รายงาน
วิจารณ์หนงั สือ เรือ่ ง มือนน่ั สีขาว
โดย
นางสาวบุญญิสา คดิ ชอบ
เสนอ
คุณครู ปารชิ าต นวลวิจติ ร
รายงานฉบบั นี้เป็นส่วนหนง่ึ ของรายวิชา ภาษาไทย
โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวิทยาลยั กระบ่ี
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
ก
คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นรายงานเพื่อประกอบการเรียนในรายวิชา วรรณกรรมปัจจุบัน ของนักเรียน
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/4 โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวิทยาลัย กระบี่ โดยมีจุดประสงคเ์ พ่ือการศึกษาเรยี นรู้จากการคิด
วิเคราะห์และวิจารณ์ข้อมลู ซ่ึงเปน็ เน้ือหาของหนังสือวรรณกรรม เรอ่ื ง มอื นนั่ สีขาว ในเน้ือหาจะมีหัวข้อต่างๆ
ในแตล่ ะบทกวี เช่น เน้ือหา กลวธิ ีในการแตง่ เป็นตน้
มือนน้ั สขี าว แตง่ โดย ศักดิ์ศิริ มีสมสบื เปน็ หนงั สือรวมบทกวีนิพนธไ์ ทยสมัยใหม่ไดร้ บั รางวลั กวรี ีไซท์ ท่ี
มีลักษณะสรา้ งสรรค์ทั้งความคิดและวธิ ีการนำเสนอ มุ่งแสดงอดุ มคติอันเชิดชคู ณุ ค่าความบริสทุ ธิ์ และความมี
นำ้ ใจของมนษุ ย์ กวีถ่ายทอดความคดิ เป็นรปู ธรรมที่เขา้ ใจง่ายผ่านบุคคลและเหตุการณ์สมมตุ ิ ซ่งึ อาจเกดิ ข้นึ ได้
ในชวี ิตจรงิ และสงั คมจริง แสดงความแตกตา่ งระหว่างสภาวะอนั บรสิ ุทธไิ์ มเ่ สแสรง้ ของเด็ก กับสภาวะของ
ผใู้ หญท่ ่ีถูกครอบงำดว้ ยกรอบสังคม ในแตล่ ะบทกวไี ดเ้ สนอแง่ความคิดอยา่ งประณตี หลายนยั ตคี วามได้
กว้างขวางลึกซ้ึงด้วยกลการประพันธ์ทเี่ ฉียบคม การประพันธล์ กั ษณะของฉนั ทลกั ษณ์มี รปู แบบเป็นธรรมชาติ
สอดคลอ้ งกับเนื้อหา คำท่ใี ชเ้ ป็นคำง่าย ๆ เรียงร้อยอยา่ งมีลลี าจังหวะ สรา้ งลำนำอนั ทรงพลงั ให้จินตนาการ
ภาพชดั สอื่ ความคดิ ของกวีกระทบอารมณ์และเรา้ ความคิดผอู้ ่าน เปน็ การจรรโลงความหวังให้เหน็ วา่ โลกอาจ
สงบงดงามได้ด้วยนำใจอนั บรสิ ุทธิ์ของมนุษยด์ ว้ ยกนั เอง เป็นวรรณกรรมทีม่ ีความดีเด่นสมควรได้รับการยก
ย่องเปน็ วรรณกรรมสรา้ งสรรค์ยอดเย่ียม
นางสาวบุญญิสา คิดชอบ
วนั ท่ี 18 มกราคม 2564
สารบญั ข
เร่ือง หนา้
คานา ก
สารบญั ข
ประวตั ิผแู้ ตง่ 1-2
มือนนั่ สีขาว 3-4
บทวจิ ารณ์หนงั สือ 5-6
คณุ ธรรม จริยธรรม ท่ีสอดคลอ้ ง ประโยชน์ท่ีไดร้ ับและการนาไปใช้ 7-8
วเิ คราะห์เน้ือหาและกลวิธีในวรรณกรรม
9-10
- ขา้ วเกรียบ 11-12
- เปล่ียน 13-14
- ตอ่ ขา 15-16
- ถุงมือ 17-18
- รถด่วน
กลวิธีในการแตง่ 19
สรุป 20
1
ประวตั ิผูแ้ ตง่
ศกั ด์ิสริ ิ มสี มสืบ หรือชือ่ จรงิ คือ กติ ตศิ กั ดิ์ มีสมสบื (เกิดเมอ่ื วนั ศกุ รท์ ่ี 23 สิงหาคม 2500 ท่ี
จังหวัดชัยนาท; ช่อื เล่น: ไวท์ ) ศิลปนิ แห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2559, นกั แตง่
เพลง, นักเขียนผูไ้ ด้รบั รางวัลซีไรต์ ในปี 2535 จากเรอื่ ง มือนั้นสีขาว
ใช้ชีวิตในวัยเดก็ เรียนชนั้ ประถม มธั ยมตอนตน้ ที่ อำเภอ ไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ ในปี
พ.ศ. 2515 - พ.ศ. 2520 ศกึ ษาศลิ ปะที่ โรงเรยี นเพาะช่าง (ปัจจบุ ันคือ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยี
ราชมงคลรตั นโกสนิ ทร์) จนจบชั้นประโยควชิ าชพี ช้ันสูง (ปวส.) วิชาเอกจิตรกรรมสากล ระหวา่ ง ปี
พ.ศ. 2516 - พ.ศ. 2520 ไดศ้ ึกษาศิลปะวรรณกรรมและปรัชญาจาก จ่าง แซต่ ั้ง และกวคี นสำคญั
ของประเทศ
พ.ศ. 2521 เขา้ รับราชการครูสังกดั กรมสามัญศกึ ษา พ.ศ. 2524 จบครุ ศุ าสตร์บัณฑติ เอก
ศิลป-์ ศกึ ษา จาก วทิ ยาลัยครูพระนคร
ปจั จบุ ัน เป็นนกั เขยี นอสิ ระ และนักแตง่ เพลง สงั กดั ยุ้งขา้ ว เรคคอร์
ผลงานท่ีตพี มิ พ์แลว้
1. พ.ศ. 2526 : ตุ๊กตารอยทราย (บทกวี)
2. พ.ศ. 2528 : คนสอยดาว (บทกว)ี
3. พ.ศ. 2531 : มอื น้ันสีขาว (บทกวี) ได้รบั รางวลั ซีไรต์ ในปี พ.ศ. 2535
4. พ.ศ. 2535 : เกยี่ วก้อย (ผลงานเพลง)
5. พ.ศ. 2538 : ทศั นียภาพทเ่ี ปล่ียนไป (แสดงจิตรกรรม ทีบ่ างกอกแกลลอร่ี)
6. พ.ศ. 2538 : ตะต้งั เท้งิ ตั้ง (รวมเร่ืองสัน้ )
7. พ.ศ. 2541 : ก็พอใจอยากจะรักให้หนกั หนา (บทกว)ี
2
8. พ.ศ. 2548 : สมควรแกเ่ วลา (รวมเรอื่ งสั้น)
ผลงานการแต่งเพลง
พ.ศ 2557
• เพลง "กระเปา๋ สมปอง" - (จอ่ ย รวมมติ ร)
พ.ศ 2558
• เพลง จดุ อับสญั ญาณ - (พัน จกั รพนั ธ์)
• เพลง ปาปายา่ ตุ๊กตุก๊ - (จ่อย รวมมติ ร)
• เพลง สถานีความระกำ - (พัน จกั รพันธ์)
• เพลง ฝากลมสง่ ไลน์ - (อุ้ม อนญั ญา)
พ.ศ 2559
• เพลง ดาวฝนั - (เณ ทฆิ ัมพร)
• เพลง เทพารักษ์กบั นกั ร้อง - (จอ่ ย รวมมิตร)
• เพลง กอดเหงา - (พัน จักรพันธ์)
พ.ศ 2560
• เพลง อยู่ยงพงศ์กะพันธ์ (พงศ์ จกั รพงศ์ - พัน จักรพันธ์)
• เพลง ใจภูมิ - (ภูมิ ธนเทพ (น้องภมู ิ ไมคท์ องคำเด็ก 1))
3
มือน่ันสีขาว
ศักดิ์สิริ มีสมสบื เป็นกวรี ุ่นใหม่ทสี่ ร้างงานกวนี พิ นธ์ได้อยา่ งประณตี และในบรรดางานกวี นิพนธข์ อง
เขานั้น มือนั้นสีขาว ได้รับการประกาศจากคณะกรรมการตัดสินรางวลั วรรณกรรมสร้างสรรค์ ยอดเย่ยี มแห่ง
อาเซียนประจำประเทศไทย ใหไ้ ด้รบั รางวลั ชไี รท์ ประจำปีพุทธศกั ราช ๒๕๓๕ ก่อนหนา้ น้ี ศกั ดส์ิ ริ ิ เคยมี
ผลงานรวมเลม่ มาแลว้ ๒ ชุด ได้แก่ ตุ๊กตารอยทราย (๒๕๒๙) และหลงั จากไดร้ ับรางวลั ชไี รท์แล้วกม็ ีผลงานกวี
นพิ นธอ์ อกมาอีก ๒ เลม่ คอื ก็พอใจอยาก จะรักให้นักหนา และ ตู้เพลงลูกท่งุ งานของศักดิส์ ิริ มสี มสีบ แม้จะมี
จำนวนไมม่ ากนัก แต่กม็ ผี ู้อ่านรู้จักกนั อย่างแพร่หลาย เหตผุ ล สำคัญประการหนงึ่ นา่ จะเป็นเพราะงานกวีนิพนธ์
ของศักดสิ์ ิริ มีวรรณศิลป์ทีด่ เู รียบง่ายแตกต่างจากกวีร่วม สมยั อ่ืนๆ โดยเฉพาะในเรื่องฉันทลักษณ์ทีก่ วี
พยายามสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ อนั ดดั แปลงปรับปรุงมา จากฉนั ทลกั ษณ์เดิม ดงั ที่คณะกรรมการตัดสิน ได้
กลา่ วไว้ในคำประกาศเกียรติคุณตอนหน่ึงวา่ "ศักดิ์ สิร มสี มสีบ สรรคส์ รา้ งฉนั ทลักษณอ์ ิสระขน้ึ มาใหม่ จาก
ความรุ่มรวยของฉนั ทลักษณ์ไทยแต่เดมิ มรี ปู แบบเปน็ ธรรมชาตสิ อดคล้องกบั เน้ือหา คำท่ีสรรใชเ้ ปน็ คำง่าย
เรยี งร้อยอยา่ งมสี ลาจังหวะ สร้าง ลำนำอันทรงพลัง ให้จินตภาพเดน่ ชดั ส่อื ความคดิ ของกวี กระทบอารมณ์
และเร้าความคดิ ของผู้อ่าน กวนี ิพนธ์ของศกั ดส์ิ ิริ มสี มสืบ โดยมากมักในกวีนิพนธ์เพราะ "เดก็ " เป็นตัวแทนของ
ความกล่าวถงึ ตัวละครเดก็ การท่ีศักด์ิสิรนิ ยิ มใชต้ ัวละครเด็กรสิ ุทธข์ิ องจิตรวมถึงปัญญาอนั จะชว่ ยให้มนษุ ยพ์ ัน
ทุกขด์ ้วยเหตุนี้ ศักดิ์สริ ิจึงได้ประกาศว่า "มอื ทีส่ ะอาด เท่าน้ันจงึ ทำใหโ้ ลกสะอาดได"้ สิ่งนแี้ สดงใหเ้ หน็ ได้ อยา่ ง
ชดั เจนถงึ การให้ความสำคัญต่อเดก็ ของศักด์ิสิริ มีสมสืบ อย่างไรก็ตาม ในการใชต้ ัวละครเด็ก เพื่อ สอ่ื ความคิด
ในกวีนพิ นธ์ของศักด์ิสริ ิ มวี ิธที ี่หลากหลายและนา่ สนใจ จึงเปน็ สาเหตสุ ำคญั ทที่ ำให้ผ้ศู ึกษาได้ นำมาศึกษาใน
ครงั้ นี้ โดยเลอื กงานกวีนพิ นธ์ของศักด์ิ สริ ิท่ปี รากฎกลวธิ ีในการใชต้ วั ละครเด็กในการสอื่ ความ คิด ได้แก่เร่ือง
ตุ๊กตารอยทราย คนสอยดาว มอื นัน้ สขี าว และ ก็พอใจอยากจะรักใหน้ ักหนา กลวิธีการใช้พฤตกิ รรมของเด็ก
สื่อความคิด ภาพของ "เดก็ " เป็นตัวแทนของความสะอาด บริสุทธิ์ของจิตใจมนษุ ย์ จติ ที่ยังไม่ไดร้ บั การฉาบสี
และตกแต่งใหส้ ับสนและเปรอะเป้ือน สง่ิ น้ีจงึ เป็นมลู เหตุ สำคัญที่ทำให้ศกั ด์สิ ริ ิ มสี มสีบ นำมาเปน็ กลวธิ ี ใน
การนำเสนอแนวคดิ ในกวีนิพนธข์ องเขา การใช้ภาพ ของเด็กในการนำเสนอ จะช่วยใหม้ องเหน็ ความแตก ตา่ ง
ระหวา่ งเด็กกบั ผู้ใหญ่ได้ชัดเจนมากข้ึน เพราะผู้ใหญ่ เปน็ ตัวแทนของโลกประสบการณ์และการมองสง่ิ ตา่ งๆ
"ตามความเป็นจริง" ในขณะท่ีเดก็ เป็นตัวแทนของ โลกแห่งจินตนาการและความสวยสดงดงามท่ีผู้ใหญ่ มองไม่
เหน็ อีกต่อไป คนฉลาด (ผู้ใหญ่) มกั ยดั เยียด ส่งิ ท่ีตนเชือ่ ให้แกค่ นทโ่ี ง่เขลา (เด็ก) กว่ายน่ื เสือ้ ผ้า สำเร็จรปู แบบ
เดียวกนั ใหก้ บั คนทุกคน ยื่นความนึกคดิ และความหมายของชวี ติ สำเร็จรปู ใหแ้ ก่ดวงวิญญาณ ทกุ ดวง ทัง้ นีเ้ พื่อ
สนับสนุนคำ้ จนุ ความเชือ่ มนั่ ของตนเอง เบ้อื งหลังทลี่ ึกท่สี ดุ กค็ อื การเยยี วยาความป่วยไข้ภาย ในตนต ดังน้นั
ศักด์สิ ิรจิ งึ ใช้ความเขลาของเด็กน้ีเองมาสอนผู้ใหญ่ให้ "ฉลาด" มากข้นึ จากการศึกษากวนี ิพนธ์ของศกั ดส์ิ ิริ มสี ม
สืบ พบว่า กวีมีกลวธิ ีในการใช้ตวั ละครเดก็ ส่ือแนวคิดในกวีนิพนธ์ ลักษณะดงั น้ีคอื
4
ㆍ. กลวิธกี ารใชพ้ ฤติกรรมของเด็กสือ่ ความคดิ พฤติกรรมของเดก็ นนั้ เปน็ การกระทำทม่ี ิไดเ้ จอื ด้วยความ
เสแสร้ง สิ่งทก่ี ระทำลงไปคอื ความจริง ที่ เกิดขึ้นในใจ หาได้เป็นการกระทำเพื่อตบตา เสรีภาพ ทางความคดิ
ของเด็กก่อใหเ้ กดิ การกระทำท่ีมีเสรภี าพ ตามมา การเรยี นรพู้ ฤติกรรมของเด็กเปน็ เสมือนการ เรยี นร้สู ัจจะ
อย่างหนึ่ง เพราะเปน็ การเรียนรถู้ งึ วิญญาณอนั อิสระทีจ่ ะรับรู้ "ดา้ นใน" ของชีวติ ได้ อย่างลกึ ซงึ้ ศักด์สิ ิริได้
นำเสนอพฤติกรรมของเด็กโดยเฉพาะ เด็กในชนบท เพื่อสะทอ้ นแนวคดิ ต่อสงั คมในแง่มมุ ต่างๆ กนั ออกไปโดย
เขาจำลองโลกของความจริง ลงมา โดยไม่ถูกจำกัดดว้ ยความจรงิ ท่ีไม่จำเปน็ ต้อง เหมือนจริงทกุ ระเบยี ดนว้ิ
เทา่ นนั้ แต่ความเปน็ จรงิ ในบทกวถี กู ช้อนสญั ลักษณ์ลงไปเป็นภาพทีต่ ่อเนอื่ งกนั ผสานเปน็ สัดส่วนทพี่ อเหมาะ
ระหวา่ ง "สงิ่ ที่เหน็ ด้วย ตา" กับ "สิ่งที่รู้สกึ ได้ดว้ ยใจ" ศกั ดิ์สิริเขา้ ใจถึง พฤติกรรม ของเดก็ และความซุกชนของ
เด็กเปน็ อย่างดี จากบทกวี ของเขานั้นเราสามารถจำแนก พฤติกรรมของเด็กที่นำ มาเสนอไดใ้ นสองประการคือ
พฤติกรรมของเด็กกบั ตัวเองหรอื เพ่ือน พฤตกิ รรมของเดก็ กับตัวเองหรือเพอื่ น เปน็ การ สะท้อนให้เห็นถงึ ตวั ตน
ของเด็กท่ีคอ่ นขา้ งชัดเจน ทงั้ นี้ เพราะเมื่อเด็กได้มโี อกาสอยกู่ ับตนเองหรือเพ่ือนก็ตาม เดก็ ก็จะได้อยู่ในโลกอีก
โลกหนง่ึ ท่มี ีแต่ความสดใส จรงิ ใจ
5
บทวจิ ารณ์หนงั สือ
• มอื น้นั สขี าว ให้ประสบการณก์ ารอ่านอนั จรรโลงความหวังให้ผู้อ่านเห็นว่า โลกอาจสงบงดงามได้
ด้วยนำ้ ใจอนั บริสทุ ธิข์ องมนุษย์ดว้ ยกัน
• ผเู้ ขยี น ศักดิส์ ิริ มีสมสบื
• หนงั สือราคา 110 บาท
• สำนักพิมพ์ : นาคร
• หมวดหมู่: วรรณกรรม , เรอ่ื งสน้ั
เค้าโครงและเนื้อหาพอสังเขป
เรื่องมือนั้นสีขาวเปน็ หนงั สอื ที่รวมบทกวีนพิ นธ์ไทยสมัยใหม่ที่ มีลักษณะสร้างสรรค์ทงั้ ความคดิ และ
วธิ กี ารนำเสนอ มงุ่ แสดงอดุ มคติ อันเชิดชู คุณค่า ความบริสุทธิ์ และความมีน้ำใจของมนุษย์ กวถี า่ ยทอด
ความคดิ เปน็ รปู ธรรมที่เข้าใจง่าย ผ่านบุคคลและเหตุการณ์สมมุติ ซง่ึ อาจเกดิ ขึ้นได้ในชวี ติ จรงิ และสงั คมจริง
แสดงความแตกต่าง ระหวา่ งสภาวะอันบรสิ ุทธ์ิไม่เสแสร้ง ของเด็กกับสภาวะของผใู้ หญ่ท่ี ถกู ครอบงำด้วยกรอบ
สงั คม ในแตล่ ะบทกวีไดเ้ สนอแงค่ วามคิดอยา่ งประณีตหลายนัย ตคี วามได้กว้างขวางลึกซ้ึงด้วยกลการ
ประพนั ธท์ เี่ ฉยี บคม ศกั ดส์ิ ิริ สะท้อนใหเ้ ห็นในหลาย ๆ ภาพว่าธรรมชาตแิ ท้ ๆ ของมนุษย์นนั้ ดี แตส่ ิง่ ทม่ี า
ทำลายให้ความเป็นธรรมชาติน้นั เปลย่ี นแปลงไปก็คอื สงั คมหรือสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ดว้ ยกนั เอง
และมนุษย์ จำต้องขอมรบั สภาพนัน้ โดยมที งั้ ทีม่ นุษย์เปน็ ผเู้ ลือกเอง และบางทีมนุษย์ไม่ไดเ้ ลือก
หนังสอื มอื น้ันสขี าวมีบทกวี 40 เรื่องดังนี้
1. เดก็ กางร่ม
2. เปล่ียน
3. ต่อขา
4. เยี่ยม
5. เมล็ดพนั ธ์ุ
6. หึ่ง
7. ดา่
8. ขา้ วเกรยี บ
9. หมานำเกวยี น
10. ลำเลิก
11. เต้น
6
12. นางสบิ สอง
13. เดน
14. จม
15. รถดว่ น
16. หนานคา
17. ทางมืด
18. ช้อนกุ้ง
19. เดก็ ล้างจาน
20. ใส่หน้ากาก
21. ซอ่ น
22. บัง
23. ถงุ มอื
24. นางไม้
25. กล
26. ทางเขา้
27. หลับ
28. บุญ
29. จงั หัน
30. เพลง
31. เป้า
32. ดอกกระมัง
33. หาบน้ำ
34. ชอ่ ฟ้า
35. สาวนอ้ ยในสวน
36. กิจ
37. ถอดหนา้ กาก
38. แกว่งสารส้ม
39.อรูโณไทย
40.โศลกไพร
7
กวีนิพนธ์มอื นั่นสีขาว มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ที่สอดแทรก 5 ดา้ น ดังนี้
1. คณุ ธรรมจรยิ ธรรมในดา้ นการ มีเมตตา มีน้ำใจ แบง่ ปัน ชว่ ยเหลอื ผู้อ่ืน และการให้กำใจไดส้ อดแทรกใน
บทกวดี ังน้ีตอ่ ไปนี้
1.เดก็ กางร่ม
2.หนานคา
3.เยยี่ ม
4.จม
5.เมล็ดพนั ธ์
6.รถดว่ น
7.หึ่ง
8.นางสิบสอง
9.ขา้ วเกรียบ
ตวั อย่างเร่ือง เดก็ กางร่ม “ เดนิ ฝ่าสายฝน อกี คนขอเขา้ สองคนกางรม่ แบ่งกันหลบฝน
อกี คนขอเข้าสามคนกางรม่ เบียดกันหลบฝน เอ้าอีกคนขอเข้า ”
2. คณุ ธรรมจรยิ ธรรมในดา้ นความอดทน ความพยายาม ไมท่ อ้ ถอยต่ออุปสรรค ได้สอดแทรกในบทกวี
ดังต่อไปนี้
1.ต่อขา
2.หาบน้ำ
3.หมานำเกวียน
4.เดก็ ล้างจาน
5.ลาเลิก
6.ทางมดื
7.เต้น
ตวั อย่างเร่อื ง หมานำเกวียน ดงั เน้อื หาท่วี ่า “ ถงึ จะนานแต่หมบู่ ้านก็อยูข่ า้ งหน้า หมานำ
เกวียนยงั เรงิ ร่า แต่ครูสา่ ยหน้าทำทา่ เหมือนจะรอ้ ง ครูบน่ ซ้ำซำ้ กรรมของกู ลุงขบั เกวียนใจ เห่ียวหดหู่
น้ำใจของครูสหู้ มากู ยังไม่ได้”
3. คุณธรรมจรยิ ธรรมในด้านการเห็นคณุ ค่าใน การกระทำและการเทา่ เทียมกนั ของคน ได้สอดแทรกในบท
กวดี งั ต่อไปน้ี
1.บุญ
8
5.ดอกกระมัง
2.สาวน้อยในสวน
4.จงั หัน
3.นางไม้
ตวั อย่างเรื่อง นางไม้ ดังเน้ือหาท่วี า่ “นางไม้ไปไหน นางไม้ไปปเป็นกะหร่ี ป่าไม้พนั ปีโลง่
เตยี น ต้น ไม้หายไปอีกต้น กะหรี่อีกคนเพ่ิมข้นึ ”
4. คุณธรรมจริยธรรมในดา้ นการกระทำ อย่างมีสติและมีเหตผุ ล ได้สอดแทรกในบทกวีดงั ตอ่ ไปนี้
1.ซ่อน
2.แกว่งสารส้ม
3.บัง
4.เป้า
ตวั อย่างเรื่อง บงั ดัง เนื้อหาทวี่ า่ “รถขา้ งหน้าชนกนั กระชั้นชดิ ทุ่มเถียงกถู ูกกมึงผิดกระทบกระ
ทง้ั มยิ ง้ั คิดเคียดแค้นเคืองละเมิดกฎ เขยี ว แดง เหลอื ง รถราวุ่นไปทง้ั เมือง คุณพระชว่ ย”
5. คุณธรรมจรยิ ธรรมท่ีสะท้อนให้เห็นถึงการ อยา่ ตัดสินผู้อนื่ เพียงภายนอก ได้สอดแทรกในบทกวีดัง
ต่อไปนี้
1. ดา่
2. ถุงมือ
ตวั อยา่ งเร่ือง ด่า ดังเน้ือหาทว่ี ่า “สงฆห์ นุ่มมิอาจข่มสะท้านใจ กอดแม่ร่ำไห้ สงฆ์เกลือกหน้า
กลง้ิ เกลือกอกโยมหญงิ แม่เอย เพื่อนสงฆ์เอื้อยเอย่ ปลอบใจ ฉิวฉิวเมื่อกผี้ ่านหน้าสงฆส์ มัยนี้ซ่า อา้ ยหา่
ควบมอไซค์ เฆยี่ นฉิวยังกะสายฟา้ โคตรแม่มนั ตายห่ารยึ ังไง”
ประโยชน์ทไ่ี ด้รับ และการนำไปใช้
1. ได้รบั รู้ถงึ ความรัก ความสามัคคี ความมนี ้ำใจต่อกันและกนั ความมเี มตตากรุณาต่อสัตว์
2. ไดร้ บั รู้ถงึ ความพยายามในการทำอะไรซกั อยา่ ง
3. ทำให้ระมัดระวังในการใช้ชีวิต มากขน้ึ รวมถงึ การคบคนในสังคม อย่ามองแคภ่ ายนอก ต้องมอง
เขา้ ไปข้างในลึกๆ วา่ เขาคนนั่นเปน็ เชน่ ไร บางคนเราอาจรู้หนา้ แต่ไมร่ ู้ใจ
4. เม่อื เราเติบโตเปน็ ผู้ใหญ่ ควรเปน็ แบบอยา่ งท่ีดีใหก้ บั เด็กรุ่น ส่ังสอนเดก็ ใหอ้ ยู่ในทางที่ถกู ต้องและ
ไม่หลงผิด
9
1) วิเคราะห์เนอื้ หาและกลวีในวรรณกรรม
ข้าวเกรียบ
หนจู ึงแหงนสูงเบงิ่ ตาใส
ยน่ื มือไม้ไผ่ประกบจนั ทรเ์ จา้
เอาปงิ้ บนเตาอนุ่
กลมกลมเป็นแผ่นแผ่
หอมกร่นุ ก็พลิกกลับ
เกรียมเกรยี มแต่พอกรอบ
กรบุ กรบั หนูกดั กนิ
บิ่นบิ่นจากขอบขา้ ง
ลามลามแตจ่ นั ทรเ์ ต็ม
เลม็ เล็มจนจนั ทร์แรม
ตะกละตะกลามจนเปรอะแก้ม
กัดกรว้ มข้าวเกรียบดวงจันทร์เอย
ในบทกวี "ขา้ วเกรียบ" ศักดสิ์ ริ ิกไ็ ด้ใช้กลวิธีใน การใชค้ วามคิดจนิ ตนาการของเดก็ สอ่ื แนวคดิ ในกวี
นพิ นธ์ เขาไดบ้ รรยายภาพของเด็กที่อยากกนิ ขนมที่ หญงิ ชราปิ้งขาย แต่เด็กมเี พียง "เงนิ ใบไม"้ ท่ีไม่อาจ ซอ้ื
อะไรได้ แม้กระนั้นหญิงชราก็แสดงความเมตตา โดยให้ "ข้าวเกรยี บ" แก่หนนู ้อยไปเปลา่ ๆ ดว้ ยความ อ่ิมใจ
เป็นสุขการใช้จินตนาการของเดก็ ผ่านบทกวีบทนี้สามารถ แสดงให้เหน็ ถงึ ความสนใจของเด็กนอ้ ยและความ
ออ่ น โยนเมตตาของหญงิ ชราไดอ้ ย่างกลมกลืน การใช้กลวธิ ี นี้ของกวี กเ็ พ่ือจะแสดงคตธิ รรมอนั น่าประทับใจ
วา่ ในโลกแหง่ ความเปน็ จรงิ นี้ก็ยงั คงมสี ิ่งที่ไม่ต้องซื้อขาย หากมนุษย์อยู่ดว้ ยความรักและเมตตาต่อกนั
จินตนาการอันบริสุทธขิ์ องเด็กน้ี ศักดส์ิ ริ นิ ำมา เป็นกลวิธใี นการส่อื แนวคิดในเชงิ เสียดสแี ละใหค้ ุณธรรม โดย
เสียดสีในเชิงท่ีว่า ในสงั คมปัจจุบนั มกี ารเสแสร้ง เปน็ การใส่หน้ากากเขา้ หากัน ในขณะเดียวกันกไ็ ด้แสดง คติ
ธรรมทเ่ี ก่ียวกบั อารมณ์ของมนุษย์ด้วย
ตีความได้ว่า
เดก็ นอ้ ยพดู ถึงการทำขา้ วเกรียบและจนิ ตนาการว่าตนนน้ั กำลงั กินข้าวเกรียบท่ียายกำลงั ปิง้ อยู่ แต่เด็ก
น้อยไม่มีเงินจรงิ มีแคเ่ งนิ ใบไมท้ ี่ใชเ้ ลน่ กับเพอื่ น เด็กนอ้ ยจึงยืน่ เงินใบไม้ในมือให้กับยาย ยายจงึ สอนว่าเงินใบไม้
10
นัน้ ใชซ้ อื้ ของจรงิ ๆ ไมไ่ ด้หรอก ยายสงสารเลยให้ขา้ วเกรียบเดก็ น้อย ยายบอกตอ่ ว่าเงนิ ใบไม้เก็บไว้ซ้ือขนมดิน
ขนมทราย ยังมีข้าวเกรยี บดวงจนั ทร์ของยายท่ีไม่ต้องซ้ือตอ้ งขายกนั
- ลักษณะคำประพนั ธ์ เรียบง่ายแบบเด็กๆ
- กลวิธใี นการแตง่ การเล่นคำซำ้ เช่น กลมกลม , เกรียมเกรียม , บิ่นบิ่น , ลามลาม
- ตวั ละคร เด็ก เป็นตวั เอกของเร่อื ง มลี กั ษณะนิสยั คือ เป็นเดก็ เรยี บร้อย เป็นเด็กรา่ เรงิ
ยายขายขา้ วเกรียบ เป็นตวั เอกของเรื่อง มลี ักษณะนสิ ยั คอื มจี ิตใจดีกับเด็ก
- กวีสื่อถึง เด็กมกี ารปลูกฝังมาต้งั แต่เดก็ แล้วว่าเวลาจะซือ้ ของตอ้ งมีการใช้เงินเป็นการแลกเปล่ยี นอยู่
เสมอ โลกของเด็กท่ีไม่มีเงินจริง ๆ จึงได้เล่นกบั เพ่อื นดว้ ยจินตนาการท่ีเหมือนจรงิ ในการซ้ือขายของ
กัน
- ข้อคิดทไ่ี ด้จากเรื่อง รู้จกั คำว่าแบ่งปัน คือใหค้ วามรสู้ ึกดี ๆ ต่อกนั ใหม้ ติ รภาพทดี่ ี ที่เงนิ ไม่สามารถให้
ได้ และ ได้รจู้ ักคำว่าการใหท้ ่ีไม่ต้องมสี งิ ใดเป็นค่าตอบแทน
11
เปลย่ี น
ก้อนดินกร็ ะเบดิ ได้
ขวา้ งไปแตกเปร้ียงเสียงกอ้ ง
หงายทอ้ งล้มตายต่อหน้า
แลว้ เสกคาถาให้กลบั ฟน้ื
ปนื ไม้ก็ฆา่ ได้
เหน็ เป็นปนื จริงใช่ปืนไม้
ปลิดชีวิตคนไดเ้ ปน็ ผกั ปลา
แล้วขยีใ้ บไม้ทาให้กลับฟนื้
เดก็ โกรธกนั ชโู ป้ง
พน้ ชั่วโมงดกี นั พลนั ซูก้อย
เด็กโตแกล้งเด็กน้อยจนร้องไห้
กลบั บา้ นฟ้องพ่อลูกเจ็บใจ
นนั่ เปน็ เพยี งปืนไม้พ่อไมร่ ู้
พ่อมาเคืองแทนแค้นขู่
เขา้ รัวบอ้ งหูเจา้ ตัวแกลง้
แล้วแย่งหักปนื ไมท้ ีเ่ ด็กยงิ
ไม่รูว้ ่าปนื ไมท้ ห่ี กั ท้งิ
เขาเห็นเปน็ ปนื จริง จริงจริงแลว้
นั่นมือเขาเรม่ิ เตบิ ใหญ่
เห็นปืนจรงิ เปน็ ปนื ไม้สนุกมือ
แค้นเคืองท่ีคณุ ปลกู ไว้
ไดเ้ ปลย่ี นปืนไม้ที่เขาถือ.
ในบทกวบี ทน้ีคอื ความแตกต่าง ระหวา่ งโลกอนั เต็มไปด้วยจนิ ตนาการของเด็ก กับโลกแหง่ ความเปน็
จรงิ ของผูใ้ หญ่ในโลกของเด็กนัน้ "ปืนไม"้ คือปืนจรงิ ทเี่ ที่ยวยิงใครตอ่ ใครได้ โดยมี "ยาวเิ ศษ" ทีช่ ่วยให้ "คน
ตาย" ฟ้นื คนื ชีพขึ้นมาได้ในทาง ตรงกันขา้ ม โลกของผู้ใหญเ่ ปน็ โลกท่ีสภาพเชน่ นเ้ี ปน็ เพียงความเพ้อฝนั และ
ความไรเ้ ดียงสาของเด็ก "พ่อ" ในบทกวีนี้ หารไู้ มว่ า่ ปืนทีเ่ ด็กเลน่ เปน็ เพยี งปนื ไม้ทใ่ี ช้ เลน่ กนั เพ่ือความสนุก
กลบั คดิ ไปวา่ ลูกของตนถูกกล่ัน แกลง้ จนเกดิ ความเจ็บแค้น การลงโทษเด็กทไ่ี ปแกล้ง ลูกของตนจงึ เป็นการ
ทำลายโลกแห่งความฝนั ของเด็ก ลงอย่างส้ินเชงิ ศักดส์ิ ิริใช้กลวธิ ีน้ีเพือ่ ท่ีจะสะท้อนให้ ผใู้ หญเ่ หน็ ว่า เดก็ มัก
12
มองเหน็ ในส่ิงที่ผูใ้ หญ่มองไมเ่ หน็ เด็กเห็นความเปน็ จริงอ่ืนทม่ี ใิ ชเ่ พียงแค่ความเปน็ จรงิ ที่ พสิ จู นไ์ ดด้ ้วยประสาท
สมั ผสั หรอื อนมุ านได้ด้วยเหตุผล
ตีความได้วา่
ทำใหเ้ หน็ สภาวะจติ ใจของเด็กท่ีเปลยี่ นแปลงไปในทางลบจากวัยเดก็ ส้วู ัยผใู้ หญ่ ในบทจะเห็นไดว้ ่าการ
เปิดเรื่องเป็นเหตุการณ์ท่เี ด็กเลน่ กัน โดยใช้ของที่หาไดจ้ ากสภาพแวดล้อม เด็กไดใ้ ช้ไม้เป็นปืน ใช้ก้อนหินฆ่ากนั
ได้ และสามารถฟื้นขน้ึ มาอกี ไดเ้ หมือนกัน
- ลกั ษณะคำประพันธ์ ใช้ถ้อยคำ เรยี บงา่ ยแบบเดก็ ๆ
- ตัวละคร เด็ก เปน็ ตัวเอกของเรอื่ ง มีลกั ษณะนิสยั คือ เป็นเด็กรา่ เรงิ
พอ่ เป็นตวั เอกของเรื่อง มีลักษณะนสิ ยั คือ เป็นคนที่ไม่รับฟงั ความเป็นจริงจากคนอ่ืน
ตัดสินใจด้วยตัวเอง
- กวสี ือ่ ถึง การไปกระตุ้นจิตใตส้ ำนกึ ของเด็ก ทำให้เกิดเป็นปมในใจขึ้นมา เด็กเกิดความแค้น
เคืองทำใหผ้ ูกใจเจ็บในเรื่องนี้ และปมในใจเด็กครง้ั นก้ี ส็ ่งผลทำให้เด็กนัน้ ใชค้ วามรุนแรงต่อไป
ในอนาคต
- ขอ้ คิดท่ไี ด้รับ ไม่ควรใช้ความรุนแรงกบั เด็กพราะเด็ก จดจำในสิง่ ทผ่ี ดิ ไปใช้ในอนาคตได้
13
ตอ่ ขา
เจ้าก่งิ เบื่อลากรถไม้
หาไม้ไผ่มาสองลำ
ตอกล่ิมตำทำขาต่อ
ตอ่ ขาเดินไปต้อยต้อย
สองมือค่อยประคองขา
ขอต่อตอ่ ให้ตีนยก
ตีนยกยกให้หัวสงู
หวั สูงสูงให้ตามแหงน
แหงนมองปองพวงดอกไม้
กรุ่นหอมย้อมยัว่ ใจ
ลอยเดน่ เห็นวิไลอยู่ใกล้ตา
อยากจะได้ใคร่จะย้อื
เผลอละมือประคองขวา
คว้าดอกอยู่ไหวไหว
ตะกายเด็ดเกือบจะได้
ขาไม้ไผล่ ้มตงึ
เจ้าหงายผง่ึ นอนแผ่
ขแ้ี ยรอ้ งไมห่ ยุดเจ้าแก้วรดุ มาตรวจดู
ถอนหัวแหว้ หมมู าถทู าถูทา
แลว้ เสกคาถาเพ้ยี งหาย เพี้ยงหาย
ในบทนค้ี ลา้ ยกับกวีจะบอกเป็นนยั วา่ การยกตน ข้ึนสู้ท่สี ูงที่ผ้ใู หญม่ กั ทำกนั โดยทว่ั ไปเพื่อหวงั
ประโยชน์สงิ่ ใดส่ิงหนง่ึ นนั้ ความโลภจะทำให้รว่ งตกมาเร็วพลัน ลม้ ลงเหมอื นกบั เจา้ กง่ิ ท่ีต้อง "ขแ้ี ยร้องไมห่ ยดุ "
นับได้ ว่าศกั ดส์ิ ริ ินำพฤติกรรมการเล่นของเดก็ มาใช้ในการสื่อ แนวคดิ นีไ้ ด้อยา่ งหยาบคาย
ตีความได้วา่
เด็กสองคน ชือ่ กิ่ง กบั แกว้ กิ่งนั้นเบอ่ื ท่จี ะเลน่ ลากรถไม้ จงึ ได้ไปหาไม้ไผม่ าสองท่อน มาทำตอ่ เป็นข้า
สองขา้ งแลว้ ขน้ึ ไปยนื ตรงส่วนท่ียืน่ ออกมาให้เหยียบแลว้ เดินได้ เม่ือกงิ่ เดินไปเรอ่ื ย ๆ แล้วเจอดอกไมท้ ี่อยู่บน
14
ต้นไม้ กง่ิ เอื้อมมือไปเก็บทำให้เสยี หลักลม้ ลงมานอนหงายอยูบ่ นพื้น ก่ิงร้องไห้แก้วเลยเขา้ มาดูว่ากิ่งเป็นอะไร
มากไหม เมื่อเห็นวา่ ไม่เปน็ อะไรมากแกว้ จงึ หยบิ หัวแหว้ หมูมาทาถูทาถแู ล้วบอกเพ้ยี งหาย เพ้ยี งหาย
- ลกั ษณะคำประพนั ธ์ ใชถ้ ้อยคำ เรยี บง่ายแบบเดก็ ๆ
- กลวิธใี นการแต่ง การเล่นคำซำ้ เช่น ยกยก, สงู สูง , ต้อยต้อย , ถูทาถทู า
- ตวั ละคร แก้ว เป็นตวั เอกของเรื่อง มลี ักษณะนิสยั คือ เปน็ เดก็ ร่าเริง เป็นคนทีมจี ติ ใจ
เอื้อเฟื้อตอ่ คนอนื่
ก่งิ เป็นตัวเอกของเรื่อง มีนิสยั รา่ เรงิ จติ ใจแจม่ ใส
- กวีสอื่ ถึง คำปลอบของผู้ใหญน่ นั้ ไม่ไดช้ ว่ ยใหห้ ายเจบ็ กายภายนอกเลย แต่คำปลอบมนั ชว่ ย
เข้าไปรักษาความรสู้ ึกภายในใจของเด็กมากกว่า
- ข้อคิดทไี่ ดร้ บั ไมค่ วรโลภมาก
15
ถงุ มือ
เด๋ียวนมี้ ือใสถ่ ุงมอื จับมอื กนั
เปลีย่ นมือเปลีย่ นถงุ พลนั ไมซ่ ้ำถงุ
มือใส่ถุงมืออนามยั
อนุ่ เนื้อมิได้สมั ผสั เนื้อ
นำ้ มือมิไดเ้ จือกบั น้ำมอื
เกดิ อะไรขึน้ หรือกับมือคน
มือเด็กเปลอื ยเปลา่ สับสน
คยุ้ คน้ ไปตามประสา
ควานหาไปทุกแหง่ หน
กองขยะมากลน้ คน้ ร้ือ
พานพบถงุ มือทิ้งแลว้
ตื่นใจสวมใส่มอื พลัน
มือนัน้ ถอดออกก็ง่ายดาย
จนมอื หนูโตกว่านี้
จะถอดยากเต็มทนี า่ ใจหาย
บท "ถงุ มือ" ศักดิ์สริ ิใชถ้ งุ มอื มาเป็นสิง่ สำคญั ในบทน้ี กลา่ วคือ ศกั ดิส์ ิริกลา่ วถงึ มือของเด็กท่ีเปลอื ย
เปล่า สะอาดบริสทุ ธปิ์ ราศจากการครอบงำใดๆ เด็กคนนัน้ พบถงุ มือในกองขยะ และได้นำมาใส่ การนำถุงมือ
มาใส่มือของเด็กน้นั เมือ่ ถอดออก ก็ออกโดยง่ายดาย ต่างไปจากผใู้ หญ่ท่ีถอดไดย้ าก ทัง้ น้ี ด้วยเหตวุ า่ ใน
บางคร้งั ผู้ใหญ่เองก็ยังหาไดร้ ู้ไม่วา่ ในมือ ของตนน้นั สวมถงุ มืออยหู่ รือไม่ อะไรคือความจรงิ อะไรคือความ
หลอกลวง ศักด์ิสริ ิเสนอแนวความคิด ด้วยพฤติกรรมการใส่ถุงมือของเด็กคนหนง่ึ แลว้ จบลงดว้ ยการกลา่ วว่า
หากเดก็ โตขึน้ ถงุ มือนั้นจะถอดออกไดย้ าก ซงึ่ เป็นกลวธิ กี ารใช้พฤติกรรมของเด็กทีม่ ีกบั ตนเอง คือ เด็กอยู่เพยี ง
ลำพังมานำเสนอแนวคิดได้อย่างแยบยล
ตีความไดว้ า่
เด็กนอ้ ยเกิดสงสัยและสบั สนว่าทำไมคนที่เป็นผใู้ หญ่ท่ีอย่ดู ว้ ยกันในสงั คม ถงึ ได้ใส่ถงุ มอื สัมผัสกัน ทง้ั ๆ
ที่เดก็ น้ันมีแค่มือเปลา่ ท่ีใช้สมั ผสั สิ่งต่าง ๆ เดก็ จงึ หาถงุ มอื ในถังขยะท่ีมีคนท้งิ ไว้ เม่อื เด็กลองใส่มนั ก็หลวมมาก
ถอดออกได้ง่าย แตเ่ ม่ือเด็กน้อยโตข้นึ มันก็ไม่สามารถถอดได้แลว้
- ลกั ษณะคำประพันธ์ ใชถ้ ้อยคำ เรียบง่ายแบบเดก็ ๆ
16
- ตัวละคร เด็ก เป็นตัวเอกของเร่อื ง มีลกั ษณะนิสัย คือ เปน็ เด็กเรียบร้อย เปน็ เด็กรา่ เรงิ
- กวสี ือ่ ถึง สงั คมจะทำให้เรารวู้ า่ บางทกี ารท่เี ราใสถ่ งุ มือเข้าหาคนอนื่ มนั มหี ลายเหตุผล
บางคนอาจจะรังเกลียดคนนี้ บางคนอาจจะแกลง้ เลน่ ละครตบตา คนเรามเี หตผุ ลหลายอยา่ ง
ในการท่ีจะเขา้ หาใคร เพราะบางคนการท่เี ขาใสถ่ ุงมือเข้าหาคนอน่ื อาจจะเพราะวา่ เขา
ต้องการป้องกันตวั เองไม่ให้รูส้ กึ เจ็บช้ำเหมือนเม่ือต่าง ๆ ทีผ่ ่านมา
- ขอ้ คิดท่ไี ด้รบั ทกุ คนลว้ นมีเหตผุ ลของตนเองเพ่อื ป้องกนั ภัยอนั ตราย
17
รถดว่ น
มือจับเอวจบั เอวตอ่ ตอ่ กัน
มอื ต่อเอวกระชับมนั่ กันตอ่ ต่อ
มอื หน่งึ มือน้อยนำขบวน
ต่อแถวกันน้ันล้วนมอื น้อยน้อย
เอวอ้อนแอน้ แลน่ คล้อยขบวนไป
ตอ่ เปน็ ตู้รถไฟไปล่วิ สว่ิ
ฉวิ ฉิวเปิดหวูดลอดอโุ มงค์
ซึง่ สองคนยนั โค้งด้วยส่ีแขน
ขบวนโยงแล่นลอดตลอดแล้ว
ออ้ ไม่แล้วผู้สดุ ทา้ ยไปไมพ่ ้น
อุโมงค์พงั ก้ันไวใ้ นบัดดล
ซึ่งสองคนทำวงแขนเป็นคอกขงั
ตอนถูกจบั สนุกกนั จังหัวเราะกนั เจ๊ียว
ในนบทกวี "รถด่วน" ศกั ด์ิสริ ิได้เสนอภาพของ พฤติกรรมความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเดก็ กบั ผใู้ หญโ่ ดยใช้ เปน็ ภาพที่
ทาบเทียบกนั และมิใช่เพียงการชใ้ี ห้เหน็ ว่าต่างกันอยา่ งไรเทา่ นนั้ กวยี งั ได้แฝงสารไวใ้ ห้ ผู้ใหญ่ฉกุ คิดถึง
บทบาทหนา้ ที่ของตนทมี่ ีต่อ "คเู่ ปรียบ" ซงึ่ บทกวีน้ีไดก้ ล่าวถงึ การเลน่ สนุกของเดก็ ทจี่ บั เอวตอ่ ๆ กันเปน็ ขบวน
รถไฟวิ่งลอดใต้แขน เพื่อนสองคนจับมือชกู ันเป็นอโุ มงค์
ตีความไดว้ ่า
เด็กนอ้ ยทเ่ี ล่นรถไฟต่อกันเป็นขบวนแล้วมคี นอีกสองคนทค่ี อยกักตัวไว้ การละเลน่ อนั นด้ี ิฉนั คดิ ว่ามัน
คือ การเล่นรีรีข้าวสาร นั้นกค็ อื การละเลน่ นีใ้ นตอนแรก เด็ก ๆ เลน่ กนั อย่างสนกุ สนาน เม่ือมีมือผใู้ หญเ่ ขา้
มาจบั ต่อขบวนเปน็ การเล่นกับเดก็ ๆ มันก็ทำใหเ้ กดิ ความอบอนุ่
18
- ลกั ษณะคำประพนั ธ์ ใช้ถ้อยคำ เรยี บงา่ ยแบบเด็กๆ
- กลวิธใี นการแตง่ การเล่นคำซ้ำ เช่น จบั เอวจบั เอว , ฉวิ ฉวิ , นอ้ ยนอ้ ย
- ตัวละคร เด็ก เป็นตวั เอกของเรื่อง มลี กั ษณะนสิ ยั คอื เป็นเด็กเรยี บร้อย เปน็ เด็กรา่ เริง
- กวีสือ่ ถึง ผใู้ หญ่เอาแตร่ บี เร่งทีจ่ ะทำธรุ ะต่าง ๆ โดยที่ไม่ไดใ้ หค้ วามรักให้ความอบอุน่ ให้
ความเปน็ ผนู้ ำท่ดี ใี ห้กับเด็กได้พอสมควร ซง่ึ ตา่ งจากสมยั ก่อนทผ่ี ใู้ หญน่ ัน้ มคี วามรกั ความ
อบอ่นุ ใส่ใจ ดแู ลเด็ก และอบรมสัง่ สอนเดก็ ได้ดีกว่านี้
- ข้อคิดทีไ่ ด้รับ ผใู้ หญ่ควรมีเวลาให้กบั เด็กเพราะเด็กยังคงต้องการ ความอบอุ่น ความใสใ่ จ
19
2) กลวิธีการแตง่
- ประพันธล์ กั ษณะของฉนั ทลักษณ์ มีรูปแบบเป็นธรรมชาตสิ อดคล้องกบั เน้ือหา คำทใ่ี ช้เป็นคำงา่ ย
เรยี งร้อยอย่างมลี ลี าจังหวะ สรา้ งลำนำอนั ทรงพลงั ให้จนิ ตนาการภาพชดั สือ่ ความคดิ ของบทกวี
กระทบอารมณ์และเร้าความคดิ ผูอ้ ่านเป็นการจรรโลงความหวังใหเ้ หน็ วา่ โลกอาจสงบงดงามได้
ดว้ ยน้ำใจอนั บริสุทธข์ิ องมนุษย์ด้วยกนั เอง
3) สรปุ
- ศกั ดิ์สริ ิ มสี มสบื นยิ มใชต้ ัวละครเด็กในกวี นพิ นธข์ องเขา เพราะ "เด็ก" เป็นตวั แทนของความ บริสทุ ธ์ิ
ของจิตรวมถงึ ปัญญา อันจะช่วยใหม้ นุษย์ พันทุกข์ ภาพของเด็กเป็นตัวแทนของความสะอาด บรสิ ทุ ธิ์
ของจติ ใจมนุษย์ จงึ เป็นมูลเหตสุ ำคัญท่ที ำให้ ศักดสิ์ ิรินำมาเปน็ กลวธิ ใี นการเสนอแนวคิดในกวนี ิพนธ์
การใชเ้ ด็กในบทกวีของศกั ดส์ิ ิริ ช่วยให้มองเห็น ความแตกต่างระหวา่ งเด็กกับผ้ใู หญ่ไดช้ ดั เจนมาก
ย่ิงขน้ึ เพราะผูใ้ หญ่เปน็ ตัวแทนของโลกประสบการณ์และ การมองส่งิ ตา่ ง ๆ "ตามความเป็นจรงิ "
ในขณะท่เี ด็กเป็นตวั แทนของโลกแห่งจนิ ตนาการและความสวยสด เอกลักษณ์เฉพาะตัวอยา่ งหนงึ่ ของ
เขาท่นี ่าสนใจ งดงามทผ่ี ้ใู หญ่มองไมเ่ นอีกต่อไป กลวิธกี ารใช้ตัว ประกอบกับภาษาท่ีเรียบง่ายแตเ่ ฉยี บ
คม จึงทำให้กวี ละครเด็กในการส่ือแนวคดิ ของศักดสิ์ ริ ิ จึงนับไดว้ า่ เปน็ นิพนธข์ องศักดส์ิ ิริยงั คงไดร้ ับ
ความนยิ มอยู่เปน็ นิตย์
20
บรรณานกุ รรม
ศักดส์ิ ริ ิ มสี มสบื . 2561. มอื น่นั สีขาว. พมิ พค์ ร้ังท1่ี 0 .นาคร, สนพ.