10. แก้วใส

4. โพลเี อททลี นี 11. เตาใหค้ วามร้อน

5. น้ำมนั หอมระเหยตะไครห้ อม 12. แมพ่ ิมพ์

6. กะละมัง 13.บีกเกอร์

7. เครอื่ งช่งั 14. ที่หยดสาร

แนวการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. กจิ กรรมน้าเขา้ สู่บทเรียน

1. นักเรียนและครู รว่ มกนั ทบทวน เรอื่ ง สถานะของสาร สารละลาย องค์ประกอบของสารละลาย

2. ครใู ห้นักเรยี นดูเทียนไข แล้วตั้งคำถามดงั นี้

- สิ่งทนี่ ักเรียนเหน็ มีสถานะอะไร จัดเป็นสารชนดิ ไหน แล้วมอี ะไรเปน็ องค์ประกอบบา้ ง

- นักเรียนคดิ ว่าเทยี นไข มีอะไรเปน็ ละลาย และ อะไรเปน็ ตัวทำละลาย

2. กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน

นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั ศึกษาพจิ ารณาเทียนไข รว่ มกนั คิด วิธีการทำเทียน วสั ดุ อุปกรณท์ ี่ใช้ในการ

ทำเทียน ตลอดจนรวมไปถึงสารเคมที ่เี ป็นองค์ประกอบของเทยี นไข

ขน้ั ที่ 1 กำหนดปัญหาหรือความต้องการ

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หน่วยที่ 2 เรื่อง สารรอบตัว ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1

สร้างสถานการณ์ใหก้ บั นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ โดยใหแ้ ตล่ ะกลุ่มคดิ ทำเทียนไขขน้ึ มาดว้ ยตนเอง
โดยมีเง่ือนไขวา่ เทียนไขที่สร้างขึ้นจะต้องมลี ักษณะพิเศษมากกว่าเทยี นไขทว่ั ไป ทั้งเร่ืองรูปร่าง รปู ทรง สีสัน
และประโยชน์ทม่ี ากกวา่ ให้แสงสวา่ ง มากกวา่ ความหอมคอื ไลย่ ุงได้ สามารถนำไปใช้ และขายได้จรงิ ( โดย
กำหนดตวั แปร ให้ตา่ งกนั 3 สูตร ) ทีส่ ำคญั ต้องประหยัดต้นทุนการผลติ และสามารถคำนวณหาร้อยละความ
เข้มขน้ โดยปรมิ าตรต่อมวลได้

ขัน้ ท่ี 2 รวบรวมข้อมูล
ใหน้ กั เรียนใชเ้ คร่ืองมือสือ่ สารโทรศัพท์มือถือ โดยเขา้ สู่อนิ เตอรเ์ นต็ เพอ่ื ค้นหาข้อมลู วธิ กี ารทำ

เทยี น วสั ดุ อุปกรณท์ ี่ใช้ในการทำเทียน ตลอดจนรวมไปถงึ สารเคมที ี่เปน็ องค์ประกอบของเทียนไข
ขั้นท่ี 3 เลือกวิธีการ
นำขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการสบื คน้ ซึ่งมีหลากหลายแนวทางมาร่วมกนั ปรกึ ษาหารือกับสมาชกิ ใน

กลุ่ม เพ่ือ เลอื กวิธที ่เี หมาะสมในการออกแบบวิธกี ารทำ โดยรูปแบบ และวิธกี ารทำที่เลือกน้ันตอ้ งได้รบั ความ
เห็นชอบจากสมาชิกทุกคนในกลมุ่

ขนั้ ที่ 4 ออกแบบและปฏิบตั ิการ
สมาชกิ ภายในกลมุ่ ร่วมกนั ออกแบบการทดลองการทำเทยี น โดยแตล่ ะกลุ่มจะตอ้ งทำเทียน 3

สตู ร และออกแบบตารางบันทึกผลการทดลองการใชเ้ ทียนทง้ั 3 สูตร พรอ้ มทงั้ คำนวณหารอ้ ยละความเขม้ ข้น
โดยปรมิ าตรต่อมวลในแตล่ ะสูตร ตลอดจนออกแบบฉลากผลิตภณั ฑท์ ่ีผลติ ข้นึ

ขน้ั ท่ี 5 ทดสอบ
นำชิ้นงานท่ีสรา้ งเสร็จไปทดลอง เพ่ือทดสอบคุณภาพ ของเทียนว่าสามารถใชไ้ ล่ยงุ ได้ดี

หรอื ไม่ และสูตรไหนใช้ได้ดีท่ีสดุ และประหยัดตน้ ทนุ ท่สี ดุ ตลอดจนหาจดุ บกพร่องใดต้องแก้ไข
ขั้นที่ 6 ปรับปรงุ แก้ไข
เมือ่ พบข้อบกพรอ่ งของชิน้ งานแลว้ ให้นำมาปรับปรุงแกไ้ ขพฒั นาชน้ิ งาน โดยอาจทำการ

ปรับเปล่ียน แบบ หรอื ปรบั เปล่ยี นวสั ดุ หรอื ปรบั สดั สว่ นต่างๆ ใหเ้ หมาะสมยงิ่ ขึน้ จากนน้ั ให้ทดสอบอกี ครั้งโดย
ในครงั้ นแ้ี ต่ละกล่มุ จะตอ้ งเลอื กเทียนทีด่ ีทสี่ ดุ สวยงามทส่ี ดุ และสามารถใช้ไดจ้ รงิ ทส่ี ำคญั ตอ้ งประหยัดตน้ ทนุ
การผลิต โดยทสี่ มาชกิ ในกลุม่ พอใจที่สุดเพียงชนิดเดยี ว เพื่อนำมา ประเมินผลร่วมกนั กลุ่มอ่นื ๆ

ข้นั ท่ี 7 ประเมนิ ผล
1. ตวั แทนนกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ออกมานำเสนอเทียนทีไ่ ดผ้ ลิตขึ้น ในสูตรทีด่ ีทส่ี ดุ

ประหยัดตน้ ทุนที่สุด และสามารถไล่ยงุ ได้จริง

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หนว่ ยที่ 2 เรอ่ื ง สารรอบตัว ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1

2. นักเรยี นและครรู ่วมกันประเมินเทยี นหอมไล่ยุง สตู รทด่ี ีที่สุด ประหยดั ตน้ ทุนท่ีสุด
และฉลากผลติ ภณั ฑท์ ี่สวย และดีทส่ี ดุ

3. กิจกรรมรวบยอด

รว่ มกันสรุปว่าการจะผลติ เทยี นหอมไลย่ ุงจะต้องร้อู งคป์ ระกอบที่ใชใ้ นการทำเทียน คณุ สมบัติของ
สารเคมีนนั้ ๆว่ามผี ลตอ่ เทียนท่ที ำอย่างไร รวมไปถงึ ความเขม้ ข้นสองสารท่ีออกฤทธต์ิ ่อการไล่ยงุ น้นั จะต้องมี
ความเข้มเทา่ ไหร่ จึงจะสามารถไลย่ ุงไดจ้ รงิ และทีส่ ำคญั จะตอ้ งไม่มากหรือนอ้ ยเกินจนเกนิ ไป โดยตอ้ งคำนึงถึง
ตน้ ทุนการผลิตด้วย ท่สี ำคญั เทยี นทีผ่ ลติ ข้ึนมานั้นจะต้องมีความสวยงาม น่าใช้ และแปลกใหม่

สรปุ นักเรียนไดค้ วามรู้อะไรบ้างจากกิจกรรมเทยี นหอมไลย่ ุง
- วทิ ยาศาสตร์ คณุ สมบัติของตวั ละลาย และตวั ทำละลาย องค์ประกอบของสาร คณุ สมบตั ิของสาร

ท่ใี ช้ในการทำเทยี น ทักษะการตวง การชัง่ การสงั เกต การตงั้ คำถาม การตั้งสมมติฐาน การ
กำหนดตวั แปร การทดลอง การอภิปราย และสรปุ ผลการทดลอง ร้อยละความเขม้ ข้นของ
สารละลาย
- คณิตศาสตร์ จำนวนจริงท่ีคำนวณ รอ้ ยละ
- เทคโนโลยี การสบื คน้ ขอ้ มูล
- วศิ วกรรม นักเรยี นได้ออกแบบ และดำเนินตามข้ันตอน
การวดั ผลประเมินผล
1. ประเมนิ ทักษะการทำงานกล่มุ ประเดน็ การประเมนิ
1. มกี ารปรึกษาและวางแผนรว่ มกันก่อนทำงาน
2. มีการแบ่งหน้าทอี่ ย่างเหมาะสม และสมาชิกทำงานตามหน้าที่
3. มกี ารปฏิบตั ิงานตามข้นั ตอน
4. มกี ารใหค้ วามช่วยเหลือกนั
5. มกี ารเคารพกติกาของกล่มุ
6. ยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อน่ื
7. แสดงความคดิ เหน็ ทมี่ ปี ระโยชน์ตอ่ กล่มุ
8. มคี วามเป็นผนู้ ำและผตู้ ามทดี่ ี
9. รว่ มมอื กันทำงานจนสำเร็จ
10. ผลงานมีความถูกตอ้ งและเสรจ็ ทนั เวลากำหนด

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หน่วยที่ 2 เร่อื ง สารรอบตวั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1

2. ประเมนิ ใบงาน
5. สื่อและแหล่งเรยี นรู้

1. สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ
2. Internet
3. ใบความร้เู รอื่ งการเทยี น

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ( STEM EDUCATION )
หน่วยที่ 2 เรอื่ ง สารรอบตัว ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1

แบบประเมินทักษะการท้างานกลมุ่

หอ้ ง ป. ..... /…... กลุ่มท่ี ................... สมาชกิ ...................................................................................

ค้าช้แี จง : ใหผ้ ู้สอน ประเมินจากการสังเกตทักษะกระบวนการกลมุ่ ในระหวา่ งเรยี น ขณะปฏิบตั ิกิจกรรม

โดยให้ระดบั คะแนนลงในตารางท่ีตรงกบั พฤติกรรมของผเู้ รียน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 = ดมี าก 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรงุ

ขอ้ ท่ี พฤตกิ รรมทีส่ ังเกต คุณภาพการปฏิบัติ

12 3

1 มกี ารปรกึ ษาและวางแผนรว่ มกันก่อนทางาน

2 มีการแบง่ หน้าทอ่ี ย่างเหมาะสม และสมาชกิ ทางานตามหนา้ ท่ี

3 มีการปฏิบตั ิงานตามขน้ั ตอน

4 มกี ารใหค้ วามชว่ ยเหลือกัน

5 มกี ารเคารพกตกิ าของกลุ่ม

6 ยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อื่น

7 แสดงความคิดเห็นท่มี ีประโยชน์ต่อกลมุ่

8 มคี วามเป็นผูน้ าและผตู้ ามที่ดี

9 ร่วมมือกันทางานจนสาเรจ็

10 ผลงานมีความถูกตอ้ งและเสร็จทันเวลากาหนด

รวมคะแนน

สรุปผลการประเมิน................................................. ลงช่อื ……………………………..ผปู้ ระเมนิ
(……………………………………..)
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
25 -30 ดีมาก
20 -24 ดี
15-19 ปานกลาง
1 –14 ปรับปรงุ

หมายเหตุ การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพหรอื หัวขอ้ ประเมนิ ปรับเปลย่ี นไดข้ น้ึ อยกู่ บั ดุลยพนิ ิจของ
ครูผ้สู อน


Click to View FlipBook Version