การจำแนกสัตว์
Biology by Teacher. Tangmo
Biology
by
TeacherTangmo
ก
คำ นำ
E-book เรื่อง ‘การจำแนกสัตว์มีกระดูกสันหลัง’ ฉบับ
นี้จัดขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ระดับ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งมีเนื้อหาตรงตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขึ้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐)
มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญ
ของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การ
เปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย
ทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์
ตัวชี้วัด ว 1.3 ป.4/3 จำแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง
และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง โดยใช้การมีกระดูกสันหลังเป็น
เกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า E-Book ฉบับนี้ จะเป็น
ประโยชน์ต่อนักเรียนทุกคน ที่กำลังศึกษาในเรื่อง ‘การจำแนก
สัตว์’ และจะสามารถช่วยให้นักเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์การ
เรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ภัคจิรา สานู
ผู้จัดทำ
ส า ร บั ญ ข
1.คำนำ ก
2.สารบัญ ข
ค3.วัตถุประสงค์การเรียนรู้
4.การจำแนกสัตว์ 1
5.สัตว์มีกระดูกสันหลัง 21
56.สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
8
7.แบบฝึกหัด
8.เฉลยแบบฝึกหัด 11
9.บรรณานุกรม 14
10.ประวัติผู้จัดทำ 15
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ค
สิ่งมีชีวิต
เรื่อง การจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิต
ตัวชี้วัด ว 1.3 ป.4/3 จำแนกสัตว์
ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังและ
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง โดยใช้การมี
กระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้
ข้อมูลที่รวบรวมได้
จุดประสงค์การเรียนรู้
จำแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง
และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง โดยใช้การมี
กระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่
รวบรวมได้
ㆍ สาระการเรียนรู้
การจำแนกสัตว์ สามารถใช้การมีกระดูกสันหลัง
เป็นเกณฑ์ในการจำแนก ได้เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง
ㆍและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
สัตว์มีกระดูกสันหลังมีหลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มปลา
กลุ่มสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน
กลุ่มนก และกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ซึ่งแต่ละกลุ่ม
จะมีลักษณะเฉพาะที่สังเกตได้
การจำแนกสัตว์ 1
นักวิทยาศาสตร์ ได้มีการจำแนกสัตว์ที่มี
ลักษณะคล้ายคลึงกันไว้เป็นกลุ่มเดียวกัน
โดยใช้เกณฑ์ต่าง ๆ เช่น กระดูกสันหลัก
การสืบพันธ์ อุณหภูมิร่างกาย การหายใจ
เป็นต้น
โดยการแบ่งประเภทสัตว์ที่เน้นให้ศึกษาได้ง่ายมักใช้เกณฑ์ของกระดูกสัน
หลังของสัตว์ในการแบ่ง สามารถแบ่งออก ได้ 2 ประเภทดังนี้ สัตว์มีกระดูกสันหลัง
และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง สัตว์ในกลุ่มมีกระดูกสันหลังมีลักษณะกระดูกที่เป็นแนว
ยาวไปตามด้านหลังของสัตว์ ส่วนสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง คือ สัตว์ที่ไม่มีกระดูกแข็ง
เป็นแนวยาวไปตามด้านหลังของสัตว์
สัตว์มีกระดูกสันหลัง สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
สัตว์มีกระดูกสันหลัง 2
สัตว์มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ที่มีเนื้อเยื่อของร่างกายเจริญเป็นอวัยวะที่มีการ
ทำงานซับซ้อน ส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่อาศัยอยู่ทั้งในน้ำและบนบก จัดว่าเป็นสัตว์
ชั้นสูง แบ่งกลุ่มสัตว์มีกระดูกสันหลัง ได้ดังนี้
สัตว์พวกปลา เป็นสัตว์เลือดเย็น หายใจ
ด้วยเหงือก มีแผ่นปิดเหงือก มีครีบ
บางชนิดมีเกล็ด บาง ชนิดไม่มีเกล็ด
เช่น ปลาตะเพียน ปลากระเบน ฉลาม
ม้าน้ำ ฯลฯ
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เป็นสัตว์เลือดเย็น
ผิวหนังเปียกชื้น ไม่มีเกล็ด ตัวอ่อนอยู่ในน้ำ
หายใจ ด้วยเหงือก เมื่อโตขึ้นหายใจด้วยปอดและ
ผิวหนัง อาศัยอยู่บนบก มี 4 ขา เช่น กบ อึ่งอ่าง
คางคก จิ้งจกน้ำฯลฯ
สัตว์เลื้อยคลาน เป็นสัตว์เลือดเย็น ผิวหนัง
แห้ง ลำตัวมีเกล็ดปกคลุม หายใจด้วยปอด
วางไข่บน บก ไข่มีเปลือกแข็งหุ้ม เช่น เต่า
จระเข้ กิ้งก่า จิ้งจก ฯลฯ
สัตว์มีกระดูกสันหลัง 3
สัตว์จำพวกนก เป็นสัตว์เลือดอุ่น
หายใจด้วยปอด ขาคู่หน้าพัฒนาไปเป็น
ปีก มีขนเป็นแผง มี เกล็ดที่ขาและนิ้ว
เท้า ไข่มีเปลือกแข็งหุ้ม มีจะงอยปาก
แข็ง เซลล์เม็ดเลือดแดงมีนิวเคลียส
ตลอด ชีวิต เช่น นกพิราบ นกนางนวล
นกยูง นกกระจอกเทศ ฯลฯ
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม สัตว์เลือดอุ่น ผิวหนังเรียบ มีต่อมน้ำนม
สำหรับสร้างน้ำนมให้ตัวอ่อน หายใจด้วยปอด มีขนแบบ เส้นผม
ส่วนใหญ่เป็นสัตว์บก เช่น สุนัข ช้าง ลิง เสือ สิงโต จิงโจ้ เม่น
หนู ฯลฯ สำหรับสัตว์น้ำที่ จัดเป็นเลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เช่น โลมา
วาฬ พะยูน ฯลฯ สัตว์ปีกมีชนิดเดียวคือ ค้างคาว สัตว์เลี้ยง ลูก
ด้วยน้ำนมส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัว ยกเว้นตุ่นปากเป็ดและอีคิดนา
เท่านั้นที่ออกลูกเป็นไข่ สัตว์ประเภทนี้ มีทั้งสัตว์ชนิดที่กินพืชและ
กินสัตว์เป็นอาหาร
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 5
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง คือ เป็นสัตว์ที่ไม่มี สัตว์ที่ไม่มีกระดูกแข็งเป็นแกนกลาง
ภายในร่างกาย มักจะมีขนาดเล็ก ถ้ามีขาจะมีจำนวนขามาก และมีการเคลื่อนที่
แตกต่างกัน แบ่งตามประเภทของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังได้ดังนี้
พวกฟองน้ำ ลักษณะลำตัวมี
โพรง มีรูพรุน สืบพันธุ์ได้ทั้ง
พวกลำตัวกลวงหรือมีโพรง ลักษณะลำ
อาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ
ตัวคล้ายทรงกระบอกกลวง มีช่องเปิด
ส่วนใหญ่อยู่ในน้ำเค็ม เช่น
ออกจากลำตัวเพียงช่อง เดียว กลางลำ
ฟองน้ำ ฟองน้ำแก้ว ฯลฯ ตัวเป็นโพรง เป็นทางให้อาหารเข้าและ
กักอาหารออกจากลำตัว มีเข็มพิษไว้
ป้องกันตัวและจับเหยื่อ สืบพันธุ์ได้ทั้ง
พวกหนอนตัวแบน ลักษณะลำ
แบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศบางชนิด
ตัวแบนยาว มีปากแต่ไม่มีทวาร
อาศัยในน้ำจืด เช่น ไฮดรา และบางชนิด
สืบพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศ
และ ไม่อาศัยเพศ อาศัยอยู่ใน
อาศัยในน้ำเค็ม เช่น แมงกะพรุน
ปะการัง ดอกไม้ทะเล ฯลฯ
น้ำเค็มและน้ำจืด เช่น พยาธิ
ใบไม้ พยาธิตัวตืด ฯลฯ
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 6
พวกหนอนตัวกลม ลักษณะ
ลำตัวยาว ผิวเรียบ ไม่เป็น
พวกหอยทะเลและหมึกทะเล
ปล้อง เพศผู้เพศเมียแยก
ลักษณะลำตัวนิ่มมีหัวใจสูบ
คนละตัว สืบพันธุ์ได้ทั้ง
แบบอาศัยเพศ ดำรงชีวิต
ฉีดเลือด เคลื่อนที่โดยใช้
แบบปรสิต เช่น พยาธิตัว
กล้ามเนื้อ หายใจด้วยปอด
จี๊ด พยาธิปากขอ ฯลฯ
สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
ออกลูกเป็นไข่ เช่น หอยขี้กา
พวกสัตว์ทะเล ผิวขรุขระ
หอยทาก หมึกทะเล ฯลฯ
ลักษณะตามผิวลำตัวหยาบ
ขรุขระ มีสารพวกหินปูนเป็น
องค์ประกอบ ร่างกายแยกเป็น
แฉก สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
ออกลูกเป็นไข่ เช่น ดาวทะเล
ปลิงทะเล เม่นทะเล ฯลฯ
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 7
พวกที่มีขาเป็นข้อ ลักษณะ
ขาต่อกันเป็นข้อๆ มีระบบ
พวกที่มีล้ำตัวเป็นปล้อง
หมุนเวียนเลือด ระบบทาง
ลักษณะล้ำตัวกลมยาวคลำ
เดินอาหารที่ สมบูรณ์
ยวงแหวน ต่อกันเป็นปล้อง
สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ เช่น ผิวหนังเปียก ชื้น มีระบบ
กุ้ง ปู กิ้งกือ แมลงปอ
หมุนเวียนเลือดแบบปิด
แมงมุม ฯลฯ สืบพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศ
และไม่อาศัยเพศ เช่น
ไส้เดือน ปลิง ฯลฯ
8
พร้อมกันหรือยัง
ไปทำแบบฝึกหัดกันเลย
9
10
11
เฉลยแบบฝึกหัด
12
13
บรรณานุกรม 14
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
คลังความรู้ scimath.org.(2558)ความหลากหลายของสัตว์.
สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565
จากhttps://www.scimath.org/lesson-
biology/item/9434-2018-11-14-08-52-40
True ปลูกปัญญา.com.การจำแนกสัตว์.สืบค้นเมื่อวันที่ 25
กุมภาพันธ์ 2565
จากhttps://www.trueplookpanya.com/learning/de
tail/33766
ป ร ะ วั ติ ผู้ จั ด ทำ 15
ชื่อ. : นางสาวภัคจิรา สานู
ชื่อเล่น : แตงโม
ชั้นปี. : ชั้นปีที่ 2
สาขา. : วิทยาศาสตร์ทั่วไปและชีววิทยา
คณะ. : คณะครุศาสตร์
สถานศึกษา : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
Email : [email protected]
THANK YOU