ก การพัฒนาแอปพลิเคชั่น จัดทำโดย นางสาวโยษิตา โล่ประดิษฐ์ เลขที่ 10 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 เสนอ ครูนภา จันทร์ทรง รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา วิทยาการคอมพิวเตอร์ประยุกต์ ว30282 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เพชรบุรี
ก คำนำ รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ประยุกต์ว30282 ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องการพัฒนาแอปพลิเคชั่นและได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์กับ การเรียน ผู้จัดทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังหาข้อมูลเรื่อง นี้อยู่ หากมีข้อแนะนำหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ผู้จัดทำ วันที่ 23 สิงหาคม พ.ส.2566
ข สารบัญ เรื่อง หน้า ความหมายของการพัฒนาแอปพลิเคชั่น 1 องค์ประกอบของการพัฒนาแอปพลิเคชั่น 1 การวางแผนพัฒนา 3 การใช้งานการ์ดคัมบัง 3 เครื่องมือช่วยวางแผนและติดตามความก้าวหน้า 4
ค สารบัญรูปภาพ เรื่อง หน้า ภาพที่ 1 ภาพองค์ประกอบของการพัฒนาแอปพลิเคชั่น 1 ภาพที่ 2 เทคนิคกระดานคัมบัง 3 ภาพที่ 3 ตัวอย่างการแบ่งเฟสบนกระดานคัมบัง 4 ภาพที่ 5 ตัวอย่างแอปพลิเคชั่น Trello 5
1 ความหมายของการพัฒนาแอปพลิเคชั่น การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น คือ การเขียนซอฟแวร์สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟน(Smart phone) และ แท็บเล็ต(Tablet) หรือพูดกันง่ายๆ คือ การทำแอพลิเคชั่นหรือการสร้างแอพลิเคชั่นสำหรับมือ ถือ ซึ่งผู้พัฒนาจะเขียนแอพลิเคชั่นมือถือ เพื่อใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์บางอย่างของมือถือที่มีคุณลักษณะ เฉพาะ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของสมาร์ทโฟน (Accelerator Sensor), GPS และข้อมูล จากเซ็นเซอร์ตัวอื่นๆ เป็นต้น ข้อเสียของการพัฒนาแอพพลิเคชั่นมือถือ คือ ผู้พัฒนาไม่สามารถนำ source code ของระบบปฎิบัติการหนึ่งไปใช้อีกระบบปฏิบัติการได้ ตัวอย่างเช่น source code ที่ใช้ทำแอพพลิเคชั่น หรือสร้างแอพพลิเคชั่นดั้งเดิมสำหรับอุปกรณ์ Android ไม่สามารถทำงานร่วมกับ Windows Phone โปรแกรมประยุกต์ที่ใช้เบราว์เซอร์ต้องมี equipment-agnostic เพื่อให้เบราว์เซอร์ทำงานบนอุปกรณ์มือถือ ต่างๆได้ องค์ประกอบของการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ภาพที่ 1 ภาพองค์ประกอบของการพัฒนาแอปพลิเคชั่น
2 1. การศึกษาความต้องการ แอปพลิเคชั่นถูกสร้างขึ้นตามความต้องการและเพื่อแก้ปัญหาของลูกค้าหรือผู้ใช้ ผู้พัฒนาต้องทราบความ ต้องการหรือปัญหาก่อนดำเนินการออกแบบ ซึ่งจะได้ข้อกำหนดที่เป็นคุณสมบัติต่างๆ ของแอปพลิเคชั่น ซึ่ง เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้พัฒนา เพื่อให้ได้ความต้องการของลูกค้าหรือผู้ใช้ที่แท้จริง เพราะ อาจมีการสื่อสารความต้องการที่คลาดเคลื่อน 2. การออกแบบ เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ซึ่งค่อนข้างมีความซับซ้อนและมีรายละเอียดจำนวนมาก ต้องอาศัย แนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบอย่างเป็นระบบ ผลจากการออกแบบ จะได้เป็นโครงร่างของ แอปพลิเคชั่นที่มีส่วนประกอบย่อยที่มีการกำหนดหน้าที่การทำงานไว้ 3. การลงมือพัฒนา ผู้พัฒนาหรือโปรแกรมเมอร์ (programmer) ลงมือเขียนคำสั่งในส่วนประกอบย่อยที่ได้ออกแบบไว้ซึ่งอาจพบ ข้อจำกัดหรือข้อบกพร่องจากขั้นตอนการออกแบบ หรือขั้นตอนศึกษาความต้องการ จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้อง ย้อนกลับไปแก้ไขการออกแบบหรือศึกษาความต้องการ 4. การทดสอบ เป็นการตรวจสอบคุณภาพของแอปพลิเคชั่น เพื่อค้นหาข้อผิดพลาดที่มีอยู่ระหว่างที่แอปพลิเคชั่นทำงาน และ สร้างความมั่นใจแอปพลิเคชั่นทำงานได้ถูกต้องและตรงความต้องการอย่างแท้จริง หากพบข้อผิดพลาด ต้องทำ การปรับปรุง แก้ไข และทดสอบซ้ำ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการใช้งานจริง ซึ่งอาจทำให้เกิดความ เสียหายอย่างรุนแรงตามมา ในแต่ละขั้นตอนนั้น สามารถย้อนกลับไปปรับแก้ไขผลลัพธ์ที่ได้ในขั้นตอนก่อนหน้า โดยเฉพาะในกรณี ที่ลูกค้าหรือผู้ใช้มีส่วนร่วมในแต่ละขั้นตอนของการดำเนินงาน จะทำให้กำหนดความต้องการของแอปพลิเคชั่น ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และได้ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถตรงกับต้องการโดยแท้จริง
3 การวางแผนพัฒนา ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น แต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดที่ต้องจัดลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วน เพื่อให้การ จัดสรรทรัพยากรคนและเวลา เป็นไปอย่างเหมาะสม รวมถึงต้องกำหนดบทบาทหน้าที่ผู้รับผิดชอบ และ ติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงาน หากละเลยขั้นตอนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ทำให้การพัฒนา แอปพลิเคชั่นเสร็จไม่ทันเวลา หรือมีการทำงานบางอย่างไม่ตรงตามที่ออกแบบไว้ การใช้งานการ์ดคัมบัง ใช้เทคนิคกระดานคัมบัง (Kanban Board) โดยนำกระดาษแต่ละใบมาติดไว้บนกระดาน เพื่อกำหนดเฟสต่าง ๆ ในกับงานย่อย สำหรับแอปพลิเคชันที่ไม่ซับซ้อนมาก อาจแบ่งออกเป็น 3 เฟส คือ 1. To do – ช่วงระยะที่จะทำ 2. Doing – ช่วงระยะที่กำลังทำ 3. Done – ช่วงระยะที่ทำเสร็จแล้ว ภาพที่ 2 เทคนิคกระดานคัมบัง หากแอปพลิเคชั่นมีความซับซ้อนมาก อาจแยกกระดานออกเป็นหลายกระดานย่อย เพื่อจัดการแต่ละ เรื่องได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น เช่น กระดานสำหรับการสำรวจความต้องการผู้ใช้ การดานสำหรับการออกแบบ แอพพลิเคชั่น กระดานสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชั่น และกระดานสำหรับการทดสอบ
4 ภาพที่ 3 ตัวอย่างการแบ่งเฟสบนกระดานคัมบัง การใช้กระดานคัมบังเริ่มจากการนำการ์ดที่ระบุงานติดไว้ในเฟสแรกที่ช่องซ้ายมือและย้ายมาทีละช่องทางขวา เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าในการทำงานและสื่อสารให้ผู้ร่วมทีมได้รับทราบทั่วกันบนการ์ดแต่ละใบอาจมีการ กำหนดข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้ – คำอธิบายรายละเอียดของาน – ความสำคัญของงาน เช่น วิกฤติ (critical) สำคัญมาก (major) ปกติ (normal) ไม่เร่งด่วน (minor) – ประเภทงาน เช่น ลักษณะเฉพาะหรือฟีเจอร์ (feature) ความผิดพลาดที่ต้องแก้ไข (bug) งานอื่น ๆ – กำหนดเวลาแล้วเสร็จ – ผู้รับผิดชอบ เครื่องมือช่วยวางแผนและติดตามความก้าวหน้า เทรลโล (Trello) เป็นแอปพลิเคชั่นที่นำมาใช้บริหารจัดการงานในรูปแบบกระดานคัมบังได้ง่าย ไม่ ซับซ้อน รองรับการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสมัครใช้งานได้ทันทีผ่านทาง เว็บไซต์trello.com โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่มีการจำกัดจำนวนกระดานหรือจำนวนผู้ร่วมพัฒนา
5 ภาพที่ 4 ตัวอย่างแอปพลิเคชั่น Trello
6 บรรณานุกรม ครูบอล สอนคอม.“ การพัฒนาแอปพลิเคชั่น ”.[ระบบออนไลน์].แหล่งที่มา http://kruball.rbp.ac.th/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0 %B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0 %B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0 %B8%99/ .(25 สิงหาคม 2566)