วจิ ัยในชั้นเรียน
เร่ือง การพฒั นาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น
วิชาวทิ ยาการคานวณ โดยใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะ
พัฒนาการเรียนรูเ้ ร่ืองวิธกี ารรวบรวมขอ้ มลู
ของนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4/2
โรงเรยี นวดั นราภิรมย์
ภาคเรียนท่ี 2
ปีการศกึ ษา 2564
นางสาวจุฬาลกั ษณ์ เพชรแอง
ตาแหน่ง ครู
โรงเรยี นวัดนราภริ มย์
สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครปฐมเขต 2
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
วิจยั ในชัน้ เรยี น
เรือ่ ง การพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นวิชาวทิ ยาการคานวณ
โดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะพัฒนาการเรียนรูเ้ รอ่ื งวธิ กี ารรวบรวมข้อมูล
ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4/2
จดั ทาโดย
นางสาวจฬุ าลกั ษณ์ เพชรแอง
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โรงเรยี นวดั นราภิรมย์
อาเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
สานกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครปฐมเขต 2
วิจยั ในช้นั เรียน
ช่ือเรือ่ ง การพฒั นาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นวชิ าวทิ ยาการคานวณ โดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะพฒั นาการเรยี นรู้เรอื่ ง
ชอ่ื ผวู้ จิ ัย วิธกี ารรวบรวมข้อมลู ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4/2
รายวชิ า
ปกี ารศึกษา นางสาวจฬุ าลักษณ์ เพชรแอง
วทิ ยาการคานวณ รหสั วิชา ว14101 ภาคเรยี นที่ 2
2564
ความเป็นมาและความสาคญั ของปญั หา
การเรียนการสอนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีวตั ถุประสงค์ประการหนึ่งคือ มุ่งปลูกฝังให้นักเรียนได้ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน การ
ปลูกฝังให้นักเรียนรักการแสวงหาความรู้จึงมีความจาเป็นท่ี หนังสือ แบบฝึกทักษะต่างๆหรือห้องสมุดจึงเป็นครูคนที่
สองของนักเรียน ครูจึงจาเป็นต้องจักหาแหล่งค้นคว้าหาความรู้ให้นักเรียนแทนการเป็นผู้บอก เป็นผู้พูดหรือจัดทา
กิจกรรมต่างๆ เอง การส่งเสริมการเรียนให้แก่นักเรียนหาความรู้เพิ่มเติม ทาแบบฝึกหัดเพิ่มเติม จึงมีความจาเป็นใน
การจัดการเรียนการสอนในปัจจบุ ัน
ผู้วิจัยได้ศึกษาสภาพปัญหาเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาวิทยาการคานวณ พบว่านักเรียนขาดทักษะใน
การศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง การฝึกฝนทบทวน การทาการบ้าน การอ่าน ตลอดจนการทาแบบฝึกหัด และค้นคว้า
บางเนือ้ หามไี มเ่ พยี งพอกบั ความตอ้ งการของนกั เรียน นักเรียนบางส่วนยังมสี มรรถภาพในการเรียนรู้ที่ไมด่ ีพอ นักเรยี น
บางส่วนยงั ไม่มีนิสัยรักการเรียนรู้ เมื่อรูส้ ภาพปัญหาแล้ว ก็นาข้อมลู ทีไ่ ด้มาเป็นแนวทางเสริมการเรียนรู้ พอจะสรุปได้
ว่าหนังสือหรือแบบฝึกทักษะพัฒนาการเรียนรู้ หมายถึง หนังสือที่จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เป็นไปในทางส่งเสริมให้
ผเู้ รยี นเกิดการฝกึ ฝนทกั ษะในด้านต่างๆ และทาให้รักในการเรยี นรมู้ ากขึ้น
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนในรายวิชาวิทยาการคานวณ โดยการใช้
กิจกรรมการทาแบบฝึกทักษะ และทาแบบฝึกหัดด้วยตนเองในวิชาที่ครูสอน สาหรับให้นกั เรียนศึกษาหาความรู้และมี
การช่วยเหลือกันบ้างเล็กน้อย และเพื่อให้นักเรียนเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน เกิดความซาบซึ้งในคุณค่าของการ
เรียนรู้ อีกทงั้ ยังเปน็ การชว่ ยเสรมิ สร้างทักษะและนสิ ัยของการเรียนท่ดี ีใหแ้ ก่นกั เรียน
วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั
1) เพอื่ พฒั นาทักษะการแสวงหาความรู้วิชาวทิ ยาการคานวณของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4./2
2) เพื่อยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวิชาวิทยาการคานวณของนกั เรียนใหส้ งู ขน้ึ
สมมตฐิ านการศกึ ษา
ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นวิชาวทิ ยาการคานวณของนักเรยี นหลังเรยี นดว้ ยรปู แบบการสอนโดยใช้แบบฝกึ ทกั ษะ
พัฒนาการเรียนรู้สูงกวา่ ก่อนเรยี น
ตัวแปรทศ่ี กึ ษา
ตวั แปรตน้
กิจกรรมการเรยี นรู้โดยใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะพัฒนาการเรยี นรู้
ตัวแปรตาม
1. ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นท่ีมีพฒั นาการทีด่ ขี น้ึ
กรอบแนวความคดิ
1. ใชห้ ลกั การฝึกทักษะดว้ ยแบบฝึกทกั ษะ
2. ยึดผู้เรยี นเปน็ สำคัญ โดยใช้กิจกรรม Active Learning เรอื่ ง วธิ กี ารรวบรวมขอ้ มูล
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รบั
นักเรียนมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นวชิ าวทิ ยาการคานวณทส่ี ูงข้นึ และมีแนวทางในการเรยี นทดี่ ีเพอ่ื นามาปรับ
ใช้กบั การเรียนของตวั เองได้หลากหลายวชิ า
ขอบเขตการวิจยั
ประชากร นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จำนวน 57 คน
กลุ่มตัวอยา่ ง นกั เรียนช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4/2 จำนวน 29 คน
วิธีการดำเนินการวจิ ยั
1. การหาข้อมูลเกี่ยวกบั นักเรยี น จากการสำรวจเบ้อื งตน้ พบวา่ มนี ักเรียนบางคนขาดทกั ษะ ไม่สามารถ
รวบรวมข้อมูลจากแหลง่ ข้อมูลต่างๆ และนำไปปรับใชใ้ นชีวิตประจำวันได้อย่างถูกตอ้ ง ผ้วู จิ ยั จึงได้หาข้อมลู และวาง
แผนการเรียนรูโ้ ดยใช้แบบฝกึ ทักษะเพ่ือพฒั นาการเรยี นรู้
2. เตรยี มการจดั การเรียนรู้แบบ Active Learning เพอื่ ที่ใหค้ วามรู้แกน่ กั เรยี น และเลอื กหาแบบฝึกทักษะที่
นา่ สนใจ ซ่ึงไม่ยากเกินไปท่นี กั เรยี นระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4/2 สามารถฝึกทักษะได้
เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการวจิ ยั เครอื่ งมือทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั จาแนกตามลกั ษณะการใชด้ ังนี้
1. แบบฝึกทักษะพัฒนาการเรยี นรู้
2. แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
การเปรยี บเทยี บคะแนนก่อนเรียนและหลงั เรียนของนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4/2
ตารางท่ี 1 คะแนนก่อนเรยี นและหลังเรียนของนักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4/2 จานวน 29 คน
นักเรียน คะแนนก่อนเรียน (20) คะแนนหลังเรยี น (20) ความก้าวหนา้
คนท่ี คะแนน รอ้ ยละ คะแนน รอ้ ยละ คะแนน ร้อยละ
1 3 30 6 60 3 30
2 5 50 8 80 3 30
3 5 50 6 60 1 10
4 6 60 8 80 2 20
5 6 60 9 90 3 30
6 4 40 7 70 3 30
7 4 40 8 80 4 40
8 3 30 6 60 3 30
9 3 30 6 60 3 30
10 4 40 7 70 3 30
11 3 30 5 50 2 20
12 3 30 5 50 2 20
13 4 40 6 60 2 20
14 5 50 7 70 2 20
15 5 50 7 70 2 20
16 5 50 7 70 2 20
17 6 60 8 80 2 20
18 6 60 9 90 3 30
19 6 60 8 80 2 20
20 5 50 7 70 2 20
21 5 50 7 70 2 20
22 4 40 6 60 2 20
23 3 30 5 50 2 20
24 2 20 5 50 3 30
25 7 70 10 100 3 30
26 3 30 6 60 3 30
27 5 50 9 90 4 40
28 5 50 8 80 3 30
29 3 30 7 70 4 40
128 203 75
คะแนนรวม 4.41 7.00 2.59
คะแนนเฉลีย่
จากตารางท่ี 1 พบวา่ คะแนนเฉลยี่ ก่อนฝึกของนักเรยี นเท่ากบั 4.41 คะแนนเฉลี่ยหลังฝึกเทา่ กบั 7.00
ดังน้นั นักเรียนมคี ะแนนเฉลี่ยเพ่ิมขน้ึ โดยเฉล่ีย = 7.00-4.41
= 2.59
สรุปและอภปิ รายผล
นกั เรยี นท่ีฝกึ ทักษะด้วยแบบฝึกทักษะพฒั นาการเรียนรเู้ ร่ืองวิธีการรวบรวมขอ้ มลู เมื่อไดร้ ับการจัดการเรียนรู้
โดยนำแบบฝึกทักษะพัฒนาการเรียนรู้เรื่องวิธีการรวบรวมข้อมูลมาใช้ จากการเปรียบเทียบผลการบันทึกคะแนนจาก
เกณฑ์ที่วัดและหาค่าเฉลี่ยของความก้าวหน้าในพัฒนาการของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จะเห็นว่ามีค่าเฉลี่ยเพิ่มข้ึน
และนักเรียนจำนวน 29 คน จาก 29 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ของนักเรียนที่เข้ารับการพัฒนาทักษะ มีการพัฒนา
ทักษะท่ีเพิ่มขึน้
การเปรียบเทยี บคะแนนกอ่ นเรยี นและหลงั เรียนของนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4/2
เลขที่ ชอ่ื นามสกุล ก่อนเรยี น (20) หลงั เรยี น (20) ความก้าวหน้า
1 ด.ช.พีรพัฒน์ ปานคงคา คะแนน รอ้ ยละ คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ
2 ด.ช.พัชรพล ภริ มยเ์ ณร 3 15 6 30 3 15
3 ด.ช.ภาคภูมิ แหวนวงษ์ 5 25 8 40 3 15
4 ด.ช.ภัทรกร พานแก้ว 5 25 6 30 15
5 ด.ช.ภทั รดนยั หมั่นเพียรกจิ 6 30 8 40 2 10
6 ด.ช.จารุวิทย์ สนุ ทรภักด์ิ 6 30 9 45 3 15
4 20 7 35 3 15
7 ด.ช.ธรี โชติ สุวรรณ์ 4 20 8 40 4 20
8 ด.ช.ธีรศักดิ์ อย่พู ว่ ง 3 15 6 30 3 15
9 ด.ช.ใอหน่อ ตาจรงิ 3 15 6 30 3 15
10 ด.ช.กอ้ งเกยี รติ อยดู่ ี 4 20 7 35 3 15
11 ด.ช.บารมี มีทะลา 3 15 5 25 2 10
3 15 5 25 2 10
12 ด.ช.ธีรภทั ร์ มน่ั เพียรจติ ต์ 4 20 6 30 2 10
13 ด.ญ.กัลยา ตายอด 5 25 7 35 2 10
14 ด.ญ.ณฐั นรี ร่งุ ลอย 5 25 7 35 2 10
15 ด.ญ.นาลิสา โนนแก้ว 5 25 7 35 2 10
16 ด.ญ.พุดซอ้ น ตาสงั ข์ 6 30 8 40 2 10
17 ด.ญ.มณฑฟิ ้า ปาธเิ ก 6 30 9 45 3 15
18 ด.ญ.ญาณิศา ดวงจนิ ดา 6 30 8 40 2 10
19 ด.ญ.บงกชกรานต์ ประเสรฐิ 5 25 7 35 2 10
20 ด.ญ.ภัทรมน ดีโย 5 25 7 35 2 10
21 ด.ญ.กานตพ์ ชิ ชา ฉวิ ภิรมย์ 4 20 6 30 2 10
22 ด.ญ.อนญั ญา อยู่อนิ ทร์ 3 15 5 25 2 10
23 ด.ญ.ชนดิ า ศรยี ารันต์ 2 10 5 25 3 15
24 ด.ญ.ชลดา ตาเงิน 7 35 10 50 3 15
25 ด.ญ.ปวีณ์สดา กอบกิจกลุ 3 15 6 30 3 15
26 ด.ญ.บญุ ธิดา โรงทอง 5 25 9 45 4 20
27 ด.ญ.แสงใส 5 25 8 40 3 15
28 ด.ญ.รนิ นา - 3 15 7 35 4 20
29 ด.ญ.จนั ทดิ า โพธิจัก 128 203 75
4.41 7.00 2.59
คะแนนรวม
คะแนนเฉล่ยี
ใบงานท่ี 1.4.1 เรือ่ งการนาเสนอและแบ่งปันข้อมูลได้อย่างปลอดภยั
ชอ่ื ชั้น เลขท่ี
คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1.มกี ารบญั ญตั ิกฎหมายเก่ียวกับสิทธมิ นุษยชนข้นั พนื้ ฐานไวใ้ นมาตรใดใน รฐั ธรรมนูญฯปี 2550 จงอธิบาย
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
2.ยกตวั อยา่ ง การค้มุ ครองข้อมลู สว่ นบคุ คลท่คี รอบคลุมถงึ สิทธิต่างๆมา 1 ข้อ พรอ้ มอธิบาย
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
3. OECD คืออะไร
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
4.หลักพืน้ ฐาน 8 ประการ ในการคมุ้ ครองข้อมูลสว่ นบุคคล ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
5.แนวทางการพัฒนาคมุ้ ครองความเป็นส่วนตัว
ความถูกต้องแม่นยาขอ้ มลู ___________________________________________________
___________________________________________________________________________
ความลบั ของขอ้ มูล________________________________________________________
___________________________________________________________________________
6.ใหย้ กตัวอยา่ งการเกบ็ รักษาขอ้ มูลส่วนบุคคล
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
7.จากบทความตอ่ ไปนี้
“เลน่ Social Network ให้ปลอดภัย รู้ ไว้เลีย่ งอันตราย แม้ Social Network จะมีข้อดตี ่างๆ อยู่มากมาย แต่
เรากจ็ ะต้องใช้งานอยา่ งระมัดระวังดว้ ยเช่นกนั ” ใหย้ กตัวอยา่ งจากประโยคที่ขีดเส้นใต้
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
8.หากตอ้ งการตรวจสอบขอ้ มลู ขา่ วสาร ใหต้ รวจไดท้ ่ีช่องทางใดได้บา้ ง
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
เฉลย ใบงานท่ี 1.4.1 เร่ืองการนาเสนอและแบง่ ปันข้อมลู ไดอ้ ย่างปลอดภยั
ชอ่ื ช้นั เลขที่
คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1.มกี ารบญั ญัติกฎหมายเก่ียวกับสทิ ธมิ นุษยชนข้นั พืน้ ฐานไวใ้ นมาตรใดใน รัฐธรรมนูญฯปี 2550 จงอธบิ าย
_ม__าต__รา__4__ศ_กั _ด_์ิศ_ร_คี _วา_ม_เ_ป_็น_ม_น_ษุ_ย_์_ส_ิท_ธ_เิ _ส_ร_ภี _าพ__แ_ล_ะ_ค_ว_า_ม_เ_ส_ม_อ_ภ_า_ค_ข_อ_ง_บ_คุ _ค_ล_ย_่อ_ม_ไ_ด_้รบั__ค_ว_าม_ค_ุม้__ค_รอ_ง_____
_ม__าต__รา__3_5__ส_ทิ _ธ_ขิ _อ_งบ__ุค_ค_ล_ใน_ค_ร_อ_บ_ค_ร_วั__เก_ีย_ร_ต_ิย_ศ__ช_ื่อ_เส_ยี_ง__ต_ล_อ_ด_จ_น_ค_ว_า_ม_เป__น็ _อ_ย_สู่ _่ว_น_ต_วั _ย_่อ_ม_ได_้ร_บั_ค_ว_า_ม____
_ค_มุ้__ค_รอ__ง_ก_า_ร_ก_ล_่าว_ห_ร_อื_ไ_ข_ข_า่ _ว_แ_พ_ร_่ห_ล_า_ย_ซ_งึ่ _ข_้อ_ค_ว_าม_ห__รอื_ภ__าพ__ไม_่ว_่า_ด_้ว_ย_ว_ธิ _ใี ด_เ_ป_น็ _ก_า_ร_ล_ะ_เม__ิด_ห_ร_อื _ก_ร_ะ_ท_บ_ถ_ึง___
_ส_ิท__ธ_ิข_อ_งบ_คุ_ค__ล_ใน_ค_ร_อ_บ_ค_ร_ัว__เก_ยี_ร_ต_ยิ_ศ__ช_อ่ื _ส_ยี _ง_ห_ร_อื_ค_ว_า_ม_เ_ป_น็ _อ_ย_ู่ส_ว่ _น_ต_ัว_จ_ะ_ก_ร_ะ_ท_ำ_ม_ิไ_ด_เ้ _ว้น__แ_ต_ก่ _รณ__ที _ีเ่ _ป_็น____
_ป__ระ_โ_ย_ช_น_ค์ _อ่ _ส_า_ธ_า_ร_ณ_ะ__บ_ุค_ค_ล_ย_่อ_ม_ม_สี _ิท_ธ_ิไ_ด_ร้ _บั _ค_ว_า_ม_ค_มุ้ _ค_ร_อ_งจ_า_ก_ก_า_ร_แ_ส_ว_ง_ผ_ล_ป_ร_ะ_โย_ช_น_โ์_ด_ย_ม_ชิ _อ_บ__จ_า_ก_ข_อ้ _ม_ูล_
_ส_ว่_น_บ__ุค_ค_ล_ท_่ีเก_ยี่_ว_ก_ับ_ต__น_ท_้งั_น_้ี_ต_า_ม_ท_กี่ _ฎ_ห_ม_า_ย_ก_ำ_ห_น_ด_______________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
2.ยกตัวอยา่ ง การคมุ้ ครองขอ้ มูลส่วนบุคคลทคี่ รอบคลุมถงึ สิทธิตา่ งๆมา 1 ขอ้ พรอ้ มอธิบาย
_______เ_ช_่น_ค_ว_า_ม_เ_ป_น็ _ส_ว่ _น_ต_วั _ใ_น_ก_า_รต_ิด_ต__อ่ _ส_อื่ _ส_าร__(C_o__m_m__u_n_iv_a_t_io_n__P_ri_v_ac_y_)_เ_ป_น็ _ก_า_ร_ให__้ค_ว_าม_ค__ุม้ _ค_รอ__ง__
_ใ_น_ค_ว_า_ม_ป_ล_อ_ด_ภ_ัย__แ_ล_ะ_ค_ว_าม_เ_ป_็น_ส_ว่_น_ต_วั_ใ_น_ก_า_ร_ต_ดิ _ต_่อ_ส_่ือ_ส_า_ร_ท_า_งจ_ด_ห_ม__าย__โ_ท_ร_ศ_พั _ท_์ _ไป_ร_ษ_ณ__ีย_อ์ _เิ ล_ก็_ท__รอ_น__กิ _ส_์ _
_ห_ร_อื _ว_ิธ_กี _า_ร_ต_ิด_ต_อ่ _ส_่อื _ส_า_ร_อ_ื่น_ใด_ท_่ผี__อู้ _่ืน_จ_ะ_ล_ว่ _งร_ูม้ _ิไ_ด_้ _________________________________________
___________________________________________________________________________
3. OECD คืออะไร
_______อ_ง_ค_ก์_า_ร_เ_พ_ื่อ_ค_ว_า_ม_รว่_ม_ม_อ_ื _ท_า_งเ_ศ_ร_ษ_ฐ_ก_ิจ_แ_ล_ะ_ก_า_ร_พ_ัฒ_น_า________________________________
___________________________________________________________________________
4.หลกั พ้นื ฐาน 8 ประการ ในการคมุ้ ครองข้อมลู สว่ นบุคคล ประกอบด้วยอะไรบ้าง
_______1_._ห_ล_ัก_ข_อ้ _จ_ำ_ก_ัด_ใ_น_ก_า_รเ_ก_บ็ _ร_ว_บ_ร_ว_ม_ข_อ้ _ม_ลู __2._ห_ล_ัก_ค_ุณ__ภ_า_พ_ข_อ_ง_ข_อ้ _ม_ูล_3_._ห_ล_กั _ก_า_ร_ก_ำห__น_ด_ว_ตั _ถ_ุป_ร_ะ_ส_งค_์_
_ใ_น_ก_า_ร_จ_ัด_เ_ก_บ็ _4_._ห_ล_กั _ข_้อ_จ_ำ_ก_ัด_ใน__ก_าร_น_ำ_ไ_ป_ใ_ช_้ 5_._ห_ล_กั _ก_า_รร_กั_ษ__าค_ว_า_ม_ม_น่ั_ค_ง_ป_ล_อ_ด_ภ__ัย_ข_อ_งข_้อ_ม_ลู__6_.ห__ล_ัก_ก_า_ร___
_เ_ป_ิด_เ_ผ_ย_ข_อ้ _ม_ลู _7_._ห_ล_ัก_ก_า_ร_ม_ีส_ว่ _น_ร_ว่ _ม_ข_อ_งบ__คุ _ค_ล_8_._ห_ล_กั _ค_ว_า_ม_ร_บั _ผ_ิด_ช_อ_บ___________________________
___________________________________________________________________________
5.แนวทางการพัฒนาคมุ้ ครองความเปน็ สว่ นตวั
ความถกู ตอ้ งแม่นยาขอ้ มลู ต_ร_ว_จ_ส_อ_บ_ข_้อ_ม_ูล_ก_่อ_น__จ_ะน__ำเ_ข_้า_ส_ู่ฐ_า_น_ข_อ้ _ม_ลู _โ_ด_ย_ข_อ้ _ม_ลู _จ_ะ_ต_อ้ _ง_ม_ีค_ว_า_ม_ถ_กู _ต_อ้ _ง_
แ_ม_น่__ย_ำแ_ล_ะ_ม_ีค_ว_า_ม_ท_ัน__ส_ม_ัย_________________________________________________________
ความลับของขอ้ มลู _ค_ว_รม_มี__าต_ร_ก_า_ร_ป_อ้ _ง_ก_ัน_ค_ว_า_ม_ป_ล_อ_ด_ภ_ัย_ข_อ_ง_ข_อ้ _ม_ูล__โด_ย_บ__คุ _ค_ล_ท_่ี 3__จ_ะ_ไ_ม_่อ_น_ุญ_า_ต____
ใ_ห_เ้ _ข_้า_ถ_งึ ข_อ้_ม_ูล_โ_ด_ย_ป_ร_า_ศ_จ_า_ก_ก_า_ร_รับ__รู้_ก_า_ร_อ_น_ญุ _า_ต_ข_อ_ง_เจ_้า_ข_อ_ง__ย_ก_เว_้น_โ_ด_ย_ข_้อ_ก_ำ_ห_น_ด_ท_า_ง_ก_ฎ_ห_ม_า_ย__________
6.ใหย้ กตวั อยา่ งการเกบ็ รักษาข้อมลู ส่วนบุคคล
เ_ช_น่ __ก_าร_เ_ก_็บ_ข_้อ_ม_ูล_เ_ป_็น_เอ_ก__ส_าร_ใ_น_แ_ฟ_ม้ __แ_ล_ะ_เก_บ็_ไ_ฟ_ล_์ง_า_น_ใ_ส_แ่ _ฟ_ล_ช_ไ_ด_ร_ฟ์ _เ_พ_อ่ื _ช_่ว_ย_จ_ดั _ก_า_ร_ข_อ้ _ม_ูล_ต_า่ _งๆ__ใ_ห_้เป__็น_ระ_บ__บ
แ_ล_ะ_เ_ร_ีย_ก_ใช_ง้_า_น_ไ_ด_้ง_่าย_____________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
7.จากบทความต่อไปน้ี
“เล่น Social Network ใหป้ ลอดภยั รู้ ไว้เล่ยี งอนั ตราย แม้ Social Network จะมีขอ้ ดีต่างๆ อยูม่ ากมาย แต่
เราก็จะตอ้ งใช้งานอยา่ งระมัดระวงั ดว้ ยเชน่ กนั ” ให้ยกตวั อยา่ งจากประโยคทขี่ ดี เสน้ ใต้
_เช__่น________________________________________________________________________
_______1_.ต_ง้ั_พ_า_ส_เ_ว_ิร_์ด_ให_แ้_ข_ง็_แ_ร_ง_ป_ร_ะ_ก_อ_บ_ไ_ป_ด_้ว_ย_ต_ัว_อ_ัก_ษ_ร_ใ_ห_ญ_่_ต_ัว_เล_็ก__ต_วั _เ_ล_ข_แ_ล_ะ_ส_ญั _ล__กั _ษ_ณ_์ __________
_______2_._ต_ง้ั _ค_า่ _ค_ว_าม_เ_ป_็น_ส_่ว_น_ต_วั__เพ__ื่อ_จ_ำก_ดั_ผ_ูท้__ส่ี _าม__าร_ถ_เ_ห_็น_โ_พ_ส_ต_เ์ ร_า____________________________
_______3_._ไ_ม_ร่ บั__เป_็น_เ_พ_อ่ื _น_ก_ับ_ค_น__ท_ไี่ ม_่ร_ูจ้_กั_______________________________________________
_______4_._อ_ย_า่ _เป_ดิ__เผ_ย_ข_อ้ _ม_ูล_ส_่ว_น_ต_ัว__เช_น่__บ_า้ _น_เ_ล_ข_ท_ี่ เ_บ_อ_ร_์โ_ท_ร_ศ_ัพ_ท_์ เ_ล_ข_บ_ัต_ร_ป_ร_ะ_ช_า_ช_น__บ_ตั _ร_เค_ร_ค_ติ ________
_______5_._พ_จิ _า_ร_ณ_า_เ_น_ือ้ _ห_า_ให__ด้ _ีก_อ่ _น_โพ__ส_ต_์ _____________________________________________
_______6_._ร_ะ_ว_ังเ_น_อ้ื _ห_า_ท_ีค่ _ล_ิก_เ_ข_า้ _ไป_ด__ู ________________________________________________
___________________________________________________________________________
8.หากตอ้ งการตรวจสอบข้อมูลขา่ วสาร ให้ตรวจไดท้ ชี่ อ่ งทางใดได้บา้ ง
_เข_า้_ไ_ป_ต_ร_ว_จ_ส_อ_บ_ข_้อ_ม_ูล_ข_่า_ว_ส_า_ร_ผ_า่ _น_เว_บ็ _ไ_ซ_ต_ข์ _อ_ง_ส_ม_า_ค_ม_ผ_้ผู _ล_ติ _ส_อ่ื _อ_อ_น_ไ_ล_น_์ โ_ค_ร_ง_ก_า_ร_ช_วั _ร_์แ_ล_ะ_แ_ช_ร_ไ์ ด_ท้__่ี ______
_U_R_L__: _w_w_w__.s_o_n_p_._o_r._th__________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
ใบงานที่ 1.5.1 การประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
ชอื่ ช้ัน เลขท่ี
คาชแี้ จง : ให้นักเรียนกาหนดข้อตกลงการใช้บล็อกเว็บไซต์ในการสรา้ งชน้ิ งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
แบบทดสอบ
ช่อื ชนั้ เลขท่ี
คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบท่ถี กู ตอ้ งทส่ี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว
1. ขอ้ ใดตอ่ ไปนี้ใหค้ วามหมายของ การนาเสนอขอ้ มูลได้ 5. สิทธคิ วามเป็นส่วนตัวมกี ่ีประการอะไรบา้ ง
ถกู ต้องทส่ี ุด ก. 1 ประการ คอื สทิ ธคิ วามเป็นสว่ นตวั เกยี่ วกบั ข้อมลู
ก. การนาเสนอขอ้ มูลเป็นข้ันตอนในการเตรยี ม ข. 2 ประการ คือ สิทธิความเป็นสว่ นตัวเก่ยี วกับขอ้ มูล
ความพรอ้ มสาหรบั การนาเสนอ สทิ ธิความเปน็ ส่วนตัวในทรัพยส์ ิน
ข. การนาเสนอข้อมูลเปน็ ข้ันตอนในการเตรียม ค. 3 ประการ คือ สทิ ธิความเป็นส่วนตัวเก่ยี วกบั ข้อมลู
ความพรอ้ มสาหรบั การวิเคราะห์ สิทธคิ วามเปน็ ส่วนตวั ในรา่ งกาย สทิ ธคิ วามส่วนตัว
ค. การนาเสนอข้อมูลเป็นข้นั ตอนในการเตรียม ในการตดิ ตอ่ ส่อื สาร
ความพร้อมสาหรบั การแปลความหมาย ง. 4 ประการ คือ สิทธิความเป็นสว่ นตัวเกี่ยวกับขอ้ มลู
ง. การนาเสนอข้อมูลจะเป็นการนาข้อมลู ท้ังหมด สิทธิความเป็นส่วนตวั ในชวี ิตร่างกาย สิทธิความสว่ นตัว
ทีส่ ามารถค้นหา และรวบรวมไว้มานาเสนอ ในการติดตอ่ สอ่ื สาร สทิ ธิความเปน็ ส่วนตวั ในเคหสถาน
2. การแบ่งปนั ขอ้ มูล หมายถึงอะไร 6. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ จรยิ ธรรมในลกั ษณะตัวย่อ PAPA
ก. การนาความรทู้ ่ไี ดไ้ ปบอกตอ่ กบั ผูอ้ น่ื ก. ความนา่ เชื่อถือ ข. ความเปน็ สว่ นตวั
ข. การนาความรู้ท่ไี ด้จากประสบการณจ์ รงิ ค. ความเปน็ เจา้ ของ ง. ความถูกตอ้ ง
ไปขยายความรู้ 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของการเขยี นบทความ
ค. การนาความรู้ ขอ้ มูล ที่ไดจ้ ากการคน้ คว้า ก. ฝกึ เขยี นบทความท่สี ามารถขายได้
ไปบอกต่อกบั ผอู้ ่ืน ข. เปน็ เครอื่ งมอื พัฒนาสติปญั ญา
ง. การนาข้อมูลท่ีได้ จากประสบการณจ์ รงิ ไปเผยแพร่ ค. เขยี นให้รา้ ยผู้อืน่ ใหเ้ กิดความเสยี หาย
ให้กับผอู้ นื่ ง. พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และใชเ้ วลาว่างเปน็ ประโยชน์
3. ข้อใดต่อไปน้ี คือข้อแตกตา่ งระหว่างบล็อกกับเว็บไซต์ 8. ขอ้ ใดไมใ่ ชเ่ วบ็ บล็อกซอฟต์แวร์
ก. บลอ็ กเปน็ รปู แบบเวบ็ ไซต์ประเภทหนง่ึ ก. Drupal ข. Wordpress
ข . บล็อกสามารถเปิดให้ผู้ทีเ่ ขา้ มาอ่านแสดงความคดิ เหน็ ได้ ค. Life Type ง. Colum page
ค. บล็อกคอื การนาขอ้ มลู เสนอส่ือตา่ ง ๆ 9. กระบวนการที่ดีในการออกแบบอินโฟกราฟิก มีกขี่ นั้ ตอน
ง. บลอ็ กเป็นรปู แบบการแสดงผลของข้อมูล ก. 7 ขั้นตอน ข. 8 ขัน้ ตอน
แล้วนาเสนอสื่อตา่ ง ๆ ค. 9 ขน้ั ตอน ง. 10 ขนั้ ตอน
4. คาวา่ stream ในภาษาองั กฤษ หมายถงึ อะไร 10. การเผยแพร่ข้อมลู ต่อสาธารณชน แจกจา่ ย หรือขายในลักษณะ
ก . เป็นสอื่ ประสมทผี่ ู้ใช้ได้รับตามลาดบั อยา่ งต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความเสยี หายต่อเจ้าของลิขสิทธิ์ เปน็ การละเมดิ
ข. เป็นการดาวน์โหลดสอู่ ุปกรณ์ส่วนบุคคล ลิขสทิ ธใิ์ นลักษณะใด
ค. เป็นการส่งมอบเนื้อหา มีลกั ษณะเปน็ วิธีการสง่ ส่อื ก. การละเมดิ ลิขสิทธโิ์ ดยตรง
ง. เป็นรปู แบบการแสดงผล และสง่ มอบสอ่ื ข. การละเมิดลขิ สทิ ธิ์โดยออ้ ม
ค. การละเมดิ ลิขสิทธ์โิ ดยไมเ่ จตนา
ง. ไม่ถอื วา่ การละเมดิ ลขิ สิทธิ์
เฉลย 1. ง 2. ค 3. ข 4. ค 5. ง 6. ก 7. ค 8. ง 9. ง 10. ข
วิจัยในช้ันเรยี น
เรอื่ ง การพัฒนาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นวชิ าวิทยาการคานวณ
โดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะพฒั นาการเรียนร้เู ร่ืองวธิ ีการรวบรวมขอ้ มลู
ของนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4/2 โรงเรียนวัดนราภิรมย์
โรงเรียนวัดนราภริ มย์
สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครปฐมเขต 2
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร