รำวงมาตรฐาน
ประวัติความเป็นมา
รำวงมาตรฐาน เป็นการแสดงที่มีวิวัฒนาการมาจากรําโทน เป็นการรํา
และร้องของชาวบ้าน ซึ่งจะมีผู้รําทั้งชายและหญิง รํากันเป็นคู่
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็น
นายกรัฐมนตรี กรมศิลปากรได้มีการเปลี่ยนชื่ อ รําโทน ให้เปลี่ยนมาชื่ อ
ว่า รําวงมาตรฐาน
เพลงรำวงมาตรฐาน
10 เพลง
1. งามแสงเดือน 6. ดอกไม้ของชาติ
2. ชาวไทย 7. หญิงไทยใจงาม
3. รำมาซิมารำ 8. ดวงจันทร์ขวัญฟ้า
4. คืนเดือนหงาย 9. ยอดชายใจหาญ
5. ดวงจันทร์วันเพ็ญ 10 .บูชานักรบ
ผู้แต่งเนื้ อเพลง
จมื่นมานิตย์นเรศ ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
( เฉลิม เศวตนันท์)หรือ กรมศิลปากร - ดวงจันทร์วันเพ็ญ
- งามแสงเดือน - ดอกไม้ของชาติ
- รำมาซิมารำ - หญิงไทยใจงาม
- ชาวไทย - ดวงจันทร์ขวัญฟ้า
- คืนเดือนหงาย - ยอดชายใจหาญ
- บูชานักรบ
ผู้แต่งทำนองดนตรี
อาจารย์มนตรี ตราโมท ครูเอื้อ สุนทรสนาน
- งามแสงเดือน - หญิงไทยใจงาม
- ชาวไทย - ดวงจันทร์ขวัญฟ้า
- รำมาซิมารำ - ยอดชายใจหาญ
- คืนเดือนหงาย - บูชานักรบ
- ดวงจันทร์วันเพ็ญ
- ดอกไม้ของชาติ
ผู้ประดิษฐ์ท่ารำ
ผู้ประดิษฐ์ท่ารำ เพลงรําวงมาตรฐานทั้ง 10 เพลงนั้นคือ
คณะอาจารย์ด้านนาฏศิลป์ของกรมศิลปากร ได้ช่วยกันคิดท่ารํา
ประดิษฐ์ท่ารําให้งดงามถูกต้อง ตามหลักนาฏศิลป์
และกําหนดให้เป็นแบบมาตรฐาน
ผู้ประดิษฐ์ท่ารำ
หม่อมต่วน
(นางศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก)
ครูมัลลี คงประภัศร์
ครูลมุล ยมะคุปต์
ดนตรีและเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง
รําวงมาตรฐาน
เครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดง “รําโทน” หรือ “รําวง” นั้น
แต่เดิมมีเครื่องดนตรีประกอบการรํา คือ โทน ฉิ่ง กรับ
ต่อมาเมื่อมีการพัฒนา “รําโทน” ขึ้นจนเป็น “รําวง
มาตรฐาน” จนถึงปัจจุบัน จึงได้เพิ่มเครื่องดนตรีประกอบ
เป็นวงดนตรีปี่ พาทย์ไม้นวม หรือ วง ดนตรีสากลบรรเลง
ดนตรีและเพลงที่ใช้ประกอบ
การแสดงรําวงมาตรฐาน
โทน ฉิ่ง กรับ
เครื่องแต่งกายรำวงมาตรฐานแบ่งได้ 4 แบบ ดังนี้
แบบที่ 1 แบบชาวบ้าน แบบที่ 2 แบบไทยพระราชนิยม
แบบที่ 3 แบบสากลนิยม แบบที่ 4 แบบราตรีสโมสร
แบบที่ 1 แบบชาวบ้าน
ชาย : นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้ อคอพวงมาลัย
เอวคาดผ้าห้อยชายด้านหน้า
หญิง : นุ่งโจงกระเบน ห่มผ้าสไบอัดจีบ
ปล่อยผมประดับดอกไม้ที่ผมด้านซ้าย
คาดเข็มขัดใส่ เครื่องประดับ
แบบที่ 2 แบบไทยพระราชนิยม
ชาย : นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้ อ
ราชปะแตน ใส่ถุงเท้ารองเท้า
หญิง : นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้ อลูกไม้
สไบพาดบ่าผูกเป็นโบว์
ทิ้งชายไว้ข้างลำตัวด้านซ้าย
ใส่ เครื่ องประดับมุก
แบบที่ 3 แบบสากลนิยม
ชาย : นุ่งกางเกง สวมสูท ผูกเนคไท
หญิง : นุ่งกระโปรงป้ายข้าง
ยาวกรอมเท้า
ใส่เสื้ อคอกลมแขนกระบอก
แบบที่ 4 แบบราตรีสโมสร
ชาย : นุ่งกางเกง สวมเสื้ อคอพระราชทาน
ผ้าคาดเอวห้อยชายด้านหน้า
หญิง : นุ่งโปรงยาวจีบหน้านาง ใส่เสื้ อจับ
เดฟ ชายผ้าห้อยจากบ่าลงไปทางด้านล่าง
เปิดไหล่ขวา ศีรษะทำผมเกล้าเป็นมวยสูง
ใส่เกี้ยว และเครื่องประดับ
ท่ารำวงมาตรฐาน
10 เพลง 17 ท่ารำ
เพลงที่ 1
เพลงงามแสงเดือน
ใช้ท่าสอดสร้อยมาลา
ท่าสอดสร้อยมาลา
เพลงที่ 2
เพลงชาวไทย
ใช้ท่าชักแป้งผัดหน้า
ท่าชักแป้งผัดหน้า
เพลงที่ 3
เพลงรำมาซิมารำ
ใช้ ท่ารำส่ าย
ท่ารำส่ าย
เพลงที่ 4
เพลงคืนเดือนหงาย
ใช้ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง
ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง
เพลงที่ 5
เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ
ใช้ท่าแขกเต้าเข้ารังและผาลาเพียงไหล่
ท่าแขกเต้าเข้ารังและผาลาเพียงไหล่
เพลงที่ 6
เพลงดอกไม้ของชาติ
ใช้ท่ารำยั่ว
ท่ารำยั่ว
เพลงที่ 7
เพลงหญิงไทยใจงาม
ใช้ ท่าพรหมสี่ หน้าและ
ท่ายุงฟ้อนหาง
ท่าพรหมสี่ หน้าและท่ายุงฟ้อนหาง
เพลงที่ 8
เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า
ใช้ท่าช้างประสานงา
และท่าจันทร์ทรงกรด
ท่าช้างประสานงาและทาจันทร์ทรงกรด
เพลงที่ 9
เพลงยอดชายใจหาญ
ใช้ท่าชนีร่ายไม้และท่า
จ่อเพลิงกาฬ
ท่าชนีร่ายไม้และท่าจ่อเพลิงกาฬ
ท่าขัดจางนาง ท่าจันทร์ทรงกรด เพลงที่ 10
ท่าล่อแก้ว ท่าขอแก้ว เพลงบูชานักรบ
ใช้ท่าขัดจางนาง ท่า
จันทร์ทรงกรด และท่า
ล่อแก้ว ท่าขอแก้ว
จบการเรียนการนำ
เสนอ