The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครู วิทยาการคำนวณ ม.5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ธัชยพงศ์ ปาละหงษา, 2022-04-06 03:42:20

คู่มือครู วิทยาการคำนวณ ม.5

คู่มือครู วิทยาการคำนวณ ม.5

คูม่ อื ครู

เทคโนโลยี Teacher Script

(วทิ ยาการคํานวณ) ม.5

ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 5 บรรณาธกิ ารหนงั สอื เรียน
ดร.ฉัททวุฒิ พีชผล
กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551

ผเู รียบเรยี งหนงั สือเรยี น ผตู รวจหนังสอื เรียน
นายชนินทร เฉลิมสขุ นางสาวอารียา ศรปี ระเสรฐิ
นายอภชิ าติ คาํ ปลิว นายรัชกฤษ ธนพัฒนดล
นางสาวพชั ราภรณ ตันตชิ ัยฤกษ
ผูเรยี บเรียงคูมอื ครู นายเบนยามนิ วงษป ระเสริฐ
นางสาวอารยี า ศรีประเสริฐ
บรรณาธิการคูมือครู
นางสาวกลุ กนั ยา เมฆอรณุ
นางสาวศศิธร คงอยู

พมิ พคร้งั ที่ 1
สงวนลขิ สทิ ธิ์ตามพระราชบัญญตั ิ

รหสั สินคา 3548013

ค�ำแนะน�ำกำรใช้

คู่มือครู รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค�านวณ) ม.5
จัดท�าขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอนใช้เป็นแนวทางวางแผนการจัดการเรียน
การสอน เพอื่ พฒั นาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นและประกนั คณุ ภาพผเู้ รยี น
ตามนโยบายของส�านกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน (สพฐ.)

Chapter Overview นาํ นํา สอน โซน 1สรปุ ประเมนิ

โครงสรา้ งแผนและแนวทางการประเมนิ ผเู้ รียน ขนั้ นาํ 1หนว ยการเรยี นรูท่ี
ประจา� หน่วยการเรยี นรู้ วิทยาการคอมพวิ เตอร
กระตนุ ความสนใจ ส่อื ดจิ ทิ ลั และเทคโนโลยี
Chapter Concept Overview 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย สารสนเทศกบั การดาํ เนนิ ชวี ติ

สรปุ สาระสา� คญั ประจ�าหน่วยการเรยี นรู้ การเรยี นรทู ี่ 1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร สอ่ื ดจิ ทิ ลั
และเทคโนโลยีสารสนเทศกับการดําเนินชีวิต
เพอ่ื วดั ความรเู ดมิ ของนกั เรยี นกอ นเขา สบู ทเรยี น
2. ครถู ามคาํ ถามนกั เรยี นวา นกั เรยี นรจู กั สอ่ื ดจิ ทิ ลั
ประเภทใดบาง และในปจจุบันมีส่ือดิจิทัลที่
สงผลตอการดําเนินชีวิตของมนุษยอยางไร
ใหนกั เรียนชวยกนั ตอบคําถาม

โซน 1 ช่วยครจู ัด วิทยาการคอมพิวเตอร สื่อดิจิทัล และเทคโนโลยี
สารสนเทศมีบทบาทสําคัญตอการดําเนินชีวิตของ
กำรเรยี นกำรสอน ผคู นในสังคมปจ จบุ ันเปน อยา งมาก
แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้แก่ผู้สอน
โดยแนะน�าข้ันตอนการสอน และการจัดกิจกรรมอยา่ งละเอียด ตัวชีว้ ัด
เพอื่ ใหน้ ักเรยี นบรรลผุ ลสมั ฤทธติ์ ามตัวชีว้ ดั ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะหข์ อ้ มลู และใชค้ วามรดู้ า้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร ์ ส่ือดจิ ิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศในการ
แกป้ ัญหา หรือเพ่ิมมูลค่าใหก้ ับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ใชใ้ นชีวติ จริงอยา่ งสรา้ งสรรค์
น�ำ สอน สรุป ประเมนิ
เกร็ดแนะครู โซน 3

การเรียนการสอน เร่อื ง วทิ ยาการคอมพวิ เตอร ส่อื ดิจทิ ัล และเทคโนโลยี
สารสนเทศกับการดําเนินชีวิต โดยครูอาจจะฝกใหนักเรียนคิดวิเคราะหวา
วิทยาการคอมพิวเตอรเขามามีบทบาทกับการดําเนินชีวิตประจําวันอยางไรบาง
และสง ผลดหี รอื ผลเสยี จากการใชง านหรอื ไม ใหน กั เรยี นภายในชนั้ เรยี นชว ยกนั
ยกตัวอยาง พรอมอธิบายเหตุผลประกอบ ซึ่งครูอาจจะสุมนักเรียน 2-3 คน
ในการตอบคําถาม จากนั้นครูอาจจะเปด วิดีโอเก่ยี วกบั การพัฒนาของส่ือดิจทิ ลั
และเทคโนโลยีสารสนเทศตางๆ อาจจะมีการเปรียบเทียบวิวัฒนาการของ
สิ่งตา งๆ ตั้งแตอ ดตี จนถงึ ปจ จบุ ันใหนักเรียนเห็นภาพ

โซน 2

T4

โซน 2 ชว่ ยครูเตรยี มสอน เรียนรคู้ า� ศัพท์ (วทิ ยาการคาํ นวณ)

ประกอบด้วยองค์ประกอบตา่ ง ๆ ท่เี ปน็ ประโยชน์ เพอื่ อธิบายคา� ศัพท์ทมี่ ีในบทเรยี นเพิ่มเติม
ชว่ ยลดภาระในการสอนของครผู สู้ อน
ความรเู้ สรมิ
เกรด็ แนะครู
อธิบายความรู้เพมิ่ เติมที่เกี่ยวข้องกับบทเรียน
ความรเู้ สรมิ สา� หรบั คร ู ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ สงั เกต แนวทางการจดั
กิจกรรม เพื่อประโยชน์ในการจดั การเรียนการสอน

นักเรยี นควรรู้

ความรเู้ พม่ิ เตมิ จากเนอื้ หา เพอื่ ใหค้ รนู า� ไปใชอ้ ธบิ ายใหน้ กั เรยี น

โดยใชห้ นังสือเรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคาํ นวณ) ม.5 ของบริษทั อักษรเจริญทัศน ์ อจท. จ�ากดั
เปน็ สอื่ หลกั (Core Meterial) ประกอบการสอน และการจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หส้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นร ู้ และตวั ชว้ี ดั
ของกลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช
2551 โดยคมู่ ือครูมอี งค์ประกอบท่ีงา่ ยตอ่ การใชง้ าน ดงั น้ี

โซน 1 นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ โซน 3 ช่วยครูเตรียมนกั เรียน

ตอร นักเรียนคิดวา วิทยาการ 1 วดิทาํ เยนาินกชาวี รติ คอมพิวเตอรก์ ับการ ขนั้ นาํ ประกอบด้วยแนวทางการจัดกิจกรรม และเสนอแนะ
โลยี คอมพวิ เตอรม คี วามสาํ คญั แนวขอ้ สอบ เพื่ออา� นวยความสะดวกใหแ้ ก่ครผู ู้สอน
าเนนิ ชวี ติ ตอ เทคโนโลยที จี่ ะเกดิ ขน้ึ ใน กระตนุ ความสนใจ
อนาคตอยา งไร วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ (Computer Science) เป็นศาสตร์ 3. ครูถามคาํ ถามสาํ คญั ประจําหัวขอ วา นักเรยี น กิจกรรม 21st Century Skills
ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การศกึ ษาคน้ ควา้ ทฤษฎกี ารคา� นวณทางคอมพวิ เตอร์
และทฤษฎีการประมวลผลสารสนเทศ ท้ังด้านซอฟต์แวร์ คิดวา วิทยาการคอมพิวเตอรมีความสําคัญ กจิ กรรมท่ีใหน้ กั เรยี นไดป้ ระยกุ ต์ใชค้ วามรมู้ าสรา้ งชนิ้ งาน หรอื
ฮาร์ดแวร์ และเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ โดยวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์จะประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง ตอ เทคโนโลยีท่ีจะเกิดขนึ้ ในอนาคตอยางไร ท�ากิจกรรมรวบยอด เพื่อให้เกิดคุณลักษณะที่ระบุในทักษะ
กบั คอมพวิ เตอร ์ ตง้ั แตร่ ะดบั นามธรรม หรอื ความคดิ เชงิ ทฤษฎ ี เชน่ การวเิ คราะหแ์ ละการสงั เคราะห์ 4. ครอู ธบิ ายใหน กั เรยี นฟง เพม่ิ เตมิ วา ปจ จบุ นั ผคู น แหง่ ศตวรรษที่ 21
ข้ันตอนวิธี ไปจนถึงระดับรูปธรรม เช่น ทฤษฎีภาษาโปรแกรม ทฤษฎีการพัฒนาซอฟต์แวร์ ในสงั คมไทยตอ งการอะไรทรี่ วดเรว็ สะดวก และ
ทฤษฎที างดา้ นฮาร์ดแวร์ ทฤษฎกี ารจดั การข้อมูล ทฤษฎสี อื่ สารและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีประสทิ ธิภาพมากขนึ้ ดังนัน้ เพือ่ ตอบสนอง ขอ้ สอบเน้นการคิด
การเรียนรู้ศาสตร์ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จะน�าไปสู่การคิดค้นทฤษฎีและนวัตกรรม ตอ ความตอ งการเหลา นี้ จงึ ทาํ ใหเ กดิ วทิ ยาการ
ใหม ่ ท้งั น้เี พอ่ื ตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของการใชเ้ ทคโนโลยีของคนในสงั คม ที่ต้องการอะไรท่ี คอมพิวเตอรข้ึน เพื่อนําไปสูการคิดคนทฤษฎี ตัวอย่างข้อสอบท่ีมุ่งเน้นการคิด มีท้ังปรนัย-อัตนัย พร้อม
เรว็ ขน้ึ สะดวกขนึ้ และมปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ โดยหวั ขอ้ ทค่ี วรศกึ ษาเกย่ี วกบั วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมใหมๆ เฉลยอย่างละเอียด
มีดังนี้
แนวตอบ คําถามสําคัญประจาํ หัวขอ กจิ กรรมท้าทาย
จะเป็นโ1ป. รกแากรรพมัฒภนาษาซาไอพฟทตอ์แนว1ร ์ (กPyารthพoัฒn)น าโซปอรแฟกตรแ์ มวภร์ดาษว้ ยากซาี ร(เCข)ีย นโปโปรรแแกกรรมมภภาาษษาาจตาา่ วงา ๆ (Jไaมvว่ a่า) วทิ ยาการคอมพวิ เตอรเ ปน ศาสตรท เี่ กยี่ วขอ งกบั
หรอื โปรแกรมภาษา SQL จะต้องเรียนรู้ถงึ หลักการเขยี นโปรแกรม และการออกแบบอลั กอริทึม เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรม เพอ่ื ตอ่ ยอดสา� หรบั นกั เรยี น
เพอ่ื ใชใ้ นการพฒั นาซอฟตแ์ วรอ์ อกมาใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพตรงตามความตอ้ งการของผ ู้ใชง้ าน ทง้ั ทอ่ี ยู่ การศกึ ษาคน ควา ทฤษฎกี ารคาํ นวณทางคอมพวิ เตอร ทเี่ รยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และตอ้ งการทา้ ทายความสามารถใน
ในรปู แบบของเวบ็ แอปพลเิ คชัน (Web Application) โมบายแอปพลเิ คชนั (Mobile Application) และทฤษฎีการประมวลผลสารสนเทศตางๆ และ ระดบั ทสี่ งู ข้นึ
เดสก์ทอ็ ปแอปพลเิ คชนั (Desktop Application) เกม (Games) และการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ฝงั ตัว ประกอบไปดว ยหวั ขอ ทมี่ คี วามเกย่ี วขอ งกบั ขนั้ ตอน
ลงบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น วิธี ตั้งแตระดับนามธรรมไปจนถึงระดับรูปธรรม กจิ กรรมสรา้ งเสรมิ
การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันให้ข้อมูลเก่ียวกับ ดังน้ัน เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะตองมี
การรักษาพยาบาลเบ้ืองต้นแก่ผู้ท่ีมีอาการ ประสิทธิภาพและตอบสนองตอความตองการของ เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรมซอ่ มเสรมิ สา� หรบั นกั เรยี นที่
เจ็บป่วย การพัฒนาโมบายแอปพลิเคชัน คนในสงั คม ควรได้รับการพฒั นาการเรยี นรู้
ในการแจ้งเตือนภัย การพัฒนาเดสก์ท็อป
แอปพลิเคชันการบันทึกข้อมูลการปฏิบัติงาน
การพัฒนาเกมเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการทาง
การเรียนรู้ของเด็กท่ีมีพัฒนาการทางสมองช้า
การพัฒนาซอฟต์แวร์ฝังตัวลงบนอุปกรณ์
ตรวจจบั สภาพอากาศเพอื่ การจดั การการเกษตร

ภาพท่ี 1.1 ภาษาทใี่ ช้ในการเขยี นโปรแกรม

3

ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู

โปรแกรมภาษาซี เปน โปรแกรมท่ีใชสาํ หรบั ทําอะไร ครูอธิบายในหัวขอที่ 1 เรื่อง วิทยาการคอมพิวเตอรกับการดําเนินชีวิต
โดยจะอธบิ ายวา เปน ศาสตรเ กย่ี วกบั การศกึ ษาคน ควา ทฤษฎกี ารคาํ นวณสาํ หรบั
(แนวคาํ ตอบ เปน ภาษาคอมพวิ เตอรท ใ่ี ชส าํ หรบั พฒั นาโปรแกรม คอมพวิ เตอร และทฤษฎกี ารประมวลผลสารสนเทศ ทง้ั ดา นซอฟตแ วร ฮารด แวร
ถกู พัฒนาโดยเดนนิส ริตชี (Dennis Ritchie) โดยพัฒนามาจาก และเครือขา ย ซึง่ วทิ ยาการคอมพวิ เตอรนนั้ ประกอบดวยหลายหวั ขอทเ่ี กีย่ วของ
ภาษา B และ ภาษา BCPL ในป ค.ศ. 1978 ไดม กี ารพฒั นามาตรฐาน กบั คอมพวิ เตอร ตง้ั แตระดบั นามธรรมไปจนถึงระดับรูปธรรม
ของภาษาซี ทาํ ใหม ีผสู นใจเก่ียวกับภาษาซีมากขน้ึ จึงเกดิ ภาษาซี
อีกหลายรูปแบบเพราะยังไมมีการกําหนดรูปแบบภาษาซีท่ีเปน นักเรียนควรรู

โซน 3มาตรฐาน และในป ค.ศ. 1988 เดนนสิ รติ ชี จงึ ไดก าํ หนดมาตรฐาน 1 ภาษาไพทอน คือ ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอรระดับสูง
ถูกออกแบบมาใหเปนภาษาสคริปตที่อานงาย โดยตัด
ของภาษาซี เพ่ือใชเปนตัวกําหนดมาตรฐานในการสรางภาษาซี
รุนตอไป ภาษาซีเปนภาษาที่เหมาะสมสําหรับการเขียนโปรแกรม โซน 2ความซับซอนของโครงสรางและไวยากรณของภาษาออกไป
แบบโครงสรา ง เปน ภาษาทม่ี คี วามยดื หยนุ มาก และปจ จบุ นั ภาษาซี
เปนภาษาพื้นฐานของภาษาโปรแกรมรุนใหมๆ เชน C++) ในสวนของการแปลงชุดคําสัง่ ท่ีเราเขียนใหเ ปน ภาษาเคร่ือง

T5

สอื่ Digital

การแนะนา� แหล่งคน้ ควา้ จากส่อื Digital ตา่ ง ๆ

แนวทางการวัดและประเมนิ ผล

การเสนอแนะแนวทางในการวดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นทส่ี อดคลอ้ ง
กบั แผนการสอน

ค�ำอธิบายรายวิชา กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
เวลาเรียน 40 ช่วั โมง / ปี
เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำนวณ)

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5

ศกึ ษาเกยี่ วกบั วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สอื่ ดจิ ทิ ลั และเทคโนโลยสี ารสนเทศกบั การดำ� เนนิ ชวี ติ เทคโนโลยกี ารจดั การขอ้ มลู
ขอ้ มูล ฐานข้อมลู คลงั ข้อมลู การท�ำเหมืองขอ้ มูล ประมวลผลข้อมูล วิทยาการข้อมูล ข้อมลู ขนาดใหญ่ การวเิ คราะหข์ อ้ มูล
และวิทยาการข้อมลู

โดยอาศยั กระบวนการเรยี นรโู้ ดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem-based Learning) และการเรยี นรแู้ บบใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน
(Project-based Learning) เพอื่ เน้นให้ผ้เู รยี นได้ลงมือปฏิบัติ ฝกึ ทักษะการคดิ เผชิญสถานการณก์ ารแก้ปัญหาวางแผนการ
เรยี นรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และนำ� เสนอผ่านการทำ� กิจกรรมโครงงาน เพื่อให้เกดิ ทกั ษะ ความรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะใน
การวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหา จนสามารถนำ� เอาแนวคิดเชงิ ค�ำนวณมาประยกุ ตใ์ ช้ในการสรา้ งโครงงานได้

เพ่ือให้ผูเ้ รียนสามารถใช้ความรทู้ างดา้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดิจทิ ลั เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร เพ่อื
รวบรวมขอ้ มลู ในชีวิตจริงจากแหลง่ ตา่ ง ๆ และความร้จู ากศาสตร์อืน่ มาประยุกต์ใช้ สรา้ งความรใู้ หม่ เขา้ ใจการเปลี่ยนแปลง
ของเทคโนโลยีท่มี ีผลต่อการด�ำเนนิ ชวี ิต อาชพี สังคม วัฒนธรรม และใช้อย่างปลอดภัย มจี รยิ ธรรม ตลอดจนนำ� ความร ู้
ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการด�ำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวน
การคดิ และจนิ ตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจดั การทักษะในการสอ่ื สาร และความสามารถในการตัดสินใจ
เปน็ ผูท้ ่ีมจี ติ วทิ ยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมในการใชว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์

ตัวชวี้ ัด
ว 4.2 ม.5/1 ร วบรวม วเิ คราะห์ขอ้ มลู และใชค้ วามรู้ดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่อื ดิจทิ ัล เทคโนโลยสี ารสนเทศ ในการ

แก้ปญั หาหรอื เพิม่ มูลคา่ ใหก้ บั บรกิ ารหรือผลติ ภณั ฑท์ ่ใี ช้ในชวี ติ จรงิ อย่างสรา้ งสรรค์

รวม 1 ตวั ช้วี ัด

Pedagogy

คมู อื ครู รายวชิ า

เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�านวณ) ม.5 คูมือครู รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ม.5

จดั ทา� ขน้ึ เพอื่ ใหค้ รผู สู้ อนนา� ไปใชเ้ ปน แนวทางวางแผนการสอน เพอื่ พฒั นาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รยี น โดยผสู้ อนสามารถวางแผน
การจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค�านวณ) ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 5 (ฉบับอนุญาต)
ที่ทางบริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท. จ�ากัด จัดพิมพ์จ�าหน่าย เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู ้
(Instructional Design) สอดคลอ้ งตามรูปแบบการเรยี นรู้ทีส่ �าคญั 2 รปู แบบ คอื รปู แบบการสอนแบบ 5Es และรูปแบบการสอนแบบ
ใช้ปญั หาเปนฐาน (PBL) โดยมรี ายละเอียด ดังน้ี

รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วย กรEะeตnnggุนaคg1วeาmมeสnนt ใจ
ให้ผู้เรียนได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเปนเหตุเปนผล คิดสร้างสรรค ์ สาํ รวeExจpแlลorะaคtนioหnา
คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะส�าคัญในการค้นคว้าหาความรู้ และมี Elaขยาย
ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเปน ระบบ ผูจ้ ัดทา� จงึ ได้เลอื กใช้
ตeEvรaวluจaสtiอoบnผล
รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความร ู้ (5Es Instructional Model) าม รูtion
ซ่ึงเปนข้ันตอนการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียนได้มีโอกาสสร้างองค์ 5 5Es 2
ความรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการคิดและการลงมือท�า โดยใช้

กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เปนเคร่ืองมือส�าคัญเพื่อการพัฒนา ควาbมoเrขa4าtioใจn Exอ3pธlaิบnาaยคว
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะการเรียนรู้แห่ง
ศตวรรษท ี่ 21

วิธสี อน (Teaching Method)

ผู้จัดท�าเลือกใช้วิธีสอนท่ีหลากหลาย เช่น การทดลอง การสาธิต การอภิปรายกลุ่มย่อย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้
รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ให้เกิดประสิทธิภาพมากท่ีสุด ซ่ึงจะเน้นใช้วิธีสอน
โดยใช้การทดลองมากเปนพิเศษ เนื่องจากเปนวิธีสอนที่มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้จากประสบการณ์ตรงโดย
การคดิ และการลงมือทา� ด้วยตนเอง อันจะช่วยใหผ้ ู้เรียนมีความร้แู ละเกดิ ทักษะทางวิทยาศาสตรท์ ีค่ งทน

เทคนคิ การสอน (Teaching Technique)

ผจู้ ดั ทา� เลอื กใชเ้ ทคนคิ การสอนทหี่ ลากหลายและเหมาะสมกบั เรอ่ื งทเ่ี รยี น เพอ่ื สง่ เสรมิ วธิ สี อนใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้
เช่น การใชค้ �าถาม การเลน่ เกม เพือ่ นช่วยเพ่อื น ซ่งึ เทคนิคการสอนต่าง ๆ จะช่วยให้ผูเ้ รียนเกดิ การเรยี นรอู้ ย่างมคี วามสุข
ในขณะที่เรียนและสามารถปฏบิ ัติกิจกรรมได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รวมท้งั ได้พฒั นาทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 อีกด้วย

Teacher Guide Overview

เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำนวณ) ม.5

หนว่ ย ตัวชว้ี ดั ทกั ษะท่ีได้ เวลาทใี่ ช้ การประเมิน ส่อื ทีใ่ ช้
การเรียนรู้

1 - ร วบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู และใช ้ - ทกั ษะการแลกเปลีย่ น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หนังสือเรยี น
ความรดู้ า้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ข้อมูล - ตรวจใบงาน รายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี
วิทยาการ สอื่ ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยสี ารสนเทศ - ทักษะการส่อื สาร - ประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (วทิ ยาการค�ำนวณ) ม.5
คอมพวิ เตอร์ ในการแก้ปัญหาหรือเพ่ิมมูลค่า - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ (รวบยอด) - ใบงาน
สอื่ ดจิ ิทัล และ ใหก้ บั บรกิ ารหรอื ผลติ ภณั ฑท์ ใ่ี ช้ - ทักษะการท�ำงาน - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - ภาพประกอบการสอน
ในชีวติ จรงิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ รว่ มกนั 8 - สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน - แบบทดสอบก่อนเรียน
เทคโนโลยี (ว 4.2 ม.5/1) - ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์ รายบคุ คล และหลงั เรยี น
สารสนเทศกบั - ทกั ษะการสังเกต ชั่วโมง - สงั เกตพฤตกิ รรมการทำ� งานกลมุ่
การด�ำ เนนิ ชีวิต
- ทกั ษะการน�ำความรู้ - ประเมินคณุ ลกั ษณะ
ไปใช้ อนั พงึ ประสงค์
- ทักษะการแก้ปญั หา - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น
- ทักษะการสบื คน้ ขอ้ มลู

2 - รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู และใช ้ - ทกั ษะการแลกเปลี่ยน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน - หนังสือเรียน
ความรดู้ า้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ขอ้ มลู - ตรวจใบงาน รายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี
เทคโนโลยี สอื่ ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยสี ารสนเทศ - ทักษะการส่อื สาร - ประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (วิทยาการค�ำนวณ) ม.5
การจัดการ ในการแก้ปัญหาหรือเพ่ิมมูลค่า - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ (รวบยอด) - ใบงาน
ใหก้ บั บรกิ ารหรอื ผลติ ภณั ฑท์ ใ่ี ช้ - ทกั ษะการท�ำงาน 10 - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ข้อมูล ในชวี ติ จริงอย่างสรา้ งสรรค์ ร่วมกัน - สังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน และหลังเรยี น
ชว่ั โมง
(ว 4.2 ม.5/1) - ทักษะการสังเกต รายบคุ คล
- ทักษะการสืบคน้ ขอ้ มูล - สงั เกตพฤตกิ รรมการทำ� งานกลมุ่
- ทักษะการส�ำรวจ - ประเมนิ คณุ ลักษณะ
อันพึงประสงค์
- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน

3 - รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู และใช ้ - ทักษะการแลกเปลีย่ น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - หนังสอื เรียน
ความรดู้ า้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ข้อมูล - ประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน รายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี
ประมวลผล สอ่ื ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยสี ารสนเทศ - ทักษะการสือ่ สาร (รวบยอด) (วิทยาการค�ำนวณ) ม.5
ขอ้ มลู ในการแก้ปัญหาหรือเพ่ิมมูลค่า - ทักษะการคิดวเิ คราะห ์ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - แบบทดสอบก่อนเรยี น

ใหก้ บั บรกิ ารหรอื ผลติ ภณั ฑท์ ใ่ี ช้ - ทกั ษะการท�ำงาน 11 - สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน และหลังเรยี น
ในชวี ติ จรงิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ร่วมกัน รายบคุ คล
(ว 4.2 ม.5/1) - ทักษะการสงั เกต ช่วั โมง - สงั เกตพฤตกิ รรมการทำ� งานกลมุ่

- ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู - ประเมินคณุ ลักษณะ
- ทกั ษะการเลอื กใช้ อันพงึ ประสงค์
เทคโนโลยี - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น

4 - ร วบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู และใช้ - ทกั ษะการแลกเปลยี่ น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - หนังสือเรียน
ความรดู้ า้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ขอ้ มูล - ตรวจใบงาน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี
วิทยาการข้อมลู สอ่ื ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยสี ารสนเทศ - ทกั ษะการสอ่ื สาร - ประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (วิทยาการค�ำนวณ) ม.5

ในการแก้ปัญหาหรือเพ่ิมมูลค่า - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ (รวบยอด) - ใบงาน
ใหก้ บั บรกิ ารหรอื ผลติ ภณั ฑท์ ใี่ ช้ - ทกั ษะการท�ำงาน 11 - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - แบบทดสอบก่อนเรยี น
ในชีวติ จรงิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ รว่ มกนั - สงั เกตพฤติกรรมการท�ำงาน และหลงั เรยี น
(ว 4.2 ม.5/1) - ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ช่ัวโมง รายบุคคล

- ทักษะการสังเกต - สงั เกตพฤตกิ รรมการทำ� งานกลมุ่
- ทักษะการสืบค้นขอ้ มลู - ประเมนิ คุณลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์
- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น

สารบัญ

Chapter Title Chapter Chapter Teacher
Overview Concept Script
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ Overview
สอื่ ดิจิทลั และเทคโนโลยี T2 T4
สารสนเทศกบั การดําเนนิ ชีวติ T3
T24
• วิทยาการคอมพิวเตอรก บั การดาํ เนนิ ชวี ิต T5-T10
• สื่อดิจิทัลกับการดําเนนิ ชีวิต T50 T11-T14
• เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการดาํ เนินชีวติ T88 T15-T17
• การเพิม่ มูลคา ใหก บั สินคา และบริการ T18-T21
ทายหนวยการเรยี นรูท่ี 1 T22-T23

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 เทคโนโลยีการจัดการขอ้ มูล T25 T26

• ขอ มลู T27-T34
• ฐานขอ มลู T35-T40
• คลังขอ มลู T41-T44
• การทําเหมืองขอมลู T45-T47
ทา ยหนว ยการเรยี นรูท่ี 2 T48-T49

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ประมวลผลขอ้ มลู T51 T52

• การประมวลผลขอ มูล T53-T85
ทา ยหนวยการเรยี นรทู ี่ 3 T86-T87

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 วทิ ยาการขอ้ มลู T89 T90

• วทิ ยาการขอมูล T91-T99
• ขอ มลู ขนาดใหญ T100-T111
• การวเิ คราะหข อ มลู T112-T113
ทา ยหนวยการเรียนรูท ี่ 4 T114-T115

ภาคผนวก T116-T121
บรรณานุกรม T122









































































นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน 2.2 ระบบจดั การฐานขอ้ มลู เชงิ สัมพันธ์

อธบิ ายความรู ระบบจดั การฐานขอ้ มลู เชงิ สมั พนั ธ ์ (Relational Database Management System : RDBMS)
คอื ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ทมี่ กี ารจดั เกบ็ ขอ้ มลู ในลกั ษณะตาราง (Table) โดยตารางจะประกอบดว้ ย
3. ครอู ธบิ ายกบั นกั เรยี นวา นอกจากระบบจดั การ แถว (Row) และคอลมั น ์ (Column) ซงึ่ ขอ้ มลู ทจี่ ดั เกบ็ ในตารางจะมคี วามสมั พนั ธซ์ ง่ึ กนั และกนั เชน่
ฐานขอ มลู แลว ยงั มรี ะบบจดั การฐานขอ มลู เชงิ
สัมพันธที่เปนระบบจัดการฐานขอมูลที่มีการ Students
จัดเก็บขอมูลในลักษณะตารางที่ประกอบดวย ID Name Phone DOB
แถวและคอลัมน ซ่ึงขอมูลที่จัดเก็บในตาราง
จะมคี วามสัมพนั ธซ่งึ กนั และกัน เพอ่ื ลดความ 500 Matt 0-2555-4141 06/03/70
ซา้ํ ซอนในการเก็บขอมูล 501 Jenny 0-2867-5309 03/15/81
502 Sean 0-2876-9123 10/31/82
4. ครูอธิบายความสัมพันธระหวางตารางในฐาน
ขอมูลเชิงสัมพันธในหนังสือเรียนใหนักเรียน ภาพท ี่ 2.8 ตารางข้อมลู นักเรยี น
ฟงวา ขอมูลในตารางน้ันมีความสัมพันธกัน
อยางไร จากตารางในภาพท ่ี 2.8 จะเหน็ ไดว้ า่ รายการขอ้ มลู แตล่ ะแถวจะมคี วามสมั พนั ธซ์ งึ่ กนั และกนั
เชน่ นักเรยี นรหสั 500 คอื นกั เรยี นที่มชี ่อื ว่า Matt หากทราบรหสั นักเรยี น จะทา� ให้ทราบช่ือ และ
รายละเอยี ดอน่ื ๆ ของนกั เรยี นคนนไ้ี ดเ้ ชน่ กนั อกี ทง้ั ตารางตา่ ง ๆ ในฐานขอ้ มลู สามารถมคี วามสมั พนั ธ์
ระหว่างตารางอนื่ ๆ ได ้ โดยจะเชอ่ื มโยงดว้ ยการอ้างอิงจากข้อมลู ในคอลัมน์ทก่ี า� หนดไว ้ เช่น

Students DOB
ID Name Phone

ID ClassID Sem 500 Matt 0-2555-4141 06/03/70
501 Jenny 0-2867-5309 03/15/81
500 1001 fall02 502 Sean 0-2876-9123 10/31/82
501 1002 fall02
501 1002 spr03 ClassID Title ClassNum
502 1003 s203
1001 Intro to Informatics I101
Take_Course 1002 Data Mining I400
1003 Internet and Society I400

Courses

ภาพท ี่ 2.9 ตวั อย่างความสมั พันธร์ ะหวา่ งตารางในฐานขอ้ มลู เชงิ สัมพันธ์

จากตารางในภาพท ่ี 2.9 จะเหน็ วา่ ตาราง Students มคี วามสมั พนั ธก์ บั ตาราง Takes_Course
ดว้ ยคอลมั น ์ ID และตาราง Takes_Course มคี วามสมั พนั ธก์ บั ตาราง Courses ดว้ ยคอลมั น ์ ClassID

34

เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด

ครูอาจจะใหนักเรียนศึกษาเก่ียวกับระบบจัดการฐานขอมูลเชิงสัมพันธ ขอใดกลาวไมถ ูกตอ งเก่ียวกบั ระบบจดั การฐานขอ มลู เชงิ สัมพันธ
จากหนังสือเรียนกอน หลังจากนักเรียนศึกษาขอมูลเสร็จเรียบรอยแลว ครูจึง 1. เปนฐานขอมูลทใ่ี ชโ มเดลเชงิ สมั พันธ
อธิบายระบบจัดการฐานขอมูลเชิงสัมพันธใหนักเรียนฟง เพ่ือใหนักเรียนมี 2. เปนการเกบ็ ขอมูลในรูปแบบตาราง
ความเขาใจมากยิ่งข้ึน หากมีนักเรียนคนใดไมเขาใจเกี่ยวกับเร่ืองท่ีครูสอน 3. ใชห ลักการพนื้ ฐานทางคณิตศาสตร
ใหย กมอื สอบถาม 4. ขอมูลจะตองมีความสมั พนั ธซ ่งึ กันและกนั
5. เปนการอธบิ ายแนวคดิ เกี่ยวกบั ฐานขอมูลทัว่ ไป

(วิเคราะหคําตอบ ระบบจัดการฐานขอมูลเชิงสัมพันธเปนฐาน
ขอมูลท่ีใชโมเดลเชิงสัมพันธ มีการอธิบายแนวคิดเก่ียวกับฐาน
ขอมูลท่ัวไปที่มีการจัดเก็บขอมูลในลักษณะตาราง โดยขอมูลท่ี
จัดเก็บภายในตารางจะตองมีความสัมพันธกันดวย ดังน้ัน ตอบ
ขอ 3.)

T38










Click to View FlipBook Version