ก า ร พั ฒ น า หั ต ถ ก ร ร ม ส ร้ า ง ส ร ร ค์ น า ง ส า ว กั ญ ช ลิ ก า ม ะ ล า ร หั ส นั ก ศึ ก ษ า 6 4 2 0 2 1 0 5 6 5 Final Project ค ณ ะ ม นุ ษ ย ศ า ส ต ร์ แ ล ะ สั ง ค ม ศ า ส ต ร์ ส า ข า ภ า ษ า อ า ห รั บ เ พื่ อ ธุ ร กิ จ
บทที่1 ข้อมูลทั่วไปของงานหัตถกรรมทั้ง 2 ชิ้นที่นำ มาพัฒนา ประวัติงานหัตถกรรม ในปัจจุบันวัสดุที่เหลือใช้จากการทำ กิจกรรมต่างๆของมนุษย์มีมากขึ้น เรื่อยๆ และวัสดุบางประเภทมีมากในท้องถิ่นสามารถนำ มาแปรรูปเป็น สิ่งของเครื่องใช้และนำ ไปจำ หน่ายซึ่งใช้สอยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถนำ มาประกอบเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้แก่ครอบครัวซึง กะลามะพร้าวเป็นสิ่งที่หาง่ายในท้องถิ่นและยังได้นำ กะลามะพร้าวมา แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำ มาจากกะลามะพร้าวให้มีความหลากหลายมาก ยิ่งขึ้นซึ่งปัจจุบันมีการออกแบบสิ่งประดิษฐ์ของใช้จากกะลา ที่มีหลายรูป แบบเราจึงสร้างสรรค์ของผลงานจากกะลามะพร้าวในรูปแบบใหม่ที่เป็น เอกลักษณ์ กะลามะพร้าว ซึ่งเป็นส่วนประกอบของมะพร้าว สามารถนำ มาประดิษฐ์เป็นโคมไฟได้ จึงเกิดประกายในการนำ กะลามะพร้าวซึ่งมีความ สวยงามในด้านความเป็นมันวาวของตัวมันเองมาใช้ประโยชน์ตรงนี้ โดย การนำ ความสวยงามในตัวขัดมันของกะลามะพร้าว มาขับแสงไฟให้เกิด ความสวยงามมาประดิษฐ์เป็นโคมไฟสวยงาม มาใช้ประโยชน์ตามต้องการ ได้ พื้นที่ที่พบและลัก ลั ษณะการใช้งาน ศิลปะประดิษฐ์จากกะลามะพร้าว ที่บ้านหนองม่วง หมู่ที่ ๔ ตำ บลชุมแสง อำ เภอวังจันทร์ จังหวัดระยองผู้คิดริเริ่มในการทำ ได้แก่ นายรวงทอง คุ้มเกียรติ ได้ประดิษฐ์กะลามะพร้าวเป็นโคมไฟ ที่ ปักปากกา ดินสอ เครื่องใช้ภายในบ้าน โดนเฉพาะโคมไฟ ถือเป็น ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของบ้านหนองม่วงซึ่งปัจจุบันได้มีการ จัดตั้งกลุ่มผลิตโคมไฟ และนำ ออกจำ หน่ายในงานเทศกาลต่างๆ ภูมิปัญญาไทยหลายคนหลายแหล่งทั่วทุกภาคของประเทศ ได้คิด ประดิษฐ์เพิ่มคุณค่าจากกะลาที่ไร้ค่ามาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่ นอกจากจะทำ เป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนแล้ว ยังประดิษฐ์เป็นเครื่อง ตกแต่งบ้าน เช่น โคมไฟ ตะเกียงเจ้าพายุ ฯลฯ เครื่องประดับ เครื่อง แต่งกายสุภาพสตรี เช่น กระเป๋าถือ เข็มขัด เข็มกลัด ปิ่นปักผม สร้อย ฯลฯ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นที่นิยมของชาวไทย และชาวต่าง ชาติสร้างรายได้เพิ่มพูนให้แก่คนไทยที่ยากไร้ในชนบท วัสดุที่ใช้ในงาน 1. กะลามะพร้าว 2. หลอดไฟ สายไฟ ปลั๊กไฟ 3. เทปพันสายไฟ 4. ไม้อัดเหลือใช้ คอโคมไฟไม่ใช้แล้ว 5. เครื่องยิงกาว 6. สีไม้โอ๊ก เครื่องมือและอุปกรณ์ 7. เลื่อยฉลุ 8. สว่านเจาะ 9. กระดาษทรายหยาบ 10. กระดาษทรายละเอียด 11. ดินสอ / วงเวียน โคมไฟจากกะลามะพร้าว
บทที่1 ข้อมูลทั่วไปของงานหัตถกรรมทั้ง 2 ชิ้นที่นำ มาพัฒนา ประวัติงานหัตถกรรม จักสาน เป็นงานศิลปหัตถกรรมอย่างหนึ่ง คิดค้นขึ้นโดยมนุษย์เพื่อใช้ สร้างเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำ วัน ผลิตขึ้นโดยการสอด ขัด และ สานของวัสดุที่มีลักษณะเป็นเส้น เป็นริ้ว เพื่อให้ได้ลวดลายที่สวยงาม และเพื่อให้เกิดความคงทนของเครื่องจักสาน ปัจจุบันเครื่องจักสานของ ไทยได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอันมาก เนื่องจากเป็นงาน หัตถกรรมอันทรงคุณค่า ผลิตขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์และฝีมืออัน ประณีตของคนไทย และมีการออกแบบที่ทันสมัย ประกอบกับเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ทำ ขึ้นจากวัสดุธรรมชาติซึ่งมีความงดงามตามธรรมชาติอยู่ แล้ว พื้นที่ที่พบและลักษณะการใช้งาน กลุ่มตะกร้าหวายลายพิกุล ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 27/1 หมู่ที่ 1 ตำ บล บ้านกระทุ่ม อำ เภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นกลุ่มอาชีพที่ รวบรวมช่างฝีมือพื้นบ้าน ประเภทเครื่องจักสานตะกร้าหวาย ของ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นช่างฝีมือพื้นบ้านที่มีภูมิลำ เนาอยู่ที่ ตำ บลหัวเวียง อำ เภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำ นวน 5 คน รวมตัวกันก่อตั้งเป็นกลุ่มอาชีพ “กลุ่มตะกร้าหวายลายพิกุล” จัดตั้ง เมื่อ ปี 2538 โดยมี นางทองสุข สุขเกษม เป็นประธานกลุ่ม มี วัตถุประสงค์เพื่อนำ ภูมิปัญญาไทยด้านการจักสาน ลวดลายต่างๆ มา ประกอบกับการใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทำ เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อ ใช้ประโยชน์ และเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านการจักสานสืบทอดไว้ ให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป วัสดุที่ใช้ในงาน 1. ต้นหวาย 2. เหล็กหมาด 3. กรรไกรตัดเล็บ 4. มีดจักตอก 5. ดินสอ 6. คีม 7. เรียด 8. รองหรือแบบขึ้นรูปตะกร้า 9. ตะปูทองเหลือง 10. ค้อน 11. มีดเล็ก 12. น้ำ จักสาน(หวาย)
บทที่2 นำ ข้อมูลที่ได้ มาออกแบบหัตถกรรม สร้างสรรค์ใหม่จำ นวน 1 ชิ้น ในรูปแบบ ของ Moodboard โดยมีหัวข้อดังนี้ แนวคิดของการพัฒนา วิธีการทำ วัสดุอุปกรณ์ 1. หลอดไฟ สายไฟ ปลั๊กไฟ 2. เทปพันสายไฟ 3. ไม้อัดเหลือใช้ คอโคมไฟไม่ใช้แล้ว 4. เครื่องยิงกาว 5. สีไม้โอ๊ก เครื่องมือและอุปกรณ์ 6. เลื่อยฉลุ ,สว่านเจาะ 7. กระดาษทรายหยาบ , กระดาษทรายละเอียด , ดินสอ / วงเวียน 8. ต้นหวาย 9. เหล็กหมาด 10. กรรไกรตัดเล็บ, มีดจักตอก , คีม, เรียด 11รองหรือแบบขึ้นรูปตะกร้าม ตะปูทองเหลือง 12. ค้อน มีดเล็ก 1.นำ กะละมะพร้าวเเก่มา 1 ลูก เเล้วทำ การผ่าเป็นสองซีกให้เท่ากัน 2.นำ กะลามาซีกหนึ่ง เพื่อเจาะรูใส่หลอดไฟ (ขึ้นอยู่กับความใหญ่ของกะลา) เจาะประมาณ2นิ้ว 3.นำ กะลาอีกส่วนหนึ่งมาทำ การเจาะรู โดยมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน เพื่อให้ เเสงรอดผ่านเเล้วเกิดความสวยงาน และทำ ลวดลายบนกะลา นำ กะลามาขัดเงา เเละทาสีไม้โอ๊ค จากนั้นนำ มาประกบติดกัน 4.นำ สายไฟติดปลั๊กไฟให้เรียบร้อยแล้วสอดเข้ารูเพื่อติดสวิสซ์ไฟแล้วนำ ฐานของ ตะเกียงมาปิด 5. นำ หวายมาสานเข้าด้วยกันให้ได้ฐานของตะเกียง จากนั้นสานที่ด้ามจับ ตะเกียงและฐานเข้าด้วยกัน 6. สานหวายเข้าด้วยกันให้ได้ทรงคล้ายหมวกเพื่อตกแต่งและให้ได้รูปทรง ตะเกียงมากยิ่งขึ้น 7. นำ ลายผ้ามาติดกับฐานของตะเกียงและด้ามจับเพื่อให้ดูมีลูกเล่นและไม่จืด จนเกินไป อยากลองผสมผสานงานทั้ง2เข้าด้วยกันให้ได้ตะเกียง แบบที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ต้องการให้ตะเกียงดูสง่า ทัน สมัย น้ำ หนักเบา และแสงไฟต้องมีเพียงพอในการใช้งานเเต่ ละครั้งเเละเพื่อไม่ให้ตะเกียงดูจืดจนเกินไปเลยเสริมลวดลาย จากผ้าเข้าไปให้ดูน่าใช้มากยิ่งขึ้น ภาพสเก็ต โทนสี : โทนร้อน 70% โทนเย็น 30% ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมตะเกียงสุดชิค
บทที่3 สรุปผลการเรียนรู้ สรุปผลการเรียนรู้จากการพัฒนางาน สรุปผลการเรียนรู้จากรายวิชชา 125-101 จากการที่ได้เรียนรู้รายวิชา หัตถกรรมสร้างสรรค์ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน ได้ ลองเปิดใจเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆ และค้นพบว่าสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเราเองนั้นก็มีประโยชน์ โดยที่เรามอง ข้ามมาตลอด งานหัตถกรรม จึงเป็นดังกระจกที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนใน แต่ละยุคสมัย เป็นตัวบอกเล่าประวัติศาสตร์ สภาพเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในกลุ่มชนต่างๆ การได้เรียนรู้ เพิ่มทักษะทางด้านหัตถกรรม ช่วยให้เปิดโลกกว้างได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ได้ทำ ในสิ่งที่ยังไม่ เคยลอง และทำ ให้เห็นว่าชิ้นงานแต่ละชิ้นกว่าจะได้มา ต้องใช้ความพยายามและความอดทน จึงทำ ให้ ดิฉันได้เรียนรู้และเข้าใจมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก เพราะกว่าจะออกมาแต่ละงาน ไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งวิชานี้ ยังเป็นวิชาที่สอนเกี่ยวกับทษฎีสีให้เราสามารถแบ่งได้ว่า อันไหนโทนร้อนอันไหนโทนเย็น เพื่อที่เราจะ สามารถนำ ไปสร้างสรรค์ผลงานได้ต่อไป ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมตะเกียงสุดชิคเป็นการพัฒนาทั้งด้านวัสดุ ด้านรูปแบบ และการนำ มาใช้จึง ทำ ให้มีความหลากหลาย เพื่อทำ ให้มีการพัฒนา รูปแบบให้มีความหลากหลาย และตอบสนองต่อความ ต้องการ รวมไปถึงการให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้กับชุมชน ทำ ให้ผลิตภัณฑ์ของชุมชนมีรูปแบบ ใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องจักสานได้มีการพัฒนารูปแบบและการประโยชน์ใช้สอยของผลิตภัณฑ์ ผลงานการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์หัตถกรรมตะเกียงสุดชิคนี้ได้ออกแบบและพัฒนามาจากการ ผสมระหว่างโคมไฟจากกะลามะพร้าวและจักสานหวายที่แตกต่างจากที่มีอยู่โดยใช้วิจัยปฏิบัติการแบบมี ส่วนร่วมซึ่งมีขั้นตอนการดำ เนินการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมที่สำ คัญคือศึกษาและวิเคราะห์ปัญหา ชุมชน ศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหาวางแผน ดำ เนินการเพื่อแก้ไขปัญหาปฏิบัติตามแผน และติดตาม ประเมินผล