ธนาธิปัตย์ 49 บรรณาธิการฯ : หลักสูตรที่ส าเร็จการศึกษาที่ผ่านมาคือ หลักสูตรใดครับ ล าดับที่เท่าไหร่ ร.ท.หญิง ศิริกานต์ฯ : หลักสูตรชั้นนายร้อย เหล่า กง. รุ่นที่ 74 สอบได้ล าดับที่ 1 เกรดเฉลี่ย 3.92 ค่ะ บรรณาธิการฯ : เรียนเก่งขนาดนี้ไม่ทราบว่าทางพลเรือน เรียนจบอะไรมาครับ ร.ท.หญิง ศิริกานต์ฯ : จบปริญญาตรี สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จบปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ วิชาเอกบัญชี ม.รามค าแหง ค่ะ บรรณาธิการฯ : ส่วนตัวคิดว่าการศึกษาทางพลเรือนกับหลักสูตร ตามแนวทางการรับราชการมีความแตกต่างกันไหมครับ ร.ท.หญิง ศิริกานต์ฯ : แตกต่างกันนะคะ หลักสูตรทาง พลเรือนจะเป็นการเรียนรู้พื้นฐานต่าง ๆ เพื่อน าไปต่อยอด ในการท างานต่อไป แต่หลักสูตรตามแนวทางการรับราชการ จะน าความรู้จากประสบการณ์การท างานจริงของเรา มาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนค่ะ บรรณาธิการฯ : หลักสูตรนี้เป็นอย่างไรบ้างครับส าหรับ รุ่นนี้เรียนออนไลน์หรือเรียนที่โรงเรียนครับ ร.ท.หญิง ศิริกานต์ฯ : มีทั้ง Online และ Onsite ค่ะ บรรณาธิการฯ : ขณะเรียนเป็นอย่างไรบ้างครับ บรรยากาศ ในการเรียนเป็นเช่นไรบ้างครับ ร.ท.หญิง ศิริกานต์ฯ : บรรยากาศในการเรียนสนุกมากค่ะ ส่วนใหญ่งานที่ได้รับมอบหมายจะเป็นงานกลุ่ม ท าให้ ได้แลกเปลี่ยนความรู้และมุมมองจากพี่ ๆ และเพื่อน ๆ นายทหารนักเรียน ในระหว่างการเรียนก็มีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์ 4 หลักสูตร การไปดูงาน ที่โรงกษาปณ์ และการไปศึกษาดูงานที่ส านักงานการเงิน มทบ.14 ค่ะ บรรณาธิการฯ : คราวนี้มาถึงเทคนิคการเรียนที่ท าให้ ประสบความส าเร็จกันบ้างครับ ร.ท.หญิง ศิริกานต์ฯ : เทคนิคในการเรียนคือ ตั้งใจเรียน ในห้องและจดเลคเซอร์ตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เข้าใจ มากขึ้นค่ะ บรรณาธิการฯ : สิ่งที่จะฝากถึงเพื่อนสมาชิกในเรื่อง การท างานหรือการเรียนหน่อยครับ ร.ท.หญิง ศิริกานต์ฯ : อยากจะฝากเพื่อน ๆ เหล่าทหาร การเงินค่ะ ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการท างาน และการเรียนอย่างมาก เราต้องเรียนรู้และอัพเดตความรู้ ใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะที่เราท า อยู่หรือเกี่ยวข้อง เท่านั้น แต่ให้รวม ไปถึงเทคโนโลยี ทั่ว ๆ ไปด้วย เช่นกัน เพราะจะ ท าให้เราสามารถ เรียนรู้ได้เท่าทัน กับสิ่งที่เกิดขึ้ น รอบตัว ซึ่งอาจจะน ามาประยุกต์ใช้กับงานที่เราท าได้
50 ธนาธิปัตย์ เราได้รู้จักกับสาวสวยคนเก่งทั้ง 2 คนไปแล้วนะครับ ทั้งเก่งด้วย สวยด้วยใช่มั้ยล่ะครับ คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับหนุ่มหล่อของการเงินเรากันบ้างดีกว่าครับ... บรรณาธิการฯ : การเรียนการสอนที่ทางโรงเรียนการเงิน จัดให้กับนักเรียน คิดว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ร.ต. สุพัฒน์ฯ : การจัดการเรียนการสอนในหลักสูตร ปฐมนิเทศนายทหารการเงินนี้ เป็นหลักสูตรสั้น ๆ ระยะเวลา เข้ารับการศึกษาเพียง 5 สัปดาห์ เนื้อหาในการศึกษา จึงเข้มข้นและมีประสิทธิภาพมาก อาจารย์ผู้สอนมุ่งเน้น คัดเนื้อหาที่เป็นสาระส าคัญในการปฏิบัติงาน และสามารถ น าไปใช้ในการปฏิบัติงานได้ทันทีหลังจากจบการศึกษา รวมทั้งมีการฝึกปฏิบัติงานที่สอนปูพื้นฐานตั้งแต่ขั้นตอนแรก ของการจัดท าเอกสารทาง การเงินเพื่อเบิกจ่ายเงินตลอดจน น าเอกสารนั้นมาบันทึกบัญชีท าให้นักเรียนสามารถมองเห็น เส้นทางเอกสารทางการเงินได้อย่างชัดเจนส่งผลให้ การปฏิบัติงานจริงไม่เกิดความสับสน บรรณาธิการฯ : การบ้านเยอะมากมั้ย ร.ต. สุพัฒน์ฯ : การบ้านมีบ้างในบางรายวิชาที่อาจารย์ ผู้สอนต้องการให้นักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาเพิ่มมากขึ้น กว่าในห้องเรียน ซึ่งการท าแบบฝึกหัดนี่แหละครับท าให้เรา ได้น ากรณีศึกษาต่างๆมาถกประเด็นกับเพื่อน ๆ ท าให้เรา ได้ความรู้ใหม่ ๆ จากเพื่อน ๆ ที่เคยเจอประสบการณ์ ในเรื่องนั้น ๆ มาก่อน บรรณาธิการฯ : ชอบการเรียนแบบออนไลน์ หรือ ออนไซด์ มากกว่ากัน เพราะอะไร ร.ต. สุพัฒน์ฯ : ปกติแล้วผมชอบเรียนในห้องเรียน มากกว่าครับ เพราะชอบฟังข้อค าถามจากเพื่อน ๆ ที่พบเจอ มาจากหน่วย แล้วมาสอบถามอาจารย์ผู้สอนในแต่ละรายวิชา ท าให้เราได้เก็บประสบการณ์ที่เพื่อน ๆ เจอมาเป็นความรู้ ของเราได้ไปอีก บรรณาธิการฯ : ชอบวิชาใด หรือวิธีการเรียนช่วงใดมากที่สุด ร.ต. สุพัฒน์ฯ : ส าหรับผมแล้วชอบวิชา การปฏิบัติเกี่ยวกับ การเงินการคลังด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดครับ เพราะเป็นวิชาที่ผมจะเจอในชีวิตประจ าในการปฏิบัติงาน น้อยมาก ผมจึงคิดว่าวิชานี้ ท้าทายส าหรับผมมาก กระผม ร.ต. สุพัฒน์ รอดอ่อง ตำแหน่ง นกง.รพ.ค่ายวชิรปราการ สังกัด มทบ.310 งานที่ได้รับมอบหมาย คือ งานด้านการเงิน และการบัญชีของ รพ. เกรดเฉลี่ย 3.88
ธนาธิปัตย์ 51 แต่อาจารย์ผู้สอนก็ถ่ายทอดวิชาความรู้ออกมาได้อย่าง สมบูรณ์แบบ ท าให้เข้าใจเนื้อหาได้เป็นอย่างดี บรรณาธิการฯ : มีเทคนิคอย่างไรที่ท าให้สอบได้เป็นที่ 1 ร.ต. สุพัฒน์ฯ : ก่อนอื่นเราต้องรับฟังค าพูดของทุกคนครับ ทั้งอาจารย์และเพื่อน เพราะบางอย่างสิ่งที่เรารู้อาจจะยังไม่ใช่ สิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นเราต้องรับฟังทุกอย่างแล้วท ามาหาข้อมูล สนับสนุนในสิ่งที่ได้ฟังมานั้นว่ามีข้อเท็จจริงประการใด และหากมีข้อสงสัยในวิชาเรียนห้ามเก็บไว้คนเดียว ต้องสอบถามอาจารย์และจดค าตอบที่ได้รับมานั้นไว้ใน สมุดโน้ตส่วนตัวเผื่อลืมจะได้ย้อนกลับมาอ่านได้ บรรณาธิการฯ : คิดว่าจะน าความรู้ที่ได้จากการเรียนไปใช้ ประโยชน์กับการท างานอย่างไร ร.ต. สุพัฒน์ฯ : หลังจากจบหลักสูตรปฐมนิเทศนายทหาร การเงินนี้แล้ว ผมคิดว่าความรู้ที่ได้รับจากหลักสูตรนี้ จะสามารถน าไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อยากมาก ไม่ว่าจะเป็น ด้านการตรวจเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงิน งบประมาณ และเงินนอกงบประมาณ รวมถึงการบันทึกบัญชีและ การจัดท ารายงานการเงินให้หน่วยที่เกี่ยวข้องทราบ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพและสมความมุ่งหมายของทางราชการ ผ่านไปแล้วนะครับส าหรับ “คนเก่ง...การเงิน” ของเรา ฉบับนี้ซึ่งทั้ง 2 ท่านนั้นเป็นคนเก่งจากทั้งฝั่งการเงิน และฝั่ง การตรวจสอบภายใน ซึ่งถือว่าเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ด้านการเงิน การงบประมาณ และการตรวจสอบภายใน ของกองทัพบกเลยนะครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “คนเก่ง...การเงิน” ทั้ง 3 ท่านนี้จะเป็นแรงบันดาลใจในการศึกษา และการท างาน ให้กับสมาชิกทุกท่านไม่มากก็น้อย ในฉบับหน้าอย่าลืมติดตามกันนะครับ แล้วเรามาลองทายกันดูว่า จะเป็นใครกันบ้าง ☺
52 ธนาธิปัตย์ ผบ.ฯ ถาม : ฝกง.มีหลักในการดำเนินชีวิตยังไง เห็นดูยิ้มแย้มแจ่มใส แลดูมีความสุขอยู่ตลอดเวลา ? ฝกง.ฯ ตอบ : ผมเป็นคนที่ไม่จริงจังอะไรกับวิถีชีวิตสักเท่าไหร่ครับเลยไม่เครียด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่เราต้องฝึกให้ตัวเอง รู้ว่าตัวเองรู้อะไร รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไร ถ้าไม่รู้ก็ศึกษาให้รู้แค่นั้นเองครับ โดยเฉพาะเรื่องงานในหน้าที่ของตัวเอง เราต้องรู้และเข้าใจในงานของเราให้กระจ่าง รวมทั้งสร้างพลังบวกให้กับตัวเอง ตอนผมบรรจุรับราชการครั้งแรก 30 เมษายน 2540 ในตำแหน่ง เสมียนการเงิน ชั้นยศ ส.ต. ผมได้รับเงินเดือน 4,700.- บาท พ.ช.ค. 1,000.- บาท ผมเหลือเงินเก็บเดือนละ 1,500.- บาท (ไม่รวมเงินฝากตามระเบียบราชการ) ผมก็ใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ได้ทุกวัน เพราะวิธีคิดของผมบวกความศรัทธาในภาพลักษณ์ของคำว่าทหาร และศรัทธาในผู้บังคับบัญชา ทุกระดับชั้น รวมทั้งศรัทธาในกองทัพบก เราต้องสร้างพลังบวกพลังสร้างสรรค์และพลังแห่งการทำดีในขอบเขต ศีลธรรมที่ดีงามให้เกิดขึ้นให้ได้ในทุก ๆ วัน ครับ ผบ.ฯ ถาม : ฝกง.ฯ มีแนวทางการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินหรือการยืมเงินประเภทรายการเบี้ยเลี้ยง/ค่าตอบแทน หรือ ประเภทอื่นใด ในภารกิจต่าง ๆ เพื่อไม่ให้รายชื่อเกิดการซ้ำซ้อนในภารกิจอื่น ๆ ในห้วงเวลาเดียวกันไหม ? ฝกง.ฯ ตอบ : ขออนุญาตครับ ปัจจุบัน สปช.ทบ. ได้แจ้งมาตรการควบคุมภายในเพื่อป้องกันการเบิกจ่ายเงินซ้ำซ้อน เพื่อให้ หน่วยตั้งแต่ระดับกองพันหรือเทียบเท่าขึ้นไปถือปฏิบัติตามหนังสือ สปช.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0406/2067 ลง 16 มิ.ย. 66 ทุกสายงานที่เกี่ยวข้องในการออกคำสั่งให้กำลังพลปฏิบัติภารกิจจะต้องมีการสอบยันข้อมูล รายชื่อกำลังพลแต่ละคำสั่งแต่ละภารกิจรวมทั้งกำลังพลที่มีรายชื่อตามคำสั่งจะต้องรับทราบคำสั่งด้วย โดย ผบ.หน่วย เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติของผู้เกี่ยวข้องในภาพรวม ครับ ผบ.ฯ ถาม : ร.ต. สง่า เดียวดาย ทส.ผบ.มทบ. ได้มีคำสั่งไปช่วยราชการเพื่อรอการปรับย้าย ณ สง.สด.จว.ช.ร. รวมเป็น ระยะเวลา 11 เดือน ถือเป็นการได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการประจำหรือลักษณะประจำในสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งส่งผลให้มีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้านได้หรือไม่ ? ฝกง.ฯ ตอบ : กรณีของ ร.ต. สง่า เดียวดาย จะไม่ถือว่าได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการในลักษณะประจำครับ เพราะมีกำหนด ระยะเวลาเพียง 11 เดือน ทั้งนี้กรณีการได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการประจำ จะต้องมีระยะตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป ตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ครับ ผบ.ฯ ถาม : ผบ. พร้อมคณะจะเดินทางเพื่อไปตรวจเยี่ยมกองกำลังสุรนารีในระหว่างวันที่ 8 - 9 ธ.ค. 66 จะต้องมี การแต่งตั้ง รอง ผบ.มทบ. (2) เพื่อปฏิบัติหน้าที่แทน ต้องออกคำสั่งในลักษณะใด ? ฝกง.ฯ ตอบ : ตามข้อบังคับ กห. ว่าด้วยการสั่งการและประชาสัมพันธ์ พ.ศ. 2527 ระบุว่า “ผู้ดำรงตำแหน่งในส่วนราชการ หรือหน่วยใดไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นครั้งคราวให้ รอง ผู้ช่วย หรือ เสนาธิการ ทำการแทนเป็นการ ชั่วคราว” และ ระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการมอบอำนาจบังคับบัญชา พ.ศ. 2513 ข้อ 9 ระบุว่า “การมอบอำนาจ บังคับบัญชา ให้กำหนดระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดแห่งการมอบอำนาจไว้ด้วย” ทั้งนี้ ผบ. สามารถมอบอำนาจ พ.ท. ธวัชชัย หาญสันเทียะ (หน.ต้นคนเดิม) “เมื่อ ผบ.หน่วยถามมา ฝกง.หน่วย ก็ตอบไป”
ธนาธิปัตย์ 53 ให้รอง ผบ.มทบ. (2) มีอำนาจหน้าที่ ลงนาม รับคำสั่ง สั่งการ และทำการแทน ผบ.มทบ. ในระหว่างวันที่ 8 - 9 ธ.ค. 66 ได้ครับ ผบ.ฯ ถาม : พ.อ. อนิจจัง อนัตตา ที่เสียชีวิตจากอาการเจ็บป่วยเมื่อวานนี้ การเบิกเงินช่วยเหลือพิเศษ 3 เท่า ของกำลังพล ดังกล่าว จะต้องใช้หลักฐานประกอบการเบิกจ่ายอะไรบ้าง ? ฝกง.ฯ ตอบ : หลักฐานประกอบการเบิกเงินช่วยพิเศษ 3 เท่า ประกอบด้วยเอกสารดังนี้ครับ 1. หน้าฎีกา (กง.10) 2. หน้างบใบสำคัญคู่จ่ายเงิน (กง.10.1) 3. ใบสำคัญรับเงิน (กง.2) 4. แบบคำขอรับเงินช่วยพิเศษกรณีข้าราชการถึงแก่ความตาย 5. หนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้ขอรับเงินช่วยพิเศษกรณีข้าราชการถึงแก่ความตาย 6. สลิปเงินเดือน (เดือนสุดท้าย) 7. คำสั่งบำเหน็จ และคำสั่งเงินเพิ่มกรณีต่างๆ (ถ้ามี) 8. บันทึกการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ 9. สำเนาใบมรณะบัตร 10. สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิต 11. กรณีภรรยาเป็นผู้รับเงิน ต้องมีสำเนาทะเบียนสมรส 12. สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับเงิน 13. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับเงิน 14. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - สกุล (ถ้ามี) 15. สำเนาใบนำส่งคืนเงินเดือน (เบิกเกินส่งคืน) ผบ.ฯ ถาม : การรับ - ส่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในสำนักงานการเงิน ถือปฏิบัติตามระเบียบใด ? ฝกง.ฯ ตอบ : ระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการรับ - ส่งหน้าที่ในเวลาย้าย เลื่อน ลด ปลด และบรรจุ พ.ศ. 2540 ข้อ 13 กำหนดไว้ว่า “การรับ - ส่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในสำนักงานการเงิน ให้ถือปฏิบัติตามคำสั่งประกาศหรือข้อบังคับ กระทรวงกลาโหมและกองทัพบกที่เกี่ยวข้อง และให้ถือปฏิบัติตามระเบียบนี้โดยอนุโลม” ทั้งนี้ตามข้อบังคับ กระทรวงกลาโหมว่าด้วยการเงิน พ.ศ. 2554 (ขกง.54) หมวด 15 การรับส่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน การเงิน ข้อ 95 - 99 ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติไว้เรียบร้อยแล้วครับ ผบ.ฯ ถาม : เพื่อน ผบ. โทรมาถามหลักเกณฑ์การเบิกเงินค่าซักชุดสำหรับการปฏิบัติภารกิจถวายพระเกียรติและถวาย ความปลอดภัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์เบิกจ่ายอย่างไร ? ฝกง.ฯ ตอบ : ปัจจุบันเราเบิกจ่ายตามอนุมัติหลักการตาม หนังสือ สปช.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0406/1338 ลง 3 เม.ย. 63 และหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนมาก ที่ กค 0408.4/13188 ลง 24 มี.ค. 63 โดยกำหนดอัตราไว้ดังนี้ 1. ค่าซักชุดพระราชฐานขาว, เครื่องแบบปกติขาว และเครื่องแบบปกติกากีแกมเขียวคอแบะ อัตราชุดละ 250.- บาท (สองร้อยห้าสิบบาทถ้วน) 2. ค่าซักชุดพระราชฐานเขียว และเครื่องแบบปกติกากีแกมเขียวคอพับ อัตราชุดละ 130.- บาท (หนึ่งร้อยสามสิบบาทถ้วน) เอกสารการเบิกจ่ายประกอบด้วย กง.10, กง.10.1, กง.2.1, คำสั่ง, รายชื่อประกอบคำสั่ง และ สั่งจ่ายงบประมาณ ครับ
54 ธนาธิปัตย์ ก่อกำเนิดโรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ กง.ทบ. ได้พิจารณาวันครบรอบการ สถาปนา กง.ทบ. ขึ้นใหม่อีกครั้งเพื่อให้มีความถูกต้อง เหมือนกับที่ส่วนราชการอื่น ๆ ยึดถือปฏิบัติ และเพื่อใช้ ในการอ้างอิงสำหรับการดำเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ จึงมีการ ปรับเปลี่ยนปีครบรอบการสถาปนาฯ ในวันที่ ๖ มิ.ย. ๖๔ ขึ้นใหม่ จากปีที่ ๘๒ เป็นปีที่ ๘๓ โดยให้เหตุผลความเป็นไปได้ ๒ ประการ ประการแรกคือในอดีตใช้การนับจำนวนครั้งที่จัด งานสถาปนาฯ แต่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๘๒ - ๒๔๘๘ เกิดเหตุการณ์ สงครามโลกครั้งที่ ๒ อาจมีการงดจัดงานสถาปนาฯ ก็เป็นได้ หรืออีกประการหนึ่งอาจเกิดจากการประกาศให้ใช้วันที่ ๑ ม.ค. เป็นวันขึ้นปีใหม่แทนวันที่ 13 เม.ย. แล้วส่งผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เกี่ยวกับวันสถาปนา กง.ทบ. ทำไมถึงจะต้องมีการพิจารณ ากันใหม่หรือครับ เนื่องจากว่าการจัดงานสถาปนา กง.ทบ. ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ นั้น กง.ทบ. นับได้เป็นปีที่ ๘๒ ซึ่งหากนับจำนวนปี พ.ศ. ที่ครบรอบแล้ว (๒๕๖๔ - ๒๔๘๑) ควรจะเป็นการครบรอบ ปีที่ ๘๓ มากกว่า จึงเป็นที่มาของการพิจารณาการครบรอบ สถาปนา กง.ทบ.กันใหม่นั่นเองครับ (หนังสือ กวก.กง.ทบ. ที่ กห ๐๔๒๒.๒/๕๐๓ ลง ๑๓ พ.ค. ๖๔) และจากการชำระประวัติ วันสถาปนา กง.ทบ. ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความอยากรู้ ประวัติ ที่มาของ รร.กง.กง.ทบ. เช่นกัน จนนำมาสู่บทความ ที่ท่านทั้งหลายจะได้อ่านต่อไปนี้ครับ ท่านผู้อ่านครับ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก มีความประสงค์จะจัดงานวันสถาปนาฯ ขึ้น เพียงแต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องวันที่จะกำหนดให้เป็น วันสถาปนาฯ โดยได้มีการพูดคุยเพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้ ซึ่งก็ได้ ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือเพราะเป็นเอกสารจากกรมยุทธการ ทหารบก ที่ยืนยันว่าควรใช้ วันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๐๑ เป็นวัน คล้ายวันสถาปนา โรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก เนื่องจาก “เป็นวันที่ได้ประกอบพิธีเปิดป้ายชื่อโรงเรียนขึ้น” จึงสรุปว่าใช้วันที่ ๒๑ กันยายน ของทุกปีเป็นวันสถาปนา โรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก แต่ได้เปลี่ยนชื่อ เรียกเสียใหม่จากวันสถาปนา เป็นวันก่อกำเนิดแทน ก่อนอื่นเลยผู้เขียนขอยึดเอาเอกสารกรมยุทธการ ทหารบกที่มี พลตรี ประมณ ฑ์ ผลาสินธุ์ เป็นเจ้ากรม ยุทธการทหารบกในขณะนั้น ได้จัดพิมพ์“ประวัติหน่วยทหาร ในกองทัพบก” ขึ้นมาใหม่โดยคาดว่าจัดพิมพ์ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ เพื่อใช้แทนของเก่าคือ “ประวัติหน่วยทหาร ในกองทัพบก ระดับกองพัน หรือเทียบเท่าขึ้นไป” พ.ศ. ๒๕๐๕ และกรมยุทธการทหารบกได้นำมาปรับปรุงตีพิมพ์เป็น หนังสือขึ้นมาใหม่อีกครั้งในปี ๒๕๖๔ ชื่อ “ประวัติหน่วยทหาร ในกองทัพบก” พ.อ. กฤษณ์กร สร้อยสด
ธนาธิปัตย์ 55 เมื่อลองเข้าไปอ่านเนื้อหาดูก็ทำให้รู้สึกว่าโรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก มีมาก่อนวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๑ ที่เป็นเพียงวันประกอบพิธีเปิดป้ายชื่อโรงเรียนเท่านั้น จึงตั้งข้อสังเกตและลองศึกษาค้นคว้าในหลักฐานต่าง ๆ ดังนี้ หนังสือ “ประวัติหน่วยทหารในกองทัพบก”ในปี ๒๕๖๔ ได้กล่าวไว้ว่า แต่เริ่มเดิมทีในปี พ.ศ. ๒๔๖๔ กระทรวงกลาโหมได้มีคำสั่งให้ใช้ประมวลข้อบังคับสำหรับทหารบก เล่ม ๑ กับการยกเลิกข้อบังคับบางฉบับ ลงวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ มีผลให้เกิดการแบ่งกรมขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ตั้งแต่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๕ โดยกรมคลังเงินทหารบกยังคงขึ้นกับ กรมยกกระบัตรทหารบก แต่ภารกิจหน้าที่ได้มีการปรับปรุงขยายเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม และได้มีการก่อตั้งกองโรงเรียนการสมุห์บาญชี ทหารบกขึ้นในกรมจเรพัสดุทหารบก มีจุดประสงค์เพื่อฝึกหัดสั่งสอนบุคคลที่รับราชการในหน้าที่สมุห์บาญชีทหารบก ให้ปฏิบัติงานได้ ซึ่งในเอกสารชิ้นนี้ได้ให้ความเห็นว่า “ซึ่งควรจะถือได้ว่าโรงเรียนทหารการเงินได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว ตรงนี้ ผู้เขียนเห็นว่ามีความเป็นไปได้เพราะคำว่า “สมุห์บาญชี” หมายถึง ผู้ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลเอกสารทางบัญชี แต่ยังไม่มี ความชัดเจนในเรื่องภารกิจและอัตราการจัด อีกทั้งยังมีข้อสงสัยอยู่คือ ถ้าหากกองโรงเรียนการสมุห์บาญชีทหารบกมีการจัด การเรียนการสอนในเรื่องการเงิน การบัญชีเป็นหลัก ก็ควรขึ้นตรงต่อกรมคลังเงินทหารบกมากกว่า ไม่น่าจะขึ้นกับกรมจเร พัสดุทหารบก และอีกประการหนึ่งคือยังไม่พบหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าโรงเรียนทหารการเงินเกิดจากพัฒนาการของ กองโรงเรียนการสมุห์บาญชีทหารบก สิ่งที่น่าสนใจคือ กรมคลังเงินทหารบกมีการพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นกรมการเงินทหารบก เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๑ โดยขึ้นการบังคับบัญชาตรงต่อกองทัพบก ปฏิบัติภารกิจตามการแบ่งส่วนราชการออกเป็น ๑ แผนก และ ๓ กอง คือ ๑. แผนกกลาง ทำหน้าที่ในทางธุรการ การพลาธิการ การยานพาหนะ การสวัสดิการ ๒. กองการเงิน มีหน้าที่ รับ - จ่าย เก็บรักษาเงิน และการบัญชีเงิน ๓. กองงบประมาณ มีหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณ และการควบคุมการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ๔. กองตรวจเงิน มีหน้าที่ตรวจเงิน และพิจารณากิจการทางวิทยาการอันเกี่ยวด้วยการเงิน และการบัญชีเงิน กรมจเรพัสดุทหารบก กองโรงเรียนการสุมห์บาญชี กรมยกกระบัตรทหารบก กรมคลังเงินทหารบก
56 ธนาธิปัตย์ จะเห็นว่าถึงแม้ยังไม่ปรากฏหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวกับโรงเรียนทหารการเงินเลยก็จริง แต่กรมการเงินทหารบกกลับมี อีกหนึ่งภารกิจคือการให้การศึกษาแก่นายทหารการเงิน เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสิทธิภาพให้สมกับเป็นเจ้าหน้าที่การเงินที่ดี โดยให้เข้ารับการศึกษารวมกับนายทหารนักเรียนเหล่าทหารพลาธิการ กระทั่งในปี พ.ศ. ๒๔๘๕ หลังจากก่อตั้งกรมการเงินทหารบกได้ประมาณ ๔ ปี จึงได้ทำการเปิดการศึกษาเฉพาะ นายทหารนักเรียนเหล่าทหารการเงินขึ้นเป็นรุ่นแรก โดยใช้เจ้าหน้าที่ของกรมการเงินทหารบกทำหน้าที่เป็นครู - อาจารย์ และใช้ สถานที่ในกรมการเงินทหารบกทำการสอนในรุ่นแรก ส่วนรุ่นต่อ ๆ มา นอกจากจะใช้สถานที่ในกรมการเงินทหารบกทำการสอนแล้ว ยังใช้สถานที่จากหน่วยอื่น ๆ ทำการสอนอีกด้วยเช่น ห้องประชุมโรงเรียนเสนาธิการทหารบกในขณะนั้น ห้องประชุมกรม พระธรรมนูญทหารบก ห้องประชุมกรมแผนที่ทหารบก เป็นต้น กรมการเงินทหารบกจึงมีความพยายามที่จะให้มีอัตราเจ้าหน้าที่ ครู - อาจารย์ประจำ และมีสถานที่เป็นของตนเองเพื่อทำหน้าที่ให้การศึกษาแก่เจ้าหน้าที่การเงิน จากความพยายามดังกล่าวในที่สุด วันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๙ กรมการเงินทหารบกจึงได้รับอนุมัติให้เพิ่มอัตรา “โรงเรียนทหารการเงิน” โดยมีกำลังพลนายทหาร ๒๓ นาย และนายสิบ ๒๙ นาย ตามหนังสือ “ประวัติหน่วยทหาร ในกองทัพบก” พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า ๖๔ ถึงตรงนี้น่าจะกล่าวได้ว่า โรงเรียนทหารการเงินถือกำเนิดขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะมีอัตราเป็นของตนเอง ถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานในเรื่องสถานที่ก็ตาม
ธนาธิปัตย์ 57 หนังสือ “หน่วยทหารในกองทัพบก” พ.ศ. ๒๕๒๙ ที่มี พล.ต. ประมณฑ์ ผลาสินธุ์ เป็นเจ้ากรมยุทธการทหารบก ก่อนที่จะนำมาปรับปรุงแก้ไขเป็นปี พ.ศ. ๒๕๖๔ นั้น บันทึก เกี่ยวกับวิวัฒนาการของกรมการเงินทหารบกไว้ว่า ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ถึง พ.ศ. ๒๔๙๘ “ข้อ ๓ ด้านวิชาการ ได้พยายาม ก่อตั้งโรงเรียนประจำเหล่าขึ้นคือ โรงเรียนการเงินทหารบก แต่เนื่องจากขัดข้องทางด้านสถานที่เพราะกรมการเงินทหารบก ไม่มีที่ดินที่จะจัดตั้งโรงเรียนของตนเอง แต่ก็ได้พยายามเปิด การศึกษาขึ้น โดยอาศัยสถานที่ของกรมพลาธิการทหารบกบ้าง กรมแผนที่บ้าง เปิดการศึกษาอบรมนายทหารและนายสิบ เหล่าการเงินตลอดมา และเป็นพื้นฐานในการก่อตั้งโรงเรียน การเงินทหารบกได้สำเร็จในสมัย พลตรี สวาสดิ์ เกษสกุล เป็นเจ้ากรม และ พลตรี สุวรรณ เกษมมงคล เป็นรองเจ้ากรม” ถือแม้จะมีการบันทึกไม่ตรงกันอยู่บ้างในเรื่องของ พ.ศ. การเป็นเจ้ากรมการเงินของ พลตรี สวาสดิ์ เกษสกุล เนื่องจากหนังสือ “ประวัติหน่วยทหารในกองทัพบก” พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า ๖๖ บันทึกว่า พลตรี สวาสดิ์ เกษสกุล เป็นเจ้ากรมการเงิน ทหารบก ช่วง พ.ศ. ๒๔๙๙ - พ.ศ. ๒๕๐๓ ในขณะที่เอกสาร “หน่วยทหารในกองทัพบก” พ.ศ. ๒๕๒๙ บันทึกว่า ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ถึง พ.ศ. ๒๔๙๘ การก่อตั้งโรงเรียนการเงินทหารบก ได้สำเร็จในสมัย พลตรี สวาสดิ์ เกษสกุล แต่หากจะกล่าวถึง ความชัดเจนแล้วผู้เขียนคิดว่า หนังสือ “ประวัติหน่วยทหาร ในกองทัพบก” พ.ศ. ๒๕๖๔ มีความชัดเจนกว่าเพราะสามารถ ระบุวันที่ก่อตั้ง และอัตราบรรจุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๙ และมีอัตรากำลังพลนายทหาร ๒๓ นาย และนายสิบ ๒๙ นาย ถึงตรงนี้น่าจะกล่าวได้ว่า โรงเรียนทหารการเงินถือกำเนิดขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แล้ว หากเราดูสิ่งบ่งชี้อีกประการหนึ่งในหนังสือ “ประวัติ หน่วยทหารในกองทัพบก” พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า ๖๒ ยังกล่าวไว้ อีกว่า วันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ กองทัพบกได้มีการปรับปรุง กิจการของกองทัพในทุกด้าน ในด้านการเงินได้มีการแยก การบริหารงานออกเป็น ๒ ฝ่าย โดยจัดตั้งสำนักงานปลัดบัญชี ทหารบกขึ้น และให้เป็นฝ่ายอำนวยการด้าน งบประมาณ การบัญชี การเงิน และการตรวจสอบบัญชี โดยงานด้านงบประมาณ และ การตรวจสอบบัญชี ซึ่งแต่เดิมเป็นภารกิจของกรมการเงินทหารบก ถูกโอนไปอยู่กับสำนักงานปลัดบัญชีทหารบก ฉะนั้นภารกิจ ของกรมการเงินทหารบกจึงมีหน้าที่ปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกรับ จ่าย และเก็บรักษาเงิน การบัญชี และการศึกษาวิชาเหล่าทหารการเงิน เท่านั้น โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น ๓ กอง และ ๑ โรงเรียน คือ ๑. กองกลาง มีหน้าที่ในการสารบรรณ ธุรการ การกำลังพล ฯลฯ ๒. กองธนารักษ์ มีหน้าที่ในการ เบิก รับ จ่าย เก็บรักษาเงิน เก็บหลักฐานการเงิน และการบัญชี ๓. กองการเงิน มีหน้าที่ควบคุมการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ให้เป็นไปตามแบบแผนของทางราชการ ๔. โรงเรียนทหารการเงิน มีหน้าที่อำนวยการฝึกการศึกษา ของเหล่าทหารการเงิน และยืนยันด้วยระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการกำหนดหน้าที่ส่วนราชการในกองทัพบก พ.ศ.๒๕๐๑ ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๐๑ ว่าให้ใช้ระเบียบนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๐๐ เป็นต้นไป ลงชื่อ พลโท ถ.กิตติขจร รัฐมนตรีว่า การกระทรวงกลาโหม โดยเนื้อหาหน้า ๑๒ ถึงหน้า ๑๓ ของระเบียบนี้กล่าวไว้ว่า กรมการเงินทหารบก แบ่งส่วนราชการออกเป็น ๑. กองกลาง มีหน้าที่ในการสารบรรณ ธุรการ การกำลังพล บริการของกรมและการสถิติที่เกี่ยวข้อง ๒. กองธนารักษ์ มีหน้าที่ในการ เบิก รับ จ่าย เก็บรักษาเงิน เก็บรักษาหลักฐานการเงิน และบัญชีเงิน
58 ธนาธิปัตย์ ๓. กองการเงิน มีหน้าที่ควบคุมการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ การตรวจสอบหลักฐานการจ่ายเงินตามระเบียบแบบแผน ของทางราชการ และการตรวจสอบเรื่องราวของเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ กับให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่สายงานต่าง ๆ เกี่ยวกับกิจการเงินทั้งปวง ๔. โรงเรียนการเงินทหารบก มีหน้าที่อำนวนการฝึก การศึกษาของเหล่าทหารการเงิน นั่นแสดงให้เห็นว่าโรงเรียนทหารการเงินมีมาก่อนวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๑ เพียงแต่เรายึดถือเอาวันที่ประกอบ พิธีเปิดป้ายโรงเรียนเป็นวันคล้ายวันสถาปนา หรือที่ต่อมาเราเรียกว่าวันก่อกำเนิดเท่านั้นเอง ในเวลาต่อมาโรงเรียนทหารการเงินได้มีการพัฒนามาเป็นลำดับ โดยมีการก่อสร้างอาคารเพื่อสนับสนุนภารกิจของ โรงเรียนทหารการเงิน ดังนี้ อาคารกองบัญชาการ ฯต่อมาเปลี่ยนเป็นที่ทำการแผนกสนับสนุนการศึกษา ฯและในปัจจุบันเป็นที่พักของผู้เข้ารับการศึกษา อาคารกองพันนักเรียน ฯ ปัจจุบันถูกรื้อถอนไป และสร้างอาคารกองบัญชาการขึ้นมาใหม่ทดแทนแล้ว อาคารโรงฝึกพละศึกษาถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องจำหน่ายอาหารให้กับกำลังพล และในปัจจุบันเป็นที่เก็บเอกสารที่ใช้แล้ว อาคารกองการศึกษา ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นที่พักของผู้เข้ารับการศึกษาอยู่ช่วงหนึ่ง และปรับปรุงใหม่เป็นอาคาร กองพันนักเรียน ฯ ในปัจจุบัน ควบคุมการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ การตรวจสอบหลักฐานการจ่ายเงินตามระเบียบแบบแผน การตรวจสอบเรื่องราวของเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ กับให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่สายงานต่าง ๆ ั้งปวง รบก มีหน้าที่อำนวนการฝึก การศึกษาของเหล่าทหารการเงิน ยนทหารการเงินมีมาก่อนวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๑ เพียงแต่เรายึดถือเอาวันที่ประกอบ นสถาปนา หรือที่ต่อมาเราเรียกว่าวันก่อกำเนิดเท่านั้นเอง ทหารการเงินได้มีการพัฒนามาเป็นลำดับ โดยมีการก่อสร้างอาคารเพื่อสนับสนุนภารกิจของ ต่อมาเปลี่ยนเป็นที่ทำการแผนกสนับสนุนการศึกษา ฯและในปัจจุบันเป็นที่พักของผู้เข้ารับการศึกษา ฯ ปัจจุบันถูกรื้อถอนไป และสร้างอาคารกองบัญชาการขึ้นมาใหม่ทดแทนแล้ว ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องจำหน่ายอาหารให้กับกำลังพล และในปัจจุบันเป็นที่เก็บเอกสารที่ใช้แล้ว ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นที่พักของผู้เข้ารับการศึกษาอยู่ช่วงหนึ่ง และปรับปรุงใหม่เป็นอาคาร
ธนาธิปัตย์ 59 หนังสือ “ประวัติหน่วยทหารในกองทัพบก”ในปี ๒๕๖๔ หน้า ๖๔ การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๗) ได้กล่าว ไว้ว่า ในส่วนของโรงเรียนการเงิน ได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนทหารการเงิน และเปลี่ยนแปลงการจัดใหม่แบ่งออกเป็น ๓ กอง ได้แก่ กองบัญชาการ กองการศึกษา และกองพันนักเรียน จากที่เอกสารหลักฐานที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นประวัติโดยรวมของโรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก ซึ่งหาก จะพิจารณาถึงอายุที่แท้จริงแล้ว ผู้เขียนก็เห็นว่าโรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก น่าจะถือกำเนิดเกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ ได้รับอนุมัติอัตราเป็นโรงเรียนทหารการเงินแล้ว คือวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๙ แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการที่โรงเรียน ทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก จะใช้วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๑ ซึ่งเป็นวันประกอบพิธีเปิดป้ายชื่อโรงเรียนเป็นเรื่อง ที่ผิดแต่อย่างใด สิ่งที่น่าคิดก็คือถ้าหากเราปลูกบ้านเสร็จในวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๙ แล้วมาจัดงานทำบุญบ้านในวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๑ จะนับว่าบ้านนั้นมีอายุเท่าไร หรือถ้าหากสามีภรรยาจดทะเบียนสมรสกันในวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๙ แล้วมาจัดงานแต่งงานในวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๑ จะถือว่าเป็นคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่เมื่อไร ทั้งนี้ผู้เขียนไม่ประสงค์ที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวันก่อกำเนิดฯ แต่อย่างใด เพียงแต่อยากบันทึกไว้เป็นข้อมูลให้ข้าราชการ เหล่าทหารการเงินในรุ่นหลัง ๆ ได้ทราบถึงอายุที่แท้จริงของโรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก เท่านั้นเอง
60 ธนาธิปัตย์ อภินันทนาการ จาก บริษัท ช.ไพศาล จำ�กัด 179 หมู่11 ตำ บลบ้านเชี่ยน อำ เภอหันคา จังหวัดชัยนาท 17130 โทร. 056-451-982-6 อภินันทนาการ จาก ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด ที แอล เอ็ม 9 หมู่3 ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำ บลอ้อมน้อย อำ เภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร 74130 โทร 02-810-9381
ธนาธิปัตย์ 61 “กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง” เป็นคำพูดที่คนส่วนใหญ่ได้ยินอยู่บ่อย ๆ แต่จะมีใครสักกี่คน ที่จะเชื่อถือในเรื่องนี้ว่าบาปกรรมนั้นมีจริง แม้แต่ตัวผมเองเมื่อก่อนนี้ใครจะพูดกรอกหูอย่างไร ก็ไม่เคยเชื่อว่าเรื่องบาปกรรมเวร กรรม โดยเฉพาะเรื่องที่ผมกระทำอยู่เรียกว่า เป็นเรื่องที่ผมชอบอยู่เป็นทุนเดิม ใครจะบอกใครจะว่าอย่างไรผมไม่เคยเชื่อว่า บาปกรรมจะทำอะไร คนชอบกีฬาตกปลาอย่างเป็นชีวิตจิตใจ จู่ ๆ จะให้เชื่อทำใจลำบากครับงานนี้ แต่สุดท้ายของความจริงที่ อย่างไร ก็คือความจริงที่เราทุกคนไม่อาจหลุดพ้นหนีความจริงเหล่านั้นไม่ได้ เรื่องราวของผลกรรมที่เกิดขึ้นกับผมนั้น จะว่าไปแล้วผลกรรมที่ทำเอาไว้นั้นก็สะสมมานานหลายปี เรียกว่าสิบ กว่าปีที่ผมสนุกเฮฮาตกปลากับเพื่อนฝูงตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงาน ด้วยการที่รักการผจญภัยสนุกสนานกับกีฬาตกปลาล่าสัตว์มัน เป็นอะไรที่เหมือนจะบอกถึงความเป็นตัวตนของเรา ผมไม่เคยคิดหรือไม่ได้สนใจใส่ใจเลยสักนิด ว่าชีวิตการไล่ล่าชีวิตของผู้อื่น การเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมันหาได้ทำให้ผมรู้สึกถึงบาปกรรมที่จะตามมาไม่ “ลูกเอ๊ย...เรานี่ก็โตจนมีครอบครัวแล้วนะ...แม่ว่าลูกเลิก ได้แล้วล่ะไอ้เรื่องตกปูตกปลาอะไรนี่..บาปกรรมนะลูก” แม่ผมยังคงเหมือนเดิม คำพูดเดิม ๆ ที่พูดเตือนผมมาเป็น สิบปีไม่ได้มีสะกิดใจให้ผมรู้สึกว่า การตกปลามันเป็นบาป เป็นกรรมแต่อย่างใด !!! “พี่...ที่แม่พี่พูดมาก็จริงนะ...พี่น่าจะฟัง คุณแม่ท่านบ้าง...พี่เองน่าจะเลิกตก ปลาได้แล้ว อีกอย่างฉันก็ท้องแก่ใกล้ คลอดแล้ว...ฉันกลัวบาปกลัวกรรมมัน จะตกมาถึงลูกเรานะ” “กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง” เป็นคำพูดที่คนส่วนใหญ่ได้ยินอยู่บ่อย ๆ แต่จะมีใครสักกี่คน ที่จะเชื่อถือในเรื่องนี้ว่าบาปกรรมนั้นมีจริง แม้แต่ตัวผมเองเมื่อก่อนนี้ใครจะพูดกรอกหูอย่างไร ก็ไม่เคยเชื่อว่าเรื่องบาปกรรมเวร กรรม โดยเฉพาะเรื่องที่ผมกระทำอยู่เรียกว่า เป็นเรื่องที่ผมชอบอยู่เป็นทุนเดิม ใครจะบอกใครจะว่าอย่างไรผมไม่เคยเชื่อว่า บาปกรรมจะทำอะไร คนชอบกีฬาตกปลาอย่างเป็นชีวิตจิตใจ จู่ ๆ จะให้เชื่อทำใจลำบากครับงานนี้ แต่สุดท้ายของความจริงที่ อย่างไร ก็คือความจริงที่เราทุกคนไม่อาจหลุดพ้นหนีความจริงเหล่านั้นไม่ได้ เรื่องราวของผลกรรมที่เกิดขึ้นกับผมนั้น จะว่าไปแล้วผลกรรมที่ทำเอาไว้นั้นก็สะสมมานานหลายปี เรียกว่าสิบ กว่าปีที่ผมสนุกเฮฮาตกปลากับเพื่อนฝูงตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงาน ด้วยการที่รักการผจญภัยสนุกสนานกับกีฬาตกปลาล่าสัตว์มัน เป็นอะไรที่เหมือนจะบอกถึงความเป็นตัวตนของเรา ผมไม่เคยคิดหรือไม่ได้สนใจใส่ใจเลยสักนิด ว่าชีวิตการไล่ล่าชีวิตของผู้อื่น การเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมันหาได้ทำให้ผมรู้สึกถึงบาปกรรมที่จะตามมาไม่ “ลูกเอ๊ย...เรานี่ก็โตจนมีครอบครัวแล้วนะ...แม่ว่าลูกเลิก ได้แล้วล่ะไอ้เรื่องตกปูตกปลาอะไรนี่..บาปกรรมนะลูก” แม่ผมยังคงเหมือนเดิม คำพูดเดิม ๆ ที่พูดเตือนผมมาเป็น สิบปีไม่ได้มีสะกิดใจให้ผมรู้สึกว่า การตกปลามันเป็นบาป เป็นกรรมแต่อย่างใด !!! “พี่...ที่แม่พี่พูดมาก็จริงนะ...พี่น่าจะฟัง คุณแม่ท่านบ้าง...พี่เองน่าจะเลิกตก ปลาได้แล้ว อีกอย่างฉันก็ท้องแก่ใกล้ คลอดแล้ว...ฉันกลัวบาปกลัวกรรมมัน จะตกมาถึงลูกเรานะ”
62 ธนาธิปัตย์ คราวนี้ภรรยาของผมเธอร่วมผสมโรงกับแม่ ผมออกปากเตือนผมที่กำลังจัดเตรียมคันเบ็ด พร้อมเหยื่อ มากมายเตรียมตัวไปออกทะเลตกปลากับเพื่อน ๆ ร่วมก๊วน “เอาน่า...ตอนนี้ยังมีแรงตกอยู่...อีกหน่อยไม่มี แรงตกแล้วจะเลิกเองนะแม่...เธอเองก็อีกคน พูดจาไม่เป็น มงคลเอาเสียเลย...ลูกเราไม่ได้โชคร้ายต้องมารับกรรมอะไร อย่างที่เธอว่าหรอกน่า...บาปกรรมที่ไหนมีกัน...แค่ตกปลาเล่นๆ สนุกๆ ไม่ได้ไปฆ่าไปแกงใครตายที่ไหนนี่...” ผมหันมาพูดตัดบทออกไปทางเถียงๆ ไปตามเรื่อง ตามราวของคนที่ไม่ยอมรับความจริง ว่าบาปกรรมนั้นมันมีจริง รถกระบะ 4 คูณ 4 พร้อมอุปกรณ์ตกปลามากมายรถเคลื่อน ตัวออกจากรั้วบ้านมุ่งหน้าไปชลบุรี เพื่อร่วมก๊วนกับเพื่อนใน กลุ่มฟิชชิ่งที่เดินทางไปด้วยกันอีกหลายคน ผมขับรถออกจาก บ้านด้วยความรู้สึกลิงโลด เพราะการตกปลามันเหมือนเป็น ชีวิตจิตใจของผม มันเป็นเหมือนการได้ไปพักผ่อน เป็นการให้ รางวัลกับชีวิตสำหรับตัวเอง การให้รางวัลชีวิตแบบคร่าชีวิต ของผู้อื่นซึ่งดูๆ เหมือนเป็นการเอาเปรียบสัตว์โลกด้วยกัน อย่างมากที่เดียว ผมมาคิดได้ก็ตอนที่สายไปแล้ว กว่าจะมาคิดได้ อะไรหลาย ๆ อย่างมันก็สูญเสียไปกับความสนุกแบบไม่ได้คิด เรื่องราววิบากกรรมของผมมันเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ผมใช้เวลาสร้างบาปกรรมทำร้ายสัตว์เหล่านั้น อย่างสนุกสนาน การเดินทางไปตกปลาครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย ของชีวิตพอถึงชลบุรีผมกับเพื่อน ๆ นั่งเรือออกไปกลางทะเล เพื่อหาที่หมายตกปลา เมื่อสัญญาณเรดาร์ตรวจจับพบฝูงปลา ขนาดใหญ่อยู่ไม่ห่างจากลำเรือ ไต้ก๋งเรือจอดลำเรือปล่อยให้ บรรดานักตกปลาที่ชอบความท้าทาย ได้ประลองฝีมือวาดลวดลาย ของความเก่งกาจในเชิงตกปลากัน วันนี้ถือว่าเป็นวันที่ผมตกปลาได้มาก และปลา แต่ละตัวมีขนาดใหญ่มากที่เดียว เรียกว่าวันนั้นผมเป็นแชมป์ บนลำเรือที่มีแต่ผมรู้เดียวที่ได้ปลากมากมายหลายสิบตัว จบภารกิจ ตกปลาในทะเลได้ปลามามากมาย ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยกิน ปลาที่ตก จึงให้พวกเพื่อน ๆ เอาไปทำกินเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมี กินบ้างก็ตอนที่ตกได้ทำกินกันบนลำเรือ ที่เหลือจากนั้นผมไม่เคย นำกลับมาบ้าน เพราะพ่อกับแม่ผมท่านทั้งสองไม่ชอบการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตแล้วยิ่งเป็นปลาที่ผมตกมาด้วยแล้ว คงยากที่พ่อกับแม่ ผมท่านจะรับได้ แล้วยิ่งภรรยาท้องแก่ของผมยิ่งดูจะต่อต้าน เรื่องตกปลาของผมหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ผมขับรถกลับมาบ้าน พร้อมกับความสนุกสนาน ที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจ ขากลับเพื่อนผมอาศัยติดรถกลับมาด้วย อีกคนเป็นเพื่อนสนิทที่มีฝีมือในเรื่องตกปลามากพอตัว งานนี้ ผมก็ได้เพื่อนคนนี้ช่วยเย่อปลาตัวใหญ่ ๆ ลากขึ้นลำเรือ อยู่หลายตัว ความสนุกสานาของคอคนตกปลาส่วนใหญ่ก็หนี ไม่พ้นที่จะพูดคุยกันถึงบรรยากาศแห่งความสนุกในการออกล่า ปลาในครั้งนี้ ขณะที่กำลังคุยกันไปอย่างออกรสออกชาติอย่าง เมามัน พงษ์เพื่อนผมที่สนใจในเหยื่อตัวใหม่ที่งานนี้ผมนำมา โฉบเฉี่ยวล่าปลาในทะเลได้ผลมากทีเดียว โดยเฉพาะงานนี้ดูจะ ได้ผลเกิน คาดห มายเป็ นเห ยื่อปลอมที่ ผมสั่งซื้อท าง อินเทอร์เน็ตมีประสิทธิภาพไม่น้อย เรียกว่าลองปลาหน้าไหน โฉบเข้ามาใกล้เป็นต้องได้เจอเหยื่อมหาภัยที่เต็มไปด้วยเบ็ดนับ สิบรายล้อมรอบเหยื่อปลอมที่ถูกจัดแต่งไว้ได้อย่างลงตัว คราวนี้ภรรยาของผมเธอร่วมผสมโรงกับแม่ ผมออกปากเตือนผมที่กำลังจัดเตรียมคันเบ็ด พร้อมเหยื่อ มากมายเตรียมตัวไปออกทะเลตกปลากับเพื่อน ๆ ร่วมก๊วน “เอาน่า...ตอนนี้ยังมีแรงตกอยู่...อีกหน่อยไม่มี แรงตกแล้วจะเลิกเองนะแม่...เธอเองก็อีกคน พูดจาไม่เป็น มงคลเอาเสียเลย...ลูกเราไม่ได้โชคร้ายต้องมารับกรรมอะไร อย่างที่เธอว่าหรอกน่า...บาปกรรมที่ไหนมีกัน...แค่ตกปลาเล่นๆ สนุกๆ ไม่ได้ไปฆ่าไปแกงใครตายที่ไหนนี่...” ผมหันมาพูดตัดบทออกไปทางเถียงๆ ไปตามเรื่อง ตามราวของคนที่ไม่ยอมรับความจริง ว่าบาปกรรมนั้นมันมีจริง รถกระบะ 4 คูณ 4 พร้อมอุปกรณ์ตกปลามากมายรถเคลื่อน ตัวออกจากรั้วบ้านมุ่งหน้าไปชลบุรี เพื่อร่วมก๊วนกับเพื่อนใน กลุ่มฟิชชิ่งที่เดินทางไปด้วยกันอีกหลายคน ผมขับรถออกจาก บ้านด้วยความรู้สึกลิงโลด เพราะการตกปลามันเหมือนเป็น ชีวิตจิตใจของผม มันเป็นเหมือนการได้ไปพักผ่อน เป็นการให้ รางวัลกับชีวิตสำหรับตัวเอง การให้รางวัลชีวิตแบบคร่าชีวิต ของผู้อื่นซึ่งดูๆ เหมือนเป็นการเอาเปรียบสัตว์โลกด้วยกัน อย่างมากที่เดียว ผมมาคิดได้ก็ตอนที่สายไปแล้ว กว่าจะมาคิดได้ อะไรหลาย ๆ อย่างมันก็สูญเสียไปกับความสนุกแบบไม่ได้คิด เรื่องราววิบากกรรมของผมมันเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ผมใช้เวลาสร้างบาปกรรมทำร้ายสัตว์เหล่านั้น อย่างสนุกสนาน การเดินทางไปตกปลาครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย ของชีวิตพอถึงชลบุรีผมกับเพื่อน ๆ นั่งเรือออกไปกลางทะเล เพื่อหาที่หมายตกปลา เมื่อสัญญาณเรดาร์ตรวจจับพบฝูงปลา ขนาดใหญ่อยู่ไม่ห่างจากลำเรือ ไต้ก๋งเรือจอดลำเรือปล่อยให้ บรรดานักตกปลาที่ชอบความท้าทาย ได้ประลองฝีมือวาดลวดลาย ของความเก่งกาจในเชิงตกปลากัน วันนี้ถือว่าเป็นวันที่ผมตกปลาได้มาก และปลา แต่ละตัวมีขนาดใหญ่มากที่เดียว เรียกว่าวันนั้นผมเป็นแชมป์ บนลำเรือที่มีแต่ผมรู้เดียวที่ได้ปลากมากมายหลายสิบตัว จบภารกิจ ตกปลาในทะเลได้ปลามามากมาย ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยกิน ปลาที่ตก จึงให้พวกเพื่อน ๆ เอาไปทำกินเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมี กินบ้างก็ตอนที่ตกได้ทำกินกันบนลำเรือ ที่เหลือจากนั้นผมไม่เคย นำกลับมาบ้าน เพราะพ่อกับแม่ผมท่านทั้งสองไม่ชอบการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตแล้วยิ่งเป็นปลาที่ผมตกมาด้วยแล้ว คงยากที่พ่อกับแม่ ผมท่านจะรับได้ แล้วยิ่งภรรยาท้องแก่ของผมยิ่งดูจะต่อต้าน เรื่องตกปลาของผมหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ผมขับรถกลับมาบ้าน พร้อมกับความสนุกสนาน ที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจ ขากลับเพื่อนผมอาศัยติดรถกลับมาด้วย อีกคนเป็นเพื่อนสนิทที่มีฝีมือในเรื่องตกปลามากพอตัว งานนี้ ผมก็ได้เพื่อนคนนี้ช่วยเย่อปลาตัวใหญ่ ๆ ลากขึ้นลำเรือ อยู่หลายตัว ความสนุกสานาของคอคนตกปลาส่วนใหญ่ก็หนี ไม่พ้นที่จะพูดคุยกันถึงบรรยากาศแห่งความสนุกในการออกล่า ปลาในครั้งนี้ ขณะที่กำลังคุยกันไปอย่างออกรสออกชาติอย่าง เมามัน พงษ์เพื่อนผมที่สนใจในเหยื่อตัวใหม่ที่งานนี้ผมนำมา โฉบเฉี่ยวล่าปลาในทะเลได้ผลมากทีเดียว โดยเฉพาะงานนี้ดูจะ ได้ผลเกิน คาดห มายเป็ นเห ยื่อปลอมที่ ผมสั่งซื้อท าง อินเทอร์เน็ตมีประสิทธิภาพไม่น้อย เรียกว่าลองปลาหน้าไหน โฉบเข้ามาใกล้เป็นต้องได้เจอเหยื่อมหาภัยที่เต็มไปด้วยเบ็ดนับ สิบรายล้อมรอบเหยื่อปลอมที่ถูกจัดแต่งไว้ได้อย่างลงตัว
ธนาธิปัตย์ 63 “มันน่ากินว่ะ...อ ่า...ฮ่าๆ...คนท าแม่งหัวใสฉิบหาย…สวย แต่ดุร้าย...เหยื่อมหาภัยตัวนี้...ข้าเชื่อแล้วว่ะ” พงษ์หยิบเหยื่อปลอมที่มีรูปร่างคล้ายปลาขนาดเล็ก มีเบ็ด นับสิบรายล้อมอยู่ทั่วตัวปลา ผมหันมายิ้มด้วยความภูมิใจ ในเหยื่อที่เพิ่งเห็นประสิทธิภาพของมันก็งานนี้ “น่ากิน..เอ็งก็ลองงับกินดูสักคำสิวะเพื่อน...ฮ่า” ผมเหลียวมองเพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทำท่าเหมือนปลากำลัง จะฮุบเหยื่อ “เอี๊ยด! โครม...” ช่วงเวลาที่ผมเหลียวมามองเพื่อนเล่นกับ เหยื่อปลอมนั้นเองทำให้ผมเสียสมาธิในการขับรถ ส่งผลให้รถ ที่วิ่งมาด้วยความเร็วเสียหลักพุ่งลงข้างทางอัดเข้ากับต้นไม้ใหญ่ ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ต้นตรงบริเวณเส้นทางนั้น แต่ความโชคร้ายก็มา เยือน รถผมเสียหลักชน เข้าเต็มแรงกระจกหน้ารถแตกเป็นชิ้น เล็กชิ้นน้อยกิ่งไม้ใหญ่ที่ดู เหมือนจงใจมีไว้พอเหมาะพอดีกับ การพุ่งเข้ามาทางด้านกระจกหน้า ส่งผลให้กิ่งไม้ใหญ่หักทะลุ เข้ามาทางกระจกหน้า สิ่งที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วจนแทบไม่ทันตั้งตัว ผมรู้สึกตัวในชั่วพริบตาเดียว ร่างของผมมันถูกตรึงเอาไว้อยู่ ตรงที่นั่งคนขับเช่นเดิมไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวไปไหนได้ กิ่งไม้ขนาดใหญ่เท่าข้อมือหักเสียบเข้ามาทางกระจกด้านหน้า เสียบเข้าที่ลำคอของผมสร้างความเจ็บปวดแทบขาดใจ ผมไม่มี เสียงที่จะร้องบอก เพราะลำคอแทบขยับไม่ได้ รู้สึกเจ็บปวดไป ทั้งร่างผมเหลือบมองเพื่อนนั่งอยู่เบาะหน้า ข้างกาย พงษ์นอน ฟุบหน้าอยู่กับคอนโซนหน้ารถไม่ไหวติง ผมไม่รู้ว่าเพื่อนจะเป็น ตายร้ายดีอย่างไรจะเรียกเพื่อนผมก็ไม่มีเสียงจะขยับขาทั้งสอง ข้างก็ไม่อาจทำได้มือทั้งสองก็เช่นกัน ผมรู้แต่ว่าผมไม่อยาก ตายอยู่ในรถตอนนี้จะเรียกร้องจะบอกใครให้มาช่วยเหลือก็ ยากที่จะทำได้ สิ่งที่ทำได้คือรอและรอเท่านั้น ช่วงเวลาแห่งการรอคอยอันแสนทรมาน และ ยาวนานเพราะช่วงเวลาที่ผมรถคว่ำนั้นมันเป็นช่วงเวลาดึกพอสมควร ทำให้ผมกับเพื่อนนอนรอความตายกันอย่างน่าเวทนา ผมเริ่ม หวาดกลัวเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวด เริ่มรู้สึกถึงบาดแผลที่ เกิดขึ้นในยามนี้
64 ธนาธิปัตย์ ภาพการตกปลาตั้งแต่สมัยเด็กสมัยวัยรุ่น จนถึงสมัยเป็นหนุ่มเต็มวัย ปลาแต่ละตัวที่ตกได้มานั้นล้วน แล้วแต่ได้รับความเจ็บปวดแทบทุกตัวที่โดนเบ็ดเกี่ยวเข้าที่ ลำคอ ผมปลดเบ็ดออกจากตัวปลาแต่ละตัวเลือดมักจะไหล ออกจากปากปลา บางตัวกินเหยื่อเข้าไปลึกต้องอ้าปาก กระชากเอาเบ็ดออกมา บางครั้งมีลำไส้มีกระเพาะอาหารฉีก ขาดตามตัวเบ็ดออกมา ท่าทีที่ดิ้นรนของปลาแต่ละตัว ที่บางครั้งผมตกได้นำมาวางบนพื้นดินพื้นทรายปล่อยมันดิ้นทุรน อย่างนั้นจนแน่นิ่งตายไปต่อหน้าต่อตาระหว่างที่ผมนั่งรอความตาย ก็ว่าได้เวลานั้น มันเหมือนมีภาพในอดีตคอยตอกย้ำให้ผมรู้สึก ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้เป็นการเริ่มต้นของผลแห่งกรรม ที่กำลังตามมาสนองผมเข้าให้แล้ว ภาพหลอนในอดีตกับความรู้สึกที่หวาดกลัว กับผลกรรมที่กำลังตามมาในยามนี้ ผมไม่อาจสลัดความหวาดกลัว ไม่อาจจะทำอะไรได้มากกว่าการนั่งรอความตาย ผมเสียเลือด มากจนสลบไปนานเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ ผมมารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จากการช่วยเหลือของชาวบ้านใน ละแวกนั้น ที่ผ่านมาพบเห็นแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยนำ ตัวผมกับเพื่อนมาส่งโรงพยาบาล ทำให้รอดตายมาได้ถึงทุกวันนี้ หรือมองอีกมุมหนึ่งอาจเป็นเพราะผมยังไม่หมดเคราะห์กรรมที่ สร้างเอาไว้ยังต้องอยู่ชดใช้กรรมที่ทำเอาไว้อีกหลายปี บาดแผลฉกรรจ์สำหรับกิ่งไม้เจ้ากรรม ที่หักทิ่มเข้ามาในรถเสียบเข้าที่ลำคอแทบจะตัดหลอดลมผมขาด งานนี้ ทำเอาผมต้องใช้เวลาพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นแรมเดือนกว่าจึงพันขีดอันตรายกับอุบัติเหตุที่ดูเหมือนไม่เป็นอุบัติเหตุ ธรรมดาสักเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะคุณพ่อกับคุณแม่ของผมท่านเชื่อว่ามันเป็นเรื่องของเวรของกรรมที่เกิดจากการกระทำที่ผมทำ เอาไว้ แต่การรอดตายของผมในครั้งนี้ มันก็เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตผมเช่นกัน ผมเริ่มรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น กับภาพหลอนที่เป็นเสมือนการย้ำเตือนของผลกรรม ที่กำลังตาม ติดตัวผมมาอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ในครั้งนั้นใช่เพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่อาการบาดเจ็บสาหัส แต่ยังมีพงษ์เพื่อนสนิทที่ร่วม ชะตากรรมเดียวกับผมในงานนี้ อุบัติเหตุครั้งนี้ผมอาการสาหัสพงษ์เพื่อนผมก็ไม่ต่างกัน เหยื่อปลอมที่เพื่อนผมถือเล่นตอนนั้นมัน เกิดผลุบลงเข้าไปในลำคอ ในตอนที่รถเสียหลักในคืนนั้นส่งผลให้เหยื่อปลอมที่เต็มไปด้วยตัวเบ็ดมากมายหลายสิบตัวเกี่ยวเข้าไป ในลำคอบาดในลำคอกลายเป็นคราวเคราะห์ เพราะบาดแผลในลำคอที่เพื่อนผมโดนเข้าไปสาหัสไม่น้อยถึงกับพูดไม่ได้เป็นแรม เดือน เช่นเดียวกับผมที่ต้องรักษาบาดแผลที่ลำคอเป็นเดือน ๆ เหมือนกัน เรียกว่าเราสองคนเจอประสบการณ์ครั้งนี้หวาดผวา และเริ่มที่จะหวาดกลัว หลังจากที่เกิดเหตุคราวนั้น ผมกับเพื่อนไม่มีความคิดและไม่กล้าที่จะตกปลาล่าปลาอย่างที่เคยทำ ความรู้สึก หวาดกลัวยังคงมีอยู่ในสมอง ความหวาดหวั่นขวัญผวาที่เจอเรื่องอันน่าหวาดกลัวในคราวนั้น ยังกลายเป็นภาพหลอนอยู่ ตลอดเวลา พงษ์เพื่อนผมรักษาอาการแผลที่ลำคอที่นับวัน มันจะรุนแรงทวีความเจ็บปวดมากมายขึ้นทุกที พงษ์ต้องอยู่ความทุกข์
ธนาธิปัตย์ 65 ทรมานทางกายต้องทนกับบาดแผลในลำคอที่เกิดจากเบ็ดเหยื่อปลอมคราวนั้น เพื่อนผมทุกข์ใจมากกับอาการเจ็บปวด บางครั้ง เพื่อนผมไอออกมาเป็นเลือดเป็นลิ่มเลือดเห็นแล้วผมแทบจะอาเจียน ใช่เพียงแต่พงษ์ที่ต้องทรมานไปกับอาการที่เกิดขึ้นนั้น ผมเองก็ไม่ต่างอะไรกับเพื่อนเช่นกัน อาการแผลที่ลำคอยังคงสร้างความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส “แม่ว่าลูกน่าจะไปทำบุญบ้างนะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยกับผมน้ำเสียงดูห่วงใยไม่น้อย เป็นครั้งแรกที่ผมยอมรับว่ากลัวบาป และยอมหันหน้าเข้าวัดเมื่อคุณแม่ผมท่านขอร้อง และบอกว่าอีกไม่กี่วันลูก ของผมก็จะลืมตาดูโลกแล้ว ไม่อยากให้เด็กที่เกิดมาต้องมารับกรรมที่พ่อเขาก่อเอาไว้ การที่แม่ผมท่านบอกนั้นมันก็เพื่อลูกของผม หา ใช่ตัวผมอย่างที่เตือน ๆ ผมอยู่บ่อยครั้ง ผมฟังแล้วก็ให้รู้สึกได้คิดว่าหากเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกของผม ผมคงเสียใจไม่น้อยกับ เหตุการณ์ที่อาจจะทำให้ผมเสียใจไปตลอดชีวิต เพราะตอนนี้เท่าที่ผมเป็นอยู่มันก็แสนจะเจ็บปวดและทรมาน หากลูกที่เกิดมา ต้องมาเผชิญชะตากรรมอย่างผมก็คงจะเป็นคราวเคราะห์ที่แสนจะโหดร้าย วันที่ผมตั้งใจไปทำบุญที่วัดเป็นวัน เดียวกับที่พงษ์เพื่อนชะตากรรมของผมตัดสินใจโกนหัว เข้าวัดอย่างเรียบง่าย หลังจากต้องเดินเข้าออก โรงพยาบาลรักษาตัวเป็นแรมเดือนกับโรคที่คล้ายกับ เป็นโรคเวรโรคกรรม ที่หมอหลายโรงพยาบาลไม่อาจทำ การรักษาให้หายขาดได้ เพราะสามารถจะวิเคราะห์ได้ว่า เป็นโรคอะไร รักษาอย่างไรแผลในลำคอก็ไม่ยอมหาย เป็นปรกติ พงษ์บอกกับผมว่าญาติพี่น้องของเขา แนะนำว่าให้ไปบวชอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรดู โรคร้ายที่เป็นอยู่อาจจะหายก็เป็นได้ เพื่อนผมไม่มีอะไรจะเสีย เมื่อต้องจมอยู่กับความทุกข์ทรมานของโรคร้าย ในที่สุดก็ตัดสินใจบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศล ผมเองก็เลยอนุโมทนาสาธุไปกับเพื่อน ผมด้วยงานนี้ใจจริงผมเองก็อยากจะบวชเหมือนกัน เมื่อคุณแม่ผมท่านรู้ว่าเพื่อนที่รถคว่ำด้วยกันนั้นบวชก็อยากให้ผมบวช แต่ผม ยังไม่พร้อมยังติดเรื่องลูกที่จะคลอดไม่กี่วันนี้ “เอาไว้ภรรยาผมคลอดลูกแล้ว ผมจะลองหาฤกษ์บวชดูนะแม่” ผมตอบแม่ไปทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจนักว่าจะบวชได้หรือเปล่า หลังจากเข้าวัดทำบุญผมเริ่มรู้สึกสบายใจ ภาพหลอนต่าง ๆ ที่ผมเห็นทุกครั้งทำให้เจ็บปวดบาดแผลที่ลำคอเริ่ม ค่อยๆจางหายไปจนเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างมันเริ่มเข้ารูปเข้ารอย แต่แล้วความจริงบางอย่างของเรื่องราวที่ไม่อาจจะหลีกหนีพ้นนั่น คือ ผลแห่งกรรมที่ผมได้กระทำเอาไว้ วันแห่งการรอคอยมาถึงหลังจากที่ผมเฝ้าจดจ่อ เฝ้ารอว่าลูกที่คลอดออกมาจะเป็นอย่างไรบ้าง สิ่งที่ผมภาวนา ขอให้เวรกรรมต่างๆ มันตกที่ผมคนเดียวหาได้ประสบผลอย่างที่ คิดเอาไว้ไม่ ความปวดร้าวในหัวใจเริ่มเกาะกินใจให้ผมถึงกับ น้ำตาไหลพรากออกมาเมื่อเห็นหน้าลูกในยามนี้ พยาบาลทำ คลอดอุ้มทารกน้อยตัวแดงเสียงร้องดังลั่น เสียงนั้นดังอู้อี้พอที่จะ บอกถึงน้ำเสียงที่เล็ดลอดออกมานั้น ทำให้ผมถึงกับต้องเพ่งมอง ยังช่องที่เปล่งเสียง ผมถึงกับสลดหดหู่ในหัวใจเมื่อภาพที่เห็นนั้น
66 ธนาธิปัตย์ ลูกน้อยในสายเลือดของผมต้องมาเผชิญโชคมารับเคราะห์กรรมในเรื่องนี้ด้วยหรือนี่ นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมชัด ทารกน้อยปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้สภาพจิตใจที่ของผมย่ำแย่ลงไปอีก หากผมไม่คิดว่ามันเป็น เรื่องของเวรกรรมที่ก่อเอาไว้ก็คงจะสบายใจ แต่สิ่งที่เห็นภาพที่ตามมาหลอน ลูกสาวตัวน้อยที่ต้องมารับผลกรรมที่ผมก่อกรรม ทำเข็ญเอาไว้ในครั้งนี้ “อย่าเสียใจไปเลยพี่...อย่างไรเขาก็ลูกเรา...ทำใจสบาย ๆ เถอะพี่” ภรรยาผมเธอกล่าวเสียงเศร้าน้ำตาคลอเบ้า ผมพอที่จะเข้าใจถึงความรู้สึกของเธอที่ต้องเสียใจกับเรื่องราวที่ เกิดขึ้น ผมเองที่เป็นคนก่อ ทำไมงานนี้ลูกสาวตัวน้อยของผมเธอต้องมารับผลกรรมด้วย มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยกับผลกรรมที่ เกิดขึ้นในครั้งนี้กับครอบครัวของผม ผมยอมรับว่ากลัดกลุ้มเสียใจกับเรื่องเลวร้ายที่เริ่มก่อ ตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ลูกสาวตัวน้อยที่คลอดออกมาได้ ไม่นานโรคปากแหว่งเพดานโหว่ที่มีติดตัวมานั้น มันเหมือนเป็นเครื่องเตือนใจให้ผมรู้ว่าที่ผ่านมาการตกปลาการทำบาปนั้นมัน โหดร้ายเพียงใดผมเหมือนคนเสียสติวัน ๆ เอาแต่เก็บตัวนิ่งเศร้าเสียใจไปกับเรื่องที่เกิดขึ้น ภรรยาผมเองเธอก็พยายามปลอบใจผม ผมเองที่คิดว่ามันเป็นเรื่องเลวร้ายเป็นผลกรรมที่ผมก่อขึ้น ผมไม่อยากให้เธอกับลูกต้องมารับผลกรรมในครั้งนี้ ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจผิดอีกครั้งด้วยการหันหน้าเข้าหาเหล้า เพื่อดับความกลุ้มในเรื่องครอบครัว ความเสียใจที่ถ้าโถมเข้ามามันโหดร้ายเกินกว่าที่ผมจะรับได้ ผมหันมาดื่มเหล้าเมายาเป็นสาเหตุให้ครอบครัวผม ตัดขาดจากผม ภรรยาที่ผมรักเธอก็จะขอหย่าเมื่อเห็นว่าผมเสียผู้เสียคนคงยากที่จะเตือน ชีวิตครอบครัวล้มเหลวผมกลายเป็นคน ติดเหล้าเมายาหมดอนาคตไปอย่างไม่น่าเชื่อ ผมจมอยู่กับความเสียใจอยู่เป็นแรมปีจนแทบจะกลายเป็นบ้า เพื่อนฝูงที่มีก็หนีหาย หน้า สุดท้ายพ่อกับแม่ของผมท่านพูดจากล่อมให้ผมตัดสินใจบวชอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล แล้วถือศีลละเว้นการฆ่าสัตว์ เพื่ออุทิศ ส่วนบุญส่วนกุศล ผมบวชได้หลายพรรษาจึงเริ่มเข้าใจในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ผมก็ลาสิกขาบทออกมาอยู่ดูแลพ่อ กับแม่และภรรยากับลูก ยอมรับกับวิบากกรรมที่เกิดขึ้นว่ามันเป็นกฎแห่งกรรมที่เราไม่อาจหลีกพันได้ พ.อ. กฤษณ์กร สร้อยสด
ธนาธิปัตย์ 67 ห้องสะท้อนเสียงตัวเอง ปัญหาใกล้ตัวที่เราไม่รู้ ร.อ. วีรวัฒน์ กากีกุล อจ.รร.กง.กง.ทบ. สวัสดีครับ หลายท่านน่าจะสงสัยว่า Echo chamber คืออะไร อันที่จริงแล้วเหตุการณ์ Echo chamber อยู่ใกล้ตัว พวกเรามาโดยตลอดครับ ความหมายของ Echo chamber หมายความว่า พื้นที่แห่งเสียงสะท้อนครับ ซึ่งถ้าอธิบายง่าย ๆ คือ สถานการณ์ที่คนจะได้ยินแต่ความคิดเห็นแบบเดียวกันครับ ซึ่งปรากฎการณ์นี้สามารถเกิดได้ทั้งในครอบครัว ในโรงเรียน ชุมชน ในสังคมทั่วไป รวมทั้งโซเชียลมีเดียอีกด้วยครับ จริง ๆ เราอาจจะคุ้นชินตั้งแต่เด็ก เช่น พ่อแม่ดูทีวีรายการเดียวมาตั้งแต่เรายังเด็ก จึงทำให้เราติดตามเพียงรายการเดียวเช่นกัน หรือเราอาจจะอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ชอบในสิ่งที่คล้าย ๆ กัน ซึ่งมันจะหล่อหลอมความคิดเรา จนความคิดนั้นแทรกเข้าสู่ กระบวนการความคิดเห็นหรือความจริงเพียงด้านเดียวโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อเราออกมาใช้ชีวิตในสังคมขนาดใหญ่ ได้เจอ ความคิดเห็นที่มีความหลากหลายมาก จะทำให้เรามีปัญหาในการใช้ชีวิตในสังคมในที่สุด โซเชียลมีเดีย Echo chamber ที่ครอบงำความคิดจนกู่ไม่กลับ ในปัจจุบันคนทั่วไปหันมาใช้โซเซียลมีเดียกันจนติดมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะทำให้เราได้ติดต่อกับคนใหม่ ๆ หรือเพื่อนเก่า ที่ไม่เคยเจอกันมานาน หรือคนที่มีความสนใจอะไรสักอย่างที่ต่างกับเรา เช่น ช่องทางการทำงาน การค้าขาย รวมทั้งเรื่องคู่ครอง หรือแม้กระทั่ง เรื่องคู่ครองด้วย แต่ในขณะเดียวกัน โซเชียลมีเดียก็ได้สร้างฟองสบู่พื้นที่เสียงสะท้อนขนาดใหญ่และทำให้คนตกหล่นไปในความคิดนั้น ๆ จนมองว่าความคิดตัวเองนั้นถูก ในแต่ละแพลตฟอร์มจะมีเครื่องมือทางเทคโนโลยีและอัลกอริทึมที่จะช่วยคัดกรองเนื้อหาที่เราชอบ และเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าความคิดเราถูกต้อง ต่อให้ความคิดนั้นจะไม่สมเหตุสมผลก็ตามซึ่งทำให้เราชอบโซเชียลมีเดียเพราะเป็นที่ ๆ เราได้รับการยอมรับจากคนในคอมมูนิตี้ที่มีแนวความคิดเดียวกันจนเราไม่รู้สึกแปลกแยกจากสังคมนั่นเอง เมื่อเราเผชิญกับคนที่เห็นต่าง โซเชียลมีเดียก็จะมีเครื่องมือที่จะขจัดความคิดเห็นต่างออกไป เช่น Facebook ทำให้เรา สามารถลบเพื่อนที่ไม่ชอบออกได้ เป็นต้น เมื่อเรารับความคิดเห็นแบบเดียวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือหลักการคิด แบบมีเหตุผลของเราจะค่อย ๆ เลือนหายไป หรือ ความคิดเราจะจำกัดมากขึ้น เต็มไปด้วยอคติ คล้อยตามกลุ่มคนที่ชอบเหมือนเรา จนรับแนวคิดที่แตกต่างจากเราไม่ได้ซึ่งในระยะสั้น ๆ อาจจะดูไม่น่ากลัว แต่ความเป็นจริงนั้นโซเชียลมีเดีย สามารถสร้าง ความเกลียดชังในสังคมได้อย่างมีนัยสำคัญ บุคคลที่มีแนวคิดต่างกันอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมได้ในทุก ๆ เรื่อง เราจะออกจาก Echo chamber ได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม เรายังคงต้องพึ่งพาโซเชียลมีเดียในช่องทางติดต่อ และหาข้อมูลเพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง ก็ย่อมหนีไม่พ้นห้อง Echo chamber อยู่ดีแล้วจะทำอย่างไรให้เราไม่ตกในหลุม ที่หลอมรวมความคิดของเราเพียงด้านเดียว จนปฏิเสธความคิดด้านอื่น ประการแรก เราต้องรับรู้ก่อนว่าข้อมูลทุกประเภทในโซเชียลมีเดียนั้น อาจจะไม่ถูกต้องไปทั้งหมด เวลาเราอ่านเนื้อหาเราควรคำนึงด้วยว่าเนื้อหานั้น ใครเป็นคนโพสต์ ภาษาที่เขาใช้เป็นเหตุผลหรืออารมณ์ เนื้อหานั้นน่าเชื่อถือ เพียงใด จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะเชื่อหรือไม่ ส่วนอีกประการหนึ่งก็คือ ลองเปลี่ยนไปดูเนื้อหาที่เราไม่ชอบบ้าง แล้วเปิดใจว่าสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ คืออะไร และสำคัญไปกว่านั้นคือ ลองเปลี่ยนไปอยู่ในโลกแห่งความจริงบ่อยมากขึ้น ลองรับฟังแนวคิดที่หลากหลาย อาจจะช่วยให้เราเริ่มคิดเป็นเหตุเป็นผล และตัดสินใจโดยปราศจากอคติได้ครับ
68 ธนาธิปัตย์
ธนาธิปัตย์ 69 สวัสดีครับท่านสมาชิก มื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2563 ในขณะนั้นท่าน จก.กง.ทบ. (พล.ต. เทอดศักดิ์ วงศ์จันทร์) เพิ่งย้ายจาก สปช.ทบ. มาดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.รร.กง.กง.ทบ. ได้ไม่กี่เดือน ท่านมองเห็นว่าอาคารต่าง ๆ ภายใน รร.กง.กง.ทบ. มีความเก่าแก่ทรุดโทรม เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานาน บางอาคารก็ได้มี การดัดแปลงเปลี่ยนสภาพไปตามภารกิจ จึงมีแนวคิดที่จะก่อสร้างอาคารที่พักผู้เข้ารับการฝึกอบรม และอาคาร บก.พัน.ฯ โดยย้าย บก.พัน.ฯ จากบริเวณชั้น 6 อาคารบัญชาการไปอยู่ในอาคาร บก.พัน.ฯ หลังใหม่ แล้วปรับพื้นที่บริเวณชั้น 6 ให้เป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติงาน และห้องเรียนเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่า จะทำให้การบริหารจัดการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ จึงดำริให้ผอ.กศ.รร.กง.กง.ทบ. ในขณะนั้น (พ.อ. วัชรภัทร นุชอำพันธ์) จัดทำโครงการเพื่อของบประมาณในการก่อสร้างอาคาร บก.พัน.ฯ ขึ้นใหม่ พร้อมทั้งสร้างที่พักของผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้เพียงพอไปพร้อม ๆ กัน ผอ.กศ.ฯ จึงมอบหมาย ให้ผมรับเป็นแม่งานในเรื่องนี้ผมก็ว้าวุ่นเลยสิครับทีนี้ ก่อนที่จะเล่าให้ทุกท่านฟัง ผมขอยึด ยศ ชื่อ ตำแหน่งเดิมนะครับจะได้ไม่งงกันครับ หลังจากที่ได้รับมอบหมายภารกิจส าคัญที่ผมไม่เคยท า มาก่อนเลย นึกไม่ออกว่าจะต้องเริ่มต้นยังไงดีผอ.กศ.ฯ จึงให้ผมไปที่ ยย.ทบ. เพื่อพูดคุยในรายละเอียดขั้นตอนต่าง ๆ กับ เสธ.แบงค์หรือ พ.ท. ศุภฤกษ์ฯ (ยศในขณะนั้น) ซึ่งท่านก็ ช่วยเหลือ พูดคุยแนะน าดีมาก ท าให้ผมรู้สึกเหมือนพบแสงสว่าง ที่ปลายอุโมงค์ในขณะเดียวกันผอ.กศ.ฯ ท่านก็ได้ติดต่อนัดพูดคุย กับรุ่นน้องของท่านอีกคนหนึ่งที่ห้องกาแฟของ รร.กง.กง.ทบ. “ให้ช่วยออกแบบอาคาร บก.พัน.ฯ หลังใหม่ให้กับทาง รร.กง.กง.ทบ. หน่อย ส่วนสเปกและรายละเอียดความต้องการต่าง ๆ ให้ขอ จากผมได้เลย” รุ่นน้องของ ผอ.กศ.ฯ ท่านนี้เคยเป็นสถาปนิก อยู่ที่ ยย.ทบ. ซึ่งผมจ าชื่อท่านไม่ได้จริง ๆ (รู้สึกเสียใจมาก เพราะอาคารที่ท่านออกแบบไว้เป็นแรงบันดาลใจที่ท าให้ผมต้อง มาเขียนบทความนี้ ต้องขอประทานโทษมา ณ ที่นี้ด้วยครับ) เ พ.อ. กฤษณ์กร สร้อยสด สวัสดีครับท่านสมาชิก มื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2563 ในขณะนั้นท่าน จก.กง.ทบ. (พล.ต. เทอดศักดิ์ วงศ์จันทร์) เพิ่งย้ายจาก สปช.ทบ. มาดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.รร.กง.กง.ทบ. ได้ไม่กี่เดือน ท่านมองเห็นว่าอาคารต่าง ๆ ภายใน รร.กง.กง.ทบ. มีความเก่าแก่ทรุดโทรม เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานาน บางอาคารก็ได้มี การดัดแปลงเปลี่ยนสภาพไปตามภารกิจ จึงมีแนวคิดที่จะก่อสร้างอาคารที่พักผู้เข้ารับการฝึกอบรม และอาคาร บก.พัน.ฯ โดยย้าย บก.พัน.ฯ จากบริเวณชั้น 6 อาคารบัญชาการไปอยู่ในอาคาร บก.พัน.ฯ หลังใหม่ แล้วปรับพื้นที่บริเวณชั้น 6 ให้เป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติงาน และห้องเรียนเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่า จะทำให้การบริหารจัดการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ จึงดำริให้ผอ.กศ.รร.กง.กง.ทบ. ในขณะนั้น (พ.อ. วัชรภัทร นุชอำพันธ์) จัดทำโครงการเพื่อของบประมาณในการก่อสร้างอาคาร บก.พัน.ฯ ขึ้นใหม่ พร้อมทั้งสร้างที่พักของผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้เพียงพอไปพร้อม ๆ กัน ผอ.กศ.ฯ จึงมอบหมาย ให้ผมรับเป็นแม่งานในเรื่องนี้ผมก็ว้าวุ่นเลยสิครับทีนี้ ก่อนที่จะเล่าให้ทุกท่านฟัง ผมขอยึด ยศ ชื่อ ตำแหน่งเดิมนะครับจะได้ไม่งงกันครับ หลังจากที่ได้รับมอบหมายภารกิจส าคัญที่ผมไม่เคยท า มาก่อนเลย นึกไม่ออกว่าจะต้องเริ่มต้นยังไงดีผอ.กศ.ฯ จึงให้ผมไปที่ ยย.ทบ. เพื่อพูดคุยในรายละเอียดขั้นตอนต่าง ๆ กับ เสธ.แบงค์หรือ พ.ท. ศุภฤกษ์ฯ (ยศในขณะนั้น) ซึ่งท่านก็ ช่วยเหลือ พูดคุยแนะน าดีมาก ท าให้ผมรู้สึกเหมือนพบแสงสว่าง ที่ปลายอุโมงค์ในขณะเดียวกันผอ.กศ.ฯ ท่านก็ได้ติดต่อนัดพูดคุย กับรุ่นน้องของท่านอีกคนหนึ่งที่ห้องกาแฟของ รร.กง.กง.ทบ. “ให้ช่วยออกแบบอาคาร บก.พัน.ฯ หลังใหม่ให้กับทาง รร.กง.กง.ทบ. หน่อย ส่วนสเปกและรายละเอียดความต้องการต่าง ๆ ให้ขอ จากผมได้เลย” รุ่นน้องของ ผอ.กศ.ฯ ท่านนี้เคยเป็นสถาปนิก อยู่ที่ ยย.ทบ. ซึ่งผมจ าชื่อท่านไม่ได้จริง ๆ (รู้สึกเสียใจมาก เพราะอาคารที่ท่านออกแบบไว้เป็นแรงบันดาลใจที่ท าให้ผมต้อง มาเขียนบทความนี้ ต้องขอประทานโทษมา ณ ที่นี้ด้วยครับ) เ พ.อ. กฤษณ์กร สร้อยสด ธนาธิปัตย์ 69
70 ธนาธิปัตย์ ผมจึงเริ่มต้นด้วยการหาข้อมูล ความเก่าแก่ของอาคาร รร.กง.กง.ทบ. ทุก อาคารจากแผนกสนับสนุนฯ เดินถ่ายรูป สภาพอาคาร วัดพื้นที่ความกว้างความยาว ของอาคารต่าง ๆ และพื้นที่โดยรอบอย่าง ละเอียด เพราะต้องดูในเรื่องการจราจร และการจอดรถภายใน รร.กง.กง.ทบ. ด้วย ขอความต้องการจาก พัน.นร.ฯ ว่ามีโครงสร้าง ที่ส าคัญอะไรบ้าง เช่น มีกี่กองร้อย มีคลัง อาวุธ หรือจ าเป็นที่ต้องมีห้องอะไรบ้าง อัตรานายทหาร นายสิบที่บรรจุใน พัน.นร.ฯ ข้อมูลของแผนกสนับสนุนฯ เกี่ยวกับ สถานที่เก็บเอกสาร สิ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ สป.3 จ านวนและขนาดของรถในอัตรา เพื่อหา พื้นที่ จอดรถที่สามารถเข้า - ออกได้สะดวก ขอทราบข้อมูลผู้เข้ารับการฝึกอบรมในห้วง ระยะเวลา 1 ปี จากแผนกเตรียมการฯ ว่ามีจ านวนผู ้เข ้ารับการฝึกอบรมเท่าไร มีความหนาแน่นซ ้าซ้อนกันในช่วงไหนบ้าง เพื่อที่จะได้สร้างห้องพักให้เพียงพอต่อ ความต้องการของผู้เรียน นอกจากนั้นก็ยัง ต้องพิจารณ าเพิ่มเติมในสิ่งที่จ าเป็ น อีกหลายอย่างเช่น พื้นที่ที่จะใช้ในการฝึกฯ การเล่นกีฬา การจัดเลี้ยง เป็นต้น หลังจาก หาข้อมูลมาได้ประมาณหนึ่งแล้ว จึงส่ง ข้อมูลเหล่านั้น รวมทั้งความต้องการ เพิ่มเติมที่ รร.กง.กง.ทบ. ต้องการให้กับ สถาปนิกเพื่อท าการออกแบบ ซึ่งตอนนั้น อยู่ในช่วงเดือน ก.พ.63 ในที่สุดเราก็ได ้แบบแปลนที่เป็น ภาพ 3 มิติ อาคาร บก.พันฯ ประมาณ ปลายเดือน พ.ค.63 เมื่อผมได้เห็น แบบแปลนครั้งแรกผมอึ้งตาค ้างเลย เพราะมันสวยมาก ในใจคิดว่า “ถ้าได้ตามนี้ ก็วิเศษสุดจะบรรยายแล้วล่ะ โรงเรียนอื่น ๆ อย่าว่าแต่ในพื้นที่ ยศ.ทบ. เลย ในพื้นที่อื่น ต้องอิจฉาตาร้อนแน่” แต่ความสวยงาม ก็มาพร ้อมกับงบประมาณที่มากด้วย เช่นกัน เพราะวงเงินในการก่อสร้างอยู่ที่ 245,885,237.00 บาท เกือบ 250 ล้านบาท เลยทีเดียว ผมจึงน าแบบแปลนนี้ ให้ ท่านรอง ผบ.รร.ฯ ทราบ ท่านก็ตกใจใน เรื่องแบบและราคาค่าก่อสร้าง เนื่องจาก ท่านมองว่ายากที่จะได้รับงบประมาณ ขนาดนี้ ท่านคิดว่าตัวเลขที่พอจะเป็นไปได้ ที่ รร.กง.กง.ทบ. จะได้รับงบประมาณน่าจะ อยู่ที่ 100 - 120 ล้านบาท แต่ท่านก็ให้ ด าเนินการต่อ โดยใช้แบบแปลนนี้เสนอ ไปก่อน โดยลดยอดวงเงินลงให ้เหลือ 150 ล ้านบาทพอ เพราะถ้าเสนอไป 250 ล ้านบาทไม่ได้แน่ หรือถ ้ารอแบบแปลน ใหม่ก็คงไม่ทันวงรอบการพิจารณา ประมาณเดือน มิ.ย.63 ในขณะที่ ผมก าลังด าเนินการตามที่ท่านรอง ผบ.รร.ฯ สั่งการก็เป็นจังหวะพอดีกับที่ สงป.กง.ทบ. ในขณะนั้นคือ พ.ท.หญิง ประไพศรีฯ มีหนังสือสอบถาม นขต.กง.ทบ. ว่ามี นขต.ฯ ใดมีความประสงค์จะของบประมาณ ในการจัดท าแผนงานโครงการของ ทบ. บ้าง รร.กง.กง.ทบ. จึงจัดท าแผนงานโครงการ ของ ทบ. วงรอบปีงบประมาณ 2566 - 2568 เสนอ สงป.กง.ทบ. เพื่อให้ สงป.กง.ทบ. ท าเรื่องต่อไปยัง กบ.ทบ. ในฐานะหน่วย รับผิดชอบโครงการหลัก โดยใช้แบบแปลน นี้ไปก่อนแต่เราเสนอกรอบวงเงินไปแค่ 150 ล้านบาท โดยขอแบ่งจ่าย 3 งวด คือ ปี 2566 จ านวนเงิน 30 ล้านบาท ปี 2567 จ านวนเงิน 60 ล้านบาท ปี 2568 จ านวนเงิน 60 ล้านบาท เมื่อ สงป.กง.ทบ. เสนอแผนงาน โครงการไปที่ กบ.ทบ. แล ้ว ผมก็เตรียม ข ้อมูลโดยการรวบรวมข ้อมูลประว ัติ อาคารที่มีอยู่ทั้งหมดว่าเดิมสร ้างขึ้น ในปีไหน ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นอะไร แล ้วตอนนี้ เตรียมภาระงาน ป ัญ หา ข ้อข ัดข ้องในด ้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวก ับ การเรียนการสอน การพ ักอาศัยของ ผู ้เข ้าร ับการฝึกอบรม พื้นที่จอดรถ พื้นที่ประกอบเลี้ยงให ้นนส.ทบ. ห ้อง อเนกประสงค์ฯลฯ โดยจัดท าเป็นวิดีทัศน์ เพื่อเตรียมเข้าประชุมในการเสนอแผนงาน โครงการที่ กบ.ทบ. ต่อไป ผมจึงเริ่มต้นด้วยการหาข้อมูล ความเก่าแก่ของอาคาร รร.กง.กง.ทบ. ทุก อาคารจากแผนกสนับสนุนฯ เดินถ่ายรูป สภาพอาคาร วัดพื้นที่ความกว้างความยาว ของอาคารต่าง ๆ และพื้นที่โดยรอบอย่าง ละเอียด เพราะต้องดูในเรื่องการจราจร และการจอดรถภายใน รร.กง.กง.ทบ. ด้วย ขอความต้องการจาก พัน.นร.ฯ ว่ามีโครงสร้าง ที่ส าคัญอะไรบ้าง เช่น มีกี่กองร้อย มีคลัง อาวุธ หรือจ าเป็นที่ต้องมีห้องอะไรบ้าง อัตรานายทหาร นายสิบที่บรรจุใน พัน.นร.ฯ ข้อมูลของแผนกสนับสนุนฯ เกี่ยวกับ สถานที่เก็บเอกสาร สิ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ สป.3 จ านวนและขนาดของรถในอัตรา เพื่อหา พื้นที่ จอดรถที่สามารถเข้า - ออกได้สะดวก ขอทราบข้อมูลผู้เข้ารับการฝึกอบรมในห้วง ระยะเวลา 1 ปี จากแผนกเตรียมการฯ ว่ามีจ านวนผู ้เข ้ารับการฝึกอบรมเท่าไร มีความหนาแน่นซ ้าซ้อนกันในช่วงไหนบ้าง เพื่อที่จะได้สร้างห้องพักให้เพียงพอต่อ ความต้องการของผู้เรียน นอกจากนั้นก็ยัง ต้องพิจารณ าเพิ่มเติมในสิ่งที่จ าเป็ น อีกหลายอย่างเช่น พื้นที่ที่จะใช้ในการฝึกฯ การเล่นกีฬา การจัดเลี้ยง เป็นต้น หลังจาก หาข้อมูลมาได้ประมาณหนึ่งแล้ว จึงส่ง ข้อมูลเหล่านั้น รวมทั้งความต้องการ เพิ่มเติมที่ รร.กง.กง.ทบ. ต้องการให้กับ สถาปนิกเพื่อท าการออกแบบ ซึ่งตอนนั้น อยู่ในช่วงเดือน ก.พ.63 ในที่สุดเราก็ได ้แบบแปลนที่เป็น ภาพ 3 มิติ อาคาร บก.พันฯ ประมาณ ปลายเดือน พ.ค.63 เมื่อผมได้เห็น แบบแปลนครั้งแรกผมอึ้งตาค ้างเลย เพราะมันสวยมาก ในใจคิดว่า “ถ้าได้ตามนี้ ก็วิเศษสุดจะบรรยายแล้วล่ะ โรงเรียนอื่น ๆ อย่าว่าแต่ในพื้นที่ ยศ.ทบ. เลย ในพื้นที่อื่น ต้องอิจฉาตาร้อนแน่” แต่ความสวยงาม ก็มาพร ้อมกับงบประมาณที่มากด้วย เช่นกัน เพราะวงเงินในการก่อสร้างอยู่ที่ 245,885,237.00 บาท เกือบ 250 ล้านบาท เลยทีเดียว ผมจึงน าแบบแปลนนี้ ให้ ท่านรอง ผบ.รร.ฯ ทราบ ท่านก็ตกใจใน เรื่องแบบและราคาค่าก่อสร้าง เนื่องจาก ท่านมองว่ายากที่จะได้รับงบประมาณ ขนาดนี้ ท่านคิดว่าตัวเลขที่พอจะเป็นไปได้ ที่ รร.กง.กง.ทบ. จะได้รับงบประมาณน่าจะ อยู่ที่ 100 - 120 ล้านบาท แต่ท่านก็ให้ ด าเนินการต่อ โดยใช้แบบแปลนนี้เสนอ ไปก่อน โดยลดยอดวงเงินลงให ้เหลือ 150 ล ้านบาทพอ เพราะถ้าเสนอไป 250 ล ้านบาทไม่ได้แน่ หรือถ ้ารอแบบแปลน ใหม่ก็คงไม่ทันวงรอบการพิจารณา ประมาณเดือน มิ.ย.63 ในขณะที่ ผมก าลังด าเนินการตามที่ท่านรอง ผบ.รร.ฯ สั่งการก็เป็นจังหวะพอดีกับที่ สงป.กง.ทบ. ในขณะนั้นคือ พ.ท.หญิง ประไพศรีฯ มีหนังสือสอบถาม นขต.กง.ทบ. ว่ามี นขต.ฯ ใดมีความประสงค์จะของบประมาณ ในการจัดท าแผนงานโครงการของ ทบ. บ้าง รร.กง.กง.ทบ. จึงจัดท าแผนงานโครงการ ของ ทบ. วงรอบปีงบประมาณ 2566 - 2568 เสนอ สงป.กง.ทบ. เพื่อให้ สงป.กง.ทบ. ท าเรื่องต่อไปยัง กบ.ทบ. ในฐานะหน่วย รับผิดชอบโครงการหลัก โดยใช้แบบแปลน นี้ไปก่อนแต่เราเสนอกรอบวงเงินไปแค่ 150 ล้านบาท โดยขอแบ่งจ่าย 3 งวด คือ ปี 2566 จ านวนเงิน 30 ล้านบาท ปี 2567 จ านวนเงิน 60 ล้านบาท ปี 2568 จ านวนเงิน 60 ล้านบาท เมื่อ สงป.กง.ทบ. เสนอแผนงาน โครงการไปที่ กบ.ทบ. แล ้ว ผมก็เตรียม ข ้อมูลโดยการรวบรวมข ้อมูลประว ัติ อาคารที่มีอยู่ทั้งหมดว่าเดิมสร ้างขึ้น ในปีไหน ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นอะไร แล ้วตอนนี้ เตรียมภาระงาน ป ัญ หา ข ้อข ัดข ้องในด ้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวก ับ การเรียนการสอน การพ ักอาศัยของ ผู ้เข ้าร ับการฝึกอบรม พื้นที่จอดรถ พื้นที่ประกอบเลี้ยงให ้นนส.ทบ. ห ้อง อเนกประสงค์ฯลฯ โดยจัดท าเป็นวิดีทัศน์ เพื่อเตรียมเข้าประชุมในการเสนอแผนงาน โครงการที่ กบ.ทบ. ต่อไป 70 ธนาธิปัตย์
ธนาธิปัตย์ 71 ประมาณเดือน ก.ย.63 ผมและคณะฯ ได้เข้าประชุม เพื่อเสนอแผนงานโครงการก่อสร้างที่พักของผู้เข้ารับการฝึกอบรม และอาคาร บก.พันฯ โดยมี ผอ.กศ.ฯ เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งวันนั้น เราได้คิวในการน าเสนอล าดับสุดท้ายเลย ซึ่งกว่าเราจะได้น าเสนอ ก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว พอถึงคิวเรา ผอ.กศ.ฯ กล่าวน าและ ขอน าเสนอเป็นวิดีทัศน์ซึ่งมีความยาวประมาณ 5 นาที แต่เมื่อ การน าเสนอผ่านวิดีทัศน์ผ่านไปยังไม่ถึง 2 นาทีเลย ประธานในที่ ประชุมก็บอกให้พอก่อน แล้วซักถามในเรื่องความจ าเป็นต่าง ๆ โดย ผอ.กศ.ฯ ก็ได้ชี้แจงในทุกเรื่องตามที่ท่านประธานถาม ซึ่งผม ก็คิดว่า ผอ.กศ.ฯ ตอบได้เคลียร์แล้วนะ แต่สรุปประธานก็ให้ รร.กง.กง.ทบ. ไปปรับแบบแปลนให้ตรงกับวงเงินและขอให้พิจารณา ถึงความจ าเป็นจริง ๆ และไม่เป็นภาระทางการงบประมาณของ ทบ. เราจึงกลับมาเรียนให้ท่าน รอง ผบ.รร.ฯ ทราบ และเสนอ แนวทางในการด าเนินการต่อ โดยการขอแบบแปลนใหม่จาก ยย.ทบ. และลดวงเงินลงมาจาก 250 ล้านบาท ให้เหลือน้อยที่สุด ภายใต้สเปกที่เราต้องการ ซึ่งสเปกที่เราต้องการนั้นก็ไม่ธรรมดาเลย มีอะไรบ้างจะบอกให้เดี๋ยวนี้แหละครับ 1. รื้อถอนอาคารหมายเลข 44/11 เดิมเป็นโรงพละศึกษา และต่อมาได้ปรับมาเป็นห้องจ าหน่ายอาหาร, อาคารหมายเลข 45/13 เดิมเป็นอาคารกองการศึกษา และต่อมาได้ปรับเป็นอาคารที่ พักของผู้เข้ารับการฝึกอบรม, อาคารหมายเลข 47/11 เดิมเป็น อาคารกองบัญชาการฯ แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นส านักงานของแผนก สนับสนุนการศึกษาฯ และห้องพักของผู้เข้ารับการศึกษาหญิง และ อาคารหมายเลข 121/11 ห้องอาบน ้าของนักเรียนนายสิบ และนาย สิบนักเรียน 2. ก่อสร้างอาคารที่พักผู้เข้ารับการฝึกอบรม รายละเอียดดังนี้ - ห้องอเนกประสงค์ (ปรับอากาศ) ความจุ 200 นาย พร้อมเวที, ห้องเก็บอุปกรณ์, และห้องน ้า ช - ญ - ร้านค้าจ าหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม (ปรับอากาศ) ความจุ 30 นาย - ห้องพักพร้อมห้องน ้าในตัว (ปรับอากาศ) ชั้นละ 20 ห้อง รวม 60 ห้อง - ส านักงาน แผนกสนับสนุนการศึกษา พร้อม คลัง สป.2 - 4, คลัง สป.3 ห้องน ้า ช - ญ 3. ก่อสร้างอาคาร บก.พัน.นร.รร.กง.กง.ทบ. รายละเอียดดังนี้ - โรงประกอบเลี้ยง - โรงเลี้ยง ความจุ 150 นาย - ห้องออกก าลังกาย (ปรับอากาศ) - ส านักงาน บก.พัน.นร.รร.กง.กง.ทบ. (ปรับอากาศ) - ห้อง ผบ.พัน นร.ฯ (ปรับอากาศ) - ห้องรอง ผบ.พัน นร.ฯ (ปรับอากาศ) - ส านักงาน บก.ร้อย นทน. (ปรับอากาศ) - ส านักงาน บก.ร้อย นนส. (ปรับอากาศ) - ส านักงาน บก.ร้อย นสน. (ปรับอากาศ) - ห้องสิบเวร (ปรับอากาศ) - ห้องประชุม (ปรับอากาศ) - คลังอาวุธ - คลังกระสุน - คลัง สป.2-4 - ห้องเก็บอุปกรณ์ - โรงนอน นนส. และ นสน. ความจุ 150 นาย ห้องอาบน ้า ช - ญ - ห้องพยาบาล (ปรับอากาศ) - ห้องพักผ่อน (ปรับอากาศ) - ห้องน ้า ช - ญ (ทุกชั้น) 4. ที่จอดรถ 5. ลานรวมพล เป็นยังไงบ้างครับสเปกอาคารหลังใหม่ของเรา เอาเรื่อง อยู่นะครับ แต่เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ก็ถอยไม่ได้ซะแล้ว เราจึง ท าหนังสือขอแบบแปลนจาก ยย.ทบ. ใหม่ แต่ก็คิดว่าหนังสือ ที่ท าออกไปอาจสื่อถึงความต้องการได้ไม่ชัดเจนมากนัก ผมจึงได้ เข้าไปพูดคุยกับ พ.อ.หญิง วรรณภา เมธาจิตติพันธ์ ซึ่งท่านเป็น หน.สถาปนิกฯ ที่ ยย.ทบ. ท่านให้ความกรุณากับผมเป็นอย่างยิ่ง ประมาณเดือน ก.ย.63 ผมและคณะฯ ได้เข้าประชุม เพื่อเสนอแผนงานโครงการก่อสร้างที่พักของผู้เข้ารับการฝึกอบรม และอาคาร บก.พันฯ โดยมี ผอ.กศ.ฯ เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งวันนั้น เราได้คิวในการน าเสนอล าดับสุดท้ายเลย ซึ่งกว่าเราจะได้น าเสนอ ก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว พอถึงคิวเรา ผอ.กศ.ฯ กล่าวน าและ ขอน าเสนอเป็นวิดีทัศน์ซึ่งมีความยาวประมาณ 5 นาที แต่เมื่อ การน าเสนอผ่านวิดีทัศน์ผ่านไปยังไม่ถึง 2 นาทีเลย ประธานในที่ ประชุมก็บอกให้พอก่อน แล้วซักถามในเรื่องความจ าเป็นต่าง ๆ โดย ผอ.กศ.ฯ ก็ได้ชี้แจงในทุกเรื่องตามที่ท่านประธานถาม ซึ่งผม ก็คิดว่า ผอ.กศ.ฯ ตอบได้เคลียร์แล้วนะ แต่สรุปประธานก็ให้ รร.กง.กง.ทบ. ไปปรับแบบแปลนให้ตรงกับวงเงินและขอให้พิจารณา ถึงความจ าเป็นจริง ๆ และไม่เป็นภาระทางการงบประมาณของ ทบ. เราจึงกลับมาเรียนให้ท่าน รอง ผบ.รร.ฯ ทราบ และเสนอ แนวทางในการด าเนินการต่อ โดยการขอแบบแปลนใหม่จาก ยย.ทบ. และลดวงเงินลงมาจาก 250 ล้านบาท ให้เหลือน้อยที่สุด ภายใต้สเปกที่เราต้องการ ซึ่งสเปกที่เราต้องการนั้นก็ไม่ธรรมดาเลย มีอะไรบ้างจะบอกให้เดี๋ยวนี้แหละครับ 1. รื้อถอนอาคารหมายเลข 44/11 เดิมเป็นโรงพละศึกษา และต่อมาได้ปรับมาเป็นห้องจ าหน่ายอาหาร, อาคารหมายเลข 45/13 เดิมเป็นอาคารกองการศึกษา และต่อมาได้ปรับเป็นอาคารที่ พักของผู้เข้ารับการฝึกอบรม, อาคารหมายเลข 47/11 เดิมเป็น อาคารกองบัญชาการฯ แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นส านักงานของแผนก สนับสนุนการศึกษาฯ และห้องพักของผู้เข้ารับการศึกษาหญิง และ อาคารหมายเลข 121/11 ห้องอาบน ้าของนักเรียนนายสิบ และนาย สิบนักเรียน 2. ก่อสร้างอาคารที่พักผู้เข้ารับการฝึกอบรม รายละเอียดดังนี้ - ห้องอเนกประสงค์ (ปรับอากาศ) ความจุ 200 นาย พร้อมเวที, ห้องเก็บอุปกรณ์, และห้องน ้า ช - ญ - ร้านค้าจ าหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม (ปรับอากาศ) ความจุ 30 นาย - ห้องพักพร้อมห้องน ้าในตัว (ปรับอากาศ) ชั้นละ 20 ห้อง รวม 60 ห้อง - ส านักงาน แผนกสนับสนุนการศึกษา พร้อม คลัง สป.2 - 4, คลัง สป.3 ห้องน ้า ช - ญ 3. ก่อสร้างอาคาร บก.พัน.นร.รร.กง.กง.ทบ. รายละเอียดดังนี้ - โรงประกอบเลี้ยง - โรงเลี้ยง ความจุ 150 นาย - ห้องออกก าลังกาย (ปรับอากาศ) - ส านักงาน บก.พัน.นร.รร.กง.กง.ทบ. (ปรับอากาศ) - ห้อง ผบ.พัน นร.ฯ (ปรับอากาศ) - ห้องรอง ผบ.พัน นร.ฯ (ปรับอากาศ) - ส านักงาน บก.ร้อย นทน. (ปรับอากาศ) - ส านักงาน บก.ร้อย นนส. (ปรับอากาศ) - ส านักงาน บก.ร้อย นสน. (ปรับอากาศ) - ห้องสิบเวร (ปรับอากาศ) - ห้องประชุม (ปรับอากาศ) - คลังอาวุธ - คลังกระสุน - คลัง สป.2-4 - ห้องเก็บอุปกรณ์ - โรงนอน นนส. และ นสน. ความจุ 150 นาย ห้องอาบน ้า ช - ญ - ห้องพยาบาล (ปรับอากาศ) - ห้องพักผ่อน (ปรับอากาศ) - ห้องน ้า ช - ญ (ทุกชั้น) 4. ที่จอดรถ 5. ลานรวมพล เป็นยังไงบ้างครับสเปกอาคารหลังใหม่ของเรา เอาเรื่อง อยู่นะครับ แต่เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ก็ถอยไม่ได้ซะแล้ว เราจึง ท าหนังสือขอแบบแปลนจาก ยย.ทบ. ใหม่ แต่ก็คิดว่าหนังสือ ที่ท าออกไปอาจสื่อถึงความต้องการได้ไม่ชัดเจนมากนัก ผมจึงได้ เข้าไปพูดคุยกับ พ.อ.หญิง วรรณภา เมธาจิตติพันธ์ ซึ่งท่านเป็น หน.สถาปนิกฯ ที่ ยย.ทบ. ท่านให้ความกรุณากับผมเป็นอย่างยิ่ง ธนาธิปัตย์ 71
72 ธนาธิปัตย์ ท่านพูดคุยเป็นกันเอง ด้วยความเข้าใจ และรับรู้ถึงความต้องการของ รร.กง.กง.ทบ. ซึ่งหลังจากการพูดคุยกันในวันนั้น พ.อ.หญิง วรรณภาฯ ท่านก็ได้เดินทางมาดูสถานที่จริงที่ รร.กง.กง.ทบ. ด้วยตัวเองอีกครั้ง หลังจากนั้นปลายเดือน ต.ค.63 ผมก็ได้แบบแปลนใหม่ ที่ พ.อ.หญิง วรรณภาฯ เสียสละเวลาออกแบบให้โดยลดวงเงิน ลงเหลือ ประมาณ 174 ล้านบาท แต่ในใจผมอยากได้ซัก 120 ล้านบาท ก็เลยลองสอบถามว่าลดลงอีกได้มั้ย ท่านก็บอกว่า โครงสร้างนี้สามารถปรับลดวงเงินในการก่อสร้างลงมาได้อีก เพียงแต่ต้องเลือกว่าจะลดวัสดุอุปกรณ์ หรือลดการตกแต่งภายใน หรือลดจ านวนห้องต่าง ๆ ลง งบประมาณก็จะลดลงได้อีกมาก ท่านบอกว่า ขอให้ได้งบประมาณมาจริง ๆ ก่อน แล้วเราค่อยมาคุย ในรายละเอียดกันใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับ เพราะว่าแบบแปลนพวกนี้เป็นแบบ 3 มิติ ไม่ใช่แบบจริง ซึ่งแบบ จริงนั้นจะมีรายละเอียดของสเปกทุกอย่าง ผมก็ตกลงตามนั้น หลังจากนั้นผมก็เสนอแผนงานโครงการฯ เข้าไป กบ.ทบ. ใหม่เป็นครั้งที่ 2 โดยผ่าน สงป.กง.ทบ. และเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่เป็น โครงการปรับปรุงและพัฒนา กง.ทบ. และ นขต. โดยผมได้ด าเนินการท าเรื่องรื้อถอน และขอจ าหน่ายอาคารผ่านไปที่ มทบ.11 แล้วด้วย (ขออธิบายตรงนี้หน่อยนะครับว่าในความเข้าใจของเรานั้น จะก่อสร้างอะไรก็ต้องรื้อถอนของเก่าออกก่อน แต่ไม่ใช่ครับในความเป็น จริงการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ทดแทนอาคารหลังเดิมนั้น ต้องได้รับงบประมาณในการก่อสร้างใหม่ทดแทนแล้ว หรือค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างอาคารหลังใหม่แน่นอน ไม่เช่นนั้นหากรื้อถอนอาคารออกไปแล้ว เกิดไม่ได้รับงบประมาณ ไม่ว่าจะด้วย สาเหตุอะไรก็ตามเราอาจไม่เหลืออะไรเลยก็ได้ อาคารหลังเก่าก็รื้อไปแล้ว อาคารหลังใหม่ก็ไม่ได้งบประมาณในการจัดสร้าง จบเลยนะครับ ถ้าเป็นแบบนี้ ซึ่งการรื้อถอนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสียด้วย เพราะทางเดินเอกสารเป็นคนละเส้นทางกับสายทางเดินงบประมาณ การรื้อถอนอาคาร ต้องผ่าน มทบ.11 ผ่าน ยย.ทบ. ไปจนถึงกรมธนารักษ์กระทรวงการคลัง และก็ต้องตั้งงบประมาณในการรื้อถอนด้วย) ท่านพูดคุยเป็นกันเอง ด้วยความเข้าใจ และรับรู้ถึงความต้องการของ รร.กง.กง.ทบ. ซึ่งหลังจากการพูดคุยกันในวันนั้น พ.อ.หญิง วรรณภาฯ ท่านก็ได้เดินทางมาดูสถานที่จริงที่ รร.กง.กง.ทบ. ด้วยตัวเองอีกครั้ง หลังจากนั้นปลายเดือน ต.ค.63 ผมก็ได้แบบแปลนใหม่ ที่ พ.อ.หญิง วรรณภาฯ เสียสละเวลาออกแบบให้โดยลดวงเงิน ลงเหลือ ประมาณ 174 ล้านบาท แต่ในใจผมอยากได้ซัก 120 ล้านบาท ก็เลยลองสอบถามว่าลดลงอีกได้มั้ย ท่านก็บอกว่า โครงสร้างนี้สามารถปรับลดวงเงินในการก่อสร้างลงมาได้อีก เพียงแต่ต้องเลือกว่าจะลดวัสดุอุปกรณ์ หรือลดการตกแต่งภายใน หรือลดจ านวนห้องต่าง ๆ ลง งบประมาณก็จะลดลงได้อีกมาก ท่านบอกว่า ขอให้ได้งบประมาณมาจริง ๆ ก่อน แล้วเราค่อยมาคุย ในรายละเอียดกันใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับ เพราะว่าแบบแปลนพวกนี้เป็นแบบ 3 มิติ ไม่ใช่แบบจริง ซึ่งแบบ จริงนั้นจะมีรายละเอียดของสเปกทุกอย่าง ผมก็ตกลงตามนั้น หลังจากนั้นผมก็เสนอแผนงานโครงการฯ เข้าไป กบ.ทบ. ใหม่เป็นครั้งที่ 2 โดยผ่าน สงป.กง.ทบ. และเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่เป็น โครงการปรับปรุงและพัฒนา กง.ทบ. และ นขต. โดยผมได้ด าเนินการท าเรื่องรื้อถอน และขอจ าหน่ายอาคารผ่านไปที่ มทบ.11 แล้วด้วย (ขออธิบายตรงนี้หน่อยนะครับว่าในความเข้าใจของเรานั้น จะก่อสร้างอะไรก็ต้องรื้อถอนของเก่าออกก่อน แต่ไม่ใช่ครับในความเป็น จริงการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ทดแทนอาคารหลังเดิมนั้น ต้องได้รับงบประมาณในการก่อสร้างใหม่ทดแทนแล้ว หรือค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างอาคารหลังใหม่แน่นอน ไม่เช่นนั้นหากรื้อถอนอาคารออกไปแล้ว เกิดไม่ได้รับงบประมาณ ไม่ว่าจะด้วย สาเหตุอะไรก็ตามเราอาจไม่เหลืออะไรเลยก็ได้ อาคารหลังเก่าก็รื้อไปแล้ว อาคารหลังใหม่ก็ไม่ได้งบประมาณในการจัดสร้าง จบเลยนะครับ ถ้าเป็นแบบนี้ ซึ่งการรื้อถอนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสียด้วย เพราะทางเดินเอกสารเป็นคนละเส้นทางกับสายทางเดินงบประมาณ การรื้อถอนอาคาร ต้องผ่าน มทบ.11 ผ่าน ยย.ทบ. ไปจนถึงกรมธนารักษ์กระทรวงการคลัง และก็ต้องตั้งงบประมาณในการรื้อถอนด้วย) 72 ธนาธิปัตย์
ธนาธิปัตย์ 73 ย ้อน กล ับ ไป ห ล ังจากที่แก ้ไข แบบแปลนแล้วก็เสนอตัวเรื่องโครงการฯ ไปที่ กบ.ทบ. เป็นครั้งที่ 2 ด ้วยกรอบ วงเงิน 174 ล ้านบาท โดยขอแบ่งจ่าย 3 งวด คือ ปี 2566 จ านวนเงิน 34 ล้าน บาท ปี 2567 จ านวนเงิน 70 ล ้านบาท ปี 2568 จ านวนเงิน 70 ล้านบาท แต่ทาง กบ.ทบ. ก็ไม่ได้เรียกเราเข้าไปชี้แจงสักที ผมก็เกิดความรู ้สึกทั้งแปลกใจและ ไม่สบายใจ พยายยามติดตามสอบถาม แต่ก็ไม่ได้ค าตอบที่ชัดเจนอะไรมากนัก จ น ม ีก าห น ด ก ารป ระชุม แ ผ น งาน โครงการฯ ที่ สปช.ทบ. แล ้ว กบ.ทบ. ก็ยังไม่เรียกเราเข้าไปคุยอีก ผมก็ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้น ณ ตอนนั้น แต่ผมคิดว่า โครงการของเราไม่น่าจะผ่าน การ พิจารณาที่ กบ.ทบ. เพราะไม่ได้มีโอกาส ไปชี้แจงในรอบหลังเลยด ้วย ท าไมผม คิดเช่นนั้น เพราะผมคิดว่าสายงาน โค รงการถ ้าจะป ระชุม ขึ้น แผ น งาน โครงการที่ สปช.ทบ. ในฐานะหน่วย งบประมาณของ ทบ. นั้น ต ้องผ่าน หน่วยรับผิดชอบโครงการรอง และ หน่วยรับผิดชอบโครงการหลักเสียก่อน ส า ห ร ับ ง า น ด ้า น ก ่อ ส ร ้า ง ห น ่ว ย รับผิดชอบโครงการรองก็คือ ยย.ทบ. หน่วยรับผิดชอบโครงการหล ักก็คือ กบ.ทบ. ถ้ามาถึง สปช.ทบ. แล ้วแบบนี้ ถือว่า รร.กง.กง.ทบ. จบแล้ว แต่ยังไม่จบครับ ช่วงเวลาหัวเลี้ยว หัวต่อนั้น เมื่อท่าน รอง ผบ.รร.ฯ ทราบ ว่าจะมีการประชุมแผนงานโครงการฯ ที่ สปช.ทบ. กันในวันพรุ่งนี้ ท่านก็รีบ ให ้ผมไปที่ สปช.ทบ. เพื่อน าเอกสาร ไปที่กองบริหารทรัพยากรฯ เพื่อให ้เขา แจกจ่ายให ้ผู ้เข ้าร่วมประชุม ผมก็ให้ อ.แบงค์ร.อ.วีรว ัฒ น์ กากีกุล ขี่รถ มอเตอร์ไซค์โดยมีผมซ ้อนท ้ายไปที่ สปช.ทบ. โดยด่วน แต่เอกสารที่น าไป มีเพียงชุดเดียว ซึ่งจะต ้องส าเนาให้ ผู ้เข ้าประชุมทุกท่าน ผมก็ไม่ทราบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมมีจ านวนกี่นาย บังเอิญ ได ้เจอลูกศิษย์ที่น่ารักคือ ร.ท.หญิง วิไลลักษณ์ นาคพานิชย์ (หมวดเอ้) ช่วย อ าน วยความสะด วกให ้อย่างเต็ม ที่ ผมกับ อ.แบงค์ร.อ. วีรวัฒน์ฯ จึงได้ ส าเนาเอกสารจ านวน 30 ชุด และฝากให้ กองบริหารทรัพยากรฯ ช่วยเป็นธุระ แจกจ่ายให ้กับทุกท่านที่เข ้าประชุมด้วย พอเสร็จเรื่องเอกสารในการประชุม พรุ่งนี้แล ้ว ผมก็กล ับมารายงานให้ ท่านรองผบ.รร.ฯ ทราบ โดยท่านรอง ผบ.รร.ฯ ก็นัดทุกคนพร้อมในวันพรุ่งนี้ ที่ รร.กง.กง.ทบ. เวลา 0800 เพื่อออก เดินทางไป สปช.ทบ. ทุกคนพ ร้อมมาก มีท่าน รอง ผบ.รร.ฯ, ผอ.กศ.ฯ, ผม, ผบ.พันฯ (ขณะนั้นก็คือ พ.ท.ธนภัทร จันทุรัตน์) และ พ.ท. ธนะชัย เขียวจันทึก ซึ่งท าการ แทน หน.สนับสนุนฯ ในขณะนั้น ทุกคน ต่างมีอาวุธครบมือ (แฟ้มข้อมูลทุกเรื่อง ที่ประชุมอยากรู้เรื่องอะไรพวกเราพร้อม ตอบทั้งหมด) พวกเราเดินทางไปถึง สปช.ทบ. ประมาณ 0830 เพื่อรอเรียก เข ้าไปชี้แจง แต่ปรากฏว่าเที่ยงแล ้วก็ยัง ไม่ได้เข ้าห้องประชุมเลย ผมก็สอบถาม คนที่พิจารณาเสร็จแล ้วว่า เหลือเรื่องที่ จะพิจารณ าอีกเยอะมั้ย เขาบอกว่า เหลืออีก 3 - 4 เรื่องก็จะถึงของเราแล ้ว ผมเริ่มรู้สึกตื่นเต้นเข้าแล ้ว และเริ่มเป็น ห่วงความพร้อมของตนเองในเรื่องข้อมูล แต่ก็คิดว่าข ้อมูลที่เตรียมมาเพียงพอ ต่อการชี้แจงในที่ประชุม จึงลดความกังวล ลงไปได้บ้าง แต่ผลสุดท้ายกลับไม่ได้เข้า ประชุมชี้แจงในรอบ สปช.ทบ. เลยไม่รู้ว่า อะไรเกิดขึ้นแต่ดูสีหน ้าของท่านรอง ผบ.รร.ฯ ตอนนั้นไม่ค่อยจะสู ้ดีนักผม เลยไม่กล ้าถาม แล ้วท่านรอง ผบ.รร.ฯ ก็บอกให้พวกเรากลับ พวกเราก็เดินทาง กลับ รร.กง.กง.ทบ. กันแบบงง ๆ ตอนหลัง ท่านรอง ผบ.รร.ฯ มาบอกว่างบประมาณ ที่เราขอค่อนข้างได้ยากเพราะความจ าเป็น เร่งด่วนของเรามีน ้อย มีหลายเรื่องใน ทบ. ที่มีความจ าเป็นต้องใช้งบประมาณ เร่งด่วนมาก ๆ รออยู่เยอะ แล ้วท่าน ก็บอกผมว่า ให ้ชะลอโครงการนี้ไว ้ก่อน มีจ ังหวะแล ้ว ค่อยเสนอเข ้าไปใหม่ ผมก็ตอบว่าครับ… เป็นอันว่าพักโปรเจคนี้ชั่วคราว (ซึ่งผมเองก็ยังมึน ๆ งง ๆ มาตั้งแต่ต้น จนจบ แต่ก็แอบภูมิใจต ัวในฐานะที่ ตัวเองเป็นแม่งานว่า เราก็มึนได ้เรื่อง ได ้ราวเหมือนกัน) ในความรู ้สึกผม ท่าน รอง ผบ.รร.ฯ เองก็เสียใจที่ไม่ สามารถสร ้างอาคารกองพ ันนักเรียน หล ังใหม่, BOQ หล ังใหม่ มาให ้ก ับ รร.กง.กง.ทบ. ได้แต่ส าหรับผมแล ้วนั้น เป็น สิ่งแรกที่แสดงถึงความตั้งใจจริง ในการที่จะพัฒนาหน่วยในฐานะที่ท่าน เป็น รอง ผบ.รร.กง.กง.ทบ. เพราะท่าน เพิ่งมารับต าแหน่งเมื่อเดือน ต.ค.62 เอง ต้นปี 63 ท่านก็เริ่มงานใหญ่แล้ว ผมจึงมี ความรู้สึกว่าในระหว่างที่ท่านรับราชการ ย ้อน กล ับ ไป ห ล ังจากที่แก ้ไข แบบแปลนแล้วก็เสนอตัวเรื่องโครงการฯ ไปที่ กบ.ทบ. เป็นครั้งที่ 2 ด ้วยกรอบ วงเงิน 174 ล ้านบาท โดยขอแบ่งจ่าย 3 งวด คือ ปี 2566 จ านวนเงิน 34 ล้าน บาท ปี 2567 จ านวนเงิน 70 ล ้านบาท ปี 2568 จ านวนเงิน 70 ล้านบาท แต่ทาง กบ.ทบ. ก็ไม่ได้เรียกเราเข้าไปชี้แจงสักที ผมก็เกิดความรู ้สึกทั้งแปลกใจและ ไม่สบายใจ พยายยามติดตามสอบถาม แต่ก็ไม่ได้ค าตอบที่ชัดเจนอะไรมากนัก จ น ม ีก าห น ด ก ารป ระชุม แ ผ น งาน โครงการฯ ที่ สปช.ทบ. แล ้ว กบ.ทบ. ก็ยังไม่เรียกเราเข้าไปคุยอีก ผมก็ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้น ณ ตอนนั้น แต่ผมคิดว่า โครงการของเราไม่น่าจะผ่าน การ พิจารณาที่ กบ.ทบ. เพราะไม่ได้มีโอกาส ไปชี้แจงในรอบหลังเลยด ้วย ท าไมผม คิดเช่นนั้น เพราะผมคิดว่าสายงาน โค รงการถ ้าจะป ระชุม ขึ้น แผ น งาน โครงการที่ สปช.ทบ. ในฐานะหน่วย งบประมาณของ ทบ. นั้น ต ้องผ่าน หน่วยรับผิดชอบโครงการรอง และ หน่วยรับผิดชอบโครงการหลักเสียก่อน ส า ห ร ับ ง า น ด ้า น ก ่อ ส ร ้า ง ห น ่ว ย รับผิดชอบโครงการรองก็คือ ยย.ทบ. หน่วยรับผิดชอบโครงการหล ักก็คือ กบ.ทบ. ถ้ามาถึง สปช.ทบ. แล ้วแบบนี้ ถือว่า รร.กง.กง.ทบ. จบแล้ว แต่ยังไม่จบครับ ช่วงเวลาหัวเลี้ยว หัวต่อนั้น เมื่อท่าน รอง ผบ.รร.ฯ ทราบ ว่าจะมีการประชุมแผนงานโครงการฯ ที่ สปช.ทบ. กันในวันพรุ่งนี้ ท่านก็รีบ ให ้ผมไปที่ สปช.ทบ. เพื่อน าเอกสาร ไปที่กองบริหารทรัพยากรฯ เพื่อให ้เขา แจกจ่ายให ้ผู ้เข ้าร่วมประชุม ผมก็ให้ อ.แบงค์ร.อ.วีรว ัฒ น์ กากีกุล ขี่รถ มอเตอร์ไซค์โดยมีผมซ ้อนท ้ายไปที่ สปช.ทบ. โดยด่วน แต่เอกสารที่น าไป มีเพียงชุดเดียว ซึ่งจะต ้องส าเนาให้ ผู ้เข ้าประชุมทุกท่าน ผมก็ไม่ทราบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมมีจ านวนกี่นาย บังเอิญ ได ้เจอลูกศิษย์ที่น่ารักคือ ร.ท.หญิง วิไลลักษณ์ นาคพานิชย์ (หมวดเอ้) ช่วย อ าน วยความสะด วกให ้อย่างเต็ม ที่ ผมกับ อ.แบงค์ร.อ. วีรวัฒน์ฯ จึงได้ ส าเนาเอกสารจ านวน 30 ชุด และฝากให้ กองบริหารทรัพยากรฯ ช่วยเป็นธุระ แจกจ่ายให ้กับทุกท่านที่เข ้าประชุมด้วย พอเสร็จเรื่องเอกสารในการประชุม พรุ่งนี้แล ้ว ผมก็กล ับมารายงานให้ ท่านรองผบ.รร.ฯ ทราบ โดยท่านรอง ผบ.รร.ฯ ก็นัดทุกคนพร้อมในวันพรุ่งนี้ ที่ รร.กง.กง.ทบ. เวลา 0800 เพื่อออก เดินทางไป สปช.ทบ. ทุกคนพ ร้อมมาก มีท่าน รอง ผบ.รร.ฯ, ผอ.กศ.ฯ, ผม, ผบ.พันฯ (ขณะนั้นก็คือ พ.ท.ธนภัทร จันทุรัตน์) และ พ.ท. ธนะชัย เขียวจันทึก ซึ่งท าการ แทน หน.สนับสนุนฯ ในขณะนั้น ทุกคน ต่างมีอาวุธครบมือ (แฟ้มข้อมูลทุกเรื่อง ที่ประชุมอยากรู้เรื่องอะไรพวกเราพร้อม ตอบทั้งหมด) พวกเราเดินทางไปถึง สปช.ทบ. ประมาณ 0830 เพื่อรอเรียก เข ้าไปชี้แจง แต่ปรากฏว่าเที่ยงแล ้วก็ยัง ไม่ได้เข ้าห้องประชุมเลย ผมก็สอบถาม คนที่พิจารณาเสร็จแล ้วว่า เหลือเรื่องที่ จะพิจารณ าอีกเยอะมั้ย เขาบอกว่า เหลืออีก 3 - 4 เรื่องก็จะถึงของเราแล ้ว ผมเริ่มรู้สึกตื่นเต้นเข้าแล ้ว และเริ่มเป็น ห่วงความพร้อมของตนเองในเรื่องข้อมูล แต่ก็คิดว่าข ้อมูลที่เตรียมมาเพียงพอ ต่อการชี้แจงในที่ประชุม จึงลดความกังวล ลงไปได้บ้าง แต่ผลสุดท้ายกลับไม่ได้เข้า ประชุมชี้แจงในรอบ สปช.ทบ. เลยไม่รู้ว่า อะไรเกิดขึ้นแต่ดูสีหน ้าของท่านรอง ผบ.รร.ฯ ตอนนั้นไม่ค่อยจะสู ้ดีนักผม เลยไม่กล ้าถาม แล ้วท่านรอง ผบ.รร.ฯ ก็บอกให้พวกเรากลับ พวกเราก็เดินทาง กลับ รร.กง.กง.ทบ. กันแบบงง ๆ ตอนหลัง ท่านรอง ผบ.รร.ฯ มาบอกว่างบประมาณ ที่เราขอค่อนข้างได้ยากเพราะความจ าเป็น เร่งด่วนของเรามีน ้อย มีหลายเรื่องใน ทบ. ที่มีความจ าเป็นต้องใช้งบประมาณ เร่งด่วนมาก ๆ รออยู่เยอะ แล ้วท่าน ก็บอกผมว่า ให ้ชะลอโครงการนี้ไว ้ก่อน มีจ ังหวะแล ้ว ค่อยเสนอเข ้าไปใหม่ ผมก็ตอบว่าครับ… เป็นอันว่าพักโปรเจคนี้ชั่วคราว (ซึ่งผมเองก็ยังมึน ๆ งง ๆ มาตั้งแต่ต้น จนจบ แต่ก็แอบภูมิใจต ัวในฐานะที่ ตัวเองเป็นแม่งานว่า เราก็มึนได ้เรื่อง ได ้ราวเหมือนกัน) ในความรู ้สึกผม ท่าน รอง ผบ.รร.ฯ เองก็เสียใจที่ไม่ สามารถสร ้างอาคารกองพ ันนักเรียน หล ังใหม่, BOQ หล ังใหม่ มาให ้ก ับ รร.กง.กง.ทบ. ได้แต่ส าหรับผมแล ้วนั้น เป็น สิ่งแรกที่แสดงถึงความตั้งใจจริง ในการที่จะพัฒนาหน่วยในฐานะที่ท่าน เป็น รอง ผบ.รร.กง.กง.ทบ. เพราะท่าน เพิ่งมารับต าแหน่งเมื่อเดือน ต.ค.62 เอง ต้นปี 63 ท่านก็เริ่มงานใหญ่แล้ว ผมจึงมี ความรู้สึกว่าในระหว่างที่ท่านรับราชการ ธนาธิปัตย์ 73
74 ธนาธิปัตย์ อยู่ภายใต ้สังกัด กง.ทบ. น่าจะมีอะไร ใหม่ ๆ เกิดขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย สุดท ้ายถึงแม ้ว่า รร.กง.กง.ทบ. จะไม่ได้อาคารที่พักผู้เข้ารับการฝึกอบรม และกองพัน นร.ฯ ที่สวยหรูใหม่เอี่ยม ก็ตาม แต่ก็ได้อัศวินขี่ม้าขาวมาเติมเต็ม เมื่อ พล.ต.อดุล แนบสนิท มาเป็น จก.กง.ทบ. ซึ่งท่านก็ได้เล็งเห็นถึงปัญหา ความทรุดโทรมและไม่เป็นส ัดส่วน ของอาคารต่าง ๆ ภายใน รร.กง.กง.ทบ. จึงน าเสนอปัญ หาเหล่านั้นให ้ ผบช. ระดับสูงของ ทบ.ทราบ จน รร.กง.กง.ทบ. ของเราได้รับงบประมาณในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงอาคารที่พ ักของผู ้เข ้ารับ การฝึกอบรม BOQ เด ิม ให ้เป็น กองพัน นร.ฯ ที่ทันสมัยอย่างในปัจจุบัน แถมย ังได ้ปรับปรุงอาคารที่พ ักของ ผู ้เข ้ารับการฝึกอบรม BOQ ใหม่ด ้วย โดยยึดอาคารกองบัญชาการ รร.กง.กง.ทบ. หล ังเก่ามาเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ซึ่งอาคารที่พักของผู ้เข้ารับการฝึกอบรม BOQ ใหม่หลังนี้จะด าเนินการแล้วเสร็จ และสามารถเข ้าพักอาศัยได ้ เมื่อเดือน ธ.ค.66 ที่ผ่านมานี่เองครับ จะเห็นว่าจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง ของ รร.กง.กง.ทบ.หลายอย่างเกิดขึ้น ในช่วงที่ท่าน จก.กง.ทบ. (พล.ต. เทอดศกัด์ ฯิ) เป็น รอง ผบ.รร.กง.กง.ทบ. ผมน าเรื่อง เก่าเรื่องนี้มาเล่าให ้ทุกท่านฟัง เพราะ อยากให้ผู้ที่เคยผ่าน เคยกิน เคยนอน เคยเรียนที่ รร.กง.กง.ทบ. ได้เห็นภาพที่ เกือบจะเป็นจริงของอาคารที่พักผู้เข้ารับ การฝึกอบรมและอาคาร บก.พัน.ฯที่สวยงาม ทันสมัย......สวยใช่ ไห ม ค รับ ☺ แบบแปลน 1 แบบแปลน 2 อยู่ภายใต ้สังกัด กง.ทบ. น่าจะมีอะไร ใหม่ ๆ เกิดขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย สุดท ้ายถึงแม ้ว่า รร.กง.กง.ทบ. จะไม่ได้อาคารที่พักผู้เข้ารับการฝึกอบรม และกองพัน นร.ฯ ที่สวยหรูใหม่เอี่ยม ก็ตาม แต่ก็ได้อัศวินขี่ม้าขาวมาเติมเต็ม เมื่อ พล.ต.อดุล แนบสนิท มาเป็น จก.กง.ทบ. ซึ่งท่านก็ได้เล็งเห็นถึงปัญหา ความทรุดโทรมและไม่เป็นส ัดส่วน ของอาคารต่าง ๆ ภายใน รร.กง.กง.ทบ. จึงน าเสนอปัญ หาเหล่านั้นให ้ ผบช. ระดับสูงของ ทบ.ทราบ จน รร.กง.กง.ทบ. ของเราได้รับงบประมาณในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงอาคารที่พ ักของผู ้เข ้ารับ การฝึกอบรม BOQ เด ิม ให ้เป็น กองพัน นร.ฯ ที่ทันสมัยอย่างในปัจจุบัน แถมย ังได ้ปรับปรุงอาคารที่พ ักของ ผู ้เข ้ารับการฝึกอบรม BOQ ใหม่ด ้วย โดยยึดอาคารกองบัญชาการ รร.กง.กง.ทบ. หล ังเก่ามาเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ซึ่งอาคารที่พักของผู ้เข้ารับการฝึกอบรม BOQ ใหม่หลังนี้จะด าเนินการแล้วเสร็จ และสามารถเข ้าพักอาศัยได ้ เมื่อเดือน ธ.ค.66 ที่ผ่านมานี่เองครับ จะเห็นว่าจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง ของ รร.กง.กง.ทบ.หลายอย่างเกิดขึ้น ในช่วงที่ท่าน จก.กง.ทบ. (พล.ต. เทอดศกัด์ ฯิ) เป็น รอง ผบ.รร.กง.กง.ทบ. ผมน าเรื่อง เก่าเรื่องนี้มาเล่าให ้ทุกท่านฟัง เพราะ อยากให้ผู้ที่เคยผ่าน เคยกิน เคยนอน เคยเรียนที่ รร.กง.กง.ทบ. ได้เห็นภาพที่ เกือบจะเป็นจริงของอาคารที่พักผู้เข้ารับ การฝึกอบรมและอาคาร บก.พัน.ฯที่สวยงาม ทันสมัย......สวยใช่ ไห ม ค รับ ☺ แบบแปลน 1 แบบแปลน 2 74 ธนาธิปัตย์
ธนาธิปัตย์ 75
76 ธนาธิปัตย์ FOBC75Film for Fun โรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก ได้เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรชั้นนายร้อย เหล่า กง. รุ่นที่ 75 ระหว่างวันที่ 30 ต.ค. 66 -26 ม.ค. 67 มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม ทั้งสิ้น จำนวน 51 นาย โดยในโอกาสนี้ได้เข้าเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทยและนิทรรศการภาพยนตร์ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมสัมพันธ์ FOBC75Film for Fun ณ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ในวันอังคารที่ 31 ตุลาคม 2566 เวลา 13.00 - 16.30 น. หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงาน ของรัฐ ตั้งอยู่เลขที่ 94 หมู่ที่ 3 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบล ศาลายา อำเภอ พุทธมณฑล จังหวัด นครปฐม ซึ่งคล้ายกับ หอสมุด พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ แต่เป็นหอสมุด พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์ที่เก็บภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ตลอดจนสิ่งเกี่ยวเนื่องกับ ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นทรัพย์สินทางปัญญา และมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ และนำออกบริการให้ ประชาชน ได้ศึกษาค้นคว้า และชื่นชมหรือใช้ประโยชน์อย่างสะดวก ภาพยนตร์เป็นสื่อการเรียนรู้ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของมนุษย์ และอาจยัง ทำให้เกิดปัญญาได้ ภาพยนตร์จึงอาจเปรียบดังศาสนา หอภาพยนตร์ก็คือ วัด ซึ่งมีโรงหนังเป็นโบสถ์มีพิพิธภัณฑ์เป็นวิหารหรือเจดีย์ มีห้องเย็นเก็บรักษาฟิล์ม เป็นหอไตร มีศูนย์ให้บริการ ค้นคว้า เป็นศาลาการเปรียญ โดยตราของหอภาพยนตร์ คือ ธรรมจักรภาพยนตร์ ซึ่งหมุนวนไปเพื่อเผยแผ่สัจธรรม สำหรับมวลมนุษย์ ในโอกาสนี้นายทหารนักเรียนหลักสูตรชั้นนายร้อย เหล่า กง.รุ่นที่ 75 ได้ เข้าร่วมรับฟังบรรยายประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการด้านภาพยนตร์ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และได้ทำกิจกรรมร่วมกันภายในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อกระชับ ความสัมพันธ์ของสมาชิกทุกนายในหลักสูตรและเสริมสร้างความสามัคคีใน หมู่คณะอีกด้วย โดยมีกิจกรรมประจำกลุ่มที่สอดคล้องกับสถานที่แห่งนี้ สมาชิก ในกลุ่มร่วมกันจัดทำวีดิทัศน์สั้น ๆ เพื่อแนะนำตัวเอง และใช้สถานที่ในบริเวณ หอภาพยนตร์ในมุมต่าง ๆ ใช้เป็นฉากในการถ่ายทำ ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ทำผลงาน ออกมาได้เป็นที่น่าพอใจ และสมาชิกทุกนายได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น โดยมี การมอบรางวัลให้กับกลุ่มที่สามารถทำวีดิทัศน์ได้น่าสนใจ เหมาะสม และทันเวลา ที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมร่วมกันค้นหาคำตอบ โดยสมาชิกทุกคนในทีม ต้องร่วมกันค้นหาคำตอบจากคำใบ้ที่กำหนดให้ เป็นกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี และระดมสมองกันเป็นอย่างมาก
ธนาธิปัตย์ 77 ความสนุกสนาน ความรัก ความเป็นห่วงเป็นใย ได้ก่อเกิดขึ้นในหลักสูตร พวกเราได้มีรุ่น มีพี่ มีน้อง มีเพื่อน ๆ เหล่าทหารการเงินด้วยกัน ช้างสามเศียร ไม่เคยต้องโดดเดี่ยว จากกิจกรรมสัมพันธ์ในช่วง เปิดหลักสูตร ในครั้งนี้ ท้ายที่สุดนี้ต้องขอขอบคุณ ทางโรงเรียน, กองการศึกษา, คณะครูอาจารย์, เจ้าหน้าที่, นายทหารปกครอง และอาจารย์ ที่ปรึกษา ที่มอบโอกาสให้ทางหลักสูตรได้เปิดโลกทัศน์ ได้ให้เรียนรู้ประสบการณ์ที่อยู่นอกตำรา ถึงแม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับ การปฏิบัติงาน แต่มันคือเรื่องราวดีดี มันคือพลังบวกที่เกิดขึ้นในชีวิตพวกเรา ขอบคุณจากใจพวกเราทั้ง 51 นาย อีกครั้ง “วันนี้คือวันแรกของการเปิดการฝึกอบรมคือวันแห่งความสุข เพราะหลังจากนี้อีก 13 สัปดาห์ คงหาความสุขได้ยากแล้วนะ เพื่อน ๆ FOBC 75”
78 ธนาธิปัตย์ 12 Soft Skills ในยุคดิจิทัลมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้น มากมายที่เข้ามาช่วยให้ ทั้งการทำงานและการใช้ ชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นส่วน หนึ่งที่เราเริ่มขาดไปไม่ได้โดยไม่รู้ตัว เข้ามาเป็นเครื่องมือ ช่วยทุนแรงบ้าง ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานแบบเดิม รวมถึงช่วยยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ได้เข้ามาทดแทน ความต้องการ Hard skills ต่าง ๆ จนทำให้อาชีพบางอย่าง หายไป และอีกไม่นานอีกหลายอาชีพจะถูกทดแทนด้วย เทคโนโลยี ด้วยเหตุผลเหล่านี้เองหากเรายังไม่มีข้อได้เปรียบ มากกว่าเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นอยู่ทุกวัน คงเป็นไปได้ยาก ที่เราจะอยู่รอดในการแข่งขันเพียง Hard skills อย่างเดียว โดย Hard skills หรือทักษะทางอาชีพที่ได้มาจาก การเรียนรู้ด้านทฤษฎีและเทคนิคต่าง ๆ เพื่อใช้ใน การทำงานที่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ และที่สำคัญ ระดับความรู้ของทักษะทางอาชีพสามารถวัดผลได้ ซึ่งต่างจาก Soft skills ที่ถูกพัฒนามาจากประสบการณ์ และการลงมือทำ Soft skills จึงกลายเป็นความได้เปรียบของ คนเรา เป็นจุดแข็งอย่างเป็นสิ่งเดียวที่เทคโนโลยีใน ปัจจุบันยังไม่สามารถเรียนรู้และเข้ามาทดแทนได้ อย่างสมบูรณ์ หากเปรียบว่า Hard skills เป็นเหมือน ใบเบิกทาง แต่ Soft skills นั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสไปสู่ ความสำเร็จให้เรามากยิ่งขึ้น Soft skills คือความสามารถด้านอารมณ์ การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และการพัฒนาตนเอง ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง กับสติปัญญาแต่ละด้านยกตัวอย่างเช่น กองบรรณาธิการ SOFT SKILLS คืออะไร 78 ธนาธิปัตย์
ธนาธิปัตย์ 79 ▪ EQ (Emotional Quotient) คือความฉลาดทางอารมณ์ สามารถควบคุมหรือยับยั้งการแสดงออกได้เหมาะสมกับ สถานการณ์ เข้าใจความรู้สึกตนเองและผู้อื่น ▪ AQ (Adversity Quotient) คือความฉลาดในการแก้ไขปัญหา สามารถเผชิญหน้ากับปัญหาพร้อมหาทางแก้ไข ควบคุมสถานการณ์และปรับตัวเข้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ดี ▪ CQ (Creativity Quotient) คือความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ มีจิตนาการที่ยืดหยุ่น คอยปรับเปลี่ยนประยุกต์ แนวคิด และชอบหาวิธีการใหม่ ๆ ▪ SQ (Social Quotient) คือความฉลาดทางสังคม สามารถที่จะปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่น เห็นแก่ส่วนรวม ไม่เปรียบเทียบ หรือมีความคิดที่กดคนอื่นให้ต่ำลง และเปิดใจยอมรับความแตกต่าง 1. Communication : ทักษะการสือสาร่ เคยไหมบางทียังฟังไม่ทันจบก็ด่วนสรุปเอาเอง ไม่ตั้งใจฟังเท่าไหร่เหม่อลอยไม่ได้อยู่กับคำพูด หรือบางทียังฟัง ไม่ได้ศัพท์ ก็จับไปกระเดียด จนผลลัพธ์ที่ตามมาทำให้เราอยากจะย้อนเวลากลับไปตั้งใจฟังใหม่ให้ดี นอกจากการฟังก็ยังมีทั้งพูด อ่าน และเขียน ดังนั้นทักษะการสื่อสารไม่ได้จำกัดเฉพาะอาชีพการทำงานที่ต้อง นำเสนอขาย หรืองานบริการเท่านั้น หากลองสังเกตเราแทบจะใช้ทักษะเหล่านี้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะพูดคุยกับคนรอบข้าง ตอบข้อความหรืออีเมล นำเสนอผลงาน และในที่ประชุม ซึ่งการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทำให้การสื่อสารกระชับและเข้าใจสิ่งที่สื่อเร็วขึ้น รวมถึงการมีวาทศิลป์จะช่วยให้คู่สนทนาประทับใจในตัวคุณมากขึ้นอีกด้วย อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการสื่อสารให้ดี ควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มจากฝึกเรียงลำดับโครงสร้างการเล่าเรื่อง ▪ เน้นใจความสำคัญของเรื่องที่อยากจะสื่อ ▪ ใช้ภาษาหรือคำพูดที่เข้าใจง่าย ▪ หากจำเป็นต้องต้องเน้นส่วนสำคัญลองใช้ท่าทางประกอบ การอธิบายที่พอดีไม่มากเกินไป ▪ เลือกใช้ระดับภาษาที่เหมาะสมกับคู่สนทนาหรือผู้ฟัง ▪ ตั้งใจรับฟังอย่างเปิดใจและไม่อคติ ▪ จับใจความสำคัญของผู้พูด 2. Time Management : ทักษะการบริหารจัดการเวลา แม้คุณจะมี 24 ชั่วโมงต่อวันเท่ากันทุกคน แต่เคยรู้สึกว่าใช้เวลาไปอย่างสูญเปล่า หรือไม่เป็นอย่างที่คิดไหม? ชอบผัดวันประกันพรุ่ง เก็บไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยทำใกล้ ๆ จนรู้ตัวอีกทีก็จะหมดเวลาต้องรีบปั่นงานแบบไฟไหม้ยิ่งการแข่งขัน ที่รุนแรงต้องแข่งกับเวลามากขึ้นจนอยากจะขอซื้อเวลาเพิ่ม ไม่ว่าอาชีพไหนก็ต้องมีกำหนดเวลาที่เป็นเส้นตาย งานบางงาน ที่เป็นงานต่อเนื่องที่ต้องส่งต่อให้กับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งถ้าหากล่าช้าไปจะส่งผลกระทบต่อเวลาส่งมอบงานจนต้อง เลื่อนออกไป หรือกินระยะเวลาการทำงานของคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่ดีเอาเสียเลย ดังนั้นทักษะการบริหารเวลาจึงสำคัญอย่างมาก เพื่อเป้าหมายสำเร็จในระยะเวลาที่กำหนด การวางแผนบริการ จัดการเวลาอย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน หรือเรื่องส่วนตัว ต่างก็มีสิ่งที่ต้องสะสางให้สำเร็จ ลุล่วง หากวางแผนจนเป็นนิสัยได้จะเห็นผลลัพธ์ว่าจริง ๆ แล้วเรายังมีเวลาว่างเหลือไปทำอย่างอื่นที่สนใจอีกเยอะ 12 SOFT SKILLS ที่ต้องมีเพื่อความแตกต่าง ในยุคดิจิทัล มีอะไรบ้าง ? ภาพจาก : Liquidplanner ธนาธิปัตย์ 79
80 ธนาธิปัตย์ อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการบริหารจัดการที่ดีควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มวางแผนเรียงลำดับความสำคัญหรือความ เร่งด่วนของสิ่งที่ต้องทำ ▪ กำหนดระยะเวลาที่มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ สำเร็จในช่วงเวลาที่วางไว้ ▪ กำหนดเป้าหมาย หรือ To-do list เป็นรายวัน รายอาทิตย์ รายเดือน หรือสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จใน ปีนี้ ▪ หมั่นทำให้สำเร็จจนเป็นนิสัย มีความสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง 3. Flexibility and Adaptability : ทักษะความยืดหยุ่นและปรับตัว แต่ก่อนการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ๆ 10 ปีจะมีหน ทำให้ความคิด ที่จะปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ไม่ได้ยากมากนัก ในปัจจุบันกลับเรียกได้ว่า ยิ่งเทคโนโลยีเจริญขึ้นเท่าไหร่ เราก็ต้องปรับตัวและก้าวให้ทันเท่านั้น ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว เราแทบจะต้องปรับตัว อยู่ตลอดจากปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นปรับตัวเข้ากับสังคม รับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้า หรือเวลาทำงานอยู่แล้วมีงานเร่งด่วน เข้ามาแทรก ดังนั้นทักษะความยืดหยุ่นและปรับตัวจะเป็นเหมือนตัว ช่วยให้เราเข้ากับความแปลกใหม่ หรือเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ มีความคิดและการกระทำที่ยืดหยุ่นพร้อมปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ กฎเกณฑ์ หรือวิธีการทำงาน อยากเริ่มต้นสร้างทักษะความยืดหยุ่นและปรับตัว ควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มจากสังเกตบรรยากาศรอบตัว ท่าทาง น้ำเสียงของคนรอบข้าง ▪ ปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดที่จะแก้ไข ▪ เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่ปิดกั้นตัวเองที่จะเปลี่ยนแปลง ▪ เมื่อเผชิญปัญหาสามารถยอมรับความเสี่ยงและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแล้วนำไปปรับใช้ในครั้งหน้า 4. Teamwork and Collaboration : ทักษะการท างานร่วมกับผู้อืน่ หากเปรียบการทำงานร่วมกันกับผู้อื่นเป็นทีมฟุตบอล คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะคู่แข่งโดยต่างคนต่างเล่น ไม่สนใจคนในทีม แต่หาก ผู้เล่นทุกคนคอยสนับสนุน ส่งเสริม และร่วมแรงร่วมใจ เพื่อที่จะเอาชนะคู่แข่งเหมือนกัน ความน่าจะเป็นที่จะชนะก็จะเพิ่มขึ้น การทำงานเป็นทีมเราคงผ่านกันมานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เล็ก จนโตมีโครงงานบ้าง งานวิจัยกลุ่มบ้าง เจอทั้งปัญหาหลายอย่าง เช่น งานไม่เดิน เข้าใจภาพรวมไม่ตรงกัน ขัดแย้งทางความคิดเห็น และแม้ จะเข้าสู่วัยทำงาน ก็ยังจำเป็นต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น เช่น เพื่อน ร่วมงาน ลูกน้อง หัวหน้า หรือแม้แต่กับลูกค้า แทบจะหลีกเลี่ยงสิ่ง เหล่านี้ไม่ได้เลย ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วย ขับเคลื่อนเป้าหมายร่วมกันให้ลุล่วง การทำงานเป็นทีมมีข้อดีมากมาย ทั้งได้แชร์ความคิดเห็น ได้ไอเดียและมุมมองความคิดใหม่ ๆ และยัง สามารถจัดการงานนั้นได้อย่างรวดเร็ว ภาพจาก : Ar.casact.org ภาพจาก : Careeraddict ภาพจาก : Bitrix24 80 ธนาธิปัตย์
ธนาธิปัตย์ 81 อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มจากวางเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน ▪ ระดมความคิดหาวิธีการที่จะนำไปสู่เป้าหมายนั้น ▪ กล้าที่จะนำเสนอไอเดียของตนเอง ▪ หากความคิดของคนในทีมแตกต่าง ผิดจากเป้าหมาย หรือคิดว่าไม่น่าทำได้ ควรสอบถามหาเหตุผล และพูดคุย อย่างเปิดใจ ▪ ช่วยเหลือเกื้อกูล พัฒนา และแบ่งปันความรู้หรือกระบวนการคิดร่วมกัน ▪ ลงมือทำส่วนที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ 5. Analytic and Critical Thinking : ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และเชิงวิพากษ์ ในปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ทำได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ไม่ ว่าจะเป็นบนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอย่าง Facebook Instagram และ Twitter ก็มีข้อมูลข่าวสารอัปเดตอยู่ตลอด หรือเห็นเขาบอกกันมาอย่างงั้น จนหลงเชื่อ บางทีเราก็เผลอตัวให้ข่าวปลอมโดยไม่ทันคิด ในการทำงานก็ เช่นกัน บางทีเราจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลเพิ่ม แต่ข้อมูลเยอะมากจนเอา มาจับต้นชนปลายไม่ถูก ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และเชิงวิพากษ์ จะช่วย ให้เราไตร่ตรองและคิดอย่างรอบคอบมากขึ้น ไม่คล้อยตามก่อนที่จะรู้ ข้อเท็จจริง เกิดความคิดสร้างสรรค์หาวิธีการใหม่ ๆ และกล้าที่จะไปสู่ ผลลัพธ์ที่แตกต่าง อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และเชิงวิพากษ์ควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มฝึกกระบวนการคิดจากการตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัยหรืออยากรู้ ▪ ค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ▪ สอบถามจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้น เพื่อหา Key word สำคัญที่เกี่ยวข้อง ▪ จับประเด็นและเรียบเรียงข้อมูล ▪ นำมาตีความด้วยความเป็นเหตุและผล ▪ ประเมินทางเลือกและวิธีแก้ไขต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่คำตอบที่เหมาะสมและถูกต้องที่สุด 6. Decision Making : ทักษะการตัดสินใจ การตัดสินใจอะไรสักเรื่องก็ยากเหมือนกัน วัน ๆ เรามีเรื่องที่ ต้องตัดสินใจไม่น้อย เช่น วันนี้แต่งตัวแบบไหนดี มื้อนี้กินอะไรดี หรือ วันหยุดนี้ออกไปทำอะไรที่ไหนดี กว่าจะตัดสินใจได้แต่ละอย่างบางทีก็ ใช้เวลาไปไม่น้อยเลย ยิ่งเป็นผู้ประกอบการหรืออยู่ในระดับหัวหน้า แล้วต้องตัดสินใจบางเรื่อง ถ้าตัดสินใจช้ามัวแต่ลังเล กลัวว่าจะ ตัดสินใจผิดพลาด คงทำให้ธุรกิจไม่เดินหน้าต่อเสียที จนโดนชิงตัด หน้าไปเสียก่อน หรือจะให้เริ่มลงมือก็ไม่ทันเสียแล้ว ไม่ใช่แค่ระดับ หัวหน้าเท่านั้นในการทำงานปัจจุบันยังจำเป็นต้อง มีการตัดสินใจที่มี ประสิทธิภาพและรวดเร็ว อย่างการจัดการโปรเจกต์ แจกจ่าย รายละเอียดงานและมอบหมายให้คนในทีม หรือการทำงานที่ต้องแข่งขันกับเวลา บางทีมีความจำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยน เนื้อหาก็สามารถตัดสินใจได้ทันท่วงที ภาพจาก : Matterapp ภาพจาก : Ssfllp ธนาธิปัตย์ 81
82 ธนาธิปัตย์ อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการตัดสินใจที่ดีควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มโดยกำหนดขอบเขตของการตัดสินใจ และใครจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับการตัดสินใจครั้งนี้บ้าง ▪ ค้นหาทางเลือก หรือวิธีต่าง ๆ ที่มี และทำความเข้าใจ ▪ ประเมินความเสี่ยงและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือก ▪ ขจัดความลังเลที่มีออกไป ▪ ท้ายที่สุดเราจะสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 7. Creativity : ทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ เชื่อว่าคงจะมีคนรู้จักสักคนที่ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็รู้สึกว่าคิดได้ไง ทำไมครีเอทีฟสุด ๆ ถ้าเป็นเราคงคิดไม่ได้ อย่างนั้น ต้องเป็นเพราะว่าเขามีพรสวรรค์ด้านนี้ในการทำงานก็จำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ บางอาชีพแค่นักเขียน ดีไซเนอร์ นักการตลาด หรือที่เกี่ยวข้องกับความครีเอทีฟเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วทักษะความคิด สร้างสรรค์ คือการสร้างไอเดียใหม่ หรือวิธีการใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาสิ่งเดิมให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ แม้ไม่ได้มาด้วยพรสวรรค์ แต่สามารถฝึกฝนมาให้ได้ซึ่งพรแสวงจากความสนใจรอบตัว หรือความรู้เดิมนำมาประยุกต์ ต่อยอดให้เกิดแนวทางใหม่ ๆ อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ อาจเริ่มจากความอยากรู้อยากเห็นและทำ ความเข้าใจกับวิธีการเดิม ▪ หาไอเดียมาประยุกต์จากข้อสงสัยนั้นอาจมา จากกิจกรรมที่ชื่นชอบ เช่น การอ่านหนังสือ การฟังเพลง เล่นดนตรี หรืองานศิลปะ ▪ นำความรู้ใหม่มาต่อยอดกับความรู้เดิมที่มีอยู่ ▪ เปิดใจกับวิธีการใหม่ที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ▪ กล้าที่จะใช้วิธีการใหม่ที่คิดค้นหรือประยุกต์ ขึ้นมาได้ 8. Complex Problem Solving : ทักษะการแก้ไขปัญหาทีมีความซับซ้อน่ แม้ว่าเทคโนโลยีจะถูกพัฒนาขึ้นมาจนก้าวหน้าขึ้นกว่าครั้งอดีตอย่างมาก แต่ในการทำธุรกิจ หรือในชีวิตจริงของ ผู้คนเทคโนโลยีเหล่านั้นก็ยังไม่สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาได้อย่างสมบูรณ์ ที่มีทั้งความไม่ชัดเจนและความไม่แน่นอน ทำให้ปัญหาต่าง ๆ มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในการทำงานแม้จะมีเครื่องมือที่เข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังไม่สามารถ ระบุวิธีแก้ไขให้เราได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ดังนั้นการมองภาพรวมอย่างเป็นระบบจึงสำคัญมาก ซึ่งทักษะการแก้ไขปัญหา ที่มีความซับซ้อนจะช่วยให้เราสามารถมีความคิดอย่างมีระบบ สามารถเชื่อมโยงความเป็นเหตุเป็นผล และสามารถ วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกันได้ ทำให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ และมีการตัดสินใจประเมินทางเลือก ที่จะแก้ไขปัญหานั้นอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน ควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มจากมองภาพใหญ่ของปัญหา ▪ สร้างความคิดเชิงระบบ ตั้งคำถามเพื่อระบุปัญหาให้ชัดเจน ▪ รวบรวมข้อมูล เพื่อหาความเชื่อมโยงของปัญหาว่าปัจจัยใด เป็นสาเหตุ ได้บ้าง ภาพจาก : Blog.bonus.ly ภาพจาก : Real-leaders 82 ธนาธิปัตย์
ธนาธิปัตย์ 83 ▪ จัดลำดับความรุนแรงของปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ▪ คิดวิธีแก้ปัญหา หรือวิธีการที่พาเราไปสู่ผลลัพธ์ที่เราต้องการ ▪ ประเมินสถานการณ์ และความเป็นไปได้ของทางเลือก 9. Curiosity and Lifelong Learning : ทักษะการใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าผ่านไปไม่ถึง 10 ปี ก็มีอาชีพใหม่โผล่ขึ้นมามาก เป็นการประยุกต์การทำงานบ้าง เป็นความรู้ใหม่เลยบ้าง ทำให้วิธีการทำงานแบบเดิมมีประสิทธิภาพน้อยลง จนบางทีล้าหลังใช้รับมือกับปัญหาไม่ได้อีก จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะใช้ พื้นฐานความรู้เดิมไปตลอดกาล เราเรียนรู้มาตลอดตั้งแต่เกิด เรียนรู้ที่จะเข้าใจการสื่อสาร เรียนรู้ที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ แม้จะในตอนทำงานแล้ว ยิ่งต้องเรียนรู้เครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการ ขององค์กรมากยิ่งขึ้น ทักษะการใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลาจะช่วยให้เราสามารถปรับตัวพัฒนาและพอกพูนความรู้ใหม่ ๆ ใส่ตัว อยู่เสมอ แม้โลกจะหมุนไปแบบไหนก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองและอยู่รอดกับมันได้ อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา ควรทำ อย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มจากตั้งเป้าหมายใหญ่ที่เราต้องการจะพัฒนาหรือเรียนรู้ ▪ หาวิธีการไปสู่เป้าหมายนั้นว่าจำเป็นต้องมีความรู้แบบไหนบ้าง ▪ ค้นคว้าเพิ่มเติม ติดตามความรู้ใหม่ ๆ ในสายงานของเรา หรือในสิ่งที่เรา ให้ความสนใจตลอดเวลา ▪ ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอจนเป็นนิสัย 10. Negotiation and Persuasion : ทักษะการโน้มน้าวและต่อรอง คุณอาจจะเคยรู้สึกถูกพนักงานขายเสนอขายสินค้าหรือบริการกันมาบ้าง แต่เคยสงสัยไหมว่าเขาใช้เทคนิคอะไร ที่ทำให้บางทีเรารู้สึกคล้อยตาม จนสุดท้ายตกลงปลงใจยอมซื้อสินค้าหรือบริการนั้นในที่สุด กลยุทธ์ในการพูดเพื่อโน้มน้าว หรือต่อรอง ช่วยให้ความน่าจะเป็นที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เราต้องการได้มากขึ้นทีเดียว ทักษะนี้ไม่ได้จำกันว่าต้องทำงานขายหรืองานบริการเท่านั้น ทั้งในชีวิตประจำวัน เช่น การขอความช่วยเหลือ การนำเสนอ การติดต่อประสานงาน การต่อรองสิ่งตอบแทน สิ่งเหล่านี้ก็ยังจำเป็นที่ต้องโน้มน้าวใจอีกฝ่ายเสมอ อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการโน้มน้าวและต่อรอง ควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มจากฟังประเด็นและความต้องการของอีกฝ่าย ▪ ทำความเข้าใจข้อเสนอหรือข้อเรียกร้องนั้น พร้อมคิด วิธีการตอบกลับ ▪ เริ่มนำเหตุผลมาโน้มน้าวความคิดของคู่สนทนา ▪ สร้างบุคลิกเพื่อเสริมความมั่นใจ เช่น การวางตัว ท่าทาง น้ำเสียง และคำพูด ▪ ลองฝึกจำลองสถานการณ์ เพื่อเตรียมพร้อมวิธีการรับมือ 11. Leadership : ทักษะการเป็นผู้น า การเป็นผู้นำไม่ได้มาพร้อมกับตำแหน่งเท่านั้น แต่เป็น มุมมองความคิดและวิสัยทัศน์ที่จะนำพาไปสู่เป้าหมายนั้นสำเร็จ เราอาจจะเคยพบเจอผู้นำที่แสดงภาวการณ์เป็นผู้นำ ที่ไม่เหมาะสมมาบ้าง แล้วผู้นำที่ดีแท้จริงแล้วควรเป็นอย่างไร ในการทำงานการเป็นผู้นำที่ดีนั้นจะช่วยดึงศักยภาพของ ผู้ตาม ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ในระดับหัวหน้าเท่านั้นที่ต้องมีทักษะการเป็นผู้นำ แต่เราก็สามารถเป็นผู้นำในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ภาพจาก : Jeremy-gottfrieds-tech-blog ภาพจาก : Hospitalitymagazine ธนาธิปัตย์ 83
84 ธนาธิปัตย์ หรือกลุ่มสังคมได้ ที่สำคัญผู้นำที่ดีนั้น ควรมีความรับผิดชอบ สามารถสร้างให้ผู้ตามเกิดความร่วมมือไปทิศทางความคิด ไปในทางเดียวกันกับเป้าหมาย มีความยุติธรรม และเปิดใจรับฟังความคิดเห็น อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการเป็นผู้นำ ควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ เริ่มจากมีเป้าหมายที่กว้างไกล ▪ สร้างความไว้วางใจกับผู้อื่น ▪ ชักนำให้เกิดความร่วมมือกัน ดึงจุดเด่นของผู้ตามออกมา ▪ มีสติและการควบคุมการกระทำ เพื่อพร้อมที่รับมือกับความกดดัน ▪ กล้าที่จะลงมือทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม 12. Positive Attitude : ทักษะการมีทัศนคติเชิงบวก คุณอาจจะพบเจอกับช่วงเวลาที่เป็นทุกข์ ติดอยู่ในอุปสรรคหรือปัญหาเดิม ๆ จนรู้สึกเริ่มคิดแง่ลบและท้อแท้ กับตัวเอง ‘ทำไมถึงจัดการไม่ได้สักที’ หรือ ‘ทำไมเราต้องมาเจออะไรอย่างนี้’ ทุกคนล้วนแต่มีเรื่องทุกข์ใจสำหรับตัวเอง แต่จะทำอย่างไรดีให้เราข้ามผ่านมันมาได้การมีมุมมองหรือทัศนคติเชิงบวกนั้น จะช่วยให้เราสามารถปรับมุมมองความคิด ไม่ให้จมปลักอยู่กับความทุกข์นั้น มองว่าอุปสรรคเป็นเพียงบทเรียนชีวิต ไม่ว่าเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว รวมถึงช่วย เป็นพลังให้กับตัวเราและคนรอบข้าง ช่วยคลายความกังวล พร้อมกล้าที่ออกจะไปหาโอกาสและการเรียนรู้ใหม่ ๆ มีความสุขไปกับมัน อยากเริ่มต้นสร้างทักษะการมีทัศนคติเชิงบวก ควรทำอย่างไรบ้าง? ▪ ลองปรับเปลี่ยนมุมมอง มองหาข้อดีของอุปสรรคนั้น และนำไปเป็นบทเรียน ▪ มองการกระทำให้รอบด้านก่อนจะลงมือ ▪ กล้าที่จะลองมือ หากเกิดความผิดพลาดมองว่าเป็นการเรียนรู้และหาวิธีแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำสอง ▪ เลือกที่จะเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเชิงบวก ▪ บันทึกสิ่งที่มีความสุขของแต่ละวัน และเมื่อวันไหน เราเจอเรื่องทุกข์ใจให้ย้อนกลับไปอ่านจะช่วยสร้าง พลังบวกกลับมาให้เราได้ ▪ ฝึกพูดให้กำลังใจตัวเอง ให้ของขวัญขอบคุณตอบ แทนตัวเองที่ข้ามผ่านมาได้ ▪ ให้คุณค่ากับตัวเอง พร้อมหมั่นเรียนรู้และพัฒนา สรุปทั้งหมด นับว่าเป็น 12 Future Soft skills ที่จำเป็นต้องมีเลยก็ว่าได้ เมื่อคุณมี Soft skills นั้นจะอยู่ติดตัวตลอดไป แม้ว่าในอนาคตเราจะเปลี่ยนสายอาชีพก็ตาม ที่สำคัญเลย Soft skills เหล่านี้จะมาจากเราลงมือด้วยตัวเองเท่านั้น อาจจะ มาจากการขัดเกลาจากสภาพแวดล้อมที่เราเติบโต และจากบุคคลรอบข้าง ทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ดี นอกจากนี้ในการทำงาน Hard skills อย่างเดียวอาจจะไม่พอเป็นที่จะสร้างจุดยืนที่แตกต่างให้เรา แต่ Soft skills นั้น จะเป็นจุดแข็งให้กับตัวเรามากขึ้น ให้การทำงานกับผู้ร่วมงาน ลูกค้า และหัวหน้าของเราเลื่อนไหลและส่งมอบงานที่มี คุณค่าได้ดียิ่งขึ้น พร้อมที่จะเป็นที่ต้องการขององค์กรที่ขาดไม่ได้ ข อ บ คุ ณ บ ท ค ว า ม จ า ก THE GROWTH MINDSET ภาพจาก : Balaspeaks.in ภาพจาก : Npr 84 ธนาธิปัตย์
ธนาธิปัตย์ 85 สรุปแบบธรรมเนียมทางด้านการเงินและการบัญชี ประจ�ำเดือน เม.ย. – ก.ย.66 เรื่องที่ 1 รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของ ทบ. ส�ำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 65 อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ด่วนมาก ที่ ต่อ กห 0406/1186 ลง 11 เม.ย. 66 สปช.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. ได้กรุณาอนุมัติให้กง.ทบ. ในฐานะหน่วยรับผิดชอบในการจัดท�ำรายงานการเงิน ของ ทบ. น�ำรายงานการเงินของ ทบ. ส�ำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 65 เปิดเผยให้สาธารณชนทราบผ่านทางเว็บไซต์กง.ทบ. ทั้งนี้ สตง. ได้ตรวจสอบรายงานการเงินของ ทบ. ส�ำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 65 เรียบร้อยแล้ว และรับรองรายงานการเงินของ ทบ. โดยแสดงความเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กง.ทบ. ในฐานะผู้รับผิดชอบในการจัดท�ำรายงาน การเงินของ ทบ. สามารถจัดท�ำรายงานการเงินของ ทบ. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถก�ำกับดูแลหน่วยที่เบิกเงินจากคลัง ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านบัญชีในระบบ New GFMIS Thai ได้เป็นอย่างดี เรื่องที่ 2 รายงานผลการประชุมพิจารณาทบทวนแนวทางการปฏิบัติต่อการเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากกิจการ สวัสดิการ ทบ. อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0401/1028 ลง 24 มี.ค. 66 กพ.ทบ.แจ้งให้ทราบว่าผบ.ทบ.กรุณาอนุมัติแนวทางการปฏิบัติต่อการเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากกิจการ สวัสดิการ ทบ. (เพิ่มเติม) ดังนี้ 1. ที่ประชุมฯได้ร่วมพิจารณาข้อมูลจากกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้วจึงก�ำหนดแนวทางการปฏิบัติต่อการ เรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากกิจการสวัสดิการ ทบ. ดังนี้ 1.1 กิจการสวัสดิการ ทบ. ที่ได้รับหนังสือจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากหน่วยงานของรัฐ/องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ให้ผบ.หน่วย ให้ความส�ำคัญตั้งแต่ขั้นตอนในการประเมินภาษีเนื่องจากเป็นขั้นตอนแรกของการก�ำหนดอัตราภาษีฯ ซึ่งพนักงานประเมิน จะมีหนังสือแจ้งให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ตามมาตรา 45 พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 โดยขอให้ความส�ำคัญอย ่าปล ่อยให้เจ้าหน้าที่ด�ำเนินการตามล�ำพัง ต้องเข้าชี้แจงและท�ำความเข้าใจกับผู้บริหาร ส่วนท้องถิ่นให้ทราบถึงเหตุผลในการจัดสวัสดิการของหน่วย กิจการใดที่เป็นการจัดสวัสดิการภายใน เพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้กับ ก�ำลังพลและครอบครัว กิจการใดเป็นกิจการสวัสดิการในเชิงธุรกิจ เนื่องจากมีบุคคลภายนอก มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ไม่สามารถปฏิเสธไม่ให้บุคคลภายนอกมาใช้บริการได้จึงต้องจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ เพื่อให้เป็นไปตาม กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกิจการสวัสดิการของ ทบ. ทั้ง2รูปแบบ มิได้มุ่งหวังผลก�ำไรรวมถึงพื้นที่ที่หน่วยน�ำมาจัดกิจการสวัสดิการนั้น จะต้องแยกให้ชัดเจน ว่าพื้นที่ใดที่ใช้เป็นกิจการสาธารณะ เช่น การให้ประชาชนเข้ามาออกก�ำลังกายและพักผ่อนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเข้า ข่ายการได้รับการงดเว้นภาษีทั้งนี้เพื่อให้การประเมินภาษีในเฉพาะพื้นที่ที่เข้าข่ายก่อให้เกิดรายได้จริง ๆ เท่านั้น 1.2 ส�ำหรับกิจการใดที่ในปัจจุบัน ไม ่มีพื้นที่ของกิจการที่เข้าข ่ายจะได้รับการยกเว้นภาษี(ไม ่มีพื้นที่ สาธารณประโยชน์) กิจการอาจต้องมีการเตรียมการ เพื่อปรับพื้นที่ดังกล่าวให้เข้าเงื่อนไขของการได้รับการยกเว้นภาษีกล่าวคือ พื้นที่สาธารณประโยชน์อีกทั้ง ผบ.หน่วย ต้องให้ความส�ำคัญกับการติดต่อประสานงานกับ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น อย่างใกล้ชิด 1.3 กิจการสวัสดิการของหน่วย ต้องวางแผนในการจัดท�ำประมาณการค่าใช้จ่ายในการเสียภาษีที่ดินหรือ สิ่งปลูกสร้างไว้ด้วย ทั้งนี้เมื่อมีการเรียกเก็บหน่วยจะได้ควบคุมประมาณการรายจ่ายของกิจการได้ 1.4 เสนอเรื่องให้กห. และ ทท. พิจารณาด�ำเนินการเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของกิจการสวัสดิการ ของ กห. และเหล่าทัพ ในภาพรวม เพื่อขอลดผ่อนปรนอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กิจการสวัสดิการที่ด�ำเนินการในรูปแบบ สวัสดิการเชิงธุรกิจ โดยขอผ่อนปรนในอัตราภาษีที่ต�่ำลง ซึ่งอาจต้องด�ำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางการลดหย่อนตาม พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 มาตรา55ก�ำหนดให้การลดภาษีส�ำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างบางประเภท เพื่อให้เหมาะสม กับสภาพความจ�ำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม เหตุการณ์กิจการ หรือสภาพแห่งท้องที่ให้กระท�ำได้โดยตราเป็น พ.ร.ฎ. แต่ต้องไม่เกิน ร้อยละเก้าสิบของจ�ำนวนภาษีที่จะต้องเสีย
86 ธนาธิปัตย์ 2. ผบ.ทบ./ประธานกรรมการสวัสดิการ ทบ. ได้กรุณาอนุมัติแนวทางการปฏิบัติต่อการเรียกเก็บภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างของรัฐของหน่วย อปท. ที่เรียกเก็บภาษีจากกิจการสวัสดิการ ทบ. รายละเอียดดังนี้ 2.1 ให้นขต.ทบ./หน่วยงานของ ทบ. ที่ด�ำเนินกิจการสวัสดิการรูปแบบภายในส่วนราชการ ที่ได้รับหนังสือ จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากหน่วยงานของรัฐ/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยื่นค�ำขอลดหรือการยกเว้นภาษีพร้อมทั้งแจ้ง เหตุผลและความจ�ำเป็นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษีทราบ เพื่อพิจารณายกเว้นหรือลดภาษี 2.2 ส�ำหรับกิจการสวัสดิการในเชิงธุรกิจ ซึ่งเป็นการน�ำที่ราชพัสดุไปใช้ประโยชน์ในทางที่เกิดรายได้และ ต้องช�ำระภาษีตามกฎหมายที่ก�ำหนด ให้หน่วย/กิจการสวัสดิการแจ้งต่อองค์กรปกครองท้องถิ่น ว่าพื้นที่ที่ใช้ในการจัดสวัสดิการ ในเชิงธุรกิจมีพื้นที่จ�ำนวนเท่าใดเพื่อใช้ค�ำนวณภาษีที่ดินฯเฉพาะพื้นที่ฯดังกล่าว หากได้รับหนังสือจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เรื่องที่ 3 การเข้าใช้งานระบบเรียกดูข้อมูลการจ่ายช�ำระเงินให้แก่ผู้ขาย (Web Vendors) อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0406/1148 ลง 30 มี.ค. 66 สปช.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. (ปช.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) กรุณาอนุมัติให้หน่วยตั้งแต่ระดับกองพันหรือเทียบเท่าขึ้นไปที่มี การด�ำเนินกรรมวิธีจัดซื้อจัดจ้างประชาสัมพันธ์การเข้าใช้งานระบบดังกล่าว ให้ผู้ขาย (เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงิน) ทราบ ตามที่ กรมบัญชีกลางได้ด�ำเนินการพัฒนาระบบเรียกดูข้อมูลการจ่ายช�ำระเงินให้แก่ผู้ขาย (Web Vendors) เพื่อให้เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิ รับเงินของหน่วยงานของรัฐที่กรมบัญชีกลางเป็นผู้จ่ายเงินเข้าบัญชีธนาคารให้โดยตรง ผ่านระบบ New GFMIS Thai สามารถ ตรวจสอบและเรียกรายงานการจ่ายช�ำระเงินได้ด้วยตนเอง รายละเอียดดังนี้ 1. เริ่มใช้งานระบบWeb Vendors ผ่าน URL เดิม คือ https://vendors.gfmis.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 66 เป็นต้นไป 2. รายงานการจ่ายช�ำระเงินสามารถเรียกข้อมูลย้อนหลังได้ถึงวันที่ 1 มี.ค. 64 (ย้อนหลัง 2 ปี) 3. หากผู้ขายมีการลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ Web Vendors ในระหว่างวันที่18–26 มี.ค.66ผู้ขายจะต้องด�ำเนิน การลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 66 เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป 4. ขอความร่วมมือหน่วยงานของรัฐประชาสัมพันธ์ให้กับเจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงินในการเข้าใช้งานระบบดังกล่าว ตามคู่มือการเข้าใช้งานระบบ Web Vendors 5. หากมีข้อสงสัยในการเข้าใช้งานสามารถติดต่อสอบถามผ่าน Contact Center ของระบบ New GFMIS Thai หมายเลขโทรศัพท์0 2032 2636 เรื่องที่ 4 การประกาศก�ำหนดส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ที่ ต่อ กห 0401/15197 ลง 16 มิ.ย. 66 กพ.ทบ. แจ้งให้ทราบว ่า ผบ.ทบ. (จก.กพ.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) ได้กรุณาอนุมัติให้ นขต.ทบ. ทราบและถือปฏิบัติ ตามที่กค.ก�ำหนดส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ.2566(1ต.ค.65–30ก.ย.66)และการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการ ส�ำหรับการปฏิบัติงานประจ�ำส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ (สปพ.) ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ.2566ให้ส่วนราชการถือปฏิบัติตามระเบียบ กค. ว่าด้วย การเบิกจ่ายเงินสวัสดิการส�ำหรับการปฏิบัติงานส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. 2549 โดยการเบิกจ่ายเงิน ในกรณี ที่ข้าราชการหรือลูกจ้างประจ�ำมีสิทธิได้รับเงิน สปพ. หรือเงินตอบแทนอื่นในลักษณะท�ำนองเดียวกันกับเงิน สปพ. ให้ข้าราชการ หรือลูกจ้างประจ�ำนั้นมีสิทธิได้รับเงิน สปพ. หรือเงินตอบแทนอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วแต่เงินจ�ำนวนใดสูงกว่า ทั้งนี้เพื่อให้เป็น ไปตาม พ.ร.ฎ. เงินสวัสดิการส�ำหรับการปฏิบัติงานส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 9 ส�ำหรับ รายละเอียดของประกาศฯ ดังกล่าว สามารถดูได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หัวข้อ กฎหมายและระเบียบการคลัง งบบุคลากรภาครัฐ
ธนาธิปัตย์ 87 เรื่องที่ 5 การประกาศก�ำหนดส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ เพิ่มเติม ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ที่ ต่อ กห 0401/15198 ลง 16 มิ.ย. 66 กพ.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. (จก.กพ.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) ได้กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ. ทราบและถือปฏิบัติตามที่ กค. ประกาศก�ำหนดส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ เพิ่มเติม ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ดังนี้ 1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน จ�ำนวน 5 ส�ำนักงาน 2. จังหวัดพังงา จ�ำนวน 27 ส�ำนักงาน โดยเกี่ยวข้องกับ ทบ. คือ หน่วยสัสดีอ�ำเภอเกาะยาว ต.เกาะยาว อ.เกาะยาว จว.พ.ง. ทั้งนี้ หน่วยสามารถดูได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หัวข้อ กฎหมาย และระเบียบการคลัง งบบุคลากรภาครัฐ รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย เรื่องที่ 6 ประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ เรื่อง สิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2566 อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ที่ ต่อ กห 0401/13582 ลง 2 มิ.ย. 66 กพ.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. (จก.กพ.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ. ถึงระดับ มทบ. ทราบ และ ถือปฏิบัติตามที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) ประกาศ เรื่อง สิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2566 มีมติก�ำหนดให้พนักงานราชการมีสิทธิลาไปช่วยเหลือภริยา ที่คลอดบุตรและให้ได้รับค่าตอบแทนระหว่างลา โดยให้ เพิ่มความในข้อ 4 และ 5 ของประกาศ คพร. เรื่อง สิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ พ.ศ. 2554 ทั้งนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ บัดนี้เป็นต้นไป รายละเอียดดังนี้ 1. ข้อ 4 “(2/1) การลาไปช ่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร พนักงานราชการซึ่งประสงค์จะลาไปช ่วยเหลือภริยา โดยชอบด้วยกฎหมายที่คลอดบุตรให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามล�ำดับ จนถึงผู้มีอ�ำนาจอนุญาตก่อนหรือในวันที่ลา ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คลอดบุตร และให้มีสิทธิลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตรครั้งหนึ่งติดต่อกันได้ไม่เกิน 15 วันท�ำการ โดยผู้มีอ�ำนาจอนุญาตอาจให้แสดงหลักฐานประกอบการพิจารณาอนุญาตด้วยก็ได้” 2. ข้อ5“(2/1)การลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร ภายใน 30วัน นับแต่วันที่ภริยาคลอดบุตรให้ได้รับค่าตอบแทน ระหว่างลาได้ไม่เกิน 15 วันท�ำการ แต่ถ้าเป็นการลาเมื่อพ้น 30 วันนับแต่วันที่ภริยาคลอดบุตร ไม่ให้ได้รับค่าตอบแทนระหว่างลา เว้นแต่ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ต�ำแหน่งอธิบดีหรือต�ำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป เห็นควรจะให้จ่ายค่าตอบแทนระหว่างลานั้นก็ได้แต่ไม่เกิน 15 วันท�ำการ” เรื่องที่ 7 หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ที่ กห 0406/1783 ลง 22 พ.ค. 66 สปช.ทบ.แจ้งให้ทราบว่าผบ.ทบ. (ปช.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) ได้กรุณาอนุมัติให้หน่วยที่เบิกเงินจากคลังทราบและถือปฏิบัติ ตามที่กรมบัญชีกลางได้จัดท�ำหนังสือรับรองการหักภาษีณ ที่จ่าย(แบบ 4235) พร้อมค�ำอธิบายรายการและตัวอย่างการกรอกหนังสือ รับรองการหักภาษีณ ที่จ่าย ทั้งกรณีไม่มีค่าปรับ และกรณีมีค่าปรับ เพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยยกเลิกแบบหนังสือรับรองการ หักภาษีณ ที่จ่าย (หนังสือ กรมบัญชีกลาง ด่วน ที่กค 0410.3/ว 376 ลง 23 ก.ย. 48) เรื่องที่ 8 ประชาสัมพันธ์การเพิ่มขั้นตอนการท�ำธุรกรรม ผ่านแอป ทีทีบี ทัช อ้างอิง หนังสือธนาคารทหารไทยธนชาต จ�ำกัด (มหาชน) ที่ บท. 101/66 ลง 30 พ.ค. 66 ธนาคารทหารไทยธนชาต จ�ำกัด (มหาชน) ขอให้กง.ทบ. ประชาสัมพันธ์การเพิ่มขั้นตอนการท�ำธุรกรรม ผ่านแอป ทีทีบีทัชตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน เพื่อความปลอดภัยในการท�ำธุรกรรมผ่านโมบาย แบงก์กิ้ง (แอป ทีทีบีทัช) เริ่มใช้มาตรการตั้งแต่เดือน ก.ค. 66 เป็นต้นไป รายละเอียดดังนี้ 1. ก�ำหนดให้ลูกค้าเงินฝากของธนาคารต้องสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนในขั้นตอนการท�ำธุรกรรม 1.1 โอนเงินให้บุคคลอื่นหรือธนาคารอื่น ตั้งแต่50,000.- บาท ขึ้นไป ต่อครั้ง 1.2 โอนเงินให้บุคคลอื่นหรือโอนเงินธนาคารอื่น ตั้งแต่200,000.- บาท ขึ้นไป ต่อวัน
88 ธนาธิปัตย์ 1.3 ปรับเพิ่มวงเงินการท�ำธุรกรรมโอนเงินต่อวันให้สามารถโอนได้ตั้งแต่50,000.- บาท ขึ้นไป 2. แนวทางปฏิบัติ 2.1 หากเคยให้ธนาคารเก็บข้อมูลบัตรประชาชนผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Dip Chip) และสแกนใบหน้า กับธนาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถท�ำธุรกรรมผ่านแอป ทีทีบีทัช ได้ตามปกติ 2.2 กรณีเคยให้ธนาคารเก็บข้อมูลบัตรประชาชนผ ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Dip Chip) กับธนาคาร แต่ยังไม่เคยเก็บข้อมูลสแกนใบหน้า สามารถสแกนใบหน้า ผ่านแอป ทีทีบีทัช เพื่ออัปเดตข้อมูลได้ในเดือน ก.ค. 66 เพื่อให้สามารถ ท�ำธุรกรรมผ่านแอป ทีทีบีทัช ได้ตามปกติ ทั้งนี้ธนาคารได้มีการแจ้งสถานะแต่ละราย (อ้างอิงข้อมูลที่ธนาคารมีอยู่ ณ วันที่ 26 เม.ย. 66) ผ่าน แอป ทีทีบีทัช เรียบร้อยแล้ว เรื่องที่ 9 การอนุมัติก�ำหนดแนวทางการด�ำเนินการ กรณี ทอส. ซึ่งมีระยะเวลาปฏิบัติงานไม่ครบ ตามสัญญาจ้าง (2 ปี) ผ่านการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าปฏิบัติงาน ทบ. อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0401/1723 ลง 29 พ.ค. 66 กพ.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ. ถึงระดับกองพลหรือเทียบเท่า ถือปฏิบัติตามแนวทาง การด�ำเนินการ กรณีทอส. ซึ่งมีระยะเวลาปฏิบัติงานไม่ครบตามสัญญาจ้าง (2 ปี) ผ่านการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าปฏิบัติงาน ทบ. ซึ่งนับว่าเป็นผลดีส�ำหรับการบริหารจัดการก�ำลังพลที่มีความรู้ความสามารถ มีใจรักในอาชีพทหารตลอดจนผ่านการฝึกปรับพื้นฐาน ทางทหารที่จ�ำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ และมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานภายในหน่วยทหารมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เข้ามาปฏิบัติ งานให้กับ ทบ. เพื่อเป็นการช่วยเหลือก�ำลังพล ลดภาระค่าใช้จ่ายก่อนเข้าฝึกอบรมเป็น นนส.ทบ. รายละเอียดดังนี้ 1. ให้หน่วยรับบรรจุจ้าง ทอส. ในฐานะผู้ว่าจ้างใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเนื่องจากเหตุผลความจ�ำเป็นทางราชการ 2. ทอส. ในฐานะผู้รับจ้าง ไม่ต้องช�ำระค่าปรับให้ทบ. เรื่องที่ 10 พระราชบัญญัติกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2566 พร้อมประกาศคณะกรรมการกองทุน บ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2566 และประกาศกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2566 อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ที่ ต่อ กห 0401/14442 ลง 15 มิ.ย. 66 กพ.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. (จก.กพ.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ. เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ก�ำลังพล ในสังกัดและหน่วยรองทราบ ตามที่กองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ (กบข.) ได้ออกประกาศกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ จ�ำนวน 4 ฉบับ และ ประกาศคณะกรรมการกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ จ�ำนวน 2 ฉบับ รายละเอียดสรุปได้ดังนี้ 1. ประกาศคณะกรรมการ กบข. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดให้มีแผนการลงทุน การเลือกแผนการลงทุน การให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาเลือกแผนการลงทุนและการเปลี่ยนแปลงแผนการลงทุน พ.ศ. 2566 ลง 8 พ.ค. 66 และประกาศ กบข. เรื่อง ก�ำหนดแบบแสดงความประสงค์เลือกหรือเปลี่ยนแปลงแผนการลงทุน พ.ศ. 2566 ลง 9 พ.ค. 66 โดยมีสาระส�ำคัญ ดังนี้ 1.1 สมาชิกที่ใช้สิทธิเลือกแผนการลงทุน จะมีผลต่อการลงทุนของเงินทั้งหมดในบัญชีเงินรายบุคคลสมาชิก 1.2 สมาชิกไม่ได้เลือกแผนการลงทุนใดให้ถือว่าสมาชิกยินยอมให้กองทุนจัดการลงทุนตามแผนการลงทุน ในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเหมาะสมกับช่วงอายุของสมาชิก 1.3 สมาชิกที่สิ้นสุดสมาชิกภาพและฝากเงินให้กองทุนบริหารต่อหรือขอทยอยรับเงินมีสิทธิเลือกแผนการลงทุน ตามที่กองทุนจัดให้ 1.4 เพื่อปรับ “แบบแจ้งความประสงค์เลือกหรือเปลี่ยนแปลงแผนการลงทุนส�ำหรับแผนส�ำรับและแผนสินทรัพย์” และ “แบบแจ้งความประสงค์เลือกหรือเปลี่ยนแปลงแผนการลงทุนส�ำหรับแผนลงทุนแบบผสมเอง” ให้สอดคล้องกับประกาศ คณะกรรมการ กบข. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดให้มีแผนการลงทุนการเลือกแผนการลงทุน การให้ข้อมูลประกอบการพิจารณา เลือกแผนการลงทุนและการเปลี่ยนแผนการลงทุน พ.ศ. 2566
ธนาธิปัตย์ 89 1.5 ก�ำหนดให้ใช้“แบบแจ้งความประสงค์เลือกหรือเปลี่ยนแปลงแผนการลงทุนส�ำหรับแผนส�ำรับและ แผนสินทรัพย์” แบบ กบข. ปผ. 001/1/2566 และ “แบบแจ้งความประสงค์เลือก หรือเปลี่ยนแปลงแผนการลงทุน ส�ำหรับ แผนลงทุนแบบผสมเอง” แบบ กบข. ปผ. 022/1/2566 2. ประกาศคณะกรรมาการ กบข. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการรับโอนเงินจากกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2566 ลง 8 พ.ค. 66 และประกาศ กบข. เรื่อง ก�ำหนดแบบแสดงความประสงค์ขอโอนเงินจากกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2566 ลง 9 พ.ค. 66 โดยมีสาระส�ำคัญดังนี้ 2.1 สมาชิกที่ประสงค์โอนย้ายเงินที่มีสิทธิได้รับจากกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพมายังกองทุน จะต้องเป็นผู้ที่ไม่เคย รับเงินคืนจากกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพมาก่อน 2.2 เมื่อกองทุนได้รับโอนเงินของสมาชิกจากกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพแล้วให้เงินที่กองทุนได้รับโอนเป็นเงิน ในบัญชีเงินรายบุคคลของสมาชิกที่อยู่ในกองทุน 2.3 ก�ำหนดให้ใช้“แบบแสดงความประสงค์ขอโอนเงินจากกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.2566”แบบ กบข.อง. 001/1/2566 ส�ำหรับสมาชิกที่แสดงความประสงค์ขอโอนเงินจากกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพมาให้กองทุนบริหาร ทั้งจ�ำนวน 3. ประกาศ กบข. เรื่อง ก�ำหนดแบบแจ้งข้อมูลการกลับเข้ารับราชการใหม่ พ.ศ. 2566 ลง 9 พ.ค. 2566 โดยมี สาระส�ำคัญดังนี้ 3.1 เพื่อปรับ “แบบแจ้งข้อมูลการกลับเข้ารับราชการใหม่” ให้สอดคล้องกับประกาศคณะกรรมการ กบข. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดให้มีแผนการลงทุน การเลือกแผนการลงทุน การให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาเลือกแผนการลงทุน และการเปลี่ยนแผนการลงทุน พ.ศ. 2566 3.2 ก�ำหนดให้ใช้“แบบแจ้งข้อมูลการกลับเข้ารับราชการใหม่” แบบ กบข. จก 001/2566 4. ประกาศกบข. เรื่องก�ำหนดแบบแสดงความประสงค์ก�ำหนดหรือเปลี่ยนแปลงอัตราเงินสะสมส่วนเพิ่ม พ.ศ.2566 ลง 20 มี.ค. 66 โดยสาระส�ำคัญ ดังนี้ 4.1 เพื่อปรับ “แบบแสดงความประสงค์ก�ำหนดหรือเปลี่ยนแปลงอัตราเงินสะสมส่วนเพิ่ม” ให้สอดคล้อง กับ พระราชบัญญัติกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2566 4.2 ก�ำหนดให้ใช้“แบบแสดงความประสงค์ก�ำหนดหรือเปลี่ยนแปลงอัตราเงินสะสมส่วนเพิ่ม”แบบ กบข.อพ. 001/1/2566 ส�ำหรับกรณีที่สมาชิกต้องการก�ำหนดหรือเปลี่ยนแปลงอัตราเงินสะสมส่วนเพิ่ม เรื่องที่ 11 ระเบียบ กห. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทนอย่างอื่น และสิทธิประโยชน์ ของอาสาสมัคร ทหารพราน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566 อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ด่วนมาก ที่ ต่อ กห 0401/16093 ลง 23 มิ.ย. 66 กพ.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. กรุณาทราบ และอนุมัติให้นขต.ทบ. ทราบ และถือปฏิบัติตามระเบียบ กห. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทนอย่างอื่น และสิทธิประโยชน์ของอาสาสมัครทหารพราน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566 รายละเอียดสรุปได้ดังนี้ 1. ยกเลิกความในข้อ 19 ของระเบียบ กห. ว ่าด้วยหลักเกณฑ์การได้รับเงินเดือนค ่าตอบแทนอย ่างอื่น และ สิทธิประโยชน์ของอาสาสมัครทหารพราน พ.ศ. 2554 ซึ่งเดิมก�ำหนดให้อส.ทพ. ที่เสียชีวิตต้องมีเวลาปฏิบัติงานไม่น้อยกว่าห้าปี บริบูรณ์ทายาทจึงมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ 2. แก้ไขเพิ่มเติมความในข้อ 19 โดยไม ่ก�ำหนดเวลาปฏิบัติงานของ อส.ทพ. ที่เสียชีวิต ทายาท อส.ทพ. มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ ค�ำนวณตามเกณฑ์ในข้อ 20 และหากเงินช่วยเหลือไม่ถึงสามพันบาทให้จ่ายเงินช่วยเหลือเป็นจ�ำนวน สามพันบาท
90 ธนาธิปัตย์ เรื่องที่ 12 ประกาศ กห. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ลง 4 ก.ค. 66 อ้างอิง หนังสือ กง.กห. ที่ กห 0203/2498 ลง 13 ก.ค. 66 กง.กห. แจ้งให้ทราบว่า รมว.กห. กรุณาอนุมัติหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน ลง 4 ก.ค. 66 ให้นขต.ทบ. ทราบและถือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รายละเอียดสรุปได้ดังนี้ 1. ประกาศ กห. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้ความช ่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ลง 4 ก.ค. 66 โดยมีสาระส�ำคัญดังนี้ 1.1. ให้ยกเลิกประกาศ กห. เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณี ฉุกเฉิน ลง 22 ต.ค. 56 1.2 ขอบเขตการจ่ายเงินทดรองราชการจะต้องเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามความหมาย แห่งระเบียบ กค. ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 1.3 การจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไข และอัตรา ดังต่อไปนี้ 1.3.1 ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการส�ำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับ ค�ำสั่งให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติให้เบิกจ่ายตามระเบียบของทางราชการ 1.3.2 ค ่าน�้ำมันเชื้อเพลิงและหล ่อลื่น ให้เบิกจ ่ายได้ตามเกณฑ์ความสิ้นเปลืองน�้ำมันเชื้อเพลิงของ ยานพาหนะและสิ่งอุปกรณ์แต่ละชนิด เช่น เครื่องก�ำเนิดไฟฟ้า เครื่องสูบน�้ำ และเรือผลักด�ำน�้ำ เป็นต้น โดยคิดตามระยะทางหรือ ระยะเวลาในการใช้งาน 1.3.3 ค่าซ่อมย่อย ได้แก่ การซ่อมแซมยานพาหนะ อุปกรณ์เครื่องใช้ซึ่งช�ำรุดเสียหายในระหว่างปฏิบัติ งานช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติให้อยู่สภาพเดิม ตามที่จ่ายจริง โดยประหยัด 1.3.4 ค่าวัสดุที่จ�ำเป็นในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้แก่วัสดุที่ใช้ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจ�ำ ซึ่งผู้ประสบภัยพิบัติเป็นเจ้าของที่ได้รับความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติตามที่จ่ายจริง หลังละ ไม่เกิน 49,500.- บาท 1.3.5 ค่าวัสดุที่ใช้ในการปฏิบัติงาน เช่น สารเคมีควบคุมไฟป่า กระสอบทราย ดินลูกรัง และวัสดุอื่น ๆ ที่จ�ำเป็นในการปฏิบัติการช่วยเหลือ เป็นต้น เท่าที่จ่ายจริง ตามความจ�ำเป็น 1.3.6 ค่าอาหารจัดเลี้ยงผู้ประสบภัยพิบัติวันละไม่เกิน 3 มื้อ มื้อละไม่เกิน 50.- บาทต่อคน 1.3.7 ค่าถุงยังชีพชุดละไม่เกิน 700.- บาทต่อครอบครัว 1.3.8 ค่ายาและเวชภัณฑ์ส�ำหรับการรักษาพยาบาลเบื้องต้น เท่าที่จ่ายจริง ตามความจ�ำเป็น 1.3.9 ค่าอาหารจัดเลี้ยงเจ้าหน้าที่ของทางราชการ วันละไม่เกิน 3 มื้อ มื้อละไม่เกิน 50.- บาทต่อวัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของทางราชการต้องไม่ได้รับเงินอื่นใดจากทางราชการอีก 1.3.10 ค่าน�้ำดื่มแก่ครอบครัวที่ขาดแคลนน�้ำสะอาดบริโภค ครอบครัวละไม่เกิน 200.- บาท 1.3.11 ค่าจัดหาวัสดุเคมีภัณฑ์และเวชภัณฑ์ส�ำหรับผลิตน�้ำที่สะอาดแจกจ่ายประชาชน เพื่อให้ประชาชน ได้บริโภคน�้ำที่ปลอดภัย เท่าที่จ่ายจริง ตามความจ�ำเป็น เรื่องที่ 13 แนวทางการจัดท�ำรายงานการเงินส�ำหรับส่วนราชการที่มีหน่วยงานย่อย อ้างอิง 1. หนังสือ สปช.ทบ. ที่ กห 0406/2437 ลง 14 ก.ค. 66 2. ระเบียบ กห. ว่าด้วยการบัญชีเงินราชการ พ.ศ. 2555 สปช.ทบ. แจ้งให้ทราบว ่า กรมบัญชีกลางได้ก�ำหนดแนวทางการจัดท�ำรายงานการเงินส�ำหรับส ่วนราชการที่มี หน่วยงานย่อย รายละเอียด ดังนี้
ธนาธิปัตย์ 91 1. ให้ส่วนราชการพิจารณาถึงหลักความมีสาระส�ำคัญและต้นทุนในการจัดท�ำส�ำหรับการเปิดเผยข้อมูล โดยอาจ พิจารณาจากจ�ำนวนเงินที่หน่วยงานย่อยได้รับ ซึ่งสามารถน�ำแนวทางนี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับรายการที่เกิดขึ้นจริงของส่วนราชการ โดยไม่จ�ำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของหน่วยงานย่อยทุกหน่วยงานหรือเปิดเผยรายการทั้งหมดตามแนวทางนี้ 2. ให้ส่วนราชการใช้แนวทางนี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลทางการเงินของหน่วยงานย่อยและน�ำมาเปิดเผยในหมายเหตุ ประกอบงบการเงินตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป ซึ่งในระยะแรก ให้ส่วนราชการน�ำร่องโดยการรวบรวมข้อมูล ทางการเงินของหน่วยงานย่อยตามหลักความมีสาระส�ำคัญและจัดท�ำแผนพัฒนาในการรวบรวมข้อมูลทางการเงินของหน่วยงานย่อย ทั้งหมด เพื่อน�ำมาเปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงิน เรื่องที่ 14 ผลการตรวจสอบและประเมินการปฏิบัติงานด้านบัญชีของหน่วยที่เบิกเงินจากคลัง ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0406/2318 ลง 6 ก.ค. 66 สปช.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. (ปช.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) กรุณาอนุมัติให้กง.ทบ. และ สตน.ทบ. เข้มงวดกวดขัน หน่วยที่มีผลการประเมินต�่ำกว่าร้อยละ80เป็นกรณีพิเศษ ได้แก่ศร.,ศม., มทบ.16, บชร.1, มทบ.29, มทบ.36, มทบ.41, มทบ.44, และ บชร.4 เพื่อให้การบริหารความเสี่ยงของ ทบ. เป็นไปตามแผนและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้รายละเอียดของผลการตรวจสอบ ดังนี้ 1. หน่วยที่ได้คะแนนเต็ม จ�ำนวน 22 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 41.51 2. หน่วยที่ได้คะแนนประเมินร้อยละ 80 – 99 จ�ำนวน 22 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 41.51 3. หน่วยที่มีผลประเมินต�่ำกว่าร้อยละ 80 จ�ำนวน 9 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 16.98 4. ไม่มีหน่วยที่มีผลการประเมินต�่ำกว่าร้อยละ 50 เรื่องที่ 15 การเปลี่ยนแปลงข้อมูลหลักผู้ขายในระบบ New GFMIS Thai อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0406/2466 ลง 17 ก.ค. 66 สปช.ทบ. แจ้งให้ทราบว ่า ผบ.ทบ. (ปช.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) กรุณาอนุมัติให้กง.ทบ. และหน ่วยที่เบิกเงินจากคลัง แจ้งกรมบัญชีกลางหรือส�ำนักงานคลังจังหวัด เพื่อขอแก้ไขข้อมูลในระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMIS Thai) ตามที่ กรมบัญชีกลางได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบฯ ซึ่งพัฒนาเพื่อทดแทนระบบ GFMIS เดิม และเริ่มใช้งาน ตั้งแต่ 4 เม.ย. 65 พบว่า หน่วยงานของรัฐด�ำเนินการแก้ไขข้อมูลหลักผู้ขายโดยมิได้แจ้งให้กรมบัญชีกลางหรือส�ำนักงานคลังจังหวัด เป็นผู้ด�ำเนินการแต่อย่างใดท�ำให้ข้อมูลหลักผู้ขายที่หน่วยงานของรัฐใช้ร่วมกันเกิดความคลาดเคลื่อน จึงขอให้ส่วนราชการที่ต้องการ เปลี่ยนแปลงข้อมูลหลักผู้ขายจัดท�ำแบบขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลหลักผู้ขาย พร้อมทั้งจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้กรมบัญชีกลาง หรือส�ำนักงานคลังจังหวัดเป็นผู้แก้ไขข้อมูลตั้งแต่1ก.ค. 66 เป็นต้นไป ทั้งนี้ในส่วนของกง.ทบ. ให้รวบรวมการเปลี่ยนแปลงข้อมูล หลักผู้ขายของหน่วยที่รับการสนับสนุนจากกง.ทบ.และจัดท�ำแบบขอเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งจัดส่งเอกสารหลักฐานเพื่อแจ้งกรมบัญชี กลางขอแก้ไขข้อมูลหลักผู้ขายในระบบฯ ตามที่กรมบัญชีกลางก�ำหนดต่อไป เรื่องที่ 12 ปรับปรุงประกาศอัตราค่ารักษาพยาบาล ส�ำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีความจ�ำเป็นต้องเข้ารับบริการรังสีรักษา ในสถานพยาบาลของเอกชน อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ที่ กห 0406/2144 ลง 23 มิ.ย. 66 สปช.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. (ปช.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ. จนถึงระดับกองพันทราบ ตามที่ กรมบัญชีกลางแจ้งให้ทราบว่า ได้ประกาศอัตราค่ารักษาพยาบาลส�ำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีความจ�ำเป็นต้องเข้ารับบริการรังสีรักษา ในสถานพยาบาลของเอกชน โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่5 ม.ค. 51 เป็นต้นไป นั้น เพื่อให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวสามารถเข้า ถึงบริการทางการแพทย์ที่จ�ำเป็นและเหมาะสม สอดคล้องกับวิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบัน กรมบัญชีกลางโดยได้รับมอบ อ�ำนาจจาก กค. จึงด�ำเนินการปรับปรุงอัตราค่ารักษาพยาบาล ส�ำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีความจ�ำเป็นต้องเข้ารับบริการรังสีรักษา ในสถานพยาบาลของเอกชน (กรณีสถานพยาบาลของทางราชการมีความจ�ำเป็นต้องส่งผู้ป่วยโรคมะเร็งไปเข้ารับบริการรังสีรักษา
92 ธนาธิปัตย์ เป็นครั้งคราวในสถานพยาบาลของเอกชน) โดยให้สถานพยาบาลของเอกชนเบิกจ่ายเงินในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล ข้าราชการเท่านั้น ตั้งแต่1 มิ.ย. 66 เป็นต้นไป เรื่องที่ 17 หลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้บริจาคอวัยวะที่มีชีวิต (ฉบับที่ 2) อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0406/2904 ลง 22 ส.ค. 66 สปช.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. (ปช.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ. จนถึงระดับกองพันทราบ และให้ พบ.แจ้งสถานพยาบาลในสังกัด ทบ.ถือปฏิบัติตามกรมบัญชีกลางก�ำหนด หลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีการปลูกถ่าย อวัยวะจากผู้บริจาคอวัยวะที่มีชีวิต (ฉบับที่ 2) สืบเนื่องจากกรมบัญชีกลางได้รับทราบถึงปัญหาการเบิกค่าเตรียมผู้บริจาคไต ที่มีชีวิตจากสมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย กรณีที่สถานพยาบาลใช้วิธีการตรวจเนื้อเยื่อ (HLA typing) ในขั้นตอน การเตรียมผู้บริจาคไตที่มีชีวิตก่อนการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ขั้นตอนที่ 2 ประเมินความเป็นไปได้ในการบริจาคไตด้วยวิธีการอื่น ๆ นอกเหนือจากรายการตรวจเนื้อเยื่อ (HLA typing) ที่กรมบัญชีกลางก�ำหนดท�ำให้ไม่สามารถเบิกค่าตรวจเนื้อเยื่อรายการอื่น ๆ นอกเหนือจากรายการที่ได้ก�ำหนดไว้โดยให้มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่1 ก.ย. 66 เป็นต้นไป รายละเอียดดังนี้ 1. รายการ HLA – ABC DNA typing รหัสรายการ 30615 2. รายการ HLA class II DNA high resolution รหัสรายการ 30606 (DRB, DQB) typing เรื่องที่ 18 อนุมัติแก้ไขระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการสงเคราะห์เพิ่มเติมแก่อาสาสมัครทหารพราน พ.ศ. 2555 อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ ด่วนมาก ที่ กห 0401/2396 ลง 25 ก.ค. 66 กพ.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. กรุณาอนุมัติให้แก้ไขระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการสงเคราะห์เพิ่มเติมแก่อาสาสมัคร ทหารพราน พ.ศ.2555เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่อส.ทพ. โดยไม่มีการก�ำหนดระยะเวลาการปฏิบัติงานเช่นเดียวกับระเบียบ กห. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทนอย่างอื่นและสิทธิประโยชน์ของอาสาสมัครทหารพราน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566 โดยแก้ไขข้อความในข้อ 5 ของร่างระเบียบ ทบ.ฯ รายละเอียดดังนี้ 1. ข้อความเดิม ข้อ 5 อาสาสมัครทหารพรานที่จะได้รับการสงเคราะห์ตามระเบียบนี้จะต้องเป็นผู้ที่บรรจุเข้าเป็นอาสาสมัคร ทหารพรานมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับตาม พ.ร.บ. การรับราชการทาหาร 2. แก้ไขเป็น ข้อ 5 อาสาสมัครทหารพรานที่จะได้รับการสงเคราะห์ตามระเบียบนี้จะต้องเป็นผู้ที่บรรจุเข้าเป็นอาสาสมัคร ทหารพราน เรื่องที่ 19 การอนุมัติก�ำหนดแนวทางการด�ำเนินการเพื่อรองรับการต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง ทอส. ของ ทบ. อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0401/2332 ลง 18 ก.ค. 66 กพ.ทบ.แจ้งให้ทราบว่าผบ.ทบ.กรุณาอนุมัติก�ำหนดแนวทางการด�ำเนินการเพื่อรองรับการต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง ทอส. ของ ทบ.และให้นขต.ทบ.ถึงระดับกองพลหรือเทียบเท่าถือปฏิบัติตามแนวทางการด�ำเนินการรองรับการต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง ทอส. ของ ทบ. เพื่อให้หน่วยต่าง ๆ ใช้เป็นกรอบแนวทางส�ำหรับวางแผน เตรียมการ และด�ำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดดังนี้ 1. กรณีทอส. ไม่มีคุณสมบัติหรือไม่มีความประสงค์ต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง 1.1 การเสนอขอรับเงินช่วยเหลือได้มีการก�ำหนดขั้นตอน/ห้วงเวลาการด�ำเนินการเพื่อให้ทอส.สามารถได้รับ เงินช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว 1.2 การสร้างอาชีพรองรับ ทอส. ที่พ้นสัญญาจ้าง ตามแผนงานของ กห. ในบันทึกข้อตกลงร่วมกับภาครัฐหรือ เอกชนในการจัดหางานให้กับ ทอส. ปัจจุบันอยู่ระหว่างให้เหล่าทัพส�ำรวจความต้องการจาก ทอส. โดย สม. เป็นหน่วยรับผิดชอบ ด�ำเนินการในภาพรวมทุกเหล่าทัพ
ธนาธิปัตย์ 93 2. กรณีทอส. มีคุณสมบัติและมีความประสงค์ต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง 2.1 การต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง ทอส. (ส�ำหรับหน่วยน�ำร่อง) ของ ทบ. : กห. อนุโลมให้ทอส. ของ ทบ. รุ่นปี63 ที่มีคุณสมบัติและมีความประสงค์ต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง (ครั้งที่2) สามารถปฏิบัติงาน ณ หน่วยน�ำร่อง (มทบ.) จนครบระยะเวลาการ ต่อสัญญา เพื่อให้การปฏิบัติงานของ ทอส. เป็นไปด้วยความต่อเนื่อง และลดขั้นตอนทางธุรการในการเปลี่ยนหน่วย/ต�ำแหน่ง 2.2 การประเมินผลการปฏิบัติงานของ ทอส. ที่ปฏิบัติงานครบสัญญาจ้าง (4 ปี) : อนุโลมให้หน่วยบรรจุ/ จ้าง ทอส. ด�ำเนินการประเมินฯ โดยใช้รูปแบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน ลักษณะเดียวกับทหารประจ�ำการ (น., ส.) และ น�ำผลการประเมินฯ มาใช้ประกอบการพิจารณาต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง (ครั้งที่ 2) ทั้งนี้กรณีผลการประเมินฯ อยู่ในกลุ่มพอใช้/ ต้องปรับปรุง หน่วยอาจพิจารณาไม่ต่อสัญญาจ้าง 2.3 การเลื่อนยศร.อ.ส�ำหรับ ทอส. ที่ต่อสัญญา (ครั้งที่2) : ให้ด�ำเนินการได้ตามกรอบอัตราที่ได้รับอนุมัติจาก รมว.กห. ส�ำหรับ ทอส. ที่มีคุณสมบัติและจ�ำนวนปีรับราชการครบ (7 ปี) โดยอนุโลมให้สามารถเลื่อนยศ ร.อ. ได้โดยไม่ต้อง ผ่านหลักสูตรตามแนวทางการรับราชการ (หลักสูตรชั้นนายร้อย) เพื่อเป็นขวัญและก�ำลังใจส�ำหรับ ทอส. ที่ปฏิบัติงานให้กับ ทบ. 2.4 ก�ำหนดคะแนนเพิ่มพิเศษส�ำหรับ ทอส. ที่ต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง (ครั้งที่ 2) ในการสอบบรรจุเข้ารับราชการ ใน ทบ. ดังนี้ 2.4.1 ทอส. ที่ปฏิบัติงานครบ 5 ปีได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ 6 คะแนน 2.4.2 ทอส. ที่ปฏิบัติงานครบ 6 ปีได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ 7 คะแนน 2.4.3 ทอส. ที่ปฏิบัติงานครบ 7 ปีได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ 8 คะแนน 2.4.4 ทอส. ที่ปฏิบัติงานครบ 8 ปีได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ 9 คะแนน 3. การด�ำเนินการอื่น ๆ 3.1 ทอส. ที่ต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง (ครั้งที่ 2) ให้ยกเว้นการช�ำระค่าปรับ กรณีรับราชการไม่ครบตามสัญญาจ้าง เนื่องจากก�ำลังพลดังกล่าวไม่ได้รับการฝึกเพิ่มเติม ซึ่งใช้งบประมาณของทางราชการ กอปรกับการต่อสัญญาบรรจุ/จ้าง ครั้งที่ 2 เป็นความประสงค์ของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งไม่กระทบต่อยอดการบรรจุ/จ้าง ตามแผน/นโยบายจัดหาและบรรจุก�ำลังพล ปีงบประมาณ 2566 – 2570 3.2 ยศทางทหารของ ทอส. ที่ได้รับแต่งตั้ง ถือเป็นยศทหารชั่วคราวดังนั้น เมื่อพ้นสัญญาฯ ไม่ต้องด�ำเนินการ คืนยศ เรื่องที่ 20 อัตราค่าเช่าบ้านพักข้าราชการส�ำหรับข้าราชการซึ่งรับราชการประจ�ำ ณ เมืองกัลกัตตา สาธารณรัฐอินเดีย, เมืองการาจี สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน และกรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา อ้างอิง 1. หนังสือ สปช.ทบ. ที่ กห 0406/2569 ลง 24 ก.ค. 66 2. หนังสือ สปช.ทบ. ที่ กห 0406/2570 ลง 24 ก.ค. 66 ผบ.ทบ. (ปช.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) ได้กรุณาอนุมัติยกเลิกอัตราค่าเช่าบ้านส�ำหรับข้าราชการประจ�ำ ณ เมืองกัลกัตตา สาธารณรัฐอินเดีย, เมืองการาจีสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน และกรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา โดยให้ ขว.ทบ.และกง.ทบ. ทราบและถือปฏิบัติตามที่กค. ได้ก�ำหนดอัตราค่าเช่าบ้านส�ำหรับข้าราชการที่รับราชการประจ�ำ ณ เมืองกัลกัตตา สาธารณรัฐอินเดีย, เมืองการาจีสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน มีผลตั้งแต่1 มิ.ย.66เป็นต้นไป และกรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยม ประชาธิปไตยศรีลังกา มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. 66 เป็นต้นไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพข้อเท็จจริงในปัจจุบัน รายละเอียดตามอ้างถึง 1 และ 2 ดังนี้ 1. เมืองการาจีสกุลเงิน “รูปีปากีสถาน” ประเภท ก1,622,100.- ประเภท ข1,802,300.- ประเภท ค1,982,600.- ประเภท ง 2,252,900.- และประเภท จ 2,523,300.- ต่อปีส�ำหรับบ้าน 2. เมืองกัลกัตตา สกุลเงิน “รูปีอินเดีย” ประเภท ก 1,305,700.- ประเภท ข 1,450,800.- ประเภท ค1,595,900.- ประเภท ง 1,813,500.- และประเภท จ 2,031,100.- ต่อปีส�ำหรับบ้าน 3. กรุงโคลัมโบ สกุลเงิน “ดอลลาร์สหรัฐ” ประเภท ก 10,000.- ประเภท ข 11,100.- ประเภท ค 12,300.- ประเภท ง 13,900.- และประเภท จ 15,600.- ต่อปีส�ำหรับบ้าน
94 ธนาธิปัตย์ เรื่องที่ 21 การประกาศก�ำหนดส�ำนักงานในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ที่ ต่อ กห 0401/21515 ลง 24 ส.ค. 66 กพ.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. (จก.กพ.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) ได้กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ. ทราบและถือปฏิบัติตามที่ กค. แจ้งให้ทราบ เรื่อง การประกาศก�ำหนดส�ำนักงานในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจ�ำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยก�ำหนดให้ส�ำนักงานที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ จว.ย.ล., จว.ป.น., จว.น.ธ., และ จว.ส.ข. ในเขต 5 อ�ำเภอ คือ อ.จะนะ, อ.เทพา, อ.นาทวี, อ.สะบ้าย้อย และ อ.สะเดา เป็นส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ต.ค. 66 – 30 ก.ย. 67) เนื่องจากยังคงมีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ส�ำหรับการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการ ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการส�ำหรับการปฏิบัติงานประจ�ำส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. 2549 เรื่องที่ 22 การอนุมัติแนวทางการจัดท�ำรายงานการประเมินผลการควบคุมภายในของ ทบ. อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ./ฝ่ายเลขานุการฯ ที่ กห 0406/2788 ลง 15 ส.ค. 66 สปช.ทบ./ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการการควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยงของ ทบ.แจ้งให้ทราบว่า เสธ.ทบ./ประธานกรรมการการควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยงของ ทบ. กรุณาอนุมัติให้หน่วยตั้งแต่ระดับกองพัน หรือเทียบเท่าขึ้นไปด�ำเนินการติดตามการควบคุมภายในรอบ ๖ เดือน และ ๑๒ เดือน ตามแบบรายงานการประเมินผลการควบคุม ภายในของ ทบ. ตามที่ กค. ก�ำหนดให้หน่วยงานของภาครัฐใช้หลักเกณฑ์กค. ว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติการควบคุม ภายในส�ำหรับหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นแนวทางในการจัดวางระบบการควบคุมภายในโดยต้องจัดให้มีคณะกรรมการ จัดท�ำรายงานการประเมินผลการควบคุมภายในระดับหน่วยงานของรัฐ เสนอต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เพื่อพิจารณาลงนาม และ จัดส่งให้ผู้ก�ำกับดูแลและกระทรวงเจ้าสังกัด ภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ เรื่องที่ 23 ขอเน้นย�้ำหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่าใช้จ่ายทุนการศึกษาภายในประเทศ อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ที่ กห 0401/2878 ลง 5 ก.ย. 66 กพ.ทบ.แจ้งให้ทราบว่าขอเน้นย�้ำหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่าใช้จ่ายทุนการศึกษาภายในประเทศเพื่อให้การด�ำเนิน การเบิกจ่ายเงินค่าใช้จ่ายทุนการศึกษาภายในประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่ กค. ก�ำหนด และเป็น การรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัดจึงให้หน่วยเจ้าหน้าที่การเงิน และข้าราชการผู้มีสิทธิได้รับทุน เบิกเงินค่าใช้จ่าย ในการเข้ารับการศึกษาในสถาบันศึกษาภายในประเทศเท่าที่จ่ายจริง ตามที่มหาวิทยาลัยเรียกเก็บเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้ จ่ายที่ไม่มีระเบียบรองรับให้เบิกจ่ายได้เช่น Apple ipad, Apple iphone, ค่าโปรแกรม Adobe Package, ค่าหมึกปริ้น และค่าใช้ จ่ายในการท�ำวิทยานิพนธ์เป็นต้น ห้ามเบิกจ่ายจากเงินทุนการศึกษาโดยเด็ดขาดส�ำหรับค่าใช้จ่ายที่สามารถเบิกจ่ายจากเงินทุนการ ศึกษาได้สรุปได้ดังนี้ 1. ค่าธรรมเนียมการศึกษา 2. ค่าบ�ำรุงห้องสมุด 3. ค่ากองทุนสวัสดิภาพนิสิต 4. ค่าธรรมเนียมในการเรียนปรับพื้นฐาน 5. ค่าต�ำราเรียนส�ำหรับการศึกษาในระดับต่าง ๆ ดังนี้ 5.1 ระดับประกาศนียบัตรชั้นสูงวิทยาศาสตร์การแพทย์และระดับปริญญาตรีปีละ 1,000.- บาท 5.2 ระดับปริญญาโท ปีละ 1,200.- บาท 5.3 ระดับปริญญาเอก ปีละ 1,500.- บาท 6. ค่าเครื่องมือส�ำหรับการศึกษาเกี่ยวกับทันตกรรม ปีละ 5,500.- บาท 7. ค่าใช้จ่ายตามที่มหาวิทยาลัยเรียกเก็บทุกกรณีเช่น ค่าลงทะเบียนวิทยานิพนธ์ค่าบ�ำรุงการศึกษา ค่าบ�ำรุง มหาวิทยาลัยค่าบ�ำรุงคณะค่าบ�ำรุงกิจกรรมกีฬาค่าบ�ำรุงกิจกรรมนิสิตค่าบ�ำรุงสโมสรนิสิต– นักศึกษาค่าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ฯลฯ 8. ค่าอุปกรณ์การศึกษา จ�ำนวน 1,500.- บาท ให้จ่ายในเดือนแรกของปีการศึกษา
ธนาธิปัตย์ 95 เรื่องที่ 24 แนวทางปฏิบัติกรณีไม่สามารถเข้าสู่ระบบ New GFMIS Thai ด้วย GFMIS Token Key อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ด่วนมาก ที่ กห 0406/3027 ลง 29 ส.ค. 66 ผบ.ทบ. (ปช.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) ได้กรุณาอนุมัติให้หน่วยที่ปฏิบัติงานในระบบ New GFMIS Thai ผ่าน GFMIS Token Key ทราบ ตามที่กรมบัญชีกลาง ได้รับแจ้งจาก กค. ในการปฏิบัติส�ำหรับผู้ใช้งานระบบ New GFMIS Thai ที่อาจจะ ไม่สามารถเข้าใช้งานผ่าน GFMIS Token Key ได้เนื่องจาก Google Chrome มีก�ำหนดการถอดส่วนขยาย Token Signing ออกจาก Chrome Store เมื่อ 15 ส.ค. 66 โดย กค. จึงได้มีการพัฒนาส่วนขยาย GFMIS USB Token Key Signing เพื่อทดแทน ส่วนขยายเดิม กรมบัญชีกลางจึงได้แจ้งแนวทางปฏิบัติเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในระบบฯรายละเอียดดังนี้ 1. การปฏิบัติงานในระบบ New GFMISThaiผ่าน InternetและIntranet ให้ด�ำเนินการถอนโปรแกรมส่วนขยาย Token Signing เดิม และติดตั้งโปรแกรมส่วนขยาย GFMIS USB Token Signing ตามคู่มือการติดตั้งโปรแกรมส่วนขยาย GFMIS USB Token Signing ส�ำหรับเครื่อง PC ที่เคยใช้งาน GFMIS Token Key โดยสามารถรับชมวิดีโอการติดตั้งโปรแกรมส่วนขยายฯ ได้ที่https://www.youtube.com/watch?v=qtzNtkgUEJc หรือ QR code ที่แนบ 2. การปฏิบัติงานในระบบ New GFMIS Thai ผ่านเครื่อง GFMIS Terminal สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ โดยไม่ต้องด�ำเนินการถอน/ติดตั้งโปรแกรมส่วนขยาย Token Signing 3. หากพบปัญหาการด�ำเนินการตามคู่มือดังกล่าว สามารถแจ้งปัญหาการติดตั้งโปรแกรมส่วนขยายผ่านช่องทาง ออนไลน์ได้ที่https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScfGW7PcvGAxECdc1Tr-VcG_yM7xDO07Si9VKkdyiaAlgb6Fg/ viewform หรือ QR Code ที่แนบ เรื่องที่ 25 หลักเกณฑ์การพิจารณาก�ำหนดส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อ้างอิง หนังสือ กพ.ทบ. ด่วนมาก ที่ ต่อ กห 0401/22896 ลง 6 ก.ย. 66 กพ.ทบ.แจ้งให้ทราบว่าผบ.ทบ. (จก.กพ.ทบ. รับค�ำสั่งฯ) ได้กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ. ทราบ ตามที่กค. มีหนังสือแจ้ง หลักเกณฑ์การพิจารณาก�ำหนดส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้ใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาก�ำหนด ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษเช่นเดียวกับหลักเกณฑ์พิจารณาก�ำหนดส�ำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยในปี งบประมาณ พ.ศ. 2567 มีการขยายเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนนหลักเกณฑ์ข้อ 3 ความเสี่ยงภัย ข้อ 3.3 ซึ่งรายละเอียดดังกล่าว หน่วยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หัวข้อ กฎหมายและระเบียบการคลังงบบุคลากรภาครัฐ เรื่องที่ 26 ประกาศ กห. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ที่ กห 0406/2941 ลง 23 ส.ค. 66 สปช.ทบ.แจ้งให้ทราบว่าผบ.ทบ. (ปช.ทบ. รับค�ำสั่งฯ)กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ.,ศบภ.ทบ.,ศปก.ทบ. (ฝปช.ฯ)และ กง.ทบ. ถือปฏิบัติตามที่ กง.กห. ปรับปรุงประกาศ กห. เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน โดยได้รับความเห็นชอบจาก กค. พร้อมทั้งยกเลิกหนังสือ สปช.ทบ. ด่วนมาก ที่ต่อ กห. 0406/39885 ลง 19 พ.ย. 56 ทั้งนี้มีผลใช้บังคับกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นตั้งแต่4 ก.ค. 66 โดยมีสาระส�ำคัญสรุปได้ดังนี้ 1. ค่าน�้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่น ให้เบิกจ่ายได้ตามเกณฑ์ความสิ้นเปลืองน�้ำมันเชื้อเพลิงของยานพาหนะและ สิ่งอุปกรณ์แต่ละชนิด เช่น เครื่องก�ำเนิดไฟฟ้า เครื่องสูบน�้ำ เครื่องและเรือผลักดันน�้ำ เป็นต้น โดยคิดตามระยะทางหรือระยะเวลา ในการใช้งาน 2. ค่าวัสดุที่จ�ำเป็นในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้แก่วัสดุที่ใช้ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจ�ำซึ่งผู้ประสบภัย พิบัติเป็นเจ้าของที่ได้รับความเสียหายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติตามที่จ่ายจริง หลังละไม่เกิน 49,500.- บาท 3. วัสดุที่ใช้ในการปฏิบัติงาน เช่น สารเคมีควบคุมไฟฟ้า กระสอบทราย ดิน ลูกรัง และวัสดุอื่น ๆ ที่จ�ำเป็น ในการปฏิบัติการช่วยเหลือ เป็นต้น ตามที่จ่ายจริงตามความจ�ำเป็น 4. ค่าอาหารจัดเลี้ยงผู้ประสบภัยพิบัติวันละไม่เกิน ๓ มื้อ ๆ ละไม่เกิน 50.- บาทต่อคน 5. ค่าถุงยังชีพชุดละไม่เกิน 700.- บาทต่อครอบครัว 6. ค่าอาหารจัดเลี้ยงเจ้าหน้าที่ของทางราชการ วันละไม่เกิน 3 มื้อๆละไม่เกิน 50.- บาทต่อคน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของ ทางราชการต้องไม่ได้รับเงินอื่นใดจากทางราชการอีก
96 ธนาธิปัตย์ เรื่องที่ 27 ระเบียบ กห. ว่าด้วยเงินเพิ่มส�ำหรับต�ำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 อ้างอิง ระเบียบ กห. ว่าด้วยเงินเพิ่มส�ำหรับต�ำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 รมว.กห.กรุณาอนุมัติให้หน่วยที่เกี่ยวข้องทราบ ตามที่สม. มีหนังสือแจ้งระเบียบ กห.ว่าด้วยเงินเพิ่มส�ำหรับต�ำแหน่ง ที่มีเหตุพิเศษของผู้ปฏิบัติงานไซเบอร์พ.ศ. 2563 รายละเอียดสรุปได้ดังนี้ 1. ไซเบอร์ หมายความว่า สิ่งที่เกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับอินเทอร์เน็ต ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Networks) ระบบสารสนเทศ(InformationSystems) ระบบควบคุมก�ำกับดูแลและเก็บข้อมูล(Supervisory Control and Data Acquisition, SCADA) ระบบควบคุมการท�ำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์(Embedded Systems) เป็นต้น 2. ผู้ปฏิบัติงานไซเบอร์ หมายความว่า ข้าราชการทหารที่ด�ำรงต�ำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ปฏิบัติการไซเบอร์เชิง ป้องปราม ประกอบด้วยการตอบโต้ภัยคุกคามไซเบอร์สงครามไซเบอร์และการปฏิบัติการไซเบอร์รวมทั้งการสนับสนุนด้านไซเบอร์ เพื่อความมั่นคงของประเทศ 3. พ.ป.ซ. หมายความว่า เงินเพิ่มส�ำหรับต�ำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้ปฏิบัติงานไซเบอร์ 4. ให้ผู้ปฏิบัติงานไซเบอร์ตามบัญชีต�ำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้ปฏิบัติงานไซเบอร์สังกัดสป., บก.ทท.และเหล่าทัพ ในผนวกกซึ่งมีลักษณะการปฏิบัติงาน หน้าที่และความรับผิดชอบ และคุณสมบัติเฉพาะตามมาตรฐานก�ำหนดต�ำแหน่ง ในผนวกข แนบท้ายระเบียบนี้ได้รับ พ.ป.ซ. ดังนี้ 4.1 นายทหารสัญญาบัตร เดือนละ 7,000.- บาท 4.2 นายทหารประทวน เดือนละ 5,300.- บาท ในกรณีที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มหลายประเภท ให้ได้รับเงินเพิ่มในประเภทที่มีอัตราเงินเพิ่มที่สูงที่สุดเพียงอัตราเดียว 5. พ.ป.ซ. เป็นเงินที่จ่ายควบกับเงินเดือน แต่ไม่น�ำมาค�ำนวณบ�ำเหน็จบ�ำนาญ และสิทธิในการรับเงิน พ.ป.ซ. สิ้นสุดลง เมื่อพ้นจากการปฏิบัติงานไซเบอร์ 6. ระเบียบ กห.ฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่5 มี.ค. 63 เป็นต้นไป 7. หลักเกณฑ์การได้รับ พ.ป.ซ. ตามระเบียบ กห. ดังกล่าว ได้ก�ำหนดต�ำแหน่งที่จะได้รับเงินเพิ่มไว้ในส่วนของ ทบ. มีต�ำแหน่งที่ได้รับเงิน พ.ป.ซ. ได้แก่ แผนกเทคนิคการปฏิบัติการไซเบอร์และแผนกปฏิบัติการไซเบอร์กองปฏิบัติการไซเบอร์ ศซบ.ทบ.จ�ำนวน 20อัตรา ประกอบด้วย นายทหารสัญญาบัตร 7ต�ำแหน่ง 10อัตราและนายทหารประทวน 5ต�ำแหน่ง 10อัตรา เรื่องที่ 27 หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับระยะเวลาในการคืนบ�ำเหน็จเพื่อนับเวลาราชการต่อเนื่อง กรณีกลับเข้ารับราชการใหม่ อ้างอิง หนังสือ สปช.ทบ. ที่ กห 0406/3296 ลง 13 ก.ย. 66 สปช.ทบ. แจ้งให้ทราบว่า ผบ.ทบ. (ปช.รับค�ำสั่งฯ) กรุณาอนุมัติให้นขต.ทบ. จนถึงระดับกองพัน ทราบและถือปฏิบัติ ตามที่ กค. ยกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับระยะเวลาในการคืนบ�ำเหน็จ กรณีกลับเข้ารับราชการใหม่เพื่อนับเวลาราชการ ต่อเนื่อง และก�ำหนดขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์พ.ศ. 2564 ซึ่งปรับปรุงแก้ไข เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้เนื่องจากหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับระยะเวลาในการคืนบ�ำเหน็จกรณีกลับเข้ารับราชการ ใหม่เพื่อนับเวลาราชการต่อเนื่อง ซึ่งออกตามความใน พ.ร.บ. กองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 38 วรรคสอง ที่ก�ำหนดให้ข้าราชการซึ่งออกจากราชการและได้รับบ�ำเหน็จไปแล้ว ถ้ากลับเข้ารับราชการใหม่ ตั้งแต่ 27 มี.ค. 40 จะนับเวลาราชการต่อเนื่องได้ต้องคืนบ�ำเหน็จที่ได้รับ พร้อมดอกเบี้ยตามอัตราเงินฝากประจ�ำของธนาคารออมสิน ซึ่งหลักเกณฑ์มีการก�ำหนดเกี่ยวกับการคิดดอกเบี้ยในกรณีกลับเข้ารับราชการใหม่ เพื่อนับเวลาราชการต่อเนื่องล่าช้า โดยเหตุใน การคืนเงินล่าช้าเกิดจากความบกพร่องของตัวข้าราชการเองให้คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินบ�ำเหน็จพร้อมดอกเบี้ย แต่โดยที่ปัจจุบัน พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2564 ได้มีการปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับอัตรา ดอกเบี้ยปกติและอัตราดอกเบี้ยผิดนัดให้มีความสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ เพื่อให้ลูกหนี้ไม่ต้องได้รับความเดือดร้อนจากภาระ ดอกเบี้ยเกินสมควร โดยก�ำหนดให้คิดอัตราดอกเบี้ยผิดนัด ในอัตราร้อยละสามต่อปีบวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละสองต่อปีประกอบกับ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่ได้ปรับปรุงแก้ไข ทั้งนี้ตั้งแต่11 เม.ย. 64
ธนาธิปัตย์ 97 อภินันทนาการ จาก นายไพบูลย์ อนันต์วลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพบูลย์เศรษฐกิจ จำ�กัด PHAIBOON COMMERCIAL CO., LTD 196 ถนนระนอง 1 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร. 02-668-1800 แฟกซ์ 02-668-1804 อีเมล์ [email protected]
98 ธนาธิปัตย์