The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nittaya001904, 2021-12-22 22:09:52

PA นายสมพล

PA นายสมพล

คำนำ

แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน ( Performance Agreement : PA ) จัดทาขึ้นเพ่ือนาเสนอข้อตกลง
ในการพัฒนางานสาหรับข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ประจาปีงบประมาณ 2565 ระหวา่ งวนั ที่ 1
ตลุ าคม พ.ศ.2564 ถึงวนั ท่ี 30 กนั ยายน พ.ศ 2565 ที่ได้เสนอต่อผู้อานวยการสถานศกึ ษา เพอ่ื แสดงเจตจานง
ว่าภายในรอบการประเมินจะพัฒนาผลลัพธ์ทางการเรียนร้ขู องผูเ้ รียน เอให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คณุ ลกั ษณะ
ประจาวิชา คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์และสมรรถนะที่สาคัญตามหลักสูตรให้สูงข้ึน โดยสะท้อนให้เห็นถึงการ
ปฏิบัติท่ีคาดหวังของตาแหน่งและวิทยฐานะท่ีดารงอยู่และสอดคล้องกับเป้าหมายและบริบทของสถานศึกษา
นโยบายของส่วนราชการและกระทรวงศึกษาธกิ ารโดยผู้อานวยการสถานศึกษาได้เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงใน
การพัฒนางาน ประกอบดว้ ย 2 สว่ น ได้แก่

ส่วนท่ี 1 ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตาแหน่ง
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานท่ีเสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของ
ผู้เรียน
ซึ่งข้อมูลที่ได้นาเสนอน้ี ข้าพเจ้าจะนาไปพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5
โรงเรยี นบา้ นเชียงเพง็ สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 ใหเ้ กิดประสิทธภิ าพสูงสุด

นายสมพล พลรัตน์
ครู โรงเรยี นบ้านเชยี งเพ็ง

3 หนา้

สำรบัญ ก

เร่อื ง
1
คำนำ
สำรบัญ 1
ผจู้ ัดทำขอ้ ตกลง 1
1
ข้อมูลทวั่ ไป 2
ประเภทห้องเรยี นที่จัดการเรียนรู้ 3
สว่ นที่ 1 ข้อตกลงในกำรพัฒนำงำนตำมมำตรฐำนตำแหนง่ 9
1. ภาระงาน 12
2. งานทีจ่ ะปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานตาแหนง่ 16
16
ด้านการจดั การเรยี นรู้ 16
ดา้ นการสง่ เสรมิ และสนับสนนุ การจดั การเรียนรู้ 16
ดา้ นการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ 17
สว่ นที่ 2 ข้อตกลงในกำรพัฒนำงำนท่ีเปน็ ประเดน็ ท้ำทำย 17
ประเดน็ ทา้ ทาย
สภาพปญั หาของผเู้ รียนและการจัดการเรียนรู้
วธิ ีดาเนนิ การใหบ้ รรลผุ ล
ผลลัพธก์ ารพฒั นาท่ีคาดหวงั
ควำมเห็นของผู้อำนวยกำร

4

PA 1/ส

แบบขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำน (PA)
สำหรบั ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งครู วิทยฐำนะครชู ำนำญกำร

(สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน)
ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2565

ระหวำ่ งวันท่ี 1 เดือน ตลุ ำคม พ.ศ. 2564 ถงึ วันท่ี 30 เดือน กันยำยน พ.ศ. 2565

ผู้จดั ทำข้อตกลง
ชอื่ นายสมพล นามสกลุ พลรตั น์ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านเชยี งเพ็ง สงั กัด สานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3
รบั เงินเดือนในอันดบั คศ. 2 อตั ราเงนิ เดือน 29,830 บาท

ประเภทห้องเรยี นทีจ่ ดั กำรเรียนรู้ (สามารถระบไุ ด้มากกว่า 1 ประเภทห้องเรยี น ตามสภาพการจดั
การเรยี นรู้จริง)

 หอ้ งเรยี นวชิ าสามญั หรือวิชาพ้นื ฐาน
 ห้องเรียนปฐมวัย
 หอ้ งเรยี นการศึกษาพเิ ศษ
 หอ้ งเรียนสายวิชาชพี
 ห้องเรียนการศึกษานอกระบบ / ตามอธั ยาศัย

ข้าพเจา้ ขอแสดงเจตจานงในการจดั ทาข้อตกลงในการพฒั นางานตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครชู านาญ
การพเิ ศษ ซงึ่ เปน็ ตาแหนง่ และวิทยฐานะที่ดารงอยู่ในปจั จุบนั กบั ผู้อานวยการสถานศึกษา ไวด้ ังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในกำรพฒั นำงำนตำมมำตรฐำนตำแหนง่
1. ภาระงาน จะมภี าระงานเป็นไปตามท่ีก.ค.ศ. กาหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจานวน 26 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ดังนี้
1.1.1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5

จานวน 4 ช่วั โมง/สัปดาห์
1.1.2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5

จานวน 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
1.1.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละ

เทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 จานวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1.4 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา

ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 จานวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
1.1.5 กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าประวัตศิ าสตร์

ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 จานวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์

5

1.1.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 จานวน 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์

1.1.7 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ รายวิชาศลิ ปะ ดนตรี นาฏศลิ ป์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5

จานวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์

1.1.8 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ รายวชิ าการงานอาชพี ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 5

จานวน 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์

1.1.9 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ รายวชิ าภาษาองั กฤษช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5

จานวน 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์

1.1.10 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าหนา้ ทพี่ ลเมือง

ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 จานวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์

1.1.11 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าการป้องกันการ

ทุจรติ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 จานวน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์

1.1.12 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 จานวน 3 ช่ัวโมง / สัปดาห์

1.2 งานส่งเสรมิ และสนบั สนุนการจดั การเรียนรู้ จานวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์

1.2.1 งานระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรยี น จานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์

1.2.2 งานทะเบียนนักเรยี น จานวน 1 ชั่วโมง / สัปดาห์

1.3 งานพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จานวน 1 ช่วั โมง/สัปดาห์

1.3.1 งานการเงินโรงเรียน จานวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์

1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้ จานวน 5 ชัว่ โมง/สัปดาห์

1.4.1 โครงการลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ จานวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์

1.4.2 โครงการโรงเรยี นสขี าว จานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์

1.4.3 โครงการโรงเรียนสุจรติ จานวน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์

1.4.4 โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง จานวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์

1.4.5 โครงการโรงเรียนวิถพี ุทธ จานวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์

6

2. งานท่ีจะปฏิบตั ิตามมาตรฐานตาแหนง่ ครู (ให้ระบุรายละเอยี ดของงานทีจ่ ะปฏิบัติในแต่ละด้านวา่ จะ
ดาเนนิ การอย่างไร โดยอาจระบุระยะเวลาทีใ่ ช้ในการดาเนินการดว้ ยก็ได้)

ลักษณะงำนท่ีปฏบิ ตั ิ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตัวชีว้ ดั (Indicators)

ตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ที่จะดาเนนิ การพฒั นา (Outcomes) ที่จะเกิดขนึ้ กับผู้เรยี น

ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามขอ้ ตกลง ท่ีแสดงใหเ้ หน็ ถึงการ

การประเมนิ ทีค่ าดหวังให้เกดิ ข้ึน เปล่ยี นแปลงไปในทาง

(โปรดระบุ) กบั ผู้เรียน ท่ดี ขี ้ึนหรอื มีการ

(โปรดระบุ) พฒั นา

มากขน้ึ หรือ

ผลสัมฤทธ์ิ

สงู ขึน้ (โปรดระบ)ุ

1. ด้ำนกำรจดั กำรเรียนรู้

1.1 กำรสร้ำงและหรอื พัฒนำ 1. ศกึ ษาหลักสตู ร 1.ทาให้ผเู้ รียนได้ 1.ผู้เรียนร้อยละ 70 มี

หลกั สูตร สถานศกึ ษา เรยี นร้ทู ส่ี อดคล้องกบั ความสนใจ

มีการจดั ทาหลักสตู รและหนว่ ย โรงเรียนบ้านเชียงเพ็ง ธรรมชาติในการ กระตือรือร้นในการ

การเรยี นรรู้ ายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ พุทธศักราช 2563 เรียนรอู้ ยา่ งเมาะสม เรียนรู้

ประถมศึกษา ปีท่ี 5 โรงเรยี นบ้านเชยี ง 2. วเิ คราะห์มาตรฐาน สง่ ผลให้นกั เรยี นมี 2.ผเู้ รียนรอ้ ยละ 75 มี

เพง็ พทุ ธศักราช 2563 ให้ ตัวชี้วดั และ ผลการเรียนรู้ ความสนใจ ความสามารถในการ

สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ กระตือรือรน้ ในการ เรียนรสู้ ามารถทางาน
ตัวชี้วดั หรือผลการเรียนรู้ตาม คณติ ศาสตร์
หลกั สูตร 3. จัดทาโครงสร้างรายวชิ า เรียนรู้ และมีทักษะใน ตามทก่ี าหนดได้อยา่ ง
คณิตศาสตร์
การเรียนรู้ ถูกต้อง

4. ปรบั ปรงุ พัฒนาหน่วยการ

เรยี นรทู้ ี่ 1

ที่เน้นทกั ษะศตวรรษที่ 21

แบบ Active Learning

1.2 กำรออกแบบกำรจัดกำรเรยี นรู้ 1. ทาการศึกษา และ 1.ทาใหผ้ เู้ รียนได้ 1.ผเู้ รยี นมีผลการ

มกี ารออกแบบแผนการจัดกจิ กรรม วเิ คราะห์มาตรฐาน และ เรียนรตู้ ามความสนใจ ประเมินตามตวั ชว้ี ดั

การเรยี นรทู้ ีเ่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสาคญั โดย ตัวชว้ี ัด ตามความถนดั ซ่งึ ทา อยใู่ นระดบั ดี ร้อยละ

ใช้กระบวนการ Active Leaning สาระที่ 1 จานวนและ ใหผ้ เู้ รยี นมีความตัง้ ใจ 80

เพื่อให้ผ้เู รยี นมคี วามรู้ ทักษะ พีชคณติ ศาสตร์ สนใจในการเรียนรู้ 2. ผ้เู รียนรอ้ ยละ 80

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และ ค 1.1 ป 5/3, ป 5/4, สง่ ผลให้นักเรยี นมี มผี ลสัมฤทธทิ์ างการ

สมรรถนะสาคัญ สามารถสรา้ งองค์ ป 5/5 คณุ ลกั ษณะเป็นไป เรยี นสงู ขึ้น

ความรู้ดว้ ยตนเอง 2. วิเคราะหผ์ ู้เรยี น ดว้ ย ตามมาตรฐานและ

แบบทดสอบกอ่ นเรียน ดว้ ย ตัวช้ีวดั และมี

7

ลกั ษณะงำนที่ปฏิบัติ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตวั ชว้ี ดั (Indicators)
ตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ท่ีจะดาเนินการพฒั นา (Outcomes) ที่จะเกิดขน้ึ กบั ผู้เรยี น
ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามข้อตกลง ท่แี สดงให้เห็นถึงการ
การประเมิน ท่ีคาดหวังให้เกดิ ข้ึน เปล่ยี นแปลงไปในทาง
(โปรดระบ)ุ กบั ผูเ้ รียน ทด่ี ีขน้ึ หรอื มีการ
(โปรดระบุ) พฒั นา
มากขน้ึ หรือ
วิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ิ ดว้ ย ผลสมั ฤทธ์ทิ างการ ผลสัมฤทธิ์
สูงข้นึ (โปรดระบุ)
แบบสารวจ ฯลฯ เรียนสงู ขน้ึ
3. ผ้เู รียนรอ้ ยละ 75
3. กาหนดวตั ถปุ ระสงค์ ที่ 2. ทาให้ผู้เรยี นมี มคี วามสามารถ
ทางานร่วมกับผู้อนื่ ได้

ครอบคลุมทั้ง 3 ความสามารถทางาน

-ด้านความร้(ู K) เปน็ ทมี ได้

-ดา้ นทักษะ(P)

-ด้านคุณธรรม จริยธรรม

(A)

4. ออกแบบการจดั กิจกรรม

การเรยี นร้ดู ้วยวธิ กี าร

Mind Map

5. จดั ทาแผนการจัดการ

เรยี นรู้ ทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็

สาคัญ

6. จัดหาวสั ดฝุ กึ ปฏบิ ตั ิ

แบบฝกึ ทักษะคณิตศาสตร์

เรอ่ื ง การหาผลบวกและผล

ลบของเศษส่วน

7. จัดหาสื่อการสอนเพอ่ื ใช้

ประกอบการจดั กิจกรรม

การเรยี นรู้

https://proj14.ipst.ac.th/

(Project 14 ) บทเรียน

ออนไลน์คณติ ศาสตร์

วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

https://www.dltv.ac.th/

มลู นธิ ิการศึกษาทางไกลผา่ น

ดาวเทยี ม (DLTV)

8

ลกั ษณะงำนท่ีปฏิบตั ิ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตวั ชว้ี ัด (Indicators)

ตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ที่จะดาเนนิ การพฒั นา (Outcomes) ท่จี ะเกิดข้ึนกบั ผู้เรียน

ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามขอ้ ตกลง ทแี่ สดงใหเ้ ห็นถึงการ

การประเมิน ท่คี าดหวงั ใหเ้ กิดข้ึน เปลยี่ นแปลงไปในทาง

(โปรดระบุ) กบั ผูเ้ รียน ทด่ี ขี ึ้นหรอื มีการ

(โปรดระบุ) พฒั นา

มากข้นึ หรือ

ผลสัมฤทธ์ิ

สูงข้ึน(โปรดระบุ)

และแบบฝกึ ทกั ษะ

คณิตศาสตร์ เรื่อง การหา

ผลบวกและผลลบของ

เศษสว่ น

8. สรา้ งเครื่องมือวดั และ

ประเมนิ ผล

- แบบทดสอบ

- แบบประเมนิ ผลงาน

- แบบประเมนิ ทักษะ

คณิตศาสตร์

1.3 กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 1. ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน ด้วย 1.ผูเ้ รยี นมี 1.ผู้เรยี นร้อยละ 70 มี

มีการจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ่เี น้น เทคนิควธิ ที มี่ ีความ ความสามารถในการ ทักษะการคิด

ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ใช้กระบวนการ หลากหลายเพือ่ กระตนุ้ เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง แกป้ ัญหา

Active Leaning เพื่อให้ผ้เู รียนมี ความสนใจของผ้เู รียน เชน่ สง่ ผลให้ผเู้ รียนมี 2.ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 70 มี

ความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะอันพงึ วดี ที ศั น์ ทักษะการคิดในการ คณุ ลกั ษณะท่พี ึง

ประสงค์ และสมรรถนะสาคัญ สามารถ 2. ขัน้ กจิ กรรมการเรียนรู้ แก้ปญั หา ประสงค์อยู่ในระดับดี

สร้างองค์ความรดู้ ้วยตนเอง ด้วยวธิ กี าร ข้นั ตอน 2.ผ้เู รียนมคี ุณลักษณะ 3.ผูเ้ รียนร้อยละ 75 มี

กระบวนการ ท่หี ลากหลาย อันพงึ ประสงค์ ความสามารถทางาน

เชน่ 3.ผูเ้ รยี นมี ร่วมกนั กับผอู้ นื่ ได้

แบบสบื คน้ ความสามารถในการ

แบบแกป้ ัญหา ทางานเป็นทีมได้

แบบคิดวเิ คราะห์

แบบPBL

แบบปฏบิ ัตจิ ริง

3. ข้ันสรปุ บทเรยี น ด้วย

วธิ ีการที่หลากหลาย

-แบบถาม – ตอบ

-แบบเขยี นบันทึก

9

ลักษณะงำนท่ีปฏบิ ัติ งำน (Tasks) ผลลัพธ์ ตวั ช้ีวดั (Indicators)

ตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ที่จะดาเนนิ การพัฒนา (Outcomes) ท่ีจะเกิดขึ้นกบั ผู้เรียน

ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามขอ้ ตกลง ทแี่ สดงใหเ้ หน็ ถึงการ

การประเมิน ทค่ี าดหวงั ให้เกดิ ขึ้น เปลย่ี นแปลงไปในทาง

(โปรดระบุ) กับผเู้ รียน ทดี่ ขี ้ึนหรอื มีการ

(โปรดระบุ) พัฒนา

มากข้ึนหรือ

ผลสมั ฤทธ์ิ

สงู ข้ึน(โปรดระบุ)

1.4 กำรสร้ำงและหรอื พัฒนำสอื่ 1. จดั ทาส่อื ประเภท 1.ทาให้ผู้เรยี นมคี วาม 1. ผู้เรียนร้อยละ 80

นวตั กรรม เทคโนโลยี และ On-hand ไดแ้ ก่ แบบฝึก สนใจในการเรียนรู้ มีผลสมั ฤทธิ์ทางการ

แหล่งเรยี นรู้ ทักษะคณิตศาสตร์ เร่ือง เพมิ่ มากขึน้ สง่ ผลให้ เรยี นสงู ขนึ้

มกี ารสรา้ งและพัฒนาสื่อนวตั กรรม การหาผลบวกและผลลบ ผ้เู รียนมีผลสมั ฤทธิ์ 2. ผเู้ รียนร้อยละ 75

เทคโนโลยแี ละแหล่งเรยี นรทู้ ่ี ของเศษสว่ น ทางการเรียนสูงข้นึ มีทกั ษะกระบวนการ

หลากหลายตามความสามารถในการ 2. รวบรวมสอื่ ประเภท On- 2.ทาให้ผูเ้ รียนมที ักษะ คิดสามารถทางาน

เรียนรขู้ องผ้เู รยี นแตล่ ะบคุ คลให้ air ไดแ้ ก่ กระบวนการคิด ตามท่ีกาหนดได้

สอดคลอ้ งกับแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี https://proj14.ipst.ac.th/ สามารถคิดแก้ปญั หา ถูกต้อง

เน้นผูเ้ รียนเป็นสาคัญ โดยใชก่ ะบวน (Project 14 ) บทเรียน และสรา้ งสรรคผ์ ลงาน

การ Active Leaning ออนไลนค์ ณิตศาสตร์

วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

https://www.dltv.ac.th/

มูลนธิ กิ ารศึกษาทางไกลผา่ น

ดาวเทยี ม (DLTV)

3. รเิ ร่ิมจัดทาคลงั สื่อ

รูปแบบ Digital

แพลตฟอรม์ ต่าง ๆ เช่น

QR-Code

1.5 กำรวดั และประเมนิ ผลกำรจัด 1. สร้างและรวบรวม 1.ทาใหผ้ ้เู รียนได้รับ 1.ผู้เรียนรอ้ ยละ 70 มี

กำรเรียนรู้ เครื่องมอื วัดผลประเมนิ ผลที่ การพฒั นาการเรยี นรู้ ผลสัมฤทธทิ์ างการ

มีการวดั และการประเมนิ ผลการ หลากหลาย เชน่ อย่างต่อเน่ือง มี เรยี นสูงขึ้น

เรียนรทู้ ีห่ ลากหลายเหมาะสมและ แบบทดสอบ ความสามารถในการ

สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ให้ แบบสงั เกตพฤติกรรม พัฒนาตนเองได้ ส่งผล

ผเู้ รยี นพฒั นาการเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่ือง แบบประเมนิ ผลงาน ใหผ้ ูเ้ รียนมีผลสมั ฤทธิ์

2. รเิ ริม่ พัฒนาการสร้าง ทางการเรยี นทีส่ ูงข้นึ

แบบทดสอบออนไลน์ด้วย

โปรแกรม Google form

10

ลักษณะงำนท่ีปฏิบัติ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตวั ชวี้ ัด (Indicators)
ตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ทีจ่ ะดาเนินการพฒั นา
ตามข้อตกลงใน 1 รอบ (Outcomes) ท่ีจะเกิดข้ึนกับผู้เรียน
1.6 กำรศึกษำ วเิ ครำะห์ สังเครำะห์ การประเมิน
เพ่อื แกป้ ญั หำหรอื พัฒนำกำรเรยี นรู้ (โปรดระบุ) ของงานตามข้อตกลง ทแ่ี สดงให้เหน็ ถึงการ
นาผลการจดั การเรียนรู้มาศึกษาและ
วิเคราะห์ เพื่อแก้ปญั หาที่เกดิ ขึน้ จาก 1. วเิ คราะหผ์ เู้ รียนเป็น ท่คี าดหวงั ใหเ้ กดิ ขึ้น เปล่ยี นแปลงไปในทาง
การจดั การเรียนรู้ ในแบบของวิจัยใน รายบคุ คล ด้วยวธิ ที ดสอบ
ช้ันเรียน เพือ่ แก้ปัญหานักเรียนที่มีผล ก่อนเรยี น กับผู้เรียน ทด่ี ขี ึน้ หรอื มีการ
การเรียนร้ไู มผ่ ่านเกณฑ์ท่ีกาหนดโดยมี 2. จัดทาแฟม้ ขอ้ มูลผเู้ รียน
การบนั ทกึ รายละเอียดไว้หลังแผนการ เปน็ รายบคุ คล (โปรดระบ)ุ พัฒนา
จดั การเรียนรู้ 3. รเิ ริ่ม พัฒนา จัดทา
ระบบสารสนเทศเกยี่ วกบั มากขึ้นหรือ
1.7 กำรจัดบรรยำกำศทีส่ ่งเสริม ข้อมลู ผเู้ รียนเปน็ รายบุคคล
และพัฒนำผู้เรยี น ดว้ ยระบบ ICT ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์
- มีการจดั บรรยากาศในชั้นเรยี นที่ -ด้วยระบบเกบ็ ข้อมลู
นกั เรยี นรายบคุ คล (DMC) สูงขน้ึ (โปรดระบ)ุ
สง่ เสริมและพฒั นาผ้เู รยี น เพ่ือกระตนุ้ -โปรแกรมระบบบริหารผล
ใหผ้ ้เู รยี นมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการ การจดั การผลการเรียน 1.ผู้เรียนไดร้ บั การ 1.ผเู้ รียนรอ้ ยละ 70 มี
เรยี นรู้ เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นได้อภปิ ราย ( School MIS )
นาเสนอแลกเปลยี่ นความคดิ เห็น และ แก้ไขพฒั นาการ ผลการประเมนิ
มกี ารเสริมแรงทางบวกใหแ้ ก่ผู้เรียน 1. ปรบั ปรงุ พฒั นาหอ้ งเรยี น
ให้นา่ ดู น่าอยู่ นา่ เรียน เรียนรู้ทาให้มผี ลการ มาตรฐานและตัวชว้ี ดั
- จดั บรรยากาศชน้ั เรียนตาม เช่น หอ้ งเรยี นมีขนาด
มาตรฐานหอ้ งเรียนคณุ ภาพ เหมาะสม แสงเขา้ ถูกทาง เรยี นรตู้ ามมาตรฐาน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดี
และมแี สงสวา่ ง
เพียงพอ กระดานดามขี นาด และตัวชว้ี ัดผ่านเกณฑ์ ขึ้นไป
เหมาะสม โต๊ะเก้าอี้มีขนาด
เหมาะสมกับวัย ทก่ี าหนด
นักเรยี น เปน็ ตน้
2. จดั รูปแบบการจัด 1.ทาใหผ้ เู้ รยี นมี 1.ผ้เู รยี นร้อยละ 80 มี
กิจกรรมการเรียนรู้ท่ี
ตอบสนองความสนใจ ความ ความสขุ และ ผลสัมฤทธ์ิทางการ

กระตือรือรน้ ในการ เรยี นสูงขึน้

เรียนรู้ ส่งผลให้ผ้เู รยี น 2.ผู้เรียนร้อยละ 70 มี

มผี ลสัมฤทธ์ิทางการ ทักษะกระบวนการคิด

เรียนสูงขน้ึ และมี

ทกั ษะกระบวนการคดิ

11

ลกั ษณะงำนท่ีปฏิบตั ิ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตวั ช้ีวัด (Indicators)
ตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ท่จี ะดาเนินการพัฒนา (Outcomes) ท่จี ะเกิดขึน้ กับผู้เรยี น
ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามข้อตกลง ที่แสดงให้เห็นถึงการ
1.8 กำรอบรมและพฒั นำ การประเมิน ทค่ี าดหวงั ใหเ้ กดิ ข้ึน เปลยี่ นแปลงไปในทาง
คณุ ลักษณะทีด่ ีของผเู้ รยี น (โปรดระบุ) กับผ้เู รียน ทีด่ ีขน้ึ หรือมีการ
- มีการอบรมพัฒนาผเู้ รียนให้มี (โปรดระบ)ุ พัฒนา
มากข้นึ หรือ
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคุณลักษณะ ผลสัมฤทธิ์
อันพงึ ประสงค์ สูงขึน้ (โปรดระบุ)

ถนัด ทงั้ ราย บุคคล และ
เป็นกลุม่ ดว้ ยเทคนิควิธี
Active Leaning
3. จดั บรรยากาศการเรียนรู้
ทเี่ ป็นเชิงบวกและ
สรา้ งสรรค์ ดว้ ยวิธี การจดั
บรรยากาศทางด้าน
กายภาพ และ การจัด
บรรยากาศทางด้านจติ วิทยา
4. จัดบรรยากาศส่งเสรมิ
ความเปน็ ผนู้ า ผู้ตาม
ระบอบประชาธิปไตย โดย
ให้ความสาคัญต่อนักเรียน
เทา่ เทียมกนั ใหค้ วามเสมอ
ภาค ให้อิสระ ใหโ้ อกาสแก่
ทุกคนในการแสดงความ
คดิ เหน็ ขณะเดียวกนั ครตู ้อง
ใจกวา้ ง ยินดีรับฟัง
ความเห็นของทุกคน และ
ควรฝกึ ใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ติ น
ตามสทิ ธหิ น้าที่ ร้จู ักเคารพ
สิทธิของผอู้ น่ื ใหร้ ู้จักการอยู่
รว่ มกันอยา่ งประชาธิปไตย

1. จดั ทาบันทกึ การอบรม 1.ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม 1.ผูเ้ รียนรอ้ ยละ 90 มี
คุณธรรม จริยธรรม ด้วย จริยธรรม มีคณุ ธรรม จริยธรรม
แบบบนั ทกึ ความดี ตามทกี่ าหนด

12

ลกั ษณะงำนที่ปฏบิ ัติ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตัวชี้วัด (Indicators)

ตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ที่จะดาเนินการพัฒนา (Outcomes) ท่ีจะเกิดข้ึนกับผู้เรียน

ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามขอ้ ตกลง ทแ่ี สดงให้เหน็ ถึงการ

การประเมิน ทคี่ าดหวังใหเ้ กดิ ขึ้น เปล่ยี นแปลงไปในทาง

(โปรดระบ)ุ กบั ผ้เู รยี น ที่ดีขึ้นหรือมกี าร

(โปรดระบุ) พัฒนา

มากข้ึนหรือ

ผลสมั ฤทธิ์

สูงข้นึ (โปรดระบุ)

- จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ คุณธรรม 2. จดั ทา และรวบรวมคา 2.ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะ 2.ผูเ้ รยี นรอ้ ยละ 100

จรยิ ธรรม คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สอน คตธิ รรม เพอ่ื อบรม อนั พึงประสงค์ท่ีดี มคี ณุ ลักษณะอนั พึง

เช่น กจิ กรรมคุณธรรม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม กบั ประสงค์ผา่ นเกณฑ์

ผเู้ รียนด้วยกิจกรรม3

คุณธรรม

3. จดั ทาโครงงานคุณธรรม

ท่ีตอบสนองคุณธรรมอัต

ลักษณ์และคุณธรรม

เปา้ หมาย ของสถานศึกษา

ท้งั ระดับห้องเรยี น และ

ระดับสถานศึกษา

2. ด้ำนกำรส่งเสริมและสนับสนนุ

กำรจดั กำรเรยี นรู้

2.1 กำรจัดทำข้อมลู สำรสนเทศของ

ผู้เรียนและรำยวิชำ

มีการรเิ ร่มิ คดิ คน้ และพัฒนา 1. จัดทาขอ้ มลู สารสนเทศ 1.ครผู ูส้ อนมขี ้อมูล 1.ผูเ้ รียนรอ้ ยละ 80 มี

รปู แบบการจดั ทาข้อมลู สารสนเทศของ ผูเ้ รียนเป็นรายบคุ คล ดว้ ย สารสนเทศของผเู้ รยี น ผลสมั ฤทธ์ิทางการ

ผู้เรียนและรายวชิ า ให้มีข้อมูลเป็น ระบบเกบ็ ข้อมลู นกั เรยี น สามารถนาไปใชไ้ ด้รับ เรียนสงู ขึ้น

ปัจจบุ ัน เพ่อื ใช้ในการสง่ เสริมสนบั สนนุ รายบุคคล (DMC) ความช่วยเหลือ 2.ผ้เู รยี นรอ้ ยละ 100

การเรียนรู้ แก้ไขปัญหาและพัฒนา 2. รเิ ริ่ม จัดทาขอ้ มูลผลการ สนบั สนุนให้มี มีสขุ ภาพจิตดีขึ้นมี

คุณภาพผ้เู รยี น และเปน็ แบบอย่างทด่ี ี เรียนรู้ของผเู้ รยี นด้วยระบบ คณุ ลกั ษณะที่พึง อารมณ์รา่ เริงแจ่มใส

ICT ไดแ้ ก่ โปรแกรมระบบ ประสงคต์ ามสภาพ

บรหิ ารผลการจดั การผลการ ปัญหา ทาใหน้ กั เรียน

เรียน ( School MIS ) มสี ุขภาพจิตใจและ

พฤติกรรมการเรียนรู้

ทีด่ ขี ้นึ ส่งผลใหผ้ ู้เรยี น

มผี ลการเรยี นรู้สงู ขึ้น

13

ลักษณะงำนท่ีปฏิบตั ิ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตวั ชี้วัด (Indicators)
ตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ทจ่ี ะดาเนินการพัฒนา (Outcomes) ท่จี ะเกิดข้นึ กับผู้เรยี น
ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามข้อตกลง ที่แสดงให้เหน็ ถึงการ
2.2 กำรดำเนินกำรตำมระบบ การประเมนิ ทคี่ าดหวังใหเ้ กิดขึ้น เปล่ียนแปลงไปในทาง
ดูแลช่วยเหลือผ้เู รยี น (โปรดระบ)ุ กับผเู้ รียน ทด่ี ีขึ้นหรือมีการ
มกี ารใชข้ ้อมลู สารสนเทศเกีย่ วกบั (โปรดระบ)ุ พัฒนา
1. จัดทาข้อมลู สารสนเทศ มากข้นึ หรือ
ผเู้ รยี นรายบคุ คล และประสานความ ระบบดแู ลช่วยเหลอื ผเู้ รียน 1.ผู้เรยี นไดร้ ับการ ผลสมั ฤทธ์ิ
ร่วมมอื กับผู้มสี ่วนเก่ยี วข้อง เพ่อื พัฒนา ดาเนินการดแู ลช่วยเหลอื ชว่ ยเหลอื อย่างทว่ั ถงึ สูงขึ้น(โปรดระบุ)
และแก้ไขปัญหาผ้เู รียน และริเริ่ม ผู้เรยี นในการส่งเสริม ตอ่ เนื่อง ทาใหผ้ เู้ รียน
โครงการหรือจดั กจิ กรรมเชงิ สรา้ งสรรค์ ป้องกัน และแกไ้ ขปัญหาให้ มีสุขภาพกายและ 1.ผ้เู รียนรอ้ ยละ 80 มี
ด้วยวิธีการทีห่ ลากหลายในการดูแล นกั เรยี นมีคุณลักษณะที่พึง สุขภาพจิตดขี น้ึ ผลสมั ฤทธท์ิ างการ
ชว่ ยเหลือผู้เรยี น และเปน็ แบบอยา่ งที่ดี ประสงค์ และมคี ุณภาพ เรียนรูไ้ ดอ้ ย่างมี เรยี นสูงขน้ึ
ตามท่สี งั คมตอ้ งการ ความสขุ สง่ ผลให้ 2.ผ้เู รียนร้อยละ 100
ผลสมั ฤทธิ์ทางการ ผา่ นการเรยี นรู้
วเิ คราะห์ข้อมลู เรียนสูงขึ้น รายวชิ าตามเกณฑ์ท่ี
สารสนเทศของนักเรียน 2.ผู้เรียนสามารถผา่ น กาหนด
รายบคุ คล คัดกรองผเู้ รียน การเรียนร้รู ายวชิ าได้
กลุม่ เสย่ี ง ใหค้ าปรึกษา อยา่ งมีคณุ ภาพ
ชว่ ยเหลือผู้เรียนอยา่ งทว่ั ถงึ
ตรงตามสภาพปัญหา ทง้ั ใน
ดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ
สงั คม และส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รยี น
มีความสามารถสงู ข้ึน โดย
ออกเยี่ยมบ้านผเู้ รียนและ
ประสานความรว่ มมือกับ
หนว่ ยงานที่เกย่ี วข้องและ
ผู้ปกครองในการช่วยเหลือ
ผ้เู รียนตามสภาพปญั หาของ
แตล่ ะคน
2. จัดทาระบบ SDQ คดั
กรองผู้เรียนเปน็ รายบุคคล
3. จดั ทาข้อมูล EQ ของ

14

ลักษณะงำนที่ปฏบิ ัติ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตวั ชีว้ ัด (Indicators)
ตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ทจ่ี ะดาเนนิ การพฒั นา (Outcomes) ที่จะเกิดขน้ึ กบั ผู้เรยี น
ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามข้อตกลง ทีแ่ สดงให้เหน็ ถึงการ
2.3 กำรปฏิบัติงำนวชิ ำกำรและ การประเมิน ทีค่ าดหวงั ใหเ้ กิดขึ้น เปลี่ยนแปลงไปในทาง
งำนอน่ื ๆของสถำนศึกษำ (โปรดระบ)ุ กบั ผเู้ รยี น ที่ดขี ึน้ หรือมีการ
ร่วมปฏิบตั ิงานทางวิชาการ และ (โปรดระบุ) พัฒนา
มากข้นึ หรือ
งานอ่ืนๆ ของสถานศกึ ษาเพอ่ื ยกระดบั ผเู้ รียน ผลสมั ฤทธิ์
คณุ ภาพการจัดการศกึ ษาของ 4. รเิ รมิ่ ใช้ Social network สูงขน้ึ (โปรดระบ)ุ
สถานศึกษา โดยมีการพฒั นารูปแบบ เพอื่ กากับติดตามชว่ ยเหลือ
หรอื แนวทางการดาเนินงานให้มี ผู้เรยี น ดว้ ยแพลตฟอร์ม 1.ผู้เรียนร้อยละ 70 มี
ประสทิ ธิภาพสูงขึ้นและเป็นแบบอยา่ ง Line Grope สมรรถนะในการใฝ่
ท่ดี ี 5. จดั กจิ กรรมเย่ียมบา้ น เรยี นรู้
ผู้เรยี น ทัง้ ระบบ Onsite 2.ผ้เู รียนร้อยละ 80 มี
และ Online ผลสมั ฤทธ์ทิ างการ
ด้วยแพลตฟอรม์ Line เรียนสูงข้ึน
Grope

1. จดั ทาแผนปฏบิ ัติการงาน 1.ผูเ้ รียนมนี ิสยั รกั การ
วชิ าการ รว่ มปฏิบัตงิ าน อ่าน สง่ ผลทาให้
ทางวชิ าการของสถานศึกษา ผเู้ รยี นใฝเ่ รยี นรู้
เพ่อื สง่ เสริมใหก้ ารจดั การ
เรียนรมู้ ีคณุ ภาพตาม
เป้าหมายของสถานศกึ ษา
เช่น รว่ มจัดทาโครงการ
ส่งเสรมิ นิสยั รักการอา่ น
และงานอืน่ ๆตามท่ตี น
ไดร้ ับมอบหมาย
2. จัดทาแผนการนเิ ทศ
ภายใน
3. รเิ ร่มิ พฒั นา จัดทาระบบ
รายงานผลการปฏิบตั ิงาน
วชิ าการ และงานอืน่ ๆ เป็น

15

ลักษณะงำนที่ปฏบิ ัติ งำน (Tasks) ผลลัพธ์ ตวั ชีว้ ดั (Indicators)
ตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ทีจ่ ะดาเนินการพัฒนา (Outcomes) ท่ีจะเกิดข้ึนกบั ผู้เรยี น
ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามข้อตกลง ท่แี สดงใหเ้ ห็นถึงการ
2.4 กำรประสำนควำมรว่ มมอื กับ การประเมิน ท่คี าดหวงั ให้เกิดข้ึน เปล่ยี นแปลงไปในทาง
ผ้ปู กครอง ภำคีเครือข่ำย และหรอื (โปรดระบ)ุ กับผเู้ รยี น ท่ีดีข้นึ หรือมีการ
สถำนประกอบกำร (โปรดระบ)ุ พฒั นา
การประสานความร่วมมือกบั ระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ ดว้ ย มากข้ึนหรือ
รปู แบบ Flip - eBook 1.ผเู้ รยี นมี ผลสัมฤทธิ์
ผ้ปู กครอง ภาคีเครือข่าย และหรอื 4. จดั ทากจิ กรรม PLC เพ่ือ ความสามารถในการ สูงขน้ึ (โปรดระบุ)
สถานประกอบการ เพ่ือรว่ มกันแกไ้ ข แกไ้ ขปัญหา และยกระดบั เรยี นรู้ได้อย่างมี
ปัญหาและพฒั นาผู้เรยี น และเป็น คณุ ภาพดา้ นวชิ าการ อยา่ ง ประสิทธิภาพส่งผลให้ 1.ผูเ้ รียนร้อยละ 80 มี
แบบอย่างท่ดี ี นอ้ ยสัปดาห์ละ 1 คร้ัง ผลสัมฤทธท์ิ างการ ผลสัมฤทธท์ิ างการ
เรียนสูงขึ้น เรียนสงู ข้นึ
3. ด้ำนกำรพัฒนำตนเองและวชิ ำชีพ 1. จัดทาเอกสารแผน่ พับ
3.1 กำรพฒั นำตนเองอยำ่ งเป็น จดหมายข่าว ประสานความ 1.ครูนาความรทู้ ี่ได้มา 1.ผเู้ รียนรอ้ ยละ 80 มี
ระบบและต่อเนือ่ ง รว่ มมือกบั ผู้ปกครอง ออกแบบวธิ กี าร ผลสัมฤทธิท์ างการ
2. รเิ ริม่ จดั ทาช่องทางการ เรียนรูท้ ี่ทา้ ทาย เรียนสงู ขนึ้
พฒั นาตนเองอยา่ งเปน็ ระบบและ ตดิ ตอ่ ส่ือสารดว้ ยระบบ หลากหลาย ทาให้
ต่อเน่อื ง เพ่ือใหม้ ีความรู้ ความสามารถ Social network ที่
ทักษะ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การใช้ หลากหลายรูปแบบ กับ
ภาษาไทยและภาษาองั กฤษเพือ่ การ ผ้ปู กครอง ภาคเี ครอื ข่าย
ผปู้ ระกอบการ เพอื่
ช่วยเหลอื แกไ้ ขปัญหา และ
พฒั นาผเู้ รยี น ด้วย
แพลตฟอรม์ Line grope

1. จัดทา ID Plan เพื่อ
พฒั นาตนเอง เรือ่ ง
1. ทักษะภาษาไทย

16

ลักษณะงำนท่ีปฏบิ ตั ิ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตัวชวี้ ดั (Indicators)

ตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ท่จี ะดาเนนิ การพัฒนา (Outcomes) ทจ่ี ะเกิดข้นึ กบั ผู้เรียน

ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามขอ้ ตกลง ที่แสดงใหเ้ หน็ ถึงการ

การประเมิน ทคี่ าดหวังใหเ้ กิดข้ึน เปล่ียนแปลงไปในทาง

(โปรดระบุ) กบั ผูเ้ รยี น ทด่ี ีขนึ้ หรอื มกี าร

(โปรดระบ)ุ พัฒนา

มากข้ึนหรือ

ผลสมั ฤทธิ์

สงู ขน้ึ (โปรดระบ)ุ

สื่อสาร และการใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัลเพ่ือ 2. ดา้ นเทคโนโลยี ผเู้ รยี นไดร้ ับการ

การศกึ ษา สมรรถนะวชิ าชีพครแู ละ 2. ศกึ ษา คน้ คว้า เรยี นรู้ เรยี นรจู้ ากส่ือสมัยใหม่

ความรอบรใู้ นเน้ือหาวชิ าและวธิ ีการ เน้อื หาสาระทางด้าน ทาใหผ้ เู้ รียนมีความ

สอน และเป็นแบบอยา่ งที่ดี วิชาการ และ สาระท่ี สนใจและ

ตนเองสนใจ เพื่อพัฒนา กระตือรือร้นในการ

ตนเอง เรียนรูม้ ากขึน้ ส่งผล

3. เขา้ รบั การอบรมพัฒนา ใหผ้ ู้เรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิ

ตนเอง เนือ้ หาสาระ ทางการเรยี นร้สู ูงข้ึน

ทางด้านวชิ าการ และ

เน้ือหาสาระทต่ี นเองสนใจ

ทั้งในระบบ และ นอกระบบ

เช่น Thai MOOC

4. เขา้ รบั การอบรมพัฒนา

ตนเอง ดา้ นคอมพวิ เตอร์

และเทคโนโลยี

3.2 กำรมีส่วนร่วมในกำรแลกเปล่ยี น

เรยี นรูท้ ำงวชิ ำชีพ เพอ่ื พัฒนำกำร

จัดกำรเรยี นรู้

มสี ว่ นรว่ ม และเปน็ ผนู้ าในการ 1. เข้าร่วมกิจกรรม 1.ผเู้ รียนไดร้ ับการ 1.ผู้เรียนรอ้ ยละ 80 มี

แลกเปลย่ี นเรียนรทู้ างวชิ าชีพ เพอื่ แลกเปลย่ี นเรียนรูช้ ุมชนการ จัดการเรยี นรทู้ มี่ ี ผลสมั ฤทธ์ทิ างการ

แกไ้ ขปัญหาและสร้างนวัตกรรมเพ่ือ เรยี นร้ทู างวิชาชพี (PLC) ประสทิ ธภิ าพสงู เรียนสูงข้นึ

พฒั นาการจัดการเรยี นรู้และเป็น เพื่อแก้ไขปญั หา และ ผเู้ รยี นมคี วามสนใจทา้

แบบอยา่ งทีด่ ี ยกระดับคณุ ภาพ ทายท่ไี ด้เรยี นรู้ส่งิ ใหม่

ดา้ นการจัดการเรยี นรู้ ใน ทาใหผ้ ู้เรยี นมคี วาม

ระดับโรงเรียนกลุม่ สาระการ สนใจและ

เรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ กระตือรอื ร้นในการ

2. เขา้ ร่วมกิจกรรม เรียนรู้มากขนึ้ สง่ ผล

แลกเปลยี่ นเรียนรใู้ น

17

ลักษณะงำนที่ปฏบิ ัติ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตัวชว้ี ดั (Indicators)
ตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ท่จี ะดาเนนิ การพฒั นา (Outcomes) ที่จะเกิดข้นึ กับผู้เรียน
ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามข้อตกลง ที่แสดงใหเ้ หน็ ถึงการ
3.3 กำรนำควำมรคู้ วำมสำมำรถ การประเมิน ที่คาดหวงั ให้เกดิ ขึ้น เปล่ยี นแปลงไปในทาง
ทักษะทไี่ ดจ้ ำกกำรพฒั นำตนเอง (โปรดระบ)ุ กับผู้เรียน ทด่ี ขี ึ้นหรอื มกี าร
และวชิ ำชพี มำใช้ในกำรพัฒนำ กำร (โปรดระบ)ุ พัฒนา
จดั กำรเรยี นรู้ กำรพัฒนำคณุ ภำพ วงวชิ าการ นอก ให้ผเู้ รยี นมีผลสัมฤทธิ์ มากขนึ้ หรือ
ผ้เู รยี น และกำรพัฒนำนวัตกรรม สถานศกึ ษา เพื่อแก้ไข ทางการเรียนรสู้ งู ข้ึน ผลสัมฤทธ์ิ
กำรจัดกำรเรียนรู้ ปัญหา และ สรา้ งนวัตกรรม สงู ขึ้น(โปรดระบุ)
ตามกระบวนการ PLC 1.ผ้เู รยี นมีผลสัมฤทธ์ิ
นาความรู้ ความสามารถ ทักษะท่ี สปั ดาห์ละ 1 คร้งั โดยเปน็ ทางการเรียนสงู ข้ึน 1.ผเู้ รียนรอ้ ยละ 70 มี
ได้จากการพฒั นาตนเองและวิชาชพี มา ทัง้ ผนู้ าและผู้เข้าร่วมการ ผลสมั ฤทธทิ์ างการ
ใชใ้ นการพฒั นาการจัดการเรียนรู้ การ ปฏิบัติการ เรียนสงู ข้ึน

นาความรแู้ ละ
ประสบการณ์จากการทา
PLC มาวางแผนปรบั ปรงุ
พัฒนาการจดั การเรียนรู้
อย่างต่อเน่อื ง
3. รเิ ร่ิม พฒั นา การใช้
ระบบ Social network
เพื่อเป็นช่องทางการแลก
เปล่ยี นเรยี นรทู้ างด้าน
วิชาการ ด้วยแพลตฟอร์ม
Line grope , Google
Meet

1. นาความรู้ทีไ่ ด้ศกึ ษา
ค้นควา้ การอบรมพฒั นา

18

ลกั ษณะงำนที่ปฏบิ ัติ งำน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตัวช้ีวดั (Indicators)
ตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ที่จะดาเนินการพัฒนา (Outcomes) ท่ีจะเกิดขึ้นกับผู้เรยี น
ตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามขอ้ ตกลง ทแี่ สดงใหเ้ ห็นถึงการ
พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น รวมถึงการ การประเมนิ ที่คาดหวงั ใหเ้ กดิ ขึ้น เปล่ียนแปลงไปในทาง
พฒั นานวัตกรรมการจดั การเรียนรู้ทมี่ ี (โปรดระบุ) กับผู้เรยี น ทด่ี ีขึ้นหรอื มีการ
ผลตอ่ คณุ ภาพผูเ้ รยี น และเป็น (โปรดระบ)ุ พัฒนา
แบบอยา่ งที่ดี มาปรบั ปรงุ การออกแบบ มากขนึ้ หรือ
การจดั การเรียนรู้ 2.ผเู้ รียนสามารถ ผลสัมฤทธ์ิ
-ศกึ ษาหาความรูเ้ พ่ิมเตมิ เรียนรูผ้ ่านเกณฑ์การ สูงขน้ึ (โปรดระบ)ุ
เรอื่ งรูปแบบการ Active เรยี นร้ทู ่กี าหนดอย่าง
Leaning มคี ณุ ภาพ 2.ผเู้ รยี นร้อยละ 100
2. นาความรทู้ ี่ได้ศกึ ษา ผา่ นการเรยี นรู้
คน้ ควา้ การอบรมพัฒนา รายวชิ าตามเกณฑ์ท่ี
มาปรับปรุงพัฒนา การจดั กาหนด
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
การหาผลบวกและผลลบ
ของเศษส่วน ชน้ั
ประถมศึกษาปีที่ 5
3. นาความรทู้ ไ่ี ด้ศกึ ษา
ค้นควา้ การอบรมพัฒนา
มาสร้าง และพัฒนาส่ือการ
สอน และแหล่งเรยี นรู้ เชน่
- โปรแกรม Google Form
- โปรแกรม Wordwall
4. นาความร้ทู ไ่ี ด้ศึกษา
คน้ คว้า การอบรมพัฒนา
มาสรา้ ง และพัฒนา
เครื่องมือวดั ผลและ
ประเมินผล ท่มี ีความ
รวดเร็ว และทันสมยั เชน่
สรา้ งแบบทดสอบโดยใช้
โปรแกรม Google Form

19

หมำยเหตุ
1. รูปแบบการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนา ตามแบบ PA 1 ให้เป็นไปตามบริบท และสภาพการ

จดั การเรียนรูข้ องแตล่ ะสถานศึกษา โดยความเห็นชอบรว่ มกันระหวา่ งผู้อานวยการสถานศึกษา และขา้ ราชการ
ครูผจู้ ดั ทาข้อตกลง

2. งาน (Tasks) ทเี่ สนอเป็นข้อตกลงในการพฒั นางานต้องเปน็ งานในหน้าที่ความรบั ผิดชอบหลัก ท่ี
สง่ ผลโดยตรงต่อผลลัพธ์การเรยี นรู้ของผู้เรียน และให้นาเสนอรายวิชาหลกั ที่ทาการสอน โดยเสนอในภาพรวม
ของรายวชิ าหลกั ท่ีทาการสอนทกุ ระดับช้ัน ในกรณที ีส่ อนหลายรายวิชา สามารถเลอื กรายวชิ าใดวิชาหนึ่งได้
โดยจะตอ้ งแสดงใหเ้ ห็นถงึ การปฏบิ ัติงานตามมาตรฐานตาแหน่ง และคณะกรรมการประเมนิ ผลการพัฒนางาน
ตามข้อตกลงสามารถประเมินได้ตามแบบการประเมนิ PA 2

3. การพฒั นางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ใหค้ วามสาคัญกบั ผลลัพธ์การเรียนรู้ ของผเู้ รียน
(Outcomes) และตัวชว้ี ดั (Indicators) ที่เปน็ รูปธรรม และการประเมนิ ของคณะกรรมการประเมนิ ผลการ
พฒั นางานตามข้อตกลง ให้คณะกรรมการดาเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริง สภาพ
การจดั การเรียนรใู้ นบรบิ ทของแต่ละสถานศกึ ษา และผลลัพธ์การเรยี นรขู้ องผูเ้ รียนที่เกดิ จากการพัฒนางาน
ตามข้อตกลงเป็นสาคญั โดยไมเ่ น้นการประเมินจากเอกสาร

ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในกำรพัฒนำงำนท่ีเป็นประเด็นทำ้ ทำยในกำรพัฒนำผลลพั ธก์ ำรเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลพั ธก์ ารเรียนรูข้ องผู้เรยี นของผูจ้ ดั ทาข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน

ดารงตาแหน่งครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถงึ ระดับการปฏิบตั ิท่ีคาดหวังของวทิ ยฐานะ
ครชู านาญการพเิ ศษ คอื การริเริม่ พฒั นา การจัดการเรียนรู้และการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรยี น ให้
เกิดการเปลีย่ นแปลงไปในทางท่ีดขี นึ้ หรอื มกี ารพฒั นามากขึ้น (ทงั้ นี้ ประเด็นทา้ ทายอาจจะแสดงให้เหน็ ถึง
ระดับการปฏิบตั ิที่คาดหวงั ในวทิ ยฐานะทส่ี ูงกว่าได)้

ประเดน็ ท้ำทำย เร่อื ง กำรพฒั นำผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี นคณิตศำสตร์ เรือ่ ง กำรหำผลบวกและผลลบของ
เศษส่วน ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 5 โดยใชแ้ บบกำรจดั กำรเรียนรู้แบบ Active Leaning

1. สภำพปัญหำกำรจัดกำรเรียนรแู้ ละคณุ ภำพกำรเรียนรูข้ องผเู้ รียน
จากการจดั กิจกรรมการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 พบว่า นกั เรยี นมีปัญหา

เรอื่ งการผลบวกและผลลบของเศษสว่ นไม่ได้ ทง้ั น้ีเกิดจากการทีน่ ักเรยี นไม่ได้คน้ พบองค์ความรดู้ ้วยตนเอง
รวมถึงไมส่ ามารถนาความรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้ได้ สง่ ผลใหน้ กั เรียนมีคะแนนในเร่ืองการหาผลบวกและผลลบของ
เศษส่วนต่ากวา่ เกณฑ์ทคี่ รผู ูส้ อนกาหนดไว้ และไม่ผา่ นการประเมินตัวชี้วดั ในเรือ่ งดังกล่าว ครจู งึ พัฒนาและ
สร้างสอ่ื การสอน เร่ืองการหาผลบวกและผลลบของเศษส่วน และนารูปแบบการสอน Active Leaning มา
บูรณาการในการจัดกิจกรรม เพ่ือพฒั นาทักษะการหาผลบวกและผลลบของเศษสว่ นของนักเรยี น ส่งผลให้
ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 ใน ตัวชวี้ ดั ค 1.1 ป.5/3 เปน็ ไปตามเปา้ หมายท่ี
กาหนด

2. วิธีกำรดำเนนิ กำรให้บรรลผุ ล
2.1 ศึกษาและวเิ คราะหห์ ลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ 2563)

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 สาระที่ 1 จานวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค
1.1 ตวั ช้วี ัด ป 5/3 หาผลบวกและผลลบของเศษสว่ นและจานวนคละ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5

20

2.2 ปรับปรงุ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เศษสว่ น และการบวก การลูบ การคูณ การหารเศษส่วน โดย
วิเคราะหเ์ นอื้ หาและกาหนดเนือ้ หาเพ่ือความเหมาะสมในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Leaning
ดงั นี้

2.3 เขียนแผนการจดั กิจกรรมการเรียนร้เู รือ่ ง การหาผลบวกและผลลบของเศษสว่ น ตามเนอ้ื หาท่ี
กาหนดในหนว่ ยการเรยี นรู้ โดยเน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญผ่านกระบวนการ Active Leaning ที่ใหน้ ักเรียนสามารถ
สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง แผนการจัดการเรยี นรู้น้นั รองรับสภาพการจัดการเรยี นรทู้ ้ังในสถานกรณปี กติ และ
สถานการณ์ทม่ี ีข้อจากดั เช่น สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งต้องจดั การเรียนการสอนผ่าน
ระบบอินเทอรเ์ นต็ ดว้ ยแอพพลิเคชน่ั ตา่ งๆ

2.4 สร้างสื่อการเรียนรใู้ หส้ อดคลอ้ งกับการจัดกจิ กรรมการเรยี นรแู้ บ Active Leaning เพ่อื ให้
นกั เรยี นสามารถสร้างองค์ความรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง

2.5 ประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์กอ่ นเรียนเรอื่ ง การหาผลบวกและผลลบของเศษสว่ น ของนักเรียนชน้ั ประถม
ศกึ ษาปีท่ี 5 ด้วยแบบทดสอบ่อนเรียน เรื่อง การบวกลบเศษสว่ น

2.6 จัดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ข้างตน้ โดยผู้บรหิ าร หัวหนา้ วิชาการ
ร่วมสังเกตการณ์จดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ นห้องเรียน และสะทอ้ นผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรูท้ เ่ี กดิ ขน้ึ เพอ่ื นา
ผลไปใช้ในการปรับปรงุ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสอ่ื การเรยี นรู้ต่อไป

2.7 ประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์หลงั เรียน เรอ่ื ง การหาผลบวกและผลลบของเศษส่วน ของนักเรียนชัน้
ประถมศึกษาปีท่ี 5 ดว้ ยแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง เรอ่ื ง การหาผลบวกและผลลบของเศษสว่ น

2.8 ปรับปรงุ หรอื พฒั นาแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้และสอ่ื การเรยี นรู้ให้มีคุณภาพมากข้ึนตามผล
การสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และผลการประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรยี น

3. ผลลัพธ์กำรพัฒนำทีค่ ำดหวงั
3.1 เชิงปรมิ ำณ
ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นคณติ ศาสตร์ เรือ่ ง การหาผลบวกและผลลบของเศษส่วน

ของนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2564 ผ่านเกณฑ์ท่กี าหนดจานวนร้อยละ 70 ขึน้ ไป
จากจานวนนักเรยี นท้ังหมดที่ไดเ้ รียนโดยใช้กระบวนการ Active Leaning เรอื่ ง การหาผลบวกและ
ผลลบของเศษส่วน

3.2 เชิงคุณภำพ
นักเรยี นสามารถสร้างองค์ความรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง และสามารถนาองค์ความร้นู ้ันไปใช้แกป้ ญั หา
สถานการณ์ต่างๆในชีวติ จริง

ลงช่อื ...................................................................
(นายสมพล พลรัตน์ )

ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ชานาญการ
ผจู้ ัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน
1 ตลุ าคม 2564

21

ควำมเห็นของผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ
( ) เหน็ ชอบใหเ้ ปน็ ข้อตกลงในการพฒั นางาน
( ) ไม่เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมีข้อเสนอแนะเพ่ือนาไปแก้ไข และเสนอ

เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ดังนี้
............................................................................................................. ..........................
ลงชอ่ื ...................................................................
( นายนเรศ พรหมวงศ์ )
ตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นเชยี งเพ็ง
1 ตลุ าคม 2564


Click to View FlipBook Version