The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานคณิตศาสตร์ (1)3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pacarinmine, 2022-09-30 01:38:05

โครงงานคณิตศาสตร์ (1)3

โครงงานคณิตศาสตร์ (1)3

โครงงานคณิตศาสตร์

เรื่อง สารวจความพึงพอใจเก่ียวกบั หอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และคุณธรรม

เสนอ
คณุ ครู ปัทมา เหรียญทอง

จดั ทาโดย
นาย สาโรจน์ สรรพสิทธ์ิ เลขท่ี 3
นาย กฤษณะ วริ ิยะ เลขที่ 4
นางสาว พชั ริน ลาวรรณ เลขท่ี 24

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6/1

โครงงานน้ีเป็ นส่วนหน่ึงของรายวิชาคณิตศาสตร์
ประเภทสารวจ

ภาคเรียนที่ 1 ปี การศกึ ษา2565
โรงเรียนพฒั นานิคม

อาเภอพฒั นานิคม จงั หวดั ลพบุรี



กิตกิ รรมประกาศ

ในการทาโครงงานสารวจความพึงพอใจเกี่ยวกบั หอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และคุณธรรม สาเร็จ
ลุร่วงดว้ ยความช่วยเหลอื อยา่ งดีจาก คณุ ครูปัทมา เหรียญทอง ทคี่ อยใหค้ าปรึกษาเก่ียวกบั โครงงาน ซ่ึงเป็น
ครูผสู้ อนจากกลุม่ สาระคณิตศาสตร์ และให้คาปรึกษาแนะนาเป็นอยา่ งดี และยงั คอยช่วยเหลอื เรื่องอปุ กรณต์ า่ งๆ

ขอขอบคณุ ทางโรงเรียนพฒั นานิคม อาจารย์ ทใ่ี ห้ความสนบั สนุนทาใหโ้ ครงงานประสบความสาเร็จ
ขอขอบคณุ เพ่ือนทุกคนทค่ี อยช่วยเหลือ ท้งั หาขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มลู และวิธีการทาสบมู่ ะขาม และขอบคณุ
กาลงั ใจดีๆ จากผทู้ ่คี วามเมตตากรุณา เช่น บิดา มารดา คณุ ครูทุกทา่ น ทม่ี ีส่วนผลกั ดนั ใหม้ ีแรงบนั ดาลใจในการ
ที่จะทาโครงงานน้ี ซ่ึงผจู้ ดั ทาโครงงานน้ีมีความซาบซ้ึงอยา่ งย่ิง และขอขอบคุณมา ณ โอกาสน้ี

คณะผจู้ ดั ทา

21 กนั ยายน 2565

หัวขอ้ โครงงาน สารวจความพึงพอใจของนกั เรียนห้องเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และคุณธรรม

ประเภทของโครงงาน โครงงานพฒั นาการศึกษา

ผเู้ สนอโครงงาน

นาย สาโรจน์ สรรพสิทธ์ิ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่6/1 เลขท่ี3

นาย กฤษณะ วิริยะ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่6/1 เลขที่4

นางสาว พชั ริน ลาวรรณ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่6/1 เลขท2่ี 4

ครูทป่ี รึกษาโครงงาน คุณครู ปัทมา เหรียญทอง

ปี การศึกษา 2565

บทคดั ยอ่

การจดั ทาโครงงานคร้ังน้ีมจี ดุ ประสงค์ 1)เพื่อศกึ ษาความพึงพอใจของนกั เรียนหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และคณุ ธรรม 2)เพอื่ พฒั นาห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคุณธรรม ศึกษาโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ทีใ่ หส้ ร้าง แบบสอบถามความพึงพอใจ ศกึ ษาการจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ผลการศกึ ษาและ
จดั ทาโครงงานพบว่า ในระดบั ความพึงพอใจ 1-5 ความพงึ พอใจของนกั เรียนห้องเรียนคณิตศาสตร์วทิ ยาศาสตร์
และคณุ ธรรม โดยรวมท้งั หมดในดา้ นตา่ งๆ อยใู่ นระดบั 4 มคี วามพงึ พอใจมาก ท้งั เวลาใหก้ ารเรียนการสอน
อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์เพ่อื คน้ ควา้ ภายในห้อง ส่ิงอานวยความสะดวกตา่ งๆ

สารบญั

เรื่อง หนา้
กิตติกรรมประกาศ 1
บทคดั ยอ่ 2
สารบญั 3
บทท1ี่ 4
-ทีม่ าและควาสาคญั ของโครง 5
-วตั ถุประสงค์ 6
-ขอบเขตการศึกษา 7
-นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ 8
บทท2ี่ 9
-เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง 10
บทท3ี่ 11
-วิธีการดาเนินการ 12
บทท4ี่
-ผลปฏิบตั กิ ารตามโครงงาน 15
บทท5ี่ 16
-สรุปผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ 17
บรรณานุกรม 18
19



บทท1ี่

บทนา

ท่มี าและความสาคัญของโครงงาน
ห้องเรียนโครงการคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม(Math Scient Moral Program)หรือ MSMP ของ
โรงเรียนพฒั นานิคมจงั หวดั ลพบุรีซ่ึงมกี ารเรียนการสอนทเี่ นน้ ความรู้ความสามารถของนกั เรียน มกี ารเรียนการ
สอนเพม่ิ เติม เช่น วทิ ย-์ คณิต มีอุปกรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์สาหรบั การเรียนรู้ในหอ้ งเรียน และมีการจดั กิจกรรมการ
เรียนรู้เพ่ิมเตมิ ท้งั ในและนอกสถานที่
ในปัจจบุ นั ห้องเรียนพเิ ศษหรือห้องโครงการเป็นหอ้ งเรียนทสี่ ถานศึกษาม่งุ เนน้ การจดั การเรียนการสอนเพือ่
ส่งเสริมศกั ยภาพนกั เรียนที่มคี วามสามารถพเิ ศษดา้ นวิชาการและดา้ นอนื่ ๆ เช่น หอ้ ง Gifted เป็นหอ้ งเรียนพิเศษ
ของนกั เรียนสาย วทิ ย-์ คณิต ท่ีเนน้ การเรียน คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ทีม่ คี วามเขม้ ขน้ มากกวา่ ห้องปกติ ,
หอ้ ง English Program เป็นห้องเรียนที่เนน้ วชิ าภาษาองั กฤษ , หอ้ ง ESMTEหอ้ งเรียนพิเศษทางวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดลอ้ ม, ห้องเรียนพิเศษทางคณิตศาสตร์เสริมคอมพวิ เตอร์ (Intensive
Mathematics Program) จะเนน้ การเรียนวิชาคณิตศาสตร์แบบเร่งรดั ,ห้องโครงการนิติ-รัฐศาสตร์ ห้องเรียนดา้ น
นิตศิ าสตร์ รฐั ศาสตร์ และการเมืองการปกครองโดยเฉพาะ และ หอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ
คุณธรรม(Math science and moral Programs) มีการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม
ผสมผสานในการเรียน
กลุ่มของขา้ พเจา้ จึงจดั ทาโครงงานเร่ือง การสารวจความพงึ พอในของห้องเรียนMSMP นามาใชใ้ นการ
ปรับปรุง แกไ้ ข ในเร่ืองต่างๆ เช่น การจดั เวลาการเรียนการสอน การปรังปรุงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ
กิจกรรมพิเศษตา่ งๆ เพอื่ ศึกษารวบรวมขอ้ มูล ความพึงพอใจ ความคดิ เห็นของนกั เรียนห้องเรียนMSMP เพ่ือให้
เขา้ กบั รูปแบบการเรียนการสอนทน่ี กั เรียนตอ้ งการ

วตั ถุประสงค์
ในการทาโครงงานคร้ังน้ีไดต้ ้งั วตั ถุประสงคไ์ วด้ งั น้ี
1.เพือ่ ศกึ ษาความพงึ พอใจของนกั เรียนหอ้ งเรียนMSMP ปี การศึกษา2565
2.เพ่อื ศกึ ษาความคิดเห็นของนกั เรียนต่อหอ้ งMSMP

ขอบเขตของการศึกษา
ในการทาโครงงานคร้ังน้ีคณะผจู้ ดั ทาไดก้ าหนดขอบเขตในการศกึ ษาดงั
1.เนื้อหาวิชาคณติ ศาสตร์ที่เกยี่ วข้อง
เน้ือหาทใ่ี ช้ในการจดั ทาโครงงานคร้ังน้ีอยใู่ นกลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั

พ้ืนฐานพุทธศกั ราช. 2551 เรื่องดงั ตอ่ ไปน้ี
1.1 สถิติเบ้อื งตน้
2.กล่มุ ประชากร
กลมุ่ ประชากรทีใ่ ชใ้ นการศึกษาคร้งั น้ีเป็นนกั เรียนโรงเรียนพฒั นานิคม ภาคเรียนท่ี 1 ปี ศึกษา2565
3.กล่มุ ตวั อย่าง
กลุม่ ตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการศกึ ษาคร้ังน้ีเป็นนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1,2,3,4,5,6 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศกึ ษา

2565 จานวน 6 ห้อง จานวน 90 คน โรงเรียนพฒั นานิคม
4.ระยะเวลาในการศึกษา
ผวู้ ิจยั จะดาเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ในภาคเรียนท่ี 1 ปี การศกึ ษา 2565 โดยใชเ้ วลาในการดาเนินการ

ท้งั หมด 2 คาบ คาบ 50 นาที

นยิ ามศัพท์เฉพาะ
1.หอ้ งเรียนพิเศษ หมายถงึ หอ้ งเรียนท่ีสถานศกึ ษามุ่งเนน้ การจดั การเรียนการสอนเพอื่ ส่งเสริมศกั ยภาพ
นกั เรียนที่มีความสามารถพเิ ศษดา้ นวชิ าการและดา้ นอ่ืนๆ
2.หอ้ งเรียนMSMP หมายถงึ หอ้ งเรียน (Math science and moral Programs) หรือห้องเรียนคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์และคุณธรรม



บทท2ี่

เอกสารที่เกยี่ วข้อง

ในการทาโครงงานคณิตศาสตร์ในคร้งั น้ี ผูจ้ ดั ทาไดศ้ กึ ษาเอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ ง และไดน้ าเสนอตามหวั ขอ้
ต่อไปน้ี
1.ความรู้ทวั่ ไปเก่ียวกบั ห้องเรียนพิเศษ

1.1 Gifted
1.2 TEP
1.3 GATE
1.4 SMA
1.5 SME
1.6 EP
1.7 MEP
1.8 IEP
1.9 ESMTE
1.10 IMP
1.11 ICTP
1.12 EIS
1.13 EIP
1.14 INP
1.15 โครงการนิติ-รฐั ศาสตร์
1.16 ห้องเรียนMSMP
1.1ความหมายและประเภทของห้องเรยี นพิเศษ
1.1 Gifted
ห้อง Gifted น้นั เป็นหอ้ งเรียนพเิ ศษของนกั เรียนสาย วิทย-์ คณิต ท่ีเนน้ การเรียนคณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์
ซ่ึงเน้ือหาจะมีความเขม้ ขน้ และมเี น้ือหาทมี่ ากกวา่ ห้องเรียนปกติเรียนกนั อาจจะมเี น้ือหาทีอ่ ยใู่ นระดบั ช้นั ท่ีสูง
กว่าเรียน

1.2 TEP
หอ้ ง TEP ยอ่ มาจาก Talent Education Program การเรียนของห้องน้ีก็จะเหมือนกบั ทาง หอ้ ง Gifted แตแ่ คม่ ชี ่ือ
เรียกทแี่ ตกตา่ งกนั ออกไปแตล่ ะโรงเรียนนนั่ เอง ซ่ึงเป็นหอ้ งเรียนพเิ ศษของนกั เรียนสาย วทิ ย-์ คณิต
1.3 GATE
ห้อง GATE ยอ่ มาจาก Gifted and Talent Education Program โดยห้องเรียน GATE จะเรียนคลา้ ยกบั ห้องเรียน
Gifted และ TEP แตจ่ ะมีความแตกต่างกนั ออกไป ตรงท่คี วามเขม้ ขน้ ของเน้ือหาบางวิชา
1.4 SMA
ห้อง SMA ยอ่ มาจาก Science Math Ability ห้องเรียนน้ีเป็นหลกั สูตรคลา้ ยกบั Gifted, TEP และ GATE ของ
นกั เรียนสาย วิทย-์ คณิต
1.5 SME
หอ้ ง SME ยอ่ มาจาก Science Math English ห้องเรียนน้ีจะเนน้ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ แต่จะเพิม่ วชิ า
ภาษาองั กฤษดว้ ย การเรียนห้องเรียนน้ีจะคลา้ ยกบั ห้อง Gifted แตจ่ ะเพ่มิ ชั่วโมงเรียนวชิ าภาษาองั กฤษดว้ ย
1.6 EP
หอ้ ง EP ยอ่ มาจาก English Program เป็นหอ้ งเรียนท่เี นน้ วิชาภาษาองั กฤษ โดยการเรียนการสอนจะเป็น
ภาษาองั กฤษเกือบท้งั หมด
คลา้ ยๆ กบั โรงเรียนนานาชาติ ตา่ งกนั ตรงท่ีบางรายวิชาจะสอนเป็นภาษาไทย
1.7 MEP
หอ้ ง MEP ยอ่ มาจาก Mini English Program เป็นหอ้ งเรียนท่เี นน้ การเรียนการสอนดว้ ยภาษาองั กฤษเหมอื นกบั
ห้อง English Program เพียงแต่ความเขม้ ขน้ จะนอ้ ยกวา่ อาจจะมีหลายวชิ าทเี่ รียนเป็นภาษาไทย
1.8 IEP
ห้อง IEP ยอ่ มาจาก Intensive English Program เป็นหอ้ งเรียนท่เี นน้ การเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์
และเรียนแบบ English Program หรือเรียนเกือบทกุ วิชาเป็นภาษาองั กฤษ เหมือนกบั การรวมกนั ของห้องเรียน
Gifted กบั English Programเขา้ ดว้ ยกนั เพียงแต่วิชาวิทยแ์ ละคณิตศาสตร์เน้ือหาอาจไมเ่ ขม้ ขน้ เทา่ ห้อง Gifted
1.9 ESMTE
ห้องเรียนพเิ ศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ ม (Enrichment Program of Science
Mathematics Technology and Environment)เป็นโครงการในความร่วมมอื ระหวา่ งสานกั งานคณะกรรมการ
การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน(สพฐ.) สานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา(สกอ.) สานกั งานพฒั นาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยแี ห่งชาติ(สวทช.) และสถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย(ี สสวท.)หอ้ งเรียน
ESMTEมกี ิจกรรมพบปะนกั วิทยาศาสตร์ในวนั เสาร์

1.10 IMP
หอ้ งเรียนพิเศษทางคณิตศาสตร์เสริมคอมพวิ เตอร์ (Intensive Mathematics Program) จะเป็นห้องที่มกี ารเรียน
การสอนปกติ เนน้ การเรียนวิชาคณิตศาสตร์แบบเร่งรดั
1.11 ICTP
หอ้ งเรียนพิเศษในโครงการวจิ ยั และพฒั นาศกั ยภาพผเู้ รียนสู่ความเป็นเลศิ ดา้ นเทคโนโลยี (Information &
Communication Technology Program) เนน้ ความรู้ดา้ นเทคโนโลยี และคอมพิวเตอร์หนกั กว่า จะไดเ้ รียนรู้
หลกั การจดั การฐานขอ้ มลู ไดล้ องเขยี นโปรแกรม ออกแบบและพฒั นาเวบ็ ทาแอนนิเมชนั่ คอมพวิ เตอร์กราฟิ ก
1.12 EIS
โครงการจดั การเรียนการสอนโดยใชภ้ าษาองั กฤษบูรณาการในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ
คอมพวิ เตอร์ (English for Integrated Studies) คือมกี ารจบั วิชาภาษาองั กฤษเขา้ มาเสริมในการเรียนกลุ่มวิชาท้งั 3
1.13 EIP
ห้องเรียนเนน้ พฒั นาศกั ยภาพดา้ นภาษาองั กฤษ (English Immersion Program) คลา้ ยกบั EP หลกั สูตรน้ีมีการ
เรียนเป็นภาษาองั กฤษตลอดทกุ คาบเลย แตจ่ ะเวน้ ภาษาไทยไว้ ส่วนสงั คมศึกษาจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือเน้ือหา
ภาษาไทย และเน้ือหาภาษาองั กฤษ กิจกรรมกจ็ ะเกี่ยวขอ้ งกบั องั กฤษท้งั หมด
1.14 INP
หอ้ งเรียนพเิ ศษทีส่ อนเด็กใหก้ ลายเป็น "นกั นวตั กรรม" (Innovation Program) โดยแบง่ เวลาเรียนออกเป็น 80 :
20 เน้ือหาในหอ้ งเรียน (80) ครูจะสอนให้เด็กรู้จกั คิดตามส่ิงทเี่ รียน สหวทิ ยาการ (20) เป็นการทาโครงงานอสิ ระ
จากส่ิงท่ีนอ้ งสนใจจริงๆ
1.15 โครงการนิติ-รฐั ศาสตร์
หอ้ งเรียนดา้ นนิตศิ าสตร์ รฐั ศาสตร์ และการเมืองการปกครองโดยเฉพาะ การเรียนการสอนกจ็ ะเนน้ ฝึก
ประสบการณก์ ารเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ต้งั แต่ฝึกปฏบิ ตั ิการดาเนินการทางประชาธิปไตยท้งั ในและนอกโรงเรียน มี
การไปเขา้ คา่ ย ศึกษาดูงานนอกสถานท่ี และเชิญนกั กฎหมาย อยั การ ผพู้ พิ ากษา นกั การเมอื งทปี่ ระสบ
ความสาเร็จมาเป็ นวิทยากรพิเศษ
1.16 หอ้ งเรียนMSMP
ห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และคุณธรรม หรือ หอ้ งเรียน (Math science and moral Programs) จะมกี าร
เรียนการสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เสริมภาษาตา่ งชาติ และมกี ารเสริมคุณธรรม จะมอี ุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนิกส์
ใหส้ ื่อคน้ ขอ้ มลู ในห้องเรียน



บทท3ี่
วธิ ีการดาเนนิ การ

ในการทาโครงงานคณิตศาสตร์คร้งั น้ี กล่มุ ผจู้ ดั ทาไดด้ าเนินการตามหัวขอ้ ต่อไปน้ี

1. ปฏทิ นิ ปฏิบตั ิงาน
2. ข้นั ตอนการดาเนินงาน
3. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
4. การวิเคราะหข์ อ้ มลู

1.ปฏิทนิ ปฏิบตั งิ าน ระยะเวลา
ตารางท่ี 1 ปฏทิ ินปฏิบตั งิ าน มลี าดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี

ที่ รายการการปฏบิ ตั ิงาน

1 ศึกษาวธิ ีการทาโครงงานคณิตศาสตร์ 17 พฤษภาคม 2565

2 ประชุมวางแผนการจดั ทาโครงงาน 25 พฤษภาคม 2565

3 คดิ หัวขอ้ โครงงาน นาเสนอหวั ขอ้ โครงงานกบั ครูทปี่ รึกษาโครงงานและ 1 มิถุนายน 2565
ปรบั แกต้ ามคาแนะนา

4 ศึกษาขอ้ มลู ความรู้เก่ียวกบั ห้องเรียนพิเศษ 8 มิถนุ ายน 2565

5 เขียนเคา้ โครง โครงงานคณิตศาสตร์นาเสนอกบั ครูทีป่ รึกษาโครงงานและ 15 มถิ นุ ายน 2565
ปรับแกต้ ามคาแนะนา

6 แบง่ หนา้ ที่แต่ละคนรบั ผดิ ชอบ นาไปปรึกษาครูทป่ี รึกษาโครงงาน 22 มิถนุ ายน ถึง13
กรกฎาคม 2565

7 ผรู้ บั ผิดชอบพมิ พโ์ ครงงาน รวบรวมขอ้ มูล สืบคน้ เพิ่มเตมิ 20-27 กรกฎาคม 2565

8 นาขอ้ มลู ท่ไี ดม้ าวิเคราะหข์ อ้ มลู 3-10 สิงหาคม 2565
9 นาเสนอครูท่ีปรึกษาโครงงาน 10 สิงหาคม 2565
10 นาขอ้ มลู ทีว่ ิเคราะห์มาสรุปและอภปิ รายผลการดาเนินการ 10 สิงหาคม 2565
11 นาเสนอครูท่ีปรึกษาโครงงาน 17 สิงหาคม 2565
12 เขียนรายงานโครงงานคณิตศาสตร์ 24 สิงหาคม 2565
13 นาเสนอตอ่ ครูท่ปี รึกษาและแกไ้ ขปรบั ปรุงตามคาแนะนา 31 สิงหาคม 2565
14 ส่งรายงานฉบบั แกไ้ ข 7-10 กนั ยายน 2565
15 นาเสนอโครงงานคณิตศาสตร์ฉบบั สมบรู ณ์ 21 กนั ยายน 2565

2. ข้นั ตอนการดาเนินงาน มดี งั นี้
2.1 ศกึ ษาการวิธีการสารวจความคิดเห็นของนกั เรียนโรงเรียนพฒั นานิคม

การศกึ ษาคร้ังน้ีเป็นการศกึ ษาเชิงสารวจ เพื่อศกึ ษาถึงความพงึ พอใจของนกั เรียนต่อห้องเรียนคณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และคุณธรรม
2.2 วางแผนและกาหนดขอบเขตของการสารวจความพงึ พอใจของห้องเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และ
คุณธรรม

ประชากร นกั เรียนโรงเรียนพฒั นานิคม
กลมุ่ ตวั อยา่ ง นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาของห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคุณธรรม จานวน 90 คน
2.3 เครื่องมอื ทใี่ ชใ้ นการศกึ ษา
การศึกษาคร้งั น้ีเป็นการศึกษาความพึงพอใจเกี่ยวกบั หอ้ งเรียนพิเศษ
ดงั น้นั จึงใช้แบบสอบถามความพึงพอใจเก่ียวกบั หอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคุณธรรม ซ่ึง
แบบสอบถามแบ่งเป็น 2 ส่วน ดงั น้ี

ส่วนท่ี 1 แบบสอบถามในเรื่องเก่ียวกบั ขอ้ มูลส่วนตวั หรือปัจจยั ส่วนบุคคลของผตู้ อบแบบสอบถาม ดว้ ย
คาถามเกี่ยวกบั

1) ระดบั ช้นั

ส่วนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกบั ความพึงพอใจเก่ียวกบั หอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และ
คุณธรรม รวมท้งั สิ้น 11 ขอ้
2.4 การสร้างเคร่ืองมอื

ผูศ้ กึ ษาไดด้ าเนินการสร้างเครื่องมอื ตามลาดบั ดงั น้ี
1) ศกึ ษาเอกสาร แนวคดิ ทฤษฎีเกี่ยวกบั หอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคุณธรรมของโรงเรียน
พฒั นานิคม เพื่อใชเ้ ป็นแนวทางในการสร้างแบบสอบถาม
2) นาขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากการรวบรวมมาสร้างแบบสอบถาม
3) นาแบบสอบถามฉบบั ร่างเสนอต่อครูทป่ี รึกษาโครงงาน เพือ่ ตรวจสอบและเสนอแนะ เพ่ือทาการ
ปรบั ปรุงแกไ้ ข
4) ปรับปรุงแบบสอบถามตามขอ้ แนะนาของครูทป่ี รึกษาโครงงาน

3. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
3.1 ดาเนินการทดสอบในคาบเรียนคณิตศาสตร์ ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 6/1 โรงเรียนพฒั นานิคม
3.2 ระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการทดสอบ คือ 2 คาบเรียน คาบเรียนละ 50 นาที

4. การวเิ คราะห์ข้อมลู
สถติ ิที่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมลู
การหาค่าสถิตพิ ้นื ฐานไดแ้ ก่ คา่ ร้อยละ คา่ เฉลย่ี และค่าส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานจากกลุ่ม
ประชากร มีสูตรดงั น้ี

1. ค่าร้อยละ (Percentage) ใชส้ ูตร

P = 100
เมอ่ื P แทน ร้อยละ

f แทน ความถท่ี ีต่ อ้ งการแปลงเป็นร้อยละ
N แทน จานวนความถ่ีท้งั หมด
2. ค่าเฉลีย่ (Mean) ใชส้ ูตร

=
เม่ือ แทน คา่ เฉลย่ี

แทน ผลรวมของคะแนนท้งั หมดในกลมุ่
N แทน จานวนคนในกลุ่ม
3. คา่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ใช้สูตร

เมื่อ S.D. แทน ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน

แทน ผลรวมของคะแนนท้งั หมด

แทน ผลรวมของกาลงั สองของคะแนนแตล่ ะตวั

N แทน จานวนคนในกลุม่

เกณฑ์การแปลความหมาย

การแปลความหมายขอ้ มลู โดยการคานวณคา่ เฉลยี่ และคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐานของขอ้ มลู แลว้ นาคา่ เฉลย่ี

มาแปลความหมาย โดยประยกุ ตใ์ ช้เกณฑ์ ดงั น้ี

คา่ เฉล่ียระหวา่ ง 0.00 - 1.49 หมายถงึ มีระดบั ปรบั ปรุง (นอ้ ยทีส่ ุด)

ค่าเฉลี่ยระหว่าง 1.50 – 2.49 หมายถงึ มรี ะดบั พอใช้ (นอ้ ย)

ค่าเฉล่ยี ระหว่าง 2.50 – 3.49 หมายถึง มรี ะดบั ปานกลาง

ค่าเฉลย่ี ระหวา่ ง 3.50 – 4.49 หมายถงึ มรี ะดบั ดี (มาก)

คา่ เฉล่ยี ระหว่าง 4.50 - 5.00 หมายถึง มรี ะดบั ดีเยยี่ ม (มากทส่ี ุด)



บทที่4
ผลปฏบิ ตั งิ านตามโครงงาน

4.1 ผลการวิเคราะห์
ตอนท่ี 1 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลดา้ นประชากรศาสตร์ของผูต้ ิบแบบสอบถาม ไดแ้ ก่ ระดบั ช้นั

แผนภูมิที่ 4.1 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามระดบั ช้นั

จากแผนภูมิที่4.1 พบวา่ กลุ่มตวั อยา่ งที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ที่2,4,5,6 มีจานวน 60
คน คดิ เป็นร้อยละ 60.00 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่3 มีจานวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 16.00 และระดบั ช้นั
มธั ยมศึกษาปี ที่1 มจี านวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 14.00

ตารางท4ี่ .1 แสดงจานวนร้อยละของกลุ่มตวั อยา่ งจาแนกตามระดบั ช้นั

ระดบั ช้นั จานวน ร้อยละ

ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่1 14 15.6

ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่2 15 16.7

ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี3 16 17.8

ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่4 15 16.7

ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี5 15 16.7

ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ที่6 15 16.7

รวม 90 100

จากตารางท่ี4.1 พบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี2,4,5,6 มจี านวน 60
คน คิดเป็นร้อยละ 66.7 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี3 มีจานวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 17.8 และระดบั ช้นั
มธั ยมศกึ ษาปี ที่1 มจี านวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 15.6

ตอนที่ 2 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู แบบสารวจความพงึ พอใจเกยี่ วกับห้องเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และ
คุณธรรม

แผนภมู ทิ ี่ 4.2 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามรูปแบบการเรียนการสอน

จากแผนภูมิท่ี4.2 พบวา่ กลุ่มตวั อยา่ งท่ตี อบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดีมาก มจี านวน 42 คน คิดเป็นร้อยละ
46.7 ลาดบั ดี มจี านวน 33 คน คดิ เป็นร้อยละ 36.7ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 13 คน คดิ เป็นร้อยละ 14.4ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 2.2 และลาดบั มจี านวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0

ตารางท่ี 4.2 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามรูปแบบการเรียนการสอน

รูปแบบการเรียนการสอน จานวน ร้อยละ

ดีมาก 42 46.7

ดี 33 36.7

ปานกลาง 13 14.4

นอ้ ย 2 2.2

นอ้ ยมาก 00

รวม 90 100

จากตารางที่4.2 พบวา่ กลุ่มตวั อยา่ งทีต่ อบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดีมาก มีจานวน 42 คน คดิ เป็นร้อยละ
46.7 ลาดบั ดี มีจานวน 33 คน คดิ เป็นร้อยละ 36.7ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 13 คน คดิ เป็นร้อยละ 14.4ลาดบั นอ้ ย
มจี านวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 2.2 และลาดบั มีจานวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0

แผนภมู ทิ ี่ 4.3 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามรายวชิ าเพิ่มเติมในคาบศูนย์

จากแผนภมู ทิ ่ี4.3 พบว่า กลมุ่ ตวั อยา่ งทีต่ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดีมาก มจี านวน 11 คน คดิ เป็นร้อยละ
12.2ลาดบั ดี มจี านวน 44 คน คดิ เป็นร้อยละ 48.9ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 26 คน คดิ เป็นร้อยละ 28.9ลาดบั นอ้ ย
มจี านวน 8 คน คดิ เป็นร้อยละ 8.9 และลาดบั มจี านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.1

ตารางที่ 4.3 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามรายวิชาเพ่มิ เติมในคาบศูนย์

รายวชิ าเพม่ิ เติมในคาบศนู ย์ จานวน ร้อยละ

ดีมาก 11 12.2

ดี 44 48.9

ปานกลาง 26 28.9

นอ้ ย 8 8.9

นอ้ ยมาก 1 1.1

รวม 90 100

จากตารางท่ี4.3 พบว่า กลุ่มตวั อยา่ งทีต่ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดมี าก มีจานวน 11 คน คดิ เป็นร้อยละ
12.2ลาดบั ดี มีจานวน 44 คน คดิ เป็นร้อยละ 48.9ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 26 คน คดิ เป็นร้อยละ 28.9ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 8.9 และลาดบั มีจานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.1

แผนภูมิที่ 4.4 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามกิจกรรมท่ีครูจดั ทาภายในคาบเรียน

จากแผนภูมทิ ี่4.4 พบวา่ กลุ่มตวั อยา่ งทีต่ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดีมาก มีจานวน 35 คน คดิ เป็นร้อยละ
38.9 ลาดบั ดี มีจานวน 35 คน คดิ เป็นร้อยละ 38.9ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 20ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 2.2 และลาดบั มจี านวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0

ตารางที่ 4.4 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามกิจกรรมที่ครูจดั ทาภายในคาบเรียน

กิจกรรมทคี่ รูจดั ทาภายในคาบเรียน จานวน ร้อยละ

ดีมาก 35 38.9

ดี 35 38.9

ปานกลาง 18 20

นอ้ ย 2 2.2

นอ้ ยมาก 00

รวม 90 100

จากตารางที่4.4 พบว่า กล่มุ ตวั อยา่ งท่ตี อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดีมาก มจี านวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ
38.9 ลาดบั ดี มจี านวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 38.9ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 20ลาดบั นอ้ ย
มจี านวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 2.2 และลาดบั มจี านวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0

แผนภูมิท่ี 4.5 แสดงจานวนร้อยละของกลุ่มตวั อยา่ งจาแนกตามกิจกรรมเสริมของหอ้ งเรียนพิเศษ

จากแผนภมู ทิ ่ี4.5 พบว่า กลุม่ ตวั อยา่ งท่ีตอบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดีมาก มจี านวน 26 คน คดิ เป็นร้อยละ
28.9ลาดบั ดี มีจานวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 43.3ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 25 คน คดิ เป็นร้อยละ 27.8ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 และลาดบั มจี านวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0

ตารางที่ 4.5 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามกิจกรรมเสริมของห้องเรียนพิเศษ

กิจกรรมเสริมของหอ้ งเรียนพเิ ศษ จานวน ร้อยละ

ดีมาก 26 28.9

ดี 39 43.3

ปานกลาง 25 27.8

นอ้ ย 0 0

นอ้ ยมาก 00

รวม 90 100

จากตารางที่4.5 พบว่า กลุ่มตวั อยา่ งท่ีตอบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดมี าก มจี านวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ
28.9ลาดบั ดี มีจานวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 43.3ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 25 คน คดิ เป็นร้อยละ 27.8ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 และลาดบั มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0

แผนภูมทิ ่ี 4.6 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามสภาพแวดลอ้ มของหอ้ งเรียน

จากแผนภมู ทิ ี่4.6 พบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดีมาก มีจานวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ
23.3ลาดบั ดี มีจานวน 44 คน คดิ เป็นร้อยละ 48.9ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 24.4ลาดบั นอ้ ย
มจี านวน 3 คน คดิ เป็นร้อยละ 3.3 และลาดบั มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0

ตารางที่ 4.6 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามสภาพแวดลอ้ มของห้องเรียน

สภาพแวดลอ้ มของหอ้ งเรียน จานวน ร้อยละ

ดีมาก 21 23.3

ดี 44 48.9

ปานกลาง 22 24.4

นอ้ ย 3 3.3

นอ้ ยมาก 00

รวม 90 100

จากตารางท่ี4.6 พบวา่ กล่มุ ตวั อยา่ งทต่ี อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดีมาก มจี านวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ
23.3ลาดบั ดี มจี านวน 44 คน คดิ เป็นร้อยละ 48.9ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 22 คน คดิ เป็นร้อยละ 24.4ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 3 คน คดิ เป็นร้อยละ 3.3 และลาดบั มจี านวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0

แผนภมู ิท่ี 4.7 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามสภาพสังคมกบั เพือ่ นในห้องเรียน

จากแผนภมู ทิ ี่4.7 พบวา่ กล่มุ ตวั อยา่ งที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดีมาก มีจานวน 29 คน คดิ เป็นร้อยละ
32.2ลาดบั ดี มจี านวน 39 คน คดิ เป็นร้อยละ 43.3ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 20 ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 4 คน คดิ เป็นร้อยละ 4.4 และลาดบั มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0

ตารางที่ 4.7 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามสภาพสังคมกบั เพอ่ื นในหอ้ งเรียน

สภาพสังคมกบั เพ่ือนในหอ้ งเรียน จานวน ร้อยละ

ดีมาก 29 32.2

ดี 39 43.3

ปานกลาง 18 20

นอ้ ย 4 4.4

นอ้ ยมาก 00

รวม 90 100

จากตารางที่4.7 พบว่า กล่มุ ตวั อยา่ งท่ีตอบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดมี าก มจี านวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ
32.2ลาดบั ดี มีจานวน 39 คน คดิ เป็นร้อยละ 43.3ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 20 ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 4.4 และลาดบั มจี านวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0

แผนภมู ทิ ี่ 4.8 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามการดแู ลของครูที่ปรึกษา

จากแผนภูมิท่ี4.8 พบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดีมาก มีจานวน 28 คน คดิ เป็นร้อยละ
31.1ลาดบั ดี มีจานวน 30 คน คดิ เป็นร้อยละ 33.3ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 29 คน คดิ เป็นร้อยละ 32.2ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 3 คน คดิ เป็นร้อยละ 3.3 และลาดบั มจี านวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0

ตารางที่ 4.8 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามการดแู ลของครูที่ปรึกษา

การดแู ลของครูท่ีปรึกษา จานวน ร้อยละ

ดีมาก 28 31.1

ดี 30 33.3

ปานกลาง 29 32.2

นอ้ ย 3 3.3

นอ้ ยมาก 00

รวม 90 100

จากตารางท่ี4.8 พบวา่ กลุ่มตวั อยา่ งที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดมี าก มจี านวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ
31.1ลาดบั ดี มีจานวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 32.2ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 3 คน คดิ เป็นร้อยละ 3.3 และลาดบั มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0

แผนภูมทิ ี่ 4.9 แสดงจานวนร้อยละของกลุ่มตวั อยา่ งจาแนกตามอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ภายในหอ้ งเรียน

จากแผนภมู ิท่ี4.9 พบว่า กลุ่มตวั อยา่ งที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดีมาก มจี านวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ
27.8ลาดบั ดี มีจานวน 31 คน คดิ เป็นร้อยละ 34.4ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 31 คน คดิ เป็นร้อยละ 34.4ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 3.3 และลาดบั มจี านวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0

ตารางท่ี 4.9 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ภายในหอ้ งเรียน

อปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ภายในห้องเรียน จานวน ร้อยละ

ดีมาก 25 27.8

ดี 31 34.4

ปานกลาง 31 34.4

นอ้ ย 3 3.3

นอ้ ยมาก 00

รวม 90 100

จากตารางที่4.9 พบวา่ กลุ่มตวั อยา่ งทีต่ อบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดมี าก มจี านวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ
27.8ลาดบั ดี มีจานวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 34.4ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 34.4ลาดบั นอ้ ย
มจี านวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 3.3 และลาดบั มจี านวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0

แผนภูมทิ ่ี 4.10 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามค่าเทอมทีต่ อ้ งจา่ ยในแต่ละภาคเรียน

จากแผนภมู ทิ ี่4.10พบว่า กล่มุ ตวั อยา่ งทตี่ อบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดีมาก มจี านวน 19 คน คดิ เป็นร้อยละ
21.1 ลาดบั ดี มจี านวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3 ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 35 คน คดิ เป็นร้อยละ 38.[ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 5.6 และลาดบั มีจานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.1

ตารางท่ี 4.10แสดงจานวนร้อยละของกล่มุ ตวั อยา่ งจาแนกตามค่าเทอมทต่ี อ้ งจา่ ยในแต่ละภาคเรียน

ค่าเทอมท่ีตอ้ งจ่ายในแตล่ ะภาคเรียน จานวน ร้อยละ

ดีมาก 19 21.1

ดี 30 33.3

ปานกลาง 35 38.9

นอ้ ย 5 5.6

นอ้ ยมาก 1 1.1

รวม 90 100

จากตารางที่4.10พบว่า กลุม่ ตวั อยา่ งทต่ี อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดมี าก มจี านวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ
21.1 ลาดบั ดี มีจานวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3 ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 35 คน คดิ เป็นร้อยละ 38.[ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 5.6 และลาดบั มจี านวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 1.1

แผนภูมิท่ี 4.11 แสดงจานวนร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ งจาแนกตามความคุม้ คา่ ที่ไดจ้ ากการเรียนเมื่อเทียบกบั ค่า
เทอม

จากแผนภมู ิที่4.11 พบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งทตี่ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ลาดบั ดีมาก มจี านวน 16 คน คดิ เป็นร้อยละ
17.8ลาดบั ดี มจี านวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 38.9 ลาดบั ปานกลาง มีจานวน 32คน คดิ เป็นร้อยละ 35.6ลาดบั นอ้ ย
มีจานวน 6 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.7 และลาดบั มีจานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 1.1

ตารางท่ี 4.11 แสดงจานวนร้อยละของกลุม่ ตวั อยา่ งจาแนกตามความคมุ้ คา่ ทไ่ี ดจ้ ากการเรียนเม่อื เทยี บกบั ค่าเทอม

ความคุม้ คา่ ทไี่ ดจ้ ากการเรียนเมอ่ื เทียบกบั คา่ เทอม จานวน ร้อยละ

ดีมาก 16 17.8

ดี 35 38.9

ปานกลาง 32 35.6

นอ้ ย 6 6.7

นอ้ ยมาก 1 1.1

รวม 90 100

จากตารางที่4.11 พบวา่ กลุม่ ตวั อยา่ งท่ีตอบแบบสอบถามส่วนใหญล่ าดบั ดีมาก มจี านวน 16 คน คดิ เป็นร้อยละ
17.8ลาดบั ดี มีจานวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 38.9 ลาดบั ปานกลาง มจี านวน 32คน คิดเป็นร้อยละ 35.6ลาดบั นอ้ ย
มจี านวน 6 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.7 และลาดบั มีจานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 1.1

ตอนท่ี 3 ผลการวเิ คราะห์การแสดงความคดิ เห็นต่อห้องเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และคณุ ธรรม

ตารางที่ 4.12 ผลการแสดงความคิดเห็นต่อห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม

การแสดงความคิดเห็นต่อหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคุณธรรม จานวน ร้อยละ

คนแสดงความคิดเห็น 16 17.8

คนไม่แสดงความคดิ เห็น 74 82.2

รวม 90 100

จากตารางที่ 4.12 พบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ตี อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ จานวนคนไมแ่ สดงความคดิ เห็น จานวน 74
คน คิดเป็นร้อยละ 82.2% และ จานวนคนแสดงความคดิ เห็น จานวน 16 คน คดิ เป็นร้อยละ 17.8%

แผนภมู ทิ ี่ 4.12 การแสดงความคิดเห็นตอ่ ห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม



บทที่5
สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอ

ในการทาโครงงานเร่ือง แบบสารวจความพงึ พอใจในหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และ
คุณธรรม
สามารถสรุปผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ ดงั น้ี
1.สรุปผลการดาเนินงาน

จากผลการดาเนินงาน กลุ่มผจู้ ดั ท่าสามารถสรุปได้
1.จากการสารวจความพึงพอใจของนกั เรียนหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และคณุ ธรรม
1.1รูปแบบการเรียนการสอนของห้องเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และคุณธรรม นกั เรียนมคี วามพอใจ
มากท่สี ุด
1.2รายวิชาเพิม่ เติมในคาบศนู ยข์ องหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคุณธรรม นกั เรียนมีความพอใจ
มาก
1.3กิจกรรมทีค่ รูจดั ทาภายในคาบเรียนของห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม นกั เรียนมี
ความพอใจมาก/มากที่สุด
1.4กิจกรรมเสริมของหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม นกั เรียนมีความพอใจมาก
1.5สภาพแวดลอ้ มของหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม นกั เรียนมีความพอใจมาก
1.6สภาพสงั คมกบั เพื่อนในหอ้ งเรียนของห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม นักเรียนมีความ
พอใจมาก
1.7การดูแลของครูทป่ี รึกษาในห้องเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และคณุ ธรรม นกั เรียนมีความพอใจมาก
1.8อุปกรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์ภายในห้องเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และคุณธรรม นกั เรียนมีความพอใจ
ปานกลาง/มาก
1.9 ค่าเทอมทต่ี อ้ งจา่ ยในแต่ละภาคเรียนของหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์และคณุ ธรรม นกั เรียนมีพอใจ
ปานกลาง
1.10ความคุม้ คา่ ทไ่ี ดจ้ ากการเรียนเมือ่ เทยี บกบั คา่ เทอมที่ตอ้ งจา่ ยในแตล่ ะภาคเรียนของห้องเรียนคณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และคณุ ธรรม นกั เรียนมีความพอใจมาก

2. นาความรู้ทางคณิตศาสตร์มาในการหาค่าเฉลยี่

2.1การหาค่าเฉลย่ี
ค่าเฉลย่ี หาไดจ้ ากการนาขอ้ มลู ท้งั หมดมาหารกบั จานวนขอ้ มลู

2.อภิปรายผล
จากการ สารวจความพงึ พอใจของนกั เรียนหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และคุณธรรม สามารถนามา
อภิปรายผลไดด้ งั น้ี

รูปแบบการเรียนการสอนของหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคุณธรรม
นกั เรียมีความพอใจใน ระดบั 5ท่ี 46.7% ระดบั 4ที่ 36.7%
ระดบั 3ที่ 14.4% ระดบั 2ที่ 2.2% ระดบั 1ที่ 0%

รายวชิ าเพ่มิ เติมในคาบศูนยข์ องหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และคณุ ธรรม
นกั เรียมีความพอใจใน ระดบั 5ที่ 12.2% ระดบั 4ที่ 48.9%
ระดบั 3ที่ 28.9% ระดบั 2ที่ 8.9% ระดบั 1ที่ 1.1%

กิจกรรมท่ีครูจดั ทาภายในคาบเรียนของห้องเรียนคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และคุณธรรม
นกั เรียมีความพอใจใน ระดบั 5ที่ 38.9% ระดบั 4ที่ 38.9%
ระดบั 3ที่ 20% ระดบั 2ที่ 2.2% ระดบั 1ที่ 0%

กิจกรรมเสริมของหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม
นกั เรียมคี วามพอใจใน ระดบั 5ท่ี 28.9% ระดบั 4ที่ 43.3%
ระดบั 3ที่ 27.8% ระดบั 2ที่ 0% ระดบั 1ที่ 0%

สภาพแวดลอ้ มของหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคุณธรรม
นกั เรียมคี วามพอใจใน ระดบั 5ท่ี 23.3% ระดบั 4ที่ 48.9%
ระดบั 3ที่ 24.4% ระดบั 2ที่ 3.3% ระดบั 1ที่ 0%

สภาพสงั คมกบั เพื่อนในห้องเรียนของห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม

นกั เรียมีความพอใจใน ระดบั 5ที่ 32.2% ระดบั 4ที่ 43.3%
ระดบั 3ที่ 20% ระดบั 2ที่ 4.4% ระดบั 1ที่ 0%

การดแู ลของครูท่ปี รึกษาในหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคุณธรรม
นกั เรียมีความพอใจใน ระดบั 5ท่ี 31.1% ระดบั 4ที่ 33.3%
ระดบั 3ที่ 32.2% ระดบั 2ที่ 3.3% ระดบั 1ที่ 0%

อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ภายในห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม
นกั เรียมคี วามพอใจใน ระดบั 5ที่ 27.8% ระดบั 4ที่ 34.4%
ระดบั 3ที่ 34.4%ระดบั 2ที่ 3.3% ระดบั 1ที่ 0%

ค่าเทอมทต่ี อ้ งจ่ายในแตล่ ะภาคเรียนของห้องเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณุ ธรรม
นกั เรียมีความพอใจใน ระดบั 5ที่ 21.1% ระดบั 4ที่ 33.3%
ระดบั 3ที่ 38.9% ระดบั 2ที่ 5.6% ระดบั 1ที่ 1.1%

ความคุม้ ค่าทไ่ี ดจ้ ากการเรียนเม่อื เทียบกบั คา่ เทอมที่ตอ้ งจา่ ยในแตล่ ะภาคเรียนของห้องเรียนคณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และคุณธรรม
นกั เรียมีความพอใจใน ระดบั 5ที่ 17.8% ระดบั 4ที่ 38.9%
ระดบั 3ที่ 35.6% ระดบั 2ที่ 6.7% ระดบั 1ที่ 1.1%

3.ประโยชน์ท่คี าดว่าจะไดร้ ับ
3.1 ไดร้ ู้ความตอ้ งการของนกั เรียนทเี่ รียนห้องเรียนMSMP

3.2 สามารถนาความคิดเห็นของนกั เรียนไปปรับปรุงห้องเรียนMSMP ได้
3.3ไดร้ ู้ความพึงพอใจของนกั เรียนหอ้ งเรียนMSMP

4.ขอ้ เสนอแนะ
4.1 ควรเพมิ่ จานวนกลุ่มตวั อยา่ งท่ีใชส้ ารวจใหม้ ากข้นึ เพอื่ ให้ความพึงพอใจของนกั เรียนท่ีไดต้ รงตามความ

เป็ นจริ งมากข้ ึน



บรรณานุกรม

ห้องเรียนพิเศษ. (2562). ห้องเรียนพเิ ศษ. สืบคน้ เม่อื 30 กรกฎาคม 2565, จาก
https://www.sanook.com/campus/1397865/

โครงการห้องเรียนพิเศษ. (2561). โครงการห้องเรียนพเิ ศษ. สืบคน้ เมื่อ 31 กรกฎาคม 2565, จาก
https://www.dek-d.com/education/49075/

ห้องเรียนMSMP. (2565). ห้องเรียนMSMP. สืบคน้ เม่อื 8 สิงหาคม 2565, จาก https://www.ptnk.ac.th/



ภาคผนวก

ระดบั ช้นั ของนกั เรียน

ระดบั ความพึงพอใจในรูปแบบการเรียนการสอน
ของห้องเรียนMSMP


Click to View FlipBook Version